ความคิดเห็นที่ 1   ขอแก้ครับ เลือกได้แค่ ตัวเลือกเดียวครับ คิดให้ดีนะครับ เอาที่คิดว่าอยากให้ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ดำเนินการให้มากที่สุด เป็นแผนสำรองป้องกันความเสี่ยง เสนอการบริหารความเสี่ยง ให้สมาคมฯด้วย จากคุณ : polizist เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 03:46:05

ความคิดเห็นที่ 2   ขอแก้ครับเลือกแล้ว แก้ไขภายหลังไม่ได้ครับ คิดให้ดีครับ จากคุณ : polizist เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 04:09:15

ความคิดเห็นที่ 3   Real madrid , Brazil , Argentina,  germany, Japan , Iverycost ถ้าอุ่นครบกับพวกนี้จะได้เปิดหูเปิดตามั่ง  ถ้ามานะ   ลองของแข็งไปเลย จากคุณ : Love_mu1 เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 04:09:42

ความคิดเห็นที่ 4   คุณ คห. 3 Love_mu1 หมายถึง สโมสรของ ทีมระดับลีกสูงสุดประเทศ Argentina,  germany, Japan , Iverycost รึเปล่าครับ เพราะการโหวตนี้ มีข้อแม้ว่าไม่ใช่ทีมชาติต่างประเทศครับ เพราะสมาคมฟุตบอล ไม่สามารถเชิญทีมชาติที่อันดับโลกเก่งกว่าทีมชาติไทยมาแข่งเป็นประจำได้ และก็ไม่มีแผนสำรอง กรณีโดนทีมชาติที่เก่งกว่ายกเลิก ในวันอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่าด้วย คนคิดโหวตเลยอยาก เสนอแผนประเทศทีมอุ่นเครื่องสำรองที่ ตรงใจแฟนบอลไทย ขึ้นมา เผื่อจะได้มีคนซื้อตั๋วเข้ามาชมในสนามกันมากๆ สมาคมก็จะได้เก็บไว้เป็นทุนในการเชิญทีมที่ถูกใจแฟนบอลมาให้ได้คราวหน้า แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 52 06:44:38 จากคุณ : polizist เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 04:34:32

