ความคิดเห็นที่ 1 การจัดตัวนัดนี้ ท่านเซอร์นั้นดูเหมือนจะตั้งใจมาดักทางเกมเพรสซิ่งของหงส์แดงโดยเฉพาะ นั่นคือการส่งตัวสดๆลงมาเต็มแผงกลางและหน้า ในขณะที่แผงหลังยังคงเป็นชุด อันทัชเอเบิ้ล T_T ไล่ตั้งแต่ น้าซาร์-โอเชีย, ริโอ, วิดิช,เอวร่า แผงกลางมี โรนัลโด้, คาร์ริค, แอนนี่, ปาร์ค และคู่กองหน้าใช้รูนี่ย์ และเตเวซ ถามว่าสมควรไหม หากต้องตอบในนาทีนั้น ผมก็ตอบตรงๆว่าสมควร เกมเพรสซิ่งของหงส์แดงหากตั้งใจจะลงมาเล่นเพรสซิ่งจริงๆนั้นน่ากลัวมากๆ เกมแรกเราก็เห็นไปแล้ว รับรู้รสชาตไปแล้ว เกมนี้การจัดตัวแบบนี้จึงไม่แปลกอะไร ปัญหามันน่าจะอยู่ที่ดีเทลการเล่นในเกมมากกว่าครับ สำหรับฝั่งผู้มาเยือน ราฟามีปัญหามากในการส่งสิบเอ็ดผู้เล่นลงสนาม เมื่ออาร์เบลัวเจ็บ อลอนโซ่ก็เจ็บ ซึ่งทั้งคู่เพิ่งมีปัญหาก่อนเกมไม่นาน ทำให้ต้องปรับทัพขนานใหญ่ เรน่าลงสนามได้ แผงหลังต้องปรับคาร์ราเกอร์มายืนฟูลแบ๊คด้านขวา คู่เซ็นเตอร์มีสเคอร์เทลและฮูเปีย ฟูลแบ๊คด้านซ้ายใช้ออเรลิโอ คู่ตรงกลางมีเลว่ากับมาสเคราโน่ เป็นตัวรับ ตัวรุกมีเจอร์ราร์ดตรงกลาง ซ้ายขวามีริเอร่า และเคาท์ หน้าเป้าเลือกตอร์เรส ปัญหาของหงส์แดงที่เราเห็นก่อนเกมนั้น อาจส่งสัญญาณอะไรบางอย่างให้ฝั่งเจ้าบ้านเกิดอาการย่ามใจเกินปกติ (ผมเองยังย่ามใจ แล้วทำไมนักเตะจะไม่รู้สึกล่ะ) ซึ่งนั่นจะสะท้อนออกมาในรูปเกมครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 16 มี.ค. 52 10:17:14 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเองมองเกมตลอดเก้าสิบนาที ถึงแม้ว่าสกอร์ในช่วงหลังของเกม จะทำให้ผมไม่ต้องการรับรู้รับทราบอะไรทั้งสิ้น แต่ด้วยความที่ต้องการเห็นกับตาว่า เราจะทำอะไรต่อไป จะแก้ปัญหาอย่างไร นั่นทำให้ผมพบว่า ผมยังคงทำร้ายจิตใจตัวเองต่อไป ด้วยการดูทีมรักถูกปู้ยี่ปู้ยำคาบ้านต่อหน้าต่อตาผ่านจอโทรทัศน์ตลอดเก้าสิบนาทีไม่มีขาดตกแม้แต่วินาทีเดียว ซึ่งผมไม่อยากจะบอกเลยครับ ว่าตามความเห็นของผมแล้ว ท่านเซอร์แพ้ด้านแท็คติคให้แก่ราฟาแบบขาดกระจุยในนัดนี้ โอเคเรื่องการจัดตัวอาจไม่ชัดเจนนัก แต่ด้านแผนการเล่น และการแก้เกมแล้ว กระจุยครับ นอกจากท่านเซอร์จะแพ้แล้ว นักเตะในทีมยังแพ้ลิเวอร์พูลอีกด้วยในด้านของเป้าหมายการเล่นที่ขับดันความมุ่งมั่น ความกระหายตลอดเก้าสิบนาที ลิเวอร์พูลแสดงให้เห็นว่าเหนือกว่าอย่างชัดเจน อาจเป็นเพราะภาพลวงตาในเกมอินเตอร์ มิลานก็เป็นได้ ที่ทำให้เราลืมไปว่า อิบราฮิโมวิช ไม่ใช่ตอร์เรส ซาเน็ตติไม่ใช่เจอร์ราร์ด รวมทั้งการที่แผงกองหลังเราถูกยกยอปอปั้นเต็มที่จนบางที อาจนึกไปว่า ไม่มีใครสามารถจะสอยตาข่ายเราได้ง่ายๆ ซึ่งทั้งสองเหตุผลนั้น ขยำรวมกับความฮึกเหิมที่เล่นในบ้าน กอปรกับตัวผู้เล่นลิเวอร์พูลที่ต้องปรับทัพถึงสองกระบวนท่าเต็มๆก่อนแข่ง นั่นเองที่อาจส่งผลกระทบแบบบิ๊กแบงให้ผู้เล่นของเราย่ามใจจนเกินไป ในขณะที่หงส์แดงซึ่งถูกค่อนขอดมาตลอดว่าหมดหวัง หมดหวัง รอไปเหอะ ยิ่งองค์ประกอบทีมนัดนี้เป็นรองสุดๆ ยิ่งทำให้ทั้งกุนซือและนักเตะยิ่งต้องรอบคอบ ละเอียด และระวังมากกว่าปกติ ทั้งหมดนี้แหละ คือสิ่งที่ก่อให้เกิดทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นผลลัพธ์ในอีกเก้าสิบนาทีต่อมา จากคุณ : สงบใจ - [ 16 มี.ค. 52 10:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถึงแม้เกมช่วงแรกจะยังเป็นการดูเชิง คุมจังหวะกันของทั้งคู่มากกว่าจะแลกหมัดกันตรงๆ แต่สามารถสังเกตได้ไม่ยากว่า ผู้เล่นยูไนเต็ดไม่สามารถคุกคามหงส์แดงได้เหมือนทีมชีตที่มีสภาพขี่กันอยู่ก่อนลงเตะ โรนัลโด้ถูกวางกับดักทางกราบขวาชนิดที่กลายเป็นหนูถีบจักร นั่นคือซอยยิกๆอยู่ในที่ที่เบนิเตซกำหนดให้ซอยเท่านั้น ไม่ได้มีโอกาสลากไปโน่นมานี่ หรือตัดสนาม หุบเข้ามาเล่นได้ตามถนัด ราฟาเลือกใช้ริเอร่าในเกมรุกน้อยมาก แต่ให้คอยรอง คอยซ้อนช่วยกันกับออเรลิโอ บางครั้งก็มีมาสเคราโน่ หรือเลว่ามาช่วย แท็คติคราฟาก็คือ ไม่เสียบ ไม่สไลด์ ไม่รวบ (หากจะทำ ก็ทำไกลๆหน่อย) แต่วิ่งช่วยกันซ้อนบังไลน์ไม่ให้โด้ทำอะไรได้ถนัด แค่นั้นก็ตัดอาวุธหนักริมเส้นของเจ้าบ้านได้หนึ่งอย่าง ต่อมาก็คือ การตัดเกมรุกริมเส้นอีกด้าน ซึ่งก็ไม่ต่างกัน คาร์ราเกอร์ และเคาท์ ช่วยกันรอง ช่วยกันซ้อนอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย กลางรับสองคนก็สามารถสอดรับได้ค่อนข้างดี ปาร์คกับเอวร่าไม่สามารถทำเกมได้ถนัดนัก เพียงแต่ว่าตลอดทั้งเกม หงส์แดงดูจะเทน้ำหนักไปที่การป้องกันโรนัลโด้มากกว่า ทำให้เกมรุกด้านนี้ ยังคงต่อเกมกันให้เห็นได้เป็นระยะๆ ถึงแม้จะไม่อันตรายเท่าไหร่ รูปเกมการป้องกันหงส์แดงในช่วงแรกนั้น ยังเน้นที่แบ๊คโฟร์จะไม่เติมด้วย เพราะต้องการประคองรูปเกมไว้ก่อน ไม่รีบร้อนเร่งเกมกันไปจนทำให้แท็คติคคลายลงได้นั่นเอง จากคุณ : สงบใจ - [ 16 มี.ค. 52 10:17:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เจ้าบ้านอาจจะโชคดีที่ได้ประตูนำไปก่อน จากความโชคร้ายของเรน่า ที่เบรคแล้ว แต่หยุดไม่อยู่ ตัวไถลไปสอยโดนตี๋ปาร์คที่พร้อมจะลงอยู่แล้ว โด้จึงสอยลูกโทษเข้าไปได้ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ยูไนเต็ดที่เริ่มเล่นเกมรุกกันอย่างเพลิดเพลิน ก็เริ่มออกอาการคุมไม่อยู่ เมื่อผู้เล่นแต่ละคน สดยกกล่องมาวิ่งได้ไม่มีหมดก็จริง แต่อย่างที่ผมบอกไปหลายครั้งก่อนหน้านี้ครับ ว่าทีมเราต้องมีคอนดักเตอร์ ซึ่งคอนดักเตอร์คนนั้น ก็ต้องมีพาวเวอร์พอจะดึงจังหวะของทีมทั้งทีมได้ด้วย ไม่ใช่คุมจังหวะอยู่คนเดียวแต่คนอื่นไม่ได้สนอกสนใจเล่นตามจังหวะ คาร์ริคคนเดียวคุมทั้งทีมไม่ได้ครับ ยิ่งการที่คู่ขาคือแอนนี่ ยิ่งไปกันใหญ่ เกมใหญ่ๆแบบนี้ ความกดดัน และแพสชั่นของเกมมันสูงมาก หากสมาธิหลุดแม้นิดเดียว ทุกอย่างสามารถพังครืนลงได้ทันที เกมนี้ก็เช่นกันครับ การที่เห็นลิเวอร์พูลไม่บุก ไม่โหมเกม ไม่เร่งเกมสู้ในช่วงแรก นักเตะเราหลายคนเริ่มออกอาการ ยิ่งได้ประตูนำไปก่อน ยิ่งออกอาการหนักขึ้น อาการที่ว่าก็คือ กระเหี้ยนกระหือรือจะเอาเพิ่มให้ได้นั่นเอง ไม่ใช่ไม่ดีนะ แต่มันควรจะอยู่ในร่องในรอย อยู่ในรูปเกมที่คอนโทรลได้ ลิเวอร์พูลเองไม่ได้ตระหนกตกใจ แต่กลับรอคอยจังหวะอย่างอดทน และค่อยๆดันเจอร์ราร์ดสูงขึ้นมาช่วยตอร์เรสข้างหน้าในขณะที่ผู้เล่นริมเส้นคอยประคองเก็บปีกแมนฯยูฯ ลูกที่ตีเสมอได้นั้น คะแนนความผิดเต็มร้อย ผมคงยกให้วิดิชเก้าสิบล่ะครับจังหวะอย่างนั้นวิดิชไม่ควรปล่อยให้บอลตกเด็ดขาด ซึ่งหากเป็นเมื่อก่อน ผมว่าวิดิชโหม่งทิ้งออกข้างไปแล้ว แต่อาจจะเพราะกำลังอยู่ในช่วงย่ามใจในความเหนียวแน่น ทำให้คิดว่าสามารถบังเหลี่ยมตอร์เรสได้มิด กลับโดนตอร์เรสแหย่จากข้างหลังเท้าสะกิดบอลไปข้างหน้าได้ และวิ่งแซงไปยิงหน้าตาเฉย ความผิดพลาดนี้ ผมให้วิดิชเก้าสิบแต้มลบเลยจริงๆ อีกสิบถือเป็นยกให้ความซวยของจังหวะจะโคนก็แล้วกันครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 16 มี.ค. 52 10:18:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หลังจากถูกตีเสมอ แทนที่จะมีสติ กลับมาเล่นในแท็คติคที่คุ้นเคย ก็ไม่... ผมกลับเห็นว่าเรายังคงตั้งหน้าตั้งตาต่อเกมรุก บุกขึ้นไป ทั้งต่อบอลสั้น ทั้งขึ้นทางกราบ ทั้งวางยาว เรียกได้ว่าขุดเอาทุกมิติเกมรุกที่มีอยู่มาใช้แทบตลอด ผมเองยังหวั่นใจลึกๆว่า ทำไมเล่นกันในรูปนี้ ไม่กลัวโดนสวนรึไงกัน เวลาหงส์แดงครองเกมรุกใส่เรา ผมยังอุ่นใจกว่าซะอีก เพราะรู้ว่า หากเราเล่นในเกมรับเราเสียยากครับ แต่ถ้าโดนสวนตอนกำลังรุก อันนั้นน่ากลัวกว่าเยอะ ซึ่งเกมสวนกลับของหงส์แดงนั้นน่ากลัวทุกดอกจริงๆ โอเคครับผมยอมรับว่าการเล่นในบ้านต่อหน้าแฟนๆเจ็ดหมื่นห้าพันบวก รวมทั้งศักดิ์ศรีเร้ดวอร์ที่ค้ำคอ ย่อมต้องทำให้ทีมเล่นเพื่อชนะ และต้องชนะอย่างมีสไตล์ด้วย นั่นละมัง ที่ส่งให้นักเตะของเราพยายามเน้นเกมบุกกันจนผมมองว่า เกินพอดี การถูกลงโทษก่อนหมดเวลาครึ่งแรกไม่นานนัก ทำให้ผมรู้อนาคตทันที ว่าเกมนี้อย่างเก่งก็คงแชร์แต้มกัน ลูกที่สองที่เสียไป ก็คืออีกตัวอย่างของการเล่นเกมรุกที่เกินพอดี การคุมตัวที่หลวม การหลุดสมาธิในเกมรับ และประมาทเกินไป ลูกจ่ายให้เจอร์ราร์ดหลุดเดี่ยวเข้ามานั้น เอวร่าออกตัวช้ากว่า และพื้นที่ตรงนั้น ทั้งๆที่เหลือบานเบอะ แต่กลับไม่มีใครอีกแล้ว นอกจากเอวร่า  เจอร์ราร์ดที่วิ่งแซงมาจึงควบเข้าเขตโทษ เอวร่าก็ต้องพุ่งไปรวบแน่ๆอยู่แล้ว ยิ่งเจ้าตัวไม่ใช่พวกจอมสไลด์แม่นๆด้วยแล้ว ผมยิ่งทำใจพอเห็นเอวร่าเข้าเสียบ แล้วก็ ปรี๊ดดดดดด....  แล้วเจอร์ราร์ดก็ลุกขึ้นมายิงเข้าไปแบบเด็ดขาดตามสไตล์ ทำให้แผนของท่านเซอร์ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ และเกมในครึ่งหลังก็เข้าทางผู้มาเยือนเต็มๆ จากคุณ : สงบใจ - [ 16 มี.ค. 52 10:18:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 การเสียอีกสองประตูต่อมา มันไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนัก นอกจากเป็นการลงโทษตัวเองนั่นแหละ ที่เล่นเกมรุกเปิดพื้นที่ข้างหน้าแผงหลังมากเหลือเกินจนเสียประตูง่ายๆทุกครั้งไป ลูกที่สามก็ต้องเสียวิดิชไปอีกจากใบแดง ลูกที่สี่ก็ถูกโต้กลับ การเปลี่ยนตัวไม่ได้ช่วยอะไรเลยในเกมนี้ เพราะทุกอย่างเข้าทางผู้มาเยือนไปตั้งแต่ปลายครึ่งแรกแล้ว และการเปลี่ยนตัวก็เกิดขึ้นช้ามากเกินไป แทนที่จะทำตั้งแต่หกสิบนาทีแรก นี่รอจนสิบห้านาทีสุดท้าย และรูปเกมมันไม่ได้เข้าทางเราเลย ต่อให้เล่นอีกร้อยนาที ผมก็มองว่าโรนัลโด้ก็ทำได้เท่านี้ ดีที่สุดก็คือฟรีคิกนั่นแหละ ยิ่งการประสานงานในการเข้าทำไม่ต้องพูดถึง ปีกหุบไม่ได้ก็จบ รูนี่ย์ถูกถ่างออกมากเกินไป เตเวซโดดเดี่ยวเกินไป การเปลี่ยนตัวลงมาตอนนั้นหงส์แดงก็แพ็คไปแล้วและเวลาเหลือน้อยเต็มที เปลี่ยนช้าซะจนลงมาปุ๊บก็เสียอีกประตูปั๊บ อย่าโทษจังหวะเลย เราเปลี่ยนช้าเกินไปเองแหละ และหมดโอกาสแล้วที่จะพลิกรูปเกมกลับมา ทุกสิ่งทุกอย่างในเกมนี้ ผมมองว่ามันเริ่มมาจาก “แพสชั่น” ที่มากเกินพอดีของเรา ความมั่นใจที่มากเกินไป และความย่ามใจ การจัดเอาพวกสดๆลงมาไม่ใช่ข้อเสีย มันคือการต่อกรกับเกมเพรสซิ่งหงส์แดงที่ป๋าวางหมากมาแต่แรก แต่ปัญหามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ผมมองว่า มันเกิดจาก การที่ไม่มีคอนดักเตอร์ คาร์ริคเองไม่สามารถคุมแพสชั่นที่ล้นเหลือของทั้งทีมได้ด้วยตัวคนเดียว ไปๆมาๆ กลับเร่งเกมตามไปด้วยอีกคน แอนนี่มองหาแต่จังหวะแทงบอลขึ้นหน้า กะคิลเลอร์อย่างเดียวเลย คาร์ริคเองได้บอลก็หาที่ว่างวางยาวหาเพื่อนทันที เพราะเพื่อนเองก็วิ่งนำไปรอบอลกันหมดแล้ว ไม่มีใครมารอเซ็ตบอล ต่อบอล ดึงจังหวะกันบ้างเหมือนที่เคย จากคุณ : สงบใจ - [ 16 มี.ค. 52 10:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เกมที่เราเล่นในวันนี้ อยากจะย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้วเหลือเกินครับ เกมกับบาร์ซ่า, ลียง, ลิเวอร์พูล เราเล่นแบบไหน ผลลัพธ์เป็นอย่างไร แท็คติคและวินัยในเกมเป็นอย่างไร ผมอยากเห็นแบบนั้นครับ ในเกมใหญ่ๆ แพสชั่นสูงมากๆแบบนี้ ถึงแม้จะเล่นเกมรุกเข้าใส่ เพื่อเอ็นเตอร์เทนผู้ชมบ้าง แต่มันก็ควรอยู่ในวิสัยที่สามารถป้องกันตัวเองได้ด้วย ไม่ใช่ปล่อยภาระให้แผงหลังรับผิดชอบเพียวๆ ตอร์เรสนะครับไม่ใช่อี้หมูอี้หมาที่ไหน ลำพังการเอาวิดิชมาดวลตัวตัวกับตอร์เรส ผมถามหน่อย มีใครจะบร้าวางหมากมาเล่นแบบนั้นกันแต่แรก วิดิชชนะ สกอร์ก็เสมอตัว ตอร์เรสรอจังหวะต่อไปกับชั่วโมงนาทีที่เหลือ แต่เมื่อไหร่ที่ตอร์เรสชนะ คุณใส่สกอร์ได้เลย ในเมื่อไม่มีใครรองวิดิชอีกแล้ว รูปเกมที่เราเล่นแล้วทำผลลัพธ์ได้ดีกับทีมใหญ่ๆปีที่แล้ว เราลืมไปหมดแล้วครับ เราแพ็คเกม เราบีบพื้นที่ เราเพรสซิ่งในแดน และปล่อยให้คู่ต่อสู้ครองเกมในพื้นที่ที่เราคอนโทรลได้ ผลคือ เขายิงเราไม่ได้ (ยกเว้นน้องเบนซ์ไว้ลูกนึง ที่ยิงแบบยอดมนุษย์) แต่เกมโต้กลับของเราที่คมกริบยามคู่ต่อสู้เปิดพื้นที่ให้ มันคืออาวุธที่หนักที่สุดแล้วที่เรามี แต่ปีนี้ เราลืมไปแล้ว เราเปิดเกมบุกใส่หงส์แดงสองนัด เปิดเกมบุกใส่อาร์เซน่อล ทีมที่สามารถลงโทษเราได้อย่างเจ็บแสบ คุณกระบี่ฯเคยคอมเม้นต์ไว้ว่า แผงหลังเราหายใจได้ด้วยกองกลาง ดังนั้น เมื่อเกมนี้ กลางเราดันไปลุยสูงตลอดเวลา ก็เท่ากับเราถอดเครื่องหายใจออกจากแผงหลังของตัวเองนั่นแหละ จากคุณ : สงบใจ - [ 16 มี.