ความคิดเห็นที่ 1 คุณรู้หรือไม่ แฟรงก์ บาร์สัน กองหลังสุดโหดของแอสตัน วิลล่า ในยุคนั้นเล่นโหดถึงขนาดโดนไล่ออกในเกมเทสติโมเนียลแมตช์ของตัวเอง จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 13:47:49

ความคิดเห็นที่ 2 ปี 1930 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการนักเตะหน้าใหม่ที่ชื่อ ฮิวอี้ แมคเลแนน จากสต๊อกพอร์ต เคาน์ตี้ และแมนฯยูฯ จ่ายค่าตัวของเขาให้สต๊อกพอร์ต เคาน์ตี ทั้งหมด 3 ตู้แช่ไอศกรีม!! เพราะว่า แมคเลแนนเป็นนักเตะสมัครเล่น จึงเป็นการผิดกฎหมายหากจะจ่ายค่าตัว(ในสมัยนั้น) สต๊อกพอร์ตจึงหารายได้จากการขายไอศกรีมในตลาดจัดหากองทุนแทน จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 13:50:56

ความคิดเห็นที่ 3 เอฟเวอร์ตัน และ ลิเวอรืพูล ได้ใช้หนังสือโปรแกรมการแข่งขันร่วมกันเป็นครั้งแรกในวันที่ 1 กันยายน 1904 โดยมีชื่อหนังสือว่า "หนังสือโปรแกรมเอฟเวอร์ตันและลิเวอร์พูล" ในราคา 1 เพนนี(ค่าในสมัยนั้นซึ่งถูกกว่า 1 เพนซ์ในปัจจุบัน) จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 13:53:14

ความคิดเห็นที่ 4 เท็ด เดรก กองหน้าของทีมอาร์เซนอล ยิงได้ 42 ประตูในฤดูกาลแรก 1934-1935 ผลงานเยี่ยมที่สุดเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาลต่อมา ในวันที่ 14 ธันวาคม 1935 อาร์เซนอล ถล่ม แอสตัน วิลล่า 7-1 โดยแดรกยิงคนเดียว 7 ประตู!! โดยในเกมนั้น เดรกมีโอกาสยิงเพียง 8 ครั้ง 7 ครั้งเป็นประตู อีก 1 ครั้ง ชนคาน จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 13:55:55

ความคิดเห็นที่ 5 บิลล์ แมคแครกเคน แมคแครกเคน เป็นฟูลแบ็กคนดังของทีมชาติไอร์แลนด์และนิวคาสเซิ่ล เขาเป็นคนที่แฟนบอลทีมอื่นๆในประเทศเกลียดมากที่สุด มากแค่ในนะหรือ?? ครั้งหนึ่ง เขาเคยพูดว่า "ตัวผมเต็มไปด้วยผลไม้(จากการถูกขว้าง)มากกว่าที่คุณหาได้ในร้านผลไม้ซะอีก" แมคแครกเคนไม่เป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอล เพราะเขาดักล้ำหน้ากองหน้าฝ่ายตรงข้ามได้ดีมาก จนปี 1925 กฎการล้ำหน้าระบุว่า ต้องมีกองหน้าอยู่ต่ำกว่าฝ่ายตรงข้ามสามคนเวลาได้บอล แมคแครกเคนไม่สนใจจะสกัด เขาแค่วิ่งสวนขึ้นมาในจังหวะที่พอดีและทำเอากองหน้ายืนเซ่อไปเลย ถือเป็นสุดยอดแท๊กติก จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 14:02:53

