ความคิดเห็นที่ 1 กองเชียร์ลิเวอร์พูลตีกับกองเชียร์จูเวนตัส (ยูเวนตุสในปัจจุบัน) ที่สนามเฮเซลล์สเตเดียม เบลเยี่ยม กองเชียร์จูเวนตัสเสียชีวิต 39 ศพ ตอนนั้นกองเชียร์อังกฤษขึ้นชื่อมากเรื่องฮูลิแกน (กองเชียร์อันธพาล) เลยโดนแบนไป 5 ปี ส่วนลิเวอร์พูล โดน 6 ปี อ่านจากหนังสือครับ เกิดไม่ทัน รอลุงเท่ง หรือป๋าหงบใจมาตอบอีกที เพราะรุ่นนั้นน่าจะทันดู จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 27 เม.ย. 52 21:22:04 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จำได้ครับ  พอดีนัดชิง  ยูโรเปี้ยนคัพ  (แชมเปี้ยนลีค นั่นแหละ)  ลิเวอร์พูล(ทีมเราเอง  เจอกับยูเวนตุส (ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นยูเวยังไม่เคยได้แชมป์มาก่อนเลย โดยก่อนหน้านั้นเป็นยุคยิ่งใหญ่ของอังกฤษ  โดยมี ลิเวอร์ ชูโรง  อัดไป 4 สมัย  ฟอร์เรส  ของกุนซือปากตระไกร ชิงไป 2  ยังมีวิลล่า  ที่ปีเตอร์ วิด ยิงประตูชัยไปอีก สมัย พอปีนั้น (ปี 8 ปลายๆ)  ชิงกับจูฟ  ซึ่งหงส์หวังแชมป์สมัยที่  5  แต่ให้โชคดี  ฮูลิแกนหงส์ดันก่อร่างสร้างชื่อเสีย  ด้วยการบุกไปตีแฟนยูเวตายเสียหลายคน จนในที่สุด  ยูฟ่าเลยประกาศ แบนทีมจากอังกฤษไปซะ 5 ปี  อันทำให้พอกลับมาอีกครั้ง  ทีมจากอังกฤษเลยล้าหลัง  จนต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะกลับมาครองพิภพอีกครั้ง ส่วนนัดชิงนัดนั้น  มีข่าวลือว่าเนื่องจากแฟนยูเวตายไปหลาย  เลยต้องขอให้หงส์ อ่อย  เพื่อให้ยูเวชนะ  จะได้เป็นการปลอบใจแฟนม้าลาย อันข่าวลือนี้ก็มาก่อนจะแข่งด้วย  ซึ่งหงส์ก็แพ้จริง  แต่เท็จจริงเป็นไงไม่รู้  เอาเป็นว่าแพ้จากฝีมือดีกว่า แล้วก็หลังจากนัดนั้น  เคนนี่  เดลกลิช  ยอดกุนซือผู้สานต่อความยิ่งใหญ่แห่งแอนฟิลด์ ประกาศลาออก  รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  และเป็นการสิ้นสุดยุคยิ่งใหญ่ของลิเวอร์พูล  และจบยุคของระบบบูธรูมสต๊าฟด้วย จากคุณ : Jack o'lanturn - [ 27 เม.ย. 52 21:29:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เข้่ามาฮา (แม้จะเป็นเรื่องเศร้า) ตรง > > จูเวนตัส (ยูเวนตุสในปัจจุบัน) นี่แหละ ตอนนี้ก็ยังเหลือ ผีกาก้า ที่ยังไม่ยอมเปลี่ยนเป็น ผีคาค่า กับ รีล แมดริด ที่ยังไง ๆ ก็ไม่ยอมเปลี่ยนชื่อ เป็นรีอัล แมดริด เสียที จากคุณ : CameronRevenge - [ 27 เม.ย. 52 21:31:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คิดเล่นๆ ถ้าไม่โดนแบนช่วงนั้น  อังกฤษจะล้ำหน้าเพื่อนบ้านขนาดไหนเนี่ย คุยเรื่องสโมสรนะ ไม่ใช่ทีมชาติ จากคุณ : ของเลียนแบบ - [ 27 เม.ย. 52 21:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอาความจริงนะ แฟนหงส์น่าจะรับความจริงกันได้ กรณีนี้ไม่น่าจะตีกันเพราะฝั่งลิเวอร์พูลไม่มีใครตาย แต่เป็นแฟนลิเวอร์พูลไปก่อเรื่องฝ่ายเดียวมากกว่า  ถ้าตีกันต้องโดนแบนทั้งคู่อยู่แล้ว   ยุคนั้นพวกฮูลิแกน กำลังรุ่งในสนามบอลครับ แล้วสิ่งที่ผิดอีกอย่างนึงก็คือ สนามเฮย์เซลดันไปให้แฟนบอลสองทีมอยู่ติดกันมีแค่รั้วตะข่ายกั้น พวกแฟนลิเวอร์พูลเลยพังรั้วและปีนลงมา  พวกแฟนยูเว่เลยวิ่งหนีกันจ้าละหวั่นเหยียบกันตาย จากคุณ : Mica - [ 27 เม.ย. 52 21:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แก้ คห 2 ผิดแล้วครับ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลคนที่ลาออกหลังจากวันนั้นคือ โจ เฟแกน อดีตมือขวาของบ๊อบ เพสลีย์ต่างหาก และทีมก็แต่งตั้งเคนนี่ เดลกลิช เป็นผู้เล่น/ผู้จัดการทีมต่อจากนั้น ซึ่งเดลกลิชก็สานงานต่อให้ทีมได้แชมป์ลีกอีกสามสมัย ก่อนจะลาออกเมื่อปลายฤดูกาล 1990-1 ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นหลังจากการพาทีมแพ้เอฟเวอร์ตันตกรอบเอฟเอคัพ ทีมจึงให้รอนนี่ มอแรน คุมชั่วคราวก่อนจะไปดึงแกรม ซูเนสส์ อดีตกัปตันทีมซึ่งกำลังคุมทีมเรนเจอร์มาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ แล้วก็เป็นยุคของซูเนสส์นี่เองที่ทีมตกต่ำยังไม่ได้แชมป์ลีกมาจนถึงทุกวันนี้ จากคุณ : เกียรตินำ - [ 27 เม.ย. 52 21:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อันนี้วีดีโอลิงค์ครับ http://www.dailymotion.com/relevance/search/juventus/video/x3vv6x_heysel-disaster-liverpool-v-juventu_sport จากคุณ : Mica - [ 27 เม.ย. 52 21:54:46 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ส่วนนัดชิงนัดนั้น  มีข่าวลือว่าเนื่องจากแฟนยูเวตายไปหลาย  เลยต้องขอให้หงส์ อ่อย  เพื่อให้ยูเวชนะ  จะได้เป็นการปลอบใจแฟนม้าลาย อันข่าวลือนี้ก็มาก่อนจะแข่งด้วย  ซึ่งหงส์ก็แพ้จริง  แต่เท็จจริงเป็นไงไม่รู้  เอาเป็นว่าแพ้จากฝีมือดีกว่า .................................................................... มันจะไปลือก่อนแข่งได้ยังไงครับว่าจะปลอบขวัญแฟนยูเว่ เพราะมันตีกันในสนามตอนจะเริ่มนิดเดียว แต่เรื่องกำหนดให้ยูเว่ชนะ หรือเปล่าไม่รู้เพียงแต่ว่าทั้งสองทีมไม่มีอารมณ์จะลงเตะ โดยเฉพาะลิเวอร์พูลที่รู้เลยว่าจะต้องโดนอะไรบ้างหลังจากแมทช์นั้น ส่วนประตูชัย จริงๆแล้วเป็นลูกปัญหา เพราะแกรี่ จิลเลสพีทำฟาวส์นอกกรอบ แต่กรรมการให้จุดโทษ ซึ่งพลาตินี่อัดเข้าไป แต่ฝั่งลิเวอร์พูลก็ไม่มีใครประท้วง หนังสือพิมพ์ก็เล่นแต่ข่าวคนตาย ไม่ค่อยสนใจรายงานการแข่งขันแล้ว หลังจบแมทช์ โจเฟแกนทำใจกับเหตุการณ์ไม่ได้เลยประกาศวางมือ  และยูฟ่าลงโทษทีมอังกฤษทั้งหมด5ปี ทั้งๆที่ตั้งแต่ปี77 เป็นต้นมาถึงปี84 แชมป์ยูโรเปี้ยนคัพเป็นทีมอังกฤษได้ติดต่อกัน  และปี85 นั้นถ้าจำไม่ผิดก็เกือบกวาดหมดเนื่องจากเอฟเวอร์ตันได้คัพวินเนอร์คัพ สเปอร์ได้ยูฟ่าคัพ(อันนี้ไม่ชัวร์นะ84หรือ85)  เหลือลิเวอร์พูลลงเตะกับยูเว่ในรอบชิงยูโรเปี้ยนคัพ จากคุณ : Mica - [ 27 เม.ย. 52 22:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ความคิดเห็นที่ 4 คิดเล่นๆ ถ้าไม่โดนแบนช่วงนั้น  อังกฤษจะล้ำหน้าเพื่อนบ้านขนาดไหนเนี่ย คุยเรื่องสโมสรนะ ไม่ใช่ทีมชาติ จากคุณ : ของเลียนแบบ . . . ผมว่า ถ้าคิดกันเฉพาะช่วงนั้น - ไม่ ยุคนั้น เป็นยุคเริ่มต้นฟองสบู่ค่าตัวนักเตะ โดยลีกอิตาลี และสเปน ทุ่มซื้อนักเตะระดับโลก ด้วยค่าตัวมหาศาล ขณะที่ทางลีกอังกฤษ และ เยอรมัน ยังอนุรักษ์นิยม ใช้นักเตะชาติตัวเองเป็นหลัก ถ้าเป็นนักเตะต่างชาติ ก็ยังไม่ใช่นักเตะระดับโลก ค่าตัวมหาศาล อังกฤษ มาถีบตัวเองขึ้นในเรื่องทุ่มซื้อนักเตะระดับโลก ราคาแพง หลังจากเปลี่ยนมาใช้ชื่อพรีเมียร์ลีกนี่เอง โดยผมยังจำได้ดีว่า นักเตะ "ระดับโลก" คนแรกที่เข้ามาเล่นในเกาะอังกฤษ สร้างความฮือฮามาก คือ รุด กุลลิท ซึ่งตอนนั้น ใกล้ปลดระวางเต็มทีแล้ว จากคุณ : CameronRevenge - [ 27 เม.ย. 52 22:07:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 "ข่าวลือ"เกิดขึ้นได้เสมอ  จะเพื่ออะไรก็ไม่รู้   แต่ตอนนั้น ทั้งนักเตะจูเวนตัส(ยูเวนตุส) และลิเวอร์พูลไม่มีใครอยากแข่งแล้ว  คนตายในสนามอย่างนั้น ใครยังอยากแข่งก็ใจแข็งมาก มิเชล พลาตินี(นักฟุตบอลเอกของยูเว่ยุคนั้น  คนเดียวกับ ประธานยูฟ่ายุคนี้นั่นเอง)   เขาบอกเลยว่าเศร้า ไม่มีกำลังใจจะแข่ง ไม่อยากแข่ง แต่ทางผู้จัดบอกให้แข่งก็ต้องแข่ง ก็ขอขอบคุณ คุณคห.ที่ 2 ที่ยังให้ข้อสรุปผลอย่างเป็นกลาง ป.ล. เป็นแฟนม้าลายเบียงโคเนรี  ทันดูยุคนั้น แต่ความทรงจำมีแต่เรื่องคน ตายเหลืออยู่ในสมอง !!!! จากคุณ : เขามะกอก - [ 27 เม.ย. 52 22:10:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ทีมจากอังกฤษช่วงนั้น ไม่ต้องมีต่างชาตฺ ก้อไม่ต่างจากตอนนี้ ที่ยังงัยก้อจะมีสักทีมได้แชมป์ หรือ เข้าชิงแน่ๆ และ หงส์แดงช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมชอบการเล่นของหงส์ที่สุด ยุคนั้นยังคิดเลยว่าจะมีทีมไหนล้มหงส์ได้ จากคุณ : loveengland - [ 27 เม.ย. 52 22:12:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ที่#8 คุณMica   แชมป์ยูฟ่าคัพ85 คือรีลมาดริดครับ  สเปอร์ได้ปี 84 จากคุณ : เเมนเอล - [ 27 เม.ย. 52 22:16:19 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ส่วนเอฟเวอร์ตัน ถ้าได้เข้าไปเล่นยูโรเปี้ยนคัพในปี86 ก็น่าจะมีลุ้นล่ะครับ เพราะตั้งแต่ปี77 ถึงปี 84 แชมป์ของอังกฤษก็คือแชมป์ยุโรป     อีกประการนึงที่ได้เปรียบก็คืออังกฤษในยุคนั้นไม่ถือว่าไอร์แลนด์เหนือ ไอร์แลนด์ เวลส์ และสก๊อตแลนด์ เป็นตัวต่างชาตินะครับ  และยุคนั้นนักเตะจากทีมพวกนี้ไม่ใช่หมูแบบปัจจุบันแต่เก่งทุกชาติครับ ไปเล่นฟุตบอลโลกและยุโรปรอบสุดท้ายได้บ่อยๆ  ลิเวอร์พูลเนี่ยมีนักเตะอังกฤษจริงๆไม่กี่คนเลยครับ ส่วนมากเป็นสก๊อตและไอริช ซึ่งเก่งๆทั้งนั้น ( เท่าที่จำได้ก็มี แฮนเซ่น ลอเรนสัน นิโคล วีแลน ดัลกลิซ วอร์ค  รัช  เบลกิน จิเลสพี ซูเนส ) ในขณะที่ประเทศอื่น มีนักเตะต่างชาติได้สองคน  เสียเปรียบเห็นๆ   พออังกฤษพ้นโทษแบน  ทีนี้ยูฟ่าออกกฎให้นับพวก ไอริช เวลส์ สก๊อต เป็นตัวต่างชาติด้วย ทำให้ทีมอังกฤษจัดทีมยากเพราะนักเตะพวกนี้ในบอลลีกไม่นับเป็นตัวต่างชาติ และส่งผลให้ต่อมานักเตะอังกฤษมีค่าตัวพุ่งขี้นกระฉูดในภายหลัง แต่ปีแรกที่พ้นโทษแบนมา ทีมอังกฤษก็ได้แชมป์คัพวินเนอร์คัพทันทีคือแมนยูทำได้  แต่หลังจากนั้นก็ลุ่มๆดอนๆอยู่เกือบสิบปี ถึงจะกลับมาแข็งแกร่งเท่าเดิม จากคุณ : Mica - [ 27 เม.ย. 52 22:19:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 กำลังอยากรู้เรื่องนี้อยู่พอดีเลย ต้องขอบคุณ คุณMica ที่ให้ความกระจ่าง จากคุณ : โจผี - [ 27 เม.ย. 52 22:19:36 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คห 9 อังกฤษ มาถีบตัวเองขึ้นในเรื่องทุ่มซื้อนักเตะระดับโลก ราคาแพง หลังจากเปลี่ยนมาใช้ชื่อพรีเมียร์ลีกนี่เอง ----------------------------------------------------------------------------- เหตุผลที่ทำให้ตั้งแต่เป็นพรีเมียร์ลีกแล้ว ทีมจากอังกฤษประสบความสำเร็จ มีเงินทองในการซื้อนักเตะระดับยอดๆ ก็คือ รายได้จากส่วนแบ่งลิขสิทธิ์การถ่ายทอดโทรทัศน์ที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง ก่อนหน้านั้นสมัยยังสังกัดสมาคมฟุตบอลลีก ในชื่อดิวิชั่น 1 รายได้ส่วนนี้จะต้องเอาไปแบ่งกับทีมในดิวิชั่นอื่นๆ ด้วย (เนื่องจากถือว่าอยู่ในลีกเดียวกัน แต่คนละดิวิชั่น) ซึ่งแม้ว่าแต่ละทีมในดิวิชั่นต่ำๆ จะได้คนละไม่มาก แต่เมื่อมีถึงสามดิวิชั่น 70 ทีม ก็ทำให้ส่วนแบ่งที่ทีมดิวิชั่น 1 ควรจะได้ต้องลดลงไปพอสมควร ซึ่งตรงนี้ทีมในดิวิชั่น 1 โดยเฉพาะทีมยักษ์ใหญ่ก็ไม่ค่อยพอใจอยู่แล้วที่จะต้องทำงานเลี้ยงทีมอื่นๆ ดังนั้นพอสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (ซึ่งแต่ก่อนจัดเฉพาะ FA Cup กับเกมทีมชาติ)  มาชวนให้ทีมเหล่านี้แยกตัวจากสมาคมฟุตบอลลีกไปตั้งพรีเมียร์ลีก แล้วแบ่งรายได้ค่าลิขสิทธิ์โทรทัศน์กันภายในพรีเมียร์ลีกไม่ต้องไปหารกับทีมดิวิชั่นอื่นๆ ทีมใหญ่ๆ ก็เลยเอาด้วยทันที จึงแยกมาตั้งเป็นพรีเมียร์ลีก (ซึ่ง FA เป็นผู้จัด) เมื่อปี 1992 เป็นต้นมา ส่วนดิวิชั่นอื่นๆ ก็ยังสังกัดสมาคมฟุตบอลลีกเหมือนเดิม และผลจากการก่อตั้งพรีเมียร์ลีก ก็ทำให้ทีมใหญ่ๆ มีรายได้เพิ่มขึ้นมาก จนสามารถซื้อนักเตะดังๆ แข่งกับทีมจากลีกอื่นได้ แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ทีมเล็กๆ ที่ยังอยู่ในฟุตบอลลีกมีปัญหาทางการเงินเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน สังเกตได้ว่าช่วงหลังๆ มีทีมจากลีกวันลีกทูโดนปรับแต้มเพราะปัญหาทางการเงินบ่อยมาก เนื่องจากขาดรายได้จากส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์ทีวีที่เคยได้อยู่ไปนั่นเอง แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 52 22:33:39 แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 52 22:29:54 จากคุณ : เกียรตินำ - [ 27 เม.ย. 52 22:22:26 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ^ คห 13 ความจริงก็คือ ลิเวอร์พูลชุดแชมป์ FA Cup ปี 1986 เป็น "ทีมแรก" และ "ทีมเดียว" จนถึงทุกวันนี้ ที่ลงสนามนัดชิง FA Cup โดยไม่มีผู้เล่นชาวอังกฤษอยู่ในรายชื่อ 11 คนแรกแม้แต่คนเดียว 1 บรู๊ซ กร๊อบเบล่าร์ (ซิมบับเว) 2 มาร์ค ลอว์เรนสัน (ไอร์แลนด์) 3 จิม เบกลิน (ไอร์แลนด์) 4 สตีฟ นิโคล (สก็อตแลนด์) 5 รอนนี่ วีแลน (ไอร์แลนด์) 6 อลัน แฮนเซ่น (สก็อตแลนด์) 7 เคนนี่ เดลกลิช (สก็อตแลนด์) 8 เคร้ก จอห์นสตัน (ออสเตรเลีย) 9 เอียน รัช (เวลส์) 10 แจน โมลบี้ (เดนมาร์ก) 11 เควิน แม็คโดนัลด์ (สก็อตแลนด์) นักเตะคนเดียวของลิเวอร์พูลในวันนั้นที่เป็นอังกฤษ คือสตีฟ แม็คมาน ซึ่งเป็นตัวสำรอง และไม่ได้ลงสนาม (สมัยนั้นให้ส่งรายชื่อตัวสำรองได้แค่คนเดียว) จากคุณ : เกียรตินำ - [ 27 เม.ย. 52 22:28:10 ]

