ความคิดเห็นที่ 1 ... คำตอบในคห.2 จ้ะ แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 52 01:09:16 จากคุณ : Edna Mode เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:07:03

ความคิดเห็นที่ 2 บอลเอ คือบอลเร็วที่เล่นลูกต่ำครับ ตัวตีจะกระโดดก่อน หรือพร้อมกับลูกที่ขึ้นเนต ตัวเซตจะเซตลูกสูงไม่น่าจะเกิน 30 cm จากขอบเนตด้านบน บอลบี คือบอลระยะกลาง ซึ่งจะมีทั้งบีหน้า และบีหลัง ตัวเซตจะเซตลูกลอยขึ้นประมาณ 1.0-1.5 m ขึ้นอยู่กับการซ้อมของแต่ละทีมครับ บอล x ซึ่งจริงภาษาวอลเลย์ก็คงไม่เรียกแบบนี้(หรอกมั้ง)เท่าที่เห็นในทีวีน่าจะเป็นบอลบีทับ บีแทรกครับ คือให้ตัวตีบอลเอกระโดดหลอก(หรือบางทีก็ตีจริง) กับตัวตีบอลบี ซึ่งจะเข้ามาทีหลังครับ ซึ่งการแยกระหว่างบีทับกับบีแทรกก็น่าจะเป็นตำแหน่งของผู้ตีครับ บีทับ ก็เหมือนลูกที่วิลาวัณย์ตีลูกแชมเปี้ยนชิพพอยต์ คือตัวตีบีอยู่ต้นแถว ตัวตีบอลเอ(ปลืมจิตร์)อยู่บอลกลาง และตัวเซตตามลำดับ บีแทรกก็สลับตำแหน่งระหว่างวิลาวัณย์กับปลื้มจิตร์ครับ คือจะตีบอลเอไหลยาวแล้วให้ตัวตีบีกระโดดแทรกระหว่างตัวตีบอลเอ กับตัวเซตครับ จากคุณ : mercury2227 เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 00:50:30

ความคิดเห็นที่ 3 ก๊ากกกก...ว่าแล้วเชียวว่าเรามั่ว ต้องรีบขึ้นไปลบคห.1 ด่วนด้วยความเขิลลลล์ จากคุณ : Edna Mode เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 01:08:55

ความคิดเห็นที่ 4 แต่ถ้าดู true vision (UBC) ทีมไทยจะมีอยู่ไม้ตายเีดียวครับ คือ ลูก x เพราะไม่ว่าจะตีลูกอะไรน้าเค้าก็จะบอก X ตลอด จากคุณ : cheer (จากใจจริง) เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 03:59:39

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ ^ ขอให้มีตัวบอลเร็วกระโดดหลอก น้าติงแกก็ว่าเป็นบอล x ทุกลูกอะครับ อิอิ จากคุณ : swing_boy เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 08:14:31

ความคิดเห็นที่ 6 นั่นดิ เห็นแกพล่ามอยู่ลูกเดียว คือลูก X และก็พากย์มั่วๆ ประจำ แถมดูเหมือนจะภูมิอกภูมิใจความความรู้อันล้ำลึกของตัวเองด้วยนะนั่น จากคุณ : Edna Mode เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 09:18:20

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณครับคุณ mercury2227 คห.1&3 ไม่เป็นไรครับคุณ Edna Mode ^^ ขำๆ จากคุณ : bigleng เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 09:39:03

ความคิดเห็นที่ 8 ประเด็นนักพากย์ เคยมีครั้งนึงดูเทปบันทึกการแข่งขัน ระหว่างการแข่งขัน มีเสียงโค้ชดังขึ้นว่า 3 เมตรหลัง !!! นักพากย์เสียงผู้ชายคนนั้นก็พูดว่า "แหมม โค้ชยะบอกว่าขออีก 3 เม็ด !!!" เอ่ออ คือ... ??? ปล. ขอบคุณสำหรับข้อมูลการตีบอลครับ จากคุณ : Mr.Quiet เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 09:53:57

