ความคิดเห็นที่ 1 การจัดตัวในนัดนี้ ดูเหมือนท่านเซอร์จะไม่ฝืน หลังจากเห็นลูกทีมต้องโดนน้องใหม่ขย่มจนล่มไปเมื่อนัดที่ผ่านมา มานัดนี้ ท่านเซอร์จึงพยายามจัดตัวตามตำแหน่ง ไม่ลองของ ไม่ประมาทเหมือนที่ผ่านมา บิ๊กเบนลงเฝ้าเสาตามคาด ฟูลแบ๊คซ้ายขวาเป็นปาทริซ เอวร่า และ แกรี่ เนวิลล์ คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟให้จอนนี่ เอแวนส์ จับคู่กับเนมานย่า วิดิช คู่กองกลางตรงกลางเป็นพอล สโคลส์ กับ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ปีกซ้ายขวาเป็นนานี่ และ อันโตนีโอ วาเลนเซีย คู่กองหน้าเลือกออกสตาร์ทด้วย เวย์น รูนี่ย์ และดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ส่วนทางด้านวีแกน แอธเลติก เจ้าบ้านนัดนี้มาพร้อมดีกรีทีมที่ไม่น่าข้องแวะด้วยประการทั้งปวง เมื่อได้พาผู้หวังรวยทางลัดต้องกรอบแกรบกันเป็นแถวๆจากฟอร์มดับซ่าวิลล่าถึงบ้านในนัดแรก แต่กลับไปถูกน้องใหม่ซัดหงายท้องคาบ้านตัวเองในนัดต่อมา นัดนี้เมื่อเห็นฟอร์มทีมรักของเราต้องล่องจุ๊นไปในนัดที่แล้วด้วยฝีมือน้องใหม่ ผมจึงอดหวั่นใจลึกๆไม่ได้ ว่าจะเด้งเชือกกลับมาได้ทันทีเลยหรือเปล่า แต่เมื่อดูโพสิชั่นนิ่งของทีมชีต ก็พออุ่นใจได้ว่า ทุกคนต่างได้ยืนในตำแหน่งถนัดของตน อย่างน้อยก็น่าจะทำให้ฟอร์มดีขึ้นกว่าเกมที่แล้วบ้างแหละน่า จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 15:48:46

ความคิดเห็นที่ 2 เกมในครึ่งแรกก็เป็นอย่างที่หลายๆท่านคาดการณ์ไว้ เมื่อยูไนเต็ดเริ่มครองบอลกดดันใส่ตั้งแต่แรก แต่ก็ยังคลำเป้าไม่เจอ กลายเป็นคริส เคิร์กแลนด์ นายทวารเจ้าบ้านเสียอีก ที่เหมือนจะได้คาถาดูดบอลจากพระอาจารย์ก่อนลงมาเล่น บอลจากหัวจากเท้านักเตะยูไนเต็ดที่ส่งออกไปแต่ละลูก ถึงได้พุ่งเข้าตัวเคิร์กแลนด์ตลอด กลายเป็นเจ้าตัวยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ ยิ่งเซฟยิ่งโชว์ ทำให้งานของเรากลายเป็นยากขึ้นไปเยอะเลย    เกมของผู้มาเยือนยังคงน่ากลัวในจังหวะเข้าทำ เพียงแต่ไม่สามารถส่งลูกบอลผ่านมือเคิร์กแลนด์เข้าสู่ก้นตาข่ายได้ ไม่ว่าจากฝีเท้าของเฟล็ทเชอร์, สโคลส์, รูนี่ย์ หรือเบอร์บาตอฟก็ตาม เจ้าบ้านเอง ตั้งเกมในเกมนี้ค่อนข้างรัดกุม เมื่อทิ้งอูโก้ โรดาเยก้า กองหน้าไว้เป็นเป้าเคลื่อนที่ในแดนหน้าเพียงคนเดียว แล้วก็ดำเนินแผนการยุทธยอดนิยมด้วยการตั้งกำแพงรับสองชั้น มีกองกลางห้าคน ตามด้วยแผงหลังอีกสี่คน กำแพงของวีแกนวันนี้มีรายละเอียดต่างไปจากทีมอื่นพอสมควรครับ เมื่อไม่ยอมตั้งโซนและเพรสซิ่งเพียงอย่างเดียวเหมือนทีมอื่นๆ แต่กลับเลือกที่จะมาร์คแมนทูแมนผสมผสานไปด้วย สังเกตได้จากการเคลื่อนที่ของผู้เล่นวีแกนในแนวรับ นอกจากจะเพรสซิ่งในโซนของตนเองแล้ว เมื่อมีผู้เล่นของยูไนเต็ดพาบอลถอยกลับมายังกลางสนาม ก็จะมีผู้เล่นวีแกนตามมาร์ค ไล่บี้ออกจากโซน ไล่กดดันไม่ให้คายบอลได้ถนัดอีกด้วย ตรงนี้ครับ ที่เป็นดาบสองคมของวีแกน จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 15:48:59

ความคิดเห็นที่ 3 ที่บอกว่าเป็นดาบสองคม นั่นก็เพราะเป็นแผนการเล่นที่สิ้นเปลืองพลังงานค่อนข้างมาก การที่นักเตะต้องเพรสซิ่งในโซนตัวเองตลอดก็เป็นงานที่หนักพอสมควรอยู่แล้ว แต่เมื่อต้องไล่ออกมานอกโซนตัวเองอีก เพื่อกดดันผู้ครองบอลของยูไนเต็ดอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้สามารถคายบอลหรือถ่ายบอลไปมาได้ถนัด ตรงนั้นหากทำหน้าที่ได้ดีตลอดเก้าสิบนาที ก็จะเป็นการกดดันคู่ต่อสู้ได้ดีมากๆ และทำให้คู่ต่อสู้มีโอกาสผิดพลาดสูงจนต้องเสียการครอบครองบอลไป แต่ถ้าทำไม่ได้ตลอด ก็เท่ากับเป็นการเปิดโซนตัวเองให้หลวม เพราะตัวเองหลุดออกจากตำแหน่งหลุดออกจากพื้นที่ไปแล้ว เพื่อนก็ต้องเข้ามาซ้อน เข้ามาคุมพื้นที่แทน ตรงนี้ต้องอาศัยความขยัน พลัง และความเข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดีครับ ผู้เล่นตรงกลางของวีแกนนัดนี้ทำผลงานได้ค่อนข้างดีหลายคน โดยเฉพาะคูมาส, เอ็นซอกเบีย และตัวใหม่อย่างโกเมซสุดหล่อ นอกจากนั้น บรัมเบิ้ลยังโชว์เทพในครึ่งแรกอีกหลายครั้ง ที่สกัดจังหวะอันตรายได้อยู่หมัด ช่วยเคิร์กแลนด์ได้มากทีเดียว เกมรุกของเจ้าบ้านในครึ่งแรกยังอันตรายอยู่พอสมควรจากการวางโรดาเยก้าไว้ บอลไดเร็กต์จากแดนหลังยังสร้างความหวาดผวาให้ผมอยู่เรื่อยๆ ยังดีที่นัดนี้เราได้วิดิชกลับมาประจำการช่วยกับเอแวนส์ ทำให้ความมั่นใจกลับคืนมาสู่ทีมอีกครั้ง วิดิชวันนี้เป็นหัวใจในแผงหลังอย่างแท้จริง สามารถสกัดจังหวะสุดท้ายได้หลายครั้งมากๆ และยังช่วยสกัดกั้นลูกกลางอากาศได้ตลอดทุกจังหวะอีกต่างหาก จังหวะและฟอร์มของวิดิชวันนี้ นอกจากจะช่วยให้ทีมสบายใจแล้ว ยังไปเค้นเอาฟอร์มของฟอสเตอร์ และเอแวนส์ให้สามารถแสดงฝีมือได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องพะวงอีกด้วย จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 15:49:14

ความคิดเห็นที่ 4 เกมในครึ่งแรก ท่านเซอร์คงเห็นแล้วว่า วีแกนจัดการเกมของเราได้อย่างไร การคุมโซนบวกมาร์คกิ้งแมนทูแมนของวีแกน ทำเอาเราต่อบอลกันได้ไม่ไหลลื่นมากนัก และไม่สามารถ   “ขึง”   วีแกนได้อย่างต่อเนื่อง เกมโต้กลับของวีแกนจึงเริ่มมั่นอกมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ท่านเซอร์ก็ยังเป็นท่านเซอร์ ไม่ยอมผิดพลาดซ้ำสอง นัดนี้เมื่อเห็นว่าทำเกมได้ แต่ไม่ค่อยไหลลื่นนัก ถูกเพรสซิ่งแล้วออกอาการใช้ได้ ปีกก็มัวง่วนกับการทำเกมตรงกลางและช่วยเกมรับริมเส้นจนไม่อาจจะรุกได้เต็มที่นัก และเจ้าบ้านเริ่มได้ใจจนมีโอกาสจบหวุดหวิดจะได้ประตูหลายครั้ง ท่านเซอร์จึงทำการปรับเล็กๆด้วยการเพิ่มสปีดเกมขึ้นมาอีกครึ่งกะโหลก เน้นให้ปีกเดินหน้ามากขึ้น และเพิ่มการทำเกมโจมตีด้านกว้างมากขึ้น บวกด้วยการวางบอลสวนกับการตามคนขึ้นมาของวีแกน แค่นั้นเกมก็ดูดีขึ้นมาทันตาเห็น เมื่อเพิ่มการเล่นทางด้านกว้าง สลับกับการวางบอลยาวสวนการมาร์คกิ้งของวีแกนได้ พื้นที่ก็เปิดมากขึ้น และเมื่อมีพื้นที่ให้เล่นมากขึ้น ผู้เล่นของยูไนเต็ดก็เริ่มแสดงฝีเท้าออกมาได้ดีขึ้น แค่ไม่นาน ก็สามารถทำประตูได้จากการครอสทางกราบขวาของวาเลนเซียเข้ามา หน้ากรอบโล่งเหลือเกิน และเป็นรูนี่ย์ ที่โหม่งโล่งๆส่งบอลเข้าสามเหลี่ยมเสาสองได้อย่างสวยงาม วีแกนฮึดจะเอาคืนทันควัน แต่ฟอสเตอร์ที่ไวทายาดก็ป้องกันลูกยิงในจังหวะเอาคืนของวีแกนไว้ได้ และจากจังหวะนั้น กลายเป็นยูไนเต็ดที่ได้ประตูที่สอง เมื่อทำเกมถ่ายบอลกันมาได้ดี เบอร์บาตอฟขึ้นมาจากซ้าย ปาดบอลเข้ากลางก่อนที่จะเจ้าตัวจะพลิ้วเข้าไปในกรอบ รับบอลที่สโคลส์กระดกมาให้ เบิร์บกระดกข้ามตัวเคิร์กแลนด์ที่ผวาออกมาปัด ก่อนจะเอี้ยวตัววอลเลย์ส่งบอลเข้าสู่ตาข่ายเป็นประตูที่สอง พร้อมอาการดีใจอย่างลิงโลดของเจ้าตัว จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 15:49:41

