Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    จุดเปลี่ยนฟาดแข้งไทย ถึงเวลาเทียบชั้นบอลระดับโลก !?

    - ปรี๊ดดด ได้เวลาบอลอาชีพไทยคึกคัก หลังติดอยู่ก้นเหวนานหลายปี
          - บุกรังชลบุรี ล้วงโมเดลพัฒนาทีม พร้อมแผนขยับขึ้นชั้นแนวหน้าเอเชีย
          - เปิดบ่อนพนันถูกกฎหมาย ช่วยยกระดับวงการลูกหนังบ้านเราจริงหรือ
          - จับตาแนวทางสร้างทีม หาเงิน ของ 16 ทีมในไทยพรีเมียร์ลีก
         
          ข่าวดึงพระเอก “ศรราม เทพพิทักษ์” เป็นนักเตะลูกทัพฟ้า หรือข่าวจับนักร้องสำเนียงใต้ อย่าง “บ่าววี” มาร่วมบรรเลงเพลงแข้งกับทีม “สมุทรสงคราม” รวมถึงข่าวดึงโค้ชจากบราซิล เข้าร่วมทีมจุฬา ยูไนเต็ด และอื่นๆ อีกมาก เป็นการใช้ “คนดัง” มาเป็นแม่เหล็ก เรียกคนดู เรียกสปอนเซอร์ เป็นความเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก ชนิดที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในวงการลูกหนังเมืองไทย
         
          หรือนี่คือ “จุดเปลี่ยน” ที่จะทำให้วงการลูกหนังบ้านเราก้าวขึ้นไปอีกชั้นเทียบเคียงกับ เจ-ลีก ของญี่ปุ่น หรือ เค-ลีก แห่งแดนอารีดัง ก่อนจะก้าวไปเทียบชั้นลีกดังจากแดนยุโรป
         
          ความคลั่งไคล้ในกีฬาฟุตบอลของคนไทย เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกว่า อยู่ในระดับแนวหน้า มีไม่กี่ประเทศที่จะสามารถรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลอิงลิช พรีเมียร์ ลีก ครบทุกคู่ ทุกแมทช์ ทุกประตู มากกว่าคนอังกฤษเสียอีก มีไม่กี่ประเทศในโลกที่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลลีกดังทั่ว ยุโรป ทั้งอังกฤษ อิตาลี สเปน เยอรมัน ฝรั่งเศส ฮอลแลนด์ และสกอตแลนด์ เป็นประจำทุกสัปดาห์ และคงมีไม่กี่ประเทศในโลกที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนจากการพนันฟุตบอลต่างประเทศ มากกว่าประเทศไทย แต่สิ่งเหล่านี้กลับไม่สามารถสะท้อนกลับมาสู่ความก้าวหน้าของวงการฟุตบอลใน ประเทศได้เลย
         
          ย้อนกลับไปในยุคที่ฟุตบอลในทวีปเอเชียยังคงมีระบบการแข่งขันในแบบสมัครเล่น เริ่มต้นกว่าศตวรรษ ในปี พ.ศ.2449 การแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศของไทย เกิดการแข่งขันในชื่อฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน 4 ถ้วย หรือ 4 ดิวิชั่น ตั้งแต่ถ้วย ก จนถึงถ้วย ง จัดการแข่งขันให้ทุกทีมในแต่ละถ้วยพบกันหมดที่สนามส่วนกลางอย่าง สนามศุภชลาศัย และสนามเทพหัสดิน
         
          จวบจนเมื่อราว 20 ปีที่ผ่านมา วงการฟุตบอลในทวีปเอเชียเริ่มมีการพัฒนาสู่ระบบลีกอาชีพ นำร่องโดย เคลีก เกาหลีใต้ ในปี พ.ศ.2526 และ เจลีก ญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2535 ติดเครื่องให้กับวงการฟุตบอลของทั้ง 2 ประเทศ ที่เคยมีฝีเท้าอยู่ในระดับเดียวกันประเทศในภูมิภาคอาเชียน ทั้งมาเลเซีย พม่า หรือประเทศไทย ก้าวล้ำหน้าไปอยู่ในระดับโลก ทั้งระดับฝีเท้าการเล่น และความสามารถในการบริหารจัดการแข่งขัน จนสามารถจัดมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลก ในปี 2545 แต่การเติบโตของวงการฟุตบอลในประเทศไทย กลับอยู่ที่ความตื่นตัวกับการแข่งขันฟุตบอลลีกในยุโรปมากกว่า
         
          ปี พ.ศ.2539 วิจิตร เกตุแก้ว นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในยุคนั้น ประกาศปรับรูปแบบการแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นลีกอาชีพ มาทีมที่แข่งขันอยู่ในถ้วย ก มาแข่งขันระบบลีก ในชื่อ ไทยลีก โดยหาสปอนเซอร์มาช่วยสนับสนุนเงินรางวัล ซึ่งในช่วง 7 ปีแรก ได้รับความสนใจจากจอห์นนี่ วอล์กเกอร์, คาลเท็กซ์ และเอไอเอส เป็นผู้สนับสนุนหลัก
         
          การเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้น ยังไม่สามารถสร้างฟุตบอลลีกอาชีพให้เกิดขึ้นในเมืองไทยได้ โครงสร้างทีมฟุตบอลที่เข้าแข่งขันที่ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมในรายการฟุตบอล ถ้วย ก กล่าวคือ ทั้งหมดเป็นทีมที่มาจากหน่วยงานราชการ กองทัพ และบริษัทเอกชน ซึ่งมีกองเชียร์เพียงแค่ข้าราชการ หรือบุคลากรในองค์กรนั้นๆ การแข่งขันเกือบทุกแมทช์จึงมีเพียงแค่ผู้ชมที่ต้องการชมฟุตบอลอย่างแท้จริง หลักสิบ หลักร้อยคน ไม่มีความผูกพันกับสโมสรใดๆ จนบางครั้งต้องเปิดให้ชมฟรี ไม่สามารถสร้างรายได้จากการจัดการแข่งขัน อีกทั้งทีมที่เข้าแข่งขันเกือบทั้งหมดไม่มีสนามฟุตบอลที่มีมาตรฐาน เป็นของตนเอง ท้ายที่สุดก็ต้องกลับมาจัดการแข่งขันที่สนามกลางในกรุงเทพฯ ทั้งสนามศุภชลาสัย เทพหัสดิน หรือไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง กลายเป็นฟุตบอลลีกพันธุ์ทางที่มีแต่ผู้เล่น ไม่มีผู้ชม
         
          ในอีกด้าน ช่วงปี พ.ศ.2542 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น จุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ และวรวีร์ มะ(กระผม)ดี เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในสมัยนั้น เห็นพ้องกันว่า แนวทางการสร้างฟุตบอลลีกอาชีพให้เกิดขึ้นได้ ควรต้องเริ่มจากทีมที่เกิดจากท้องถิ่น โดยเฉพาะทีมจากจังหวัด เหมือนดังเช่นทีมฟุตบอลในลีกที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ ทั้งอิงลิช พรีเมียร์ลีก, ลาลีกา ของสเปน หรือแม้กระทั่งเจลีก ญี่ปุ่น จึงมอบหมายให้การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโครงการลีกอาชีพนำร่อง โปรวิเชียลลีก และเปลี่ยนชื่อเป็น โปรเฟสชันนอลลีกในเวลาต่อมา โดยเชิญทีมจากจังหวัดต่างๆ เข้าแข่งขันในระบบลีก ความสำเร็จในด้านผู้ชมเริ่มมีมากขึ้น เมื่อเกิดกองเชียร์ทีมบ้านเกิด เข้าเชียร์ทีมจังหวัดของตนจนเต็มในบางสนาม เมื่อเป็นเจ้าบ้าน และยกขบวนตามไปเชียร์ทุกครั้งที่เป็นทีมเยือนอีกจำนวนหนึ่ง แต่ความสำเร็จในด้านคุณภาพยังไม่เทียบเท่ารายการไทยลีก โปรเฟสชันนอลลีกจึงกลายเป็นลีกรอง ทั้งที่มีโครงสร้างลีกเหมาะสมกว่า
         
          จวบจนถึงปี 2550 ความร่วมมือของ 3 รัฐมนตรีที่มีใจรักกีฬาในรัฐบาลยุคนั้น สุวัจน์ ลิปตพัภลภ, ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ และสนธยา คุณปลื้ม ที่มีความพยายามรวมลีกทั้ง 2 เข้าด้วยกัน นำจุดเด่นของลีกทั้ง 2 ที่ฟากหนึ่งมีนักฟุตบอลระดับแนวหน้าของประเทศ ขณะที่อีกฟากมีทัพกองเชียร์จำนวนมหาศาล ประสานเข้าด้วยกัน วางรูปแบบการแข่งขันให้เป็นระบบลีกอาชีพอย่างแท้จริง มีระบบเหย้า-เยือน ก็เกิดขึ้นในชื่อ ไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก
         
          “เราระดมความคิดจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากโปรวิเชียลลีก, ไทยลีก, สื่อกีฬา มาร่วมกัน นำโมเดลฟุตบอลลีกของญี่ปุ่น, เกาหลี, อังกฤษ แม้กระทั่งบราซิล มาดู เพื่อหาว่าประเทศไทยจะใช้แบบไหน นำมาปรับรวมลีก ผลักให้โปรวิเชียลลีก มารวมกับไทยลีก และผลักให้ทีมไทยลีกไปรวมกับทีมจังหวัด ทำให้ได้แฟนคลับ ได้รณรงค์ให้คนมาดู ตรงนี้เป็นการสร้างให้เกิดบรรทัดฐาน เมื่อก่อนไทยลีก คนจะมองเป็น กทม.ลีก เพราะจะมีแต่สโมสรในกรุงเทพฯมาเตะกันเอง ถ้าเราจะทำฟุตบอลให้ประสบความสำเร็จ สร้างอาชีพให้เกิดขึ้นให้ได้ ต้องมีเรื่องท้องถิ่นเข้ามาร่วมด้วย อย่างเวียดนาม ทีมท้องถิ่นทั้งนั้น หรือบอลอังกฤษ ที่มาจากแต่ละเมือง ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ หรือนิวคาสเซิล แล้วจะมีแฟนของเขา แต่ถ้าตราบใดยังเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานเขาจะมาเชียร์เหมือนบ้านเกิดเขาหรือ” สนธยา คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาจังหวัดชลบุรี กล่าว
         
          โครงสร้างของการแข่งขันไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก แบ่งออกเป็น 3 ดิวิชั่น ประกอบด้วย ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก, ดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จะทำให้การสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐเป็นเวลา 5 ปี ๆ ละราว 60-70 ล้านบาท ผ่านการจัดการแข่งขันไป 2 ปีแรก ความนิยมในด้านผู้ชมเริ่มเพิ่มมากขึ้น ทีมจากจังหวัดมีการยกระดับการเล่นที่ทัดเทียมกับทีมสโมสร แต่เมื่อมองภาพรวม คุณภาพก็ยังไม่สามารถทัดเทียมกับลีกอาชีพของเพื่อนบ้านในทวีปเอเชียด้วยกัน นำมาสู่การยกเครื่องฟุตบอลลีกอาชีพของไทยอีกครั้งในปีนี้

     
     

    จากคุณ : Drcoa - [ 16 เม.ย. 52 22:46:29 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom