ความคิดเห็นที่ 1 มาพูดถึงเกมคอมมูนิตี้ ชีลด์ เมื่อคืนที่ผ่านมากันดีกว่า เมื่อพลันที่เห็นรายชื่อนักเตะที่ส่งลงสนาม ผมเองยังค่อนข้างแปลกใจพอสมควร เพราะเห็นเพียงแต่รายชื่อนักเตะเดิมๆเมื่อซีซั่นที่แล้ว โดยไม่มีนักเตะหน้าใหม่ ลงประเดิมสนามแต่แรกแม้แต่คนเดียว แถมยังมีนักเตะตัวหลักหลายรายที่ตกสำรวจอีกต่างหาก เพราะอาการบาดเจ็บ ไม่ว่า น้าซาร์, วิดิช, ราฟาเอล, บราวน์ นี่ก็ยังจะมีข่าวร้ายเพิ่มอีก เมื่อนายแพทย์ชาวเยอรมันเพิ่งออกข่าวว่า เจ้าฮากริบคงต้องพักเพิ่มอีกหกเดือนโน่น ตายกันพอดีครับ เฮ้อ...เอาล่ะ มาดูกันซิ ว่าเค้าจัดทีมกันอย่างไร เริ่มจากเชลซีกันก่อน กับแท็คติคเพชร...เลอค่า...อมตะ ที่กุนซืออันเช่ นิยมชมชอบเป็นนักหนา ไลน์รับไล่เรียงมาตั้งแต่ ปีเตอร์ เช็ค เฝ้าเสา มีบรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่ และ แอชลี่ย์ โคล มิดฟิลด์ตัวรับห้อยท้ายเป็น โอบี มิเกล วางสองมิดฟิลด์ตัวทำเกมเป็น มิชาเอง เอสเซียง และ แฟรงค์ แลมพาร์ด JR ให้มาลูด้าเล่นตัวรุกข้างหน้าแผงมิดฟิลด์ และส่งอาเนลก้า กับ ดร็อกบา เป็นหน้าเป้าคู่กัน ดูแล้วก็สยดสยองดีนะครับ เมื่อเห็นว่า ถ้าไม่นับอิวาโนวิชซะคน ที่เหลือก็เหมือนจะชุดใหญ่เต็มถังของเชลซีแล้ว ในขณะที่ยูไนเต็ดเอง ไม่มีน้าซาร์ที่พักสองเดือน กับวิดิชอีกคน ทำให้แผงหลังมีฟอสเตอร์เฝ้าเสา แบ๊กโฟร์ตกเป็นของ จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอห์นนี่ เอแวนส์ และ ปาทริซ เอวร่า มิดฟิลด์ตัวกลางสองคนมี ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ และ ไมเคิล คาร์ริค ตัวริมเส้นให้นานี่ กับ ตี๋ปาร์ค วางเบอร์บาตอฟกับรูนี่ย์เป็นหน้าคู่ ก็เป็นการยืนยันในมิสชั่น “แบ๊ค ทู เบสิค” หรือ “สูงสุด กลับสู่สามัญ” ได้เป็นอย่างดี กับการกลับมาเล่นในรูปแบบ conservative 4-4-2 อันเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมของเรา จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 10:25:41

ความคิดเห็นที่ 2 กับรูปเกมก็เป็นไปอย่างที่ผมคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว นั่นคือ ตราบใดที่เรายังไม่หามิดฟิลด์ในระดับที่สมน้ำสมเนื้อกับทีมบิ๊กๆมาเสริมความแข็งแกร่งในแดนกลาง เกมตรงกลางเราก็จะยังตกเป็นรองทีมอย่าง อาร์เซน่อล, เชลซี, และลิเวอร์พูลเหมือนเดิม อันนี้พูดถึงในกรณีที่ทีมเหล่านี้ส่งตัวจริงลงมาบู๊กับเรานะครับ ผมเองไม่เคยเชื่อครับ ว่า ไมเคิล คาร์ริค, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไรอัน กิ๊กส์ หรือแม้แต่ สโคลส์ ในวัยนี้ จะมาต่อกรกับ มาสเคราโน่-อลอนโซ่-เจอร์ราร์ด (ไปซะแล้วหนึ่ง) หรือ เชส-นาสรี่-โรซิคกี้ หรือ เดโก้-แลมพ์-มิเกล-บัลลัค-เอสเซียง ได้แบบสูสีตลอดเก้าสิบนาที ผมไม่เชื่อ โอเคว่าเราอาจมีจังหวะที่ทำได้ดีเป็นระยะๆ แต่ไอ้ที่จะมาครองเกมสู้กันกับสามทีมเหล่านี้ได้แบบถึงพริกถึงขิง ผมมองว่ายากมากๆ ช่วงซัมเมอร์ที่มีข่าวกับปีกดังๆ กับกองหน้าดังๆ ผมถึงเฉยๆ เพราะผมมองว่า หัวใจที่เราต้องการคือ มิดฟิลด์คุณภาพถึงระดับเพียงคนเดียว ที่จะเอามาเติมตรงกลางครับ ที่พูดมา ไม่ใช่ว่าผมมองว่าแดนกลางเราอ่อน จริงอยู่ครับ ที่ซีซั่นหนึ่งๆ เราเจอกับอีก 19 ทีม ซึ่งผมก็เชื่อว่า มีเกิน 10-12 ทีมแน่นอน ที่เราสามารถเอาชนะได้ในการครอบครองพื้นที่กลางสนามแบบไม่ยากเย็นมากนัก (ไม่ได้หมายถึงเอาชนะนะครับ) แต่กับทีมใหญ่ๆอีกสามทีมที่ว่ามาเป็นอย่างน้อย คุณภาพของมิดฟิลด์ตรงกลางเขาแน่นและยืดหยุ่นกว่าเรามาก ถึงแม้ในเกมนี้ ผมจะเห็นว่าเฟล็ทเชอร์มีพัฒนาการมากขึ้นไปอีกขั้น กับความดุดันที่ดูจะมากขึ้น และทักษะการเล่นกับบอลที่ดีขึ้น ในขณะที่คาร์ริคเองก็เล่นได้สบายใจขึ้น มีเวลามากขึ้นในการหาตำแหน่งเพื่อนเพื่อจ่ายบอล แต่...คุณลองพิจารณาดูครึ่งหลังสิครับ ว่าหนังมันแทบจะคนละม้วนกันเลย จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 10:25:59

ความคิดเห็นที่ 3 เกมในครึ่งแรก น่าแปลกครับ ที่ดูเชลซีเหมือนจะยังปรับจูนกันไม่ลงตัวกับแท็คติคเพชรอันนี้ของอันเชล็อตติ ยิ่งบวกกับการที่อิวาโนวิชค่อนข้างช้า เพื่อนๆต้องคอยพะวงมาช่วย ทำให้เกมตรงกลางออกมาค่อนข้างสูสี และดูยูไนเต็ดจะเหลื่อมๆกว่าด้วยซ้ำไป การขึ้นบอลของนานี่และเอวร่า สร้างปัญหาให้อิวาโนวิชโดยตลอดในครึ่งแรก จนอันเชล็อตติต้องลงมาชี้โบ๊ชี้เบ๊บ่อยๆ บอลของเชลซีถูกตัดทำลายเกมได้หลายครั้งตรงกลางและริมเส้น การต่อบอลและความต่อเนื่องของเกมเชลซีดูจะยังมีปัญหา และขาดๆเกินๆอยู่เรื่อยๆ ตรงนี้เองครับ ที่ทำให้เกมของแมนฯยูฯ ที่เล่นในรูปแบบ 4-4-2 ที่นักเตะทุกคนในโลกคุ้นเคย ทำได้ดีกว่าในแง่ทีมเวิร์ค และการต่อบอลออกทางริมเส้น จนมาได้ประตูนำจากนานี่ในที่สุด เกมของเชลซียังน่าเป็นห่วงเมื่อคิดว่านี่ก็คือทีมเดิมๆ เพียงแต่เปลี่ยนแท็คติคกับโค้ช แต่ดูเหมือนว่า อันเชล็อตติจะไม่ดื้อดึงมากนัก มีการปรับการยืนและรายละเอียดของการเล่นในช่วงปลายครึ่งหลัง ซึ่งทำให้เกมของเชลซีดูดีขึ้นมาพอสมควร นั่นก็คือ หุบเอาเอสเซียงลงมาช่วยอิวาโนวิช และถ่างเอาอาเนลก้าออกมาเล่นริมเส้นทางซ้ายมากขึ้น ทำให้มาลูด้าและพี่แฟรงค์ขึ้นเติมได้ค่อนข้างสะดวก และเปิดพื้นที่ตรงกลางให้เล่นกันได้มากขึ้น คุณภาพนักเตะของเชลซีนั้น เทียบตำแหน่งต่อตำแหน่ง สูงกว่ายูไนเต็ดพอสมควรอยู่แล้ว พอมีพื้นที่มากขึ้น ก็จึงทำให้เกมของเชลซีทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับเกมของยูไนเต็ดที่ดูจะดาวน์ลงไป แต่ว่าก่อนหน้าที่เชลซีจะดีขึ้นมานั้น เกมของยูไนเต็ดช่วงที่ยังดีอยู่ กลับไม่สามารถเบิกสกอร์เพิ่มให้ขาดได้ เพราะความเหนียวแน่นของเช็คในการปัดป้องออกไปไม่ต่ำกว่าสามลูก จึงทำให้สกอร์ยังเป็นหนึ่งต่อศูนย์ในครึ่งแรก จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 10:26:21

