ความคิดเห็นที่ 1 ก็ระดับที่ทำให้แมน ยู ได้ 3 คะแนนล่ะครับ ไม่ได้สำคัญอะไรมากไปกว่านั้นเลย ที่สำคัญคือ ไอ้หนูมาเคด้าอย่าพึ่งเหลิง ต้องขยันฝึกซ้อม ทำตัวเป็นมืออาชีพต่อไปมากกว่า จากคุณ : Umiki - [ 7 เม.ย. 52 17:52:53 ]

ความคิดเห็นที่ 2 การลุ้นแชมป์วัดกันทั้งฤดูกาลครับ ประตูนี้ไม่ได้ตัดสินแชมป์ แต่ก็มีค่าพอที่จะทำให้แมนยูได้สามคะแนนที่ล้ำค่า เพื่อเพิ่มโอกาสในการคว้าแชมป์ จากคุณ : asiam - [ 7 เม.ย. 52 17:58:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สำคัญครับสำคัญสำหรับแค่ช่วงนี้เพราะมันเป็นการพลิกโมเมนตัมมาเข้าทางแมนยู แต่ฤดูกาลนี้ยังเหลืออีก8แมตซ์ทุแมตซ์สำคัญเท่ากันหมด ถ้าจะเปรียบประตูของมาเคด้าสำหรับผม เป็นเหมือนวัคซีนที่ฉีดเข้าป้องกันโรคได้อย่างทันท่วงทีมากกว่า ไม่ให้แมนยูต้องเข้าห้องฉุกเฉิน จากคุณ : กระบี่เก้าสําเนียง - [ 7 เม.ย. 52 18:05:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แต่ละลูกสำคัญแต่ล่ะแบบ เปรียบเทียบ ไม่ได้อะ บอกได้แค่ว่า เท่าเทียมทุกประตู จากคุณ : danya - [ 7 เม.ย. 52 18:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่าคล้ายๆลูกที่ บรู๊ซ ยิงเว้นส์เดย์ ปี92-93เลยครับ โดนนำอยู่ และก็ มาตีเสมอนาที เกือบท้าย มายิงประตูชัย ตอนทดเจ็บไปเกือบ6นาที ที่ว่าคล้ายๆตรงก่อนชนะเว้นส์เดย์ก็ตรง ฟอร์มเป๋เหมือนกัน 5 นัดหลังปีนั้นก่อนเจอเว้นส์เดย์ ชนะหนึ่ง แพ้ 1 เสมอ 3 ครับ ตอนนั้นเหลือประมาณ 5-6 นัดเองครับ หลังจากกระท่อนกระแท่นช่วงท้ายๆฤดูกาล 91-92 ที่เสียแชมป์ให้ลีดส์ ปี92-93ก็ทำท่าจะไปเหมือนปีก่อน แต่ได้จุดเปลี่ยนนัดเว้นส์เดย์ นี่แหละครับ ทำให้แมนยูชนะรวดอีก5 นัดที่เหลือ จนจบฤดูกาล แต่ถ้าจะว่าถึงประตูนี่ มีความสำคัญที่ได้3  แต้ม ธรรมดาก็คงไม่ใช่ซะทีเดียว แต่ผมว่าเป็นประตูที่ ทำให้นักเตะ และแฟนบอลรู้สึกมั่นใจ ทั้งจับต้องได้และไม่ได้ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเป๋รึเปล่า กลัวจะลามมาถึง วันเตะกับปอร์โต้ เพราะเรื่องขวัญกำลังใจนี่ค่อนข้างสำคัญ ครับ จากคุณ : จูล่งแห่งเสียงซาน - [ 7 เม.ย. 52 18:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 และผมว่าทุกลูกสำคัญเท่ากันและสำคัญไปคนละอย่างคือ 1 ลูกนั้นสำคัญในแง่ความเป็นอยู่ของผู้จัดการและความคาดหวัง ถ้าตกรอบ เฟอร์กูสันมีสิทธิคอขาด เพราะคุมทีมมา3-4ปี ไม่มีถ้วยเลยลูกนั้นสำคัญ กว่าตอน ลีมาร์ตินยิงนัดชิงมาก 2 ลูกนั้นก็อย่างที่ผมว่าไปคือความมั่นใจ 3 นั้นคือความสะใจที่ได้ดับเบิ้ลแชมป์และลบคำวิจารณ์ ของแฮนเซ่นได้อย่างชะงัก 4นั้นคือลูกมหัศจรรย์ และลูกต่อความหวังสามแชมป์ เหมือนลูกที่คาดไม่ถึงเหมือนเป็นลูกแห่งละครมากกว่า นำก่อน