ความคิดเห็นที่ 1 การจิ้มขุนพลนักเตะวันนี้ ท่านเซอร์ยังคงไว้ใจ เบน ฟอสเตอร์ตามเคย ก็อย่างที่หลายๆท่านคาดไว้ ว่าหากดร็อปเบนไปเลย อาจมีอาการที่เรียกว่า “วูบยาว” ได้ ดังนั้นการให้โอกาสจึงเป็นสิ่งที่สมควรแล้วสำหรับเด็กปั้นของเราคนนี้ ส่วนการที่คุสแซ็คได้ลงในเกมลีกคัพเมื่อกลางสัปดาห์นั้น ผมก็มองว่ามันเป็นธรรมดาที่ป๋าไม่เคยให้โกล์ตัวจริงลงถ้วยนี้อยู่แล้ว ปีที่แล้วก็เป็นบิ๊กเบนที่ได้เฝ้าเสาถ้วยนี้แหละ ปีนี้จะเป็นคุสแซ็คก็ไม่แปลกหรอก เพราะเบนยังถือว่าเป็นโกล์ตัวจริงอยู่ ตราบใดที่น้าซาร์ยังไม่กลับมา ส่วนแผงหลังได้ชุดเก่งกลับมาครับ โอเช, ริโอ, วิดิช และเอวร่าได้ผนึกกำลังกันอีกครั้ง แผงกลางวันนี้มาเต็มสูบพอควร วาเลนเซีย, สโคลส์, เฟล็ทเชอร์ และนานี่ ต่างได้โอกาสอีกครั้ง แผงหน้าเลือกใช้บริการคนหมูเดือด เวย์น รูนี่ย์ กับดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ส่วนทางเจ้าบ้าน ช่างปั้นหม้อ วันนี้อัดแผงกลางมาอีกแล้วห้าคน ตามพิมพ์นิยมทีมเล็กที่พบทีมใหญ่ และหลังจากที่เราเพิ่งได้เห็นอดีตเด็กปั้นเราลงสนามในเกมลีกคัพที่ให้วูลฟ์มาหมาดๆ เกมนี้เราก็ได้เห็นอดีตเด็กปั้นเราลงสนามอีกคน คือไรอัน ชอว์ครอส ที่เติบโตได้ดิบได้ดีจนมีชื่อในลิสต์เป็นที่ต้องการของทีมดังๆบางทีมไปแล้ว นอกจากนั้น ผมก็คุ้นๆอีกคนคือ แดนนี่ พิวจ์ ที่ก็น่าจะเป็นอดีตเด็กปั้นเราด้วย ไม่ใช่คุ้นจากไหนหรอกฮะ ผมคุ้นๆว่าเคยดันหมอนี่ขึ้นชุดใหญ่ สมัยเล่น CM เวอร์ชั่นเก่าๆนั่นแหละ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 10:56:06

ความคิดเห็นที่ 2 เริ่มเกม ก็เป็นไปตามที่ทุกๆฝ่ายคาดการณ์ไว้ สโต๊กพยายามเร่งเกมใส่ หวังฉวยโอกาสตอนที่เรายังไม่ทันตั้งหลัก แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ กลายเป็นยูไนเต็ดทีมเยือน ที่ค่อยๆตั้งลำและยึดครองเกมไว้ได้แบบเบ็ดเสร็จ แต่ก็เหมือนเดิมครับ ที่การครองเกมเอาไว้ได้ ก็ไม่ใช่หมายถึงการได้ประตู เมื่อเจ้าบ้านวันนี้มาแบบมีวินัยเกมรับมากจริงๆ แดนกลางช่วยเพรสซิ่งช่วยไล่ตลอด ส่วนแผงหลังก็พยายามคุมพื้นที่ลงกลอนแน่นหนา ยูไนเต็ดจึงได้แต่ครองบอลขึงเกม ออกบอลถ่ายบอลกันไปมา ส่วนจังหวะสุดท้ายไม่สามารถหาช่องเจาะไปเอาบอลจบสกอร์ได้เลย จะเปิดจากกราบก็ปวดตับเหลือเกิ๊นนน.... โอกาสเหน่งๆของทีมเยือนในครึ่งแรกก็คงมาจากอันโตนีโอ วาเลนเซีย ที่ได้ทะลุพรวดสวนขึ้นมาทางกราบขวา ถูกผู้เล่นกองหลังเจ้าบ้านสไลด์เข้ามาสกัด แต่บอลกลับกระดอนไปข้างหน้าเข้าทางวาเลนเซียที่โดดหลบข้ามไปได้ เขาควบตามไปเต็มที่ก่อนจะชิพบอลข้ามตัว โทมัส โซเรนเซ่นได้สำเร็จ แต่บอลเจ้ากรรมกลับหลุดโคนเสาไกลไปไม่กี่นิ้วเท่านั้นเอง นับว่าเป็นโอกาสที่น่าเสียดายเป็นที่สุดของทีมเยือนในครึ่งแรก รูปเกมของฝั่งเจ้าบ้านไม่ค่อยกระเตื้องนัก โอกาสได้ลุ้นได้ยิงในครึ่งแรกไม่มีเลยด้วยซ้ำไป ทีมเยือนวางหมากมารับลูกกดดันของสโต๊คได้ดีมากๆ ริโอ และวิดิช ปักหลักซดลูกสาด ลูกครอส ลูกเปิดกลางอากาศได้อย่างน่าซูฮกอีกครั้ง ริโอที่วันนี้มีเตะทิ้งหน้าตาเฉย ก็เท่ากับว่า ตัวเองได้เรียนรู้จากความผิดพลาดในเกมที่แล้วมาแล้ว เกมนี้จึงไม่มีการเล่นแผลงๆเกิดขึ้น จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 10:56:24

ความคิดเห็นที่ 3 เจ้าบ้านวางเดฟ คิตสันมากดดันแนวรับยูไนเต็ด แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ถนัดนัก ส่วนดีน ไวท์เฮดที่ถูกคาดหวังให้เอาลูกสูงใหญ่มาเล่นกดดันก็ทำอะไรไม่ได้มาก เมื่อถูกวิดิชชิงตัดจังหวะพักบอลกลางอากาศไปหมด โดยมีริโอคอยเก็บตกจังหวะสองให้ และอีกข้อหนึ่งก็คือ เกมนี้ฟอสเตอร์อ่านจังหวะบอลกลางอากาศดีมาก ออกมาเล่นออกมาคว้าไม่พลาดสักครั้ง เกมทางริมเส้นของเจ้าบ้านก็เติมไม่ค่อยได้ เพราะต้องคอยพะวงกับการเติมของแบ๊คทีมเยือนและการเล่นของปีกซะมาก ทำให้ความอันตรายของสโต๊กหายไปเยอะทีเดียว แม้แต่รอรี่ ดีแลปเอง ก็ไม่ได้ใช้ลูกทุ่มมหาประลัยให้เกิดประโยชน์ได้เลยแม้สักครั้งเดียว เกมล่วงมาถึงครึ่งหลัง ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงการทำงานของปีกสองข้างของยูไนเต็ดที่ถูกส่งลงสนามมาใหนเกมนี้ว่า นานี่ยังไม่สามารถเล่นตามธรรมชาติของตัวเองได้เลย การกังวลในการตัดสินใจเล่นทุกช็อตของเขา มันยิ่งทำให้เสียเวลาในการเล่นจังหวะนั้นๆ และความต่อเนื่องของเกมก็สะดุดไปทุกครั้ง ยิ่งเจ้าตัวกังวลเท่าไหร่ บอลก็ถูกแย่งไปได้ง่ายขึ้นทุกครั้ง เล่นเอาเจ้าตัวอารมณ์เสีย และยิ่งกังวลหนักขึ้นไปอีก ผมสังเกตเห็นว่าการที่เจ้าตัวมีความสามารถหลากหลาย ทั้งเร็ว คล่อง สปีดต้นจัด และยิงแรง ตรงนี้กลับทำให้เจ้าตัวมีปัญหาในการตัดสินใจเล่นกับบอล ซึ่งนานี่นั้นพอได้บอลปุ๊บ เราคาดได้เลยครับ ว่าเจ้าตัวต้องเก็บบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนจะดึงหลอก โยก และพยายามจะไปในทางที่คู่ต่อสู้ขาตาย แต่สุดท้ายเขาก็จะช้าไปหนึ่งจังหวะตลอด นี่คือปัญหาของนานี่ตอนนี้ หากเจ้าตัวได้บอลปุ๊บแล้วพาบอลไปทันที หรือชิ่งคืนแล้วสลัดไปรับ อย่างนั้นน่าจะหลุดไปได้ง่ายกว่า เรื่องนี้ต้องรอให้เจ้าตัวปรับเองครับ การเรียนรู้ตรงนี้อยู่ที่ประสบการณ์ในเกมล้วนๆ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 10:56:39

