PANTIP.COM : S7582915 จูกัดเหลียง ขงเบ้ง – อาแซน เวนเกอร์ โชคชะตาภายใต้ดาวดวงเดียวกัน [ฟุตบอลต่างประเทศ]

จูกัดเหลียง ขงเบ้ง – อาแซน เวนเกอร์ โชคชะตาภายใต้ดาวดวงเดียวกัน

ทำไม ใครๆ ต่างก็ยกย่อง มังกรหลับแห่งเขาโงลังกั๋ง ว่าเป็นผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร เป็นตัวละครที่หลายคนให้ความสำคัญทีสุดในวรรณกรรม คำตอบก็คือ เขาเป็นบุคคลซึ่งสามารถฉีกประเทศจีนออกเป็น 3 ส่วน ตามแผนที่เขาได้วางไว้ให้แก่เล่าปี่ เมื่อครั้งที่เชื้อพระวงศ์ผู้เร่ร่อน ถ่อสังขารไปคำนับถึง 3 ครั้ง ณ กระท่อมบนเขาโงลังกั๋ง

จูกัดเหลียง แสดงผลงานเป็นที่ประจักษ์สายตาทันที เขานำทัพแค่หยิบมือเดียว ต้านทัพวุยก๊ก ด้วยการเผาทหาร ณ ทุ่งบกบ๋อง ไขน้ำท่วม ณ เมืองแปะโห ทำให้ทัพของโจโฉต้องสูญเสียทหารไปมากมาย ทั้งยังเดินทางไปเจรจาการทูตเพื่อเป็นพันธมิตรกับง่อก๊ก ต้านทัพโจโฉ ในศึกผาแดงอันโด่งดัง อีกทั้งยังสามารถยึดเอาเมืองเกงจิ๋ว และหัวเมืองละแวกใกล้เคียง รวมไปถึงดินแดนเกงจิ๋วใต้ รวมกว่า 51 หัวเมือง เป็นฐานบัญชาการที่แข็งแกร่งอีกด้วย

ยุคสมัยแรกของขงเบ้ง มีขุนพลเอกฝีมือดีอยู่แล้วทั้ง กวนอู เตียวหุย จูล่ง เป็นขุนศึกที่ข้าศึกครั่นคร้ามในฝีมือ
ทั้ง 3 ขุนพล สามารถเอาชนะข้าศึก ยึดเมืองสำคัญ ตามแผนยุทธศาสตร์ของขงเบ้งได้ทั้งสิ้น ต่อมายังได้ขุนพล สมทบอย่าง ฮองตง อุยเอี๋ยน บังทอง และเมื่อยาตราทัพเข้าสู่เสฉวน ก็ยังได้ ม้าเฉียว และขุนพลในเสฉวนที่เข้ามาสวามิภักดิ์อีกมากมาย เรียกได้ว่า ยุคทองของจ๊กก๊ก ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีอาณาเขตตั้งแต่เกงจิ๋วภาคกลาง ยาวมาทางเสฉวนตะวันตก ขึ้นมาด้านบนถึงฮันต๋ง รวมหัวเมืองหลักและหัวเมืองรอง มากว่า 300 หัวเมือง

ทำไม ใครๆ ต่างก็ยกย่อง อาแซน เวนเกอร์ โค้ชชาวฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในโค้ชที่ดีที่สุดคนหนึ่งในโลกมานานนับ 10 ปี คำตอบก็คือ เขาเป็นคนที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงทีมอาร์เซน่อล ทีมธรรมดาๆ มาเป็นทีมที่เล่นได้อย่างสวยงามที่สุดในโลกทีมหนึ่ง ทั้งที่ใช้ทุนทรัพย์ในการทำทีมที่จำกัด อาแซน เวนเกอร์ นำทีมอาร์เซน่อล เบียดลุ้นแชมป์กับทีมที่รวยที่สุดในโลกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนิดเป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อ ทั้งที่ ใช้งบประมาณน้อยกว่าคู่แข่งแย่งแชมป์ไม่น้อยไปกว่า 2 เท่าตัว

ผลงานการคว้าดับเบิ้ลแชมป์ 2 สมัย การคว้าแชมป์แบบไร้พ่าย แบบที่ไม่มีผู้ใดทำได้ การนำทีมเข้าชิงชนะเลิศในถ้วยยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก และยูฟ่าคัพ ชัยชนะอย่างมีสไตล์ด้วยความสวยงามในรูปแบบการเล่น สโมสรสามารถสร้างสนามขนาด 354 ล้านปอนด์ รองรับแฟนบอล 6 หมื่นชีวิต โดยยังมีเงินกำไรก่อนหักภาษีเหลือด้วยซ้ำ

