ความคิดเห็นที่ 1 เจตนารมย์ประจำโต๊ะ "โต๊ะน้ำชา เป็นที่เสวนาของคนที่รักในสิ่งเดียวกัน นั่นคือ "ปืน" และเป็นการเสวนาที่สร้างสรรค์ หรือถ้าจะติ ก็ติเพื่อก่อ  เราจะไม่วิวาทกับใคร ถ้าใครไม่มาก่อวิวาทกับเรา จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 11:48:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 โปรแกรมของอาร์เซนอลประจำฤดูกาล 2008/09 เดือนพฤษภาคม 2009 10  EPL   Arsenal - Chelsea                            15.00 น.  (ตามเวลาท้องถิ่น) 16  EPL   Manchester United  - Arsenal            15.00 น.  (ตามเวลาท้องถิ่น) 24  EPL   Arsenal - Stoke City                         16.00 น.  (ตามเวลาท้องถิ่น) *ตั้งแต่วันที่ 29 มีนา ปรับเวลาเข้าสู่ Summer Time ช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง* **ข้อมูลจาก www.arsenal.com** จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 11:49:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สรุปการยิงประตูของนักเตะอาร์เซนอล 1.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  18 ประตู (EPL 9, UCL 5, FA 4) 2.  เอ็มมานูเอล อเดบายอร์  16 ประตู (EPL 10, UCL 6) 3.  นิคลาส เบนดท์เนอร์  14 ประตู (EPL 8, UCL 2, FA 2, Lge Cup 2) 4.  ซามีร์ นาสรี่  7 ประตู (EPL 6, UCL 1) 5.  วิลเลี่ยม กัสลาส  6 ประตู (EPL 2, UCL 3, FA 1) 6.  ธีโอ วัลคอตต์  6 ประตู (EPL 2, UCL 3, FA 1) 7.  อังเดร อาร์ชาวิน  6 ประตู  (EPL) 8.  คาร์ลอส เวล่า  6 ประตู (EPL 1, FA 1, Lge Cup 4) 9.  เอ็มมานูเอล เอบูเอ้  4 ประตู (EPL 3, FA 1) 10. เดนิลสัน  3 ประตู (EPL) 11. เอดูอาร์โด้  3 ประตู (FA) 12. อาบู ดิยาบี้  3 ประตู (EPL 2, UCL 1) 13. เซสก์ ฟาเบรกาส  3 ประตู (EPL) 14. อเล็กซ์ ซง  2 ประตู (EPL 1, UCL 1) 15. มิคาเอล ซิลแวสตร์  2 ประตู (EPL) 16. เจย์ ซิมป์สัน 2 ประตู  (Lge Cup) 17. อารอน แรมซีย์  1 ประตู (UCL) 18. แจ๊ค วิลเชียร์  1 ประตู (Lge Cup) 19. กาแอล กลิชี่  1 ประตู  (EPL) 20. โคโล่ ตูเร่  1 ประตู  (EPL) *รวมประตูจาก UCL รอบคัดเลือก (กัสลาส 2, บายอร์ 1, เบนดท์เนอร์ 1, นาสรี่ 1, วัลคอตต์1) ------------------------------------------------------- สรุปการผ่านบอลให้เพื่อนทำประตู (Assist)   1.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  14 (EPL 9, UCL 4, FA 1) 2.  เซสก์ ฟาเบรกาส  14 (EPL 9, UCL 5) 3.  เดนิลสัน  8 (EPL 7, UCL 1) 4.  อังเดร อาร์ชาวิน  8 (EPL 6, FA 2) 5.  เอ็มมานูเอล อเดบายอร์  6 (EPL 4, UCL 2) 6.  ซามีร์ นาสรี่  5 (EPL 2, FA 3) 7.  นิคลาส เบนดท์เนอร์  5 (EPL 2, UCL 1, Lge Cup 1, FA 1) 8.  ธีโอ วัลคอตต์  5 (EPL 2, UCL 3) 9.  เอ็มมานูเอล เอบูเอ้  4 (EPL 3, UCL 1) 10. คาร์ลอส เวล่า  3 (Lge Cup 2, FA 1) 11. อเล็กซ์ ซง  3 (EPL 1, FA 2) 12. อารอน แรมซีย์  3 (EPL 1, Lge Cup 2) 13. โยฮัน ฌูรู  2 (FA 1, Lge Cup 1) 14. คีแรน กิ๊บส์  2 (FA 1, Lge Cup 1) 15. มิคาเอล ซิลแวสตร์  1 (UCL) 16. แจ๊ค วิลเชียร์  1 (Lge Cup) 17. ฟราน เมริด้า  1 (Lge Cup) 18. อาบู ดิยาบี้  1 (EPL) 19. โคโล่ ตูเร่  1 (EPL) *รวม Assist จาก UCL รอบคัดเลือก (ฟาน เพอร์ซี่ 1, เดนิลสัน 1, วัลคอตต์ 2,  เบนดท์เนอร์  1) *Lge Cup = Carling Cup **ประตูของอาร์เซนอลในเกมกับฮัลล์ ซิตี้ เป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ McShane ยึดตามเว็บ premier league ค่ะ http://www.premierleague.com/page/MatchReports/0,,12306~43945,00.html **ประตูที่สองของอาร์เซนอลในเกมเอฟเอคัพกับพลีมัธ อาร์ไกร์ ทางเอฟเอให้เครดิตเป็นการทำประตูของเบนดท์เนอร์ http://www.arsenal.com/news/news-archive/bendtner-officially-awarded-fa-cup-strike *-*เป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆ ไม่ถูกต้อง 100% ค่ะ *-* จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 11:52:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สรุปจำนวนใบเหลือง 1.  กาแอล กลิชี่  9 (EPL 7, UCL 2) -----*** ล้างใบเหลือง EPL ไปแล้ว 1 รอบ 2.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 8 (EPL 4+1, UCL 3) ด้านหลัง + เริ่มนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 3.  อเล็กซ์ ซง  8 (EPL 5+1, UCL 2) -----*** ล้างใบเหลือง EPL เรียบร้อยแล้ว 4.  อาบู ดิยาบี้  7 (EPL 5, UCL 2) -----*** ล้างใบเหลือง EPL เรียบร้อยแล้ว 5.  ซามีร์ นาสรี่ 7 (EPL 3, UCL 3, FA 1) 6.  เซสก์ ฟาเบรกาส 6 (EPL 5, UCL 1) -----*** ล้างใบเหลือง EPL เรียบร้อยแล้ว 7.  เอ็มมานูเอล อเดบายอร์  6 (EPL 4, UCL 2) 8.  วิลเลี่ยม กัสลาส 5 (EPL 2+1, FA 2) ด้านหลัง + เริ่มนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 9.  โคโล่ ตูเร่ 5 (EPL 2+1, UCL 1, FA 1) ด้านหลัง + เริ่มนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 10. บาการี่ ซานญ่า 5 (EPL 3+1, UCL 1) 11. นิคลาส เบนดท์เนอร์ 4 (EPL 1, UCL 1, FA 2) 12. เดนิลสัน 4 (EPL 2, UCL 1, FA 1)   13. เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ 4 (EPL 2, UCL 2) 14. โยฮัน ฌูรู 2 (EPL 1, UCL 1) 15. อารอน แรมซี่ย์ 2 (EPL 1, Lge Cup 1) 16. คาร์ลอส เวล่า  1 (EPL) 17. คีแรน กิ๊บส์  0+1 (EPL) ด้านหลัง + เริ่มนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 18. มิกาแอล ซิลแวสตร์  1 (UCL) 19. อังเดร อาร์ชาวิน  1 (EPL)   *รวม UCL รอบคัดเลือก (กลิชี่ 1, เดนิลสัน 1, ฟาน เพอร์ซี่ 1) ------------------------------------------------------- สรุปจำนวนใบแดง 1.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  1 (EPL) -----*** โดนแบนครบแล้ว 2.  เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 1 (EPL) -----*** โดนแบนครบแล้ว 3.  เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ 1 (EPL) -----*** โดนแบนครบแล้ว **Lge Cup = Carling Cup จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 11:53:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โปรแกรมของ 5 ทีมหัวตาราง Arsenal May 09 10  Sun  16.00   Premier Legue : Arsenal v Chelsea 16  Sat  12.45   Premier League : Manchester United v Arsenal 24  Sun  16.00   Premier League : Arsenal v Stoke City ---------------------------------------------------------------------------------- Aston Villa May 09 9  Sat  15:00   Premier League : Fulham v Aston Villa 16  Sat  15:00   Premier League : Middlesbrough v Aston Villa 24  Sun  16:00   Premier League : Aston Villa v Newcastle ---------------------------------------------------------------------------------- Liverpool May 09 9  Sat  15:00   Premier League : West Ham United v Liverpool 16  Sat  15:00   Premier League : West Brom v Liverpool 24  Sun  16:00   Premier League : Liverpool v Tottenham ---------------------------------------------------------------------------------- Chelsea May 09 6  Wed  19.45  Champions League : Chelsea v Barcelona 10  Sun  16.00   Premier League : Arsenal v Chelsea 17  Sun  16:00   Premier League : Chelsea v Blackburn 24  Sun  16:00   Premier League : Sunderland v Chelsea 30  Sat  15:00   FA Cup : Chelsea v Everton ---------------------------------------------------------------------------------- Manchester United May 09 10  Sun  13:30   Premier League : Manchester United v Manchester City 13  Wed  20.00  Premier League : Wigan Athletic v Manchester United 16  Sat  12:45   Premier League : Manchester United v Arsenal 24  Sun  16:00   Premier League : Hull City v Manchester United ---------------------------------------------------------------------------------- **ข้อมูลจาก Sky Sports** จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 11:55:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ข่าวประจำวันที่ 06/05/2009 *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-* ผีตีตั๋วป้องแชมป์!สุดหรูบุกอัดปืน3-1 "ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด ตีตั๋วสู่กรุงโรม เพื่อไปป้องกันแชมป์ได้เป็นผลสำเร็จ หลังยกพลบุกกระซวก "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล คาบ้าน ไปแบบสวยหรู 3-1 ปาร์กยิงเปิด โรนัลโด้ ยิงเบิ้ล ทะยานไปรอผู้ชนะระหว่าง เชลซี กับ บาร์เซโลน่า ต่อไป ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ เกมที่สอง เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ เกมที่สอง อาร์เซน่อล(อังกฤษ) 1 - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด(อังกฤษ) 3 (รวมสองนัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-1) "เดอะ กันเนอร์ส" ของ อาร์เซน เวนเกอร์ เปิดเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "ปีศาจแดง" ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบตัดเชือกเกมที่สอง โดยมีสกอร์ตามหลังอยู่หนึ่งประตูจากเกมนัดแรก เจ้าถิ่นได้ตัวหัวหอกตัวจริงอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ คืนทัพกลับมาจับคู่กับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ในแดนหน้า โดยมี เชส ปราเบรกาส กองกลางกัปตันทีมเป็นคนคอยสร้างเกมรุกเช่นเดิม แต่ยังขาด อังเดร อาร์ชาวิน สตาร์รัสเซียคนสำคัญที่ติดคัพไท ฟากทีมเยือนมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นจากเกมแรกแค่ตัวเดียว โดยเป็น พาร์ค ชี ซอง ลงมาเล่นแทน คาร์ลอส เตเวซ ที่เป็นแค่ตัวสำรอง พร้อมสลับตำแหน่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปยืนเป็นหน้าเป้า ขณะที่ ปาทริค เอวร่า กับ เวย์น  รูนี่ย์ 2 ดาวเตะของทีมเยือนต้องระวังให้มาก เพราะมีใบเหลืองติดตัว ถ้ารับอีกใบจะอดเล่นเกมชิงดำ หากทีมเกิดเข้ารอบไป เริ่มเกมมาเจ้าถิ่นเปิดฉากรุกทันทีตามคาด และแค่นาทีเดียวก็ได้เสียวก่อนเลย เชส ฟราเบรกาส ยิงไกลหน้าเขตโทษแฉลบ 2 กองหลัง "ปีศาจแดง" เกือบเปลี่ยนทางเข้าประตู แต่คล้อยหลังแค่ 7 นาที "ปีศาจแดง" ออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็วเมื่อ อันแดร์สัน เก็บบอลได้ในแดนของ "ปืนใหญ่" ก่อนไหลเข้าช่องให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เปิดด้วยซ้ายเข้าไปหน้าประตูทันที บอลดูเหมือนไม่อันตราย แต่แล้ว คีแรน กิ๊บบ์ส แบ็กซ้ายของเจ้าถิ่นเกิดลื่นล้มลง ทำให้ พาร์ค ชี ซอง ที่วิ่งตามมาเกี่ยวบอลเข้าไปยิงผ่านมือ มานูเอล อัลมูเนีย ง่ายๆ ให้ทีมเยือนออกนำ 1-0 นาที 11 สกอร์ขาดเป็น 2-0 เหลือเชื่อ เป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้าดัตช์ลงมาช่วยเกมรับแล้วไปแล้วทำฟาวล์ โรนัลโด้ หน้าเขตโทษ ปีกโปรตุเกส ลุกขึ้นมาสับฟรีคิกด้วยขวาตูมเดียวระยะ 25 หลาเสียบตาข่ายเสาแรกหมดจด สกอร์รวมขาดเป็น 3-0 แล้ว ขณะที่เจ้าถิ่นต้องการถึง 4 ประตูเพื่อการพลิกนรก นาที 18 "ปีศาจแดง" เกือบนำห่างกว่าเดิม เวย์น รูนี่ย์ รับบอลจาก โรนัลโด้ ก่อนปั่นบอลโค้งจากริมเขตโทษฝั่งซ้ายหวังให้เสียบเสาสอง แต่ อัลมูเนีย ปัดปลายมือออกไปได้ทัน และจากจังหวะเตะมุมต่อเนื่องกัน อันแดร์สัน โยนเข้ามาให้ โรนัลโด้ โขกเฉี่ยวคานออกไป ครึ่งชั่วโมงผ่าน "ปีศาจแดง" เล่นง่ายเหลือเกินโดยลงไปรอสวนอย่างเดียวเท่านั้น เพราะ "เดอะ กันเนอร์ส" ต้องยิงถึง 4 ประตูเพื่อการเข้ารอบชิงชนะเลิศ นาที 32 ปีกโปรตุกีส มีโอกาสสับฟรีคิกระยะใกล้เคียงจากลูกแรกอีกครั้ง แต่หนนี้กลางประตู บอลพุ่งเต็มแรงเข้ามือ อัลมูเนีย ท้ายครึ่งแรกเจ้าถิ่นพยายามทำเกมรุกเข้ากดดันแนวรับทีมเยือนที่ถอยลงไปตั้งรับกันหมด แต่ยังไม่มีจังหวะยิงจังๆ เลยสักครั้งให้ เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ จอมหนึบทีมเยือนต้องออกแรง ช่วงทดเจ็บ โรนัลโด้ ซึ่งยืนเป็นหน้าในวันนี้ได้จังหวะส่องอีกครั้งด้วยซ้าย จากลูกผ่านของ  ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ แต่มือกาวสแปนิชของเจ้าถิ่นยังยืนถูกตำแหน่ง จบครึ่งแรก "ปีศาจแดง" บุกมานำ 2-0 ประตูรวมนำขาด 3-0 กลับมาเล่นครึ่งหลัง เวนเกอร์ แก้เกมทันทีส่ง เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ลงมาเล่นแทน คีแรน กิ๊บบ์ส ที่เล่นผิดพลาดมากในครึ่งแรก ขณะที่ริมสนามกล้องโคลสภาพได้ว่า เดวิด เบ็คแฮม อดีตซูเปอร์สตาร์ของ "ปีศาจแดง" ควงคู่มาดูเกมกับ มาติเยอ ฟลามินี่ เด็กเก่า "ปืนโต" ที่ปัจจุบันเล่นอยู่ด้วยกันที่ เอซี มิลาน พร้อมกับที่เจ้าถิ่นลงมานวดทันทีเฉกเช่นครึ่งแรก แต่จังหวะซัดจังๆ ยังคงเป็นฝั่งทีมเยือนอยู่ดี นาที 52 โรนัลโด้ รับบอลจาก พาร์ค ก่อนลากหนี โยฮัน ฌูรู เข้าในแล้วกระหน่ำด้วยซ้ายทันที อัลมูเนีย ปัดไว้ได้ปลายมือออกหลังไปอีกรอบ 2 นาทีต่อมาเจ้าถิ่นได้เสียวบ้าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ โยนฟรีคิกหวาดเสียวเข้ามากลางประตู แต่ไม่มีใครชาร์จทันลูกผ่านหน้าประตูไป นาที 61 สกอร์ฉีกหนีไปไกลเป็น 3-0 จากจังหวะรุกหน้าประตูทีมเยือน เนมานย่า วิดิช เคลียร์ทิ้งออกมา โรนัลโด้ เก็บได้ตอกส้นให้ พาร์ค จ่ายต่อออกไปฝั่งขวาให้ รูนี่ย์ ก่อนหัวหอกทีมชาติอังกฤษลากจี้ใส่กองหลังเจ้าถิ่นรอ โรนัลโด้ ที่วิ่งตามขึ้นมาทัน แล้วปาดเข้ามาให้ ปีกโปรตุกีส ชาร์จทันทีผ่านมือ อัลมูเนีย เข้าไปให้ และเป็นประตูที่สองของ โรนัลโด้ ในเกมอีกด้วย 2 นาทีถัดมา โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ สบจังหวะยิงให้เจ้าถิ่นบ้าง แต่ ฟาน เดอ ซาร์ ปัดไว้ได้อีกครั้ง หลังจากนั้นทีมเยือนเปลี่ยน รูนี่ย์ กับ เอวร่า 2 ดาวเตะที่มีใบเหลืองติดตัวออกไปพัก แล้วให้ ราฟาเอล ดา ซิลวา กับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ลงมาเล่นแทน รวมไปถึง ไรอัน กิ๊กส์ ที่ลงมาเล่นแทน อันแดร์สัน อย่างไรก็ดี นาที 76 ก็เกิดเรื่องขึ้นเมื่อ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ทำฟาวล์ เชส ฟราเบรกาส ในจังหวะหลุดเดี่ยว โรแบร์โต้ โรเซ็ตติ ตุลาการสนามวิ่งมาเป่าให้เป็นจุดโทษพร้อมกับควักใบแดงให้กับกองกลางสกอตต์อย่างเหลือเชื่อ ท่ามกลางการประท้วงของผู้เล่น "ปีศาจแดง" เพราะจะทำให้ เฟล็ทเชอร์ หมดสิทธิ์เล่นนัดชิงฯ ไปโดยปริยาย ก่อนที่ หอกดัตช์ จะลุกขึ้นมาสังหารจุดโทษเข้าไปอย่างเฉียบขาดให้ อาร์เซน่อล ไล่มาเป็น 1-3 ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าถิ่นพยายามยิงกู้หน้า แต่ไม่สำเร็จ จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาถล่ม อาร์เซน่อล 3-1 สกอร์รวม 4-1 ผ่านเข้าไปรอชิงฯ กับผู้ชนะระหว่าง เชลซี กับ บาร์เซโลน่า ในวันพุธที่ 27 พฤษภาคมต่อไป โดยที่จะต้องขาด เฟล็ทเชอร์ ผู้โชคร้ายอีกด้วย รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย, บาการี่ ซาญ่า, คีแรน กิ๊บบ์ส, โคโล่ ตูเร่, โยฮัน ฌูรู, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟราเบรกาส, ซามีร์ นาสรี่, ธีโอ วัลค็อตต์, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ สำรอง : ลูคัส ฟาเบียนสกี้, มิกาเอล ซิลแวสตร์, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เดนิลสัน, อาบู ดิยาบี้, คาร์ลอส เวล่า, นิคลาส เบนท์ดเนอร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์, จอห์น โอเช, ปาทริค เอวร่า, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, อันแดร์สัน, พาร์ค ชี ซอง, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์ สำรอง : โทมัส คุสแซ็ค, ราฟาเอล ดา ซิลวา, จอนนี่ อีแวนส์, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์, คาร์ลอส เตเวซ, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ผู้ตัดสิน : โรแบร์โต้ โรเซ็ตติ(อิตาลี) http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090506_027.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 11:58:22 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เวนเกอร์รับสภาพสู้ผีแดงไม่ได้จริงๆ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือเลือดเฟร้นช์ของ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ยอมรับพลพรรค "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สมควรได้ผ่านเข้ารอบชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากสร้างผลงานสุดยอดบุกต้อนพวกเขาคาบ้าน 3-1 ในรอบตัดเชือก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายอมรับความพ่ายแพ้ต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากบุกมาถล่มคารังเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 3-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัด 2  เมื่อวันอังคารที่ 5 พฤษภาคมนี้ รวม 2 นัดตกรอบด้วยสกอร์รวม 4-1 ขุนพล "ปีศาจแดง" ได้ประตูจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 2 ลูก และ พาร์ค ชี-ซอง ทำให้ทะลุเข้าไปป้องกันแชมป์ถ้วยหมายเลข 1 ของยุโรปได้สำเร็จ โดยกุนซือชาวฝรั่งเศส กล่าวหลังจบเกมว่า "มันเป็นสิ่งที่ยากลำบากมากเพราะเราไม่รู้สึกว่าได้เล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ เพราะเราดูเหมือนตกรอบไปแล้วหลังเกมผ่านไป 10 นาที เกมมันจบก่อนที่จะเริ่มซะอีก และมันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับได้" "เราพร้อมสำหรับเกมนี้ แต่หลังจากผ่านไป 10 นาทีมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เรายังคงสู้ต่อไป และทำให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่เราสามารถทำได้ เล่นด้วยความภาคภูมิใจ และเต็มไปด้วยแรงปราถนา แต่ความเชื่อมั่นส่วนหนึ่งก็หายไปบ้าง มันเป็นส่วนหนึ่งในเกมฟุตบอลที่เกิดขึ้นในคืนนี้ คุณไม่มีแผนอะไรทั้งนั้น แต่เราต้องยืนหยัดขึ้นมา และจบซีซั่นให้ดีที่สุด ด้วยการแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ในเกมพบเชลซี วันอาทิตย์นี้" "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สมควรได้ผ่านเข้ารอบทั้ง 2 นัด พวกเขาเป็นทีมที่ดีกว่า และโชคดีในรอบชิง ค่ำคืนนี้เป็นหนึ่งในความผิดหวังในอาชีพของผมหรือเปล่า ? มันน่าผิดหวังมาก เพราะแฟนบอลตั้งตารอคืนสำคัญนี้ และผิดหวังที่ผู้คนที่คอยให้การสนับสนุนเราต้องเจ็บปวด มันเป็นเรื่องง่ายที่จะพูดว่าเราขาดประสบการณ์นิดหน่อย แต่ผมเชื่อมั่นว่าเรามีคุณภาพ เราจะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยอายุเฉลี่ยของทีมที่ยังหนุ่มมาก และการผ่านมาได้ในระดับนี้ นักเตะก็สมควรได้รับการยกย่อง"     http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090506_057.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:00:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เวนเกอร์เจ็บปวดฝ่าด่านเลือดซิบแต่ตายน้ำตื้น อาร์แซน เวนเกอร์ บอสใหญ่เลือดน้ำหอมของอาร์เซนอลยอมรับว่าผิดหวังจนแทบใจสลายหลังเห็นทีมรักต้องชวดเข้าชิงชนะเลิศอย่างง่ายดายเกินคาด ทั้งๆ ที่อุตสาห์กรุยทางมาอย่างลำบากลำบน "ปืนใหญ่" จบเห่ตั้งแต่ 11 นาทีแรกเมื่อถูกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบุกมาซิว 2 ประตูจน ณ ตอนนั้นต้องยิงคืนถึง 4 ลูกถึงจะได้เข้ารอบและเวนเกอร์ผิดหวังจนแทบพูดไม่ออกที่ลูกทีมมาตายง่ายๆ แบบนี้ "คืนนี้เราต้องพ่ายแพ้ให้ทีมฆ่าอย่างมีศิลปะและฉวยโอกาสจากทุกๆ ความผิดพลาดของเรา โรนัลโด้ทำให้เราต้องเจอกับปัญหาหนักเหลือเกิน" "สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดคือเกมมันจบตั้งแต่ก่อนจะเริ่มซะอีก เราทำได้อย่างเดียวคือมองตัวเองเท่านั้น" "มันน่าผิดหวังที่สู้มาตั้งยาวไกลแต่กลับมาโยนทิ้งในแบบที่เราทำลงไปซะงั้น" "เราเสีย 2 ประตูใน 3 นาทีและมันมากเกินไปจริงๆ สำหรับการต้องเล่นกับทีมที่เล่นเกมรับได้ดีเอามากๆ" "หลัง 10 นาทีมันเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้เลย เราทำได้อย่างเดียวคือตั้งหน้าตั้งตาเล่นเพื่อศักดิ์ศรีเท่านั้น" ด้านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันแสดงความเห็นใจต่อเวนเกอร์หลังยอมรับว่าเข้าใจหัวอกคนเป็นผู้จัดการทีมไม่น้อย "ผมรู้เลยว่าเขารู้สึกอย่างไร เมื่อคุณทำงานหนักอย่างที่เขาทำเขาก็สมควรได้รับความสำเร็จ" "ปัญหาสำหรับอาร์แซน เวนเกอร์และผมคือยิ่งคุณอยู่บนถนนลูกหนังนานแค่ไหนกระดาษโน๊ตยิ่งติดตัวคุณมากขึ้นเท่านั้น ความสำเร็จหรือความล้มเหลว" "ถ้าคุณไม่ได้แชมป์คุณก็ไร้ค่า ถ้าคุณได้แชมป์คุณก็เป็นราชา" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=153388 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:03:06 ]

