ความคิดเห็นที่ 1 [Race Day] Grid Start [Jenson Button]  <Pole>                                                                          [Rubens Barrichello] [Sebastian Vettel]                                                                          [Robert Kubica] [Nico Rosberg]                                                                          [Felipe Massa] [Kimi Raikkonen]                                                                          [Mark Webber] [Nick Heidfeld]                                                                          [Fernando Alonso] [Kazuki Nakajima]                                                                          [Heikki Kovalainen] [Sebastien Buemi]                                                                          [Nelsinho Piquet] [Giancarlo Fisichella]                                                                          [Adrian Sutil] [Sebastien Bourdais]                                                                          [Lewis Hamilton] Pit Start |----------------------------------------------------------------------------| [Jarno Trulli]                                                                          [Timo Glock] สภาพอากาศที่ Melbourne วันนี้ท้องฟ้าเปิดสดใส มีแดด อุณหภูมิอยู่ที่ 22c ขนะที่อุณหภูมิพื้นผิวแทรคอยู่ที่ 32c ซึ่งถือว่าไม่ร้อนมาก ขณะที่ความเร็วของลมอยู่ที่ 42 m/s > Begin หลังสัญญาณไฟแดงทั้ง 5 ดวงดับลง รถ BGP ของ Button ทะยานออกนำโด่งไปทางฝั่งซ้ายของ Track ขณะที่รถของ Barrichello จอดแน่นิ่งอยู่พักนึง ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร ทำให้ Vettel ที่ออกสตาร์ทใน P3 พุ่งขึ้นไปวิ่งในอันดับ 2 ขณะที่ Kubica ต้องหักลบรถของ Barrichello ออกมา ทำให้เสีย 1ตำแหน่งไปให้ Massa แต่ยังวิ่งอยู่อันดับ 4 เท่าเดิม อันดับ 5 เป็นรถ Ferrari อีกคันของ Kimi ขณะที่ Barrichello เสียตำแหน่งไปประมาณ 7 ตำแหน่ง ขณะที่ขับขึ้นไป รถของ Mark Webber ก็เบียดกับรถ McLaren ของ Heikki ซึ่ง Barrichello ก็เบียดกับเค้าด้วยนิดนึง ผลตรงนี้ทำให้รถของ Sutil และรถ BMW ของ Nick Heidfeld ได้รับลูกหลงโดนชนกระเด็นออกไปนอก Track อ๊ากก เซ็งจริง ซึ่งจากจุดนี้ส่งผลให้รถทั้ง 2 คันต้องเข้า Pit ในรอบนี้ทันที เนื่องจากรถได้รับความเสียหาย และขณะที่วิ่งได้เพียง 2 รอบรถของ Heikki Kovalainen ก็ต้องออกจาการแข่งขัน เมื่อ Gear box มีปัญหา (เหมือนของ Hamilton เลย) ขณะที่นี้ผู้นำตกเป็นของ Button และยังนำห่างออกไปเรื่อยๆ ตามมาด้วย Vettel ซึ่งตามผู้นำอยู่ถึง 4 วินาที อันดับ 3 เป็นของ Massa, Kubica และ Kimi  ตามมาในอันดับ 4 และ 5 รอบที่ 4 Vettel ทำ Fastest lab ด้านรถ McLaren ของ Hamilton ก็แซงรถของ Renault ของ Alonso ขึ้นมาอยู่อันดับ 10 ได้สำเร็จ และไปแซงรถของ Piquet ได้ในรอบถัดไป  รอบที่ 7 รถกลุ่มอันดับ 5,6 และ 7 ไล่แย่งตำแหน่งกันอย่างสนุก ด้วยมี F60 ของ Kimi นำฝูง ตามมาด้วยรถของ Rosberg และ BGP 001 ของ Barrichello และทาง Barrichello ทำ FL ในรอบที่ 8 รอบที่ 9 รถ FW31 ของ Rosberg แซงผ่านรถของ Kimi ขึ้นไปได้ รวมถึง Barrichello ด้วยที่แซงตามขึ้นมา  รอบที่ 10 Raikoknen เข้า Pit ครั้งแรก ผู้นำยังคงเป็นของ Button ที่ฉีกหนีออกไปไกลมาก ตามมาห่างๆด้วย Vettel ขณะที่ Massa ยังคงรักษายังห่างจากรถ F1.09 ของ Kubica ได้ และ Rosberg ก็ทำความเร็วไล่จี้อันดับ 4 เข้ามาเรื่อยๆ รอบที่ 11 รถของ Massa ก็ตามเข้า Pit ไป เปลี่ยนเป็นยาง Medium เช่นเดียวกับ Hamilton ที่เข้า Pit ในรอบนี้เช่นกัน ด้าน Kimi ที่เข้า Pit ไปก่อน กลับออกมาวิ่งใน P14 Kubica เข้า Pit ในรอบที่ 13 กลับออกมาวิ่งตามหลังรถของ Massa รอบที่ 15 รถ Toyota ของ Timo Glock พยายามไล่บี้รถของ Alonso อย่างหนัก ขณะที่ Vettel ที่วิ่งอยู่ในอันดับ 2 เข้า Pit ในรอบที่ 16 แต่เติมน้ำมันค่อนข้างเยอะ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน - [ 29 มี.