ความคิดเห็นที่ 9 ขอเสริมนิดนึงนะคับ บอลสั้น(บอลเร็ว) แบบ A  มีทั้ง สั้นหน้า หรือ A หน้า , สั้นหลัง หรือ A หลัง คือตัวตีบอลเร็วจะวิ่งมาตีบอลใกล้ๆ กับตัวเซ็ต ---------------------------เน็ต-------------------------------                          A   [setter]   A บอลสั้น แบบ B หรือ บอล X (บางคนเรียกว่า บอลซี่) คือตัวตีบอลเร็ว จะวิ่งไปตีบอลห่างจากตัวเซ็ตมากกว่าแบบ A (ลูกที่นุช ชอบยัดบอลให้หน่องตี) และอีกตำแหน่งคือบอลไหลหลังยาว (ลูกถนัดของแจ็ค) ---------------------------เน็ต-------------------------------                  X           [setter]                        ไหลยาว บอล B หรือ คือบอลที่ตัวเซ็ตจะเซ็ตบอลสูงกว่าบอลสั้น ปกติมักจะอยู่ตรงกลางสนาม แต่การเล่นสูตรจะต้องให้ตำแหน่งบอลอยู่เลยจากตำแหน่งตัวตีบอลเร็วไปอีก ---------------------------เน็ต-------------------------------              Bหน้า          [setter]              Bหลัง บอล B ที่นิยมใช้ก็มี  - บีทับ หรือ ทับ X คือตัวตีบอลเร็วจะกระโดด(หลอก)อยู่ใกล้กับตัวเซ็ต แล้วคนที่ตีบอลจริงๆ จะอยู่ใกล้กับตัวตีบอลเร็ว จะมีทั้งทับหน้า (สูตร: A หน้าหรือ X หน้า + บี) และ ทับหลัง (สูตร: A หลัง + บีหลัง) ---------------------------เน็ต-------------------------------                  B     A    [setter]    A      B  - บีแทรก คือตัวตีบอลหลักจะอยู่ตรงกลางระหว่างตัวตีบอลเร็วและตัวเซ็ต สูตรนี้ตัวตีบอลเร็ว จะวิ่งบอล X และไหลยาวเท่านั้น เพราะจะต้องเผื่อพื้นที่ให้ตัวตีบอลหลักวิ่งมาตีตำแหน่งนี้ ---------------------------เน็ต-------------------------------                X      B      [setter]       B          ไหลยาว การเล่นบอลสูตร ต้องอาศัยการฝึกซ้อมที่ชำนาญและความคล่องตัว เพราะอาจเกิดการผิดพลาดในการวิ่งสลับตำแหน่งได้ เป็นสไตล์การเล่นของทีมที่ตัวเล็กและรวดเร็ว เพื่อสร้างความหลากหลายเกมรุก หากเล่นบอลหัวเสาอย่างเดียวจะเสียเปรียบเพราะบล็อกจะมาเร็วมาก เผลอๆ 6 มือทีเดียวเลย และที่สำคัญที่สุด "ตัวเซ็ต" ที่เป็นผู้สร้างสรรเกมให้หลากหลาย และจะดึงบล็อกได้ดีแค่ไหน อย่างเช่นบอลที่สูตรงามที่สุด คือบอลทับ X ที่เป็นลูกปิดแม็ตช์ชิงแชมป์เอเชียนั่นเอง ถ้าไม่เข้าใจก็ต้องดูเทปบ่อยๆ นะคับ แล้วลองถามตัวเองดูว่าบอลแบบนี้น่าจะเรียกว่าอะไร มีข้อสงสัยถามได้คับ แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 52 09:57:26 จากคุณ : paekung (boonchait) เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 09:55:14

ความคิดเห็นที่ 10 กูรูเอก ว่างนะเนี่ย มาซะยาวเลย ละเอียดด้วย อิอิ เพิ่มเติมให้ละเอียดขึ้นครับ วิธีการดูว่า บอลสูตรลูกนั้นเป็น แบบทับ หรือแบบแทรก สังเกตได้จากตัววิ่งหลอกครับ ถ้าตัววิ่งหลอกอยู่ใกล้ตัวเซ็ตมากกว่าตัวตี ก็คือ ลูกทับครับ ถ้าตัววิ่งตีอยู่ใกล้ตัวเซ็ตมากกว่าตัววิ่งหลอก ก็คือ ลูกแทรกครับ หรือท่านใดยังสงสัย บอลลักษณะต่างๆ ก็เอาคลิปมาโพส สอบถามกันได้นะครับ ทุกคนในที่นี้ ยินดีไขข้อข้องใจเกี่ยวกับวอลเลย์อยู่แล้วครับ ปล. รบกวนแฟนวอลเลย์ทุกท่าน กดเก็บกระทู้ดีๆ นี้ เข้าคลังด้วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 52 11:39:08 แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 52 11:36:05 จากคุณ : Dizzy_SKN18 เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 11:35:46

