'ผมไม่เข้าใจถึงการเปลี่ยนตัว และรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เราขึ้นนำ 2 - 1 และต้องการอีกประตูเพื่อผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ บางทีเราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงแท็คติกบางอย่างและส่งกองหน้าอีกคนลงมา แต่รานิเอรี่ ไม่ต้องการทำแบบนั้น มันเป็นเรื่องน่าผิดหวังสำหรับผม และสำหรับทีม ตอนนี้เราจะต้องรอและดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นในปีหน้า' ...
ด้านบนคือคำกล่าวของ ดาวิด เทรเซเก้ต์ กองหน้าชาวฝรั่งเศสของยูเว่ ที่ส่งต่อไปถึง เคลาดิโอ รานิเอรี่ โค้ชของทีม ด้วยอารมณ์หงุดหงิดและผิดหวัง หลังจากที่เขาถูกรานิเอรี่เปลี่ยนตัวออกจากสนามในเกมที่ยูเว่เจอกับเชลซีเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา .. รานิเอรี่ยังคงไม่ได้ออกมาตอบโต้อะไร แต่สิ่งที่เขาทำมันแสดงออกมาในเกมเซเรีย อานัดนี้แล้ว ...
.
.
Match 28 Juventus 4 - 1 Bologna : Stadio "Stadio Olimpico" - Torino 14/03/2009 - 20.30
กัลโช่ เซเรีย อา นัดที่ 28 ของฤดูกาล รองจ่าฝูง ยูเวนตุส ที่เพิ่งอกหักจากศึก UCL เปิดสนามโอลิมปิก สเตเดี้ยมส์ รับการมาเยือนของโบโลญญ่า ทีมอันดับที่ 16 ของตาราง โดยการเจอกันเมื่อครึ่งฤดูกาลแรก ยูเว่บุกไปเฉือนชนะโบโลญญ่าถึงถิ่น 2 - 1 ...
เกมนี้เจ้าถิ่นต้องขาดผู้เล่นตัวหลักไปกว่าครึ่งทีม คาโมราเนซี่, มาร์คิออนนี่, อเมารี, ซิสโซโก้, เนดเวด ได้รับบาดเจ็บต้องพักยาวกันทุกคน ส่วน เลกร็อตตาเย่, คเนเซวิช ยังไม่ฟิตพอจะลงสนาม และ เทรเซเก้ต์ถูกรานิเอรี่ดร็อปในเกมนี้จากสาเหตุที่เขาออกมาวิจารณ์การทำงานของโค้ช ทำให้แดนหน้า ต้องส่งยาควินต้าลงมาล่าตาข่ายร่วมกับ เดล ปิเอโร่ ส่วนเกมตรงกลางเป็นหน้าที่ของมาร์คิซิโอและติอาโก้จับคู่กัน ขนาบด้วยซาลิฮามิดซิชทางขวาและโจวินโก้ทางซ้าย ...
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - Buffon - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
- - - Grygera - - - - Mellberg - - - - - Chiellini - - - - Molinaro - - - -
- - - Salihamidzic - - - - Tiago - - - - Marchisio - - - Giovinco - - -
- - - - - - - - - - - - - - Iaquinta - - - - - - Del Piero - - - - - - - - - - - - -
ด้านทีมเยือน โบโลญญ่า หลังจากทำผลงานได้ดีในนัดก่อนที่ไล่ยำซามพ์โดเรียถึง 3 - 0 นัดนี้ มิไฮโลวิช ไม่ได้เปลี่ยนแปลงทีมมากนัก นำทัพโดยดิ วาโญ่ ดาวซัลโวของลีกในขณะนี้ (19 ประตู) แดนกลางมี วอลปิ, มูดินกายี่ และ มูตาเรลลี่ประสานงานกัน ส่วนแผงหลังแตร์ซี่ยืนเซ็นเตอร์คู่กับบริตอส ...
