ความคิดเห็นที่ 1 ไดอารี่ชีสซี่ ตะลุยแดนมังกร 22nd Jun เริ่มจะไม่มีอะไรเล่าแล้วนะเนี่ย... เช้านี้ต้องตื่นเช้าหน่อย มาอุ่นกับข้าวที่เหลือจากเมื่อวานมากินตอนเช้านี้ กินเสร็จก็ต่อด้วยนมอีกกล่อง กล้วยอีกลูก เอิ๊กกส์ จะเยอะไปมั้ยเนี่ย แหม่...ก็กินข้าวไปแค่นิดเดียวเอง กินเสร็จก็ได้เวลาไปทำงาน...ยุ่งเหมือนเดิม และมีแววจะยุ่งมากกว่านี้อีก มีเวลาเข้ากระทู้อู้ไปได้แว็ปเดียวเอง T-T พอซักตอนบ่ายสี่ พี่ปุ้ย WM เว็ป thaiinchina ที่เป็นนักเรียนไทยในเซินเจิ้น ก็โทรมาคุยว่า "พอดีพี่มาหาที่อ่านหนังสือแถวๆวอลล์มาร์ท เดี๋ยวยังไงเย็นนี้มากินข้าวด้วยกันละกันนะ" "โอเชๆ เจอกันตอนทุ่มนึงน้า" พอเลิกงานปุ๊บก็ดิ่งกลับบ้านเลย ไม่ได้เดินเตร็ดเตร่แถวตลาด รถดันติดชะมัดเลยด้วยวันนี้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ระหว่างที่รถติดไฟแดงก่อนถึงแยกวอลล์มาร์ท ก็เห็นอิเจ๊ใจร้ายคนนึง ผัวแกขี่มอไซต์มา ข้างหน้ามีน้องหมาตัวเล็กๆอยู่ด้วย เอาเชือกเกี่ยวกับคอจักรยาน เพื่อไม่ให้มันกระโดด (อันนี้เคยทำ อิอิ) แล้วก็ให้น้องหมายืนบนตะกร้า แล้วน้องหมามันคงดื้ออ่ะ จะกระโดดลงหล่ะมั้ง (อันนี้เดาล้วนๆ ฮ่าฮ่า) เจ๊แกก็ลงจากซ้อนท้าย เดินมาเอามือตีน้องหมาป๊าบๆๆๆๆ อย่างแรงอ่ะ ตีไปเยอะด้วย เกือบยี่สิบทีได้มั้ง เท่านั้นไม่พอ ไม่รู้เจ๊แกโมโหอะไรมา ดึงหูน้องหมา ดึงเหมือนจับกระต่ายอ่ะ น้องหมาตัวลอยเลย แล้วก็ตีซ้ำอีก ยังไม่พอฮะพี่ท้อง สงสัยเจ๊แกจะวัยทอง แกเหวี่ยงน้องหมาลงมาจากตะกร้า ทั้งๆที่เชือกที่เกี่ยวคอมันผูกกับคอจักรยานอยู่ น้องหมาโดนเชือกรั้งคอ ห้อยต่องแต่งๆ อย่างงั้นอ่ะ แป้บนึงเลย แล้วเจ๊แกก็เอาน้องหมาขึ้นจักรยาน ผัวแกก็ขี่ต่อไป เฮ้อ..สงสัยอีกไม่นาน น้องหมาตัวนั้นคงได้ไปเป็นเนื้อย่างบ้านเจ๊คนนั้นอ่ะ เอิ๊กกกส์ ผู้ชายที่นั่งข้างหน้าเราคงได้ยินเสียงเราพูดกะพี่ เพราะพอดีเรียกพี่เค้าให้หันมาดู ผู้ชายคนนั้นก็บ่นๆๆอะไรไม่รู้ สงสัยด่าเจ๊คนนั้นเหมือนกัน ฮ่าฮ่า ไปถึงวอลล์มาร์ทก็ทุ่มกว่าๆ ละ ก็นั่งคุยกันที่สตาร์บัคค์แป้บนึง เพราะพี่เค้ามาอ่านหนังสือร้านนี้ เค้าบอกมันนั่งได้นานดี เอิ๊กกส์ (เท่าที่เห็น ที่เซินเจิ้นนี่มีแต่ร้านสตาร์บัคค์ที่เป็นร้านกาแฟสดร้านเดียวเลยก็ว่าได้ ที่มียี่ห้อนะ แต่จริงๆร้านกาแฟสดหายากมากตามข้างทาง ไอ้เราบางทีก็อยากกิน เลยจำต้องอดไว้ก่อน ก็สตาร์บัคค์มานแพงงงอ่ะ แถมสตาร์บัคค์ที่นี่ตะละร้านก็ใหญ่ มีโต๊ะเยอะแยะ แล้วคนก็เยอะด้วยนะ เพราะเค้าบอกว่า ราคากาแฟ มันพอกับราคาข้าวเวลามากินข้าวข้างนอก คนเค้าก็เลยไม่ค่อยรู้สึกแตกต่างเท่าไหร่เวลามากิน (กาแฟแก้วนึง กะข้าวชามนึง ตรูรู้สึกว่าต่างนะ เอิ๊กกส์)) พี่เค้าบอกว่ารอเพื่อนเค้าอีกแป้บ อยู่ทำงานแถวๆนี้ แล้วก็อยู่แถวๆนี้เหมือนกัน แต่ปรากฎว่า พี่คนนั้นเค้าดันติดทำโอทีกระทันหัน ก็เลยไม่ได้มาเจอเลย ก็ไปหาร้านนั่งกินข้าวกัน 3 คน ก็เป็นร้านในวอลล์มาร์ทนั่นแหละ คล้ายๆ เชสเตอร์กิลล์ เคเอฟซี สั่งข้าวที่เคาเตอร์แล้วก็นั่งรอเค้ามาเสิร์ฟ หมดไป 15 หยวนเลยมื้อนี้ กินข้าวในห้าง ราคานี้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาๆ แล้วก็ไปเดินซื้อของในวอลล์มาร์ทกันต่ออีกแป้บ ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน อาบน้ำ นอน จบข่าว... จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 16:08:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไดอารี่ชีสซี่ ตะลุยแดนมังกร 23rd Jun วันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก ชีวิตดำเนินไปแบบเดิมๆ ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น ตื่นเช้า อาบน้ำ ไปทำงาน อ้อ เช้านี้กินพายไข่ที่ซื้อมาจากวอลมาร์ทเมื่อคืน เห็นพี่นักเรียนไทยเค้าบอกว่าพายไข่ที่นี่อร่อยใช้ได้ ก็เลยซื้อมาลองซะหน่อย อืม...มันก็อร่อยกว่าที่เคยซื้อกินอีกร้านแถวๆบ้านอยู่เหมือนกัน แล้วก็ไปทำงานตามปกติ เลิกงานตามปกติ ได้เวลาคิดหนักกับอาหารเย็นอีกแล้ว จะกินอะไรดีน้อ... แล้วก็ไปจบที่ร้านบะหมี่ ร้านใหม่ กะจะเดินไล่ลองกินแม่มทุกร้านในตลาดเลยเนี่ย หุหุ พอเข้าไปปุ๊บก็อีหร็อบเดิม อ่านเมนูไม่ออก ชี้รูปเอา แล้วเราก็สั่งบะหมี่แห้งไป ส่วนพี่อีกคนสั่งบะหมี่น้ำไป แล้วคนรับออเดอร์ก็มีถามมาอีก ถามอะไรก็ไม่รู้ฟังไม่ออก เงี่ยหูฟังกันอยู่นาน จนได้ความว่า จะเอาชามเล็กหรือชามใหญ่ เออ..ที่นี่ดีแฮะ มีให้เลือกด้วย ก็เลยเอาชามเล็กมา แค่ชามเล็กตรูก็อิ่มจะแย่ละ บ้านเมืองนี้ขายข้าวจานนึง ถ้าเทียบกับปริมาณที่คนไทยกินแล้ว สามารถแบ่งได้ 2 ชามเลย แล้วบะหมี่น้ำก็มาเสิร์ฟก่อน ปรากฎว่าเป็นบะหมี่เนื้อวัว พี่เค้าไม่กินเนื้อวัวซะด้วย เลยเป็นอันต้องสลับกับบะหมี่แห้งของเราไป มื้อนี้หมดไปชามละ 6 หยวน กินเสร็จก็ไปหาน้ำมากระแทกปาก เอ้ย..ล้างปากซะหน่อย แถวนี้มีแต่ร้านคล้ายๆ ไท่อี้บ้านเราอ่ะ (รู้จักกันมะ จำชื่อไม่ค่อยได้เหมือนกัน ร้านที่มันขายชานมไข่มุขอ่ะ) มีน้ำผลไม้ น้ำชานม ที่เอาผงๆชงเอาอ่ะ แต่ไม่ได้อยากกินแบบนี้อ่ะ เดินผ่านร้านแล้วร้านเล่า ก็ไปเจอร้านอะไรก็ไม่รู้ เป็นตู้แบบกดๆ 3 ตู้ สีแต่ละตู้ต่างกันนิดหน่อย ด้วยความอยากลองของ แต่บอกไม่ถูก เลยเดินเข้าไปชี้เลย เอาอันเนี้ยะๆๆ ชิมๆแล้ว มันคือน้ำถั่วนี่เอง รสชาติก็โอเคดี ก็เลยลองสั่งอีกรสนึง อยากรู้ว่ามันต่างกันยังไง รู้สึกจะต่างกันที่วัตถุดิบอ่ะ ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วดำ แต่ด้วยความอยากรู้(ของพี่เค้า)ว่าจริงๆแล้วมันเป็นน้ำอะไรกันแน่ ก็เลยเปิดตำราถามกันเลยทีเดียว เปิดคำว่าถั่ว คนขายก็บอกไม่ใช่คำนี้ๆ เป็นคำนี้ๆ แล้วเค้าก็ชี้คำที่เขียนลงบนถ้วยที่ใส่น้ำอ่ะ "อืม...