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนทางฝั่งวาเลนเซีย การที่เจ้าตัวไม่เคยได้เล่นร่วมกับแบ๊คคนเดิมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยังไม่สามารถจับแนวทางการเล่นร่วมกันได้เสียที ตรงนั้นคือเหตุผลหนึ่ง แต่อีกข้อก็คือ เจ้าตัวเองก็ต้องแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของตัวเองและศักยภาพที่ตัวเองมีออกมาด้วย หากต้องรอประสานงานแบ๊กโดยตัวเองไม่สามารถไปคนเดียวได้ อันนั้นก็คงต้องถือว่าเป็นของปลอมแล้วล่ะ แต่อย่างว่าครับ วาเลนเซียเพิ่งได้ลงมาไม่กี่นัด คงต้องให้โอกาสเขาอีกระยะหนึ่ง เพื่อจับแนวทางการเล่นของทีม ดูไลน์การวิ่ง การเล่นในกรอบ และการเติมการทำทางของเพื่อนๆให้เข้าใจกันกว่านี้ ถึงตอนนั้น ผมเชื่อว่าศักยภาพที่เขาเคยเล่นให้วีแกนจะฉายออกมาเองครับ อย่างเกมนี้ เจ้าตัวก็หลุดไปเปิดสวยๆได้หลายครั้ง แต่ด้วยการที่รูนี่ย์ถอยลงมาเล่นต่ำบ่อยๆ และเบอร์บาตอฟเองก็ไม่ได้ค้ำอยู่ในกรอบตลอด ทำให้เป้าในการครอสไม่ค่อยมี ตรงนั้นวาเลนเซียต้องจูนกับเพื่อนๆให้ดีครับ ซึ่งก็น่าจะใช้เวลาอีกสักสองสามเดือนนะ ผมว่า เมื่อท่านเซอร์เห็นว่านานี่ดูจะมีปัญหา และเหมือนจะหนักหนาขึ้นเรื่อยๆกับการผ่านโรเบิร์ต ฮูธ ทำเอายิ่งเล่นฮูธยิ่งมั่นใจ ส่วนนานี่กลับแผ่วลงเรื่อยๆ ชักไม่เข้าท่า ป๋าจึงเอาน้าแก่ๆลงมาแทนเด็กเอ๊าะๆในที่สุด กิ๊กส์ลงมาก็สร้างความปั่นป่วนให้ไลน์รับเจ้าบ้านได้ทันที เมื่อเจ้าตัวไม่ได้ฟิ๊กซ์ตัวเองที่กราบซ้าย แต่เลือกที่จะเล่นกราบซ้ายบ้าง หุบเข้าในบ้าง สอดเข้าในกรอบบ้าง ทำเอาโซนรับเจ้าถิ่นเริ่มมีปัญหากับการจัดการ และกิ๊กส์ก็จัดให้สำเร็จ บอลจากเฟล็ทเชอร์ตรงกลาง เห็นช่องตรงแหนวทีเดียว เฟล็ทเชอร์เล็งลอดเป้าแล้วแทงพรวดขึ้นไปทันที กิ๊กส์ทะลุเข้าไปรับบอลทางริมกรอบด้านซ้ายโล่งๆชนิดฮูธตามมาไม่ทัน ก่อนที่กิ๊กส์จะปาดเรียดเข้ากลาง และเป็นเบอร์บาตอฟที่ตามมาชาร์จโล่งๆเข้าไปสำเร็จ ลูกนี้เบิร์บจิต้าแสดงออกทันทีว่าต้องขอบคุณกิ๊กส์ครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 10:56:55

ความคิดเห็นที่ 5 เกมเพิ่งมีเพียงแค่ประตูเดียว แต่สโต๊คดูเหมือนกู่ไม่กลับซะแล้ว สโคลส์ครองเกมตรงกลางได้อย่างหมดจด และคอยตัดเกมได้ดี ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะเริ่มช้าลงในครึ่งหลังจนถูกจับเลทแท็คเกิ้ลเสียใบเหลือง และเกือบจะถูกแดงด้วยซ้ำไป จากการเอามือป้องหน้า กันลูกครอสริมเส้นด้านขวา แล้วบอลดันลอยมาถูกมือจริงๆ ดีที่เวบบ์ยังพิจารณาเป็นบอลทูแฮนด์ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเว็บบ์เองก็ปฏิเสธลูกแฮนด์บอลของสโต๊คที่ขวางการยิงในครึ่งแรกของเราครั้งหนึ่ง โดยพิจารณาว่าเป็นบอลทูแฮนด์ คราวนี้ก็น่าจะต้องใช้มาตรฐานเดียวกันในการพิจารณาครับ แต่ว่าก็ว่านะ ลูกนี้ก็หลายครั้งแล้วนะ สำหรับสโคลส์ การปรี่เข้าไปบล๊อกลูกเปิดหรือลูกยิงแบบนี้ หันหน้าหนีแล้วยกมือขึ้นป้องหน้าเอาไว้เนี่ย ดีนะ ที่คราวนี้ไม่โดนจับแฮนด์บอล ไม่งั้นสีเหลืองกับสีแดงจะได้สมานฉันท์กัน ก็วันนี้แหละ (สองเหลืองเป็นหนึ่งแดง) เข้ามาเพิ่มเติมแก้ไขบทความส่วนที่ขีดเส้นใต้ พอดีว่ากลับไปดูไฮไลท์เกมนี้อีกครั้งเมื่อคืนแล้วพบว่า โฮเวิร์ด เวบบ์ แกจับแฮนด์บอลสโคลส์ลูกนี้ครับ แต่ยังใจดี ให้เป็นฟรีคิกโดยไม่ได้ควักใบเหลืองที่สองให้ สโคลส์จึงได้เล่นต่อไปครับ และผมต้องขออภัยที่จำผิดครับ หลังจากเสียประตูไม่นาน พูลิสก็เปลี่ยนทีเดียวสองคน โดยเอาตัวรุกอย่างตุนชาย ซานลี่ และเจมส์ บีตตี้ลงมาแทนเดฟ คิตสัน และดีน ไวท์เฮด เพื่อเปลี่ยนมิติเกมรุกมาใช้ความเร็วจากบีตตี้ และการทำเกมของซานลี่ อีกทั้งคิตสันเองก็มีอาการเจ็บจากการสวนแข้งกับวาเลนเซียตั้งแต่ปลายครึ่งแรกด้วย ถึงเปลี่ยนตัวไปแล้วแต่เกมก็ยังไม่กระเตื้องเท่าไหร่ แถมยังเสียประตูที่สองอีกด้วย จากฟรีคิกด้านขวา กิ๊กส์เปิดย้อยเข้าไปหน้ากรอบ โอเชเทคขึ้นสูงกว่าใครและสะบัดหัวส่งบอลเสียบหน้าต่างเสาสองอย่างสุดสวยให้ทีมเยือนออกนำสองลูกก่อนจะถึงนาทีที่ 80 และอีกครั้งกิ๊กส์เกือบบวกประตูที่สามได้ เมื่อสปีดแซงกองหลังมาเอาบอลคิลเลอร์พาสของสโคลส์ แต่กิ๊กส์พลาดในจังหวะสุดท้าย จึงชวดทำประตูที่ 100 ในลีกไปอย่างน่าเสียดาย แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 52 08:54:26 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 52 08:53:27 จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 11:00:06

