ความคิดเห็นที่ 1 แรกเริ่มเดิมที ผมมองสภาพทีมโดยรวมที่มีนักเตะบาดเจ็บหลายต่อหลายรายเมื่อเริ่มเปิดซีซั่น ผมก็ให้ประหวั่นพรั่นพรึงถึงงานหนักหนาสาหัสที่ต้องเจอในช่วงสองเดือนแรกเป็นอย่างมาก แต่ก็เบาใจลงไปได้เยอะ เมื่อเห็นว่าสามเกมแรก เป็นเกมตบเด็ก ที่ป๋าและลูกทีมค่อนข้างเชี่ยวชาญในกรณีนี้เป็นพิเศษ แต่กลับกลายเป็นว่าแค่เกมแรกก็รากเลือด แถมเพียงแค่เกมที่สอง กับตัวเต็งตกชั้นอันดับหนึ่งในสายตาร้านพูลทั้งหลาย ก็ต้องพานพบกับความวินาศสันตะโรกันซะแล้วครับ การจัดทัพในนัดนี้ ออกจะไม่เหนือความคาดหมายผมเท่าใดนัก เมื่อพอทราบอาการบาดเจ็บของริโอ เฟอร์ดินานด์ กับเนมานย่า วิดิช อยู่ก่อนหน้า พอปรายตาเห็นทีมชีตในแดนหลัง ที่มี เบน ฟอสเตอร์ เฝ้าเสา ส่งจอห์น โอเชและปาทริซ เอวร่า คุมฟูลแบ๊คสองข้าง และให้เวส บราวน์ กับจอนนี่ เอแวนส์ คุมตรงกลาง จึงไม่ค่อยตกใจมากนัก แต่โพสิชั่นนิ่งของกองกลางต่างหาก ที่ทำให้ผมต้องตะลึงครับ ไม่ใช่เพราะท่านเซอร์ส่งแอนนี่ ลงมา แต่เป็นเพราะท่านเซอร์จับแอนนี่ไปเล่นริมเส้นฝั่งซ้าย เอากิ๊กส์ และ คาร์ริคยืนกลาง (อันนี้พอเข้าใจฮะ เล่นกันบ่อยคู่นี้) ส่วนทางขวา เป็นตี๋ดริฟท์คิงของเรา คู่กองหน้าวันนี้เลือกรูนี่ย์กับไมเคิล โอเว่น จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:28:04

ความคิดเห็นที่ 2 การที่ผมตกใจที่เห็นแอนนี่ไปยืนด้านขวา นั่นก็เพราะหลากหลายเหตุผลครับ อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้ว เอแวนส์มีอาการบาดเจ็บกำเริบจนต้องเปลี่ยนตัวเมื่อสามวันที่ผ่านมา เป็นไปไม่ได้หรอก ที่เขาจะฟิตเต็มร้อยได้ทันในสามวัน ส่วนเวส บราวน์นั้นเล่า ก็เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บยาวเกือบตลอดซีซั่นที่แล้ว เพิ่งได้คัมแบ๊คในปรีซีซั่นไม่กี่ครั้ง แถมนัดที่แล้วที่ถูกเปลี่ยนลงมาก็ยังเห็นได้ชัดเจนว่ายังไม่เต็มร้อย นั่นแสดงว่า คู่เซ็นเตอร์วันนี้ของเรายังไม่เต็มร้อยทั้งสองคนตั้งแต่เริ่มเกม เมื่อรู้แล้วว่าหลังบ้านคุณไม่สามารถลงกลอนให้แน่นหนาได้ตามปกติ ผู้ป้องกันข้างหน้าอย่างแผงมิดฟิลด์ก็ควรที่จะวางตัวที่สามารถเล่นได้ตรงตามตำแหน่งอย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า เพื่อให้เล่นได้ตามความถนัดของตนเอง และประคองเกมช่วยแผงหลังที่ไม่ธรรมดานี้ได้ดีขึ้น แต่กลับกลายเป็นเอาแอนนี่ไปยืนริมเส้นฝั่งซ้าย ซึ่งเขาไม่เคยมีประสบการณ์ได้ประสานงานขึ้นลงร่วมกับเอวร่าอย่างเป็นจริงเป็นจังมาก่อน ตรงนั้นคือจุดอ่อนแรกที่ผมเห็น จุดต่อมาก็คือ ปาร์คยังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มดร็อปลงไปพอสมควรจากปีก่อนหน้า เขาพีคสุดๆก็ในซีซั่นที่เราคว้าแชมป์ยุโรปที่มอสโก แต่พอเขาถูกตัดชื่อออกไปจากเกม ก็ดูจะดาวน์ลงไปอย่างเห็นได้ชัด มีเร่งขึ้นได้บ้างในบางเกม แต่ช่วงปลายซีซั่นที่แล้วนี่ดูออกเลยว่าปาร์คดร็อปไปเยอะ แถมความเร็วก็ดูจะตื้อๆไปจากเกิมอีก ถึงแม้ว่าปาร์คจะเป็นมิดฟิลด์ริมเส้นอยู่แล้ว แต่สำหรับเขาก็ไม่ใช่ปีกธรรมชาตินะครับ เกมที่เหมาะสำหรับปาร์ค ส่วนใหญ่จึงเป็นเกมที่เน้นการใช้งานเขาในลักษณะมิดฟิลด์ริมเส้น มิใช่ปีกธรรมชาติ จุดอ่อนหลักๆสองจุดที่พบในกองกลางวันนี้ นอกจากจะเป็นจุดที่ฆ่าตัวเองเพราะเราเป็นทีมที่เล่นเกมโจมตีด้วยปีกเป็นหลัก มันยังเท่ากับไปโหลดงานให้คาร์ริคกับกิ๊กส์ ที่พื้นที่ก็มีน้อยมากๆอยู่แล้ว ให้ยิ่งต้องเจองานยากขึ้นไปอีก จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:28:28

ความคิดเห็นที่ 3 เบิร์นลีย์ของโอเว่น คอยล์ มาแบบรู้ตัวเองครับ แรกๆอาจจะเกร็งไปบ้าง เมื่อต้องเจอกับแชมป์เก่าแต่พอผ่านไปสักพัก เมื่อเห็นว่ายูไนเต็ดนั้นไม่ได้น่าเกรงกลัวเท่าไหร่ในวันนี้ เด็กๆของคอยล์ก็เริ่มแสดงให้เห็นว่า การจะบุกมาเหยียบเทิร์ฟ มัวร์ แล้วมาควักสามแต้มไปง่ายๆ ด้วยการส่งนักเตะแบบกึ่งๆประมาทแบบนี้ มันดูจะง่ายเกินไปหน่อย เด็กๆของคอยล์จึงเริ่มตั้งเกมตัวเองขึ้นมาได้ แล้วปิดเกมรุกของยูไนเต็ดได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แถมเล่นไปเล่นไป กลายเป็นเหมือนว่าคอยล์ส่งลงมาสิบสองสิบสามคนเลย มองไปทางไหนก็เจอแต่เบอร์นลีย์ครับ เต็มไปหมด คอยล์นั้นไม่เลือกแผนกับดักล้ำหน้า หรือแผนชิงจังหวะมาเล่น แต่เลือกเน้นคุมโซนรับลึก ตังกำแพงสองชั้น มีกองกลางเป็นด่านแรก และกองหลังเป็นด่านที่สอง ต่างคนต่างวิ่งต่างไล่ช่วยกันในพื้นที่ขงตัวเองอย่างสุดความสามารถ และนั่นทำให้เกมของยูไนเต็ดมีปัญหาอย่างต่อเนื่อง เมื่อหันไปทางไหนก็เจอแต่นักเตะเบิร์นลีย์ ไมเคิล โอเว่น ไม่มีโอกาสสลัดหลุดได้มากนัก เมื่อถูกคุมปิดพื้นที่แน่นหนา รูนี่ย์เองเมื่อเข้าไปในกรอบก็ถูกประกบติดเช่นกัน จนต้องถอยออกมาล้วงบอลนอกกรอบห่างๆหลายต่อหลายครั้ง แม้แต่โอเว่นเองก็ยังต้องถอยลงมาบ่อยๆ แสดงให้เห็นค่อนข้างชัดว่า เกมในกรอบนั้น บอลไปไม่ถึงเท้ากองหน้า และการสนับสนุนจากปีก จากกองกลางก็เข้าไม่ถึงกรอบโทษเท่าไหร่นัก เมื่อเกมรุกจากปีกซ้ายเป็นแอนนี่ เอวร่าก็พบงานหนัก เพราะการขึ้นเกมรุกของเอวร่าปกติจะอาศัยปีกเป็นตัวประสานและต่อบอล แต่แอนนี่ยังไม่เคยจูนตรงนั้นกันมาก่อน การประสานงานทางซ้ายจึงไม่เกิด เหมือนต่างคนต่างเล่นเกมของตัวเอง ป้ายบอลกันไปมาเท่านั้น สุดท้ายก็มาหากลางสนาม ส่วนทางขวา โอเชขึ้นเติมนับครั้งได้ ส่วนใหญ่ต้องคอยช่วยซ้อนลูกสาดยาวของเบิร์นลี่ย์อยู่ข้างหลัง ก็ทำให้ปาร์คที่ยังออฟฟอร์มอยู่ ไปด้วยตัวเองไม่ได้เช่นกัน ทั้งหมดนี้ทำให้เกมริมเส้นค่อนของเราข้างตายด้านครับ  หมดสมรรถภาพไปเลย จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:28:44