ความคิดเห็นที่ 5 จากนั้น ลูกที่สามก็ตามมา รูนี่ย์หาจังหวะยิง บอลไปแฉลบกองหลังวีแกนเปลี่ยนทางเข้าประตูไป ยูไนเต็ดเปลี่ยนตัวสามคน เอาโอเว่น, กิ๊บสันและ โอเช ลงมา โดยถอดเอา สโคลส์, รูนี่ย์ และ เอแวนส์ออกไปพัก โอเว่นลงมาไม่นานลูกที่สี่ก็ตามมา เมื่อนานี่ได้บอลกระชากขึ้นมาทางซ้ายแล้วเลาะมาหน้ากรอบ โอเว่นฉีกทำทางไปทางขวาแล้วแต่นานี่กลับไม่จ่าย แต่นานี่ชี้มือให้โอเว่นฉีกมารับบอลทางซ้าย โอเว่นจึงหักหนีออกมาทางซ้ายให้นานี่ป้ายบอลออกมาให้ กลายเป็นโอเว่นหลุดตัวคุมทันที ก่อนจะยิงสวนตัวหักข้อสวนตัวเคิร์กแลนด์ได้สำเร็จ เป็นประตูแรกในลีกในสีเสื้อใหม่ของเจ้าตัว ส่วนประตูสุดท้ายได้จากนานี่กับฟรีคิกสุดสวยของเจ้าตัว ที่ปั่นข้ามกำแพงเสียบเสาได้อย่างหยดย้อย การที่จะบอกว่าเกมนี้เราทำได้ดีมากๆ ก็คงเกินเหตุไปหน่อย เพราะฟอร์มโดยรวมเราในครึ่งแรกก็ยังไม่เข้าที่นัก ยังขาดความเด็ดขาด และความไหลลื่นในเกม จนเกมโต้กลับของวีแกนหวุดหวิดจะสร้างหายนะให้เราได้ก่อน แต่พอเริ่มเข้าที่เข้าทาง และเพิ่มสปีดเกมมากขึ้นในครึ่งหลัง เราจึงเริ่มกลับมาเข้าสู่จังหวะเข้าทำที่คุ้นเคยอีกครั้ง และนี่ก็เป็นจังหวะที่เคยเป็นเอกลักษณ์ของยูไนเต็ดในอดีตนั่นเอง จังหวะการขึ้นบอลเร็ว เซ็ตบอลและทำทาง เคลื่อนที่หาที่ว่าง เราเริ่มทำได้ดีขึ้น ส่วนสกอร์ห้าเม็ดนั่น ผมว่ามันเข้าทางพอดีมากกว่าครับ ถ้าเป็นเกมปกติทั่วๆไปกับโอกาสแบบในเกมนี้ ผมว่าเราคงได้สามเม็ด แต่เกมนี้เมื่อจังหวะจบในครึ่งหลังมันเข้าที่เข้าทางไปหมด มันก็บอกมาแบบนี้ หากจำกันได้ ซีซั่นที่เราเคยชนะอิปสวิช ทาวน์ 9:0 หรือ ชนะฟอเรสต์ 8:1 หรือ ชนะโรม่า 7:1 มันก็เป็นแบบนี้ คือจังหวะจบมันเข้าทางไปหมดนั่นเองครับ ไม่ได้หมายความว่า เราทำเกมได้เหนือกว่าจนเป็นทีมต่างดาวอะไรขนาดนั้น จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 15:50:04

ความคิดเห็นที่ 6 เกมนี้นอกจากสกอร์ห้าลูก มันยังคงมีอะไรให้พูดถึงหลายอย่าง ไล่เรียงตั้งแต่การเล่นที่ดูจะยังไม่เข้าที่เข้าทางมากนัก อาจจะเพราะความเกร็งของเรา ที่เพิ่งพลาดท่าเสียทีไปในวีคที่ผ่านมานั่นเอง ที่ทำให้บรรดาผู้เล่นของเรา มีอาการเกร็งๆสนาม และออกจะลนเล็กๆ อยู่ไม่น้อย และลูกยิงของบรดานักเตะฝั่งเราในครึ่งแรก ก็ดูเหมือนจะเน้นจนเกินไปจนขาดความเด็ดขาด ตรงนี้ต้องชื่นชมป๋าครับ ที่ปลุกเร้านักเตะได้ถูกจุดจนสามารถกลับมาอยู่บนเส้นทางแห่งความมั่นใจได้อีกครั้ง การเคลื่อนที่ของนักเตะในครึ่งหลังของเราบ่งบอกตรงจุดนี้ได้เป็นอย่างดี ว่านักเตะแต่ละคนลืมความเกร็งในครึ่งแรกไปหมดแล้ว นอกจากป๋าที่ต้องชมแล้ว ผมยังขอชื่นชมเนมานย่า วิดิชอย่างเต็มที่อีกคน ในสายตาผม เกมนี้เราชนะเพราะวิดิชครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นรูนี่ย์สำคัญนะ แต่ในเวลาที่เรายังยิงไม่ได้ตลอดห้าสิบกว่านาทีนั้น เป็นวิดิชครับ ที่เป็นด่านแรกในการป้องกันการคุกคามจากกองหน้าและกองกลางของวีแกนได้อย่างเด็ดเดี่ยว วิดิชทั้งปักหลักซดลูกสาดยาวของวีแกน ทั้งปราดเข้าสกัดคาบลูกคาบดอกในจังหวะสุดท้ายชนิดไม่กลัวเจ็บ จนทำให้ฟอสเตอร์สามารถโชว์ฟอร์มหนึบตามมาได้อย่างสบายอกสบายใจ และยังส่งผลให้เอแวนส์เล่นได้อย่างสบายใจมากขึ้น ไม่ต้องพะวงอาการบาดเจ็บที่ติดตัวอยู่มากนัก จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 15:50:19

ความคิดเห็นที่ 7 จบเกมนี้ ก็คงเป็นแค่สามแต้ม กับประตูบวกห้าลูก ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นในแง่การแช่งขัน เมื่อเกมนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเกมลีก คงไม่สามารถตีค่าในทางตารางคะแนนได้มากกว่านั้นหรอก และคงยังบอกไม่ได้ ว่าใครจะเป็นแชมป์ ใครจะตกชั้น หรือใครจะหมดลุ้น ใครจะมีลุ้นแต่อย่างใด เพียงแต่คุณค่าทางจิตใจของเกมนี้ที่มีต่อนักเตะและผู้ที่เกี่ยวข้องต่างหาก ที่ควรถูกพูดถึง การที่ต้องพ่ายแพ้ให้แก่ทีมน้องใหม่ในแบบน่าถูกกระโดดถีบหน้าเมื่อวานนี้ แล้ววันนี้สามารถสวิงกลับมายืนในจุดที่ถูกต้องอีกครั้งได้ ตรงนี้ต่างหากที่เป็นสิ่งที่มีคุณค่าต่อทัศนคติและกำลังใจของนักเตะ รวมไปถึงโค้ชด้วย นอกจากนั้น การที่เบอร์บาตอฟยิงได้ โอเว่นยิงได้ นานี่ยิงได้ และรูนี่ย์พังประตูที่ร้อยและร้อยเอ็ดได้ในเกมนี้ ยังถือเป็นจุดสตาร์ทที่ทุกๆฝ่ายอยากให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด และมันก็เกิดขึ้นแล้วสมกับที่แฟนๆรอคอย ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ให้ทุกๆอย่างมันดำเนินไปตามครรลองของมัน เป็นไปตามเกมของมัน และที่สำคัญ อยากให้ป๋าส่งทีมแบบนี้แหละครับลงสนาม ทีมที่ไม่ฝืนธรรมชาติตัวเอง ทีมที่ไม่ฝืนตำแหน่งนักเตะมากนัก และทีมที่มีแรงจูงใจ มีแรงกระตุ้นเต็มที่ มีความกระหายที่จะลงสนาม กระหายที่จะยิงประตู กระหายที่จะชนะ ป๋าไม่ต้องปรับอะไรมากเกินพอดีอีกแล้วนะครับ เอาแค่พอดีๆ แล้วทุกอย่างมันก็จะเป็นไปตามเกมของมันเอง หากจะแพ้ เราก็พูดได้เต็มปากว่า เราเล่นเต็มที่แล้ว แต่เขายังดีกว่าเรา ไม่ใช่ว่าเราแพ้เพราะไปเปลี่ยนตำแหน่งนักเตะหรือโรเตชั่นมากเกินไป อย่างนั้นมันเจ็บครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 15:50:56

ความคิดเห็นที่ 8 มองไปยังหนทางข้างหน้า ผมว่าหากเรายังสามารถรักษาความคงเส้นคงวาไว้ได้ต่อไป เส้นทางก็ยังคงเปิดกว้างอยู่สำหรับเราครับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ยังมีเวลาให้พักฟื้นอีกพอสมควร เมื่อเอแวนส์สามารถจับคู่กับวิดิชได้ดี และยังมีเวลาพักอีกสัปดาห์เต็มๆกว่าจะถึงเกมต่อไป ส่วนแบ๊คขวา แกรี่เองลงได้เต็มเก้าสิบนาทีก็น่าจะเป็นที่พึงพอใจของทุกๆฝ่าย และน่าจะเป็นขุมกำลังสำรองที่สำคัญคนหนึ่งในซีซั่นนี้ นอกจากนั้น กิ๊บสันน่าจะถูกวางไว้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในแดนกลางในซีซั่นนี้ เมื่อถูกส่งลงมาในเกมนี้ นั่นเท่ากับโอกาสของเจ้าตัวจะเพิ่มมากขึ้น และน่าจะมีส่วนร่วมมากขึ้นในปีนี้ โทซิช กับมาเคด้า และโอแบร์กตองก็เช่นกัน สามคนนี้ อาจจะถูกส่งลงมาในซีซั่นนี้เพื่อปรับตัว และสร้างความคุ้นเคยกับบอลอังกฤษมากขึ้น สำหรับโอแบร์กตองนั้น หลังจากหายเจ็บก็น่าจะถูกส่งลงเกมสำรองก่อนสักระยะเพื่อประเมินศักยภาพครับ เท่าที่ดูตอนนี้ บรรดาดาวรุ่งทั้งหลาย ผมไม่ห่วงเท่าไหร่ ผมห่วงตัวที่เป็นตัวหลัก ตัวความหวังของเรานี่แหละ สโคลส์นั้นดูออกว่าพยายามจุดแพสชั่นของทีมขึ้นมาตลอดเวลา แต่ความอาวุโสของเขามันจำกัดศักยภาพตรงนั้นไปเยอะ ทำให้เข้าบอลค่อนข้างซ้า และหลายครั้งอาจจะโดนไข้เหลืองได้ง่ายๆ เกมตรงกลางหากจะยืนพื้นด้วยชุดนี้จริงๆ (สโคลส์-คาร์ริค-เฟล็ทเชอร์-แอนนี่-กิ๊บสัน) เห็นที่จะต้องหาริมเส้นแจ่มๆมาสักตัว เพราะนานี่เองยังหวังเต็มที่ไม่ได้เท่าไหร่ และตัวสำรองทางฝั่งซ้ายของนานี่ก็ยังไม่มีแจ้งเกิดจริงๆสักคน นี่คงเป็นต้นตอที่มาของข่าวกับร็อบเบน ส่วนถ้าว่าป๋าไม่ซื้อปีกเพิ่ม คงต้องเป็นกลางแจ่มๆแทนล่ะครับ ที่จะมาคุมจังหวะ กำหนดทิศทาง และเป็นตัวจุดปะทุของเกมแทนสโคลส์ จะหวังพึ่งรูนีย์เพียงคนเดียวให้เป็นสปาร์คเกอร์ของทีมก็ดูจะโหดร้ายต่อเฮียมากไปหน่อย เพราะเฮียแกทำจนไม่รู้จะทำอะไรได้มากกว่านี้แล้ว เห็นใจแกมั่งนะครับ ขืนให้ทำมากไป เกมของแกจะเสียเอาน่ะสิ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 15:51:13