ยุคสมัยแรกของ เวนเกอร์ มีนักเตะมีระดับอยู่ในทีมอยู่แล้ว เช่น เดนนิส เบิร์กแคมป์ โทนี่ อดัมส์ และแผงแบ็คโฟว์ที่แข็งแกร่ง รวมไปกับสายเลือดใหม่ที่เวนเกอร์เลือกเข้าสู่ทีมอย่าง ปาทริก วิเอร่า เอ็มมานูเอล เปอตีย์ มาร์ค โอเวอร์มาส์ นิโคลาส อเนลก้า ล้วนแต่เป็นนักเตะที่คู่แข่งขยาดกลัวทั้งสิ้น ทีมชุดนี้ คว้าดับเบิ้ลแชมป์ในปี 1997-98 ขณะที่ทีมชุดที่ 2 ของเขาที่มี เธียร์รี่ อองรี โรแบร์ ปิแรส ซิลแวง วิลตอร์ โซล แคมป์เบล ก็สามารถคว้าดับเบิ้ลแชมป์ครั้งที่ 2 ได้อีกพร้อมกับสถิติไร้พ่ายที่ลือลั่น ผู้เล่นทั้ง 2 ชุด ต่างก็เล่นได้ตามแผนการเล่นของอาแซน เวนเกอร์ ได้อย่างคลาสสิคและลงตัว

จ๊กก๊ก หลังจากที่เสียขุนพลระดับนายพลไปทีละนาย กวนอู เตียวหุย เล่าปี่ ฮองตง ม้าเฉียว ส่วนจูล่ง อายุมากขึ้นจนเป็นขุนพลผู้เฒ่า จากนั้น จ๊กก๊ก ก็เสียเมืองเกงจิ๋วคืนแก่ง่อก๊ก การเอาชนะศึกที่เคยง่าย ก็เริ่มจะยากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการต้องปะทะฝีมือกับ เสือร้ายแมวเซาอย่าง สุมาอี้ แผนการรบของสุมาอี้ มักจะใช้ยุทธวิธีตั้งรับในจุดยุทธศาสตร์ที่ได้เปรียบ และอาศัยจังหวะบุกขณะที่ข้าศึกถอย แผนการของสุมาอี้ สร้างความอึดอัดแก่ขงเบ้ง เป็นอย่างมาก ช่วงนี้ ขงเบ้งเริ่มมีการวางแผนผิดพลาด ใช้คนผิด จนทำให้กองทัพเสียหายยับเยิน ม้าเจ๊ก แม่ทัพเด็กเส้นของขงเบ้ง บัญชาการรบผิดพลาดจนเสียด่านสำคัญที่เขาเกตั๋ง ทำให้แผนยุทธศาสตร์ทั้งหมดต้องพังยับเยิน กองทัพต้องทิ้งเมือง หนีตายกันหัวซุกหัวซุน ขณะที่แผนการของ อุยเอี๋ยน ขุนพลที่ไม่ถูกโฉลกกับขงเบ้ง ถูกปฏิเสธอย่างไม่ใยดี กล่าวได้ว่า ยุคปลายของขงเบ้ง ไม่มีขุนพลที่เก่งกาจสามารถ ไม่มีขุนพลที่สามารถปฏิบัติตามแผนการของขงเบ้งได้ จะมีก็เพียง เกียงอุย ศิษย์เอกเพียงคนเดียว ที่พอจะรู้ทันอาจารย์อยู่บ้าง

ขงเบ้งตายเพราะต้องตรากตรำในกองทัพอย่างหนัก เหนื่อยทั้งใจเหนื่อยทั้งกาย โดยไม่สามารถเอาชนะสังขารตัวเองได้ สุมาอี้ ได้ชัยชนะจากแผนการตั้งรับของตนเอง และยังมาจากความไม่มีประสิทธิภาพของขุนพลจ๊กก๊กเองด้วย จุดจบของจ๊กก๊ก มาหลังจากที่ขงเบ้งสิ้นชีพ ขณะที่พระเจ้าเล่าเสี้ยน สนุกสนานกับสุรานารี โดยไม่สนใจกองทัพ ก็เป็นเหตุให้ จ๊กก๊ก ล่มสลายไปในที่สุด