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนเกมรุกตรงกลาง เมื่อเกมริมเส้นไม่ทำงานและถูกปิดได้ง่ายๆแบบนั้น น้ำหนักเกมรุกจึงต้องถูกเทมาตรงกลางเต็มที่ ซึ่งก็จะเจอแนวรับคุมโซนเพรสซิ่งสองชั้นของเจ้าบ้านไล่กดดันให้คายบอลเร็ว ซึ่งออกบอลในลักษณะนั้นในวันที่การประสานงานของทีมยังไม่ดี ในวันที่ทีมเวิร์คยังไม่เข้าที่ ก็เท่ากับเป็นการออกบอลเสี่ยง และสุดท้ายการเสียบอลง่ายๆก็เกิดขึ้นบ่อย เมื่อโดนสวนด้วยลูกวางยาวขึ้นหน้า เอแวนส์ กับบราวน์ที่ยังไม่เต็มร้อยและน่าจะยังมีอาการเจ็บรบกวนแต่ผ่านทดสอบความฟิตมาได้ เมื่อทั้งคู่ถูกกดดันมากๆเข้าก็เกิดอาการเสียทรงครับ บอลแบบนี้ถ้าร่างกายไม่เต็มร้อย ความมั่นใจก็ถดถอยเป็นธรรมดา และจะส่งผลมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป ตรงนี้ทำให้โอเชไม่กล้าเติมสูงบ่อยๆและต้องอยู่ช่วยซ้อนแทบตลอด ลูกที่เสียประตูก็มาจากลักษณะนี้ บอมบ์เข้าไปเถอะ บอมบ์เข้าไป คู่เซ็นเตอร์เรามีปัญหา สุดท้ายเดี๋ยวก็เป๋ และก็เริ่มเป๋ได้เร็วแต่หัววันด้วยครับ การหลงตำแหน่งยืนคุมคน การปล่อยให้มีตัวว่างๆหลุดเข้ามาในกรอบเกิดขึ้นหลายครั้ง เห็นได้เรื่อยๆเวลาเขาบอมบ์เข้ามา การเคลียร์ลูกอันตรายก็ไม่ค่อยไม่เด็ดขาด และเก็บจังหวะสองหน้ากรอบตัวเองไม่ค่อยได้ นั่นคือที่มาของประตูที่เสียไป แต่ก็ต้องชมเด็กของคอยล์ด้วย ที่รู้จักใช้จุดแข็งตัวเองอย่างเต็มที่ รู้จักเจาะจุดอ่อนอย่างถูกต้อง และอดทนรอ เล่นอย่างมีวินัย ล้มแล้วลุกทันที เข้าหาบอลด้วยความมุ่งมั่น รวดเร็วกว่ายูไนเต็ดอยู่ครึ่งสเต็ปตลอดทั้งเก้าสิบนาที จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:28:59

ความคิดเห็นที่ 5 เกมนี้นอกจากจะต้องชมเบิร์นลีย์ที่ทำตามแผนตัวเองได้ดีมากๆแล้ว ก็ต้องตำหนิทีมเราเองด้วยที่เล่นด้วยความมุ่งมั่นที่ดูจะต่ำกว่าปกติไปมาก รวมทั้งการประสานงานแบบเหมือนไม่เคยเล่นด้วยกันมาก่อน รวมทั้งท่านเซอร์เองที่อาจจะติดประมาทในการจัดทัพหรือเปล่า โอเคว่าอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับนักเตะตัวหลักหลายๆราย เป็นสาเหตุสำคัญที่เราไม่สามารถเลือกผู้เล่นทีดีที่สุด หรือแม้แต่ดีรองลงมาได้เต็มที่นัก ตรงนี้ผมทำใจยอมรับได้ว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้ แต่ด้วยทัพนักเตะที่ยังเหลือ ผมเองคิดว่าท่านเซอร์น่าจะจัดได้ลงตัวกว่านี้ อันนี้ไม่ใช่พอเห็นว่าทีมแพ้แล้วมาพูดอวดเก่งนะครับ แต่ผมคิดอย่างนี้จริงๆตั้งแต่เห็นแอนนี่ลงมายืนปีกซ้ายแล้ว คือตอนเห็นรายชื่อ ผมยังนึกว่ากิ๊กส์จะเล่นปีก ดันกลายเป็นแอนนี่ซะงั้น คือท่านเซอร์อาจจะคิดว่าแค่ชุดนี้ก็น่าจะรับมือน้องใหม่อยู่ (เหมือนเกมแรก) อันนี้ผมก็ไม่กล้าฟันธง เพราะมันเหมือนจะประมาทไปหน่อย แต่ผมเองก็คิดว่า ด้วยศักยภาพที่เรามี เราน่าจะจัดอะไรที่ลงตัวกว่านี้ได้ โอเคแผงหลังอาจจะเป็นชุดนี้ด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่าง แต่แผงกลางมันก็น่าจะให้ลงตัวกว่านี้ คาร์ริคอาจจะคู่เฟล็ทเชอร์ก่อน เอากิ๊กส์เล่นกราบซ้ายตามถนัด ส่วนขวาให้วาเลนเซียเล่นไปก่อน หรือไม่ก็เป็นปาร์คอย่างเดิมก็ได้ สโคลส์, แอนนี่, เบิร์บ, วาเลนเซีย(ถ้าไม่ได้เริ่ม) ก็น่าจะเป็นตัวพลิกเกมที่ดีได้ หากจำเป็น แต่การเริ่มต้นด้วยชุดอย่างเมื่อคืนนี้ มันเท่ากับตัดเกมรุกทางปีกของตัวเองไปเลยหนึ่งข้าง ถ้าป๋าไม่แน่ใจว่าให้กิ๊กส์ยืนปีกจะไหวหรือไม่ ก็สามารถดันเอาเอวร่าไปยืนปีกเหมือนที่เคยดันหลายๆครั้งที่ผ่านมาก็ได้ เพราะมันเคยทำแล้ว ไม่เหมือนแอนนี่ ส่วนแบ๊กซ้ายฟาบิโอก็ยังอยู่ เท่ากับเกมรุกทางปีกซ้ายเราสามารถกดดันเจ้าบ้านได้ดีขึ้นแน่ๆ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:29:13

ความคิดเห็นที่ 6 การวางแอนนี่ยืนริมเส้นคนละฟากกับปาร์ค อาจะเป็นการเสี่ยงเดิมพันของป๋าก็ได้ในอีกมุมมองหนึ่ง นั่นคือการพยายามยึดครองเกมตรงกลางสนามเอาไว้ให้ได้เบ็ดเสร็จด้วยนักเตะตรงกลางสองคนที่มีทักษะดี ครองบอลเหนียวแน่น กับพวกที่ขยัน วิ่งขึ้นลงเป็นม้าอย่างแอนนี่กับปาร์ค แต่ทีมที่เชี่ยวชาญเวทีแชมเปี้ยนชิพมาก่อน เขาก็มีทางเลือกที่จะหนีเกมตรงกลางเหมือนกัน ถ้าเขาครองเกมสู้ไม่ได้ และนั่นน่าจะเป็นงานถนัดของเขาด้วย กับการเล่นไดเรกต์ฟุตบอลแบบนี้ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ฝากบอลขึ้นหน้าอย่างเดียว ถ้าเสียก็ตั้งไลน์รับป้องกันให้ดี แย่งได้ก็ฝากบอลยาวขึ้นหน้า ฟังเหมือนง่ายๆแต่ได้ผลชะงัดทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อคู่เซ็นเตอร์ของเราไม่พร้อมเต็มที่แบบวันนี้ กิ๊กส์นั้นผมยอมรับว่าทำหน้าที่ในเกมนี้ได้ค่อนข้างดี เมื่อมีส่วนร่วมในการตัดเกมบ่อยครั้ง แทบจะมากกว่าคาร์ริคเสียอีกที่ลงไปล้วงบอลมาจากคู่ต่อสู้ แต่การพาบอลขึ้นหน้ากลับหาเพื่อนจ่ายไม่ค่อยได้ เพราะแนวรับเจ้าบ้านลงไปตั้งไลน์กันเร็วเหลือเกิน มีเพียงรูนี่ย์ที่วิ่งม้าขึ้นลงหาบอลอยู่คนเดียว นี่คือข้อเสียของการตัดการจู่โจมจากปีกออกไปครับ เมื่อปีกไม่ฉีกตัวเองออกไป (ปาร์คนั้นอาจจะเป็นเพราะไม่ใช่ปีกแท้ๆก็ได้) การจะวางบอลฉีกแนวหลังก็ทำได้ยาก คุณก็ต้องขึ้นบอลตามไลน์เป็นทอดๆ นั่นก็เท่ากับให้เวลาคู่ต่อสู้ได้ตั้งหลักลงมาจัดระเบียบแผงหลังได้ทันนั่นเอง จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:29:38

ความคิดเห็นที่ 7 การจะปรับแผนในช่วงครึ่งชั่วโมงหลัง จึงดูเหมือนเป็นอะไรที่สายเกินไป เพราะเราไม่ได้เล่นด้วยสิ่งที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่แรก การเอาแอนนี่ออกจึงเหมือนการลงโทษเขาแบบผิดๆไปในตัว ที่เอาเขามายืนในจุดที่ไม่สามารถรีดศักยภาพตัวเองได้มากนัก และสุดท้ายก็เล่นได้ไม่สมกับที่คาดหวัง เมื่อวาเลนเซียลงมา เขาก็สามารถปั่นป่วนเกมรับเจ้าบ้านได้มากขึ้นทันที การฉีกตัวเองหาตำแหน่งรับบอลในสไตล์ปีกแท้ๆของเขา ทำให้การให้บอลทางกว้างดูง่ายขึ้น และสามารถถ่างแนวรับ ดึงโซนให้ขยายอกมาได้มากขึ้น อันทำให้เรามีโอกาสที่จะสอดแทรกเข้าไปเล่นในกรอบได้มากขึ้นในช่วงท้ายเกม แต่วาเลนเซียก็ยังต้องเล่นคนเดียว เมื่อยังไม่สามารถจูนโอเช จูนแกรี่ที่ลงมาใหม่ได้ดีนัก ทำให้ต้องเล่นด้วยตัวคนเดียวเหมือนเดิม การที่แกรี่ถูกเปลี่ยนลงมาก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า บราวน์นั้นยังมีปัญหา ยังไม่เต็มที่เท่าที่ควร และตลอดเกมบราวน์ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ทั้งกะจังหวะไม่เด็ดขาด อ่านทางบอลยังไม่ขาด รวมทั้งการตัดสินใจที่ยังไม่ดีนัก อันแสดงให้เห็นถึงการลงเล่นแบบมีกังวล จนทำให้ไม่สามารถเล่นด้วยความมั่นใจได้เหมือนเคย เมื่อแกรี่ลงมา ก็ต้องปรับเกมแผงหลังอีกกระทอก หุบโอเชเข้าไปเซ็นเตอร์ เอาแกรี่มาเล่นแบ๊คขวา งานเข้าวาเลนเซียอีกแล้ว กะโอเชยังจูนไม่ค่อยติด เจอแกรี่เข้าไปอีก ตายกันพอดี ส่วนแดนหน้า การถอดโอเว่นคงไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์อะไรนัก เมื่อเจ้าตัวคงไม่สามารถยืนระยะเล่นได้นานๆอยู่แล้ว กับการเปลี่ยนเบิร์บลงมา ก็เท่ากับว่าเราปรับโหมดการโจมตีมาเป็นการเล่นดึงจังหวะ ดึงกองหลัง มากกว่าที่จะเล่นโจมตีด้วยความเร็วตรงๆเหมือนทีแรก ซึ่งการเล่นดึงจังหวะแบบนี้ อาจจะไม่เหมาะนักกับเกมที่ตามหลังอยู่แบบนี้ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น ยังดีที่มีวาเลนเซียมาช่วยดึงกองหลังไปทางกว้างได้ จึงเกิดช่องขึ้นพอสมควรแถวๆหน้ากรอบโทษให้ได้เล่นกันจนเกือบทำประตูได้ อ้อ...นี่ผมไม่ได้พูดถึงลูกโทษของคาร์ริคใช่ไหมครับ ก็ไม่ได้อยากจะตำหนิอะไรมาก มันก็แค่อีกความโชคร้ายที่ดันมาเกิดพร้อมๆกันในวันเดียวกันก็เท่านั้น ดีเสียอีกครับ ใช้เคราะห์ร้ายให้หมดในเกมเดียวไปเลย เกมหน้าจะได้ตั้งต้นกันใหม่ ไม่ต้องมีเคราะห์ร้ายอะไรมารบกวนอีก จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:30:00

