ความคิดเห็นที่ 1 จำชื่อกันไว้ให้ดีๆ ไอ้พวกปากบอกอาสามาทำงานแต่ทำให้จังหวัดน่าอับอายได้ขนาดนี้... วงการบอลไทยไม่ใช่เต้าฮวย เอ้า มีไอเดียดีๆ มาฝากกันทั้งหมดทั้งปวงเลยน่ะ ตั้งแต่นายบุญชู จันทร์สุวรรณ วิทยา บุญยพัชรินทร์ ทีมชายยังไม่วาย ลามมาทีมหญิงนี่เล่นจะยุบทีมพระเจ้าช่วย เอ็งอย่าหน้าด้านอยู่ซิ เดินออกๆ มันไปเสีย ทีมหญิงแก้ไม่ได้ยุบ ทีมชายแก้ไม่ได้ยกเลิกแข่งขันแพ้บาย แต่ก็หน้าด้านหน้ามึนอยู่ต่อๆ กันไป อีกหน่อยทีมไหนจะมีปัญหาต่ออีก เยาวชน หรือกีฬาอนุบาลจังหวัดสุพรรณบุรี (ประชดกันไป) ... ทำง่ายนิดเดียว ไม่ต้องไปทะลึ่งระดมทุนเดี๋ยวทุนหายอีกให้เขาเดินมาให้แฟนคลับดีกว่าไหม ยังไว้ใจมากกว่าอีก อ่ะ ไอเดียง่ายๆ ไม่ต้องคิดมาก รับผิดชอบรู้จักไหม ไม่รู้จักก็เอาผักไปกิน จากคุณ : danielle - [ 6 มิ.ย. 52 21:50:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ล่าสุดถึงกับมีการออกปาก ปลดแฟนคลับแล้ว ในข้อกล่าวหาทำให้เสียหน้า ใหญ่คับฟ้าจริง ๆ.. http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S7944031/S7944031.html แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 52 22:28:58 จากคุณ : JadEiTe & WhiTe sHarK - [ 6 มิ.ย. 52 22:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เออว่าแต่ว่าคดีเก่าเรื่องโค้ชแทงขานักบอลต่างชาติไปถึงไหนแล้วครับ(ผมไม่ได้ติดตามข่าว) ความจริงทีมมีปัญหามากขนาดนี้สมาคมฯควรเข้ามาแทรกแซงจัดการแล้วครับ..... จากคุณ : atk - [ 6 มิ.ย. 52 22:32:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอโทษทีน่ะครับไม่เห็นว่าเคยมีกระทู้เก่ามา วุ่นๆ เลยไม่ค่อยได้เข้ามาเลยซ้ำ แต่งามหน้าพวกหัวหงอกโดยแท้.. ไอ้สามีก็บื้อรู้จักแต่ใช้งบ เขาให้บริหารงบแล้วบริหารงานด้านกีฬา ไอ้เมียเลยปลดแล้วจ้างมา นี่มันจำมาจากตัวอย่างเลวๆ ในหน้าสังคมเลยน่ะเนี่ยะ เอาไงดี.... เอานี่เลย ไปเจอมาจากหว้ากอ...สุดยอดมาก http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X7930761/X7930761.html จากคุณ : danielle - [ 6 มิ.ย. 52 22:36:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่าน่าจะลาออกให้หมดเลยทั้งชุดที่บริหาร ถ้าคิดแต่ละอย่างได้แค่เนี้ย ปลด ยกเลิกสัญญา ยุบ ถอนทีม ฯลฯ น่าจะพิจารณาตัวเองสักทีนะ จากคุณ : The Red - [ 7 มิ.ย. 52 01:13:21 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณdanielle ผมว่าน่าจะไล่ยากนะครับพวกเปรตแบบนี้เพราะเกาะกันเหนียวมากๆ ตัวเล็กตัวโตเกาะกันเหนียวแน่นหนึบ จากคุณ : นู๋โย ก็โอนะ - [ 7 มิ.ย. 52 04:48:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สำหรับคนที่หวังจะเพิ่งบรรหาร อย่าไปหวังเพิ่งเติ้งเลย เพิ่งรู้ว่าผู้บริหารมันก็คนสนิทหมอนี่ทั้งนั้น เฮ้อ ถึงคราว” เติ้ง” หย่าศึก บุญชู- นพดล ชิงเก้าอี้ นายก อบจ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2547 ที่ผ่านมา มีการเลือกตั้ง อบจ.สุพรรณบุรี ครั้งนั้นมีผู้สมัคร นายก อบจ.หลายคน หนึ่งในนั้นมีนายบุญชู จันทร์สุวรรณ นักการเมืองหน้าใหม่ของ จ.