ชี้มา ตรูอ่านไม่ออกหรอก เอิ๊กกส์" คนขายน้ำร้านนี้น่ารักดี คุยยิ้มแย้มมากมาย ถึงจะพูดกันคนละภาษา ถามอะไรไป เค้าก็พยายามตอบให้ แล้วก็ได้เวลาดิ่งตรงกลับบ้าน เพื่อจะได้เตรียมตัวไปฮ่องกงในวันพรุ่งนี้ต่อไป... จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 16:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไดอารี่ชีสซี่ ตะลุยแดนมังกร 24th Jun เท่าที่วางแพลนของวันนี้ไว้ ก็มีตามนี้ ตื่นตี 5 อาบน้ำอาบท่ากินข้าว กว่าจะได้ออกจากบ้านก็หกโมง โบกแท็กซี่ไปถึงท่ารถฮวงกัง ก็น่าจะประมาณเกือบ 7 โมง นั่งรถจากท่าฮวงกังไปหวั่นจ๋าย ฮ่องกง ก็น่าจะประมาณ 8 โมงครึ่ง เผื่อเวลาทำเอกสารเข้าออกอีก พอไปถึง ก็ต้องไปเช็คอินที่โรงแรมก่อน เพราะต้องรีบเอาพาสปอร์ตมาใช้ติดต่อต่ออายุวีซ่า ซึ่งต้องติดต่อให้เสร็จก่อนเที่ยงวันนี้ มาดูกันว่า จะทำได้ตามแผนที่วางไว้มั้ย อิอิ เริ่มเลย เช้ามานาฬิกาปลุกตอนตี 5 ตื่นนะ...แต่นอนต่อ ลุกมาอาบน้ำอีกทีก็ตี 5ครึ่งแระ อาบน้ำอาบท่า จนแต่งตัวจะเสร็จแระ พี่เค้ายังไม่ตื่นเลย T-T ตรูเลยต้องเดินไปเคาะประตูปลุก ไม่งั้นได้สายแน่ๆ ฮะ เหมือนกรรมจะตามทันยังไงก็ไม่รู้ ปกติอยู่เมืองไทย โดนน้องปลุกบวกด่าประจำ เพราะชอบอู้นอนต่อ มาที่นี่ ต้องมาปลุกคนอื่นซะงั้นเลยตรู... สรุป..ได้ออกจากบ้านสายไปครึ่งชั่วโมงกว่าๆ รีบออกจากบ้าน แล้วก็เรียกแท็กซี่ดิ่งไปที่ท่ารถฮวงกังเลย คราวนี้เตี๊ยมโพยมาพร้อม ให้ HR ที่ออฟฟิศเขียนเป็นภาษาจีนมาเลย ว่าไปฮวงกังต้องบอกยังไง ไม่ต้องมานั่งใบ้ให้แท็กซี่อีก หุหุ แท็กซี่ที่นี่สตาร์ทตั้ง 12.5 หยวนแหนะ ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงท่ารถฮวงกัง หมดค่าแท็กซี่ไป 54 หยวน แค่แป็บเดียวเองนะนั่น ค่าแท็กซี่แพงอิ๊บอ๋ายเลยอ่ะ แต่ไม่ต้องแคร์ เพราะบริษัทฯออก พอถึงท่ารถก็ดิ่งไปทำเอกสารขาออก ผ่าน ตม. ปุ๊บ ก็ไปซื้อตั๋วรถ หมดไปอีกคนละ 45 หยวน มันจะมีรถหลายสายอยู่ คุณอยากนั่งไปลงที่ไหนของฮ่องกง ก็มีให้เลือกเลย ราคาค่ารถก็จะต่างกัน พอขึ้นรถปุ๊บ ไอ้เราก็กะหลับยาว แต่ที่ไหนได้ นั่งไปได้ 10 นาที ก็ถึงด่านฮ่องกงแล้ว ต้องลงรถเพื่อไปทำเรื่องขาเข้า ผ่าน ตม.อีกรอบ พอผ่าน ตม.มาปุ๊บ ก็ต้องไปขึ้นรถอีกคันจากฝั่งฮ่องกง คราวนี้แหละ ได้นั่งยาวซะที นั่งไปได้ประมาณ 45 นาที ก็ได้ลงรถเหยียบแผ่นดินแดนมังกรน้อยแล้ว จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 16:17:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ปาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เขียดตาปาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เอิ๊กกก คิดถึงจัง ตกลงๆไปขัดผิวกะทำตาชั้นเดียวมายังจ๊ะ จากคุณ : หมุ่ยติ๊ก - [ 28 มิ.ย. 52 16:23:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หวัดดีป๋า...จะทำทำไมหล่ะนั่น หน้าตาแบบนี้อ่ะดีแล้ว คนจะได้ไม่พูดจีนใส่ แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 52 16:32:16 แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 52 16:29:11 จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 16:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โดนออโต้ดีลีทไป 3 รอบแระ T-T ตอนที่ไปถึงนั่นก็ 8 โมงครึ่งได้แล้วมั้ง แล้วก็เริ่มภารกิจใหม่ เรียกแท็กซี่ไปโรงแรม เพื่อรีบไปเช็คอินก่อน แต่ๆๆ...ไม่ได้แลกเงิน HK มาจาก ตม.เลยเว้ย เอาตังค์ที่ไหนใช้หล่ะเนี่ย แล้วก็เหลือบไปเห็นบู๊ทแลกเงิน แต่ๆๆ...มันยังไม่เปิดซักกะเจ้า เลยเดินไปถามคนขายหนังสือพิมพ์แถวนั้น เค้าบอกว่าเปิด 9 โมง "โอ้ว...บร๊ะเจ้า ตรูต้องเดินแกร่วรอจนถึง 9 โมงหรอเนี่ยยย" แล้วก็เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ ที่สังเกตุเห็นอย่างง่ายดาย ทุกมุมถนน ต้องมีเซเว่น หรือไม่ก็ร้านสะดวกซื้ออีกยี่ห้อ ซึ่งระยะทางแต่ละแยกนี่ ก็ไม่ได้ไกลกันเล้ยยยย แมคโดนัลล์ก็มีเยอะมากกก เดินไปเดินมาก็ไปเจอแบงค์ ก็เลยเกิดอาการอยากรู้เรทเงิน แบงค์ที่นี่ก็ดันเปิด 9 โมงอีก ทำงานกันสบายมากมายเลยว่ะ ก็เลยรอๆจนแบงค์เปิด 9 โมง ก็เดินเข้าไปถาม แต่เค้าบอกเรทมาแปลกๆ เรทอะไรวะ เป็นร้อยๆเลย สงสัยเป็นเรทแลกทีละ 100 เหรียญ แต่จนถึงตอนนี้ ตรูก็ยังมึนกับเรท Buying Selling ของ HK ไม่รู้มันจะเหมือนของเกาหลีรึป่าว ที่มันจะสลับกับบ้านเรา (ใครรู้วานช่วยบอก เผื่ออนาคตต้องไปอีก) แต่ถ้าแลกแบงค์ ถ้าไม่มีบัตรเครดิทของแบงค์นั้นๆ ต้องเสียค่าธรรมเนียมเวลาแลกด้วย ก็เลยตัดสินใจมาแลกบู๊ทข้างนอกเนี่ยแหละ เรทคงไม่ต่างกันมาก (มั้ง) แต่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แลกเสร็จปุ๊บก็ไปหาแท็กซี่เลย เพราะต้องรีบไปโรงแรมแล้ว ขึ้นแท็กซี่ปุ๊บ ก็ยื่นที่อยู่โรงแรมให้ แท็กซี่มันก็โบกมือๆ ประมาณว่าไม่ไป แล้วก็ชี้ไปข้างหน้า แท็กซี่คันนี้ดันพูดอังกฤษไม่ได้อีก ไอ้เราก็เลยสันนิษฐานว่า โรงแรมมันคงอยู่แถวนี้แหละ มันเลยไม่ไป แล้วเอาไงหล่ะคราวนี้ จะเริ่มงมยังไงดี เอานี่แหละ แม่ค้าข้างทาง เจ๊ร้านขายอาหาร พอพูดแค่ว่า "ซอรี่ๆ ซอรี่ๆ เนกะๆ เนกะๆ พร้อมกับเต้นท่าซุปเปอร์จูเนียร์" เย้ย...มะช่าย พอพูดว่าซอรี่ปุ๊บ เจ๊แกโบกมือไล่เลย กรรมเวรของตรูจริงๆ เลยเดินไปอีกนิดหน่อย เป็นผู้ชายผู้หญิงยืนอยู่กันสองคน ดูท่าทางภายนอก การแต่งตัว น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่อะไรซักอย่าง สองคนนี้ค่อยยังชั่วหน่อย ให้ความช่วยเหลือดี เค้าก็ชี้ชื่อถนนให้ดู มันอยู่ถัดจากที่ยืนไปอีกบล็อคนึงเอง แล้วเดินเลี้ยวซ้ายไปเรื่อยๆ ตรงที่ยืนอยู่นั้น มันเป็นถนน Jeffe ร้อยกว่าๆ แต่โรงแรมของเรา Jeffe 300 เราต้องเดินเลาะตามถนนไปเรื่อยๆ ประมาณ 4-5 บล็อคอ่ะ กว่าจะถึงโรงแรม เล่นทำเอาเหงื่อตกเลย โน๊คบุ๊คก็หนัก หลังแทบหัก ฝนก็จะตก เดินแบบไม่คิดชีวิต พอไปถึงโรงแรมปุ๊บ นึกว่าจะสบายแล้ว...ที่ไหนได้ T-T Reception บอกว่า "ห้องไม่ได้บุ๊คไว้ เช็คอินไม่ได้ค่ะ..." "อะไรว้า...แล้วนี่ใบเสร็จอะไรอ่ะเนี่ย จ่ายตังค์แล้วด้วยนะ" เค้าก็บอกว่า "มันเป็นใบเสร็จของเอเยนต์ ไม่ใช่ใบเสร็จโรงแรม" "เฮ้อ..ชีวิตตรู อะไรวะเนี่ยยยย ยิ่งรีบๆอยู่" แล้วพอจะให้เค้าติดต่อเอเยนต์ตามใบเสร็จ ก็ไม่ได้อีก เพราะเป็นเบอร์ต่างประเทศ เค้าโทรให้ไม่ได้ แต่เรานึกออกว่า HR เคยให้เบอร์โทรเอเยนต์ที่นี่มา เพราะถ้าติดปัญหาอะไรให้ติดต่อคนนี้ อ่ะ..ไอ้เราก็ให้เบอร์เค้าไป ให้ช่วยโทรติดต่อให้หน่อย ปรากฎว่า...ไม่มีคนรับสายยยอีก อืมๆๆ อะไรกานเนี่ย... โทรศัพท์เราก็ดันโทรไปเซินเจิ้นไม่ได้อีก เห็นพี่บางคนเค้าบอกโทรได้ ทำไมตรูโทรไม่ได้วะ....T-T วิธีสุดท้ายคือ หน้าด้านขอเค้าใช้เน็ตหน่อย จะได้ส่งเมล์บอก HR พนักงานเค้าก็ใจดีมากเลย ให้ใช้เน็ตด้วย เหมือนโชคจะเข้าข้างนิดหน่อย เปิดคอมปุ๊บ "เห้ย...ทำไม communicator มันออนไลน์ได้วะ" ปกติเวลาอยู่กรุงเทพฯ แล้วเอาคอมมาทำงานที่บ้าน มันไม่เคยออนได้เลย สงสัยไอทีที่ออฟฟิศเซ็ทให้ใหม่ เลยแชทคุยกับ HR ได้เลย เร็วกว่ารับส่งเมล์เยอะ พอทักไปปุ๊บ คำแรกเลยที่ HR ทักมา "ทำไมยังไม่ไปฮ่องกงอีก..." "กรูมาถึงแล้วว้อยยยยยย นึกว่ากรูอู้รึไงห๊ะ..." คุยไปซักพัก เอเยนต์ก็โทรมาที่โรงแรม บุ๊คห้องแล้วก็บอกว่าขอเช็คอินเร็วกว่าปกติหน่อย เพราะปกติเค้าจะให้เช็คอินตอนเที่ยงกัน พอขึ้นห้องได้ปุ๊บ โยนข้าวของที่ไม่ใช่ออกจากกระเป๋า แล้วก็รีบออกจากโรงแรมดิ่งไปที่ต่อวีซ่าเลย ป.ล. รูปนี่ถ่ายอีกวันนึงนะ สังเกตุได้ว่าเตียงยับๆ เพราะผ่านการนอนมาแล้ว เพราะวันแรกไม่มีเวลาแม้แต่สำรวจห้อง สำรวจวิวรอบห้องเลย จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 16:45:00 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คัดกรองคำสุภาพสุดๆแล้วนะฮะ WM -*- ส่วนรูปนี้เป็นวิวที่ห้องพัก เป็น Bay view ซะด้วย สังเกตุได้ว่า ตรงข้ามเป็น Revenue of stars เป็นที่ๆเอาไว้ยืนดูการแสดง Symphony of light วิวนี่ก็เพิ่งมาเห็นเช้าอีกวันเหมือนกัน เพราะอะไร ติดตามตอนต่อไป จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 16:49:08 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โบกแท็กซี่แถวโรงแรมเพื่อที่จะไปที่ต่อวีซ่า แท็กซี่ที่นี่สตาร์ทที่ 18 เหรียญ พอมาถึงที่ปุ๊บ มิเตอร์ยังไม่กระดิกเลย ได้เราก็นั่งงง ทำไมมันขับเป็นวงกลมๆวะ มันก็ห่างกับโรงแรมตรูไม่เท่าไหร่เองนี่หว่า เดินมาเองยังได้เลย เสียค่าแท็กซี่ไปฟรีๆ แต่ช่างมัน เงินบริษัท แท็กซี่บอกว่าให้เดินเลี้ยวซ้ายไป โอเช..พอลงรถ ก็เดินเลี้ยวซ้าย เห็นชื่อตึกแระ ชื่อตรงกันๆกับโพย แล้วมันจะขึ้นไปที่ต่อวีซ่าชั้น 7 ยังไงหล่ะเนี่ย เพราะตึกนั้นมันเป็นเหมือนห้างอ่ะ เดินขึ้นลงบันไดเลื่อนอยู่สองสามรอบ จนเจอลิฟท์อยู่ตัว พอเข้าไปปุ๊บ อ่าว..ทำไมมันไปแค่ชั้น 5 อ่ะ แถมเป็นภัตรคารอีก เลยลงมาชั้น 1 ใหม่ แล้วเดินหาทางเข้าตึกใหม่ จนไปเจอทางเข้าอีกทาง "เออ...ตึกนี้ชัวร์ มั่นใจมากเลยตรู..." ขึ้นชั้น 7 ไปปุ๊บ "ไหนวะ...มีแต่ออฟฟิศแบงค์..." เวรแระ ไอ้ที่ต่อวีซ่ามันอยู่ไหนเนี่ยยยย... พอลงมาชั้น 1 ก็เลยถามประชาสัมพันธ์ เค้าบอกว่าเดินตรงไปแล้วเลี้ยวขวาก็จะเจอ แล้วก็ขึ้นไปชั้น 7 ได้เลย พอเดินมา ไอ้ที่เลี้ยวขวามันก็ห้างเมื่อกี้ที่ตรูขึ้นลงๆ ไม่ใช่หรอ T-T เลยตัดสินใจเดินไปตรงที่แท็กซี่ปล่อยลงใหม่ "Ciaเอ้ย...ประตูทางขึ้นมันอยู่ตรงที่มันจอดเล้ยยยย ตรูไปเดินไหนมาเนี่ย..." แล้วที่พนักงานประชาสัมพันธ์คนเมื่อกี้บอกก็ถูกแล้วแหละ ต้องเดินมาสุดทางก่อนถึงจะเลี้ยวขวาแล้วก็จะเจอ แม่มโง่จริงๆเลยตรู... แล้วก็ใช้เวลายื่นเอกสารไม่นานเท่าไหร่ เพราะเอกสารได้กรอกมาจากออฟฟิศเรียบร้อยแล้ว ภารกิจแรลลี่เก็บอาร์ซีก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ก่อนเวลาเดทไลน์ครึ่งชั่วโมง มันอารมณ์เล่นแรลลี่ตามหาอาร์ซีจริงๆนะ ตั้งแต่เช้ายันเที่ยง ทำเวลากันสุดๆ และแล้วก็มีเวลาส่วนตัวซักที อิอิ แพลนช่วงบ่ายที่วางไว้ก็มีตามนี้ ไปวัดเจ้าแม่กวนอิมที่ Repulse Bay แล้วก็ต่อด้วย Avenue of stars เพื่อไปดู Symphony of light เริ่มด้วย ไปหาอะไรกินก่อนหิวจะตายห่าน ใช้พลังงานไปเยอะมากเมื่อเช้า แล้วก็แวะร้านนึง ขายทั้งโจ๊ก ข้าวหน้าเป็ด หมูแดง อยู่ข้างๆร้านอิเจ๊ที่ถามทางแล้วโดนไล่เมื่อเช้า ไหนๆมาฮ่องกงแล้ว ต้องลองโจ๊กซะหน่อย ก็สั่งโจ๊กปลาไป พร้อมปลาท่องโก๋ตัวยาวๆ อ่านมาจากห้องบลูว่า ต้องกินอันยาวๆเท่านั้น ส่วนพี่เค้าสั่งข้าวหมูแดง แต่ได้มาเป็นข้าวหมูกรอบ เอิ๊กกส์ มื้อนี้หมดไป 24 เหรียญ (ขืนอยู่นี่หลายวัน ตรูจนแน่ๆ กินกันมื้อละร้อยบาทอย่างต่ำ) จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 16:52:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กินเสร็จก็ออกเดินทางได้ หา MTR ก่อนเพื่อจะไปลงที่ MTR สถานี Central ไอ้เราก็เห็นป้ายแล้วแหละว่าตรงที่ยืนมันเป็น Wanchai Station แต่ไม่แน่ใจว่ามันเป็นสถานีรถไฟใต้ดินรึป่าว เพราะมันไม่มีป้ายว่า MTR เลย พี่เค้าเลยถามคนแถวนั้นว่าจะไป Central Station ไปไง เค้าก็บอกมาว่าเดินขึ้นไปบนสะพานลอย แล้วเดินตรงไปนั่นอ่ะ ไอ้เราก็งง ทำไมเค้าให้เดินขึ้นวะ ทำไมไม่เดินลงว้า แต่ก็เดินตามที่เค้าบอกไป เดินไปจนสุด เจอแต่ Central Plaza ซึ่งมันไม่ใช่สถานีรถไฟฟ้าอ่ะ กรรมเวร เสียเวลาจริงๆ มันเป็นตึกออฟฟิศชื่อ Central Plaza สงสัยเค้าจะเข้าใจผิด เลยตัดสินใจเดินงมเองเลยดีกว่า ข้อมูลก็มีมา ระหว่างที่เดินออกจากตึกนั้น ก็มีป้ายบอกว่า MTR อ่ะ..เดินตามป้ายไป แล้วมันก็ไปสุดอิตรงที่เรายืนตอนแรกอ่ะแหละ ที่มันบอกว่า Wanchai Station เดินไปเดินมา สนุกจริงๆตรู มุ่งตรงไปสถานี Central ถึงปุ๊บก็เดินออกตามข้อมูลที่เก็บมา เดินไปใต้ตึก Exchange เพื่อไปต่อรถเมล์สาย 6, 6A, 6X, 260 เพื่อไป Repulse Bay แล้วก็ขึ้นรถสาย 6 ไปเพราะมันมาก่อน พอดีว่าไม่ได้ซื้อบัตรปลาหมึก หรือบัตร Octopus แบบชาวบ้านเค้า เพราะอยู่ไม่กี่วันเอง เลยต้องเสียค่ารถตามเรทไป ขึ้นต้นสายก็เสียไป 7.9 เหรียญ ไม่มีเศษต้องต้องหยอดเกินนะคับพี่น้อง เค้าไม่มีทอน นั่งไปเรื่อยๆจนเจอตึกอกทะลุ บางคนก็เรียกตึกโดนัท ก็ต้องลงป้ายหน้าตึก จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 16:56:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พอลงจากรถปุ๊บ ได้ยินเสียงอะไรมาจากข้างหลังไม่รู้ พูดว่า "เดี๋ยวขากลับเราก็นั่งสาย 6 กลับก็ได้นี่เนอะ" เป็นเวอร์ชั่นภาษาไทยฮะพี่น้อง ตรูหันไปมองหน้าพี่ที่มาด้วยกันแล้วหัวเราะก๊ากเลย อะไรวะเนี่ย ตรูมาวันธรรมดานะ ทำไมยังเจอคนไทยอีกฟร่ะ ที่นี่คนไทยมาเที่ยวเยอะมาก จนป้ายบอกตามสถานที่ท่องเที่ยวยังเป็นภาษาไทยเลย แถมป้ายที่โฆษณาของเอเยนต์ติดต่อเรื่องธุรกิจยังมีภาษาไทยเลย จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:00:12 ]