โดนตีเสมอ โดนใบแดง จูดโทษนาทีท้าย  แฟนแมนยูหวังจุดโทษแต่กิ๊กส์มาแบบ ฮีโร่ในหนัง เปะเลย 5ลูกนั้นคือลูกสานต่อที่จะสร้างตำนานที่ยิ่งใหญ่ คือ เหมือนหนังถ้าไม่มีลูกนี้ ก็เหมือนตายตอนจบ ทุกลูกสำคัญหมดครับแต่คนละแบบ เพราะถ้าไม่มีลูกใดลูกหนึ่งหรืออีกหลายลูกตั้งแต่อดีต ก็คงไม่มีตำนาน มาถึงทุกวันนี้ เกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของแมนยูไนเต็ดครับ แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 52 18:23:16 จากคุณ : จูล่งแห่งเสียงซาน - [ 7 เม.ย. 52 18:20:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อ่าน ๆ มา ยังสำคัญไม่เท่า choices ที่มีมาให้เลือกค่ะ มันยังไม่ขนาดนั้นอะ แบบว่า ถึงจะแพ้วิลล่าเมื่อวันอาทิตย์ก็ยังไม่ถึงกับอดแชมป์แน่นอน (แค่หวาดวิตกหนักกว่าเก่า) เพราะฉะนั้น ยังเทียบกันไม่ได้อะค่ะ จากคุณ : IrisGiRL - [ 7 เม.ย. 52 18:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มันยังไม่ถึงระดับนั้นอ่ะครับ เพราะถ้าเราเสมอนัดนี้เราก็ยังมีอีกเกมส์ในมืออ่ะครับ เกมส์ที่อ้างถึงทั้งหมดนั้นมันอยู่ในความกดดันระดับสุดยอดทั้งนั้นครับ เพราะผมได้ดูทุกนัดที่กล่าวมาครับผม เลยกล้าที่จะบอกคำนี้ได้ แก้ไขข้อความครับ แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 52 18:29:20 จากคุณ : Retrojazz60s - [ 7 เม.ย. 52 18:28:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มันเป็น turning point ที่สำคัญของฤดูกาลนี้แน่นอนครับ จากแพ้สองเกมส์และกำลังจะเสมออีกหนึ่งเกมส์ โมเมนตัมที่กำลังเข้าทางน้องหงส์ แต่ประตูนี้พลิกโมเมนตัมทั้งหมดโยนกลับไปที่น้องหงส์เหมือนเดิม ถีบน้องหงส์ลงจากบัลลังก์ และนำทีมกลับไปขึ้นนำจ่าฝูงได้อย่างน่าชื่นชม แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 52 18:47:56 จากคุณ : Skyline_CII - [ 7 เม.ย. 52 18:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ก็ต้องนับถือ และขอบคุณ ทุกๆ คห.ครับ ที่ได้ให้แง่คิดผมได้มากมาย คือ เหตุเกิดมาจากผมได้อ่านจากคอลัมน์ Same Same ของคุณตังกุย ในสตาร์ซอคเกอร์ ที่เขียนว่า คอลัมนิสต์ที่อังกฤษได้ให้ความสำคัญของลูกของกิโก้ในระดับ choice ที่ผม list มา จึงอดสงสัยไม่ได้  จึง post กระทู้นี้ขึ้นมา หวังว่า log in ท่านอื่นคงได้ post คห.ดีๆ ให้ผมได้อ่านต่ออีกนะครับ จากคุณ : จขกท (เลขาลิขิต) - [ 7 เม.ย. 52 18:48:41 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มันคือจุดเปลี่ยน เหวี่ยงให้ โมเมนตั้ม มาอยู่ที่เราครับ จากคุณ : Bierhoff - [ 7 เม.