|
--- ในนามของข้า Milan Baros ---
มิลลี่ มิลลี่ เสียงนั้นก้องอยู่ในหัวผม...วันแล้ววันเล่า
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อฤดูร้อนของปี 2001 พร้อมๆกับหมายเลข 5 ที่ปักอยู่บนหลังของผม น่าตื่นเต้นไม่น้อยกับการที่ชายวัย 20 อย่างผมต้องออกมาดูโลก ณ.ประเทศที่ผมไม่คุ้นเคยมาก่อน ต้องขอบคุณแพทริคที่ช่วยผมในหลายๆเรื่อง รวมทั้งนิโก้ที่แนะนำเทคนิคต่างๆแก่ผมมากมาย
13 มีนาคม 2002 ไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะได้มายืนอยู่ณ.สรวงสวรรค์ของฟุตบอลแห่งนี้ คัมป์นู,บาร์เซโลนา
ฤดูกาลแรกของผมกับทีมในปี 2002-2003 ก็ไม่เลวนัก ประตูแรกของผมเกิดขึ้นในเกมกับโบลตัน ผมจบซีซั่นนี้ด้วย 12 ประตู กับการลงเล่น 40 นัด
ฤดูกาล 2003 2004 มันเป็นฤดูกาลแห่งฝันร้ายของผม ผมขาหักในเกมกับแบล็คเบิร์น 6 เดือนกับการนั่งๆนอนๆและกายภาพบำบัด หกเดือนกับการลาจากกับเพื่อนที่ดีที่สุดของผม หลังจากจบฤดูกาลนี้มิสเตอร์อุลลิเยห์ถูกแทนที่ด้วยเจ้านายคนใหม่ เจ้านายผู้เงียบขรึม ราฟาเอล เบนิเตซ หลังการมาของเจ้านาย เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ไมเคิลและเอมิลถูกขายทิ้ง มีข่าวลือว่าเจ้านายจะขายผมด้วย แต่หลังจากยูโร 2004 เจ้านายก็ตัดสินใจเก็บผมไว้ก่อน แน่นอนเป็นคุณ ก็คงอยากให้ดาวยิงสูงสุดของยูโร 2004 อยู่กับทีมต่อไป
ฤดูกาลใหม่เริ่มขึ้นพร้อมกับคู่หูคนใหม่ของผมฌิบริล ซิสเซ่ ฌิบริลผู้มักจะเรียกเสียงหัวเราะให้กับผู้คนรอบข้างเสมอ มีเสียงเล่าอ้างมากมายว่าฌิบริลกับผมเล่นไม่เข้าขากัน นั่นพลอยทำให้พวกเขาคิดไปเองว่าเราไม่ถูกกันด้วย เหตุเพราะต่างคนต่างเห็นแก่ตัว ไม่ยอมจ่ายบอลให้กันและกัน...ใครจะสน ในเมื่อเราทั้งคู่ต่างก็พยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด แต่น่าเสียดายที่ฌิบริลต้องเผชิญกับฝันร้ายแบบที่ผมเคยเจอมาก่อน การเสียฌิบริลไป ทำให้ความคาดหวังในการทำประตูมากดทับอยู่กับผม กับสไตล์การเล่นของเจ้านายที่มักจะใช้กองหน้าตัวเดียว ทำให้ผมมักจะโดดเดี่ยวในแดนหน้าเสมอ เมื่อคุณเงยหน้ามองไปข้างหน้าแล้วเห็นแต่กองหลังฝ่ายตรงข้าม เป็นคุณ คุณจะทำยังไง เมื่อมองไปข้างกายผมเห็นแต่กองหลังฝ่ายตรงข้าม ผมต้องทำเช่นไร คุณคิดว่าผมจะจ่ายคืนหลังงั้นเหรอ ด้วยเหตุนี้ผู้คนมากมายรวมทั้งแฟนบอลของเราเอง มักจะกล่าวหาผมว่าเป็น " ไอ้จอมเห็นแก่ตัว " ก็ฟังดูไม่เลวนัก สำหรับคนอย่างผม ที่ผมทำได้ก็คือก้มหน้าก้มตายิงประตูให้ได้มากที่สุด เผื่อว่าพวกเขาจะเปลี่ยนใจบ้าง
จากคุณ :
Black Operation
- [
21 มิ.ย. 52 04:09:37
]
|
|
|
|
|