ความคิดเห็นที่ 1 Filippo Inzaghi  เกิดในวันที่ 9 สิงหาคม 1973  ที่เมือง Piacenza ซึ่งถ้านับสิริรวมอายุถึงปัจจุบันแล้วคือ 35 ย่าง 36 เป็นคนทั่วไปคงต้องคิดถึงเรื่องแขวนสตั๊ดแล้ว แต่ปัจจุบันผมยังไม่เคยได้ยินมาจากปากเฮียเขาแม้แต่ครั้งเดียวว่าจะแขวนสตั๊ด ทั้งที่อยู่ในตำแหน่งศูนย์หน้า จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 15:55:11 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สำหรับครอบครัว เจ้า pippo มีน้องชายหนึ่งคนคือ Simone Inzaghi ประกอบอาชีพค้าแข้งเหมือนกันอยู่กับทีม Lazio เคยติดทีมชาติพร้อมกันด้วยแหละ จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 15:55:47 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Filippo Inzaghi ในวัยขบเผาะ เริ่มค้าแข้งกับทีม Piacenza ทีมบ้านเกิดเมื่อปี 1991 โดยลงไปเพียง 2 นัดและยังยิงไม่ได้ซักประตู ก็ถูกยืมตัวจากทีม Leffe ใน Series C1 และทำผลงานได้น่าประทับใจ โดยลงเล่น 21 นัดยิงไปได้ 13 ประตู ในปี 1993 Inzaghi เลื่อนระดับตัวเองสู่ Series B โดยย้ายไปอยู่กับ Verona ซึ่งก็ยังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง ลงเล่น 36 นัด ซัลโวไป 13 ประตู เช่นกัน หลังจากนั้นจึงได้หวนกับไปสู่ทีมแรก Piacenza อีกครั้ง โดยคราวนี้กลับมากระทุ้ง 15 ประตูจาก 37 เกมส์ ซี่งเป็นสถิติที่ถือว่าสูงทีเดียวเมื่อนับดูกับเพื่อนวัยเดียวกัน จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 15:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ชายอย่าง Inzaghi ย่อมไม่ได้พอใจอะไรกับฟุตบอลระดับนี้แน่นอน เมื่อโอกาสมาถึงเขาจึงคว้าไว้ทันที Inzaghi ได้รับโอกาสในการเข้าไปค้าแข้งในลีคสูงสุดของประเทศ Series A โดยทีมแรกที่ให้โอกาสคือ Parma จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 15:58:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แต่เส้นทางชีวิตคนก็มิได้โรยด้วยกลีบกุหลายเสมอไป ที่ Parma หนุ่มน้อย Inzaghi ผู้เคยผลิตสกอร์ได้เป็นกอบเป็นกำกับทีมระดับ Series B หรือ C กลับยิงได้แค่ 2 ลูกจากจำนวน 15 นัดที่ลงสนาม ซึ่งเป็นผลงานที่ต่ำกว่าที่คาดหวังเอาไว้ หนุ่มน้อย Inzaghi ในวัย 23 ไม่เป็นที่ต้องการของ Parma เสียแล้ว จึงต้องระหกระเหินหาสังกัดใหม่ และต้นสังกัดใหม่ที่รับเขาไปอยู่ก็ยังเป็นทีมระดับ Series A เช่นเดียวกัน นั่นคือ Atalanta จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 15:58:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ที่นี่นามของ Filippo Inzaghi กระหึ่มไปทั่วอิตาลี เขาได้รับความไว้วางใจมากจากเพื่อนร่วมทีมและเขาก็ตอบแทนความไว้วางใจนั้นเป็นอย่างดี โดยการซัดไป 24 ประตูจาก 33 นัด ปาดหน้าดาวซัลโวจากทีม Big Seven ในขณะนั้น รับตำแหน่งดาว Series A เป็นเกียติประวัติอันแรก ในฤดูกาลนั้นไปครองอย่างไม่มีใครคาดคิด จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:00:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อผลงานเป็นที่ประจักษ์ขนาดนี้ทีม Atalanta คงเล็กเกินไปสำหรับ Inzaghi เสียแล้ว Inzaghi ได้รับโอกาสที่ใหญ่ขึ้นอีกครั้ง นับเป็นการย้ายไปสู่ทีมที่ 7 ใน 7 ปีของเขา คราวนี้เป็นทีมที่ครองความยิ่งใหญ่ของลีคอิตาลีมาอย่างยาวนาน “ม้าลาย” Juventus ที่ Juventus  Inzaghi ไม่ได้มาในฐานะตัวสำรอง แต่ Lippi ตั้งความหวังที่สูงลิบลิ่วในการมาเป็นคู่ขาคนใหม่ของ Del Piero  โกลเด้นบอยของวงการลูกหนังอิตาลีขณะนั้น ในการสานต่อใน Project “Trident Attack”  ซึ่งเป็นการประสานงานของคู่หน้า Inzaghi & Del และมีอีกหนึ่ง Play Maker ที่ดีที่สุดอีกคนหนึ่งของโลก Zinedine Zidane คอยทำเกมส์ด้านหลังสองกองหน้า จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ในฤดูกาลแรกของ Inzaghi  ประสานงานกับ Del Piero ได้อย่างน่าสะพรึงกลัว Del จ่าย Inzaghi ยิง Inzaghi พุ่ง Del ซัดจุดโทษ โดยลงเล่นทุกถ้วย 46 นัด ซัดไป 27 ประตู ส่วนเจ้า Del ก็ซัดไป 15 ประตู จาก 35 นัด เพียงแค่การประสานงานกันฤดูกาลแรก ก็ซัดรวมกันไป 42 ลูก คว้า Scudetto ซึ่งเป็นถ้วยแรกของเขาไปครองแต่น่าเสียดาย ที่ใน UCL กลับแพ้เจ้ายุโรปของ Real Madrid ไปเพียง 1-0 จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:01:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ฤดูกาลถัดมา  ในฤดูกาล 1998-1999 Del Piero มีปัญหาอาการบาดเจ็บตลอดทั้ง Season ทำให้ลงเล่นไม่ค่อยเต็มเม็ดเต็มหน่วย ศูนย์หน้าตัวยืนอย่าง Inzaghi จึงต้องทำงานแทน โดย ซัดไป 20 ลูก ในฤดูกาลนั้น Juventus ทำผลงานได้น่าผิดหวัง โดยจบที่อันดับที่ 6 ในลีค ใน UCL ก็ไปถึงรอบรองชนะเลิศโดยแพ้แชมป์ในปีนั้น คือ MAN U โดยเจ้า Pippo เป็นคนที่ปาดหน้า Jaap Stam ซัดสองลูกนำไปก่อนแต่ก็พ่ายแพ้ไปด้วย สกอร์ 2-3 ในบ้านตัวเองตกรอบไปอย่างเจ็บแสบ จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แม้ฝนตกก็ต้องมีวันหยุดชีวิตคนเราก็ต้องสู้ต่อไป ฤดูกาลถัดมา 1999-2000 แม้ไม่ได้ไปเล่นใน UCL แต่เจ้า PIppo ก็ยังผลิตสกอร์อย่างต่อเนื่องโดยลงเล่นไป 43 นัดซัดไป 26 ประตู ขณะที่คู่ขาของเขา Del Piero ลงเล่นไป 45 นัดซัดไป 12 ประตู พร้อมด้วยสัญญาณที่ส่อเค้าไม่ดี เนื่องจากเขาเริ่มมีปัญหาส่วนตัวกับ Del Piero ขาใหญ่ที่นี่ แม้จะลงเล่นด้วยกันเสมอ แต่ความสัมพันธ์เริ่มไม่ดีนักเสียแล้ว จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:02:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ในฤดูกาลต่อมา Inzaghi ถูกลดบทบาทลงอย่างเห็นได้ชัด จากการมาของ Trezeguet จากที่ได้ลงเล่นเฉลี่ยปีละประมาณ 40 นัดขึ้น เหลือเพียง 34 นัด แต่ก็ยังทำประตูได้ถึง 16 ประตูในฤดูกาลนั้น จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:03:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แม้ว่าในสีเสื้อของม้าลายเจ้า