ความคิดเห็นที่ 1 “เดอะ ก็อด ฟาร์เธอร์”  เซอร์ อเล็กส์ เฟอร์กูสัน ผู้ไม่แคร์ใคร  ไม่เคยมองเหลียวหลัง  และเชื่อในการตัดสินใจของตัวเอง ... “วันนี้ซื้อใคร?” พรุ่งนี้จะกินอะไร  เอ้ย!!!   “พรุ่งนี้จะขายใคร?” “แมตช์นี้จะเอาใครลงเล่น?”  และ “ใคร จะโดนดร็อปในนัดนี้” ในห้วงเวลาแห่งการตัดสินใจที่ดีที่สุด  คือต้องแม่นยำ เด็ดเดี่ยว และเด็ดขาด  แชมป์ พรีเมียร์ฯ 11 สมัย กับแมนฯยู นั่นคือหลักฐานที่ชัดเจนสำหรับ  “เดอะ ก็อด ฟาร์เธอร์”  คนนี้ วันนี้ เรามาเลือก 10 เหตุการณ์สำคัญในชีวิตตั้งแต่คุมแมนฯยู ที่เฟอร์กี้ จำเป็นต้องเลือก มันอาจหมายถึงอนาคต แน่นอนมันอาจไม่ใช่สิ่งสำคัญของโลกถ้าเทียบกับเหตุการณ์อื่นๆ   แต่ ณ ที่นี้ มันหมายถึงอนาคตของสโมสรแห่งหนึ่งแถวตำบล โอล์ดแทร็ฟฟอร์ด มันจะดี จะเลว  ขึ้นอยู่กับเขาเพียงผู้เดียว  กับ 10 เหตุการณ์ในชีวิตของ เฟอร์กี้ ที่เขาเลือกถูก ... โดยนาย GARETH DAVIES  นสพ.เดอะซัน จากคุณ : พริบพรรณดาว - [ 18 พ.ค. 52 14:08:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อันดับ 10. เฟอร์กี้ ปฏิเสธิ คุมทีมสเปอร์ และ อาร์เซนอล ก่อนจะรับงานแมนฯยู แมนฯยุ ไม่ใช่ทีมแรกที่ ใหัความสนใจ ต่ออดีตผู้จัดการทีม อเบอร์ดีน อย่างเฟอร์กี้ หลังจากที่เขาสร้างความสำเร็จอย่างเยี่ยมยอด กับอเบอร์ดีนด้วยการพาทีมเล็กๆจากสก็อตแลนด์ คว้าถ้วยคัพวินเนอรส์ คัพ ได้     มันเป็นไก่เดือยทอง ท็อตแน่มฮ็อต สเปอร์ และ อาร์เซนอล  สองทีมคู่ปรับ จากลอนดอน ต่างหาก ที่ เสนอชื่อทีมให้เฟอร์กี้ ตัดสินใจ   โดยสเปอร์ เสนอ เก้าอี้ ให้คุมแทน Peter Shreeves  ส่วน ปืนใหญ่ ก็มีเก้าอี้ของ Don Howe  เป็นแรงจูงใจ แต่ เมื่อดวงมันจะสมพงษ์ คู่กันแล้วมักจะไม่แคล้วคลาด  จู่ๆแมนฯยูก็โฟนหาป๋า โดยมาร์ติน เอ็ดเวิร์ด เจรจาเอง ไม่ต้องหว่านล้อมให้มาก อยู่เฉยๆเดี๋ยวมาตินส์ให้ตังค์  แล้วจู่ๆ เฟอร์กี้ก็ตัดสินใจ บินลงใต้เมื่อ พฤศจิการยน 1986 มาคุมแมนฯยู ในช่วงยังไม่เป็นโล้เป็นพาย โดนเข้ามาแทนที่ป๋า รอน แอตอินสัน นั่นเอง... จากคุณ : พริบพรรณดาว - [ 18 พ.ค. 52 14:13:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อันดับ 9 การค้นพบหมายเลข 7 คนใหม่  “คริสเตียนโน่ โรนัลโด” เฟอร์กี้ ได้ค้นพบเพชรเม็ดงามอีก 1 ชิ้น จากเด็กอายุ 18 มาจาก สปอตติ้ง ลิสบอน ด้วยค่าตัว 12.24 ล้านปอนด์ และในการชูเสื้อวันแรก  ป๋าก็สร้างความฮือฮาเลย ด้วยการมอบ เสื้อหมายเลข 7 ให้เด็กที่เพิ่งหย่านมได้ไม่นาน  ทั้งๆที่ใครๆก็รู้ว่า หมายเลขนี้คือ หมายเลขอันเป็นเอกลักษณ์  ของเหล่าสาวกผีแดง  นักเตะผู้ที่จะใส่ได้ มันต้องมีคุณสมบัติที่พิเศษ จะมามอบพร่ำเพรื่อแบบนี้ไม่ได้   จนตอนนั้นถึงตอนนี้ จากเด็กเมื่อวานซืนจนเป็นหนุ่มแน่น  จากโคลนกลายเป็นเพชร  เอาเป็นว่ามาดริดกล้าทุ่ม 80 ล้านปอนด์เพื่อขอซื้อเจ้าเด็กคนนี้ละกัน นั้นแสดงว่า เฟอร์กี้ มีลักษณะพิเศษที่มองเห็นถึงความสามารถของผู้เล่นแบบทะลุปรุโปร่งได้   แหมพูดถึงมาดริดแล้วก็...  