ความคิดเห็นที่ 5   ผมอยากให้ประเทศไทยจัดการระบบทีมชาติแบบสร้างมาตรฐานในแต่ละระดับไปเลย เช่น ให้ทีมชาติไทยประกอบไปด้วย 3 ทีม 1.ทีมชาติชุดใหญ่ - โดยให้อุ่นกับพวกทีมชาติที่มีมาตรฐานสูงกว่าหรือทัดเทียมกับเรา 2.ทีมชาติชุด B - คือตัวผู้เล่นที่เป็นตัวสแตนด์บาย+ผู้เล่นที่ถูกคัดออกจากชุดใหญ่+พวกที่อายุเกินขึ้นมาจาชุดเล็ก ให้อุ่นกับชาติที่มีมาตรฐานต่ำกว่าเรา หรือทีมชาติชุดใหญ่ของชาติในอาเซียน รวมถึงสโมสรในไทยลีก หรือ โดยให้อุ่นกันก่อนหรือหลังทีมชาติชุดใหญ่เตะ 1 วัน ในกรณีที่อุ่นกับทีมสโมสร เพื่อให้ได้ลองตัวนักเตะที่ไม่ได้รับโอกาสในทีมชาติชุดใหญ่ และสร้างประสปการณ์ในการเล่นระดับชาติ รวมถึงการสร้างบุคลากรขึ้นมารองรับทีมชาติชุดใหญ่และยกมาตรฐานให้เรามีผู้เล่นสำรองของทีมชาติเหนือกว่าชุดใหญ่ของชาติอื่นในอาเซียน 3.ทีมชาติชุด U-21 เอาไว้ลงแข่งในรายการซีเกมส์ ซึ่งถือเป็นการเตรียมทีมไปเล่นรายการปรีดอลิมปิค และ เอเชียนเกมส์ เพราะเมื่อถึงรายการนั้นๆ ก็จะอายุเต็ม 23 พอดี แต่นักเตะเหล่านี้จะมีประสปการณ์ในระดับชาติอยู่แล้ว และเวลาแข่งใน U-23 ยังสามารถเรียกพวอายุไม่เกิน 23 ในชุด B เข้ามาเสริมได้ด้วย แนวคิดนี้ของผมอาจจะดูเลอะเทอะไปนิดนึงตรงที่อยากให้มีทีมชาติชุด B แต่ที่ผมคิดอย่างงี้เพราะว่าถ้าเราไม่ทำ พวกที่ไม่มีประสปกาณ์ระดับชาติก็คงไม่ได้ผุดได้เกิดแน่ๆ ทั้งๆที่เล่นดีในระดับสโมสรขนาดไหนก็ตาม และถ้าเป็นทีมชาติชุด B แต่เล่นได้ดีและสามารถชนะทีมชุดใหญ่ของชาติในระดับอาเซียนได้ ก็คงไม่มามีข้ออ้างของคนบางกลุ่มว่าไม่มีประสปการณ์ในระดับชาติบ้างหล่ะ หรือว่าเล่นดีในระดับสโมสรแต่อาจจะเล่นทีมชาติห่วยก้ได้ ซึ่งมันก็ต้องเรียกมาพิสูจน์ไม่ใช่หรอครับ แต่นี่ที่ชาติเราไม่ค่อยเปิดโอกาสรองรับนักเตะพวกนี้ คือชุดใหญ่ก็จะยึดตัวเดิมๆ แล้วจะเอาเสริมก็จะเป็นดาวรุ่งไปเลยเพราะชอบอ้างว่าเพื่ออนาคต แต่พวกที่อยู่ในช่วงวัยกลางๆกลับโดนหมางเมิน จนสุดท้ายบางครั้งนักเตะหลายคนกว่าจะถุกเรียกติดทีมชาติก็อายุเยอะไปแล้วอย่าง พิพัฒน์ หรือ รังสรรค์ (ขอบอกว่าช่วงท๊อปฟอร์มสุดยอดมากๆ แต่ในเวลานี้เค้าไม่ใช่คำตอบอีกแล้ว) หรืออย่าง ศุภชัย คมศิลป์ ที่เล่นดีมาตลอด จนตอนนี้อายุเยอะแล้วก็ไม่ได้ถูกเรียกมาติดทีมชาติ เพราะถ้าฝีเท้าใกล้เคียงกัน โค้ชมักจะเลือกประสปการณ์และความสด แต่ถ้าในอนาคตอีก 5 ปี 10 ปี ทีมชาติเราพัฒนาในระบบให้สมบูรณ์เหมือนชาติมหาอำนาจลุกหนังเอาแค่ในระดับเอเชียก็พอ ระบบทีมชาติชุด B ก็ไม่จำเป้นต้องมีหรอกครับ ปล.ขออภัยจขกทที่ตอบไม่ค่อยตรงประเด็นเท่าไหร่ แต่พอดีว่ามันเป็นแนวคิดที่นั่งคิดเล่นๆไว้นานแล้วหน่ะครับเลยเอามาเล่าสุ่กันฟัง จากคุณ : ploy16 เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 05:03:45

ความคิดเห็นที่ 6   เรื่องทีมชาติชุดบี สมาคมเคยให้คอมเมนต์ว่า ใช้ชุดเยาวชน 21 ปีเหมือนประเทศ ยุโรปหนิครับ ผมคิดว่าสมาคมยังมีปัญหาเรื่องการตลาด คือหางบประมาณต่อปีแทบไม่พอจัดแข่งฟุตบอลภายในประเทศและ ทีมฟุตบอลระดับชาติ ชุดต่างๆ เขาเลยอ้างว่า ทีมนักบอลชายทีมชาติ ระดับชุดบี คือชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปีแทน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายครับ ผมหล่ะเสียดายที่การบริหารสมาคม ทำทีมชาติให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดใจลูกค้าไม่ได้ ทั้งๆที่ ไม่มีคู่แข่งแท้ๆ แฟนบอลไทยทีมชาติประจำ ขาจรก็รอจ่ายค่าตั๋วอยู่ ขอเพียงแค่เตรียมทีมชาติเพื่อแข่งขันให้อย่างสมราคาค่าตั๋วเท่านั้น ทำให้เขาไม่มองว่าเอาเปรียบลูกค้าแฟนบอลเท่านั้นแหล่ะ เขาก็ซื้อตั๋วชมแล้ว... บางทีผมมองว่าเงินอัดฉีดชนะนัดละล้านของบังยี น่าจะเอาไปจ้างทีมที่เก่งกว่ามาเป็นคู่อุ่นเครื่องเตรียมทีมให้ทีมชาติไทยชุดใหญ่ หรือชุดเล็กดีกว่า ถามคุณ ploy16 หรือท่านผู้รู้ท่านอื่น เพิ่มเติมครับ ผลนัด ทีมรวมไอวอรีโค้ชจาก เจเอ็มจีอาคาเดมี่ ที่เปอกูเรียรวบรวมมา กับทีมชาติไทยเมื่อปี 2006 ทีมชาติไทยแพ้ไปเท่าไหร่ครับ แล้วรูปเกมส์เป็นอย่างไร แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 52 07:00:21 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 52 06:48:55 จากคุณ : polizist เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 06:48:19