ความคิดเห็นที่ 9 "เวนเกอร์" รับช้ำสุดในชีวิต "เซอร์" หวังล้างแดง "เฟลท" อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซนอลยอมรับว่าความปราชัยต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อคืนวันอังคารคือความชอกช้ำครั้งใหญ่ที่สุดบนเส้นทางอาชีพ ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ชี้ ดาร์เรน เฟลทเชอร์ ไม่สมควรโดนใบแดง พร้อมทั้งหวังว่าจะอุทธรณ์โทษสำเร็จ              ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา “ปืนใหญ่” พ่ายคาถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดียม 1-3 โดยถูก “ปิศาจแดง” ทะลวงตาข่ายนำไปก่อนถึง 3 ลูก ส่งผลให้คว้าน้ำเหลวในฤดูกาลนี้โดยสมบูรณ์ ส่วนอริตัวฉกาจผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปป้องกันแชมป์ด้วยสกอร์รวม 4-1              หลังจบเกม เวนเกอร์ ให้สัมภาษณ์ด้วยอารมณ์เซ็งๆ ว่า “นี่เป็นค่ำคืนที่น่าผิดหวังที่สุดในการคุมทีมฟุตบอลของผม และผมคิดว่าแฟนบอลก็คงรู้สึกเจ็บปวดไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน สิ่งที่ทำให้เจองานหนักคือเราไม่ได้ลงสนามด้วยความรู้สึกว่านี่คือรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เลย”              “เราถูกทิ้งห่างตั้งแต่ 10 นาทีแรกของเกม จากนั้น 80 นาทีที่เหลือก็เป็นการบุกเข้าใส่ทีมที่ตั้งรับและหาจังหวะโต้กลับได้ดี เราไม่อาจตำหนิใครเป็นรายบุคคลได้ เพราะมันเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทั้งทีม ซึ่งการถูกยิงสองประตูภายในเวลา 3 นาทีถือเป็นความเสียหายครั้งใหญ่” โค้ชชาวฝรั่งเศส ร่ายยาว              ด้าน เฟอร์กี ออกมาพูดว่า โรแบร์โต โรเซ็ตติ ผู้ตัดสินชาวอิตาลีไม่น่าชูใบแดงไล่ เฟลทเชอร์ หลังจากทำโปรเฟสชันแนลฟาวล์ใส่ เชส ฟาเบรกาส ที่เตรียมง้างเท้ายิงในเขตโทษในนาทีที่ 75 ก่อนที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี จะซัดจุดโทษตีไข่แตกให้ เดอะ กันเนอร์ส ซึ่งจะทำให้มิดฟิลด์ชาวสกอตแลนด์ติดโทษแบน อดลงเล่นรอบชิงชนะเลิศ              นายใหญ่ปิศาจแดงกล่าวว่า “สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) จะได้รับรายงานจากผู้ตัดสินในวันพุธ ซึ่งผมหวังว่าเขา (โรเซ็ตติ) จะบันทึกไว้ว่าตัดสินใจผิดพลาดและ เฟลทเชอร์ ไม่สมควรโดนไล่ออก แม้มันจะเป็นกรณีเฉพาะ แต่ยูฟ่าเองเคยบอกว่าถ้าผู้ตัดสินยอมรับว่ามันไม่รุนแรงถึงขั้นต้องแจกใบแดงก็คงยกเลิกโทษห้ามแข่งได้”              ขณะเดียวกัน เฟอร์กูสัน ได้บ่งชี้ถึงกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะในแมตช์นี้ว่า “เราเริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม การได้ 2 ประตูอย่างรวดเร็วทำให้พวกเขาเสียศูนย์ ซึ่งไม่ว่าใครก็คงกลับสู่เกมได้ยาก ที่สำคัญคือพวกเขาไม่อาจหยุดยั้ง คริสเตียโน โรนัลโด ได้ และนั่นนำมาซึ่งความแตกต่าง” http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9520000050475 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:04:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เซอร์ชมผีหลอนเร็วทำปืนหมดสิทธิ์ฟื้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชมเปาะฟอร์มลูกทีมไม่มียวบหลังเจอ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ออกสตาร์ทเกมเร็ว ก่อนรุกตอบโต้จนได้ 2 ประตูเร็ว ส่งผลให้บุกขย้ำสวยหรู 3-1 ศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบตัดเชือก นัด 2 รวมชนะ 4-1 เข้าไปรอป้องกันแชมป์ที่กรุงโรม ต่อไป เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมชาวสกอตต์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก สุดปลาบปลื้มฟอร์มของลูกทีม หลังจากต้านทาน อาร์เซน่อล ที่ใช้ความเป็นเจ้าบ้านเปิดเกมรุกใส่ พยายามรักษาการเล่นในเกมของตัวเองจนบดยิง 2 ประตูในช่วงต้นเกม ก่อนจะชนะขาด 3-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัด 2 ฉลุยเข้าไปชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 4-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เฟอร์กูสัน ที่สามารถนำขุนพล "ปีศาจแดง" เข้าสู่รอบชิงถ้วยหมายเลข 1 ของทวีปเป็นสมัยที่ 3 กล่าวว่า "ผมคิดว่าพวกเขาเอา โรนัลโด้ ไม่อยู่ ซึ่งจุดนี้ก่อให้เกิดความแตกต่าง แผงมิดฟิลด์พยายามทำงานกันอย่างหนัก เรามีทรงทีมที่ดี และ คุมตำแหน่งในแนวรับไว้ได้หมด แต่เราต้องการใครสักคนที่สร้างปัญหาให้พวกเขาจริงๆ และยิ่ง โรนัลโด้ อยู่ในฟอร์มแบบนั้น ทำให้เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมมาก" "เราไม่โดนการเริ่มเกมของ อาร์เซน่อล บดใส่ พวกเขาเคลื่อนที่ และ แฟนบอลก็คึกคักกันเต็มที่ แต่เราพยายามเล่นฟุตบอลตามแบบของเราต่อไป พอเราจ่ายบอลไปให้ โรนัลโด้ พวกเขาก็เจอปัญหาใหญ่ เราเริ่มต้นเกมได้ดี ซึ่งสร้างความแตกต่าง ยิ่งได้ 2 ประตูเร็วแบบนั้นเวลาพบทีมคนหนุ่ม ผมไม่คิดว่าคุณจะกลับมาได้ ไม่ว่าไปเล่นที่ไหนก็ตาม" "พวกเขาต้องเจองานหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่แพ้ 0-1 จากเกมแรก ประตูที่ 3 นั้นยอดเยี่ยมมาก ตอนนั้น อาร์เซน่อล ทุ่มทุกอย่างไปข้างหน้า และ เราก็โต้ได้เร็วจนพวกเขาไม่ทันตั้งตัว สปีดของการเล่นจังหวะนั้น เราทำได้ยอดมาก" ขุนพล "ปีศาจแดง" จะได้รู้ว่าทีมใดเป็นคู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศของพวกเขา ในวันพุธนี้ เมื่อ เชลซี เปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ พบ บาร์เซโลน่า หลังจาก เสมอกันมา 0-0 ในนัดแรก ที่ คัมป์ นู เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งเมื่อถามว่าเขาคิดว่าใครจะชนะ เฟอร์กูสัน เชื่อว่า "บาร์ซ่า" เสียปรียบอยู่บ้าง ที่ไม่ได้ 2 เซนเตอร์ตัวหลัก ก่อนจะปล่อยมุกปิดท้าย "ผมได้ดู บาร์เซโลน่า เมื่อวันเสาร์ (ชนะ เรอัล มาดริด 6-2) และ พวกเขาก็ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง พวกเขาอาจยิงถึง 10 ลูกได้เลย แต่พวกเขาจะไปเยือน เชลซี โดยไม่มี การ์เลส ปูโยล และ ราฟาเอล มาร์เกซ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของพวกเขา ถ้าถามผมว่า อยากเจอใครในนัดชิง ผมไม่อยากเจอใครเลย ผมคิดว่าเราน่าจะได้บายคว้าแชมป์ไปเลย!"   http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090506_061.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:05:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เอวร่าคุยบอลผู้ใหญ่รังแกเด็ก ปาทริซ เอวร่าท่าทางจะสะใจมากหลังให้สัมภาษณ์เปรียบเทียบชัยชนะสุดง่ายดายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเหนืออาร์เซนอลเป็นเกมผู้ใหญ่ตบเด็ก "เราเป็นทีมผู้ใหญ่ 11 คน พวกเขาทีมเด็ก 11 คน นี่คือความแตกต่าง เรามีประสบการณ์และมีความมั่นใจมากกว่า" "แม้กระทั่งวันนี้เราพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าเราเป็นทีมที่แข็งแกร่ง พวกเขาเอาแต่พูดถึงเกมสวยงามบ้าๆ บอๆ แต่ไม่เหมือนพวกเขา เราเสียประตูน้อยกว่าและเป็นฝ่ายชนะรวมทั้งเล่นดีด้วย" "วันนี้ผลการแข่งขันยุติธรรมดีแล้ว เราน่าชนะ 3-0 ด้วยซ้ำ ในเกมฟุตบอลพวกเล่นสวยๆ ไม่ใช่ทุกๆ อย่างหรอกนะ" นอกจากนี้แข้งทีมชาติฝรั่งเศสหันมาอวยคริสติอาโน่ โรนัลโด้และเวย์น รูนีย์สองอาวุธร้ายของยูไนเต็ดที่ฉีกแนวรับเจ้าถิ่นขาดวิ่น "หลังโรนัลโด้ได้รองเท้าทองคำก็มีแต่คนด่าเขาอยู่พักใหญ่เพราะเขาไม่ได้อยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม แต่ในความเป็นจริงเขาไม่เคยเล่นห่วยเลยนะ" "รูนีย์เหรอ? การได้เล่นร่วมทีมเดียวกับเขามันยิ่งใหญ่มาก เขาเป็นนักเตะที่ทำได้ทุกๆอย่าง" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=153379 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:10:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 นาสรี่แฮปปี้กับตำแหน่งใหม่ ซามีร์ นาสรี่ เพลย์เมกเกอร์อาร์เซน่อล เผย มีความสุขอย่างมาก หลังถูกหุบมายืนเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง เนื่องจากได้มีส่วนร่วมกับเกมมากยิ่งขึ้น แต่รับยังต้องปรับปรุงในเรื่องการยืนตำแหน่ง และปรับตัวกับการเล่นเกมรับ ซามีร์ นาสรี่ มิดฟิลด์ร่างเล็กอาร์เซน่อล ยืนยัน เขามีความสุขไม่น้อยที่ได้เปลี่ยนหน้าที่ และได้หุบเข้ามาเล่นตรงกลางสนามมากขึ้น โดยเดิมที อดีตสตาร์ โอลิมปิก มาร์กเซย มักถูกจับไปเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย ก่อนจะถูก อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือเลือดน้ำหอม จับมาเล่นตรงกลาง และมีบทบาทในเกมรับมากขึ้น เนื่องจากต้องการให้ เชส ฟาเบรกาส จอมทัพทีมชาติสเปน ดันสูงเพื่อช่วยสนับสนุนกองหน้า สำหรับสาเหตุที่ทำให้ นาสรี่ ต้องมายืนตรงกลางนั้น เป็นเพราะอาร์เซน่อลมีตัวเลือกในตำแหน่งกองหน้าไม่มากนัก หลังเอดูอาร์โด้ ดา ซิลวามีปัญหาบาดเจ็บ ขณะที่นิคลาส เบนท์เนอร์ก็ยังไว้วางใจไม่ค่อยจะได้ ส่วนอังเดร อาร์ชาวินก็เล่นได้แค่ในศึกพรีเมียร์ลีกเท่านั้น หลังติดกฎคัพไทจากการลงเล่นให้กับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ นาสรี่ ยอมรับ มีความสุขกับตำแหน่งใหม่ แต่กระนั้นก็ยังพัฒนาอีกเยอะเลยทีเดียว โดยกล่าวว่า "ผมสบายมากขึ้นในตำแหน่งกองกลาง ผมมีส่วนร่วมในการขึ้นเกมมากขึ้น แม้ว่าการรับบทตัวตัดเกมนั้น จะไม่ใช่ตัวตนผมก็ตาม แต่ผมก็รู้สึกว่าสามารถทำมันได้ ผมจำเป็นต้องปรับปรุงอีกเล็กน้อยในเรื่องของการยืนตำแหน่ง เพราะมันแตกต่างจากตอนที่คุณลงเล่นในตำแหน่งปีก" http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090506_034.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เวนเกอร์ป้องยอร์หลังถูกเหน็บฟอร์มห่วย อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซน่อล กางปีกปกป้อง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ดาวยิงลูกรักเต็มที่ หลังโดนวิพากษ์วิจารณ์โชว์ฟอร์มไม่เอาอ่าวในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดบุกพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชี้ เจ้าตัวพยายามเต็มที่แล้ว แต่ต้องโดดเดี่ยวเกินไปในแดนหน้า พร้อมเรียกร้องแฟนบอล "เดอะ กันเนอร์ส" หนุนหลังกองหน้าวัย 25 ปีต่อไป อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกโรงปกป้อง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ดาวยิงตัวเก่งของทีม หลังถูกแฟนบอลบางส่วนวิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของเจ้าตัวที่โชว์ฟอร์มไม่เป็นสับปะรด ในเกมที่ "ไอ้ปืนใหญ่" บุกพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1 ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันพุธที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา นายใหญ่แห่งถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม หวังว่าแฟนบอลจะยังคงหนุนหลังหัวหอกทีมชาติโตโก ซึ่งยิงไปแล้ว 6 ประตูในศึกชิงถ้วยใบใหญ่สุดในยุโรปฤดูกาลนี้ต่อไป โดยกล่าวว่า "ผมรู้และเข้าใจคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้นดี แต่ผมได้ดูเกมนั้นอย่างละเอียดแล้ว เขาก็พยายามอย่างมากเลยทีเดียว มากกว่าที่ใครหลายๆ คนคิดด้วยซ้ำ เขาต้องอยู่โดดเดี่ยวในแดนหน้าจริงๆ ในคืนนั้นเราไม่ได้ให้การสนับสนุนเขามากพอ" "ผมเชื่อว่าพวกเขา (แฟนบอล) ตั้งคำถามเรื่องความมุ่งมั่นของเขา เพราะเขาต้องเจออาการบาดเจ็บเล่นงาน และยิงประตูได้ไม่มากเท่าที่ควร แต่ลองดูประสิทธิภาพและผลงานอันน่าประทับใจของเขาในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก สิ ฤดูกาลนี้เขายิงไปถึง 6 ประตูจากการลงสนามไปแค่ 8 นัดเท่านั้น" กุนซือ "เดอะ กันเนอร์ส" ทิ้งท้าย http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090505_076.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:13:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ปืนเสียว!ยอร์รับโทร.คุยกัลเลียนี่จริง แฟนบอล อาร์เซน่อล ถึงคราวเสียวสันหลังกันทั้งบาง เมื่อ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ดาวยิงประจำทีม ยอมรับ เคยโทรศัพท์ไปมาหาสู่กับ อาเดรียโน่ กัลเลียนี่ หัวเรือใหญ่ เอซี มิลาน จริง แถมยังแสดงทีท่าสนย้ายไปสวมเสื้อ "ปีศาจแดง-ดำ" อีกต่างหาก แต่เน้นย้ำชัดเจน ตอนนี้ขอทุ่มเททำผลงานช่วยทัพ "ไอ้ปืนใหญ่" จนจบฤดูกาลเสียก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กองหน้าตัวเก่ง อาร์เซน่อล ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับตามตรงว่า เคยโทรศัพท์ติดต่อกับ อาเดรียโน่ กัลเลียนี่ รองประธานสโมสร เอซี มิลาน ยอดทีม กัลโช่ เซเรีย อา อยู่บ่อยครั้งตามคำกล่าวอ้างของอีกฝ่ายจริงๆ ซึ่งถือเป็นการจุดชนวนข่าวโยงเรื่องย้ายไปร่วมถิ่น ซาน ซิโร่ ขึ้นมาอีกครั้ง หลังหัวหอกทีมชาติโตโก เพิ่งเปิดปากทอดสะพานในทำนองเปรียบเปรยว่า การได้รับความสนใจจาก "ปีศาจแดง-ดำ" ก็เหมือนกับถูก บียอนเซ่ นักร้องสาวเชฟบ๊ะชาวอเมริกัน หลงใหลใฝ่ฝันอยากจะได้ไปเป็นแฟนยังไงยังงั้น อเดบายอร์ กล่าวผ่าน "ตุ๊ตโต้สปอร์ต" หนังสือพิมพ์กีฬาในอิตาลี ว่า "มันคือเรื่องจริง เพราะ กัลเลียนี่ พูดภาษาฝรั่งเศสได้คล่องปรื๋อมากๆ เนื่องจากภรรยาของเขามาจาก โมร็อกโก นั่นเอง กัลเลียนี่ อาจจะไม่เซ็กซี่เหมือนกับ บียอนเซ่ แต่สำหรับ มิลาน ย่อมเป็นแบบนั้นแน่นอน พวกเขาคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้วถึง 7 สมัย ขณะที่ อาร์เซน่อล ยังไม่เคยประสบความสำเร็จเลยสักครั้ง เมื่อปีก่อน ผมเกือบจะได้เซ็นสัญญากับ รอสโซเนรี่ อยู่แล้วเชียว แต่ผมกลับเลือกต่อสัญญากับ เดอะ กันเนอร์ส ไปจนถึงปี 2012" "เราอยากจะจบฤดูกาลอย่างยิ่งใหญ่ในตอนนี้ หลังจากนั้น เราก็จะได้ติดตามดูกันต่อไป เอเยนต์ของผม สเตฟาน กูร์กบิส ยังอยู่ในลอนดอนกับ วินเชนโซ่ โมราบิโต้ เพื่อนร่วมงานชาวอิตาเลียนของเขา พวกนายหน้าเหล่านี้มักจะทำงานกันตลอดทั้งวันทั้งคืนอยู่แล้ว" นอกจากนั้น ดาวยิงวัยเบญจเพส ยังแสดงความมุ่งมั่นที่จะช่วยทัพ "ไอ้ปืนใหญ่" พลิกสถานการณ์ตีตั๋วเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการเปิดบ้านโค่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าจากลีกเดียวกัน ในเกมตัดเชือก นัดสอง คืนวันอังคารที่ 5 พ.ค.นี้ หลังพลาดท่าบุกไปแพ้ "ปีศาจแดง" 0-1 ในแมตช์แรก เมื่อวันพุธที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา "เรามั่นใจว่าเราจะทำได้ เราอยู่ในอารมณ์พลุกพล่านเต็มที่ และผมก็มีความมั่นใจในทางที่ดีด้วย คุณจะได้เห็น อาร์เซน่อล ของจริง ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ผมอยากจะเข้ารอบชิงชนะเลิศให้ได้ เพราะว่านั่นคือเกมสำคัญที่สุดในโลกระดับสโมสร และผมก็อยากจะมีโอกาสได้ลงสนาม" อเดบายอร์ ทิ้งท้าย http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090505_081.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:14:16 ]

