 |
ความคิดเห็นที่ 30 |
มิชาเอล บัลลัค : ผมต้องการแชมป์จริงๆ
สำหรับวงการฟุตบอลเยอรมัน "ไกเซอร์น้อย" คือนักเตะหมายเลขหนึ่งแห่งยุคที่ยังไม่มีใครหน้าไหนก้าวขึ้นมาทาบรัศมีได้ แต่ในวงการฟุตบอลอังกฤษ มิชาเอล บัลลัค ยังมีสิ่งที่ต้องพิสูจน์ตัวเองอยู่
ไม่ใช่เฉพาะเรื่องฐานะนักฟุตบอลที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดคนหนึ่งในพรีเมียร์ลีก แต่เป็นเรื่องของความสำเร็จที่ยังไม่มีโทรฟี่รายการใหญ่ใดๆเข้ามาเลย ไม่ว่าจะเป็นลีก หรือแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกทั้งบัลลัค ก็ยังไม่สามารถสร้างชื่อในฐานะซูเปอร์สตาร์ได้สมที่ตั้งใจ
เช่นกันกับผลงานในนามทีมชาติ ที่หากไม่มีอะไรผิดพลาดเขาจะได้มีโอกาสนำทีมชาติเยอรมัน ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งที่ 3 ที่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต โดยเกมชี้ชะตาอยู่ที่การพบกับ รัสเซีย ในกลางเดือนหน้า
ว่าแล้ววันนี้เราก็มานั่งจับเข่าคุยกับบัลลัค ในหลากเรื่องหลายประเด็นดีกว่า
Q: มิชาเอล คุณเองก็ไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหลวงของอังกฤษ มาหลายปีแล้ว คุณสนุกกับชีวิตที่ลอนดอนหรือเปล่า?
มิชาเอล บัลลัค : ลอนดอนเป็นเมืองที่ยอดมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออากาศดี ที่นี่ดีมากจริงๆ เมืองนี้อะไรให้ทำเยอะแยะ ไม่ใช่แค่เรื่องของฟุตบอล ยังมีเรื่องของวัฒนธรรมและอีกหลายๆเรื่องที่จะทำให้เรารู้สึกเหมือนได้อยู่บ้านเวลาอยู่ที่ลอนดอน เมืองนี้มีอะไรให้ตื่นเต้นตลอด และครอบครัวของผมกับผมเองก็มีความสุขมากที่นี่
Q: ดูเหมือนอะไรๆในทีมเชลซี ก็ดีนะในตอนนี้ เชลซี กำลังทำผลงานได้ดีและคุณก็ยิงไปแล้ว 3 ประตูในเวลานี้ คุณมองเรื่องนี้ว่ายังไง?
ผมเพิ่งจะได้มีช่วงพักร้อนที่ยาวที่สุดในชีวิตการเล่นของผม ซึงปกติแล้วผมจะได้พักแค่ 2 สัปดาห์ แต่ครั้งนี้ผมได้พักนานถึง 5 สัปดาห์ ซึ่งมันก็สำคัญมากสำหรับผมในแง่ของการพักผ่อนและฟื้นฟู ในช่วงพรีซีซั่นก็ดีทีเดียวจนผมมานิ้วเท้าหักนั่นแหละ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมย่ำแย่นัก ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรในการใช้เวลาที่เสียไป ผมกลับมาสู่ทีมในเกมนัดที่ 2 ของฤดูกาล และผมก็พอใจมากที่ผมสามารถทำได้ตามสิ่งที่ผู้จัดการทีมคาดหวังในตัวผม
Q: คุณจะอธิบายตัวตนของ คาร์โล อันเชล็อตติ ว่ายังไง?
เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์สูงมาก และเขาก็เป็นคนจริงที่สามารถจะนำทีมของเราได้ เราเองก็ผ่านเรื่องอะไรมาเยอะที่สโมสรแห่งนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีทั้งดีและไม่ดี กับเรื่องที่เรามีโค้ชคนที่ 4 ในรอบ 3 ปีมันทำให้อะไรๆก็ไม่ได้ง่ายนัก ดังนั้นเราก็ต้องพยายามสานต่ออะไรให้ได้มากที่สุดในตอนนี้ สำหรับครั้งนี้ทีมของเราเข้ากับโค้ชได้เป็นอย่างดี ซึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของทีมได้ด้วย ความคิดของเขาทรงอิทธิพลต่อพวกเรามากทีเดียว
Q: ที่เชลซี คุณเองได้พบปะกับดาวดังอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา และจอห์น เทอร์รี่ ทุกวัน คุณรู้สึกยังไงที่ได้อยู่เคียงข้างนักเตะพวกนี้
เราต้องทำความรู้จักทุกคนอยู่แล้วแต่ว่ามันก็ต้องใช้เวลา การแข่งขันที่นี่สูงมากและนักเตะใหม่ทุกคนที่ย้ายมาอยู่กับเราก็ยิ่งทำให้การแข่งขันเข้มข้นขึ้นอีก แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ต้องมีมิตรภาพที่ดีกับเพื่อนร่วมทีม ผมมีความเข้าใจที่ดีมากกับ อังเดร เชฟเชนโก้ และเราก็เล่นด้วยกันในสนามบ่อยๆ โชคร้ายที่เขาไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว แต่ภรรยาของผมและผมเองก็มีเพื่อนที่ลอนดอนที่ไม่ใช่คนในวงการฟุตบอลด้วย และเราก็ใช้เวลาร่วมกับพวกเขาที่นี่
Q: สัญญาของคุณกับเชลซี จะหมดลงในซัมเมอรหน้า แล้วอนาคตของมิชาเอล บัลลัค จะไปทิศทางไหน?
ผมเพิ่งจะเซ็นสัญญาออกไปเอง และผมก็หวังว่าผมจะได้ประสบความสำเร็จอีกในอนาคต การตัดสินใจในเรื่องอนาคตจะต้องมีการทบทวนให้ดีก่อน และผมก็จะคุยทุกเรื่องกับสโมสรและครอบครัวของผม ในวัยขนาดนี้เรามองถึงเรื่องของภาพในระยะสั้น และผมก็ได้เล่นกับสโมสรที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในตอนนี้ ผมรู้สึกสบายมากที่ลอนดอน และผมก็เห็นภาพตัวเองเล่นอยู่ที่นี่จนเลิกเล่น สิ่งสำคัญสำหรับผมก็คือขอให้เราคว้าแชมป์ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมอยากจะเล่นในทีมที่กระหายความสำเร็จ
Q: ถึงจะประสบความสำเร็จมาตลอดชีวิต แต่ห้องเก็บโทรฟี่ของคุณก็ดูจะขาดโทรฟี่ในระดับชาติไป ไม่ว่าจะกับสโมสรหรือทีมชาติ มันเป็นสิ่งที่คุณต้องการหรือเปล่าในช่วงเวลาที่เหลืออยู่?
ก็แน่นอนว่าเราย่อมอยากได้ในสิ่งที่เรายังขาดไป มันก็สำคัญสำหรับเรามากในการจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้อีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไป 3 ปี เราอยากจะถล่มอังกฤษ แต่การได้แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็เป็นเป้าหมายใหญ่ในใจผม
Q: กูรูหลายคนบอกว่าคุณคือหนึงในกองกลางที่อันตรายที่สุดในโลกยามอยู่หน้าประตู คุณว่าไง?
ผมไม่ชอบประเมินตัวเองนะ มันเป็นเรื่องของคนอื่นที่จะทำ ซึ่งเวลานี้ก็มีกองกลางระดับโลกอยู่เยอะแยะ แต่ในเกมฟุตบอลเราต้องเล่นกันเป็นทีม ก็จริงที่จะต้องมีนักเตะคนนึงที่โดดเด่นขึ้นมาในสายตาของแฟนๆ โดยเฉพาะตัวรุก แต่ว่าในสนามก็มีผู้เล่น 11 คน และดาวดังทั้งหลายก็รู้ตัวดีว่าพวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จได้เลยถ้าไม่มีเพื่อนคอยช่วย
Q: คุณเองก็เป็นกัปตันทีมชาติเยอรมันมาหลายปี ความรับผิดชอบในระดับนี้มีความหมายอย่างไรสำหรับคุณ?
การเป็นกัปตันทีมชาติเป็นเกียรติมากสำหรับผม ตอนที่ผมได้รับเลือกผมรู้สึกภูมิใจมากๆกับการได้รับเกียรตินี้ แตตอนนี้ผมเติบโตขึ้น ผมสนุกกับความรับผิดชอบนี้และก็พยายามทำหน้าที่อย่างจริงจัง ไม่ว่าจะในหรือนอกสนาม
Q: มีการพูดกันว่าความสำเร็จของเยอรมันในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกในช่วงนี้ มาจากเรื่องของความทุ่มเทมากกว่าทักษะ ตกลงแล้วอะไรกันแน่ที่เป็นหัวใจสำคัญของทีมคุณ?