ความคิดเห็นที่ 8 คาร์ริคนั้น ตั้งแต่ถูกม่านควันเมดอินสแปนิชอำพรางไปจากเกมที่กรุงโรมเมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา ผมสังเกตเห็นว่าเขาดร็อปไปเยอะเลย ตั้งแต่ปรีซีซั่น ลากยาวมาจนถึงคอมมูนิตี้ชิลด์ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเสียความมั่นใจไปหรือเปล่านะ แต่ดูเหมือนเขาจะเนือยๆลงไป สีหน้าแววตาก็ดูลดความมั่นใจไปเยอะ ยิ่งตอนยิงจุดโทษก็ทำหน้าปูเลี่ยนๆยังไงไม่ทราบ หวังว่าเฮียจะรีเทิร์นกลับมาได้เร็วๆนะครับ เพราะดูแล้วนัดนี้ คนที่หมดจริงๆก็น่าจะมีแค่รูนี่ย์คนเดียวแหละ คนอื่นน่าจะยังไขก๊อกตัวเองไม่หมดหรอก เล่นกันซะทำเอาผมส่ายหัวทุกห้านาทีแบบนี้ เฮ้อ... หวังว่าจบจากนัดนี้ ป๋าจะจัดการไดร์ผมให้ทุกๆคนอย่างเท่าเทียมกัน และอาจจะมีการทำโทษภายในกันบ้างเล็กๆน้อยๆ เพื่อให้ตั้งสติกันได้เสียที ผมเชื่อว่า การพ่ายแพ้นัดนี้ คนที่เซ็งที่สุดก็คงไม่พ้นนักเตะเอง ที่หลายคนมีดีกรีแชมป์ยุโรปพ่วงท้าย หลายคนมีดีกรีแชมป์เก่าพ่วงท้าย แต่กลับเล่นไม่สมราคาจนพ่ายแพ้แบบน่าขายหน้าแบบนี้ เราคนเชียร์ก็คงทำได้แค่ภาวนาให้ป๋ารีบๆจัดการลบฝันร้ายนี้ออกไปให้ได้เร็วที่สุด และตั้งหลัก รวบรวมแรงใจ รวบรวมสมาธิ ความมุ่งมั่น ความกระหาย ให้กลับมาได้แบบเต็มภาคภูมิ สมศักดิ์ศรีแชมป์เก่ากันในเกมหน้า ที่ต้องไปเยือนวีแกนในวันเสาร์นี้เลยนะครับ ไม่งั้นงานเข้าแน่ เพราะนัดถัดไปคือต้อนรับปืนใหญ่ครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:30:20

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วมาลุ้นกันนะครับ สงบใจ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:30:35

ความคิดเห็นที่ 10 เข้ามาอ่านบทความดีดีของป๋าหงบเช่นเคยครับ ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้นะครับ จากคุณ : blueart11 เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:42:40

ความคิดเห็นที่ 11 เศร้า แต่เพิ่งต้นฤดูกาล หวังว่าเครื่องจะเข้าที่เข้าทางโดยเร็วนะครับ จากคุณ : มาม่า Fanclub เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:43:19

ความคิดเห็นที่ 12 ตามนั้นครับจัดไดรฟ์เป่าผมกันไปซะหน่อย  เล่นกันงึกๆงักๆ จากคุณ : tOYBox เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:44:46

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณน้าหงบงามๆก่อน เดี๋ยวค่อยอ่าน อ่านจบมันจะตื้อๆ ทำไรไม่ได้ไปชั่วขณะ จากคุณ : I-am-Mandy เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:46:24

ความคิดเห็นที่ 14 เห็น แอนเดอร์สัน ลง พร้อม พี่ปาร์ค ก็ รู้ชะตา ละ ไม่จัด วาเลนเซีย ลง แต่ แรก เอา สโคลล์ ลง มาคู่ คาริค ยัง ดีกว่า จากคุณ : peechee เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:46:25

ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อคืนไม่ได้ดูอ่ะค่ะลุงหงบใจ ปูตื่นมาแล้ว แต่ทรูวิชั่นส์ มันมัวแต่ค้นหาสัญญาณ หาไม่เจอสักกะทีเลย นอนดีกว่า -_-" จากคุณ : poojo_ke เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:47:06

ความคิดเห็นที่ 16 หวัดดีครับ ไม่มีกะจิตกะใจจริงๆล่ะครับ แต่วันเสาร์นี้ ก็ต้องเชียร์กันต่อไปครับผม จากคุณ : kengmu เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:47:33

ความคิดเห็นที่ 17 แพ้นัดเดียวเองอย่าคิดมากครับ จากคุณ : tonky96 เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:51:30

ความคิดเห็นที่ 18 สวัสดีครับคุณสงบใจ หุๆ เห็นการจัดตัวตอนแรก นี่คงอึ้งกันทั้งหมดเลยสินะ กับแอนนี่ในบทบาทปีกซ้าย แล้วก็อย่างที่คิดว่าหายไปเกือบจะทั้งเกม เห็นรูปแบบเกมเมื่อคืนหลังจากพ้น 10 นาทีแรกไป (ซึ่งเรามักน่ากลัวในช่วงเวลานี้ในระยะหลังๆ) รูปแบบเกมที่เบิร์นลี่ตั้งตัวได้ ก็เปิดเกมลากเราลงไปในเกมของพวกเค้าทันที ด้วยการเปิดบอมและชวนทะเลาะเล่นลูกโด่ง ยิ่งวันนี้เราขาดตัวลากความเร็วสูงอย่างนานี่ ไปรูปแบบเกมที่ขึ้นบอลด้วยการจ่ายไปมาตามพื้นที่ว่างเลยทำอะไรเค้าไม่ได้ ในเกมที่เค้าตั้งโซนกันลึก กำแพงกันสองสามชั้น ทุกตารางเมตรมีแต่เบิร์นลี่แบบนั้น สปีดบอลการจ่ายระดับนั้น ยิ่งเล่นยิ่งตื้อไปโดยปริยาย ถ้าไม่ติดว่าเห็นโทชิซ, มาเคด้า และเวลเบคไปเล่นเกมตัวสำรองก่อนหน้านี้ผมจะแปลกใจว่า ในเกมแบบนี้ ส่งโทชิซลงมายังจะดีกว่าเอาแอนนี่ไปฝืนเล่นตรงนั้นหรือไม่ หรือไม่ยั่งงั้น เอากิกส์วันยระดับนี้ ก็ยังจะดูดีมากกว่าแอนนี่ด้วยซ้ำไปในตำแหน่งธรรมชาติของเค้า (นอกจากว่าป๋าอยากจะลองอะไรสักอย่าง) เกมแบบนี้ ไม่อยากเห็นบ่อยฮะ เกมที่เราขาดทั้งสมาธิ และความมุ่งมั่น ป๋าก้อออกมากระตุ้นลูกทีมน้อยกว่าทุกที จนชวนให้คิดว่า เอ นี่มันนัดซ้อมหรือเปล่า (T__T) ลูกโทษของคารริคไม่อยากจะโทษ ไม่มีใครอยากยิงพลาดละ ต้องชมโกลเค้าจริงๆ ว่าดักทางได้ถูกมาก สุดท้ายต้องยกความดีความชอบให้นักเตะและผจก. เบิร์นลี่ทุกประการ เราเล่นไม่ได้ดีด้วยส่วนนึง แต่เค้าทำหน้าที่ได้เยี่ยมกันมากๆ ปล. หวังว่าโอเว่นจะกลับมาเรียกความมั่นใจได้โดยไว เล่นแบบนี้ ยิ่งเล่นยิ่งหดละ แต่เชื่อว่าป๋าปลุกใจแกไหว ปล.2 บราวน์กับคารริค นี่ ไม่ฟิตอย่างแรง เอาลงมาซึมกระทือเล่นซังกะตายเป็นบ่อทั้งแดนกลางและแดนหลังจริงๆ ฮือๆ จากคุณ : Noah_1_of_4lnw เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:52:04

ความคิดเห็นที่ 19 ป๋าผิดที่ไม่ยอมสอยตังบิ๊กเนมมาแทนโด้กะเตเบส เกมส์เราดูตื้อไปจริงๆ เป็นมาหลายนัดละ ฟานเดอร์พารท์,ชไนเดอร์,รอบเบน 3 คน 50 ล้าน ทำไมไม่จัดมาครับ เบื่อจริงๆ ไม่หนุกเลย แพ้ไม่เป็นไร แต่แพ้แบบไม่มีใจกันแบบนี้ ก็ ตัวใครตัวมันละครับ จากคุณ : dabodabo55 เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:52:54