ความคิดเห็นที่ 15 บายอร์คิดไม่ซื่อชิ่งปืนโทรคุยมิลานแถมชมเซ็กซี่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ดาวยิงนกกระยางดำวันๆจ้องจะหาทางหนีอาร์เซนอล ล่าสุดออกมายอมรับติดต่อกับ เอซี มิลาน อยู่ตลอดแถมยังเอ่ยปากชมโคตรทีมอิตาลีช่างเร้าใจพอๆกับบียอนเซ่ นักร้องชื่อก้องยังไงยังงั้น "ผมเคยคุยกับ อาเดรียโน่ กัลลิอานี่ รองประธานสโมสรมิลานผ่านทางโทรศัพท์มาแล้ว เขาพูดภาษาฝรั่งเศสดีมากๆด้วยเพราะภรรยาของเขามาจากโมร็อกโกนั่นเอง" อเดบายอร์กล่าวให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์ชื่อดัง 'ตุ๊ตโต้สปอร์ต' เมื่อวันวานก่อน "จริงอยู่ กัลลิอานี่ อาจไม่เซ็กซี่เท่า บียอนเซ่ แต่ มิลาน ใช่เลยล่ะ เพราะพวกเขาคว้าแชมเปี้ยนส์ ลีก ตั้ง 7 สมัยแน่ะ ขณะที่ อาร์เซนอล ไม่เคยสัมผัสแม้แต่ครั้งเดียว" "เมื่อปีก่อนผมเกือบจะได้เซ็นกับรอสโซ่เนรี่อย่างเฉียดฉิว แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าผมต่อสัญญากับ อาร์เซนอล จนถึงปี 2012 แทน" "สำหรับตอนนี้ผมต้องการให้จบฤดูกาลนี้ด้วยเป้าหมายสูงสุดเสียก่อน จากนั้นเราค่อยดูต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น" "ทั้งนี้ สเตฟาเน่ คอร์บิส เอเยนต์ของผมอยู่ในกรุงลอนดอนร่วมกับ วินเชนโซ่ โมราบิโต้ เพื่อนร่วมงานชาวอิตาเลี่ยนและตอนนี้ทั้งคู่กำลังทำงานทั้งวันทั้งคืน" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=153315 แปลจากข่าวนี้ http://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-1177544/Good-talk-Adebayor-risks-Wengers-wrath-admitting-contact-Milan.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:21:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เอเยนต์บายอร์ยันมิลานไม่เคยติดต่อมาเลย สเตฟาน คูร์บิส เอเยนต์ของเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ศูนย์หน้าโตโกของอาร์เซนอลเปิดเผยว่าไม่เคยมีสโมสรจากอิตาลีสโมสรไหนเลยที่ติดต่อเข้ามาสอบถามนักเตะของเขาคนนี้ ดาวยิงปืนโตรายนี้ตกเป็นข่าวกับเอซี มิลานเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว และนักเตะก็ยอมรับเขาเองก็ชื่นชอบมิลานอยู่เช่นกัน แต่การย้ายทีมในซัมเมอร์นี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเพราะเอเยนต์ยืนยันแล้วว่ายังไม่ได้รับข้อเสนอใดๆเลย "เป้าหมายแรกของนักเตะรายนี้คืออาร์เซนอล และจากนั้นเราจะไปคุยกับอาร์แซน เวนเกอร์เดือนหน้า" "ผมไม่เคยได้รับข้อเสนอใดๆเลยนะ ทั้งจากมิลานหรือจากทีมอิตาเลี่ยนทีมอื่น ผมไม่เคยคุยกับใครเลย แต่อันที่จริงอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละ" "ผมว่าซัมเมอร์นี้คงจะมีนักเตะย้ายทีมกันเพียบเลย ทั้งอิบราฮิโมวิชอาจจะย้ายหนีอินเตอร์ ดร็อกบาอาจจะไปจากเชลซี นักเตะของผมคนนี้ก็อาจจะเปลี่ยนสโมสร แต่ก็แค่สมมติฐานธรรมดาๆเท่านั้นล่ะ ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องนี้" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=153243 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:22:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ปืนหนาว “เซอร์” ดอดดูฟอร์ม “ซาโก” สตาร์เปแอสเช       “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล อาจต้องรีบปฏิบัติการฉกตัว มามาดู ซาโก กองหลังดาวรุ่งทีมชาติฝรั่งเศสมาร่วมงานเสียแล้ว เนื่องจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็แอบเหล่อยู่เช่นกัน       ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องการให้บอร์ดบริหาร อาร์เซนอล ทุ่มเงิน 12 ล้านปอนด์ (ประมาณ 600 ล้านบาท) ให้แก่ ปารีส แซงต์แชร์กแมง ในลีกเอิง ฝรั่งเศส เพื่อแลกกับ มามาดู ซาโก เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติฝรั่งเศสชุดอายุไม่เกิน 21 ปี              โดย ซาโก เคยให้สัมภาษณ์กับ “เดอะซัน” สื่อเมืองผู้ดีทำนองว่า เขารู้สึกปลาบปลื้มใจไม่น้อย และก็มีกำลังใจในการโชว์ฝีเท้าให้ถึงระดับสุดยอด เพียงแต่ว่าตอนนี้กำลังมีความสุขดีกับการค้าแข้งให้ “เปแอสเช”              อย่างไรก็ตาม “เดลีย์เมล์” อีกหนึ่งสื่อของอังกฤษรายงานว่า ล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด ก็สนใจดึงตัวดาวเตะวัย 19 ปี มาวาดลวดลายในพรีเมียร์ลีกเช่นกัน โดย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ลงทุนเดินทางไปชมฟอร์มกองหลังร่าง 6 ฟุต 1 นิ้ว ด้วยตนเองถึง 2 ครั้งในรอบ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา              นอกจาก อาร์เซนอล และ แมนฯ ยูไนเต็ด แหล่งข่าวเผยด้วยว่า ซาโก ก็อยู่ในลิสต์รายชื่อเสริมทัพของ “สิงห์บลูส์” เชลซี ยอดทีมจากมหานครลอนดอนเช่นกัน ส่วนเมื่อช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมา “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เคยมีความพยายามกระชากาตัวดาวรุ่งผิวสีมาร่วมงาน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9520000050241 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:25:03 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ลือหึ่ง!ปืนใหญ่จ้องสอยปีกดาวรุ่งเจนัว "เดอะ กันเนอร์ส" อาร์เซน่อล ยังพิมพ์นิยมในนักเตะดาวรุ่งเหมือนเดิม ล่าสุดตกเป็นข่าวอยากได้ สเตฟาน เอล ชาร์ราวี ปีกซ้ายวัย 16 ปี ของ เจนัว มาปลุกปั้นให้เหมือนที่ทำมาตลอด คาดคงต้องทุ่มเงินกว่า 280 ล้านบาทเลยทีเดียว หากหวังได้ตัวนักเตะจริง "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ของอิตาลี อีกครั้งว่า อยากได้ตัว สเตฟาน เอล ชาร์ราวี ปีกซ้ายดาวโรจน์ของ เจนัว เพื่อนำมาปลุกปั้นในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในฤดูกาลหน้า     กองกลางวัย 16 ปี ที่มีพ่อเป็นชาวอียิปต์ และแม่เป็นชาวอิตาเลียนนั้น เริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งด้วยการเป็นเด็กปั้นของ เจนัว และได้รับโอกาสก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกมที่บุกชนะ คิเอโว 1-0 เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ซึ่งนอกจากจะเล่นตำแหน่งปีกซ้ายได้ดีแล้วนั้น ยังมีความสามารถที่จะลงเล่นในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ได้ดีอีกด้วย ทั้งนี้ เป็นที่เชื่อว่า เจนัว เตรียมที่จะส่งมิดฟิลด์ดาวรุ่งดีกรีทีมชาติอิตาลี ชุดอายุไม่เกิน 17 ปี ออกไปเล่นแบบยืมตัวในฤดูกาลหน้า เพื่อเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ในสนาม แต่อาจจะเปลี่ยนใจเป็นการขายแทนก็ได้ หากได้รับเม็ดเงินที่สมน้ำสมเนื้อ 6 ล้านยูโร (ประมาณ 288 ล้านบาท)       อย่างไรก็ตาม เอล ชาร์ราวี ได้ออกมาปฏิเสธว่ายังไม่คิดเรื่องย้ายทีมในช่วงปิดฤดูกาลนี้ และขอเอาจริงเอาจังกับการพัฒนาฝีเท้าก่อนเป็นอันดับแรก โดยกล่าวว่า "ความฝันของผมก็คือการได้เล่นฟุตบอลในระดับสูงสุดเหมือนกับนักฟุตบอลคนอื่น ๆ เท่านั้น"   http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090505_122.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:25:41 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ม้าขาวสนดึงตัวคเล็บกลับรัง อเล็กซานเดอร์ คเล็บ มิดฟิลด์ บาร์เซโลน่า ตกเป็นข่าวได้รับความสนใจจาก เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท หลังดาวเตะเบลารุสไม่อาจโชว์ฟอร์มเก่งได้กับ "เจ้าบุญทุ่ม" คาดค่าตัวการย้ายทีมอยู่ที่ 384 ล้านบาท อเล็กซานเดอร์ คเล็บ เพลย์เมกเกอร์ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน ตกเป็นข่าวว่าได้รับความสนใจจาก "ม้าขาว" เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท อดีตต้นสังกัดในศึกบุนเดสลีกา ที่หวังดึงตัวกลับไปร่วมทีมอีกครั้งในช่วงซัมเมอร์นี้ จากการรายงานเมื่อวันอังคารที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา คเล็บ ย้ายจาก "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก มาร่วมถิ่นคัมป์ นู เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ดาวเตะวัย 28 ปีก็ไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งออกมาได้ และมีการคาดหมายว่าจะตัดสินใจอำลา บาร์ซ่า ในช่วงจบฤดูกาลนี้ ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค แสดงความสนใจ แต่ สตุ๊ตการ์ท กลายเป็นทีมล่าสุดที่มีข่าวอยากได้ตัวกองกลางทีมชาติเบลารุส กลับไปร่วมทีมอีกครั้ง โดยหนังสือพิมพ์ บิลด์ รายงานว่า "ม้าขาว" ได้เฝ้าจับตาดูสถานการณ์ของนักเตะอย่างใกล้ชิด คเล็บ เคยเล่นให้กับ สตุ๊ตการ์ท ตั้งแต่ปี 2000 ถึง 2005 และเคยพูดอยู่หลายครั้งว่าอยากจะกลับมาเล่นในบุนเดสลีกาอีกครั้ง โดยมีการคาดหมายว่า บาร์ซ่า พร้อมที่จะขายออกจากทีมด้วยค่าตัว 8 ล้านยูโร (ประมาณ 384 ล้านบาท) http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090505_090.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:26:35 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สถิติทั้งเกม จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 Player Ratings: Arsenal 1-3 Manchester United จาก Goal ARSENAL Almunia -4.0: Was brilliant in the first leg, and kept Arsenal in the tie. Tonight, he ended any chance they had of making the final with a terrible error on Ronaldo's free kick. Later saved well from Rooney and Ronaldo, but the damage was already done. Sagna -6.0: Arsenal's backline was shaky once again, but Sagna did not do anything terribly wrong. Committed as usual. Toure -5.0: Solid for spells of the game, but was found wanting at key moments. Needed to be Arsenal's defensive leader, but was not. Djourou -5.0: When the much-maligned Mikael Silvestre is missed, then you know it has not been one of your better nights. No understanding whatsoever with Toure. Gibbs -4.5: "He was magnificent in the first leg." Almost everyone bizarrely said that after the first leg, apart from Goal.com colleague Sulmaan Ahmad and myself. Hate to be a told-you-so, but Gibbs cost Arsenal the tie tonight with a monumental slip for Park's opener. Walcott -4.5: A big disappointment in both legs. Made no impact whatsoever against Evra, and was far too one-dimensional. No space, no Walcott. Song -5.0: Song is supposed to be a holding midfielder, but again he didn't protect his defence. How Wenger could ever consider him a worthy replacement for Mathieu Flamini is a mystery. Fabregas -6.0: Tried to put his foot on the ball and play, but it is quite clear that it is not the same Fabregas this season as the one of years gone by. Won the penalty. Nasri -7.0: Easily Arsenal's best player tonight. Was lively throughout, and looked capable of making things happening. Unfortunately did not have the support of his team-mates. Van Persie -6.5: Along with Nasri, the only Arsenal player who showed any kind of spark. Unleashed a few shots, and scored his side's consolation from the penalty spot. Adebayor -4.0: Adebay-who? The most embarrassing 180 minutes of football you will ever see from a supposed centre forward. Nothing more to add. Subs Eboue -6.5: Judging on Eboue's penetrating second half showing, he should have started the game. Bendtner -6.0: A few lively moments, but nothing to get excited about. Vela -N/V: Did not have a chance to get into the game. ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- Player Ratings จาก Sentanta Sports จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:29:01 ]

ความคิดเห็นที่ 22 Arsenal v Manchester United match ratings จาก The Mirror ARSENAL Manuel Almunia: Man-of-the-match last week but should not be getting beaten from that distance, no matter how powerful the free-kick. 7/10. Bacary Sagna: Worked hard and tried to get forward but his performance, like so many, was shaped by the opening 11 minutes. 6. Kolo Toure: A number of Arsenal players will be asking where do they go from here. Not bad, but not enough. 6. Johan Djourou: Preferred to Mikael Silvestre and did OK. It's not like he could have stopped the early goals. 6. Kieran Gibbs (off 46): How sorry do you feel for the youngster, whose unfortunate slip gifted United their perfect start? 6. Theo Walcott (off 62): Has the pace to petrify anyone but did not really get round Evra. 6. Alexandre Song: Better than last week but found himself out-numbered at times as United swamped the midfield. 6. Cesc Fabregas: Wanted to impress so much but must have had the heart ripped out of him by that start. 6. Samir Nasri: Probably Arsenal's most creative player and kept trying no matter how great the odds. 7. Robin van Persie (off 79): Was supposed to bring a greater cutting edge to Arsenal's attack. It did not work. Took his penalty well though. 6. Emmanuel Adebayor: Not that much better than seven days ago. The sound of knives being sharpened cannot be far away. 6. Emmanuel Eboue (on 46): Did his job well but the shape of the game has already been dictated. 6. Niklas Bendtner (on 62): Thankless task given the position his team were in when he was introduced. 6. Carlos Vela (on 79): Too late to make an impact. 6. ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- จาก Daily Mail จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 23 Sky Sports จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:31:40 ]

ความคิดเห็นที่ 24 Sky Sports (ต่อ) จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:31:51 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โพสต์ข่าวเสร็จแล้วค่ะ จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อคืนไม่ได้ดูเกมเลย เพราะกำลังนั่งรถทัวร์มากรุงเทพพอดี ตื่นมาตอนเช้ารีบใช้เน็ตมือถือกดดู livescores แล้วก็ต้องเศร้าไปตามระเบียบ เป็นอีกปีนึงที่แฟนๆ ปืนใหญ่ต้องทำใจอีกครั้ง ผมก็ได้แต่หวังว่าความพ่ายแพ้ จะช่วยให้บอสเรากลับไปปรับปรุงทีมให้ดียิ่งขึ้น ปัญหาใหญ่คือเกมรับ บางนัดโชคดีคู่แข่งเขาทำไม่ได้ก็ดีไป แต่อย่างบางนัดที่คู่แข่งเขาไม่พลาด เราก็จะมีสภาพอย่างนี้ สู้ๆ กันต่อไปครับ อยากให้บอสได้แชมป์ UCL เหมือนอย่างคนอื่นเขาบ้างซักครั้ง จากคุณ : Dream Seeker - [ 6 พ.ค. 52 12:36:15 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ซาโกนี่น่าสนใจนะครับ แต่ถ้าจะให้แย่งกับผีก็คงต้องยอมรับสภาพกันไป จากคุณ : ทั้งนี้ทั้งนั้น - [ 6 พ.ค. 52 12:38:47 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นคอมเมนต์จาก GOAL แล้วเห็นด้วยนะครับ ที่ว่านาสรี่เล่นเด่นสุด ข่าวเอฟร่าที่ ss แปลมานี่หัวข้อแต่ละอันนี่ก็.....นะ ได้แต่ลุ้นต่อไปครับ สุ้ๆ อย่างน้อยก็เชียร์ทีมรักจนจบล่ะ T_________________T จากคุณ : maxistant - [ 6 พ.ค. 52 12:45:28 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เห็นสีหน้ากิ๊บส์ตอนเสียประตูแล้วน่าสงสารมากค่ะ แต่ยังกลับมาเล่นต่อได้ คิดว่าเด็กคนนี้มีอนาคตแน่นอน แต่ที่ชอบที่สุดก็ตอนที่โรบินเดินมาปลอบกิ๊บส์ค่ะ นี่ล่ะนักเตะรุ่นพี่ต้องให้กำลังใจรุ่นน้อง (เสียดายมากๆ ที่หารูปที่โรบินปลอบใจกิ๊บส์ไม่ได้) จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 12:46:31 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าจะเอาถ้วย  การทำทีมแบบนี้คงจะยากมาก  มันหนักเกินไปสำหรับผู้เล่น ดูกิ๊บและกองเชียร์แล้วเห็นใจมากๆ อยากให้ครั้งนี้เป็นจุดของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่  ทุ่มงบประมาณ ถึงแม้คุณทำงานหนัก คุณไม่ได้ถ้วยคุณก้อไร้ค่า แต่ถ้าได้ถ้วยคุณก็คือราชา ชอบคำนี้จัง  เซอร์ผมว่าเค้าก้อพูดได้จิงใจ นะ จากคุณ : บูลธูท - [ 6 พ.ค. 52 12:51:43 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เมื่อคืนนอนไม่หลับเลยครับ ตอนที่โดน 0-2 ใจนึงก็อยากจะปิด แต่อีกใจนึงก็ ไหนๆ ก็เปิดมาดูแล้ว ก็ดูต่อไปเถอะ สุดท้ายก็ตัดสินใจดูต่อ พูดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะวิจารณ์อะไรดี บอกตามตรงว่าเห็นใจเจ้าหนูกิ๊บบ์มากๆ มาพลาดในจังหวะสำคัญพอดี ยิ่งเห็นตอนโรบินเข้ามาปลอบ ก็เห็นใจเข้าไปอีก เพราะถ้าผมเป็นกิ๊บบ์ ผมก็คงเฟลเหมือนกัน ดันทำพลาดให้ทีมเสียอเวย์โกล์ ต้องยิงทีมอย่างแมนฯยูฯถึงสามลูก ถึงจะเข้ารอบ ซึ่งมันไม่ง่ายเลย ทั้งๆ ที่ก่อนเสียประตู กิ๊บบ์เล่นใช้ได้ เห็นฉกบอลมาจากเท้าอันแดร์สันดื้อๆ ตรงเกือบๆ กลางสนาม ความผิดพลาดมักเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นนักฟุตบอล หรือแม้กระทั่งผู้จัดการทีม เพียงแต่ว่าความผิดพลาดนี้ ถ้าเกิดขึ้นกับตำแหน่งที่เล่นเกมรับ มักส่งผลเสียหายต่อทีมมากกว่าตัวรุก ลองคิดดูว่าถ้ากองหลังพลาดทีนึง แล้วเสียประตูเลย กับกองหน้าที่ยิงทิ้งยิงขว้างตลอดเกม และยิงเข้าลูกเดียว คนมักจะจำความผิดพลาดของใครมากกว่ากัน? ขอให้ความผิดพลาดในเกมนี้เป็นบทเรียนของเจ้าหนูกิ๊บบ์นำไปพัฒนาตัวเองต่อไป หวังว่าซัมเมอร์นี้คงจะเห็นการซื้อตัวผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากขึ้น ขอเซนเตอร์เสาโทรเลขสักตัว กลางรับดุดัน และแบ็คซ้ายมากดดันกลิชี่ เฮ้อออ มือเปล่าอีกปีแล้ว ผ่านไปไวจริงๆ ยังรู้สึกว่าเมื่อวานยังเห็นปั๊ตชูถ้วยเอฟเอ คัพอยู่เลย แปปเดียวผ่านไปสี่ปีแล้ว แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 12:57:04 จากคุณ : แฟนไอริ พ่วงด้วยบิและโม - [ 6 พ.ค. 52 12:52:22 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สู้ๆๆ ต่อไปครับ โอกาสหน้ายังมี ... ปืนคงประสพควาเร็จบ้างครับ จากคุณ : thaimanu - [ 6 พ.ค. 52 12:53:11 ]

ความคิดเห็นที่ 33 สวัสดีครับ พร้อมที่จะสู้ต่อไปครับ รู้ว่านักเตะและผู้จัดการทีมต้องเสียใจกว่าเราเยอะ สู้สู้ ปืนโต Together.. จากคุณ : เทพปืนโต - [ 6 พ.ค. 52 12:54:33 ]

ความคิดเห็นที่ 34 รูปน้องกิบนี่เศร้าได้อีก สงสารจริงๆ สู้ต่อไป ทาเคกิบ ^^ จากคุณ : maxistant - [ 6 พ.ค. 52 12:59:33 ]