ค. 52 10:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สุดท้าย การที่จัดเอาเกมบี้ เอาความสดมาเล่นกับหงส์โดยที่ไม่สามารถคุมเกมตัวเองได้ มันก็เป็นดาบที่ย้อนมาแทงตัวเองได้อย่างเจ็บแสบที่สุด เมื่อยิงเขาแบบโอเพ่นเพลย์ไม่ได้เลย แต่กลับถูกเขายิงโอเพ่นซะสองเม็ด มองแค่นั้นเราก็แพ้แล้วครับ วิดิชนี่คือยอดคน คือยอดแผงหลัง แต่ไม่ใช่ว่าเขาแค่คนเดียวจะจัดการทุกอย่างเองได้หมด องค์ประกอบมันก็ต้องเอื้อด้วย อย่างที่ทราบกันครับ วิดิชได้ลูกแข็งแกร่ง เหนียวแน่น กลางอากาศสุดยอด แต่ทางบอลแค่ดีพอใช้ ความเร็วก็ไม่จัด ออกตัวนี่ไม่ต้องพูดถึง การที่เขาต้องรับภาระเดี่ยวๆกับเจอร์ราร์ด กับตอร์เรส โดยไม่มีใครรองใครซ้อน ก็เท่ากับเรายื่นใบเหลืองใบแดงให้เขาล่วงหน้าก่อนเกมนั่นแหละ เพราหลุดเมื่อไหร่ วิดิชก็ต้องฟาล์ว และการเป็นคนสุดท้าย ก็เท่ากับรอรับโทษได้เลย ผมเองยังชื่นชมที่ท่านเซอร์ไม่โทษวิดิชมากนัก แค่บอกว่าเป็นความผิดพลาด เพราะการที่วิดิชต้องมาอยู่ในสภาพนี้ มันก็มาจากทีมที่ผลักภาระทั้งหมดมาที่เขานั่นแหละ ให้เป็นคนอื่น ต่อให้ลูกแรกไม่พลาด มันก็ต้องพลาดลูกอื่นอีกเหมือนกัน ผลจากเกมนี้ คงพอทำให้แฟนผีแดงหลายๆคน ที่ยังโหยหาเกมเอ็นเตอร์เทนแบบย้อนยุคได้เข้าใจอะไรมากขึ้น ฟุตบอลในปัจจุบันนี้ ยุคที่ทีมใหญ่ๆในลีกมีกุนซือเขี้ยวๆจากต่างชาติมาคุม มันไม่เปิดโอกาสให้เราผิดพลาดได้มากนัก บุกน่ะบุกได้ แต่มันต้องคอนโทรลได้ด้วย ไม่งั้นพอพลาดปุ๊บ บอลเข้าทางเขาทันที แล้วเราเขี้ยวพอจะเอาคืนจากทีมพวกนี้รึเปล่า จากที่สกอร์ตามหลัง ซึ่งที่ผ่านๆมา คำตอบคือ ไม่ ครับ ดังนั้น การรู้เขารู้เรา จึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เล่นกับทีมเหล่านี้ เราต้องรู้ตัวเอง รู้จุดแข็งจุดอ่อนตัวเอง และต้องมีสมาธิรอบคอบตลอดทั้งเกม ซึ่งจะสังเกตได้ว่า เกมแดงเดือดที่ผ่านๆมา ประตูจะเกิดขึ้นจากความผิดพลาดเป็นส่วนใหญ่ และหงส์แดงเรียนรู้ตรงนั้นมามากแล้ว ปีนี้ เขาปิดข้อผิดพลาดได้มากกว่าเรา เขาคือผู้ชนะ ในขณะที่เราลืมบางสิ่งบางอย่างไป และเราคือผู้แพ้ จากทั้งสองเกม จากคุณ : สงบใจ - [ 16 มี.ค. 52 10:20:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 การย่ำเท้าอยู่กับอดีต อาจมีความหมายในบางวงการ แต่กับฟุตบอลลีก มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำเช่นนั้น เกมมันจบลงแล้ว ผ่านไปแล้ว ทำได้อย่างเดียวคือลืมมันไปซะ และตั้งต้นกันใหม่ ผมผ่านมาเยอะ เจ็บมาก็แยะ... แต่ทำให้รู้ว่า แมนฯยูฯ ไม่ใช่ทีมคงกระพัน ไม่ใช่ทีมที่ยืนระยะพีคได้นาน แมนฯยูฯจะมีช่วงออฟฟอร์มทุกๆปีเสมอบางปีสองสามครั้งด้วยซ้ำไป แต่จุดเด่นของเราคือการคัมแบ๊กได้เร็วมากต่างหาก เราพร้อมกลับมาได้เสมอ และผมหวังว่า หลังจากเกมนี้ เราก็จะกลับมาได้อีกครั้ง และหวังต่อไปอีกว่า การกลับมาคราวนี้ อย่างน้อย ก็จะทำให้เราสามารถเข้าใกล้แชมปืได้เต็มที่มากกว่านี้ อย่าลืมว่า เมื่อมกราคม ทุกๆท่าน ยังบอกว่าอยากนำหน้าหงส์สักหกแต้มก่อนแข่ง แพ้จะได้ไม่เสียหายมาก ตอนนี้ทุกๆท่านได้ในสิ่งที่ร้องขอไปแล้ว นำหน้าเจ็ดแต้มพร้อมเกมในมือหนึ่งนัด ตอนนี้ถึงจะเลหือแค่สี่ แต่ก็ยังมีอีกเกม ซึ่งหากยังพลาดแชมป์อีก โทษตัวเองก็แล้วกันครับ วิพากษ์วันนี้ อาจไม่ตรงใจหลายๆท่าน และอาจออกแนวทำร้ายจิตใจด้วยซ้ำไป แต่ยังคงออกมาจากใจผมเหมือนเดิม และหวังว่าวันนี้ ผมจะพอหาเวลาว่างมาคุยกับทุกๆท่านได้นะครับ สงบใจ จากคุณ : สงบใจ - [ 16 มี.ค. 52 10:21:51 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ทำใจค่ะ จากคุณ : Janie's Got A Gun - [ 16 มี.ค. 52 10:31:17 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบพระคุณมากๆ ป๋าหงบ นัดนี้ อืมมมมมมมมมม เจ็บฉิบเป๋ง อ่ะ อยากให้กำลังใจวิดิช กลัวว่าวิดิช จะเสียความมั่นใจ หลุดลอยทะเลไปนานเลย น้าซาร์ก็อีกคน 4เม็ด - -* เฮ่ออออ สู้โว้ยยย จากคุณ : แฟตโฟเบีย - [ 16 มี.ค. 52 10:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สุดยอดเช่นเดิมค่ะ สมกับที่รออ่าน จากคุณ : ~~For Sentimental Reasons~~ - [ 16 มี.ค. 52 10:33:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ทำใจ ได้แล้วค่ะ ในเกมกีฬาก้มีแพ้มีชนะ วันนี้เราแพ้ วันหน้ายังมี อีกอย่าง นัดนี้ก็ไม่ใช่นัดชี้ชะตาแชมปซะหน่อย คิดแบบนี้แล้วทำให้สบายใจอะ อิอิ ขอบคุณคุณสงบใจค่ะ ที่ยังมาวิเคราะห์เกมเช่นเคย ไม่ขออ่านละเอียดนะคะ ขอแค่อ่านผ่านๆ ก็พอ กลัวกลับไปคิดถึงเกมนั้นอีก T_T จากคุณ : Deana - [ 16 มี.ค. 52 10:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตรงใจ ไม่ทำร้ายจิตใจเลยครับ หวังว่าทีมจะลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ขอบคุณสำหรับบทวิพากย์ครับ จากคุณ : ใจกระบี่กระจ่างแจ้ง - [ 16 มี.ค. 52 10:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีค่ะคุณสงบใจ... แพ้ซะบ้าง จะได้รู้รสชาตแห่งชัยชนะว่ามันหอมหวานแค่ไหน.. ไม่ใช่ .. ชนะจนชิน... เอาน้ำใบบัวบกมาฝาก เผื่อใครต้องการใช้.. ข้าพเจ้าคนเดียวก็ซัดไปเกือบหม้อ... จากคุณ : รัศมีจันทร์ดารา - [ 16 มี.ค. 52 10:38:43 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์ในวันอ่อนล้า อ่อนใจ... แต่นัดหน้า เชื่อว่าผีแดงทุกผู้ทุกคนกำลังใจจะกลับมา และต่อสู้ต่อไป ถือว่าวันนี้เป็นเชื้อไวรัสชนิดนึง เข้ามาสู่ทีมเรา เพื่อทำให้เรารู้จักสู้ เข้มแข็ง  มีบทเรียน เจ็บ ผิดหวัง เสียใจ เพื่อที่จะนำความผิดพลาดในวันนี้.....ก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคงและแข็งแรง .... เป็นกำลังใจให้ชาวผองเราเด็กผีทุกคนค่ะ จากคุณ : S@iYoJang - [ 16 มี.ค. 52 10:40:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีครับ คุณสงบใจ เป็นอีกหนึ่งนักที่พิสูจน์ว่าลิเวอร์พูลเป็นทีมที่มีจุดเด่นในการตั้งรับด้วยความเหนียวแน่น หาความผิดพลาดของคู่แข่ง แล้วใช้ความสามารถของนักเตะในการเก็บโอกาสนั้นๆ ในการทำประตู จึงทำให้เล่นกับทีมเล็กๆ ได้ไม่ดี ผมว่าการที่เราบุกอย่างชนิดที่เรียกว่าล้นเกินไปนั้น น่าจะส่งผลมาจากความมั่นใจที่มากเกินไปของตัวนักเตะเอง สังเกตว่าช่วงแรกๆ ก็ยังระวังกันดี แต่พอนำเร็ว เหมือนเจ็บแล้วไม่จำ เรากลับเล่นเอนเตอร์เทนเร็วเกินไป จากคำว่าทีมไร้พ่าย ทีมราชันย์ ทำให้นักเตะเราออกลูกประมาทจนได้ การบุกแล้วหลัวลอย การเติมเกมแล้วไม่ได้จบ เท่ากับเป็นการเงื้อดาบสุดแรงว่าว แล้วดันเก็บโล่ไว้ข้างหลังแล้ว และตอรเรสก็เป็นนักเตะที่สมดุลร่างกาย ข้อเท้าและความเร็วอยู่ในระดับต้นๆ ของโลก ดังนั้นการเบียดในจังหวะสุดท้าย เราจึงตกเป้นเป้าจนได้ (T__T ) จริงๆ ถ้าไม่หลอกตัวเองสักนิด กองหลังเราออกลูกเป๋มาตั้งแต่ช่วงนัดกุหลาบแล้ว และหลังจากนั้นมา ทุกนัดเรามักจะมีโชคด้วย แล้วเมื่อวันนี้โชคไม่มาช่วยพยุง ผลมันก็เลยดูห่างจากรูปเกมที่เป็นจริง และอีกจุดที่ติดใจเหมือนกันคือ เราออกลูกประมาทไปมั้ยที่เอาแอนเดอรสันกับคารริคลงพร้อมกัน ซึ่งจะว่าไปคารริคเองก็ฟอร์มตกมาได้พักหนึ่งแล้วด้วย รู้สึกว่า ถ้าเอาเฟลทเชอร์ลงมา เกมน่าจะไม่ออกมาในรูปแบบนี้ได้ (^__^ ") สุดท้ายต้องขอซูฮกในเหล่าหงส์แดงด้วยละครับ ว่ามีความมุ่งมั่นมาดีมากๆ และฉวยโอกาสตอนที่เราพลาดลงโทษได้เจ็บแสบจริงๆ ช่วงนี้ร่วมเศ้ราไปด้วยกันครับ จากคุณ : Noah_1_of_4lnw - [ 16 มี.ค. 52 10:42:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จังหวะไม่เป็นใจ นำก่อนแต่มาพลาดโดนตีเสมอง่ายๆ พอจะแก้เกมส์ก็ดันมาโดนแดงพร้อมกับเสียประตูซะอีก มันไม่ใช้วันของเราจริงๆครับ บอลมันลูกกลมๆ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ครับ จากคุณ : ผีเฮี้ยน - [ 16 มี.ค. 52 10:43:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณค่ะ น้าหงบ ปูเซ็งอ่า สั้นๆ จากคุณ : poojo_ke - [ 16 มี.ค. 52 10:44:55 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีครับ คุณสงบใจ และเพื่อนๆ เรื่องเจ้าอันเดอร์สัน เกมนี้เร่งจังหวะแบบๆสุดไปเลยครับ คงต้องพัฒนาเรื่องจังหวะกันต่อไป ทําให้กลางเกมนี้เหลือแค่ carrick จริงๆที่คอยประคอง คอยเข้าช่วยซ้อนกองหลัง ผลเลยเป็นแบบที่เห็นกัน ว่าแล้วก็เสียดายเหมือนกันยิ่งถ้าคิดว่าขึ้นนำก่อนด้วย เฮ้อ ถ้ามาแบบรัดกุมหน่อยคงจะทําให้ลิเวอร์พูลอึดอัดมากขึ้นตามเวลาที่เพิ่มขึ้น เพราะต้องการผลชนะมากกว่า และจะมาเข้าทางบอลของแมนยูเอง อีกอย่างก็เรื่องสมาธินี่แหละครับ เกมนี้หลุดกันมากทีเดียว ดูจะเข้าใส่จนลืม วินัยกันไปหลายลูก ต้องชมแผนลิเวอร์พูลด้วยที่มาตัดตัวรุกเราออกไปไม่ใหประสานกันได้ง่ายๆ แต่อย่างไรก็เชียร์ต่อไปครับ เพราะถ้ามองอีกแง่ เกมนี้ก็เป็นเกมที่เราพลาดในนัดที่พลาดได้ในแง่คะแนน เพราะเจอทีมใหญ่ด้วยกัน แต่กับทีมที่ต้องเก็บสามแต้ม เราต้องเก็บให้ได้ครับ แมนยูเป็นแชมป์ลีคมาส่วนใหญ่ก็เพราะความสมำเสมอ เก็บคะแนนที่ต้องเก็บได้ มากกว่าจะเล่นได้เทพครับ สู้ครับ เพิ่มเติมLink มาฝากน้าสงบ ไปอ่านได้นะครับ มันตกไปเร็วมากเลย http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S7629143/S7629143.html แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 52 11:15:26 จากคุณ : พุงกามามะ - [ 16 มี.ค. 52 10:45:39 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยค่ะกับคำวิจารณ์ ถ้าพูดถึงการทำร้ายจิตใจล่ะก็..ไม่มีเลยค่ะ.. . . . เพราะใจโดนทำร้ายไปเรียบร้อยระหว่างดูเกมแล้วล่ะค่ะ.. แต่หลังเกมจบ ใจก็กลับมา เพื่อเอาใจช่วยคุณผีต่อไปๆๆๆ ^____^ และจิตใจนักเตะ ที่หนักๆเลยก็ วีดิช น้าซาร์ น่าเป็นห่วงหนักหน่อยจะเป็นไงกันบ้าง.. >w< " จากคุณ : CN-PinkO - [ 16 มี.ค. 52 10:47:53 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีครับคุณ สงบใจ  จุกไปตามๆกันเลยนะครับ  อิอิ โดนไป 4 เม็ดถ้าไม่ดูเกมส์อาจข้อสงสัย ว่า มันสู้กันไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ... แต่จริงๆแล้ว ผมว่าถ้ามแมนฯยูยังคงรูปแบบการเล่นแบบนั้นไว้ ผมเกรงว่า มันอาจไม่จบที่ 4 ลูกนะ อาจเป็น 5 เป็น 6 เพราะ การเล่นวันนี้ บอลมันเข้าตรีนคู่แข่งหมดเลย   แพ้นัดนี้ ผมถือว่า มันเป็นฟอร์มเฮงซวยประจำปีครับ  เป็นยังไงเดี๋ยวผมมาคุยให้ฟัง  ก่อนอื่น ไปดูว่า เฟอร์กี้ แกบอกว่ายังกันบ้าง ผมเอามาจาก www.manutd.com นะครับ "โอ๊๊ยยยยยยยยย   โดนไปสี่ ลูก แหมๆๆๆ   จะเอากันให้ตายหรือไงปั๊ดโธ่!!! นี่บอลจบไป 2 วันแล้วยังใส่เสื้อกันอยู่ได้ไม่ซักกันเลยเหรอค่ะ วันก่อนแข่งก็เอาเสื้อมาใส่ แถมยังคาดปิดหน้าอกตรงสปอนเซอร์อีก ป๋านึกว่าเชียร์ บาเยิร์น มิวนิคนะนั่น  อิอิ ... ส่วนลูกทีมผม โดนอย่างนี้ก็ต้องหาทางรับผิดชอบแก้ไขร่วมกัน  บอลมันจบแล้วก็ต้องหาสาเหตุความผิดพลาดว่าเกิดจากอะไรและก็ เริ่มต้นใหม่ ฟุตบอลมันก็เป็นอย่างนี้แหละมันต้อง มีวันฟอร์มหลุดบ้าง แต่ปีนี้ มันดันเจือกฟอร์มหลุดนัดเจอหงส์พอดี  ตายเรียบบบเลย .... " "เราต้องยกเครดิตให้หงส์แดงบ้าง การชนะแมนฯยู 4 ลูกที่นี่ มันก็ต้องสมควรปรมมือให้  ส่วนวีดิช ผมไม่โทษอะไรนะ พี่วีแกฟอร์มดีมาตลอด มีเพียงนัดนี้เองมั่งที่หลุด มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ววววววอย่าซีเรียส..." ผมเชื่อเฟอร์กี้นะ ว่าทีมจะกลับมาได้  ผมเคยอ่าน บทความของคุณ หนุ่ม เมืองจันทร์ ( แฟนแมนฯยู) แกเคยบอกว่า เฟอร์กี้จะสอนลูกทีม ให้คิดเอง เหมือนครูสอนลูกศิษย์ เช่นวันนี้ สอนลูกทีมเขียนจดหมายถึงแม่ สิ ว่า ลองให้เหตุผลว่าทำไมถึงอยากออกไปอยู่หอกับแฟน ทั้งๆที่ยังเด็กอยู่  พออีกวันก็ให้ลูกทีมเขียนจดหมายในฐานนะเป็นแม่ดูสิว่า... มีเหตุผลอะไรที่ต้องห้ามลูกไม่ให้ไปอยู่หอกะแฟน " คือแกจะสอนลูกทีมประมาณนี้นะครับ..ผมอ่านแล้วยังอึ้งกับความคิดป๋าเลย ... ทีนี้  กลับมาที่ประโยค " มันเป็นฟอร์มเฮงซวยประจำปี " ผมคิดว่าแมนฯยู 1 ฤดูกาล ต้องมีฟอร์มหลุดบ้าง เช่น คุณสงบใจว่าไว้  บอลที่เล่นทั้งฤดูกาล 38 นัด มันต้องมีบ้างแหละน่า .. ที่มันเฮงซวยและ ปีนี้ มันดันมาเฮงซวยนัดเจอหงส์แดงพอดี มันเลยดูเหมือนเบิ้ล 2 ไปเลย ... แต่จริงๆแล้ว ถ้านับปีที่เราเป็นแชมป์ 2 ปีหลังสุด... ฟอร์มเฮงซวย เรามีครับ จะย้อนให้ดู แชมป์ปีแรกไปเยือน แพ้ ปอร์มสมัธที่ 0-2 ริโอยิงเข้าประตูตัวเองซะงั้น นัดนี้เล่นหลังจากไปเยือนโรม่า ยูซีแอล ไม่ได้พักเลย ปีที่แล้วยังจำกันได้ แพ้ แมนฯซิตี้ 1-2 คาบ้านในวันครบรอบ 50ปี โศกนาฏกรรม(เขียนงี้หรือเปล่า)ที่มิวนิค พอดี งานเลยกร่อยไปเลย ปีนี้ เจอแจ็คพอร์ต นัดนี้  และก็หวังว่า ... มันจะกลับมาได้เช่นเคย ... Believe ..ครับ แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 52 12:03:25 แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 52 11:35:57 จากคุณ : พริบพรรณดาว - [ 16 มี.ค. 52 10:48:14 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมเห็นด้วยในหลาย ๆ ส่วนครับ โดยเฉพาะตัวคุมเกมส์ตั้งแต่เห็นการ จัดตัวแล้วครับ รู้สึกหวั่น ๆ ใจจริงไม่อยากให้แอนเดอสันลงเท่าไหร่นัดนี้ เพราะช่วงหลัง ๆ แกจะเล่นรุกเร็วเกินไปจนจ่ายพลาดบ่อย ๆ อยากได้ตัวคุมเกมส์อีกสักคน จริง ๆ ก้อนึกถึงเทพเฟรชนะ พักหลังทำไมหายไปเลย แต่ยังไงก้อยังอยู่ในเส้นทางแชมป์ ลุ้นต่อไปละกันครับ จากคุณ : มุมมองเล็ก ๆ - [ 16 มี.ค. 52 10:51:41 ]