ความคิดเห็นที่ 14 วิวจากด้านบนที่ป้ายรถเมล์ จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:01:15 ]

ความคิดเห็นที่ 15 วิวอีกรูป จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:01:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แล้วเราก็ต้องเดินเลาะตามหาดที่เห็นด้านล่างนั่นเพื่อไปยังวัดเจ้าแม่กวนอิม จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:02:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เจอวัดแระคับพี่น้อง จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:03:22 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ศาลากลางวัด จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:04:14 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ชมไปเรื่อยๆละกัน เพราะไม่รู้องค์ไหนเรียกอะไร จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:04:48 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แบ็คกราวน์กับความเป็นวัดนี่คอนทราสกันสุดๆ จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:05:17 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เจ้าแม่กวนอินองค์ใหญ่หน้าวัด จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:05:55 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ชมต่อ จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:06:27 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อากาศวันนี้ร้อนมาก จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ร้อนด้วยฝนตกด้วย แต่โชคดีที่ไม่โดนฝน คลาดกันตลอด จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:07:33 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อากาศวันนี้วัดได้ 35 องศา จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:08:15 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สำหรับเราแล้ว ที่นี่ก็ธรรมดาๆอ่ะ จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:09:08 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ติดทะเลอีกซักรูป จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:09:40 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ต่อๆ จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:10:23 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อันนี้ลืมลูบๆคลำๆ เผื่อจะรวยกะเค้าบ้าง จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:11:10 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ใช้เวลาเดินที่วัดนี้แค่แป้บเดียวเอง เวลาเหลืออีกบานเลย เพราะ Symphony of light มันแสดงตอน 2 ทุ่ม ก็เลยมานั่งคุยกันว่า จะไปไหนกันก่อนดี หรือจะไปวัดโปลินที่แพลนไว้ว่าจะไปพรุ่งนี้ก่อนเลย แต่กลัวว่าจะกลับมาไม่ทันดู Symphony of light ก็เลยตัดสินใจไปที่ๆไม่ได้อยู่ในแพลน คือ The Peak นั่นเอง ที่ไม่ได้แพลนไว้เพราะหลายคนบอกว่างั้นๆ ไม่ประทับใจ แล้วกลัวจะลงมาดู Symphony of light ไม่ทัน แต่เพราะมันอยู่แถวๆนี้ ตอนนั่งรถขึ้นมาที่นี่ก็เห็นมีรถเมล์ที่ไป The Peak ผ่านด้วย ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ก็เลยตัดสินใจแวะไปหน่อยแล้วกัน จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:12:58 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ก็นั่งรถสายเดิมมาลงกลางทาง หมดไปอีก 7.9 เหรียญเพราะจำราคาได้ตอนนั่งมา แต่นั่นมันราคาตั้งแต่ต้นสาย แต่..จริงๆแล้วถ้าขึ้นจาก Repulse Bay กลับไปมันแค่ 7.5 เหรียญเอง ดันมาเห็นราคาตอนที่หยอดตังค์ไปแล้ว T-T แล้วก็มาลงตรงป้ายที่รถสาย 15 สายที่ไป The Peak ผ่าน แล้วก็ต่อรถสาย 15 ขึ้นไปยัง The Peak หมดไปอีก 7 เหรียญกว่ามั้ง (จำไม่ได้แระ) นับถือคนขับรถเมล์ที่นี่จริงๆ ทางขึ้นเขา ลงเขา ขับกันเซียนโคดๆ มีการขับเข้าไปในซอยแล้วไปยูเทิร์นกลับมาอีกนะ ยูเทิร์นทีเดียวผ่านด้วย สุดๆเลยฮะ ขาไป Repulse Bay นั่งรถเมล์ชั้นหนึ่ง เพราะกลัวลงไม่ทัน ขาไป The Peak เลยลองนั่งชั้น 2 บ้าง แทบอ้วกคับพี่น้อง เหวี่ยงโคดๆ จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:14:01 ]