ค. 52 21:38:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 > Middle รอบที่ 18 ผู้นำอย่าง Button ทำ FL อีกครั้งและนำห่างออกไปอีก จนกระทั่งรถ Williams ของ Nakajima เกิดอุบัติเหตุเสียหลักไปชนกำแพงบริเวณโค้ง 4 และ โค้ง 5 ทำให้ Safety car ต้องออก Barrichello เข้า Pit ในรอบนี้ รอบที่ 19 SC ยังคงวิ่งอยู่ ผู้นำเข้า Pit ในรอบนี้ และใช้เวลาทั้งรอบในการจัดเรียงตำแหน่งกันใหม่ และ SC ยังวิ่งอยู่อีกจนรอบที่ 23 SC ปิดไฟ และเริ่ม restart กันใหม่ในรอบที่ 24 ทั้ง Button และ Vettel สตาร์ทได้ดี เช่นเดียวกับกลุ่มที่ตามมา และรอบนี้รถ Renault ของ Piquet ก็ต้องออกจากการแข่งขัน เพราะเสียหลักจากการกระแทกกับรถของ Rosberg ทำให้กระเด็นตกลงมาในบ่อทราย ขณะที่ Hamilton ก็แซงผ่านทั้ง Trulli และรถ R29 ของ Alonso รอบที่ 25 Barrichello ทำอันดับแซงขึ้นมาได้หลายตำแหน่ง ในรอบที่ 26 Button เองยังนำ Vettel อยู่ 2.1 วินาที อันดับ 3 ยังคงเป็น Massa ตามมาด้วย Kubica และ Kimi รอบที่ 27 rookie อย่าง Sebastien Buemi ไล่แย่งตำแหน่งกันกับ Nico Rosberg ขณะที่ Timo Glock เองก็ยังวิ่งกดดัน Alonso อย่างหนัก รอบ 29 Hamilton แซง Rosberg ได้ แต่ดูเหมือนรถของ Rosberg จะมีปัญหา รอบที่ 30 Massa เริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ และเข้า Pit ไปในรอบที่ 31 แต่จังหวะออกมา ติดรถเยอะกลุ่มกลางๆ ช่วงนี้ Button ยังคงขับได้ดีมากๆ รักษาระยะห่างได้อย่างเหนียวแน่น รอบที่ 34 รถ F1.09 แรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและทำ FL พร้อมกับขยับเข้าใกล้ Vettel ขึ้นเรื่อยๆ รอบที่ 37 Button นำห่าง Vettel 4 วินาที รอบที่ 39 Kubica เข้า Pit เช่นเดียวกันกับ Kimi รอบ 40 Timo Glock หมุน ผู้นำอย่าง Button ยังไม่เข้า Pit ขณะที่ Vettel ก็ยังไม่เข้าเช่นกัน ทำเวลารักษาระยังห่างจากผู้นำไว้ได้ รอบที่ 43 Hamilton เข้า Pit เช่นเดียวกับ Kimi ที่เข้า Pit เป็นครั้งที่ 3 Ham ออกมาจาก Pit มาวิ่งนำหน้า Massa คู่ปรับเก่า กลุ่มนี้เกาะกันมา 3 คนคือ Hamilton, Massa และ Buemi ส่วน Kimi เองก็หมุนรอบนี้  รอบที่ 44 Vettel เข้า Pit และกลับออกมาวิ่งอยู่ในอันดับ 2 เหมือนเดิมนำหน้า Barrichello ที่ยังไม่ได้เข้า Pit เป็นครั้งที่ 2 ส่วนอันดับ 4 เป็น Robert Kubica รถ F60 ของ Massa มีปัญหา ต้องออกจาการแข่งขันในรอบที่ 46 ขณะที่ผู้นำอย่าง Button ก็เข้า Pit ครั้งที่ 2 ในรอบนี้และกลับออกมาวิ่งในตำแหน่งผู้นำเหมือนเดิม > End รอบ 47 รถ MP4-24 ของ Hamilton ยังวิ่งอยู่ในอันดับ 10 Nico Rosberg ทำ FL ในรอบที่ 48 ช่วงนี้รถที่แย่งพื้นที่ที่มีแต้มกัน ไล่แย่งตำแหน่งกันอย่างสูสี รอบ 49 Vettel เริ่มไล่ Button เข้าไปได้นิดหน่อย Fisichella ที่วิ่งอยู่อันดับ 8 เข้า Pit ครั้งที่ 2 ในรอบนี้ ทำให้อันดับหล่นลงไป ขณะที่ Kubica เริ่มทำความเร็วจากยาง Hard เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ รอบที่ 50 Timo Glock ยังคงเข้า Pit ในรอบนี้ ออกมาเจอ Hamilton แซงแต่ยังแซงกลับได้ และ Button ได้รับวิทยุเตือนจากทางทีม ว่ารถของ Kubica สามารถวิ่งขึ้นมาแย่งตำแหน่งได้ และรอบที่ 52 ก็เป็น Button, Vettel และ Kubica ที่แย่งตำแหน่งกันบน Podium  รอบที่ 53 รถ F1.09 ของ Kubica เร็วกว่า BGP001 ของ Button และ RB5 ของ Vettel อย่างเห็นได้ชัด รอบที่ 54 Kubica ทำความเร็วขึ้นมาจนไล่ติดรถของ Vettel และในรอบที่ 55 เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นที่โค้ง 3 เมื่อ Kubica พยายามจะแซงผ่านรถของ Vettel ขึ้นไป จังหวะนั้นรถของ Kubica ขึ้นทางซ้ายและผ่านรถของ Vettel ไปแล้วครึ่งคัน Vettel เบรคกระทันหัน พร้อมกับหักจากด้านขวาเข้ามาข้างใน จนชนกับรถของ Kubica จนหมุนไปทั้งคู่ Wing หน้าได้รับความเสียหายอย่างหนักกันทั้งคู่ แต่รถทั้งคู่ยังคงหมุนกลับออกมาวิ่งได้ แต่ก็ไปไม่รอด เพราะ Aerodynamic เป็นหัวใจของรถ F1 Vettel เสียหลังชนกำแพงก่อน จนล้อหน้าซ้ายพัง แต่ยังฝืนวิ่งไปต่อ ขณะที่ Kubica ก็ต้องหลุดจาก Track ไปชนกำแพง เศษชิ้นส่วนแตกกระจาย SC ต้องออกเป็นรอบที่ 2 และวิ่ง 3 รอบจนจบ Race ส่งผลให้ Jenson Button พารถ BGP ผ่านเข้ารับธงหมากรุกเป็นคันแรก ตามมาด้วยรถ BGP อีกคันของ Barrichello รถ Toyota ของ Trulli จบการแข่งขันในอันดับ 3 ตามมาด้วยรถ McLaren ของ Hamilton ใน P4 และรถ TF109 ของ Toyota อีกคันของ Timo Glock P6 เป็นรถ Renault ของ Alonso ตามมาด้วย FW31 ของ Rosberg และ STR4 ของ Sebastien Buemi ใน P8 อันดับ 9 เป็นรถ STR อีกคันของ Sebastien Bourdais ตามมาด้วยรถ Force India ของ Adrian Sutil  รถ BMW ของ Nick Heidfeld และรถ Force India อีกคันของ Giancarlo Fisichella ใน P12 อันดับที่ 13 เป็นรถ Red Bull ของ Webber ซึ่งไม่จบการแข่งขัน 58 รอบแต่ผ่าน Classify อันดับ 14 และ 15 เป็นรถของคู่กรณี Vettel และ Kubica ขณะที่ P16 เป็นรถ Ferrari ของ Kimi เป็นคันสุดท้ายที่ผ่าน Classify ส่วนรถอีก 4 คันที่ไม่จบการแข่งขันมีรถ F60 ของ Massa ที่ระบบ Hydraulic มีปัญหา รถ Renault ของ Nelsinho Piquet, FW31 ของ Nakajima ที่ออกเพราะอุบัติเหตุและรถ McLaren ของ Heikki Kovalainen ก่อนอื่นเลย...ต้องขอแสดงความยินดีกับทีม Brawn GP ด้วยครับ กับผลการแข่งขันที่สุดมหัศจรรย์ ทีมใหม่ คว้าตำแหน่ง Pole และออกสตาร์ทในแถวแรกทั้ง 2 คัน และจบการแข่งขันด้วยอันดับ 1-2 ไม่รู้จะหาศัพท์คำไหนมาใช้แล้ว เป็นครั้งแรกที่ทีมใหม่ชนะเลิศการแข่งขัน อันดับ 1-2 นับตั้งแต่ปี 1954 ก่อนหน้านี้ส่วนตัวอ่านบอร์ดที่ Autosport มีคน retouch รูป Grid Start ที่ Albert Park ปีที่แล้วเป็นรูปรถ BGP ออกสตาร์ทในแถวแรกทั้ง 2 คัน แค่เรื่องนี้เป็นจริงก็ตกใจละ นี่ยังมาจบกรแข่งขันแบบนี้อีก ยินดีด้วยจริงๆครับ และถ้าลองมองดูอันดับ 3-5 จะพบว่าเป็นรถที่ออกสตาร์ทบนกริดที่ 18-20 -*- ส่วนผลงานของ Rookie อย่าง Sebastien Buemi ก็เปิดตัวกับ F1 สนามแรกได้อย่างน่าประทับใจ พร้อมกับเก็บแต้มแรกของตัวเองได้ สุดๆจริงๆ แต่ความวุ่นวายที่ AUS Grand Prix ปีนี้ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง เมื่อทางผู้ควบคุมการแข่งขันปรับโทษ 10 second stop-go กับ Trulli เพราะบอกว่ามีการแซง Hamilton ในช่วงที่ SC ออกมาวิ่ง แต่เป็นรอบสุดท้าย ทำให้บวกเพิ่มไปเลย 25 วินาที ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ Hamilton จะขยับขึ้นมาคว้าอันดับ 3 แทน แต่เห็นทาง Toyota จะอุทรณ์ ในกรณีนี้ ต้องติดตามผลกันต่อไป ส่วนกรณีของ Vettle กับ Kubica อันนี้อาจจะเป็นความรู้สึกส่วนตัวนิดนึง และเป็นความรู้สึกจากฝั่งทีมงาน BMW และกองเชียร์ BMW ฮ่าๆๆ งานนี้ก็คงต้องบอกได้ว่าเศร้า 2 เท่า เพราะนอกจากจะมือเปล่าแล้ว ทั้งๆที่มีตำแหน่งบน Podium อยู่ในมือ จากข้อมูลที่เห็นและทาง Mario Theissen และ Kubica ออกมาให้สัมภาษณ์ ยิ่งน่าเศร้าใจ เพราะตอนนั้นความเร็วของรถ Kubica สูงกว่าทั้ง Button และ Vettel เพราะ Kubica วิ่งด้วยยาง Hard เวลาตอนนั้นตามหลัง Button ประมาณ 3 วินาที เหลือการแข่งขันอีก 3 รอบ ...บอกไม่ได้ว่าจะแซงได้มั้ย แต่ทีมงานจาก BGP เองก็เตือน Button เหมือนกัน นั่นหมายความว่า อบัติเหตุที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่ทำให้ไม่ได้แต้ม ไม่ได้ขึ้น Podium แต่ยังหมายถึง โอกาสที่จะคว้าแชมป์ด้วย แต่ถ้าพูดกันแบบแฟร์ๆ มันก็คือการแข่งขันรถยนต์ ถ้า SC ไม่ออกครั้งแรก เวลาของ Kubica และ Vettel ก็คงไม่ขยับเข้ามาใกล้ Button ได้ขนาดนี้หรอก และ Button อาจจะขับแบบป้องกันยางก็เป็นไปได้ ส่วนตัวก็ชอบการขับของ Vettel เลยโกรธไม่ลง เอิ๊กๆแถมเคยเป็นนักขับทดสอบของทีมด้วย แง่มๆ แต่ดีใจมากๆที่ทาง Vettel ออกมาขอโทษทั้งต่อทีมและต่อ Kubica ซึ่งเค้าบอกว่านี่เป็นการชนที่บ้าและน่าผิดหวัง(แปล Stupid ให้เบาที่สุด อิอิ) เค้าก็คือนักแข่ง ต้องพยายามป้องกันอันดับของตัวเอง มันยากเหมือนกันที่จะปล่อยให้ Kubica ผ่านไปง่ายๆ และที่แน่ๆ ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น ส่วนตัวรู้สึกผิดนิดๆ ที่ตอนแรกคิดตำหนิว่าทำไม Kubica ไม่รอจังหวะที่ดีกว่านี้ก่อน เพราะรถเร็วกว่าแน่ๆ เพราะไม่รู้เป้าหมายของ Kubica จริงๆ ที่เจ้าตัวต้องการจะไล่แซง Button เลยต้องรีบแซงผ่าน Vettel ให้เร็วที่สุด คิดว่า Kubica เองก็คงเสียดายและเสียใจมากๆ แง๊ๆๆๆ อ้อ..จากอบัติเหตุครั้งนี้ Vettel จะถูกลดตำแหน่ง Start ลง 10 ตำแหน่งที่ MAS GP รวมถึงโดนปรับเงิน $US 50,000 อีกต่างหาก ในข้อหาขับรถที่มีแค่ 3 ล้อ (ขับรถที่สภาพไม่ปล่อยภัย) จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน - [ 29 มี.ค. 52 21:40:07 ]