ความคิดเห็นที่ 35 บทเรียนสำหรับเวนเกอร์ หมดรูป ห่างชั้น บอลคนละเท้า... เหล่านี้คือสิ่งที่เกิดในความรู้สึกของคนที่ได้เห็นความปราชัยอย่างย่อยยับของ "ปืนใหญ่" ที่ถูก "ปีศาจแดง" บุกมากระทำชำเราถึงเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มันเป็นความพ่ายแพ้ที่จะว่าทำใจยอมรับโดยง่ายก็ได้ จะว่ายากจะทำใจก็ได้เหมือนกัน ง่ายเพราะแพ้อย่างสู้ไม่ได้อย่างสิ้นเชิง แต่ก็ยากที่จะยอมรับความจริงว่าต่อให้วูบวาบแค่ไหน บรรดา "ยังกันส์" ของอาร์แซน เวนเกอร์ ก็ยังเป็นแค่ "ละอ่อนน้อย" สำหรับคู่แข่งในระดับท็อปโฟร์ด้วยกันอยู่ดี โดยเฉพาะเมื่อเจอกับทีมที่พิษสงรอบตัวอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เหมือนอสูรผสมพันธุ์กับอสรพิษทำให้ร้ายกาจชนิดหาตัวจับได้ยาก เด็กน้อยอ่อนต่อโลกของเวนเกอร์ จึงไม่สามารถจะต่อกรได้จริงๆ ความจริงในเกมแรกที่พบกันที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เราก็ได้เห็นอยู่แล้วว่าอาร์เซนอล สู้ชั้นเชิงและความเขี้ยวของแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้เลยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ส่วนไหนของสนาม ดีที่มานูเอล อัลมูเนีย เข้าฟอร์มพอดีก็เลยทำให้รอดกลับมาได้โดยเสียแค่ประตูเดียว สถานการณ์ตรงนั้นไม่แปลกที่แฟนกันเนอร์ส จะคาดหวังว่าทีมจะพลิกกลับมาเป็นฝ่ายชนะ 2-0 และได้เข้าชิงชนะเลิศที่กรุงโรม ในช่วงปลายเดือนนี้ แม้กระทั่งช่วงเริ่มต้นเกมที่อาร์เซนอล ตบเกียร์สูงไล่บี้แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างเมามันนั้น ความหวังนั้นก็ยังอยู่ อย่างไรก็ดี โชคดูจะไม่เข้าข้างพวกเขามากนัก และความผิดพลาดของคีแรน กิ๊บบ์ส ที่สวนทางกับความเฉียบขาดของพาร์ค ชี ซอง มันคือ "หายนะ" ดีๆของเหล่ากันเนอร์สนี่เอง ประตูนี้ทำให้ "โมเมนตัม" เทไปที่ทีมของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทั้งหมด และเทพีแห่งโชคก็ดูจะรีบส่งยิ้มให้เฟอร์กี้ เหลือเกิน กับฟรีคิกในนาทีที่ 11 ของโรนัลโด้ ซึ่งมันอาจจะไม่สวยเหมือนประตูที่ยิงดับปอร์โต้ คาเอสตาดิโอ ดู ดราเกา ที่ต้องยอมรับว่า "งง" มากที่ยิงเข้าไปได้แบบนั้น แต่มันก็สวยและคมพอที่จะผ่านมืออัลมูเนีย และเป็นการตีตั๋วจองที่พักในโรมล่วงหน้าทันที 2 ประตูที่ได้มาอย่างรวดเร็วในเวลาแค่ 11 นาที และระยะเวลาที่ห่างกันแค่ 3 นาทีนั้น ดูผิวเผินเหมือนจะมาเพราะโชคช่วยด้วยส่วนหนึ่ง แต่มองให้ลึกเข้าไปจะพบว่า นี่แหละคือ "ความเด็ดขาด" ที่แมนฯ ยูไนเต็ด มีแต่ทีมอื่นไม่มี ปีศาจแดง พ.ศ. นี้ไม่ต้องเน้นรุกลุยแหลกอะไรให้มากมายเหมือนสมัยก่อนที่ต้องบี้ให้ตายกันไปข้าง เดี๋ยวนี้ขอแค่จังหวะเน้นๆมาแบบนี้ รับรองว่ามีลุ้นได้ประตู ซึ่งจะสังเกตได้ว่าตลอดเกมที่เอมิเรตส์ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้ยิงนกตกปลาให้เห็นเท่าไหร่เลย เรียกว่าถ้าลองง้างเท้า ต้องเข้ากรอบและได้ลุ้นประตู ความคมที่แตกต่าง ผสานกับความเขี้ยวที่ห่างชั้นกันระหว่างแผงกองกลางของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่มี ไมเคิล คาร์ริค เป็นนายท้ายคอยคุมทิศทางการเคลื่อนไหวของบอลและการเดินทางของเวลา โดยมีลูกหาบคนขยัน 2 คนคือ ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ และ อันแดร์สัน สามารถสะกดกองกลางแนว "ห้องเครื่อง" ที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของโลกอย่าง เซสก์ ได้อย่างสนิท ให้ความรู้สึกเหมือนจับ "ปืน" ถ่วงไหแล้วสะกดวิญญาณไว้ชอบกล ร้ายไปกว่านั้นคือคู่หูของเซสก์ ในเกมนี้คืออเล็กซานเดอร์ ซง กระดูกอ่อนมากเมื่อเทียบกับบอลระดับนี้ ดังนั้นพื้นที่กลางสนามที่เคยเป็นจุดแข็งของอาร์เซอล ก็เลยยิ่งถูกล็อกกลอนตายสนิท เมื่อเซสก์ ถูกตัดออกจากเกม ความน่ากลัวของอาร์เซนอล ก็ลดหายไปกว่าครึ่ง ส่วนอีกครึ่งคือลวดลายแพรวพราวของนักเตะกันเนอร์ส ไม่ว่าจะเป็นเอ็มมานูเอล อเดบายอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, ซามีร์ นาสรี่ หรือธีโอ วัลค็อตต์ ถูกเกมเพรสซิ่งและใช้การประกบแบบ "ดับเบิลมาร์ค" และที่ชัดเจนมากก็คือในแนวรับไม่มีใครดีพอที่จะสะกดโรนัลโด้ ได้เลย อาการหมดรูปของอาร์เซนอล ยังเกิดขึ้นเพราะการโดนทุบหัว 2 ทีติดๆกันในช่วงต้นเกม ทำให้จิตใจง่อนแง่น เล่นตามเกมตัวเองไม่ได้ สุดท้ายก็อย่างที่เห็น กลายเป็นเกมเข้าทางแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ทำอะไรก็ดีไปหมด และคว้าชัยชนะได้อย่างง่ายดาย โดยอาร์เซนอล ได้แค่รางวัลปลอบใจกับจุดโทษและได้แอบสมน้ำหน้าเฟล็ตเชอร์ ที่โดนใบแดงแบบไม่จำเป็นเท่านั้น อย่างไรก็ดี การพ่ายแพ้หมดรูปครั้งนี้น่าจะเป็นบทเรียนอีกครั้งสำหรับ เวนเกอร์ ที่บางทีควรจะทบทวนตัวเองอย่างจริงจังดู นโยบายการปั้นเด็กขึ้นมาประดับทีมชนิดที่ให้โอกาสมากที่สุด แจกทุนกันกลื่อนกลาดยกทีมแบบนี้ จะว่าดีก็ดี มันก็เป็นสีสันที่แฟนๆชอบดู เพราะขึ้นชื่อว่าดาวรุ่งใครๆก็เอาใจช่วยทั้งนั้น แต่ความล้มเหลวหลายปีที่ผ่านมา มันมากและนานเกินไปสำหรับทีมอย่างอาร์เซนอล ที่ไม่ควรจะได้รับแค่คำชมว่าเล่นบอลสวยอย่างเดียว หากมองไปที่ความสำเร็จของแมนฯ ยูไนเต็ด ในวันนี้เกิดจากการที่เฟอร์กี้ พยายามปรับเปลี่ยนทีมตลอดเวลาตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยช่วงก่อนนี้ก็เน้นเรื่องการเสริมสตาร์เข้าทีมจนโดนกล่าวหาว่าเอาแต่ซื้อตัว แต่พอ 1-2 ฤดูกาลหลังก็เริ่มดันเด็กขึ้นมาประดับทีมมากขึ้น อย่างที่เห็นทั้ง จอนนี่ อีแวนส์, ราฟาเอล-ฟาบิโอ ดา ซิลวา, แดนนี่ เวลเบ็ค หรือที่กำลังมาแรงอย่าง เฟเดริโก้ มาเคด้า การตะบี้ตะบันใช้ดาวรุ่งอย่างเดียวโดยไม่สนนักเตะที่มีประสบการณ์ มันสวยงามในเชิงทฤษฎีก็จริง แต่มันก็เป็นทฤษฎีที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าในอนาคตข้างหน้าจะนำความสำเร็จมาสู่ทีมอย่างจริงจัง อาร์เซนอล ในวันนี้สภาพเป็นรองทีมคู่แข่งมากขึ้นทุกที สังเกตได้ว่าเตะกับท็อปโฟร์ทีไรต้องเป็นรองเกือบตลอด แม้แต่การเจอกับลิเวอร์พูล ที่เคยต่อบอลไล่ต้อนกันอย่างสนุกสนาน ก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นการฉวยจังหวะเล่นทีเผลอเอาแทน กลับเป็นหงส์แดงเสียอีกที่บุกเอาๆอย่างเมาตีน สิ่งเหล่านี้ เรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่การพูดกันครั้งแรก เพราะมีการพูดกันหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะสื่อไทยหรือสื่อเทศก็พูดไปในทิศทางใกล้เคียงกัน อาร์เซนอล จะต้องหาคนที่เป็น "เสาหลัก" ของทีมมาช่วยแบ่งเบาภาระของเซสก์ โดยเฉพาะในแดนกลางที่สำคัญมาก อาจจะหวนกลับไปมองนักเตะอย่างแกเร็ธ แบร์รี่ หรือไปลุ้นเอาชาบี้ อลอนโซ่ อีกรอบก็ได้ แต่ห้ามปล่อยให้เซสก์ ต้องจับคู่กับอเล็กซานเดอร์ ซง หรืออาบู ดิยาบี้ ที่ผ่านมาเวนเกอร์ สอนสั่งศิษย์มามากมาย เป็น "ครูใหญ่" ที่น่านับถือที่สุดในวงการฟุตบอล แต่วันนี้ถึงคราวที่เขาควรจะกลับมาเปิดตำราศึกษาความผิดพลาดของตัวเองดูบ้าง โดยเฉพาะแนวนโยบายที่เถรตรงเกินไป เวนเกอร์ ต้องปรับทีมครั้งใหญ่ในช่วงซัมเมอร์นี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปและไม่เหลือซูเปอร์สตาร์คนไหนที่จะเชื่อว่าอาร์เซนอล ยังมีความ "ทะเยอทะยาน" อยากจะประสบความสำเร็จอยู่ โดยเฉพาะ เซสก์ ที่หากจากทีมไปอีกคน ก็ไม่อยากคิดภาพเลยว่ากันเนอร์ส จะเป็นอย่างไร... http://football.impaqmsn.com/content.aspx?id=43769&ch=262&ch=scoop จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 13:01:15 ]

ความคิดเห็นที่ 36 Let 'em Try Again ! จากคุณ : coif - [ 6 พ.ค. 52 13:04:01 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มันผ่านไปแล้ว  ทุกคนก็เสียดาย เสียใจ ผิดหวัง เมื่อทีมโปรดเราพ่ายแพ้ ฤดูกาลหน้ายังมีครับ  เชียร์ต่อไปสู้ต่อไป มันคงมีสักวันน่า  สู้ๆกันเนอร์ นักเตะทุกคนก็เต็มที่เพื่อทีมเพื่อแฟนบอล หวังว่าวันหน้ามันคงเป็นวันของเรา จากคุณ : dna-design - [ 6 พ.ค. 52 13:04:36 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ปีน้า เอาใหม่น่ะครับ มาให้กำลังใจครับ จากคุณ : ####PondCLub#### - [ 6 พ.ค. 52 13:05:01 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สวัสดีครับ ต้องมีวันของเรา จากคุณ : NUNADON - [ 6 พ.ค. 52 13:06:01 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ถึงแพ้ ก็แพ้ยอดทีมครับ  สู้ไม่ได้ก็ต้องยอมรับว่าสู้ไม่ได้ครับ ปีหน้าฟ้าใหม่ว่ากันต่อนะ ผมทำกระทู้เกี่ยวกับอองรี  ใครพอจำอะไรเพิ่มเติมได้เชิญหน่อยนะครับ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S7831971/S7831971.html จากคุณ : CC.mand - [ 6 พ.ค. 52 13:15:26 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เราเสียเร็ว ทำให้เล่นยาก พอจะดันขึ้นหมด ก็เสียฟรีคิกเทพอีก บอลไม่เป็นใจเลย ครึี่งหลังเราปรับให้ถ่ายบอลซ้ายไปขวา เร็วขึ้นแต่ก็เจาะไม่เข้าเลย กลางกับหลังแมนยู ไม่่มีระยะห่างเลย ได้ลูกนึงเมื่อคืนก็ดีแล้วครับ สงสารน้องกิ๊บต้องจำวันนี้เป็นบทเรียน วัลคอตไม่แกร่งพอจะผ่านเอฟร่าเลย เล่นไปให้เค้าหัวเราะเล่น เจ็บใจจริงๆ จากคุณ : แยม ส้ม - [ 6 พ.ค. 52 13:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สงสารกิ๊บเหมือนกันคับ เจ้าตัวผิดหวังมากกับจังหวะนั้น  ขนาดเท้าสกิดโดนบอลนิดนึง ยังไปเข้าทางของพี่ปาร์คอีก ดวงเราไม่ดีจริงๆ ยังไงก็ต้องก้าวต่อไปคับ จากคุณ : AOMSIN_MY LOVE - [ 6 พ.ค. 52 13:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ต้องยอมรับจริงๆว่าผีเหนือกว่าเรามาก กองหลังแน่นปึ้ก กองหน้าเฉียบขาด ผู้เล่นทุกตำแหน่งนิ่ง รู้งาน สู้ไม่ได้จริงๆครับ กองหลังต้องปรับปรุงด่วน เปรียบเทียบกันตำแหน่งต่อตำแหน่งแล้ว ไม่มีอะไรสู้ได้เลย ปิดเทอมต้องช้อปบ้างครับบอสครับ จากคุณ : เด็กอุทัย - [ 6 พ.ค. 52 13:19:59 ]

ความคิดเห็นที่ 44 แฟนผีเข้ามาอ่าน ให้กำลังใจนะครับ เกรงว่าจะมาหลอนผีนัดรองสุดท้ายน่ะครับ^^ จากคุณ : Antonymer - [ 6 พ.ค. 52 13:22:42 ]

ความคิดเห็นที่ 45 นัดสำคัญ เจอทีมใหญ่ ตัวผู้เล่นเราไม่เคยพร้อม ไม่อยู่ในชุดที่ดีที่สุดซักที โดยเฉพาะฤดูกาลหลังๆ เหมือนต่อเขายังไงก็ไม่รู้ ต้องพิจารณาหาตัวสำรองดีๆ มีประสบการณ์ชั้นถึงทีมชุดแรกมาไว้ในทีมให้พอแล้วนะบอส เทียบตัวสำรองทีมใหญ่ด้วยกันของเราอ่อนสุดเลย ดันเด็กอะดีแต่เด็กลงบ่อยๆมันก็สู้ประสบการณ์ผู้ใหญ่ไม่ได้ทุกทีหรอกฮับ.. จากคุณ : allura red - [ 6 พ.ค. 52 13:27:11 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เราแพ้ให้กับทีมที่ดีกว่า แมนฯ ยูไนเต็ดสมควรเป็นผู้ชนะค่ะ เมื่อเช้าน้องถามว่าอาร์เซนอลแพ้เหรอ เล่นเอา ก็เลยหาเหตุอู้อยู่บ้าน ไม่อยากไปต่อมน้ำตาแตกต่อหน้าคนอื่นค่ะ จังหวะยิงฟรีคิกของโรนัลโด้ค่ะ เอามาจาก Daily Mail แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 16:15:16 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 13:30:02 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เอาริเบรี่ มายืนแทนนาสรี่ ให้นาสรี่เป็นตัวสำรองไว้ rotation ซ้ายริเบรี่ ขวาอาชาวิน ตรงกลางหาตัวรับมืออาชีพมาช่วยเชส และหากองหลังไว้ใจได้อีกซักคน อืม จากคุณ : เด็กอุทัย - [ 6 พ.ค. 52 13:40:31 ]

ความคิดเห็นที่ 48 มาให้กำลังใจเด็กปืน เชื่อว่า อีกปีสองปี ถ้าเด็กทีมนี้ยังเล่นด้วยกันอยู่อย่างนี้ ผีจะมีคู่แข่งที่น่ากลัวมากเลย ส่วนตัวชอบ วัลคอตต์ แต่เมื่อคืนดูแล้ว เชียร์ กิ๊บส์ เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน สู้ ๆ นะเด็กปืน จากคุณ : แฟนผี แต่ชอบวัลคอตต์ (เต็งฮุ้นลิ้ม) - [ 6 พ.ค. 52 13:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 49 แทบนอนไม่หลับครับ ฤดูกาลนี้เหลืออีก 3 นัด ดูบอลให้สนุกละกัน ปีหน้าว่ากันใหม่ ยังไงก็จะเชียร์ต่อไป และตลอดไปด้วย พระอาทิตย์ตกก็ยังขึ้นใหม่ได้ทุกวัน ซักวันต้องเป็นวันของเรา ยังไงก็รัก ..... จากคุณ : debby the gunner - [ 6 พ.ค. 52 13:45:02 ]

ความคิดเห็นที่ 50 - การเสียประตูแรกเร็วอาจจะเป็นเหตุผลข้อต้นๆ ที่ใครๆ พูดถึง ในฐานะที่มันกลายเป็นจุดเปลี่ยนของเกมไปแล้ว แต่ผมยังมองในอีกแง่นึงว่า ถึงเรายังประคองตัวผ่านจังหวะนั้นไปได้ สุดท้ายก็น่าจะลงเอยคล้ายๆ กัน เพียงแต่อาจจะไม่บอบช้ำมากขนาดนี้เท่านั้นเอง เพราะเท่าที่ดูแมน.ยู เล่น ผมก็ยังมองไม่ออกว่าเราจะสร้างจุดเปลี่ยนของเราเองได้ในตอนไหน...ต้องยอมรับว่าพวกเค้าเล่นอย่างอดทนและมีวินัยดีจริงๆ - ผมยังไม่ได้อ่านกระทู้อื่นๆ มากนัก ไม่รู้ว่ามีใครใจร้ายตำหนิกิ๊บส์อย่างรุนแรงเกินมนุษย์มนามั่งหรือเปล่า?? แต่หวังว่าคงไม่ - เรื่องนาสรี่ ผมยังยืนยันว่า ควรให้เค้ายืนสูงกว่าฟาเบรกาส ทำหน้าที่เป็นตัวรุก แล้วให้ฟาเบรกาสเป็นตัวต่ำแทน โดยไม่จำเป็นต้องเป็นตัวรับเต็มตัว (ยิ่งกรณีใส่แผงกลาง 5 คน ยิ่งต้องใช้แผนนี้) ด้วยแผนนี้ ผมเชื่อว่าทั้ง 2 คนจะทำผลงานร่วมกันได้ดีกว่านี้ - อเดบายอร์....ผมนึกไม่ออกว่าระหว่างการโชว์ฟอร์มดีมากๆ นัดนึง แล้วเงียบหายไป 4-5 นัด มันชดเชยกันได้มั้ย?? แต่ผมรู้สึกอยู่อย่างนึงว่า จังหวะได้เปรียบของทีมเสียไปจากการยืนตำแหน่ง และการเสียฟาล์วของเค้าหลายหน....จากเกมเมื่อคืนก็โดนกรรมการจับฟาล์วติดๆ กันหลายครั้ง ไม่นับจังหวะที่ยืนโด่งล้ำหน้าจนเพื่อไม่มีใครกล้าส่งบอลให้ - สุดท้าย..เห็นใจเฟรทเชอร์นะ กับใบแดงเมื่อคืน ถึงแม้จะเห็นว่ากรรมการไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุไปนักหรอก แต่ถ้าให้แค่ใบเหลือง+จุดโทษ ผมก็รับได้นะ เพราะคิดว่ามันไม่ช่วยให้เรากลับมาอยู่ในเกมด้วยวิธีการแบบนี้ได้หรอก และมันจะไม่น่ายินดีถ้ามันเกิดขึ้นมาอย่างนั้นจริงๆ ยอมรับว่า แมน.ยู ดีกว่าทั้ง 2 เกมจริงๆ ครับ จากคุณ : Grand Gunner - [ 6 พ.ค. 52 13:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 51 มาเจอกันนัดล้างตาใน EPL ละกันครับ เอาใจช่วยทีมปืนใหญ่เน่อ จากคุณ : ฉันมีความสุขในทุกๆวัน - [ 6 พ.ค. 52 13:55:12 ]

ความคิดเห็นที่ 52 หวัดดี เด็กปืนทุกท่าน แวะเข้ามาให้กำลังใจค่ะ  เป็นเด็กผี แต่เมื่อคืนลูกแรกตอนที่ปาร์คยิงได้ ก็ดีใจนะ แต่เห็นหน้าน้องกิ๊บส์แล้ว สงสาร คือไม่ชอบเหตุการณ์แบบนี้ เลยจริงๆ   เชื่อว่ากิ๊บส์มีอนาคตที่ดีกับปืนแน่ๆเลย   แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 13:57:47 จากคุณ : KanKaLa - [ 6 พ.ค. 52 13:55:57 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ช่วงนี้ สิ่งที่ หวังปืนสู้ๆต่อไปคือพยายามรักษาตำแหน่งในตารางพรีเมียร์ เพื่อโอกาสในการเล่นบอลยุโรปปีหน้า และสิ่งที่คาดหวังคือ การซื้อผู้เล่นใหม่ ที่ไม่ใช่ปีก กับกองหน้า จากคุณ : A.R.T. - [ 6 พ.ค. 52 13:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 54 วัลคอตเมื่อคืน ไม่ผ่าน เอฟร่าเลย บายอร์อีกคน เล่นไม่ดีแถมไม่ขยันอีก ผมว่าหมดฤดูกาลนี้ โละทิ้งเลยดีกว่า ดันเบนเนอร์ เป็นหน้า เป้าจริงจังๆ เสียดาย เสีย กิ๊บซ์ ไปเร็วไม่งั้น ผมว่าอาจได้เห็น ดิยาบี้ ลงมาเปลี่ยนเกม จากคุณ : kicub2 - [ 6 พ.ค. 52 14:05:04 ]

ความคิดเห็นที่ 55 แม้จะมือเปล่า แต่ปืนโตก็เป็นทีมที่เล่นบอลได้สวยงามมากๆครับ ฤดูกาลหน้าปืนโตจะดีขึ้นกว่านี้แน่นอนครับ จากคุณ : ผีเฮี้ยน - [ 6 พ.ค. 52 14:11:44 ]

ความคิดเห็นที่ 56 มีใครเห็นเหมือนผมบ้างว่า เมื่อคืนจังหวะโต้กลับ พอบอลถึงบายอฝั่งซ้าย เค้าจะวนหันหน้าเข้าหากองหลังแมนยูแล้วหลอกไปหลอกมาจนแมนยูลงมาตั้งรับกันหมด แล้วค่อยส่งบอล หลายครั้งมาก คือถ้าเป็นหน้าเป้าเค้าควรจะยืนรอชาร์ทหน้าประตูไม่ดีกว่าเหรอ ไหนๆก็จะจบด้วยการโยนเข้าไป จากคุณ : ทั้งนี้ทั้งนั้น - [ 6 พ.ค. 52 14:26:19 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เป็นอีกเกมที่ดูแล้วอึดอัดมากๆ...จังหวะการเข้าทำช้ามากๆ...ยิ่่งมาเสีย 2 ลูกตั้งแต่ต้นเกม ยิ่งหาทางกลับลำบาก เรื่อง "ใจ" ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าเป็นห่วงครับ...เกมเมื่อคืนถ้าเป็นหงส์ ผมยังพอนึกออกมาเค้ายังมีลูกฮึดที่จะกลับมา หรือถ้าเรายังมีอองรี ยังจะได้เห็นลูกลากเลื้อยที่ดุๆ พอกระตุ้นให้เพื่อนกลับมาสู้ได้บ้าง...แต่เกมเมื่อคืน เราต่อบอลกัน "ไร้ชีวิตชีวา" มากครับ ยิ่งพอบอลไปอยู่กับบายอร์นี่ ไม่ต้องคิดเลย...รอเสียบอกอย่างเดียว...อีกอย่างที่ไม่เข้าใจ เราจะเน้นบอลเปิดจากด้านข้างไปไหน ทั้งๆ ที่ตัวเปิดบอลเราก็ไม่ได้ดีอะไร...ไหนจะกองหน้าเราก็ไม่ใช่สไตล์นั้นอีก...เปิดไปก็มีแต่เสียของ...เหลืออีกสามนัดขอไอเดียใหม่ๆ ในการเข้าทำนะครับบอส...ขืนเล่นแบบนี้ ลุ้นเต็มที่ก็ที่สามหรือที่สี่...อีกอย่างขอหลังแน่นๆ กะหน้าแม่นๆ อีกอย่างละคนนะบอส... จากคุณ : ป๊ะป๋าปอปัน - [ 6 พ.ค. 52 14:43:33 ]

ความคิดเห็นที่ 58 Together ครับ ปีหน้าว่ากันใหม่ พวกเรา รอลุ้นนัดต่อไปกันดีกว่าครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ อากาศร้อนๆหาอะไรเย็นๆทานดีกว่า ตอนนี้ผมกำลังดื่มโค้กปั่นอยู่ อิอิ จากคุณ : Changekie - [ 6 พ.ค. 52 14:49:55 ]

ความคิดเห็นที่ 59 การเล่นแพ้ทั้งสองนัดของอาร์เซน่อล โดยรูปเกมส์ออกแนวน่าเกลียดขนาดนี้ ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงสมดุลที่ไม่ดี และการขาดประสบการณ์ของเด็กๆๆ ขาดอาร์ชาวินไป ก็เหมือนการเล่นในช่วงปีที่แล้วของทีม เล่นกันช้า ขาดสปีดเกมส์ ขาดนักเตะที่จะส่งลูกจังหวะเดียว ปกติ เวลาเกมส์ทีมที่เล่นเกมส์รับ โดยไลน์ดีเฟ้นอยู่ต่ำ การจะเจาะโซนเกมส์รับ ทำได้อยู่ 4 แบบ คือ 1. เลี้ยงทะลุทำลายโซน 2. ทำชิ่งเร็ว 1-2 เข้าไป 3. ยิงไกล 4. โยนบอม ถามว่านัดนี้อาร์เซน่อลทำอะไรบ้าง นอกจากชิ่งไปชิ่งมานอกเขตโทษ การเลี้ยงจี้ทำลายโซน พออาร์ชาวิน ไม่อยู่ ก็เป็นเรื่องหนักทางฝั่งซ้าย แต่วัลคอต เล่นเหมือนเกรงเอฟร่า ตลอด ไม่กล้าเล่นไม่กล้าลุย ทำให้ทางเลือกนี้ของทีมเสียไป กลายเป็นเบนเนอร์ซะอีก ที่ลงมาแล้วกลายเลี้ยงลุยเข้าไป สร้างจังหวะยิงได้ครั้งหนึ่ง การชิ่งเร็ว เข้าไป ตลอดทั้งเกมส์ นักเตะไม่พยายามทำสิ่งที่ว่านี้เลย มีเพียงจังหวะเดียวที่ ฟานเฟอร์ซี่ ชิ่งจังหวะเดียวให้ฟาเบกัส แล้วก็เป็นจุดโทษตีเสมอ การยิงไกล ฟานเฟอร์ซี่ สร้างจังหวะยิงไกล ครั้งเดียวเช่นกัน ทั้งๆที่ทีมมีจังหวะยิงไกลได้หลายครั้ง แต่กลับเลือกส่งบอลถ่ายกันไปมา และออกด้านข้างเพื่อโยนเข้าไป แต่หน้าประตูมีแค่อาเดบายอ คนเดียว แล้วเจอประกบสองคนตลอด ถ้าคนที่พอช่วยโหม่งแย่งได้อย่างซง ขึ้นไปช่วย กลางรับก็จะเสียตำแหน่ง ลองสังเกตการโยนเข้าไปของริมเส้นแมนยู ซึ่งมีแค่กองหน้าตัวกระเปี๊ยกทั้งนั้น เขาจะเลือกโยน ความสูงระดับหัว ให้บอลพุ่งแรง แล้วก็วิ่งโถมเข้าไปโหม่ง มิใช่โยนให้บอลลอยสูงกลางอากาศ ซึ่งจะเสียเปรียบกองหลังตัวใหญ่ รวมถึงประตู แบบที่นักเตะอาร์เซน่อลทำ ความสามารถในการโยนบอลจากริมเส้น ของสองทีมต่างกันมากมายมหาศาล เอฟร่า พูดไม่ผิด นี่ก็เหมือนบอลเด็ก เล่นกับผู้ใหญ่ แต่ถ้าเด็กเราห้าวจริง เอฟร่า ซึ่งมีติดโทษเหลืองนัดนี้ ย่อมไม่กล้าเข้าสกัดฟาล์วเท่าไหร่ อาจเป็นจุดอ่อนได้โจมตีได้ แต่เด็กเราใจฝ่อไปซะก่อน แพ้หมดรูปเลยนัดนี้ แต่เชื่อว่า ถ้าฤดุกาลหน้าไม่เสียใครไป รวมถึงนักเตะไม่เจ็บกันเยอะ และได้นักเตะใหม่ในตำแหน่งที่ขาดไปซัก 2-3 คน ทีมจะมีลุ้นมากกว่านี้แน่นอน จากคุณ : แอคโจนบริเค - [ 6 พ.ค. 52 14:55:07 ]

ความคิดเห็นที่ 60 I love Arsenal, I love Arsenal, I love Arsenal, I love Arsenal, I just ordered a yellow away shirt !!! จากคุณ : ช - [ 6 พ.ค. 52 14:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เชียร์ต่อค่ะ บอกตรงๆว่าเข้ามาได้รอบลึกขนาดนี้ ด้วยขุมกำลังที่ไม่สมบูรณ์ ขนาดนี้ สำหรับเราก็ถือว่าเกินคาดหมายแล้ว และไม่ใช่ทีมเราทีมเดียวที่ พลาดถ้วยนี่นา สู้ๆนะคะทุกคน จากคุณ : แม่ปลาทอง (Am_Nuchi) - [ 6 พ.ค. 52 14:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 62 นัดนี้ทำให้ผมรู้ว่า "ประสบการณ์" คืออะไร และสำคัญแค่ไหน "ประสบการณ์" คือ การCOME BACK คือการกลับมาสู่เกม กลับมายืนอยู่ในจุดที่เราควรจะเป็น และควรจะทำ เห็นได้ว่าหลังเสียสองประตู เราก็เล่นมั่วซั่ว เล่นบอลเหมือนเด็กหัดเล่น เร่งเร็วจนเสีย นักเตะหลายคนเล่นแบบถอดใจ ชัดที่สุดคือ กิบส์ เวนเกอร์ถึงกับถอดออก ไม่ได้โทษแต่ไม่เข้าใจเราทำไม เราเสียประตูแบบบ้าๆบอๆบ่อยๆ จะว่าฤดูกาลนี้จบแล้วหรือไม่ วันที่ 16 ขอยิงผีไส้แตก ล้างแค้นก็พอ ถ้าเอาชุดนี้+อาร์ชาวิน เจอผีใน EPL เราจะกระชากผีลงมาจากจ่าฝูงได้แน่ครับ เราจะเอาคืน เราจะเป็นขวากหนาม จากคุณ : More Original Me - [ 6 พ.ค. 52 15:05:20 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ถึงจะแพ้แต่ก็มีเรื่องดีๆครับ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S7831780/S7831780.html ความพ่ายแพ้ทำให้เศร้าเสมอแต่หลังฝนตกฟ้าจะสดใสครับ ส่วนข่าวใครจะไปใครจะมาอย่าไปฟังมากเลยครับ ตราบใดที่บอสยังอยู่ผมเชื่อว่าจะมีตัวตายตัวแทนเสมอ แม้เราจะฟอร์มตก หรือบอสเราจะฟอร์มตก แต่อย่าลืมครับ ไม่เจ๋งจริงมาดริดกับบาเยิร์นไม่แย่งกันขนาดนี้ ทำยังกะบอสเป็นนักเตะซะงั้น จากคุณ : servirus - [ 6 พ.ค. 52 15:05:52 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เข้ามาห้องนี้แล้วอบอุ่นทุกทีถึงแม้ทีมรักจะแพ้..แต่พวกเราในนี้พร้อมที่จะเศร้า และ สุขพร้อม ๆ กันค่ะ.. มาเป็นกำลังใจให้นักเตะปืนและบอสค่ะ..นำข้อผิดพลาดมาแก้ไขแล้วก้าวต่อไปค่ะ.. Together ค่ะ (ไม่ได้ใช้คำนี้มานานแล้ว) จากคุณ : NongGrace - [ 6 พ.ค. 52 15:26:21 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ก่อนเตะ ก็คิดไว้แล้ว ว่าจะต้องโดนยิง away goal แต่ไม่คิดว่าจะโดนเร็ว และ 2 ลูกติดแบบนี้ ส่วนลูกที่พลาด ก็ไม่แปลกใจ เพราะกองหลังปืนก็มีพลาดแบบนี้ตลอด แพ้ทีมที่ดีกว่าครับครั้งนี้ ต้องยอมรับว่าปืนยุคนี้ ไม่ดุดัน แบบยุคก่อน ที่มีวิเอร่า ปิแรส เบิร์กแคมป์ อองรี ฤดูกาลหน้าว่ากันใหม่ครับ จากคุณ : ขอบคุณโต๊ะสี่ - [ 6 พ.ค. 52 15:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 66 อีกจุดหนึ่งที่ทีมจำเป็นต้องมีคือ นักเตะที่เป็น match winner ครับ อย่าง แมนยู มี โรนัลโด้ รูนี่ วิดิช ลิเวอร์พูล มี ตอเรส เจอราร์ด เชลซี มี ดรอกบา แลมพาร์ด เทอรี่ คือนักเตะที่สามารถดึงศักยภาพออกมาได้ในเกมส์ที่มันสำคัญอย่างนี้น่ะครับ มองกลับมาที่ทีมเรา ... ผมหาใครไม่เจอจริง ๆ แต่ที่ม้านั่งสำรอง รู้สึกจะมี อาชาวิน อยู่คนนึงนะครับ นักเตะอย่างที่จะพลิกเกมส์ได้ จะมีมาไหมน้อ ในปีต่อ ๆ ไป จากคุณ : อ๊อบบี้ - [ 6 พ.ค. 52 15:57:39 ]

ความคิดเห็นที่ 67 แล้วแมทช์หน้า เจอเชลซี อย่าเอาเชสก์ไปยืนสูงอีกได้มะค๊าบ เห็นแล้วมันสะเทือนหัวใจอย่างแรง T___________T จากคุณ : อ๊อบบี้ - [ 6 พ.ค. 52 16:03:57 ]

ความคิดเห็นที่ 68 มีข่าว เบนเนอร์เมาหัวทิ่มเมื่อคืนด้วยครับ แถม กุงเกงพี่ท่านหลุดอีกตะหาก หมดสภาพจริง ๆ -*- จากคุณ : อ๊อบบี้ - [ 6 พ.ค. 52 16:09:16 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอมาวิเคราะห์เกมส์หน่อยละกันนะครับ เกมส์เมื่อคืนเราแพ้ทั้งแท็กติก ประสบการณ์ ความแข็งแกร่ง ฯลฯ ต้องยอมรับหละครับว่าเซอร์อเล็กนั้นเหนือกว่าจริงๆ ถ้าใครบอกว่ากองกลางของอาเซน่อลที่มี เชส, นาสรี่ และ ซง เมื่อเทียบกันตัวต่อตัวกับ แอนเดอร์สัน, ปาร์ค และ เฟลทเชอร์ ใครจะคิดว่า กลางเราจะเล่นสู้ไม่ได้ ครองบอลทำเกมส์ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เและบอลจากแถวสองไม่ว่าจะเป็นตอนบุกหรือตอนรับ กลับไม่มีผู้เล่นของเราคอยเก็บบอลซักเท่าไหร่ จะเห็นได้จากลูกแรกที่เสียไปก็มาจากการเคลียร์บอลของกองหลัง ถ้าจำไม่ผิดจะมาเข้าทางแอนเดอร์สันแล้วไอ้โด้ก็วิ่งฉีกตัวประกบไปรับบอลจากแอนเดอร์สันแล้วตวัดกลับเข้าในแบบไม่จับบอล ตอนแรกในใจผมคิดว่าจังหวะเปิดเร็วอย่างนี้ยังไม่น่ามีผุ้เล่นแมนยูเติมขึ้นมาได้ทัน แต่แล้วมันก็มีจนได้ แต่ถึงมีใครวิ่งมา ก็มีผู้เล่นของเรา่วิ่งมาถึงก่อนแต่.... ดันลื่นล้มซะอีก ลูกนี้ถือว่าซวยไปละกันครับ ลูกสองคงต้องยกให้ไอ้โด้ที่ยิงลูกมหัศจรรย์อย่างนั้นได้ ต้องยอมครับ ส่วนลูกสามก็อย่างที่ผมบอก การยืนตำแหน่งไม่ดีของกองกลาง ตรงพื้นที่เลยหน้าเขตโทษออกมาหน่อยก็ไม่มีผู้เล่นทีมเรายืนเก็บบอลจังหวะสองเลย ความจริงบอลบุกลักษณะนี่ฝั่งบุกจะเก็บบอลได้มากกว่าฝั่งรับ นอกซะจากฝั่งรับเคลียร์บอลไปเข้าทางทีมตัวเองจริงๆ แต่ึถึงกระนั้น ความจริงฝั่งบุกควรจะมีตัวมาชะลอเกมส์สวนกลับ ไม่ใช่ไม่มีใครมาชะลอเกมส์เลย เล่นอย่างนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องเสียประตูเพิ่มจนได้ ผมสังเกตุว่าหลังๆเราไม่ใช่เจ้าของบอลคอนโทรลอีกต่อไปแล้ว ปกติอาเซน่อลจะมีจุดแข็งที่กองกลาง กองหน้าถึงจะทำสกอร์ได้ไม่ดีนัก แต่ก็จะมีการจ่ายบอลวิ่งทำทางที่ดีกว่านี้ และจังหวะจบสกอร์ถึงจะไม่คม แต่ก็จะสร้างโอกาสได้มากกว่านี้ แต่หลังๆไม่สิ ปัญหานี้มันตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วด้วยซ้ำไปกลับยังคงเป็นปัญหาเดิมๆซ้ำๆที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ก็ไม่รุ้ว่าเวนเกอร์มองไม่เห็นหรือคิดว่าซักวันมันจะหายไปเองก็ไม่รู้ เพราะแมนยูดูเหมือนว่าเค้าจะศึกษาวิธีการเล่นกับเรามาอย่างดี รับต่ำๆ คอยซ้อนปีกดีๆ เดี๋ยวพอปีกไปไม่ได้ก็จะจ่ายเข้ากลาง แล้วพอจ่ายทะลุมาตรงตัวพักบอลตรงกลาง ให้เซนเตอร์เข้าไปตัดบอลก่อนเลย หรือไม่ก็แซะๆไว้เด๋วก็เสียบอลกันไปเอง เพราะกองหน้าอาเซน่อลก็ไม่พลิกเล่นเองหรอก ได้แต่ดีดกลับไปกลับมาแค่นั้นแหละ พอตัดบอลได้ก็ให้ทิ้งยาวไปให้กองหน้ากระชากซักสองสามที แล้วรอตัวเติมมาหรือไม่ก็ลากไปยิงเอง เด๋วมันก็เข้าไปเองแหละ แค่ผมนึกก็จินตนาการออกแล้วว่าแพทเทิร์นแบบนี้มันซ้ำไปซ้ำมาเหมือนหนังม้วนเก่าๆ เล่นกับเชลซีก็โดนแบบนี้ เล่นกับแมนยูก็โดนแบบนี้ เล่นกับใครๆผมว่าเค้าก็คงดูออกว่าจะเล่นแบบไหน ต่างกันที่ความคมของแต่ละทีมก็แค่นั้น ขนาดฮัลก็ยังเคยใช้แผนแบบนี้สยบทีมเรามาแล้ว ก็ไม่แปลกหรอกที่แมนยูจะทำได้  ผมหวังว่าเวนเกอร์จะเห็นปัญหานี้แล้วรื้อมันขึ้นมาแก้ซะที ถึงจะต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ผมก็ยอมดีกว่ามานั่งดูหนังม้วนเดิมๆที่ตอนจบก็ยังคงเป็นพระเอกที่ตายตอนจบแบบเศร้าๆทุกทีไป ช่วยเปลี่ยนสคริปซักทีเหอะผมขอร้องหละ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 16:13:47 จากคุณ : ห้อยน้อยๆแต่ห้อยนานๆ - [ 6 พ.ค. 52 16:11:35 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เฮ้อ ดูบอลเมืี่่อคืนแล้วพูดไม่ออก เหมือนสมองโล่งๆยังไงไม่รู้ T___________T จากคุณ : MondayCool - [ 6 พ.ค. 52 16:12:28 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ก็ต้องยอมรับครับว่าทีมเรายังไม่พร้อมจริงๆ ความเก๋ายังเป็นรอง แถมอะไรๆก็เป็นใจให้แมนยู สนามเราเองแท้ๆกับลื่นปรี๊ดได้ ส่วนกิ๊บส์ จังหวะลื่นนี่โชคร้ายมาก แต่ช่างมันเหอะครับ ยังไงตอนนี้เราก็มีอนาคตแบ๊คซ้ายตัวจริงทีมชาติอังกฤษแน่ๆแล้ว มั่นใจว่าเค้าจะเก่งขึ้นอีกมากอย่างแน่นอน ขนาดตอนนี้โรนัลโด้ยังเลี้ยงแทบไม่ผ่านกิ๊บส์เลย ไม่มีชาวปืนใหญ่คนไหนโทษน้องหรอกนะ ประทับใจภาพโรบินเข้าไปปลอบกิ๊บส์เหมือนกันครับ เกมส์สุดสัปดาห์นี้ นักเตะที่แฟนๆจะปรบมือให้เสียงดังสนั่นที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นคีแรนนี่เอง จากคุณ : ice-gooner - [ 6 พ.ค. 52 16:12:36 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ไม่ดุดันพอ เอฟร่านี่นะ  ..ปากนะ จากคุณ : nattvios (nattvios) - [ 6 พ.ค. 52 16:15:42 ]

ความคิดเห็นที่ 73 #68 พิ้งส์กี้หมดสภาพจริงๆ ค่ะ - -" เมื่อคืนฟลามินี่มาดูเกมด้วยเหรอ? แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 16:32:25 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 16:25:06 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ถึงบ้ายอเพื่อนรัก เราแอบเห็นนายออกอาการตอนวัลคอตเสียบอลช่วงต้นครึ่งแรก ทำเอียงคอประมาณว่า "อีกละ เบื่อนะ" ทีหลังนายอย่าทำอีกนะ คนอื่นๆเขาส่งบอลให้นายแล้วนายเองก็ทำเสียออกบ่อยๆ รู้ตัวปะ!!! จากคุณ : ฝ่ายจับผิดบ้ายอ..555 (die before) - [ 6 พ.ค. 52 16:26:42 ]

ความคิดเห็นที่ 75 อ้าว ฟลามันนี่ แอบมาเชียร์น่อลด้วยหรอ ?? ดูจากหน้าตา แล้วคงแอบเชียร์อยู่ละมั้งครับ โดนพี่เบคส์ถากซะขนาดนั้น น่ารักดีครับ จากคุณ : อ๊อบบี้ - [ 6 พ.ค. 52 16:31:57 ]

ความคิดเห็นที่ 76 นอกจากพี่เบคส์ กับฟลามินี่แล้ว อีตาอันเชลอตติก็มาตามดูฟอร์มบายอร์ด้วยค่ะ จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 16:41:09 ]