ความคิดเห็นที่ 7   เข้าใจคุณ ploy16 กับแนวคิดเรื่องทีมชาติชุด B ครับ และผมก็เห็นด้วยมาตลอด แต่มาคิดดูว่า ขนาดทีมชาติไทยชุด A มันยังไม่ค่อยจะมีแมตช์ได้อุ่นเครื่องเลย แล้วชุด B นี่ คงจะตั้งขึ้นมาแค่เอามาเตะกันเองกับชุด A มั้ง ??? สำหรับสมาคม ปัญหาคงเป็นเรื่องงบประมาณน่ะครับ ยิ่งมีหลายชุด งบประมาณก็ยิ่งบานปลาย (ผมจะไ่ม่พูดเรื่องคอรัปชั่นนะ อันนั้นถ้าเป็นแค่ความรู้สึก ไม่มีหลักฐาน ก็ไม่อยากเอามาเป็นอารมณ์มากนัก) ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ ว่าประเทศเราไม่ได้มีเงินถุง เอาไว้จ้างพวกญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ออสซี หรือพวกทีมที่ระดับดีกว่าไทยมาเตะด้วยบ่อยๆ ทางเลือกอีกทาง คือการเชิญทีมที่ 'มาแน่ๆ' แต่ก็แน่นอนว่าทีมพวกนี้ ระดับจะต่างกับไทยเห็นๆ ไม่ว่าจะเป็นปากีสถาน เนปาล บังคลา้เ้ทศ มัลดีฟ หรือเพื่อนบ้านอย่างเวียตนาม มาเลเซีย อินโด สิงคโปร์ แล้วทีนี้ ต้องถามแฟนบอลล่ะครับ ว่ารับได้ไหมกับการเิชิญทีมพวกนี้มาบ่อยๆ หรือว่าเตะกับทีมรวมดาราไทยลีก หรือสโมสรของเราเองดีกว่า ปล. เสียดายที่ต่้อไปนี้ ของดีราคาถูก อย่างเกาหลีเหนือก็คงไม่มาเตะกับเราแล้ว ก็ทีมระดับไปบอลโลก คงโก่งค่าตัวอีก 10 เท่าแหงๆ ปล2. ที่ไทยไม่ค่อยไปเตะแถวๆอาหรับ เคยได้ยินมาจากคนของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา (หน่วยเหนือของสมาคมฟุตบอลอีกที) ว่าข้อเสนอของเจ้าบ้านไม่ดี ประมาณว่าให้ออกค่าเครื่องบิน หรือค่า รร เอง ไทยก็เลยไม่อยากไป ประมาณนี้น่ะครับ พอไปเตะแล้ว ไม่ควักกระเป๋็าจ่ายค่าลิขสิืทธิดาวเทียมถ่ายทอดสด ก็โดนด่าอีก สมาคมเลยเลือกโดนด่า้น้อยด้วยการไม่เตะมันซะเลย !!!! เอากะเค้าสิ จากคุณ : Ahura เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 07:24:01