สุพรรณบุรี ที่เป็นอดีตนายกเทศมนตรีเทศบาล ต.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี มาก่อน แต่มีบ้านเกิดอยู่ที่ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี และเป็นบุตรชายคนโปรดของ นายดิน จันทร์สุวรรณ อดีตกำนันคนดังที่ชาว อ.ด่านช้าง ที่ชาวสุพรรณบุรี รู้จักกันดี และยังเป็นคนสนิทของ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ลงสมัครในครั้งนั้นและยังเป็นตัวเต็ง ซึ่งก็ไม่พลาดนายบุญชู ได้รับการเลือกตั้งมาด้วยคะแนนท้วมท้น ทำให้ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.สุพรรณบุรี โดยมี นพดล มาตรศรี และนายสุวัฒน์ จันทร์สว่าง เป็นรอง นายก อบจ. มีสมาชิก อบจ.จำนวน 30 คน ประกอบด้วย นายมนูญ ศรีสุพรรณ นายสรพงศ์ สุจิตต์ นายสล้าง พันธุ์สถิตย์ นายณรงค์ เกิดพงษ์ นายสุชาติ กลิ่นจุ่น นายสุภัทร ลีอารีย์กุล นายพงษ์เกียรติ อุดมอานุภาพสุข นายสำเภา วีรานนท์ นายสุรัตน์ จันทร์สว่าง นายธีระ จันทรวัฒนาวนิช นายคงสิทธิ์ ห้วยหงส์ทอง นายชัยวัฒน์ มาตรศรี นายทวีศักดิ์ ฐานบัญชา นายปริญญา เรืองสุขอุดม นายชาญชัย ประเสริฐสุวรรณ นายหริพล พนากิจกุล นายเสมียน หงส์โต นายกอบชัย พลเสน นายสว่าง พันธุ์พฤกษ์ นายสุพัฒน์ รบอุดงค์ นายศักดา จาละ นายธวัช อ่ำทอง น.ส.นุชรีย์ เงินเกื้อกูล นายสำเริง ผลโภชน์ นายสุกิจ อ่ำทอง นายสานัน สภาปกาญพงศ์ นายดิเรก รัศมีแก้ว นายสุธี โควอุดมประเสริฐ นายเอนก ปาลวงษ์ และนางสุนิสา สินไพบูลย์ผล วันที่ 14 มีนาคม 2551 นี้ อบจ.สุพรรณบุรี จะหมดวาระลง นายบุญชู จันทร์สุวรรณ ประกาศตัวลงสมัคร นายก อบจ.อีกสมัยโดยมี นายบรรหาร ได้เปิดตัวในงานต่างๆจนประชาชนทุกคนรับรู้เป็นที่แน่นอนแล้วว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปต้องเป็น นายบุญชู แต่ลึกๆแล้ว นายนพดล มาตรศรี รอง นายก อบจ. ก็เดินหาเสียงมาตลอด และมีการวางแผนมานาน โดยที่นายบรรหาร ไม่ทราบมาก่อนว่า นายนพดล จะลงแข่งขันเพิ่งจะมารู้เมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นถ้าเรื่องนี้ขืนปล่อยไว้โดยที่ปล่อยให้สองคนลงแข่งขันกันเอง แน่นอนความแตกแยกต้องเกิดขึ้นในสุพรรณบุรีอย่างแน่นอน และถ้าการแตกแยกครั้งนี้เกิดขึ้นรับรองได้เลยว่าปัญหาการเมืองใน จ.สุพรรณบุรี จะมีปัญหามากสุดที่จะเดาได้เพราะเหตุการณ์แบบนี้ก็มีให้เห็นมาแล้ว ในที่สุด นายบรรหาร ก็ต้องลงมาสยบศึก ชิงเก้าอี้ นายก อบจ.สุพรรณบุรี ระหว่างบุญชู จันทร์สุวรรณ นายก อบจ. กับ นพดล มาตรศรี รองนายก อบจ. ที่อึมครึมมานานพอสมควร โดยที่ต่างคนก็หาเสียงกันมาตลอด ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีสนับสนุนด้วยกันทั้งคู่ ทั้งนายบุญชูและนายนพดล ต่างก็เป็นคนสุพรรณบุรี ฐานะทางด้านสังคมและการเงินก็ไม่ทิ้งกัน และทั้งคู่ยังเป็นลูกอดีตกำนันชื่อดังของจังหวัดสุพรรณบุรี คือนายดิน จันทร์สุวรรณ และ นายเคี้ยง มาตรศรี ซึ่งสนิทสนมกันดีกับนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย มีแต่นายบุญชูและนายนพดล เท่านั้นที่มารู้จักเมื่อตอนลงสมัคร สมาชิก อบจ. 4 ปี ที่แล้ว เนื่องจากทั้งคู่อยู่ทีมเดียวกัน ณ.