Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
TIA Column : Robbie Fowler ชายผู้จะเป็น GOD ของ The kop ไปตลอดกาล  

By : howk_ky

ตั้งแต่เขียนบทความเกี่ยวกับทีมมา ไม่เคยเลยซักครั้งที่เราจะเขียนถึงชายผู้เป็นพระเจ้าของเหล่าสาวกลิเวอร์พูล แต่วันนี้ หลังจากที่เพิ่งได้อ่านอัตชีวิประวัติของเขาไป และได้รู้ถึงสิ่งซึ่งอยู่ในหัวใจของนักเตะที่จะเป็นตำนานของเราตลอดไป มันก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเขาสักครั้ง เราเอง ไม่ทันได้เชียร์ลิเวอร์พูลในยุค 90 ซึ่งเป็นยุคที่ลิเวอร์พูลมีกองหน้าที่ชื่อ ร๊อบบี้ ฟาวเลอร์ เป็นตัวความหวังเป็นผู้ซึ่งบันดาลประตูชัยในหลายต่อหลายนัดของเรา และหลายคนก็รักลิเวอร์พูล เพราะกองหน้าคนนี้ กองหน้าระดับตำนานที่เราอยากจะบอกว่า เขาคือกองหน้าที่ไม่ธรรมดาที่สุดเท่าที่เราเคยมีมา และยังเป็นพระเจ้าที่อาภัพเหลือเกิน

อันที่จริงเขาเป็นเอฟเวอร์โตเนี่ยนนะ เป็นโดยกำเนิด แต่อาจเป็นความชาญฉลาดของลิเวอร์พูล และการแสดงออกอันน่าประทับใจของเคนนี่ เดลกลิช ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่ต้องการเซ็นสัญญาให้ฟาวเลอร์เข้ามาเป็นนักเตะฝึกหัดของลิเวอร์พูล แต่กระนั้นลิเวอร์พูลก็ต้องรออีกถึง 2 ปีกว่าจะได้ลายเซ็นของร๊อบบี้ ฟาวเลอร์ สาเหตุนั่นก็ไม่ใช่อะไรเลย เพียงแค่เขารอดูทีท่าของเอฟเวอร์ตัน และช่างโชคดีที่เอฟเวอร์ตันดันตาบอด ทำให้เขากลายมาเป็นนักเตะฝึกหัดของลิเวอร์พูลและอยู่ในความดูแลของสตีฟ ไฮเวย์ ในที่สุด

     ที่จริงแล้ว สตาฟโค้ชลิเวอร์พูลแทบไม่ได้สอนแทคติกอะไรแก่ฟาวเลอร์เลยด้วยซ้ำ เพราะเขาเป็นนักฟุตบอลที่เล่นด้วยสัญชาตญาณล้วนๆ เป็นคนที่เกิดมาเพื่อจะเล่นฟุตบอลอย่างแท้จริง เขารู้ว่าจะวิ่งอย่างไร ยิงประตูอย่างไร รู้โดยที่ไม่ต้องมีใครมาสอน พรสวรรค์แท้ๆ แต่อย่างไรก็ตาม ฟาวเลอร์ให้เครดิตแก่สตีฟ ไฮเวย์เสมอในเรื่องของการสอนให้เขารู้จักปฏิบัติตัวเป็นนักกีฬาที่ดี และแล้วเขาก็ได้เข้ามาอยู่ในชุดของ รอย อีแวนซ์ ที่เต็มไปด้วยดาวรุ่งของสโมสรและนักเตะทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเขาก็ไม่เคยทำให้อีแวนซ์ผิดหวัง เขากลายเป็นเจ้าหนูมหัศจรรย์แห่งแอนฟิลด์และได้รับการสั่งสอนจากเอียน รัช ตำนานดาวยิงของทีมมากมาย รัชเป็นผู้สนับสนุนให้ฟาวเลอร์เป็นดาวเด่น และอีกคนที่ผ่านบอลให้เขาทำประตูมากมายมหาศาลก็คือ สตีฟ แม็คมานามาน เขาเป็นเจ้าของสถิติยิง 4 ประตูที่เร็วที่สุด ทำแฮตทริกนับครั้งไม่ถ้วน และในที่สุดก็กลายเป็น GOD of Anfield

แน่นอนว่าไม่มีใครเจอแต่เรื่องดีๆ เรื่องแย่ๆที่ทำให้เขาต้องเจ็บช้ำน้ำใจก็มีไม่น้อย เรื่องแรกคือ การถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับยาเสพติด เพียงเพราะเขามาจากครอบครัวชนชั้นกรรมกรก็ถูกมองในแง่ร้าย ซ้ำยังมีความซวยอีกนับครั้งไม่ถ้วนที่ต้องใช้คำว่า "ตกกระไดพลอยโจน" ไปกับเหตุการณ์ที่เขาไม่ได้เป็นผู้ก่อขึ้น หรือเป็นเรื่องปั้นแต่งของสื่อมวลชนมากมายที่ทำให้เขาต้องไปอยู่ในสถานการณ์ อันไม่พึงประสงค์และถูกลากเข้าไปเอี่ยวด้วยอย่างช่วยไม่ได้ เพียงเพราะเขาเป็นคนดังที่เป็นที่สนใจ ด้วยวัยเพียงแค่ 20 ปีที่ไม่มีคนชี้แนะ เขาจึงตกเป็นเหยื่อของสื่อ เป็นเหยื่อของกองเชียร์ฝ่ายตรงข้ามอยู่เสมอ และไม่มีผู้ใหญ่คนไหนออกมาปกป้องเขาให้พ้นจากการเป็นเหยื่อแบบนี้ซักครั้ง เพราะบางทีมันก็คงน่าโมโหมากจริงๆที่คุณจะเดินไปเข้าห้องน้ำในผับและเจอคน งี่เง่ามาถามคุณว่า "เฮ้ นายเอายาหน่อยมั้ย" หรือ "เฮ้ นายยังใช้ยาอยู่หรือเปล่า"

เป็นคุณ คุณจะฉุนมั้ยล่ะ ที่มีคนมากล่าวหาคุณแบบนี้ นั่นแหละที่ฟาวเลอร์โดนมาตลอดการค้าแข้ง ความจริงเขาไม่ติดยาไปจริงๆก็ดีเท่าไหร่แล้ว

นอกจากเรื่องการโดนใส่ร้ายแล้วก็ยังมีเรื่องความไม่เป็นธรรมที่ได้รับจากลิ เวอร์พูล อ่านๆไป แทบตกเก้าอี้ ไม่อยากเชื่อว่าตอนฟาวเลอร์เพิ่งติดทีมชุดใหญ่ เข้ายังไม่ได้รับสัญญานักเตะอาชีพเลยด้วยซ้ำ และยังเล่นโดยได้รับค่าแรงสัปดาห์ละ 500 ปอนด์อยู่เลย จนเอเยนต์ต้องเข้ามาจัดการตกลงกับสโมสรให้เขาได้เซ็นสัญญา 5 ปี และได้ค่าเหนื่อย 3,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

พระเจ้า!!! 3,000 ปอนด์ ตอนเจอร์ราร์ดขึ้นชุดใหญ่ยังได้มากกว่านี้เลยทั้งๆที่ยิงประตูให้ทีมยังไม่ได้ด้วยซ้ำ

และที่น่าชอกช้ำเป็นที่สุดคือ การกระทำของเชราร์ อุลลิเย่ และฟิล ธอมสัน ในช่วงหลังอาการบาดเจ็บเรื้อรังของเขา และเราเพิ่งจะมีกองหน้าดาวรุ่งคนใหม่ที่สาวกหงส์แดงเรียกมันว่า เซนต์ ไมเคิล (ฮึ มันไม่น่าเล้ยยย ไม่น่าเรียกมันแบบนั้นเลย) อุลลิเย่ส่งฟาวเลอร์ลงเล่น 1 นัดพัก 3 นัด บางนัดก็ส่งเป็นตัวสำรอง แล้วอ้างกับสื่อว่า เขาไม่ฟิต แต่กระนั้นฟาวเลอร์ก็ยังยิงประตูให้ทีมไม่น้อย หลังฤดูลกาล 3 แชมป์ สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายขึ้น เขาไม่ได้รับข้อเสนอต่อสัญญา และเริ่มมีข้อเสนอจากเชลซีเข้ามา และมันก็ถึงเวลาที่ฟาวเลอร์เองก็รู้ว่ามันกำลังจะมาถึง ความสัมพันธ์กับสโมสรอันเป็นที่รักนาน 15 ปี กำลังจะสิ้นสุด 8 ปีในทีมชุดใหญ่ที่ 2 ปีสุดท้ายกลายเป็นปีแห่งการกล้ำกลืนฝืนทนที่ต้องถูกผู้จัดการทีมเล่นงานอยู่ตลอดเวลา และเขาไม่เคยต่อสู้หรือตอบโต้ซักครั้ง

สุดท้ายก็เป็นลีดส์ ที่ยื่นข้อเสนอมาที่ 12 ล้านปอนด์ ข้อเสนอที่แม้แต่เจ้าตัวก็ยังตกใจ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่เขาเพิ่งหายจากการบาดเจ็บและเหลือสัญญากับลิเวอร์ พูลเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น สุดท้าย เขาก็ย้ายจริงๆ ซ้ำนัดสุดท้าย เขายังโดนเปลี่ยนตัวออกเสียอีก ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะร่ำลาแฟนๆที่สนับสนุนเขามาตลอด

ถ้ารู้อนาคต ฟาวเลอร์คงเลือกเชลซีแทนที่จะเป็นลีดส์ เพราะในขณะที่ทุกคนรู้ว่าเชลซีกำลังถังแตก แต่ลีดส์กลับถังแตกยิ่งกว่า และสุดท้าย มันก็กลายเป็นฝันร้ายที่ย้ายมาลีดส์ จนคีแกนมาดึงเขาไปอยู่แมน ซิตี้ เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของอุลลิเย่เช่นกัน

ฟาวเลอร์ไม่มีทิฐิซักนิด ใจเขาไม่เคยไปจากแอนฟิลด์ เขาให้เอเยนต์สอบถามถึงความเป็นไปได้ในการกลับไปแอนฟิลด์ และอุลลิเย่ต้องยอมรับเพื่อต่อชีวิตตัวเอง แต่น่าเสียดายว่าบอร์ดบริหารเริ่มตาสว่างกับการผลาญเงินของอุลลิเย่ บอร์ดไม่อนุมัติให้เขาใช้เงินอีกแม้แต่เพนนีเดียว ฟาวเลอร์เลยต้องไปอยู่กับแมน ซิตี้ และนั่นทำให้เขามีโอกาสเพียงแค่ ฉลองประตูที่ยิงใส่ แมนยู โดยการชูมือ 5 นิ้วบอกว่าลิเวอร์พูลได้แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 5 สมัยแล้วเท่านั้น ได้แค่นั้นจริงๆ ไม่บอกก็ต้องรู้ว่า เขาอยากจะได้สัมผัสถ้วยนั่น อยากจะชูถ้วยแชมป์ให้กับ The kop แต่เขากลับทำได้แค่เยาะเย้ยแฟนแมนยูเท่านั้นเอง