ความคิดเห็นที่ 4 ครึ่งหลัง อันเชล็อตติมีการปรับทัพตามคาด โดยการถอดเอาอิวาโนวิช ที่มีปัญหาค่อนข้างมากออกไป แล้วส่งโบซิงวาลงมาแทน ซึ่งตรงนี้ครับ ที่เป็นจุดเปลี่ยนของเกมเชลซีก็ว่าได้ เมื่อจุดอ่อนที่ทีมต้องพะวงและต้องช่วยกันปิดช่วยกันซ้อนถูกถอดออกไป เมื่อทีมไม่ต้องพะวงอีก และแต่ละคนสามารถรับผิดชอบหน้าที่ตัวเองได้เต็มที่ เกมของเชลซีก็ดูดีขึ้นมาทันที อันเชล็อตติมีการปรับรายละเอียดการเล่นอีกนิดหน่อย จากที่เน้นการครองบอล และต่อบอลตามพื้นที่ว่างโดยใช้สปีดมาตรฐานที่แกเคยใช้สมัยคุมมิลาน ซึ่งนักเตะแมนฯยูฯ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาในการตามเพรสซิ่ง อันเช่ ปรับเพิ่มสปีดการถ่ายบอลขึ้นมาอีกสเต็ปหนึ่ง และให้ลูกทีมเคลื่อนที่เร็วขึ้น พยายามฉีกตัวเองออกทางกว้างเพื่อเพิ่มพื้นที่เล่นบอลให้มากขึ้น และถ่างแนวรับแมนฯยูฯออกมาให้มากที่สุด ดร็อกบาและอาเนลก้า ถ่างออกมาเล่นริมเส้นมากขึ้น เปิดพื้นที่ตรงกลางให้มิดฟิลด์เติมได้สะดวก นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกมแมนฯยูฯต้องดร็อปลงไปอย่างเห็นได้ชัด เชลซีได้ประตูตีเสมอแบบน่าเขกกะโหลกนานี่ยิ่งนัก เมื่อเขาปล่อยให้คาร์วัลโญ่ที่ตามกันมาตลอดจากนอกกรอบ ได้เดินดุ่มๆเข้าไปค้ำที่เสาสองแบบเดี่ยวๆ โดยที่ตัวเองยังยืนดูอยู่นอกกรอบ บอลดูจะขลุกขลิกๆอยู่ทางเสาแรก ก่อนผู้เล่นเชลซีจะงัดเข้ามาหน้ากรอบ ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายโถมเข้าหาบอลทันที รวมทั้งฟอสเตอร์ ซึ่งออกมาชกบอลทะลักไปเสาสอง และก็กลายเป็นริคกี้ ที่ยืนคนเดียวโล่งๆ พุ่งโหม่งเสียบเสาสองไปแบบน่าเตะก้นนานี่จริงๆ หลังจากได้ประตูตีเสมอ เกมเชลซียิ่งดีขึ้น ในขณะที่ยูไนเต็ดเหมือนจะตื้อๆลงไป นานี่เมื่อมีปัญหาที่ไหล่จากการถูกสอยล้มลงก็ถูกเปลี่ยนออก และส่งวาเลนเซียลงมาแทน ในขณะที่บัลลัคลงมาแทนมิเกล แล้วถอยเอสเซียงลงมาเล่นรับแทน จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 10:26:39

ความคิดเห็นที่ 5 เชลซีมาได้ลูกที่สองจากจังหวะที่เอวร่าถูกสอยล้มลง นักเตะยูไนเต็ดชะงักไปพักหนึ่ง แต่ไม่มีเสียงนกหวีดจากคริส ฟอย ในขณะที่เชลซีเองนั้นลากบอลขึ้นไปถึงริมกรอบโทษทางซ้ายแล้ว และเป็นสถานการณ์สามต่อสอง ดร็อกบาจ่ายข้ามมาให้ตัวที่สามเป็นแลมพาร์ด ที่ยิงเต็มข้อโล่งๆ ฟอสเตอร์ปัดไม่หลุด ลูกทะลักเข้าเสาแรกจนได้ ท่ามกลางเสียงประท้วงของผู้เล่นยูไนเต็ด หลังจากนั้น โอเว่น, สโคลส์ และฟาบิโอ ถูกส่งลงมาแทน เบอร์บาตอฟ, เฟล็ทเชอร์ และโอเช เกมยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ ในขณะที่เชลซีส่งเดโก้ลงมาแทนมาลูด้า และกาลูลงมาแทนอาเนลก้า เกมของแมนฯยูฯยังต่อกันไม่ค่อยติดเท่าไหร่นักจากคุณภาพนักเตะตรงกลางที่ยังห่างกันอยู่ นักเตะที่สามารถครองบอลและเอาตัวรอดได้ดีของเชลซี มีทั้งเดโก้, บัลลัค, เอสเซียง, แลมพาร์ด ไหนจะดร็อกบาอีกคน ทำให้เกมตรงกลางไล่ไปข้างหน้าของเชลซีค่อนข้างไหลลื่น ผิดกับช่วงต้นเกมอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่แมนฯยูฯต้องหนีการเล่นตรงกลางที่เชลซีคุมพื้นที่ได้ดีมากๆด้วยการวางบอลออกปีก หรือไม่ก็เน้นไปที่บอลสวนกลับเมื่อนักเตะเชลซีหนุนสูงขึ้นมา ซึ่งประตูตีเสมอในช่วงทดเจ็บก็มาจากลูกลักษณะนี้ กิ๊กส์ได้บอลก่อนจะแทงบอลขึ้นหน้าให้รูนี่ย์ ที่ดูเหลื่อมๆจะล้ำหน้าอยู่ครึ่งช่วงตัว รูนี่ย์ลากเข้าก่อนจะยิงดีดข้ามตัวปีเตอร์ เช็คเข้าไปทางเสาสอง ช่วยให้ยูไนเต็ดไม่ต้องแพ้ในเกม แต่ก็ต้องไปดวลจุดโทษกันต่อทันที ซึ่งผลก็อย่างที่ทราบกันไปแล้ว แลมพาร์ด, บัลลัค, ดร็อกบา และกาลู สี่คนนี้ยิงให้เชลซีไม่พลาดเลย ส่วนยูไนเต็ด เปิดด้วยกิ๊กส์ที่พลาดเข้าตรงกลางไปถูกเช็คใช้ขาเซฟได้ คาร์ริคยิงเข้าไป และปิดด้วยเอวร่าพลาดยิงแปเบาๆให้เช็คล้มตัวรับได้ง่ายๆ ทำให้จบเกมด้วยการที่เชลซีเป็นฝ่ายชนะการดวลจุดโทษไป 4:1 จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 10:26:55

ความคิดเห็นที่ 6 ผมเองค่อนข้างแปลกใจมากกับนโยบายนักเตะในซัมเมอร์นี้ของทีมเรา การเสียโรนัลโด้และเตเวซนั้น ไม่ได้อยู่นอกเหนือการคาดการณ์ของผมนัก เรื่องนั้นผมพอเห็นเค้ารางมาก่อนแล้วและเดาไว้แล้วว่าต้องจบแบบนี้ แต่ที่ไม่เข้าใจเลยก็คือ ผลงานปีที่ผ่านมามันฟ้องค่อนข้างชัดเจนว่า กองกลางเรายังไม่สามารถต่อกรกับยอดทีมได้ดีนัก ยังมีความห่างกันอยู่ระดับหนึ่ง ผลงานมินิลีกปีที่แล้วก็ฟ้องให้เห็นในข้อนี้ และยิ่งตอกย้ำชัดลงไปอีกในเกมกับบาร์เซโลน่าที่กรุงโรม เมื่อกองกลางของเรา ถูกปั่นหัวคล้ายๆเป็นลิงในเกมลิงชิงบอลก็ไม่ปาน แต่เมื่อได้เงินจากการประเคนโรนัลโด้ไปร่วมแปดสิบล้านปอนด์ เซฟเงินจากเคสเตเวซอีกร่วมยี่สิบห้าล้านปอนด์ นั่นเท่ากับเรามีเงินในคลังกว่าร้อยล้านปอนด์ในซัมเมอร์นี้ การวอดวายไปกับวาเลนเซีย, โอแบร์กตอง, และโอเว่น ก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก แถมเป็นการปิดจุดที่หายไปของโรนัลโด้กับเตเวซเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นการถมจุดอ่อนเรื่องกองกลางแต่อย่างใด ยิ่งตามข่าวนักเตะที่สโมสรเราสนใจ ผมยิ่งงงเข้าไปใหญ่ จะบินหรือไงครับป๋า จะเอาแต่ปีก จนปีกจะล้นทีมแล้ว แต่กองกลางเราพอหมดสโคลส์ในช่วงพีคไป กลับไม่มีตัวแทนที่สมน้ำสมเนื้อขึ้นมาเลย คาร์ริคเล่นดีครับผมไม่เถียง เฟล็ทเชอร์ก็เล่นดี สองคนนี้เล่นได้ดีมากๆ แต่ยังขาดอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือ บุคลิกในการคอนโทรลเกม การบงการรูปเกม และการกำหนดลักษณะการเล่นของทีมครับ ทั้งคู่ทำได้ดีมากๆในการเล่นเกมของตนเอง แต่ไม่สามารถปรับตัวเองในการเล่นรูปแบบอื่นๆให้รับมือการแก้เกมของคู่ต่อสู้ได้ดีนัก ตรงนี้ลองสังเกตดีๆนะครับ ทักษะและเซนส์บอลของคาร์ริค กับเฟล็ทเชอร์ ผมว่าต่างกับคีนและสโคลส์ไม่มากหรอก ไม่ห่างชั้นกันขนาดเห็นได้ชัด แต่ที่ห่างกันเยอะก็คือ คีนกับสโคลส์นั้นมีความยืดหยุ่นดีกว่ามาก สามารถปรับเกมของตัวเองได้ตลอด ไม่ว่าจะเอาลูกหนัก, ลูกดุดัน ขยันในเกมรับ หรือจะครองบอล ถ่ายบอลไปมา แม้แต่การจ่ายคิลเลอร์พาส หรือเติมขึ้นไปยิง รวมทั้งบารมีในการขู่นักเตะฝั่งตรงข้ามให้หงอทางด้านจิตวิทยา คีนกับสโคลส์ทำทั้งหมดนี้ได้ และเมื่อกองกลางสามารถปรับเกมตัวเองได้หลากหลาย ยิ่งหลากหลายเท่าไหร่ การแก้เกมในสนามก็ทำได้ดีขึ้นเท่านั้น จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 10:27:12

ความคิดเห็นที่ 7 หลายๆคนอาจไม่เห็นด้วย เรื่องความจำเป็นของนักเตะมิดฟิล์ที่เราดูจะมีในทีมไว้เพียบ หากไม่นับพวกเฒ่าชแรแก่ชรา ฮาริบที่เดี้ยงไม่หาย เราก็มี เฟล็ทช์, คาร์ริค, แอนนี่, กิ๊บสัน, พอสเซบอน, ลายิชหกคนเข้าไปแล้วที่ลงได้ แต่คุณภาพในระดับที่ผมว่าไว้ ยังหาไม่เจอจากกลุ่มนักเตะเหล่านี้เลย จริงอยู่ ที่เราไม่จำเป็นต้องครอบครองพื้นที่กลางสนาม ขอเพียงจังหวะเข้าทำที่เด็ดขาด เราก็น่าจะเก็บสามแต้มได้ไม่ยาก แต่อย่าลืมครับ ว่าหากปล่อยให้คู่ต่อสู้สามารถครองเกมได้เรื่อยๆ ก็เท่ากับคุณมีความเสี่ยงที่จะถูกยิงประตูอยู่ตลอดเวลานั่นเอง มันจะดีกว่านี้ไหม ถ้าเราสามารถผลัดกันครองเกมได้ด้วย หาโอกาสเข้าทำได้ด้วย เหมือนช่วงที่เรามีร็อบโบ้-อินซ์, อินซ์-คีน หรือ คีน-สโคลส์ ในช่วงรุ่งๆ ผมลองสังเกตไล่เรียงดู ยุคนี้ ดูจะเป็นยุคที่ทีมเรามีความลงตัว มีความสมดุลในแต่ละตำแหน่งสูงที่สุดเท่าที่เราเคยมีมา อันนั้นจริงครับ แต่มิดฟิลด์ตรงกลางกลับดูจะไม่สมบูรณ์แบบเท่ากับชุดที่ผ่านๆมา ผมมองว่า คาร์ริคหรือเฟล็ทเชอร์น่าจะแสดงผลงานได้ดีกว่านี้อีกด้วยซ้ำ หากเรามีกองกลางฮาร์ดแมนคุณภาพดีๆ สักคนมาช่วยเสริมในจุดนี้ กองกลางที่สามารถปลุกกระตุ้น เร้าเพื่อนร่วมทีมได้ กองกลางที่สามารถเล่นร่วมกับคาร์ริค หรือเฟล็ทเชอร์และทำให้เราปรับรูปแบบการเล่นได้หลากหลายขึ้นในสนาม กองกลางที่สามารถข่มขวัญคู่ต่อสู้ให้รู้สึกยำเกรงได้ บอลสมัยนี้ผมมองว่าปีกสองข้างนั้นส่งผลต่อประสิทธิภาพของเกมได้น้อยกว่ามิดฟิลด์ครับ โอเคคุณอาจมีปีกที่รวดเร็ว จัดจ้าน วูบวาบ โจมตีคู่ต่อสู้ได้ดีมากๆ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรเล่า หากมิดฟิลด์ไม่สามารถหาบอลมาจ่ายให้ปีกได้เข้าทำบ่อยๆ (เหมือนเมื่อคืน นับครั้งได้ที่วาเลนเซียได้ลากเลื้อย) หรือต่อให้ปีกจะช่วยให้กองหน้ามีโอกาสทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ถ้ามิดฟิลด์ไม่สามารถครองเกมได้ ไม่สามารถเบรคเกมรุกคู่ต่อสู้ได้ มันก็รอเวลาที่จะเสียประตูเหมือนกันครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 10:27:29