ความคิดเห็นที่ 6 บิลล์ แอปเพิลยาร์ด และ อัลเบิร์ต เชพเพิร์ด ทั้งสองเป็นศูนย์หน้าดาวยิงของทีมนิวคาสเซิ่ล เมื่อสิ้นฤดูกาล 1907-08 แอปเพิลยาร์ด ยิงคนเดียว 87 ประตู ในลีก 145 เกม ฉายาของเขาคือ "ค็อกเกิลส์" (Cookles) เพราะก่อนเล่นฟุตบอลอาชีพ เขาเป็นชาวประมงมาก่อน!! (นั่นอาจทำให้เขายิงบอลตุงตาข่ายได้ง่ายมาก!!)       เชพเพิร์ด ย้ายจากโบลตัน มาอยู่กับนิวคาสเซิ่ล ไม่มีใครแน่ใจว่าเขาทุ่มเทให้กับทีมมากหรือเปล่า ครั้งหนึ่งเชพเพิร์ดโดนแฟนบอลโห่ เขาเดินออกจากสนามไปเข้าห้องแต่งตัวทันที!!! แม้แต่ช่วงที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเขากับนิวคาสเซิ่ล ซึ่งเขายิง 2 ประตูในเกมนัดชิงเอฟเอคัพนัดแข่งใหม่กับบาร์นสลีย์ แต่ก็เกือบจะไม่เกิดขึ้นซะแล้ว เพราะเขาโดนตัดออกจากรอบรองชนะเลิศ เพราะผู้จัดการทีมคิดว่า เขายุ่งเกี่ยวกับการพนัน!! ทำไมเชพเพิร์ดถึงได้ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศรู้ไหม?? เพราะนักเตะอีกคนคือ บิลล์ แมคแครกเคน บอกว่า หากเชพเพิร์ดไม่ได้ลงเล่น เขาก็จะไม่ลงเล่นเหมือนกัน!!! และเมื่ออยู่ในสนามนัดชิงชนะเลิศ แมคแครกเคนก็ยังทำดีกับเชพเพิร์ดอีก เวลาอยู่ในสนาม ปกติแมคแครกเคนรับหน้าที่เป็นคนยังจุดโทษ และเขามีโอกาสยิงให้ทีมนำถึง 2 ประตู แต่เขาต้องการให้เชพเพิร์ดกลับมาเป็นคนสำคัญของทีม แมคแครกเคนจึงให้เชพเพิร์ดเป็นคนยิง "และเรื่องนี้กลายเป็นประวัติศาสตร์" เพราะเชพเพิร์ดคือคนแรกที่ยิงจุดโทษในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 14:12:29

ความคิดเห็นที่ 7 บิลลี่ ไร จากทีมวูฟแฮมป์ตัน ได้รับเลือกเป็นกัปตันทีมฟุตบอลทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรกในปี 1948 แต่เขาไม่ได้รู้ข่าวจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ใครกันหละที่มาบอกเขา??? กระเป๋ารถเมล์ที่เห็นข่าวจากหนังสือพิมพ์เป็นคนบอกเขา!!! จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 14:15:22

ความคิดเห็นที่ 8 ในแมตช์แชริตี้ชิลด์ปี 1967 ระหว่างสเปอร์แชมป์เอฟเอคัพ กับแมนฯยูไนเต็ด แชมป์ลีก เป็นเกมที่สนุกเร้าใจมากเพราะสกอร์ออกมาเสมอกัน 3-3 ช่วงหนึ่งของเกม แมต เจนนิ่งส์ ผู้รักษาประตูของสเปอร์ ก็งงกับเสียงนกหวีด เพราะเหตุใด?? เพราะเจนนิ่งส์ทำประตุได้ จากการเตะลูกโด่งเปิดเกมไปข้างหน้า แล้วบอลก็ตกพื้นกระดอนข้ามหัว อเล็กซ์ สเตปนีย์ ผู้รักษาประตูของแมนฯยูฯเข้าประตูไป ซึ่งเจนนิ่งส์ก็ยังไม่รู้ว่าผู้ตัดสินเป่านกหวีดยาวเพราะอะไร มันเป็นประตูรึเปล่า?? จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 14:19:04

ความคิดเห็นที่ 9 เอาอีก ๆ ๆ จากคุณ : โดดเดี่ยวในบ้านหลังใหญ่ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 14:25:42