ความคิดเห็นที่ 6 หลังจากนั้น รูนี่ย์กับสโคลส์ถูกถอดออก เปิดทางให้โอเว่นและคาร์ริคลงมายืดเส้นยืดสายแทน ส่วนพูลิสก็ส่งแดนนี่ พิวจ์ลงมาแทน เลียม ลอว์เรนซ์ เกมในช่วงท้ายไม่มีอะไรมากนัก ยูไนเต็ดพยายามประคองเกมและปิดเกมด้วยการครองบอลฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ แม้แต่โอเว่นเองก็ยังพยายามเก็บบอลไว้กับตัว เวลาถูกทดเนิ่นนานมาจนสี่นาทีกว่าๆ ก่อนโฮเวิร์ด เว็บบ์จะพ่นลมสุดท้ายผ่านนกหวีด เป็นอันยืนยันว่า ทีมเยือนได้สามแต็มเต็มๆ พุ่งทะยานขึ้นยึดหัวตารางได้สำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะผลอีกสนามฟ้องขึ้นมาว่า วีแกน 3 เชลซี 1 เราขึ้นครองจ่าฝูงได้สำเร็จแล้วครับ รูปเกมที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ได้อะไรในเชิงลึกให้พูดถึงมากนัก นอกจากฟอร์มที่ยังต้องลุ้นของนานี่ ได้บอลทีไรได้ลุ้นตลอด ลุ้นว่าน้องแกจะเสียบอลยังไง ส่วนวาเลนเซียก็ยังคงต้องปรับจูนกับเพื่อนๆอีกระยะ บอลอย่างวาเลนเซีย เป็นบอลที่ต้องมีพื้นที่สักหน่อย บอลที่ใช้สปีดกับความคล่องแบบนี้ พูดไปก็เหมือนสมัยเรามีแคนแคนทางขวา ถ้าได้เล่นในเกมที่พื้นที่เปิดสักหน่อย จะเริ่ดหรูอลังการดาวล้านดวงมากๆ แต่กับหลายๆเกมที่ผ่านมา เราเจอแต่ทีมที่ปิดโซนแน่น กราบโดนล็อคสองชั้นสามชั้น เกมแบบนี้ต่อให้เป็นแคนเชลสกี้ก็ไปไม่เป็นเหมือนกันนั่นแหละครับ สังเกตดูว่า สมัยที่เขาเล่นให้กับวีแกน ใครเขาจะสนใจมาแพ็คพื้นที่แบบนี้กับวีแกนมั่ง ไม่มีหร๊อก วาเลนเซียจึงมีพื้นที่ให้เล่นพอสมควร ซึ่งตรงนี้ก็ต้องค่อยๆปรับ ค่อยๆจูนกันไป และผมเชื่อว่าสุดท้าย เขาน่าจะทำได้ดี และปรับตัวได้เร็วกว่านานี่ด้วยซ้ำไปครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 11:00:25

ความคิดเห็นที่ 7 ผลงานที่ส่งให้ขึ้นครองจ่าฝูงได้แต่หัววันอย่างนี้ ผมยังไม่เชื่อหรอกครับ ว่ามันจะเป็นแบบม้วนเดียวจบ ยูไนเต็ดเราไม่ใช่ทีมที่จะพีคสามแต้มได้นานๆ แต่มักจะมีช่วงหัวทิ่มหัวตำแบบไม่น่าเชื่อเกิดขึ้นปีละสามสี่ครั้ง ซึ่งเราเพิ่งผ่านไปครั้งเดียวเท่านั้นกับเบิร์นลี่ย์ ยังต้องเหลือให้หัวทิ่มอีกพอสมควร ทีมเรานี่ก็แปลกนะครับ ทำไมถึงไม่เคยยืนระยะพีคได้เกินสิบนัดสิบสองนัดก็ไม่ทราบ พอชนะมารวดๆหน่อยเดี๋ยวก็โดนตบหัวทิ่มแบบดูไม่จืดอีกแล้ว เป็นอย่างนี้ทุกปี แต่เรามีข้อดีที่ไม่เป๋ยาว กลับมาได้เร็ว ถึงสามารถเรียกฟอร์มกลับมาได้ทุกครั้งไป คราวนี้ผมก็หวังใจให้เราทำประวัติศาสตร์ได้สำเร็จนะครับ จะหัวทิ่มบ้างก็ไม่เป็นไร ขอให้จบได้ตามที่หวังก็พอครับ เกมนี้ ก็คงต้องชมกิ๊กส์เป็นคนแรก และป๋าด้วยที่จิ้มตรงเป้าจริงๆ น้าแกลงมาก็แอสซิสต์ซะสองดอก แถมเป็นตัวป่วนอย่างแท้จริง ส่วนสโคลส์ก็ต้องให้แกเล่นในเกมแบบนี้แหละครับ เกมที่ไม่มีสปีด ไม่เพรสซิ่งหนักมากนัก มีพื้นที่ มีเวลาให้เล่นตามใจชอบ ช่วงท้ายเราจะเห็นว่าสโคลส์มีดึงจังหวะ มีเบรกเกมบ่อยๆ เพื่อหยุดความต่อเนื่องของสโต๊คไม่ให้จังหวะเกมมันไหลตามธรรมชาติ และที่สำคัญ นักเตะอย่างเฟล็ทช์ก็จะได้เรียนรู้ในจุดนี้ด้วย เฟล็ทเชอร์และอันแดร์สันนั้นยังขาดความนิ่ง ความเก๋าในจุดนี้ ที่จะคอนโทรลรูปเกมให้อยู่กับเรา ไม่ไหลบ่าไปตามกระแสเกมจนเกินควบคุม ซึ่งสุดท้ายตรงกลางเราจะหลวมและโดนสวนได้ง่ายนั่นเอง อ้อ...เกมนี้ก็ต้องเห็นใจรูนี่ย์ที่ถูกฟอร์มของนานี่บดบังซะจนไม่มีช่องทางทำมาหากินเลย แต่ก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีกับการพยายามหาบอลและทำทางครับ แผงหลังกับผู้รักษาประตูก็ต้องชมเป็นพิเศษที่กลับมาได้ดีในเกมนี้ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 11:00:41

ความคิดเห็นที่ 8 หลังจากนัดนี้ เราจะเปิดบ้านรับหมาป่าด๊อยทช์ลันด์อย่างโวล์ฟสบวร์ก ซึ่งก็มีกองหน้าฝีเท้าจัดจ้านมากๆอย่างเอดิน เซโก้ และกราฟิเต้ ที่ฟอร์มแรงจริงๆ และอย่าหวังว่าเขาจะไม่รู้จักเรานะ เพราะเขาก็มีนักเตะคนหนึ่ง ที่มีชื่อว่าโอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ นั่นเองครับ ก็ขอให้อย่าประมาทก็แล้วกัน ส่วนเกมหลังจากนั้น ก็จะได้เปิดบ้านรับมือซันเดอร์แลนด์ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มสะเด่าไปเลยเพ่...มาเมื่อคืนนี้ ก็หวังว่าเราจะยังยืนระยะสามแต้ม สามแต้ม ได้ต่อไปนะครับ แล้วมาลุ้นกันครับ สงบใจ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 11:00:56

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณครับ จากคุณ : Kyo3 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 11:15:08

ความคิดเห็นที่ 10 เข้ามาลงชื่อไว้ก่อน เดี๋ยวมาอ่านทีหลัง อิอิ จากคุณ : sametcafe เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 11:15:57

ความคิดเห็นที่ 11 ....สะเด่าไปเลยคร๊าบบบบบบ....พี่ จากคุณ : เด็กผีบ้าบอล เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 11:17:09

ความคิดเห็นที่ 12 สงสารวาเลนเซียครับเค้าต้องพึ่งตัวเองค่อนข้างสูง สไตล์เค้าไม่ใช่พวกเทคนิคแพรวพราวอยู่แล้ว บางคนติดภาพโรนัลโด้แล้วพาลว่าวาเลนเซียซะอย่างนั้น จากคุณ : qerlic เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 11:28:33

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณครับ เห็นด้วยเรื่องนานี่กับวาเลนเซียจริงๆ ก็รอดูกันต่อไป จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 11:31:08

ความคิดเห็นที่ 14 เข้ามาลงชื่อก่อนแล้วจะมาอ่านครับบบ เกลียดวันจันทร์จริงๆ จากคุณ : Nasa Space เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 11:34:24