ความคิดเห็นที่ 17 16 ให้ผมมองยังไง นักเตะในประเทศบนเกาะอังกฤษ ก็คือนักเตะ "ประเทศ" เดียวกันนี่แหละ ไม่สามารถบ่งบอกถึงความเป็น "ต่างชาติ" ได้เลย เพราะแทบจะแยกกันไม่ออก ในทุกกรณี ค้าแข้ง ก็ไป ๆ มา ๆ กันอยู่ในเกาะนะแหละ เหมือนเป็นนักเตะมาจากภาคเหนือ ภาคตะวันตก อะไรอย่างนี้เสียมากกว่า แต่ก็อย่างที่ คุณ Mica ว่า พอยูฟ่า เล่นแง่ แยกนักเตะออกตามชื่อประเทศ ลีกอังกฤษ ก็เดี้ยงไปทันทีเลยเหมือนกัน จากคุณ : CameronRevenge - [ 27 เม.ย. 52 22:43:12 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คห.17 แต่พวกนี้ไปแบ่งแยกสมาคมเพื่อลงเตะฟุตบอลเองนี่ครับ  มันถึงต้องแยก  ฟีฟ่าจะไปบอกให้ยุบเป็นUK แล้วลงเตะก็ไม่ได้ ทีมพวกนี้มันแข่งกันก่อนจะมีFIFAเสียอีก นี่จะมีตัวแทนในนามUK ลงเตะโอลิมปิคที่ลอนดอนหรือเปล่ายังไม่รู้เลย จากคุณ : Mica - [ 27 เม.ย. 52 22:47:17 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ความจริงปัญหาเรื่องทีมฟุตบอลของสหราชอาณาจักรกับโอลิมปิก เกิดขึ้นหลังจากที่แต่ละชาติใน UK สมัครสมาชิกฟีฟ่าแล้วด้วยซ้ำ เพราะอย่างโอลิมปิกปี 1956 ที่เมลเบิร์น (ซึ่งตอนนั้นชาติใน UK สมัครสมาชิกฟีฟ่าหมดแล้ว และเล่นบอลโลกกันแล้ว) ก็ยังมีทีมฟุตบอลสหราชอาณาจักรไปแข่ง (แต่เป็นนักฟุตบอลสมัครเล่น) แล้วก็ถล่มทีมชาติไทยแลนด์แดนสยามไปเบาะๆ 9-0 เป็นสถิติแพ้สูงสุดของทีมชาติไทยจนถึงทุกวันนี้ด้วย เหอๆ จากคุณ : เกียรตินำ - [ 27 เม.ย. 52 23:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แต่จริงๆ ผมว่าพวกเขาก็ยังจะพอใจที่จะแยกกันมากกว่าจะรวมกันนะ   ถึงจะรวมกันก็ได้แค่อังกฤษ เวลส์ สก๊อต และไอร์แลนด์เหนือนะ  เพราะไอร์แลนด์ มันเป็นอีกประเทศนึง จากคุณ : Mica - [ 27 เม.ย. 52 23:18:32 ]

ความคิดเห็นที่ 21 #16 มีตัวสำรองได้คนเดียว โหหหห เตะกันได้ถึกจริงๆ ใครเจ็บเปลี่ยนได้คนเดียวเองเหรอครับ #9 นัดชิงปีนั้น นัดแรกยกเลิกไม่ใช่เหรอครับเพราะเกิดเรื่องซะก่อน มารีเพลย์อีกที ยูเว่ ชนะ 1-0 จากคุณ : tauhoo - [ 27 เม.ย. 52 23:23:38 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่มีรีเพลย์หรือเลื่อนครับ  เตะหลังจากเคลียร์คนตายออกไปแล้ว เช่นเดียวกับตอนเหยียบกันตายที่ฮิลโบโร่ก็ไม่มีเลื่อน ส่วนเรื่องตัวสำรอง  สมัยก่อนนี่ไม่มีเลยครับ หลังจากนั้นมีได้หนึ่งคน ในขณะที่กฎฟีฟ่าเปลี่ยนได้สาม แต่อังกฤษมีได้คนเดียว    ตอนก่อตั้งพรีเมียร์ลีกปีแรกๆก็ให้มีได้สองคน ต่อมามีได้สามคนแต่คนที่สามต้องเป็นโกล์ จากนั้นถึงจะมีได้สามเปลี่ยนได้สาม แล้วค่อยมามีสำรองห้าเปลี่ยนได้สามตามแบบชาวโลกเขา  ล่าสุดนี้มีได้แปดเปลี่ยนได้สาม สิ่งที่อังกฤษสมัยนั้นต่างจากที่อื่นนอกจากกฎตัวสำรองก็คือ สมัยก่อนไม่มีใบเหลือง แต่จะเรียกมาจดชื่อ จากคุณ : Mica - [ 27 เม.ย. 52 23:32:23 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คนอังกฤษมองคนสกอต เวส หรือไอรแลนด์เหนือเปนคนละชาตินะครับ เคยมีคนบ่นว่า ครูคนนี้แปลกที่เรียกว่า บริสติส ไม่ใช่ อิงลิช เพราะคนอังกฤษเองไม่เคาเอาตัวเองไปปนกับคนอื่นๆนะครับ ส่วนไอรแลนด์หรือ รีพับบริก ออฟ ไอรแลนด์ นี่แล้วใหญ่ คนละประเทศเลยละครับ เราคนไทยมองว่าฝรั่งเหมือนๆกัน เขาก็มองว่าคนไทย ลาว เขมร พม่า มาเล เหมือนๆกันละครับ จากคุณ : หนุ่มเสื้อบอล - [ 27 เม.ย. 52 23:40:33 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เรื่อง "ประเพณี" ไม่เฉพาะทางกีฬา แต่ในทุกเรื่อง ของประเทศอังกฤษ บางทีก็เป็น การปฏิบัติสืบต่อกันมา โดยไม่ต้องไปถามหาเหตุผล อยู่เหมือนกัน อย่างเรื่องไม่ีมีใบเหลืองเนี่ย ยังจำได้เลยว่า ปีแรกที่เริ่มใช้ใบเหลือง เกิดเหตุนักเตะชกกัน (จำได้แต่ทีมนึง คือ สเปอร์ อีกทีมจำไม่ได้ เพราะตอนนั้นผมยังเป็นเด็กแบเบาะ ไม่รู้ความ 555) เป็นข่าวใหญ่ ช็อคคนอังกฤษมาก เพราะเทรดิชั่นของฟุตบอลอังกฤษ คือเล่นกันแรง แต่ไม่นอกเกม และแทบไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเลย สื่อยุคนั้น เลยประโคมข่าวกันใหญ่ว่า เป็นสาเหตุมาจาก ไปเอากฎใบเหลืองของฟีฟ่ามาใช้ ประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ เลยหมดความขลัง จากคุณ : CameronRevenge - [ 27 เม.ย. 52 23:44:33 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ้อครับ ขออภัย ผมจำผิด ขอบคุณนะครับ จากคุณ : tauhoo - [ 27 เม.ย. 52 23:47:48 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตอนเหยียบกันตายที่ฮิลโบโร่ ไม่มีเลื่อนจริงๆหรอครับ เห็นกลับเข้าห้องแต่งตัวกันหมดเลยนี่ครับ จากคุณ : mumay - [ 28 เม.ย. 52 00:13:22 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เอ...  ชักไม่แน่ใจที่ฮิลโบโร่ครับว่าเตะแล้วยกเลิกแล้วเตะใหม่หรือว่าแข่งไปจนจบเลย  พอดีเขียนจากความทรงจำ ตอนนั้นก็แค่สิบกว่าขวบ แต่ที่เฮย์เซลนี่แน่นอนครับ จากคุณ : Mica - [ 28 เม.ย. 52 00:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 28 กระทู้ความรู้ ชอบบบบ.... จากคุณ : The Sweet Suffering - [ 28 เม.ย. 52 00:23:34 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ไปค้นมาแล้ว แมทช์ FA CUP รอบรองที่ฮิลโบโร่วันที่15.4.89 ถูกยกเลิกไปหลังแข่งได้6นาที จากนั้นกลับมาเตะกันอีกที 7.5.89 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ลิเวอร์พูลชนะ 3:1 จากนั้นไปปราบเอฟเวอร์ตัน 3:2  หลังการต่อเวลา จากคุณ : Mica - [ 28 เม.ย. 52 00:33:06 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ^ คห 22, 27 เกมที่ฮิลโบโร่ยกเลิกครับ และไปแข่งกันใหม่ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ดแทน จากคุณ : เกียรตินำ - [ 28 เม.ย. 52 00:33:37 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ช่วงนี้กระทู้เช็คอายุเยอะนะ จากคุณ : nookieman - [ 28 เม.ย. 52 00:41:23 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คห 21 มีตัวสำรองคนเดียวจริงๆ ครับ เป็นปีสุดท้าย หลังจากปีนั้นแล้ว ในเอฟเอคัพนัดชิง ก็อนุญาตให้ใส่ชื่อตัวสำรองได้เป็นสองคน และเปลี่ยนได้สองคน ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน ดังนั้นสมัยนั้นการเลือกผู้เล่นลงสนามจะต้องพิถีพิถันสุดๆ ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง เพราะมีโควต้าเปลี่ยนตัวได้แค่คนเดียว  (ถ้าเป็นบอลยุโรปให้ส่งสำรองได้ 5 คน แต่เปลี่ยนได้ 2 คน) ต้องวางแผนกันไว้ล่วงหน้าหลายตลบเลยว่า ถ้าเลือกคนนี้นั่งสำรองแล้ว เกิดต้องเปลี่ยนกองหน้าจะปรับแผนยังไง เปลี่ยนกองกลาง, กองหลัง จะปรับใครไปยืนตรงไหนยังไง (หรือแม้แต่ถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนโกล์ยังต้องคิดเลยว่าจะให้ใครเป็นโกล์สำรอง) ไม่เหมือนโค้ชสมัยนี้มีโควต้าตัวสำรองในมือตั้ง 7 คน เปลี่ยนได้ 3 คน จึงมีโอกาสในการแก้เกมได้ง่ายกว่ามาก เพราะมีตัวเลือกให้เปลี่ยนเยอะ จากคุณ : เกียรตินำ - [ 28 เม.ย. 52 00:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 33 พูดถึงนัดชิงแล้ว ก็เพิ่มเติมให้เลยว่า นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลลีกคัพปี 1993 ระหว่างอาร์เซน่อลกับเชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ ยังเป็นนัดแรกของฟุตบอลอังกฤษที่มีการปักชื่อผู้เล่นแต่ละคนไว้ที่หลังเสื้อตัวเอง และผู้เล่นที่ส่งลงสนาม 11 คนแรกไม่จำเป็นต้องเรียงเบอร์ 1-11 ด้วย (อย่างวันนั้นเดวิด โอเลียรี่ของอาร์เซน่อล ใส่เสื้อเบอร์ 22) แบบเดียวกับที่เคยเห็นในฟุตบอลโลก (แต่ฟุตบอลโลกยุคก่อนหน้านี้ก็มีแต่เบอร์ ไม่มีชื่อปักจนถึงปี 1994) และในฤดูกาลต่อมา 1993-4 ฟุตบอลอังกฤษก็กำหนดให้ผู้เล่นแต่ละคนมีหมายเลขเสื้อประจำตัวที่ต้องใช้ไปตลอดฤดูกาล (เว้นแต่มีการย้ายทีมระหว่างฤดูกาล) เริ่มจากใน EPL ก่อนแล้วค่อยลงไปถึงลีกล่างๆ และใช้ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน จากคุณ : เกียรตินำ - [ 28 เม.ย. 52 01:25:09 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณทุกความเห็นครับ กลายเป็นกระทู้แจกความรู้ไปเลย เยี่ยมเลยครับ^^ จากคุณ : เกิดมาเพื่อrock - [ 28 เม.ย. 52 02:11:47 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ต้องโหวตแล้ว กระทู้ความรู้ ชอบมากๆ จากคุณ : เจ้าชายน้ำหยด - [ 28 เม.ย. 52 03:05:18 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อื้อจำผิดเรื่องผู้จัดการทีมจริงๆ  ขออภัย กับเรื่องข่าวลือนั้นก็มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับที่ถาม  ซึ่งตอนนั้นข่าวลือก็ดูเหมือนจะแพร่ออกมาให้แฟนๆ  ทราบ   ซึ่งยังไงก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง  ถึงบอกว่าคิดว่าแพ้เพราะฝีมือมากกว่า   ก็ยอมรับยูเวชุดนั้นที่มีนโปเลียนำทัพด้วย  แต่ไม่ว่ายังไงกระทั่งในหนังสือพิมพ์พอพูดถึงนัดนั้น  เหตุการณ์นั้น  ดูเหมือนข่าวลือนี้จะโพล่มายึดหน้าหนังสือพิมพ์ทุกครั้งด้วย  เลยเล่าเอามา ยังไงก็ขออภัย  ไม่มีเจตนาจะไปดูถูกใคร  หรือคิดว่าควรนับว่าหงส์เป็นแชมป์นัดนั้น  แค่เป็นข่าวลือที่เกิดขึ้นจริง  และผมเป็นแฟนหงส์เลยอาจคิดไปเช่นนั้นได้ครับ จากคุณ : Jack o'lanturn - [ 28 เม.ย. 52 07:54:21 ]

