ความคิดเห็นที่ 1 พระเอกของเรื่องนี้ คือ ประเทศไทยและทีมชาติไทยครับ ************************************************ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 14:57:26

ความคิดเห็นที่ 2 เริ่มซีรี่ส์เลย ไทย-จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ครับ ผมแบ่งช่วงซีรี่ยส์ออกเป็น 4 ช่วง ช่วงละ 4 ปี รวมเป็นระยะเวลา 17 ปี ซีรี่ยส์ช่วงแรก เป็นอันดับโลกช่วงกรกฎาคมปี 1993 - มิถุนายนปี 1997  (พ.ศ. 2536 - พ.ศ.2540) ไทยอันดับขึ้นๆลงๆ จนจบช่วง  4 ปีนี้ด้วยการได้อันดับเท่าๆกับตอนออกสตาร์ท ส่วนญี่ปุ่นมีอันดับตกแค่ช่วงต้นปี 1994 ต่อจากนั้นมาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนจบ 4 ปีแรกด้วยการติด Top 20 ของโลก เกาหลีใต้ดูจะคงเส้นคงวาที่สุด จะมีตกไปบ้างช่วงต้นปี 1996 ส่วนจีนขึ้นๆลงๆเช่นเดียวกับไทย และจบ 4 ปีนี้ด้วยอันดับที่ใกล้เคียงกับช่วงเริ่มต้น จบช่วง 4 ปีแรกนี้มาตรฐานอันดับโลกของญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ (เฉลี่ย 33,40) กับจีน-ไทย(เฉลี่ย 55,73)ค่อนข้างห่างกันครับ ไทยทำอันดับดีที่สุดเมื่อสิงหาคม 1996ที่อันดับ 50   แย่ที่สุดที่ 103   เฉลี่ย  4  ปีแรกอันดับ  73.077 **สังเกตดูช่วงที่ไทยอันดับโลกดีที่สุด(สิงหาคม 1996)คือติด Top50 เป็นช่วงหลังยุครุ่งเรืองของสโมสรฟุตบอลธนาคารกสิกรไทย ที่คว้าแชมป์เอเชีย 2 สมัยซ้อนในปี 1993-1995 ฟุตบอลรายการใหญ่ที่แข่งขันกันในช่วง 4 ปีนี้มี -ฟุตบอลเอเชียน คัพ 1992 ที่ญี่ปุ่น (ญี่ปุ่นได้แชมป์,จีนได้ที่ 3) -ฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐฯ (เกาหลีใต้ตกรอบแบ่งกลุ่มด้วยอันดับ 3 - เสมอ 2 แพ้ 1) -เอเชียนเกมส์ 1994 ที่ญี่ปุ่น (จีนได้เหรียญเงิน,เกาหลีใต้ได้ที่ 4) ---------------------------------------------------------------------------- แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 52 22:42:00 แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 52 15:17:03 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:00:31

