PANTIP.COM : S8368017 [[This is Our City]]>ต<า>ม<ร>อ<ย>แ>ม้<ว>ซิ< ตี้>-27--09--09->น้องฮิวจ์สของพี่ลินิเกอร์ [ฟุตบอลต่างประเทศ]

ความคิดเห็นที่ 1

น้องฮิวจ์สของพี่ลินิเกอร์

จากบทความของลินิเกอร์ ในเดลี่เมย์

ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่ามาร์ค ฮิวจ์ส เพื่อนร่วมทีมขี้อายชาวเวลส์ในทีมบาร์เซโล่น่าจะเป็นผู้จัดการทีมใหญ่
แต่สปาร์กี้ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาทำได้และเอาทุกคนอยู่

ผมรู้จักมาร์ค ฮิวจ์สมาครึ่งชีวิต เราค้าแข้งด้วยกันที่บาร์เซโลน่าในซัมเมอร์เดียวกันเมื่อปี 1986
เล่นอยู่ด้วยกันในทีมของแทร์รี่ เวเนเบิลส์ และ หลุยส์ ฟโรกอเนส และยังติดต่อกันตลอดหลังจากนั้น

ถ้าคุณบอกผมว่ามาร์ค ฮิวจ์ส วัย 22 ปีจะประสบความสำเร็จในการเป็นผู้จัดการทีม
และเป็นผู้รับผิดชอบในสโมสรที่ถูกกล่าวว่าร่ำรวยที่สุดในโลก ผมคงหัวเราะงอหาย

ถึงแม้ว่าเราจะไปกันได้ดีกับบาร์ซ่าและสนุกกับการออกย่ำราตรีในบางครั้ง
เขาไม่ได้ทำให้คิดได้เลยว่ามีคุณสมบัติในการจัดการติดตัวอยู่
เขาค่อนข้างเงียบๆในสนามซ้อม ขี้อายเลยล่ะ แตกต่างจากรูปแบบวิธีการเล่นของเขา

เขาค่อนข้างจะไม่มีระเบียบยุ่งเหยิงไปหมดผมคงต้องใช้เวลาตลอดกาลที่จะดูแลนักเตะวัย 22 ปีคนนี้
นั่นอาจเป็นเพราะเขาอ่อนกว่าผมอยู่หลายปี แต่ผมไม่คิดว่ามาร์คมีความสุขกับประสบการณ์ในการอยู่ต่างประเทศ
ผมยังจำได้ว่าเขาจะมีธงชาติเวลส์ติดไว้ที่หน้าต่างที่อพาตเมนต์ของเขาจากหัวมุมห้องของผม

เราไปเรียนภาษาสเปนด้วยกันในตอนแรก แต่หลังจากสองครั้ง เขาเื่บื่อหน่ายและเราไม่ได้เห็นเขาอีกเลย

ในสนามหลายอย่างไม่ได้เป็นใจ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การเล่นที่ใช้กำลังจนเกินไปในสายตาของผู้ตัดสินสเปน
ที่จะไม่ได้ให้โอกาสเขามากนัก
การทำประตูเหือดแห้งลงและหลังจากการผ่านลูกที่ผิดพลาดครั้งหนึ่ง แฟนบอลก็เริ่มเป่าปากใส่เขา
สัญญาณของการหมดความอดทน

เมื่อผมเห็นเขาก้มหัวอย่างท้อแท้ ผมจำได้ว่าตะโกนบอกเขาว่า
"ไม่ต้องห่วง สปาร์กี้ แค่คิดถึงการเตรียมพร้อม"
นั่นทำให้เขายิ้มได้

เมื่อเวเนเบิ้ลออกไปและอเรกอนส์เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมแทน
ผมต้องเป็นล่ามให้กับทั้งคู่ในการประชุมกันครั้งหนึ่งที่ต่างก็พยายามสุภาพต่อกัน
อโรกอนส์บอกผมว่าเขายังเชื่อฝีเท้ามาร์ค แต่ผมอ่านออกจากน้ำเสียงว่าเขาต้องการขายมาร์ค
มาร์๋คบอกว่าเขารักบาร์เซโรน่า แต่ผมสามารถบอกได้ว่าจริงๆแล้วต้องการย้ายทีม
ครึ่งทางของการเป็นล่ามให้ทั้งคู่ผมจึงขัดจังหวะว่า
"ผมคิดว่าคุณทั้งสองต้องการอย่างเดียวกัน มาดูว่าจะทำกันยังไงดีกว่า"

มันเป็นเรื่องน่าสรรเสริญอย่างมากที่ฮิวจ์สและความแข็งแกร่งในบุคลิกของเขาและความแข็งแกร่งในร่างกาย
ทำให้จากประสบการณ์ที่บาร์ซ่าเขากลายมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมในยุคของเขากับทีมมากมายทั้ง
บาเย่นน์ มิวนิก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ท เชลซี เอฟเวอร์ตัน และ แบล็คเบิร์น โรเวอส์

ความเข้มแข็งในบุคลิกช่วยเขาที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้
มีคนมากมายคิดว่าเขาจะอยู่ได้ไม่นานเพราะเจ้าของใหม่จากเมืองอาบู ดาบี มีเงินที่จะตามล่าผู้จัดการทีมชื่อดัง
แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาประทับใจกับลักษณะแกร่งในความมุ่งมั่นและการตัดสินใจของฮิวจ์ส