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นเพราะโรนัลโด้ครับ ทำให้แพ้ ...^_^! จากคุณ : tonrvs เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:52:58

ความคิดเห็นที่ 21 สวัสดีครับคุณสงบใจ นี่คือเกมส์แรกของผมที่ตามดูแมนฯยูอย่างเป็นทางการในปี 2009/10 ************************************** ส่วนตัวผมเฉยๆกับการแพ้นัดนี้นะ  อาจเป็นไปได้ว่า ผมเตรียมใจไว้แล้วว่า 3 นัดแรกแมนฯยู ได้ 4 แต้ม นี่คือเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นตลอด 3 ปีหลัง มันทำให้ผมเริ่มชิน  อีกอย่างถ้าดูฟอร์มโดยรวมแล้วสำหรับเกมส์นี้ แพ้ไปก็ไม่เสียดายเพราะมันเล่นให้น่าแพ้จริงๆนั่นแหละ   การปรับเกมส์ปรับหมากจากการไม่มีนักเตะตัวสำคัญๆเหมือนปีที่แล้วการจะหวังให้เล่นเหมือนเดิมคงลำบาก ตอนนี้คือปรับเกมส์จูนเกมส์และสร้างความเข้าใจให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  สร้างระบบ สร้างบทเรียนบทใหม่ขึ้นมา มันก็ยากอย่างนี้แหละครับ  ปัญหาที่เห็นชัดๆคือ กองกลางยังสับสนว่า ใครจะรุกหรือใครจะรับ  รึใครจะเป็นโบทที่ได้ทั้งรุกและรับ  เมื่อคืนยังสับสนอยู่ไม่นิดหน่อยนะครับ   แพ้นัดนี้ไม่เป็นไรครับ ทำให้รู้ว่ายังต้องมีจุดที่แก้ไขอยู่อีก อย่างที่ป๋าให้สัมภาษณ์ว่า  "ป๋าอยากให้ทุกคนรักกัน เอ้ย!!!ไม่ใช่ ป๋าไม่กังวลนะการแพ้นัดนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้ ต้องชมเบิร์นสลีย์ด้วยว่ามีความมุ่งมั่น หลังจากหายไปจากลีกสูงสุดหลายปี  แต่ป๋าว่าพวกเสื้อแดง เอ้ย!!!  พวกเสื่อขาวอมเลือดหมูอย่างเบิร์นสลีย์ล่นกันใช้ได้  แต่เราก็สมควรชนะถ้าลูกจุดโทษนั้นเข้า" "คาร์ริคพลาดจุดโทษนะหรือ???  หึ  มันเป็นปกติ คาร์ริคก่อนหน้านี้ก็อยู่ในลิตส์รายชื่อที่ยิงจุดโทษได้ดีมากคนหนึ่งของทีม  แต่วันนี้เขาพลาดก็แค่นั้นไม่ใช่ประเด็นที่จะต้องติดใจอะไรมากมาย  มันยังมีเรื่องให้ติดใจกว่านี้คือพวกมรึงจะยื่นถวายฎีกาหาพระแสงของ้าวปืนสับนกยาว 9 คืบอะไรนั่นทำไม?ป๋าไม่เข้าใจ"... www.goal.com/en เรื่องไดร์ทเป่าผม   ผมแนะนำนะป๋า  ไดร์ลูกทีม แล้วก็อย่างลืมไดร์ตัวเองด้วยนะครับ โทษฐาน ไม่ออกมากระตุ้มลูกทีมเล้ยยยยยยยยยยยยยย   สงสัยเก้าท์กำเริบ  อิอิ สรุปแพ้นัดนี้ของบอกว่า  ชิลๆครับ แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 52 10:56:34 จากคุณ : พริบพรรณดาว เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:53:11

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามาอ่านครับ ขอบคุณครับ เห็นด้วยเรื่องกองกลางครับ อาตี๋ฟอร์มตกไปจริงๆ และการที่ไม่มีปีกธรรมชาติลงมา ทำให้เกมด้านข้างไม่มีพิษสงเลย  กว่าวาเลนเซียจะลงมาก็ช้าไปแล้ว ตอนแรกนึกว่าป๋าจะส่งวาเลนเซียต้นครึ่งหลังเลย แต่รอจนถึงนาที 60 แน่ะ ด้านปีกซ้าย ถ้านานี่เจ็บ อยากให้ลองส่งโทซิสลงมาเลยครับ จะได้เก็บประสบการณ์บอลอังกฤษเยอะๆ ป.ล. แอบสงสัยว่าโกล์เบิร์นลี่เป็นนักรักบี้เก่าหรือเปล่า ตัวใหญ่จิ๊บเป๋ง จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:57:15

ความคิดเห็นที่ 23 สวัสดีครับคุณสงบใจ วิเคราะห์ได้ดีเช่นเคยนะครับ ว่าแต่ผมสงสัยเรื่องตัวยิงจุดโทษอ่ะครับ แมนฯยูพลาดมา 2 ครั้งแล้ว ตอนคอมมูนิตี้ชิลด์ก็พอเข้าใจอยู่ว่าอาจจะจัดคิวยิงแบบไม่ซีเรียสเท่าไหร่(ยังสงสัยว่าทำไมรูนี่ย์หรือโอเว่นไม่ใช่คนยิง) แต่กับเกมจริงจังแบบนี้ ทำไมถึงไม่ให้คนที่ชัวร์กว่านี้ยิง พวกกองหน้าหรือกิ๊กส์ก็ได้ ผมว่าน่าจะหวังผลได้มากกว่านะ หรือเพราะคาร์ริคเป็นคนยิงประจำอยู่แล้วรองจากเจ้าโด้?? เพราะไม่ค่อยได้ติดตามแมนฯยูสักเท่าไหร่เลยไม่ทราบเหตุผลอ่ะครับ คงไม่ถือสาที่ถาม จากคุณ : 100% crazee เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:59:55

ความคิดเห็นที่ 24 #23 ถ้าจำไม่ผิดนะครับ ปกติคาร์ริคก็ยิงจุดโทษรองจากโด้อยู่แล้วครับ เมื่อคืนต้องชมโกล์ด้วยว่าเดาทางถูก จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 11:01:29

ความคิดเห็นที่ 25 ที่ร้านเพื่อน พอดีผมไปช่วยขายตอน4โมงเ้ช้า ซอคเกอร์วันนี้้ขายดีสุดๆครับ เอามา20ฉบับ หมดในชั่วโมงเดียว จากคุณ : palermos เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 11:04:41

ความคิดเห็นที่ 26 คาร์ริคก็ประวัติดีนะครับ ยิงจุดโทษน่ะ ผมว่าช่วงนี้เคราะห์เข้ามากกว่า   ใครยิงก็พลาดตลอดเลยอ่ะครับ สงสัยเป็นช่วง ความมั่นใจหดหายทั้งทีมแหงมๆ รบกวนป๋าปลุกขึ้นมาหน่อยจิ๊ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 11:04:48

ความคิดเห็นที่ 27 ผมว่าชุุดนี้มันหม่นๆ ด้วยนะ เล่นกลางวันยังไม่เท่าไร กลางคืนนี่หม่นสุดๆ แถมเล่นมาสองนัด เสื้อตัวนี้ยังไม่ชนะใครเลยนะเนี่ย จากคุณ : Noah_1_of_4lnw เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 11:10:51

ความคิดเห็นที่ 28 หวัดดีค่ะคุณสงบใจ งานเข้าตั้งแต่ต้นซีซั่นเลยค่ะ เมื่อดูตะหงิดๆ ตั้งแต่เห็นชุดที่ใส่แล้วค่ะ เป็นไรไม่รู้ไม่เคยชอบยูไนเต็ดใส่ชุดสีดำๆ ทึมๆ ซักที แล้วก็ไม่รูจักจำใส่สีประมาณนี้ที่ไรแพ้ทุกทีเช่นกัน เริ่มเกมโหมบุกเขาอยู่ดี แต่ทำไรไม่ได้ แถวบ้านเขาเรียกว่า "ดีแต่ป้อ........ไม่เป็น" พอเขาสวนกลับที โดนยิงใส้แตก ตานี้ยิ่งทำไรไม่เป็นใหญ่เลย ขนาดจุดโทษ เห็นพี่เจี๊ยบแกยิงแล้วบอกได้คำเดียวว่าเซ็งค่ะ ครึ่งหลังปิดทีวีนอนเลย กลัวเปลืองไฟ อย่างงี้ต้องบอกว่า "ผีมันแย่ ผีแพ้เบอร์นลี่ย์" จากคุณ : july 19 เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 11:11:51

ความคิดเห็นที่ 29 เข้ามาดู ... T___T จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 11:14:21

ความคิดเห็นที่ 30 แมนยูสะดุดต้นฤดู ผมเฉยๆนะ จากที่เคยดู(แช่ง)มา หลังจากตั้งหลักได้ ก็ฉิวทุกที ผมว่าไม่น่าห่วงเท่าไหร่ การขาดโด้ มีผลแน่ แต่พอทีมลงตัว แล้วปรับระบบได้ ได้ลุ้นแชมป์ทุกที ผมละเซ็ง...555 จากคุณ : Sorn มาคับ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 11:14:39

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณคุณ SamuDi Knight  ที่ช่วยตอบครับ ว่าแต่ผมขอมองต่างมุมเรื่องชุดแข่งแมนฯยูนะ ตัว V ที่คาดหน้าอก ตอนอยู่บนชุดแข่งสีแดงผมยังแอบบขำเลยว่าดูเสี่ยวมากเลยอ่ะ (ขออภัยที่พูดตรง แห่ะๆๆ) พอๆกะชุดเยือนสีเขียวของหงส์ผมสมัยก่อนเลย - -' แต่พอมาเห็นตอนคาดบนเสื้อสีดำ เออแฮะ ก็สวยดีนี่หว่า เท่ห์แบบแปลกๆดี ถ้าได้ฟรีก็เอาเหมือนกันนะนั่น จากคุณ : 100% crazee เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 11:22:15