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีครับคุณสงบใจ วันนี้ผมขอแบ่งพื้นที่ร่วมวิจารณ์ด้วยละกันนะครับ เกมเมื่อคืนวันเสาร์ แม้ว่าทีมจะสามารถคว้าชัยชนะและขึ้นไปยืนเป็นจ่าฝูงร่วมได้ แต่ผมกลับไม่ค่อยพอใจฟอร์มการเล่นเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมบุก ที่แสดงให้เห็นว่ามีปัญหาเมื่อเจอกับทีมระดับล่างที่เน้นอุดแหลก เราแทบจะหาโอกาสเข้าทำจะๆไม่ค่อยได้เลยทีเดียว(สังเกตมาหลายนัดแล้ว) ผมลองเปรียบเทียบทีมเรากับเชลซี(ผมคิดว่าปีนี้เชลซีเป็นทีมที่มีเกมบุกหลากหลายที่สุดในพรีเมียร์แล้ว และพอดีปีนี้ได้ดูเชลซีแข่งหลายนัด) เวลาเจอทีมอ่อน และได้ขึงเกมรุก เชลซีจะมีผู้เล่นแนวหลังเพียง 2 คน คือ คู่เซนเตอร์แบ็กเท่านั้น และในแดนกลางจะให้แลมป์พาร์ดหรือบัลลัคทำหน้าที่ถ่ายบอลหรือจ่ายทะลุช่อง โดยมีเอสเซียงค่อยซ้อนและรับบอลอยู่ด้านหลัง และตัวบัลลัคหรือแลมป์พาร์ดเองนั้น ก็มักจะหาโอกาสสอดขึ้นไปบ่อยๆ ซึ่งตรงนี้จะช่วยเพิ่มตัวเลือกในการจ่ายบอล ทั้งจากแดนหลัง และการเปิดจากปีก ทำให้กองหลังฝั่งตรงข้ามต้องคอยพะวงและต้องเปลืองตัวประกบมากขึ้น ซึ่งเมื่อเทียบกับทีมเรา ทั้งเฟลทและสโคลส์หรือคาร์ริก มักจะชอบยืนดักอยู่บริเวณแถวสองมากกว่า ในกรอบเขตโทษของเราจึงมักจะโดนรุมอยู่ตลอดเวลา นี่คือข้อด้อยข้อแรก (แต่จุดนี้ผมว่าจริงๆแล้วเฟอร์กี้คงสั่งไม่ให้คู่กลางเติมบ่อยเกินไป เพราะเราไม่มีกลางรับแข็งๆเหมือนเอสเซียง) ในขณะเดียวกัน กองหน้าของเชลซีทั้งดร็อกบา หรืออเนลก้า นอกจากจะมีเทคนิคและเล่นบอลบนพื้นได้ดีแล้ว ทั้งคู่ยังสูงใหญ่ พอที่จะคอยพักบอล หรือมีความได้เปรียบในการเล่นลูกกลางอากาศ ในขณะที่กองหน้าเรา ทั้งรูนี่และเบอร์บาตอฟ ทั้งคู่มักจะโดนกระแทก เบียด แซะ จนเสียบอลอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งลูกกลางอากาศก็ไม่ใช่จุดเด่นของทั้งคู่ด้วย ทำให้การบุกในเกมแบบนี้ลดความหลากหลายลงไป นี่คือข้อด้อยข้อที่สองของเรา (แต่ผมไม่ได้บอกว่าดร็อกบาและอเนลก้าเก่งกว่ารูนี่หรือตอฟนะครับ) จากคุณ : โค้วเต๊กซิม เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 11:41:36

ความคิดเห็นที่ 16 ข้อด้อยข้อที่สาม ซึ่งผมว่าเป็นจุดที่สำคัญที่สุดตอนนี้ คือเรื่อง”แบ็ค” ครับ แบ็คของเชลซี ทั้งโบซิงวาและโคล ต่างก็เติมเกมได้ดี และที่สำคัญคือประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมได้ดี ส่วนของเรา แม้เอฟร่าจะเติมเกมได้ดี แต่มักจะถูกสกัดดาวรุ่งจากนานี่ประจำ ทั้งจ่ายช้า จ่ายไม่ได้น้ำหนัก หรือจ่ายทิศทางไม่ได้เปรียบ ซึ่งนานี่ทำให้เราเห็นกันบ่อยๆ ซึ่งตรงนี้จะเห็นได้ชัดเลยว่า พอกิ๊กถูกเปลี่ยนตัวลงมา เกมด้านข้างซ้ายของเราก็ดูไหลลื่นขึ้นทันตาเห็น ส่วนทางด้านขวา ผมขอด่าหน่อยเหอะครับ “จอห์น โอเชีย” แบ็คผู้มักจะได้รับคำอธิบายฟอร์มการเล่นว่า “ความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏ” ซึ่งจริงๆแล้ว เกมรับมีความชั่วให้เห็นนิดหน่อย(หลุดบ้างตามประสา) แต่เกมรุกนี่ความชั่วเด่นชัดมาหลายนัดแล้วครับ ผมคิดอยู่เสมอว่าแบ็คที่ดี ควรจะมีส่วนร่วมในเกมบุก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเกมที่เราเจอทีมอ่อนกว่ามากๆ และมีโอกาสขึงเกมรุก แบ็คจะเป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างโอกาสทำประตูของทีม การเติมขึ้นมาของแบ็ค สามารถที่จะออกไปเปิดบอลเอง หรือจะดึงตัวประกบให้ปีกเปิดบอลง่ายขึ้น หรือจะดึงตัวประกบให้ปีกเลี้ยงหลุดเข้าไป หรือจะช่วยต่อบอล ฯลฯ แต่โอเชีย แทบจะไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมบุกเลย(ไม่นับลูกโหม่งซึ่งมาจากจังหวะเซ็ตเพลย์) ทุกครั้งที่บาเลนเซียได้บอล โอเชียไม่เคยอยู่ใกล้ๆ ไม่มีใครให้ต่อบอล ไม่มีใครช่วยดึงตัวประกบ แบบนี้มันก็จบเห่กันสิครับ จริงๆมันเป็นมาตั้งแต่สมัยโรนัลโด้แล้ว เพียงแต่ว่าตอนนั้นโรนัลโด้ความสามารถเฉพาะตัวดีกว่านี้ และมีมิติการเล่นหลายหลายกว่านี้ ข้อด้อยนี้เลยเหมือนจะหายๆไป (รวมทั้งเราต้องการแบ็คที่เน้นรับ เพราะเจ้าโด้ไม่ค่อยช่วยเกมรับ) ที่สำคัญ เกมเมื่อวันเสาร์ ผมเดาว่าป๋าวางหมากมาให้เน้นการโจมตีจากปีก แต่กองหลังเราทั้งสามคน ดันทะลึ่งเน้นเปิดบอลข้ามหัวกองกลางไปซะงั้น ทำให้เกมรุกเราขาดความต่อเนื่องไปเลย พอครึ่งหลังค่อยดีหน่อย สงสัยโดนป๋าว๊ากกลับมา เราเลยเน้นครองบอลตรงกลาง ในสโคลส์กับเฟลทถ่ายบอล และคอยหาจังหวะเข้าทำ ไม่ใช่เอะอะๆสาดตูมเหมือนในครึ่งแรก บ่นไปบ่นมาชักจะยาว คุณสงบใจเห็นด้วยกับข้อด้อยสามข้อที่ผมว่ามารึเปล่าครับ หรือว่ามีอะไรอย่างอื่นจะเสริมอีกมั้ยครับ จากคุณ : โค้วเต๊กซิม เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 11:42:01

ความคิดเห็นที่ 17 มีมาแชร์นิดนึง คือ เห็น เฟอร์ดินานด์ เล่น แล้วเสียวๆ ยังไงไม่รู้ สกัด ตัดบอล ส่งบอล ดูขาดๆ เกินๆ ตลอดเกมส์ ดูไม่ค่อยมั่นใจ หรือ ไม่ฟิต บอกไม่ถูก ยังดีที่เกมส์นี้ไม่เสีย ไม่งั้นเผลอๆ จะไม่ได้ซักแต้ม ตอนนี้ผมว่า อีแวนส์ คู่ วิดิช ยังอุ่นใจกว่าเลย จากคุณ : SCKP เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 11:53:32

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณค่ะคุณสงบใจ เท่าที่ดูเกมนี้สงสารวาเลนเซียจริงๆ ค่ะ ค่อนข้างจะกำพร้าลูก (บอล) และกำพร้าเพื่อน (ไม่มีใครส่งลูกให้) สงสัยต้องใช้เวลาตามที่คุณสงบใจว่าไว้ ถึงจะไหลลื่น...ตามที่อยากให้เป็น จากคุณ : july 19 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 11:53:42