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วมาลุ้นเกมกับอาร์เซน่อลกันครับ สงบใจ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 15:51:28

ความคิดเห็นที่ 10 เขียด... ^ ^ จากคุณ : Torres เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:06:02

ความคิดเห็นที่ 11 น้องภีมเป็นไงบ้างฮะ... หมอว่าไงบ้าง น้องเค้าเป็นอะไรฮะ...เผื่อท่านไหนมีบุตรหลานวัยใกล้กันจะได้ระวังไว้บ้าง...  เป็นห่วงหลานก่อนทีมเชียร์แฮะ จากคุณ : _K_F_C_ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:06:58

ความคิดเห็นที่ 12 เอาน้องภีมมาล่อแฟนคลับ จากคุณ : โซเชี่ยล ฟ๊อกซ์ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:08:18

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาดู ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:10:16

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นน้องภีมแล้ว ขอเป็นลูกสะใภ้ ได้ไหมคะ เดี๋ยวช่วยดูแลให้   แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 16:17:20 จากคุณ : CuPid Pathway เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:16:22

ความคิดเห็นที่ 15 ยกมาจากกระทู้ต้นเรื่องครับ ------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 102     อ้อ ขอปิดท้ายด้วยสรุปอาการน้องภีมนะครับ เผื่อท่านที่อยากทราบข้อมูล น้องภีมมีอาการซึม ทานอาหารแล้วอาเจียนตั้งแต่เช้าวันศุกร์ รอดูอาการสามสี่ชั่วโมง อาการไม่ดีขึ้น คุณพ่อ (หงบใจ) จึงต้องลางาน แล้วกลับมาพาไปโรงหมอ ก็สันนิษฐานว่าติดเชื้อไวรัสในกระเพาะ เนื่องจากแกมีอาการหวัดรุมเร้าอยู่ด้วยพอดีในช่วงนั้น รับยามา บ่ายๆอาการดีขึ้น จนค่ำก็ดูเหมือนหาย ก็วางใจกัน (พอดีคุณแม่จะไม่มีบทบาท เนื่องจากตั้งครรภ์ จึงพยายามเลี่ยงโรงพยาบาล และเลี่ยงใกล้ชิดน้องภีม กลัวจะติดกันครับ) ตื่นมาเช้าวันเสาร์ อาการกลับแย่ลงไปอีก ก็เลยพาไปหาหมออีกครั้ง เหมือนเดิมครับ หมอบอกให้ลองดูอาการก่อน และงดอาหารเลย ให้แต่น้ำ เพราะตอนนี้ทำอะไรมากกว่านันไม่ได้ กลับมาก็ดีขึ้น เหมือนเมื่อวาน เช้าวันอาทิตย์ทีนี้นอกจากจะคลื่นไส้ตลอดเวลา ก็เริ่มมีไข้ ไม่กิน ไม่ทาน คราวนี้เลยพาไปแอดมิทเลย เจาะเลือด ตาวจเชื้อตรวจปัสสาวะกันวุ่นวาย ได้น้ำเกลือและฉีดยาเข้าเส้นอยู่ตั้งแต่สายๆ จนบ่ายก็ดีขึ้น เช้าวันจันทร์ คุณหมอขอคอนเฟิร์มผลตรวจปัสสาวะอีกรอบ และก็เรียบร้อยครับ น่าจะหายดีแล้ว หมอจึงปล่อยตัวกลับบ้านได้ ------------------------------------------------------------------------ สรุปว่า หมอยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสลงกระเพาะอาหาร มีอาการอาเจียน ทำให้ยาที่ป้อนก็จะถูกอาเจียนออกมาหมด ไม่สามารถออกฤทธิ์ได้ เมื่อร่างกายไม่รับอาหาร จึงไปดึงไขมันมาเผาผลาญแทน ทำให้เกิดผลข้างเคียง นั่นคือปริมาณเกลือแร่ในร่างกายขาดความสมดุล และจะเกิดสารตัวหนึ่ง ซึ่งไปทำให้คลื่นเหียนอาเจียน และเบื่ออาหาร หมอจึงต้องแก้ด้วยการให้น้ำเกลือ ทำให้ร่างกายไม่ต้องย่อยให้คลื่นเหียน ให้เข้ากระแสเลือดโดยตรงไปเลย ร่างกายก็จะปรับตัวได้ และหายได้ในที่สุด นี่ครั้งที่สองในรอบสองเดือนครับ อาการนี้เลยแหละ จากคุณ : สงบใจ     เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 13:30:48     ------------------------------------------------------------ ขอบคุณทุกๆท่านด้วย ที่เป็นห่วง และส่งกำลังใจไปให้น้องภีมหายเร็วๆ น้องภีมฝากของคุณด้วยครับ อันนี้ตอนก่อนจะกลับบ้าน ถอดสายน้ำเกลือแล้ว ลั้ลลาปาจิงโกะมากมายครับ คุณพ่อสบายใจขึ้นเยอะ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:17:44

ความคิดเห็นที่ 16 ขออภัย...กดส่งซ้ำครับ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 16:19:09 แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 16:18:58 จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:18:21

ความคิดเห็นที่ 17 ตามมาอ่าน อิอิ ดีใจด้วยครับ จากคุณ : ดาวเหิน เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:29:47

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่วิพากษ์ทีมอื่นบ้างเหรอครับ อยากฟังความเห็นดีๆ จากคุณ เปลี่ยนใจเมื่อไหร่ ขอเชลซีทีมแรกเลยนะคร๊าบบบบบ จากคุณ : wazenteq (wazenteq) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:34:43

ความคิดเห็นที่ 19 มาช้ายังดีกว่าไม่มาจริงๆ ด้วย ขอบคุณมากค่ะ ดีใจที่น้องภีมดีขึ้นแล้ว จากคุณ : ผ่านมาทักทาย เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:35:24

ความคิดเห็นที่ 20 เบริฟ ได้แชมป์ โลกกกกกกกกกกก จากคุณ : แมวรักแมว เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:37:22

ความคิดเห็นที่ 21 คุณคิวปิดฯ รบกวนกดบัตรคิวด้วยครับ คุณwazenteq เมื่อก่อนยังเคยวิพากษืทีมอื่น เชลซีก็เคยครับ แต่ช่วงนี้งานการมันรัดตัวไปนี๊ดส์ ทำใม่ค่อยว่างครับ เวลากลางคืนนี่ ผมก็นอนดึกไม่ค่อยได้เหมือนเมื่อก่อน นอนกับลูก พาเจ้าภีมนอนตั้งกะสองทุ่มครึ่ง ผมเลยง่วงตาม ช่วงที่จ้าภีมไป รพ. ผมก็เหนื่อยมากซะจนเมื่อคืนไม่ได้ดูน้องหงส์เลย คืนก่อนดูเชลซีที่ รพ. ยังดูได้แค่ครึ่ง ชม. ผมก็หลับ ช่วงนี้เหนื่อยจริงๆฮะ แต่ถ้าช่วงไหนว่างๆ มีโอกาสได้ดูคู่อื่นจริงๆจังๆ ก็อาจจะมีวิพากษ์ให้เหมือนเดิมครับ ปล. คุณจิ้งจอกเมา  ว่างเมื่อไหร่ จะแวะไปคุยอีกนะครับ ช่วงนี้ลำบากจริงๆ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:40:20

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามาอ่านครับ ขอบคุณครับ ฟอร์มจากนัดล่าสุดทำให้นัดเจออาร์เซน่อลดูมีลุ้นหน่อย ถ้าเจอปืนด้วยฟอร์มนัดเจอเบิร์นลี่ คงแพ้เละคาบ้าน จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:42:56

ความคิดเห็นที่ 23 ผมแฟนปืนนะครับ แต่เข้ามาตามอ่านคุณสงบใจเหมือนทุกๆครั้ง ชอบครับ จากคุณ : ชื่อนี้มีคนใช้แล้ว เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:49:30

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่ได้เข้ามาอ่านบทวิพากษ์ของคุณหงบ เลย กลับมาทักทายอีกที หวัดดีค่ะ จากคุณ : K-modjung เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:51:38

ความคิดเห็นที่ 25 ยินดีด้วยครับที่น้องภีมค่อยยังชั่วขึ้นมากแล้ว จากคุณ : Noah_1_of_4lnw เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:52:08

ความคิดเห็นที่ 26 ยินดีด้วยครับเรื่องลูก ขอให้สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัวครับ วันเสาร์นี้ ฝากดูผีแดงกันด้วยครับ ผมต้องนั่งรถทัวร์ไปสอบ ภาค ก ที่ราม ไว้รอผลจาก SMS รายงานเอา ปล. แต่ถ้าแพ้นี่  มีคนรายงานผลส่วนตัวอยู่แล้วครับ  555 จากคุณ : kengmu เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:57:35

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณสำหรับบทวิพาทย์ดีๆครับ จากคุณ : dabodabo55 เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:03:29