ความคิดเห็นที่ 8 ถึงนาทีนี้ ผมยังเชื่ออยู่ว่า ขุมกำลังที่มีตอนนี้ ยังไหวครับที่จะขับเคี่ยวลุ้นแชมป์จนนาทีสุดท้าย หากเราสามารถเก็บสามแต้มจากทีมที่เป็นรองกว่าเราได้เรื่อยๆ ส่วนเกมกับบิ๊กโฟร์ก็ไปลุ้นเอานัดต่อนัดเหมือนซีซั่นที่แล้ว ที่มินิลีกกับบิ๊กโฟร์เราห่วยมากๆ แต่ก็ยังอุตส่าห์เป็นแชมป์ได้ แต่ผมก็เชื่ออีกเช่นกันครับ ว่าถ้าเราไม่เติมมิดฟิลด์ศักยภาพสูงๆอีกสักคน โอกาสในแชมเปี้ยนส์ลีก ก็คงน้อยลงไปอีกเยอะนะครับ แล้วมาลุ้นให้ป๋าคิดเหมือนผมกันนะครับ สงบใจ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 10:27:51

ความคิดเห็นที่ 9 ฟุตบอลปิดฤดูกาล  แต่ป๋าหงบยังทำประตูได้ จากคุณ : ยุง บิน ชุม เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 10:40:24

ความคิดเห็นที่ 10 เข้ามาดู ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 10:42:23

ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อคืนไม่เสียใจเลยที่แพ้ แค่ยิงตีเสมอนาทีสุดท้ายได้ก็ดีใจสุดๆแล้ว.. แต่ก็นะ พี่ติ๊ก ยิงจุดโทษ เบ๊า..เบา 55+ ขอบคุณป๋าหงบ สำหรับบทวิพากษ์เจ๋งๆเหมือนเดิมคร้าบบ.. ^-^ จากคุณ : P_Pond_P เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 10:45:41

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นกระทู้ปุ๊บ รีบเข้ามาตอบปั๊บ เลยไม่ได้อ่านข้างบน ในข่าวร้ายก็มีเรื่องดีครับ  งานเยอะก็น่าจะหมายถึงเงินเยอะนะครับ ไม่งั้นจะพอกับค่าใช้จ่ายได้ไงเนอะ ไหนจะเลี้ยงลูก ไหนจะค่าหน่วยกิตน้องๆ ฯลฯ จากคุณ : ยุง บิน ชุม เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 10:45:53

ความคิดเห็นที่ 13 วันนี้เจ้านายไม่อยู่ คุณยุงฯ พูดเรื่องอะไรอ่ะครับ ถ้าหมายถึงเรื่องน้องของน้องภีม ตอนนี้ยังลุ้นอยู่เลยครับ เป็นท้องที่ทุลักทุเลพอสมควร อาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไปซาวด์อีกรอบ (ห้าครั้งแล้วมั้ง) หมอบอกว่าน้ำคร่ำน้อยไปนะ ให้ทานน้ำเยอะๆ อีกสองสัปดาห์ให้มาซาวด์ใหม่ ถ้ายังน้อยอยู่ ก็อาจต้องทำใจ เพราะน้ำคราน้อยๆ เด็กจะหยุดเจริญเติบโต ผมก็ลุ้นอย่างเดียวเลยเนี่ยตอนนี้ ปล. บอกว่าเงินไม่เพิ่ม แถมยังต้องลุ้นเรื่องจะลดรึเปล่าอีกต่างหาก แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะยังไม่มีอะไรครับ แหะแหะ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 10:49:10 แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 10:48:40 จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 10:47:09

ความคิดเห็นที่ 14 อยากได้มิดฟลิด์แบบ เอซเซียงสักคน ที่มองไปทั่วตอนนี้ ลาส ดิยาร์ร่า ของ เรอัล ยาย่า ตูเร่ ของ บาร์ซ่า ยังไง ก็ ยังหาที่เด่นแบบ เอซเซียงไม่ได้สักคน... จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 10:50:09

ความคิดเห็นที่ 15 อ้าวหรอครับ พอดีได้ข่าวจากเนสเล่มมาว่าน้องภีมจะมีน้อง ขอให้น้องของน้องภีมปลอดภัย คลอดออกมาเป็นเด็กที่แข็งแรง เป็นเด็กดีของคุณพ่อคุณแม่นะครับ จากคุณ : ยุง บิน ชุม เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 10:55:03

ความคิดเห็นที่ 16 แพ้ก็คือแพ้ครับไม่เสียใจนะ แต่หงุดหงิดกับการตัดสินของผู้ตัดสินมากๆ แต่ยูไนเต็ดก็คือยูไนเต็ดครับ จะหมดเวลาอยู่แล้วยังตีเสมอได้ ผมว่านี่แหละคือทีมเราหล่ะ เป็นห่วงฟอสเตอร์เหมือนกันครับ เมื่อวานแกเหวอจริงๆ ถ้าฟอร์มอย่างนี้ผมว่านัดเปิดฤดูกาลน่าจะใช้คุสแซ็คมากกว่านะครับ จากคุณ : Lycanthropy (Lycanthropy) เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 10:55:41

ความคิดเห็นที่ 17 อ่านความเห็นคุณสงบใจแล้ว อื้อ.... นั่นสิ..... ก็ได้แต่ดูว่า มันจะไปได้ขนาดไหน ก็คิดอยู่ตลอดเหมือนกันว่า เราจำเป็นต้องมีแบบคีนจริงๆ มั้ย..... ก็ดูเหมือนคำตอบจะชัดขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกัน.. เมื่อคืน ครึ่งหลัง หลับเสียด้วยสิครับ โดนฤทธิ์ยาเข้าไป ตื่นมาอีกที โดนยิงตีเสมอพอดี ได้ดูแค่ตรงนั้นก็เห็นว่ากลางเป็นรองพอควร.. ก็ดูกันไปว่าจะไปออกหน้าไหน (สงสัยป๋าหาตัวแบบคีนเหมาะๆ ไม่ได้จริงๆ ด้วยมั้งครับ เลยไม่ซื้อ) - - ป๋าหงบทำประตูนอกฤดูกาลได้หรือครับ..... (แก้ไขเพิ่มตรงนี้นิดหนึ่ง) ขอให้โชคดีครับ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 10:58:39 จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 10:56:01

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยกับลุงหงบ เราขาดกองกลาง ฮาร์ดแมนมานานเกินไปแล้ว จากคุณ : Blue Wednesday เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:06:47

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาให้กำลังใจป๋าหงบค่ะ  ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ เมื่อคืนครึ่งแรก เราเล่นได้ดีมากเลยนะ แต่พอครึ่งหลัง เชลซีน่ะแก้เกมได้ดี เราเล่นลำบากขึ้นเยอะเลย ฤดูกาลนี้คงเป็นอีกฤดูกาลที่ลุ้นแชมป์กันสนุกค่ะ ใกล้เปิดฤดูกาลละ ดีใจจัง จากคุณ : ดาวเคียงดอย เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:07:39

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับคุณหงบมากกกกกกกกก จากคุณ : dabodabo55 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:12:27

ความคิดเห็นที่ 21 ขอขอบคุณในคำอวยพรนะครับผม ช่วยกันลุ้นนะครับ ผลออกมาเป็นอย่างไรจะแจ้งให้ทราบกันอีกครั้ง ตอนนี้ กำหนดคลอดประมาณต้นกุมภา 53 ครับ น่าจะช่วงวาเลนไทน์พอดี จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:13:18

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามาอ่านเหมือนเคยครับ สวัสดีทุกท่านด้วยครับ จากคุณ : บะหมี่^^ผีแดง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:16:14

ความคิดเห็นที่ 23 สวัสดีครับคุณสงบใจ   นัดนี้คงยังบอกอะไรมากไมได้นะครับ เพราะผมมองดูแล้วการจัดตัว ป๋ายังมีของยังไม่อยากปล่อยออกหมด  ต้องตามกันไปตลอดเหมือนเดิมครับ ********************************* เรื่องน้องของ น้องภีม  ตอนนี้ผมก็เจอสถานการณ์คล้ายๆกันครับ คือหลานผม(ลูกพี่สาวตอนนี้ตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน)อัลตร้าซาวน์ดพบว่า ตรงท้ายทอยด์หนาผิดปกติ โดยแพทย์ระบุบเสี่ยงต่อการเป็นออทิสติก  โอกาส 1/500   อาทิตย์ที่แล้ว เข้าไปเช็คอีกทีพบว่า พี่สาวผมแกมีโรคประจำตัว  เลือดจางด้วย โอกาสก็เพิ่มเป็น 1/110  อาทิตย์นี้เลยเจาะน้ำครำดูนะครับ   ลุ้นอะ   ลุ้นกว่าบอลอีก จากคุณ : พริบพรรณดาว เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:19:30

ความคิดเห็นที่ 24 หวัดดีครับป๋าหงบ ขอให้น้องของน้องภีมปลอดภัย แข็งแรงนะครับ จากคุณ : ตาบ๊องส์_ยายเฉิ่ม เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:24:50

ความคิดเห็นที่ 25 เป็นกำลังใจให้ป๋าหงบนะ     จากคุณ : MBA ฮาเฮ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:24:59