ความคิดเห็นที่ 11 แจ่ม แจ้ง เจิด จากคุณ : คุณระย้า (gamesmj) เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 12:21:29

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณ คุณpaekung (boonchait) และคุณDizzy_SKN18 ด้วยนะครับ อีกนิดนึง แล้วมือสัญลักษณ์ที่ให้ที่ก้นก่อนเสิร์ฟนี่เหมือนกันหมดให้มั๊ยครับ ไม่งั้นจะแอบให้กันทำไม จากคุณ : bigleng เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 15:06:28

ความคิดเห็นที่ 13 เด่วถ้ามีเวลาว่างๆ จะทำให้ดูนะคับ แต่จริงๆ ไม่บอกดีกว่า เด่วต่างชาติเอาซิกไป แล้วจับทางได้ 55+ ผมไม่ค่อยเห็นนุชเค้าสั่งรหัสมือเท่าไร ส่วนมากจะบอกปากต่อปากเลย เพราะยังไงเค้าก็ฟังภาษาไทยไม่ออกอยู่ดี จากคุณ : paekung (boonchait) เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 16:48:03

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นโค้ชญี่ปุ่น เวลาจะตะโกนสั่งลูกทีม แกต้องเอาแฟ้มป้องปากประจำเลย ทำยังกะไทยเราฟังญี่ปุ่นออกงั้นแหละ จากคุณ : Edna Mode เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 17:45:59

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยกับ#14มากเห็นหลายครั้งแล้วเหมือนกัน จากคุณ : wonkert เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 20:02:11

ความคิดเห็นที่ 16 เอาแบบคร่าวๆ ล่ะกันครับ เรื่องรหัสมือ เดี๋ยวนี้เค้าประยุกต์วิธีใช้ไปหลากหลายแล้วครับ รหัสมือ ที่ตัวเซ็ตส่งเรียกแผนนั้น สัญลักษณ์การส่ง ส่วนมากจะเหมือนกัน แต่ว่ามันอยู่ที่การตกลงกันไว้ในทีม ว่าสัญลักษณ์นี้ จะหมายถึงแผนอะไรครับ ยกตัวอย่างขำๆ นะครับ อย่างเช่น สองนิ้วชี้ลงพื้น ทีม A อาจจะหมายความว่าให้ใช้บอลสูตรนี้ แต่ทีม B อาจจะหมายถึงอีกสูตรหนึ่งก็ได้ครับ แต่ว่าการให้สัญญาณแบบนี้ จะใช้ได้แค่บุกครั้งเดียวเท่านั้น ในกรณีที่ฝ่ายตรงข้ามรับตบ กลับมาได้ แล้วฝ่ายเราได้บุกครั้งที่สองนั้น ตัวเซ็ตจะจ่ายบอลให้ตัวตีที่พร้อมเล่นเท่านั้น (สังเกตได้จากการที่ตัวตียกมือเรียกบอล แล้วส่งเสียงบอกตัวเซ็ตครับ ว่าจะขึ้นตีลูกอะไร) แต่ถ้ามีตัวตีพร้อมหลายคน ตัวเซ็ตจะเป็นผู้เลือกครับว่าจะจ่ายบอลให้คนไหน จากคุณ : Dizzy_SKN18 เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 07:00:43

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นเจ๊วิลาวัณย์นี่ยกมือเรียกแทบทุกลูกเลยอ้ะ นุศนาก็ส่งให้มั่งไม่ให้มั่ง เจ๊วิเธอต้องการระยะทางนิดเดียวในการกระโดดตบ ไม่ต้องถอยไปวิ่งไกลๆ กล้ามเนื้อแกร่งจริงๆ แล้วก็ตบได้คะแนนเป็นส่วนใหญ่ด้วยนะ ทีมยักษ์ใหญ่บล็อคไม่ค่อยอยู่ มีอยู่ลูกนึงน่าทึ่งมากๆ เจ๊วิตบหนีบล็อคญี่ปุ่นอ้ะ โห...เทพ จากคุณ : Edna Mode เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 08:20:24

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณครับ ถ้าอย่างนั้นคงมีแผนเยอะพอสมควร ถ้าไม่ฝึกดีๆนี่อาจมีหลง ผมกลับไปดูคู่ญี่ปุ่น พอจะเห็นลูกบีทับ บีแทรกออกบ้างแล้ว ขอถามอีกนิดครับ เส้น 3 เมตรมีไว้ทำไมครับ ในการแข่งไม่เห็นใช้ประโยชน์อะไรเลย หรือตีไว้งั้นแหละ จากคุณ : bigleng เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 14:49:23