ความคิดเห็นที่ 28 เกมนี้ข้าเจ้ามองว่าเหมือนกับป๋าแกเข้ามาอ่านกระทู้พวกเราเมื่อนัดที่แล้วนะ... - แกก็คงรู้ตัวเรื่องลองของไม่เข้าท่าของแกด้วย นัดนี้เลยไม่อยากลองของอีก - แกคงรู้ตัวเรื่องทีมขาด Passion ต้นฤดูกาลไปเยอะ... สังเกตได้ว่าเกมนี้แกมีการออกมากระตุ้นตั้งแต่ต้นเกมจนกระทั้งมันเริ่มไหลเป็นน้ำถึงได้วางใจไปนั่งเป็นแพนด้าข้างสนามได้ ... แต่แกกลับไม่ได้ดีใจเอิกเกริกเหมือนเคย ..เหมือนแกมีเรื่องกังวลอยู่ในใจผ่านสีหน้าแม้กระทั่งจบเกมไปแล้ว .... อะไรหว่า? - วีดิชเป็น Hero จริงๆ ฮะ.. เป็นจนเกือบกลายเป็น Satan ซะด้วยซ้ำ จังหวะคาบลูกคาบดอกเวลาปะทะเหมือนยังไม่เข้าที่เท่าไหร่ มันเลยมีเกินๆ จนบางครั้งน่าจะเรียกใบเหลืองได้หลายใบอยู่ โดยเฉพาะกับคู่กรณีรายาไนก้า... เอ๊ย! โรดาเยก้า ...ซึ่งหลังจบเกมถึงกับมีข่าวว่า FA จะขอดูเทปย้อนหลังเพื่อดูความรุนแรง ...แต่ได้ข่าวว่าเดชะบุญที่ไม่มีการลงโทษอะไรใดๆ ก็หวังว่าจังหวะในนัดสำคัญเสาร์นี้จะเข้าที่เข้าทางและเป็นหัวใจเกมรับได้ทันท่วงที เพราะเป็นความหวังในการคุมแนวรับทั้งแผงรับมือโคตรเด็กคึกจากลอนดอนที่ 2 นัดซัด 10 ประตูเข้าให้แล้ว (ดีนะ เชสมีข่าวเจ็บ หวังว่าคงเป็นข่าวจริง ไม่ใช่ข่าวลวงนะ)... เบนนี่ของเราจะได้กล้าโชว์สเตป แกรี่จะได้กล้าเติมเกม ...และโอเชียจะได้รู้ว่าต้องสลับตำแหน่งกันอย่างไร... - อะ... อ่านไม่ผิดฮะ... ข้าเจ้าสังหรณ์ใจว่าเสาร์นี้และหลายเสาร์ อาจจะต้องเป็นโอเชียที่มายืน Center คู่กับทั้งวีดิชหรือริโอ ... เพราะข่าวว่าอีแวนท่าจะไม่รอด ต้องผ่าตัดข้อเท้า ... ซึ่งแบบนี้ได้เจอกันหลังปีใหม่แน่ๆ ... จริงๆ แล้วมี option ให้กัดฟันเล่นได้ฮะ... แต่ยิ่งนานวันมันยิ่งเสี่ยงต่ออาการเรื้อรังที่อาจส่งผลให้เหมือนกับนักเตะเวสต์แฮมคนนึงที่มีข่าวว่าอาจต้องเลือกว่าจะกลับมาเดินไม่ได้อีกเหมือนเดิมหรือจะแขวนรองเท้าก่อนเวลา (จำชื่อไม่ได้ แต่ไม่ใช่คาลัมผู้โชคร้ายคนนั้นนะฮะ) ... ซึ่งข้าเจ้าเดาใจป๋าไว้ว่า ท่านเป็นคนที่รักเด็ก ดูแลเด็กมาหลายเคส ยิ่งเป็นเด็กปั้นสโมสรแบบนี้ ต้องเป็นห่วงอนาคตเด็กมาเป็นอันดับแรก คงเลือกที่จะผ่ามันเลยซะตั้งแต่เนิ่นๆ ดีกว่าให้แบกอาการครึ่งๆ ไม่กล้าเล่น 100% ไปกับอาการเจ็บ หรือไม่ก็เล่นแบบถวายชีวิตแล้วสิ้นฤดูกาลก็ตามฮาร์กรีฟไปอีกคน... ซึ่งข้าเจ้าว่าฮาร์กรีฟเองคงเป็นแบบฝืนเล่นไม่บอกป๋าแน่ๆ ถึงได้อยู่ห้องหมอยาวชนิดที่อาจจะต้องเลิกเล่นก่อนวัยอันควรด้วยไปจริงๆ ... บทเรียนราคาแพงเห็นอยู่ทนโธ่ - ความมั่นใจของบรรดาตัวเกมรุก ข้าเจ้าว่ามันก็มาตามจังหวะที่ลงตัวมากกว่าเกิดจากการเข้าธรรมแบบ Open play ตามธรรมชาตินะฮะ... คือ มันไม่ได้เกิดจากความเด็ดขาดเลยอะ ...วีแกนเนี่ย โค้ชเค้าอุตส่าห์มาแอบดูเราเล่นตั้งแต่นัดเบิร์นลี่ย์แล้ว รูปแบบครึ่งแรกจึงเหมือนกันเปี๊ยบ ...ต่างตรงที่มันไม่เป็นธรรมชาติของทีมวีแกนเองต่างหาก ข้าเจ้าเห็นว่าไล่บี้เรายังไง สุดท้ายก็ต้องเกิดความต่าง ...เพราะนัดที่แล้วเราไม่ได้เล่นตามธรรมชาติเราต่างหาก ซึ่งนัดนี้เราก็ยังไม่ได้เล่นกันเป็นธรรมชาติมากนัก ..แต่เพราะได้การวางตำแหน่งกับได้วีดิชกลับมา ...มันเลยต่างจากนัดที่แล้วค่อนข้างหลายช่วง.... 1. จังหวะเร็วขึ้น 2. มีการถ่ายบอลถี่ขึ้น 3. เนื่องจากวีแกนธรรมชาติไม่ถึงกับรับลึกตามสันดาน เพราะไม่ได้เป็นทีมน้องใหม่อีกแล้ว ...จึงเกิดอาการหลุดตำแหน่งขึ้นมาไล่จนโซนแตกในครึ่งหลัง 4. นัดนี้มีผู้เล่นที่สร้างความต่างที่นัดที่แล้วข้าเจ้าคิดถึงจนจับใจได้ลงตั้งแต่ครึ่งแรก ...พี่น้องทางสายหน้าอย่างนานี่กับ AV ไงฮะ 5. นานี่เล่นไม่ขี้เหล่นะ เป็นครั้งแรกที่มันกล้าบังคับให้นักเตะบัลลงดอร์ต้องวิ่งตามมันสั่ง เพราะ MO7 เห็นควรด้วย ลูกนั้นมันเป็นการเข้าทำที่ซิกแซกพอควร 6. ยิงแบบ ART ART ของเบอร์บี้อาจจะบันเทิง ...แต่ข้าเจ้าว่ายิงเต็มๆ มันก็ชัวร์กว่าเหมือนกัน ยังดีที่กองหลังตัวนั้นไม่พลีชีพเอามือไปปัดบนเส้น... 7. รูนี่ย์ยิงได้ก็ดีใจด้วย... แต่ยังห่างไกลฟอร์มสมัยย้ายเข้ามาใหม่ๆ อยู่ เพราะการวางเท้ามันบ่งบอกถึงความมั่นใจ ตอนเข้ามาใหม่ๆ ดูได้เลยว่าวางเท้ายิงได้อย่างกับว่าข้าคือแวนบาสเท่นเวอร์ชันห้าวเป้ง ...ยิงเป็นเข้า บอลส่ายไซ้สุดๆ ตอนนี้ก็ไม่มีตัวขโมยซีนในทีมแล้ว น่าจะกลับมาลองอัดเต็มข้อแบบนั้นอีกครั้ง ...หรือมันลืมไปแล้วว่ายิงเต็มข้อด้านเท้าด้านนอกที่เคยยิงได้มันทำยังไง? ... การยิงสไตล์นั้น คนยิงที่มั่นใจจะทำให้บอลสามารถ Hook ได้ตามที่ต้องการ เพราะลูกยิงแบบนี้ เป็นลูกยิงแก้ทางโซนรับแบบอุดแหลกได้ผลชงัด ... แบบว่ากำแพงคนจะบังวิถีบอลถึงโกล์ได้มิด จนโกล์ไม่มี่สิทธิ์แม้จะกระโดด ... การยิงแบบนี้แหละ ที่ข้าเจ้าหวังให้รูนี่ย์กลายเป็นผู้เล่นสร้างความแตกต่างให้กับเกมยามคับขันที่สุด และมันยังเป็นการแสดงออกถึงความมี Class ระดับโลกได้ ...ถ้าทำได้ รูนี่ย์จะกลายเป็นอีกระดับนึงไปทันที - สำหรับ MO7 ...ข้าเจ้ารู้สึกปลดแอกตามเจ้าตัวไปด้วยนะฮะ... แม้นาทีนี้จะกลายเป็นเหมือนสิงห์ฝ่อ คือ ถ้าใครที่ตามดูผลงานโอเว่นมาตั้งแต่เริ่มโผล่หน้ามาในจอเหมือนหลายปีก่อน ...จะเห็นแววตาที่ต่างจากตอนนี้มาก แววตาธรรมชาติของเด็กที่เล่นบอลเพื่อความสนุก ปราศจากความกังวลใดๆ ทั้งสิ้น ยิงได้ก็เฮแบบเด็กวัยรุ่น ยิงไม่เข้าก็ ...แม่ม...คราวหน้าเอ็งเสร็จกูแน่! ...แต่เดี๋ยวนี้ ข้าเจ้าเห็นแววตาคนขาดความมั่นใจ เหมือนคนหมดอาลัยในชีวิต คนขี้กลัว หรือคนจิตตกเก็บกด... อดสงสารไม่ได้เลยที่เค้าต้องมารู้สึกเหมือนกับว่าอะไรก็ได้ขอให้กูไม่ไส้แห้ง หรือขอแค่มีงานทำเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ก็พอ ... มันน่าหดหู่พอดูสำหรับคนที่ขึ้นจุดสูงสุดแบบพลุแตก ไม่ใช่ก้าวอย่างมั่นคงมีลีลาอย่างซีดาน หรือกาก้า ...ประตูนั้นแม้แต่ท่าดีใจยังรู้สึกเดียวดายแทนเลย ไม่รู้ว่าในทีมเราจะมีใครที่มีบทบาทนอกสนามไปเป็นกำลังใจ เติมเชื้อไฟและความมั่นใจให้ เป็นเพื่อนกอดคอกนอกสนามและในสนามได้อย่างแท้จริง... คิดดู เจ้าตัวเหมือนยอมรับว่า อะไรก็ได้... จะสั่งกูก็ได้ขอแค่ให้ได้ยิงเข้าเป็นพอ ยอมให้แม้กระทั่งโดนเด็กที่ส่วนมากจะโดนยี้อย่างนานี่ชี้นิ้วสั่งทิศทาง แทนที่จะป้อนให้กองหน้าตามทีศทางที่กองหน้าสร้าง... ข้าเจ้าไม่แน่ใจว่าเป็นเซนส์ที่ปรับปรุงของนานี่หรือเพราะความบังเอิญในทางบอลพอดีหรือเปล่า ถึงได้ออกมาในแนวตัดซ้ายขวา ซึ่งเป็นการเข้าทำที่ Classic อย่างนึง แล้วก็เป็นลูกเก่งในอดีตของโอเว่นด้วย... อยากเห็นความมั่นใจและการเล่นด้วยรอยยิ้มของโอเว่นมาก่อนประตูนะ อยากให้คนในทีมให้กำลังใจเข้ามากๆ เอาให้เค้าลืมไปเลยว่าเคยเป็นเด็กเมอร์ซี่ไซด์ ให้เค้ารู้สึกไปเลยว่า ต่อไปจนแขวนสตัด ...ข้าจะสนุกกับแมนฯ ยูฯ ทุกครั้งที่ได้ลงสนาม จะเมามันไปกับการเล่นและ Passion ของทีม ....พอถึงตอนนั้น ข้าเจ้าว่า เราเหมือนได้ เดนนิส ลอ กลับมาเล่นให้ทีมอีกครั้งแน่ๆ - ข้าเจ้าหวังแค่ว่าต่อไป ไอ้อาการซืมกระทือ นั่งไม่เฉื่อยๆ ของป๋าคงไม่มีบ่อยนะฮะ... แต่อย่างว่า กับวัย 67 ปี ยังไงมันคงไม่สามารถมาคึกได้เหมือนเดิม กระทู้เฮียหงบคราวที่แล้วข้าเจ้าว่าเรื่องตัวตายตัวแทนป๋ายังไง ข้าเจ้าก็ยังยืนยันตามเดิม ...ว่าน่าจะเริ่มจริงจังกับการถ่ายงานกับน่าจะเล็งตัวตายตัวแทนให้ได้ซะที เพราะเวลาสังขารไม่ค่อยเหลือแล้ว ...ป๋าจะมานั่งคุมจน 70 คงไม่ได้มั้งฮะ... ถึงไม่เห็นแก่ตัวเองก็เห็นแกทีมบ้างเหอะ... ตัวแกอาจจะไม่รู้ว่าความแก่ของแกอาจจะถ่ายทอดลงมาทีมด้วย และข้าเจ้าเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นไมค์ ฟีแลนด้วยที่จะสานต่อได้... ตอนนี้เวลาเราแข่ง เราคงต้องไม่ลืมว่า จะมีผู้จัดการทีมอื่นๆ มานั่งดูข้างสนามหลายคนแล้ว ทีมเราเหมือนเป็นบทเรียน Class ติวเข้มเพื่อเป็นทางลัดสู่ความสำเร็จสำหรับโค้ชรุ่นใหม่ไฟแรงไปแล้ว... อย่างเกมล่าสุด เล่นมีนักเรียนเข้ามาดูตั้งเยอะ เอาที่กล้องจับได้ก็มีโอนีลกับมอยซ์ ...แล้วดูผลงานโอนีลเป็นไงล่ะ... อัดสุดยอดทีมคาบ้านชนิดกระทู้ว่อนไปเลย... แล้วทั้ง 2 คนนั่นคือใครละ ...ไม่ใช่แคนดิเดตที่เราอยากให้มาต่อทีมจากป๋าหรอกหรือ? ...เห็นแววแบบนี้แล้วมันก็น่าให้มาคุมเราจริงๆ ถ้าไม่ติดเรื่องบารมีกับเรื่อง ego ป๋าอาจจะวางมือไปตั้งนานแล้วก็ได้.... ............ นัดต่อไปคงได้รู้กันจริงๆ ละ ว่า ...ปืนโฉมใหม่ดุดันกว่าเดิม จะเป็นบททดสอบความเปลี่ยนแปลงของทีมเราในฤดูกาลนี้ได้อย่างดี ...อย่าลืมนะฮะ เราคงใช้คำว่า "เด็กไม่มีประสบการณ์" กับปืนชุดนี้ไม่ได้แล้วนะ... เด็กเวงเกอร์ชุดนี้มันปาเข้าไปฤดูกาลที่เท่าไหร่แล้ว... ถึงจะไม่มี Playmaker อย่างเชส ...แต่ความไหลลื่นในทีมเข้าเริ่มสุกงอมแล้วนะฮะ... แล้วฝั่งเราละ ...เริ่มเข้าที่เข้าทางหรือยัง จากคุณ : _K_F_C_ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:10:01