ความคิดเห็นที่ 32 พอถึง The Peak ก็ไม่มีอะไรมาก มันจะมีตึกอยู่ 2 ฝั่ง อีกฝั่งนึงจะออกแนวห้างๆหน่อย มีร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า แล้วก็มีจุดชมวิวเล็กๆ ด้านข้างของห้าง ส่วนอีกตึก เป็นที่ต้องของพิพิธภัณฑ์มาดามทูโซ่ ร้านอาหาร แล้วก็จุดขึ้นลงของรถแทรม อ้อ มีจุดชมวิวด้วย แต่เสียค่าเข้าฮะ 20 เหรียญ ก็เลยไม่ขึ้น จริงๆมองจากอีกตึกนึงก็ได้บรรยากาศเดียวกันแหละน่า... ยืนบนนั้นชมวิวรอบเกาะก็ได้อารมณ์ชิวๆ ไปอีกแบบดีนะ แต่ก็ยังไม่ประทับใจสุดๆซักเท่าไหร่ เซ็ทนี้ถ่ายตอนที่นั่งบนรถบัส ระหว่างทางขึ้น The peak แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 52 17:16:15 จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:15:33 ]

ความคิดเห็นที่ 33 พอถึง The Peak ปุ๊บก็จะเห็นไอ้นี่ก่อนเลย รถ Tram โบราณ เอาไว้เป็นจุดประชาสัมพันธ์ จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:17:34 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อันนี้เป็นวิวอีกฝั่งของเกาะฮ่องกง ถ่ายจากตึกที่เป็นห้างอ่ะ จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ส่องๆ แอบส่องบ้านชาวบ้านหน่อย จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:19:45 ]

ความคิดเห็นที่ 36 วิวอีกฝั่งนึงของเกาะ ถ่ายจากตึกที่เป็นห้างเหมือนเดิม จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 37 นี่แหละ ตึกที่บอกว่าเสียค่าชมวิวข้างบน จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:21:12 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เย้ ได้เที่ยวแล้ว เซอร์เวย์ไว้เยอะๆนะชีส เดี๋ยวไปๆ จากคุณ : Mrs.Del - [ 28 มิ.ย. 52 17:21:32 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อยจะตายแระ หาร้านนั่งพักขาหน่อย จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:21:49 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อ้ามมม.. จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:22:15 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ไปเดินเล่นหน้ามาดามทูซโซ่ซะหน่อย ใครๆมาก็ต้องถ่ายกับคนๆนี้ แต่ไม่เข้าไปดูพิพิธภัณฑ์หรอกนะ จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:23:22 ]

ความคิดเห็นที่ 43 พอชมวิวจนอิ่มแล้ว ก็ขอลองนั่งรถแทรมหน่อยแล้วกัน รถที่ใครๆมาแล้วต้องนั่งกัน ดูดิ๊ว่ามันจะมีอะไร ปรากฎว่า...ไม่มีอะไรเล้ยยยย... มีแต่ต้นไม้กับตึกบ้านของชาวบ้านแถวนั้น วิวอย่างอื่นก็ไม่เห็นเลย หมดไป 22 เหรียญ ดีนะที่ซื้อแบบเที่ยวเดียว คือลงหรือขึ้นอย่างเดียว ถ้าซื้อแบบขึ้นลง ก็จะ 33 เหรียญ ลงมาปุ๊บก็บ่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอย่างแรงงงงง ตรูนั่งรถรางดอยสุเทพยังดีกว่าอิ๊กกกก จริงๆแล้วมีคนแนะนำมาว่า ให้นั่งรถเมล์ไปลงด้านล่างของ The Peak แล้วนั่งแทรมขึ้นไป ขาลงให้นั่งรถเมล์ลงมา แต่ของเราดันสลับกับที่เค้าแนะนำ เพราะเราแวะขึ้น The Peak จากกลางทาง จริงๆแล้ว ถ้าใครจะไป แนะนำให้ขึ้นลงจาก The Peak ด้วยรถเมล์ก็พอ ไม่ต้องไปนั่งหรอก แทรมเทริมไรนั่น แพงก็แพง แถมไม่ได้อะไรกลับมาอีกด้วย นั่งรถเมล์แม่มวิวสวยกว่าเยอะ ขอโบก... จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:27:11 ]

ความคิดเห็นที่ 44 พอลงมาปุ๊บก็นั่งรถเมล์ไปยัง Central ต่อ เพราะต้องไปต่อรถไฟฟ้าข้ามไป สถานี Tsim Sha Tsui ดันลงผิดป้ายอีก มาลงตรงท่าเรือ Central เลย ซึ่งมันเลยสถานีรถไฟฟ้าแล้ว จริงๆมันต้องลงก่อนป้ายสุดท้ายป้ายนึง แต่ไม่เป็นไร มันเดินกลับไปได้ แต่ไกลหน่อยแค่นั้นเอง (ชั่วโมงนั้นเมื่อยจะตายแล้ว แต่ก็ต้องทน) จริงๆแล้วเราข้ามไป Tsim Sha Tsui ด้วยเรือตรงท่า Central ที่ลงก็ได้นะ แต่ป๊อดฮะ ไปตามทางที่หาข้อมูลมาดีกว่า ช่วงเวลาที่กำลังจะไป Tsim Sha Tsui เป็นช่วงเวลาเลิกงานพอดี จำนวนผู้คนในรถไฟฟ้าใต้ดินอย่าให้พูดถึง มันเยอะมากอ่ะ เยอะจนน่ากลัว เดินสวนกันไปมาหยั่งกะหนอนเลยอ่ะ ถ้ามีเหตุฉุกเฉินอะไร คงเหยียบกันตายอ่ะ แล้วก็นั่งรถไฟข้ามไปยัง Tsim Sha Tsui เดินเลาะมาตามป้าย Revenue of Stars ก็จะเจอ ลานกว้างไว้ให้คนยืนดูการแสดง ตอนไปถึงก็ทุ่มนึงแระ เหลือเวลาอีกชั่วโมงนึงไปหาไรกินก่อนดีกว่า ถ่ายก่อนแสงของวันจะหมดแล้วถ่ายยาก จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:30:57 ]

ความคิดเห็นที่ 45 แต่เดินไปเดินมา เดินจนขาลากยังหาอะไรกินโดนๆไม่ได้เลย ร้านแถวนี้มีให้เลือกน้อยมากก ส่วนใหญ่จะเป็นห้างขายของแบรนด์เนมทั้งนั้นเลย ตอนแรกกะว่าถ้ามีเวลาเหลือจะเดินดูร้านกล้องซะหน่อย ได้ข่าวว่าแถวนี้ถูกหน่อย แต่ก็ไม่ได้มีเวลาขนาดนั้น อดเลย T-T สุดท้ายก็แวะเซเว่นซื้อขนมปังกินรองท้องไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปหากินแถวโรงแรม แล้วก็ไปนั่งรอการแสดง เห็นคนถือกล้องโปรกันแล้วอิจฉา ไอ้เรามีแต่น้องฟู แถมไม่มีขาตั้งอีก ต้องใช้เสาแถวนั่งช่วยประคอง จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:32:09 ]

ความคิดเห็นที่ 46 พอดูการแสดงจบ...ไหนว้าไฮไลท์ ไอ้ที่เค้าบอกว่าชอบๆ ประทับใจๆ ทำไมตรูเฉยๆอีกแล้ววะ หรือว่าวันนี้เค้าไม่จุดพลุหว่า (เค้าจุดพลุกันวันไหนบ้างเนี่ย) จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:33:17 ]