มีเงินอย่างเดียวไม่พอนะครับ ...  อิอิ จากคุณ : พริบพรรณดาว - [ 18 พ.ค. 52 14:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อันดับ 8 อยู่เคียงข้างโรนัลโด้ ถึงแม้เด็กมันจะเปรี้ยวแค่ไหนก็ตาม ถึงแม้ว่าจะถูกเด็กมันเปรี้ยวใส่  จะถอนหงอกสักกี่เส้น  จนแฟนเอือมระอากับพฤติกรรมของมัน  ที่แร่ดจะไปเล่นกับมาดริดอย่างเดียวในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา    แต่ป๋า ก็ยังให้ความไว้วางใจตัวมันเอง  จนถึงวันนี้ ผู้ชายมาดสาวแตกสนามบอล อย่างโรนัลโด ก็ตอบแทนความไว้วางใจป๋า ด้วยคการพาทีมคว้าถ้ายพรีเมียร์ สมัยที่ 11 เข้าให้แล้ว จากคุณ : พริบพรรณดาว - [ 18 พ.ค. 52 14:19:11 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อันดับ 7 เชื่อว่า เบ็คส์ โดนเมียคุม ความสัมพันธ์ระดับพ่อกับลูก  ระหว่าง เฟอร์กี้ และเบ็คส์แฮม ได้จางลงไป ในวันที่วิคตอเรีย อดัมส์ได้ก้าวเข้ามาในชีวิต  จนกระทั่งเบ็คส์ต้องย้ายไปมาดริด(อีกหล่ะ) เมื่อกรกฎาคม 2003   ถามว่า งานนี้ใครถูก ??? ... ตั้งแต่ขายเบ็คส์ได้ตังค์ที่ 25 ล้านปอนด์  เฟอร์กี้ได้รับรางวัลตลอด ไม่ขาดตกบกพร่อง   ส่วน ซุปเปอร์สตาร์อย่างเบ็คแฮมหล่ะ???    เอ่อ...  1 แชมป์ลาลีก้ากับมาดริด... ค่ะ จากคุณ : พริบพรรณดาว - [ 18 พ.ค. 52 14:21:36 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อันดับ 6 เชื่อมั่นกับนายก  เอ้ย!! เชื่อมั่นในตัวบักรุด... หลายคนอาจสงสัยขมวดคิ้ว ว่า เฟอร์กี้ทำไมถึงเชื่อมมั่นในตัว อดีตนักเตะ พีเอสวี อย่างรุด ฟาน นิสเตลรอย โดยซื้อมาราคาเป็นสถิติ 18 ล้านปอนด์ ในปี 2001 ทั้งๆที่เมื่อปี 2000 บักรุดมีอาการบาดเจ็บหัวเข้ารุณแรงจนต้องผ่าตัด มันจำเป็นต้องเสี่ยงขนาดนั้นเลยเหรอ??? และบักรุดเองก็ตอบแทนด้วย ประตู 150 ประตู ใน 5 ฤดูกาลที่ลงเล่นให้แมนฯยู ก่อนย้ายไปมาดริด (อีกแล้ว) จากคุณ : พริบพรรณดาว - [ 18 พ.ค. 52 14:23:24 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อันดับ 5 ไอ้เรื่องวางมือนะเหรอ???   ...อิอิ  ป๋าเคยเผลอพูดออกไปหน่ะ  ไม่มีอะไร  ป๋าพูดเล่นนะจ๊ะ ในปี 2001-02 ป๋าเฟอร์กี้ เคยเปรยๆออกมาว่า  อยากเลิกคุมทีมหลังจบซีซั่นนี้แล้ว เพราะรู้สึกว่าตัวเองแก่ไปแล้วหล่ะ สมควรจะรีไทร์ตัวเองออกจากวงการนี้  มันอาจเป็นแรงกระตุ้นให้ลูกทีมเร่งโชว์ฟอร์มก็เป็นได้หลังจากปีก่อนพลาดให้อาร์เซนอล ชุด  incredible ไป  และหลังจากนั้นเฟอร์กี้ก็ประกาศขอคุมทีมต่อไป ... จากคุณ : พริบพรรณดาว - [ 18 พ.