ความคิดเห็นที่ 32 ผมว่าต้องให้เครดิตเบิร์นลี่ย์น่ะครับ เขาทำการบ้านมาดี แมนยูออกตัวแบบนี้ประจำ ชินซะแล้ว แต่คราวนี้ที่พลาด ดันไปพลาดเกมตบเด็กอย่างที่ว่าเลย เพราะต้องยอมรับว่าที่แมนยูเป็นแชมป์ได้ก็เพราะสถิติการตบเด็กที่ค่อนข้างแน่นอนกว่าทีมคู่แข่งนี่แหล่ะ คงต้องรอป๋าปรับแผน บวกกับแผงกองหลังและผู้รักษาประตูตัวจริงกลับมาเล่นก่อนถึงจะืฟื้น จากคุณ : RadiS เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 11:25:21

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณครับ คุณสงบใจและเพื่อนๆสำหรับการวิพากษ์ เมื่อวานไม่ถ่ายช่องทรู 1  เลยดูไม่ได้ (อดดู) หวังว่าเป็นเพียงก้าวแรก  ป๋าน่าเห็นความผิดพลาด จากที่อ่านการวิพากษ์ ผมว่าถ้าเอาปาร์คไปเล่นฝั่งซ้าย แล้วฝั่งขวาเป็นวาเลนเซีย ก็ดีนะครับ โดยส่วนตัว ไม่ค่อยชอบวิธีการเล่นของแอนเดอสันเท่าไหร่ เห็นแล้วรู้สึกคล้ายแฟนหงส์ที่มีต่อลูคัส จากคุณ : kuntucky เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 11:34:25

ความคิดเห็นที่ 34 สวัสดีครับ  คุณสงบใจ  รอกระทู้อยู่ตั้งแต่เช้า คันไม้คันมืออยากเข้ามา Comment ด้วยมาก  ....  เนื่องจากเมื่อคืนขัดใจสุดๆ เกมเมื่อวาน หลักจุดที่แย่คือ เกมรับที่ปล่อยให้กองหน้าของ เบิร์นลี่ส์ พักบอลเก็บบอลกันง่ายมาก แถมกองกลางเราปล่อยให้กลางของ เบิร์นลีส์  ชิ่งบอลออกจากมุมอับง่ายเหลือเกิน ประมาณว่าไล่ไม่จน ทำให้กดดันได้ไม่ต่อเนื่อง   .... ส่วนเกมรุก  ส่ง  วาเลนเซียลงมาช้าเกินไปหรือเปล่า เห็นได้อย่างชัดเจนในครึ่งแรกว่าเกมริมเส้นหายไปเลย ทั้งแอนเดอร์สันและพาร์ค โยนบอลไม่แม่นเลย  ขาดๆเกินตลอด มี เอฟร่านี่แหละ ที่พอทำอะไรได้บ้างในช่วงแรกๆหลัง พยายามจนดูฝืนเกินไปหน่อย ส่วนเทพจับฉ่าย ต้องบอกว่าเมื่อวานการเติมเกมของท่านเทพไม่เป็นประโยชน์ต่อทีมเท่าไหร่เลยครับ ส่วนคู่กลางเห็นด้วยกับคุณสงบใจสำหรับ คาร์ริค  ไม่รู้แกเป็นอะไร  ไม่ขยัน  คุมเกม คุมจังหวะไม่ได้เลย บางจังหวะหายไปซะงั้น  ถ้าให้ผมเดาผมว่าเป็นผลมาจากที่ต้องเล่นคู่กับ กิกส์ หลายจังหวะสังเกตุเห็นว่ากิกส์ ทับตำแหน่งกับ คาร์ริค บ่อยๆ  และที่สำคัญการเล่น ของ คาร์ริค จะเป็นแบบ พลิกแล้วจ่ายให้เพื่อน แต่กิกส์ จะไม่ค่อยเคลื่อนที่อย่างนั้นเท่าไหร่ รวมถึง กิกส์ ได้บอลจะชอบครองบอลกับตัวจังหวะนึง  ไม่เหมือน  เฟลทเชอร์ หรือ  สโคลล์ ที่ พลิกจ่าย หาที่ว่างกับ คาร์ริค ค่อยๆต่อบอล ถ่ายบอลกันออกไป ผมไม่ได้โทษ กิกส์นะครับ เพราะหลายจังหวะแกก็เล่นได้ดี แต่ผมมองว่าต้องยอมรับว่า กิกส์ ไม่เหมาะกับเกมที่ต้องการการต่อบอลการออกบอลเร็ว หลายจังหวะที่สวนกลับช้าไปเยอะเลยทีเดียว ตอนเปลี่ยนตัวผมยังคิดอยู่เลยว่าน่าจะให้ กิกส์ออกแล้วเอา แอนเดอร์สัน หุบเข้ามาแทน เพราะหลายๆจังหวะที่ แอนเดอร์สัน หุบเข้ามาช่วงต้นครึ่งหลัง มีจังหวะจ่ายบอลคมๆหลายครั้งเลยทีเดียว สำหรับเกมนี้คงเป็นการบ้านให้ ท่านเซอร์ กลับบ้านไปนอนคิดว่าจะแก้ปัญหาตรงนี้ยังไง อย่างน้อยก็เจอตอนต้นฤดูกาล  ดีกว่าไปแกว่งตอนช่วงท้ายฤดูกาลเหมือนฤดูกาลที่แล้ว  คงเสียวน่าดู รอดูกันอีกทีเสาร์นี้ นัดเจอ วีแกน ว่าจะเป็นยังไง จากคุณ : SRV เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 12:03:16

ความคิดเห็นที่ 35 แฟนปืนครับ แต่ก็แฟน สงบใจวิพากษ์ด้วย เข้ามาอ่านประจำ เห็นด้วยกับหลายคนที่ว่า แมน ยูมักออกตัวช้า สุดท้ายก็คว้าแชมป์ แต่เห็นด้วยกับอีกหลายคน ที่บอกว่า นี่มันเป็นเกมตบเด็ก ของถนัดหรือจุดแข็งของแมนฯ ยู ส่วนตัว คิดว่า ปีนี้ คุณสงบใจ กับผองเพื่อน มีเสียวแล้วครับ อาจจะต้องเผื่อใจบ้าง เพราะจากการสังเกตเป็นส่วนตัว เห็นว่า ทีมไหนที่ ไปเสียท่าถึงขั้นพ่ายแพ้ กับพวกตัวเต็งตกชั้น (ไม่ใช่พวกหนีตายตอนท้ายฤดุ) เช่นทีมแบบ ฮัลล์ ในฤดูก่อน หรือ พวกเบิร์นสลี่ย์ และวูฟฯ ในปีนี้ ส่วนใหญ่ มักจะไปไม่ถึงแชมป์ แต่อย่าว่าแหละครับ ท่านเซอร์ไม่ธรรมดา อาถรรพ์ หรือสถิติอะไร ก็มักจะไปจัดการมันอยู่เรื่อย เป็นนัก (สร้าง) ประวัติศาสตร์ ตังยง ส่วนทีมของผม ก็เช่นเดิม ลุ้นว่าจะยืนระยะไหวไหม แต่ที่รัศมีเด่นมาแต่ไกล คือ เชลซี เลยน่ากลัวมาก ๆ จากคุณ : The Old Gun เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 12:26:11

ความคิดเห็นที่ 36 เทพจับฉ่าย คุณปริ๊น พ่อน้ำตาล  ชวนพ่อ เตาอบ โอเว่น เข้าแก๊งค์ จตุรเทพแหง๋มๆ   เมื่อคืน เทพชัดๆ ส่งบอลคืนหลัง ยังขาดเลย จากคุณ : หลี่ เสียนหลอ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 12:30:28

ความคิดเห็นที่ 37 เมื่อคืนไม่ได้ดู เลยมาอ่านความคิดเห็นดีๆ แบบหงอยๆ ขอบคุณทุกท่านที่มาเขียนให้ได้อ่านกันนะครับ จากคุณ : นายสำรวม เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 12:39:03

ความคิดเห็นที่ 38 เอาน่า ตอนนี้ฟอร์มพอๆกัน จากคุณ : kittipat เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 13:00:10

ความคิดเห็นที่ 39 ตั้งแต่เกมส์คอมมูนี่ ชิลด์แล้วครับ  ผมเห็นปัญหาจริงๆของแมนยู อยู่ที่แดนกลางครับ  เพราะกองหลัง กะ หน้าถ้าตัวจริงอยู่ครบ จะถือว่า เกรด A ได้ไม่ยาก แต่ กองกลางของเราตอนนี้ เกรด B กะ C เดินกันให้พรึ่บบ ใครสมควรจะลงตัวจริง?????  ตอนนี้ ผมอยากให้"คาร์ริค" เป็นตัวยืนเพื่อดึงความมั่นใจ กลับมา ตามด้วย"แอนเดอร์สัน"  เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ทั้งยังช่วยเกมส์รับได้ดี ส่วนปีก ต้องยอมรับว่า ที่มีอยู่ ใช้ได้จริงๆ เหลือแค่ "วาเลนเซ๊ย" เท่านั้นครับ ส่วนพวกยังต้องรอการพิสูจน์ ลองให้ "โทซิส" และ "เวลเบค" ลงมาเล่นด้านข้าง  น่าจะเวิร์ค ส่วนตรงกลางถ้าป๋า ใจกล้า วัดกับ "กิ๊บสัน" สักดอกไปเลย   "นานี่" ใครๆก็ว่าเค้าพัฒนาแล้ว แต่ผมดูแล้วเค้าไม่มีไอเดียครับ พยายามที่จะชนะคู่ต่อสู้หนึ่งหนึ่งตลอด ไม่รู้จังหวะในการเล่น ลูกโต้กลับทีไร ไม่เคยได้ประโยชน์เลยครับ เมื่อถ่ายบอลให้หมอนี่ ตอนนี้มีทีเด็ดที่ลูกยิงไกลอย่างเีดียว "ปาร์ค" เหมือนจะหมดจุดพีคไปเหมือนกัน ขยันดี แต่ ไม่วูบวาบเหมือนเดิม ทั้งยัง โดนเบียดคว่ำกระจาย หลายนัด   "กิ๊กส์ กับ สโคลส์" จะมีประโยชน์ช่วงครึ่งหลังมากมาย ยามเปลี่ยนมาปิดเกมส์ แต่ถ้าจะมาเปลี่ยนเกมส์ก็ต้องดูสไตล์คู่ต่อสู้ด้วย แต่ทั้งสองคนเอาตัวรอดได้ีดี "เฟรชเชอร์"  เค้าไม่สามารถยืนระยะได้ครับ ผมสังเกตมาหลายนัดแล้วครับ บทจะเล่นดี เป็นเทวดา บทจะห่วยก็ห่วยแบบไม่ให้ได้ลุ้น  จ่ายเสีย หายจากเกมส์ เมื่อก่อนตอนกิ๊กซ์ กะ เบ็คแฮมพีคๆๆ  แบ๊คแต่ละทีมเอา แมนยู แทบไม่อยู่ แต่เดี๋ยวนี้ทีมระดับ เบอร์มิ่งแฮม เบิร์นลี่   ตัวต่อตัว ยังเลี้ยงไม่ผ่านเลยครับ   ติเพื่อก่อครับ  แต่ผมเชื่อว่า  4-4-2 Retro มันยังมีอะไรซ่อนอยู่ข้างใน เชื่อดิ!!!! จากคุณ : ~killdeathnote~ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 13:25:47

