ความคิดเห็นที่ 3
[Rule Changes]
สำหรับกฏกติกาต่างๆที่มีการเปลี่ยนแปลงในปีนี้ จุดประสงค์หลักๆมีอยู่ 2 ข้อคือหนึ่งเพิ่มโอกาสในการแซงให้มีสูงขึ้นและสองคือลดค่าใช้จ่ายของทีมแข่ง หลักๆที่น่าสนใจก็จะมี
Slick tyres การกลับมาอีกครั้งของยาง Slick ในรอบ 11 ฤดูกาลที่เปลี่ยนมาใช้ Groove Tyers หลังจากถูกแบนไปในฤดูกาล 1998 ซึ่งเหตุผลหลักก็เพื่อเพิ่มโอกาสในการแซง แต่นักขับแต่ละคนก็ต้องเลือกใช้ยาง 2 ชนิดในแต่ละ Race เหมือนเดิม ยางบนพื้นแห้งก็มี 4 ชนิดเหมือนเดิมคือ Super Soft, Soft, Medium และ Hard ซึ่งแต่ละสนามก็ทาง Bridgestone ก็ได้กำหนดชนิดของยางไว้เรียบร้อย และสำหรับยางเปียก มีการเปลี่ยนชื่อจาก wet เป็น intermediate และ extreme-weather เปลี่ยนเป็น wet
ชนิดของยางที่กำหนดไว้ใน 5 สนามแรกของฤดูกาล Australia - super soft, medium Malaysia - soft, hard China - super soft, medium Bahrain - super soft, medium Spain - soft, hard
Point System อันนี้ที่สุดแล้วไม่มีการเปลี่ยน แต่เรื่องนี้ไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ทาง FIA ได้ออกมาประกาศว่าจะให้นักขับคนที่ชนะมากที่สุดในฤดูกาลเป็นผู้ได้ตำแหน่ง WDC ไปครอง โดยพิจารณาความสำคัญก่อนคะแนนสะสมที่ได้จากระบบ 10-8-6… แบบ ซึ่งดัดแปลงมาจากระบบเหรียญรางวัลที่ท่าน Mr. Bernie Ecclestone นำเสนอ โดยได้ปฏิเสธระบบ 12-9-7… ที่ทาง FTOA เสนอไป ซึ่งหลังจากมีการประกาศกฏนี้ออกมา ทำให้ทาง FIA โดนด่าและวิจารณ์อย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเรื่องใหญ่แบบนี้ในระยะเวลาอันสั้นและเปลี่ยนแปลงกฏสำคัญทั้งๆที่ฤดูกาลจะเริ่มไม่ถึง 3 สัปดาห์ จนในที่สุดแล้วก็ต้องยอมประกาศไม่มีการเปลี่ยนแปลงในฤดูกาล 2009 แต่จะเลื่อนไปปี 2010 แทนและแน่นอนว่า คงต้องมีการพิจารณากันอีกระยะเวลานึง
สำหรับกรณีนี้ หลายๆคนอาจจะมองว่า ก็ดีเพราะใครเร็วที่สุด ชนะมากที่สุดก็สมควรที่จะได้เป็นแชมป์ แต่ส่วนตัวชอบระบบเก่ามากกว่า เพราะอย่างน้อย F1 ก็เป็นอะไรที่มากกว่า Racing ทั่วๆไป และก็ดีใจที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนกฏใหม่ในปีหน้า และต้องคอยติดตามดูว่าจะได้ข้อสรุปออกมาแบบไหน
Aerodynamic regulations ปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงกฏด้าน Aerodynamic มากเลยที่เดียว โดยเฉพาะถ้าเทียบกับรถปี 2008 ที่เห็นได้ชัดเจนคือ Wing หน้าจะต่ำและกว้าง ขณะที่ Wing หลังจะแคบและสูง ซึ่งเจ้า Wing หน้าที่กว้างเนี่ย ทำให้นักขับหลายๆคนออกมาพูดว่า โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุมีเพิ่มสูงขึ้น และลักษณะของตัว body ก็จะเรียบๆ พวก Wing เล็กๆน้อยๆหายไปเกือบหมด
KERS (Kinetic Energy Recovery System) จากที่จะถูกบังคับเป็นกฏให้ใช้ในปีนี้ แต่กลายเป็นว่า KERS ยังคงเป็นแค่ Optional สำหรับฤดูกาล 2009 และนี่ยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะแต่ละทีมมีอิสระเต็มที่ในการตัดสินใจว่าจะใช้ KERS หรือไม่ กับแรงม้าพิเศษที่เพิ่มขึ้นได้ในช่วงที่กดปุ่ม (82 แรงม้า) แต่ต้องแบกรับภาระน้ำหนักของ KERS Devices เป็นเรื่องยากที่ต้องตัดสินใจเหมือนกัน และการ Test ตัว KERS เองก็ยังทำได้ไม่มากนัก ตอนนี้ทีมที่ประกาศออกมาว่าพร้อมที่จะใช้ที่ Melbourne มี Ferrari, McLaren และ Renault ส่วนทีมที่ไม่ได้ใช้ KEAR แน่ๆก็คือ BRAWN GP และทีมที่ประกาศว่ายังไม่ต้องการใช้ KERS ที่ Melbourne ก็มี Toyota, Williams, Toro Rosso และทาง Force India ด้วย ทางด้าน BMW ได้ออกมาประกาศชัดแล้วว่าจะพิจารณาเป็น Race ไป รวมถึงเฉพาะตัวนักขับอีกด้วย เรื่องนี้น่าสนใจจริงๆ ถ้าหาก Performance ของ KERS ทำได้ดี น่าจะทำให้เราเห็นการแซงในแบบที่แปลกๆเพิ่มขึ้นและแน่นอนว่าทีมที่ใช้ย่อมได้เปรียบ แต่ถ้า KERS ทำให้รถเจ๊งล่ะก็ เอิ๊กๆ งานนี้ตัวใครตัวมัน อิอิ
Engine life อายุการใช้งานของเครื่องยนต์ในปี 2009 จะเพิ่มขึ้นจาก 2 สนามต่อ 1 เครื่องเป็น 3 สนาม และกำหนดจำนวนสูงสุดไว้ที่ 8 เครื่องต่อนักขับ 1 คน ซึ่งนี่จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลการแข่งขันในแต่ละสนาม ปีที่แล้ว Ferrari ก็เจ๊งเพราะเครื่องยนต์มาหลาย Race ละ
อื่นๆ ในปี 2009 นี้ การห้ามเข้า Pit ในช่วงที่ Safety car ออกจะถูกยกเลิก เพราะ Software ที่จะมาช่วยงานเรื่องนี้ถูกพัฒนาเสร็จแล้ว การการทดสอบในช่วงกลางฤดูกาลจะถูกยกเลิกไปเพราะลดค่าใช้จ่าย เพราะฉะนั้น Friday Practice จะเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ
จากคุณ :
หน่วยต่อสู้อากาศยาน
- [
26 มี.ค. 52 06:34:11
]
|
|
|