ความคิดเห็นที่ 3 ซีรี่ยส์ช่วงที่ 2 เป็นอันดับโลกช่วงกรกฎาคมปี 1997 - กรกฎาคมปี 2001 (พ.ศ.2540 - พ.ศ.2544) ช่วงนี้เป็นช่วงที่ทั้ง 4 ชาติฟอร์มดีเยี่ยม อันดับโลกเลยพร้อมใจกันออกมาสวยหรู   **โดยเฉพาะไทยที่คู่คี่สูสีกับจีน จนสามารถจบช่วง 4 ปีนี้ด้วยอันดับเฉลี่ยที่เหนือกว่าจีนได้สำเร็จ **ส่วนเกาหลีใต้เองสามารถทำอันดับเฉลี่ยได้เหนือกว่าญี่ปุ่นนิดหน่อยในช่วง 4 ปีนี้ และทั้งคู่ก็ยังรักษามาตรฐานไว้ได้สูงเช่นเคย ช่วง 4 ปีนี้เป็น 4 ปีทองของทีมชาติไทย ทำอันดับโลกสูงสุดเท่าที่เคยทำได้เมื่อ เดือนกันยายน 1998 ที่อันดับ 43  ต่ำสุดเมื่อกรกฎาคม 1999 ที่อันดับ 78 เฉลี่ยอยู่ที่ 61  ซึ่งเหนือกว่าจีนนิดเดียว ***เป็นที่น่าสังเกตว่าเดือนกุมภาพันธ์ปี 1998 ทีมชาติญี่ปุ่นทำอันดับดีที่สุดตลอดกาลของพวกเค้าที่อันดับ 9 ของโลก สุดยอดครับ ส่วนมาตรฐานอันดับโลกของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ช่วง 4 ปีนี้นั้น(เฉลี่ย35,35) ห่างชั้นกับไทยและจีน(เฉลี่ย61,61) อย่างเห็นได้ชัด ปี 1998 เป็นปีที่ทีมชาติไทยสร้างประวัติศาสตร์เอาชนะทีมชาติเกาหลีใต้เข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลเอเชียนเกมส์ได้สำเร็จ ฟุตบอลรายการใหญ่ที่แข่งขันกันในช่วง 4 ปีนี้มี -ฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศส (เกาหลีใต้ตกรอบแบ่งกลุ่มด้วยอันดับสุดท้าย-เสมอ 1 แพ้ 2,ญี่ปุ่นตกรอบแบ่งกลุ่มแพ้ 3 นัดรวด) -เอเชียนเกมส์ 1998 ที่ประเทศไทย (จีนได้เหรียญทองแดง,ไทยได้ที่ 4) -ฟุตบอลเอเชียน คัพ 2000 ที่เลบานอน (ญี่ปุ่นได้แชมป์,เกาหลีใต้ที่ 3,จีนที่ 4) ------------------------------------------------------------------------------ แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 52 23:08:40 แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 52 15:17:17 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:01:51

ความคิดเห็นที่ 4 ซีรี่ยส์ช่วงที่ 3 เป็นอันดับโลกช่วงกรกฎาคม 2001 ถึงกรกฎาคม 2005 (พ.ศ.2544 ถึง พ.ศ. 2548) ตลอด 3 ปีแรกของช่วงนี้ไทยกับจีนตีคู่กันมา ผลัดกันขึ้น-ลงเรื่อยๆ **จุดเปลี่ยนคือเดือนกรกฎาคมปี 2004 ไทยกับจีนอันดับโลกเท่ากันที่ 60 กว่าๆ ก่อนที่หลังจากนั้นตลอด 11 เดือน อันดับโลกของไทยจะดิ่งเหวลงเรื่อยๆ จนเกือบหลุดออกนอก 100 อันดับแรก ส่วนจีนกลับสามารถตั้งตัวได้ และทำอันดับกลับไปเท่าๆกับช่วงต้นที่อันดับ 60 กว่าๆ **ช่วง 4 ปีนี้เป็นช่วงที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ฟอร์มดีมาก  ซึ่งเป็นช่วงที่ทั้งคู่จัดฟุตบอลโลกปี 2002 ร่วมกัน นอกจากนั้นทั้งคู่ก็ยังสามารถขึ้นไปอยู่ใน Top 20 ของโลกได้ที่อันดับ 13 และ 19 ตามลำดับ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ขยับมาตรฐานอันดับโลกเฉลี่ยของพวกเค้า(เฉลี่ย 24,26)ขึ้นไปสูงกว่าจีนและไทย (เฉลี่ย 61,66)มากขึ้นไปอีก   ช่วงปีนี้ไทยทำอันดับสูงสุดเมื่อเดือนมกราคม 2003 ที่อันดับ 54 และต่ำสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2005 ที่อันดับ 96 เฉลี่ยอยู่ที่อันดับ 66 **สัญญาณอันตรายของไทยเริ่มขึ้นจากช่วงปลายของกราฟนี้ครับ** ฟุตบอลรายการใหญ่ที่แข่งขันกันในช่วง 4 ปีนี้มี - ฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น (เกาหลีใต้ได้ที่ 4,ญี่ปุ่นตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย) -เอเชียนเกมส์ 2002 ที่เกาหลีใต้ (ญี่ปุ่นได้เหรียญเงิน,เกาหลีใต้เหรียญทองแดง,ไทยได้ที่ 4) -ฟุตบอลเอเชียน คัพ 2004 ที่จีน (ญี่ปุ่นได้แชมป์,จีนได้รองแชมป์) ----------------------------------------------------------------------------- แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 52 22:43:51 แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 52 15:17:32 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:03:27