อีมิเรตต์ สเตเดี้ยม ที่สามารถรองรับแฟนบอลได้ถึง 6 หมื่นคน แต่ขณะเดียวกัน อาร์เซน่อลก็ต้องสูญเสียนักเตะคนสำคัญไปคนแล้วคนเล่า วิเอร่า ปิแรส วิลตอร์ด อองรี แคมป์เบลล์ เบิร์กแคมป์ ลุงเบิร์ก นักเตะมาทดแทนอย่าง เคล็ป ฟลามินี่ ก็ย้ายไปสู่อนาคตที่คาดว่าจะดีกว่า คนที่มาทดแทนล้วนแต่เป็นนักเตะอายุวัยละอ่อน มีปัญหาในทีมอย่างต่อเนื่อง สปิริตและความทุ่มเทน้อยลงกว่าที่เคย อาร์เซน่อล สูญเสียความยิ่งใหญ่ในตัวเองไปเรื่อยๆ ไม่มีถ้วยแชมป์ติดมือมากว่า 4 ปี แถมอันดับในตารางก็ร่วงมาอยู่อันดับ 5 ตามหลังทีมอันดับ 4 มากถึง 5 คะแนน กล่าวได้ว่า แผนการเล่นของอาร์แซน เวนเกอร์ ยังคงเหมือนเดิม แต่นักเตะในทีม ล้วนแต่อ่อนหัด เล่นไม่ได้ตามแผน จะมีก็เพียง เชส ฟาเบรกาส เพียงคนเดียว ที่พอจะเป็นศูนย์กลางของทีมได้

อาแซน เวนเกอร์ ยังไม่ตายครับ แต่แก่ไปเยอะ เขาดูเหนื่อยทั้งใจเหนื่อยทั้งกาย ไม่สามารถเอาชนะแผนการอุดประตูของคู่แข่งได้ คู่แข่งขัน มักจะได้แต้มกลับไปจากอีมิเรตต์ สเตเดี้ยม จากแผนตั้งรับ และมาจากความไม่มีประสิทธิภาพของนักเตะอาร์เซน่อลเอง จุดจบของอาร์เซน่อล จะมาจากการที่ทีมต้องพลาดตั๋วแชมป์เปี้ยนลีกในฤดูกาลหน้า ซึ่งจะทำให้ช่องว่างระหว่างบิ๊กโฟว์อื่นๆ ยิ่งห่างไกลขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่บอร์ดบริหารของสโมสร สนุกสนานกับผลประกอบการที่ฟันกำไรมหาศาล ตัวเลขกำไรก่อนหักภาษีถึง 24 ล้านปอนด์ คือเหตุผลที่บอร์ดบริหารกอดคอกันถือหุ้นเอาไว้แน่น สุดท้ายเมื่อกำไรหดหายไปเมื่อไหร่ ต่างคนก็ต่างเปิดตูดชิ่งหนีกันเมื่อนั้น

สรุป
ดวงของ จูกัดเหลียง ขงเบ้ง กับ อาร์แซน เวนเกอร์ คล้ายกันอย่างน่าประหลาด แม้เราจะรู้เนื้อเรื่องของสามก๊ก กันดีอยู่แล้ว แต่เรื่องของ อาร์แซน เวนเกอร์ ยังไม่จบ แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะคุมทีมต่อไปโดยไร้ความสำเร็จ ในอดีต เขาเคยโดน นองซี่ และ โมนาโก ปลดออกจากตำแหน่งมาแล้วหลังทำทีมตกต่ำ และไม่สามารถแก้ไขปัญหาในทีมได้ สถานการณ์ในทีมอาร์เซน่อล ถ้าสโมสรไม่ได้เล่นแชมป์เปี้ยนลีก ก็จะสูญเสียรายได้ก้อนใหญ่ไป รวมกับค่าใช้จ่ายในการต่อสัญญากับนักเตะก็สูงมากขึ้น ถ้าสโมสรกำไรไม่ได้ตามเป้า และทีมไม่ประสบความสำเร็จ เวนเกอร์ ก็อาจจะโดนบีบให้ออกได้เช่นกัน หรือถ้า อลิเชอร์ อูซมานอฟ สามารถเทคโอเวอร์สโมสรได้ในท้ายที่สุด เวนเกอร์ก็คงจะลาออกอยู่ดี เพราะเขาให้สัมภาษณ์มาตลอดในเรื่องไม่เห็นด้วยกับนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร

ไบรอัน คลัฟ เคยทำทีมคว้าแชมป์ยุโรปกับฟอเรสต์ แต่ก็ทำทีมเดียวกันตกชั้นจนยังไม่สามารถจะกลับมาได้อีกเลย แฟนบอลฟอเรสต์ ไม่เคยลืมสิ่งที่ ไบรอัน คลัฟ ทำไว้กับสโมสร แต่พวกเขาก็เจ็บปวดกับสถานการณ์ปัจจุบันนี้ของสโมสรเช่นกัน เพราะฉะนั้น การยึดติดกับเรื่องเดิมๆ สิ่งเก่าๆ มากเกินไป มันก็จะกลายเป็นดาบสองคมที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองได้ในที่สุด

จากคุณ : Aledier - [ 2 มี.ค. 52 14:36:17 ]