ความคิดเห็นที่ 10 หลังจากฤดูกาล 1956-57 ทีมแมนฯยูฯถล่มอันเดอร์เลชกระจุย สกอร์รวม 2 นัด 12-0 พวกเขาก็จอดป้ายแค่รอบรองชนะเลิศเพราะพ่ายแพ้ให้แก่ทีม รีล มาดริด ซึ่งก้าวไปเป็นแชมป์ในที่สุด แต่การที่พวกเขาได้แชมป์ลีกอีกในฤดูกาล 1957-58 พวกเขาก็ตะลุยถึงรอบรองชนะเลิศได้อีกครั้ง หลังจากที่ชนะเรดสตาร์ เบลเกรด ด้วยประตูรวม 5-4 โดยชนะที่แมนเชสเตอร์ 2-1 และในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1958 บุกไปเสมอเบลเกรดถึงถิ่น ด้วยสกอร์ 3-3 แต่นั่น คือแมตช์สุดท้าย ที่พวกเขาได้อยู่ร่วมเล่นทีมเดียวกัน วันรุ่งขึ้น 6 กุมภาพันธ์ 1958 ช่วงเวลาบ่ายสามโมง เครื่องบินที่พวกเขาโดยสารประสบอุบัติเหตุ ในระหว่างเดินทางกลับแมนเชสเตอร์ โดยเครื่องลงจอดเติมน้ำมันที่สนามบินมิวนิค แล้วอากาศก็เลวร้ายมากๆ มีหิมะและน้ำแข็งปกคลุมรันเวย์เต็มไปหมด นักบินพยายามนำเครื่องขึ้นถึง 2 ครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ และนักบินจึงตัดสินใจเป็นครั้งที่สาม แต่ทว่าเครื่องขึ้นไม่พ้นรันเวย์ พุ่งข้ามไปชนรั้ว ชนบ้านและโรงเก็บของ จนไฟลุกและเครื่องระเบิด         นาทีนั้นเป็นการสูญเสียสุดยอดทีมที่ยิ่งใหญ่ จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 14:27:46

ความคิดเห็นที่ 11 นักเตะหลัก ในจำนวนผู้โดยสารและพนักงานบนเครื่องบินทั้งหมด 40 คน เสียชีวิตไป 21 คน โดยผู้เสียชีวิต 8 คนเป็นผู้เล่นของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด...      เจฟฟ์ เบนต์ เขาเป็นผู้เล่นใหม่ของทีมในตำแหน่งแบ็กซ้าย เพิ่งเล่นให้กับทีมไปเพียงแค่ 12 นัด อายุ 26 ปี      โรเจอร์ ไบรน์ แบ็กจอมบุก เล่นให้แมนฯยูไนเต็ดไปแล้ว 277 นัด ติดทีมชาติอังกฤษ 33 นัด และเป็นกัปตันทีมของทั้งสองทีม อายุ 28 ปี      เอ็ดดี้ โคลแมน ผู้เล่นตำแหน่งกองกลางที่ทำเกมดีและยิงประตูได้ด้วย เขาเป็นคนอารมณ์ดี ตลก เพิ่งอายุ 21 ปีเท่านั้น      ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ กองกลางรูปร่างใหญ่ เล่นได้ดีทั้งเกมรุกและเกมรับ เล่นฟุตบอลลีกนัดแรกเมื่อายุเพียง 16 ปี และพออายุได้ 18 ปี ก็ติดทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรกในจำนวนทั้งหมด 18 ครั้ง อายุยังน้อย แค่ 21 ปีเท่านั้นเอง      มาร์ค โจนส์ อายุแค่ 24 ปี แต่เป็นกองหลังตัวกลางที่มีความหนักแน่น หนักหน่วง เด็ดขาดในการสกัด      เดวิด เพ็กก์ เล่นตำแหน่งปีกซ้าย อายุแค่ 17 ปีก็สามารถก้าวสู่ทีมชุดใหญ่ของแมนฯยูไนเต็ดได้ เขาเพิ่งติดทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรกก่อนเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 22 ปี      ทอมมี่ เทย์เลอร์ ศูนย์หน้าคนเก่งของแมนฯยูไนเต็ดและทีมชาติอังกฤษ เป็นหนึ่งในไปกี่คนที่เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ ซื้อตัวเข้ามาอยู่ทีมด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติของเขาในคณะนั้นคือ 29,999 ปอนด์ เพราะเจ้าตัวไม่อยากเด่นอยากดัง ว่าเป็นนักเตะคนแรกที่มีค่าตัวสูงถึง 30,000 ปอนด์ อายุ 26 ปี      เลียม วีแลน เป็นกองหน้าดาวยิงตัวเก่งอีกคน นัดแรกของฤดูกาลเขายิงแฮตทริกได้ น่าเสียดายที่อายุสั้นแค่ 23 ปี      ยังมีผู้เล่นของทีมปีศาจแดงอีก 2 คน คือ แจ็กกี้ บลานซ์ฟลาวเรอร์ อายุ 24 ปี และ จอห์นนี่ เบอร์รี่ อายุ 31 ปี ที่แม้จะรอดชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในครั้งนั้น แต่ก็เจ็บหนักและน่าเศร้าที่ไม่สามารถกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกเลย __________________________________________ ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี่ขึ้น ลองจินตนาการเล่นๆนะครับว่ายุคนั้นแมนฯยูไนเต็ดจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน ____________________________________________ คำถาม!! จขกท. เป็นแฟนบอลที่รักแมนเชสเตอรื ยูไนเต็ดหรือเปล่า?? ตอบ ใช่ครับ จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 14:40:35

ความคิดเห็นที่ 12 แต่ไม่ว่าคุณจะเชียร์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหรือไม่ก็ตาม 6 กุมภาพันธ์ 1958 นับเป็นวันที่น่าเศร้าใจของวงการฟุตบอล ผู้คนมากมายทั้งที่อาจไม่ใช่แฟนบอล ไม่ใช่แฟนปีศาจแดงยังเสียน้ำตาร่ำไห้กับโศกนาฏกรรมที่มิวนิค มันไม่ใช่การสูญเสียนักเตะของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเท่านั้น แต่เป็นการสูญเสียของทีมชาติอังกฤษด้วย และที่สำคัญเหนืออื่นใดก็คือ เป็นการสูญเสียของวงการฟุตบอลเลยละ     ที่หน้าสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดของทีมแมนฯยูไนเต็ด ได้มีการสร้างอนุสรณ์เพื่อเป็นเกียรติ และรำลึกถึงการสูญเสียครั้งหนึ่งให้คนรุ่นหลังๆได้ร่วมรับรู้ด้วย เป็นอนุสรณ์เตือนใจให้นึกถึงสุดยอดทีมที่ยิ่งใหญ่ที่ล่วงลับ จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 14:45:44

ความคิดเห็นที่ 13 เดี๋ยวผมมานะครับ จะมาต่อเรื่องของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียวๆเลย จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 14:47:15

ความคิดเห็นที่ 14 เอาเรื่องเฉพาะก่อนเข้าปี 2000 นะครับ คงไม่มีใครคัดค้านหากจะบอกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือสุดยอดทีมแห่งทศวรรษที่ 1990... - พวกเขาได้ดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 1993-94 - พวกเขาได้ดับเบิ้ลแชมป์อีกครั้งในฤดูกาล 1995-1996 เป็นทีมแรกที่ได้ ดับเบิ้ลสองครั้ง -พวกเขาทำได้อีกครั้งในฤดูกาล 1998-99 และได้แชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ ในปีเดียวกัน ถือเป็นเทรบเบิลแชมป์ที่ไม่เคยมีสโมสรไหรในอังกฤษทำได้มาก่อน ก่อนที่พวกเขาจะได้แชมป์ครั้งแรกในทศวรรษที่ 1990 ในฤดูกาล 1992-93 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์ครั้งสุดท้ายคือในปี 1966-67 จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 14:57:08

ความคิดเห็นที่ 15 เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รู้ข่าวขณะที่เล่นลูกกลมๆอยู่เหมือนกัน ว่าทีมของเขานำอยู่ในตารางขณะที่คู่ต่อสู้ที่ใกล้เคียงที่สุดคือ แอสตัน วิลล่าต้องเอาชนะโอลด์แฮม เพื่อที่จะมีโอกาสไล่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทัน แทนที่จะฟังข่าววิทยุ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจไปเล่นกอล์ฟแทน!!! เขาอยู่บนกรีนหลุมสุดท้าย ขณะที่นักกอล์ฟอีกคนรีบเดินมาหาเขาแล้วบอกว่า "ขอโทษครับ คุณเฟอร์กูสัน โอลด์แฮมชนะแอสตัน วิลล่า คุณเป็นแชมป์แล้ว" คำถาม?? แม้พวกเขาจะได้แชมป์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ไม่ได้ถ้วยชนะเลิศจากลีดส์ ซึ่งเป็นแชมป์ฤดูกาลก่อน เพราะอะไร ฤดูกาล 1992-93 เป็นฤดูกาลแรกที่การแข่งขันเปลี่ยนชื่อจากดิวิชั่น 1 มาเป็นเอฟเอพรีเมียร์ชิพ ซึ่งถ้วยใบใหม่ใหญ่กว่าถ้วยเดิม และมีมงกุฎด้านบน ดังนั้นผู้ชนะคือแชมป์ที่ได้มงกุฎด้วย เย้!! จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 15:04:29

ความคิดเห็นที่ 16 ฤดูกาล 1995-96 มีนักเตะใหม่ๆ ผู้เลนวัยรุ่นก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลายคน เช่น เดวิด เบ็คแฮ่ม , พอล สโคลส์ แกรี่และฟิล เนวิลล์ ทีมเริ่มต้นได้ไม่ดีนัก แพ้นัดแรก และอดีตนักเตะทั้งหลายพากันคิดว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหมดโอกาส หนึ่งในจำนวนนั้นคือ อลัน แฮนเซ่น อดีตนักเตะลิเวอร์พูลยุครุ่งเรืองในทศวรรษ 1980 เขาพูดประโยค ซึ่งเป็นอมตะมาจนทุกวันนี้ ว่า.. "คุณไม่มีทางได้แชมป์เพราะเด็กๆหรอก" อาจจะเป็นอย่างนั้น ในยุคที่เขาเป็นกองหลัง แต่ 9 เดือนต่อมาเขาก็มีลูก เอ๊ย เขาก็หน้าแตกกับสิ่งที่พูดไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทีมที่มีแต่เด็กได้ทั้งแชมป์ลีก และชนะเลิศเอฟเอคัพ คว้าดับเบิ้ลแชมป์อีกสมัย!!! จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 15:09:59

ความคิดเห็นที่ 17 1998-99 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จสูงสุดได้เทรบเบิ้ลแชมป์(แชมป์สามรายการในปีเดียวกัน) - ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ชนะอาร์เซนอล แชมป์เก่า 1 คะแนน - ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 ได้แชมป์เอฟเอคัพ - ชนะบาเยิร์น มิวนิค ทีมจากเยอรมัน 2-1 ได้แชมปืยูโรเปี้ยนคัพ จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 15:19:53

ความคิดเห็นที่ 18 แต่พวกเขาจะได้สักกี่รายการ หากกติกาการแข่งขันย้อนกลับไปเหมือนในยุคของวันเดอร์เรอร์สที่เคยบอกว่า "การแช่งขันยุติแค่ 89 นาทีเท่านั้น" - พวกเขาจะไม่ได้แชมปืเอฟเอคัพ เพราะในรอบที่สี่ พวกเขาจะแพ้ลิเวอรืพูล 0-1 เหลืออีกไม่ถึงนาที... แต่เมื่อกรรมการเป่านกหวีดยุติเกม เป็นลิเวอร์พูที่ตกรอบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยิง 2 ประตูในนาทีสุดท้ายและทดเวลา เอาชนะไปได้ 2-1 - พวกเขาจะไม่ได้แชมป์ยูโรเปี้ยนคัพอีกเหมือนกัน ในนัดชิงชนะเลิศ บาเยิร์น มิวนิค นำ 1-0 จนเกือบครบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยิงตีเสมอได้ในนาทีสุดท้ายและเมื่อกรรมการเป่ายุติเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดชนะไป 2-1 โดยลูกที่สอง ได้มาในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ!!! จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 15:25:15