Pippo จะกระหน่ำไปถึง 57 ลูก จาก 120 เกมส์ เขากลับกลายเป็นคนที่ไม่ต้องการสำหรับ Juventus ไปเสียแล้ว แต่คนอย่างเจ้า Pippo เขาไม่เคยคิดท้อกับอะไรแค่นี้อยู่แล้ว อย่างน้อยก็ยังมีคนเห็นค่าในผลงานที่ฝากไว้กับ Juventus  pippo ในวัย 28 ปี มุ่งหน้าหาความท้าทายใหม่อีกครั้ง ในเมืองที่มี Derby Match ยิ่งใหญ่ระดับโลก ทีมนั้นคือ AC Milan แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 52 16:29:32 จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ที่นี่เขาได้พบกับคู่หูคนใหม่ที่ความอันตรายไม่ได้เป็นรองคู่หูที Turin “Andre Shevchenko”  รวมไปถึง Play Maker อย่าง Rui Costa ในฤดูกาลแรกเขาต้องพลาดการลงเล่นในครึ่ง Season แรกเนื่องจากปัญหาในการเจ็บเข่า แต่ Inzaghi ก็เอาตัวรอดไปในผลงาน 16 ประตูจาก 28 นัด ปีนั้นต้นสังกัดเก่าที่ได้ Trezeguet & Del ผนึกกำลังกับ Nedved ซึ่งมาแทนหลัง Zidane ย้ายไป Madrid คว้าแชมป์ Scudetto ไปครองขณะที่ Milan ของเขานั้นจบที่ 4 ได้สิทธิไปเล่น UCL แบบเฉียดฉิว จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:04:31 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ในปี 2002-2003 Inzaghi กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง เขาลงเล่นไปถึง 49 นัดซัดไป 30 ประตูเฉพาะใน UCL ก็ 12 ประตูคว้าดาวซัลโว UCL ฤดูกาลนั้นไปครอง “ลูกผู้ชายล้างแค้น 10 ปีไม่สาย” ในใจของ Inzaghi ยังคงกรุ่นไปด้วยความรู้สึกคาใจกับต้นสังกัดเก่า Juventus เสมอ สังเกตเห็นได้จากการลงเล่นเจอกับ Juventus  Inzaghi จะตั้งใจมากเป็นพิเศษ จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:05:05 ]

ความคิดเห็นที่ 15 และแล้วโอกาสก็มาถึง ในรอบชิง UCL All Italian Final  Milan พบ Juventus Inzaghi ลงเล่นคู่หน้ากับ Shev โดยมี Costa ทำเกมส์อยู่ด้านหลัง แม้จะทำอะไรกันไม่ได้ในเวลา แต่เมื่อยืดไปถึงยิงจุดโทษ เขาเลือกที่จะไม่ยิงจุดโทษเอง เพราะเขาบอกว่า “Buffon รู้จักเขาดีเกินไป” Milan ชนะยิงจุดโทษ คว้าแชมป์ UCL ไปครองและเป็น UCL ใบแรกของ Inzaghi พร้อมด้วยถ้วย Coppa Italia เป็น 2 แชมป์ในปีนั้น แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 52 17:14:53 จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ในปี 2003-2004 การเข้ามาของ Kaka ทำให้ Milan มีสีสันเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถคว้าแชมป์ Series A มาครองได้สำเร็จนับเป็น 3 แชมป์ใน 2 ปีของ Milan โดยเจ้า Pippo ก็ซัดไป 7 ลูกจากการลงเล่น 28 นัด ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ฤดูกาลหลังที่เขาซัดได้เพียงตัวเลขหลักเดียว จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:06:07 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ปี 2004-2005 นับเป็นปีวิกฤตชี้เป็นตายของเขาอีกครั้งเมื่ออาการบาดเจ็บเริ่มเข้ารุมเร้า ในวัยย่างเลข 3 และฟอร์มตกลงอย่างน่าใจหาย เขาซัดไปเพียง 1 ลูกจากการลงเล่นแค่ 15 นัด รวมไปถึงการพลาดการลงเล่นรอบชิงกับ Liverpool ที่  Turkey ที่เป็นฝันร้ายของชาว Rossoneri  ในการแพ้ดวลจุดโทษทั้งที่นำไปก่อนในครึ่งแรก 3-0 จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:08:07 ]