ความคิดเห็นที่ 37 โหวตให้แล้วครับ กระทู้ดีๆ แบบนี้ ขอบคุณที่มาแบ่งปันกันนะครับ จากคุณ : ปลาทะเล - [ 28 เม.ย. 52 08:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ตอบกันเยอะเลย ไม่ต้องพึ่งผมแล้วมั้งครับ คุณยุง จริงๆแล้ว เวลานั้น ผมยังไม่ทันจะดูบอลครับ ยังเด็กอยู่ฮะ แถมช่วงแรกๆ ก็ดูแต่แมนฯยูฯ อย่างเดียวเลย นัดที่ดูถ่ายทอดสด แบบเต็มๆแม็ตช์จริงๆ คือ นัดที่ เล่นกับคริสตัล พาเลซ ต่อมาก็นัดชิงบาร์ซ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ ซึ่งกลับมาจากโดนแบนกันแล้ว ไปล่ะ ฟิ้ววววว.... จากคุณ : สงบใจ - [ 28 เม.ย. 52 08:37:28 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ความระกำของแฟนบอล ทีมร่วมเมือง ที่ทำให้ เอฟฯ ชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ อดเข้าร่วม แข่งฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรป และเป็นผลให้ ผู้จัดการทีม , นักเตะ ที่ดีที่สุด ในยุคนั้น ค่อย ๆ จาก เอฟฯ ไป ทีละคน สองคน ทำไม ยูฟ่า ไม่แบนทีมต้นเหตุ แง่ง ทีมเดียวหว่า !!!! นึกถึงทีไร โกรธ ทุกที !!!! จากคุณ : *PIPPO* - [ 28 เม.ย. 52 09:05:29 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ^ ^ โอ๋ๆๆ ผ่านไปตั้งเกือบ 24 ปีแล้วนา เดี๋ยวเขารู้อายุหมด ปล. จริงๆผมชอบ Southall Lineker Ried Ratcliff เอามากๆนะ สมัยนั้นทีมที่ทำหงส์เป็นลูกไล่ได้ ก็มีทีมเดียวนี่แหละ จากคุณ : bbiggy - [ 28 เม.ย. 52 09:21:44 ]

ความคิดเห็นที่ 41 กะ เกิดไม่ทัน (^__^") เคยอ่านและเห็นแต่ในสารคดี ชอบกระทู้นี้มากๆ ครับ จากคุณ : Noah_1_of_4lnw - [ 28 เม.ย. 52 09:25:27 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เข้ามาอ่านเช่นกัน ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกะเขาเลย (แถมเกิดไม่ทันอีก) ละเอียดมากๆ ขอบคุณทุกท่านนะคะ จากคุณ : yokoyuki - [ 28 เม.ย. 52 10:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ดีเนาะ มีคนมาถาม ก็จะได้เล่ากันต่อไป ผมว่า ใครสักคน น่าบันทึก แมตช์ ตีกัน ของไทยลีกเก็บไว้มั่งครับ เป็นเครื่องเตือนใจ อีกสัก 10 20 ปี มีคนถาม จะได้ตอบกันได้ถูก กดเก็บเข้าคล้งกระทู้ดีกว่า จากคุณ : proofman - [ 28 เม.ย. 52 10:14:09 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ดีจังค่ะที่มีกระทู้ดี ๆ แบบนี้ให้อ่าน  ^^ จากคุณ : Noey :p - [ 28 เม.ย. 52 10:21:32 ]

ความคิดเห็นที่ 45 นาน ๆ จะได้เห็นกระทู้มีสาระช่วยกันตอบซะที ที่ผ่านมามีแต่กระทู้เสียดสี ไม่ค่อยมีสาระซะเยอะ จากคุณ : Mun Thow - [ 28 เม.ย. 52 10:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 46 RIP มีบทเรียนแล้ว ไม่อยากให้ไทยลีกที่กระแสกำลังมาแรงต้องประสพกับเหตุการณ์แบบเดียวกับฝรั่งเค้าเลยน่ะ ดูแลกันดีๆด้วย แล้วก็มีอารมณ์ร่วมได้แต่การทำร้ายร่างกายผู้อื่นมันผิดกฏหมายน่ะครับ จากคุณ : Santa_Baby - [ 28 เม.ย. 52 10:46:50 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เคยอ่านจากหนังสือชีวประวัติของเอียน รัช รัชชี่ พูดชัดเจนมากๆ ครับ เรื่องนี้ 1 นักบอลทุกคนของ Liverpool รู้เรื่องก่อนลงเตะ 2 บางคนยังเห็นอัฒจันทร์ถล่มกับตา 3 ดันเป็นอัฒจันทร์ฝั่งเดียวกับที่บรรดาภรรยา พ่อแม่นักบอลไปนั่งอยู่ด้วย 4 ผู้จัดสรุปไม่ให้เลื่อนเตะ ให้เล่นไปเลย 5 นักบอลหงส์ ไม่มีกะใจจะเล่น ซังกะตายเล่นให้จบๆ ไป 6 เอียน รัช บอก ลูกจุดโทษก็ล้มห่างจากกรอบตั้งหลายวา ยังเป่าไปได้ 7 เอียน รัช บอก วันนั้นน่วมไปทั้งตัว โดนยูเวนตุสเอาคืนในสนาม อิอิ   (แอบมีโกรธ มาร์โก ทาร์เดลลี่ วีรบุรุษบอลโลกของอิตาลีด้วย ว่าเล่น   อย่างแรง มีตอดตลอด ทั้งๆ ที่น่าจะเล่นให้มันดีดีหน่อย สถานการณ์ก็   แรงอยู่แล้ว) จบเกม โจ ฟาแกนลาออก คิงเคนนี่ได้เป็นผู้เล่น-ผู้จัดการทีมแทน จากคุณ : ciri - [ 28 เม.ย. 52 10:48:00 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อยากจะตอบว่า ทำไม ไม่โทษผู้จัดงานในสนามก่อนมาแบน ทั้งที่ การจัดการมันห่วยต่างหาก  ความผิดมันควรจะแชร์กันครึ่ง ๆ ต่อครึ่งสิ ไม่ใช่แบนทีมจากอังกฤษไปดื้อ ๆ เลยอย่างนั้น ยังคาใจการตัดสินใจของยูฟ่ามาตลอดว่าตัดสินเพราะอะไร เหมือนอยากจะกดอังกฤษให้จมดินมากกว่า เพราะในความเป็นจริง ที่เฮย์เซล มาตรฐานคตวามปลอดภัยในการจัดการไม่น่าจะเป้นสนามนัดชิงได้เลย จากคุณ : et009 - [ 28 เม.ย. 52 11:51:53 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ^ ^ ^ ผมอ่านหนังสือของเอียน รัช เล่มนั้นครับ เป็นพ๊อกเก๊ตบุ๊ต ซึ่งก็กล่าวสรุปไว้อย่างที่คุณ ciri  พิมพ์ไว้ข้างบน   แต่ เพราะไอ้สรุปแบบนี้แหละครับ ทำให้ผมไม่ชอบเอียน รัชทันที ไม่เกี่ยวกับผมเชียร์แมนยูนะครับ  เพราะอะไร เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นครับ ไม่มีน้ำใจนักกีฬาอย่างแรง ผมจำได้ว่า อ้านห่านเอียน รัชนี่แหละพูดว่า กองเชียร์อังกฤาไม่ผิดเพราะโดนยั่วยุ จากกองเชียร์อิตาลี เรื่องนี้บทสรุปไม่ใช่แต่แบนทีมสโมสรอังกฤษนะครับ  เรื่องมันไปถึงศาลสถิตยุติธรรมด้วย  กองเชียร์อูลิแกนเลวๆของอังกฤษติดคุกหัวโตไปหลายคนครับ 1 นักบอลทุกคนของ Liverpool รู้เรื่องก่อนลงเตะ .....นักเตะยูเว่ก็รู้เรื่องเหมือนกัน 2 บางคนยังเห็นอัฒจันทร์ถล่มกับตา ---คนอื่นก็เห็นเหมือนกัน 3 ดันเป็นอัฒจันทร์ฝั่งเดียวกับที่บรรดาภรรยา พ่อแม่นักบอลไปนั่งอยู่ด้วย ......แต่ที่เสียชีวิตเป็นกองเชียร์อิตาลีทั้งหมด อ้ายห่านเอียน รัช จะมาบอกทำไมว่า พ่อ แม่ คุณนั่งฝั่งไหน แถมพวกก่อเรื่องก็เป็นฮุลิแกนอังกฤษทั้งหมด 4 ผู้จัดสรุปไม่ให้เลื่อนเตะ ให้เล่นไปเลย ........ยูเวนตุศ ก็ต้องเล่นในสนามเดียวกัน สถานการณ์เดียวกัน สภาพจิตใจเดียวกัน ดีไม่ดี แย่กว่าด้วยเพราะกองเชียร์ที่ตายเป็นอิตาเลียนทั้งหมด 5 นักบอลหงส์ ไม่มีกะใจจะเล่น ซังกะตายเล่นให้จบๆ ไป ........แล้วไม่ถามนักเตะยูเวนตุสล่ะว่า เขามีสภาพจิตใจแบบไหน 6 เอียน รัช บอก ลูกจุดโทษก็ล้มห่างจากกรอบตั้งหลายวา ยังเป่าไปได้ ........อันนี้กรรมการอาจตัดสินผิดพลาดครับ แต่ถามหน่อยเถอะ ถ้าลิเวอร์พุลได้ลูกจุดโทษแบบนี้บ้าง จะเอาหรือไม่เอา 7 เอียน รัช บอก วันนั้นน่วมไปทั้งตัว โดนยูเวนตุสเอาคืนในสนาม อิอิ  (แอบมีโกรธ มาร์โก ทาร์เดลลี่ วีรบุรุษบอลโลกของอิตาลีด้วย ว่าเล่น  อย่างแรง มีตอดตลอด ทั้งๆ ที่น่าจะเล่นให้มันดีดีหน่อย สถานการณ์ก็  แรงอยู่แล้ว) ....ก่อนหน้านี้ ผมเคยดูวีดีโอนัดนี้ ด้วย ผมไม่เห็นว่านักเตะยูเวนตุสเล่นแรงตรงไหน แต่เห็นเอียน รัช ต่างหากที่เล่นไม่เอาไหนในแมทช์นั้น จากคุณ : โทรจิต - [ 28 เม.ย. 52 11:57:45 ]

ความคิดเห็นที่ 50 #48 คุณเขียนในมุมมองคนอังกฤษครับ เรื่องนี้ในภายหลัง ไม่ว่ายูฟ่า ฟีฟ่า และศาลสถิตย์ยุติธรรมที่มาตัดสินคดีภายหลัง ล้วนลงโทษอังกฤษทั้งหมด หลังจากเหตุการณ์นั้น ก่อนที่จะมีการแบนทีมสโมสรอังกฤษ 5 ปี FA ก็ประกาศถอนทีมจากอังกฤษในปี 1986 อยู่แล้ว และยิ่งต่อมา ยิ่งเป็นการพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า กองเชียร์อังกฤษฮุลิแกนอังฏฤษสมัยนั้นมันเลวจริงๆด้วยการก่อเรื่องแทบทุกทัวร์นาเม้นที่อังกฤษเข้าไปร่วมเล่นด้วยครับ แต่สมัยนี้รัฐบาลอังกฤษคอยกวดขัน ทำให้ภาพพจน์กองเชียร์อังกฤษในต่างประเทศดูดีขึ้นครับ ในบอลยูโร 1988 ที่เยอรมันอังกฤษตกรอบแรกด้วยการพ่ายหมด 3 นัด กองเชียร์ฮูลิแกนอาละวาดทันที แต่ตำรวจเยอรมันปราบปรามแบบรุนแรงเหมือนทำกับหมูทำกับหมาเลยครับ  คนอังกฤษโวยวายกันใหญ่ แต่ชาติอื่นๆเขาเห็นดีเห็นงามด้วย พร้อมกับบอกว่าถ้าฮูลิแกนอังกฤษมาก่อเรื่องในประเทศเขาก็จะใช้มาตรฐานเด็ดขาดแบบนี้เหมือนกันครับ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 52 12:11:19 จากคุณ : โทรจิต - [ 28 เม.ย. 52 12:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 51 vote จากคุณ : เจ้าชายเท้าเปล่า - [ 28 เม.ย. 52 12:45:45 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ผมเกิดไม่ทันอ่ะ หุหุ จากคุณ : Angleevil - [ 28 เม.ย. 52 14:09:18 ]

ความคิดเห็นที่ 53 สาระเพียบเลยครับ โหวตๆ จากคุณ : vn, man - [ 28 เม.ย. 52 14:10:08 ]

ความคิดเห็นที่ 54 หุหุ กระทู้วัดอายุคนตอบ ^_^ จากคุณ : บอย@สาธร - [ 28 เม.ย. 52 15:06:48 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ยินดีจังที่รู้ว่า ยังมีรุ่นดึกเล่น WEB หลายคน  แต่ผมยังแค่สามสิบกว่าๆนะ ไม่ได้เป็นวัยเดียวกับที่ตอบกระทู้นี้หลายท่าน จากคุณ : Mica - [ 28 เม.ย. 52 15:16:31 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เออ ผมมองอย่างคนไทยนี่แหละครับ เพราะกองเชียร์อังกฤษเลวจริงใช่   แต่ถ้าผู้จัดมีความเป็ฯมืออาชีพมากกว่านี้ วางแผนงานที่ดีกว่านี้ มันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ไหมละครับ ผลย่อมเกิดจากเหตุครับ แล้วเหตุหลักจบอกว่าเกิดจากนิสัยแฟนบอลก็ไม่ได้เต็มที่ เพราะทุกคนรู้กันอยู่ว่าตอนนั้นกองเชียร์ฮูลิแกนเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายที่รับผลกรมก็คืออังกฤษก็ถูกแล้วที่โดนแต่ผมว่ามันมากเกินไป แต่ถามกลับว่าทำไม ยูฟ่าไม่หันมามองตัวเองบ้างว่าเลือกสนามที่ห่วยไม่พร้อมรับการจัดนัดชิง จากคุณ : et009 - [ 28 เม.ย. 52 15:19:12 ]

ความคิดเห็นที่ 57 คห.56  ครับ จริงๆปัญหาไม่ใช้มีแค่ทีเฮย์เซลที่เดียว ที่นั่นคือจุดระเบิดมากกว่าเพราะคนตายเยอะ เพราะจริงๆปัญหาฮูลิแกนอังกฤษไปก่อเรื่องต่อยตีทั่วยุโรปมันเริ่มมาจากยุค 70 แล้ว บางกลุ่มตั้งใจไปตีเขาโดยเฉพาะโดยไม่คิดจะซื้อตั๋วดูบอลเลย   แมนยูเองก็เคยโดนคัดชื่อออกจากการไปเล่นยูฟ่าคัพเพราะปัญหาแฟนบอล   ถ้าไม่เกิดที่เฮย์เซล เดี๋ยวก็ต้องไปเกิดที่อื่นอยู่ดีล่ะ  ตอนเกิดเหตุ สมาคมฟุตบอลอังกฤษแสดงความรับผิดชอบประกาศถอนทีมลงเตะก่อนที่ยูฟ่าจะลงโทษเสียอีก แน่นอนที่ตอนนั้นฮูลิแกนที่กร่างที่สุดตอนนั้นก็คือแฟนหงส์แดง ซึ่งทีมกำลังประกาศศักดาครองความยิ่งใหญ่ ดังนั้นก็เลยกร่างที่สุด แสดงผลงานมากที่สุดเพราะทีมเข้ารอบลึกๆทุกปี  (ต้องขออภัย ผมพูดถึงแฟนหงส์แดงที่เป็นฮูลิแกนยุคนั้น  ไม่ใช่เดอะค๊อปยุคนี้)   และพวกนี้แหละที่ไปสร้างปัญหาซ้ำที่ฮิลโบโร่ จนรัฐบาลอังกฤษเข้ามาควบคุมอย่างจริงจัง จนทำให้ฟุตบอลอังกฤษสมัยนี้ใครๆก็ไปดูได้ เด็ก คนต่างชาติ คนดำ  ไม่ต้องหวาดกลัวแบบยุค 70-80 อีก จากคุณ : Mica - [ 28 เม.ย. 52 16:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เป็นอีกคนครับที่เริ่มดูบอลช่วงดังกล่าว อ่านแล้วก็มีคิดเรื่องเก่าๆบ้าง แต่ก็มาสะดุดตรง ความคิดเห็นที่ 47 แต่ก็มีความคิดเห็นที่ 49 มาตอบความคิดเห็นที่ 47แทนไปแล้ว ผมก็ไม่ชอบเอียน รัช สักเท่าไร รู้สึกว่าแกเป็นอย่างที่ #49 บอกจริงๆ เลยทำให้ผมยอมรับนักเตะเกมรุกของหงส์ยุคนั้นแทบทุกคนอย่าง จอห์น บาร์นส์ ปีเตอร์ เบรียดส์ลี่ เคนนี่ เดลกลิช หรือ จอห์น อัลดิช แต่ไม่ค่อยยอมรับ เอียน รัช  เพราะแกไม่ค่อยมีสปิริต แถมไปอยู่อิตาลี่ก็ห่วยแตก ปล. เอฟเวอร์ตัน-ลิเวอร์พูล สมัยนั้นก็ประมาณ อาร์เซน่อล-แมนยู พศ.นี้อะครับ ช่วงนั้น โกล์เอฟเวอร์ตัน คือเนวิล เซาธอลล์เหนียวประมาณ top3 ของโลกตอนนั้นเลย ... จากคุณ : twenty-four - [ 28 เม.ย. 52 16:21:22 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เพิ่มเติมจาก คห 57 การเปลี่ยนแปลงหลังจากเกิดเหตุที่ฮิลล์โบโร่ ที่ชัดเจนที่สุดก็คือ การปรับปรุงสนามให้เป็นที่นั่งทั้งหมด รวมถึงการรื้อตาข่ายเหล็กที่กั้นระหว่างสนามกับอัฒจันทร์ทิ้งจนหมด (ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดเหตุดังกล่าว เพราะถ้าวันนั้นไม่มีตาข่ายกั้นไว้ คนคงตายน้อยกว่านี้มากหรืออาจไม่ตายเลยก็ได้เนื่องจากคนที่ถูกอัดอยู่ด้านในจะสามารถปีนรั้วหนีลงมาในสนามได้) โดยเริ่มจากทีมในดิวิชั่น 1 ก่อน แล้วค่อยขยายลงไปยังลีกอื่นๆ ซึ่งการปรับอัฒจันทร์เป็นที่นั่งทั้งหมด ก็เลยทำให้จำนวนผู้ชมที่จะเข้ามาในสนามลดลงไปด้วย (ถ้าใครดูสถิติคนดูของแต่ละสนาม จะเห็นว่าสมัยเก่าๆ บางสนามที่ปัจจุบันจุคนดูได้ 3 หมื่นกว่าคนเศษ สถิติสูงสุดทะลุไปถึง 4-5 หมื่น เพราะเป็นยุคที่อัฒจันทร์หลังประตูเป็นแบบยืนเชียร์นั่นเอง) ซึ่งแน่นอนว่า แม้ว่าจะทำให้ไม่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมแบบที่ฮิลล์โบโร่อีก แต่ผลเสียของการรื้อตาข่ายกั้นก็ใช่ว่าจะไม่มี ที่หนักสุดก็คงเป็นการขว้างของลงมาในสนามนั่นแหละครับ โดยเฉพาะพวกเหรียญนี่บ่อยที่สุด เพราะพกพาสะดวก (ใครจะห้ามพกเงินเข้ามาในสนามละครับ) ขว้างสะดวก และโดนทีถ้าจังๆ ถึงหัวแตกได้เลย (แต่ขว้างเหรียญยังไม่ดุเท่าที่ฮอลแลนด์ เพราะเคยเห็นเพ่เล่นกระทืบเก้าอี้พลาสติกจนพัง แล้วจับเขวี้ยงลงมาในสนามเลย ดีไม่ไปโดนหัวใครเข้า เหอๆ) แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 52 18:04:48 จากคุณ : เกียรตินำ - [ 28 เม.ย. 52 18:02:47 ]

ความคิดเห็นที่ 60 อยากสัมผัสความแสบของแฟนบลอังกฤษต้องดูหนังเรื่องนี้ครับ จากคุณ : The Red - [ 28 เม.ย. 52 18:22:34 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เฮเซล สเตเดี้ยม  ถ้าจำไม่ผิด เค้าปิดแล้วซ่อมแซมใหม่ รู้สึกว่าจะเอาชื่อกษัตริย์มาตั้ง ชื่อว่า King Baudouin Stadium จำได้ว่าใช้ตอนปีที่เบลเยี่ยม (ระฆังดี) เป็นเจ้าภาพร่วมกับฮอลแลนด์ จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 28 เม.ย. 52 18:22:54 ]

ความคิดเห็นที่ 62 หงส?แพ้เพราะจิตใจย่ำแย่ ....แล้วฝั่งยูเว่ที่ไม่รู้ชะตากรรมพ่อแม่ที่มานั่งดูอยู่นี่ สภาพจิตใจปกติมากงั้นอ่ะ จากคุณ : Kill11by1pass - [ 28 เม.ย. 52 19:43:59 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สรุปแล้วจะหาเรื่องลิเวอร์พูลให้ได้ว่างั้นเถอะ ดูจากสกอร์ ทั้งสองทีมก็คงไม่ได้มีสภาพจิตใจที่ดีหรือแย่ไปกว่ากัน เพราะชนะกันด้วย จุดโทษแค่ลูกเดียว บางทีถ้าย้อนไปดูต้นเหตุว่าที่เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะอะไร เพราะมีแฟนบอลจู๊ฟ (ยูเว่ในปัจจุบัน) ตะโกนแซวหรือเปล่า เพราะแฟนบอลอังกฤษ บางคนก็เมาเหล้าเข้าสนาม  เมาแล้วขาดสติประมาณนั้น บอกไว้แล้วว่าเกิดไม่ทัน  เรื่องราวที่แท้จริงเป็นยังไง ก็ไม่รู้ ที่รู้โน่นนิดนี่หน่อย ก็จากแหล่งข่าวโน่นๆนี่ๆประติดประต่อกัน จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 28 เม.ย. 52 20:11:48 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ^ ^ โห กูรู เยอะ ความรู้ แยะ มากมาย โหวตครับ จากคุณ : Bearlandia - [ 28 เม.ย. 52 20:34:37 ]

ความคิดเห็นที่ 65 #63 คุณ ยุง บิน ชุม สรุปจากความเป็นจริงที่ ยูฟ่า ฟีฟ่า และศาลสูง สรุปครับ เรื่องนี้มีเอกสารมากมายนะครับ หาเอาในเน็ทก็ได้ ต่อให้แฟนยูเว่ ตะโกนแซวจริงๆ กองเชียร์ฮูลิแกนชั่วๆของลิเวอร์พูล มีสิทธิ์อะไรที่จะ "ฆ่าคน" ถ้าใช้ตรรกะอย่างคุณ เอาไหมครับ ผมให้คุณตะโกนด่าใครสักคน แต่คนๆนั้นฆ่าคุณหรือญาติพี่น้องของคุณ...คุณจะยอมรับได้หรือ เรื่องนี้ไม่ธรรมดา เพราะมีคนตายมากมายถึง 39 คนและเป็นชาวอีตาลีทั้งหมด คุณก็เหมือน เอียน รัช ที่ไม่มีสปิริตนั่นแหละที่ความเห็นข้างบนๆเขียนไว้ที่เอียน รัช พูดว่า "แฟนบอลลิเวอร์พูล (ฆ่าคนตาย) ไม่ผิด เพราะกองเชียร์จูเวนตัสยั่วยุ"  หรืออีกนัยหนึ่ง (อันนี้ผมพูดเอง) "ถ้ามีคนมาตะโกนแซวแฟนลิเวอร์ ฆ่าคนตายได้เลย ไม่ผิดกฏหมาย" บางความเห็นเขาก็ออกตัวแล้วครับว่า กองเชียร์ฮูลิแกนที่เลวๆนี่น่ะ มันสมัยโน้น ไม่ไช่ตอนนี้ และเรื่องนี้ผ่านไปนานแล้วคงไม่มีใครอยากจะรื้อฟื้นถ้าไม่มีคนถาม แต่ความจริงก็คือความจริงครับ จากคุณ : แผ่นทอง - [ 28 เม.ย. 52 21:01:18 ]

ความคิดเห็นที่ 66 สรุปง่ายๆ ทีมพังก็เพราะ "แฟนบอล" แถมยังลากทีมอื่นไปเดือดร้อนด้วย จากคุณ : กิ๊กกะเฮิร์ท - [ 28 เม.ย. 52 21:20:26 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ความรู้เยอะมาก ดีครับ แต่ ความเห็นหลังๆ ก็อย่าไปทะเลาะกันเลยครับ จากคุณ : Sifer2002 - [ 28 เม.ย. 52 21:41:28 ]

ความคิดเห็นที่ 68 60  ดูแล้วเหมือนกัน  มันมากๆ   แต่ยิ่งดูยิ่งเข้าใจพวกฮูลิแกนเสียมากกว่า    ตอนบอลโลก 94 ที่อเมริกา  อังกฤษตกรอบ  อเมริกายังบอกดีใจ  คุมง่ายกว่าเยอะ คุณยุงครับ  ยอมๆ  ไปเถอะ  ผิดถูกก็ผ่านไปแล้ว  แล้วเดอะ ค๊อปยุคนั้นก็สร้างชื่อไว้มากเกิน    ตอนนี้เราดูบอลแบบสปีริตแผนดีกว่าครับ   ตอนนี้เราพูดอะไรมาก็จะหาว่าเราเอาแต่ดีครับ  เหตุการณ์มันผ่านไปนานเกินกว่าเราจะนั่งเถียงกันแล้ว จากคุณ : Jack o'lanturn - [ 28 เม.ย. 52 21:54:41 ]