ความคิดเห็นที่ 47 แล้วก็ได้เวลากลับโรงแรม...เหนื่อยมามากแล้ววันนี้ ร้อนก็ร้อน เดินก็เยอะ ขาแทบลากแล้ว เหงื่อท่วมตัว จนเหม็นไปหมดแระ แต่ๆๆๆ....รถหว่างที่นั่งรถไฟฟ้ากลับบ้าน ดันหลงอีก ก๊ากกกก ตรูนี่ไม่ถูกกะรถไฟใต้ดินเลยพับผ่าดิ พี่เค้าอุตส่าห์ไว้ใจให้เป็นเนวิเกเตอร์มาทั้งวัน มาตกม้าตายตอนจะกลับโรงแรมซะงั้น คือ Tsim Sha Tsui เนี่ยมันจะมีอยู่ 2 สถานี คือ Tsim Sha Tsui ธรรมดา กับ East Tsim Sha Tsui ไอ้เราดันไปเข้าประตูที่เป็น East Tsim Sha Tsui ซึ่งมันวิ่งคนละสายกับ Tsim Sha Tsui ธรรมดา แล้วสองสถานีเนี่ย มันก็อยู่ติดๆกัน แต่ทางเข้าคนละทาง เราก็คิดว่ามันคง Interchange กันได้แหละ เลยเข้ามาก่อนไม่ได้มองป้ายไรเลย ในแผนที่รถไฟฟ้าก็มีรอยปรุๆๆ ระหว่าง 2 สถานีนี้ เลยทำให้เข้าใจว่า มันต้อง Interchange กันแน่ๆ แล้วเดี๋ยวเราค่อยไปเปลี่ยนสถานีเอา แต่ไม่ใช่ฮะ มันไม่เช้งอ่ะดิ...เดินวนไปวนมา ขึ้นๆลงๆ แต่ไม่เจอปลายทางที่จะไป เลยไปถามเจ้าหน้าที่ บอกว่าเข้าประตูมาผิด ก็กะให้เค้าเปิดประตูให้ออก แล้วก็เดินไปขึ้นตรงสถานี Tsim Sha Tsui แต่พนักงานดันบอกว่า คุณอยู่ในสถานี้นี้เกิน 10 นาทีแล้วออกไม่ได้ ต้องนั่งรถไปเปลี่ยนสายตามสถานีที่มัน Interchange กัน โอ้วบร๊ะเจ้าโจ๊ก...อะไรวะเนี่ย ทำไมมันยุ่งยากแบบนี้ แล้วไอ้ที่เราต้องไป Interchange เนี่ย ต้องไปเปลี่ยน 2 รอบ 2 สถานีกันเลยทีเดียว ถ้ารวมสถานีก่อนถึงโรงแรมด้วย ก็รวมเป็น 3 เอาซะคุ้มเลยกรู ซื้อบัตรมา 8 เหรียญ นั่งซะคุ้มเลย จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:37:08 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ก่อนอื่น ต้องนั่งรถไฟจาก East Tsim Sha Tsui ไปลง Kowloon Tung เพื่อ Interchange มารถไฟอีกเส้น พอถึง Kowloon Tung ก็ต้องมองหารถไฟสายที่ไป Yau Ma Tei ก่อน แต่พอลงจาก Kowloon Tung แล้ว (ตอนนี้รถไฟมันขึ้นมาบนดินแระ) มองเห็นสถานีที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมันไป Yau Ma Tei แล้วก็เห็นสะพายลอยข้ามหลัดๆ แต่หาทางขึ้นไปสะพายลอยไม่เจอ คือถ้าจะข้ามสะพายลอย คุณต้องออกจากสถานีอย่างเดียว ซึ่งถ้าเราออก ก็ต้องไปซื้อบัตรใหม่เช่นกัน มันบังคับให้ลงใต้ดิน ลงก็ลงวะ ลงไปดูก่อน อ่า..เห็นป้าย Yau Ma Tei แล้ว แต่พอเดินไปซักพัก ป้ายมันหายไปอ่ะ ไม่เจอคำว่า Yau Ma Tei แล้ว แต่เจอคำว่า Tsuen Wan Line แทน แต่ตรูไม่ได้อยากไปทางนั้นอ่ะ เดินวนไปวนมาใต้สถานีนั้นอ่ะ หลายสิบนาทีได้ พี่เค้าก็บอกว่า ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เดินตามป้าย Tsuen Wan Line ไปก่อน เผื่อมันจะบอกแค่ว่าเป็นสาย Tsuen Wan เฉยๆ เชๆ ไปเดินลงกัน เดินลงไปปุ๊บ ก็เจอรถไฟขบวนที่ไป Yau Ma Tei เลย โง่อีกแล้วกรู แต่สงสัยอย่าง แล้วทามม้ายยย เมิงถึงทำรถไฟที่ไป Yau Ma Tei ทั้งบนดินทั้งใต้ดินเลย ตรูก็งงดิ นึกว่ามันไปได้แค่ทางเดียว ตรูบ้านนอกเข้ากรุงนะเว้ย พอขึ้นรถไฟสาย Yau Ma Tei ได้แล้วก็ต้องมา Interchange อีกทีที่ Admiralty ไม่ต้องไปเปลี่ยนที่ Central แล้ว เพราะสถานีนี้มันเป็น Interchange เหมือนกันแถมถึงก่อน Central จะไม่ได้เสียเวลาย้อนไปอีกสถานีนึงฟรีๆ (ทีงี้หล่ะ ฉลาดเชียวนะเมิง..ไอ้ชีส) และแล้วก็ถึง Wan Chai ซะที หาอะไรกินข้างทางก่อนกลับโรงแรมหน่อยนึง กินแถวๆร้านอิเจ๊ที่ไม่ยอมตอบเมื่อเช้านั่นแหละ เป็นผัดหมี่ กับแกงลูกชิ้น อร่อยดีๆ อาหารที่นี่ถูกปากคนไทยเป็นอย่างยิ่ง แล้วก็ต้องเดินเลาะอีก 4 บล็อคถนน เพื่อกลับไปโรงแรม ไปถึงก็อาบน้ำเลย ตัวเหม็นเหงื่อโคดๆ สุดๆเลยวันนี้ เมื่อยตรีนสุดๆ แล้วก็สลบเหมือด จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:40:58 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ไดอารี่ชีสซี่ ตะลุยแดนมังกร 25th Jun แพลนวันนี้คือ ตื่นเช้าไปหาไรกินก่อนแล้วเลยไปรับวีซ่า แล้วค่อยกลับมาเช็คเอาท์ที่โรงแรม ตอนบ่ายก็ไปเที่ยววันโปหลินกัน แล้วค่อยกลับเซินเจิ้น ได้ตื่นสายหน่อย เพราะที่ทำวีซ่ามันเปิด 9 โมงแล้วก็อยู่ใกล้ๆ เดินไปได้ ตื่นมาปุ๊บอาบน้ำอาบท่า แล้วก็เดินออกไปหาไรกิน เดินวนไปวนมา จะหาร้านติ่มซำกินซะหน่อย ไม่ยักกะเจอ จริงๆก็เจออ่ะแหละ แต่มันยังไม่เปิด เดินไปเรื่อยๆจนเจอตลาดนึง เยาวราชชัดๆเลยคับพี่น้อง ขายของแห้ง ของสด วัตถุดิบทำอาหารไทยหาง่ายโคดๆ ไม่เหมือนเซินเจิ้นเล้ยย  ทั้งๆที่อยู่ใกล้กันแค่เอื้อม เดินเลยตลาดไปหน่อย นี่มันสำเพ็งชัดๆ จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:43:11 ]

ความคิดเห็นที่ 50 แล้วก็ไปลงเอยที่ร้านโจ๊ก(อีกแล้ว) ร้านนึง ไม่ได้อยากกินโจ๊กหรอก เห็นหน้าร้านมีรูปบะหมี่เกี๊ยว ก็นึกว่าจะขายตอนเช้าด้วย ที่ไหนได้ ชุดอาหารเช้าเค้ามีโจ๊กกับหมี่ผัด เลยต้องกินโจ๊กอีกแล้วตรู จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 51 นั่งกินไปดูทีวีไป เอ๊ะอะไรคุ้นๆ จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:45:01 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ทำไมคุณ กนิษฐ์ สารสิน หล่อขึ้น จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:45:46 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ยาวดีเหมือนเดิม เดี๋ยวขอไปตั้งหลักก่อน ปล.บรูซ ลี ตุงมาก จากคุณ : 9ho - [ 28 มิ.ย. 52 17:46:58 ]