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณน้าหงบครับ ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น แพ้ครับนัดนี้ ยิ้มให้กับความพ่ายแพ้ แต่ยังไงก็จะเชียร์ต่อไป Believe จากคุณ : ปลาทะเล เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 13:37:17

ความคิดเห็นที่ 41 ฟอร์มแย่ที่สุดในรอบหลายปีจริงๆ ครับ ดูรูปเกมส์เบรินลี่เล่นช่วงต้นครึ่งแรกนี่บอกได้เลยโดนไม่ต่ำกว่า 2 ลูกแน่ ตื่นสนาม+โฉ่งฉ่างเป็นที่สุด แต่พอเริ่มตั้งตัวได้ตั้งแต่นาทีที่ 20 ขึ้นไปแล้วกลับเป็นแมนยูเองที่เล่น อะไรแปลกๆไปเรื่อย การยืนมิดฟิลด์ผมสาบานได้ผมดูไม่ออกตลอด 30 นาทีจากตั้งแต่เริ่มเกมส์ว่าใครยืนตรงไหน แอนเดอสันยืนปีกซ้ายแต่ไม่ถ่างวิ่งประคองในแนวมิดฟิลด์ตัวกลาง ปาร์ควิ่งในแนวกองหน้า กิ้กฟรี คาร์ริคตัวเชื่อมแต่ออกบอลให้กันไม่ได้เลยทั้ง 4 คน บอลจากแนวหลังมาหน้าทำไม่ได้เลยเพราะมิดฟิลด์ยืนตำแหน่งมั่วซั่ว ต้องมาทนเห็น ตาน้ำตาลวางบอลแบบไร้จุดหมายขอไปทีแทบจะตลอดเกมส์ ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดของเขานะเพราะระบบมันแปลกๆแต่แรกและก็ยืนกันมั่วๆใครที่เคยเล่นกองหลังจะรู้ว่าตำแหน่งนี้ ถ้าไม่ออกบอลให้ปลอดภัยซวยทั้งทีม เราจึงเห็นความผิดพลาดตั้งแต่เริ่มเซตบอลขึ้นทำเกมส์เลยทีเดียว ผมไม่รู้นะว่าท่านวางการยืนมิดฟิลด์ยังไงก่อนแข่ง ไม่รู้ด้วยว่าซ้อมกันเหรอป่าว แต่เท่าที่เห็น ท่านเซอร์ หัวดื้อ และเด็กๆของเขาผลิตฟอร์มออกมาได้ห่วยที่สุดในรอบหลายๆปีเลยทีเดียว บอกตามตรงเกมส์นี้ผมแช่งให้แพ้ 2-0 ด้วยซ้ำ และอีกอย่างสุดท้ายล่ะ ท่านเซอร์ไม่อยากได้ Powerful Striker บ้างเหรอครับเซงเต็มทนกับ พวกที่จะเลี้ยงจนเข้าโกลด์หลายๆตัวในทีมจริงๆ แต่ก็นะเห็นท่านเซอร์ ก็เซ็นโอเว่นมา คงอยากได้เหมือนเราที่บอลมาปุ้บก็ โป้งทันทีไม่ต้องลีลามาก กองหน้านะวุ้ยไม่ใช่นักบัลเล่ด์จะสวยงามไปไหน ปล. หลายๆท่านคงเดาได้ ผมหมายถึงกองหน้าค่าตัว 32 ล้านปอนด์ครับ จากคุณ : ค้างคาวเฒ่า เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 13:44:16

ความคิดเห็นที่ 42 เมื่อคืนไม่ได้ดูเหมือนกัน .. พอเริ่มเตะ 1.45 ผมก็เข้านอนพอดี.. นึกว่า ตื่นเช้า จะเจอข่าวดี .. กลับ อ้าว!?? .. ไปซะแล้ววว...!! ผมก็เหมือนกับคุณ พริบพรรณดาวล่ะครับ .. ไม่ได้หวังอะไร ในช่วง 4- 5 นัดแรกของแมนยูฯ อยู่แล้ว .. ชินกับอาการ "เครื่องสะดุด ตะกุกตะกัก" มาตลอดอยู่แล้ว.. ข้อสังเกต วิเคราะห์หลังเกม .. คุณสงบใจ พูดได้ครบถ้วนไปแล้ว.. อยากจะเสริมหน่อยว่า .. 1. การขาด โรนัลโด้ นั้น ทำให้ เกมขาด "จังหวะความเร็ว" (Pace) และ "ความกว้างในการเปิดเกมจากริมเส้น " (Width) .. ซึ่งการมี วาเลนเซีย ทดแทน ก็ถูกแล้ว .. แต่กลับไม่ให้ลงตัวจริง ??  .. ก็ดูจะ ประมาท The Clarets (เหล้าองุ่นสีม่วงแดง) มากไปหน่อยมั้ง?? 2. การยิงลูกโทษ ซึ่งในอดีต แมนยูฯ ก็ไม่ค่อยจะได้เรื่องอยู่แล้ว ยกเว้น ยุค เดนนิส เออร์วิน กับ เบ็คแฮม.. และดีขึ้นอย่างน่าแปลกใจ ใน 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา (โดยเฉพาะการเตะจุดโทษ ชนะ เชลซี ในรอบชิง UCL) ..แต่ก็กลับมา "หลอน" แฟน ๆ ปีศาจแดง อีกแล้ว ในปีนี้ !!?? เรื่อง การฝึกยิงจุดโทษ กับ ลูกนิ่ง เช่น ลูกเตะมุม ฟรีคิก.. เป็นเรื่อง สำคัญอย่างยิ่งยวด (Critical issue) ที่สต๊าฟโค้ช ต้องรีบแก้ไขด่วนที่สุด .. พลาดจุดโทษ มา 3 เกมติด ๆ แล้ว ตั้งแต่อุ่นเครื่องกับ บาร์เยิน .. ชาริตี้ ชิลด์กับ เชลซี และเมื่อคืน 3. ดูจากสถิติการสร้างโอกาส ในการยิงประตู น้อยกว่า เกมแรก... และการปิดสกอร์ ยังแย่ลง เช่นกัน .. ซึ่งเป็นทั้งความผิดพลาดของ ทีม และ ความผิดพลาดเฉพาะตัว ด้วยทั้งสองอย่าง !! .. เรื่องนี้ ต้องอาศัย การฝึกซ้อม ให้เข้าขากัน และ ฟิตมากกว่านี้ .. โดยเฉพาะ โอเวน.. โอกาสกลับมาติดทีมชาติ เหลือน้อยเต็มทน ..เพราะ เดโฟ กำลังมาแรง !! ถ้าไมเคิล โอเวน ยังอยากจะ "หวังเล็ก ๆ ริบ ๆ หรี่ ๆ" .. ต้องฟิต คม ไว ตัดสินใจให้ดีกว่านี้... พูดถึงกองหน้า .. คาดว่า จะได้เห็น กิ๊กโก้ (แม็คเคด้า) ในเร็ว ๆ นี้ แน่.. ถ้าทั้งเบิร์บ และ โอเว่น ยังคลำเป้าไม่เจอ.. 4. ข้อดีที่สุดในการเห็นทีม "เป๋ ๆ" ในช่วงนี้.. ก็คือ ทำให้ ป๋าเฟอร์กี้ อาจจะต้องตัดสินใจซื้อนักเตะเพิ่ม..ดูอย่าง ลิเวอร์พูล สิครับ .. พอแพ้นัดแรกปุ๊ป ซื้อนักเตะใหม่เพิ่มปั๊บ ทันที!! ซึ่งยังมีเวลาให้ซื้อ นักเตะใหม่ ๆ ทัน ก่อนปิดตลาด ปลายเดือน สิงหาคม ครับ .. ซึ่งถ้าฟอร์มดีตอนนี้ .. อาจทำให้ ชะล่าใจ ไม่ยอมซื้อ ...บอกว่า พอใจกับทีมแล้ว !!?? ผมหวังว่าจะได้.. นักเตะ World Class สักคน ก็แจ่ม!!.. จากคุณ : จิตตารมณ์ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 13:52:35

ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อคืนไม่ได้ดู วันนี้เลยเข้ามาอ่านขอบคุณครับน้า จากคุณ : Nasa Space เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 13:58:37

ความคิดเห็นที่ 44 แย่ที่สุดในรอบหลายปี...คิดเหมือนผมเลยครับ นัดนี้ขอไม่ร่วมวิพากษ์ด้วยนะครับ เพราะถ้าเขียนคงยาวมาก! ...ผมขี้เกียจครับ 555 จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 14:06:27