ความคิดเห็นที่ 26 ผมค่อนข้างจะเห็นด้วยเรื่องตัวกลาง เพราะทัศนะคติผมคือเกินดีกว่าขาด เพราะยูไนเต็ดไม่ใช่ทีมระดับประเทศแต่เป็นถึงระดับทวีป ลองมองดูขุมกำลังตอนนี้ อันเดอร์สัน นี่ดูๆไปบทบาทที่เหมาะสมคือยืนสูงขึ้นอีกนิด ไม่งั้นถ้าขืนแกมาลงต่ำมาอีกนับวันจะเสียของขึ้นเรื่อย ส่วนสโคลส์นั้น ผมชื่นชอบแกมมากคนนึงแต่วันเวลาของแกแทบจะเหลือน้อยลงแล้ว เขี้ยวเล็บที่เคยมีแต่ก่อนหายไปเยอะและหลายทีดูหมดมุข ตอนนี้ที่เราต้องการจริงๆ คือมิดฟิลด์จำพวกเพิ่มพลังเพิ่มแรงขับเคลื่อนให้เกมตรงกลางสนามไม่จำเป็นต้องฮาร์ดแมนก็ได้ แน่นอนว่านอกจากเคลื่อนที่ได้ดีแล้ว เซนส์บอลต้องดีด้วย จริงๆแล้วช่วงที่สโคลส์ยังไหวอยู่ ยืนคาร์ริคนี่คายบอลออกจากมุมอับ เปลี่ยนทิศทางบอลกันได้ดีมากแทบไล่ไม่จนเลย แต่คาร์ริคมีข้อเสียอยู่อย่างคือความหยืดหยุ่นของร่างกายซึ่งโดยส่วนตัวก็เข้าใจว่าธรรมชาติเข้าเป็นแบบนี้ แต่เมื่อมองดูปิโล่สิ่งนึงที่เขาเป็นรองคือเหลี่ยมบอลการบังบอล การครองบอลถ้าพัฒนาตรงนี้ได้ล่ะก็...... อ่อ จริงๆถ้าจะพูดไปกองกลางยูไนเต็ดจริงๆแล้วในหลายๆยุคนั้นเบสิคก็ไม่ได้ว่าจะดี พูดง่ายคือยังไม่หลุดข้อจำกัด ดูกองกลางบาร์ซ่า ผ่านบอลออกไปมาซ้ายขวาได้อย่างลื่นไหลแม้อีกมุมจะถูกปิดก็ตาม ตอนนี้ปัญหาคือที่ต้องแก้เฉพาะหน้าคือทำยังไงให้ยูไนเต็ดเคลื่อนที่ได้เร็ว จ่ายบอลได้ทุกจังหวะไม่ว่าเข้าซ้ายขวาซึ่งจะว่าไปมันเป็นเรื่องยากที่แก้กันชั่วข้ามคืน แต่แน่นอนถ้าทำได้สไตล์ของยุไนเต็ดก็ต้องเสียไป ขอพูดถึงวาเลนเซียอีกนิดเห็นแกเล่นแล้วอดนึกถึงแกรี่ไม่ได้อยากให้แกรี่ลดอายุลงมาสัก5ปี ถ้าเข้าขากันล่ะก็เติมเกมกัน ฮึ่มๆเลย วิ่งกันเป็นรถด่วนเลย แต่ปัญหาที่น่าหนักใจตอนนี้คือการยึดโอเชียเป็นแบ๊คขวานี่สิ(ถ้าบราวน์หายก็บราวน์อีกซึ่งตรงนี้ผมว่าเราต้องการดาวรุ่งที่กระหายในการวิ่งการเติมเกม)   เล่นๆไปมาอาจจะส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของวาเลนเซียก็ได้ เนื่องจากบางครั้งต้องการเพื่อนวิ่งดึงตัวประกบบ้าง  วิ่งทำทางบ้าง เพราะถ้าดูดีๆวาเลนเซียจับทางไม่ยากกลัวจะหมดมุขจนขาดความมั่นใจไป เพียงแต่แกเป็นผู้เล่นที่เกิดมาเพื่อระบบของเราโดยแท้จริง ปล.จริงๆผมชอบลี คัตเตอร์โมลน่ะ ดูดีกว่าเฟลทเยอะเอามาปั้นดีๆไม่แน่แต่คงยาก จากคุณ : กระบี่เก้าสําเนียง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:31:51

ความคิดเห็นที่ 27 สู้ สู้คับ จากคุณ : wolfwagond เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:32:14

ความคิดเห็นที่ 28 ของน้องน้องภีมหมอก็วัดความหนาท้ายทอยด้วย แต่ไม่มีอะไร ตอนนี้ลุ้นรื่องลูกในท้องก็หนักพอแล้ว ยังต้องลุ้นรื่องหวัดอีก คนท้องนี่อยู่ในข่ายอันตรายนะครับ คุณพริบฯ แม่น้องภีมตอนนี้ออกนอกบ้านแค่ไปทำงานอย่างเดียว กินข้าวเที่ยง ก็ยังเอาไปกินในห้องทำงานเลยครับ ไม่กล้าลงไปโรงอาหาร จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:32:53

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณ ฮะ ลุงหงบ ฮากริบ เดี๊ยง อีก 6 เดือน - -* จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:40:17

ความคิดเห็นที่ 30 ใช่ครับคุณกระบี่ฯ ตัวกลางที่เพิ่มความยืดหยุ่นในเกมให้ทีมเรามันหายไปครับ สโคลส์กับคาร์ริค นี่เคยลงตัวมากๆ ในปีสองปีแรกที่คาร์ริคเข้ามาในทีม แต่ตอนนี้ สโคลส์เองดูจะแบกตรงนั้นต่อไปไม่ค่อยไหวแล้ว จึงควรหาทางออกในตำแหน่งนี้ เฟล็ทช์กับคาร์ริค เมื่อเล่นกับทีมที่เอื้อให้ บทก็จะส่งให้เด่นทั้งคู่ ครึ่งแรกก็ประมาณนั้น แต่พอเชลซีแก้ทางมา ทั้งคู่ก็หายไปในกลีบเมฆ ซึ่งผมว่าเราต้องการการยืดหยุ่นตรงนี้ ไม่ใช่ว่าพอเจอคู่ต่อสู้ที่ไม่เข้าทางเรา แล้วก็เลยหายจ้อยกันไป อย่างนั้นลำบากครับ จริงๆกองกลางเราสังเกตไหม ที่ผ่านๆมา เป็นพวกในเกาะทั้งนั้น เบสิค หรือทักษะ จึงไม่สูงมาก จะต่ำกว่าพวกแผ่นดินใหญ่อยู่พอสมควร แต่ที่ผ่านมาเราเอาตัวรอดได้ก็เพราะลูกบ้า ลูกบ้า ลูกดุ ของ ร็อบโบ้ อินซ์ คีน สโคลส์ และความยืดหยุ่นในการปรับเกมของตัวเอง เมื่อเห็นท่าไม่ดี พวกนี้จะงัดเอาลูกดุดัน ลูกหนักมาเบรกเกมคู่ต่อสู้ให้ชะงักได้ และทำได้ดี จุดนี้ทำให้เราไม่ถึงกับหายไปจากเกมนานๆ แต่ดูตอนนี้ เกมที่กรุงโรมนี่เราลำบากเลย หาบอลกันไม่ค่อยเจอเลย เจอบอลกต่อบอลจากกลางไม่ได้ ต้องอาศัยการวางขึ้นหน้า เกมเมื่อคืนในครึ่งหลังก็ไม่ต่างกันเลย ผมจึงคิดว่า เราต้องการตัวกลางกึ๋นดีๆสักตัวมาอุดตรงนี้ครับ ปล. แต่อาจจะเป็นอย่างที่คุณพริบฯว่ามาก็ได้ ว่าป๋ายังกั๊กของ ไม่ยอมปล่อยหมด ทีมใหญ่ๆ ปีนึงอาจจะเจอแค่สิบนัด จึงไม่จำเป็นต้องรีบปล่อยของตอนนี้ ก็อาจเป็นไปได้ครับ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 11:46:01 จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:43:19

ความคิดเห็นที่ 31 คุณหงบมาเมื่อไหร่ ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าฤดูกาลพรีเมียร์เริ่มแล้ว คิดถึงมากมาย จากคุณ : ณัฐกร เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:51:21

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณค่ะคุณสงบฯ เป็นกำลังใจให้นะคะ.. สู้ๆค่ะ.. น้องของน้องภีมต้องปลอดภัยแน่ๆค่ะ.. จากคุณ : รัศมีจันทร์ดารา เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:52:39

ความคิดเห็นที่ 33 เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : kittipat เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 12:21:00

ความคิดเห็นที่ 34 สวัสดีครับ ต้องยอมรับว่าเซงนิดหน่อยกับบทสรุปการแข่งขัน แม้หลายคนจะไม่ค่อยเอาจริงเอาจังกับมันนักก็ตาม แต่ถ้าเป็นการแข่งขันแล้วก็ยังไงผมก็เสียดายที่เราพลาดโอกาสในการเป็นผู้ชนะ น่าเจ็บใจนิดนึงที่กรรมการในครึ่งหลังดูจะนกหวีดหวานกับฝ่ายน้ำเงินเป็นพิเศษ ทั้งๆที่ครึ่งแรกยังดีอยู่เลย แล้วเหมือนจะประจวบเหมาะแทคติคที่อันเชลอตติแก้มาพร้อมใจกันลงลอคไปซะหมด โกลตอนนี้ผมยังสนับสนุนฟอสเตอร์นะครับ ให้โอกาสได้เจ้าตัวพิสูจน์ก่อน การลงเล่นหน้าโกลต่อหน้าแฟนๆ 7-8 หมื่น ไม่ใช่เรื่องง่ายไม่เหมือนเวลาซ้อมที่สนามแข่ง เป็นเรื่องต้องเรียนรู้กันไป ตัวคิดว่าฟอสเตอร์ดีกว่ามีมีภาษีเป็นคนอังกฤษ นั่นหมายถึงโควต้าในบอลยุโรป เมื่อเทียบสกิลๆตัวต่อตัว ในทุกด้านกับคุซแซคแล้วเขาก็น่าจะมีน้ำหนักดีกว่า แม้ว่าจะแพ้คุซแซคในเรื่องปฏิกริยาไปก็เถอะ ในประเด็นของนานี่ผมคิดว่า ต้องเรียนรู้กันอีกต่อไปสำหรับการลงแข่งขันตัวจริงอย่างเนื่อง เนื่องจากเจ้าตัวมีโอกาสเข่นนี้น้อยมากในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมากับสโสมร สำหรับวันนี้ผมคิดว่าเขาเล่นดีขึ้นยกระดับมาตรฐานตัวเองได้ดีขึ้น (ในครึ่งแรก) มีการประสานร่วมกับแบคได้ ออกบอลมากขึ้น ใช้ความเร็วหวังผลได้เป็นประโยชน์มากขึ้น และหวังว่าจะได้เห็นหมอนี่มีโอกาสลงสนามบ่อยกว่าที่ควรในอนาคตอันใกล้ ผมเชื่อว่าหมอนี่มีดีพออย่างที่เคยเชื่อมั่นมาตลอด (แม้จะแอบด่าบ้างก็ตาม ==") กองกลางของเราเหมือนกับว่าจะเป้นแนวทางของบอลมันสมองซะมากเกินไป เสียสมดุลในด้านฮาร์ดแมนไป ผมก็คิดเหมือนกันตามนั้น เราควระจเสริม? แต่จุดนั้นคือว่า คนไหนล่ะ ที่ซื้อมาแล้วพร้อมใช้ ไม่ต้องลองงาน ในโลกยุคปัจจุบันนี้ หาคนที่มีความพร้อมหรือบุคลิคแบบนั้นได้ยากขึ้นทุกวันนะครับผมว่า เราไม่ควรจะคาดหวังว่า จะได้รอยคีนที่สอง แต่ควรจะบนความยืดหยุ่นของทีมที่จะปรับเปลี่ยนไปแม้จะขัดใจไปบ้างก็ตาม ผมเห็นสิ่งนั้นในตัวของ แอนเดอร์สัน แต่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะค้นพบและนำมาใช้ได้อย่างถูกต้องและสูงสุดในแง่ของประโยชน์เมื่อไร ถ้านานี่ได้ลงอย่างเนื่องร่วมกับบาเลนเซีย ผมกำลังคิดถึง retro classic 94-95 ที่ผสมกลิ่นของบอลภาคพื้นยุโรปเข้าไปด้วย (อาจจะผสมมากไปหน่อยจนเลี่ยนก็เถอะ) จบมันตรงนี้ดื้อๆดีกว่านึกมุขจะเขียนต่อไปไม่ออกแล้ว ปล.กำลังจะเปิดซีซั่นแล้วเราจะควรจะมีอะไรต้อนรับการเปิดซีซั่นยังไงดีครับป๋า ปล2.ตุลานี้ถ้าโปรในงานมือถือโดนใจ ผมได้เสียเงินแน่ ตอนนี้เหลืออีกนิดนึงใกล้จะครบแล้ว เก็บเองทั้งก้อน อิอิ จากคุณ : Skyline_CII เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 12:22:39