ความคิดเห็นที่ 24 หลังจากคืนวันเสาร์ มันจุกในอก เจ็บในใจ อารมณ์ประมาณคนอกหัก ไม่อยากพูดคุยกะใคร ไม่อยากฟังเพลงรักอกเดาะน้ำตาแตกเพราะมันกระตุ้นต่อมเฮิร์ท ฉันใดก็ฉันนั้น ระยะนี้จึงของด... ดูเกมส์รีรัน (ซึ่งปกติจะไม่พลาด) อ่านหนังสือพิมพ์หน้าข่าวกีฬา เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ บางกระทู้ที่เสื่อม ๆ sms ในโทรศัพท์ ปล่อยให้ข้อความมันเต็มไว้หยั่งงั้นแหละ รายการ Heart of Goal คาดว่าจะโดนแจ๊คเล็กเย้ยแน่ ๆ แต่ขอเว้นทู้น้าหงบไว้เพราะอยากอ่านมุมมอง แล้วก็เหมือนน้าหงบเอามีดมาเสียบอก ประหนึ่งเดินสวนกะแฟนเก่าที่มันควงกิ๊กใหม่มาด้วย ตอกย้ำกันเข้าปายยยย ซ้ำกันเข้าปายยยยย เอาให้เจ็บจนชา  T_T ไม่ได้ว่าอะไรน้าหรอกนะคะ ที่น้าพูดมามันตรงใจหมดแหละ เพียงแต่ตัวเราเองไม่อยากพูดถึง ไม่อยากรับรู้อีกแล้ว อยากจะลืมมมมมมม (เว่อร์ได้อีก) ส่วนรูปเกมส์ไม่อยากพูดถึงปล่อยให้มันผ่าน ๆ ไปเถอะ หวังว่าเราจะกลับมาได้ และเรดวอร์ครั้งนี้จะเป็นอีกบทเรียนหนึ่งที่ทำให้เราเข้มแข็งขึ้นทั้งกองเชียร์และทีม...              เชียร์กันต่อไป ONE UNITED จากคุณ : นู๋ชม - [ 16 มี.ค. 52 10:55:30 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ยังเซ็งอยู่ครับ ช่วงนี้ก็พยายามไม่อ่านอะไรที่มันกระทบกระเทือนจิตใจมากนัก แค่อ่านหัวกระทู้ก็พอแล้ว เอาเป็นว่าอาทิตย์นี้ลุ้นกันใหม่ละกันครับ เชื่อว่าทีมเรากลับมาได้แข็งแกร่งเหมือนเดิมแน่นอน จากคุณ : ฉันมีความสุขในทุกๆวัน - [ 16 มี.ค. 52 11:07:46 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หวัดดีคะ ตอนดูบอลเสร็จ รู้แค่ว่า มันตื้อ และมึนๆ งงๆ แต่แปลกอย่าง เพื่อนๆ กลับไม่มีใครเยาะเย้ย ถากถาง คงงงกะผลการแข่งขันเช่นเดียวกัน และตอนนี้ ยัง งง ๆ อยู่ จากคุณ : K-modjung - [ 16 มี.ค. 52 11:07:54 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แวะมาปลอบใจ ศอ. จากคุณ : nesle18 - [ 16 มี.ค. 52 11:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 28 หวัดดีครับ คุณสงบใจ ยังเขียนบทความ หลังเกมส์ ได้ดีอีกเช่นเคย บทความนี้ เขียนได้ใจ จริง ๆ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ลุกขึ้นสู้ต่อน่ะครับ โอกาสคว้าแชมป์ ยังอยู่ในมืออีกเพียบ หวังว่า ผีแดง คงทำได้ โชคชะตาฟ้าลิขิต หงส์แดง กับ ผีแดง อาจจะได้เจอกันอีก จากคุณ : กัปตันหงส์แดง - [ 16 มี.ค. 52 11:15:22 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สวัสดีครับคุณสงบใจ ผมยังเชื่อว่านี่คือแค่เกมส์ เกมส์หนึ่งที่เราพลาดไป แต่ความน่าจะเป็น ผมว่ายังอยู่ ฝั่งแมนยู  นัดหน้าจะเป็นบทพิสูจน์ ว่าแมนยูมีอาการ แฮงค์รึเปล่า แต่ว่า รูปเกมส์คืนวันเสาร์อะไรก็ไม่เป็นใจสำหรับแมนยู แต่ผมคิดว่า การเสีย 4 ประตูในนัดเดียวก้ดีกว่าไปเสียทีละประตูแบบไม่น่าเสียในหลายๆนัด นัดนี่เดิมพัน เพียง สาม แต้ม ไม่ใช่เอาแชมป์มาวัดกัน ถ้าเกิดสกอร์นี้ไปเกิดเมื่อวันพุธ กับอินเตอร์ คงดูไม่จืด คิดดูว่า แมนยูเคยเจอหนักกว่านี้ก็เคยเจอมาแล้ว แต่ก็ยัง ยืนหยัดขึ้นมาได้ทุกครั้ง ผมยังเชื่อว่าบอลนัดเดียว ไม่ส่งผลภายภาคหน้า ที่ช็อคคงมีแต่พวกเราๆ แต่สำหรับนักฟุตบอลทีมแมนยูเค้าคงจะชินและมีความเป็นมืออาชีพ เพราะผ่านอะไรมาเยอะ  เจ็บก็เยอะ แต่เค้าสู้มามากนะครับ ถึงจะมีวันนี้ ฉะนั้นเรื่องจิตใจนักเตะแมนยูไม่ต้องห่วงครับ ผมว่า แมนยูต้องกลับมาได้ในนัดหน้า แต่ในความเป็นจริงตอนนี้ หลังจากเชลซีและลิเวอร์พูลชนะ โอกาสการลุ้นแชมป์ก็เกิดขึ้นได้กับทุกทีม  เพราะอย่างนี้เราอย่าพึ่งพูดกันเลยว่า 5 แชมป์ ดูไปทีละนัดดีกว่า เพราะคนที่เชียร์ลิเวอร์พูล และเชลซี ก็มีโอกาสลุ้นเหมือนกัน บอล นัดละ สามคะแนน นี่ โมเมนตั้มเปลี่ยนบ่อยครับ เพราะทั้งเชลซีและลิเวอร์พูล คงจะมีกำลังใจและมีแรงฮึดขึ้นมา มาก ส่วนแมนยูต้องสร้างความมั่นใจให้ได้โดยเร็ว แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 52 11:23:30 จากคุณ : จูล่งแห่งเสียงซาน - [ 16 มี.ค. 52 11:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สวัสดีค่ะ ถึงจะเจ็บ จะจุกซักแค่ไหน แต่ก้อหวังว่านักเตะคงลุกมาได้ไม่ยาก อย่าไปเสียความมั่นใจ โดยเฉพาะน้าซาร์กับพี่วี สู้กันต่อไปนะ UNITED จากคุณ : natgabig - [ 16 มี.ค. 52 11:20:21 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณครับ ลุงหงบ ว่าแต่ นัดนี้ นักเตะ ดูแปลกๆ ไปไหมครับ อย่าง วิดิช โรนัลโด้ คาริค หรือแม้นแต่ ป๋าเองด้วย ปกติ ถ้าโดนนำ หรือเสียลูกง่ายๆ(อย่างลูกตีเสมอ) ป๋า จะออกมาโวยข้างสนามแล้ว นี่ โดนไป 2ดอกป๋าก้อนิ่ง โดนใบแดง+ดอก3 ยังนิ่ง โอ๊วววววว ป๋าเป็นอะไรไป ฮะเนี่ยยยยย T^T นักเตะดูเหนื่อยๆ ไม่วิ่ง ไม่มีใจงั้นอ่ะครับ ทั้งโด้ ทั้งคาริค ที่แปลกที่สุด คงเป็น วิดิช ปกติ ไม่ค่อยเสียง่ายๆ(อย่างลูกที่ตอเรสฉกไปยิง) ที่แปลกคือ สงสัยว่าไดร์เป่าผมเสียแน่ๆ ครึ่งหลัง เลยยังเล่น กันแบบว่า เรานำอยู่ ซะอย่างงั้น T^T ผิดกะไอ้หมู ที่ โวยตลอด จากคุณ : vn, man - [ 16 มี.ค. 52 11:30:28 ]