ความคิดเห็นที่ 29 ยินดีกับหลานภีมที่อาการดีขึ้นครับ ... เป็นความผูกพันระหว่างแฟนบอลด้วยกัน สำหรับเกมส์นั้น ผมก็อยากให้เฟอร์กี้เล่น 4-4-2 ตามตำแหน่งจริงๆ แบบคุณสงบใจเหมือนกัน แต่กองกลางเรา เมื่อเหลือ 2 ตัว  ผมยังสงสัยว่า การสร้างเกมส์ (ตอนนี้ เป็นสโคลส์ สลับกับ กิ๊ก)   และทำลายเกมส์ (มีเฟรทเชอร์คนเดียว  คาริคยังกึ่งๆ อยู่) จะสู้กับกลางของ Big 3 รายอื่นไหวเหรอครับ (มองข้ามหงส์ไปซะเลย ฮิฮิ) (นี่ยังไม่นับกับกองกลางของบาร์ซ่า ใน UCL อีก) จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:11:24

ความคิดเห็นที่ 30 ขอให้น้องหายป่วยเร็วๆ นะคะ : ) จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:11:40

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณน้าหงบสำหรับบทวิพากษ์ค่ะ พระเอกในเกมส์นี้ที่เห็นจะ ๆ ก็สี่หน่อ เวย์นหมูรูนี่ย์, เบอร์บาตอฟ, โอเว่น, นานี่ แต่ที่อยากพูดถึงคือวาเลนเซียค่ะ เราว่าแกเล่นดีขึ้นนะคะ อาการเกร็งน้อยลง เจอกับทีมเก่าก็ไม่ฝ่อ (สงสาร มีโดนโห่ด้วย แต่เรื่องธรรมดานิ) ลูกแรกที่เปิดให้รูนี่ย์โหม่งเข้าไป อิรูนี่ย์รีบวิ่งมากอดขอบอกขอบใจใหญ่ แต่รู้สึกว่าน้องใหม่จะเกร็ง ๆ จะดีใจมากก็ไม่ดีเกรงใจทีมเก่า ดูแกเล่นกับลูกพี่ก็แกรี่ก็พอมีความหวัง ไม่ฝืน พลาดน้อย แต่ดูสไตล์แกแล้ว ปี๊ก ปีก เนาะ คือถ้าลากได้แกก็ลากกกกกกก  แล้วก็เปิดดดดดดด                       สงสัยยังติดภาพเจ้าโด้อยู่ อุอุ ตอนนี้ลุ้นวาเลนเซียยิงเบิกสกอร์ให้ตัวเองได้อีกคนค่ะ และก็หวังว่าจะเล่นเข้ากับระบบทีมได้แบบเนียน ๆ ในเร็ววัน จากคุณ : นู๋ชม เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:12:16

ความคิดเห็นที่ 32 น้องภีม นี่คงได้แม่มาเยอะแน่เลยใช่ไหมครับ  ....   รักษาสุขภาพทั้งครอบครัวนะครับ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 17:28:28 จากคุณ : พริบพรรณดาว เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:20:28

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ครับ เห็นตาน้องภีมแล้วน่าสงสารครับ เศร้าเชียว ขอให้กลับมาร่าเริงแข็งแรงไวๆ บุญรักษาัทั้งคุณสงบใจและครอบครัว จากคุณ : ณัฐกร เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:31:15

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่เกี่ยวกับ บอล แต่เกี่ยวกับ อาการป่วยน้องภีมครับ.. ผมดูจาก อาการน้องภีม ที่คุณสงบใจ เล่าให้ฟัง... เป็ํนอาการ ป่วยที่เป็นกันแทบทุกบ้าน.. จุดสำคัญ อยู่ที่ ต้อง สังเกต อาการตอนเป็นใหม่ ๆ .. ต้องอย่าให้ "บานปลาย".. โดยมี ยา ที่ ควรติดบ้านไว้ เป็นประจำ ก็คือ .. 1. น้ำเกลือแร่ ซอง (รสส้ม หรืออะไรก็ได้) ที่ ไว้ชงดื่ม เวลา ท้องร่วง อาเจียน เสียเหงื่อ... ติดเอาไว้ สัก  4- 5 ซอง (ซองละ 4-5 บาท เท่านั้น) 2. ยา Motilium เป็น ยาไว้กิน ช่วยลดอาการ บีบรัดของกระเพาะ ลำไส้ ไม่ให้ อาเจียน.. 3. ยาฆ่าเชื้อ ที่ได้ผลกว่า 90% คือ พวก Norfloxacin 400 mg. สักแผง 2 แผง ไว้กิน เวลา ท้องเสีย ท้องร่วง.. ไม่ว่า จะมีอาการ อาเจียน ร่วมด้วยหรือไม่ ก็ตาม.. 4. ยา Paracetamol พวก Tylenol .. เผื่อไว้ ถ้ามีไข้ ขั้นตอน .. ที่พึงดำเนินการ เวลา มีอาการอาเจียน ก็คือ 1. ชงน้ำเกลือแร่ กับ น้ำเย็น 1 แก้ว ... ค่อย ๆ จิบ ทีละ 1 ช้อนชา ..เป็น ระยะ ๆ ติดต่อกัน .. ห้าม ดื่ม ทีเดียว หมดแก้ว.. เพราะ จะ อาเจียน ออกมา 2. ถ้ายังมี อาการ อยากจะ อาเจียน อีก .. ก็กิน ยา Motilium ก่อนอาหาร...ด้วยปริมาณน้ำ ที่น้อยที่สุด .. 3. ถ้ามีอาการ ท้องเสีย ร่วมด้วย กับ การอาเจียน .. ก็ต้อง กิน Norfloxacin 400 mg. เช้า 1 เม็ด เย็น 1 เม็ด ..(ถ้าอาการท้องเสีย รุนแรง อาจเพิ่ม อีก 1 เม็ด ก่อนนอน ในวันแรกได้) .. ติดต่อกัน สัก 2 - 3 วัน.. ก็น่าจะหายครับ.. อย่าลืม! .. เคล็ดลับ สำคัญ คือ การ "จิบ" น้ำเกลือแร่ เป็น ระยะ ๆ .. อาเจียนเสร็จแล้ว .. ก็ จิบ ต่อ... อย่าดื่ม...ต้องจิบ อย่างเดียวเลย... และอีกอย่างหนึ่ง คือ ห้ามดื่มนม เด็ดขาด!!! ห้ามกินของมัน ๆ และ ของเผ็ด ๆ เสาะท้อง ...กินข้าวต้มเละ ๆ หรือ โจ๊ก กับหมู กับ ปลา ..จืด ๆ เค็ม ๆ ..แทนการดื่มนม ฝาก ประสบการณ์ส่วนตัว  เพราะที่บ้าน เคยเป็นกันหมด ทั้ง ภรรยา และ ลูก ๆ ครับ!! รู้ไว้ ใช่ว่า เผื่อจะเป็นประโยชน์ครับ... จากคุณ : จิตตารมณ์ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:42:40

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณน้าหงบมากครับ สำหรับบทวิพากษ์เจ๋งๆเช่นเคย และดีใจที่น้องภีมอาการกลับมาเป็นปกติแล้ว ไว้มารออ่านนัดต่อไปครับ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:44:21

ความคิดเห็นที่ 36 แทรกนิดครับ ได้ข่าวว่าน้องแอนบังอาจแข็งข้อกับป๋า ? 555 5 ถ้าจริงก็แน่นอนว่าคงต้องโดนขายทิ้งแหง เก่งแค่ไหน ไม่มีวินัยก็ไม่เป็นที่ต้องการของสังคมทุกสังคมอยู่แล้ว คิดว่าป๋าคงไม่ซื้อใครอีกแน่นอนแล้วล่ะ แต่ส่วนตัวเชื่อครับ ว่าขุมกำลังในมือป๋าตอนนี้ สามารถคว้าแชมป์ได้ทุกรายการ ยกเว้นUCL ที่คงต้องเหนื่อยหนักหน่อย.. จากคุณ : จอนนี่ ย่าง เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:46:31

ความคิดเห็นที่ 37 เข้ามาติดตามและเป็นกำลังใจให้ จขกท. (ไม่มีไรจะพูดแล้วสำหรับนัดนี้เป็นปลื้ม ^.^) จากคุณ : geno_nr เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 18:08:14

ความคิดเห็นที่ 38 น้านนนนนน ลูกชายหล่อ! จากคุณ : ParisHolic เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 18:10:29