ความคิดเห็นที่ 18 หลังจากปีนั้น วิกฤติก็เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี Pippo กลับมาฟิตอีกครั้งหนึ่ง แม้จะไม่สมบูรณ์เหมือนวัยรุ่นๆ ก็ตามในปีนั้น Milan ได้อันดับ 3 ในลีค และเข้าถึงรอบรองใน UCL โดยแพ้ Barcelona แชมป์ในปีนั้น ไป 1-0 โดยเจ้า Pippo ไม่ได้ลงในนัดเหย้าในรอบรองเพราะไม่สมบูรณ์ทั้งๆที่กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี เพราะในรอบ 16 ทีมและรอบ 8 ทีม ทำประตู Bayern และ Lyon มาตลอด ทำให้ขาดคนทำประตูไปอย่างน่าเสียดาย แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 52 17:16:09 จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:08:39 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ในปีเดียวกันนั้นฟุตบอลโลกได้เวียนมาอีกครั้งที Germany เหมือนโชคหรือบุญอะไรก็ตามที่มี Trainer ทีมชาติ ชื่อ Lippi กุนซือคนเก่าที่เคยดึงแกมาจาก Atalanta มาอยู่ Juventus และในฟอร์มปลายฤดูกาลที่เข้าฝัก ยิง 17 ประตูจาก 31นัด ทำให้ Inzaghi ในวัย 33 ปี ติดทีมชาติไปลุยบอลโลกแบบได้ตั๋วรถด่วนขบวณสุดท้าย เป็นศูนย์หน้าคนที่ 6 คนสุดท้ายไปบอลโลกพอดี จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ก็อย่างที่ทราบว่าเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่เขาเลือกมา โอกาสก็ย่อมน้อยเป็นธรรมดา แต่เขาก็ไม่ยอมน้อยหน้า ซัดไป 1 ลูกจากลูกปิดกล่องวันเจอ Czech จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:09:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แม้จะไม่ได้รับโอกาสอีกเลย แต่สุดท้าย Italy ก็ผนึกกำลังกันคว้า FIFA WORLD CUP มาครองได้อย่างสมศักดิศรี หลังผ่าน Australia จากจุดโทษของ Totti  อัด Ukraine 3-0  พิชิต Germany 2-0  ในรอบรองและดวลจุดโทษชนะ France ในรอบชิง  ซัดคู่แข่งไป 12 ลูก เสียไป 2 ลูก และในจำนวนนี้ศูนย์หน้าทั้ง 6 คน Toni , Gilardino , Del ,Laguinta , Totti , Inzaghi  เก็บสกอร์กลับบ้านได้ทั้งหมด ถือเป็นแชมป์ใหญ่ที่สุดที่ไม่นึกว่าจะได้สัมผัสในวัย 33 ปีแบบมีเฮงของ Inzaghi จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:10:21 ]