ความคิดเห็นที่ 32 มองในแง่ดี สถิติต่าง ๆ เช่น ของน้าซาร์, ชนะติดต่อ 11 นัด, ยังไม่แพ้ในบ้าน ฯลฯ เหล่านี้จะได้จบกันซักที ผมว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของความกดดันพอสมควร ทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็นเอาซะเลย ต่อนี้ไปก็ล้างไพ่ ล้างกระดาน เริ่มใหม่!! เสียหน้า แต่ไม่เสียหายอะไรมากมาย จากคุณ : ซุ่มอยู่ - [ 16 มี.ค. 52 11:31:12 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่ต้องกลัวครับ ไม่ไม่เจ็บ ไม่ตาย ถึงขนาดนั้น เพียงแต่ยังไม่ชินกับอะไรที่ผิดพลาดแบบนี้ แพ้นัดนี้ ทำให้หลาย ๆ คนคิดได้ว่ามีพีคก็ต้องมีพอส พอสเพื่อหยุดมาทบทวนในสิ่งที่ผิดพลาดไป และจะกลับมาใหม่ได้เหมือนเดิม จากคุณ : a winding road - [ 16 มี.ค. 52 11:31:43 ]

ความคิดเห็นที่ 34 แค่ อย่าตามมาหลอกต่อ ก็พอ ครับ และ ที่ผมดีใจ คือ การทำให้ หลายคน ตื่นมาพบว่า เรา ไม่ใช่ทีม เทวดา ที่ แพ้ไม่ได้ จากคุณ : เทพพิสดาร - [ 16 มี.ค. 52 11:31:51 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมขอมองต่างครับ ผมว่าสาเหตุหลักที่แพ้เกมนี้เพราะแมนยูมีปัญหาเรื่องความฟิตและสภาพร่างกายที่ล้าจากการเล่นเกมติดต่อกัน แมนยูต้องเล่นสัปดาห์ละ 2 เกมติดๆกันมาหลายสัปดาห์แล้ว แถมบางเกมต้องเล่นถึง 120 นาที จริงอยู่เกมชิงแชมป์ลีกคัพแมนยูใช้ชุดสำรองผสมชุดใหญ่ แต่แผงหลังยังใช้ตัวหลักยืนพื้นโดยเฉพาะแบ็คขวาซ้าย ทำให้สภาพร่างกายไม่สดพอ ในขณะที่นักเตะลิเวอร์พูลสดกว่า เจอเกมเบากว่า และมีความกระหายในชัยชนะมากกว่า ผลก็เลยออกมาดีกว่า ผมคิดว่าราฟาเองก็คงมองจุดนี้เหมือนกัน เลยกะใช้ความเร็วและความคล่องเข้าเล่นงาน ซึ่งก็ได้ผลดีเกินคาดจริงๆ และผมคิดว่าท่านเซอร์เองก็น่าจะทราบดีถึงเลือกใช้ปาร์คกับอันแดร์สันมาช่วยวิ่ง แต่โชคร้ายที่กองหลังเราไม่มีเปลี่ยน ไม่แน่ใจว่าจอห์นนี่อีแวนมีชื่อเป็นตัวสำรองหรือเปล่านะครับ แต่คิดว่ายังไงท่านเซอร์คงต้องเสี่ยงเลือกริโอ วีดิชก่อนในเกมที่ต้องเจอกับตอร์เรส เจอร์ราร์ด ความเห็นผม ผมมองว่ารูปเกมจริงๆก็สูสีกัน จบเกมด้วยผลเสมอน่าจะยุติธรรมมากกว่า แต่บังเอิญจังหวะที่กองหลังแมนยูพลาด ลิเวอร์พูลฉวยโอกาสได้เกือบหมด แต่จังหวะที่แมนยูมีโอกาสกลับทำไม่ได้ สกอร์เลยดูเหมือนเกมขาดหรือลิเวอร์พูลไล่ต้อนอยู่ข้างเดียว ทั้งๆที่ลูกที่แมนยูเสียส่วนมากเป็นความผิดพลาดส่วนบุคคล ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ เรื่องการแก้เกมผมว่าทั้งเกมท่านเซอร์พลาดจุดเดียวเรื่องที่ส่งสำรองสามคนมาช้าไปหน่อย น่าจะส่งลงมาตั้งแต่นาที 60 แล้ว จะได้มีเวลาพลิกเกมมากหน่อย แต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุผลจากสภาพร่างกายหรือแท็คติก บอกตรงๆตอนนี้ผมกังวลกับสภาพร่างกายของนักเตะมากทีเดียว การที่แบ็คขวาเราเจ็บไปหมด ทำให้ต้องโยกโอเชมาเล่นแก้ขัด เอฟร่าก็ต้องเล่นติดๆกันไม่ได้พัก ที่เห็นๆคือเอฟร่าวิ่งช้าไปมาก วีดิชก็จับบอลหลุดบ่อยมาก ริโอช่วงท้ายเกมแทบไม่เข้าปะทะ ไม่ชิงจังหวะเล่นก่อน ไม่รู้ว่าเพราะอาการบาดเจ็บรบกวนด้วยหรือเปล่า คงต้องหวังกับเจ้าหนูอีแวนให้ช่วยแบ่งเบาภาระหน่อย แต่ถึงยังไงการที่ต้องเล่นสัปดาห์ละ 2 แมทช์ติดๆกันไปเรื่อยๆมันก็หนักมากจริงๆ และตอนนี้เราก็ไม่สามารถทิ้งเกมไหนได้อีกแล้วด้วยครับ ทั้งเกมลีกซึ่งแต้มก็เริ่มขยับเข้ามาใกล้แล้ว เกมยุโรปเป็นรอบน็อคเอาท์ต้องเน้นทุกเกม ที่สำคัญน้อยที่สุดอย่างเอฟเอคัพก็มาถึงรอบรองแล้ว ถ้าจะพักจริงก็ได้แค่เกมเดียว ซึ่งถ้าผ่านก็ถึงรอบชิง ทำให้น่าเสียดายไม่น้อย แต่ถ้าเน้นหมดนักเตะกรอบแน่ น่าหนักใจแทนท่านเซอร์จริงๆ แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 52 11:38:18 จากคุณ : Army (Army2000) - [ 16 มี.ค. 52 11:32:03 ]

ความคิดเห็นที่ 36 จริงของคุณจูล่งฯ ถ้าสกอร์นี้เกิดกับนัดเจออินเตอร์.... ใจจะแกว่งกว่านี้เยอะ.. เนี่ยนะ... การที่ได้ประตูขึ้นนำเร็ว บางทีก็มีปัญหาได้เหมือนกัน บอกตามตรงนะ... ก็ใช่ว่าจะโทษกัน แต่ผมไม่ค่อยชอบน้องแอนเลย.... ผมไม่ค่อยติดตา ฟอร์ม และจังหวะดีๆ จากน้องเท่าไร..... สำหรับรูนีย์ในนัดนี้ ข่าวก่อนเกม ก็ทำให้ผมรู้สึกไม่ชอบมาพากลเท่าไร.... จะกดดันตัวเองทำไมนั่น แพ้ขาดขนาดนี้...... ทางข้างหน้าจะได้เล่นชัวร์ๆ หน่อย..... ยังมีวิลลา และอาร์เซนอลให้เจอ แต้มคงไม่ขาดจนกว่าจะถึงนัดเจอปืนแน่ๆ เลย แล้ว สังหรณ์มันบอกว่า.... เราจะได้เจอหงส์ใน UCL อีกสองนัดด้วยนะเนี่ย เผลอๆ รอบนี้เลย จากคุณ : proofman - [ 16 มี.ค. 52 11:39:13 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ครั้งหน้าเอาใหม่....สู้..สู้..นะผี... ยังไงก็ยังนำอยู่... จากคุณ : ojs16 - [ 16 มี.ค. 52 11:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 38 สวัสดีครับ แพ้นัดนี้คงพอให้นักเตะทีมเราทุกคนได้ทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ใช่เฉพาะนัดที่แพ้หงส์นะครับ  ผมมองว่ามันเริ่มเป็นมาตั้งแต่ปีใหม่แล้ว  แต่มันยังไม่เห็นชัด  มาเริ่มชัดเจนในนัดที่เจออินเตอร์ทั้ง 2 นัด เพียงแต่ว่ายังไม่แพ้ การที่แนวรุกเราออกอาการโชว์มากจนเกินพอดี รวมไปถึงแบ็คที่รุกจนลืมรับ กองกลางช่วยสกรีนบอลให้กองหลังน้อยลง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแนวรับไปเต็มๆ และที่สำคัญคือ มันใจว่าวีดิชที่กำลังท๊อปฟอร์ม น่าจะคุมตอร์เรสได้อยู่ แต่หลังจากนัดนี้ ผมคิดว่าทีมของเราจะกลับมาด้วยความมุ่งมั่นและมาพร้อมกับวินัยในเกมที่มากกว่าที่เห็น(หลังจากโดน แฮร์ดรายเออร์ ของป๋าแบบเรียงตัว) จากคุณ : Martreff - [ 16 มี.ค. 52 11:49:51 ]

ความคิดเห็นที่ 39 แวะมาปลอบใจป๋าหงบ ยังไงก็ยังนำอยู่หัวตาราง ยังพออุ่นใจได้นะครับ จากคุณ : kittipat - [ 16 มี.ค. 52 11:49:52 ]

ความคิดเห็นที่ 40 มันไม่ใช่ the end of the world... แพ้นัดนี้เราก็ยังนำอยู่ครับ ผมว่ายังไงถ้วยนี้โอกาสของเราก็ยังสดใสอยู่ครับ ผมไม่โทษวิดิชนะ คนเรามันต้องมีวันที่แย่ๆ กันบ้าง ผมว่านี่เป็นฟอร์มที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เค้าย้ายมาเลยนะครับ เริ่มใหม่นัดหน้า สู้ๆ ต่อไปครับ It's all about BELIEVE... จากคุณ : Lycanthropy (Lycanthropy) - [ 16 มี.ค. 52 11:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ไม่เสียใจคับ.. แต่เสียดายที่แพ้เยอะไปหน่อย... ลึกๆ ผมรู้สึกว่า เราอาจได้เจอกับหงส์แดงอีกใน ชปล. เพราะฉะนั้น ถ้าแพ้ซะตั้งแต่นัดนี้ นัดหน้าใน ชปล. พลพรรคอสูรแดงจะได้มีความมุ่งมั่น และอยากชนะมากขึ้น คราวนี้พลาดได้ แต่คราวหน้าพลาดไม่ได้ครับ.. จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 16 มี.ค. 52 12:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สถานการณ์แบบนี้ จริงๆ ควรเล่นให้รัดกุมรอจังหวะสวนกลับดี ๆ เพราะแค่เสมอหงส์ก็แทบหมดลุ้นแชมป์ แต่ดันไปเล่นเร่งเกมแบบประมาท (ผมว่าคงกะเอาคืนแมทช์แรกด้วยแหละ) บวกกับความผิดพลาดส่วนบุคคลแทบจะทุกประตู ประตูแรก - วิดิชรับไปเต็ม ๆ   ประตูที่ 2 - เอวร่าและตัวประกบที่ปล่อยให้ตอร์เรสมีเวลาบรรจงจ่ายขนาดนั้น    ประตูที่ 3 - เริ่มจากวิดิช แต่ผมว่าน้าซาร์ ฟอร์มหลุดมากนัดนี้ ยืนตำแหน่งไม่ดีแถมเหมือนไม่พร้อมจะขยับหรือพุ่งเซพอีกต่างหาก  ลูกที่ 4 - ก็เหมือนลูกแรก เตะสาดยาวมาจากด้านหลัง แล้ว สกัดบอลไม่ได้สักคน โดยที่ รูปเกม ช่วงยัง 11 คนเท่ากัน ก็ไม่มีใครดีกว่ากันเท่าไหร่ ผลัดกันเสียบอล แต่ความผิดพลาดส่วนบุคคลของผีแดงมีมากกว่าและผิดพลาดในพื้นที่อันตรายซะด้วย ส่วนตอนเหลือ 10 คนก็ไม่ต้องมีอะไรให้หวังแล้ว (ถ้า 10 คนแล้วฟรีคิกไม่เข้าก็ยังพอได้หวังอยู่) เพราะเหมือนจะฮึดไม่ขึ้นกันจริง ๆ จากการเตะติด ๆ กันมาทุกถ้วย ทำให้ช่วงท้ายเกมเร่งกันไม่ขึ้น แต่สถานการณ์ความได้เปรียบก็ยังอยู่ในมือผีแดงอยู่ เพียงแต่ต้องกลับมาตั้งสมาธิกับพรีเมียร์ลีกให้มากขึ้น ผมว่าพวกนักเตะมองว่าพรีเมียร์เป็นของตายไปแล้ว หวังจะไปสร้างประวัติศาสตร์ 5 แชมป์ สมาธิเลยมุ่งไปที่บอลถ้วยที่เหลือมากกว่า ทำให้ผลลัพธ์นัดนี้ออกมาเช่นนี้ ส่วนสำคัญอีกอย่างที่ผมขอชมเชยแฟนผีแดงในไทยทุกคนคับ ที่เมื่อผลการแข่งไม่เป็นใจขนาดนี้ เรายัง 1. ไม่ตั้งกระทู้ไล่ผู้จัดการทีม 2. ไม่ตั้งกระทู้ด่านักเตะ หาแพะรับบาป หาตัวซวย  เหมือนแฟนบอลบางทีมคับ ขอชื่นชมในสปิริตอันนี้คับ ชนะก็ชนะด้วยกัน แพ้ก็แพ้ด้วยกัน เหมือนป๋าบอกไว้ "ก็แค่วันแย่ ๆ วันนึง ที่เราต้องผ่านไปให้ได้ เราจะกลับมาและเดินหน้า(คว้าแชมป์)ต่อไป" สู้ สู้ คับ จากคุณ : 9ปล่อยไก่ (nmcm) - [ 16 มี.ค. 52 12:22:46 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สวัสดีครับ ป๋า หงบ เรื่องรูปเกมหลายคนพูดไปแล้ว ยังไงก็ต้องเดินหน้าสู้ต่อไปครับ จากคุณ : Bierhoff - [ 16 มี.ค. 52 12:45:11 ]