ค. 52 14:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อันดับ4 เลือกซุปเปอร์ ซับ อย่างโซลชาร์ ยิงใส่บาเยิร์น มิวนิค mu,บาเยิร์น มิวนิค ทั้งนักเตะเอง หรือแฟนบอล ต่างรอเวลานับถอยหลัง เพื่อที่จะก้าวขึ้นคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ที่คัม นู เมื่อปี 1999   แต่..แล้วก็มีซุปเปอร์ซับ นาม เทดดี้ เชอร์ริ่งแฮม และ โอเล่น กุนนา โซลชาร์ ช่วยกันยิงในช่วงทดเวลา พาทีมแซงบาร์เยิร์น มิวนิค คว้ามแชมป์เป็นสมัยที่ 2 นับแต่ปี 1968 โดยหลังจากนั้น เฟอร์กี้ก็ถูกสถาปณาเป็นท่านเซอร์ จนถึง ปัจจุบัน แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 52 14:29:06 จากคุณ : พริบพรรณดาว - [ 18 พ.ค. 52 14:28:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อันดับ 3 คุณสามารถคว้าแชมป์ได้โดยนักเตะที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม... อลัน แฮนเซ่น เคยพูดกับเฟอร์กี้ หลังจากแมนฯยูเปิดฤดูกาล 95-96 ด้วยการแพ้ แอสตัน วิลล่า 3-1 ด้วยคำที่ว่า “You can’t win anything with kids.”    แต่หลังจากนั้น เฟอร์กี้ก็พาทีม ลบเสียงวิจารณ์นี้ได้  เฟอร์กี้ถูกให้สัมภาษณ์โดยนักข่าวกรณีที่ แฮนเซ่นพูดเอาไว้  โดยป๋า พูดสั้นๆว่า “Oh yes we can,”   ซึ่งนักเตะชุดนั้นนำทีมโดย สองพี่น้องเนวิวล์ นิกกี้ บัต  สโคลส์และเดวิด เบ็คส์แฮม  โดยมีไรอัน กิกส์ถูกดันขึ้นมาเล่นก่อนแล้ว จากคุณ : พริบพรรณดาว - [ 18 พ.ค. 52 14:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อันดับ 2 ซื้อตัว รอย คีน มาไว้ในอ้อมกอด เฟอร์กี้เจอปัญหาหนัก อกปานจะแตกตาย เมื่อยังหาใครมาแทน ไบรอัน ร็อบสัน กัปตันกระดูกเหล็กได้เลย   จนกระทั่ง การมาของรอย คีน เขาเป็นเด็กหนุ่ม จากไอร์แลนด์ โดยเฟอร์กี้ เซ็นสัญญาคว้าตัวมาร่วมทีม ราคา 3.5 ล้านปอนด์ จากน็อตติ้งแฮม ฟอเรส ซึ่งราคานี้ตอนนั้นถือว่าแพงเป็นสถิติเลยหล่ะครับ  และรอยคีนนี่เอง ก็ได้เข้ามาเติมเต็มในส่วนที่แมนฯยูขาดไปอย่างเหมาะเจาะเลยทีเดียว จากคุณ : พริบพรรณดาว - [ 18 พ.ค. 52 14:37:00 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ปาด.... เข้ามารอดูอันดับหนึ่ง และอันดับหนึ่ง..ได้แก่..... แถ่น แท้นนนนนน..... แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 52 14:39:52 จากคุณ : epsilon_dX - [ 18 พ.ค. 52 14:37:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอ'ญาตปาดเช่นกัน อูยย  ผิดที่ป่าวเนี่ยเรา - -" แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 52 14:40:39 จากคุณ : ปังเย็นยูเนี่ยน - [ 18 พ.ค. 52 14:39:54 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มาลุ้นกับเค้าด้วยครับ อ่านแล้วสนุกดี ^^ จากคุณ : Triumphan (เมื่อกี้ว่าไงนะ) - [ 18 พ.ค. 52 14:42:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อันดับ 1 คือ การค้นพบนักเตะที่ทำให้ทีมลงตัวอย่างสมดุล จอห์นนี่ จับฉ่าย โอเช !!! ไม่ใช่ล่ะ !!! จากคุณ : บอนตะคุง - [ 18 พ.