ความคิดเห็นที่ 69 การปรับปรุงสนามโดยเปลี่ยนเป็นที่นั่งทั้งหมดและเอารั้วกั้นออก นอกจากจะทำให้มีการเขวี้ยงปาสิ่งของได้แล้ว สิ่งที่เกิดได้ก็คือกรณีกังฟูคิ๊กของเอริค เดอะคิงส์ยังไงครับ ถ้ามีรั้วกั้นก็คงไม่เกิด  แต่หักผลดีผลเสียแล้ว การปรับเป็นที่นั่งทั้งหมดและการเอารั้วออกก็เป็นผลดีมากกว่าผลเสียเห็นๆ จากคุณ : Mica - [ 28 เม.ย. 52 21:58:31 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ผมก็อ่านหนังสือเอียน รัชมาเหมือนกัน ทั้งเวอร์ชั่นไทยและเวอร์ชั่นอังกฤษ ไม่มีประโยคไหนที่เขาพูดว่า "แฟนบอลลิเวอร์พูล(ฆ่าคนตาย)ไม่ผิด เพราะกองเชียร์จูเวนตัสยั่วยุ" ถ้าใครมีหลักฐานว่าเขาพูดอย่างนั้นจริง ช่วยสแกนมาให้ดูหน่อย อย่าเอาแค่ฟังคนอื่นตามๆกันมาแล้วมาสรุปว่าคนโน้นคนนี้ไม่มีสปิริต เอียน รัชบอกว่า ควรโทษหลายฝ่ายด้วยกัน - ลิเวอร์พูล ต้นเหตุทำให้มีคนตายก็ควรรับโทษหนักสุด - ยูเวนตุส ที่เป็นฝ่ายยั่วยุก่อน - ยูฟ่า ที่เลือกสนามเฮย์เซล ซึ่งเป็นสนามเก่า ไม่เหมาะกับนัดชิงยูโรเปี้ยน คัพ ซึ่งมีแฟนบอลเข้าชมมากมาย - ตำรวจเบลเยี่ยม ที่เมื่อเกิดเหตุแล้ว ไม่ได้สลายฝูงชนที่บ้าคลั่ง ได้แค่ขี่ม้าวนไปรอบๆ ขอพูดถึงประเด็นที่แฟนบอลยูเว่เป็นฝ่ายยั่วยุก่อน จากที่เคยอ่านหนังสือของฟิล ทอมป์สัน, ฟิล นีล, แฮนเซ่น, ดัลกลิช รวมทั้งเรื่องราวของแฟนบอลลิเวอร์พูลหลายคนที่เดินทางตามไปเชียร์ในที่ต่างๆทั่วยุโรป หลายคนบอกตรงกันว่าชนวนมันเกิดมาตั้งแต่ 1984 หรือ 1 ปีก่อนหน้านั้นที่ลิเวอร์พูลไปได้แชมป์ถึงในบ้านโรม่า โดยแฟนบอลอิตาลี่ขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องพลุไฟ หรือขว้างสิ่งของ ได้ยิงพลุใส่กลุ่มแฟนบอลหงส์ แต่ปี 1984 ก็ไม่มีเรื่องราวอะไร มีแค่แฟนบอลบอกว่าหลังเกม ตำรวจห้ามแฟนบอลออกนอกสนาม เพราะมีแฟนโรม่ารวมกลุ่มกันจะทำร้ายแฟนหงส์ พอมาถึงปี 1985 แฟนบอลในเหตุการณ์บอกว่าโดนแฟนยูเว่ยิงพลุไฟใส่แถมขว้างหินขว้างเหรียญใส่ด้วย ทำให้พวกแฟนบอลหงส์ซึ่งโดนมาก่อนหน้านั้น 1 ปี พอมาโดนอีกก็เกิดระเบิดอารมณ์ขึ้น ประกอบกับสิ่งต่างๆเป็นใจ ทั้งฮูลิแกนที่จุดเดือดต่ำ รวมถึงรั้วตาข่ายเล็กๆที่กั้นแฟนบอล 2 ทีม มันก็เลยเกิดเหตุแบบนี้ ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลจากทั้งนักเตะและแฟนบอลลิเวอร์พูลที่ผมเคยอ่านมา อาจเป็นข้อมูลฝ่ายเดียวเพราะผมไม่เคยอ่านข้อมูลจากฝั่งอิตาลี ทุกคนพูดเหมือนรัชทั้งนั้น ที่ลิเวอร์พูลต้องรับผิดเต็มๆ แต่ยูฟ่าก็ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยที่จัดให้แฟนบอล 2 ทีมมานั่งฝั่งเดียวกันโดยมีรั้วเล็กๆกั้นเท่านั้น กลับมาที่เอียน รัช หน่อย เขาเล่าว่าทาร์เดลลี่เล่นตุกติก เล่นแรง ผมไม่พูดถึงเพราะไม่ได้ดูเกมนัดนี้ ไม่รู้ว่าเขาเล่นแรงแค่ไหน แต่ถ้าใครวิจารณ์ว่าเอียน รัชนั่นแหละที่เล่นห่วยแตก ผมอยากให้คนวิจารณ์ลงไปเล่นดูว่าจะเล่นได้ดีซักแค่ไหน ในบรรยากาศที่มีคนตายเกือบ 40 คน มีคนที่เรารักอยู่ในเหตุการณ์โดยที่เราไม่รู้ว่าเค้าปลอดภัยหรือบาดเจ็บหรือเปล่า ถ้าคุณเล่นได้สุดยอดระดับโลก ผมว่าจิตใจคุณมันไม่ใช่คนแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 52 22:58:07 จากคุณ : สมรุ่ง - [ 28 เม.ย. 52 22:56:22 ]

ความคิดเห็นที่ 71 แต่ยูฟ่าก็ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยที่จัดให้แฟนบอล 2 ทีมมานั่งฝั่งเดียวกันโดยมีรั้วเล็กๆกั้นเท่านั้น ตรงนี่แหละที่ผมอยากบอกว่า ยูฟ่าควรจะพิจารณาให้ตัวเองทั้งหมดลาออกก่อนแล้วค่อยให้คณะกรรมการชุดใหม่มาตัดสินคดีนี้ เพราะสำรับผมมองว่าคนผิดรองลงมาจากแฟนบอลบ้าพวกนั้นคือยูฟ่าที่เลือกสนามกิ๊กก็อกที่ไม่เหมาะมาจัดนัดชิง ที่รู้กันอยู่ว่าแฟนทั้งสองฝ่ายเลือดร้อนขนาดไหนนะเวลานั้น จากคุณ : et009 - [ 28 เม.ย. 52 23:17:36 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ฮืมมม เหตุการณ์มันผ่านมายี่สิบกว่าปี เลิกเถียงกันแบบคุ้ยหาสาเหตุว่าใครถูกใครผิดได้แล้ว ตอนยูเว่มาเตะกับลิเวอร์พูล เมื่อไม่กี่ปีก่อน ชาวเดอะค็อป ในสนามแอนฟิลด์ ก็แสดงการขอขมา อย่างเป็นทางการไปแล้ว มิรู้จะเถียงกันไปทำไมอีก จากคุณ : CameronRevenge - [ 29 เม.ย. 52 00:20:24 ]

ความคิดเห็นที่ 73 กลับมาอ่านอีกทีครับ ไม่ว่าอย่างไร ต่อให้ระบบการรักษาความปลอดภัยห่วยแตกแค่ไหน แฟนบอลลิเวอร์พูลสมัยนั้น  คือ ฆาตกร ในคราบแฟนบอลครับ บังเอิญที่ว่าหนังสือของเอียน รัช เป็น มุมมองที่เอียงกะเท่เร่ เข้าข้างพวกเดียวกันเอง การที่แฟนบอลตีกันหัวร้างข้างแตก ในสนามไหนๆก้ตามมีให้เป็นเป็นประจำในทุกๆแห่งทั่วโลกครับ แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ แต่การเป็นฆาตกรในสนามบอล ไม่มีความชอบธรรมใดๆที่จะมาอ้างโน่นอ้างนี่โยนความผิดให้ผู้อื่นครับ จริงอยุ่ระบบรักษาความปลอดภัยอาจจะไม่ดี แต่เมื่อมีคดีฆ่าคนตาย นั่นไม่อาจนำไปเป็นเหตุแก้คดีได้ในศาลสูงยุโรป......(ก็มรึงรักษาความปลอดภัยไม่ดี กรูก็เลยฆ่าคนได้ มรึงผิดกรูไม่ผิด.....หรือถ้ากรูผิด มรึงก็ผิดเท่าๆกับกรู) อ้างจากข้างบนนะครับ พอมาถึงปี 1985 แฟนบอลในเหตุการณ์บอกว่าโดนแฟนยูเว่ยิงพลุไฟใส่แถมขว้างหินขว้างเหรียญใส่ด้วย ...เรื่องนี้ไม่มีหลักฐาน มีแต่คำกล่าวอ้างแกตัวของแฟนบอลเลวๆ แฟนบอลบอกว่าหลังเกม ตำรวจห้ามแฟนบอลออกนอกสนาม เพราะมีแฟนโรม่ารวมกลุ่มกันจะทำร้ายแฟนหงส์ .......เรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นจริงๆ เชื่อได้หรือเปล่า กับปากคำของพวกฆาตกร พิจารณาดูนะครับ จากคุณ : โทรจิต - [ 29 เม.ย. 52 06:53:40 ]

ความคิดเห็นที่ 74 คุณ โทรจิต เกลียด หงส์ ก็บอกดีๆก็ได้ครับ ไม่ต้องพิมพ์ให้ยาว เอาแบบง่ายๆน่ะ จากคุณ : หงส์โหด - [ 29 เม.ย. 52 08:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 75 พอมาถึงปี 1985 แฟนบอลในเหตุการณ์บอกว่าโดนแฟนยูเว่ยิงพลุไฟใส่แถมขว้างหินขว้างเหรียญใส่ด้วย ...เรื่องนี้ไม่มีหลักฐาน มีแต่คำกล่าวอ้างแกตัวของแฟนบอลเลวๆ แฟนบอลบอกว่าหลังเกม ตำรวจห้ามแฟนบอลออกนอกสนาม เพราะมีแฟนโรม่ารวมกลุ่มกันจะทำร้ายแฟนหงส์ .......เรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นจริงๆ เชื่อได้หรือเปล่า กับปากคำของพวกฆาตกร พิจารณาดูนะครับ จากคุณ : โทรจิต ครับ พิจารณาูแล้ว ยังไงแฟนบอลลิเวอร์พูลก็เลว ยังไงแฟนบอลลิเวอร์พูลก็ผิด จึงเป็นที่กล่าวหาของแฟนบอลเลว ๆ อื่น ๆ ทั่วไป และเป็นมุมมองที่เอียงกะเท่เร่เช่นเดียวกัน จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 29 เม.ย. 52 09:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ^ ^ แล้วแต่จะคิดครับ โดยปกติผมเชียร์แมนยูฯครับ ผมอายุสามสิบกว่าแล้ว ไม่ได้เกลียดใครๆแบบไม่มีเหตุผล แล้วไม่ได้เกลียดทีมลิเวอร์พูล (ในปัจจุบัน) ด้วย เพียงแต่ถากถางและแซวแบบคอบอลเท่านั้น แต่เคสนี้คดีฆาตกรรมที่เฮย์เซล ผมยืนยันเสมอมาว่า มันเกินกว่าที่จะรับได้ครับ ผลสรุปเรื่องนี้ก็ออกมาตั้งนานแล้วครับ แต่ถ้าคุณหงส์โหดและคุณยุงบินชุมและแฟนบอลหงศ์แดงคนไหนรับไม่ได้กับการที่หงส์แดงในอดีตมีแฟนบอลฮุลิแกนเลวๆพวกนั้นอยู่ ผมก็ช่วยไม่ได้ครับ ฮะฮ่า (ถ้ามีเวลา เดี๋ยวผมจะมาเล่าถึงฮูลิแกนอังกฤษในโอกาสต่างๆครับ เรื่องแฟนบอลลีดส์ที่ไปโดนแทงตายไป 2 คนที่อิสตันบูลน่าเป็นฉากสุดท้ายของฮูลิแกนยุคเก่าครับ) ปล. คุณยุงบินชุมครับ ถ้าคุณพิจารณาแล้วได้แค่นี้ ผมก็ไม่มีอะไรพูดครับ ส่วนที่กระทบกระเหียบว่าผมเลวนั้น  ผมไม่อยากตอบโต้ครับ ท่านอื่นที่มาอ่านก็ดูเอาเองก็แล้วกัน แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 52 09:40:27 จากคุณ : โทรจิต - [ 29 เม.ย. 52 09:25:57 ]

ความคิดเห็นที่ 77 คนบางคนก็แปลกนะ  มันก็คงเหมือนคนญี่ปุ่นบางคนไม่ยอมรับว่าเรื่องที่นานกิงมีจริงล่ะมั้ง  ทั้งๆที่เรื่องมันก็นานแล้วไปแก้ไขอะไรไม่ได้  เรื่องของคนในอดีตไม่ได้แสดงว่าคนในยุคนี้ต้องเลวไปด้วย  แต่เอ ผมว่าคนญี่ปุ่นบางคนไม่ยอมรับว่าเรื่องที่บรรพบุรุษตัวเองทำก็ยังพอเข้าใจได้  แต่ผมไม่คิดว่าจะมีคนเกิดในเมืองลิเวอร์พูล หรือญาติพี่น้องของฮูลิแกนยุคนั้น มาตอบกระทู้นี้หรอกนะ จากคุณ : Mica - [ 29 เม.ย. 52 09:36:40 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ผมคิดว่าพอเถิดครับ ข้อมูลก็ให้ไปหมดแล้ว การตัดสินคดีความจากองค์กรต่างๆก็ผ่านไปตั้งนานแล้ว ลิเวอร์พูลเองก็ขอโทษแสดงความเสียใจเป็นทางการไปแล้ว แต่หากจะมีแฟนบอลหงส์คนไหนไม่ยอมรับความจริงแบบที่คุณ Mica เปรียบเทียบ ก็ได้แต่ปล่อยเขาไป อย่าไปอธิบายอะไรอีก  เสียเวลาเปล่าๆ แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 52 10:48:57 จากคุณ : แผ่นทอง - [ 29 เม.ย. 52 10:47:55 ]

ความคิดเห็นที่ 79 คนตอบที่ไม่ชอบลิเวอร์พูลก้อจะว่านักเตะลิเวอร์พูลผิด แฟนหงส์เต็มประตูก้อแค่นั้นเอง... ผมอยากให้เค้าไปดูบันทึกจริงๆที่เค้า้บรรยาย....ไม่มีนักเตะที่ไหนเค้าอยากเตะหรอกกับสภาพแบบนี้...ทั้งนักเตะลิเวอร์พูลและยูเว่ แถมยังโดนจุดโทษที่ไม่น่าจะเป็น ซึ่งขนาดผมดูเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ยังรู้เลยว่าล้มเพื่อเอาจุดโทษ ถ้ามาดูสมัยนี้มันโดนเหลืองแน่ๆ... ประกอบกัยสมัยนั้นแฟนบอลอังกฤษก้อเกเรสุดๆครับ...เจอโกงแบบนี้เข้าก้ออารมณ์ขึ้นสิครับ สนามก้อห่วยแถมโดนโกงอีก.... แต่ผมคิดว่าคนที่ผิดเต็มๆที่สุดคือผู้จัดครับ เพราะไม่สามารถจัดการทุกอย่างให้ลงตัวได้... อัฒจันทน์ถล่มยังฝืนจัดอีก.... จากคุณ : นาย 17 อดีตเด็กหลังห้อง - [ 29 เม.ย. 52 11:12:37 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ผมว่ามันไปกันใหญ่แล้ว  กระทู้ดีๆ  เสียหมด ผมก็ชอบหงส์แต่ยอมรับว่ามันเกิดขึ้นจริง  แต่ดูเหมือนคุณโทรจิตจะเขียนด้วยภาษาแรงเกินไป  อันทำให้คนที่อ่านอาจรู้สึกไม่ดี  ส่วนแฟนหงส์ปกติก็อยากปกป้องอะไรที่เราชอบ ผมว่าไม่ถูกและไม่ผิดทั้งสองฝ่าย  ยังไงก็อย่าให้ประเทศนี้ต้องแบ่งเป็นสองฝ่ายทุกเรื่องเลยครับ แฟนหงส์ทุกท่าน ผมเองอ่านหลายความเห็นแล้วก็ขัดใจนิดหน่อย  แต่เอาน่า  เราก็เคยแขวะเขาบ้าง   ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องสอนใจ  มุมมองนั้นอยู่ที่แต่ละคนจะยืนอยู่จุดไหนครับ  เราแค่รับให้ได้พอ จากคุณ : Jack o'lanturn - [ 29 เม.ย. 52 11:15:25 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เกิดไม่ทัน จากคุณ : dabodabo55 - [ 29 เม.ย. 52 11:59:44 ]