ความคิดเห็นที่ 5 ซีรี่ยส์ช่วงสุดท้าย เป็นอันดับโลกช่วงกรกฎาคม 2005 ถึง กรกฎาคม 2009 (พ.ศ.2548 - ปัจจุบัน) พูดง่ายๆคือ ระดับมาตรฐานเฉลี่ยแยกจากกันหมดทั้ง 4 ชาติ มาตรฐานของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จะใกล้ๆกันอยู่ช่วงบน และยังคงรักษามาตรฐานเอาไว้ได้ตลอด 17 ปี แต่ทั้งคู่จะมีอันดับโลกเฉลี่ยห่างจากจีนมาก ส่วนจีนอันดับโลกเฉลี่ย 4 ปีล่าสุดก็ห่างจากไทยมากเช่นกันครับ (33,43,83,111 ตามลำดับ) จีนนั้นจะเรียกว่ามาตรฐานหนีจากไทยก็ไม่ถูก เพราะอันดับโลกเฉลี่ยตกลงมากกว่าเดิมเยอะเหมือนกัน **แต่ต้องพูดว่าไทยเราดิ่งเหวไม่หยุดถึงจะถูก เพราะหลังจากช่วงเดือนกรกฎาคม 2004 ที่อันดับโลกไทยเท่ากับจีนที่อันดับ 60 กว่าๆ ***ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน ไทยเราหลุดออกไปอยู่นอก Top 100 ทั้งสิ้น มีดีหน่อยที่ช่วงเดือนมีนาคม ปี 2008 ไทยทำอันดับได้สูงสุดของช่วง 4 ปีนี้ที่อันดับ 90 แต่ก็ไม่ได้น่าภูมิใจอะไรเมื่อเทียบกับเมื่อ 13 ปีก่อน และหากมองไปที่อันดับต่ำสุดของไทยในช่วง 4 ปีล่าสุดนี้ก็ต่ำอย่างน่าใจหายเมื่อเดือนธันวาคม 2006 ร่วงลงไปที่ 137 **แล้วต่อเนื่องมาถึงมกราคมปี2007นี่แหละที่เราเสียแชมป์อาเซียนคัพให้สิงคโปร์ นับเป็นช่วงตกต่ำจริงๆของทีมชาติไทย   ขณะที่จีนก็ไม่น้อยหน้า ดิ่งเหวลงมาเป็นเพื่อนไทยตอนช่วงต้นปี 2008 นี่เองจนทำให้หลุดออกจาก Top 100 เป็นเพื่อนไทย อันดับโลกเฉลี่ยของไทยช่วง 4 ปีล่าสุดอยู่ที่อันดับที่ 111  ถือว่าแย่ครับ ฟุตบอลรายการใหญ่ที่แข่งขันกันในช่วง 4 ปีนี้มี -ฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมณี (ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ตกรอบแบ่งกลุ่ม) -เอเชียนเกมส์ 2006 ที่กาตาร์ (เกาหลีใต้ได้ที่ 4) -ฟุตบอลเอเชียนคัพ 2007 ที่ไทย-มาเลเซีย-อินโดนีเซีย-เวียดนาม  (เกาหลีใต้ได้ที่ 3,ญี่ปุ่นได้ที่ 4) ---------------------------------------------------------------------------- แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 52 22:45:58 แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 52 15:17:47 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:05:34