ค. 52 14:43:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อันดับ 1 ต้องเป็น Eric The King แน่นอนเลย จากคุณ : BeYonDGodLikE - [ 18 พ.ค. 52 14:46:16 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ปีเตอร์ ชไมเคิล กับ น้ายีราฟ ใช่เปล่าครับ จากคุณ : เงาะกระป๋อง - [ 18 พ.ค. 52 14:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อันดับ 1 ตำนานเจ้าพ่อแมนฯยู   จอห์น โอเชีย  เอ้ย!!!  เอริค คันโตน่าๆๆๆๆๆๆๆ  (คุณบอนตะฯ ก็เอาผมเคลิ้มไปกับ มหาเทพ โอเชีย ซะได้) หลังต่อสู้แย่งชิง ถ้วย ดิวิชั่น 1 เก่า กับลีดส์ ยูไนเต็ด ก่อนจะแพ้ไป แต่ในจังหวะนั้นเฟอร์กี้ก็ประทับใจเด็กหนุ่มคนหนึ่ง นามเอริค คันโตนา จนเมื่อเดือน พฤศจิกายน 1992 เฟอร์กี้ก็ปฏิบัติกระชากตัวเด็กเกเรคนนี้ได้สำเร็จ  จากนั้น ไอ้เด็กขี้โม้โอ้อวด อย่างคันโตนาก็มาสวมเครื่องแบบ ปีศาจแดง  จนพาทีมคว้ามแชมป์พรีเมียร์เป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี  โดยมีคะแนนเหนือกว่า วิลล่า 10 แต้มเลยทีเดียว และหลังจากนั้น   แมนฯยูก็ครองความยิ่งใหญ่นับจากนั้น....   วะ555555555 5 ************************************ จบแล้วคร้าบบบบบบบบบบบบบบ แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 52 14:53:13 จากคุณ : พริบพรรณดาว - [ 18 พ.ค. 52 14:48:13 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณตครับ เอริค เดอะคิงงงงงงง โย่ววว จากคุณ : Sifer2002 - [ 18 พ.ค. 52 14:50:03 ]

ความคิดเห็นที่ 19 จบแล้วว ขอบคุณค๊า ^^ จากคุณ : ปังเย็นยูเนี่ยน - [ 18 พ.ค. 52 14:51:11 ]

ความคิดเห็นที่ 20 55555+ ทำไม....ทำม๊ายยยย...ทำไมอันดับ 1 ไม่ใช่ท่านเทพโอเชียล่ะ   จากคุณ : กระแตตาโต - [ 18 พ.ค. 52 14:51:21 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อาว 1 หาย 5555 จากคุณ : Achaki Oddy - [ 18 พ.ค. 52 14:52:25 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อิอิ  ขอบคุณค่ะพี่พริบ พี่เบคส์หล่อเหมือนเดิม  เย้ๆๆๆ จากคุณ : ดาวเคียงดอย - [ 18 พ.ค. 52 14:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จากคุณ : Plakud04 - [ 18 พ.ค. 52 14:54:12 ]

ความคิดเห็นที่ 24 วะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขอบคุณขอรับกระผม จากคุณ : ซุ่มอยู่ - [ 18 พ.ค. 52 14:56:18 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แถ่นแท้นแท๊นนนนนน จากคุณ : Wastrel - [ 18 พ.ค. 52 14:57:52 ]

ความคิดเห็นที่ 26 โอเชียกับเฟรทเชอร์ไม่ติดอันดับ 5555 ขอบคุณนะคะ จากคุณ : เด็กอันดับบ๊วย - [ 18 พ.ค. 52 15:01:29 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณค่ะคุณพริบ นั่นสิทำไม อันดับ1 ไม่เป็น โอเชียล่ะ อิอิ จากคุณ : นางฟ้าสีแดง - [ 18 พ.ค. 52 15:02:40 ]