ความคิดเห็นที่ 19 สังเกตเหมือนกันครับ ว่าวิลาวัณย์ยกมือเรียกทุกลูก เหมือนกับบอกให้ตัวเซตรู้กระมังครับ ว่าตัวเองพร้อมที่จะเล่น พร้อมที่จะตี แต่ที่เด็ดสุด คือตอนนั้นเธออยู่แดนหลัง เห็นเธอยกมือเรียกบอล แต่ปากกลับส่งเสียงว่า   "จ่ายวายให้่อรตบเลย" (สงสัยเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ ไม่ให้ตัวเซตรู้) จากคุณ : เจ้าชายโดดเดี่ยว เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 21:33:36

ความคิดเห็นที่ 20 bigleng เส้น 3 เมตร มีไว้เพื่อแบ่งตำแหน่งการยืนของผู้เล่นแดนหน้า และแดนหลัง ผู้เล่นแดนหลังไม่สามารถทำการรุกเกินตำแหน่งเส้น 3 เมตรได้ คือ ถ้าจะกระโดดตีบอลจากแดนหลัง ก็ห้ามเหยียบเส้น 3 เมตรก่อนกระโดด ถ้ากระโดดแล้วตัวถลำไปหน้าเน็ตโดยไม่เหยียบเส้นก็ไม่เป็นไรคับ ลิโบโร่กับเส้น 3 เมตร ลิโบโร่มีถิ่นอาศัยอยู่แดนหลังเท่านั้น ไม่สามารถ rotate ไปตำแหน่งแดนหน้าได้ กติกาของลิโบโร่กับเส้น 3 เมตรคือ ถ้าเท้าของลิโบโร่อยู่หลังเส้น 3 เมตร คือห้ามเหยียบเส้น 3 เมตรนั่นเอง จะสามารถยืนหรือกระโดดเซ็ตบอลได้ แต่ถ้าเท้าเหยียบเส้น 3 เมตรจะเซ็ตตั้งให้ผู้เล่นคนอื่นกระโดดตีบอลไม่ได้ จะทำได้แค่เพียง under บอลตั้งให้เพื่อนร่วมทีมเท่านั้น ถ้าลิโบโร่เซ็ตบอลในแดนหน้า ผู้เล่นจะทำได้แค่เพียง under หรือ set บอลข้ามเท่านั้น จากคุณ : paekung (boonchait) เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 22:55:57

ความคิดเห็นที่ 21 สุดยอด กฎกติกาเยอะเหมือนกัน กรรมการก็ต้องคอยดูอยู่ตลอดเลยซิครับ มีประโยชน์ต่อการดูวอลเล่ย์บอลมาก มิน่ามีลูกนึงที่ทีมญี่ปุ่นตีบอลดีแล้วน้าติงบอกว่าซาโอริเหยียบเส้นครับๆ คะแนนนั้นเลยเป็นของทีมไทย ขอบคุณมากครับ คุณpaekung (boonchait)ต้องเคยเป็นนักกีฬาวอลเล่ย์บอลมาก่อนรึเปล่าครับ เข้าใจกติกาและวิธีการเล่นดีมากเลย จากคุณ : bigleng เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 00:09:27

ความคิดเห็นที่ 22 สอบถามเรื่องการเปลี่ยนตำแหน่งครับ ถ้าผู้เล่นตัวสูงๆไปอยู่แดนหลัง เราก็เปลี่ยนลิโบโร่ลงไป 2 คนเลยซิครับ เพราะมันเปลี่ยนได้ตลอดนิ แล้วเมื่อไหร่จะมีโอกาสเปลี่ยนตัวบุกตีลงไปแทนในแดนหน้าล่ะครับในเมื่อลิโบโร่หมุนไปแดนหน้าไม่ได้ จากคุณ : bigleng เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 00:34:29

ความคิดเห็นที่ 23 ลูกที่เหยียบเส้นนั้ืน ถ้าจำไม่ผิด ไม่น่าใช่ซาโอริอ่ะครับ น่าจะเป็นซาคาชิตะ แต่ว่าน้าติงแกมั่วตลอดศก พากย์เนียนไปเรื่อย ลูก X ตลอด เรื่องกติกา รอพี่ paekung แล้วกันครับ จากคุณ : เจ้าชายโดดเดี่ยว เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 01:08:22