ความคิดเห็นที่ 22 กลิ่นอายความสำเร็จยังไม่ทันจาง ปัญหาก็เดินเข้ามาพบพานมิได้จบสิ้นจากคดีเรื่องฉาวโฉ่ในวงการฟุตบอลอิตาลี มีผลทำให้ทีมใหญ่ๆ แย่ไปตามๆกัน รายหนักสุดไม่พ้น Juventus ที่โดยปรับตกชั้นไปเล่นใน Series B และโดนปรับ 9 แต้ม ส่วนมิลานก็โดนไม่น้อยเช่นกันโดยโดนปรับแต้มในฤดูกาลต่อมา 8 แต้ม ทำให้การเปิดฤดูกาล 2006-2007 Milan ไม่เหลือทางเลือกให้เลือกมากนัก จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:11:14 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โอกาสที่จะคว้าแชมป์ลีค หลุดหายไปตั้งแต่ยังไม่เริ่ม แชมป์ปีนั้นเป็นของ Inter Milan ทีมร่วมเมืองที่ได้ตัวเสริมจากทีมยักษ์ใหญ่ๆอื่นๆที่ต้องปล่อยตัวผู้เล่นออกไป ทำให้คว้าแชมป์อย่างไม่ยากเย็นนัก จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:11:56 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขณะที่ AC Milan ซึ่งหมดหวังกับแชมป์ในประเทศก็กลับมุ่งสู่เวทียุโรปด้วยใจมุ่งมั่น ในปีนั้น AC Milan ได้เปลี่ยน Tactics เนื่องจากการย้ายทีมของ Sheva เป็นระบบศูนย์หน้าตัวเดียวแต่มี Kaka เป็น SS (Second Striker) ระบบนี้ได้ผลเป็นอย่างยิ่ง ปีนั้น Kaka ยิงไปเฉพาะในถ้วย UCL ถึง 10 ประตู รวมไปถึงรอบรองที่ฝังผีไปกลับ 5-3 Kaka ซัดเองไป 3 ใน 5 ลูก ส่วน Inzaghi ไม่น่าเชื่อเขาก็ยังมีค่ำคืนที่เป็นของเขาในวัย 34 ปี โดยเป็นการ Re-Match กับ Liverpool เขาซัดไปคนเดียว 2 ประตูจากลูกเปิดของ Pirlo และ Killer Pass ของ Kaka จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:12:52 ]

ความคิดเห็นที่ 25 Inzaghi ได้กล่าวว่าเขาฝันมาตั้งแต่เด็กๆ ที่จะได้ยิง 2 ประตูในนัดชิงแบบนี้ มันจะเป็นสิ่งที่ผมไม่ลืมไปตลอดชีวิต จบฤดูกาลนั้นลงเล่นไป 37 ยิงไป 11 ประตู คว้าแชมป์ UCL เป็นใบที่ 2 ในชีวิต จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:13:19 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ในปี2007-2008 Inzaghi ยังคงฟอร์มเด่นไว้ได้อย่างต่อเนื่องกับ Playmaker คู่บุญในยามเฒ่า Kaka ใน Super Cup กับ Sevilla ซึ่ง Inzaghi เป็นคนยิงตีเสมอ และสุดท้ายชนะไป 3-1 คว้า Super Cup ไปครอง แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 52 17:19:04 จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:13:54 ]

ความคิดเห็นที่ 27 และต่อเนื่องไปถึงศึกสโมสรโลก ประสานงานกับ Kaka ซัดไปสอง ล้างแค้น Boca Juniors ในปี 2003 ได้สำเร็จเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของเจ้า Inzaghi ซึ่งน่าเสียดายที่อันดับในลีคไม่ดีพอที่จะพา Milan ไปเล่น UCL เพราะจบในอันดับ 5 เท่านั้น Inzaghi  ใน Season นี้ ลงเล่น 29 นัด ทำได้ 18 ประตู จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 28 และก็มาถึงใน Season ปัจจุบัน 2008-2009  Inzaghi ในวัย 35 ย่าง 36 ยังคงเดินหน้าถล่มประตูอย่างต่อเนื่องเพราะมันเป็นของที่เขาทำได้ดีตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แม้จะประสบปัญหาบาดเจ็บบ้าง แต่ Ancelotti ยังพร้อมให้โอกาส Inzaghi เสมอถ้าเขาฟิตสมบูรณ์ เขายังผลิตสกอร์ได้อย่างต่อเนื่องรวมไปถึง Hat-Trick ครั้งที่ 7 ในชีวิตค้าแข้ง ในการเจอกับ Atalanta ส่งผลให้สกอร์รวมอยู่ที่ 298 ลูก และนัดล่าสุด Inzaghi ในวัยที่คนทั่วไปต้องบอกว่าเลิกเล่นแล้ว ก็ยังประสานงานกับ Beckham ได้เป็นอย่างดี ซัดอีก 2 ในการเจอกับ Siena ฉลองลูกที่ 300 ของตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:16:21 ]