ความคิดเห็นที่ 45 แมนยูมักจะแย่ก่อนเพราะไม่อยากรับความกดดันก่อนแต่เมื่อคืนไม่ใช่เลยฮ่วย... ดูไปเห็นจุดบอดเยอะแทบจะไม่เหลือฟรอม์แชมป์เก่า...กับต้องชมเบิร์นลีย์เมื่อคืนผีเข้าสุดๆตั้งแต่กองหน้ากลางหลังรวมประตู..ฝากไว้ก่อนโอลาน... กลับมาเล่นที่บ้านแมนยูรับรองไส้แตกหมอไม่รับเย็บ งานหน้าถ้าไม่ห้าลูกรีบซื้อด่วน...กองหน้าพวงกองหลัง30ล้านอัป... แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 52 14:07:59 จากคุณ : Dr.pareto เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 14:06:53

ความคิดเห็นที่ 46 จนด้วยคำพูดฮะ ขอนั่งถอนหายใจเงียบๆ ดีกว่า 55555 เห็นด้วยกับที่ทุกท่านในกระทู้วิเคราะห์เลยฮะ โดยเฉพาะ บราวน์ที่ดูดร๊อปไปเยอะมากกกกกกกก โดนหลอกหลังหักไปหลายดอก กองเชียร์หน้าจอแก้วงี้สงสารก็สงสาร อยากเบิร์ดกะบาลเสียก็หลายหน เฮ่อ... ปาร์คดูลุกๆ ลนๆ ทำบอลลั่นตลอด ส่วนแอนนี่...โนคอมเมนต์เลยฮะ ได้บอลกี่หนเนี่ย T_T มองเห็นปัญหาเร็วๆ อย่างนี้ก็ดี เผื่อป๋าจะซื้อใครมาเติมจุดที่มีปัญหา ว่าแต่...คุณหงบว่าถ้าจะซื้อ ณ วินาทีนี้ ใครน่าจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุดฮะ หรือว่าจะรอฮากรีฟดี? จากคุณ : หนูติงต๊อง น้องแสนดี เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 14:10:54

ความคิดเห็นที่ 47 สำหรับผม ปัญหามันหนักหน่วงกว่าที่เคยคิดไว้หลายต่อแล้วครับ จากที่เคยคิดว่าต้องการแค่มิดฟิลด์คุณภาพคนเดียวมาเติมเต็มเกมตรงกลาง เพื่อพลิกเกมด้วยการจ่ายครั้งเดียว หรือกำหนดทิศทางของเกมได้เอง ไม่งั้นก็มิดฟิลด์ตัวตัดเกมแบบชั้นถึงสักคน จากที่เคยคิดว่าคนเดียวก็พอ กลายเป็นว่าปัญหามันกระทบเป็นลูกโซ่ไปหมดแล้วในตอนนี้ คนใหม่อย่าง AV, MO, หรือที่จะดันเต็มตัวอย่างนานี่/แอนนี่/กิ๊บสัน พวกนี้ต้องการความนิ่งในทีม เพื่อปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนๆในเกมจริง แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเจ็บจนต้องโรเตชั่นมั่วไปหมดแล้ว ยิ่งทำให้แม้แต่คนเก่ากำลังดัน ก็ยังไม่สามารถรักษาความสม่ำเสมอได้ คนใหม่ที่เพิ่งซื้อมาก็ยิ่งต้องเสียเวลาปรับตัวกับเพื่อนที่สลับกันลงอีก เพราะฉะนั้นไหนๆก็จะสียเวลาทั้งที ซื้อมาเลยครับป๋า เอามาเสียเวลาปรับตัวพร้อมๆกันทีเดียวไปเลยดีกว่า ไม่งั้นมันหลายขยักนะ เอาซิลบามาเลยก็ได้ หรือไม่ก็พวกสไนเดอร์, เดอ ฟาร์ท, แหม่....จริงๆอ่ะเอาเคล็บมาเลยก็ได้ เมื่อสองวีคที่แล้วอ่ะ แต่ตอนนี้ ถ้าบาร์ซ่าสนใจวิดิชจริงล่ะก็... ผมยอมร้องไห้ตัดใจเลยครับ แต่มีข้อแม้นะ ส่งอีเนียนมาแลกซะดีๆ (อิเนียสต้า) ไม่ก็ ชาบี เอามาสักคน ผมถึงจะยอมตัดใจจากวิดิชฮะ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 14:21:23

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณเจ้าของทู้และเพื่อนๆ ที่วิเคราะห์ให้อ่านกัน สำหรับตัวเอง ปีนี้ไม่ได้คาดหวังเหมือนปีที่แล้ว ก็เลยเฉยๆ หรือว่านี้เพิ่งต้นฤดูกาลก็ไม่รู้ จากคุณ : ผักทอดยอด เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 14:21:56

ความคิดเห็นที่ 49 ลงชื่อแฟนขับน้าหงบไว้ก่อน ไว้หายยุ่งอีรุงตุงนังจะมาอ่าน (เมนท์ของท่านอื่นด้วย) อย่างละเอียดนะคะ                 ปล. ทุกทีทีมแพ้จะจิตตกไปหลายวัน แต่เมื่อคืนมันชิล ชิล ไงไม่รู้ค่ะ มันเหมือนกับว่าจัดตัวอย่างนี้ เล่นอย่างนี้ก็แพ้ซักนัดสองนัดละกัน                     พอเป็นบทเรียน... จากคุณ : นู๋ชม เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 14:22:58

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณฮะ ลุง หงบ ............ จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 14:33:42

ความคิดเห็นที่ 51 เมื่อคืนแมนยูเล่นกันแปลกๆดูไม่ค่อยมุ่งมั่นเท่าไหร่เล่นกันเนือยๆพิกล เห็นด้วยว่าประมาททีมน้องใหม่เกินไปเลยจัดตัวผู้เล่นแบบนั้นลางไม่ดีตั้งแต่เห็นรายชื่อแล้วครับ แล้วป๋าเองเมื่อคืนก็เอาแต่นั่งลุ้นลูกทีมอย่างเดียวเลยไม่เห็นออกมาสั่งการหรือกระตุ้นลูกทีมอะไรทั้งนั้น เดาๆเอาว่าแกเองก็คงจะรับสภาพแล้วยอมรับความผิดพลาดของแกเองในการวางแผนและจัดตัวผู้เล่น แต่แมนยูยังไงก็เป็นแมยูไม่เคยยอมง่ายๆจนกว่าจะครบ38นัดพวกเค้ากลับมาได้แน่ๆครับ ป.ล.โทรศัพท์กับทวิตเตอร์ผมดุเดือดมากเลิกห้าวไปหลายวันเลยกระผม T_T จากคุณ : ArtDayNight เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 15:24:05

ความคิดเห็นที่ 52 เล่นแย่มากเลยครับน้าหงบ เป็นเกมที่แย่ ดูไปส่ายหัวไป .... ดูเล่นกันเหมือนทีมไม่ได้ซ้อมร่วมกันเลย หลังเจ็บไม่พอ .... กองกลางเราคงต้องเริ่มหาชุดตัวจริงได้แล้วครับ คงไม่มีเวลาลองผิดลองถูกอีกแล้ว.... แต้มทุกแต้มมีค่ามากๆ..... ตอนนี้ไม่รู้จะหา mc ดีๆทันไหม..... แต่คาดว่าปีนี้ ลุ้นกันเหงื่อแตกแน่ครับ จากคุณ : เน็ทหลักสี่ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 15:37:01

ความคิดเห็นที่ 53 อุตส่าห์ตื่นมาดูตอนตีสอง ดูได้แค่ 18 นาที ........ เอวัง ขอบคุณทุกความเห็นวิพากษ์ครับ ^^ จากคุณ : SausageBunn เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 15:59:08

ความคิดเห็นที่ 54 ตอนแรกก็งงครับทำไมแอนไปยืนริมเส้น พอผ่านไปซัก20นาทีก็พอรู้ละไม่work นึกว่าป๋าแกจะสลับเอากิ๊กมาเล่นริมเส้น แต่ก็ไม่มีการแก้เกมส์อะไร  ปู่กิ๊กแกตรงกลางแกก้เล่นได้นะ แต่แกต้องช่วยคาริกมากกว่านี้อ่ะ เมื่อวานจังหวะโดนบุกแกไม่ค่อยลงมาช่วยเท่าไร ภาระตัดเกมส์คาริกเหนื่อยครับ  จริงๆถ้าเมื่อวานสลับเอากิ๊กออกไปริมเส้นเพื่อแก้เกมส์ กลางเราอาจดีกว่านี้ กรณีน้องน้ำตาล คงพูดอะไรไม่ได้กองหลังพิการขนาดนี้มีใครก็ต้องส่งลงล่ะครับไม่ว่าจพร้อมไหม - - จากคุณ : faiz เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 17:03:28

ความคิดเห็นที่ 55 เศร้าครับ นึกว่าจะเป็นฤดูกาลที่สตาร์ได้สวยกว่าฤดูกาลอื่น แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 52 17:07:21 จากคุณ : geno_nr เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 17:06:54

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณน้าหงบใจ จากคุณ : anurak_jun เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 17:08:07

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์นะคะ  ^^ อยากอ่านกระทู้นี้ที่สุดเลย เพราะเมื่อคืนไม่มีโอกาสได้ดู จากคุณ : Noey :p เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 17:15:25

ความคิดเห็นที่ 58 ดูแมนยูไนเต็ดเมื่อวานแล้ว การประสานงานนี่เป็นอะไรที่ห่วยมากๆ แทบจะเป็นบ้า ดูแล้วเหนื่อย  แต่ก็ต้องเชียร์กันต่อไป จากคุณ : qerlic เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 17:39:55

ความคิดเห็นที่ 59 มาตามอ่านครับ มีคลาสเช้าพอดี ไม่กล้าเสี่ยงดู และดีแล้วที่ไม่ดู เพราะ ตื่นเช้าพร้อมกับคำสบถแรงๆได้ใจ *-* จากคุณ : Skyline_CII เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 18:01:21

ความคิดเห็นที่ 60 หาคนที่เล่นดีไม่เจอเลยครับ จากคุณ : sLiimFit เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 19:11:40

ความคิดเห็นที่ 61 ประมาทสุดๆครับ เจอทีมน้องใหม่ น่ะลองของได้ แต่ควรเป็นนัดเหย้าครับ มาจัดตัวลองแผนใหม่แบบนี้ โดนซะบ้าง เป็นสันดอนเดิมๆก็เฟอกี้ครับ คือเข้าใจว่านัดที่แล้ว ลองมาแล้วได้ผล จะลองอีกที งีดเลยครับทีนี้ จากคุณ : vdi เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 20:18:40