แต่แล้ว ฟ้าก็เห็นความดี ความตั้งใจจริงของเขา ในที่สุด สตีวี่ กับ คาร์ร่าก็บอกกับฟาวเลอร์ว่า ราฟาต้องการที่จะดึงเขากลับมา เขาได้สัญญาแค่ 6 เดือนเท่านั้น เพราะราฟาไม่มั่นใจในความฟิตของเขา แต่จะยังไง เขาก็แทบจะไม่แคร์อีกต่อไปแล้ว ให้เล่นฟรี เขาก็จะเล่น สีหน้าวันที่เซ็นสัญญากับลีดส์ และเซ็นสัญญากลับมาแอนฟิลด์ของเขา มันช่างแตกต่างอย่างมากมายเหลือเกิน ตลอดเวลา เขารู้ว่าแฟนบอลรักเขา สนับสนุนเขา และไม่เคยเลยซักครั้งที่จะทำร้ายจิตใจแฟนบอล แม้ตัวเองจะถูกกระทำให้เจ็บช้ำตลอด 2 ปีที่อุลลิเย่ คุมทีมก็ตาม และเมื่อได้รับโอกาสที่จะกลับบ้านอีกครั้ง เขาก็คว้ามันโดยไม่สนใจว่าจะถูกเอาเปรียบอีกครั้งหรือเปล่า

ช่างโชคดีที่โลกยังมีคนแบบนี้อยู่ และโชคดีที่สุดที่คนคนนั้นคือ GOD ของเรา คือคนที่จะเป็น GOD ของเราไปตลอดกาล

เขาไม่ได้เป็น GOD เพราะยิงประตูได้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของสโมสร แต่เขาเป็น GOD เพราะหัวใจที่น่ายกย่อง หัวใจที่รับรู้ถึงความรักที่แฟนๆมีให้เสมอ หัวใจที่มีแต่ให้แฟนๆที่รักเขา แม้จะต้องอาภัพเรื่องการติดทีมชาติก็ตาม แต่เขาก็ไม่เคยเอามาเป็นข้ออ้างเพื่อจะทำร้ายหัวใจ The kop อย่างคนบางคน

มันเป็นความจริงที่ว่า คนที่เป็นแชมป์มากมายจะได้รับการจดจำ แต่มันจะเป็นข้อยกเว้นสำหรับ GOD เพราะเชื่อเหลือเกินว่า พวกเราจะมี GOD ที่ชื่อ ร๊อบบี้ ฟาวเลอร์ อยู่ในหัวใจตลอดไป แม้ว่า เขาจะไม่เคยชูถ้วยพรีเมียร์ลีกส์และยูโรเปี้ยน คัพให้เราก็ตาม


บทสุดท้ายของหนังสือ GOD บอกว่า วันหนึ่งข้างหน้า เมื่อเขาเลิกเล่น เขาอยากจะกลับมาทำงานที่แอนฟิลด์อีกครั้ง ให้เป็นคนกวาดขยะบนสแตนก็ยอม...

ไม่รู้ว่าพูดเล่นหรือพูดจริง แต่เราจะยอมให้พระเจ้าของเรา ต้องไปทำแบบนั้นได้ยังไงล่ะ เขาคู่ควรกับตำแหน่งที่ดีกว่านั้นมากมายนัก และหากเป็นจริง แฟนๆคงไม่กล้าทิ้งขยะบนสแตนให้ GOD ที่พวกขารัก ต้องมาทำความสะอาดหรอก จริงมั้ย

สุดท้ายนี้ อยากส่งกระแสจิตไปขอบคุณ GOD อย่างสุดหัวใจ ที่คุณทำให้สโมสรของเราเป็นสโมสรที่พิเศษเหลือเกิน และที่มันพิเศษได้ คุณก็คือส่วนหนึ่งที่ทำให้แอนฟิลด์ไม่เคยเหมือนที่ไหนเลย

ขอบคุณเหลือเกินค่ะ

GOD of Anfield : Robbie Fowler


ปล. ขออนุญาตลงเครดิตเว็บหงส์มารนะคะ เพราะฮ๊อกกี้ไปเขียนลงที่นั่น อิอิ

 
 

จากคุณ : howk_ky
เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 21:12:27




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com