ความคิดเห็นที่ 29 นับตั้งแต่ค้าแข้งกับ Piacenza ทีมบ้านเกิดเป็นต้นมา Inzaghi ไม่เคยหยุดที่จะมุ่งมั่นในการทำประตู ต้องสู้กับอะไรมาหลาย เจ็บมาก็เยอะ โดนคนประณามว่าดีแต่ล้ำหน้า โดนเจ้าถิ่นเขม่น เกือบหมดอนาคตกับทีมสโมสรและทีมชาติ แต่เขาก็ยังลุกขึ้นและสู้ต่อไปตราบที่ยังมีแรงและลมหายใจ ในฐานะแฟน Inzaghi ก็หวังว่าเฮียจะผลิตสกอร์ต่อไปให้ได้มากที่สุด ก็ไม่รู้ว่าแกจะเลิกเมื่อไหร่เพราะดูแล้ว แกสู้มาตลอดแบบนี้น่าจะตายคาสนามถึงจะเลิกได้ สู้โว้ย  “PIPPO” แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 52 08:56:14 จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:16:51 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เกร็ดเล็กน้อย Inzaghi  ลงเล่นมาทั้งหมด 18 ฤดูกาล มีเพียง 4 ฤดูกาลเท่านั้นที่เขายิงต่ำกว่า 10 ลูก Inzaghi เคยร่วมงานผู้ที่เคยได้รับบัลลงดอร์ทั้งหมดถึง 6 คนด้วยกันประกอบด้วย  Zidane , Kaka , Rivaldo , Ronaldinho , Ronaldo, Shevchenko Inzaghi ปัจจุบันอยู่ในอันดับ 23 ของผู้ทำประตูสูงสุด Series A ตลอดกาล ในจำนวน 145 ลูก Inzaghi เป็นคนแรกที่ทำ Hat-Trick ถึง 2 ครั้งในถ้วย UCL โดยทั้งสองครั้งกับ Juventus ในปี 1998 และ 2000 Inzaghi เป็นเจ้าของสถิติยิงประตูในถ้วยยุโรป (ทุกถ้วย) มากที่สุดเหนือ Muller ที่ 66 ลูก เป็นอันดับ 7 เฉพาะใน UCL ที่ 46 ลูก Inzaghi ทำ Hat-Trick ได้ทั้งหมดถึง 7 ครั้งในชีวิตการค้าแข้ง รายแรกคือ Como ขณะอายุ 19 ปี และรายล่าสุดคือ Atalanta ทีมเก่าในวัย 35 ปี Inzaghi ติดทีมชาติทั้งหมด 57 นัด 25 ประตู เป็นอันดับ 6 ในอันดับดาวซัลโวทีมชาติอิตาลี โดยนัดแรกติดเมื่อปี 1997 เสมอกับทีมชาติบราซิล 3-3 เกียรติประวัติ Juventus • Serie A: 1997-98 Milan • Serie A: 2003-04 • Coppa Italia: 2002-03 • UEFA Champions League: 2002-03, 2006-07 • UEFA Super Cup: 2003, 2007 • FIFA Club World Cup: 2007 International • FIFA World Cup: 2006 Individual • Serie A Young Footballer of the Year: 1997 • Serie A top scorer: 1996-97 จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:18:49 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ######## มีผิดพลาดตรงไหนทักท้วงได้เลยนะครับ ทำเองก็งงเองเหมือนกัน มีแง่มุมไหนที่จะเสนอเพิ่มก็แชร์กันได้เลย และหวังว่าน่าจะมีโอกาสได้ฉลอง 400  ประตูนะครับ ######## จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 17 มี.ค. 52 16:22:11 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สุดยอดๆๆๆๆๆ ชอบตอนอยู่ juve อ่ะ เดลเปิด อินซากี้ซัด อินซากี้พุ่ง เดลยิงจุดโทษ โคตรฮา เป็นศุนย์หน้าที่หาตัวจับยากจริงๆ บางทีก็หายทั้งเกม โผล่มาอีกทียิงซะละ ยังงี้บ่อยมาก จากคุณ : กะริโตะคุง - [ 17 มี.