ความคิดเห็นที่ 77 บายอร์นี่ ทนสนันสนุนไม่ไหวจริงๆ ไม่รู้บอสเห็นดีเห็นงามอะไรในตัวบายอร์ ไม่เคยเห็นเล่นดีเลยสักครั้ง ตั้งแต่ซื้อมา นานนนนนนนๆ จะให้ยิงลูกเทพสักลูก ลูกที่ยิงเข้าส่วนใหญ่ ก็เป็นลูกง่าย ๆ ที่กองหน้าที่ไหนก็ยิงได้ และลูกง่าย ๆ ที่พลาดเยอะกว่ามากนัก จะ Offside สักกี่ครั้ง ? ยืนตำแหน่งห่วยแตก ยิงก็ห่วย ดีแต่เร็วกับความแข็งแกร่ง แต่ไม่ขยัน เก็บบอลได้ ก็ได้แต่ส่งคืน เรื่องเลี้ยง แหวกไปยิง หลอกกองหลังไปยิงนี่ แทบไม่มี ใครยอมจ่าย 30M ปอนด์ เพื่อซื้อก็โง่เต็มทีละ ถ้า Milan สนใจจริง ก็โละเหอะ ไม่เข้ากับหลักสูตรอาเซนอลอย่างแรง กองหน้าที่เลี้ยงไม่คล่อง ยิงห่วย ได้แต่ตัวสูง แย่งบอลเก่ง ครองบอลดี และจ่ายคืนหลังดี -*- แหวกไปยิงไม่เป็น เลี้ยงหลบไม่ได้เนี่ย มองไม่เห็นอนาคตเลยครับ บอสสสสสเห็นอะไรในตัวบายอร์กันแน่ครับเนี่ยย เอาไปปั้นเป็นนิววิเอร่าแทนดิยาบี้ไปเหอะ แบบนี้ ยิงเทียบกับอองรี, อเนลก้า, ตอเรสแล้ว บอกได้เลยว่า ต่างชั้นกัน จากคุณ : [-Luche-] - [ 6 พ.ค. 52 16:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ต้องขออภัยคุณแนนจริงๆครับ....อยากจะสร้างสรรค์อยู่นะ แต่มันสร้างไม่ได้อะ -_-' เมื่อคืนแมนยูเหนือกว่าเราหลายขุมจริงๆ เป็นอย่างที่เอฟร่าบอก ผู้ใหญ่เล่นกับเด็กดีๆนี่เอง มีจุดที่แตกต่างอยู่ 2 จุด แต่ก็คือทั้งหมดของเกม คือ เกมรับไม่ดี เกมรุกผิดพลาด ต้องยอมรับว่า นักเตะจำพวกตัวรับของเรา ทางบอลไม่ค่อยดีเลย หลายต่อหลายแมตที่ถูกผู้เล่นตัวรุกดี กระชากผ่านไปง่ายๆ.....ส่วนนึงก็เพราะแนวรับเราไม่ค่อยพร้อมหน้าพร้อมตากันสักที ทยอยกันเจ็บอยู่เรื่อย แต่อีกส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่า ถึงพร้อมหน้าพร้อมตา ก็ยังสู้แนวรับของเชลซีกับแมนยูไม่ได้จริงๆครับ ส่วนทางด้านเกมรุก...เห็นได้ชัดเลยว่า เราต้องการนักเตะที่มีประสบการณ์ มีความสร้างสรรค์ มีความแน่นอนในการทำเกม อย่างอาชาวินมากขนาดไหน อย่างไรก็ตาม เกมเมื่อคืน หวังว่าจะกลายเป็นบทเรียนที่มีค่า ที่ทำให้เด็กๆโตขึ้น เรียนรู้มากขึ้นไปอีกขั้น เพื่อที่ปีหน้า จะได้เอาสัก 2-3 แชมป์ มาอุดปากพวกนักวิจารณ์ที่ต้องออกมาบอกแหงๆว่า ฤดูกาลหน้า ปืนก็คงลุ้นแค่ที่ 4 เหมือนเดิม ปล1. หนึ่งเดียวที่ผมเห็นว่าเจ๋งจริงในเกมเมื่อคืนนี้คือ อัลมูเนียครับ.....หลังๆเหนียวแน่นหนึบมากครับ แต่ละลูกที่เสีย มันประเภทสุดวิสัยทั้งนั้น ปล2. ปิดเทอมนี้ผมว่าเวนเกอร์ ควรซื้อตัวนักเตะมาเสริมทีมอย่างจริงจังสัก 2-3 คน เพื่อมาเสริมประสบการณ์ให้กับนักเตะตัวกึ่งจริงกึ่งสำรองทั้งหลายในตอนนี้ แล้วก็มาเป็นอะไหล่หมุนเวียนยามขาดแคลนด้วย ส่วนพวกเด็กน้อยทั้งหลายที่กำลังคิดจะดันขึ้นมาจากทีมเยาวชน เห็นทีต้องพักไว้ก่อน....ส่งไปยืมตัวกับสโมสรต่างๆก่อนดีกว่า ไปเพิ่มความแข็งแกร่งอีกสักหน่อย (เด็กเราดีจริงครับ....ดีพอที่จะสู้ ทีมนอกบิ๊กโฟว์ได้สบาย....แต่ยังไม่พอจะสู้กับทีมระดับท๊อปด้วยกัน) ปล3. ปิดเทอมนี้ ห้ามเสียนักเตะคนไหนเด็ดขาด (ยกเว้นบ้ายออะ....สำหรับผม มันน่าปล่อยกลับแอฟริกาจริงๆ) ปล4. สุดท้าย......ฤดูกาลหน้า.....ผมเชื่อว่าอาชาวินจะทำให้อาเซน่อลเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นครับ จากคุณ : Lemur - [ 6 พ.ค. 52 16:47:33 ]

ความคิดเห็นที่ 79 #76 ดูหน้าพี่แจ้ดิ บายอขายไม่ออกแล้ว ฮ่าๆๆ จากคุณ : ทั้งนี้ทั้งนั้น - [ 6 พ.ค. 52 16:47:45 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ไม่เกี่ยวกับเรื่องแพะนะครับ แต่หลังจากเริ่มเกมแล้วกิ๊บส์ล้มหน้าเขตโทษ หลังจากนั้นผมก็ปิดทีวีครับ เพราะรู้ว่าการจะยิงผีถึง 3 ลูกให้ได้โดยที่ทีมเขาต้องเน้นตั้งรับไม่ให้เสียประตู แทบเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยในสถานการณ์และสภาพทีมอย่างเมื่อคืน ฮึๆ นอนดีกว่าครับ ตีสองกำลังง่วงสุดขีดเลย ไม่มีแรงบันดาลใจให้นั่งดูต่อ ก็ถือว่าถูกผีหลอกอีกนัดครับ ไม่เป็นไรเพราะยังไงเราก็ไม่ได้แชมป์มานาน เริ่มชินละ ฤดูกาลหน้าว่ากันใหม่ จากคุณ : Younger Pat - [ 6 พ.ค. 52 16:48:34 ]

ความคิดเห็นที่ 81 มีแต่กำลังใจที่ให้ซึ่งกันละกันคะ   The Gunners เราจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป จากคุณ : koy_onair - [ 6 พ.ค. 52 16:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ยอมรับความพ่ายแพ้นะ แต่จริงๆก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องโชคเลย แต่เมื่อคืนต้องบอกว่าเราอับโชคมากเลยน่ะ พลาดลูกแรกจากความผิดพลาดที่ไม่น่าจะเกิดแบบว่ามันง่ายมากไปจริงๆ ยังตั้งลำปรับความรู้สึกไม่ได้มาเจอลูกผีจับยัดของโด้ติดๆอีก ซึ่งลูกแบบนี้ยอมรับว่าเราโดนบ่อยมากอ่า เจอเข้าไปแบบนี้ต่อให้มีอาชาวินผมก็ยังว่ายากเลย ตอนนี้เราคงต้องโยนความผิดหวังทิ้งไปล่ะ มองไปข้างหน้ากันดีกว่า ผมเห็นด้วยกับหลายคนนะ สิ่งแรกที่ทีมควรทำคือรักษาทีมชุดนี้ไว้ให้ได้ หรือถ้าขายก็ควรเอาบิ๊กเนมมาแทน แล้วควรจะซื้อบิ๊กเนมมาเพิ่มในตำแหน่งที่อ่อนแอของเราอย่างน้อย1คนต่างหาก แล้วขออีกอย่างนะ ผมว่าทีแพทย์เรามีปัญหาไรป่าวนี่ ไมตัวผลัดกันเจ็บกันแบบนี้ ใครอาจจะว่าบอสนะ แต่ผมสงสารบอสมาก เรื่องอาการบาดเจ็บคงไม่มีใครคาดการณ์ได้จริงๆ ปีนี้ยังนึกไม่ออกเลยว่าบอสได้ทีมที่สมบรณ์บ้างรึยัง ปล.เราแฟนปืนจะผิดหวังแค่ไหนก็ยังเชื่อว่าเราไม่เคยรักทีมนี้น้อยลงเลย ปล2. อัลมูเนีย คลีซี่ ตูเร่ กัลลาส ซาญญ่า วัลคอต นาสซี่ เชส อาชาวิน เฟอซี่ บายอ โรซิคกี้ ดูดู้ ผมว่าผู้เล่นเหล่านี้น่าจะเป็นตัวหลักของทีมเรา แต่ฤดูกาลนี้เคยได้เล่นร่วมกันเต็มๆบ้างรึยัง - - จากคุณ : HEARTfree - [ 6 พ.ค. 52 16:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ทีมอาเซ่น่อลที่จะสู้แมนยูได้คือทีมอาเซน่อลของปีที่แล้ว ถ้าแวงเกอร์จะเอาแต่ปั้นเด็กขายแล้วสร้างทีมใหม่ทุกปี ระยะห่างระหว่างบิ๊กโฟว์อื่นๆก็จะมากขึ้นๆ เมื่อก่อนกับทีมบิ๊กโฟว์ด้วยกันแพ้บ้างชนะบ้าง แต่ทีมปืนใหญ่มักจะเป็นฝ่ายครองบอลบุกเป็นส่วนใหญ่ แต่หลังๆมานี่แม้แต่กลับลิเวอร์พูลหรือเชลซี ก็ต่อบอลสู้เค้าไม่ได้ จ่ายพลาดบ่อยมาก แสดงว่าต้องใช้เวลา  ผมว่าไม่น้อยกว่าสองปี โดยที่ไม่เสียนักเตะหลักไปอีก ถึงจะกลับไปสู่จุดเมื่อปีที่แล้วได้ นักเตะเด็กๆถึงจะมีพรสวรรค์ขนาดไหน  แต่ความผิดพลาดมันก็มากด้วยตามประสาคนไม่มีประสบการณ์ เห็นได้ชัดเลย ในรอบรองบอลถ้วยทั้งสามนัด เด็กๆไม่นิ่งพอจะรับความกดดันได้ จากคุณ : นายเบื่อบอลอุด - [ 6 พ.ค. 52 17:14:57 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ผีทำเกมส์บุกได้ยอดเยี่ยมมาก บักโด้มันเล่นเเบบไม่กลัวเจ็บ ทำไมปืนไม่มีนักเตะเเบบนี้บ้าง วัลคอตก่อนจะมาปืน มันก้อเล่นเเนวๆบักโด้ เพราะอะไรมันถึงเปลี่ยนหนอ 3นัดที่เหลือ เเพ้หมดก้อไม่โกรธนะ ได้ที่ 4 เเล้วนี่ ps. ลุ้น เชส ยาวๆ ไปเเน่ๆ จากคุณ : meawmeao - [ 6 พ.ค. 52 17:24:48 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เกมเมื่อคืนผมชอบบ้ายออยู่จังหวะเดียวเลย คือจังหวะวิ่งเข้าไปแย่งบอลจากคาริกแต่เข้าพลาดเลยโดนใบเหลืองไป อย่างน้อยก็ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่นมั่น(นิดนึง) ส่วนที่เหลือก็... ทำฟาวล์์พร่ำเพรื่อ ล้ำหน้าตลอด ได้บอลก็แปะคืนหลัง จากคุณ : Aria Shachou - [ 6 พ.ค. 52 17:24:57 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ดีครับ เข้ามาอ่านข่าว จากคุณ : kunikun - [ 6 พ.ค. 52 17:28:19 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ไม่มีความเห็นอื่นๆครับ เพราะคงเขียนกันไปหลายกระทู้ หลายโพสต์แล้ว ก็แค่ยังไงก็เชียร์ ARSENAL ต่อไป ฤดูกาลหน้าเจอกันใหม่ใน UCL ครับ ส่วนในลีก มันยังไม่จบ เรื่องจะให้เวงเกอร์ซื้อคงไม่ใช่เร็วๆนี้ ทำใจไว้ได้เลย แต่ผมก็พอใจกับป๋านะ ถ้าทีมยังมีสปิริตต่อไป จากคุณ : justiriuz - [ 6 พ.ค. 52 17:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 88 แพ้กันแบบหมดรูปขนาดนี้ ก็ต้องรอดูกันครับว่าเวนเกอร์จะแก้ไขยังไงต่อไป เศร้าจริงๆ จากคุณ : Asapin In August - [ 6 พ.ค. 52 17:53:05 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ก็ไม่อยากจะซ้ำเติม  ไม่อยากจะวิจารณ์อะไรมาก  เห็นๆ กันอยู่แล้ว  พูดถึงนโยบายของ Man.Utd. กับ Arsenal แทนล่ะกัน Man.Utd. และ Ferguson  ทำทีมโดยมองที่ผลงานของทีมเป็นหลัก  ไม่สนใจว่าต้องจ่ายเงินเท่าไหร่เพื่อทำให้ทีมดีขึ้น  บอร์ดบริหารสามารถต่อยอดความสำเร็จด้วยผลกำไรโดยไม่จำเป็นต้องขายนักเตะ แม้นักเตะคนนั้นจะมีอายุเกินกว่า 30 ปีแล้วก็ตาม Arsenal และ Wenger ทำทีมโดยมองที่ผลกำไรขาดทุนเป็นหลัก   อยู่ในโลกส่วนตัวไม่มองคู่แข่ง  บอร์ดบริหารไม่มีวิสัยทัศน์ในการต่อยอดความสำเร็จ  ผลกำไรมาจากค่าตั๋ว 6 หมื่นที่นั่งและขายผู้เล่นทำกำไร Man.Utd. ยืนยันคำเดียวว่า  ไม่มีทางขาย Ronaldo ไม่ว่าจะราคาเท่าใดก็ตาม Arsenal ไม่เคยรั้งนักเตะที่อยากจะย้ายทีมได้เลย  ยิ่งนักเตะอายุใกล้ 30 แล้ว  แบะท่าพร้อมเจรจาด้วยซ้ำไป ผลที่ตามมาก็คือ  Man.Utd. สามารถซื้อนักเตะค่าตัวระดับ 30 ล้านปอนด์มาแล้ว 4 คน  ค่าตัวระดับ 15-20 ล้านปอนด์อีกหลายคน   ส่วน Arsenal นักเตะค่าตัวแพงที่สุดอยู่ที่ 15 ล้านปอนด์   ตัวเลขระดับเดียวกันนี้  Everton ก็ซื้อได้  Aston Villa ก็ซื้อได้  ทั้งที่ 2 ทีมนี้ ไม่เคยได้เล่น UCL กับเขาเลย Arsenal ไม่มีความจริงใจในการตอบสนองความสำเร็จของสโมสรให้กับแฟนบอล   จำกัดเงินงบประมาณทั้งราคาค่าตัวและค่าเหนื่อย   ที่ผ่านมา  เราพลาดนักเตะชั้นดีไปหลายคนเพราะเกี่ยงเรื่องเงิน  เช่น Ronaldo / Ribery / Xavi Alonso   และเสียนักเตะชั้นดีไปมากมายเพราะเรื่องเงิน  เช่น Ashley Cole / Henry / Viera / Pires / Flamini สโมสรฟันกำไรมากมาย   แต่ไม่มีรางวัลใดๆ ตอบแทนแด่แฟนบอลผู้จงรักภักดีมาตลอด   Emirate Stadium เปรียบเสมือนตู้โชว์สินค้า  โค้ชและเอเย่นต์มากมายเป็นแขกประจำ  และหยิบสินค้าที่ต้องการไปได้ ถ้าเงินถึง   เราก็ปั้นดาวรุ่งขึ้นมาใหม่อีก   แล้วประโยคที่ว่า  "ถ้าคุณเก่งพอ คุณก็แก่พอ"  ก็จะมายามทีมชนะ   และประโยคที่ว่า "เราขาดประสบการณ์" ก็จะมายามที่ต้องตกรอบในถ้วยใดๆ อีก วัฐจักรวนเวียนไปอีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ จากคุณ : Aledier - [ 6 พ.ค. 52 18:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ขอยืมรูปภาพที่คุณแนนเอามา post หน่อยนะครับ ^^ มาดูกันว่า หนุ่มสามหน่อจากมิลานคิดอะไร ระหว่างเกม อาเซน่อล-แมนยู จากคุณ : Lemur - [ 6 พ.ค. 52 18:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เมื่อคืนพอโดนลูกแรกว่าจะนอน...แต่ก็ ไม่นอน....อยู่เชียร์จนครบ 90 นาที เห็นแฟนๆที่สนามยังอยู่ตรงนั้นให้กำลังใจนักเตะของพวกเค้า....ก็เลยอดนอนเป็นเพื่อน....ก๊อเพื่อนเค้าไม่ทิ้งกัน..เนอะ 11 คนของเราถ้าเค้าว่าเป็นเด็ก....แล้วอีก 308 คนที่ตกรอบไปก่อนน่ะไม่เรียกทารกเลยเหรอ *******************************************************             Gunner พวกคุณน่ารักนะครับ...รู้ตัวกันมั่งรึเปล่า จากคุณ : สงัด - [ 6 พ.ค. 52 18:19:25 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ผมมีมุมมองอันหนึ่งเกี่ยวกับการทำทีมที่อยากจะพูดสักหน่อยครับ คือถ้าเรามองว่าฟุตบอลคือโลกของธุรกิจ......การทำทีมของอาเซน่อลนั้นจัดได้ว่าสุดยอด ถือว่าสามารถทำเงินเข้าสโมสรได้อย่างต่อเนื่องโดยการลงทุนที่จำกัด ซึ่งก็คงส่งผลดีในระยะยาว....แต่อาจจะต้องยาวมาก (ไม่รู้ว่าป่านนั้น คู่แข่งเราจะทิ้งห่างเราไปขนาดไหน) แต่เมื่อมองในมุมมองของฟุตบอลคือกีฬาที่ดูเพื่อความบันเทิง ปนสะใจแล้ว นับได้ว่าช่วงนี้เป็นช่วงซบเซาของสโมสรอย่างแท้จริง.....จริงอยู่ว่าเราชนะมากกว่าแพ้ มากกว่าเสมอ....แต่เรายังเอาสไตล์อันสวยงามจริงๆกลับมาไม่ได้เลย เรื่องแชมป์อาจเป็นเรื่องรองก็จริง แต่สไตล์การเล่นมันสำคัญมากนะครับ ยกตัวอย่างง่ายๆ เกมเมื่อคืน ผมเชื่อว่าถ้าเราแพ้แบบที่ลิเวอร์พูลพลาดท่าให้เชลซี (คือแบบ ถึงตูจะแพ้ แต่ก็ขอแพ้อย่างโคตรเท่)....แฟนๆส่วนใหญ่จะไม่รู้สึกแย่แบบนี้ และคงไม่เห็นภาพแฟนๆเดินออกจากสนาม ทั้งๆที่ยังเหลือเวลาอยู่พอควรแน่นอนครับ.....แต่ถามว่าทำไมเราเล่นแบบนั้นไม่ได้ละ คำตอบมันก็อยู่ที่ตัวผู้เล่นนั่นเอง ถ้าเราเปรียบสไตล์การเล่นของเวนเกอร์เป็นศิลปะชั้นสูง ดังนั้นมันก็จำเป็นที่จะต้องมีศิลปินชั้นยอดเพื่อถ่ายทอดศิลปะนั้นเหมือนกัน (ซึ่ง ณ ตอนนี้ ผู้เล่นที่เรามีอยู่ ยังเล่นได้ไม่ถึงระดับนั้น....แต่ในอนาคต คงเป็นไปได้) ฉะนั้น ผมว่าอาเซน่อลควรปรับนโยบายการทำทีมบ้าง ผมไม่อยากให้เวนเกอร์มัวคิดว่า ถ้านักเตะคนนั้นหายเจ็บกลับมาละก็ ถ้าคนโน้นเล่นได้ดีละก็ เราก็จะไม่ต้องซื้อใคร....เพราะมันก็เป็นเพียงการคาดการณ์ และในความเป็นจริง ถ้าซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้งานจริงๆ หรือตัวเก่าหายกลับมาแล้วไม่มีที่ให้ลงเล่น....ถึงเวลานั้นค่อยขายก็ได้.....อาจขาดทุนไปบ้าง.....แต่ก็ได้กำไรใจแฟนบอลนะ ^^ ปล. ไม่ได้หมายความว่าให้ทุ่มซื้ออย่างบ้าคลั่งนะ เอาแค่แบบที่จะมาทดแทนในตำแหน่งที่ลูกผีลูกคนอยู่ เช่น กองหลัง กองกลางตัวรับ อะไรเงี้ย......แต่ถ้าได้กองหน้าที่คมกว่าบ้ายอสัก 10 เท่าได้ยิ่งดี 555 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 18:36:02 จากคุณ : Lemur - [ 6 พ.ค. 52 18:24:38 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ชอบนิกกี้จังหวะฝ่ากลางแมนยูสองคนเข้าไปในเขตโทษ แล้วก็ยิงเต็มแรง แบบได้ลุ้นเลยครับ อยากให้ศูนย์หน้ากล้าเล่นกล้ายิงแบบนี้ เชื่อว่า ปีหน้า นิกกี้ยิงกระฉูดแน่ๆครับ จากคุณ : pdca - [ 6 พ.ค. 52 18:46:37 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ^ ^ เห็นด้วยครับ เมื่อคืน ลูกนั้นคิดอยู่ในใจเหมือนกันครับว่าอยากให้เข้ามากๆ เพราะตอนนี้ที่อาเซน่อลขาดไปมากๆสำหรับเกมรุก คือความกล้าเล่น สังเกตได้ว่าบ้ายอ แทบไม่เคยพลิกบอลเล่นเอง หรือกระชากเข้าไปหาช่องยิงเลย จากคุณ : Lemur - [ 6 พ.ค. 52 18:51:16 ]

ความคิดเห็นที่ 95 หนึ่งในสี่ของยุโรป ด้วยอายุเฉลี่ยขนาดนี้ต้องภูมิใจครับ สงสารเด็กจัง อดทนเวลาที่ฝนพรำครับ จากคุณ : like a wolf - [ 6 พ.ค. 52 19:12:59 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ด้วยวิธีการแบบนี้ เล่นแบบนี้ ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร ผมเชื่อมั่นในเวนเกอร์.. ภูมิใจในทีมชุดนี้ อยากเห็นเหมือนกันว่าจะก้าวไปไ้กลขนาดไหน.. ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ผมก็ยังรู้สึกสนุกและรอคอยที่จะดูแมทช์ต่อไปของทีม.. จากคุณ : Metroman - [ 6 พ.ค. 52 19:34:39 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ถึงจะเสียใจ แต่ก็ยังเชียร์ต่อไปค่ะ Arsenal & Arsene จากคุณ : mayday_helpme - [ 6 พ.ค. 52 20:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 98 เศร้า แต่จะตามเชียร์ปืนโตต่อไป จากคุณ : zeromaster - [ 6 พ.ค. 52 20:09:00 ]

