PANTIP.COM : S7638369 [[This is Our City]]>ต<า>ม<ร>อ<ย>แ>ม้<ว>ซิ< ตี้>-18--03--09->เตรียมไปเยือนอัลบอร์ก [ฟุตบอลต่างประเทศ]

ความคิดเห็นที่ 3

โรบินโญ่! แมนคูเนียน แห่งบราซิล

อาจพูดได้ว่าโรบินโญ่มีทุกสิ่งที่ยอดนักเตะในโลกพึงจะมีทั้งการเป็นนักเตะที่มีค่าตัวและค่าเหนื่อยแพงที่สุด หรือการได้รับคำยกย่องให้เป็นเปเล่คนใหม่ จากเจ้าของฉายา "ไข่มุกดำ"

โรบินโญ่ เคยมีประสบการณ์แบบนี้สมัยย้ายไปเล่นให้บาร์เซโลน่าเมื่อ 22 ปีก่อน ภายใต้การคุมทีมของคนจากเกาะอังกฤษด้วยกันอย่าง เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์

"ผมไม่คิดว่าเขาจะมีปัญหากับการย้ายมาที่นี่ เพราะนับจากวันแรกที่ย้ายมา เขาพยายามปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิต
ที่แมนเชสเตอร์” ฮิวจ์สพูดถึงลูกน้องรายนี้ที่มีค่าตัวถึง 32 ล้านปอนด์

แม้แต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันกุนซือคู่แข่งร่วมเมือง ยังยอมรับในฝีเท้าของโรบินโญ่ หลายคนอาจสงสัยว่า เงิน32 ล้านปอนด์ที่แมนฯ ซิตี้จ่ายไป จะคุ้มค่าไหม?

คำตอบคงอยู่ในข่ายคุ้ม เพราะอย่างน้อยเขาสามารถทำในสิ่งที่นักเตะหลายคนไม่สามารถทำได้

ย้อนไปในช่วงที่โรบินโญ่ยังอยู่เรอัล มาดริด ทีมที่ใช้เงิน 24 ล้านยูโร เพื่อฉีกสัญญาของเขากับซานโตสในเดือนกรกฎาคม 2005 และเพียงเกมแรกบนแผ่นดินสเปนที่กาดิซ หนังสือพิมพ์กีฬาที่ทรงอิทธิพลของประเทศอย่างมาร์ก้าถึงกับยกย่องว่า "พระเจ้าสร้าง โรบินโญ่" หรือจะเป็นเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก กับโอลิมเปียกอส ที่โรบินโญ่ได้สร้างนิยามการลากบอล
แบบใหม่ขึ้นมา ชนิดที่คู่แข่งดักรออยู่ตรงนั้น แต่เขาก็ยังจะไป แถมมันยังได้ผลอีกด้วย

แน่นอนว่า การลากเลี้อยจะเป็นของโปรด โรบินโญ่ แม้กระทั่งชื่อหมาตัวเอง เขายังตั้งว่า "เปดาลาดา" (Pedalada) ที่หมายถึง "ลากเลื้อย" อีกต่างหาก

แต่ใช่ว่าเส้นทางของโรบินโญ่จะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเมื่อ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ไปจากทีม โดยมีแบร์นด์ ชูสเตอร์ เข้ามาแทน สถานภาพของเขาเริ่มเปลี่ยนไป

"ตอนนั้นใครก็รู้ว่าผมชอบเล่นให้บราซิลมากกว่ามาดริด เพราะทุกคนที่นั่นยังเชื่อมั่นผมมากกว่าที่สเปนเสียอีกผมจบที่มาดริดไม่สวย อาจเป็นเพราะพวกเขามีแต่บอร์ดบริหารแย่ๆ ก็ได้ ที่นั่นอาจเต็มไปด้วยนักเตะชั้นยอด แต่ดูสิ่งที่พวกเขาปฏิบัติกับผมสิ มันเหมือนว่าผมเป็นนักเตะธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น"

คำว่า "ปฏิบัติ" ในที่นี้ของโรบินโญ่ อาจหมายถึงเรื่องที่มาดริดต้องการปล่อยเขาออกจากทีม เพื่อดึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้ามา โดยเฉพาะข่าวลือที่หนาหูว่าพวกเขาเสนอโรบินโญ่ เป็นหนึ่งในข้อแลกเปลี่ยนให้กับแมนเชสเตอร์

"การที่แมนฯ ซิตี้ มีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น ความกระหายของทุกคนก็ต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน เราอาจมีนักเตะฝีเท้าดีอยู่ในทีม แต่ถ้าทีมต้องการยิ่งใหญ่กว่านี้ เราต้องซื้อนักเตะเข้ามาอีก หากผมเลือกได้ ผมจะเอาทั้ง ริคาร์โด้ กาก้า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้ามา"

ทุกสิ่งทุกอย่างที่โรบินโญ่แสดงออกมาราวกับนักสู้ ซึ่งมันเหมือนกับนักเตะบราซิลส่วนใหญ่ ที่ต้องใช้สองเท้าตัวเองไต่เต้าขึ้นมาเพื่อชื่อเสียงและเงินทอง

http://www.siamsport.co.th/Column/081218_043.html

จากคุณ : dodgeky - [ 18 มี.ค. 52 08:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 15

ทุกคำสบประมาท ! ถ้วยแชมป์คือคำตอบที่ดีที่สุด

สำหรับฮิวส์ ผมว่าเขาโชคดีกว่าโค้ชหลายๆ คนที่ได้มีโอกาสจับงานใหญ่ ได้เรียนรู้การแก้ปัญหาในทีมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น การถูกโก่งราคาค่าตัว การโดนสบประมาทจากบรรดาขาใหญ่