ความคิดเห็นที่ 39 ส่วนตัว ไม่ค่อยรู้สึกว่ากองกลางทีมเราทำเกมหรือคอนโทรล จังหวะของเกมได้เลย ตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ทีมเรา ต้องมีนักเตะอย่าง ฮากรีฟ คอยกรองบอลก่อนจะมาถึงกองหลังและคอยเชื่อมบอลไปหน้าอีกที... เฟลช ทำได้ แต่ไม่เนียนเท่า เหมือนชนะ แต่ไม่รู้สึกว่าเข้าฟอร์มอ่ะครับ เอาใจช่วยกันต่อไป... จากคุณ : กังป๋วย เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 18:28:54

ความคิดเห็นที่ 40 ขอให้น้องภีมแข็งแรงเร็ววันนะครับ คุณพ่อจะได้สบายใจ ^-^ ในมุมมองของผม ในครึ่งแรกรูปเกมส์เปิดมา ยูไนเต็ด บุกเข้าใส่ วีแกน อย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่ได้ประตู ต้องชมเคิร์กแลนด์ และ แมวน้ำ บรัมเบิ้ล ที่สกัดจังหวะสุดท้ายได้ตลอด   ตัวอันตรายของ แมนยู มีแค่ รูนี่ย์ สโคลส์ และ เฟรช     พอวีแกนตั้งเกมส์ได้ ก็มีสวนเกมส์กลับมาพักๆ แต่ก็ยังไม่ผ่านวีดิช และ ฟอสเตอร์ โดยเฉพาะในช่วงนาทีที่ 30 - 40 แทบจะเป็นวีแกนที่บุกพับสนามเรา  โดยเฉพาะ อูโก้ โรดาเยก้า เก็บบอลได้ดี เนื่องด้วยเราเล่นบอลโยน แล้วก็ไม่แม่น   แถบปีกสองข้าง ยังกล้าๆเกร็งๆ โดยเฉพาะนานี่ ครึ่งแรกไม่ไหวเลย ตอนนั้นเริ่มเกิดอารมณ์ปลงว่า หรือ จะเข้าอีหรอบเดิมไหมหว่า? โดยเฉพาะลูกยิง ของสโคลส์และเฟรชเชอร์ ที่น่าจะเข้า ครึ่งหลังกลับมาแมนยู ปรับสปีดให้เกมส์เร็วขึ้น แต่ก็ยังมีการสวนกลับ ของวีแกนเป็นพักๆ  ในที่สุดก็มาได้ประตูปลดล๊อค จากการ โยนของ AV รูนี่ย์โขกเข้าซ้ายมือ อย่างสวยงาม   เหมือนความเกร็งทั้งหลายถูกทลายลง แมนยู เริ่มต่อบอลไหลรื่นขึ้น จนครองแดนกลางไว้ได้ มาได้ลูกสองจากความเหนือชั้นของเบอร์บา   ส่วนลูกสาม ได้มาจากการตัดสินใจของรูนี่ย์ที่จะยิงยัดเสาแรก แต่ก็ไปแฉลบ ด้วยทำให้ลูกรับยากขึ้นไปอีก  หมดสิทธิ์สำหรับเคิร์กแลนด์ จากนั้น ป๋าก็เปลี่ยนผู้เล่น สำคัญๆออก เพื่อทำการพัก และ ลดอาการบาดเจ็บ ส่ง MO7 , โอเชีย และ กิ๊บซ่า ลงมาแทน รูนี่ย์ อีแวน และ สโคลส์ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนตามตำแหน่งเป๊ะ.... จากนั้น นานี่ เริ่มจะเล่นดีขึ้นเรื่อยๆเมื่อจ่ายให้ MO7 เข้าไปยิงอย่างเหนือชั้น พร้อมกะปั่นฟรีคิกสุดสวย ให้ แมนยูปิดกล่องไปที่ 5 - 0 สรุป ผมว่านัดนี้ยังวัดอะไรไม่ได้มาก เพียงแต่จะได้ความมั่นใจ กลับมา พร้อมกองหน้า ต่างเบิกสกอร์กันได้ครบ   แต่ผมยังเป็นห่วงแดนกลางเหมือนเดิม ว่า ถ้านัดไหน ปีกออกทะเล เหมือนสองนัดแรก จะทำอย่างไร? และ นัดไหน สโคลส์ไม่ได้ลง มิติเกมส์รุกจะถูกลดทอนลงไปแค่ไหน? เพราะต้องยอมรับเรื่องสังขารของเค้า  คงลงไม่ได้ทุกเกมส์ ส่วนแกรี่ ก็ช้าลงไปเยอะ ดีที่แผลยังไม่ได้ถูกปีกชั้นดี ฉีกออกเป็นวิ่นๆ ทั้งอีแวนยังไม่สมบูรณ์ดี แถมสำรองอย่างเวส บราวน์ช่วงนี้ก็ยังบู่อยู่ คนที่เด่นสุดๆ คง ไม่พ้น รูนี่ย์  วีดิช  ฟอสเตอร์ สโคลส์ ที่เหลือก็เล่นได้ดีแล้วครับ นัดหน้าน่าจะเป็นการเจอของแข็งครั้งแรกเสียทีสำหรับฤดูกาลนี้ ว่าเราจะสามารถรับมือกองกลางที่เหนือกว่าเราได้หรือไม่ ?????????? จากคุณ : ~killdeathnote~ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 18:49:07

ความคิดเห็นที่ 41 หวัดดีครับคุณสงบใจ ผมเขียนคห.นี้ไว้ก่อนที่จะได้อ่านของคุณสงบใจนะครับ อาจจะมีอะไรที่ซ้ำๆกันบ้าง ไม่ว่ากันนะครับ เรื่องฟอร์มผมคงไม่พูดอะไรมาก คนที่ตั้งใจดูดีๆ ไม่ได้ดูแค่ผลคงรู้นะครับ ว่าทีมเรายังไม่เข้าฟอร์มเท่าไหร่ การเบิกประตูแรกถือได้ว่าเป็นปัญหาหลักของเราในตอนนี้ รูนี่ย์ยังติดนิสัยชอบลงมาล้วงบอล บาเลนเซียยังปรับตัวได้ไม่เต็มที่ทำให้บางจังหวะไม่กล้าลอยสูง แล้วคู่กลางของเราดันไม่เติมอีก ทำให้ตัวเลือกในเกมรุกมันหายไปพอสมควร พอเจอกับทีมที่กะมาตั้งรับแล้ว บางทีมันก็ดูอึดอัดนะครับ อีกอย่างที่เราต้องปรับปรุงคือความคมครับ สามนัดที่ผ่านมา จัดได้ว่าความคมเราอยู่ในเกณฑ์ไม่ค่อยดีนัก แม้นัดล่าสุดจะยิงเยอะ แต่ก่อนจะได้ประตูแรก ผมว่ามีอย่างน้อยสองจังหวะที่สมควรได้ประตู เรื่องนี้ต้องปรับปรุงครับ อีกเรื่องที่ผมอยากขอความเห็นคุณสงบใจคือ เรื่องคู่กองกลางของเราครับ ตอนนี้โรนัลโด้ไปแล้ว บาเลนเซียเป็นปีกที่เล่นเกมรับได้ดีกว่าโด้แน่ๆ แต่นั่นก็หมายถึงเกมรุกที่ด้อยลง ซึ่งตอนนี้ผมว่าเราต้องการกองกลางที่สอดขึ้นมาทำประตูได้บ่อย(อย่างน้อยยิงไกลก็ยังดี) ต้องการมากพอๆกับกองกลางตัวรับแหละครับ สโคลส์ - เล่นได้เยี่ยม ทัศนคติในเกมดี เปิดบอล เปลี่ยนแกนยอด แต่แก่เกินไปแล้วหล่ะครับ เกมรับแทบไม่ได้ช่วยเลย เฟลท - ผมว่าศักยภาพของเฟลทคงมาได้ประมาณนี้แหละครับ เป็นลูกหาบพอได้ แต่เปิดบอลค่อนข้างแย่ เล่นดีเป็นบางนัด แต่คงไม่ใช่ระดับตัวจริงของทีมอย่างแมนยูแน่นอน กิ๊บสัน - หลายๆคนเชียร์เด็กคนนี้ แต่ผมกลับมาว่าเค้าไม่ใช่นักเตะพรสวรรค์หน่ะครับ ถ้าเก่งจริง แววมันต้องฉายแล้ว นี่ดีอย่างเดียวคือยิงไกล ส่งบอลธรรมดา การมองเกมถือว่าแย่ ตัดบอลก็งั้นๆ ไม่น่าปั้นเท่าไหร่ แอนเดอร์สัน - จริงๆผมเชียร์คนนี้ แต่ยิ่งเล่นยิ่งดรอปลงไป อยากลองให้โอกาสอีกซักหน่อย หวังว่าจะกลับมาได้ กิ๊ก - คล้ายสโคลส์ครับ แต่เกมรับแย่กว่า ไม่อยากให้ลงคู่กลางในระบบ 4-4-2 เลยจริงๆครับ หลายๆคนอาจจะคิดว่าบอลก็ชนะ แต่ทำไมผมติทีมเยอะจัง แต่ผมคิดว่า จากการดูมาสามแมตช์ ทำให้ผมสังเกตว่า ปีนี้บอลไปถึงปากประตูเราบ่อยมาก ทั้งๆที่เล่นกับทีมเล็ก ซึ่งสาเหตุผมคิดว่ามาจากกองกลางไม่ช่วยสกรีนเลย ส่วนเกมรุก บางจังหวะกลางโล่งชัดๆ แต่กลับไม่มีตัวยิงไกล หรือบางทีที่กองหลังฝ่ายตรงข้ามดันสูงมาแล้วเปิดพื้นที่ แต่กลางเราก็ไม่วิ่งสอดเข้าไป ดูแล้วค่อนข้างเหนื่อยใจหน่ะครับ ปีนี้ผมคงไม่หวังอะไรมาก ไม่ได้หวังถึงแชมป์ แต่หวังให้เด็กๆในทีมเติบโตขึ้นมา ปรับตัวเข้ากับการจากไปของโด้ให้ได้ และที่สำคัญที่สุดคือลิเวอร์พูลไม่ได้แชมป์ แค่นี้ผมพอใจแล้วหล่ะครับ 555 ปล. หวังว่าลูกคุณสงบใจจะหายเร็วๆนะครับ จากคุณ : โค้วเต๊กซิม เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 19:03:43