ความคิดเห็นที่ 28 การได้ตัวเอริค คันโตน่า ก็เหมือนละครน้ำเน่าไม่มีผิด คู่แล้ว ย่อมไม่แคล้วกัน ฉันใดฉันนั้น เพลานั้น โฮเวิร์ด วิลกินสัน กุนซือของลีดส์ ยูไนเต็ด กริ๊งกร๊างหา มาร์ติน เอ๊ดเวิร์ดส์ ผู้เป็นแชร์แมนปิศาจแดง เพื่อเจรจาขอซื้อตัว ฟูลแบ๊คตัวเก่งของเรา เดนิส เออร์วิน แต่เพลานั้น ประเหมาะเคราะห์ดีอย่างยิ่ง ท่านประธาน กำลังคุยอยู่กับป๋าอเล็กซ์พอดี๊...พอดี (ตอนนั้นไม่ใช่เซอร์) ไม่รู้กำลังก๊งกันรึเปล่า แต่มาร์ตินกับอเล็กซ์ก็ปรึกษากันทันที และสองผู้ยิ่งใหญ่ก็บรรลุข้อสรุปทันที ว่า เออร์วินไม่ได้มีไว้ขาย ป๋าสัพยอกให้เอ๊ดเวิร์ดส์เกทับกลับไปยังวิลกินสันที่รอในสายว่า ทีมอั๊วะอ่ะ ขาดกองหน้าอยู่เหมือนกัน ติดต่อใครแมร่งแห้วโม้ด ตั้งกะ ไบรอัน ดีน, แม็ทธิว เดอ พ่อมด หรือ เดวิด เฮิร์สท์ ก็แห้ว ทั่นประธานเลยถูกยุให้ถามไปว่า อั๊วะสนเอริคของลื้อว่ะ ขายมะ แปล๊ก แปลก...คนจะซื้อดันได้ขายครับ ไม่รู้วิลโก้คิดอะไร อาจจะเบื่อกับการที่ต้องมาคุมประพฤติแบดบอยอย่างเอริคก็ได้ วิลโก้บอกเลย กล้าซื้อก็กล้าขายเฟ่ย เอามาล้านสองแสนดิ แค่ไม่กี่วันหลังจากนั้น... เอริค ก็กลายเป็นตำนานบทใหม่ของโรงละครของเราในที่สุด และเป็นปฐมบท ที่นำพานาวาสีแดงลำนี้ ครองความยิ่งใหญ่สืบมา ...และสืบไป ปล. ที่มาจากความทรงจำ บวกรายละเอียดเพิ่มเติมจาก วิกิพีเดีย จากคุณ : สงบใจ - [ 18 พ.ค. 52 15:18:49 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เข้ามาอิจฉาแฟนแมนยู เมื่อไหร่กุหลาบไฟ(ใกล้มอด)จะกลับไปลุ้นแชมป์อีกหว่า ได้แต่ลุ้นตกชั้น เฮ้อ... จากคุณ : Sorn มาคับ - [ 18 พ.ค. 52 15:35:32 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณอิรัก เดอะพริบ ที่แปลบทความแจ่ม ๆ มาให้อ่านกันอีกแล้ว                   ขอบคุณค่า... จากคุณ : นู๋ชม - [ 18 พ.ค. 52 15:37:24 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณครับ ช่วงนี้มีบทความเจ๋งๆเยอะเลย จากคุณ : บะหมี่^^ผีแดง - [ 18 พ.ค. 52 15:40:22 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อ่านไปยิ้มไปเลย ^^ จากคุณ : ผีเฮี้ยน - [ 18 พ.ค. 52 15:52:46 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณค่ะ แต่ทำไมที่ 1 ไม่ใช่ จับฉ่าย ละจ๊ะ จากคุณ : ย้ำคิดย้ำฝัน - [ 18 พ.ค. 52 15:56:00 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สุดยอดดดดดดดดดด จากคุณ : dabodabo55 - [ 18 พ.ค. 52 16:10:46 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สำนวนยังแจ่มเหมือนเดิมค่ะ คุณพริบฯ ขอบภาพคห. 10 จัง รอย คี๊น รอย คีน โหดกระทั่งกรรมการ จากคุณ : BabyRed - [ 18 พ.