ความคิดเห็นที่ 35 ของน้องน้องภีมหมอก็วัดความหนาท้ายทอยด้วย แต่ไม่มีอะไร ตอนนี้ลุ้นรื่องลูกในท้องก็หนักพอแล้ว ยังต้องลุ้นรื่องหวัดอีก คนท้องนี่อยู่ในข่ายอันตรายนะครับ คุณพริบฯ แม่น้องภีมตอนนี้ออกนอกบ้านแค่ไปทำงานอย่างเดียว กินข้าวเที่ยง ก็ยังเอาไปกินในห้องทำงานเลยครับ ไม่กล้าลงไปโรงอาหาร จากคุณ : สงบใจ -------------------------------------------------------------------------------- *** เป็นกำลังใจให้ค่ะหวังว่าทุกอย่างคงผ่านพ้นไปด้วยดีค่ะ *** --------------------------------------------------------------------------------- ขอบคุณคุณสงบใจค่ะ ได้แต่หวังเหมือนคุณสงบใจเหมือนกันค่ะ อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นในป๋า เชื่อมั่นในยูไนเต็ด พี่ติ๊กกลัวนิ้วปีเตอร์ เชคจะแตกหรือไงจ๊ะ เขี่ยบอลยังกะนางงามที่เดียวเชียว จากคุณ : july 19 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 12:36:57

ความคิดเห็นที่ 36 เอาเป็นว่ากระทู้ป๋าสงบใจกระทู้นี้พ่วงกำลังใจให้น้องของน้องภีมแข็งแรงด้วยล่ะกันครับ จากคุณ : blueart11 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 12:59:26

ความคิดเห็นที่ 37 ตอนแรกเหตุการณ์ บัลลัค- เอฟวร่า เห็นป๋านิ่งๆ ก็คิดว่า ไม่จิรงจังอะไร เฉยๆ พอจบเกม เห็นคริสฟลอยด์ โดนป๋าพ่นแอร์ใส่แล้ว..... เออ ป๋ากรู นิ่งได้ใจเป่าแอร์ได้อารมณ์จริงๆ หุหุ รูปเกม ไม่ขอวิจารณ์อะไรมาก เชลซีก็ยังเป็นเชลซี วันยังค่ำ แต่ขอหน่อยเหอะ อาบัง ยังเหมือนเดิม เล่นเป็นทีมนี่ เห็นน้อยมาก ลูกแรกที่เสีย ก็ความรับผิดชอบแกน่ะแหละ..... บาเลนเซีย ลงมาแบบกล้าๆกลัว เล่นไม่ออก โอเว่น ลงมาแต่เหมือนจะไม่เข้ากับเพื่อนเท่าไหร่ ลูกนั้นถ้าไม่ฝืนไปเอง จ่ายให้รูนี่ย์ ก็น่าจะมีอะไรดีกว่าที่เห็น เฮ้อ...... ยินดีกับเชลซีด้วยครับ และก็ ป๋าครับ ขอ ซิลบา อีกคนได้มั๊ย จากคุณ : Sifer2002 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 13:37:15

ความคิดเห็นที่ 38 สวัสดีครับ คุณหงบ สำหรับกองกลางที่ปั้นเกมได้ดีนั้น เงื่อนไขก็คือ ไม่ค่อยมีตัวแบบนี้ในตลาดนะสิครับ   หรือเรียกง่ายๆว่า ตัวปั้นเกมดีๆมีชื่อชั้น ก็อยู่กับบิ๊กทีมหมดแล้ว หรือไม่ก็อายุการใช้งานเหลือน้อย ทำให้ไม่เข้าคอนเซ็ปที่ป๋าบอกว่า ต้องอายุไม่เกิน 26 เหลือบซ้าย แลขวา  ก็คงเห็นแค่คนเชื้อสายฮอลันดาในทีมชุดขาวๆ รวยๆ  ที่พอจะยอมให้หยิบจับได้ แต่ป๋าก็ไม่แลอีก ใจผมอยากได้ชไนเดอร์ แต่ไม่รู้ว่าจะเข้ากับระบบทีมหรือป่าว และเขาก็หนักไปทางรุกไม่ค่อยเน้นรับ แมนยูไนเต็ดก็ไม่นิยมนักเตะประเภทเพลเมกเกอร์มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว จะเอาครบเครื่องแบบปีโล่ หรือ กัตตูโซ่  มิลานก็ไม่ขาย+อายุมากแล้ว คงต้องทำใจฝากผีฝากไข้กับเด็กดาวรุ่งละครับงานนี้ จากคุณ : Free Kick เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 13:57:54

ความคิดเห็นที่ 39 ผมว่าที่ป๋าซื้อปีกเยอะเพราะว่าฤดูกาลนี้จะให้หมูรูนเล่นหน้าอย่างเดียว เลยซื้อปีกทางเลือกมาไว้เยอะๆ ไม่ต้องโยกเจ้าหมูมาเล่น แต่ก็นั่นแหละ น่าจะมีกลางดุ ๆ อีกซักคน ถ้าน้องกุ๊บกิ๊บ(สัน)เลน*ดุ ๆ กว่านี้หน่อยก็คงจะดี ดูจากหน่วยก้านและลีลาคารมแล้ว...ได้อยู่นะ ยิงไกลดีด้วย แต่ผมชอบ 4-4-2 มาก มันส์ร้าวววววจายยยยยยยย Edit *เล่น อิอิ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 14:02:46 จากคุณ : meemon เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 14:00:23

ความคิดเห็นที่ 40 เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้น้องของน้องภีมแข็งแรงนะครับ อยากได้กองกลางเจ๋งๆสักคนเอาใครดีละเนี่ย แหง่วๆ แต่อาทิตย์หน้าเราจะงัดของจริงออกมา ได้ไม่ได้ยังไง เชียร์ทีมกันต่อไปเน้อ we Believe จากคุณ : P.S. i love you เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 14:06:28

ความคิดเห็นที่ 41 ผมว่า ฟอตเตอร์ ฝีมือยังไม่ถึงนะครับ น่าจะน่าโกล เทพๆมาสักคน เพื่อให้กองหลังสบายใจ ไม่ต้องกังวลนะครับ ทุ่มไปเอาบุฟฟ่อน เลย ใช้งานได้อีกสัก 5-6 ปีก็คุ้มแล้ว แต่ยูเว่ คงไม่ขายหรอกมั้ง ถ้างั้นไปเอา เฟย์ ก็ยังดี ฟิออ คงปล่อยสัก 10 ล้านปอน จากคุณ : tonky96 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 14:15:02

ความคิดเห็นที่ 42 ผมว่าสภาพตอนนี้ ดูป๋าจะมั่นใจในทีมที่มีอยู่มากเกินไป เชื่อเลยว่าคงมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งการเล่นในแนวรุกและริมเส้นอีกหลายนัดเลยครับ กว่าจะลงตัว จากคุณ : AuChiloh เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 14:42:38

ความคิดเห็นที่ 43 ยังคิดจะเอา พี่ ถึก ควาย ทุย ไปแลกกับ ปิร์โล่ อยู่รึป่าวน๊อ จากคุณ : Hokkaido_H เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 15:00:58

ความคิดเห็นที่ 44 โดยส่วนตัวคิดว่า นานี่ จะว่าไปบางทีก็ติดตัดสินใจมิใช่น้อย แท็คติกดี วิสัยทัศน์ใช้ได้ แต่จังหวะฉายเดี่ยวเกินงามบางทีก็ถ่วงเกมส์รุกของตัวเอง จากคุณ : จอนนี่ ย่าง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 15:08:53

ความคิดเห็นที่ 45 หวัดดีน้าหงบฮะ อยากได้ฮาร์ดแมนกันหรอ   นึกถึง โจอี้ บาร์ตัน คนแรกเลยฮะ ฮาร์ดแมนแน่นอน บุคคิกคู่กลางของเราไม่ดุเลยฮะ ผมว่า ใจจริงอยากเห็นพี่เจี๊ยบแกบ้าๆหน่อยอะฮะ ประเภทไล่หวดไล่เสียบชาวบ้าน เอาให้แหยงไปเลย เสียบแล้วทำนิ่งๆเหมือนเฮียหยีอะฮะ ผมเองคงจะสะใจพิลึก   จากคุณ : paztzaa44 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 15:19:55

ความคิดเห็นที่ 46 สวัสดีซีซั่นใหม่ครับคุณสงบและเพื่อนๆชาวผีแดงทุกท่าน เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับเรื่องขุมกำลังในแดนกลางของเรา ในทัศนะของผมตรงนี้คือจุดอ่อนของเรามาตั้งแต่ปีที่แล้ว แอบหวังไว้ว่าฮากรีฟจะหายเจ็บกลับมาช่วยให้อะไรๆดีขึ้น แต่ข่าวล่าสุดก็บอกว่าสงสัยจะหยุดยาวอีกครึ่งปี ตรงนี้ผมก็ไม่เข้าใจป๋าเหมือนกันว่าทำไมไม่มีวี่แววว่าจะเสริมเลย ไอ้จะคิดว่ากะปั้นเด็กขึ้นมา อย่าง กิ๊บสันหรือพอสเซบอน ผมว่าก็ไม่น่าใช่ เพราะขนาดตัวจริงตัวเก๋าของเรายังเป็นรองเค้าอยู่เลย ไม่เข้าใจป๋าเอามากๆในเรื่องนี้ กับผู้เล่นกองกลางชุดที่มีที่มีอยู่ปัจจุบัน ถ้าเจอทีมใหญ่เราคงได้แต่ฝากความหวังกับจังหวะโต้เร็วอย่างเดียว ไม่ค่อยเห็นแววว่าจะบดหรือไปเจาะทำเกมใครเค้าได้ หนักใจจริงๆ จากคุณ : Sand Man เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 15:32:42