ความคิดเห็นที่ 44 สวัสดีทุกคนครับ นัดนี้ก็คงต้องยอมรับกันไปตามเกมส์แหละครับว่าสู้ไม่ได้จริงๆ ทั้ง2ทีมต่างไม่อยากแพ้กันทั้งคู่ แต่ดูลิเวอร์พูลมุ่งมั่นในเกมส์มากกว่า ส่วนเรานั้นน่าจะอยากชนะล้างแค้นจากนัดแรกมากไปหน่อยเลยกดดันตัวเองซะเยอะ กองหลังลอยสูงตลอดทั้งเกมส์ และเมื่อคุณพลาดให้กับ ตอเรส นั่นเท่ากับว่า ส่งมีดให้เค้าล่ะครับ ถือว่านิ่งพอสมควรเลยครับกับจังหวะยิงตีเสมอนั้น ผมว่าไม่ใช่ลูกง่าย มากนักเพราะฟาน เดอ ซาร์ ก็ออกมาปิดมุมไว้แล้วแต่ตอเรสนิ่งพอที่จะรอให้ประตูเสียหลักก่อน ถึงยิง ยกนิ้วให้ครับ ส่วนลูกอื่นๆเป็นจังหวะของเกมส์ครับ เนื่องจากเราเสียสมาธิไปก็เลยโดนรัว เป็นชุด ผมว่าหลังๆทีมเรามีปัญหากับเกมส์เร็วพอสมควรเลยนะครับ ขณะที่เกมส์เรื่อยๆในยุโรป กลับทำผลงานได้ดี ส่วนเวลาเจอทีมเล็กๆในลีกที่เล่นเกมส์เร็วแล้วเรายังเอาอยู่นั้น ผมมองว่าชั้นของนักเตะยังห่างเกินไป ทำให้นักเตะสามารถใช้ความสามารถเฉพาะตัว เอาตัวรอดไปได้ พอเจอทีมที่ระดับสูงหน่อยก็จะมีปัญหาบ้างตามที่เห็นในเกมส์นี้ แต่จะอย่างไรก็เป็นแค่ "วันแย่ๆ1วัน" ของเราแค่นั้นครับ ยังไงก็ขอให้กลับมาได้ ในนัดต่อไปแค่นั้นเราก็จะกุมความได้เปรียบทั้งหมดไว้ได้อีกครั้ง แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 52 12:49:51 จากคุณ : forbidth - [ 16 มี.ค. 52 12:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณค่ะ เมื่อวานหงอยไปวันนึง เลยพยายามไม่รับรู้ข่าวสาร ไม่เข้าพันทิบ ออกไปเดินช๊อปปิ้งสบายใจเฉิบ วันนี้เลยไม่หม่นหมองเท่าไหร่ค่ะ ถามเรื่องใบแดงหน่อยค่ะ ว่าตกลงพี่วีจะโดนแบนกี่นัด อ่านบอร์ดต่างประเทศมาบางคนก็บอกว่าเป็น professional foul จะโดนแค่นัดเดียว แต่โดนเป็นใบที่สองของฤดูกาลเลยโดนสองนัด ไม่รู้จริงรึเปล่า สำหรับเรื่องประมาท คิดว่าคงรู้ตัวกันแล้วแหละค่ะอ่านจากสัมภาษณ์ริโอ แต่ก็รู้สึกดีกับปฏิกิริยาโต้ตอบของนักเตะแล้วก็ป๋านะคะ อ่านจากสัมภาษณ์ป๋า เฮียเต่า แล้วปาร์ค ทุกคนไม่มีการพูดหาข้ออ้างในการแพ้ มีแต่จะมุ่งมั่นกับนัดต่อไป สู้ ๆ จากคุณ : น้ำผึ้งพระจันทร์ - [ 16 มี.ค. 52 13:00:43 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณมากๆ ค่ะ นัดนี้ไม่ได้ดู และตั้งใจไว้ว่าจะมาดูรีรันเอา แต่ผลมันออกมาแบบนี้ไม่อยากดูให้เจ็บยิ่งกว่าเดิม เพราะแค่รู้ผล ก็เศร้ามากมาย  คิดไว้ว่าแมนยูต้องสะดุด บ้างซักนัด แต่ไม่คิดว่าจะเป็นนัดนี้ แถมแพ้ซะเยอะเลย แต่ไม่เป็นไร  ยังไงก็สู้ต่อไป เพราะเราเชื่อมั่นในป๋า และนักเตะ จากคุณ : KanKaLa - [ 16 มี.ค. 52 13:06:37 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เอ่อ...เน็ตทรูผมเดี้ยงไปตั้งกะสิบโมงครึ่ง เพิ่งกลับมาได้เนี่ย ผมอยากสรุปความเห็นผมนิดนึงเกี่ยวกับฟอร์มวันก่อนดังนี้นะครับ หนึ่ง...ไม่รัดกุม ไม่รอบคอบ และเร่งตัวเองเกินงาม คอนโทรลตัวเองไม่ได้ สอง... แก้เกมไม่ทันการ ตั้งแต่ครึ่งแรกที่ป๋าควรออกมาเบรคลูกทีมบ้าง          และการส่งสำรองสามคนมาพลิกเกมก็ช้าเกินไป          โมเมนตัมของเกม และทางบอลเทไปทางนั้นแทบหมดแล้ว สาม... ออฟฟอร์ม ในวันที่อะไรไม่ค่อยเป็นใจ ยังอุตส่าห์นัดกันออฟฟอร์มอีก          แต่ละคนเร่งไม่ขึ้น ดุไม่ออก บี้หงส์ไม่ลง ส่วนเรื่องที่คุณ อาร์มี่สองพัน ว่ามา ผมเห็นด้วยส่วนหนึ่งครับ ที่ว่าล้าและเหนื่อย แต่ที่ป๋าน่าจะกำกับมาให้ลูกทีมจำให้ขึ้นใจก่อนลงสนามเลยก็คือ เราเป็นต่อเยอะนะลูก ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องโหมก็ได้ คะแนนนำเยอะมาก เขาต้องการสามแต้ม สุดท้ายเขาต้องบุก พื้นที่จะเปิด มันจะเข้าทางเราเอง เราเล่นมาเยอะ เจ็บมาแยะ ล้ามามาก โดยเฉพาะแผงหลังนะลูกนะ ไม่ต้องโหมนะ ไม่ต้องเร่งนะ ช่วยแผงหลังกันหน่อย อย่าให้งานเข้ามาก เดี๋ยวเจ็บเดี๋ยวแบนไปจะลำบากนะลูกนะ คือผมมองว่า เราล้าจริง เหนื่อยกว่า เล่นมากกว่า แต่คะแนนเรานำเยอะ เราไม่มีความจำเป็นต้องเร่งเกมจนเข้าทางคู่ต่อสู้ใช่ไหมครับ อดทน เล่นเกมชิงจังหวะตามถนัด สุดท้ายทีมที่กดดันกว่า คือหงส์นะครับ เพราะเขาต้องการลดช่องว่าง ในขณะที่เรานั้น  เท่าเดิมก็ถือว่าชนะแล้ว แต่ก็นั่นแหละครับ เล่นในบ้านตัวเอง เจอลิเวอร์พูล ศักดิ์ศรีมันยิ่งใหญ่ ยิ่งนักเตะแต่ละคนนออกมาให้ข่าวบลั๊ฟกันไปบลั๊ฟกันมา มันจึงเบรคไม่ค่อยอยู่ สุดท้าย ทางบอลแบบนี้ ถูกใจราฟาอย่างมากครับ ของถนัดเขาล่ะ แพ้นี่ผมไม่เท่าไหร่ ห่วงแต่วิดิช โดนไดเร็กต์เรดใช่ไหมครับ สามนัดใช่ไหมครับ นั่นแหละที่ผมห่วง จากคุณ : สงบใจ - [ 16 มี.ค. 52 13:08:35 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ไม่เป็นไรค่ะ เอาใหม่ สู้ๆๆๆๆ จากคุณ : maenangnoi (maenangnoi) - [ 16 มี.ค. 52 13:16:17 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เพิ่มเติมครับ แผงหลังเราหายใจได้ได้ด้วยกองกลาง อย่างที่คุณกระบี่ฯ เคยกล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้นั่นเอง หากกลางแน่น ช่วยชลอเกม เกมรุกมาถึงช้า ตัวรองตัวซ้อนลงมาทัน หลังเรารับมือได้ง่ายครับ วิดิช หรือริโอ จะมีเวลามากพอจะเข้าจะซ้อนกัน และกลางจะเข้าประคองตำแหน่งที่หลุดได้ทันท่วงทีในจังหวะสองสาม แต่เมื่อกลางชลอเกมไม่ได้ (เกมนี้ไม่ช่วยชลอด้วยซ้ำ) บอลทะลักมาปุ๊บ ถึงตัวปั๊บ ฟูลแบ๊คยังไม่ลง ลงก็ไม่ทัน ริโอกับวิดิชงานเข้าทันที หน้าเขาถึงมีตัวเดียวก็เหมือนมีสองครับ ตอร์เรสพักบอลได้ สลัดการคุมเก่งมากๆ ประกบติดก็ใช่จะเอาอยู่เสมอไป หากริโอมาซ้อนสอง ตัวเติมก็ยังมี เช่นเจอร์ราร์ด หรือริเอร่า หรือเคาท์ ดังนั้น การเข้าบอลในเกมนี้ ทำใจลำบากครับ พื้นที่มันมีเยอะเกินไป เข้าพลาดก็เสร็จทันที เหมือนลูกแรก ลูกสอง ลูกสาม วันที่กลางเราไม่ช่วยชลอเกม หรือชลอเกมได้น้อย หลังเราจะมีปัญหามากครับ ขนาดนัดกับฮัลล์ ยังโดนไปสามลูก ดังนั้น เกมนี้ ปัญหาที่เกิดกับแผงหลัง ผมมองว่าต้นตอคือกลางครับ ถึงแม้วิดิชจะรับลูกแรกไปเต็มๆ แต่ผมก็มองว่าไม่มีลูกนั้น เราก็ใช่ว่าจะชนะนะ จากการเร่งเกมแล้วเปิดพื้นที่หลังบ้านขนาดนั้น ยังไงก็ต้องโดนอยู่ดีครับ อยู่ที่จะโดนเมื่อไหร่ จากใคร แค่นั้นเอง แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 52 13:20:28 จากคุณ : สงบใจ - [ 16 มี.ค. 52 13:19:59 ]

ความคิดเห็นที่ 50 นานมากแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เห็นแมนยูเล่นตามใจตัวเองแบบนี้ บุกเป็นบุกไม่มียั้ง แต่ก็หาช่องเจาะไม่เข้าเลย ความพ่ายแพ้นัดนี้คล้ายๆ โดนราฟากับลูกทีมตบหน้าเข้าฉาดใหญ่ พร้อมกับบอกว่าตึ่งๆ มีเรื่องแล้ว เอ้ย ตื่นได้แล้ว อย่ามัวระเริง เพราะมันทำให้เล่นด้วยความประมาท มั่นใจเกินไป กดดันกันไป และผลสุดท้ายก็เป็นอย่างที่เห็น ผลงานที่ผ่านมา สถิติยิ่งดีก็เหมือนยิ่งหลอกหลอน เป็นห่วงก็แต่ว่า หลังจากที่ชนะติดๆ กันมามาก พอแพ้ไม่เป็นท่านัดนี้จะทำให้เป๋ไปอีกกี่นัด ทั้งจิตใจรวมทั้งความฟิตด้วย ยังไงก็เชื่อว่าเฟอร์กุสันและพลพรรคจะมองเห็นความผิดพลาด และความมั่นใจจะกลับมาได้ในนัดหน้าเหมือนเคย เฟอร์กี้มีกุศโลบายดีๆ อยู่แล้ว เคยได้ยินกันมั้ย ความพ่ายแพ้ที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ (อืม มีด้วยเหรอ) ยังไงก็ตาม วิพากษ์ชิ้นนี้ตรงใจที่สุดตั้งแต่ตามอ่านกันเลยทีเดียวนะครับคุณสงบใจ อิอิ ก้าวต่อไป จากคุณ : snowboarder - [ 16 มี.ค. 52 14:13:40 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เห็นด้วยกะน้าสงบว่าไม่ควรโทษพี่วีมากมายนัก เพราะกลางเก็บบอลไม่ได้ แล้วใครจะซวยนอกจากพี่วีที่อยู่คนสุดท้าย (ไม่นับลูกแรก อันนั้นพลาดจริง) เอาน่า มันก็ต้องมีกันบ้าง ไอฟอร์มหลุดเนี่ยะ กลับมาโดยด่วน สู้ๆ จากคุณ : petrified - [ 16 มี.ค. 52 14:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เป็นบทวิพากษ์ที่ดีเช่นเคยค่ะ เกมนัดนี้คงให้บทเรียนอะไรกับทีมเราเยอมะเลยทีเดียว ^^ จากคุณ : Noey :p - [ 16 มี.ค. 52 14:16:08 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เห็นด้วยกับน้าหงบ ครับ แต่เห็นต่างนิดหน่อยตรงการเปลี่ยนตัว ลงมา 3 คน ผมมีความรู้สึกว่าป๋าน่าจะทำถูกแล้วนะครับ เพียงแต่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย วีดิช ดันมาโดนไล่ออกซะ ผิดแผนไปหมด ไม่งั้นผมว่ามีลุ้นอย่างต่ำน่าจะเสมอ ปล. ตอนเปลี่ยนตัวรวดเดียว 3 ตัว ผมนึกถึงตอนที่น้ามูคุ้มเชลซีแล้วเปลี่ยนรวดเดียว 3 ตัวเหมือนกัน จากคุณ : MUFC_SirGolF - [ 16 มี.ค. 52 14:37:23 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ^ ^ ^ ทำถูกแล้วครับ ตัวเลือกตรงใจผมเหมือนกัน แต่เปลี่ยนช้าไปมากเลยอ่ะ จริงๆผมคาดหวังการแก้เกมตั้งแต่ก่อนพักครึ่ง ด้วยการออกมาว้ากลูกทีมด้วยซ้ำไป และจัดระเบียบแท็คติคใหม่ เราอาจไม่เห็นประตูที่สองช่วงท้ายครึ่งแรกครับ แล้วค่อยมาเปลี่ยนตัวเอาตอนชั่วโมงหนึ่งผ่านไป เมื่อสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ------------------------------------------------------------ ผมเดาเอาว่า ที่ป๋ายังใจเย็นอยู่ เพราะสกอร์มันเท่ากัน คงกะแกเกมพักครึ่ง แล้วดันเสียลูกที่สองไปก่อนนี่แหละ งานยากขึ้นจมหู แถมจังหวะทุกอย่างมันก็ลงล็อกทีมเยือนไปหมดเลยเหมือนกัน เราขยับช้า จังหวะยิ่งเทไปมากขึ้น พอเอาลงมาเปลี่ยน ดันเสียคน เสียประตูเพิ่ม จบเห่เลยครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 16 มี.ค. 52 14:48:04 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ชื่นชมสปิริตทุกคนในกระทู้นี้จริงๆเลยฮะ เมื่อทีมชนะ เราก็ชนะมาด้วยกัน วันนี้ทีมแพ้ ก็ยอมรับความพ่ายแพ้ไปพร้อมๆ กัน อันที่จริงแพ้นี่ก็ทำใจได้นะ แต่แหม...แพ้ในวันแดงเดือดนี่สิ มันระคายใจนิดหน่อย แหะแหะ ดูจากเกมส์แล้ว ในช่วงแรกที่ยังตามแค่ 1-2 ก็ยังเชื่อว่าเราจะกลับมาได้ ออกหน้าเสมอก็พอไหว แต่ไม่ได้คิดเลยว่าจะแพ้กันหลุดลุ่ยขนาดนี้ เอาเถอะแค่เกมส์นัดเดียว เสียดายก็แต่ว่าตอนที่ป๋าเปลี่ยนตัวสำรองลงไป 3 คนรวด ยังคิดในใจว่าทีมชีตแบบนี้แหละที่อยากเห็น ไม่ได้มองว่าเปลี่ยนตัวช้าไปหรือเปล่า สนใจคิดแค่ว่าถ้าตอนนั้นพี่วียังไม่โดนใบแดง เกมส์จะเปลี่ยนมั้ยเท่านั้นเอง เพราะดูเหมือนขวัญกำลังใจเรายังพอมีกันอยู่ กิกส์กับสโคลล์ดูจะเป็นเสาหลักให้น้องๆ อุ่นใจกันได้มากทีเดียว คุณหงบฮะ ขอสงสัยนิดนึง เนื่องจากโรนัลโด้โดนประกบหนัก ลิเวอร์พูลเข้ากันทีละ 2 ทีละ 3 พื้นที่ก็น่าจะเปิดกว้างให้นักเตะคนอื่นๆ ของเราเล่นด้วย ทำไมยังรู้สึกอยู่ว่าหน้าเขตประตู มีแต่นักเตะลิเวอร์พูลฮือๆ กันมาล้อมรอบเรา บางชอตยังคิดในใจเลย ว่าลิเวอร์พูลเค้าลงสนามมากี่คนกันแน่หว่า จากคุณ : หนูติงต๊อง น้องแสนดี - [ 16 มี.ค. 52 14:59:16 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ในความคิดผมสำหรับเกมส์นั้น ถ้าผมเป็นป๋าผมจะเปลี่ยนตัวซักนาทีที่ 70 เพราะเกมส์ยังไหลอยู่โดยที่ทีมเราบุกแบบวันเวย์ โดยเปลี่ยนเอา กิ๊กลงไปแทนแอนเดอร์สัน เพื่อดึงจังหวะและ คุมเกมส์ ส่งเบอร์บาตอฟลงแทน รูนนี่ที่วันนี้ผมรู้สึกว่าเค้าเล่นไม่ออกเลย ได้บอลเสียตลอดจ่ายไม่มีความแม่นยำเลย แต่เอาเข้าจริงป๋าเล่นเปลี่ยนทีเดียว 3 ตัวเล่นเอาเหวอเลย จากคุณ : MUFC_SirGolF - [ 16 มี.ค. 52 15:10:20 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ^คห55. ^ ^ ตอบคุณ หนูติงต๊อง น้องแสนดี นะครับ ไม่เพียงแค่คุณนู๋สงสัย แฟนๆหลายคนโดยเฉพาะแฟนผีก็เข้าใจและรู้สึกว่า ลิเวอร์พลู แอบส่งนักเตะลง 43 คนหรือเปล่าว่ะ จริงๆแล้วแมนนยุเล่น บอลไปเข้าตรีน หงส์แดงนะครับ ต่างคนต่างเล่นอยากเอาชนะมากเกินไป ไม่สนใจระบบที่ตัวเองมี  ถามว่า ทีมอื่นๆเจอทีมเราไปไม่เป็นมีมั้ย  ก็มีครับ อย่างนัดเจอเชลซี ชนะ3-0  ทำไม กองกลางของเราแค่ กิกส์และเฟร็ท  ยังเอาชนะกองกลางเชลซี ที่นำโดย เดโก้  แลมพ์ แล้วก็ มิเกลได้ นั่นคือเราเล่นตามระบบ ตามแผนครับ   แต่นัดนี้จะด้วยอะไรก็ตามแต่  เราเล่นกลืนไปกับ ระบบ ลิเวอร์พลู นะครับ  มันเป็นบทเรียนบทเรียนหนึ่งที่ น่าจะเป็นประสบการณ์อย่างดีเลยละครับ จากคุณ : พริบพรรณดาว - [ 16 มี.ค. 52 15:11:52 ]