ความคิดเห็นที่ 99 อืม ผมคิดคล้ายๆเพื่อนๆ อีกหลายคนเลย ว่า เราขาดนักเตะประเภท "Match Winner" ในยุคนี้ ผมว่า ทีมเราต้องการนักเตะที่มีศักยภาพใกล้เคียงระดับนี้ 3 คน 3 ตำแหน่ง กองหลังตัวกลาง กองกลางตัวรับ กองหน้าตัวเป้า ซึ่งนักเตะตำแหน่งเหล่านี้ถ้าจะให้มีศักยภาพสูง ก็มักจะเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์และราคาสูงถ้าเราไม่มีเงินจ่าย ก็อยากได้นักเตะที่มีประสบการณ์พร้อมใช้มากกว่าดาวรุ่ง เฉพาะ 3 ตำแหน่งนี้ ณ. ปัจจุบันนะ ส่วนตำแหน่งอื่นเราค่อนข้างโอเคแล้ว ถ้าอยากจะซื้อจะปั้นดาวรุ่งเพิ่มก็โอเค เพราะ นโยบายปั้นดาวรุ่งก็เป็น "เสน่ห์" อย่างหนึ่งของทีมเราครับ เชียร์กันต่อนะครับ สู้ๆ จากคุณ : whensaturdaycomes - [ 6 พ.ค. 52 20:15:09 ]

ความคิดเห็นที่ 100 จากรูป 76  ผู้ชายที่นั่งข้าง พี่แบ๊ก น่าจะเป็น ฟาวัลรี่ กองหลังของ มิลาน นะ มากันทั้งทีมเลยหรือป่าวเนี้ย จากคุณ : LEON.S - [ 6 พ.ค. 52 20:42:34 ]

ความคิดเห็นที่ 101 เห็นฟอร์มของอาร์เซนอลนัดเจอโรม่า ก็ทำใจมาตั้งแต่นั้นแล้ว การเข้ามาถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายก็ถือว่ามาไกลเกินคาด  จากเกมเมื่อคืน สิ่งที่เราแตกต่างจากทีมแมนฯ ยูฯ ก็คือ 1. ความดุดันของเกมรุก ทีมปืนใหญ่ยังสู้ผีไม่ได้ตรงที่ เกมรุกผีมีหลากหลายมาก  ส่วนของอาร์เซนอลพอเจอคู่ต่อสู้ตั้งโซนก็ไปไม่เป็น ได้แต่ถ่ายบอลไปมาจนเสียการครองบอลให้เขาสวนกลับซะงั้น 2. การครอสบอลจากด้านข้าง ขาดความแม่นยำ 3. ลูกเซ็ตพีซไร้พิษสง แทบไม่มีลุ้น ไม่เปิดย้อยเข้ามือผู้รักษาประตูก็ล้นออกหลังไปหมด 4. ขาดตัวยิงฟรีคิกดีๆ หน้ากรอบเขตโทษ จำไม่ได้ว่าเราเห็นนักเตะอาร์เซนอลยิงฟรีคิก  1 จังหวะเป็นประตูครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ 5. เกมรับรั่วมาก  การตัดเกม แย่งบอล เป็นรองชัดเจน บางครั้งใช้นักเตะ 2 คนยังเอาผู้เล่นทีมผีหลายคนไม่ค่อยอยู่ 6. ขาดตัวยิงไกลดีๆ แบบที่ลิเวอร์พูลมีเจอร์ราด อลอนโซ่ แมนฯ ยูฯ มีโรนัลโด้ และเชลซี มีแฟรงค์ แลมพาร์ด อเล็กซ์ เดโก้ เอสเซียงและบัลลัค 7. ข้อสุดท้าย เมื่อคืนเล่นเหมือนไปเยือนเขายังไงก็ไม่รู้ เพราะเห็นแต่นักเตะปืน ลืนล้มหัวคะมำ แต่นักเตะแมนฯ ยูฯ ครองบอลกันไหลลื่นมากกว่า จนนึกว่ากำลังเล่นที่โอลด์แทรฟฟอร์ดซะอีก ก็หวังว่าเวนเกอร์จะขันเกมรับให้แน่นขึ้น และหาวิธีเข้าทำให้หลากหลายและแม่นยำกว่านี้  แชมป์ก็คงไม่ไกลเกินเอื้อมหรอก  สู้ๆ ปล. สงสาร กิ๊บส์และเฟรชเชอร์ และชื่นชมแฟนปืนทุกคนที่อยู่คอยให้กำลังใจทีมจนจบเกม จากคุณ : ปืนใหญ่นางพญาตานี - [ 6 พ.ค. 52 21:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ผมว่านี่คือเกมของเรา และนี่คือวันของเราอย่างแท้จริงต่างหากล่ะ ^^ เพราะนี่คือเกมที่บ่งบอกว่า เรามีศักยภาพที่จะต่อกรกับคู่แข่งหินๆ และเกมยากๆแค่ไหน เพราะนี่คือวันที่เราจะต้องจดจำบทเรียนบทนี้ให้มากที่สุดต่างหากล่ะ ผมจดจำโดยดูเกมตลอด 90 นาที ด้วยความรู้สึกเสียใจ, เฉยๆ และ ดีใจไปพร้อมๆกัน (ไม่ได้พูดเอาเท่ห์นะ เพราะตอนนั้นมันรู้สึกปะปนกันอย่างนั้นจริงๆ) - เสียใจที่ทีมแพ้ และเป็นรอง แถมเทพีแห่งความโชคดีไม่ได้ยื่นมือมาช่วยเราเลย... - เฉยๆ ที่รูปเกมและผลการแข่งขันไม่ได้ออกมาเกินความคาดคิด - และรู้สึกดีใจ ที่เรามีโอกาสจะได้พบกับการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง (ถ้าเราคิดจะเปลี่ยนมัน !!!) อีกอย่างหนึ่งก็คือ ผมรู้สึกแปลกใจมากกว่าครับ แปลกใจกับการได้ผ่านเข้ามาเล่นในนัดตัดเชือกทั้ง FA Cup และ UCL แม้จะตกรอบแบบเจ็บๆก็เถอะ สำหรับผมแล้ว มันเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายมากกว่า ทำไมน่ะเหรอครับ ??  หากลองย้อนอดีตไปในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาลสิครับ สภาพทีมเราเละตุ้มเป๊ะขนาดไหน จริงๆแล้ว ผมว่า ณ ตอนนั้น ก็คงไม่มีใครคิดหรอกว่า เส้นทางที่เราเดินมาจากจุดนั้นมันจะมาไกลจุดนี้หรอก แต่พอเรายิ่งปีนสูงขึ้นไป มันก็เป็นธรรมดาครับที่เราจะเริ่มตั้งความหวังกับมัน เมื่อยิ่งสูง หากพลาดเมื่อใด ก็ย่อมตกลงมาเจ็บมากเท่านั้น ... .. . ฤดูกาลนี้ปิดฉากไปอย่างไม่เป็นทางการแล้ว ยังมีเวลาให้เสียใจและครุ่นคิดอีกพอสมควร ก่อนที่ช่วงเวลาแห่งการซื้อขายนักเตะจะเริ่มขึ้น ปีหน้าฟ้าใหม่เจอกันเด้อ ^^ จากคุณ : MAVEL - [ 6 พ.ค. 52 21:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ปวดใจครับ  สู้ไม่ได้จริงๆ แต่ต้องดูให้จบ  เราไม่ดูแล้วใครมันจะมาดู จากคุณ : เจ้าพ่อ - [ 6 พ.ค. 52 21:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ข่าวล่าสุดมีแฟนปืนที่อังกฤษแขวนคอฆ่าตัวตายหลังจากเกมส์เมื่อคืนด้วยค่ะ Following Arsenal’s Champions League 3-1 semi-final defeat to Manchester United, a football-mad Kenyan has hung himself in Nairobi. Suleiman Omondi was wearing the Gunners’ shirt when he was found at his house and killed himself shortly after returning home having watched Tuesday night’s game in a local bar จากคุณ : NongGrace - [ 6 พ.ค. 52 21:49:54 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ถึงแม้เราจะจบเส้นทางยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกในสี่ทีมสุดท้าย ถือว่าเรามาไกลแล้วด้วยนักเตะที่จะเรียกได้ว่า เปลี่ยนแปลงทีมอยู่ตลอด นักเตะตัวหลักเราแทบจะสลับกันเจ็บทำให้ตัวทดแทนที่ลงมาทำได้ไม่ดีเท่า เป็นสาเหตุหนึ่งที่เราไปไม่ถึงดวงดาว ประกอบกับนโยบายประหยัดไม่ทุ่มซื้อแบบบ้าเลือด ผมมีความเห็นเหมือนบางท่าน ที่ว่าปิดฤดูกาลเราควรซื้อนักเตะระดับยุโรปอย่างน้อยสองหรือสามคนมาเสริมพวกนักเตะวัยรุ่นที่มีอยู่ในทีมบ้าง เห็นเราเล่นกับแมนฯยูทั้งสองนัดแล้วนับโอกาสเราบุกไปทำประตูสร้างความกดดันฝั่งเขาน้อยมาก ฟาน เดอ ซาร์ แทบไม่ได้เซฟอะไรมากมาย ผมมีความรู้สึกว่าแมนฯยูเล่นกับเราคิดว่าเป็นเกมส์สบายๆปิดเกมส์เราหมด ทั้งหมดนี้ผมอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงภายในทีมอย่างที่บอก เราต้องซื้อประเภทอินเตอร์ใช้ได้เลย ไม่งั้นผมกลัวว่า เราจะแค่เกือบที่จะประสบผลสำเร็จอยู่อย่างนี้หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่อย่างไรผมก็จะคอยเชียร์อาร์เซนอลไปตลอดเหมือนที่ผมเชียร์มากว่า20ปีไม่เปลี่ยนแปลง In Arsene We Trust. จากคุณ : ปลาขมิ้น - [ 6 พ.ค. 52 21:55:20 ]

ความคิดเห็นที่ 106 สะบักสะบอมกันอีกหนึ่งฤดูกาลแระ...บอกตามตรงครับ ว่าเมื่อวานข่มตานอนไม่ได้เลย ไม่ได้เสียใจจากผลการแข่งขันจนนอนไม่หลับนะ...แต่ครุ่นคิดในหัวที่ผ่านการพักผ่อนมาแค่ประมาณสองชั่วโมงว่า เฮ้ย!!เดี๋ยวนี้ชั้นบอลทีมเราห่างจากแมนยูขนาดนี้เลยหรอ(ฟะ) แล้ว...มานอนทบทวน ...ตราบใดที่เกมรับยังหลวมแบบนี้ (เหมารวมเกมรับ ไม่ใช่แค่กองหลัง) ...ตราบใดที่เรายังรู้สึกว่าต้องโดนยิงแน่ๆนัดนี้ (ก็เพราะจากข้างบนน่ะแหละ) ...ตราบใดที่ยังขาดจินตนาการที่มากกว่าการเคาะบอลไปมาเพื่อหาช่องเจาะ (ซึ่งทีมในเกาะอังกฤษเค้ารู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว...) ...ตราบใดที่เรายังไว้ใจกองหน้าที่ชื่อ Adebayor ซึ่งมันไม่ใช่ Fernando Torres (อันนี้ สาบานว่า คิดจริงๆ!!) ...ตราบใดที่...คร่อก....... ตื่นมาอีกที...ก็...เวร....ไปทำงานไม่ทัน จบ จากคุณ : changjj - [ 6 พ.ค. 52 22:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 107 น้องเบน... จากคุณ : LEON.S - [ 6 พ.ค. 52 22:16:46 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ^ ^ ^ 555 เด็กวัยกำลังเที่ยวเลย จากคุณ : Anduril - [ 6 พ.ค. 52 22:29:53 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ^ ^ บ้ายอมันไม่สำนึก ไปดริ้งย้อมใจบ้างเหรอ ผมเห็นนิคเล่นเมื่อคืนแล้ว ผมล่ะซึ้งบอกไม่ถูกแฮะ ว่าแต่ดื่มยังไงจนกางเกงหลุดล่ะเนี่ย ^^ จะว่าไป มองๆไปก็ไม่เหมือนนิคกี้แฮะ -__-" แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 22:40:52 จากคุณ : MAVEL - [ 6 พ.ค. 52 22:38:03 ]

ความคิดเห็นที่ 110 สวัสดียามดึกนะคะทุกคน เกมเมื่อคืนดูแล้วเครียดจริงๆ เสียประตูเร็วโดนนำขาดตั้งแต่ครึ่งแรก จะขมตานอนก็ไม่ไหว เราแพ้ทีมที่ดีกว่าก็อย่าเสียใจไป ผู้ชนะมีได้แค่ทีมเดียว ด้วยอายุเฉลี่ยทีมแค่นี้บวกกับสภาพทีมที่ไม่สมบูรณ์ มาถึงรอบนี้ถือว่าเยี่ยมแล้วคะ^__^ ฤดูกาลหน้าเอาใหม่ต้องมีซักวันที่เป็นของเรา ขอให้ไม่เสียใครไปแล้วหาผู้เล่นมีประสบการณ์ต่อติดปุ๊ปใช่งานปั๊ปประมาณพี่ม้าสุดหล่อจะประเสริฐมากคะ ปล.มิลานยังอยากได้เจ้ายออยู่มั๊ยเนี้ย ถ้าอยากได้รีบขายเลยเด๋วมันเปลี่ยนใจ=__=' จากคุณ : pawiamp - [ 6 พ.ค. 52 22:47:28 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ผิดหวังครับ ทีมเรายังไม่ดีพอ ขอให้ฤดูกาลหน้าเสริมทัพดี ตัวที่เกินๆ ก็ปล่อยทำเงินไปบ้างก็ได้ครับ แต่เราต้องการตัวเก๋าจริงๆ เกมรับแมนยูนิ่งสุดยอดมากๆ ถ้าเจอบาซ่า ผมยังเชื่อว่าแมนยู เป็นทีมที่สมบูรณ์กว่า ส่วนเกมรุกก็เฉียบ ตัวสำรองก็เยี่ยมๆ ทั้งนั้น สู้ต่อไป คำเดียวสั้นๆ จากคุณ : An Inimitable Man - [ 6 พ.ค. 52 22:55:20 ]

ความคิดเห็นที่ 112 เข้ามาให้กำลังใจชาวปืนครับ ... ยังเหลืออีกนัดนึง เมื่อถึงวันนั้นเราก็มาสู้กันให้เต็มที่นะครับ ~ จากคุณ : Skyline_CII - [ 6 พ.ค. 52 22:58:57 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ฤดูกาลหน้า ต่อให้อาชาวินฟิตเล่นได้ทุกแมตซ์ แต่สิ่งที่ปืนต้องทำคือเกมรุกและรับในภาพรวม และต้องมีตัวเสริมชั้นยอดตลอดทาง บวกกับฟอร์มที่สุดยอด อยากเห็นปืนยิงได้ร้อยลูกในลีกแบบบาซ่าบ้างจัง จากคุณ : An Inimitable Man - [ 6 พ.ค. 52 23:08:28 ]

ความคิดเห็นที่ 114 พิ้งส์กี้เอ๊ย! เมาไม่เป็นท่าแบบนี้ดูไม่จืดเลย - -" #112 ขอบคุณค่ะ ^^ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 23:15:40 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 23:14:47 ]

ความคิดเห็นที่ 115 เห็นด้วยกับ คห.ที่89 Aledier เลยว่า เวนเกอร์ จะยังคงใช้ปรัชญาการทำทีมแบบ means justify ends ไปอย่างเดิมหรือเปล่า หรือเวนเกอร์ ควรจะเริ่มหันมามองแบบ ends justify means กันบ้าง จากคุณ : click2 - [ 6 พ.ค. 52 23:17:39 ]

ความคิดเห็นที่ 116 Adebayor - Arsenal made me, I can’t go Emmanuel Adebayor is going nowhere this summer. The Togolese striker says Arsenal ‘made’ him and he cannot leave the Club until he has paid back that debt with trophies. The 25-year-old was speaking after his side’s Champions League exit at the hands of Manchester United on Tuesday. It ends Arsenal’s trophy-hunt this season and, if the past is anything to go by, could kick-off a summer of transfer speculation. Adebayor was strongly linked with a transfer to Milan during the 2008 close season but, this time, he has moved early to quash any such rumours. He is aware how much he owes Arsenal. “Before signing, I can remember people telling me I had the chance to win things," said the forward who arrived from Monaco in January 2006. "Now I am empty-handed but I don’t have any reason for leaving until I have got trophies and what I came here for. "Arsenal put me where I am today. They made me one of the biggest strikers in the world. I have to pay them back. “How am I going to pay them back? Make them win trophies. That’s what I am here for and I have to fight for that. Next season, 100 per cent, I am an Arsenal footballer. "I will do everything that it takes to come back next season and show how good I am, show character, personality and desire for this club. I have been doing my best, giving 100 per cent in every single game but don’t forget last season I played without injury. This time I got three injuries and that has made it quite difficult for me. "But we have a good squad. We are learning things and are all young so we just want to achieve things. As soon as we have the chance to win the first trophy, I think many will follow. “We just have to believe and keep going. We are very disappointed tonight for the fans and for the way they believed we could do it. We are very sorry for that. “But it's very important for the next season that we are here to play and ready to bring glory to this Club.” http://www.arsenal.com/news/news-archive/adebayor-arsenal-made-me-i-can-t-go จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 พ.ค. 52 23:18:08 ]

ความคิดเห็นที่ 117 อาร์เซนอลต้องการความเปลี่ยนแปลงค่ะ หวังว่าเวงเกอร์คงเห็นแล้วนะคะว่าเด็กเราต้องการคนมีประสบการณ์มาช่วยคุมเกมส์เหมือนอย่างที่อาร์ชาวินช่วยทีมค่ะ มิถุนานี้ไม่ขอไรมากค่ะ 1.  นักเตะกองหน้าแบบตอเรส 2.  นักเตะกลางรับมีประสบการณ์แบบเอสเซียง 3.  นักเตะกองหลังมีประสบการณ์เก๋า ๆ ขอแค่นี้ค่ะบอส จากคุณ : NongGrace - [ 6 พ.ค. 52 23:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ปัญหาทั้งทีมคือเรื่องของใจ...ก่อนเสียประตูยังทำได้ดี แต่... พอเสียลูกแรกเท่านั้น..ใจไปแล้ว ยิ่งตามด้วยลูกที่สอง...จบกันตั้งแต่ตอนนั้น ผมคิดถึงอองรี วิเอร่า กัลลาส ที่จะคอยเร่งเร้า กระตุ้นและให้กำลังใจทีมเสมอ...ที่สำคัญเป็นความหวัง เป็นที่พึ่งได้มากกว่าบายอร์ มากมายนัก #107 สงสัยกำลังทำธุระในห้องน้ำ แล้วถูกตามกลับบ้านพอดี ^_^ จากคุณ : Gun_kun - [ 6 พ.ค. 52 23:34:37 ]

ความคิดเห็นที่ 119 #117 เพื่อนผม ที่เป็นแฟนหงส์ มันบอกว่า ถ้าปืนมีกองหน้าแบบ ตอร์เรส ตอนนี้คงเป็นจ่าฝูงไปแล้วครับ จริงๆ ตำแหน่งกองหน้า ทีมเรา ผมว่า มันก็ไม่ถึงกับขี้เหร่ นะครับ แต่ขอ กองกลางที่สามารถเล่นกับ Cesc ได้แบบลงตัว แบบ ฟลามินี่ แล้วก็ กองหลัง World Class อีกคน จากคุณ : Anduril - [ 6 พ.ค. 52 23:57:42 ]

ความคิดเห็นที่ 120 Cesc talks about Gibbs Cesc spoke to Sky Sports News about Kieran Gibbs after yesterday’s match: จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 7 พ.ค. 52 00:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 121 #119 คะ..ฤดูกาลหน้าเวงเกอร์คงมีปัญหาอีกอย่างคือ..จะ put the right man to the right job ยังไง..เพราะอาร์ชาวินเค้าก็เริ่มบ่นว่าไม่อยากเล่นเป็นปีกซ้ายค่ะ..เซส นาสรี่ อาร์ชาวิน เล่นตำแหน่งเดียวกันได้..ไม่รู้บอสจะจัดตัวยังไงนะคะ.. จากคุณ : NongGrace - [ 7 พ.ค. 52 00:22:38 ]

ความคิดเห็นที่ 122 สุดท้ายก็แพ้กันที่ประสบการณ์ จากดาวรุ่งกลายเป็นดาวร่วง พวกเก๋า ๆ ก็ผีเข้าผีออก ที่แย่ที่สุดในเกมนี้คือสปิริตในทีม พอโดนลูกแรกจากความผิดพลาดของนักเตะที่อายุน้อยที่สุด ทำไมมันรวนไปเลย? อัลมูเนียสมาธิหลุดจนโดนส่องไกล พอหลังจากนั้นก็เหมือนนักบอลจะไม่อยากเล่นอีกต่อไป ไม่น่าแปลกใจที่เห็นแฟนบอลลุกกลับไปกันพรึ่บ ทั้ง ๆ ที่นัดนี้บัตรแพงมาก เพราะดูแล้วนักบอลมันยังไม่อยากเล่นจะเสียเวลานั่งดูอยู่ทำไม ชั่วโมงบินยังไม่สูงจิดใจยังไม่แข็งแกร่งผู้นำไม่เข้มแข็ง อันนี้คือปัญหาของทีม ปล.อุตส่าห์หวังเห็นการเอาเบนเนอร์แทนบายอร์ เก็บวัลค็อตลงมาเลื้อทีหลัง แต่ก็ไม่สมหวัง แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 00:26:04 จากคุณ : Anfield'89 - [ 7 พ.ค. 52 00:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 123 #117 กองหน้าทีมเราไม่ได้ขี้เหร่เลยค่ะ ปัญหาอยู่ที่มิดฟิลด์ตัวตัดเกมกับกองหลังต่างหาก #121 นาสรี่ถนัดเกมรุกทางฝั่งซ้ายค่ะ จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 7 พ.ค. 52 00:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ถ้าให้เลือกสักตำแหน่ง ผมว่าตำแหน่งที่เราต้องการมากที่สุดตอนนี้ผมมองไปที่กลางรับครับ ต้องเป็นกลางรับแบบที่วิ่งไม่มีหมด ไล่หวดตลอดทั้งเกมแบบที่ฟลามินี่เคยทำด้วย ถ้าเราได้แบบนี้มาสักคน มันน่าจะช่วยเรื่องการบีบพื้นที่ ไล่บอลได้ดีขึ้นน่ะครับ ไม่ใช่เป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างเดียว....อีกอย่างมันน่าจะช่วยเรื่องใจสู้ของทั้งทีมให้เพิ่มขึ้นได้ด้วย ลองมองไปในทีมตอนนี้สิ มีใครบ้างที่วิ่งแบบลืมตาย......เราต้องการแรงจูงใจแบบนั้นครับ ปล. ขอไว้อาลัยให้กับแฟนปืนในเคนย่าครับ......RIP แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 00:46:20 จากคุณ : Lemur - [ 7 พ.ค. 52 00:35:04 ]