ความคิดเห็นที่ 19 มาดูนักเตะตัวหลักของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กันบ้างดีกว่า     ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล เป็นผู้รักษาประตูของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจนถึงปี 1999 เขาเป็นคนที่มีลูกเล่นรวมไปถึงการคำรามด้วย -*- เขาอาจพูดคำหยาบกับเพื่อนร่วมทีม คนที่เขาคิดว่าเล่นพลาด ^^ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกำลังจะแพ้ในนาทีสุดท้าย และหากได้ลูกเตะมุม ชไมเคิ่ลจะวิ่งขึ้นมารอโหม่ง ในฟุตบอลยูฟ่าคัพ นัดเจอกับทีมโรเตอร์โวลโกกราดจากรัสเซีย ในฤดูกาล 1995-96 เขาวิ่งขึ้นมาละโหม่งทำประตูได้      ไรอัน กิกส์ เป้นตัวจริงตั้งแต่อายุ 17 ปี กิกส์ได้เหรียญชนะเลิศตั้งแต่อายุยังน้อย ชนิดที่ไม่มีใครเด็กกว่าอีกแล้ว ^^ เขาเป็นเจ้าของสถิติที่ยังไม่มีใครลบได้ นอกจากจำนวนแชมป์แล้ว นั่นคือ เป็นนักเตะคนเดียวที่ติดทีมชาติสองชาติ และใช้ชื่อต่างกัน ไรอัน กิ๊กส์ และ ไรอัน วิลสัน หากคุณจะทำได้ ต้องเป็นคนเวลล์ ไปเรียนหนังสือในอังกฤษ เลือกเล่นให้ทีมโรงเรียนของอังกฤษ จากนั้นเปลี่ยนนามสกุล ไม่ใช้นามสกุลพ่อ(วิลสัน) มาใช้นามสกุลแม่ไปตลอดชีวิต โดยเฉพาะเมื่อติดทีมชาติเวลล์ ไม่ใช่เรื่อง่ายเลยนะเนี่ย... -*- ในเกมเอฟเอคัพรอบสี่ ซึ่งพบกับเซาแธมป์ตัน ในฤดูกาล 1991-92 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นทีมแรกที่ตกรอบ นัดนั้นมีการยิงจุดโทษเพื่อตัดสินเกม และนักเตะที่รับผิดชอบต่อจุดโทษที่ยิงพลาดดังกล่าว คือ.. ไรอัน กิ๊กส์ จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 15:37:44

ความคิดเห็นที่ 20 เหลืออีก 2คน ซึ่งเยอะมาก เอาไว้ก่อนแล้วกันครับ จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 15:38:05

ความคิดเห็นที่ 21 มาต่อกันที่ เดวิด เบ็คแฮ่ม กันดีกว่า เบคส์ เป็นผู้เล่นดาวรุ่งอีกคนหนึ่งที่ เอล็กซ์ เฟอร์กูสันปั้นขึ้นมาในฤดูกาล 1995-96 คุณอยากเป็นนักเตะอาชีพหรือเปล่า?? ถ้าอยาก ก็ต้องเล่นให้ทีมในเกมทดสอบฝีเท้า -*- เมื่อเป็นวัยรุ่น เบ็คแฮ่มไปทดสอบฝีเท้ากับสเปอร์ ทักษะของเขาคงดีเหมือนกัน แต่ทางสโมสรไปชอบบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับตัวเขา.. ก็เขาเล่นสวมเสื้อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปทดสอบฝีเท้านะซิ!!! ^^ อย่าลองเล่นแบบเบ็คแฮ่มในสนามเด็กเล่น(ยกเว้นมันจะขนาดใหญ่มาก) คุณต้องไปเล่นในสนามขนาดใหญ่เลยหละ เล่นทีมละ 11 คน และคุณอยู่ในแดนตัวเอง เลยจากวงกลมกลางสนามลงมา จากนั้นเมื่อบอลมาถึงคุณ ก็แค่เตะมันให้ดด่งตรงไปหาประตูอีกด้านหนึ่ง ข้ามศีรษะผู้รักษาประตูเข้าไปตุงตาข่าย... นั่นคือประตูแห่งความทรงจำลูกหนึ่งของเดวิด เบ็คแฮ่ม เขายิงประตูจากแดนตัวเองระยะประมาณ 60 เมตร ในนัดเปิดฤดูกาล 1996-97 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งพบกับ วิมเบิลดัน จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 16:21:37