ความคิดเห็นที่ 3 [Result and Table Standing] Race result Button คว้า 10 คะแนนเต็มไปเป็นคนแรกของปีนี้ ขณะที่ Hamilton ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม พยายามจนได้คะแนน ได้อันดับ 3 อีกต่างหาก (แม้ไม่ได้ขึ้น Podium ก็เหอะ อิอิ) ขณะที่คู่แข่งสำคัญอย่าง Ferrari รวมถึง BMW มือเปล่า ขณะที่ Toyota เองก็แข็งแกร่งอย่างที่คาดไว้ STR ทำผลงานได้ดีกว่าทีมพี่อย่าง RBR แม้ว่าประสิทธิภาพของรถอาจจะสู้ไม่ได้ 01   [10]    Jenson Button   02   [  8]    Rubens Barrichello 03   [  6]    Lewis Hamilton 04   [  5]    Timo Glock 05   [  4]    Fernando Alonso 06   [  3]    Nico Rosberg 07   [  2]    Sebastien Buemi 08   [  1]    Sebastien Bourdais * ยึดตามคะแนนตอนหลังมีการปรับโทษ กรณีของ Trulli และ Hamilton (แม้ว่าจะมีการอุทรณ์จากทาง Toyota ก็ตาม ค่อยมาแก้กันทีหลังเนอะ ถ้าอุทรณ์ผ่าน อิอิ) World Championship Standing Driver 01  [10]   Jenson Button 02  [08]   Rubens Barrichello 03  [06]   Lewis Hamilton 04  [05]   Timo Glock 05  [04]   Fernando Alonso 06  [03]   Nico Rosberg 07  [02]   Sebastien Buemi 08  [01]   Sebastien Bourdais 09  [00]   Adrian Sutil 10  [00]   Nick Heidfeld 11  [00]   Giancarlo Fisichella 12  [00]   Jarno Trulli 13  [00]   Mark Webber 14  [00]   Sebastian Vettel 15  [00]   Robert Kubica 16  [00]   Kimi Raikkonen 17  [00]   Felipe Massa 18  [00]   Nelsinho Piquet 19  [00]   Kazuki Nakajima 20  [00]   Heikki Kovalainen 2 นักขับของ BGP ขึ้นมาเป็นผู้นำบนตารางคะแนนสะสมชิงแชมป์โลก ประเภทนักขับ อาจจะเพิ่งผ่านไปสนามแรก ยังวัดอะไรในระยะยาวยังไม่ได้ แต่ชั่วโมงนี้ ต้องยอมรับว่า Jenson Button เป็นอีกคนที่จะก้าวขึ้นมาลุ้นตำแหน่งแชมป์โลกอย่างเต็มตัว รวมถึง  Barrichello ด้วย ขณะที่ Hamilton ก็อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า Massa และ Kimi Raikokonen รวมถึง Robert Kubica Constructor 01  [018]   Brawn-Mercedes 02  [006]   McLaren-Mercedes 03  [005]   Toyota 04  [004]   Renault 05  [003]   Williams-Toyota 06  [003]   STR-Ferrari 07  [000]   Force India-Mercedes 08  [000]   BMW Sauber 09  [000]   RBR-Renault 10  [000]   Ferrari กระโดดขึ้นมานำบนตำแหน่งผู้นำในประเภททีมผู้สร้างด้วยเช่นกัน สำหรับทีมน้องใหม่ไฟแรงอย่าง Brawn-Mercedes ขณะที่ Toyota กับ McLaren ก็เก็บแต้มได้ เช่นเดียวกับ Renault ที่น่าผิดหวังก็คงเป็น Ferrari ที่ไม่มีคะแนน  เช่นเดียวกับ BMW และ RBR ที่กอดคอกันโยนคะแนนทิ้ง ขณะที่ STR ก็ทำผลงานได้ดี และ Forice India ก็ขยับเข้าใกล้ตำแหน่งที่มีคะแนนมากกว่าที่ผ่านมา #แก้ไขคะแนนครับ แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 52 21:51:31 จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน - [ 29 มี.ค. 52 21:40:42 ]

ความคิดเห็นที่ 4 [Strategy and Race Analysis] นับว่าเป็นการแข่งขันที่สนุกและมีจุดเปลี่ยนมากมาย กระชากอารมณ์คนดูได้มากจริงๆ แม้ว่า Button จะขับนำเดี่ยวแบบม้วนเดียวจบก็ตาม  ที่โค้ง 1 ยังคงมีอบัติเหตุเหมือนเดิม และคนที่ซวยที่สุดก็คงเป็น Nick Heidfeld ที่ออก Start ได้ค่อนข้างดีและขับอยู่ไลน์ซ้ายสุดดีๆ ก็โดนรถที่ชนกันมาชน จนเสียหลักหมุนออกนอกแทร็ค ทำให้ต้องเข้า Pit ซึ่งก็หมายความว่าโอกาสที่ Hiedfeld จะจบแบบมีแต้มเป็นงานยากขึ้นมาทันที รถ BGP วันนี้วิ่งได้สุดๆจริงๆ มีหลายๆจังหวะที่เห็นว่าแซงคันอื่นได้อย่างง่ายได้ ถึงแม้ว่า Diffuser ที่ใช้อยู่ อาจจะมีส่วนที่ทำให้ได้เปรียบคันอื่นอยู่ก็ตาม แต่คิดว่ารถของ BGP ก็แรงแบบน่าสนใจเอามากๆ balance ของรถเหมือนจะไม่ค่อยมีปัญหา ส่วน TF109 ของ Toyota ก็เป็นรถอีกคันนึงที่หน้าจับตา ตั้งแต่วิ่งแซงรถในกลุ่มท้ายขึ้นมาอยู่ในกลุ่มกลางๆได้อย่างรวดเร็ว จนช่วงที่ SC ออกครั้งแรก รถ Toyota ก็ได้ลุ้นตำแหน่งพื้นที่ที่มีคะแนนเต็มตัวแล้ว รถ Red Bull ของ Vettel เองก็เร็วแบบน่าจับตามองเหมือนกัน ถึงแม้อีกคันของ Mark Webber จะวิ่งอยู่กลุ่มท้ายๆก็เหอะ (ต้องเข้า Pit เช่นเดียวกับ Hieldfeld) และเท่าที่สังเกตุดู R29 ของ Alnoso หนีรถของ Toyota ไม่ออกเลย