ความคิดเห็นที่ 58 รอมาตั้งนานแล้วค่ะ ในที่สุดน้าก็มา ถึงแม้มันจะเจ็บ แต่เราก็เจ็บด้วยกันนะน้า หวังว่า ป๋า กับทุกๆคนจะเก็บเอาความพ่ายแพ้นี้เป็นบทเรียน สงสารคนที่ทุ่มเกินร้อยในเกม อย่าง น้องหมู อาตี๋ คาร์ริค และเฮียวี แต่มันจะคอยเตือนใจไว้ไม่ให้เราเหลิงหรือหลงระเริงกับชัยชนะ หรือ คำยกยอจน ประมาทเกินไป ขอ แอบไปซับน้ำตาเงียบๆคนเดียว แล้วเราจะกลับมาใหม่ เสาร์หน้า เพราะเรา Believe in Man U! จากคุณ : TazManianEvil - [ 16 มี.ค. 52 15:14:38 ]

ความคิดเห็นที่ 59 จริงๆมันก็คือแท็คติคที่เราเองก็เคยใช้นะครับ การแพ็คแน่นในแดนตัวเอง และถอยมิดฟิลด์ริมเส้นลงมาช่วยแบ๊ค บวกกับการที่ลิเวอร์พูลเองส่งกลางรับลงมาสองคน นับดูดีๆ ในแดนลิเวอร์พูลจะมีผู้เล่นถึงสิบคนได้ในบางช่วงเลยครับ โดยทิ้งตอร์เรสไว้คนเดียว และเจอร์ราร์ดคอยหนุนตามมาทีหลัง ในขณะที่เราเองเวลาลอยเพลินๆ นี่หลังจะเหลือสองคน ริโอกะบ่าววี อ้อ ยังมีน้าซาร์เฝ้าเสาอีกคน ทำให้มีผู้เล่นลอยขึ้นไปถึงแปดคน นับดีๆ จะมีผู้เล่นถึงสิบหก-สิบเก้าคนได้เลยในแดนหงส์แดง การต่อบอลในที่คับแคบ การเล่นทะลุทะลวงเข้าไป มันจึงยากค่อดๆ ไปทางไหนก็แคบ นักเตะหันมาก็เจอหน้ากันแล้ว ก้าวสองก้าวถึงตัวตลอด จึงไม่แปลกครับ ที่จะมองไปทางไหน ก็เจอนักเตะหงส์แดงขวางหน้า นักเตะเรา ก็ต้องฉีกไปหาที่ว่างไกลออกไป ซึ่งพอจ่ายไป แป๊บเดียวหงส์ก็มา แถมพอฉีกไปไกลๆ ก็ต่อเกมกันลำบากอีกด้วย และแท็คติคนี้ เราก็เคยเล่นมาก่อนครับ ในเกมใหญ่ๆ ที่แฟนๆบ่นกันว่าปล่อยให้เขาครองเกมกดข้างเดียวน่ะครับ แต่ผมกลับมองว่า นั่นคือ การที่เรารู้ตัวเราเองมากกว่านะ รู้ว่าเกมแบบนี้ ควรทำอย่างไร สู้อย่างไร จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ จากคุณ : สงบใจ - [ 16 มี.ค. 52 15:17:08 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ลุงหงบวิเคราะห์โดนใจเหมือนเดิม จากคุณ : Batty_Bounce - [ 16 มี.ค. 52 15:17:50 ]

ความคิดเห็นที่ 61 #55 ผมว่า เกมส์นี้ ลิเวอร์พูลยืนโซนรับได้ดีมากๆ เกมส์หนึ่ง ซ้อนกันได้ตลอด ครึ่งแรกโรนัลโด้ไปไม่เป็นเลย ครึ่งหลังป๋าเลยมาให้เล่นด้านซ้ายบ้าง ก็ยังโดนซ้อนเหมือนเดิม แต่ไม่ว่าจะโดนประกบยังไงป๋าก็คงไม่เปลี่ยนโด้ออก เพราะโด้มีประโยชน์มากกว่าการเลี้ยงตลุย โด้มีทั้งลูกโหม่ง ฟรีคิก(ถึงลุ้นได้ไม่มากก็เหอะ) และที่สำคัญตรงการโต้กลับ จะเห็นโรนัลโด้ตลอดเวลาเราเล่นเกมส์เค้าเตอร์ แอทแท็ค จะคอยวิ่งฉีกไปที่ว่าง ความเร็วนี่แหละคือจุดเด่นของเค้า จากคุณ : MUFC_SirGolF - [ 16 มี.ค. 52 15:18:26 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณทุกคำชี้แนะฮะ พอได้นึกถึงผล 3-0 ของเชลซีตามที่คุณพริบฯ ว่ามาบ้าง ก็ค่อยเข้าใจหัวอกคนแพ้ยับเอาตอนนี้เอง ว่าแล้วก็ทำใจให้แฟนหงส์เขาปลื้มกันไปเถิด จำได้ว่าคราวเราจัดการเชลซีไป เราเองยังร่าเริงไปได้หลายวัน T_T วันนั้นดูแล้วก็คิดแค่ว่าทำไมมันแน่นๆ จัง พอคิดตามที่ป๋าหงบว่า ก็เลยถึงบางอ้อไปเลยทีเดียว มิน่าล่ะ มองไปทางไหนก็เห็นแต่นักเตะเต็ม(ครึ่ง)สนามไปโม้ด ส่วนโรนัลโด้ หลังๆ ฟรีคิกมีลุ้นขึ้นเยอะ แต่ก็นั่นแหละ ยิงตรงกรอบแล้ว บอลก็ส่ายแล้ว แต่ก็ยังตรงตัวผู้รักษาประตูอยู่ดี เฮ่อ... มันคงไม่ใช่วันของเราจริงๆ น่ะแหละ แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 52 15:28:47 จากคุณ : หนูติงต๊อง น้องแสนดี - [ 16 มี.ค. 52 15:27:53 ]

ความคิดเห็นที่ 63 . . . ส่วนสำคัญอีกอย่างที่ผมขอชมเชยแฟนผีแดงในไทยทุกคนคับ ที่เมื่อผลการแข่งไม่เป็นใจขนาดนี้ เรายัง 1. ไม่ตั้งกระทู้ไล่ผู้จัดการทีม 2. ไม่ตั้งกระทู้ด่านักเตะ หาแพะรับบาป หาตัวซวย  เหมือนแฟนบอลบางทีมคับ . . . จากคุณ : 9ปล่อยไก่ (nmcm) ......................................................... มันเป็นแผนปล่อยข่าวลวงแกล้งทะเลาะกันครับ  เหมือนที่กระทู้ที่ว่าตอเรสแกล้งทำท่าเจ็บขณะแข่งขันน่ะครับ   ทำให้คู่แข่งเกิดความประมาทจนพ่ายแพ้ อนิจจัง ทุกขัง อนันตา เอา 70 ตั้งลบด้วยอายุตัวเอง แล้วคูณด้วยสอง  เรายังจะได้ดูศึกวันแดงเดือดอีกอย่างน้อยเท่ากับผลลัพธ์นี้ครับ เผลอ ๆ วันศุกร์นี้อาจมีลุ้นเจอกันอีก จากคุณ : ขี้เหร่ใจซื่อ - [ 16 มี.ค. 52 15:45:42 ]

ความคิดเห็นที่ 64 แฟนหงส์ครับ.... เห็นคุณสงบใจโพสต์กระทู้ทีไร อดใจไม่ไหว เข้ามาอ่านทุกทีครับ ต้องขอบคุณมากๆ ครับ ที่อุส่าสละเวลามาโพสต์ฯ ทำให้ดูบอลได้สนุกขึ้นอีกโขเลยครับ จากคุณ : ทองทา - [ 16 มี.ค. 52 15:59:28 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เป็น One of those days ครับ ถือว่าผ่านไปแล้ว มาตั้งตันใหม่กันนัดหน้านะครับ สู้สู้ จากคุณ : พรานเล็ก - [ 16 มี.ค. 52 16:01:18 ]

ความคิดเห็นที่ 66 คิดว่าที่แมนฯยู แพ้นัดนี้เพราะความล้า ความล้าทำให้ร่างกายทำไม่ได้ดังใจนึก 1. ลูกแรกที่วิดิชนึกว่าปล่อยให้บอลตกแล้วจะไปเล่นทัน 2. จังหวะจุดโทษที่เอวร่านึกว่าจะแหย่สกัดได้ก่อนเจิด 3. จังหวะใบแดงของวิดิชที่สกัดลูกง่ายๆ ไม่ออก จนโดนเจิดตัดไปได้ 4. หลายๆ จังหวะจะเห็นกองหลังแมนฯยูพยายามบังบอลแต่กลับถูกลิเวอร์พูลจิ้มตัดบอลได้เฉย 5. เหล่าแผงหน้าสลัดหนีกองหลังไม่ออก รูนี่ย์คุกคามหลังลิเวอร์พูลไม่ได้ เตเบซเลี้ยงอย่างไรก็ไม่หลุด โรนัลโด้โดนประกบ 2 ตลอดตัดเข้าในก็โดนปิดจะเปิดเข้ากลางก็เห็นเพื่อนถูกหลังลิเวอร์พูลประกบซะแ่น่นหนา คิดดูว่าปกติความคล่องแคล่วของนักเตะแมนฯยูจะเป็นรองของลิเวอร์พูลขนาดนี้เลยหรือ? ไม่หรอก ยังจำได้ว่าปีก่อน ตอร์เรสสลัดกองหลังแมนฯยูไม่หลุด ถูกทั้งเฟอร์ดินานด์และวิดิชรุมกินโต๊ะอยู่เลย เรื่องแท็กติกไม่ค่อยติดใจเท่าไหร่ตอนก่อนเสียลูกที่สาม แมนฯยูครองเกมรุกและคิดถึงลูกตีเสมอได้เลย เมื่อเห็นว่าเกมรุกไม่จัดจ้านเท่าที่ควรจึงเปลี่ยนตัวมาซึ่งก็มองว่าประตูตีเสมอคงได้เห็นแน่ๆ จริงๆ ตอนหลังเสียลูกที่สามก็ยังมีเวลาก็ยังพอมีเวลา การทำสองประตูไม่ใช่เรื่องเกินความสามารถของแมนฯยูเลย ถ้าในสภาวะที่ร่างกายพร้อมกว่านี้ จากคุณ : Christopher Gardner - [ 16 มี.ค. 52 16:19:15 ]