ความคิดเห็นที่ 47 เป็นกำลังใจให้น่ะครับคุณ สงบใจ จากคุณ : เน็ทหลักสี่ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 15:38:34

ความคิดเห็นที่ 48 อยากแจมนิดนึง... แมนยูหาโกลใหม่ด่วน ๆ เลยดีกว่า ไม่ก็ต้องเคี่ยวคนเดิม ๆ ให้นิ่งกว่านี้ให้ได้ จะฟอสเตอร์หรือคุแซกก็ได้ เกิดระหว่างฤดูกาลน้าซาร์บังเอิญเจ็บอีกจะทำไง - -; กลางแมนยูก็ใช้ได้อยู่นะในสายตาเรา แต่มือโกลนี่แหละของจริง... จากคุณ : คนสีฟ้า (Wadoiji) เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 15:53:32

ความคิดเห็นที่ 49 น้าหงบฯมาแล้ววววว เห็นด้วยกับน้าหงบค่ะเรื่องขาดกลางฮาร์ดคอร์ ดุ ๆ ... นึกย้อนไปถึงเกมส์กับบาซ่าแล้วเห็นภาพ                   .......... เอาใจช่วยน้องของน้องภีมนะคะ ขอให้สุขภาพแข็งแรงปลอดภัยทั้งคุณแม่คุณลูกและทั้งครอบครัวค่ะ ส่วนหน้าที่การงานที่เยอะขึ้นจนน้าอาจจะไม่มีเวลา ก็ไม่เป็นไรค่ะ พอมีเวลาว่างแล้วค่อยมาวิพากษ์                   แฟน ๆ รอด้ายยยยย ว่าแต่ปีหน้าก็จะเกษียณแล้วใช่มั๊ยคะ เค้าเลยเอางานมาให้ซีเนียร์ทำเยอะแยะเลย ผู้มีประสบการณ์ก็เงี๊ยะ  ^^ จากคุณ : นู๋ชม เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 16:05:00

ความคิดเห็นที่ 50 แวะมาขอบคุณเพื่อนๆก่อนกลับบ้านครับ คุณกายไลน์ ขอให้สมหวังนะครับ อุตส่าห์เก็บตังค์มาแล้ว คุณนู๋ชม แหม อายุงานผมยังเหลืออย่างน้อยก็ยี่สิบปีโน่นแหละครับ กว่าจะถึงวัยเกษียณ ผู้รักษาประตู ผมก็ว่าจำเป็นต้องเทรนให้ดีกว่านี้ แต่ดูแล้ว มันเป็นจุดต่อเนื่องจากกลางครับ ถ้ากลางเราคุมเกมได้ คอนโทรลสถานการณ์ได้ดี การต้องส่งคืนหลังให้หวาดเสียวหัวใจ ก็น้อยลง และความตื่นเต้นจากการเตะเปิด ก็จะน้อยลงไปครับ ดังนั้นในมุมมองของผม โกล์สำรอง ควรเยือกเย็นและนิ่งกว่านี้ครับ แต่ความเร่งด่วนในความคิดของผม กลางต้องแข็งกว่านี้ก่อนครับ เมื่อกลางแข็งแล้ว ผู้รักษาประตู จะมีงานตามความจำเป็นจริงๆเท่านั้น ไม่ต้องวิ่งหน้าเริ่ดมาเตะลูกคืนหลังบ่อยๆอย่างเมื่อคืนแน่นอน นานี่ยังคงติดเรื่องการตัดสินใจอย่างที่ผมเคยเม้นท์ไปก่อนหน้านี้แล้ว เคยเป็นยังไง ตอนนี้ก็ยังเป็นยังงั้นอยู่ หลายจังหวะที่ควรจ่าย แต่ฝืนลากครับ และขอบคุณ สำหรับกำลังใจนะครับ ขอบคุณมากๆเลย แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 16:30:55 จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 16:28:06

ความคิดเห็นที่ 51 สวัสดีครับ เห็นด้วยเรื่องกองกลางครับ แล้วก็ขอให้ลูกคนที่สองแข็งแรงปลอดภัยนะครับ จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 16:54:22

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์นะคะคุณสงบใจ ขอให้คุณแม่และน้องของน้องภีมสุขภาพแข็งแรงด้วยค่ะ  ^^ จากคุณ : Noey :p เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 17:07:36

ความคิดเห็นที่ 53 สวัสดีค่ะ คุณสงบใจ คิดถึงจริงๆ... เห็นด้วยว่าเราขาดกลางฮาร์ดแมน อยากได้มาเสริมจริงๆซะที ดูมานานแล้วหงุดหงิดแหะ >< ปอลิง.ขอให้น้องของน้องภีม แข็งแรงปลอดภัย ได้ออกมาเชียร์บอล เป็นเด็กผีแดงที่น่ารักอีกคนนะคะ จากคุณ : หัวใจข้างซ้าย พวงมาลัยข้างขวา เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 17:12:51

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณค้าบบบป๋าหงบ ไม่ได้อ่านตั้งนานคิดถึงจัง วิจาร์ณได้เยี่ยมเหมือนเดิม จากคุณ : พี 4 พองก้า (Unlease) เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 17:52:23

ความคิดเห็นที่ 55 สวัสดีครับ ป๋าหงบ ยอดเยี่ยมตรงใจผมเช่นเดิม  เข้ามาโหวต + ให้คะแนนโดยเฉพาะ ยิ่งความเห็นที่ 2 กับ 6 นี่ถูกใจมากครับ ขอให้แข็งแรง ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกครับ จากคุณ : จอมเทคนิค เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 18:09:32

ความคิดเห็นที่ 56 สวัสดีครับ ขอแลกเปลี่ยนทรรศนะกันเลยนะ พอจะนึกออกและเข้าใจที่ป๋าหงบแสดงความกังวลถึงตำแหน่งมิดฟิลด์ตรงกลางของยูไนเต็ดที่ดูจะต่ำต้อยด้อยค่าเมื่อเทียบกับเหล่ายอดทีมด้วยกัน ซึ่งก็ดูจะถูกต้องไม่น้อย แต่ผมก็พอจะเข้าใจแนวคิดของป๋า เพราะในห้วงหลังการปฏิวัติในด้านแท็คติค ที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับการมาถึงของ โจเซ่ มูรินโญ่ นั่นคือ ฟุตบอลสมัยใหม่จะเน้นการเล่นที่ด้านกว้าง ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ เชลซียุคโคตรทีมของจ่ามู กับบาร์เซโลน่าในยุคช่วงก่อนหน้านี้จนถึงตอนนี้ ปีก จะไม่ได้เป็นผู้เล่นที่คอยรับบอลและพาบอลขึ้นไปอย่างเดียว ถ้าจำกันได้ หลายๆ นัดที่เราจะเห็น โรนัลโด้ ไม่ค่อยได้ทำหน้าที่ของปีก แต่เขาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางที่ไปยืนปีก .. ? คือ หน้าที่ของปีก สำหรับยูไนเต็ดในช่วงก่อนที่จะเสียโด้ไปนั้น ยืนกว้าง เพื่อช่วยมิดฟิลด์ในการครองบอล บอลจะถูกถ่ายออกปีกเสมอๆ เพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นๆ ได้เคลื่อนที่หรือเติมเกมกันตามสะดวก ทำนองว่า ปีกเป็นตัวล่อ ก็ว่าได้กระมัง ปีกอย่างโรนัลโด้ ทำให้ลืมปีกแบบเดิมๆ ที่พอได้บอลก็จะวิ่งขึ้นหน้าอย่างเดียว แต่เขาทำหน้าที่ให้ทีมได้ทั้ง 2 อย่างคือเป็นแบบปีกสไตล์ดั้งเดิม และเป็นปีกแบบใหม่ที่ช่วยทำหน้าที่ที่คนมองกันไม่ค่อยเห็น คือ สร้างพื้นที่ว่างให้เพื่อนร่วมทีม ก็คือ หน้าที่การครองบอล ทำไปทำมา มิดฟิลด์ตรงกลางของยูไนเต็ดดูจะไม่ได้รับหน้าที่นี้มากนัก แต่มิดฟิลด์ตรงกลางของยูไนเต็ดจะทำหน้าที่ในการออกบอลและสกัดเกมรุกฝ่ายตรงข้าม แต่ก็อีกนั่นแล เมื่อเสียโรนัลโด้ไปแล้ว ผมมองว่า การจะเอานานี่, ปาร์ค หรือว่าวาเลนเซีย มาทำหน้าที่เหมือนโด้ คือยืนถ่างเพื่อช่วยมิดฟิลด์ครองบอล ก็ดูจะเสียประสิทธิภาพของตัวเองไปปล่าวๆ และที่สำคัญ ผมยังไม่คิดว่าปีกที่เรามีตอนนี้จะเติมเต็มการจากไปของโรนัลโด้ได้ นั่นคือ ป๋าต้องเพิ่มมิติใหม่ๆ ให้เกมรุกของยูไนเต็ด ผมค่อนข้างเห็นด้วย กับการมองหามิดฟิลด์ตรงกลางดีๆ สักคน เพราะลำพังนักเตะใหม่ที่น่าจะฝากความหวังได้อย่าง โอเว่น และ วาเลนเซีย ก็ไม่น่าจะ make impact ได้เท่าไหร่ เมื่อปีกของยูในเต็ด ดูจะไม่ใช่ความหวังสูงสุดเหมือนช่วงที่มีโรนัลโด้ ผมเลยคิดว่า ป๋าควรให้ความสำคัญกับมิดฟิลด์ตรงกลางมากขึ้น แต่ก็ไม่ ซึ่งก็เข้าใจ เพราะดูที่ผ่านๆ มานั้น เมื่อเสียสตาร์ของทีมออกไป ป๋าก็ไม่ค่อยจะยี่หระเท่าไหร่ แต่มักจะซื้อนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็ปั้นเอา เมื่อสมัยที่คันโตน่า, เบ็ค, สตัม, รุด ฯลฯ เดิมที การมาถึงของโอเว่น น่าจะเป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจนว่ายูในเต็ดมีแผนจะเปลี่ยนสไตล์การเล่นค่อนข้างแน่ และป๋าก็ออกมายืนยันจริงๆ แต่ก็คงต้องรอดูต่อไปถึงแผนการเล่นแบบใหม่ที่ว่านั่น สิ่งหนึ่งที่ผมก็เห็นด้วยมากๆ นั่นก็คือความยืดหยุ่นของ คาริค และ เฟลทเชอร์ ซึ่งตอนนี้ดูจะเป็นนักเตะตัวหลักในแดนกลางของยูไนเต็ดไปแล้ว ทั้ง 2 คนก็มีดีไม่แพ้ใคร แต่ มีดีเฉพาะในจุดของตัวเอง แต่ไม่อาจปรับเปลี่ยนตัวเองไปตามเกมได้ นั่นคือ เมื่อไหร่ที่รูปเกมไม่เป็นไปตามที่พวกเขาถนัด พวกเขาก็จะกลายเป็นนักเตะธรรมดาๆ ไปทันที กลับกัน หากทีมไหนปล่อยให้รูปเกมเป็นไปตามที่คาริค&เฟลทชอบล่ะก็ ก็หมายถึงหายนะได้เหมือนกัน แต่... โค้ชระดับโลกที่ไหนจะมองไม่ออกตรงจุดนี้ล่ะ? ป๋ากี้ก็โดนราฟาสอยมาแล้วในศึกวันแดงเดือดปีที่แล้ว จริงอยู่ว่าสกอร์ 4-1 ดูจะเกินจริงไปหน่อย และแต่ละประตูก็ค่อนข้างโชคร้าย+ความผิดพลาดทั้งนั้น แต่.. ก็ต้องยอมรับว่าวันนั้นราฟาจัดการกับเกมของยูไนเต็ดได้ดีมากๆ ซึ่งอาจจะเป็นแมตช์แรกๆ เลยก็ว่าได้ที่ผมเห็นยูไนเต็ดยุคปีกครองเมืองมีอันต้อง "ตัน" ในแมตช์นั้น ราฟาทำให้ปีกของยูไนเต็ดหมดราคาไป ทั้งโรนัลโด้และอีกคน (ใครก็ไม่รู้จำไม่ได้แล้ว) ไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเองเลย เมื่อได้บอลที นักเตะลิเวอร์พูลจะเข้ามาบีบให้ต้องส่งกลับหลังเท่านั้น นั่นทำให้ภาระหนักตกไปอยู่ที่มิดฟิลด์ตรงกลาง.. ซึ่ง เราสู้ไม่ได้ ยังไม่รวมถึงความขยันในแดนหน้าของลิเวอร์พูลที่ทำให้เซนเตอร์เราช่วยทีมไม่ได้เพราะถูกบีบให้วางบอลยาว ซึ่งเราก็เสียเปรียบ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความผิดพลาดมากมาย บ่นเสียเยอะเลยแหะ = =' ดูๆ แล้ว ผมคิดว่า ป๋าอาจจะลดความสำคัญในการเล่นด้านกว้างลง เพราะประสิทธิภาพเราลดลงจากการเสียโด้ และน่าจะเพิ่มความสำคัญในแดนหน้า จากการมาของโอเว่น (แม้จะยังไม่เห็นแหะ) ส่วนหนึ่งก็จากบทสัมภาษณ์ที่ป๋าบอกว่าจะไม่ถ่างรูนี่ย์ออกปีกอีกแล้ว แต่จะให้ยืนหน้าคู่เบิร์บ, เว่น ก็คิดครับ ว่าเราควรจะมองหามิดฟิลด์ตรงกลางที่ไว้ใจได้เพิ่มเสียหน่อย แต่เชื่อว่า ป๋าคงไม่คิดเช่นนั้น เพราะป๋าดูจะอยากปั้นอันแดร์สันมากๆ ๆ ๆ คงกะจะให้ขึ้นมาดังทะลุฟ้าเหมือนโด้มั้ง พูดถึงอันโด้แล้ว ผมว่าเด็กคนนนี้ก็มีวัตถุดิบในตัวดีไม่แพ้มิดฟิลด์คนไหนนะ แต่จะดันขึ้นมาชนกับพวกแลมพ์, บัลลัค, เจิด ฯลฯ ก็คงไม่ไหว จากคุณ : art_sarawut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 18:29:11

ความคิดเห็นที่ 57 เข้ามาอ่านก็นานแล้วครับ คราวนี้ขอมาเป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้ลูกปลอดภัยครับ จากคุณ : sparrow_knight เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 19:08:49

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณเจ้าของทู้เช่นเคย ไม่ได้อ่านกระทู้แบบนี้มาหลายเดือนแล้วคิดถึง ขอให้น้องของน้องภีมและคุณแม่ปลอดภัยนะ จากคุณ : ผักทอดยอด เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 20:02:02

ความคิดเห็นที่ 59 เห็นด้วย ครับ คาร์ริค นี่ ผมนึกถึง นีล เวบบ์ หรือ วิลกินส์ ครับ ที่ ต้องมี รอบสัน คอยช่วยดัน กระตุ้น และ ตัดเกมให้ ยุคหลัง ก็มี พันธุ์ดุตลอด จนหมด คีน ป๋า เคยลอง แต่ ไม่ได้ เลยหยุดใช้ หันมาใช้ แบบ ปีกลุย และ ได้ผล ทำให้ ลืมไปว่า เพราะ เรามีโด้ ที่ พลิกเกมได้ ครับ แต่ ผมว่า ในใจ ป๋า ตอนนี้ ที่คิดว่า น่าจะปั้นได้ คือ แอน  กิบสัน และ พอซ แต่ ระยะยาว จะไหว ไม่ไหว ค่อยว่ากันอีกที ขอให้ มีความสุขกับ การทำงาน ครับ จากคุณ : เทพพิสดาร เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 20:53:44

ความคิดเห็นที่ 60 จริงๆผมก็หวังกับอันแดร์สันมากนะครับ ...และอนาคตไกลๆหน่อยก็พวกพอช กิ๊บสัน ลายิช วัดใจกับเฟอร์กี้เบ๊บส์รุ่นใหม่ล่ะคร้าบ - - ป.ล. เอาใจช่วยน้องของน้องภีมนะครับ ^ ^ จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 22:02:02

ความคิดเห็นที่ 61 หวัดดีลุงหงบ ขอให้น้องน้อยปลอดภัยฮะ น้องภีมจะได้มีน้อง ส่วนผม น้องๆ ยังเรียนหนังสือกันเยอะพอควร เรื่องกองกลาง ผมว่าป๋ามีีอะไรในใจแล้ว และก็เชื่อว่าแอนนี่จะยึดหัวหาดเป็นตััวหลัก และเชื่อว่าป๋าจะยืดหยุ่นไปเรื่อยๆ เป็นนัดๆ เพราะมั่นใจในแนวรับ ดังนั้นกองกลางยังเล่นไปปรับไปได้ ผมว่าป๋าห่วงเรื่องยิงประตูมากกว่า ถ้ายิงได้เร็วได้มาก ป๋าคงลองกองกลางไปเรื่อยๆ ถ้ายิงไม่ได้ก็เครียดแน่ๆ อาจเห็นการทุบกระปุก ซื้อตัวใหม่แบบสถิติสโมสรแน่ๆตอนปีใหม่ แต่ที่น่าหนักใจเหมือนลุงหงบว่า เราอาจจะเอาตัวไม่รอดในเกมยุโรป เกิดกองหลังเรารั่ว ก็เสร็จ อีกอย่างเห็นด้วยเรื่องวาเลนเซีย (จริงๆ ผมไม่ชอบแกเลยนะ รู้สึกว่าเล่นได้มิติเดียว หรือสองมิติ จับทางง่าย) ผมว่าแกจะดับถ้าโอเชียยืนขวายาว เพราะโอเชียแกเล่นแน่นอน ไม่หลุด จากการที่แกไม่ขยับสูง ดังนั้นวาเลนเซียจะเล่นยาก อาจต้องมีกองกลางไปรองสักคน คราวนี้กลางจะหลุดแทน ยังไงก็แล้วแต่ นี่คือการคาดเดา รอดูก่อนสักสี่ห้านัด น่าจะเห็นเลาๆ ว่าหมู่หรือจ่า จากคุณ : trebla เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 22:08:28

ความคิดเห็นที่ 62 เอาใจช่วยนะคะลุงหงบใจ ^^ ขอให้น้องแข็งแรงปลอดภัยค่า จากคุณ : poojo_ke เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 22:15:01

ความคิดเห็นที่ 63 มาเอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : kukurichan เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 01:44:22

ความคิดเห็นที่ 64 แวะมาทักมายครับ ^^ จากคุณ : Wizzard เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 06:16:24

ความคิดเห็นที่ 65 แวะมาเจิมก่อนทำงาน คือผมไม่ได้เจาะจงว่า เราต้อง   ซื้อ  กองกลางมา ไม่งั้นจะมือเปล่า เพียงแต่ การขาดหายไปของกองกลางที่ยืดหยุ่นเกมได้ดีนั้น อาจจะทำให้งานเรายากขึ้นเยอะ เมื่อบิ๊กโฟร์ขยับมาตรฐานมาบีบเราได้มากขึ้น ทีมระดับไล่ล่าอันดับสี่ อย่างเอฟฯ วิลล่า สเปอร์ส แมนซิ ต่างก็ขยับเข้าใกล้มากขึ้น ตรงนี้จะยิ่งทำให้ป๋าต้องรอบคอบในการจัดตัวมากกว่าซีซั่นที่แล้วแน่นอน แต่อย่างที่บอกครับ ผมเองยังเชื่ออยู่ เชื่อว่าเราสามารถลุ้นได้ยาวๆจนจบซีซั่นแน่นอน ตามมาตรฐานที่เคยทำได้ เพียงแต่ว่า เราอาจจะมีงานที่ยากขึ้น ต้องรัดกุมมากขึ้น ก็เท่านั้น และงานในยุโรป ก็อาจมีปัญหามากขึ้นไม่น้อย เมื่อบาเยิร์นก็มา บาร์ซ่า ก็เสริม มาดริดยิ่งเทพเข้าไปใหญ่ ไหนจะบิ๊กโฟร์ที่ยังยืนอยู่อีก ผมว่า ถ้วยยุโรปนี่แหละ ที่เป็นงานที่จะพิสูจน์ฝีมือป๋าอย่างที่สุดในปีนี้ จากมาตรฐานเข้ารอบรองหลายปี และถึงรอบชิงสองปีซ้อนที่ผ่านมานั่นเอง แต่กับสควอดที่มีอยู่ตอนนี้ ผมก็เชื่อว่า ป๋าคงรอฮากรีฟส์อยู่ และอาจไม่ได้คาดว่าฮาร์กรีฟส์จะเจ็บต่อไปอีกจนกันยายน (อย่างเร็ว) อีกคนที่เห็นบ่อยๆคือการถอยแอนนี่ลงมาเล่นรับ ซึ่งช่วยได้ในหลายๆเกม แต่ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองในการยืนระยะ และการเจอทีมใหญ่ด้วย อันนี้ต้องรอครับ และผมเห็นด้วยนะ เรื่องวาเลนเซียกับโอเชอาจจะไม่เวิร์คในเกมใหญ่ๆ เพราะโอเชจะเติม จะลุย ก็แต่กับทีมกลางๆ-เล็กๆ แต่กับเกมใหญ่ๆ จะปักหลักมากกว่า จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 08:31:12