ความคิดเห็นที่ 82 คนตอบที่ไม่ชอบลิเวอร์พูลก้อจะว่านักเตะลิเวอร์พูลผิด แฟนหงส์เต็มประตูก้อแค่นั้นเอง... ผมอยากให้เค้าไปดูบันทึกจริงๆที่เค้า้บรรยาย....ไม่มีนักเตะที่ไหนเค้าอยากเตะหรอกกับสภาพแบบนี้...ทั้งนักเตะลิเวอร์พูลและยูเว่ แถมยังโดนจุดโทษที่ไม่น่าจะเป็น ซึ่งขนาดผมดูเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ยังรู้เลยว่าล้มเพื่อเอาจุดโทษ ถ้ามาดูสมัยนี้มันโดนเหลืองแน่ๆ... ประกอบกัยสมัยนั้นแฟนบอลอังกฤษก้อเกเรสุดๆครับ...เจอโกงแบบนี้เข้าก้ออารมณ์ขึ้นสิครับ สนามก้อห่วยแถมโดนโกงอีก.... ----------------------------------------------------------------- เอ้อ... พี่ครับ มันไปฆ่าเขาตายก่อนเกมส์จะเริ่มอีกครับพี่  ไม่ใช่เจอลูกจุดโทษปัญหา ถึงไปอาละวาดฆ่าคน จากคุณ : Mica - [ 29 เม.ย. 52 13:03:22 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เกิดไม่ทัน ถ้าเกิดทันก็คงไม่เีชียร์ลิเวอร์พูลแล้วล่ะมั้ง แต่บังเอิญเกิดไม่ทัน เช่นเดียวกันกับที่ในปัจจุบันนี้ไม่เชียร์แมนยู เพราะดันเกิดทันเห็นคันโตน่ากระโดดถีบคนดู จากคุณ : Ryuichi - [ 29 เม.ย. 52 14:10:33 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ไม่มีนักเตะลิเวอร์พูลคนใหนเป็นฮูลิแกนนะครับ   ฮูลิแกน มันเคยเป็นรอยด่างในยุคนึงของบอลอังกฤษเท่านั้น   จริงๆหลายๆทีมในยุคนั้นก็มีปัญหาเรื่องแฟนบอล ไม่ใช่แค่ลิเวอร์พูลที่แสบแค่ทีมเดียวเช่นแมนยู มิลวอลล์ ลีดส์ เวสแฮม พวกนี้ก็ตัวแสบเยอะ แต่อย่างแมนยู ยุคนั้นได้เล่นบอลยุโรปก็ชิงตกรอบไปก่อนเลยสร้างปัญหาไม่ได้มาก หรือทีแสบๆอย่างมิลวอลล์หรือลีดส์ พวกนั้นตอนนั้นอยู่ดิวิชั่น2  เวสแฮมต์ไม่มีโอกาสไปเตะบอลยุโรป   ดังนั้นมันก็เลยเป็นแฟนหงส์แดงที่ขี้นชื่อลือชาในสโมสรยุโรปไป   แถมพวกฮูลิแกนพวกนี้มันมีเครือข่ายจับมือกันไปก่อเรื่องโดยเฉพาะด้วย เช่นนัดกันไปก่อเรื่องในแมทช์ทีมชาติอังกฤษหรือบางทีก็สโมสรยุโรปนี่แหละ แต่หลังจากเหตุการณ์ที่ฮิลโบโร่มาจนถึงปัจจุบัน  ปัญหานี้มันทุเลาไปเยอะแล้วล่ะ  เต็มที่ก็แซวกันและมีตีกันประปรายบ้างแต่ก็ยังไม่หมดไปง่ายๆหรอก ยิ่งวัฒนธรรมการดื่มก่อนและหลังดูบอลมันฝังรากอยู่ในวิถีของคนอังกฤษ ล่าสุดที่เป็นข่าวนี่ก็พวกแฟนสก๊อตของเรนเจอร์ไปอาละวาดที่แมนเชสเตอร์ในรอบชิงยูฟ่าคัพที่แพ้เซนิต ทำให้เมืองแมนเชสเตอร์ไม่อนุมัติให้แมนยูแห่ถ้วยแชมเปี้ยนลีกส์+พรีเมียร์ลีก จากคุณ : Mica - [ 29 เม.ย. 52 14:31:44 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ฮิลสโบโร่ไม่ใช่เรื่องฮูลิแกนครับ จากคุณ : สมรุ่ง - [ 29 เม.ย. 52 14:57:47 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เรื่องมันผ่านไปนานแล้วครับ  ... ไม่ต้องมานั่งพิพิพากษาว่าใครถูกหรือผิดหรอก รอยด่างในประวัติศาสตร์มันก็มีด้วยกันทั้งนั้นแหละ คนตั้งกระทุ้แค่ถามเอาความรู้   ไม่ใช่อยากได้ผู้พิพากษาสมัครเล่นมาตอบ จากคุณ : ริมน้ำคาน - [ 29 เม.ย. 52 15:05:00 ]

ความคิดเห็นที่ 87 . . ตกลงจะอยากได้ความรู้เรื่องในอดีตที่เกิดขึ้น หรือจะหาเรื่องครับ ปัญญาอ่อน . . จากคุณ : Porepor - [ 29 เม.ย. 52 15:12:26 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ฮิลสโบโร่ไม่ใช่เรื่องฮูลิแกนครับ ............................................. เคยคิดใหมครับว่าทำไมวันนั้น ทางฝั่งฟอเรสต์ไม่มีคนตาย ทำไมคนตายทั้งหมดต้องเป็นฝั่งกองชียร์ลิเวอร์พูล  ทำไมอีกฝั่งไม่มีปัญหาคนแย่งเข้าสนามทั้งๆที่ไม่มีตั๋ว (เพราะตั๋วขายตามความจุสนาม) ทางนักข่าวของ SS ที่เป็นตากล้องจะไปช่วยคนเจ็บ ยังเจอพวกคนเมาบางคนจะต่อยเลย จากคุณ : Mica - [ 29 เม.ย. 52 15:18:54 ]

ความคิดเห็นที่ 89 #82 ทราบครับว่าคนตายก่อนที่จะมีจุดโทษ.....ผมไม่ได้บอกว่าพอแพ้แล้วไปฆ่าคน..คุณอ่านดีๆ   ผมอยากจะบอกว่า ผู้จัด (ยูฟ่า) นี่แหละที่คุมไม่อยู่ เช่น สภาพสนาม การคุมแฟนบอล เพราะที่ผมจะบอกคือ นักบอลเห็นเหตุการณ์ฆ่ากันตายแบบนี้ ใครจะมีอารมณ์เตะครับ ไม่ว่าจะทำร้านแฟนบอลฝ่ายตรงข้าม และจะบอกว่าแฟนบอลอังกฤษเมื่อก่อนเกเรมากๆ....ซึ่งหลังจากที่ลิเวอร์พูลแพ้ แฟนบอลบางส่วนก้อยังก่อเหตุอยู่... จากคุณ : นาย 17 อดีตเด็กหลังห้อง - [ 29 เม.ย. 52 15:43:57 ]

ความคิดเห็นที่ 90 กระทู้ดีในช่วงแรกๆแฮะ แต่ช่วงหลังๆรู้สึกแปลกๆพิกล? จากคุณ : กระแตตาโต - [ 29 เม.ย. 52 15:45:35 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ซึ่งแฟนบอลลิเวอร์พูลก้อผิดที่ไปทำร้ายแฟนบอลยูเว่...แต่อย่างที่บอกถ้าระบบการจัดการดี..เหตุการณ์นี้แทบจะไม่เกิดเลยครับ... และคนที่ควรจะรับผิดที่สุดก้อคือคนจัดนี่เอง เพราะทางสโมสรได้แย้งว่าแฟนบอลลิเวอร์พูลและยูเวนตุสเท่านั้นที่ควรจะได้สิทธิ์ซื้อตั๋วเข้าชมการ แข่งขัน การแบ่งที่นั่นสำหรับแฟนบอลที่ไม่ได้เชียร์ทีมใดเลยนั้น เปิดโอกาสให้แฟนบอลชาวเบลเยี่ยมนำตั๋วผีออกมาขาย ซึ่งจะทำให้ที่นั่งนั้นมั่วฝ่ายกัน ซึ่งภายหลังได้รับการตรวจสอบแล้วว่าที่นั่งสำหรับแฟนบอลที่เป็นกลางนั้นเต็ม ไปด้วยแฟนบอลชาวอิตาเลียนทั้งหมด และหนึ่งชั่วโมงก่อนจะเริ่มเกม ความดุเดือดในสนามก็เริ่มสร้างปัญหาขึ้น แฟนบอลทั้งสองฝ่ายตะโกนยั่วโมโหกันไปมาผ่านรั้วลวดที่กั้นอยู่อย่างไม่แข็ง แรงนัก หลังจากที่แฟนบอลฝั่งลิเวอร์พูลโดนปาสิ่งของกระหน่ำใส่ แฟนลิเวอร์พูลบางส่วนก็เข้าโจมตีแฟนบอลชาวอิตาเลียน เมื่อความวุ่นวายในสนามควบคุมไม่อยู่แล้ว แฟนยูเวนตุสก็รีบหนีไปทางกำแพงซึ่งได้พังทลายลงมาทับร่างของพวกเขา แฟนบอล 39 รายเสียชีวิตอยู่ตรงนั้นเอง... จากคุณ : นาย 17 อดีตเด็กหลังห้อง - [ 29 เม.ย. 52 16:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ยังไม่จบอีกหรือครับเอาอย่างนี้ดีกว่าครับจะได้เลิก ข้อเท็จจริง : ตามที่ยูฟ่า ฟีฟ่า และศาลสูงตัดสินไปนานแล้ว  แฟนบอลลิเวอร์พูลยุคนั้นผิดเต็มประตู รับโทษกันไปตั้งนานแล้ว ลิเวอร์พูลก็ขอขมาเป็นทางการไปแล้ว อันนี้สำหรับแฟนบอลลิเวอร์พูล (บางท่านนะครับ) : แฟนบอลลิเวอร์พูลฆ่าคนตายเพราะแฟนบอลจูเวนตัสยั่วยุ ยูฟ่าจัดการแข่งขันได้แย่มาก ดังนั้นกองเชียร์ฮูลิแกนฆ่าคนตายถือว่าผิดนิดเดียว แฟนบอลอีตาลีดันใจเสาะตายเองช่วยไม่ได้ ยูฟ่าผิดเต็มๆ ถือว่าแต่ละคนต่างเข้าใจแตกต่างกัน มีมุมมองแตกต่างกันก็แล้วกัน จากคุณ : แผ่นทอง - [ 29 เม.ย. 52 17:06:39 ]