ย. 52 18:55:40 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คิดว่ายังไม่สำคัญในระดับที่ list มาครับ แต่ก็เป็นประตูที่ช่วยให้ความมั่นใจกลับคืนมา หลังหายไปนาน ปีนี้ยังเหลืออีกหลายนัด อาจมีประตูที่สำคัญกว่านี้ก็ได้ครับ จากคุณ : SamuDi Knight - [ 7 เม.ย. 52 18:56:28 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แค่เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้แมนฯยูได้แชมป์ แต่จะเป็นประตูแห่งความทรงจำของกองเชียร์แมนฯยู และ กองแช่งแมนฯยู จากคุณ : Coppergold - [ 7 เม.ย. 52 18:59:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ยังเทียบประตูที่ว่ามาไม่ได้เลยครับ แต่ถ้าจบซีซั่นนี้แมนยูประสบความสำเร็จได้แชมป์ลีกจริงๆ  ผู้คนจะต้องย้อนนึกถึงประตูของมาเคด้าแน่นอน ว่าเป็นประตูที่สำคัญที่สุดลูกหนึ่งในฤดูกาล จากคุณ : maezono_no7 - [ 7 เม.ย. 52 19:10:08 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยกับคุณ maezono_no7 ค่ะ.... ในเว็บสโมสร แฟนๆโหวตให้มาเชด้าเป็น Man Of The Match คะแนนนำโด่งงงงง จากคุณ : Nasty_Devil - [ 7 เม.ย. 52 19:27:01 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่า จขทก็เวอร์เกินไป ลูกนี้มันแค่ระดับพรีเมียร์ 1.นี่มันถึงขั้นต่อชีวิตเฟอร์กี้และเปลี่ยนชะตาสโมสร 2.แชมป์พรีเมียร์ครั้งแรกเลยนา 3.จริงๆลูกนี้ไม่สำคัญเท่าไรแหะแค่ FA อาจจะเท่าข้อนี้ก็ได้ แต่วันนั้นผมจำไม่ลืมเพราะเพื่อนผมมันไม่พูดกับผมกับเพื่อนอีกคนที่เชียร์แมนยูไปหนึ่งวันเต็มๆมันมาบอกทีหลังว่าเครียดเพราะหงส์แพ้ 4.ลูกนี้โคตรสวย แถมลิงโชว์ขนอีกตะหาก 5. แชมป์เปี้ยนลีค+Triple champ นะครับ เพราะลูกนี้ทำให้แมนยูกลายเป็นสโมสรที่รวยที่สุดในโลกในเวลาต่อมาอยู่หลายปี จากคุณ : Parachies - [ 7 เม.ย. 52 19:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่าสำคัญระดับที่ปีเตอร์ ชไมเคิ่ลเซฟจุดโทษเบิร์กแคมป์ทดเจ็บนาทีสุดท้ายอ่ะครับ จากคุณ : Doraemyung - [ 7 เม.ย. 52 20:09:05 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อ้างอิงจากคุณจูล่ง คห.5 คลิปประตูของ steve bruce ที่ทำให้แมนยูเป็นแชมป์พรีเมียร์ครับ แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 52 20:34:00 จากคุณ : โจผี - [ 7 เม.ย. 52 20:31:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สำคัญในระดับหนึ่งครับ.....................ไม่งงครับ ไม่งง 555+ สำคัญตรงที่ทำให้ทีมเรายังคงเป็นจ่าฝูง แต้มนำ 1 แต้ม เกมในมืออีก 1 ทำให้โมเมนตัมเหวี่ยงกลับมาทางเราอีกครั้ง ที่สำคัญที่สุดคือ ตอนนี้เรา"อาจ"ได้ซูเปอร์ซับมาสืบทอดตำนานน้าลูกอมก็เป็นได้ จากคุณ : nookieman - [ 7 เม.ย. 52 20:38:34 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แน่นอนอยู่แล้ว จากคุณ : petrified - [ 7 เม.ย. 52 22:09:03 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าได้แชมป์ลีก ผมว่าลูกกีโก้ช็อตนี้เทียบเท่าน้าบรู๊ซครับ นัดที่ว่า ฟังถ่ายทอดคลื่นสั้น BBC สดๆ บนรถทัวร์ กัดเล็บจนนิ้วแทบกุดแล้วล่ะครับ พอได้ลูกที่ 2 แทบแต๋วแตกบนรถเลยแหละ จากคุณ : bbiggy - [ 7 เม.ย. 52 22:15:26 ]

ความคิดเห็นที่ 22 พอดีผมเพิ่งเริ่มดูบอลและเชียร์แมนยู ตอนปี 95 เลยอยากจะขอให้พี่ๆเล่าเหตุการณ์การแย่งแชมป์ในปีแรกขอพรีเมียร์ลีกให้ฟังทีครับ อยากรู้ว่าความสำคัญของลูกบรูซมากขนาดไหน จากคุณ : Fantatista_10 - [ 7 เม.ย. 52 22:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คห.22 คุณ Fantatista_10 ครับ  ลูกของบรูซซี่ตอนทดเจ็บทำให้ผีแดงแซงชนะเว้นส์เดย์ 2-1 (เว้นส์เดย์นำไปก่อน 1-0 ผีแดงตีเสมอจากลูกโหม่งของบรูซซี่เช่นกัน ประมาณนาทีที่ 70) ลูกโหม่งที่ทำให้ชนะใน "ทดเวลาบาดเจ็บ" ทำให้ทั้งเฟอร์กี้และคิดด์ (ผู้ช่วยในตอนนั้น) ดีใจแทบคลั่ง (ดูได้จาก Clip ในคห.18 คุณโจผี post ไว้) ตอนนั้น วิลล่าบุกไปชนะโคเวนทรี่ยังนำเป็นจ่าฝูงอยู่ 1 คะแนน และเหลืออีก 3 หรือ 4 นัดนี่แหล่ะ ลูกของบรูซซี่ทำให้เรารักษาโมเมนตั้มไล่กดดันวิลล่าอย่างหนักหน่วงอยู่ได้ ความสำคัญมากๆ คือ ฤดูกาลนั้น ในที่สุด ผีแดงของเราได้เป็นแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปีครับ แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 52 22:42:09 จากคุณ : จขกท (เลขาลิขิต) - [ 7 เม.ย. 52 22:39:48 ]

ความคิดเห็นที่ 24 #23 ไม่นับนัดเว้นส์เดย์เหลืออีก 5 นัดครับ ฟอร์ม 5นัดก่อนหน้าเจอเว้นส์เดย์ แพ้ โอลแฮม 0-1 เสมอ วิลล่า1-1 เสมอ แมนซิตี้ 1-1 เสมอ อาเซน่อล 0-0 ชนะ นอริช 3-1 ฟอร์มกระท่อนกระแท่นเหมือน 91-92 เลยที่นำมาและแผ่วปลาย ลูกโขกของบรูซมีผลค่อนข้างมาก นอกจาก จะทำให้แมนยูมีความมั่นใจ และก็ไปทำลายขวัญของวิลล่าไปในตัว และมาชนะเว้นส์เดย์ 2-1 และมาชนะอีก5นัดรวดจนจบฤดูกาล ชนะ โคเวนทรี 1-0 ชนะ เชลซี3-0 ชนะ พาเลซ 2-0 ชนะแบล็คเบลิน 3-1 (ได้แชมป์) นัดนี่พัลลิสเตอร์ยิงฟรีคิกที่เพื่อนเขี่ยให้ด้วย แฮปปี้เลย ปีนั้นยิงลูกเดียวและนัดเเชมป์เลย ปิดฤดูกาลด้วย ช่วยให้ วิมเบอร์ดันรวย คนดูเต็มความจุ แมนยูชนะ 2-1 แต่ปีนั้นรู้สึกว่าแต้มนำวิลล่าเกือบ10 แต้มนะครับ เพราะวิลล่าก็โดนทีเด็ดโอลแฮมเหมือนกัน เฟอร์กูสันบอกว่าอยากส่งแชมป์เปญไปให้ทีมโอลแฮม เพื่อขอบคุณ ปล.