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์ครับ เมื่อคืนดูแล้ว เราขาดแรงกระตุ้นมากๆเลยครับ ทั้งผู้เล่นทั้งกุนซือ ไม่เห็นท่านเซอร์ออกมาว้าก นักเตะก็เนือยๆลงไปเรื่อย ไม่ค่อยไล่กัน ส่วนตัวคิดว่าเราเล่นกันช้าไปหน่อย โดยเฉพาะการเปลี่ยนแกน เพราะเบิร์นลี่ย์เข้าประกบกันเร็ว ปล. ต้องชมเบิร์นลี่ย์ด้วยที่เล่นดี ทุ่มเท และมีสมาธิดีมากๆ ลป. เอาใจช่วยเสาร์นี้กันครับ จากคุณ : มะระไข่มู๋กรอบ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 21:16:43

ความคิดเห็นที่ 63 แพ้อะเฉยๆ แต่ฟอร์มนี่สิ น่าเซ็งมาก จริงๆ ผมว่านัดนี้กับนัดที่แล้วก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เกมรุกมันตื้อ ตัน การผ่านบอลไม่ดี โดนบี้แล้วไปไม่ค่อยจะเป็นเอาเลย ไอ้โด้ไม่ได้เอาแค่ จำนวนประตุติดตัวไปด้วย ยังมีการกระชากลากเลื้้อย ที่ดึงฝ่ายตรงข้ามให้เข้ามารุมได้ ยังมีลูกตั้งเตะที่มีลุ้นเกือบทุกลูก และสุดท้าย การยิงลูกโทษที่ไม่ค่อยพลาด ส่วนที่ขาดไปเหล่านี้ต้องมีการเติมเต็มโดยเร็ว ไม่งั้นปีนี้อาจจะไม่ได้เหนื่อย อย่างที่คิด จากคุณ : ดาวเหิน เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 00:05:57

ความคิดเห็นที่ 64 ไม่หรอก แค่ มันอุด แล้วยิงไม่ได้แค่นั้นเอง จากคุณ : อ๊อดบ้านโป่ง (Santa_Baby) เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 00:34:24

ความคิดเห็นที่ 65 ดีฮะเฮียและทุกท่าน... - แต่ไหนแต่ไรข้าเจ้าเองก็ห่วงเรื่องขาดกองกลาง "จอมทัพ" เป็นอันดับแรกอยู๋แล้ว... แมนฯ ยูฯ มีคาแรคเตอร์เด่นอยู่ที่ power ไม่มีตก ซึ่งส่วนใหญ่เบื้องหลังมันมาจากการกระตุ้นของกัปตัน ... ดังนั้น จะขาดพวกจอมเทคนิค จะเสียพวกมหัศจรรย์ ข้าเจ้าไม่ค่อยอีนังขังขอบเท่ากับ ... วันที่รอยคีนไม่ได้เล่นให้กับเราแล้ว - หลังๆ มาเนี่ย โดยเฉพาะ 4-5 ปีที่ผ่านมา ดูเหมือนป๋าจะหลงกระแสละตินไปไม่น้อย ทั้งๆ ที่ป๋าเองเคยน่าจะ "เข็ด" กับพวกจอมเทคนิคมาแล้ว สมัยที่ยังมีพวกแคนๆ ก่อนที่จะถึง Fergie's Babe ชุด '94 ... ก็ไม่รู้ว่าป๋าเราจะใช้เป็นหรือเปล่ากับการทำเกมภาคพื้นยุโรป ...ถ้วยรางวัลมันเป็นเรื่องหลอกตาในความคิดข้าเจ้า ข้าเจ้ากลับมองว่า เรื่องถนัดของแกคือการทำทีมแบบมี Passion ดังนั้น ใครในสนามมันจะเล่นแบบไร้อารมณ์ หรือไม่มีสมาธิ มันยังไม่น่าเดือดร้อนเท่าป๋านั่งจุมปุ๊กอยู่ข้างสนามแบบเมื่อคืน ... แน่นอน มีหลายเกมที่ต่อให้ป๋ามากระตุ้นแต่ก็มีแพ้ได้... แต่จะต่างจากเมื่อคืนตรงที่ ถ้าป๋ากระตุ้น ต่อให้แพ้ ก็ยังแพ้แบบน่าลุ้น ไม่ใช่น่าหมดใจ... 2-3 ปีหลังมาเนี่ย การคุมทีมของป๋าเริ่มส่งสัญญาณขาลงแล้วละฮะ.. (แชมป์ UCL ปีนั้นข้าเจ้าว่ามันดวงเต็มทีแล้วละ) - ดังนั้น ที่ข้าเจ้าเป็นห่วงและอยากให้ชัดเจนในระยะยาว กลับไม่ใช่การเสริม Big name ... ไม่ใช่การปรับ ดันเด็ก ... แต่เป็นความชัดเจนในเรื่องตัวตายตัวแทนป๋าต่างหาก ...เพราะตอนแรก ข้าเจ้าเองก็นึกว่าแกวาง Plan เพื่อรองรับคนมาสานต่อ... แต่ไปๆ มาๆ ตอนนี้ภาพมันขุ่นมัวมากขึ้นเรื่อยๆ ทีมก็เหมือนเริ่มลอยไปเฉื่อยๆ เริ่มไม่ชัดเจนว่าจะออกไปแนวไหน จะยังสไตล์ Passion หรือจะละตินยุโรปกันแน่ ... จะทำไว้รอใคร มองใครไว้หรือยัง ..แมนฯ ยูฯ และป๋ามาไกลเกินกว่าการดูเป็นนัดๆ ไปแล้วละฮะ... ข้าเจ้าว่านักเตะพวกอยู่มานานในทีมเริ่มคิดถึงตรงนี้แล้วเหมือนกัน จากท่าทีการคุมทีมที่ดูไม่เหมือนเมื่อสมัยซัก 6-7 ปีก่อน ตอนนี้นักเตะมันสะท้อนบุคลิกคนคุมทีมชัดเจนมาก... รอวันลูกโป่งหมดลมร่วงลงมาเท่านั้น ถ้าไม่มีใครไปเติมแก๊สหรือเปลี่ยนพาหนะบรรจุใหม่ ... บ้านแบบในเรื่อง UP ได้ร่วงลงมาแน่ฮะ          ..........เกมเมื่อคืนมันจึงอาจจะสะท้อนหลายๆ อย่างมากกว่าการผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เพราะดูได้จากปฏิกิริยาแฟนๆ หลายท่านที่รู้สึกไปในทางเดียวกันเกี่ยวกับความ "เนือย" แล้ว "เฉื่อย" ... จะรูปเกม แทคติก หรือโรเทชัน ..ตัวจะเจ็บ หรือน้องใหม่มันจะไฟแรง เมื่อคืนมันกลายเป็นหลายๆ อย่างรวมกัน ...เพราะรักและก็เชียร์มานานยี่สิบกว่าปี ถ้าเป็นเพื่อน มันก็คงเหมือนพี่น้องกันไปแล้ว เห็นทีมแบบว่ามันเหมือนเห็นไปถึงจิตวิญญาณ โชคดีที่เห็นทีมคนคนหนึ่งคุมทีมมาตั้งแต่เริ่ม อย่างน้อยก็รู้สึกได้แน่ๆ ว่าจิตวิญญาณของทีมหน้ามันพัฒนาไปในทางไหน ... ส่วนเรื่องจะ make up รองพื้น สิวขึ้น หรือแต่งแต้มมายังไง ส่วนตัวข้าเจ้าคิดว่าพอจะมองทะลุลงไปได้... ก็เห็นคนๆ นึงกำลังจะสุดทางแล้วละฮะ... บางที วีดิชไป กับป๋าวางมือ อาจจะเป็นอะไรที่ต้องมาลุ้นด้วยกันแล้ว ... อย่าให้ทีมที่ป๋ารัก สร้างมากับมือ ต้องแก่เหี่ยวเฉาตามวัยแกไปด้วยเลยฮะ... มองรึยังว่าจะเอาใครมาสานต่อเจตนารมณ์ป๋า... ....โทษอะไรไม่ได้แล้วละฮะ... มันถึงคราวที่ต้องมองตัวเองบ้างแล้วเหมือนกันฮะป๋า ... ป๋าเห็นคาเปโล่มั้ย ข้าเจ้าเห็นแกนั่งเฉื่อยๆ เหมือนป๋าเลยเมื่อคืน... บางที ป๋าน่าจะจับเข่าคุยตามประสาปีศาจเฒ่าด้วยกันบ้างก็ดีนะฮะ ข้าเจ้าว่าคาเปโล่คงรู้สึกถึงการ "สุดทาง" แล้วเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 52 01:34:08 จากคุณ : _K_F_C_ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 01:33:21

ความคิดเห็นที่ 66 สวัสดีค่ะคุณสงบใจ นัดนี้ไม่ได้ดูเพราะโดนห้าม เนื่องจากบอลมาดึก .. มารู้ผลเอาตอนเช้าว่าแพ้.. ก็เลยถามแฟนไปว่า .. แมนยูเล่นไม่ดี หรือว่า เบิร์นลีย์ เค้าตั้งใจมาอุด.. คำตอบที่ได้รับคือ แมนยูเล่นเหมือนทีม อบต.. โอ๊ะแม่เจ้า.. อย่างนั้นเชียว.. แล้วเค้าก็พูดต่อว่า ฟอร์มแบบนี้ เล่นกับใครก็แพ้เค้าไปหมดแหละ.. ว่าแล้วเค้าก็ฉลองการพ่ายแพ้ด้วยการหยุดงานหนึ่งวัน หลบเลียแผลใจตัวเองอยู่ที่บ้าน.. แพ้นัดนี้ เพื่อเราจะได้มีแรงกระตุ้นกับนัดต่อๆไปค่ะ.. มั่นใจในป๋า และเชื่อมั่นในทีม.. จากคุณ : รัศมีจันทร์ดารา เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 08:46:58

ความคิดเห็นที่ 67 อิอิ ขัดใจ แฟน จากคุณ : แมวรักแมว เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 10:29:11