ความคิดเห็นที่ 19 มาว่ากันกับคุณโค้วฯ เรื่องแบ๊ค อันนี้เห็นด้วยครับ แต่ไม่เห็นด้วยที่ไปลงโอเช ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะโอเชเป็นแค่กำลังสำรอง เขาไม่ใช่กำลังหลัก อย่าไปคิดว่าเขาเป็นแบ๊คขวาตัวหลักเชียวนะครับ แบ๊คขวาเรามีปัญหามานาน ตั้งแต่แกรี่แผ่วไป ก็ยังไม่มีใครทะลุขึ้นมาได้ บราวน์สุดท้ายก็มักจะจบที่ยืนเซ็นเตอร์มากกว่าแบ๊ค และถึงจะเป็นแบ๊ค แต่บราวน์ก็ไม่ใช่ตัวเติมที่ดีมากมายนัก อันนี้คงต้องรอให้ป๋าจัดแบ๊คขวาตัวจริงมาให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาดูกันว่าฟอร์มเป็นยังไง และผมก็คิดว่า สุดท้ายแบ๊คขวาก็จะถูไถไปแบบนี้จนกว่าป๋าจะหาจะตัวหลักได้นั่นแหละ เรื่องที่สอง มิดฟิลด์ เรื่องนี้ต้องทำใจครับ คุณโค้วฯเองก็ทำใจอยู่แล้วนี่ ดูจากภาษาที่เขียนมา รูปแบบที่เราเล่น 4-4-2 มันไม่เอื้อให้เติมได้ในระดับที่เชลซีเติมแน่นอนครับ และแต่ไหนแต่ไร เราก็ไม่เคยเติมแบบนั้น แต่มักจะผลัดกันขึ้นเติมมากกว่า อย่างสมัยคีน-สโคลส์ ทั้งคู่ก็ปักหลักหน้ากรอบ และสลับกันสอดเข้าตามจังหวะทีละคนเหมือนกัน รูปแบบการเล่นเราต่างกับเชลซีเยอะครับ อันเนื่องมาจากคุณภาพนักเตะมิดฟิลด์ในเชิงลึกนั่นเอง บัลลัค-แลมพส์-เอสเซียง-เดโก้ แค่สี่คนนี้ก็อ้วกแล้ว ดูข้างๆสิ มิเกล โจโคล มาลูด้า คือทางเลือกเขามีเยอะครับ เรื่องที่สาม กองหน้า อันนี้เห็นด้วย ที่เราไม่มีกองหน้าที่สามารถพักบอลและเก็บบอลเพื่อ ไถ กับกองหลัง ดึงเวลารอเพื่อนเติมได้ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าเราเลือกที่จะเอานักเตะแบบไหนมาเล่น เพราะแต่ไหนแต่ไร เราก็ไม่เคยมีประเภทนั้น ถึงแม้ผมจะอยากเห็นถึงขนาดเคยเชียร์ว่าอย่ากได้เคนวิน โจนส์ หรือ เบนจานี้ด้วยซ้ำไป และข้อสรุปก็คือ ข้อด้อยทั้งสาม ของคุณโค้วฯ เป็นข้อด้อยที่เกิดจากแท็คติคการเล่นและการวางระบบทีมซะสองข้อไปแล้ว ซึ่งเรา หรือแม้แต่ป๋าก็ทำอะไรตรงนั้นไม่ได้ เพราะเราเลือกเดินระบบทีมมาแบบนี้ มันก็จะมีจุดแข็งแบบนี้ มีจุดอ่อนแบบนี้ เราต้องใช้จุดแข็งให้เกิดประโยชน์สูงสุด และปิดจุดอ่อนให้มากที่สุดครับ ที่ผมเห็นด้วยเต็มๆคือแบ๊คขวานั่นแหละ แต่ทำไงได้ เราโชคร้ายเองครับ โบซิงวาเราก็ร่ำๆจะซื้อ แต่เขาก็ไปเชลซี เอาน่า คุณโค้วฯ ลองเชื่อใจโอเชอีกสักที อย่างน้อยเขาก็ดีกว่าการที่เราไม่มีตัวเลือกนะครับ  และอย่างน้อยเขาก็พาทีมไปถึงแชมป์ยุโรปได้ครั้งหนึ่งแล้วด้วยนา แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 52 11:57:34 จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 11:55:09

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีครับคุณสงบใจ เกมส์ในคืนวันเสาร์เป็นอะไรที่น่าอึดอัดใจมากในครึ่งแรก   ครึ่งแรกเกมส์มักจะไปหยุดที่ปีกของทีมเราซะเป็นส่วนใหญ่ เกมส์ขาดๆเกินๆไปเยอะ  วาเลนเซีย ยังฝืน เล่นยาก ทั้งที่บางโอกาส จ่ายมีมากมายเมื่อไปถึงเส้นหลังกับล้อคแล้วล็อคอีก  ส่วนลูกที่หลุดเด๊ยวและยิงพลาด ผมก็ไม่คิดจะโทษวาเลนเซียเพราะ ว่าลูกลักษณะนี้ใครก็พลาดได้   เฟร็ตเชอร์กับสโคลส์ผมว่าโอเค  เพราะคนหนึ่งไล่บอลเล่นง่าย  ส่วนสโคลส์วางบอลยาว ๆ ได้ดี ผมว่าคู่นี้ค่อนข้างลงตัว แต่สโคลส์ก็ยังเป็นสโคลส์วันยังค่ำ ชอบเล่นลูกเสี่ยงๆตั้งแต่ขึ้นชุดใหญ่   มักจะโดนใบเหลืองที่2 แบบไม่น่าโดน  มาตลอดชีวิตการค้าแข้ง แต่นั้นก็คือความทุ่มเทที่เต็มที่กับทุกจังหวะ เวย์นรูนี่ย์ ก็ทำได้ตามหน้าที่  เพราะลงมาเชื่อมเกมส์และล้วงบอล ถึงแม้จะไม่มีประตูก็ตาม ต้องชม เฟอร์กูสันนะครับที่เอาเบน ฟอสเตอร์ ลง เพราะถ้า เอาคุชแซ็ก ลงจะกลายเป็นการทำลายขวัญของเบน ฟอสเตอร์ ที่พลาดเมื่อนัดเจอซิตี้ ผมก็แปลกใจว่าทำไมฟอสเตอร์  ดีกว่าคุชแช็คตรงไหน ทำไมเซอร์เอาลงจริง แต่อีกมุมผมว่าอาจจะเป็นเพราะเซอร์กลัววันที่ มีการบังคับตัวผู้เล่นต่างชาติ  ฟอสเตอร์ ยังไงก็คนอังกฤษ  ฝีไม้รายมือก็ไม่ด้อยกว่าคุชแช็คมากมายนอกจากเฟอะฟะ กว่า แต่ก็จะไม่ทำให้ทีมเสียโควต้าไปโดยใช่เหตุ ส่วนพระเอกของงานไรอั้น กิ๊กส์  2 นัด แอสซิส5 ยังการรันตี ความยอดเยี่ยมได้เหมือนเดิม   กิ๊กส์ คงจะใช้การเล่น บอกรุ่นน้องในสนามว่า อันคำว่าปีก นั้น หน้าที่หลักของการเล่นที่แท้จริงก็คือการเปิด ให้กองหน้าทำประตู  ไม่ต้อง  เลี้ยงหรือล็อคให้เทพมากก้ได้  และการเล่นแบบง่ายๆ และมีประสิทธิภาพทำให้กิ๊กส์ เล่นมาจนถึงทุกวันนี้   ทั้งที่ตอนกิ๊กส์ เด้กๆ อาจจะเลี้ยงมากไปนิด  แต่ก็คอยเปิดให้เพื่อนตลอด  กิ๊กส์เลยมีข้อดี  นี้มา จนถึงปัจจุบัน  ข้อดีที่ว่าคือการเข้าใจ้กมส์จังหวะไหนควรเล่นไหนควรไป ผมว่า นานี่  ก้ไม่ได้แย่มากนะครับ  ขาดอย่างเดียวคือ วิสัยทัศน์ในการเล่น ยังไง2-0 ก็เพียงพอต่อการขึ้นไปนำจ่าฝูงเป็นครั้งแรกของฤดูกาล  แต่ให้ดีขออย่าลงมาอีกเลยจะดีที่สุด แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 52 12:06:27 จากคุณ : จูล่งแห่งเสียงซาน เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 12:04:03

ความคิดเห็นที่ 21 กิกซ์ เล่นถึง 40 ไปเลย อิอิ จากคุณ : dabodabo55 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 12:14:55