ความคิดเห็นที่ 22 และคนสุดท้าย เรื่องของหมอนี่เยอะหน่อย "Eric the King" เอริก คันโตน่า เกิดที่ประเทศฝรั่งเศส เอริก เป็นนักเตะเด่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปี 1993 จนกระทั่งแขวนสตั๊ด(เพื่อไปเป็นดาราภาพยนตร์!!) เมื่อสิ้นฤดูกาล 1996-97 ผลงานของเขายอดเยี่ยมมาก ได้รับคำยกย่องมาก ^^ เช่นเดียวกับการก่อปัญหามากเหมือนกัน -*- ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเขา ไม่น่าเบื่อเลย... ^^ ฤดูกาล 1983-88 คันโตน่าเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับสโมสรโอแซร์ในฝรั่งเศส -*- เขาโดนปรับเพราะต่อยผู้รักษาประตูทีมเดียวกัน ^^ ฤดูกาล 1988-89 เขาได้ดับเบิ้ลแชมป์ คือ ได้ทั้งแชมป์เฟรนช์คัพ และแชมป์ลีกกับมาร์กเซย์ -*- เขาโดนลงโทษห้ามลงเล่น เพราะขว้างเสื้อใส่ผู้ตัดสิน หลังจากโดนเปลี่ยนตัวออก ^^ ฤดูกาล 1989-91 เขาเล่นให้ 4 สโมสร คือ บอร์กโดซ์ มงต์เปลิเยร์ มาร์กเซย์(เขาได้แชมป์ลีกอีกสมัย)และนีมส์ -*- บอร์กโดซ์ขายเขาออกจากสโมสรเพราะมาซ้อมสาย พอไปอยู่ที่มงต์เปลิเยร์ก็โดนลงโทษเพราะขว้างรองเท้าใส่เพื่อนร่วมทีม ย้ายไปสู่มาร์กเซย์ก็บาดเจ็บนานสามเดือน และเหตุการณ์รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นที่นีมส์ เขาโดนลงโทษห้ามเล่นสามนัด เพราะขว้างบอลอัดหน้าผู้ตัดสิน โดนลงโทษห้ามเล่นสองเดือนเพราะทำร้ายคู่แข่ง...และสุดท้าย "เขาด่าคณะกรรมการพิจารณาโทษของฝรั่งเศสว่า โง่!!" ^^ ฤดูกาล 1991-92 คันโตน่าย้ายมาอยู่กับลีดส์ และช่วยให้ได้แชมป์ลีก! -*- เขาย้ายมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในเดือนพฤศจิกายน 1992... และไม่นานก็ดดนปรับ 1,000 ปอนด์ เพราะถ่มน้ำลายใส่แฟนลีดส์หลังจากกลับไปเยือนทีมเก่า ^^ ฤดูกาล 1992-93 และ 1993-94 เขาได้แชมป์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้เขาได้แชมป์ถึงสี่รายการติดต่อกันกับสามสโมสร!!! -*- ในปี 1994 ก่อนหมดเวลาการแข่งขันยูโรเปี้ยนคัพ ในตุรกี เขาด่าผู้ตัดสินว่ารับสินบน คันโตน่าคิดว่าผู้ตัดสินไม่เข้าใจภาษาฝรั่งเศส แต่เขาพลาดอย่างมหันต์เพราะผู้ตัดสินเป็นครูสอนภาษาฝรั่งเศสที่บ้านเกิดของเขาในสวิสเซอร์แลนด์!! คันโตน่าโดนใบแดงและลงเอยด้วยการชกกับนักเตะเติร์กในอุโมงเข้าห้องแต่งตัว ^^ เขาได้เหรียญชนะเลิศเอฟเอคัพในปี 1994 โดยยิงสองจุดโทษให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี 4-0 -*- เดือนมกราคม 1995 หลังจากคันโตน่าโดนไล่ออกในเกมเจอกับคลิซตัน พาเลซ แฟนบอลฝ่ายตรงข้ามก็เล่นงานเขาอย่างหนัก โดยตะโกนด่าและถ่มน้ำลายใส่.. คันโตน่าเลยกระโดดโชว์แม่ไม้กังฟูกับแฟนบอล เขาโดนปรับอย่างหนักและห้ามลงเล่นนานถึงแปดเดือน และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่ได้แชมป์อะไรเลยในฤดูกาลนั้น ^^ คันโตน่าต้องไปขึ้นศาลและรอดพ้นจากการติดคุก แต่โดนลงโทษด้วยการทำงานเพื่อสังคมแทน 120 ชั่วโมง คันโตน่าต้องสอนเด็กให้เล่นฟุตบอล และเขาทำได้ดีมาก เมื่อเขากลับมาลงสนามกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกครั้งในฤดูกาล1995-96 พวกเขาก็ได้ดับเบิ้ลแชมปือีกครั้ง โดยคันโตน่ายิงประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพที่เจอลิเวอร์พูล -*- ไม่มีใครแทนที่คันโตน่าได้แล้ว ^^ จากประสบการณ์สอนฟุตบอลให้กับเด็ก อาจทำให้คันโตน่าอ่อนโยนขึ้น ฤดูกาลนั้นเขาโดนจดชื่อแค่ครั้งเดียว พร้อมกับเป็นนักเตะต่างชาติคนแรกที่ได้รับการลงคะแนนเสียงให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ!!      เอริก คันโตน่า ยังทำเรื่องเซอร์ไพรสือีก หลังจากช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์ลีกอีกสมัยในฤดูกาล 1996-97 เขาก็ประกาศว่าจะเลิกเล่นฟุตบอล และหันไปเป็นดาราภาพยนตร์แทนO_o จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 16:48:40