จุดนี้วันเปลี่ยน เวลาเปลี่ยน อะไรก็ย่อมจะเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนายบุญชู และนายนพดล ต่างเป็นคนของพรรคชาติไทยทั้งคู่ งานนี้ถ้าผู้ใหญ่ที่มีบารมีไม่ลงมาอย่าศึก รับรองสู้กันสนุกแน่ และหลังมีเลือกตั้ง สส. ที่ผ่านมา นายนพดล ได้รับการร้องขอจากผู้ใหญ่ให้ไปลง สว. ส่วน อบจ.ปล่อยให้บุญชู แต่นายนพดล บอกกับผู้ใหญ่ไปว่าตำแหน่ง สว.ตนเองยังเด็กเกินไปข้อสำคัญไม่อยากเปิดศึกให้แก่ตัวเอง เพราะทุกคนต่างมีพระคุณ ตนเองจะขออยู่เฉยๆไม่อยากให้ผู้ใหญ่ลำบากใจ ทำให้ศึกครั้งนี้ทุกฝ่ายเบาใจงานนี้ถ้าหาก นพดล ไม่ยอม บอกได้เลยว่าหญ้าแพรกต้องแหลกราน การเมืองภาย จ.สุพรรณบุรี จะต้องแตกเป็นเสี่ยงๆ ในเมื่อผู้ใหญ่ได้ลงมาดู ทำให้การเมืองระดับท้องถิ่นเบาลงก็จริง แต่การสมานท์ฉันทุกฝ่ายก็ต้องมีทางด้าน นายบุญชู บอกว่าก็ต้องขอบคุณ นพดล ที่ให้โอกาสได้เป็นนายกอีกครั้งตำแหน่งต่างคงต้องมีผู้ใหญ่ช่วยดูแลด้วย ก็อยากให้ทุกคนมาช่วยกันทำงานที่ผ่านมาตนเองได้เห็นอะไรเยอะแยะมาก อย่างไหนที่ไม่ดีก็พร้อมที่จะปรับปรุง คนเราไม่มีใครดี 100% นี่แหละคือสังคมของคนในท้องถิ่น ถ้ามีความรักความสามัคคี มีความจริงใจซึ่งกันและกันความแตกแยกก็คงจะไม่เกิดขึ้นที่ผ่านมาก็ขอให้ถือว่าเป็นบทเรียนก็แล้วกัน http://www.nationweekend.com/2008/01/29/N011_114_news.php?newsid=9406 จากคุณ : ไล่ฮก - [ 7 มิ.ย. 52 07:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ปัญญาเอาไว้คิด...แต่อย่าหัวแม่.....ตรี....นมาคิด  ทุกวันนี้ก็เลยอนาจ...สงสารนักบอลมากครับบบบบบ จากคุณ : daxter - [ 7 มิ.ย. 52 10:34:36 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่าพวกนี้ชอบอะไรที่ดังฉาบฉวย ส่วนประเภทต้องดูแลกันยาวๆแบบฟุตบอลอาชีพนี่คงไม่ชอบทำเท่าไหร่ ที่ทำกันอยู่นี่ก็เพราะจำใจทำ ถ้ายุบได้หมดเดี๋ยวนี้คงทำไปแล้ว จากคุณ : vision - [ 7 มิ.ย. 52 11:20:11 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อยู่ในสภาก็เป็นปลาไหลเกาะพรรคอื่นเพื่อได้เป็นรัฐบาล ไร้อุดมการณ์สิ้นดี มาในวงการฟุตบอลพรรคพวกก็รุุมทึ้งรุทกินงบประจำทีมของชาวสุพรรณอีก เงินเดือนที่ค้างมาหลายๆเดือนน่ะ จริงหรือ ที่ว่าไม่มี ....ค่าตั๋วเวลาแข่งในบ้านสนามกีฬาจังหวัดสุพรรณน่ะไปไหนกันหมด แฟนบอลเขาเข้าไปดูกันน่าจะหลักพันแทบทุกนัด อย่างน้อยถ้าไอ้พวกผู้บริหารมันบริสุทธิ์ใจและมีความรับผิดชอบพอ น่าจะพอผันเงินตรงนี้ไปเป็นเบี้ยเลี้ยงให้นักเตะสุพรรณไปก่อนก็ยังได้ ....แต่นี่ดันไม่ให้เงินเขาสักบาทมาตั้งหลายเดือน นักฟุตบอลก็รักทีม มีสปิริตตั้งใจเล่นจนทีมขึ้นมาอยู่หัวตาราง ทั้งๆที่ไม่ได้เงินมาหลายเดือน ท้ายสุดดันเสร่ิอไปยกเลิกสัญญานักเตะซะอีก แถมไม่พอใจแฟนบอลที่ออกมาประท้วง จะไปปลดแฟนบอลเขาด้วยพฤติกรรมเกรียนๆซะงั้น ...... เอาเรื่องง่ายก่อนเลยว่าไอ้พวกเปรตพวกนี้มันจะแจงได้ไหมว่ารายได้จากค่าตั๋วน่ะได้ครั้งละกี่บาท แล้วเอาเงินส่วนนี้ไปทำอะไรบ้าง? จากคุณ : C h u N g - [ 7 มิ.ย. 52 15:57:18 ]