มันไม่ได้ทำให้ผมประหราดใจเพราะอย่างหนึ่งที่เรารู้เกี่ยวกับฮิวจ์สคือ
เขาเป็นนักสู้และชอบที่จะต่อสู้

เขาได้ต่อสู้ในงานของเขา ต่อสู้กับเซอร์ อเล็ก และต่อสู้เพื่อปกป้องนักเตะของเขา อเดบายอร์ และ เบลลามี
แฟนบอลซิตี้น่าจะดีใจที่พวกเขามีนักรบเหมือนอย่างนี้อยู่ด้วยเมื่อซิตี้ต้องเล่นกับเวสต์ แฮมวันพรุ่งนี้

ผมคิดว่าวิธีการที่่มาร์ครับมือกับเซอร์ อเล็กก่อนเกมดาร์บี้แมทช์น่าประทับใจมาก
เซอร์ อเล็กมีบุคลิกที่ค่อนข้างข่มขู่ เขาจะเล่นสงครามจิตวิทยาถ้าเขาต้องการ
และประวัติการชนะถ้ัวยรางวัลต่างๆทำให้เขาได้เปรียบ
อาเซน์ แวงเกอร์และราฟา เบนิเตซจะบอกได้ดี

สปาร์กี้ไม่ได้มีประสบการณ์ผู้จัดการทีมมามากแต่ก็ทำงานได้ดีกับเวลส์และแบล็คเิบิร์น
แต่เขาได้แสดงให้เห็นเมื่อเฟอร์กูสันบอกว่าซิตี้โอหัง เขาลุกขึ้นยืนสำหรับตัวเองและสโมสร

การพ่ายแพ้ 4-3 เมื่อวันอาทิตย์คงให้กำลังใจกับเขาที่แสดงให้เห็นว่า
ช่องว่างระหว่างซิตี้กับบิ๊กโฟล์เริ่มแคบลงเรื่อยๆ

ปัญหาของเขาตอนนี้คือการจัดการกับความคาดหวัง
แฟนบอลและเจ้าของต้องการความสำเร็จในช่วงข้ามคืน
ถึงแม้ว่าในประวัติศาสตร์ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ซิตี้ต้องการแข่งขันกับยูไนเต็ทแต่พวกเขาไม่สามารถดึงดูดนักเตะระดับโลกได้
จนกว่าพวกเขาจะได้ไปแชปเปี้ยนลีค
จนถึงขณะนี้มีเพียงโรบินโญ่ที่เป็นนักเตะระดับโลกอย่างแท้จริงที่ได้เซ็นร่วมทีม
กาก้า จอน์น เทอร์รี่ ยังไกลเกินเอื้อม
นักเตะระดับโลกได้รับเงินสูงอยู่แล้ว พวกเขาไม่ต้องการร่วมทีมกับซิตี้เพื่อเงินอย่างเดียว

ผลสำเร็จจริงๆของฮิวจ์สจะเป็นการอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการทีมไปจนกว่าซิตี้จะต่อกรเพื่อล่าตำแหน่งแชมป์ได้จริงๆ
เพราะพวกเขาจะไม่ข้ามจากตำแหน่ง 10 มาเป็นแชมป์ได้ในฤดูกาลเดียว

เขาเปิดฤดูกาลได้ดี นักเตะจะให้ความเชื่อถือเขาเพราะอาชีพการค้าแข้งของฮิวจ์ส
และการตั้งกฏให้โรบินโญ่ เขาแสดงให้เห็นว่าอีโก้ของนักเตะไม่ทำให้เขากลัว

เขามีระเบียบขึ้นอย่างชัดเจนจากที่เห็นเขาตั้งระบบให้ทีมแบล็คเบิร์น
ผมตระหนักว่าเขาเปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่าจะยังเป็นคนเงียบๆ
อาุยุและประสบการณ์ได้ให้ความมั่นใจแีก่เขา

น่าสนใจที่ซิตี้กวาดเอานักเตะอังกฤษ ไอริสในปีนี้อย่างเบลลามี เวย์น บริดจ์ เชย์ กิฟเว่น แบร์รี่ และ เลสคอดต์
สำหรับผม แสดงให้เห็นว่าสโมสรได้ให้มาร์คควบคุมการซื้อขายนักเตะ มันดูเป็นทีมในแบบของเขาแล้วตอนนี้

ผมมั่นใจว่าเจ้าของทีมไม่ได้ตั้งเป้าหมายไปที่ตำแหน่งแชมป์ฤดูกาลนี้
แต่เขาจะต้องไปให้ถึงท็อปโฟล์หรือใกล้เคียงเืพื่อความมั่นใจว่าจะได้อยู่ต่อฤดูกาลหน้า
ถ้าซิตี้จบห่างจากตำแหน่งที่ 5 มาร์คจะเริ่มรู้สึกไม่สบายใจสำหรับตำแหน่งในระยะยาว

ในความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่าซิตี้จะแข่งขันเพื่อเป็นท็อปโฟล์ในฤดูกาลนี้และมาร์คจะอยู่ต่อไปสักพัก
อย่างไงก็ตามก็เป็นการเดินทางที่น่าทึ่งสำหรับนักเตะหนุ่มที่เคยแขวนธงชาติเวลส์ไว้นอกหน้าต่างอพาตเมนต์

http://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-1216327/GARY-LINEKER-I-thought-Mark-Hughes-timid-Welsh-team-mate-Barcelona-big-time-boss-Sparky-s-proved-anyone.html#ixzz0SHuVSOI1

จากคุณ : ซิตี้ สู้ สู้

เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 16:09:00