ความคิดเห็นที่ 22 วันนั้นสงสัยป๋าสั่งกองหลังมา.. "เตะทางไหนก็ได้ ยกเว้นคืนผู้รักษาประตู" เพราะไม่มีใครเตะคืนประตูสักคนเลยแฮะ เตะออกหลัง ออกข้างหมด นึกแล้วก็สงสาร Foster แฮะ 555 จากคุณ : เอเอง (obiwan001) เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 12:23:43

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณน้าหงบใจ ครับ จากคุณ : anurak_jun เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 12:31:53

ความคิดเห็นที่ 24 จากคุณ : Jaxx5788 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 12:40:42

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณน้าหงบสำหรับบทวิพากษ์ในวันที่งานกำลังยุ่งเหยิงค่ะ สู้ ๆ นะคะ มีสาวกหงบใจวิพากษ์เป็นกำลังใจให้เยอะแยะแน่นอนค่ะ  ^_^ นัดนี้ดูค่อนข้างอึดอัดนะคะ ตามสไตล์ยักษ์เล็กเจอยักษ์ใหญ่ขอใส่กลาง 5 ตัวไว้ก่อน แถมนักเตะปั้นหม้อแต่ล่ะคนก็ตัวบึ้ก ๆ ทั้งนั้น มองไปทางไหนเห็นแต่เสื้อลายตัวใหญ่เบิ้มมมม           ยิ่งมาเจอนานี่ที่ยังรักษาฟอร์มของตัวเองไว้อย่างเหนียวแน่นยิ่งอึดอัด จนเข้าครึ่งหลังเปลี่ยนน้ากิ๊กซี่ลงมานั่นแหละค่ะถึงได้ดูอย่างมีอรรถรสหน่อย พูดถึงนานี่เราก็ว่าเค้ามีดีในตัวเยอะนะคะ เทคนิคดี เลี้ยงดี เร็ว ยิงคม (ในวันที่องค์ประทับ) แต่เจ้าตัวคงยังหาสูตรมาปรับเป็นแผนการเล่นของตัวเองให้ออกมาเทพ ๆ ไม่เจอ ทุกวันนี้เลยเข้าทำนองนานี่มีดีทุกอย่างยกเว้นประโยชน์ ฮร่วยย  =_=" จากคุณ : นู๋ชม เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 12:52:26

ความคิดเห็นที่ 26 ดู ลีกคัพ คุชแซค ก็มีจังหวะ เฟอะฟะ พอกันและ ไงก็ ต้องเก็บประสบการ์ณไปเรื่อย จากคุณ : เเมนเอล เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 12:59:17

ความคิดเห็นที่ 27 ฮิฮิ นั่งดูแล้วอมยิ้ม ขำ ไม่มีใครยอมส่งคืนหลัง ยอมเตะออก แฮะ สำหรับปัญหาของนานี่ ที่บอกว่าต้องรอให้เจ้าตัวปรับเองด้วยการเรียนรู้จากประสบการณ์ในเกม ผมว่า คงต้องมีคนอื่นบอกให้รู้ด้วย ไม่รู้มีใครบอกหรือเปล่า หรือป๋าบอกแล้ว เจ้าบัง ฟังไม่รู้เรื่อง   เพราะยังคงเห็นนานี่ เล่นล๊อกไปวนมาอยู่แบบเดิม พอจะเปิดบอลก็ติดแข้งแล้ว ดูแล้วน่าหงุดหงิดทุกที เหมือนเรียนรู้แล้วแต่ยังปรับให้ตัวเองไม่ได้ ตอนนี้ในทีมเชื่อมั่นในกิ๊กส์มาก พอลงมาทุกคนตื่นตัวกันใหญ่ พ่อมดลงมาแล้ว รูปแบบการเล่นเหมือนติดเครื่องยนต์ใหม่ วิ่งไปได้หลากหลาย เล่นเอากองหลังสโต๊ก งงป่วนไปเหมือนกัน เสียดายลูกที่100ของกิ๊กส์ มากครับ อ้อ เมื่อไหร่หนอ คาร์ริก จะเรียกความมั่นใจกลับมาได้ ขอบคุณมากครับสำหรับบทวิพากษ์ดีๆทุกครั้ง จากคุณ : Blue Brand เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 13:00:00

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีค่ะคุณสงบใจ ได้ดูแมชต์นี้แค่ครึ่งแรก เพราะต้องไปโรงพยาบาลอย่างด่วนเนื่องจากปวดท้องมาก ว่าจะรอให้จบเกมส์ก่อน แต่ทนไม่ได้.. ระหว่างทางก็เปิดวิทยุฟัง .. ก่อนจะถึงโรงพยาบาลแฟนก็ถามว่า มือถือตัวฟังวิทยุได้ไม๊.. เอ่อ ... ปวดท้องก็ปวดนะ .. แต่มือก็คว้ากระเป๋ามาหาหูฟังเพื่อเสียบกับมือถือให้แฟน.. จนไปถึงโรงพยาบาล.. เข้าห้อง ICU แฟนก็เดินมาบอกว่า .. ได้ลูกนึงแล้วนะ ตอฟยิงได้.. ปวดท้อง.. แต่ก็ดีใจ..อิอิอิ อีกซักพัก พยาบาลก็มามะรุมมะตุ้มเจาะเลือด ต่อสายน้ำเกลือ แต่ก็ยังมีกะใจหันไปถามแฟนว่า .. แมนยูเท่าไหร่แล้ว .. แฟนก็บอกว่า 2-0 แล้ว เทพโอเชียยิงได้.. เหล่าพยาบาลต่างก็อมยิ้มกับความบ้าแมนยูของครอบครัวนี้ ขนาดกำลังจะเป็นจะตายก็ยังห่วงผลบอล.. ทุกอย่างก็เรียบร้อยโรงเรียนสโต๊คแล้วค่ะ.. "เค้า"ไปอย่างเป็นทางการแล้ว.. แมชต์นี้ก็ต้องยกย่อง ไรอัน กิ๊กส์ .. ตามที่คุณสงบใจบอกไว้ เพราะแก่แล้ว แต่ก็ยังมีของดี .. เป็นนักเตะอันทรงคุณค่าของทีมเราอย่างแท้จริงๆ.. จากคุณ : รัศมีจันทร์ดารา เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 13:13:00

ความคิดเห็นที่ 29 ทุกอย่างก็เรียบร้อยโรงเรียนสโต๊คแล้วค่ะ.. "เค้า"ไปอย่างเป็นทางการแล้ว.. จากคุณ : รัศมีจันทร์ดารา 333333333333333333333333333333333333333333333333333333 คงต้องขอแสดงความเสียใจในการสูญเสียครั้งนี้ของคุณรัศมีด้วยนะครับ ผมคงไม่อาจพูดได้ว่าเข้าใจ หรืออยากให้คุณรัศมีฯ รับมือกับความสูญเสียนี้อย่างไร เพราะส่วนตัวผมเอง ก็ยังไม่เคยพานพบความสูญเสียที่หนักหนาสาหัสขนาดนี้มาก่อน เท่าที่จะพูดได้ตอนนี้ ก็คงได้แต่ให้กำลังใจคุณรัศมีฯ เป็นอีกกำลังใจ เป็นอีกหนึ่งแรงใจ ที่จะช่วยให้คุณรัศมีฯ ฟันฝ่าผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ตลอดรอดฝั่ง อย่างมีสติและมีกำลังใจที่ดี สู้ๆนะครับ คุณรัศมีฯ อย่าท้อถอยล่ะ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 13:26:11

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณน้าหงบมากครับ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 13:37:04

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณคร้า จากคุณ : ไม่ได้ขอบัตรผ่าน เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 13:56:25

ความคิดเห็นที่ 32 จะยังไงก็ตาม... อาบัง ไม่ไหวจะเคลียร์ บาเลนเซีย.... ชักเสียดายค่าตัว คงต้องให้โอกาสกันอีกสักปี ถ้าไม่ดีขึ้นกว่านี้ ก็เตรียมโละได้เลย จากคุณ : Sifer2002 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 14:13:22

ความคิดเห็นที่ 33 เห็นด้วยเรื่องแบคค่ะ แต่โอเชียเป็นอะหลั่ยสำคัญที่ทีมต้องมีเลยนะคะ จากคุณ : ผีหลายบทบาท เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 14:16:02