แล้วก็มาโดนแซงช่วงท้ายๆ Race และนี่เป็นอีก Race นึงที่บอกว่าทีม Renault เครื่องร้อนช้า สนามนี้ไม่ได้แสดงประสิทธิภาพของรถออกมากนัก แต่ฝีมือของ Alonso ก็ยังพอไว้ใจได้ STR4 ของ Toro Rosso ยังวิ่งกันได้ตามมาตรฐาน และต้องยอมรับว่าฝีมือของเจ้า Sebastien Buemi ไม่ธรรมดา ทั้งไลน์ในการวิ่ง การบัง การชิงจังหวะ ขณะที่ Williams เอง ถือว่ารถปีค่อนข้างดูดี แต่สาเหตุที่อยู่ดีๆรถของ Rosberg ก็ช้าลงเฉยๆ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเกิดจากอะไร แต่เวลาที่ทำได้ในรอบ Practice นั่นของจริงแน่นอน ขณะที่ VJM02 ของ Force India ก็ดูท่าทางจะแข็งแกร่งขึ้น ถึงแม้ความเร็วของตัวรถจะยังพัฒนาขึ้นไม่มาก และดูเหมือน balance ของรถจะดีขึ้นด้วย ทางด้าน McLaren ทีมลูกพี่ของ Force India ยังคงต้องปวดหัวกันต่อไป เพราะรถไม่ได้เร็วมากอย่างที่ต้องการ นี่ถ้าไม่ได้ฝีมือของ Hamilton ล่ะก็ รับรองว่าสนามนี้ไม่มีแต้มแน่ๆ สนามหน้าไม่รู้ Heikki จะต้องเปลี่ยน Gear box รึเปล่า? ซึ่งนั่นหมายถึงตำแหน่ง Start ที่ต้องถอยลงไปอีกเหมือนกัน BMW ต้องบอกว่าดวงแตกสำหรับสนามนี้ ทั้งที่ Hiedfeld โดนชน และ Kubica ด้วย ตั้งแต่ตอนแรกแล้วที่ต้องหกหลบรถของ Barrichello ทำให้ออกสตาร์ทได้ไม่ค่อยดี และจังหวะที่เกิดอุบัติเหตุกับ Vettel ด้วย ซึ่งตอนนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมการแข็งขันสรุปออกมาแล้วว่า Kubica ไม่ได้ผิด เพราะแซงผ่านขึ้นไปได้แล้ว(ครึ่งคัน) ก็คงบอกได้คำเดียวว่าซวยจริงๆ ทั้งๆที่อย่างน้อยน่าจะได้ 8 แต้ม (รถเร็วกว่า Vettel อย่างชัดเจน) T-T ท่ามกลางข่าวร้ายของทีม ข่าวดีนิดๆก็คงจะเป็นประสิทธิภาพของ F1.09 ที่น่าจะอยู่ในอันดับ Top 3 ของรถ ณ ตอนนี้ ทั้งเรื่องความเร็วและสมรรถนะของรถ ตอนนี้หวังว่าเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นวันนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อทีมมากนักและเปลี่ยนพลังตรงนี้มาใช้ในการแข่ง Race หน้าให้ได้นะ มาพูดถึงรถของแชมป์กันอีกนิดนึงดีกว่า จะว่าไปแล้ว BGP 001 ก็คือ Honda RA109 ที่ Ross Brawn ออกแบบไว้นั่นเอง น่าคิดเหมือนกันว่า ถ้ายังเป็นเครื่อง V8 ของ Honda รถจะแรงแบบนี้มั้ย (หลายๆคนคงตอบว่าไม่ ) หรือเพราะแรงด้วยเครื่องยนต์ Mercedes?  แต่ส่วนตัวคิดว่าตัวรถเองน่าจะออกแบบได้ดีมากๆ ถึงได้เร็วขนาดนี้ แต่จากข่าวที่เคยอ่าน ปีที่แล้ว Honda พัฒนารถ 2 แบบแยกกันอย่างชัดเจนคือรถที่รองรับ KERS และรถที่ไม่รองรับ KERS ก็เลยไม่รู้ว่าเจ้า BGP คันนี้เป็นรถคันไหน แต่ที่แน่ๆ BGP โชคดีที่ได้เครื่องยนต์ Mercedes มาใส่ เพราะ Stability ในช่วงหลังๆนี้ ดีกว่าเครื่อง Ferrari ค่อนข้างชัดเจน ประเด็นของ KERS ถ้าวัดกันจากผลงานของสนามนี้ ยกแรกก็ต้องบอกว่า None-KERS ชนะไปก่อน ถ้าตามที่ยืนยันมามี Ferrari, McLaren, Renault และรถ 1 คันของ BMW ที่วิ่งด้วย KERS ไม่รู้ว่าท่าทีของทีมต่างๆต่อ KERS สนามหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ถ้ามองอีกมุม ก็ยังไม่พบข้อผิดพลาดที่มาจาก KERS โดยตรง (ยกเว้นเรื่องน้ำหนัก) เพียงแต่ผลที่คาดหวังว่าจะช่วย ยังไม่เห็นผลชัดเจนมากนัก มีจังหวะนึงที่ Hamilton แซง เหมือนใช้ปุ่ม Boot ของ KERS ด้วยล่ะ เท่ห์มาก เอิ๊กๆ แต่ที่แน่ๆ ลักษณะของแทรคก็น่าจะมีผลกับการทำงานของ KERS และแน่นอนว่า KERS น่าจะทำงานได้ดีในทางตรง ส่วนในโค้งยังไงก็น่าจะแพ้ ต้องคอยดูสนามหน้า ซึ่งมีทางตรงยาวๆถึง 2 ช่วง ว่าจะเป็นยังไง > Pit Stop ทุกทีมวิ่งกันแบบ 2 Pit ทุกทีม ทุกคัน Pit Work ของแต่ละทีมกับงานครั้งแรกยังเหมือนต้องปรับอะไรกันอีกนิดหน่อย Pit ของ BGP ยังน่าจะเป็นอีกจุดอ่อนหนึ่งของทีม ยังสู้กับทีมใหญ่ๆไม่ได้ แต่วันนี้รถแต่ละคนเติมน้ำมันกันเยอะมากในการเข้า Pit ครั้งแรก มีรถของ Fisichella ที่เกือบจะเลย Pit ของตัวเอง เจ้าตัวบอกว่าชินที่ Pit ของตัวเองอยู่อันดับสุดท้ายในปีที่แล้ว ก็เลยจะขับเลยซะง้าน Pit ของ McLaren และ BMWยังน่าจะเป็นทีมที่มาตรฐานสูงที่สุด ณ ตอนนี้ > Tire - * วันนี้ยังดูยางไม่ออกฮ่าๆๆ เลยไม่เขียนนะครับ (จริงๆก็ไม่ค่อยจะเขียนหรือเขียนไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว ) แต่เท่าที่อ่านๆดูแล้ว การเลือกใช้ส่วนใหญ่จะเลือกใช้ยาง Super Soft หลังจากเข้า Pit ครั้งที่ 2 และรู้สึกว่ารถ BMW วิ่งบนยาง Hard ได้น่ากลัวจริงๆ ส่วนเรื่องที่กังวลว่ารถที่ใช้เกียร์จะกินยางเปลืองขึ้น Race นี้ยังไม่เห็นผลอย่างอย่างชัดเจนนัก จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน - [ 29 มี.