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าตัวสูงเปลี่ยนลิเบอร์โร่ออกตลอดประสิทธิภาพการบุกจากแถวหลังอาจจะลดลงหรือเปล่าครับ ส่วนเวลาเปลี่ยนตัว เมื่อ rotation ที่ลิเบอโร่จะขึ้นแทนหน้า ก็เอาผู้เล่นที่เปลี่ยนตัวกับลิเบอโร่กลับลงมาแดนหน้าไงครับ เหมือนอำพรเสิร์ฟเสร็จ ก็เปลี่ยนวรรณาเข้ามา พอวรรณจะหมุนขึ้นแดนหน้า อำพรก็กลับลงมาเปลี่ยน แล้วก็เล่นแดนหน้าเลย จากคุณ : mercury2227 เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 10:45:48

ความคิดเห็นที่ 25 ลิโบโร่จะอยู่ 3 ตำแหน่งหลัง หลังจากตัวตีที่ลงไปเสิร์ฟเสียสิทธิ์การเสิร์ฟ ส่วนมากลิโบโร่ จะเปลี่ยนกับคนที่ความสามารถการรับด้อยกว่าคนอื่นๆ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนตัวสูงเสมอไป อย่างเช่น Gamova ของรัสเซีย เค้าใช้ความสูงของเธอไว้ตีบอลจาก 3 เมตรแทน ที่นิยมเปลี่ยนกันมากที่สุดก็มักจะเป็นตัวบอลเร็วที่มีรูปร่างสูง ต้องวิ่งบล็อกตลอด แล้วเก็บตัวบอลหลักไว้ตี 3 เมตรคับ แต่ถ้าเป็นทีมญี่ปุ่นที่มีรูปร่างเล็ก ยอมที่จะเอาตัวรับลงไป 2-3 คนในแดนหลัง เพื่อสร้างเกมรับที่เหนียวแน่นขึ้น แล้วก็เป็นผลอย่างยิ่ง เพราะเกมรับของญี่ปุ่นถือเป็นเกมรับที่ดีที่สุดอีกทีมหนึ่ง จากคุณ : paekung (boonchait) เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 12:50:24