ค. 52 16:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : ขอบตะวัน - [ 18 พ.ค. 52 16:20:24 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ชอบๆ ^^ จากคุณ : หลงทางเป็นงานอดิเรก - [ 18 พ.ค. 52 16:34:35 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มันไม่ใช่อ่ะ จับฉ่าย ของผม มันเป็นโคตรเพชร ที่ถูก งมมาจากปลักควาย ขอเมล์ นาย GARETH DAVIES ให้ผมหน่อยสิ จะเมล์ไปถามว่า คันโตน่า เคยเป็นนายทวาร เหมือนนาย จับฉ่าย ของผมหรือป่าว จะแค่บอกว่า คันโตน่า ยิงเป็ดแดง นัดชิงเอฟเอ พี่จับฉ่าย ผมก็ยิงเป็ดแดง นาที สุดท้ายเหมือนกัน ถึงแม้ว่า ปีเตอร์ ชไมเคิล จะได้ฉายาว่า ยักษ์เดนท์ แต่ เมื่อจับฉ่ายเป็นโกล์ แล้ว เขา เป็นหนึ่งเดียวที่ รักษา ความบริสุทธิ์ ได้ 100% เพราะไม่มีใครทำ ประตูเขาได้ คุณประโยชน์นานับประการเช่นนี้ ยังจะไม่ได้เป็นอันดับหนึ่งอีก หรอ จากคุณ : buda - [ 18 พ.ค. 52 16:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เข้ามาอ่านแบบอารมณ์ดี สำนวนเขียนแล้วฮาจริงๆ จากคุณ : ฉันมีความสุขในทุกๆวัน - [ 18 พ.ค. 52 16:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 40 จับฉ่ายนี่เทพจริงๆ ขอบคุณ ทุกท่านมากเลย ที่แปลมาให้อ่าน จากคุณ : vn, man - [ 18 พ.ค. 52 17:02:58 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ก๊ากก ขอบคุณค่ะ ถ้าให้ป๋าเลือกเองคงมีดาร์เรน มายซันกะจับฉ่ายแน่ๆ 555 จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 18 พ.ค. 52 17:03:05 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เทพโอเช หายไป!!!! จากคุณ : K-modjung - [ 18 พ.ค. 52 17:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 43 คิดถึง คันโตน่า จังเลยครับ ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ แมน ยู ช่วยตอบหน่อยยน่ะครับว่า รูป นี้ คันโตน่า เล่นนัดไหน แล้ว ยิงเข้าหรือเปล่า ท่าทางเตะบอลนั้น เทพ มากๆๆๆๆๆๆ เหอๆ จากคุณ : ####PondCLub#### - [ 18 พ.ค. 52 17:06:30 ]

ความคิดเห็นที่ 44 โอเช เฟล็ทเชอร์ ไม่สมควรครับ เพราะ อยู่ในขั้นเทพ ระดับสุดยอด พอพอกับ แม็ต บัสบี้ ยังไงก็อันดับ +1 ตลอดกาล จากคุณ : Hokkaido_H - [ 18 พ.ค. 52 17:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ที่จริงน่าจะมี   การค้นพบปีกคูบุญนาม "Ryan Giggs" ติด 1 ใน 10 ด้วยอ่ะ จากคุณ : super_giggs - [ 18 พ.ค. 52 17:43:21 ]