ค. 52 21:41:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 [Next Race Schedule] 2009 FORMULA 1 PETRONAS MALAYSIAN GRAND PRIX 03 - 05 April 2009 สำหรับสนามที่ 2 ของฤดูกาล จะเข้ามาแข่งในเอเชีย ที่มาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านเรานี่เอง ซึ่งก็จะแข่งกันในอาทิตย์หน้าที่จะถึงนี่เอง แต่ละทีมมีเวลาทำการบ้านแค่ 4 วัน ต้องคอยดูว่า Brawn GP จะยังคงแรงอย่างต่อเนื่องรึเปล่า? McLaren  ที่ถึงแม้วันนี้จะมีแต้ม แต่ต้องยอมรับว่าประสิทธิภาพของรถยังดีไม่เพียงพอ ยังมีการบ้านให้ทำอีกเยอะ เช่นเดียวกับ Ferrari  ที่ไม่รู้ว่าอาการรถของ Massa จะหนักแค่ไหน ขณะที่ BMW ที่ดูเหมือนเรื่องรถจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่นัก จะกลับมาได้รึเปล่ากับความผิดหวังที่เกิดขึ้นวันนี้ อีก 1 อาทิตย์เจอกันครับ [News] Universal Music rocks Formula 1&#8482; หรือ F1 ROCKS&#8482; เป็น Event ใหม่ที่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง F1 กับ Universal Music Group International ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเลย นอกจากแฟน F1 จะได้สนุกกับ F1 แล้วยังได้สนุกกับดนตรีร็อคอีกต่างหาก Reference The Official Formula 1 Website: http://www.formula1.com AutoSport: http://www.autosport.com BBC F1: http://news.bbc.co.uk/sport2/low/motorsport/formula_one <o=ioF    <o=ioF          <o=ioF      <o=ioF                             <o=ioF <o=ioF               <o=ioF จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน - [ 29 มี.ค. 52 21:42:01 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ปิดท้ายด้วยภาพฉลองชัยชนะอันสุดมหัศจรรย์ของทีม Brawn GP ขอแสดงความยินดีต่อ Ross Brawn, Jenson Button, Rubens Barrichello  และทีมงาน BGP ทุกๆคนด้วยครับ พวกคุณสุดยอดจริงๆ ขอบคุณที่เิข้ามาเติมเต็มความสนุกให้กับ F1 ปี 2009 อยากจะบอกว่า ส่วนตัวตามข่าวเรื่อง Honda มาตลอดเหมือนกัน ^^' จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน - [ 29 มี.ค. 52 21:46:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อ้อ..ยินดีกับคุณ SamuDi Knight มากๆด้วยครับ สำหรับชัยชนะของ BGP ส่วนตัวข้าน้อย ขอจรลีไปนอนช้ำใจก่อน ฝากไว้ก่อนเถอะ BGP คิคิ  :p จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน - [ 29 มี.ค. 52 21:54:57 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ลงชื่อก่อน  เดี๋ยวตกข่าว อ่านจบแล้วจะมาซี๊ด จากคุณ : lotteryKitchen - [ 29 มี.ค. 52 22:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ดูแล้วสงสาร vettlel เหลือเกิน อย่างน้อยน่าได้ที่สองหรือสาม  kubica ไม่น่าทำแบบนั้นเลย แต่รถทีม brawn วิ่งฉิวจริงๆ ทั้ง button และ barrichello แต่ยืนระยะได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า ต้องติดตามต่อไป... จากคุณ : Spirit Master - [ 29 มี.ค. 52 22:04:20 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณมากๆครับ วันนี้ไปเชงเม้ง กลับมาไม่ทัน อดดูเลย มาอ่านที่นี่พอแล้ว ข้อมูลครบเครื่องจริงๆ จากคุณ : il giallorossi - [ 29 มี.ค. 52 22:07:11 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เพิ่งดูรีรันจบสดๆร้อนๆเลยครับ....Amazing จริงๆครับ ใครจะไปเชื่อว่า Brawn debut แล้วจะได้ที่ 1 เลย ผมก็ไม่รู้ว่าเจ้า  KERS นี่มีส่วนมากขนาดไหน..แต่เราก็เคยเห็นจากที่ผ่านมาเวลาตัวรถตัวเครื่องเปลี่ยนแปลงอะไร(เช่นตอน traction control) ไอ้ที่เคยขับมาดีๆตื้อไปซะงั้น...ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ทั้ง fer ทั้ง เบนซ์ ไปหมด...ส่วนคนที่ไม่ได้เปลี่ยนนี่วิ่งฉิวเลย...แล้ว Massa, Raikonen นี่จะเจอปัญหาเดิมๆจากฤดูกาลที่แล้วรบกวนไม่เลิกนะ..โดยเฉพาะเครื่องที่เปราะตลอด แต่ผมว่านะ..ลองให้ผ่านไปอีก 2-3 สนาม ไม่แน่ไอ้เจ้า KERS นี่อาจจะแผลงฤทธิ์ก็ได้ ใครจะไปรู้...