ความคิดเห็นที่ 54 กินเสร็จเดินไปรับวีซ่า แป้บเดียวเองรวดเร็วดีจริงๆ แล้วก็กลับมาเช็คเอาท์ที่โรงแรม ก่อนเช็คเอาท์ก็เช็คเมล์ซะหน่อย เพราะเมื่อเช้าส่งไปถาม HR เรื่องคืนตังค์ ว่าต้องการคืนสกุลอะไร จะได้คอนเวิร์ดไปให้เลยถ้าต้องคืนหยวน เพราะกลัวเสียค่าคอนเวิร์ดอีกรอบแล้ว HR จะมีปัญหา พอเปิดเมล์เช็คปุ๊บ HR บอกว่าให้คืนเป็นหยวน แล้วๆๆๆ...บอกอีกว่าให้กลับภายในบ่ายนี้เลย จะได้ทำเอกสารให้เลย "เห้ยยยยยย....อะไรอีกวะเนี่ย ให้กลับตอนนี้เลยหรอ เมิงจะรีบทำเอกสารอะไรนักหนาเนี่ย วีซ่าอยู่ได้อีกตั้งเดือน อดเที่ยวเลยตรู  T-T" ก็เลยต้องกลับตอนเที่ยงๆ บ่ายๆ นั้นเลยฮะพี่น้อง ที่เที่ยวที่วางแพลนไว้ อดหมดกัน ไม่น่าเมล์ไปถามเล้ยยยว่าต้องคืนเงินสกุลอะไร (บ่นๆๆกะพี่เค้า เพราะพี่เค้าอยากรู้ไม่ใช่ตรู ) แต่ก็คิดในแง่ดีเอาไว้ ถ้าเที่ยววันนี้ก็คงไม่สนุกอ่ะ โดนฝนทั้งวันแน่ๆ เพราะขากลับก็เจอแต่ฝน กลับถึงบ้านก็ประมาณ บ่าย 2 โมงครึ่ง เพราะต้องมาเอาบัตรเข้าออฟฟิศก่อน อาการขี้เกียจทำงานกำเริบสุดๆแระ มาถึงบ้านก็เลยให้พี่เค้าลองโทรถาม HR ดูว่า ถ้าไปถึงออฟฟิศบ่ายสามครึ่งเนี่ย จะยื่นเอกสารทันป่าว HR ก็บอกว่า "รีบๆมาแล้วกันนะ" ก็เป็นอันว่าต้องออกไปออฟฟิศอีกรอบ อย่างเซ็งคับพี่น้อง HR ตรูแม่มทำงานไวอิ๊บอ๋าย เอาเอกสารไปคืนให้ตอนบ่าย 3 โมง ตอน 5 โมงเมล์มาบอกว่า ทำเอกสารเสร็จแล้ว ยื่นเสร็จแล้ว พรุ่งนี้ไปสัมภาษณ์ที่กรมตำรวจได้เลย "โห้ย...ทำงานไวปานวอกจริงๆ" กลับมาสู่โหมดชีวิตปกติอีกครั้ง เลิกงานเสร็จก็ไปหาอะไรกินแถวตลาดเดิม วันนี้เป็นคิวของข้าวราดแกง ทั้งร้านไม่มีผู้หญิงกินเลย อาจจะเป็นเพราะร้านนี้เติมข้าวได้ไม่อั้น พวกกินจุเลยชอบมากินกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ชาย (แต่ของเราไม่ได้เติมนะว้อยยย ไม่ได้กินจุขนาดน้าน อิอิ) แล้วก็กลับบ้าน สลบเหมือดอีกตามเคย... จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:49:03 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ใจเย็นๆนะพี่ต้น คนโพสยังมึนเลย ไดอารี่ชีสซี่ ตะลุยแดนมังกร 26th Jun จบทริปฮ่องกงไปแบบไม่ประทับใจเท่าไหร่ทั้งที่เที่ยว แล้วก็เวลาที่มี เอิ๊กกส์ อาจจะเพราะเราไม่ใช่คนที่ชอบเที่ยวแนวๆนี้ด้วยหล่ะมั้ง อะไรๆมันดูรก ดูวุ่นวายไปหมด วันนี้ตื่นมาแบบง่วงๆ สงสัยเพราะกินยาแก้แพ้อากาศเข้าไป เจออากาศที่ฮ่องกงไป กลับมาไออิ๊บอ๋ายวายป่วงเลย อาการเหมือนตอนอยู่กรุงเทพฯเลย แต่พอมาอยู่เซินเจิ้นได้ซักพักอาการก็ค่อยๆหาย แสดงว่าอากาศที่เซินเจิ้นดีกว่าเยอะมาก แล้วก็ไปทำงานตามปกติ ยุ่งมากมาย งานมีปัญหาอีก แถมตอนบ่ายต้องออกไปกรมตำรวจไปขอใบรับรองอีก พอตอนบ่ายก็นั่งรถของออฟฟิศออกไปกรมตำรวจ ที่จริงมันก็สถานีตำรวจธรรมดาๆเนี่ยแหละ เค้าบอกว่าต้องไปให้ตำรวจสัมภาษณ์นิดหน่อย เพื่อที่เค้าจะได้ออกใบรับรองการการทำงาน และก็อยู่อาศัยที่นี่ให้ พอไปถึงปุ๊บ..ไม่เห็นพี่แกสัมภาษณ์อะไรตรูเลย ออกไปรับรองให้เฉยๆเลย ตำรวจที่นี่เต๊ะอิ๊บอ๋าย เหมือนตำรวจไทยเลยอ่ะ เอิ๊กกส์ HR บอกว่า มันแล้วแต่ดวง บางทีเค้าก็สัมภาษณ์แค่คำถามเดียว แล้วก็ออกใบรับรองให้ก็มี ออกไปได้ประมาณชั่วโมงนึงก็กลับมาทำงานที่ออฟฟิศต่อ แล้วก็ได้เวลาเลิกงาน วันนี้ออกจากออฟฟิศก็ปาเข้าไปเกือบทุ่ม แล้วก็หาอะไรกินที่ตลาดเหมือนเดิม วันนี้กินข้าวหน้าหมู(ไม่รู้มันส่วนใหญ่ของหมุมั่ง เหมือนจะติดหนังๆหมูมาด้วย) ไอ้ร้านที่เคยซื้อข้าวหน้าเป็ดกินวันแรกๆแหละ ข้าวร้านนี้ค่อยน้อยหน่อย แต่ถ้าพูดถึงความคุ้ม ร้านที่เคยไปกินข้าวหมูกรอบคุ้มกว่า แต่อันนั้นก็เกินปริมาณกระเพาะรับได้ไปหน่อย สงสัยอีกหน่อยกระเพาะคงปรับตัวได้อ่ะ ด้วยความงก กินเสร็จก็แวะซุปเปอร์เล็กๆท้องถิ่นแถวนั้น ซื้อผัก อาหารสด มาตุนทำกับข้าวเสาร์-อาทิตย์นี้ เพราะได้ข่าวมาว่าใต้ฝุ่นจะเข้าวันพรุ่งนี้ ฝนคงจะตกหนัก อาจจะออกไปไหนไม่ได้ (ขนาดนั้นเลยหรอ..) ซื้อเสร็จก็ได้เวลากลับบ้าน รีบกลับมาเอาผ้าเข้าเครื่อง จะได้ตากทิ้งไว้คืนนี้เลย เผื่อฟลุ๊กฝนมันยังไม่ตกคืนนี้ จะได้แห้งทัน ถ้าเอาออกมาตากพรุ่งนี้แล้วฝนตกหนักอย่างที่เค้าว่า ผ้าคงได้เน่าแน่ๆ แต่กว่าผ้าจะปั่นเสร็จ ตรูก็หลับไปแล้ว พอดีพี่เค้ายังไม่หลับ เลยช่วยเอาผ้ามาตากให้ ช่วงนี้เริ่มขี้เกียจถ่ายรูปกับข้าวแระ เลยไม่มีอะไรมาให้ดูกันเลย จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:54:37 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ไดอารี่ชีสซี่ ตะลุยแดนมังกร 27th Jun วันนี้ตอนแรกกะว่าจะไปคาร์ฟู แล้วก็ไปเดินร้านหนังสือแถวนั้น เพราะพี่นักเรียนไทยบอกแถวนั้นมีร้านหนังสือใหญ่ แต่ฟ้ามาครึ้มๆ แต่ก็ยังไม่ถึงกับตก เลยระงับแผนไปก่อน อาจจะไปเดินซื้อของแค่วอลมาร์ท ถ้าฝนมันตกไม่หนัก ตื่นมาก็ทำงานบ้านตามปกติ กวาดบ้าน ถูบ้าน ก็ปาไปครึ่งวันแระ ปกติเสาร์-อาทิตย์ไม่ค่อยมีอะไรให้ดูด้วย (เพราะดูไม่รู้เรื่อง) ชอบเปิด MTV จีนทิ้งไว้ แต่เพราะเมื่อวาน MJ ตาย วันนี้ก็เลยมีแต่รายการ MJ ทั้งวันเลย แต่ก็ดูเพลินดี ระทึกความหลัง แล้วก็ได้เวลาอาหารกลางวัน พากินอีกแล้ว เที่ยงนี้ทำผัดคะน้ากับแกงซุปไก่ เนื้ออะไรเหลือๆในตู้ก็เอามาใช้ให้หมดก่อน ค้างมาจะสองอาทิตย์แระพวกเนื้อสดเนี่ย หลังจากที่น้ำมันหอยขวดแรกหมดไป พอมาใช้ขวดใหม่คนละยี่ห้อ รสชาติความเป็นไทยค่อยมาหน่อย สงสัยขวดแรกที่ซื้อมาใช้มันเป็นแบบเข้มข้น แล้วก็มีกลิ่นแบบจีนๆอ่ะ ไม่ชอบเลย แถมใส่ไปนิดเดียว กับข้าวเค็มตลอด วันนี้พี่เค้าชมด้วยว่าทำซุปไก่อร่อย อิอิ ทำมาเป็นสิบๆมื้อแระ เพิ่งจะได้รับคำชม ก๊ากกกก กินเสร็จก็อ่านหนังสือภาษาจีนต่อจนถึงเย็นเลย ได้เวลาทำกับข้าวเย็นอีกแล้ว ชีวิตกรูนี่มีแค่นี้ใช่มั้ยเนี่ย... กับข้าวเย็นนี้ทำต้มยำกับผัดถั่วลันเตา เมนูเริ่มจะวนไปวนมาแระ เอิ๊กกส์ พอดีเมื่อวานเจอผงต้มยำที่ซุปเปอร์ พี่เค้าก็เลยซื้อมาลองทำกินดู ปรากฎว่ามันเป็นเครื่องแกงของแขกอ่ะ กลิ่นเหมือนซุปหางวัวยังไงก็ไม่รู้ ดีที่มีพริกกับมะนาวมาช่วย รสชาติเลยยังพอกินได้ กินเสร็จก็กะว่าจะออกไปเดินย่อยที่วอลมาร์ทซะหน่อย แต่ฝนยังปรอยๆอยู่เลย ปรอยๆทั้งวันอ่ะ เดี๋ยวตก เดี๋ยวหยุด อะไรของมันก็ไม่รู้ ไอ้เราก็นึกว่าใต้ฝุ่นมันจะตกหนักมากซะอีก ปรากฎว่าไม่ใช่เลย มาแบบน่ารำคาญ ก็เลยนั่งอ่านหนังสืออีก จนสามทุ่ม เห็นฝนมันตกเบาๆ ยังพอกางร่มออกไปได้ ก็เลยเดินออกไปแรดวอลมาร์ท แวะซื้อติมแมคกิน(อีกแล้ว) แล้วก็เดินไปซื้อผักหญ้าในวอลมาร์ทมาเพิ่ม เดินเสร็จกลับมาก็ปาไปสี่ทุ่มจะครึ่งแระ บ้านอยู่ใกล้ห้างแบบนี้ อีกหน่อยอ้วนตายห่านแน่ๆ นึกอยากกินอะไรก็เดินออกไปซื้อ กลับมาปุ๊บก็อาบน้ำ ทยอยเขียนได เพราะไม่ได้เขียนมาเป็นอาทิตย์แล้ว จะลืมหมดแล้วเนี่ย แล้วก็นอน จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 17:56:54 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ไปทำกับข้าวก่อนฮะ... จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 18:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ลงชื่อตอกบัตร ค่อยกลับมาอ่าน ยาวมาก จากคุณ : No.10 - [ 28 มิ.ย. 52 18:08:30 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ตกใจข้าวหลามบรู๊ซลีสุดๆ 0_O'' จากคุณ : maezono_no7 - [ 28 มิ.ย. 52 18:36:09 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ใส่เสื้อตัวเดียวกะตัวนี้นี่หว่า จากคุณ : 9ho - [ 28 มิ.ย. 52 22:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ^ ^ ^ ดูรูปข้างบนแล้วเข้าใจว่าเวลาคนมันเขินกันนั้นเป็นยังไง อิอิอิ จากคุณ : maezono_no7 - [ 28 มิ.ย. 52 22:23:22 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เสื้อตัวเดียวกัน กางเกงตัวเดียวกันด้วยแหละ ก๊ากกก จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 28 มิ.ย. 52 22:41:04 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ความคิดเห็นที่ 53 ยาวดีเหมือนเดิม เดี๋ยวขอไปตั้งหลักก่อน ปล.บรูซ ลี ตุงมาก จากคุณ : 9ho - [ 28 มิ.ย. 52 17:46:58 ] /////////////////////////// แทบสำลักกาแฟอ่ะ............. เพราะคิดเหมือนกันเลยตอนเจอบรูซ ลีคนนี้ครั้งแรก............. ชีสสสสสสสสส คาดว่าเราจะไปฮ่องกงประมาณวันที่ 9 นี้แหล่ะ............ วันที่ 12 (หรือ 13) กลับ................. สนใจข้ามมาเป็นไกด์มั้ย???????? จากคุณ : 190อีสีขาว - [ 29 มิ.ย. 52 07:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ตึกโดนัทนั่นตอนแรกไม่มีรูนะฮะ ทำเลดี๊ดี หลังติดเขา หน้าติดทะเล พอสร้างเสร็จแล้วเจ๊ง เอาซินแสมาดูซินแสบอกว่าไปขวางทางมังกรที่จะลงมากินน้ำ เจ้าของเลยต้องเจาะรูให้มังกรผ่านได้.. จากคุณ : suansiam - [ 29 มิ.ย. 52 08:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 65 มาจองที่ไว้ก่อน เพิ่งอ่านได้วันสองวันเอง เด๋วมาอ่านต่อ จากคุณ : กากีแกมเขียว - [ 29 มิ.ย. 52 08:30:45 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ตึกช้างบ้านเรารูใหญ่กว่าตั้งเยอะ จากคุณ : Metropolis Part III - [ 29 มิ.ย. 52 10:51:50 ]