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - Antonioli - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
- - - - - Zenoni - - - - - Terzi - - - - - - - Britos - - - - - Lanna - - - - -
- - - - - - - - - - - - - - - Mudingayi - - - - - Volpi - - - - - - - - - - - - - - -
- - - - - - Bombardini - - - - - - - - Mutarelli - - - - - - Valiani - - - - - -
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - Di Viao - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เปิดเกมมาแค่ 2 นาที ยูเว่ได้โอกาสก่อน จากโจวินโก้ ผ่านบอลให้ เดล ปิเอโร่ยิงด้วยซ้ายจากนอกกรอบ แต่ติดเซฟของอันโตนิโอลี่ นาทีที่ 18 โบโลญญ่ามีโอกาสบ้าง จากฟรีคิกของวอลปิ แต่ก็ไม่ผ่านมือของบุฟฟ่อน จนกระทั่งนาทีที่ 24 กลับกลายเป็นทีมเยือนที่ได้ประตูออกนำไปก่อน เมื่อ ดิ วาโญ่ ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนที่จะจ่ายตัดหลังกองหลังยูเว่ทั้งแผงให้กับมูตาเรลลี่ที่สอดขึ้นมายิงลอดขาบุฟฟ่อนเข้าไป ทีมเยือนนำ 1 - 0 ...
นาทีที่ 30 คิเอลลินี่ปะทะกับมูดินกายี่ จนจมูกแตกต้องออกไปปฐมพยาบาลข้างสนาม ทำให้เกมต้องหยุดไปชั่วคราว ท้ายครึ่งแรกยูเว่มีโอกาสลุ้นประตูตีเสมออีกครั้ง เมื่อได้ฟรีคิกบริเวณหน้ากอรบเขตโทษแต่เดล ปิเอโร่ยิงข้ามคานออกไป จบครึ่งแรกจึงเป็นทีมเยือนที่บุกมานำ 1 - 0 ...
ครึ่งหลัง รานิเอรี่ ส่งโพลเซ่นลงมาเล่นตรงกลางแทนที่ของติอาโก้ ที่ทำผลงานได้น่าผิดหวัง และเมื่อถึงนาทีที่ 48 ยูเว่ก็สามารถตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะเตะมุม โจวินโก้โยนมาที่เสาแรก เป็นซาลิฮามิดซิชทะยานโขกที่เสาแรกสะบัดให้บอลพุ่งไปเสียบเสาสองอย่างสวยงาม เกมกลับมาเท่ากันที่ 1 - 1 นาทีที่ 65 ยูเว่ชวดโอกาสได้ประตูนำอีกครั้ง เมื่อโจวินโก้โยนเข้ามาในเขตโทษและเป็นเดล ปิเอโร่ที่โขกไปชนคาน ...
แต่แล้วในนาที 71 ยูเว่ก็ออกนำได้เป็นครั้งแรกของเกม ยาควินต้าพักบอลลงในเขตโทษก่อนป้ายคืนกลับมาให้โจวินโก้สอดขึ้นมาซัดด้วยซ้าย บอลไซด์ก้อยพุ่งเสียบเสาสองอย่างยอดเยี่ยม ยูเว่พลิกกลับมานำ 2 - 1 และอีก 4 นาทีต่อมายูเว่ก็หนีไปเป็น 3 - 1 เมื่อเดล ปิเอโร่ได้บอลในเขตโทษก่อนล็อกหลบกองหลังโบโลญญ่าและยิงหักข้อด้วยซ้ายอย่างเหนือชั้น หมดสิทธิ์เซฟสำหรับอันโตนิโอลี่ ...
นาทีที่ 84 ยูเว่ได้ประตูที่ 4 จากการยิงจังหวะแรกของเดล ปิเอโร่ติดเซฟของอันโตนิโอลี่ แต่ก็เป็นเดล ปิเอโร่ที่ตามเข้าไปซ้ำด้วยซ้ายเข้าประตูไป นาทีสุดท้าย เดล ปิเอโร่เกือบทำแฮตทริกได้ เมื่อเขาลากบอลหลบกองหลังโบโลญญ่าก่อนตัดสินใจซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งไปชนเสาอย่างจัง ยูเว่ชวดประตูที่ 5 ไปอย่างน่าเสียดาย โดยในช่วงท้ายเกม รานิเอรี่ให้โอกาส 2 ดาวรุ่งจากชุดแชมป์เยาวชน เวียเรจโจ้เมื่อเดือนก่อน อย่าง ดาอุด และ อิมโมบิเล่ ลงมาสัมผัสเกมเซเรีย อา เป็นครั้งแรกของชีวิต จบเกมยูเว่ไล่ยำโบโลญญ่าไป 4 - 1 พร้อมทั้งทำคะแนนจี้จ่าฝูงอินเตอร์ เหลือ 4 คะแนนแล้ว ...
.
.