ความคิดเห็นที่ 125 Nicklas Bendtner - An Official Statement Nicklas Bendtner has made the following statement in relation to images of him outside a nightclub yesterday evening: "I love this club and was so disappointed to lose against Manchester United last night. Reaching a Champions League Final is one of my biggest dreams and getting knocked out was a massive blow. "However, no matter how disappointed I was, it does not excuse my behaviour later in the evening. I may be young but my actions were a poor error of judgment and something I deeply regret. I want to apologise to the Club and the fans for letting them and myself down. "I cannot change the past but will learn from my mistakes. Tuesday night is behind me now and I want to use my energy to fully focus on our three remaining games this season, starting with Chelsea on Sunday." http://www.arsenal.com/news/news-archive/nicklas-bendtner-official-statement พิ้งส์กี้ออกมาขอโทษเรื่องภาพหลุดใน #107 ค่ะ จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 7 พ.ค. 52 00:37:16 ]

ความคิดเห็นที่ 126 เวลานี้ ผมคิดว่าก็น่าจะมองไปที่การเสริมทัพได้แล้วนะครับ แต่เกรงว่า บอสจะออกมาพูดว่า ถ้าซื้อใครเจ๋ง ๆ เข้ามาซักคน จะเป็นการทำลายดาวรุ่งที่เค้าอุตส่าห์ปั้นขึ้นมา อาทิ กลางถ้าจะซื้อแบบสุด ๆ เข้ามาซักคนเลย สมมติเป็น เอสเซียง(อันนี้คือสุดๆ) อย่าง เดนิลสัน ซง คงไม่ได้เกิดครับ แต่คือมันก็ต้องปรับปรุงกันบ้างนะครับ อะไรที่มันไปไม่ถึง มองดูซิว่า ด้วยขุมกำลังขนาดเนี้ย เหมือนมวยรุ่นเล็กไปต่อยกับเฮวี่เวทแหล่ะครับ วินเทอร์เบิร์น ยังออกมาเตือนว่า เราจะพึ่งนักเตะดาวรุ่งต่อไปมากกว่านี้อีก คงจะไม่ไหว สำหรับการไม่ประสบความสำเร็จเลย ตลอด4ปีมานี้ บอสก็คงคิดเช่นกัน แต่ที่ผมคิดว่า ดาวรุ่งที่พอฝากผีฝากไข้ได้ในปีหน้า คงมี 1.เบนเนอร์ 2.เวล่า 3.วัลคอตต์ 4.ซง 5.กิ๊บ ซึ่งทั้ง 5 คน กระดูกยังไม่แข็งพอ เห็นเลยนะครับ วัลคอตต์ ต้องปรับปรุงมาก ๆ เรื่องการเลี้ยงบอล เลี้ยงเนี่ย "แตะ"บอลไปข้างหน้าเลย ไม่ต้องเอาข้างเท้าปาดไปทีละนิด วิ่งเร็วอยู่แล้ว ใช้การ "กระชาก" เอา จะได้ผลกว่านี้เยอะสำหรับตำแหน่งปีก อีกอย่างที่แย่มาก ๆ สำหรับชุดนี้ ผมว่าคือการ ครอสบอส ไม่รู้เป็นอะไร โยนไปบางลูกโด่งมาก บางลูกลอยเคว้งคว้างกลางอากาศ แล้วกองหน้าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ในการเทคตัวขึ้นโหม่ง และต้องสะบัดหัวเท่าไร จึงจะแรงพอ ต้องเปิดแบบโค้งหนีมือโกล์สิครับ อย่างน้อยให้มันกดดันกองหลัง เผื่อมีลูกขลุกขลิกซึ่งมันก็เกิดขึ้นได้บ่อยมาก ๆ ในฟุตบอล อันนี้เป็นจุดที่ต้องปรับปรุงขนานหนัก โดยที่ 2 3 ปีหลังมานี้ การเปิดบอลริมเส้น มันเรียกได้ว่า ห่วยสนิท อีกนิด กับเรื่องกองหลัง เห็น ๆ เลยนะครับ กองหลังเราไม่มีใครดู นิ่ง+แข็งแกร่ง+ลูกกลางอากาศเทพ ๆ เลยซักคน ดูง่าย ๆ อย่าง สเกอเทล ของหงส์นะครับ โหม่งยอด ประกบติดตัวหนึบ แทคเกิ้ลนอกกรอบเขตโทษ บอลมาสาดโด่ง ผมอยากได้หยั่งงี้ซักคนนะ เอาแบบไว้ใจได้เลย โอ้ย พิมเยอะแล้วครับ เหนื่อย ๆ ไว้วันหลังมีอะไรที่คิดว่าสมควรปรับปรุงก็มาแชร์กันนะครับ ปีหน้าดัน เบนเนอร์ เวล่า ได้แล้วครับ ถึงเวลาของสองคนนี้แล้ว จากคุณ : อ๊อบบี้ - [ 7 พ.ค. 52 00:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 127 #125 ลูกผู้ชายตัวจริง......เราให้อภัยนาย......ทำให้เต็มที่กับอาเซน่อลนะ จากคุณ : Lemur - [ 7 พ.ค. 52 00:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ^ ^ อยากจะบอกว่าเข้าใจเบนเนอร์ค่ะ..อีกนิดเดียวก็จะได้เข้าชิงแล้ว..แต่มันก็ลอยหายไปภายในพริบตาจริง ๆ.. ความรู้สึกเราเองนะว่า...หลัง ๆ มานี้ เบนเนอร์ดูมีความมุ่งมั่นมากค่ะ..มีส่วนร่วมกับทีมมากขึ้น..ถึงแม้จะโดนเปลี่ยนมาแล้วทำอะไรไม่ได้มาก..ยังอยากที่จะให้บอสให้โอกาสเค้าอยู่ค่ะ..อย่างน้อยก็เป็นกองหน้าที่ตัวใหญ่และเล่นลูกกลางอากาศดีค่ะ เห็นด้วยกับ #126 ค่ะ นักเตะทั้ง 5 คนที่พูดมา..คือนักเตะที่ยังน่าจะเก็บไว้ค่ะ..ขอเพิ่มชูรูอีกคนนะคะ..เดนิลสันขอบอกว่าการพัฒนาการสู้ซงไม่ได้..ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกซงจะออกทะเลไปเยอะ..แต่อยากให้ซงมีความมุ่งมั่นมากกว่านี้ค่ะ..ดูหน้าตาเหมือนเอื่อยเกินไปค่ะ ส่วนเรื่องนักเตะมีประสบการณ์..มั่นใจลึก ๆ ว่าบอร์ดเองจะเป็นคนบอกให้เวงเกอร์ซื้อเข้ามาบ้างค่ะ...เหมือสอย่างที่ CEO คนใหม่เคยออกมาบอกว่าอันดับที่ 4 ยังไม่ดีพอสำหรับทีมอย่างอาร์เซนอล...หวังว่าบอร์ดเองจะสนับสนุนเวงเกอร์บ้างนะคะ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 00:56:45 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 00:53:12 จากคุณ : NongGrace - [ 7 พ.ค. 52 00:49:53 ]

ความคิดเห็นที่ 129 เป็นไปได้ ผมคิดว่า คิเอลินี่ ของยูเว่ นี่เหมาะกับกองหลังตัวกลางของทีมเรามาก ๆ เลยครับ แต่คงเป็น DREAM แหล่ะครับ กับการเซ็นนักเตะระดับนั้น T______T จากคุณ : อ๊อบบี้ - [ 7 พ.ค. 52 00:50:08 ]

ความคิดเห็นที่ 130 comment ของวินเทอร์เบิร์นครับ วินเทอร์เบิร์นชี้ปืนต้องปรับทัพขนานใหญ่ 06/05/2009 22:36:06    ไนเจล วินเทอร์เบิร์น ตำนานกองหลัง อาร์เซน่อล ชี้ชัดทีมเก่าตัวเองต้องมีการปรับทัพขนานใหญ่ โดยเฉพาะการดึงแข้งตัวแกร่งมาเสริมทัพให้มากขึ้น หลังตกรอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก แบบน่าผิดหวัง เพราะสู้ความเก๋าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้เลยสักกระผีกเดียว    ไนเจล วินเทอร์เบิร์น อดีตฟูลแบ็กระดับตำนานของ อาร์เซน่อล สโมสรยักษ์ใหญ่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เชื่อว่า อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศส จำเป็นต้องดึงตัวนักเตะที่แข็งแกร่งทั้งทางร่างกาย และจิตใจ อีกสัก 2-3 รายมาเสริมทัพ หากยังหวังจะนำทีมลุ้นไล่ล่าโทรฟี่มาประดับบารมีในอนาคต หลัง "ไอ้ปืนใหญ่" เพิ่งเปิดบ้านแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อริร่วมลีก ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง 1-3 เมื่อคืนวันอังคารที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ตกรอบด้วยสกอร์รวม 1-4        ถึงแม้พลพรรค "ยังกันส์" จะพลาดโทรฟี่ทุกใบในฤดูกาลนี้ไปแล้ว แต่ก็ยังสามารถการันตีโควตา แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีหน้า ได้ตั้งแต่ก่อนปิดซีซั่น หลังบุกถล่ม พอร์ทสมัธ 3-0 ในเกมลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม วินเทอร์เบิร์น กลับให้ทรรศนะว่าอดีตต้นสังกัดตนเองกำลังประสบปัญหากับการพัฒนาทีมให้ไปไกล อีกขั้นหนึ่ง เมื่อพิจารณาจากการไร้แชมป์มาประดับตู้โชว์เป็นเวลา 4 ปีติดต่อกันแล้ว        วินเทอร์เบิร์น เจ้าของสถิติลงสนาม 440 นัดในสีเสื้อ "เดอะ กันเนอร์ส" กล่าวว่า "จากมุมมองของ อาร์แซน เวนเกอร์ เขาคงจะกำลังประเมินสภาพทีมของตัวเองเสียใหม่ และเสาะหาตำแหน่งที่เขาจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งต่อไปได้ เมื่อซีซั่นที่แล้ว อาร์เซน่อล เป็นจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ และก็ร่วงหล่นจนกลับขึ้นมาไม่ได้ ส่วนฤดูกาลนี้ พวกเขาเริ่มต้นได้แย่ ก่อนจะคืนฟอร์มเก่ง และสมควรได้รับเครดิตกับการไปไกลถึงรอบตัดเชือก เอฟเอ คัพ และ แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่เมื่อมาถึงย่างก้าวต่อไปแล้ว ซึ่งเป็นเส้นทางสู่ชัยชนะ พวกเขากลับต้องจอดป้ายไว้แค่นั้น"        "ผู้คนมากมายพูดกันมาตลอด 1 ฤดูกาลครึ่งแล้วว่า อาร์เซน่อล จำเป็นต้องมีเซนเตอร์แบ็กอีกสักคนเพื่อคอยแก่งแย่งตัวจริงกับ (โคโล) ตูเร่ และ (วิลเลี่ยม) กัลลาส นอกจากนั้น ผมยังอยากจะเห็นกองกลางที่ตัวใหญ่แข็งแกร่งยืนคุมเกมเคียงข้างกับ เชส ฟาเบรกาส ด้วยเช่นกัน"        "สิ่งนั้นจะช่วยเป็นแรงกระตุ้นสำคัญให้กับพวกเขา ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะอยู่ในเส้นทางห่างไกลจากการไล่ล่าอันดับ ท็อปทรี (ทีม 3 อันดับแรก) พวกเขาอยู่ใกล้กว่าจุดนั้นมากกว่าที่ทุกคนคิดเสียอีก แต่ก็ยังมีเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างชัยชนะ และความพ่ายแพ้ และในตอนนี้แฟนบอลก็ไม่ยินดีกับเรื่องนั้นเลยสักนิด"        "อาร์เซน่อล จะมัวแต่พึ่งพานักเตะดาวรุ่งไม่ได้แล้ว สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ทีมนี้จำเป็นต้องมีก็คือเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง และผมก็หมายถึงโทรฟี่แชมป์นั่นเอง ทุกคนพากันพูดถึง ไฮบิวรี่ (สนามเหย้าเดิม) และธรรมเนียมปฏิบัติเดิมๆ ซึ่งเป็นเพราะว่าทีมทุกชุดในตอนนั้นประสบความสำเร็จมากมาย แต่นี่คือทีมยุคใหม่ในสนามแห่งใหม่ และพวกเขาก็จำเป็นต้องคว้าถ้วยแชมป์ให้ได้ ผมไม่คิดว่าแฟนบอลจะแคร์กับเรื่องนั้น"        "ผู้คนต่างพากันพูดว่าพวกเขามีทีมอายุน้อยเกินไป และเมื่อพวกเขาต้องเจอกับคู่แข่งอย่าง เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมก็จำต้องเห็นพ้องด้วยทันที ผมคิดว่าพวกเขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วในช่วงครึ่งหลังฤดูกาลว่าพวกเขาดีเพียงพอ กับการโค่นหลายๆ ทีมใน พรีเมียร์ลีก แต่พวกเขาจะต้องเดินหน้าไปสู่ก้าวถัดไป ถ้าจะทำแบบนั้นให้ได้ พวกเขาก็จำเป็นต้องมีนักเตะที่แข็งแกร่งอีก 2-3 ราย ซึ่งจะนำพาพวกเขาผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากในเกมนัดสำคัญได้เป็นอย่างดี" อดีตแบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษ ร่ายยาว -------------------------------------------------------------------------------- Credit: http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090506_129.html จากคุณ : Lemur - [ 7 พ.ค. 52 00:52:51 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ผมเฉยๆ เรื่อง ภาพหลุด (กางเกงก็หลุด) ของ เบนด์ทเนอร์ นะ เด็กวัยนี้ ผมเข้าใจ วัยกำลังบ้าเที่ยวเลย อิอิ จากคุณ : Anduril - [ 7 พ.ค. 52 00:59:46 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ***แค่ความเห็นส่วนตัวนะ*** ผมอยากขาย เบนด์ทเนอร์ กับ อเดบายอร์ ทิ้ง ให้ อาร์ชาวิน เล่นหน้าต่ำครับ ดัน วัลค็อตต์ เล่นกองหน้าเต็มตัว ถ้าเล่นกองหน้า ผมว่า วัลค็อตต์ จี๊ดดด กว่าปีกขวาแน่ครับ วัลค็อตต์ เล่นปีกขวา ไม่ได้ดีกว่า เอบูเอ้ สักเท่าไหร่ จินตนาการยังไม่ถึง เล่นกองหน้าน่าจะเวิร์คกว่า ใช้ความเร็วและสัญชาตญาณ ให้เป็นประโยชน์ ขาย บ้ายอ กับ พิงค์กี้ แล้ว กองหน้าหลักๆ ของเราก็จะเหลือ 4 คน คือ อาร์ชาวิน, RvP, วัลค็อตต์, ดูดู้ โดยมี คาร์ลอส เวล่า เป็นตัวสอดแทรก หรือไม่ก็จับไปเล่นปีกซ้าย นาสรี่, เวล่า, โรซิชกี้ เล่นปีกซ้ายไป ส่วนปีกขวา ถ้าเป็นไปได้ ขอให้ไปทุ่มซื้อ ริเบรี่ มา แต่ก็คงยากล่ะ เพราะค่าตัวไม่ถูกแน่ แถมคู่แข่งเยอะอีก แต่ผมเชื่อว่า ถ้ากล้าทุ่มจริง ก็มีลุ้นนะครับ เพราะนักเตะฝรั่งเศสในทีมเราเยอะ แถม เวนเกอร์ ก็คนฝรั่งเศส และเป็นที่นับหน้าถือตาในฝรั่งเศสอย่างมากด้วย น่าจะเป็นปัจจัยที่ ทำให้ ริเบรี่ อาจยอมมาร่วมสร้างอนาคตกับเราก็ได้ หรือถ้าไม่ซื้อ ก็รอ พี่กี้ หายเจ็บ ไม่ก็กล้าๆ ดัน บิสชอฟฟ์/วิลเชียร์/เมริด้า ขึ้นมาเล่น กองกลางขาย เดนิลสัน กับ มาร์ค แรนดอลล์ ทิ้ง แล้วไปซื้อ ชาบี้ อลอนโซ่ หรือ มาสเชราโน่ มาก็ได้ ผมว่า มาสเชราโน่ เนี่ย ฝีเท้าดีมากๆ นะ แต่ไม่รู้ทำไม เบนิเตซ ถึงไว้ใจ ลูคัส มากกว่า พอ มาสช์ ไม่ได้ลงสนามต่อเนื่อง ฟอร์มก็หยุดพัฒนา หรือไม่ก็เอาตัวที่เป็นข่าวกับเราอย่าง โกคาน อินแลร์, เฟลิเป้ เมโร่, ลอริค กาน่า ก็ได้ หรือจะซื้อฟลามินี่ กลับมา เหมือนที่ เปอตีต์ เคยแนะ ผมก็ไม่เกี่ยง เพราะโดยส่วนตัว ผมยังคงมองว่า ฟลามินี่ เป็น Perfect Partner สำหรับ เซสก์ ซง กับ ดิยาบี้ เก็บเอาไว้ เพราะมีแววพัฒนาได้เรื่อยๆ แบ็ค ไม่น่ามีปัญหาแล้ว กลิชี่, กิ๊บส์, ซานญ่า, เอบูเอ้ น่าจะเพียงพอสำหรับฤดูกาลใหม่ (ยังไม่รวม ตราโอเร่ กับ เคอเรีย กิลเบิร์ต ที่ปล่อยยืมต้ว) แต่เซ็นเตอร์นี่สิ ผมว่า กัลลาส, ตูเร่, ฌูรู, ซิลแวสตร์, เซนเดอรอส มันสไตล์เดียวกันหมดเลย คือเป็นพวก Stopper ไม่ใช่พวก Commander/Sweeper มันอาจจะไม่ใช่สูตรสำเร็จว่า เราต้องใช้ Commander คู่กับ Stopper แต่ผมว่า เราควรจะต้องหากองหลังแบบ Commander มาร่วมทีมบ้างครับ เหมือนที่แต่ก่อนเราเคยมี โทนี่ อดัมส์ (โดยมี คีโอว์นเป็นตัวชน), แมนฯ ยูฯ มี ริโอ (วีดิชเป็นตัวชน) และ เชลซี มี จอห์น เทรี่ (คาร์วัลโญ่/อเล็กซ์ เป็นตัวชน) แต่กวาดตามองไปในตลาด ผมว่า หายากมากๆ เหมือนกันนะ พวกกองหลังสไตล์ Commander แบบมี class ผมนึกถึง เด็กเก่าเรา แมทธิว อัพสัน นะ แต่โซล่า คงไม่อยากขาย โกล ผมค่อนข้างพอใจกับ ฟอร์มของ อัลมูเนีย และ ฟาเบี้ยนสกี้ ครับ จากคุณ : Anduril - [ 7 พ.ค. 52 01:03:21 ]

ความคิดเห็นที่ 133 เบนเนอร์กางเกงในไม่เซ็กซี่เลย น่าจะใส่จีสตริงสีชมพู  lol จากคุณ : ^-^ball - [ 7 พ.ค. 52 01:07:54 ]

ความคิดเห็นที่ 134 เห็น เอสเซียง ยิงแล้ว มัน... น่าจับมายืนคู่ เชสก์ ชิบเป๋งเลย(โว้ยยยย) จากคุณ : อ๊อบบี้ - [ 7 พ.ค. 52 02:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ไพ่ผมก็ทายเกือบทุกจริง แต่ผมไม่ได้ภูมิใจเลยแม้แต่นิดเดียวครับ บอกคำเดียวซึมครับซึม แต่ผม เชียร์มาตั้งแต่ ม.2 แล้วจนจะเรียนจบอยู่แล้ว มันเลิกไม่ได้อ่ะ รักต่อไปน้าน่อล --------------- บางทีผมทายๆๆไปแล้วทำไมผลโหดร้ายจังน้า น่อล.โธ่ ปีหน้าขอสำเร็จเ้ถอะนะ จากคุณ : modernaid - [ 7 พ.ค. 52 03:16:11 ]

ความคิดเห็นที่ 136 นิคกี้ขายไม่ขายแล้วแต่คนจะคิดนะ เพราะยังเด็ก ^^ แต่อเดบายอร์นี่สิ ไม่ไหวเลยอ่ะ  ถ้ายังไม่สามารถฝึกไปด้วยตัวเองคนเดียวได้  สู้เล่นกลาง 6 คนยังจะดีกว่า... รอดูการเปลี่ยนแปลงดีกว่าครับ อย่างน้อย การได้อาร์ชาวินมาในช่วงกลางซีซั่น ถือว่าน่าจะเป็นสัญญาณดีๆถึงการซื้อขายในช่วงที่จะถึงนี้ ^^   หวังว่างั้นนะ .... จากคุณ : MAVEL - [ 7 พ.ค. 52 03:22:04 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ฤดูกาลหน้าเอาใหม่นะครับ แล้วผมจะมาทายถูกๆๆผิดๆๆให้ชมกันอีกเช่นเคย เหอๆ จากคุณ : modernaid - [ 7 พ.ค. 52 03:33:48 ]

ความคิดเห็นที่ 138 (อดีต)กองหลังอาเซนอล ทำเชลซีน้ำตาร่วง เตะแป๊กเดียว...ช็อคโลก จากคุณ : ^-^ball - [ 7 พ.ค. 52 03:43:42 ]