ความคิดเห็นที่ 8   ลืมตอบที่โหวต .... ผมเลือกทีม A-League นะ สิ่งที่ไทยจะได้ึิคือ 1/ ทีมพวกนี้ ไม่ต้องใช้งบเยอะในการเชิญ เหมือนทีมในยุโรป 2/ มีความเป็น 'ฝรั่ง' ซึ่งไทยเราจะฝ่อตลอดเวลาเจอนักเตะหน้าฝรั่ง จัดให้เตะด้วยบ่อยๆ เป็นการฝึกเรื่องจิตวิทยาไปด้วย 3/ ฝึกการรับมือกับลูกโด่ง + ฝึกเจาะทีมที่กองหลังรูปร่่างสูงใหญ่ คุณ polizist ไทยแพ้ทีมรวม JMG 1-3 รูปเกมส์สู้กันไม่ได้เลย โดนต้อนซะมากกว่าแข่งกับพวกอาหรับซะอีกครับ นี่ดีนะ เราไม่ใช่สิงคโปร์ ไ่ม่งั้นจับ ยาย่า เซียก้า (MTU) โคเน่ (ทั้ง BG + ชลบุรี) มูสซ่า ซาอิบ (BU) บวก เนย์ ฟาเบียโน่ โอนสัญชาติซะ้เลย ได้ 5-6 ตัวนี้มาเสริม ผมว่า ไทยถึงชนะพวกญี่ปุ่น เกาหลี ซาอุ ได้เลยนะ จากคุณ : Ahura เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 07:35:30

ความคิดเห็นที่ 9   ฮ่าๆคุณ Ahura ถ้าพวกยาย่า เซียก้า โคเน่ ฟาเบียโนมีลูกเกิดในไทย แล้วเล่นเก่งเหมือนพ่อ คงดีกว่ามั้งครับ แต่ผมเห็นเด็กเจเอ็มจี อาคาเดมี่พูดไทยได้ อนาคตถ้าเกิดขอสัญชาติไทยได้ตามกฏหมาย ก็อาจจะได้ติดทีมชาติไทยนะ ยิ่งถ้าเขาเป็นชวัญใจแฟนบอลในไทยลีกด้วยก็ยิ่งโดนต่อต้านน้อย ยังไงก็แล้วแต่ ผมว่าทีมเวิร์กที่เป็นระบบเดียวกันทุกชุดของทีมชาติไทย บวกไทยลีกที่มีความกดดันสูง และทีมชาติส่งไปเตะนอกบ้านบ่อยๆ จะแก้ไขเรื่องข้อด้อยเรื่องความสามารถเฉพาะตัวเวลาเจอกับญี่ปุ่นมากกว่านะครับ แผนงานพัฒนาระบบสมาคมตอนนี้มันแบบ  โค้ชเด็กบราซิล เด็กโตมาเล่นสไตล์แบบอังกฤษมันยังไม่ระบบเดียวกันครับ จากคุณ : polizist เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 08:48:19

ความคิดเห็นที่ 10   นี่แหละครับ อย่างน้่อยๆถึงจะล้าหลังในการพัฒนากว่าสิงคโปร์ แต่ผมก็ยังภูมิใจในบอลทีมชาติของเราตรงนี้แหละ (^_^) ส่วนเรื่องที่พูดมาเนี่ย ปัญหาคืองบประมาณ ควบคู่ไปกับการพัฒนา...ทั้งการจัดการบอลลีก ทั้งทัศนคติแฟนบอล ทั้งวิทยาศาสตร์การกีฬา ทั้งความเป็นมืออาชีพของนักบอล พูดตรงๆเลยนะครับ มองอย่างเป็นกลาง ไทยมาอยู่ตรงนี้ได้ก็บุญแล้ว ทั้งที่... 1/ ประเทศเราเศรษฐกิจแย่กว่า มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง และำไต้หวัน 2/ คนไทยบ้าบอลน้อยกว่า เวียตนาม อินโดนีเซีย พม่า 3/ นักบอลตัวเล็กกว่า...... แทบทุกภูมิุภาคในโลก 4/ ทักษะ ความสามารถเฉพาะตัว ด้อยกว่าพวกตะวันออกกลาง 5/ เบสิคบอล การรับส่ง หรือทางวิ่งห่วยกว่าญี่ปุ่น 6/ วิสัยทัศน์ผู้บริหาร ด้อยกว่าทั้งเวียตนาม และสิงคโปร์ เอาตามศักยภาพแล้ว มันไม่มีอะไรดีสักอย่าง น่าจะอยู่ระดับเัดียวกับฟิลิปปินส์ด้วยซ้ำ !!! เหอๆๆ ปล ผมประชดนะ เดี๋ยวจะมีคนหาว่าไม่รักชาติือีก จากคุณ : Ahura เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 09:32:20