ความคิดเห็นที่ 93 #88 http://en.wikipedia.org/wiki/Hillsborough_disaster เรื่องคนไม่มีตั๋วก็เป็นอีกประเด็นนึง แต่ถ้าอ่านให้ดี มันก็เรื่องการจัดการเหมือนกับเฮย์เซลนั่นแหละ ผมไม่ได้ว่าแฟนลิเวอร์พูลไม่ผิดในกรณีเฮย์เซล แฟนหงส์นั่นแหละผิดเต็มๆ แต่ถ้ายัดเยียดฮิลสโบโร่ให้เป็นเรื่องฮูลิแกนอาละวาด มันคนละเรื่องกัน เรื่องคนเมา สนามไหนไม่มีคนเมามั่ง คนยุโรปกินเบียร์ยังกะน้ำ เชียร์กีฬากับเบียร์เป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร จากคุณ : สมรุ่ง - [ 29 เม.ย. 52 17:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ผมว่าคนละเรื่องแล้วนะครับ.... เพราะผมไม่ได้บอกว่าแฟนบอลลิเวอร์พูลไม่ผิด...แฟนบอลลิเวอร์พูลผิดที่ทำร้ายจนมีคนตาย...แต่ผมอยากบอกว่ายูฟ่าเองควรจะรับผิดด้วยในเรื่องของการจัดการแข่งขัน....ไม่ใช่ไปโทษแฟนบอลอย่างเดียว คือ ยูฟ่าไม่รู้จักการป้องกันก่อนที่จะเกิดเรื่องร้ายขึ้น.....อย่างที่กล่าวไว้บน #91 จากคุณ : นาย 17 อดีตเด็กหลังห้อง - [ 29 เม.ย. 52 17:18:33 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ข้อเท็จจริง : ตามที่ยูฟ่า ฟีฟ่า และศาลสูงตัดสินไปนานแล้ว  แฟนบอลลิเวอร์พูลยุคนั้นผิดเต็มประตู รับโทษกันไปตั้งนานแล้ว ลิเวอร์พูลก็ขอขมาเป็นทางการไปแล้ว ก็แค่อยากจะบอกว่าไอ้ข้อเท็จจริงนั้น ตัดสินว่าผิด แต่ยูฟ่าเคยออกแถลงการประนามตัวเองบางไหมที่ทำแบบนั้น ยัดเยียดว่าเป้นความผิดของแฟนบอลอย่างเดียว ผมก็เลยพูดออกมาไม่ได้เข้าข้างแฟนหงส์เพราะตัวเองเป้นแฟนหงส์แต่รู้สึกตลก เมื่อผู้มีอำนาจตัดสินเลือกที่จะโบ้ยความผิดทั้งหมดลงไปที่แฟนบอลฝ่ายเดียว ว่าง่าย ๆ ฉันไม่ผิดพวกคุณแหละผิดมันตลกไงครับ ลิเวอร์พูลจะต้องขอขมาก็ไม่แปลกเพราะมันก็เป็นความผิดส่วนหนึ่งของพวกเค้า แต่ผู้จัดและยูฟ่าที่ลอยตัวอยู่เหนือปัญหาทั้งที่คุณก่อไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยมันตลกนะครับ ผมแค่รู้สึกว่าสุดท้ายทุกที่ก็มีเรื่องแบบนี้หมือนกัน อย่างนั้นจะไปว่าเมืองไทยได้ไงว่ามีระบบใครใหญ่ก็กินไปละนะ เฮอะ ๆ จากคุณ : et009 - [ 29 เม.ย. 52 17:22:39 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ผมเห็นด้วยกับ #95 คือทางสโมสรทักท้วงแล้วว่า ไม่ควรจัดที่นี่ แต่ยูฟ่ายังดื้อดึงที่จะจัด และวันแข่งทั้งๆที่แฟนบอลมีเรื่องกันแบบฆ่ากันตาย แต่ยังให้แข่งต่อจนจบ.... แต่ยูฟ่าได้ตั้งสินให้แฟนบอลลิเวอร์พูลผิด....และทำให้สโมสรจากอังกฤษไม่ได้มีสิทธิ์แข่งบอลถ้วยนี้ 5-6 ปี  แต่ยูฟ่าไม่เคยรับผิดชอบเลย...ซึ่งที่จริงศาลน่าจะลงความผิดแก่ผู้จัดด้วยนะครับ... ซึ่งผมรับไม่ได้กับยูฟ่าในข้อนี้....รับชอบแต่ไม่รับผิด... จากคุณ : นาย 17 อดีตเด็กหลังห้อง - [ 29 เม.ย. 52 17:36:27 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ตอนต้นกระทู้ยังน่าอ่านอยู่เลย หลังๆเอียนรัชพาออกทะเลซะงั้น จากคุณ : The Red - [ 29 เม.ย. 52 17:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ตอนต้นกระทู้ยังน่าอ่านอยู่เลย หลังๆเอียนรัชพาออกทะเลซะงั้น จากคุณ : The Red เปล่าน่า สำหรับผมไม่ได้โพสตอนเห้นความเห็นเอียน รัช นะพี่เดอะเรด ผมโพสจากความรู้สึกตัวเองครับ ว่ามันก้มีทุกที่แหละนะที่คนใหญ่คนโตรู้จักความรับผิดชอบ แค่รับชอบไม่รู้จักรับผิด จากคุณ : et009 - [ 29 เม.ย. 52 17:56:48 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ผมแซวเล่นน่ะครับ et ยังไงก็คนไทยด้วยกันอย่าอินมากเลยครับ เรื่องมันผ่านไปนานมากแล้ว จากคุณ : The Red - [ 29 เม.ย. 52 19:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 100 โทรจิต????????????? แผ่นทอง??????????? มันจบและผ่านไปแล้ว เก็บไว้เป็นบทเรียน คุณกลับไปเชียร์ทีมที่คุณชอบเถอะ ขอบคุณทุกท่านสำหรับความรู้ดีๆ ที่แบ่งปันกันครับ จากคุณ : สุขสมปอง - [ 29 เม.ย. 52 19:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 101 แหม  เข้ามาเห็นตอนกระทู้จะวายซะแร้ว  เพราะทีแรกไม่คิดว่าเรื่องมันจะมาไกลขนาดนี้   ในฐานะที่ดูบอลมาช่วงนึงแล้ว ตอนที่เกิดเหตุการณ์เฮย์เซลนั้น และก็หลังจากได้อ่านคห.ต่างๆ บ้างแล้ว ก็พอจะให้ความเห็นได้บ้างว่า เรื่องของเรื่องมันเกิดจากฮูลิแกนอย่างเดียวเลยในช่วงนั้น ต้องยอมรับว่า ช่วงนั้นอังกฤษเป็นเจ้ายุโรปอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฮูลิแกนอังกฤษกร่างเอามากๆ บางกลุ่มนี่ถึงขนาดเดินทางเพื่อไปตีกับชาวบ้านโดยเฉพาะ  ไม่ได้คิดที่จะไปดูบอลเลยด้วยซ้ำ พอเมาเข้าไปได้ที่ก็มักจะเกิดเหตุการณ์"บอลแพ้ คนไม่แพ้" อยู่บ่อยครั้ง บางทีบอลไม่แพ้ยังตีเค้าอีกด้วย ตะก่อนไม่เหมือนกับสมัยนี้(ที่มาตรการคุมเข้มมาก)  ใครอยากได้ตั๋วไปหาเอาข้างหน้าก็ได้ แต่เด๋วนี้ ใครไม่มีตั๋ว(ตะก่อนไม่ต้องมีชื่อกำกับไว้) ไม่ต้องไป  ยิ่งเตะต่างประเทศแล้ว ไม่ออกวีซ่าให้ด้วย สมัยก่อนฮูลิแกนเลยรวมตัวกันง่าย  นัดตีกันก็ง่าย  แต่สมัยนี้ไม่มีตั๋วบอลแล้ว อย่าได้หวังว่าจะเฉียดไปใกล้สนามเลย แฟนบอลรุ่นใหม่ๆ ที่มาดูบอลช่วงหลัง เลยรู้สึกว่าทำไมต้องไปโทษอังกฤษ โทษลิเวอร์พูล แต่ความเป็นจริงคือ สมัยก่อนกับสมัยนี้มาตรการมันต่างกันเยอะ  จะไปว่ายูฟ่าทั้งหมดมันก็ไม่ถูก แรกๆ ยูฟ่าก็เลือกสนามชิงแชมป์จาก 8 ทีมสุดท้าย  แต่ก็มักจะมีเหตุการณ์หลุดไปเตะสนามของชาติที่ได้เข้าชิงอยู่เนืองๆ (อย่างเช่น แมนฯ ยูฯ ยังโดนกัดว่า ได้แชมป์ยูโรเปี้ยนครั้งแรก เพราะเตะในสนามเวมบลีย์เลย) ยูฟ่าก็เลยออกไอเดียเพื่อเผยแพร่บอลออกไปสู่ชาติต่างๆ ในยุโรป (ที่ทีมในชาติฝีเท้าไม่ถึง) มากขึ้น โดยเอานัดชิงไปจัดในประเทศต่างๆ สลับกันไป  พร้อมกับเหตุผลว่า แต่ละทีมน่าจะได้เตะในสนามเป็นกลางมากขึ้น หวยก็เลยมาลงที่เฮย์เซลในปีนั้นจนได้   ส่วนสาเหตุที่ผู้จัดขอให้แข่งต่อในวันนั้นจนจบ ก็เพราะว่า หลังจากปรึกษากันแล้วหลายๆ ฝ่าย ก็เห็นตรงกันว่า ถ้ายังเลื่อนออกไปวันอื่น ก็อาจจะวุ่นวายหนักไปอีก  เพราะสนามก็พังไปแล้ว แถมคนที่ซื้อตั๋วไปแล้ว ไม่ได้ดูเกม  ก็อาจจะก่อความวุ่นวายขึ้นภายหลังอีก  ไหนจะคนตายอีกสารพัด ก็เลยเอาให้จบๆ วันนี้ไปเลยดีกว่า  ไม่งั้นเบลเยี่ยมอาจจะพังเพราะฮูลิแกนที่น่าจะปักหลักต่ออีกหลายวันแน่ นี่คือ ความซวยของสนามเป็นกลางครับ   ระหว่างที่แฟนอังกฤษโดนแบนไป 5-6 ปี ชาติต่างๆ ก็เลยหาวิธีคุมฮูลิแกนไปพลางๆ   ขณะที่อังกฤษเองก็คุมเข้มแฟนบอลตัวเองอย่างที่เห็นในปัจจุบัน  เช่น ห้ามเข้าสนาม หรือห้ามเดินทางถ้าไม่มีตั๋ว ทำให้พวกฮูลิแกนน้อยไปในที่สุด ปล. ตะก่อนก็เกลียดลิเวอร์พูลนะ ที่ทำให้ทีมอื่นอดไปเล่นบอลยุโรป  แต่พอโตขึ้น ก็พอจะเข้าใจอารมณ์กร่างของแฟนๆ และพอเห็นมาตรการโหดกว่าจะเข้าไปดูบอลในสนามได้  ก็เลยยิ่งเข้าใจว่า เพื่อความปลอดภัยของแฟนบอลในสนามนั่นเอง ถึงได้บอกว่า มันไม่ใช่ความผิดของผู้จัดเสมอไปหรอกครับ  แต่มันเป็นที่คนมากกว่า จากคุณ : เดอะ ปูด - [ 29 เม.ย. 52 20:01:32 ]

ความคิดเห็นที่ 102 วัดอายุได้ดีจริงๆ กระทู้นี้ อิอิ ล้อเล่นนะครับ จากคุณ : ตีนกบ - [ 29 เม.ย. 52 20:53:54 ]

ความคิดเห็นที่ 103 แฟนหงส์กลัวความจริงครับ ตูไม่ผิด ถ้าคุณ Mica ไม่แฉที่คห.5 จะมีแฟนหงส์คนไหนกล้าออกมาบอกรึเปล่าครับ ว่าแฟนหงส์เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เห็นออกมามีแต่หาเรื่องโบ้ยให้ฝ่ายจัด แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 52 22:08:11 จากคุณ : โจผี - [ 29 เม.ย. 52 22:02:34 ]

ความคิดเห็นที่ 104 เบื่อแฟนทีมอื่นที่ไม่รู้เรื่องแล้วมาเกรียน.... ผมเห็นด้วยบางส่วนกับ #101  แต่ผู้จัดก้อควรจะรับผิดชอบเช่นกัน เพราะสโมสรโต้แย้งว่า สนามนี้ไม่ปลอดภัย แต่ผู้จัดก้อไม่สนใจ แถมอัฒจันทน์ถล่มยังบ้าให้แข่งต่อไปอีก....ถ้าเป็นสมัยนี้ผู้จัดมีเฮแน่ๆครับ จากคุณ : นาย 17 อดีตเด็กหลังห้อง - [ 29 เม.ย. 52 22:33:22 ]

ความคิดเห็นที่ 105 กลัวยุพินมาเห็นจัง จากคุณ : ขี้เหร่ใจซื่อ - [ 30 เม.ย. 52 00:30:47 ]

ความคิดเห็นที่ 106 แฟนหงส์กลัวความจริงครับ ตูไม่ผิด ถ้าคุณ Mica ไม่แฉที่คห.5 จะมีแฟนหงส์คนไหนกล้าออกมาบอกรึเปล่าครับ ว่าแฟนหงส์เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เห็นออกมามีแต่หาเรื่องโบ้ยให้ฝ่ายจัด แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 52 22:08:11 จากคุณ : โจผี ไม่คิดว่าจะมีตะกวดออกมาวิ่งเล่นด้วย 1 ตัวแฮะ อ่านภาษไทยไม่ออกก็ไปอ่านให้เข้าใจก่อนค่อยโพสนะ จากคุณ : et009 - [ 30 เม.ย. 52 01:22:20 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ชอบกระทู้ดีๆ มีความรู้อย่างนี้คะ แต่จะให้ดี ขอเป็นข้อเท็จจริงๆๆ ที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อมีความคิดเห็นเข้ามา ก็จะออกทะเลไป โหวตให้นะคะ จากคุณ : kittypatty - [ 30 เม.ย. 52 06:58:15 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ผมว่าส่วนใหญ่แฟนหงส์เขาก็ยอมรับว่าเราผิดแหละ   แต่ประเด็นที่พูดๆ คือ  แปลกแฮะ  ยูฟ่าน่าจะรับผิดชอบด้วย อย่างโอลิมปิดมิวนิค ผู้จัดก็ขอโทษที่จัดการดูแลผิดพลาด  แต่คนผิดคือพวกผู้ก่อการร้ายอยู่ดี แล้วที่ใส่กันเนี่ย  คือแฟนทีมอื่นดูจะใส่หงส์แบบคนตายเป็นญาติตรู  เองผิดๆ  อย่างนี้จะจบหรือ แฟนหงส์ครับ  หงส์ผิดเบอร์ 1  ผิดมากด้วย  ยูฟ่า  ผิดมาที่  2  ทะลึ่งจะจัดจนวุ่นวาย  อย่าอ้างเลยเรื่องวุ่นวาย  กลัวโดนฟ้องผิดสัยญามากกว่าถ้ายกเลิก    แฟฟนยูเว่ผิดบ้างแต่น้อยที่ไปยั่วยุ  ขนาดกฎหมายยังบอกเลย  ไปยั่วยุคนอื่น  จนโดนเขาตืบเอา  เรียกร้องค่าเสียหายไม่ได้ จากคุณ : Jack o'lanturn - [ 30 เม.ย. 52 08:37:53 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ผมเห็นด้วยครับกับ #108  คือที่ผิดเยอะสุดก้อคือแฟนหงส์ (ที่ทำตัวเป็นฮูลิแกน) ซึ่งก้อได้รับโทษแบนไป 6 ปี และต้องทำให้ทีมจากอังกฤษมีโทษแบน 5 ปี  สมัยนั้นแฟนบอลอังกฤษก่อวีรกรรไว้เยอะ เลยโดนไปหมดทั้งประเทศ... ซึ่งแฟนหงส์ก้อได้ขอขมาแฟนยูเว่ ซึ่งเราจะเห็นได้จาก UCL ปี 2004-2005 ที่แข่งแบบ เย้า-เยือน...และไม่มีเหตุร้ายใดๆเกินขึ้น และ 2สโมสรก้อไม่มีการพูดสาดโคลนใส่กันอีก...มีแต่รำลึกถึงความเสียใจ และไม่อยากให้เกิดเรื่องเช่นนี้อีก... จากคุณ : นาย 17 อดีตเด็กหลังห้อง - [ 30 เม.ย. 52 10:14:28 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ได้ความรู้ดีมากๆ ขอบคุณลุงๆ อาๆ ทุกท่านครับ จากคุณ : art_sarawut - [ 30 เม.ย. 52 10:19:51 ]

ความคิดเห็นที่ 111 เป็นกระทู้สาระ ที่ เปิดเผย อายุ ของสมาชิกหลายท่าน หุหุหุ สวัสดีครับ คุณลุง คุณปู่ หุหุหุ (กล้าพูดมากกกกกก ตูก็แก่ 55555+) จากคุณ : boy_kung - [ 30 เม.ย. 52 12:29:45 ]