ความคิดเห็นที่ 42 หวัดดีครับคุณสงบใจ ผมเขียนคห.นี้ไว้ก่อนที่จะได้อ่านของคุณสงบใจนะครับ อาจจะมีอะไรที่ซ้ำๆกันบ้าง ไม่ว่ากันนะครับ เรื่องฟอร์มผมคงไม่พูดอะไรมาก คนที่ตั้งใจดูดีๆ ไม่ได้ดูแค่ผลคงรู้นะครับ ว่าทีมเรายังไม่เข้าฟอร์มเท่าไหร่ การเบิกประตูแรกถือได้ว่าเป็นปัญหาหลักของเราในตอนนี้ รูนี่ย์ยังติดนิสัยชอบลงมาล้วงบอล บาเลนเซียยังปรับตัวได้ไม่เต็มที่ทำให้บางจังหวะไม่กล้าลอยสูง แล้วคู่กลางของเราดันไม่เติมอีก ทำให้ตัวเลือกในเกมรุกมันหายไปพอสมควร พอเจอกับทีมที่กะมาตั้งรับแล้ว บางทีมันก็ดูอึดอัดนะครับ อีกอย่างที่เราต้องปรับปรุงคือความคมครับ สามนัดที่ผ่านมา จัดได้ว่าความคมเราอยู่ในเกณฑ์ไม่ค่อยดีนัก แม้นัดล่าสุดจะยิงเยอะ แต่ก่อนจะได้ประตูแรก ผมว่ามีอย่างน้อยสองจังหวะที่สมควรได้ประตู เรื่องนี้ต้องปรับปรุงครับ อีกเรื่องที่ผมอยากขอความเห็นคุณสงบใจคือ เรื่องคู่กองกลางของเราครับ ตอนนี้โรนัลโด้ไปแล้ว บาเลนเซียเป็นปีกที่เล่นเกมรับได้ดีกว่าโด้แน่ๆ แต่นั่นก็หมายถึงเกมรุกที่ด้อยลง ซึ่งตอนนี้ผมว่าเราต้องการกองกลางที่สอดขึ้นมาทำประตูได้บ่อย(อย่างน้อยยิงไกลก็ยังดี) ต้องการมากพอๆกับกองกลางตัวรับแหละครับ สโคลส์ - เล่นได้เยี่ยม ทัศนคติในเกมดี เปิดบอล เปลี่ยนแกนยอด แต่แก่เกินไปแล้วหล่ะครับ เกมรับแทบไม่ได้ช่วยเลย เฟลท - ผมว่าศักยภาพของเฟลทคงมาได้ประมาณนี้แหละครับ เป็นลูกหาบพอได้ แต่เปิดบอลค่อนข้างแย่ เล่นดีเป็นบางนัด แต่คงไม่ใช่ระดับตัวจริงของทีมอย่างแมนยูแน่นอน กิ๊บสัน - หลายๆคนเชียร์เด็กคนนี้ แต่ผมกลับมาว่าเค้าไม่ใช่นักเตะพรสวรรค์หน่ะครับ ถ้าเก่งจริง แววมันต้องฉายแล้ว นี่ดีอย่างเดียวคือยิงไกล ส่งบอลธรรมดา การมองเกมถือว่าแย่ ตัดบอลก็งั้นๆ ไม่น่าปั้นเท่าไหร่ แอนเดอร์สัน - จริงๆผมเชียร์คนนี้ แต่ยิ่งเล่นยิ่งดรอปลงไป อยากลองให้โอกาสอีกซักหน่อย หวังว่าจะกลับมาได้ กิ๊ก - คล้ายสโคลส์ครับ แต่เกมรับแย่กว่า ไม่อยากให้ลงคู่กลางในระบบ 4-4-2 เลยจริงๆครับ หลายๆคนอาจจะคิดว่าบอลก็ชนะ แต่ทำไมผมติทีมเยอะจัง แต่ผมคิดว่า จากการดูมาสามแมตช์ ทำให้ผมสังเกตว่า ปีนี้บอลไปถึงปากประตูเราบ่อยมาก ทั้งๆที่เล่นกับทีมเล็ก ซึ่งสาเหตุผมคิดว่ามาจากกองกลางไม่ช่วยสกรีนเลย ส่วนเกมรุก บางจังหวะกลางโล่งชัดๆ แต่กลับไม่มีตัวยิงไกล หรือบางทีที่กองหลังฝ่ายตรงข้ามดันสูงมาแล้วเปิดพื้นที่ แต่กลางเราก็ไม่วิ่งสอดเข้าไป ดูแล้วค่อนข้างเหนื่อยใจหน่ะครับ ปีนี้ผมคงไม่หวังอะไรมาก ไม่ได้หวังถึงแชมป์ แต่หวังให้เด็กๆในทีมเติบโตขึ้นมา ปรับตัวเข้ากับการจากไปของโด้ให้ได้ และที่สำคัญที่สุดคือลิเวอร์พูลไม่ได้แชมป์ แค่นี้ผมพอใจแล้วหล่ะครับ 555 ปล. หวังว่าลูกคุณสงบใจจะหายเร็วๆนะครับ จากคุณ : โค้วเต๊กซิม เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 19:04:27

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์นะคะ นัดนี้คงไม่มีความหมายอะไรไปกว่าการเรียกความมั่นใจให้กลับคืนมา เสาร์หน้านี่แหละ คือบทพิสูจน์อีกบทหนึ่งที่สำคัญ  ^^ ขอให้น้องภีมสุขภาพแข็งแรงนะคะ  ^^ จากคุณ : Noey :p เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 19:14:30

ความคิดเห็นที่ 44 สกอร์สวย รูปเกมส์พัฒนาขึ้นมานิด ต้องรอให้จ่ายบอลคายบอลแบบไม่ต้องมอง ทีมเวิร์คบังเกิดเมื่อนั้น 4-4-2 Retro ยุคใหม่น่าจะดีขึ้น แต่ถ้าใน UCL จ้ะเอ๋ ทีมที่มีทีมเวิร์คแน่นๆ เทคนิคดีๆ เหนื่อยแน่ครับ เพราะกองกลางเราขาดความดุดันเป็นอย่างมาก อย่าหาว่าผมโม้เกินเลย ผมเห็นว่ากองกลาง สเปอร์ วิลสัน ปาลาสซิออส กับ ฮัสเดิสตัน ยังแน่นกว่า กองกลางเราเลย ยังคิดเสียดาย ที่ ท่านเซอร์ไม่จัดแพคคู่ มาจาก วีแกน ซะเลยเมื่อปีที่แล้ว ปล. ขอให้น้องภีม สุขภาพแข็งแรงครับ คุณพ่อจะได้หลับสบายๆบ้าง จากคุณ : ค้างคาวเฒ่า เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 19:23:32

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์นะครับ รอลุ้นกัดต่อไปอย่างตื่นเต้น ปอลอ ลูกชายน่ารักมากครับผม จากคุณ : Retrojazz60s เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 19:26:28

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณน้าหงบใจ มากครับ ทั้ง Give ทั้ง Vote .. จากคุณ : anurak_jun เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 19:28:28

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณมากค่ะสำหรับบทวิพากษ์ ขอให้น้องภีมแข็งแรงไวๆ ไม่ต้องหาหมอไปอีกนาน^^ จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 20:48:11

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณมากเลยครับ ขอให้น้องภีมกลับมาสดใสแข็งแรงเร็วๆนะครับ จากคุณ : นายคิ้วเข้ม เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 21:37:10

ความคิดเห็นที่ 49 ขอให้น้องเขาหายไวๆ นะครับ จากคุณ : เจ้าชายชาเย็น เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 21:46:38

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณมากๆค่ะ น้องภีมน่ารักน่ากินมากๆเลยค่ะ :P จากคุณ : poojo_ke เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:08:59

ความคิดเห็นที่ 51 กรี๊ดดดดดดดด เพิ่งเคยเห็นรูปน้องภีม น่ารักจังเลยค่ะ ^__^   หายไวๆนะค้า แล้วก็ขอบคุณสำหรับกระทู้ตามเคยค่ะ ^^ จากคุณ : ** Riviera ** เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:18:44

ความคิดเห็นที่ 52 เห็นด้วยครับ เสียดาย ปาลาซิออส มากๆ เหนียวแน่นในเกมรับ เล่นหนัก แล้วแย่งบอลแกยาก เล่นคล้ายพวกรอยคีนซะงั้น แต่ไม่โหด และระห่ำเท่า ชั่วโมงนี้ ผมอยากได้กองกลางที่ยิงไกลเป็น และทำได้สักห้าถึงสิบประตูครับ ถ้าเอาแบบมีโปรไฟล์มาก่อน ก็ต้องพวกดัตช์ตกอับที่มาดริดนั่นหละ ฟาร์ท สไนเดอร์ พวกนี้ ถ้าเอามายืนเป็นกลางรุก แล้วให้เฟลท กะคาริค เล่นกลางรับ พอจะไปไหวไหมเอ่ย... คือ แอนนี่ก็เล่นได้ แต่ผมว่า หมอนี่ไม่มีทีเด็ดในการยิงเลยอะ จุดเด่นอยู่ที่ killer pass กับ วิ่งสู้ฟัดเท่านั้น คือ แต่ก่อนมีโด้เป็นตัวฟรี หุบเข้ามายิงไกลได้ แต่ผมองว่า ถ้าจะกลับมาเล่น 4-4-2 ยุคทริปเปิลแชมป์ล่ะก็ ตัวกลางต้องขู่คู่แข่งให้ได้เหมือนลูกยิงไกลของสโคลส์ในช่วงนั้นครับ ซึ่งดูสโคลส์วันนี้แล้ว วันนั้นหลุดเดี่ยวจ่อๆ ยังอัดข้ามคานเลยครับ จากคุณ : vdi เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 23:06:53

ความคิดเห็นที่ 53 มาอ่านครับ นัดนี้ไม่ได้ดู  ไปต่างจังหวัดมา ได้ดูแต่ไฮไลท์  เลยไม่รู้จะวิพากษ์ช่วยยังไง แต่ยังไงก็ดีใจครับที่ทีมชนะ  แถมยิงได้เยอะด้วย ป.ล.  น้องภีมน่ารักนะครับ  หล่อด้วย ได้ทางพ่อหรือแม่เยอะกว่ากันหล่ะครับ ถ้าได้ทางพ่อ  แสดงว่าคุณสงบใจก็ต้องหล่อพอควร (พูดตรง ๆ ก็คืออยากเห็นรูปคุณสงบใจนั่นแหละครับ  อิอิ) จากคุณ : ขุนไกรครับผม เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 23:26:30

ความคิดเห็นที่ 54 สวัสดียามดึกครับ คุณสงบใจ จริงๆเกมนี้ต้องบอกว่าผมดูเกมตั้งแต่ครึ่งแรกก็มั่นใจว่าแมนยูจะชนะ แต่ไม่คาดคิดว่าจะถล่มทลาย เพราะวีแกนเปิดพื้นที่เยอะเหลือเกิน เพียงแต่เราจบไม่ได้จะบอกว่าโชคไม่ดีไม่ได้ ต้องใช้คำว่าห่วยเอง ผมเข้าใจมาร์ติเนซน่ะต้องการทำบอลแบบมีสไตล์ แต่เขาต้องเรียนรู้อีกเยอะ วีแกนไม่ใช่บาร์ซ่า แล้วเปิดพื้นที่แบบนี้เบิร์บก็เล่นเป็นเทพสิครับ เพราะเพื่อนโดนคุมห่างป้ายบอลเพลินเลยแต่ขายังอ่อนกว่าตอนอยู่สปอร์เยอะ มีข้อสังเกตนิดนึง ลูกแรกที่รูนโขกเนี่ย ผมสังเกตหลายทีล่ะ น่าจะเป็นลูกซ้อมมา เพราะวเลนเซียเป็นตักบอลระดับกลางแล้วตกตรงกลางพอดี ถ้าสังเกตดีๆจะมีผู้เล่นแมนยู  วิ่งเข้าไปขนาบตัวกลางเป็นแถวตอนเรียงสามเลย ซึ่งผมว่าไอเดียใช้ได้ นอกจากบล็อกตัวประกบหน้าหลังให้ตัวกลางแล้ว เหมือนยึดพื้นที่ตรงนั้นไปเลยเรียกว่าตกหัวใครก็ได้จ่อๆหมด ขอพอแค่นี้ก่อนและกันครับเริ่มง่วงๆล่ะ ปล.ลูกชายน่ารักน่ะครับ หน้าเกาหลีกำลังอินเทรนด์เลย อิๆ แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 01:19:56 จากคุณ : กระบี่เก้าสําเนียง เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 01:19:09