ความคิดเห็นที่ 26 ขอสรุปบอลในรูปแบบต่างที่มีอยู่ให้ดูเผื่อจะเข้าง่ายๆนะครับ อันนี้อาจจะมีแบบแปลกเพิ่มขึ้นมาอีกก็ได้นะครับ อิอิ 1. จู่โจมด้วยความเร็วสูง เริ่มจาก 1.1 บอลเอ แบ่งเป็น เอหน้า กับเอหลัง - ตามที่ คห. 2 อธิบายครับ 1.2 บอลซี่ มีทั้งหน้าและหลังเช่นเดียวกัน แต่ต่างกับบอลเอตรงที่ บอลซี่จะถูกเซตออกห่างจากตัวเซตไปประมาณ 0.5-1 เมตร แต่ความสูงเท่าๆกับบอลเอครับ 1.3 บอลเบอร์ม่า หรือพม่า เป็นการหลอกฝ่ายตรงข้ามด้วยตัวเร็ว ที่วิ่งเข้ามาทำทีเป็นเล่นบอลเร็ว แต่ไม่กระโดด โดยหลอกให้ตัวบล็อคขึ้นไปก่อน แล้วตัวเร็วจะกระโดจังหวะ 2 พร้อมกันตัวบล็อคฝั่งตรงข้ามตกพอดี  ส่วนความสูงของบอลจะเท่ากับบอลบี หรือต่ำกว่าเล็กน้อย 1.4 กระเตงหลังหรือกระเติงหลังหรือไหลหลัง อันนี้สำหรับตัวเร็ว ลูกจะเร็วกว่า และต่ำกว่าครับ 2. จู่โจมด้วยความเร็วระยะกลาง เป็นบอลที่นิยมสำหรับทำแต็มมากที่สุดครับ เนื่องจากจะมีตัวหลอก คือบอลเร็ว คอยหลอกล่อตัวบล็อคมีทั้งหน้าและหลังตาม 2.1 บอลบีตาม คห.2 นะครับ 2.2 บีทับและบีแทรก จริงๆก็คือบอลบีหน้า-หลังนั่นแหละครับ เพียงแต่การมีตัวเร็วเข้ามาหลอกล่อ ก็เลยเรียกตามตำแหน่งนั้นๆไปครับ 2.3 ทับซี่ ความสูงเท่ากับบอลบี แต่ตัวเซตจะเซตลูกห่างจากตัวเท่ากับบอลซี่ เพื่อเป็นการกระจายบล็อค โดยจะได้ผลดีถ้าตัวบีหรือตัวหลักวิ่งมาจากด้านหลัง เพื่อมาจู่โจมด้านหน้าครับ 2.4 กระเตงหรือกระเติงหรือไหลหลังอันนี้จะสูงกว่าแบบที่ใช้กับตัวเล่นบอลเร็วและยาวกว่า โดยมากจะเซตไปจนถึงหัวเสาหลังเพื่อที่จะตีได้ทั้งมุมตรงและมุมทะแยง 2.5 บอล 3 เมตร อันที่จริงควรอยู่ในรูปแบบสุดท้าย แต่ในปัจจุบันนิยมเซตบอลให้ต่ำลง เพื่อการโจมตีที่เร็วขึ้น และเป็นบอลหวังผลได้ดีครับ 3. จู่โจมด้วยความเร็วระยะไกล คุณสมบัติของผู้ที่เล่นตัวแหน่งนี้ คือ ตีหนัก ตีแม่น ตีชัวร์และสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ดี ซึ่งโดยมากก็คือตัวหลักของทีมนั่นแหละครับ 3.1 บอลโค้ง หรือบอลซี หรือบอลหัวเสา ก็คือการเซตให้สูงในระดับนึง แต่ไกลไปจนถึงหัวเสาทั้งหน้าและหลังครับ 3.2 บอล Y ตำแหน่งเดียวกับบอลโค้ง แต่บอลจะพุ่งเร็วกว่า และต่ำกว่าครับ ส่วนในการเลือกใช้สูตรต่างๆ ขึ้อยู่กับการฝึกซ้อมของตัวเซตและตัวตี และกลยุทธ์ของผู้ฝึกสอนครับ สามารถนำทุกสูตรเข้ามาใช้ได้ในแต่ละสถานการณ์ที่ต่างกัน เช่น เมื่อตัวเร็ววิ่งบอลเอ ก็ไม่จำเป็นต้องเล่นบีทับเสมอไป อาจจะเล่นบีหลัง หรือทับซี่ หรือกระเติงหลังก็ได้ อันนี้ขึ้นอยู่กับสเต็ปเท้าของตัวบีว่าจะสามารถหลอกตัวบล็อคได้ดีแค่ไหนนะครับ หรืออยู่ที่ตัวเซตว่าจะใช้สูตรไหนเพื่อหนีตัวบล็อคที่สูงใหญ่ หรือหลอกล่อตัวบล็อคครับ ชอบตอนนี้จังเลย เหมือนวอลเลย์บอลกลับมาอีกครั้งหลังจากที่เงียบหายไปนาน อยากเล่นวอลเลย์จังครับ เพื่อนๆเล่นที่ไหนกันบ้างครับ ^^ จากคุณ : hallelujoh เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 16:17:42

ความคิดเห็นที่ 27 คห. 19 เจ้ากิ๊ฟ อาจจะมองเห็น แนวบล็อคของทีมตรงข้ามชัดก็ได้มั้งครับ ว่ามีรูรั่วตรงไหน เลยช่วยบอก อิอิ ปล. อย่าไปเชื่อกติกาจากน้าติงมากครับ แอบมั่วเยอะเหมือนกัน จากคุณ : Dizzy_SKN18 เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 17:40:51

ความคิดเห็นที่ 28 โดยปกติผู้เล่นจะเรียกทุกคนครับ ถ้าเป็นในประเทศฝ่ายตรงข้ามจะได้งงว่าใครตีกันแน่ไงครับ แต่ทั้งนี้ ทุกคนที่เรียกบอลต้องพร้อมที่จะตีด้วยครับ หรืออีกกรณีก็คือ จะเรียกเปลี่ยนแผนกระทันหันกรณีที่บอลไม่เข้าจุดตัวเซตครับ เช่น กิ๊ฟอยู่ตำแหน่งหัวเสา แล้วตัวเซตสั่งแผนให้ตีบีหลัง แต่ถ้าเกิดกิ๊ฟรับบอลแรกเอง บอลเกิดไปตกที่หัวเสาหลัง ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นเรียกบอลโค้ง หรือบอล y แทนครับ หรือบางครั้งอาจจะเห็นตัวบล็อคมาไม่ทัน หรือมีช่องทางอื่นก็จะเรียกตาใจได้ครับ แต่ต้องมีการตกลงกับตัวเซตก่อน ไม่เช่นนั้น..... 555+ จากคุณ : hallelujoh เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 10:07:53