ความคิดเห็นที่ 112 เข้ามาอ่านครับ ช่วงทศวรรษ 90 ปัญหาฮูลิแกนก็ยังมีอยู่เลย แต่หลังๆมาตรการเข้มงวดจริงๆ เดี๋ยวนี้เลยไม่ค่อยมีแล้ว จากคุณ : SamuDi Knight - [ 30 เม.ย. 52 12:42:13 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ขอบคุณคุณลุงทุกท่านครับ จากคุณ : Bierhoff - [ 30 เม.ย. 52 14:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 114 แปลกจังเลบครับตีกันยังไงหรอตายอยู่ฝ่ายเดียวเลยตั้ง 39 คน คนอังกริดเขาชกต่อยเก่งขนาดนั้นเลยรือ(ปล.เกิดไม่ทัน ใครมีภาพช่วยโพสต์) หรือเกิดจากการถูกแออัดจนขาดอากาศหายใจคล้ายๆเหตุการณ์ฮิลส์โบโร ไม่มีภาพประกอบน่ะครับ มีแต่พยานบุคคล ต่างฝ่ายต่างก้ให้ปากคำแบบ.. นะ แต่ก้อย่าทะเลาะกันเลยนา งืมๆ แต่ทางกฎหมายแล้ว ไม่รุว่าการถูกยั่วยุ แล้วถูกฆ่าตายนี่ จะเกินกว่าเหตุไหมนะ อย่างเช่น หากเราถูกคนเอามีดเข้ามาจะทำร้าย แต่เราแย่งมีดได้แทงกลับไปตรงขั้วหัวใจ เปนเหตุให้เขาตาย ศาลก้ยังตัดสินว่าเรามีความผิด เพราะเรากระทำเกินกว่าเหตุอันควรแก่การป้องกันตัว เช่น ถ้าแค่ป้องกันตัว อาจแทงจุดอื่นๆบนร่างกาย ที่ไม่อันตรายถึงชีวิต แต่การแทงเข้าช่วงอก รึ ท้อง คาดหมายได้ว่า ผู้ถูกแทง อาจอันตรายถึงเสียชีวิตได้ กลับกัน การโดนขว้างเศษเหรียญ อย่างมาก ให้หนักอาการสุดก้หัวแตกละนะครับ ดังนั้น ไม่ว่าจะด้วยอาวุธอะไรก้แล้วแต่ การที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงถึง 39 คน แล้วยังเปนตัวเลขที่เกิดเพียงด้านเดียว การถูกยั่วยุเปนเรื่องให้แฟนบอลอังกริด(เปนกลางนะครับ ไม่ใช้คำว่าแฟนหงส์แดง) ก่อเหตุขว้างเหรียญคืน แต่ขว้างไปขว้างมา อิตาลีตายไปเสีย 39 คน ในถานะคนกลาง พูดไปก้น่าคิดอยู่นะคับ ต่อให้มีอาวุธไม่เหมือนกัน แต่การทะเลาะวิวาทขั้นรุนแรงนั้น ก้น่าจะมีบาดเจ็บบ้างทั้งสองฝ่าย แต่อันนี้ เสียชีวิตอยู่ฝ่ายเดียวเลย เหตุผลอาจจะฟังไม่ขึ้นนะครับ ต่อให้บอกว่าถูกยั่วยุก่อนก้ตามที เหมือนตอนสมัยเด็ก ถูกเพื่อนด่าพ่อล้อแม่ ผมก้ชกเพื่อนเอา ผิดก้ขอโทดกันไป กับเพื่อนอีกคน โดนเพื่อนด่าพ่อล้อแม่ แต่เอามีดไปแทงเขา เข้า ร.พ. อันนี้เรื่องถึงตำรวจ นะครับ ถึงจะเกิดขึ้นจากการถูกยั่วยุก้ตามที ดังนั้น เขาตัดสินกันไปแล้ว ขอขมากันไปแล้ว เราคนไทยก้อย่าไปฟื้นฝอยหาตะเข็บ อธิบายด้วยความรู้สึกที่เหมือนจะแก้ต่าง(สำหรับคนที่เปนแฟนหงส์แดง) เพราะมันไม่มีทางที่คนในบอร์ดจะบอมรับอยู่แล้ว ต่อให้คุณจะอธิบายดีแค่ไหนก้ตาม อย่างมากก้แค่เสมอตัว อีกอย่าง คำพูดที่โควต มาส่วนใหญ่ ก้มาจากปากคำแฟนบอล + นักฟุตบอล ลิเวอร์พูลทั้งนั้น เปรียบดัง กรรมการตัดสินฟุตบอล เขาก้ห้ามไม่ให้ลงตัดสินในนัดที่ทีมโปรดของกรรมการคนนั้นลงแข่งนะครับ หรือ ถ้าหากเราฆ่าคนตาย แล้วพยานบุคคลในเหตุการณ์เปนบุคลในครอบครัวเรา คุณคิดว่าศาลจะให้น้ำหนักจากปากคำเหล่านั้นรือ ดังนั้น พยานวัตถุ และหลักฐาน(จากตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ)จึงสำคันกว่านะครับ ถ้าผมเปนแฟนหงส์ ผมก้คงจะเงียบไว้กัน และปล่อยมันผ่านไปกับสายลม.. จากคุณ : ฉายากุหลาบ.. (pop_friday) - [ วันแรงงาน 11:16:40 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ไปอ่านซอคเกอร์ เล่มเก่าๆ สมัยนั้น ยูเว่ บรรณาธิการ สมัยนั้น เขาอ่าน จูเวนตัส จิงๆน่ะและ อิอิ คงคล้ายสมัยนี้ ที่ วองแจร์ แต่อ่านเปน เวงเกอร์ หรือ อองรี(อ่านถูกแล้ว) แต่ถ้าอ่านแบบคนอ่าน เวยเกอร์ ก้ จะกลายเปน เฮนรี ไปเสีย.. หรือ เอซี มิลาน ต่างประเทศ ก้จะออกเสียง ว่า ไมลัน หรือที่แต่ก่อนเราเรียก อาดิดาส ว่า อาดิแดส 55+ อ่านไปแล้วก้นึกถึงตอนเด็กๆ ปล. อย่างเช่น หากเราถูกคนเอามีดเข้ามาจะทำร้าย แต่เราแย่งมีดได้แทงกลับไปตรงขั้วหัวใจ เปนเหตุให้เขาตาย ศาลก้ยังตัดสินว่าเรามีความผิด เพราะเรากระทำเกินกว่าเหตุอันควรแก่การป้องกันตัว เช่น ถ้าแค่ป้องกันตัว อาจแทงจุดอื่นๆบนร่างกาย ที่ไม่อันตรายถึงชีวิต แต่การแทงเข้าช่วงอก รึ ท้อง คาดหมายได้ว่า ผู้ถูกแทง อาจอันตรายถึงเสียชีวิตได้ ศาลจะพิจรณา จากขนาดและชนิดความยาวของมีดด้วยนะครับ เช่น ถ้าผู้นำมีดปอกผลไม้ เล็กๆเข้ามาจะทำร้ายเรา ศาลอาจพิจรณาได้ว่าเปนการทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายธรรมดา แต่ถ้าเราแย่งมีดกลับได้ แล้วแทงกลับไปกลางช่วงอก หรือท้อง และจำนวนครั้งที่แทง หากแทงเกิน 1-2 แผล อาจกลายเปนการกระทำเกินกว่าเหตุแก่ก่รป้องกันตัวไปจะกลายเปนเราเสียอีกที่ผิด แชร์ๆความคิดเหนไปครับ คนเราไม้บรรทัดมันไม่เท่ากันอยู่แล้ว อย่าไปดูถูกความคิดของคนอื่นหรือไปต่อว่ากันด้วยคำว่าเกรียนอีกต่อไปเลย จากคุณ : ฉายากุหลาบ.. (pop_friday) - [ วันแรงงาน 11:32:19 ]

ความคิดเห็นที่ 116 เอ่อ ว่าแต่เขาโหวตกระทู้กันตรงไหนรือครับ.. แหะๆ เพิ่งโพสต์ครั้งแรกในพันธิพเลย แต่ก่อนไม่ค่อยเข้า..=P จากคุณ : ฉายากุหลาบ.. (pop_friday) - [ วันแรงงาน 11:37:20 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ^ ^ คือร่ายกฎหมายซะยาว   คือผมบอกว่าในทางแพ่ง  ไปยั่วยุ  ถูกตืบเรียกค่าเสียหายไม่ได้ ซึ่งทางแพ่งไม่ถือเป็นผู้เสียหายทางกฎหมาย  แต่ถามว่าคนตืบผิดไหม  ผิด   อันนี้ไม่ต้องไปดูเลยว่าเกินกว่าเหตุหรือเปล่าเพราะเขาแค่ยั่วยุ  ไปอ้างป้องกันตัวไม่ได้ กรณีนี้  แฟนหงส์ก็ผิดไม่ว่าจะโดนยั่วยุ  และปาเหรียญหรือไม่  เพราะไม่มีสิทธิ์ไปทำอย่างนี้   และแฟนหงส์ก็ไม่จำเป็นต้องเงียบไว้  เพราะทุกคนยอมรับว่า  เดอะ ค๊อป  ผิด   แต่ที่คุยคือ  เอ๊ะ  ยูฟ่ามีส่วนผิดด้วยไหม  แล้วโดนมองว่าหาเรื่องโยนความผิดให้คนอื่น  ไม่ต้องบอกใครจบไม่ต้องทะเลาะกัน  เพราะดูเหมือนจะจบไปแล้วด้วยนะตอนนี้ ยังไงก็อย่าคุ้ยมาคุยอีกเลย แฟนหงส์   ยังไงแฟนหงส์ก็ผิดที่ดันไปทำให้อีกฝ่ายตายอย่างเดียว ยูฟ่า  ผิด  จัดไม่ได้มาตรฐาน  แล้วพอคนตายก็ไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรเลย แฟนยูเว  (เฉพาะที่ไปยั่วยุ)  ผิด  เพราะมีส่วนทำให้เกิดโศกฯฏกรรม แต่สรุปแฟนหงส์  ผิดมากจริงๆ  ที่ไปทำอย่างนั้น โอเคนะครับ  จากความคิดแฟนหงส์แท้ๆ คนหนึ่ง จากคุณ : Jack o'lanturn - [ วันแรงงาน 19:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ตอนแรก กระทู้ก็ดูดี ๆ แ่ต่ตอนหลัง ๆ อ่านแล้วน่าสมเพช บางความเห็นก็เขียนเหมือนกับว่า เพราะแฟน ลิเวอร์พูล เลวrayam เลยทำให้ทีมจากอังกฤษทีมอื่นพลอยซวยไปด้วย เขียนเหมือนเด็กเพิ่งเกิดเมื่อวาน แล้วก็ริ จะไปขุดคุ้ยประวัติศาสตร์ด้านเดียว มายำ ยุคนั้น แฟนบอลเถื่อน(นอกบ้าน)จากเกาะอังกฤษ มันเถื่อนกันถ้วนทั่ว ไม่ได้จำแนกหรอกว่า เฉพาะกองเชียร์ลิเวอร์พูลถึงจะเลวทรามต่ำช้า ถ้าเป็นกองเชียร์แมนยู เอฟเวอร์ตัน อาร์เซนอล แล้วจะสุภาพ นั่งพับเพียบเรียบร้อย ถักโครเชต์ไปดูบอลไป รับรองไม่เกิดเรื่องแน่นอน มันก็เถื่อนเหมือนกันหมด ในนาม "ฮูลิแกน" จากเกาะอังกฤษ นั่นแหละ เออ....คนเรา จากคุณ : CameronRevenge - [ วันแรงงาน 20:22:57 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ไม่ว่า....ใคร จะยั่วยุแหย่ ยังไง ไม่มีใครมีสิทธิไปทำให้คนอื่นตายครับ.... จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ วันแรงงาน 23:55:39 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ไม่ได้เข้าห้องศุภฯ 2-3วัน ----อ้าวได้เป็นกระทู้โหวต  แต่ไหง ช่วงกลางๆมาแปลงร่างกระทู้...   แต่ด้วยเหตุและผล  ก็คงจะเข้าใจกันมากขึ้นแล้วนะคะ  ใครผิดเป็นอดีตไปแล้วค่ะ ขอเพียงทุกฝ่ายไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนั้นขึ้นอีก ในฐานะแฟนยูเวนตุส(จูเวนตัส)มานาน 27ปี ไม่ปฏิเสธว่าแฟนยูเว่บางส่วนตอบโต้ยั่วยุแฟนหงส์  แต่ความตายเป็นความรุนแรงที่น่าเศร้าที่สุด   และส่วนตัวไม่ได้สนใจกับผลการแข่งขัน   อย่างที่บอกข้างต้นไปแล้ว(คห.ที่10)   ความทรงจำของตนเอง  มีเพียงเรื่องคนตาย จึงหวังว่า...จะไม่มีใครต้องเสียชีวิตเพียงเพราะเชียร์กีฬา ไม่ว่าจะเป็นทีมใด จากคุณ : เขามะกอก - [ 2 พ.ค. 52 01:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 121 #115 อ่านเวนเกอร์น่ะ ถูกแล้วครับ จากคุณ : xevi - [ 2 พ.ค. 52 02:36:26 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ภาษาฝรั่งเศส อ่าน wenger ออกเสียงว่า วองแจร์ ครับ ส่วน Henry ภาษา ฝรั่งเศส ก้ออก้เสียงว่า อองรี (ซึ่งผู้บรรยายกีฬาอ่านถูกแล้ว) ไม่เช่นนั้น ถ้าอ่านแบบ ภาษาอังกฤษ ที่อ่าน วองแจร์ เปน เวนเกอร์ อองรี ก้คงต้องอ่านเปน เฮนรี ไปนะครับ.. จากคุณ : ฉายากุหลาบ.. (pop_friday) - [ 2 พ.ค. 52 07:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 123 หรือยกตัวอย่าง(เพิ่งนึกได้) เราคงคุ้นกับคำว่า ก็องโต้ มากกว่า ก้ คือ Cantona(ก็องโต้) หรือ ถ้าอ่านออกเสียง ฝรั่งเศส ก้คือ ก็องโตนา แต่เราคนไทยก็อ่านกันกลาย เปน คันโตน่า(อ่านออกเสียงแบบอังกฤษ) ไป ^-^ จากคุณ : ฉายากุหลาบ.. (pop_friday) - [ 2 พ.ค. 52 10:36:12 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ทะเลาะกันเพราะเอามุมมองของเอียน รัชมาพูดเลยยาวเลย จริงๆเรื่องจบไปนานแล้ว โดนลงโทษกันทั้งหมดทุกคนแล้ว แฟนหงส์แดงก็เจอเหตุการณ์ฮิลล์โบโร่ หลังจากนั้นไม่กี่ปี ผมเชื่อว่าแฟนบอลส่วนมากของหงส์แดงไม่น่าทำซ้ำแล้วครับ จากคุณ : twenty-four - [ 2 พ.ค. 52 10:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ภาษาฝรั่งเศส อ่าน wenger ออกเสียงว่า วองแจร์ ครับ ....................................................... นามสกุลนี้อ่านว่าเวนเกอร์ถูกต้องแล้วครับ เนื่องจากอาร์แซน เวนเกอร์ เป็นคนที่มีต้นตระกูลเป็นคนเยอรมัน  ดังนั้นนามสกุลเขาจึงไม่อ่านออกมาเป็นภาษาฝรั่งเศส จากคุณ : Mica - [ 2 พ.ค. 52 14:12:54 ]

ความคิดเห็นที่ 126 เห็นด้วยกับ คุณ Mica  เพราะเจ๊หมวย มาเฟียรี่  ก็เคยเขียนบอกไว้แล้ว ไม่งั้นรับรองว่า ทางซอคเกอร์คงจะใช้เป็นเจ้าแรกๆ แล้ว  ไม่ยอมให้พลาดมาถึงตอนนี้หรอก มีแต่พวกรู้มากเท่านั้น  ที่ยังใช้วองแจร์อยู่    คล้ายๆ พวกกษิติอ่ะ   จากคุณ : เดอะ ปูด - [ 2 พ.ค. 52 21:00:20 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ถ้า... ถ้าวันนั้นอังกฤษ ไม่โดนแบน วันนี้อาจจะถึงยุคเสื่อมของวงการฟุตบอลอังกฤษก็ได้ รวมทั้งพวกเราอาจจะไม่ได้เห็นความยิ่งใหญ่ของแมนยูก็ได้ จากคุณ : Sawakato - [ 3 พ.ค. 52 19:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ดูจากคลิปแล้ว พูดไม่ออกจริงๆ   RIP ให้กับผู้เสียชีวิตทุก ๆ คนจากเหตุการณ์นั้น จากคุณ : ตอนคุณมองตะวัน ผมมองเจอแต่จัน - [ 3 พ.ค. 52 21:54:56 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ว่าจะเข้ามาช่วยตอบ ที่ไหนได้ ความรู้เต็มกระทู้จริงๆครับ.. จากคุณ : เลยมาช่วยโหวตแทน (Liverpool Forever) - [ 3 พ.ค. 52 22:57:18 ]