ความคิดเห็นที่ 11   ที่คุณ Ahura กล่าวมาก็คือความจริงที่คนไทย ต้องแก้คุณภาพกันไป ด้วยความตั้งใจอยากจะแก้ และเปิดโอกาสให้คนมีความสามารถมากกว่าเข้ามาแก้ด้วย จากคุณ : polizist เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 09:59:16

ความคิดเห็นที่ 12   การอุ่นเครื่องควรจัดตามปฏิทินฟีฟ่าและควรเชิญทีมชาติมาอุ่นเครื่องครับ ปัญหาสำคัญที่เราไม่สามารถเชิญทีมดีๆมาอุ่นเครื่องด้วยได้ ผมไม่แน่ใจว่าปัญหาส่วนหนึ่งมาจากเรื่องงบประมาณหรือเปล่า เพราะทีมดีๆ ค่าตัวอาจแพงมาก แต่ก็พอจะมีทางออกครับ ทางออกที่พอจะมองเห็นตอนนี้ อาจต้องให้ทีมงานพยายามมองหาทีมที่มาตรฐานสูงกว่าเราและค่าตัวไม่แพงมาก ติดต่อมาอุ่นเครื่องกับเรา ยกตัวอย่างเช่น ทีมชาติจากทวีปแอฟริกาทั้งหลายหรือทีมจากยุโรปตะวันออก พวกบอสเนีย เซอร์เบีย สโลวัก เบลาลุส พวกนี้ก็น่าสนใจ เป็นบอลเทคนิคดี ค่าตัวไม่น่าแพงมาก หรืออย่างน้อยที่สุด ทีมจากรัฐอิสระอดีตสหภาพโซเวียตอย่าง คาซัคสถาน อูซเบกิสถาน นี่ก็น่าสนใจติดต่อมาอุ่นเครื่องเหมือนกันครับ การเชิญทีมที่อ่อนกว่ามาอุ่นเครื่อง แม้จะเชิญง่ายกว่าทีมที่มีระดับ ที่เห็นๆก็คือ เราได้ลองเกมบุกเป็นส่วนใหญ่ แต่จะมีประโยชน์อะไรครับ เพราะปัญหาใหญ่ของทีมไทยคือ เรามีปัญหาในเกมรับมากกว่า การเล่นเมื่อเจอกับทีมนอกอาเซียน ทีมไทยเรามีโอกาสโดนยิงจนพรุนเมื่อเจอกับทุกทีม ดังนั้น เราควรเน้นฝึกเกมรับให้มากขึ้นครับ ไม่ใช่สั่งแต่ทีมอ่อนกว่ามาอุ่นเครื่องด้วย แล้วก็บอกกันว่าได้ประโยชน์กับทีมไทยคือการฝึกเกมรุกอย่างเดียว ซึ่งไม่ได้ประโยชน์อะไร เวลาไปเล่นนอกอาเซียนครับ ดังนั้นในความเห็นของผม ควรหาทีมที่เหนือกว่ามาอุ่นเครื่องกับทีมไทยครับ ให้มาทำเกมบุก กดดันไทยให้มากๆ ผมว่าเราจะได้ประโยชน์มากกว่า หากอยากจะขึ้นชั้นไปในระดับเอเชีย อุ่นเครื่องแล้วแพ้สัก 6-0  7-0  ก็ไม่เป็นไร แฟนบอลอย่าไปกดดันให้เสียกำลังใจกัน ทีมงานก็จดเป็นสถิติไว้ แล้วหาทางปรับปรุงทีม เจอกันอีกที อาจแพ้น้อยลง เป็น 4-0  2-0 จนกระทั่งเสมอและเอาชนะได้ ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ครับ เพราะทุกวันนี้ศาสตร์ด้านฟุตบอลสามารถพัฒนากันได้หมดครับ หากเชิญทีมที่แข็งแกร่งกว่ามาอุ่นเครื่องด้วยยากนัก ผมเห็นด้วยว่าควรจะไปขออุ่นเครื่องกับทีมระดับสโมสรก็ได้ครับ อย่าไปยึดติดเลยว่าทีมชาติต้องอุ่นเครื่องกับทีมชาติเท่านั้น อาจเลือกอุ่นเครื่องกับทีมสโมสรของลีกที่มีความแข็งแกร่งก็พอจะช่วยได้ เพราะทีมสโมสรคงจะมีระบบการเล่นไม่แตกต่างจากทีมชาติของเขามากนัก ทีมสโมสรที่อยากให้ทีมชาติไปขออุ่นเครื่องด้วยน่าจะเป็นสโมสรของญี่ปุ่น เกาหลีและก็พวกอาหรับครับ เพราะในรายการคัดเลือกต่างๆระดับทวีป เรามักมีปัญหากับทีมเหล่านี้ ถ้าทำให้นักฟุตบอลเราคุ้นเคยกับสไตล์การเล่นของชาติต่างๆเหล่านี้ ทีมงาน สต๊าฟโค้ชก็ทำงานได้ง่ายขึ้นครับ นอกเหนือจากนี้ควรมีแนวคิดเรื่องทีมชาติชุดบี ที่เป็นทีมสำรองของชุดเอไว้ด้วย โดยคัดจากพวกดาวรุ่ง ส่งไปอุ่นเครื่องบ่อยๆ กับทีมสโมสรของญี่ปุ่น เกาหลีและอาหรับให้บ่อยๆ และควรจะไปเป็นทีมเยือนด้วย เพื่อสร้างประสบการณ์ในการเล่นในสภาพภูมิอากาศ ภูมิประเทศที่แปลกไปจากเมืองไทย เพราะที่ผ่านมาทีมไทยเราเวลาไปเล่นต่างแดน ผลงานมักไม่ดี ตรงนี้จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ครับ อีกอย่าง ขอพูดเรื่องทีมซีเกมส์หน่อย ผมว่าเรื่องแชมป์ซีเกมส์ควรจะให้ความสำคัญน้อยลงหน่อยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องหวังแชมป์ แต่ขอแค่เข้ารอบรองก็พอ น่าจะใช้เวทีนี้เป็นเวทีระดับนานาชาติสำหรับพวกดาวรุ่งไปหาประสบการณ์มากกว่า แล้วไปให้ความสำคัญกับรายการระดับทวีป เช่นรายการปรีโอลิมปิก รายการเอเชียนเกมส์แทน เพราะใช้นักฟุตบอลรุ่นอายุเดียวกัน คือไม่เกิน 23 ปี ดูอย่างญี่ปุ่น ขนาดรายการระดับทวีปอย่างเอเชียนเกมส์ มันส่งชุดสำรอง ที่ไม่ใช่ตัวจริงในระดับอายุนี้ของมันมาเล่นเป็นประจำ แถมเข้ารอบลึกๆทุกสมัย แสดงว่ามันไม่ให้ความสำคัญกับรายการนี้เลย มองเป็นแค่ที่หาประสบการณ์ของพวกหน้าใหม่เท่านั้น ญี่ปุ่นรายการระดับทวีปมันยังใช้เป็นเวทีหาประสบการณ์ของพวกหน้าใหม่ ไทยยังตะบี้ตะบัน หวังเพียงแค่แชมป์ซีเกมส์ ระดับภูมิภาคเท่านั้น โดยใช้นักฟุตบอลชุดที่ดีที่สุด ลงทำการแข่งขัน เพราะถ้าไม่ได้แชมป์ มันหน้าแตก งานเข้ากันทั่วหน้า วิสัยทัศน์ของสองประเทศนี้ช่างแตกต่างกันจริงๆ แล้วอย่างนี้อีกกี่ร้อยปี ทีมชาติไทยชุดใหญ่จะสู้กับทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ได้ล่ะนี่ ขอแสดงความเห็นไว้เพื่อทราบเพียงเท่านี้ครับ จากคุณ : NICKAZ เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 13:27:53