ความคิดเห็นที่ 67 *63 คิดดีแล้วใช่มั้ยฮะที่ให้ไปเป็นไกด์หน่ะ...อ่านประวัติการเที่ยวในฮ่องกงหมดรึยังฮะ ไม่สนใจข้ามมาเซินเจิ้นบ้างหรอ จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 29 มิ.ย. 52 11:35:15 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ชีส สู้ๆ ถ่ายอาหมวยเยอะๆ จากคุณ : Batty_Bounce - [ 29 มิ.ย. 52 12:23:44 ]

ความคิดเห็นที่ 69 งานการไม่ทำ    นั่งอ่านไดฯ ไอ่ชีสสส//หยอกย้า หนุกดีชีส   รอๆๆๆ จากคุณ : Plakud04 - [ 29 มิ.ย. 52 12:25:59 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เอ่อ!  มีฉบับย่อไหมคับ  อ่านไปอ่านมาชักตาลาย  แต่ก้อสนุกดีครับ   ฉบับต่อไปจะวางแผงเมื่อไหร่ครับ  จะรอติดตาม   จากคุณ : PetchakaT - [ 29 มิ.ย. 52 12:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 71 #64 นึกว่าเจาะเอาไว้กันโดนเครื่องบินพุ่งชนซะอีกฮะ จากคุณ : 9ho - [ 29 มิ.ย. 52 13:35:12 ]

ความคิดเห็นที่ 72 จะไปซื้อกล้อง + เลนส์ ต้องไปสถานี mong kok ฮะ เดินออกมานิดเดียว ตรงถนนที่ขายรองเท้าผ้าใบเยอะ ๆ น่ะแหล่ะ จากคุณ : teaseah - [ 30 มิ.ย. 52 08:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 73 รับทราบ..อิอิ เดี๋ยวไว้เดือนสิงหาค่อยไปใหม่ จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 30 มิ.ย. 52 12:00:08 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เออ นั่นสิ ไม่เห็นชีสมีน้องหมวยมาฝากมั่งเลยอ่ะ จากคุณ : piscespair - [ 1 ก.ค. 52 20:11:21 ]

ความคิดเห็นที่ 75 หมูกรอบน่าทานมาก อร่อยรึเปล่าอ่ะ แล้วจะติดตามอ่านตอนต่อไปนะ ^^ จากคุณ : noome - [ 10 ก.ค. 52 15:08:53 ]