ค. 52 16:42:04 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณคุณขุนนางหนุ่มสีน้ำเงินมากค่ะที่รวบรวมมาให้อ่าน ถึงไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้แต่ขอเป็นแฟนพันธุ์ทาง แล้วกัน แวะเอาลูก 300 มาฝากค่ะ AC Milan forward Filippo Inzaghi, left, scores during the Serie A soccer match between Siena and AC Milan at Siena's Artemio Franchi Stadium, Sunday March 15, 2009. Filippo Inzaghi scored his 300th goal in professional football to help AC Milan to a 5-1 win over Siena on Sunday. The 35-year-old forward scored twice, with his second taking him to the milestone. จากคุณ : july 19 - [ 17 มี.ค. 52 17:02:24 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ฮาเหมือน 32 เช่นกันครับ เป็นสโลแกนที่แนวมากเลย ไม่น่าเชื่อเหมือนว่าคนคนนี้ผ่านอะไรทั้งยาวนานและยากลำบากมาตลอด ขอปรบมือให้ขอรับ~ และขอบคุณ จขกท ที่เอามานำเสนอด้วยครับ อิิอิ จากคุณ : Skyline_CII - [ 17 มี.ค. 52 17:08:47 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าไม่นับ Fowler ก็คนนี้แหละ เป็นศูนย์หน้าที่ชอบมากสุด ตอนชิงกับ Liverpool คนยิงประตูทีมรักดันเป็น Pippo เลยไม่ค่อยเสียใจเท่าไร แค่เสียดาย จากคุณ : Rafalution (Resolution) - [ 17 มี.ค. 52 17:37:53 ]

ความคิดเห็นที่ 36 pippo นี่สุดรักสุดสวาทเราค่ะ ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ชอบจนได้ตามเชียร์มิลานเลย ^^~ จากคุณ : rudd_luv - [ 17 มี.ค. 52 20:06:57 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ถึงผมจะไม่มีอะไรที่เหมือน pippo เลยแม้กระทั่งสไตล์การเล่นบอลก็ตาม แต่มีสิ่งนึงที่ผมเหมือนเขาก็คือ ท่าทางการดีใจหลังทำประตูได้ ครับ จากคุณ : Reina Uguu~ - [ 17 มี.ค. 52 20:35:17 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คือศูนย์หน้าขวัญใจผมเลยแหละ ผมชอบสไตล์การเล่นแบบนี้ สมัยนี้หาศูนย์หน้าแบบนี้ยาก จากคุณ : tumsupat - [ 17 มี.ค. 52 20:44:54 ]

ความคิดเห็นที่ 39 "เดลเปิด อินซากี้ซัด อินซากี้พุ่ง เดลยิงจุดโทษ" ฮาด้วยคน จากคุณ : bianconeri - [ 17 มี.ค. 52 22:16:56 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คิดได้ไงครับ เดล จ่าย ปิ๊ป ยิง ปิ๊ป พุ่ง เดล ยิงจุดโทษ จากคุณ : Anduril - [ 17 มี.ค. 52 22:20:23 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณมากๆๆนะคะ ดีใจ ดีใจ๊ ไม่รู้จะดีใจยังไง เห็นลูกนั้นเป็นประตูแล้วแทบจะโดดเหมือนพี่เหยินน้อย หุหุ ดีใจไปแล้วหลายรอบ แต่ก็ยังดีใจได้อีกหลายรอบน้าาาา~ Forza PIPPO!!~ จากคุณ : yokoyuki - [ 18 มี.ค. 52 08:20:36 ]

