 |
ความคิดเห็นที่ 60 |
 |
ความคิดเห็นที่ 59
ขออนุญาตตอบแทนนะครับ
ลิ้งค์นี้ครับ
http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2009/05/S7842471/S7842471.html
มุมมองหมอเมา : ศักยภาพของวรวีร์ มะกูดี
ผมคลุกคลีกับแวดวงฟุตบอลไทยมาตลอดตั้งแต่สมัย เด็กๆ ติดตามการทำงานของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยที่มีนายกสมาคมเปลี่ยนแปลงมาโดย ตลอด ตั้งแต่ สมัยแรกๆ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยมนาค, พ.อ.อนุ รมยานนท์, อาจารย์พิศิษฐ์ งามพานิช จนมาถึงยุคคนมีอำนาจชื่อเสียง พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ, อาจารย์วิจิตร เกตุแก้ว และมาถึงยุค คนมีความรู้ ความสามารถ คุณวรวีร์ มะกูดี
อายุงานของสมาคมฟุตบอลที่ผมใกล้ชิดติดตามข่าวมา โดยตลอด หากมีคนถามผมถึงพัฒนาการของการเล่นฟุตบอลของนักเตะไทย ทั้งระดับยุวชน เยาวชน ต่อเนื่องถึงสโมสรและทีมชาติ สมัยนี้กับสมัยก่อน นักเตะไทย มีการพัฒนามากน้อยแค่ไหน ผมตอบยาก เพราะหากตรวจสอบ เม็ดงานแห่งความสำเร็จ สมาคมฟุตบอลน่าจะมีระดับความพอใจอยู่เพียงแชมป์ซีเกมส์
ส่วนความสำเร็จในระดับทวีป ที่โดดเด่นน่าจะเป็น ฟุตซอลของ "บิ๊กป๋อม" คุณอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ นอกจากนั้น เราคงเคยชินกับ การตกรอบแบบเล่นดี แต่ไม่มีดวง เป็นเหตุผลซ้ำซาก ที่สมาคมฟุตบอล ไม่เคยสนใจ การพัฒนาการเล่นฟุตบอลที่ถูกวิธี
เรามีการตั้งโครงการมากมาย แต่เราก็ล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง เราต้องเปลี่ยนโค้ช หรือ คนทำทีม จนแทบจะไม่มีใครเหลือในเมืองไทย ส่วนโค้ชต่างประเทศ เราไม่เคยกล้าลงทุนจ้างโค้ชเกรดเอ ส่วนใหญ่ เราใช้พวกของดีราคาถูกเกรด บี และเกรด ซี ทำให้ฟุตบอลในเมืองไทย เรามีแต่โครงการ แต่ไม่มีการพัฒนา นักฟุตบอลไทยเวลามีโปรแกรมลงแข่งขัน จึงเล่นแบบเดิมๆ กับคนทำทีมหน้าเดิมๆ
ความจริงผมไม่ได้ดูถูกโค้ชคนไทยเพียงแต่อยากให้ แฟนฟุตบอลเมืองไทย ยอมรับความจริง ตราบใดที่เรายังจมปลักกับโค้ชหน้าเดิมๆ ไม่เคยมีโครงการพัฒนา อย่างถูกต้อง ถูกวิธี โค้ชที่มาทำทีม ความจริงทุกคนอยากพัฒนาความรู้ ความสามารถ เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะเรียนรู้กับใคร เมื่อไร และ ที่ไหน พอมีข่าวการอบรมไปร่วมกลับมาก็ยังเหมือนเดิม
ผมไม่เข้าใจ คุณวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอล ชั่วโมงนี้ เพราะหนึ่งสมัยที่ผ่านมา คุณวรวีร์ บริหารงานแบบมีอำนาจเบ็ดเสร็จ เป็นฟีฟ่าเมมเบอร์มา 3 สมัย ได้เห็นได้มีโอกาสพูดคุยกับคนในแวดวงฟุตบอล ได้เห็นโค้ชหรือผู้จัดการทีม ที่มีความสามารถ เกือบทุกคนเกรงใจ คุณวรวีร์ เพราะในฟีฟ่า คุณวรวีร์ วางตัวดี แม้แต่ประธาน เซปป์ แบล็ตเตอร์ ยังรักและเอ็นดู คุณวรวีร์ ถ้าคุณวรวีร์ เอ่ยปากขออะไร ที่เป็นประโยชน์ต่อแวดวงฟุตบอลเมืองไทย ผมเชื่อว่าประธานฟีฟ่า ต้องไฟเขียวอย่างแน่นอน
สมัยแรกที่เป็นนายกสมาคม คุณวรวีร์ อาจยังไม่ลงลึกในรายละเอียด ทำให้ภาพรวมของการพัฒนาดูไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่สมัยสองคุณวรวีร์ ต้องทำงานในเชิงรุกมากกว่าเดิม จะใช้วิธีบริหารงานแบบแต่งตั้งคนที่มีความพร้อม เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม และให้ผู้จัดการทีม แต่งตั้งสตาฟฟ์โค้ช ผมมองว่ามันไม่ใช่การพัฒนา การเล่นฟุตบอลอย่างแท้จริง
ชั่วโมงนี้ คุณวรวีร์ ต้องครบเครื่อง การบริหารในองค์กรต้องทำแบบมืออาชีพ ใครที่อึดอัด และไม่สามารถทำงานให้มีการพัฒนาได้ ต้องไม่เกรงใจ ในเรื่องราวของโค้ชฟุตบอล คุณวรวีร์ ต้องเป็นพี่เลี้ยงที่คัดเลือก และส่งโค้ชไทยไปอบรมยังต่างประเทศ
ผมมองการทำงานของคุณวรวีร์ ในเรื่องการบริหารสมาคมในฐานะนายกสมาคมสมัยสอง ว่าคุณวรวีร์ อาจมีงานที่รับผิดชอบเยอะมาก จนไม่มีเวลาที่จะลงมาล้วงลูก เคลียร์เรื่องคนทำทีม พอมีปัญหา ก็ใช้วิชาขายผ้าเอาหน้ารอด เพียงอย่างเดียว การแต่งตั้งคนทำทีม แล้วปล่อยให้ทำงานแบบอิสระ เลือกสตาฟฟ์โค้ชเอง คัดเลือกเด็กนักฟุตบอลเอง ไม่ทำให้มีการพัฒนาการเล่นฟุตบอลเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ผมมองว่า ไม่ใช่วิธีที่ช่วยพัฒนาการเล่นของฟุตบอลเมืองไทย ระดับนายกวรวีร์ ต้องประกาศตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนภายใน 5 ปี เราจะเป็นทีมระดับแนวหน้าของเอเชีย ส่วนภายใน 10 ปี เราจะไปร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย การตั้งเป้าหมาย
และคุณวรวีร์ ที่ผมมองว่า สู้ทุกอย่างในการทำอย่างไรให้ฟุตบอล เมืองไทยพัฒนา จะได้โชว์ศักยภาพความรู้ ความสามารถได้อย่างเต็มที่ครับ
ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2009/05/09/news_28710062.php?news_id=28710062
| จากคุณ |
:
TungstenPalm 
|
| เขียนเมื่อ |
:
30 ก.ย. 52 15:15:05
|
|
|
|
|
บอลไทย" มันเจ็บนะ ถ้าโดนหัวเรือบอลไทยถามอย่างนี้