ความคิดเห็นที่ 46 หนึ่ง ใน สิบ มี นังโด้ ตั้งสองข้อ แต่อันดับหนึ่งเห็นด้วยอย่างแรง มันเป็นจุดเริ่มต้น ของทุก ทุกอย่างจริง ๆ จากคุณ : air007 - [ 18 พ.ค. 52 18:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ภาพประกอบคริสตี้ แร่ดได้ใจมากๆ ค่ะ อิอิ ทีมเรามีตำนานอย่างนี้นี่เอง แบบว่าเพิ่งเข้ามารุ่นหลังๆ ที่ประสบความสำเร็จแล้วอ่ะค่ะ.. ขอบคุณมากๆ ค่ะ จากคุณ : S@iYoJang - [ 18 พ.ค. 52 19:02:44 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ข้อ10ผมเพิ่งรู้นะเนี่ย! ช่วงนั้นอาร์เซน่อลกับสเปอร์สก็ไม่ใช่ย่อยเลยนะครับ แต่ว่าป๋าก็ปฏิเสธไปแล้วตกลงมาคุมแมนฯยูฯ แหม่ หยั่งก๊ะเขียนบทโดยปีศาจ ^ ^ ...สำนวนคุณสงบใจกระทู้นี้แจ่มจริงๆครับ 55 จากคุณ : kirofsky - [ 18 พ.ค. 52 19:47:06 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คันโตน่าคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่างจิงๆ ไม่งั้นอาจเป็นลีดส์แทน แต่ก็ไม่แน่เพราะมันไม่ได้ขึ้นอยุ่กับนักเตะคนเดียว แมนยู มีจังหวะดีๆต่อเนื่อง มีชุดเด็กมหัศจรรย์ ที่ครองความยิ่งใหญ่ได้ยาวนาน การเก็บตัวสำรองที่ปั้นเองกับมือผมว่าก็ถือเป็นอะไรที่ได้ผลดีมากครับ หลายทีมขายทิ้ง ซึ่งนักเตะพวกนี้พร้อมที่จะเป็นสำรอง และพร้อมจะลงเล่นเพื่อทีม และทำเต็มที่สุดความสามารถทุกครั้งที่ได้โอกาส ต่างจากหลายทีมที่ไม่มีนักเตะตัวสำรองประสบการณ์สูง ต้องหันไปใช้ดาวรุ่ง และเป็นต่างชาติ ที่ไม่ได้ผูกผันกับสโมสรมาแต่เด็ก มาเพราะเงิน และ เพื่อโอกาสที่จะดัง และโรนัลโด้เองถือว่าเป็นอะไรที่มาต่อยอดด้วย เก่งอิ๊บอ๋าย บอกตรงๆ เป็นการซื้อที่คุ้มไม่รุ้จะคุ้มยังไง หน้าตาดี ฝีเท้าดี ขยัน วิ่งได้ไม่หยุด และข่าวขายได้ เพราะมีแต่คนเข้า คือได้ทุกอย่างจิงๆจากโรนัลโด้ ราคาก็ถูกแสนถูก กับการเป็นนักเตะฟีฟ่ายอดเยี่ยมกับบัลลงดอร์ จากคุณ : doublehand - [ 18 พ.ค. 52 19:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 50 คิดถึงและเสียดายเฮียเบคส์มากเลยคะ ตอนที่ย้ายเสียใจมากเลย แต่ก็น่ะบุพเพใช่ไหมคะ สงสัยสาวโด้จะได้ดังเฮียเบคส์เลยต้องหลีกทางให้55555555555555555555555555555555555555 จากคุณ : jiwjit_7 - [ 18 พ.ค. 52 21:15:10 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! คันโตน่า!!! จากคุณ : Ceus. - [ 18 พ.ค. 52 21:25:09 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อ่านกระทู้นี้แล้วอารมณ์ดีมาก ๆ ค่ะ  ^ ____ ^ จากคุณ : Noey :p - [ 18 พ.ค. 52 21:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณมากงับ จากคุณ : Jaxx5788 - [ 19 พ.ค. 52 00:05:06 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ดีใจที่เกิดเป็นแฟนผี จริงๆ มีแต่เรื่องน่ายินดี แฟนผี น่ารัก ทู๊กกกคนเลย ^^ จากคุณ : oHmmzLoVE - [ 19 พ.ค. 52 03:22:34 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ตอนสมัยผมเริ่มดูบอล ยังตามดูลิเวอร์พูลอยู่เลย.... สมัยนั้น เจาะสนามนี่ ลิเวอร์พูลมาอยู่เรื่อย นัดชิงแชมป์ดิวิชั่น 1 ที่โดนอาร์เซนอลอัดไปสองลูกคาแอนฟิล์ดกระชากแชมป์เพราะประตูได้เสีย ผมก็ดู นัดที่หงส์ชิงเอฟเอคัพ อัลดริดจ์ยิงทีมนำจนเปลี่ยนตัวออกก่อนโดนตีเสมอ แล้วส่งรัชลงมาเป็นฮีโร่ ผมก็ดู... แต่ทำไม สุดท้าย กลายมาเป็นแฟนผีได้ก็ไม่รู้แฮะ.... แปลกคนจริงๆ... ดีใจนะเนี่ย แหมทุกวันนี้ ระดับความดีใจจะไม่เท่านัดพลิกชนะบาเยิร์นแล้วก็ตาม.... แต่มันอิ่มใจนะ จากคุณ : proofman - [ 19 พ.ค. 52 08:30:08 ]