ความคิดเห็นที่ 67 Just another day off !!! สวัสดีฮะเฮียหงบ...และเพื่อนๆ ผีท่านอื่นๆ ...เป็นไงกันบ้าง เสาร์สยอง นั่งดูไปซู้ดซี้ดกันบ้างมั้ย...? ข้าเจ้าไม่ได้เข้าไปในแดนเนรมิต แต่เลือกนั่งสบายๆ ดูทีวีติดเคเบิลอยู่ที่สำนักงาน ปดส. กองปราบ ข้างๆ แดนเนรมิต มีที่จอดรถฟรี ตำรวจเฝ้าให้ทั้งตึก ...โคตรสบายใจเลย... แต่เสียใจแทนเพื่อนผู้แปลกหน้าที่มานั่งแจมด้วย... เค้าว่าเค้าเสีย iPhone ไปเลย...   -_-! (เอามาขายตูไม่ได้เหรอเนี่ย เห็นว่าตึ๊งไว้ 12,000) นี่เลย กระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S7618675/S7618675.html รู้สึกเหมือนไปชี้โพรงให้กระรอกยังไงไม่รู้ดิ... - ต้องยอมรับว่าข้าเจ้าเองแปลกใจและให้เครดิตท่านเซอร์มากไปหน่อย ...ไม่รู้เป็นเพราะว่าท่านเซอร์เองต้องการโรเตชันพอดี หรือเพราะว่าติดประมาท หรือว่าจำไม่ได้กันแน่ ถึงได้ส่งตัวผู้เล่นหน้าเกือบจะเดิมๆ ทั้งหมดที่ไปให้หงส์อัดมาเมื่อต้นฤดูกาล ซึ่งนาทีนี้ข้าเจ้าว่ามันยังไม่พร้อมสำหรับเกมกลางสนามที่จะไปบี้กับหงส์ที่เริ่มจะจูนกันติดจากเกมที่อัดมาดริดมา ...ข้าเจ้ามองว่า เกมกับทีมสไตล์ที่เล่นกับมาดริดแบบนี้ ไม่ควรเข้าแลกด้วยประการทั้งปวง เพราะกลางเราชุดนี้ยังด้อยอยู่ครึ่งก้าว ...แอนเดอร์สันไม่ได้ลงมานาน เพราะเราติดใช้กลางที่เป็นคู่เก๋าอยู่นาน รวมทั้งหน้าเราที่ไม่มีหน้าต่ำ คอยดึงผู้เล่นกลางรับอย่างมาชเชราโน่กับแผงรับให้ลอยขึ้นมาสูงจนเกิดช่อง เราไปใช้ตัวขยันวิ่งออกข้าง เกมรับหงส์เลยไม่ต้องทำอะไรนอกจาก Pack แนวรับให้ไว ให้แน่น รอเราวิ่งมาชนเอง... - ดูแล้วเหมือนนักเตะหงส์เองก็ไม่ได้ประมาทกับฟอร์มตัวเองที่พึ่งอัดมาดริดเลือดกบปากมานะ เค้าน่าจะรู้ตัวบ้างแล้วว่าต้องดูเป็นนัดๆ ไป ทุกตัวเคลื่อนที่เข้าทำเป็นคู่ๆ ไม่ได้ให้ใครคนใดคนหนึ่งรับผิดชอบไปคนเดียว ...ยกเว้น ตอเรส ที่ต้องรับหน้าที่หน้าเป้าตามแทคติคของราฟา เหมือนหงส์จะใช้วิธีที่ดีกว่าเราในตอนที่จัดการอินเตอร์นะ เพราะเกมนั้นเราปิดเกมรุกด้านข้างอินเตอร์ได้อยู่หมัดเลย แถมอินเตอร์ชุดนั้นก็ใช้แทคติคคล้ายๆ กับหงส์เกมนี้ แต่ต่างกันในรายละเอียดกองกลางเท่านั้น ...เกมกับอินเตอร์ เราแค่ใช้การประคองแถมยังเล่นไม่ค่อยเน้นเกิน 100%... แต่หงส์ไม่ใช่แค่แตกงานของรูนี่ย์กับเจ็ทโด้ให้ออกไปข้างเท่านั้น ยังสามารถ Pack ช่วงแดนกลางรับกับหน้าแผงหลังได้แน่นกว่าเราจริงๆ คนที่น่าจะเหนื่อยที่สุดอย่างเจอร์ราด เลยยังมีเวลามากขึ้นในการเดินเกมรุก ไม่ใช่งานเข้าต้องไปโกยบอลหรือไปตั้งรับเหมือนเมื่อก่อน ... - เราโชคดีแค่ไหนแล้ว ที่วันนั้น สลาตันไม่เล่นแบบตอเรส เพราะจริงๆ วันนั้นเค้าควรจะเล่นแบบนี้ตามแผนหน้าเป้า แล้วเอาเข้าจริงๆ สลาตันนั้นเก่งสมคำล่ำลือของเฮียมูจริงๆ แต่วันนั้นอาจไม่ใช่วันของสลาตัน จึงไม่ทันคิดเล่นแบบที่ตอเรสเล่น ...อีกส่วนหนึ่งที่เราพลาด อาจจะเพราะแทคติคป๋าที่วางเกมเร็วแลกเพื่อเร่งสปีดเกมให้กระตือรือร้นมากกว่าเดิมในช่วงหลายๆ เกมที่ผ่านมา... สังเกตกันมั้ย ว่าพักหลังๆ เราเล่นหนืดไปมากกว่าเมื่อก่อน เพราะเน้นแน่นอนขึ้น สกอร์เลยไม่เยอะ ได้ความแน่นอนมากจนบางครั้งมากกว่าการเน้นทำจังหวะ “จบ” ทำให้เดี๋ยวนี้ % ในส่วนของการจบประตู จึงได้ร่นเข้าไปอยู่ในต่ำกว่ากรอบ 20 หลา มาก ...จนแทบจะส่วนใหญ่ที่เราทำประตูได้ ต้องเสียเวลาสร้างทางลูกบอลให้อย่างน้อยต้องผ่านระยะระหว่างจุดโทษกับเส้นกรอบในมากขึ้น ...ทำให้มากจังหวะเกินไป จนบางครั้งเหมือนถ้าไม่ใช่ระยะนั้นจะไม่กล้ายิงกันเลย จึงเห็นได้ว่าหลายครั้งที่วิถีมันได้ ช่องมันมี จังหวะมันให้ ....แต่นักเตะเลือกที่จะป้าย จ่าย เปิด ส่งมากกว่าจะยิงไปเลย ทีนี้ พอเกมเมื่อคืนเจอรับลึกหลายตัวเข้า เราเลยไม่ต่างจากวิ่งเตะบอลชนกำแพง แถมยังใส่แบบบ้าคลั่ง (ไม่ถึงกับสะปะสะปะนะ แต่มัน Idea ซ้ำๆ กันมากเกินไป) ทำให้อึดอัดในการเจาะมาก ถ้าไม่ได้การลากตะลุยของปาร์ค บอกตามตรง ข้าเจ้าว่าเราไม่มีอะไรไปขู่หงส์เลยด้วย เพราะเตเบสไม่ใช่ดร็อกบา... - ก็ดีเหมือนกัน เรื่องเมื่อคืน วีดิชจะได้ไม่เหลิงจนเกินไป ...การที่กลายเป็นกองหลังที่กำลังพุ่งโดยไม่สะดุดอะไรเลย มันเหมือนกับวัวบ้า วิ่งขวิดไปเรื่อย จนไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้ามันจะเจอตออะไรที่อันตรายจนเสียผู้เสียคน ไม่รู้ว่าตัวเองต้องปรับปรุงตรงไหน ต้องรับมือกับกองหน้าสไตล์นี้ยังไง ...การที่เจอกับตอเรสเมื่อคืน ข้าเจ้าว่าเป็นผลดี เป็นยาแรง ที่จะช่วยฉีดกระตุ้นวีดิชถ้าจะต้องไปเจอกับกองหน้าดุๆ ล้มยาก ตัวใหญ่ ไว แกร่ง ...เพราะฤดูกาลนี้ เรายังมีสิทธิ์ที่จะต้องไปเจอดร็อกบาได้อีก หรือแม้กระทั่งเจอตอแบบนี้ซ้ำใน UCL เจอบทเรียนแต่หัววันแบบนี้ ข้าเจ้าว่า ...โคตรคุ้ม! เพราะเป็นการเจอในช่วงที่เรายังไม่ได้เสียหายอะไรมากนัก มาได้พอดิบพอดี ทำให้นักเตะหรือท่านเซอร์เห็นทางแก้ได้ทันก่อนที่จะไปพลาดเสียทีในช่วงชี้เป็นชี้ตายกว่านี้... อยากขอบใจที่สอนให้ ฝันและใฝ่จนชื่นฉ่ำ และสอนให้เจ็บให้ช้ำ ให้จำเป็นบทเรียนที่แพงเหลือหลาย... ถ้าหาก ครั้งนี้ ไม่มีเธอลวงหลอกไว้ ชั้นนี้คงงมงาย... (พอและ ไปร้องต่อกันเอาเอง) - บทเรียนที่หงส์ได้พัฒนาจากเกม UCL คือ ไม่ได้ฝากความหวังไว้กับนักเตะแค่คนสองคน แต่ผู้เล่นคนอื่นๆ ก็พยายามสร้างบทบาทหรือว่าง่ายๆ สร้างความมั่นใจ ใช้ Momentum จากเกม UCL ให้เป็นประโยชน์ ก่อนเกมเริ่มข้าเจ้าคิดว่า หงส์น่าจะใช้ความสามารถตัวผู้เล่นคนอื่นๆ ให้สุดๆ หรือปล่อยให้มีอิสระทางความคิดมากขึ้น ไม่ใช่อะไรแม่มก็จะต้องส่งเจิร์ดไว้ก่อน ทำอย่างกับตอนที่ปืนเอะอะอะไรก็วิเอร่าซะทั้งหมด ...ดอสเซน่า, ออเรริโอ้ กับ อาเบรัว ถือว่าเล่นได้แน่นมาก ...ไอ้ตอนดอสเซน่ามันลงมา ข้าเจ้าสังหรณ์ใจเลยว่าแม่มได้เด่นแบบวันยิงมาดริดแน่ๆ ข้าเจ้าเองเพิ่งเจิมไปในกระทู้ที่ข้าเจ้ายกมา ...ไม่น่าเลยตู ไหนจะออเรริโอ้ ข้าเจ้าว่าคิดดีนะที่ให้หลอกตัวยิงฟรีคิก ถือว่าได้โอกาสแล้วต้องแน่นอนแบบนี้ ค่อยสมกับเป็นทีมใหญ่หน่อย ....แล้วก็ ทีมที่ดีต้องมีเทพคุม... พลาดไปแล้ว..ตูไม่น่าเจิมเลย...!!!! - แต่ว่านะ... สำหรับทีมผีเรา ข้าเจ้าว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าตื่นตระหนก หรือไปคร่ำครวญอะไรมาก เราไม่ได้เหนื่อยกันมาทั้งฤดูกาลเพื่อมาเป็นแชมป์ในวันแดงเดือดซะหน่อย... ทีมเรามันพัฒนามาไกลเกินกว่ามาให้ความสำคัญกับเกมแดงเดือดเพียงนัดเดียวแล้ว... ข้าเจ้าว่านะ มีโค้ชไม่กี่คนในโลกนี้หรอกที่สามารถทำทีมระดับเดียวกับเราที่แพ้เกมใหญ่มาแล้วสามารถ come back ได้ทันที มีแค่ท่านเซอร์, ลิปปี้, คาเปโล่, ฮิสดิ้ง และก็เฮียมูเท่านั้นแหละที่ข้าเจ้าเชื่อในความเหี้ยม ...นอกนั้นข้าเจ้าว่าค่อนข้างยาก ขนาดเจ๊แหวงแกยังกู่ไม่กลับเลย ขนาดมือชั้นนั้นแล้วนะหนะ... เชียร์ผีมายี่สิบกว่าปีมองเรื่องแพ้ยับหงส์แบบนี้เป็นเรื่องขำๆ ธรรมดาไปแล้วล่ะ ...เดี๋ยวหงส์ก็ทำหน้าที่โรบินฮู้ดเองแหละ ผีเราเองก็ไม่ต่างจากโจโฉ ยืดได้หดได้... ไม่ย่อแล้วจะมีแรงส่งกระโดดขึ้นที่สูงได้ยังไง... บันไดทะยานเมฆอย่างก๊วยเจ๋ง ถึงจุดๆ หนึ่งก็ต้องมีหยุดพักหรือแตะหินผนึกลมปราณ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นไปใหม่... เกมนี้อยากให้มองว่าเป็นแค่เกมหนึ่งจริงๆ สิวแตกเม็ดเดียวไม่ได้ทำให้เราหมดหล่อเลย ...เก็บนัดที่เหลือเรื่อยๆ อย่าไปประมาทก็นอนมาแล้ว เราได้บทเรียนเร็วก็ได้เรียนรู้เร็ว รู้ก่อน ตื่นก่อน เลื่อนตัวเองให้ระดับขึ้นไปอีกขั้น เหมือนคราวที่เฮียมูลงมาแตะพื้นโลกแห่งลีกอังกฤษ ...ต้องขอบคุณหงส์ถึงจะถูก ที่ช่วยปลุกเรา ...หงส์สิ ชัยชนะที่พยายามทำให้เกมนี้เป็น turning point มันต้องแลกกับอะไรบ้าง ...ตอเรส? คุ้มมั้ย... ข้าเจ้าเคยนึกไว้ว่าเกมนี้ราฟาน่าจะเน้นรัดกุมไม่ถึงกับแลกแต่ก็ยันเราอยู่ รู้ทั้งรู้ว่าตอนนี้เหลือแค่เอ็นก๊อก (หรือยังคิดว่าเค้าท์เป็นหน้าเป้าคว้าชัย 6-7 นัดติดได้ ...ให้เลือกระหว่างพักเกมสองเกม แล้วที่เหลือลงมาเล่นจนจบฤดูกาลได้ กับตอเรสพัก 7 สัปดาห์ แล้วเค้าท์ลงโดยต้องลุ้นผลเสมอ ไม่รู้ว่าหงส์จะอยากได้อย่างไหน) ...หลังจากเกมนี้ไม่รู้ว่าจะมี effect ขนาดไหน...          .....ที่แน่ๆ บอกไว้เลย ต่อจากนี้เรามีโอกาสเจอกันอีกแค่ถ้วยเดียว ...และบอกไว้เลย หมดโควตาแบบเสาร์ที่ผ่านมาแล้วนะหงส์ เจอกันคราวต่อไปอย่าหาว่าผีนรกส่งมายำก็แล้วกัน วันพระวันโกนมันไม่ได้มีหนเดียว ...แต่ก็ไม่ได้มีทุกวันนะ... มันน้อยกว่าวันธรรมดา (ฟอร์มที่สม่ำเสมอ) มาก... จากคุณ : _K_F_C_ - [ 16 มี.ค. 52 16:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เรื่องล้า...ผมให้ความเห็นไปแล้วในเม้นต์ #47 ครับผมคุณการ์ดเนอร์ ซึ่งผมมองว่า เรามาผิดแผนไปหน่อย หากมองว่าตัวเองล้า ก็ไม่ควรเปิดเกมแบบนั้นสู้อ่ะครับ มันเข้าทางเขา ส่วนเรื่องปีก่อน ผมมองว่าเราเล่นเปลี่ยนไปเยอะแล้วครับ จากเมื่อก่อนที่หลังเรายังสามารถป้องกันตัวเองได้ในระดับหนึ่ง มาถึงตรงนี้ เราเล่นเป็นทีมมากขึ้นเยอะแล้ว โดยเฉพาะเกมรับ ทำให้เรามีการสอดประสานกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้นครับ ซึ่งตอร์เรสเอง รับรู้ด้วยตนเองมาแล้วหลายนัด ว่าสลัดยากจริงๆ ยิ่งเห็นฟอร์มซลาตันถูกบีบเล่นไม่ค่อยออก ยิ่งรู้ตัวว่างานหนัก เขาถึงพัฒนาเกมตัวเอง และลูกพลิกแพลง ลูกขยันมากขึ้น กลายเป็นเราเองซะอีกครับ ที่ไม่ได้ปรับตรงนั้นมาสู้กับตอร์ กลับให้แผงหลังรับผิดชอบในลักษณะดวลตัวต่อตัว ยังงี้ตายครับ บอลมาปุ๊บ กลายเป็นวิดิชเสียคนแทบตลอด เราต้องกลับมาคิดกันใหม่แล้วครับ ว่าควรจะรับมือสถานการณ์ยังไง เมื่อเจอทีมที่วางหมากมาแบบนี้ เขาไม่รุก เราต้องรุกแทนรึเปล่า เราล้ากว่า แล้วทำไมเราต้องบุกเอา บุกเอา ตั้งแต่แรก มันจำเป็นหรือไม่ อย่างไร อะไรที่สำคัญกว่ากัน เป้าหมายสุดท้ายหลังนัดที่ 38  หรือแค่ต้องการชนะแค่นัดนี้กันแน่ (แล้วสังเวยด้วยวิดิชถูกใบแดง) ถึงแม้ผมจะไม่ทราบหรอก ว่าป๋าเฟอร์กี้ จะคิดอย่างผมรึเปล่า จากคุณ : สงบใจ - [ 16 มี.ค. 52 16:47:10 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เข้ามาอีกที เพิ่งสังเกตว่า ฤดูกาลนี้เกมที่เราพลาดส่วนใหญ่จะเป็นเกมวันเสาร์ที่ต้องเล่นเป็นคู่แรก (หัวค่ำบ้านเราเที่ยงที่อังกฤษ) แล้วเป็นเกมหลังจากเกมยุโรป หรือไม่ก็ทีมชาติทุกที ลองดูนะคะ 13 Sep  Liverpool (A) 12:45  1 - 2 25 Oct   Everton   (A) 12:00  1 - 1 08 Nov  Arsenal    (A) 12:45 1 - 2 14 Mar  Liverpool  (H) 12:45 1 - 4 เลยคิดว่าความล้ากับอาการเร่งไม่ขึ้นเนี่ยน่าจะส่งผลจริง ๆ คิดแล้วน่าเขกหัวคนจัดโปรแกรมจริง ๆ เลยเนอะ เฮ้อ จากคุณ : น้ำผึ้งพระจันทร์ - [ 16 มี.ค. 52 17:09:02 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ผมว่าเชื่อว่าบรรดานักเตะผีจะไม่พลาดแบบนี้อีกแน่ สุดท้ายยังไงเราก็แชมป์อยู่แล้ว จากคุณ : redmou - [ 16 มี.ค. 52 17:31:45 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ยินดีที่แสดงได้รับคอนเมนต์ #68 ตอบจากคุณสงบใจ เห็นด้วยกับความเห็นคุณสงบใจเกือบทั้งหมด แต่ขอเห็นเรื่องความล้ามาก่อนสาเหตุอื่นทั้งหมด ประเด็นเรื่องผู้เล่นล้าแล้วทำไมเปิดเกมสู้ ที่ล้านี่หมายถึงเมื่อเทียบกับลิเวอร์พูลแล้ว ลิเวอร์พูลดูสดและคึกคักว่ามาก กองหลังจัดการเกมรุกแมนฯยูได้ดี ส่วนกองหน้าก็คุกคามหลังแมนฯยูได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างคาดไม่ถึง การที่เปิดเกมสู้คิดว่านี่คือการแสดงถึงความเป็น อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เลยละที่สร้างทีมให้เป็นนักสู้เพื่อชัยชนะ ถ้าเป็นราฟาคงได้เห็นการรักษาความสมดุลของทีมไว้ก่อน เห็นการเล่นแบบเรื่อยๆเหมือนไม่อยากชนะ ใช้ตัวนักเตะแบบแปลกๆ ให้เป็นที่ขัดใจแฟนทีมตัวเอง เมื่อดูที่นัดที่ชนะอินเตอร์ฯ เป็นเพราะแมนฯยูชิงเปิดเกมบุกเข้าใส่อินเตอร์จนได้ประตูอย่างรวดเร็วนั่นแหละคือช่วงเวลาที่ดีที่สุด หลังจากนั้นอินเตอร์ดันสูงขึ้นตั้งใจเล่นเกมบุก จนเกมรุกแมนฯยูเริ่มหายไป กองหน้าเริ่มถูกตัดออกจากเกมเมื่อกลางครึ่งแรก พอถึงปลายครึ่งแรกกลางแมนฯยูถูกคุกคามจนเริ่มจ่ายสะเปะสะปะ อินเตอร์ฯขาดแต่เพียงจังหวะสุดท้ายและโชคเท่านั้น ไม่งั้นคงต้องได้ประตูกลับไป 1-2 ประตู อย่างไรมันก็แค่ความคิดเห็นส่วนตัว เพราะเมื่อไปฟังคำความเห็นของเฟอร์กี้หลังเกมก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องความล้าแต่อย่างใด จากคุณ : Christopher Gardner - [ 16 มี.ค. 52 17:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เห็นด้วยครับ เอาความสด ลง มากกเกิน เกม เลยไม่ค่อยสมดุลเท่าไรนัก แต่ที่ผมแปลกใจคือ สมาธิผู้เล่นของเรา ดู ว่อกแว่ก ลนลานยังไงไม่รู้ ยังไงผมยังคิดว่าเราจะกลับมาได้เร็ว ครับ คิดซะว่า มันเป็นแค่เกมนัดหนึ่งเท่านั้น แต่..แฟน ๆ อย่างเรา คงโดนกันมาอ่วมล่ะครับ T_T จากคุณ : air007 - [ 16 มี.ค. 52 17:53:41 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ถ้าถามว่าใครจะโดนสับเละสุดก็คงจะเป็นวีดิช แต่จะเพราะอะไรก็ตาม ก็ยังคิดว่าบุคลิกแบบวีดิช (คนที่ผ่านสงครามมาแล้ว) น่าจะรีบรักษาจิตใจตัวเอง และเก็บนัดนี้เป็นบทเรียนไม่ให้ตัวเองประมาทอีก แพ้นัดนี้เป็นแค่นัดที่ 3 เท่านั้น สถานการณ์เรายังเป็นต่ออยู่มาก เชื่อว่าผู้เล่นทุกคนมีความโรคจิตอยู่ในตัวอยู่แล้ว แพ้นัดนี้อาจเป็นพลังให้นัดหน้าเล่นกันถวายหัวเหมือนเดิมแน่นอน จากคุณ : himalayas - [ 16 มี.ค. 52 17:56:05 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณมากครับ สำหรับบทวิพากษ์ดีๆของทุกๆคน ผมเพียงมีความเห็นว่า แอนเดอร์สันยังไม่เหมาะกับเกมส์ลักษณะอย่างนี้ น่าจะเอาเฟร็ชเชอร์ลงมายังดีกว่า เเอบสังเกตเห็นความผิดปกติของทีมตั้งแต่เจออินเตอร์แล้วนะครับ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดันลามมาถึงแมทย์นี้มาได้ ได้พัก 1 อาทิตย์ถือว่าได้ชาร์จพลังและเชื่อว่าเราจะกลับมาได้อย่างยิ่งใหญ่ขึ้นครับ จากคุณ : kuntucky - [ 16 มี.ค. 52 18:25:44 ]