ไม่แน่ว่าหลังจากนั้น Jenson Button กับ Brawn อาจจะเข้าสู่โลกของความจริง (แต่ตอนนี้ต้องโกยไว้ให้ได้มากที่สุด) ป.ล. แต่เซ็ง lewis อ่ะ 18 มาที่ 4 เลยซะงั้น...ส่วน Kubica นี่บุญมีแต่กรรมบังตลอดเลยอ่ะ จขกท. เลยเซ็งเลย..อิอิ จากคุณ : Dr.Pepper - [ 29 มี.ค. 52 22:55:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ยินดีต้อนรับกลับสู่โลกของเอฟวันคร้าบ หลังจากว่างเว้นกันไปนาน ตอนแรกอุตส่าห์ลีอคโปรแกรมไม่ไปไหนกะว่าจะดูเต็มๆในเรซรกซักกะหน่อย แต่ดันมุระด่วนกลับมาดูไม่ทัน พอเปิดเนตเช็คผลถึงกับเซ็ง สนามแรกเฟอร์รารี่ไม่จบซักคัน ช่างเป็นไปด้ายยยยย..... พอมาดูเทปทีหลังก็ยิ่งเซ็งหนักกว่าเดิม เป็นการออกสตาร์ทที่แย่ครั้งนึงของเฟอร์รารี่เลยครับ เรซนี้ไม่รู้จะวิจารณ์อะไรดีครับ พอดีไม่ได้ดูถ่ายทอดสดด้วย เลยเก็บบรรยากาศไม่หมด แต่ผมก็แอบดีใจนะที่ตอนนี้เอฟวันมีการแข่งขันกันมากขึ้น ไม่ผูกขาดอยู่แค่สองค่ายแล้ว อย่างงี้ทั้งแชมป์ผู้ผลิตและแชมป์นักแข่งได้ลุ้นกันยาวๆครับ ไงสนามหน้าว่ากันใหม่ คงได้เห็นอะไรๆมากขึ้นจากหลายๆทีมครับ เพราะสนามนี้ก็เหมือนกับวัดอะไรกันซะมากกว่า ยังไม่ส่งของหนักลงไปกัน ไงสนามหน้าว่ากันใหม่คร้าบ ช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยว่างด้วย ต้องตามติดบอลไทยซะมากกว่า แต่เอฟวันไม่มีขาดตกบกพร่องแน่นอนครับ จากคุณ : GreaT DaneS - [ 29 มี.ค. 52 22:55:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เพิ่งดู F1 rerun จบ drama สุด ๆ ดูจบปุ๊บเข้าห้องศุภฯทันที กะว่ามีกระทู้คุณ หน่วยต่อสู้อากาศยาน แน่ะ จากคุณ : ชิวเทียน - [ 29 มี.ค. 52 22:59:00 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เฟอรารี่ เน่าอีกแล้วอ่ะ เซ็ง จากคุณ : VanHelsing - [ 30 มี.ค. 52 00:17:26 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เข้ามาดูด้วยคนค๊าบบบบบบ จากคุณ : Jariwat242 - [ 30 มี.ค. 52 00:19:01 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ใครก้อได้ที่ไม่ใช่แฮมิลตัน ไม่ชอบหน่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม คล้ายกับดู nfl แล้วไม่ชอบ greenbay ดู MLB แล้วไม่ชอบ Yankee ยังไงยังงั้น จากคุณ : jabbbman - [ 30 มี.ค. 52 00:24:36 ]

ความคิดเห็นที่ 17 (แฟนแมคลาเรนแอบเข้ามาดีใจเงียบๆ) แต่แอบเสียดายแทนนิโก้ด้วยนะ อยู่ๆเป็นไรไปไม่รู้ ตอนแรกนึกว่าจะมีสิทธิ์ลุ้นขึ้นโพเดียมซะหน่อย ขอบคุณคุณหน่วยต่อสู้เช่นเคยสำหรับรีวิวดีๆค่า ^^ จากคุณ : piscespair - [ 30 มี.ค. 52 08:26:58 ]

ความคิดเห็นที่ 18 (แฟนแมคลาเรนแอบเข้ามาดีใจเงียบๆ ด้วยคน น้องแฮม ขนาดสตาร์ตจากในพิตนะเนี่ย ) ก็เซ็งกะคนที่จะได้ขึ้นโพเดี้ยมอยู่แล้วอ่ะ จากคุณ : kukurichan - [ 30 มี.ค. 52 08:58:02 ]

ความคิดเห็นที่ 19 จริง ๆ แฮมนี่ฝีมือดีมาก แต่ที่คนไม่ชอบน่าจะมาจากนิสัยในการขับรถ ที่ดูจะดุดันเอาเรื่อง แซงเข้าว่าไม่สนใจว่าจะเป็นอะไรมั้ย เหมือนๆวัดใจกับคู่แข่งตอนนั้น ดูแล้วบางครั้งก็มันดี แต่บางครั้งอื้อหือ มันทำไปได้ ถ้าเค้าไม่ยอมนี่สอยกันกระจายเต็มสนาม หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้วไง หุหุ อ่านจบแล้วขอบคุณนะครับ เดี๋ยวจะรอดูรีรัน  ไม่เหงาแล้ว เสาร์-อาทิตย์นี้มีให้ดู และแก้มือ ไม่ต้องรอนาน จากคุณ : lotteryKitchen - [ 30 มี.ค. 52 09:22:24 ]

ความคิดเห็นที่ 20 #7 ขอบคุณนะครับ ผมเองก็เชียร์ฮอนด้ามาหลายปี (ผมเริ่มดูเอฟ 1 ประมาณปี 2002-2003 ช่วงชูมี่ยิ่งใหญ่เลย เฟอร์จบ 1-2 บ่อยสุดๆ) ปี 2006 ฮอนด้าผลงานดี ได้อันดับผู้ผลิต 3 หรือ 4 นี่แหละ มาปี 2007 กลับแย่ลงสุดๆ ปี 2008 นึกว่าดีขึ้นก็ไม่ดีขึ้น  แถมปิดซีซั่นฮอนด้าเลิกสนับสนุนอีก - - "  กว่าจะได้เจ้าของใหม่ นึกว่าต้องเชียร์เรด บุลล์ ซะแล้ว   เห็นการเทสหน้าหนาวแล้วก็เซอร์ไพรส์ผลงานจริงๆครับ ยิ่งผล Qualify ที่ออกมาได้ 1-2 ทั้ง 3 เซสชั่น สุโค่ยจริงๆ   แข่งจริงก็ได้ 1-2 เห็นทีมงานดีใจกัน เราก็น้ำตาซึมไปด้วย  เป็นนิยายแฟรี่เทล์จริงๆ แต่ผมก็ไม่หวังสูงขนาดแชมป์โลกหรอกครับ แค่ติดอันดับผู้ผลิต 1 ใน 5 ก็ดีแล้วนะ ลุ้นกันใหม่สนามหน้าครับ แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 52 09:51:28 จากคุณ : SamuDi Knight - [ 30 มี.