ความคิดเห็นที่ 56 จะว่าไปแล้วการที่แมนยูได้แชมป์ในฤดูกาลนี้ไม่ว่าจะรายการไหนก็ตาม เป็นเพราะเทพโอเชจริงๆนะครับ เห็นฟอร์มอย่างนี้ แต่เป็นคนๆเดียวจริงๆที่แทบจะได้เล่นทุกเกม ไม่ว่าเกมเล็กหรือเกมใหญ่ ขาดกองกลาง เฮียรับเอง ขาดแบ็คขวา เฮียจัดให้ ขาดแบ็คซ้าย ตำแหน่งถนัดของเฮีย สบาย ขาดเซ้นเตอร์ เล่นได้อยู่แล้ว ไหนจะยิงลูกสำคัญๆ ไหนจะเป็นคนทุ่ม(เกือบ)ไกล ไหนจะเป็นคนเปิดบอลริมเล้น ฯลฯ ผมว่าเนี่ยแหละ คนสำคัญพาแมนยูได้แชมป์ จากคุณ : Nettyna - [ 19 พ.ค. 52 09:08:27 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ถึงงานนี้  คุณพริบฯ จะยังไม่ได้กรึ้บมา ก็แปลได้สนุกเหมือนเดิมนะครับ 55555 ป.ล.  ชอบสำนวนคุณสงบใจจังครับ จากคุณ : ขุนไกรครับผม - [ 19 พ.ค. 52 11:04:33 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เป็นกระทู้ที่อ่านสนุกที่สุด ยิ้มไปหัวเราะไป ตั้งแต่ตัวกระทู้จนถึงความคิดเห็นสุดท้ายเลยอ่ะ ขอบคุณคุณพริบฯ กับสำนวนแปลมันส์ๆ งานแปลของคุณพริบฯ น่าติดตามจริงๆ ขอสมัครเป็นแฟนคลับได้ป่ะ 5555+ ตอนอ่านอันดับหนึ่งของคุณบอนตะ เชื่อไปแล้วนะนั่น!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! 555+ จากคุณ : หนูติงต๊อง น้องแสนดี - [ 19 พ.ค. 52 12:03:58 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อุ๊ อ๊ะ คันโตน่า จากคุณ : moji12 - [ 19 พ.ค. 52 12:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เคลิ้มเหมือนกัน   สรุป  โอเช เป็นผู้รักษาประตูที่ไม่เคยเสียประตูเลย ในพรีเมียร์ลีก    โอเช สุดยอดดดดดด จากคุณ : Pickmon - [ 19 พ.ค. 52 15:54:07 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณที่แปลให้อ่านครับ  เห็นด้วยทั้ง 10 ข้อ จากคุณ : SamuDi Knight - [ 19 พ.ค. 52 18:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 62 สุดยอดจริงๆป๋า อยากให้ป๋าคุมทีมไปจนหมดแรงคุมไปเองเลย โหวตให้ครับ จากคุณ : The Red - [ 19 พ.ค. 52 22:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 63 กระทู้นี้แจ่มกระโทกมากครับ ... เยี่ยมมม จากคุณ : P.S. i love you - [ 20 พ.ค. 52 02:12:52 ]

ความคิดเห็นที่ 64 #14     แอบเชื่อไปแล้วนะนั่น   จากคุณ : เดอะ ปูด - [ 26 พ.ค. 52 08:03:50 ]

ความคิดเห็นที่ 65 อ่านด้วยความปลาบปลื้ม ปกติ ไม่เชื่อบทความจาก เดอะ ซัน นะ แต่คราวนี้ เคลิ้มตามเลยเชียว อิอิ จากคุณ : =^aEaY^= - [ 27 พ.ค. 52 20:35:26 ]