[Blues Column] - 9 แต้มเต็มของเชลซี กับ การหมุนเวียนแข้งพันล้าน
|
|
ฟุตบอลในแบบอิตาเลียนสไตล์ของคาร์เล็ตโต้ พาสิงห์บลูส์เลียบๆเคียงๆเก็บ 3 แต้มเข้าบัญชีแบบเบาๆ ไม่กระโตกกระตากอีกแล้วนะครับ
เชลซีภายใต้การกำกับการละเล่นโดยคาร์โล อันเชลอตติ ตั้งเป้าเอาไว้ที่ 21 แต้มเต็ม ก่อนจะถึงวันทำข้อสอบกลางภาคในเกมดวลกับลิเวอร์พูล วันที่ 4 ตุลาคมนี้ ซึ่งวันนั้นจะเป็นวันที่ไขข้อข้องใจให้นักวิจารณ์และแฟนบอลได้เห็นและประเมินว่า ผลงานที่แจ่มจันท์ในช่วงต้นฤดูกาลนี้ เป็น "ของจริง" หรือ "เพียงแค่ภาพลวงตา" อย่างที่บางคนปรามาสกัน
เกมทุบเจ้าสัวน้อยนิ่มๆเมื่อคืนที่ผ่านมา เชลซีสลัดความเป็นสิงห์ขี้เซาทิ้ง ก่อนจะหันมามีสมาธิกับการครองบอลและตัดการเข้าทำของคู่ต่อสู้ออกไปจากเกมได้ใกล้เคียงกับที่อันเชลอตติต้องการเห็นมากกว่า 2 นัดที่ผ่านมาเยอะพอสมควร
แดนกลางควบคุมเกมเอาไว้ได้เกือบหมด มีสมาธิ และครองบอลจนกินพื้นที่ให้กองหน้าของฟูแล่ม ต้องถอยลึก และถูกตัดออกไปจากเกมในที่สุด ขณะที่แบ็คทั้งสองข้างก็มีเวลาและพื้นที่มากพอในการสอดขึ้นไปจู่โจมคู่ต่อสู้ตามแท็คติคที่วางไว้ แต่ดูเหมือนว่าสนามจะเอียงไปทาฝั่งของสามีคุณน้องเชอรีลซะมากกว่า จนฟูแล่มเริ่มจับทางได้ แต่ก็ไม่วายโดนทีเด็ดของเชลซีที่จู่โจมจากตรงกลาง และเผด็จศึกโดย "เดอะ ดร็อก" ได้ในที่สุด
จะด้วยเกรดบอลที่มากกว่าหรืออย่างไรก็แล้วแต่ เชลซียุคคาร์เล็ตโต้แสดงให้เห็นถึงความนิ่งและความเขี้ยวได้ในระดับที่น่าพอใจไม่น้อยเลยนะครับ การนวดคู่ต่อสู้ด้วยการครองบอลไปมา ออกบอลง่าย เสียบอลยาก ได้บอลคืนมาเร็ว และไม่ผลีผลามบุกแบบลืมตาย ถึงแม้จะโดนนำไปก่อนก็ตาม
ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นนั่นก็คือ สายตาการอ่านเกมที่เข้าขั้นเหยี่ยวของคาร์เล็ตโต้
อันเชลอตติ แก้หมากในช่วงพักครึ่งได้เก่งพอตัว จากการเฝ้ามองของผมใน 2-3 นัดที่ผ่านมา (รวมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ด้วย) อีกทั้งครึ่งแรกหลังจากได้ประตูนำ ครึ่งหลังเชลซีถูกออกแบบให้ลงมาปิดเกมโดยเฉพาะ
การเข้าทำไหลลื่นขึ้นเพราะถูกชี้โพรงจากคนเป็นโค้ชมาแล้ว ริมเส้นสองข้างถูกแนะแนวให้สลับกันขึ้นบอล เพื่อความสมดุลและหยุดการเติมเกมจากทางกราบของฟูแล่ม บอลถูกถ่ายให้เข้าทำตรงกลางมากยิ่งขึ้น พร้อมๆกับเน้นแทงบอลทะลุช่องตรงที่ว่างระหว่างคู่เซนเตอร์ของฟูแล่มที่ดูจะมีปัญหากับการเคลื่อนที่ของคู่ศูนย์หน้าของเชลซีไม่น้อย
อเนลก้าถูกกำชับให้หุบเข้ามาตรงกลางมากกว่าเดิม หลังจากครึ่งแรกถ่างออกไปป้วนเปี้ยนเพื่อควานหาบอลแถวๆริมเส้นมากเกินไป ก่อนจะแสดงให้เฮียอันเช่เห็นว่าคิดถูกแค่ไหนกับการส่งเขาลงไปล่าตาข่ายพร้อมๆกับเดอะ ดร็อก ด้วยการสอดไปรับบอลตามเซนส์ของมือปืนระดับโลกที่ทันกัน พร้อมกับเช็คบิลปิดประตูลงกลอนในการคัมแบ็คของฟูแล่มอย่างสิ้นเชิงในช่วงกลางครึ่งหลัง
หลังจากนั้น ก็เป็นการซักซ้อมการครองบอลของเชลซีจนกระทั่งหมดเวลา
จุดที่น่าสนใจของเชลซีนอกจากการเข้าคู่ที่เริ่มไหลลื่น และเข้าใจกันมากขึ้นของนิโก้-ดร็อกแล้ว การโรเตชั่นนักเตะของคาร์เล็ตโต้ ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าพูดถึงไม่แพ้กันนะครับ
ด้วยความที่เชลซีเป็นทีมที่สะพรั่งไปด้วยผู้เล่นระดับเอกอุในแทบจะทุกๆตำแหน่ง โดยเฉพาะกองกลาง กอปรกับเกมการแข่งขันที่หนักหน่วงและโปรแกรมที่ชุกชุมของลีกอังกฤษ อันเชลอตติจึงต้องปรับตัวด้วยการหมุนเวียนผู้เล่นในแทบจะทุกๆเกมที่ลงสนาม