ความคิดเห็นที่ 34 เข้ามาให้กำลังใจคุณรัศมีจันทร์ดาราอีกคนครับ เค้าคนนี้อาจมีเหตผลบางอย่างที่ยังไม่สามารถมาอยู่กับคุณในเวลานี้ แต่ผมเชื่อครับ ว่าอีกไม่นาน เราจะมีแฟนแมนยูตัวน้อยๆเพิ่มขึ้นอีกคน(หรือหลายคน?)แน่นอนครับ ขอให้โชคดีครับ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 52 01:35:50 จากคุณ : หมาสายตาสั้น เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 14:28:21

ความคิดเห็นที่ 35 เข้ามาดู ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 14:54:59

ความคิดเห็นที่ 36 เกมนี้ผมขอชม เทพเฟลช ลูกที่เป็นประตูก็มาจากเฟรชแทงทะลุช่องได้ดี เหลือเกิน เยี่ยมๆ พ้ฒนาขึ้นมาก แต่ก็เป็นเพราะเล่นกับสโคลส์ ที่คอยประ คองทำให้เฟรชเล่นง่าย จริงๆ แบ๊กขวาผมอยากให้คนอื่นลงแทนโอเชจัง ถ้ากองหน้าไม่ได้ตัวใหญ่ โอเชก็ไม่ค่อยมีประโยชน์ ผมว่าน่าจะลองให้เดอ เรด ลงมาในเกมที่เจอกับ ทีมไม่ใหญ่มากแบบนี้ ขอพูดถึงเจ้าบ้านบ้าง ตามความเห็นผม การจัดเกมแบบนี้ผมว่าเป็นการทำ ทีมที่ขี้กลัวเกินไป เล่นแบบอุดอย่างเต็มที่ ทำอย่างนี้มีแต่เสมอกับแพ้ จะ เห็นว่าสามารถปิดเกมริมเส้นแมนยูได้ ประกบติดไม่ให้กองหน้าครองบอล ได้ แต่ก็เท่านั้นพอสกัดได้ เตะไปก็เหมือนชนกำแพงกระเด้งกลับมา กองกลางผมว่าเค้าไล่น้อยเกินไป ทำให้สโคลส์เล่นง่ายก็ สบายล่ะครับ จากคุณ : BPWarSea เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 14:57:14

ความคิดเห็นที่ 37 สวัสดีค่ะ เกมนี้บิ๊กเบนดูจะมีสมาธิมากขึ้นและออกมาตัดลูกได้ตลอด ส่วนที่แน่นอนของจริงก็คือเฟลทเชอร์ ยิ่งดูยิ่งดี รู้สึกว่าตัวเองเขียนชมแกทุกนัดเชียวพักนี้ กับกิ๊กซี่นั้น ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ เมื่อก่อนเล่นดียังไง ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นัดนี้ไม่สนุกเลย เกมดูอืดๆ เนือยๆ แอบเซ็งนานี่เล็กน้อยพอสังเขป จากคุณ : Merlion เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 15:00:26

ความคิดเห็นที่ 38 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 52 15:16:51 จากคุณ : ปีศาจ ไม่มีเกิบ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 15:15:41

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณฮะลุงหงบ ...เห้นนานี่โดนบ่นแบบนี้ ไม่แปลกใจเท่าไหร่ ทำไมเรามีข่าว กับปีเยอะจริงๆ ฮะ อย่างนานี่ นี่สงสัยต้องจับไปให้ดู วิดีโอสมัยลุงกิ๊กส์ หนุ่มๆ จริงๆเลยแหะ จะได้ไม่ลังเลมากอย่างที่เป็นอยุ่ .... เรื่องโอเชีย ผมว่าต้องทำใจนะฮะ เค้าเป็นเป็ด .... เดินได้ วิ่งได้ บินได้ ว่ายน้ำได้ .... แต่มันไม่เก่งสักอย่าง .... เวลาจะด่าโอเชีย นึกถึงตอนที่แกทำประตูชัยให้เราเชือดหงส์ ครับ จะได้ ปล่อยวาง จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 15:28:14

ความคิดเห็นที่ 40 ตอนนี้ ผมมีความรุ้สึก โอเชียจะดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย ดูน่าไว้ใจกว่าแต่ก่อนเยอะ จากคุณ : danya เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 16:40:55

ความคิดเห็นที่ 41 ทุกอย่างก็เรียบร้อยโรงเรียนสโต๊คแล้วค่ะ.. "เค้า"ไปอย่างเป็นทางการแล้ว.. จากคุณ : รัศมีจันทร์ดารา ................................................................................................ ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ เราเองก็เพิ่งผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาเมื่อ 8 เม.ย. นี้เองค่ะ วันที่น้องหงส์แพ้เชลซีใน UCL นั่นแหละ เข้าใจในอารมณ์ความรู้สึกเจ็บปวด และสูญเสียเช่นกัน แต่ก็ทำใจได้ ให้ "เค้า" ไปสบายตอนนี้  ดีกว่าเกิดมาแบบไม่สมประกอบ  สู้ ๆ ต่อไปนะคะ... (^_^) ขอตอบคุณสงบใจนิดนุง..เห็นด้วยเต็ม ๆ เลยค่ะ เรื่องวาเลนเซีย ว่าแกถูกบีบ ถูกแพ็คเกมส์ริมเส้นพอสมควร ไม่เหมือนตอนอยู่วีแกน ที่แกมีพื้นที่การเล่นมากทำให้การกระชาก การยิงไกล แกทำได้ดีกว่านี้ และอีกอย่างดูแกยังขาดความมั่นใจ ยังไม่ค่อยกล้าเล่น กล้าเลี้ยงเท่าไหร่ คงต้องใช้เวลาปรับตัวกับเพื่อนสักพัก.. ส่วนนานี่ นัดนี้ก็โดนด่าไปหลายยก กับการชอบเก็บบอลไว้กับตัวนาน มีจังหวะจ่ายเร็วหลายจังหวะก็ไม่จ่าย ทำให้บอลมันไปช้า ทำเบิร์บหงุดหงิดหลายครั้ง.. สำหรับป๋ากิ๊กส์  ไม่มีคำบรรยายใด ๆ นอกจากคำว่า..สุโค่ย..มาก ๆ ค่ะ ป๋าขา ถ้าทะลุจอทีวีไปได้ อยากเข้าไปจุ๊บปาก สักหลาย ๆ ที 555555... จากคุณ : นู๋แจง เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 17:17:45

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์ดี ๆ นะคะคุณสงบใจ  ^^ และขอเป็นกำลังใจให้คุณรัศมีฯด้วยนะคะ จากคุณ : Noey :p เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 17:59:09

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์ดี ๆ อีกครั้งนะคุณสงบใจ  ^ ^ อยากแสดงความเห็นเรื่องโอเช ด้วยนิสัยป๋า ผมว่าโอเช ยืนขวายาวแน่นอน  เพราะป๋าชอบดัน ถ้าดูฟอร์ม โอเชก็ไม่ได้แย่ เท่าที่เห็นเราเสียประตูทางโอเชน้อยนะ โอเชคงรู้ตัวเอง เลยไม่ดันตัวเองขึ้นแน่ๆ เพราะลงไม่ทัน ซึ่งไม่เหมือนพี่ติ๊กเราที่ไวกว่า ขึ้นลงได้ทุกเกม แต่ก็มีหลุดบ้าง ดังนั้นกลางต้องมาซ้อนช่วยด้านปีกขวาแทน แต่กลางเราก็ยังไม่เนียนพอ คงต้องรอปรับอีกสักระยะ ถ้าป๋ากล้าพอดันเด็กมายืนเป็นตัวหลัก แทนการผสมตัวเก๋าๆแบบที่ผ่านมา ส่วนนานี่ ผมว่าหมอนี่มีดีพอทีเดียว ถ้าป๋าให้เล่นอิสระเต็มๆ (ผมนานี่แฟนคลับ ) แต่ถ้าเล่นตามแผนอย่างเคร่งครัด ผมว่าอาจต้องรอสักปีสองปี ให้นานี่เปลี่ยนทัศนะคติการเล่น ปีนี้ผมว่าเราอาจดีไม่พอกับเกมยุโรป ถ้าเราประสบความสำเร็จ คงเพราะเรามีดีตรงที่มีป๋า แต่กับ EPL ผมว่าเราได้ลุ้นเลย เพราะหลายบิ๊กโฟร์ทีมก็แกว่งพอกัน จุดวัดน่าจะเป็นเรื่องระหว่างบิ๊กโฟร์ด้วยกัน ที่น่ากลัว ผมว่าหงส์มากกว่าทีมอื่น เพราะปีนี้ทีมอื่นคงไม่พลาดมากนักกับการตบเด็กแบบปีที่แล้ว จากคุณ : trebla เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 20:06:55