ความคิดเห็นที่ 23 จบแล้วครับ จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 16:48:52

ความคิดเห็นที่ 24 เอ้อ ลืมบอกไป หนังสือเล่มที่ผมเอามาลงให้ชื่อว่า "ฟุตบอล โหด มัน ฮา" "ยอดทีมดัง ลูกหนังอังกฤษ" michael coleman เป็นคนเขียนครับ จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 16:50:19

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณที่นำมาให้อ่านครับ จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 17:27:23

ความคิดเห็นที่ 26 ขอนิดนึงนะครับกับ คห.19 เรื่องไรอัน กิ๊กส์ กิ๊กส์เคยติดทีมนักเรียนอังกฤษครับ ไม่ใช่ทีมชาติ ถ้าคนไทยไปเรียนที่อังกฤษก็สามารถติดทีมนักเรียนอังกฤษได้ครับ จากคุณ : natureza เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 17:33:38

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณมากครับ บันเทิงมากมาย จากคุณ : kristkrz เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 18:02:59

ความคิดเห็นที่ 28 คห 8  ผู้รักษาประตูท่านนั้นชื่อ แพท เจนนิ่งส์ครับผม นอกจากเป็น ผรป.ที่ยิงประตูได้แล้ว ยังเป็น ผรป.ที่รับใช้ชาติ ไอร์แลนด์เหนือนานที่สุดด้วยครับ จากคุณ : พัฒน์ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 18:18:37

ความคิดเห็นที่ 29 Michaels Coleman เกี่ยวข้องอะไรกับ WWf มั้ยอะ ชื่อคุ้นๆ เออออ ลืม ไปชื่อเป้น WWE แล้วนิ จากคุณ : WeeZer182 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 18:35:34

ความคิดเห็นที่ 30 ผมว่า น่าจะรวมไว้กระทู้เดียวโพสเดียวหรือสองโพส จะได้อ่านง่ายๆ จะได้โหวตขึ้นแนะนำง่ายๆด้วยครับ จากคุณ : underground1 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 19:28:44

ความคิดเห็นที่ 31 เกร็ดความรู้ อ่านแล้วเพลินดีครับ ขอบคุณที่อุตสาห์เอามาฝากกัน จากคุณ : jukklu เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 20:10:19

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณสำหรับกระทู้อ่านเพลินอีกหนึ่งกระทู้ค่ะ  ^^ จากคุณ : Noey :p เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 21:56:00