จริงๆ หลังจบเกมอยากที่จะรีบต่อเนตเข้ามารีวิวเกมนัดนี้เลยด้วยซ้ำไปนะครับ เพราะนอกจากจะเป็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยม น่าประทับใจของทีมแล้ว นัดนี้ยังมีเรื่องให้พูดคุยอีกเยอะมาก ติดอยู่ตรงเกือบตี 5 แล้ว และต้องตื่นเช้าไปธุระอีก เลยรีวิวช้าไปหน่อย ...
เรื่องแรกก็คงเป็นกรณีของเทรเซเก้ต์ที่ถูกรานิเอรี่ดร็อปจากทีมในนัดนี้ โดยให้เหตุผลว่าเขามีอาการบาดเจ็บ แต่แท้จริงแล้ว อาจมีสาเหตุมาจากกรณีที่เทรเซเก้ต์ออกมาวิจารณ์รานิเอรี่หลังจากที่โดนเปลี่ยนตัวออกในเกม UCL กับเชลซี ทำให้เขาไม่มีชื่ออยู่ในทีมชุดนี้ กอปรที่อเมารีกองหน้าตัวหลักของทีมอีกคน ได้รับบาดเจ็บที่ต้นขาขวาในขณะฝึกซ้อม ต้องพักประมาณ 30 - 35 วัน ทำให้รานิเอรี่ตัดสินใจส่งชื่อ อายุบ ดาอุด บ่ใจ่ด๊วด และ ชิโร่ อิมโมบิเล่ บ่ใจ่ไอโมบาย 2 กองหน้าบ้าพลัง (ผลัดกันถล่มประตูเป็นว่าเล่น) จากชุดเยาวชนพรีมาเวร่าของยูเว่ที่คว้าแชมป์เยาวชน ในรายการเวียเรจโจ้ เมื่อเดือนก่อนอยู่ในไลน์อัพนัดนี้ด้วย ซึ่งก็รวมไปถึง ซิโมเน่ เอสโปซิโต้ ดาวรุ่งอีกคน ที่มีชื่ออยู่ในทีม (ลอเรนโซ่ อาริเอาโด้ หรือเจ้า ลิลโล่ อีกคนด้วย เพียงแต่ลิลโล่ได้มีโอกาสสัมผัสบรรยากาศเซเรีย อามาบ้างแล้ว) ซึ่งผมคาดว่าหากรานิเอรี่ไม่ได้เปลี่ยนโพลเซ่นลงสนามตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง และสกอร์ออกมาเป็นแบบนี้ ท้ายเกมเอสโปซิโต้ก็คงได้ลงไปเล่นอีกคนแน่นอน ...
นั่นหมายถึง รานิเอรี่ ได้ส่งสัญญาณไปถึงเทรเซเก้ต์ว่า ถึงเวลาเอาจริง เขาเองก็ไม่ง้อซูเปอร์สตาร์ในทีมเหมือนกัน เพราะในมือของเขา ก็ยังมีดาวรุ่งให้เลือกใช้ได้ไม่ขาดมือ โดยล่าสุด ทางด้าน โคบอลลี่ จีญี่ ประธานสโมสร ก็ออกมาหนุนหลังรานิเอรี่ แต่ก็ไม่มีความคิดที่จะปล่อยเทรเซเก้ต์ออกจากทีมแต่อย่างใด ซึ่งก็เหมือนกับ กาเลียนโด้ เอเยนต์ส่วนตัวของเทรเซเก้ต์ ที่ออกมายืนยันว่า เทรเซเก้ต์ไม่ได้มีปัญหากับรานิเอรี่แต่อย่างใด (จริงอ่ะ) เพียงแต่เขาแค่หัวเสียที่ทีมต้องตกรอบ UCL ก็เท่านั้น ก็ต้องตามข่าวเรื่องนี้กันต่อล่ะครับ ...
และจากที่รานิเอรี่เปรี้ยวส่งทั้งดาอุดและอิมโมบิเล่ ลงสนาม (จริงๆ นะ ตอนผมเห็นดาอุดลงแล้ว ยังคิดอยู่เลยแล้วคู่หูของเขาไปไหน ทันใดกล้องตัดมาเห็นไอ้หนุ่มเบอร์ 46 IMMOBILE ยืนเตรียมตัวลงสนาม ผมถึงกับอุทานว่า 'จ๊อดดด โค้ชกรู เปรี้ยวได้อีกกกกกก' 555) นั่นทำให้ผมย้อนกลับไปคิดถึงดาวรุ่งของทีมอย่าง โจวินโก้ , มาร์คิซิโอ หรือ เด เชเญ่ มันทำให้ผมยอมรับความจริงเรื่องหนึ่งว่า ตอนนี้มันคือเวลาผลัดใบของสโมสรแล้วจริงๆ และ ณ เวลา 04.30 น. ของคืนวันเสาร์ที่ 14 มีนาคม ผมขออนุญาตยึดคำว่าดาวรุ่งของทีมจากโจวินโก้, มาร์คิซิโอ คืนมาและส่งต่อให้ดาวรุ่งคนอื่นๆ และแต่งตั้งให้พวกเขาคือ กำลังหลักของสโมสร ณ บัดนี้ (คลื่นลูกใหม่ มันซัดคลื่นลูกเก่าแล้ว) ...