แถมเกร็ดนิดว่า ปีนั้นออกตัวห่วยมาก แพ้ เชฟยูไนเต็ด 2-0 แพ้ เอฟเวอตันที่โอลแทร็ฟฟอร์ด 0-3 ไม่น่าเชื่อเลยครับกับสกอร์นี้ เสมอ อิปสวิท1-1 ผมก็เลยนึกถึงคำพูดอาโย่งว่าแมนยูใกล้เคียงแชมป์ที่สุดก็ปี 92 และก็ยังไม่ได้ ปีนั้นได้คันโตน่ามาตอนต้นเยื้องไปกลางฤดูกาล ประมาณนัดที่18-19นี่แหละ ตอนนั้น แมนยูอยู่ที่6ครับ ถ้าจำไม่ผิดลงมาเป็นสำรองนัดเจอแมนซิตี้ แทนกิ๊กส์มั้งครับ ทำประตูแรกก็อีก สองนัดต่อมายิงเชลซี ปีนั้นเว้นส์เดย์คงเซ้งเพราะ ออกไปเยือนก็โดนบรูซโขกทดเจ็บแพ้แบบเจ็บใจก่อนหน้านั้นเล่นในบ้าน นำ3-0 กลับโดนตีเสมอ 3-3 อีก แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 52 23:19:03 จากคุณ : จูล่งแห่งเสียงซาน - [ 7 เม.ย. 52 23:08:14 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เพิ่มเติมคห.23 คุณจูล่ง เพื่อความสมบูรณ์ นัดสุดท้าย ถ้าแมนยูชนะแบล็คเบิร์น ผลของวิลล่ากับโอลด์แฮมก็ไม่สำคัญ แมนยูเป็นแชมป์พรีเมียร์แน่ๆ แต่วิลล่าแพ้โอลด์แฮมในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภา  ทำให้ผีแดงครองแชมป์ไปโดยปริยาย ทำให้เฟอร์กี้และพลพรรคผีแดงฉลองจนถึงเช้า เมื่อถึงวันจันทร์ที่ 3 พฤศภา 1993 ผีแดงชนะแบล็คเบิร์น 3-1 ฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกทีมแรกกันข้ามวันข้ามคืน (จำได้คล้ายๆ กับว่า นักเตะคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า เกมนั้นชนะไปอย่างงงๆ เพราะไปรวมตัวกันที่บ้านนักเตะคนหนึ่ง (น่าจะเป็นบรูซซี่กระมัง) เพราะดูเกมโอลด์แฮมพิชิตวิลล่า แล้วฉลองกันถึงเช้า) จากคุณ : จขกท (เลขาลิขิต) - [ 7 เม.ย. 52 23:29:15 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กระทู้เช็คอายุ จากคุณ : Zemamaru - [ 7 เม.ย. 52 23:54:14 ]

ความคิดเห็นที่ 27 5555 คห.26 คุณ Zemamaru ครับ  ผมก็ลืมไปว่า คนที่จะจำเหตุการณ์ที่ 1 มาร์ค โรบิน ยิงต่ออายุเฟอร์กี้ กับ เหตุการณ์ที่ 2 บรูซซี่โหม่งให้ชนะเว้นส์เดย์ และแซงวิลล่าเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 26 ปี ต้องเป็นแฟนผี และ แฟนบอลตัวยง ตั้งแต่ 20 ปีก่อน กระทู้เช็คอายุคนโหวตข้อ 1 และข้อ 2 จริงๆ ด้วย (13 จาก 29 คน ตั้ง 45% แน่ะ)  ... แฮ่ จากคุณ : จขกท (เลขาลิขิต) - [ 8 เม.ย. 52 00:11:58 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เอาเป็นลูกกิ๊กส์โซโล่ละกัน จากคุณ : ParisHolic - [ 8 เม.ย. 52 00:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เป็นจิ๊กซอหนึ่งชิ้นของภาพที่"ยิ่งใหญ่" จากคุณ : NJ_kung - [ 8 เม.ย. 52 09:58:49 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ...ตามมาซึมซับภาพเดิมๆ ในอดีตที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจครับ... คิดเหมือนคุณเลขาลิขิต และคุณจูล่งแห่งเหลียงซานเลยอ่ะ... หรือเพราะเราวัยเดียวกัน 555 ปล...แอบคิดเหมือนกันครับว่า กระทู้เช็คอายุอีกแล้ว 555 จากคุณ : pen1เด็กผี - [ 8 เม.ย. 52 11:03:08 ]