ความคิดเห็นที่ 75 แวะมาปาดน้ำตาในทู้ลุงหงบค่ะ กระซิกๆมาจะ 3 วันละ ยังไงก้อเดินหน้าต่อไปเท่านั้น 55+ แมนยูสู้ๆ จากคุณ : mangporbaba - [ 16 มี.ค. 52 20:32:54 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณมากค่ะ สำหรับบทวิเคราะห์ที่เจ็บปวดใจสุดในรอบปี จากคุณ : ิbabynoke - [ 16 มี.ค. 52 20:44:19 ]

ความคิดเห็นที่ 77 มาอีกรอบ ขอบคุณ แฟนผี ทุกคน ครับ ที่ ยังรัก และ เชียร์ผี ผมว่า ไม่มีใครด่า พี่วี เพราะ ผลงานที่ผ่านมา ดีตลอด ลูกที่เสีย 2 ครั้ง ลองเป็น บราวน์ หรือ โอเช ผมว่า มีคนยุ ให้ ขาย  แน่นอน 5555555555555 สู้ต่อไป ครับ UP THE REDS จากคุณ : เทพพิสดาร - [ 16 มี.ค. 52 20:51:20 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ใครก็ได้ ช่วยบอกพวกเค้าที ว่าผมอยากดูกองทัพสีแดงลงสนามอีก  ^ ^ อดใจรอนัดต่อไปแทบไม่ใหวแล้ว จากคุณ : Torres - [ 16 มี.ค. 52 20:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ดีใจจริงๆ นัดนี้ไม่มีใครโทษพี่วีเลย และคิดว่าพี่วีคงจะผ่านไปได้ เพราะจิตใจพี่แกแข็งแกร่งอยู่แล้ว เราจะกลับมาอีกครั้งในเกมหน้า We Believe จากคุณ : ผักทอดยอด - [ 16 มี.ค. 52 22:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 80 บอลนัดเดียว ไม่มีอะไรต้องคิดมาก เริ่มทำงานที่ต้องทำที่เหลืออีก9-10นัดก็พอครับ ยังไงก็นำ ขอให้ได้แชมป์สุดท้าย ทุกอย่างก็จบเอง ความสำเร็จไม่ใช่บอลนัดเดียว แต่เป้น 38นัดรวมกันครับ จากคุณ : ยุ่งแฮะ - [ 16 มี.ค. 52 23:12:18 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เห็นด้วยกับป๋าหงบทุกประการเลยครับ จากคุณ : ~Kanet "The KiLLer" J~ - [ 16 มี.ค. 52 23:36:08 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เข้ามาอ่านบทวิพากษ์ครับ ผมได้ดูแค่ ๓๐ นาทีท้าย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ช็อคไปเลย ประกอบกับวันเสาร์ขับรถเยอะเลยเหนื่อย หาเรื่องเข้านอนแต่หัววัน ไม่ได้ดูข่าว ไม่ดูไฮไลท์ แม้จะปวดใจที่แพ้คาบ้านเยอะไปหน่อย แต่มองในแง่ดีเรายังนำอยู่ แถมมีนัดตกค้างด้วย  ผมก็เชื่อว่าทีมจะกลับมาได้อีกครั้ง จากคุณ : SamuDi Knight - [ 16 มี.ค. 52 23:36:35 ]

ความคิดเห็นที่ 83 แมนยู บอล บุก ศึกแห่งศักศรี และมั่นใจในเกมรุกของตัวเอง ประกอบกับ กองหลังที่ใครๆๆ ก็ยกยอ ปอปั้น ว่า แกร่งดังหินฝา บวกกับติดประมาท ผลเลยออกมา อย่างที่เห็น ทุกอย่างมันหลอมรวมกันมาให้เป็นดังนี้ ผมดูแมนยู ก่อนแตะกับเป็ด แตะกับอินเตอร์ ผมเสียวแพ้ มากๆๆ พอผ่าน อินเตอร์มาได้ ผม ไม่มีความคิดเลยว่า แมนยูจะแพ้เป็ด นักแตะแมนยูก็คงคิดเหมือนกัน ฟันธงเลยครับ สาเหตุหลักๆๆ ที่แมนยูแพ้ คือ  "เหลิงกันตั่งแต่นักแตะยันผู้จัดการทีม" โถ......... ขนาดผมยังเหลิงเยลย แล้วคุณละ ก็เหลิงเหมือนกันใช่มะ ? จากคุณ : lotojohn - [ 16 มี.ค. 52 23:55:42 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ไม่เห็นมีอะไรเสียหาย...ตำแหน่งก็ไม่ได้สะเทือนอะไร... มีก็กำลังใจที่ไม่รู้ว่าจะหดหายไปเท่าไร... ถ้าลุกแล้วกลับมาได้หลังจากช่วงพักไป ก่อนเจอฟูแล่ม... ถ้ากลับมาได้ทุกอย่างก็อยู่ในมือเรา... ถ้ากลับมาไม่ได้ ...เราก็ไม่ทอดทิ้งกัน...                    B E L I E V E   !!! จากคุณ : กังป๋วย - [ 17 มี.ค. 52 01:37:01 ]

ความคิดเห็นที่ 85 แค่เห็นจัดตัวลงมา ผมก็ใจไม่ดีแล้วครับ แอนเดอร์สัน ไม่ได้สดเหมือนปีที่แล้ว ซึ่งสไตล์การเล่นก็ยังไม่พัฒนาอะไร เค้าก็เริ่มจับทางได้ แถมความขยัน ไล่บอลบังเหลี่ยมเหมือนปีที่แล้วก็ไม่ค่อยเหน ยิ่งแผนของหงส์ที่เน้นรับ แล้วเพรสซิ่งเร็ว ยิ่งบีบครับ การออกบอล หรือ คอนโทรลเกม จึงไม่ได้สามารถทำได้เลย การออกบอลยาวก็ไม่ได้ผล เพราะหลังหงส์ยืนกันลึกมาก แถมกลางก็ลงมาช่วยบีบด้วย ผมสังเกตว่าริมเส้นของเรา ครองบอลได้น้อยมาก และเสียเร็ว ซึ่งถ้าเกมริมเส้นโดนปิดอาวุธเด็ดเราก็หายไปแล้วครับ ยิ่งไม่ต้องหวังการทะลุทะลวง เพราะยากกว่าอีก หลังแน่นๆแบบนั้น ทีนี้ก็กลายมาเปนเราลนลาน และยิ่งโหมบุกต่อเนื่องไปอีก ผมมองว่า ริโ อ ในเกมนี้ช่วยแผงหลังได้น้อยมาก เพราะบอลหงส์ไม่ได้เข้าทางริมเส้น แต่มาจากการวางบอลยาว ให้เจิด หรือ ตอเรสเข้าทำ ซึ่งมันก็ได้ผล เพราะ ความสามารถเฉพาะตัวสามารถสู้กับหลังเราได้สบาย ส่วนเรื่องที่ว่าโดนไป 1-4 ก็เพราะ รูปเกมเราไปตั้งแต่โดนจุดโทษแล้วครับ ตามสไตล์ทีมเรา ที่โดนแล้วจ้องจะเอาคืนเลย เลยโดนเค้าสวนไปได้ ซึ่งไม่ใช่ฟอร์มแบบรัดกุมที่เราเหนในปีที่แล้วเลย อาจเพราะคำที่ว่า "แชมป์ยุโรป แชมป์โลก แชมป์พรีเมียร์" การที่เราได้สิ่งเหล่านั้นมา ทำให้ทีมเราพยายามที่เล่นด้วยศักดิ์ศรีของแชมป์ ซึ่งก็เปนเรื่องดี แต่ผมอยากเหนทีมที่กระหายความสำเร็จและรู้จักวางตำแหน่งตัวเองให้ดี ให้รอบคอบและรัดกุม เหมือนเกมแชมเปี้ยนลีกปีที่แล้วๆมา ซึ่งทีมแบบนั้นน่ากลัวกว่าเยอะครับ จากคุณ : LL cool P - [ 17 มี.ค. 52 05:19:55 ]

ความคิดเห็นที่ 86 กลับมาดูกระทู้อีกรอบ เห็นที่คุณการ์ดเนอร์ตั้งข้อสังเกต บวกกับภาพเกมอินเตอร์ช่วงแรกที่ยกมาให้ย้อนนึกถึง ผมเริ่มเข้าใจมุมมองที่ต่างไปได้เลาๆแล้วครับ ว่าท่านเซอร์คิดอย่างไร จึงมาเปิดเกมบุก อาจเป็นเพราะตั้งใจลุยเพื่อต้องการประตูแรกเร็วๆ ก่อนที่หงส์จะทันตั้งตัวได้ทัน และเพื่อปิดช่องที่หงส์จะเล่นดึงเช็งรอเราล้าก่อนค่อยโจมตีได้ด้วย ก่อนที่ความล้าจะเล่นเราก่อน ท่านเซอร์จึงชิงรีบเปิดแผลหงส์แดงให้ได้เร็วที่สุดนั่นเอง อันจะนำมาซึ่งความผ่อนคลายของฝั่งตัวเอง และเพิ่มความกดดันของหงส์แดงเองด้วย และเราก็ทำได้สำเร็จครับ เพียงแต่ไมุ่ถึงที่สุดเท่านั้น อย่างที่ทราบกันดีว่า ชุดที่ส่งลงไป ความสดตรงกลางนั้นมีแน่ๆ แต่โรนัลโด้ และรูนี่ย์เองคือตัวแปรสำคัญในการสร้างโอกาสโอกาสเข้าทำที่ดีที่สุด ซึ่งสองคนนี้คงมีอาการล้ามามากอย่างที่ว่ากันครับ และไม่ต่างจากแผงหลังชุดนี้ ที่ยืนระยะสามวันลงนัดนึงมาเป็นเดือนๆแล้ว อาการออกตัวล้อฟรีจึงมีบ่อยๆ และหงส์แดงกลับมาตีเสมอได้เร็วอีกต่างหาก ทำให้โมเมนตัมยังไม่แกว่งไปทางไหนชัดเจนนักในช่วงนั้น ตรงนี้แหละครับ ที่ผมมองว่าพลาดไปนิด เมื่อโมเมนตัมไม่แกว่งไปทางใดทางหนึ่ง สกอร์ยังเท่าเดิม แต่หงส์แดงเริ่มปักหลักได้มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ เกมรับเริ่มแน่นขึ้น จากนั้น ค่อยๆจูนเกมรุกทีละนิด จนเข้าที่เข้าทาง บอลมาแต่ละทีเสียววูบวาบๆ ผมมองว่าตรงนี้เราเพลินไปนิด ที่ไม่ระแวดระวังภัยให้หลังบ้านเราครับ ไม่มีใครคอยดึงจังหวะ หรือชลอเกมลงมาบ้าง เมื่อเห็นว่าหงส์ตั้งหลักได้แล้ว จนสุดท้าย ก็เสียลูกที่สองก่อนหมดเวลานิดเดียว นี่แหละ คือที่พลาดครับ หากจบครึ่งแรกด้วยสกอร์เท่ากัน ผมว่ายังสู้ได้สูสีกว่านี้เยอะในครึ่งหลัง เพราะเมื่อเริ่มครึ่งหลังด้วยสกอร์ที่นำอยู่ หงส์แดงถือว่าบอลเข้าทางเต็มที่เลย แต่ไม่ว่าอย่างไร การแพ้ลักษณะนี้ ผมถือว่าเป็นยากระตุ้นชั้นดี เป็นยาแรง และท่านเซอร์ก็คงไม่หาแพะของตนต่อหน้าสาธารณะ ซึ่งจะเปิดแผลตัวเองมากขึ้น แต่น่าจะกลับไปประชุมลับกับลูกทีมโดยด่วน เพื่อเรียกสติสตังกลับมา และหาสาเหตุความพ่ายแพ้นี้ให้ได้ โดยคงไม่เปิดเผยออกมาให้ใครทราบ เพราะมันจะเป็นการเปิดจุดอ่อนตัวเองเต็มที่ให้ทุกทีมที่เหลือรู้ทันที สุดท้าย ผมเชื่อครับ ว่าท่านเซอร์จะพาลูกทีมคัมแบ๊คได้ในนัดหน้านี่แหละ สวย ไม่สวย คงไม่ใช่ประเด็นที่จะมอง ท่านเซอร์คงมองที่เป้าหมาย 3 แต้ม เท่านั้น จากคุณ : สงบใจ - [ 17 มี.ค. 52 09:02:40 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เรียนคุณสงบใจ เห็นด้วยเลยว่าท่านเซอร์จะพาทีมกลับมาได้ ดูเหมือนสงครามครั้งนี้จะเป็นสงครามระหว่างแมนฯยู(ตาอิน) กับลิเวอร์พูล(ตานา) ล่าสุดราฟาเริ่มท้ารบด้วยการเปิดสงครามจิตวิทยากับเฟอร์กี้ โดยเป่าประกาศจุดอ่อนของแมนฯยูให้ทุกทีมได้ช่วยกันย้ำ (ซึ่งเชื่อว่าไม่ต้องประกาศหรอก ป่านนี้ทุกทีมมีเทปนัดนี้มานั่งศึกษากันหมดแล้ว) ซึ่งสงครามอย่างนี้เฟอร์กี้ไม่ยอมผู้ถูกกระทำแน่ๆ และกลับจะทำให้ทีมแสดงบุคลิกของผู้ชนะออกมา สุดท้ายหวังว่าจะได้มีโอกาสถกกับคุณสงบใจในคราต่อไปอีกนะ ยังมีเรื่องน่าสนใจของแมนฯยูอีกมาก ทั้งพัฒนาการของทีม พัฒนาการของนักเตะ อะไรคือสูตรสำเร็จที่ทำให้ท่านเซอร์ยิ่งใหญ่มาอย่างยาวนานได้ ฯลฯ จากคุณ : Christopher Gardner - [ 17 มี.ค. 52 11:45:04 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ลุยกันต่อไปครับ ขอบคุณน้าหงบมากมายฮะ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน - [ 17 มี.ค. 52 12:54:34 ]

ความคิดเห็นที่ 89 คุณการ์ดเนอร์ ผมยินดีเสมอครับ รวมถึงการได้แลกเปลี่ยนทรรศนะกับทุกๆท่านในนี้ด้วย ท่านที่เข้ามาอ่าน ผมก็ยินดีต้อนรับเสมอ ไม่ได้แบ่งประเภทผู้เข้ากระทู้แต่อย่างใด ปล. ไม่ต้องออฟฟิเชียลขนาดนั้นก็ได้นะครับ กระทู้นี้เรากันเอง สบายๆ       ขอแค่คุยกันสนุกๆ ออกแนววิชาการนิดหน่อยพอเป็นพิธี       ประเด็นสำคัญคือ การได้บรรยายความคิดตัวเองออกมาเท่านั้นครับ ส่วนจะสอดคล้อง หรือแตกต่าง ก็เอาไว้แลกเปลี่ยนมุมมองกันก็พอ ไม่ได้ต้องการถึงขนาดจะมาถกกันหน้าดำคร่ำเครียดหาข้อสรุปให้ได้หรอกครับ พบกันกระทู้หน้านะครับ ทุกๆท่าน จากคุณ : สงบใจ - [ 17 มี.ค. 52 15:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 90 แค่ตามอ่านชองป๋าหงบก็ รู้สึกดีละครับ อิอิ จากคุณ : dabodabo55 - [ 19 มี.ค. 52 14:34:58 ]