ความคิดเห็นที่ 66 จริงๆ ถ้าเรามีฮากรีฟ ทุกอย่างคงลงตัวกว่านี้... มีครั้งนึงที่ สโคส ได้บอลแล้วม้วนรอจังหวะก่อนจ่าย  นี่เข้าตาผมมาก กองกลางที่รู้จักรับ รุกและยืดหยุ่นเกมแบบสโคลนี่ หาไม่มีเลยตอนนี้ ตอนกับบาร์ซ่า เลยโดน อิเนส ซาบี พาทัวร์ กำหนดจังหวะเกมเลย... อยากได้กลางระดับๆ ซักคนตอนนี้ แต่ลองมานั่งนึกชื่อที่พอจะมีหวัง และมีระดับ ยังนึกไม่ออกเลย ออ ที่นึกได้ คือ... ฮากรีฟ.. จริงๆนะ... จากคุณ : กังป๋วย เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 09:43:42

ความคิดเห็นที่ 67 สวัสดีคุณสงบใจ  และผองเพื่อนปีศาจแดงทุก ๆ ท่านครับ ไม่ได้คุยกันหลายเดือน  คิดถึงจังครับ เกมที่ผ่านมา  ผมว่าทีมเราเป็นรองตรงผู้รักษาประตูครับ เบน  ดูเหวอเอามาก ๆ แม้จะเซฟลูกสำคัญได้ตั้ง ๑ ครั้งก็เถอะ เมื่อคืน (ถ้า) ฟานเดอซาร์ลง  ผมว่า  ไม่น่าจะเสียทั้งสองประตูด้วยซ้ำ กลับกัน  เซลซีถ้าไม่มีเชค  อาจจะเละไปตั้งแต่ครึ่งแรกแล้วก็ได้ ส่วนกองกลางเราที่ดูอ่อนกว่า  แต่ผมว่าดูสมดุลพอสมควรนะ ที่ครองบอลได้น้อยกว่า  อาจจะเพราะต้องเล่นเกมรับมากไปหรือเปล่า (ซึ่งเป็นปรกติที่เล่นกับทีมระดับเดียวกัน) แต่ก็มีหลาย ๆ ครั้งที่ทีมเราได้บอล  แล้วทะลุไปข้างหน้าได้เร็ว เพียงแต่หลังเขาก็ลงรับเร็ว  ก็เลยทำไม่สำเร็จ ใจจริง  อยากให้เฟรชเช่อร์ไปเพิ่มบอดี้ให้หนากว่านี้หน่อย ตอนนี้  เวลาเข้าบอลแม้ว่าจะทำได้ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ   แต่เมื่อต้องปะทะ  จะเสียเปรียบเขาพอสมควร ส่วนกองหน้ากับหลัง  เมื่อคืนผมว่าเราเหนือกว่านิดหน่อย และที่ทีมเราด้อยกว่าอีกอย่างก็คือลูกตั้งเตะ ดูแล้ว  ไม่ค่อยน่ากลัวเลย  มีแต่คนไม่สูง  หรือไม่ก็ตัวบางกว่าเขา กลับกัน  พอเซลซีได้ลูกตั้งเตะทีไร  น่ากลัวมาก ๆ คนรอโหม่งมีเยอะมาก ๆ และก็เข้ามาเป็นแผง  น่ากลัวจริง ๆ ป.ล.  ขอให้น้องของน้องภีมปลอดภัยนะครับผม จากคุณ : ขุนไกรครับผม เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 14:00:50

ความคิดเห็นที่ 68 เห็นด้วยเลยครับ กลางรับแบบฮาร์ดแมนเป็นตำแหน่งที่ผมอยากให้ป๋าจัดมาที่สุด คิดว่าถ้ามีคนคอยตัดเกมส์แบบไว้ใจได้ คาริก จะได้สร้างสรรค์เกมส์รุกแบบเต็มที่ ไม่ต้องพะวงหลัง ป.ล. ขอให้น้องของน้องภีมปลอดภัยนะครับ จากคุณ : ขอบตะวัน เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 15:03:12

ความคิดเห็นที่ 69 เขียนได้ยอดเยี่ยมมากครับ  ภาษาสวยลื่นปื๊ดอ่านเพลิืน  รู้จักคู่ต่อสู้มากกว่าแฟนเชลซีบางคนซะอีก เดี๋ยวผมจะเป็นแฟนติดตามครับ  เอ่อ ผมแฟนเชลซีนะ จากคุณ : blur the blue เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 16:14:31

ความคิดเห็นที่ 70 เห็นด้วยอย่างยิ่ง เรื่อง มิดฟิลด์ครับ...ขออีกสักคน ! แต่ว่าไปแล้ว ตอนนี้ ไมเคิล คาร์ริค .. ก็ทำหน้าที่ได้ดี (เป็นบางนัด!??) .. โดยเฉพาะถ้าวันไหน Top form จะเด่น ทั้งการเปิดเกมรุก วางบอลยาว หรือแม้แต่ การลงมาช่วยสกัดบอล ..เสียดายที่ไม่สม่ำเสมอพอ.. เฟลทเชอร์ เป็น มิดฟิลด์ ตัวตัดเกม ที่ขยันที่สุดในเวลานี้.. นัดไหนถ้าฟิต ๆ .. วิ่งขึ้นลง ตลอดเกมได้สบาย.. พอล สโคลส์ .. คงอาจจะได้เล่นไม่เกิน ปีหน้า อีกแค่ฤดูกาลเดียว .. ผมว่า ก็คงต้องเลิก.. ไรอัน กิ๊กส์ ..ฝรั่งเขาเรียก Evergreen .. เขียวชอุ่ม สดใสตลอดปี  .. อาจจะดู แก่ลง ช้าลง .. แต่การอ่านเกมทะลุ การเปิดบอลไว ไม่ต้องคิด.. โดยเฉพาะลูกที่เปิดให้ รูนี่ย์ หลุดไปยิงตีเสมอ .. ได้ทั้ง จังหวะเวลา หลุดเช็คล้ำหน้า ได้ทั้งน้ำหนักและทิศทาง เป๊ะ ๆ !! ยังเป็น ตัวเก๋า ที่ช่วยทีมได้อีก (มากกว่า สโคลส์) แต่ โดยส่วนตัว ผมกลับคิดว่า ปีนี้ ปีศาจแดง จะทำได้ดีกว่าปีที่แล้ว .. ทั้งคะแนน และประตูได้ .. แต่ "ประตูเสีย" อาจเสียมากกว่า ปีที่แล้ว ..โดยเฉพาะ แบ็ค ทั้ง ซ้ายและขวา ..ยังเล่นเกมรับได้ไม่รอบคอบพอ .. โดยเฉพาะจะไม่มีตัวช่วยซ้อน อย่าง รูนี่ย์ เหมือนปีก่อน .. เพราะป๋าเฟอร์กี้ ต้อง สั่งให้ ยืนเป็น กองหน้า.. มากกว่า ที่จะเป็นปีก วิ่งขึ้นลง มาช่วยเอฟร่า.. เอฟร่า ดูไปแล้ว ปีนี้ ทางฝั่งซ้าย ถ้าได้เล่นคู่กับ นานี่ บ่อย ๆ ..น่าจะ work!? ฝั่งขวา ได้ บาเลนเซีย มาเล่น คู่กับ ราฟาเอล ..ก็น่าจะลงตัว กองหน้า 4-5 คน รูนี่ย์ เบิร์บ โอเว่น รวม แม็คเคด้า (กิ๊กโก้) และ เวลเบ็ค  .... ก็ยัง OK.. อยากเห็น ระบบ 4-4-2 กลับมาผงาดสู่กับ Diamond ของเชลซี... ซึ่งต้องมี มิดฟิลด์ .. แข็ง ๆ .. แบบ รอย คีน ในอดีต.. ถ้าได้(มิดฟิลด์)แบบนั้นล่ะก็ ... แชมป์ 4 ปี ติดต่อกัน ทีมแรกในประวัติศาสตร์ ก็ใช่ว่า จะเป็นไปไม่ได้ !! แม้ว่า อาจจะต้องเบียดกับ เชลซี ไปจนถึง เดือน เมษา หรือ พฤษภา หน้า ก็ตาม!! จากคุณ : จิตตารมณ์ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 19:07:32

ความคิดเห็นที่ 71 ชอบกระทู้คุยบอลแบบนี้จังครับ......ได้สาระดี สนุกด้วย ......แต่ก็ต้องยอมรับอ่ะครับ  กลางแมนยู อ่อนลงมากจริงๆ ตามที่จขกท ให้ความเห็นละครับเห็นด้วยเลย ส่วนกองกลางยุคเด็กๆ นี่ต้องฟักบ่มอีกนานมากๆ ..... เท่าที่เก่งก็เ่ก่งนะ แต่ไม่สมบูรณ์แบบเท่าไรเลย  ฮาร์กรีฟก็เจ็บอีก  เฮ้ออออ จากคุณ : Mine_Knight เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 19:53:00

ความคิดเห็นที่ 72 ขอให้น้องภีมมีน้องที่น่ารักๆ แข็งแรงนะครับ น้าหงบ ฤดูกาลใหม่ มาแล้วว จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 16:10:01

ความคิดเห็นที่ 73 ดีใจจังได้อ่านบทวิพากษ์ของคุณสงบใจอีกแล้ว ฤดูกาลใหม่กำลังจะมา วู้ วู้ ถึงจะงานยุ่งมากกว่าเดิมและอาจจะมาวิพากษ์ได้น้อยลงก็ไม่เป็นไรค่ะ ช่วงไหนยุ่งมากก็ดูเอามันอย่างเดียวก็พอค่ะ จะได้คลายเครียดด้วย สุดท้ายขอให้น้องของน้องภีมและคุณแม่แข็งแรงและปลอดภัยนะคะ สู้สู้ จากคุณ : ผ่านมาทักทาย เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 02:02:41

ความคิดเห็นที่ 74 ด้วยตังค์ ที่มีอยู่ คุณ สงบ เห็นว่า ใครน่าจะ เข้ามาเป็นตัวเติมเต็มครับ ผมก็ หามานานแล้วไม่มีจริงๆ จากคุณ : DragonboyR เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 23:28:10

ความคิดเห็นที่ 75 มีเล็งๆไว้หลายคนครับ แต่ดันติดอยู่สองเรื่อง หนึ่ง คือเงินที่มี มันไม่ถึงขั้นจะพรากเขามาได้ สอง คือนักเตะดันไม่อยากมาอยู่กับเรา สุดท้าย ก็ยังเชื่อในความคิดป๋าครับ ถ้าป๋าว่าดีแล้ว ผมก็ว่าตามนั้นแหละครับ แต่อยากได้จริงๆนะ กองกลางตัวกำหนดจังหวะรูปแบบเกมได้เนี่ย จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 10:03:46