นักเะของเราทุกคนเทคนิคดี ทักษะดีทั้งนั้น แต่ว่าในเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกายของเราที่โดดเด่นที่สุดในตอนนี้ เราต้องพุ่งสมาธิไปที่จุดแข็งของเราและเรื่องทีมสปิริตของเรา ซึ่งเราก็ได้เห็นแล้วในฟุตบอลยูโร ครั้งล่าสุดว่ากาเรล่นอย่างทรงประสิทธิภาพนั้นมันส่งผลดีแค่ไหน มันทำให้เราได้เข้าชิง ในเวลาเดียวกันผมก็คิดว่าเราก็จำเป็นต้องมีทักษะความสามารถเฉพาะตัวที่สามารถจะพลิกเกมได้ ในระดับท็อปของวงการกีฬา ทุกทีมก็จะต้องมีความสมดุลกันในเรื่องของคุณภาพ ซึ่งนั่นหมายถึงว่านักเตะบางคนก็สามารถจะสร้างความแตกต่างได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เราดีใจที่เรามี เมซุต โอซิล เขาเป็นนักเตะที่มีคุณสมบัติครบตามแบบฉบับที่เรียกกันว่า "นักเตะหมายเลข 10"
Q: วันที่ 10 ต.ค. พวกคุณจะได้ต้องเล่นเกมใหญ่ในการเจอกับรัสเซีย ที่มอสโก คุณมองเกมนี้อย่างไร?
เรากำลังทุ่มเทสมาธิ พลังงาน และความตั้งใจของเราไปที่เกมนี้ เราไม่สามารถจะทำให้สนามหญ้าเทียมเป็นอุปสรรคกับเราได้ เราต้องพร้อมปรับตัว รัสเซีย มีทีมที่แข็งแกร่งมากและพวกเขาก็ทำผลงานได้ดีในอดีต ดังนั้นเราคงจะต้องเล่นอย่างดีที่สุดถ้าเราอยากจะได้อะไรกลับมาจากการไปมอสโก เรามีความมั่นใจว่าเราจะสามารถผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกได้โดยตรงเพราะเรารู้สึกตื่นตัวอย่างมากสำหรับเกมนัดนี้ เรามีการเตรียมตัวที่ดี และเราก็รู้ว่าเราจะทำผลงานที่ดีได้
Q: ฟุตบอลโลกในปีหน้าที่แอฟริกาใต้ จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งที่ 3 ของคุณ คุณพอจะจำอะไรได้บ้างเกี่ยวกับฟุตบอลโลก 2002 และ 2006
ฟุตบอลโลกทั้ง 2 สมัยเป็นเรื่องยากมากสำหรับผมในแง่ของความรู้สึก ในปี 2002 เราทำให้ทุกคนประหลาดใจด้วยการเข้าชิงได้ ผมยิงประตูชัยได้ทั้งเกมรอบ 8 ทีมและรอบรองชนะเลิศ แต่ว่าต้องโดนแบนในเกมนัดชิง มันเป็นอะไรที่เจ็บปวดมากจริงๆ ส่วนบรรยากาศในปี 2006 นั้นมันสุดยอดมาก สำหรับเราแล้วมันเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน และผมก็ไม่คิดว่าแฟนๆจะลืมฟุตบอลโลกครั้งนี้ด้วย เยอรมัน ได้แสดงให้เห็นว่าเราเป็นชาติที่เป็นมิตรที่พร้อมจะต้อนรับแขกทุกคน ซึ่งมันก็สำคัญมากสำหรับภาพลักษณ์ของประเทศเราในสายตาชาวโลก มันเป็นฟุตบอลโลกครั้งนึงที่ยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในหรือนอกสนามที่บรรยากาศของการแข่งขันสวยงาม โดยเฉพาะแฟนๆที่มาสร้างสีสัน
Q: เยอรมันถูกจัดอันดับอยู่ที่ 4 เช่นเดียวกับอิตาลี ในฟีฟ่า เวิลด์แรงกิ้ง คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?
การจัดอันดับมันก็แค่เรื่องดึงดูดสายตาในช่วงเวลานี้ ทีมอย่าง ฮอลแลนด์ และสเปน ก็ทำผลงานได้ดีมากเช่นกัน แต่เราสามารถพิสูจน์ตัวเองได้เสมอในรายการใหญ่ที่เราจะมีสมาธิกับการทำหน้าที่และเล่นได้ท็อปพีคที่สุด นั่นคือเหตุผลว่าทำไมอันดับโลกของเราในเวลานี้มันก็ถือว่าคู่ควรแล้ว
http://football.impaqmsn.com/content.aspx?id=47996&ch=262&ch=scoop
| จากคุณ |
:
bobenz
|
| เขียนเมื่อ |
:
29 ก.ย. 52 15:15:50
|
|
|
|
 |