เกมนี้แม้จะโดนนำไปก่อน แต่แปลกผมกลับไม่รู้สึกหงุดหงิดหรือรำคาญใจอะไร เพราะเชื่อว่าทีมจะกลับมาได้ และก็ทำได้จริงๆ ครึ่งแรกรวมไปถึงต้นครึ่งหลัง 'Atomic Ant' โจวินโก้ สร้างความปั่นป่วนให้แผงหลังโบโลญญ่าได้ตลอด แต่พอมาช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกม กลับกลายเป็น 'ป๋าเดล' ที่หงุดหงิดตัวเองมาทั้งเกม ระเบิดฟอร์มเกือบจะทำแฮตทริกได้เฉยเลย และที่น่าสังเกตคือแทบทุกจังหวะการยิงของป๋าเดล มาจากเท้าซ้าย! ใครมีโอกาสชมรีรันลองสังเกตกันครับ ไม่ว่าจะเป็นประตูแรก ประตูที่ 2 ที่ยิงจังหวะแรกก็เท้าซ้าย จังหวะซ้ำก็เท้าซ้าย หรือนาทีสุดท้ายที่ซัดด้วยซ้ายชนเสาเต็มๆ (เมื่อบวกกับการเตะมุมชนคานของโจวินโก้และโหม่งชนเสาของเดล ปิเอโร่ในครึ่งแรก ทำให้ยอดรวมการยิงชนเสา + คานของยูเว่ในฤดูกาลนี้เกินหลัก 30 ครั้งไปแล้ว) เรียกว่าป๋าเราก็ซ้ายขวาไม่แพ้ใครเหมือนกัน ...
แฟนยูเว่หลายคนไม่ชอบซาลิฮามิดซิช แต่ผมว่าเขามักจะเป็นทีเด็ดที่สอดขึ้นมายิงประตูสำคัญๆ ให้กับทีมได้บ่อยเลยนะครับ รวมไปถึงจังหวะที่วิ่ง ที่ไล่แย่งบอล ทุ่มเทให้กับทีมจนบางครั้งดูมากเกินไป ทำให้เขาได้รับใบเหลืองบ่อยๆ แต่เขาก็พยายามช่วยทีมได้เยอะเชียวล่ะครับ พูดรวมไปถึงโมลินาโร่ด้วยละกัน ถ้าตัดเรื่องการเติมเกมรุกมาเปิดบอล ผมว่าเกมรับเขายังทำได้ดีกว่าเด เชเญ่เยอะมากๆ ทีเดียวครับ เชียร์พวกเขานิดนึง เดี๋ยวน้อยใจแย่เลย ทุ่มเทขนาดนี้ 555 ...
เกมนัดต่อไป นัดที่ 29 ของฤดูกาล ยูเว่ต้องพบกับศึกหนักอีกนัดในฤดูกาลนี้ ด้วยการออกไปเยือนโรม่าที่กรุงโรม ในคืนวันเสาร์ที่ 21 มีนาคม เวลา 02.30 น. ตามเวลาประเทศไทย (คาดว่าทั้งทรู วิชั่นส์ และช่อง 9 Modern Nine น่าจะมีถ่ายทอดสดมาให้รับชมเช่นเดิมครับ) โดยโรม่าเองก็ต้องการแต้มเพื่อแย่งโควต้าพื้นที่ UCL โดยในครึ่งฤดูกาลแรก ยูเว่เอาชนะมาได้ 2 - 0 จากฟรีคิกของเดล ปิเอโร่ และประตูของมาร์คิออนนี่ ผลจะเป็นอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป เชียร์กันต่อนะครับ ...
Forza Bianconeri !!! ...
จากคุณ :
pinturicchio boy
- [
15 มี.ค. 52 20:39:01
]