ความคิดเห็นที่ 13   พวกคุณมาคุยอะไรกันเนี่ยะ..... ล้อเล่นน่ะครับ....... ผมโหวตไปแล้วน่ะแล้วก็คิดว่าเหมือนกับทุกคนเพราะดูจะนำลิ่วเลยใจตรงกันจริงๆ กับวงการแฟนบอลไทยในเว๊ปนี้ รู้สึกเน้นที่ศักยภาพและคุณภาพจริงๆ กับแฟนบอล ผมเป็นคนเปิดประเด็นนั้นมาเพราะอยากให้คุณ ploy16 แกบอกให้ชัดๆ เป็นการจุดชนวนครับว่า เราจะคิดอะไรได้มากขึ้นไปอีกระดับหนึ่งและยอมรับได้อีกระดับหนึ่งไหมว่าวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกับทีมชาติที่แพ้พวกเด็กพวกนั้น แต่ผมบอกเลยว่าผมเองก็ไม่ได้ยินดีปรีดาอะไรเพียงแต่ในเวลาที่เล่นมันได้สอนแล้วเพียงแต่นักเตะไม่ได้คิดไม่ได้รับการจูงและแนะให้คิด ตอนนี้ผมเบื่อกับวงการทีมชาติ เพราะวันนั้นไปนั่งดูที่สนาม ปากก็บอกว่าไม่อยากไปตามดูแต่ก็ไปดูจนได้แล้วไปดูก็ต้องส่ายหัวเพราะมันเกิดคำถามว่า เอาทีมชาติไปเตะเป็นมวยเปิดให้ทีมสโมสรและช่วยให้ทีมสโมสรเอาทีมระดับชาติไปทำเงิน ไม่ว่าจะด้วยความเหมาะสม ความเป็นมืออาชีพและความถูกต้อง มันเละเทะมาก ไม่รู้ว่า ระวิ รณฤทธิ์ วรวีร์ ธารา พวกเหล่านี้เขาใช้อะไรคิด ทีมชาติคือทีมของชาติใครจะซ้อมใครจะเล่นต้องยึดเป็นหลักของชาติ เล่นต้องสนามที่สะดวกที่สุดไม่ว่าจะเป็นเทพหัสดินทร์ สนามศุภ หรืออย่างแย่ก็ต้องราชมังคลา เพราะสะดวกและคนดูบอลไทยเขาก็คือคนทำงานและมันสะดวกทุกส่วน แต่ให้ไปนั่งดูเมืองทองมีสมาคมที่ไหนเขาทำกัน... เล่นสนามของหน่วยงานรัฐจ่ายค่าสนามบำรุงแล้ว เก็บเงินเข้าสมาคมเต็มๆ ถามว่าไปรับทำอะไรกับ 35% หรือว่านี่คือวิสัยทัศน์แล้ว และนี่คือสิ่งที่เหมาะสมแล้ว ทีมชาติเล่นและจะเล่นให้คนในชาติดูก็ต้องทุ่มหนึ่งกลายเป็นว่ารีบเล่นแล้วจบเพื่อเป็นมวยเปิดให้คู่เอกอย่าง เมืองทองเจอกับทหารอากาศหรือ เอาระดับชาติไปหนุนระดับสโมสร ผมเลยไม่แปลกใจหรอกน่ะว่าทำไม เรือ่งลิขสิทธิ์ เรื่องแผ่นดิสก์ เรื่องคนึง ฯลฯ มันถึงได้เหลวแหลกและเละเทะและจะเริ่มจับตาดูเพราะได้ยินมาว่า ลงไปเยอะและธุรกิจสิ่งพิมพ์มันเน่า จะให้ได้ต้องไประดับเอเชีย นั่นคือเขาหมายแชมป์ เขาถึงได้ซื้อได้ลงอย่างบ้าคลั่ง มีกั๊กมีอะไรมากมาย และเขาก็ประกาศชัดว่าไม่เห็นแก่หน้าอินทร์หน้าพรหมด้วย พยายามขยับฐานะและความเท่าเทียมในเรื่องทีมไปชนกับอีกสายเหมือนให้ออกหน้าไปชนให้ทั้งๆ ที่ระดับวิชั่นและการจัดการยังห่างกันอยู่ เลยติดใจอย่างเดียวว่า.... เขากร่างขนาดนี้ นัดแรกจะเป็นตัวบ่งและเลคสองจะเป็นตัวบอกแฟนบอลทุกทีมพวกคุณจับตาดูบุคลากรของฝั่งสมาคมให้ดีเพราะเลคสองมีอะไรแปลกๆ แน่นอน พวกคุณอาจไม่สามารถหยุดแฟนบอลพวกคุณได้จนอาจเกิดการปาขวดด้วย... ฝากไว้ให้เตรียมรับผลสองทอดน่ะครับ จากคุณ : danielle เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 18:26:41

ความคิดเห็นที่ 14   ตัวเลือกให้โหวตมากกว่านี้ก็มีครับ http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=59819.0 ขอบคุณคุณ Sodat จากคุณ : polizist เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 22:43:39