ความคิดเห็นที่ 55 ลูกชายน่ารักมากๆเลยครับ ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์ด้วยครับ ^^ จากคุณ : ArtDayNight เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 01:27:12

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณครับคุณจิตตารมณ์ สำหรับคำแนะนำที่มีประโยชน์มากๆ ยาที่ผมมีติดบ้านไว้ก็มีอย่างที่คุณจิตตารมณ์ว่ามาเลยครับ แล้วก็แก้ไข รักษาอาการตามนั้นเลย ซึ่งอาการจะดีขึ้นในช่วงกลางวันถึงค่ำ แต่พอตื่นเช้ามาก็เดี้ยงอีก พอเป็นมาสามวันติดแล้วก็เริ่มมีไข้ ปัญหาคือสามวันแล้วยังไม่หาย ทั้งๆที่ไม่ได้ทานอะไร จิบแต่น้ำ แต่เกลือแร่นี่แหละ ร่างกายเริ่มซูบลงเรื่อยๆ สามวัน นน.ลดไปครึ่งโลทีเดียวครับ อันนี้หมอเลยขอแอดมิทเพื่อตรวจเชื้อไวรัสว่าเป็นตัวไหน หมอเริ่มหวั่นใจว่าอาจเป็นไข้เลือดออกที่อาจยังไม่แสดงจุดเลือด เพราะเริ่มมีไข้ แต่สำคัญที่สุดคือการที่ร่างกายไม่รับอะไรเลย motilium ก็อาเจียนเหมือนกัน สุดท้ายจึงต้องแอดมิทเพื่อให้น้ำเกลือครับ ตัดวงจรกระเพาะอาหารออกไป ก็เป็นข้อมูลเพิ่มสำหรับท่านอื่นนะครับ ถ้าสามวันแล้วรักษาตามคุณจิตตารมณ์ว่ามาแล้วยังไม่หาย อันี้ต้องพิจารณาแล้วว่าเกิดจากอะไร ทางที่ดีคือน้ำเกลือเข้าเส้นเลือด เพื่อตัดวงจรอาเจียนออกไปเลย พอได้น้ำเกลือครึ่งวันกับยาเข้าเส้นเลือด ทีนี้ก็สบายขึ้นเยอะครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 08:28:25

ความคิดเห็นที่ 57 ข่าวของทีมเกี่ยวกับแอนนี่ ถ้าเป็นตามข่าวที่ว่ามาจริง เตรียมเห็นแอนนี่เก็บข้าวของภายในสุดสัปดาห์นี้เลยครับ ป๋าไม่เอาไว้แน่ ระบบทีมเสียหมด ถ้ากล้าแข็งข้อขนาดไม่ยอมรับการเป็นตัวสำรอง แล้วถ้าป๋าขายแอนนี่ออกไปจริงๆ ผมมองว่ามีซื้อเข้ามาแน่ๆ เพราะขุมกำลังเราหายไป จะเหลือแค่ สโคลส์-คาร์ริค-เฟล็ทเชอร์ ที่เป็นตัวหลักได้ ส่วนกิ๊บสัน-พอส นี่ยังต้องบ่มต่อ อันนี้ตามข่าวกันดีๆครับ ช่วงนี้มีเล็งปีกไว้ด้วย คือร็อบเบน (เปราะไปนิดนะ) ตามความเห็นผม แต่แรกอยู่แล้วเนี่ย ผมต้องการมิดฟิลด์คุณภาพดีๆสักคนอยู่แล้ว ตั้งแต่ปีก่อนแล้ว แต่ภาพของโรนัลโด้มันข่มทุกอย่างไปหมด ทำให้ดูเหมือนเราไม่จำเป็น พอโรนัลโด้จากไป เราจึงเห็นกันชัดเจน ว่าสมดุลเราเสียไปนานแล้ว แต่โด้แบกไว้ให้แทน ทีนี้ เราจะกลับมาหาสมดุลด้วยระบบ 4-4-2 อีกครั้ง มันจึงค่อนข้างมีปัญหา กลางเราต้องแน่นครับ และมีภาวะผู้นำสูงด้วย ถ้าจะเล่นระบบแบบนั้น ผมจึงอยากได้กองกลางสักคนที่คุมเกมได้ กำหนดจังหวะทิศทางเกมได้เอง ยิ่งถ้าเสียแอนนี่ไปอีกคนนี่ยิ่งต้องหาเลย เพราะเราจะไม่เหลือตัวฮาร์ดแมนแล้ว ถ้ามีแต่ประเภทคลาสสิค เกมของคู่ต่อสู้จะไม่เหลือความเกรงกลัวเราอีก สโคลส์ก็ไม่ไหวแล้ว ตามข่าวดีๆครับ ไม่แน่...การที่สไนเดอร์กลับลำกระทันหันไม่ไปอินเตอร์ มันอาจมีสโมสรเราเข้ามาเอี่ยวด้วยก็เป็นได้ ยิ่งถ้าสนใจร็อบเบนด้วยนี่...อาจเหมาแพ็คคู่สุดคุ้มมา แลกกับการปล่อยแอนนี่ออกไป เพราะก็มีข่าวว่าบาร์ซ่าก็สนใจแอนนี่เช่นกัน ปล. เห็นด้วยกับคุณเคเอฟซีครับ เรื่องตัวแทนป๋า ต้องเริ่มคิดจริงๆจังๆได้แล้ว จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 08:42:30

ความคิดเห็นที่ 58 สวัสดีครับ เป็นแฟนปืน แต่ก็แฟนสงบใจด้วย ความมั่นใจคืนเร็วสมกับเป็นแมน ยู จริง ๆ มาทันเวลาที่จะเจอกับทีมของผมเสียด้วย ได้พักเต็มสัปดาห์มาอีกต่างหาก ถ้าเชส ไม่ไหว แล้ว ริโอ ก็ไม่ได้ลงด้วย คงพอดีกันนะ (เพราะถึงปืนจะเล่นด้วยระบบ แต่พลังของเชสที่พาผองเพื่อนให้ฮึดสู้ตลอดเวลา ก็มีความสำคัญ) วีดิช กลับมาซะแล้ว ปืนผมก็คงเจอตออันเบ้อเริ่ม แต่อย่างไรก็ตาม ปืน กับ ผี เจอกัน ก็มันเสมอครับ แม้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะ นี่คือ สองทีม ที่เล่นเกมรุกเป็นอาชีพหลัก เกมรับเป็นงานเสริม จากคุณ : The Old Gun เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 09:19:56

ความคิดเห็นที่ 59 เสียดายแอนนะคะ แต่ถ้าได้รอบเบน+ชไนเดอร์ คุ้มสุดๆค่ะ ไม่เคยเห็นพี่ตอฟดีใจขนาดนี้มาก่อน 55+ พี่วีทำให้สบายใจขึ้นเยอะมาก เบนก็ทำให้สมกับที่ไว้ใจเลยค่ะ นัดหน้าเป็นนัดพิสูจน์เบนอย่างแท้จริง หลังจากกลับมาเข้าที่เข้าทาง จากคุณ : ผีหลายบทบาท เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 09:29:09

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณค่ะคุณสงบใจ .. และยินดีด้วยค่ะที่น้องภีมสุดหล่อหายป่วยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว.. เกมส์คืนวันเสาร์ ครึ่งแรกค่อนข้างอึดอัด ดูไปก็คิดถึงนังโด้ไป.. พอครึ่งหลังดูได้ไม่เท่าไหร่ก็โดนไล่ให้ไปนอน หารู้ไม่ว่าพอคล้อยหลัง แมนยูก็กระซวกประตูเป็นว่าเล่น... .. เออ ทีกรูนั่งดูเมิงนะ ไม่ยอมยิง .. พอกรูไปนอนเท่านั้นแหละ พวกเมิง ยิงกระจาย.. จำไว้เลยเอ็ง.. จากรูปเกมส์เท่าที่ได้นั่งดู ในความรู้สึกแล้ว คิดว่านอกจากวิดิชที่เล่นเป็นเทพ แล้ว ก็มีเทพเฟลทอีกคนที่เล่นได้เข้าตาเหลือเกิน ขยันวิ่ง ขยันตัดบอล .. คิดว่าเฟลชเชอร์จะเป็นกำลังสำคัญของทีมเราและขยับจากเทพเป็นเซียนในอนาคตอันไกล้นี้ (หรือเปล่า) แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 09:45:03 จากคุณ : รัศมีจันทร์ดารา เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 09:44:38

ความคิดเห็นที่ 61 บอกตรงๆๆ ไม่ได้ดู แต่มาดูไฮไลท์เอา รู้สึกดี ที่มีโอเว่นอยู่ในทีม เพราะโอเว่น เล่นเข้าทีมดีอ่ะ จากคุณ : freetimez_เวลาอิสระ เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 10:12:46

ความคิดเห็นที่ 62 แวะมาอ่านเช่นเดิมค่าป๋าหงบ ยินดีด้วยค่ะที่น้องภีมอาการดีขึ้น ขอบคุณบทวิพากษ์ดีๆเช่นเคยนะคะ จากคุณ : ดาวเคียงดอย เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 15:32:33

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : จุ๊ เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 16:42:51

ความคิดเห็นที่ 64 กลับมา พูดถึง ฟุตบอล... ผม สังเกต ดูจาก ข่าวเรื่อง การบาดเจ็บ ของ ฮากริบ .. ซึ่งอาจทำให้ไม่ได้รับการต่อสัญญา การฮึดฮัด ของ น้องแอน (ที่ไม่ใช่ คูนิโคว่า ..อิอิ) + กับ ข่าวลือ เรื่อง ไมเคิล คาร์ริค.. และ "แรงกดดัน" จาก ทีม Big Four + Man City ... ทำให้ผม คาดการณ์ว่า ถ้าไม่ใช่ วันที่ 31 สิงหาคม นี้ ก็ต้องเป็น ภายในตลาดเปิด เดือน มกราคม หน้า..ที่จะได้เห็น มิดฟิลด์ ตัวใหม่ ของ ปีศาจแดง แน่นอน! แต่ จะเป็นใครนั้น ? คงอยู่ที่ ฝีมือ การเจรจา ของ เดวิด กิลล์ แล้ว! เพราะ เงินก็มีเหลือ (จากการขายเจ้าโด้) .. ถ้าไม่ซื้อ .. ผมว่า ปีนี้ อาจไม่ได้ทำ สถิติ ทีมแรก ที่เป็น แชมป์ 4 ปี ติด .. (อ้อ... ถึงซื้อ มิดฟิลด์ มาเพิ่ม ก็ไม่ได้ "การันตี" ตำแหน่งแชมป์ นะครับ ... หุ หุ) จากคุณ : จิตตารมณ์ เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 17:26:29