ความคิดเห็นที่ 44 รัศมีจันทร์ดารา -  เสียใจด้วย ครับ คิดเสียว่า มีบุญ เขาก็ มาอยู่กับเราใหม่ ครับ  จากใจจริง ขอวิจารณ์ บางคน ครับ โอเช  ผมว่า แกรู้ว่า ตัวเองช้า เลยไม่กล้าบุก ครับ ทุกนัดที่ลง ยกเว้น เซ็ตพีซ ที่จะขึ้นไปเท่านั้น ริโอ  ติดโชว์ ครับ เลย มีผิดพลาดให้ตื่นเต้น นานี่  ผมว่า ป๋า ต้องสอนว่า อันไหน คือ จุดเด่นของนานี่ ไม่งั้น แกก็ สับสนตัวเอง ครับ ว่า จะไปเอง หรือ ส่ง ที่ติดอีกอย่าง คือ เล่น วันทัชไม่เป็น จับลูก ต้องหลแกคู่ต่อสู้ก่อนตลอด วาเลนเซีย ผมเขียนในหลายกระทู้ ครับ ว่า นี่คือปีก ในสไตล์ แคนแคน ครับ ถ้า มีพื้นที่ให้วิ่ง ไปโลด ผมอยากให้ ลองมาเล่นทางซ้ายบ้าง ครับ แต่ ไม่แน่ใจว่า จะเปิดบอล ไซค์ก้อย กับ เท้าขวาได้ไหม สโคลล์ ถ้า ยังเล่นแบบนี้  อีกไม่เกิน 3 นัด โดนใบแดง ชัวร์ เพราะ ช้าลง แต่ ยังชอบพุ่งสไลด์บอล ขอบคุณในความคิดเห็น ครับ จากคุณ : เทพพิสดาร เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 20:31:08

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณค่ะลุงหงบใจ เพิ่งมีเวลานั่งอ่านนน T_T จากคุณ : poojo_ke เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 21:08:17

ความคิดเห็นที่ 46 เป็นกำลังใจให้คุณรัศมีนะคะ ตอนนี้พักผ่อนให้เต็มที่ เรื่องบอลไม่ต้องห่วง ทั้งคุณแฟนกับพี่ๆน้องๆแถวนี้ช่วยดูแทนกันได้เพียบ อ้อ ลืมขอบคุณน้าหงบ ขอบคุณค่า จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 21:17:43

ความคิดเห็นที่ 47 ย่องเข้ามาอ่านเช่นเคย ขอบคุณมากครับ m(_ _)m จากคุณ : monboy01 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 23:37:39

ความคิดเห็นที่ 48 เห็นสโคลล์เข้าบอลแต่ละลูกแล้วหัวใจจะวาย พึ่งโดนแบนไป จะเอาอีกแล้วหรอเฮีย ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์ครับ ขอแสดงความเสียใจ และเป็นกำลังใจให้กับคุณรัศมีจันทร์ดาราครับ ปล. แม่ผมก็เคยประสบกับเหตุการณ์อย่างนี้ครับ แม่ได้มาเล่าให้ผมฟังว่า หลังจากวันนั้นไปประมาณ6ปี "เค้า" ได้มาลาแม่ไปเกิดใหม่ครับ ยังไงผมเชื่อว่า "เค้า" จำได้ว่าคุณรัศมีจันทร์ดาราเคยเป็นแม่ "เค้า" ครับ สู้ๆครับ จากคุณ : มะระไข่มู๋กรอบ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 23:40:49

ความคิดเห็นที่ 49 เป็นกำลังใจให้คุณรัศมีฯด้วยนะคะ ---------------------------------------------------------- เกมนี้ไม่ค่อยได้ตั้งใจดูเท่าไหร่นัก แต่ก็ดีที่ไม่ค่อยตั้งใจเพราะว่าจะได้ไม่อึดอัดมาก แต่เท่าที่เห็นปีกก็ยังเป็นปัญหาของทีมอยู่ดี กลางสี่ตัวเป็นปีกไปซะสอง เล่นไม่ได้ทั้งสองก็เท่ากับทีมขาดกำลังไปสองคน สโต๊คเองโดดเด่นในเรื่องการเล่นในบ้านอยู่แล้ว การที่เค้าจะเปิดหน้าแลกปล่อยให้เรามีพื้นที่ในกรอบ ดูเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ ส่วนเรื่องปีกก็ต้องรอวันที่นานี่จะเปลี่ยนทัศนคติการเล่นของตัวเอง และวันที่วาเลนเซียจะกล้าเล่นและมั่นใจในตัวเองมากกว่านี้ ดูจากสีหน้าแววตาแล้วมีแต่ความมุ่งมั่นแต่ไม่มีความมั่นใจเลย นัดนี้ต้องขอบคุณป๋ากิกส์อย่างที่เฮียเบิร์บว่าจริงๆ (หวังว่านานี่มันจะรู้ตัวบ้าง) วันนี้นั่งดูไฮไลท์ประตูแรกกับน้องสาวสองคน(ที่ไม่ได้ดูบอลเท่าไหร่) คนนึงเห็นท่าดีใจของเฮียเบิร์บที่ทำท่าชี้ๆก็ถามว่า น้อง1:ชี้ไปไหนอ่ะ เรา:ชี้ให้กล้องถ่ายกิกส์ไง น้อง1:ทำไมอ่ะ เค้าไม่ได้ยิงได้ไม่ใช่หรอ น้อง2:โห....เตะมาให้ขนาดนั้น แค่แตะโดนก็เข้าแล้ว ก็ต้องถ่ายเค้าแหละ ปล.ตอนจบไฮไลท์น้องสองคนตกใจกับทรงผมพี่เบิร์บมาก ทำเสียง "ฮึ่ย ตกใจ ทำไมผมเป็นงั้นนั้นอ่ะ" ไม่รู้มันหมายความว่าไง จากคุณ : himalayas เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 01:14:34

ความคิดเห็นที่ 50 ขอแสดงความเสียใจกับคุณรัศมีจันทร์ดาราด้วยครับ จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 10:55:58

ความคิดเห็นที่ 51 เข้ามา ชื่นชม ใน กำลังใจที่ดี ของ คุณ รัศมีจันทร์ดารา ครับ.. ชีวิต ก็เหมือนกับ เกมฟุตบอล .. มีแพ้ มีชนะ มีสุข สมหวัง มีทุกข์ ผิดหวัง แต่ ในท้ายที่สุด The Game Must Go On (To the next game) เช่นเดียวกับ ชีวิต ที่ต้องก้าวไปข้างหน้าต่อไป Move on to the next stage... ยามชนะ มีสุข ก็ต้องไม่ ประมาทหลงในความสำเร็จจนเกินไป (not be complacent or get carried away) .. ยามแพ้ มีทุกข์ ก็อย่าไปจมอยู่กับมัน เพราะไม่ว่ายังไง มันก็เป็น "อดีต" ไปแล้ว .. ถ้าเรา มัวแต่ ทุกข์ จนทำลาย "ปัจจุบัน" ... "อนาคต" ก็จะยิ่งแย่ไปด้วย.. แต่ ถ้าเราสลัดความทุกข์ (เหมือนลืมเกมที่แล้ว ที่แพ้ หรือ พลาดไป) Let bygone be bygone .. เรียนรู้จากสาเหตุของความทุกข์ สาเหตุของความผิดพลาด (Learn the lessons from the past mistakes) .. เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำอีก.. ล้มแล้วลุกขึ้นสู้ใหม่.. (Be resilient) แล้ว มีสมาธิจดจ่อ (Focus) ในการทำทุกสิ่งทุกอย่างในวันนี้ (Present) ให้ดีที่สุด .. รับรองว่า ถ้าเราทำวันนี้ให้ดี (Present = ปัจจุบัน) เราจะมีของขวัญ (Present = ของขวัญ) คือ "อนาคต" (Future) ที่สดใส อย่างแน่นอน .. ขอให้นับแต่นี้ไป คุณรัศมีจันทร์ดารา จักได้ประสบแต่สิ่งที่ดี ๆ ยิ่ง ๆ ขึ้น .. นะครับ.. จากคุณ : จิตตารมณ์ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 13:32:47