ความคิดเห็นที่ 42 รูปนี้แถม SKY เค้าทำนะ อิชั้นไม่ได้ทำเองหรอก ไม่มีความสามารถ >_< ไม่รู้ว่าเห็นแล้วจะดีใจหรือฮาดีนะเนี่ย จากคุณ : yokoyuki - [ 18 มี.ค. 52 08:24:08 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ชอบมากครับ อินซากี้ อารมณ์ดีใจหลังยิงประตูนี่ สุด ๆ เลย จากคุณ : Lazy Genius - [ 18 มี.ค. 52 12:29:41 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากค่ะที่เอาเรื่องของที่รักเรามาลง ดีใจกับที่รักด้วย ชอบท่าดีใจของเฮียที่สุดแล้ว รู้สึกได้ถึงความทุ่มเทเลย ปิ๊ปโป้สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด... เดินหน้าทำประตูต่อไป แล้วเล่นฟุตบอลไปอีกนาน ๆ นะ จากคุณ : nanni - [ 18 มี.ค. 52 14:49:19 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ฮาเหมือนทุกท่าน   "ปิ๊ปโป้พุ่ง  เดลยิงจุดโทษ" ยังนึกถึงผลงานที่แกทำให้ยูเว่นะคะ  โดยเฉพาะนัดที่เตะกับแมนยู ทั้งที่ปิ๊ปโป้ยิงได้ตั้ง 2ลูก  แล้วแพ้2-3 (ตอนดูอาเจียนเลย--ลุ้นมากกก) และก็ยกย่องที่แกเป็นกองหน้าผู้ไม่ย่อท้อ   ช่วง14 - 4 ปีก่อน แกจะโดนล้อเลียนหนักมากเรื่องพุ่ง เรื่องล้ำหน้า   แต่ทุกวันนี้คนที่เคยล้อ ก็ดูจะเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นนับถือกับการเป็นยอดกองหน้าของปิ๊บโป้แล้ว แต่มีเรื่องจำเป็นต้องทักท้วงเล็กน้อยค่ะ #10 --------------------------------------------------------------------------------------------- พร้อมด้วยสัญญาณที่ส่อเค้าไม่ดี  เนื่องจากเขาเริ่มมีปัญหาส่วนตัวกับ  Del Piero ขาใหญ่ที่นี่  แม้จะลงเล่นด้วยกันเสมอ แต่ความ สัมพันธ์เริ่มไม่ดีนักเสียแล้ว. . . . คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าเดลกับปิ๊ปโป้ไม่ถูกกัน    ทั้งในสนามและชีวิตส่วนตัว ถ้าดูถ่ายทอดจะเห็นเดลบ่นปิ๊ปบ่อยมาก    ดูนอกสนามก็อยู่คนละกลุ่มเพื่อน(ปิ๊ปจะอยู่กลุ่มโสดซ่ากับโบโบ้ วิเอรี่  เดลอยู่กลุ่มเก็บตัวกับเพื่อนอย่างแก่ เช่น น้าอันเจโล่ คอนติ น้าชิโร่ แฟร์ราร่า) รวมทั้งสื่อชอบอ้างว่าคู่นี้ไม่ถูกกัน   แต่ผ่านมา 2-3 ปี หลังปิ๊ปโป้ย้ายออก     เมื่อนักข่าวไทยไปอยู่ประจำอิตาลี(รอบที่2)   จึงออกมาย้ำว่าทั้งคู่ไม่ได้ผิดใจกัน    อาจมีเรื่องเซ็งในสนามบ้างเพราะปิ๊ปเป็นกองหน้าขนานแท้ที่ชอบยิงเองไม่จ่ายให้เพื่อนแม้มุมไม่มี    แต่นอกสนามทั้งคู่เข้าใจกันดี และที่สำคัญ ธรรมเนียมประเพณีของยูเวนตุส ให้เป็นนักเตะขาใหญ่แค่ไหน จะไม่มีทางอยู่เหนืออำนาจการตัดสินใจของ "บอร์ดบริหาร"   "บอด"เตรียมไว้แล้วว่า เมื่อเทรซ์เข้าจะเอาใครออก เพื่อลดค่าใช้จ่าย ทีมนี้ไม่เคยเป็นเจ้าบุญทุ่มตัวจริง จ่ายไปแพงต้องหาเงินคืน     แต่ "บอด" --"สามประสานหัวเน่า" ที่มีมอจจี้เป็นหอกหน้า --ดันกล้าทำเรื่องขายหน้า จนทีม-นักเตะ ต้องระเห็ดไปหน้าดำอยู่ในเซเรียบี สุดท้าย อวยพรให้ปิ๊ปโป้ยิงทำลายสถิติน้าโจ้ได้นะคะ จากคุณ : เขามะกอก - [ 18 มี.ค. 52 19:26:59 ]

ความคิดเห็นที่ 46 มาซูฮกอินซากี้ของหนู ^^ คนที่ทำให้ติดตามฟุตบอลจริงจังก็คนนี้แหละ ^^ จากคุณ : i-inz - [ 19 มี.ค. 52 23:19:15 ]