แล้วถามว่า นักเตะจะเข้าขากันเหรอ? ผมว่าคำตอบน่าจะอยู่ที่ระบบมากกว่านะครับ
นักเตะชุดนี้ส่วนใหญ่เล่นด้วยกันมานาน แถมเซนส์บอลของพวกนี้ก็ทันกันพอสมควร เรื่องเข้าขาไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่เท่าไหร่หรอกครับ เพราะถ้านักเตะมีความเข้าใจในระบบแล้ว ไม่ว่าจะส่งใครลงมา ผลลัพธ์ไม่น่าต่างกันมากเท่าไหร่ (เว้นเสียแต่ว่า ระบบจะทำลายศักยภาพที่เคยมีในตัวของนักเตะ)
ผมมองว่าเฮียอันเช่ต้องการถนอมร่างกายของผู้เล่นเชลซีที่มีอยู่ให้สดและพร้อมที่สุด สำหรับเกมต่อๆไป โดยเราต้องไม่ลืมว่านักเตะของเชลซีกว่าค่อนทีม แก่จนเข้าขั้นเก๋าเกมกันทั้งนั้น จะให้มาวิ่งหวดลูกหนังติดๆกันตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล เห็นท่าจะไม่เวิร์คในระยะยาว เราจึงได้เห็นการปรับเปลี่ยนนักเตะกันบ่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อยามที่ทีมมีประตูนำจนน่าพอใจแล้ว อย่าลืมกันนะครับ ว่าผู้เล่นเชลซีของเรา ส่วนใหญ่ก็เข้าหลัก 3 กันแล้ว และที่สำคัญเมื่อเข้าเดือนมกราคม ฟุตบอลแอฟริกัน เนชั่นส์ คัก ก็ต้องมากวักมือเรียกนักเตะสำคัญๆของเราไปร่วมทีมอีกเพียบเลย
ทดลองเอาไว้ก่อน ก็ไม่เสียหายเลยครับ
เฮียอันเช่นั้นแกประเมินคู่แข่งมาเป็นอย่างดีแล้ว ถึงค่อยเลือกผู้เล่นที่สามารถตอบสนองแท็คติคของแกได้ดี ให้ลงไปเริงระบำบนฟลอร์หญ้าในแต่ละนัด อย่างนัดที่เจอฟูแล่ม จะเห็นได้ว่าเชลซีแทบไม่เสียฟรีคิกในระยะอันตรายให้เจ้าสัวน้อยเลย ทั้งนี้ ก็เพราะฟูแล่มมีทีเด็ดจากปลายสตั๊ดทั้งใกล้-ไกล ของเมอร์ฟี่ นักเตะเชลซีจึงถูกกำชับไม่ให้เสียฟาวล์ในระยะทำการเด็ดขาด
อีกทั้ง "การพักไปกับบอล" ตามแบบฉบับของมูรินโญ่ ก็ถูกนำมาใช้อีกครั้งหลังอันเชลอตติ เข้ามาดูแลจัดการทีม
"การพักไปกับบอล" คือเทคนิคการพักเหนื่อยระหว่างเกมการแข่งขัน โดยไม่ต้องออกมานั่งที่ข้างสนาม โดยหลักการนี้เหมาะกับทีมที่อุดมไปด้วยผู้เล่นวัยเลขหลัก 3 แต่มากด้วยเกรดบอล (อย่างเชลซี) ซึ่งอันเชลอตตินำมาถ่ายทอดให้กับนักเตะเชลซีอีกครั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่แพ้สมัยมูรินโญ่เลย
ทั้งนี้ ทั้งนั้น นี่พึ่งจะเป็นการลั่นกลองรบเท่านั้น ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ก็เหมือนหนังชีวิต ต้องรอดูกันยาวๆ เพียงแค่การออกสตาร์ทได้ดี นอกจากช่วยเรื่องกำลังใจแล้ว คะแนนที่ได้ก็ถือว่ามีค่ามากพอเมื่อถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ การไล่เก็บคะแนนกับทีมระดับกลางถึงล่างให้ได้เยอะที่สุดอย่างที่เฮียอันเช่กำลังทำอยู่ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะครับ
ถึงแม้ว่าเชลซียังไม่เจอบททดสอบที่เป็นของจริงอย่างที่ใครต่อใครเค้าว่ากัน แต่ภาพรวมเท่าที่เห็น เชลซีก็ยังไม่เข้าที่เข้าทางเหมือนกับบิ๊กโฟร์ทีมอื่นนั่นน่ะแหล่ะครับ แต่ศักยภาพของนักเตะและการแก้เกมของกุนซือต่างหาก คือสิ่งที่ทำให้เชลซีเก็บสะสมคะแนนเข้าบัญชีพรีเมียร์ลีกมากกว่าทีมอื่นๆ (ยกเว้นสเปอร์ส)
ถึงบางคนจะปรามาสเชลซีว่าเจอแต่ของปลอม แต่ผมชอบครับ ที่เจอของปลอมแล้วเก็บ 3 แต้มเต็มๆไปเรื่อยๆ เพราะเมื่อถึงเวลาเจอของจริงจะเสียแต้มบ้าง ก็ยังมีแต้มที่ตุนจากของปลอมเอาไว้มาช่วยได้ไม่น้อยเลยนะครับ.
แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 52 14:20:45
จากคุณ |
:
เทอร์รี่คุง
|
เขียนเมื่อ |
:
24 ส.ค. 52 14:16:43
|
|
|
|