ค. 52 09:49:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณสำหรับข้อมูล และบทความที่ละเอียดมาก ๆ ครับ ปล. แฟนแมคลาเรนดีใจเงียบ ๆ เช่นกัน จากคุณ : teaseah - [ 30 มี.ค. 52 10:08:03 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เซ็ง เฟอร์รารี่ที่สุด ไม่รู้ว่าตัดสินใจผิดที่เอาเจ้า KERS มาไว้หรือเปล่า ผ แต่ผมก็ไม่รู้นะว่าที่ช้าๆ นี่ เป็นเพราะเครื่องหรือ KERS ) นักแข่ง ขับเต็มที่เท่าที่เค้าทำได้ สังเกตุจากตอนสตาร์ท หรือ พยายามบังไม่ให้แซงง่ายๆ แต่รถ มันช้ากว่าชาวบ้านเขา เลยทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น พอฝืนมากๆ กลายเป็นว่า ไปไม่รอด เฮ้่อ.......... ดีใจกับ BGP ด้วยนะครับ จากคุณ : Sifer2002 - [ 30 มี.ค. 52 10:36:17 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สงสารเวทเทลมากกว่า ปีที่แล้วก็โดนแบบนี้ไปทีนึงแล้ว ผมว่าคูบิซ่าแกใจร้อนไป จังหวะยังแซงไม่ขาดเลย แต่ปาดเพื่อเข้าโค้งไปแล้ว เป็นใครก็เบรคไม่ทันหรอกครับ ผมยังงอยู่เลยว่าทำไมเวทเทลกลายเป็นคนผิด ปล.นี่ถ้าเปลี่ยนจากคูบิซ่าเป็นแฮม มีหวังแฮมโดนสับเละ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 30 มี.ค. 52 13:57:06 ]

ความคิดเห็นที่ 24 .....แอบมาจากรัชดา กระทู้สดสุดมัน พังกันไป3รอบ...... จริงๆ เวทเทลโดนปรับเพราะพยายามขับ3ล้อเข้าเส้นครับ กรรมการเรียกให้ออกแต่แกอยากเอาคะแนน(ใจสู้จริงๆ พับผ่าสิ) ตอนชนมันคือๆกันครับ คูบิก้าเร็วกว่าแรงกว่า เวทเทลก็ไม่นึกว่าคูบิกาจะบ้าบิ่นขนาดนั้น จริงๆถ้าใครสักคนถอนก็ขึ้นโพเดียมทั้งคู่แล้วละครับ.... ลุงรูเบนเลยรับส้มเข่งใหญ่ไปเต็มๆ ส่วนที่ซวยอีกรายก็ toyota นั่นละ เป็นโรคอะไรก็ไม่รู้ชอบทำแทคติกเล็กๆ(แล้วคนก็จับได้)ตั้งแต่สมัยWRC ยันF1ก็เล่นแปลกๆอีก...สตาร์ทในพิทแต่จะขึ้นโพเดียมเอา ถ้าทรูลี่ไม่โดนปรับนี่ได้ที่ 4-5 เชียวนะครับ หรูมากๆสำหรับรถออกสตร์ทจากพิทหนะ.....ถ้าไม่ดวงแตกผมว่า อันดับ3ผู้ผลิตไม่ยากเลยครับ แฮมนี่แสดงให้เห็นเลยครับ ว่าเก่งจริง สภาพรถนี่สู้ชาวบ้านไม่ได้(ถึงกับออกข่าวอยากย้ายก็ย้ายได้ตอนก่อนแข่ง) ยังทะลึ่งขึ้นโพเดียมได้ ปีนี้รถแมคลาเรนผมว่าเข้าขั้นแย่..เลยละครับ ทั้งๆที่รถแฮมไม่ได้ติดKERS เฟอร์รารี่ ออกแนวซวยมากกว่า รถหนะพอได้ เวลาไม่น่าเกลียด แต่ก็พังก่อน แล้วก็มีบ่นเรื่องยางพอสมควร ระบบKERS ผมว่าสุดท้าย น่าจะลงกับทุกทีมแน่ครับ ดูอย่างบางกฎก็เอื้อให้พอควร อย่างกฎใหม่ที่เปลื่ยนยางพร้อมเติมน้ำมันไม่ได้ ทำให้รถที่กินน้ำมันน้อยกว่าเปลืองเวลาพิทน้อยกว่า(ถ้าสนามแคบๆ แซงเฉพาะในพิทได้อย่างโมนาโคยิ่งได้เปรียบ) ก็ต้องวัดกันอีกว่า ระหว่างทำเครื่องให้มันกินน้อยลงกับKERSอันไหนมันจะเวริค์กว่า แล้วสนามนี้พิสูจน์2อย่าง อย่างแรก ต่อให้รถมันใหม่มันไม่ชิน ถ้าคนขับมันเก่ง มันก็ไม่เลวร้ายมาก ดูอย่างเวทเทิล แฮม อลองโซ่ ผมว่า3คนนี้น่าจะเขี้ยวกันไปยาวๆ มากกว่า2หนุ่มเฟอร์รารี่..ซึ่งผมว่า การกลับมาเกิดใหม่ของบัตตันที่มีทีมเมทดีๆอย่างลุงรูเบน ยังจะเหนือ2หนุ่มเฟอร์รารี่เลยครับ อีกอันคือ รอส บราวน์นั่นละ (ลองไปอ่านคอมเมนต์คุณA-Zในห้องรัชดาดูครับดีจริงๆ) ฝีมือทำรถระดับเทพจริงๆ ขนาดหาเครื่องกันจนหยดสุดท้ายแล้วได้เครื่องเมเซเดสที่ปีนี้ไม่เนียบนัก(ดูรถแฮมก็ได้) แต่ใครจะเชื่อว่าตัวรถกลับดีกว่าทีมใหญ่ทุกทีม....สนามแรกเปิดตัวมาเข้าที่1-2 เปิดตัวทีมแข่งใหม่เอี่ยมดีขนาดนี้ ไม่มีใครทำได้ดีกว่านี้แล้วละครับ... แต่เอ.....รอส บราวน์+รูเบน.........นี่มันเฟอร์รารี่ยุครุ่งเรืองชัดๆ (หรือบัตตันจะเป็นแชมป์โลก?) จากคุณ : Extrusso - [ 30 มี.ค. 52 16:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ^^' เริ่มรู้สึกแบบว่า kubica โดนเคืองเยอะเลย เอิ๊กๆ แต่ก็นะ รีบแซงเกินไป รออีก 2,3 โค้งก็ได้ เลยเจ๊งทั้งคู่ ขอบคุณมากๆนะครับที่เข้ามาคุยกันเยอะแยะเลย งานยุ่ง ไม่ค่อยได้แวะมาคุยในกระทู้เลย  แถมมีบางคนแอบมาจากรัชดาอีก อาย 555+ ความรู้มีนิดเดียว เอิ๊กๆ อีก 3-4 วันก็จะได้ลุ้น Race หน้าละ ส่วนตัวคิดว่าที่มาเลย์นี่ล่ะ จะได้วัดประสิทธิภาพของ KERS อย่างเต็มที่จริงๆ เพราะปกติที่นี่ ถ้าไม่พลาดกันเองและรถไม่เร็วกว่าจริงๆ จะแซงกันยาก  ไว้ยังไงเสาร์อาทิตย์หน้าลุ้นกันใหม่คร้าบ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน - [ 30 มี.ค. 52 17:22:53 ]