การตั้งโจทย์ของแมนฯซิ เท่ากับการประกาศก้าวว่าจะสร้างความยิ่งใหญ่ให้เทียบเท่าบิ๊กโฟว์ แต่ก็กลายเป็นแรงกดดันมหาศาลไปสู่ฮิวส์ ซึ่งยังไม่เคยสัมผัสแชมป์ใดๆ มาก่อนในการเป็นผู้จัดการทีม

การประกาศไปก่อน แล้วต้องทำให้ได้อย่างที่พูดในภายหลัง ไม่ใช่งานง่ายเลย

แตกต่างกับสมัยที่อาร์เซนอลดึงตัวอาร์แซง เวงเกอร์จากลีกญี่ปุ่นมาทำงานโดยสิ้นเชิง

เวงเกอร์มาที่ปืนใหญ่ โดยไม่ได้ประกาศว่าทีมต้องคว้าแชมป์เดี๋ยวนั้นทันที หรือมีเงินจับจ่ายใช้สอยมหาศาล อาร์เซนอลยอมให้เวลาเวงเกอร์สร้างทีมขึ้นมา เขาดึงเทียรี่ อองรีมาอย่างเงียบๆ ดึงโรแบร์ ปิแรสมาอย่างเงียบๆ อีกคน จากนั้นก็ดึงเปอร์ตีมาอีกคน ซึ่งขณะนั้น เอริค คันโตน่า ของแมนฯยู ดังคับเกาะอังดฤษแล้ว แต่สามคนนี้แม้จะดังจากลีกอื่นมาบ้าง แต่ก็คือเพิ่งเริ่มต้น

สถานการณ์ของฮิวส์ต่างจากเวงเกอร์อย่างสิ้นเชิง เขาเพิ่งมาที่นี่เป็นฤดูกาลแรก พร้อมกับความคาดหวังถ้วยรางวัลที่ถูกเก็บไว้บนหอคอยที่สูงลิบลิ่ว โดยที่ยังไม่ได้สร้างพื้นฐานอะไรไว้เลย

ทุกอย่างสำหรับฮิวส์มันเกิดขึ้นเร็วมาก และแน่นอน มันก็เป็นการทอดสอบว่า ฮิวส์จะพัฒนาตัวเองขึ้นมารับงานใหญ่ขนาดนี้ได้หรือไม่ เพราะว่าเขายังไม่เคยได้หยิบถ้วยแชมป์ในฐานะของโค้ชเลย ผิดกับสมัยที่เป็นนักเตะ เขาได้สัมผัสมาแล้วทุกถ้วยแชมป์

นี่เป็นงานยาก ที่คนไม่เคยทำมาก่อน จะต้องพิสูจน์ตัวเอง

ผมคิดว่าที่แมนฯ ซิ นี่เป็นครั้งแรกที่สโมสรมีเป้าหมายที่แชมป์โลก ซึ่งตอนนี้โครงสร้างทุกอย่างถูกบังคับให้คิดที่ระดับโลกไปจนหมด ไม่เว้นแม้แต่การดึงโรยินโญ่เข้ามา

มันเป็นงานที่สโมสรแห่งนี้ ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ทุกคนจึงถูกตั้งโจทย์ให้พิสูจน์ตัวเอง

การลบคำสบประมาทได้ดีที่สุดก็คือ สิ้นปีนี้ซ้อมคว้าแชมป์มาสักถ้วยก็พอแล้ว ซึ่งมันก็คือแชมป์ยูฟ่านั่นเอง

แมนฯ ซิ ต้องพิสูจน์ตัวเองครับ โดยเฉพาะการพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ฝีเท้าของพวกเขายิ่งใหญ่สมกับคำพูดว่าจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ไหม ยิ่งใหญ่พอๆ กับการมีเงินเยอะของเขาหรือเปล่า

การพิสูจน์ด้วยคำพูดคงทำไม่ได้ นอกจากการคว้าแชมป์ นั่นแหละคือวิถีทางของการทำงานที่ถูกต้อง และแมนฯ ซิ ยังมีงานหนักอีกมากที่ต้องทำให้สำเร็จ เพราะใครๆ ที่นั่น ไม่เคยทำงานใหญ่ขนาดนี้มาก่อนในโลกของฟุตบอล ซึ่งตอนนี้เป็นเรื่องที่สะเทือนโลกไปแล้ว

ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า แมนฯ ซิ จะตอบคำถามของใครหลายๆ คนได้หรือไม่ ซึ่งคงไม่มีอะไรลบคำสมประมาทไปได้ดีเท่ากับการคว้าแชมป์

นั่นคือวิถีทางที่ทีมยิ่งใหญ่อย่าง แมนฯยู ลิเวอร์พูล อาร์เซนอล เชลซี ใช้เป็นคำตอบมาก่อนนั่นเอง ซึ่งมันจะได้มาต่อเมื่อคุณต้องชนะขีดความสามารถเดิมๆ ของตัวคุณเอง ไม่ใช่การเอาชนะคำวิจารณ์ของคนอื่นหรอกครับ

ถ้วยแชมป์เท่านั้น คือ คำตอบที่ดีที่สุดของแมนฯ ซิตี้

สู้ต่อไป...เรือใบสีฟ้า

จากคุณ : เสี่ยวเหลียงจือ - [ 18 มี.ค. 52 22:36:29 ]