ความคิดเห็นที่ 6 อันดับโลกของทีมชาติไทยตั้งแต่ปี 1993 - ปี 2009 ( 17 ปี) จุดที่ผมใส่ตัวเลข 1-4 ไว้แยกออกมาได้เป็น 1. อันดับโลกสูงที่สุดตลอดกาลของทีมชาติไทยเราคืออันดับที่ 43 เมื่อเดือนกันยายนปี 1998  ช่วงนั้นเป็นยุคหลังธ.กสิกรไทยประกาศศักดาคว้าแชมป์เอเชีย 2 สมัยซ้อน(93-95)และไทยได้ที่ 4 ฟุตบอลเอเชียนเกมส์ 2 สมัยติด(98-02) 2. จุดหายนะของทีมชาติไทย เริ่มขึ้นช่วงปลายปี 2004  ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นตั้งแต่ปี 1996 เป็นต้นมาไทยเราไม่เคยหลุดจากอันดับเฉลี่ยที่ 80 อันดับแรกของโลกเลย แต่ภายหลังเริ่มต้นขึ้นปี 2005  เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ไทยยังไม่เคยกลับขึ้นไปยืนที่จุดเดิม( 80 อันดับแรก)ได้อีกเลย 3. คุณลองมองเส้นสีน้ำเงินที่ผมขีดดู เหมือนหน้าผาหรือหุบเหวมั้ยครับ?  ที่ลูกศรชี้คือเลข 80 นั่นคือพื้นดินที่ไทยเคยยืน ค่าเฉลี่ยของเราคือ 60 (ปี 1993-2004) หลังจากนั้นตกหน้าผาร่วงลงไปจมอยู่ที่ 100 กว่าๆมาตลอด ลดไปเกือบครึ่ง 4. ตอนนี้เรามีพื้นดินใหม่ให้เดินแล้วที่อันดับ 120  คืออันดับที่ไทยไม่เคยจมลงไป (มีบ้างบางที) และก็อย่างที่บอกว่า 5 ปีแล้วที่เรายังไม่ฟื้น แล้วรีบปีนหน้าผากลับไปยังอันดับที่เคยเป็นมาตรฐานของเรา วันไหนถึงจะฟื้นครับ? ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:07:08

ความคิดเห็นที่ 7 อันดับโลกของทีมชาติไทยตั้งแต่ปี 1993 - ปี 2009 ( 17 ปี) จุดที่ผมใส่ตัวเลข 1-4 ไว้แยกออกมาได้เป็น 1. อันดับโลกสูงที่สุดตลอดกาลของทีมชาติไทยเราคืออันดับที่ 43 เมื่อเดือนกันยายนปี 1998  ช่วงนั้นเป็นยุคหลังธ.กสิกรไทยประกาศศักดาคว้าแชมป์เอเชีย 2 สมัยซ้อน(93-95)และไทยได้ที่ 4 ฟุตบอลเอเชียนเกมส์ 2 สมัยติด(98-02) 2. จุดหายนะของทีมชาติไทย เริ่มขึ้นช่วงปลายปี 2004  ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นตั้งแต่ปี 1996 เป็นต้นมาไทยเราไม่เคยหลุดจากอันดับเฉลี่ยที่ 80 อันดับแรกของโลกเลย แต่ภายหลังเริ่มต้นขึ้นปี 2005  เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ไทยยังไม่เคยกลับขึ้นไปยืนที่จุดเดิม( 80 อันดับแรก)ได้อีกเลย 3. คุณลองมองเส้นสีน้ำเงินที่ผมขีดดู เหมือนหน้าผาหรือหุบเหวมั้ยครับ?  ที่ลูกศรชี้คือเลข 80 นั่นคือพื้นดินที่ไทยเคยยืน ค่าเฉลี่ยของเราคือ 60 (ปี 1993-2004) หลังจากนั้นตกหน้าผาร่วงลงไปจมอยู่ที่ 100 กว่าๆมาตลอด ลดไปเกือบครึ่ง 4. ตอนนี้เรามีพื้นดินใหม่ให้เดินแล้วที่อันดับ 120  คืออันดับที่ไทยไม่เคยจมลงไป (มีบ้างบางที) และก็อย่างที่บอกว่า 5 ปีแล้วที่เรายังไม่ฟื้น แล้วรีบปีนหน้าผากลับไปยังอันดับที่เคยเป็นมาตรฐานของเรา วันไหนถึงจะฟื้นครับ? ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:08:07

ความคิดเห็นที่ 8 ต่อมาเป็นซีรี่ยส์ของไทยกับเวียดนาม-สิงคโปร์-อินโดนีเซียครับ ผมแบ่งซีรี่ยส์ออกเป็น 4 ช่วง ช่วงละ 4 ปี รวมเป็นระยะเวลา 17 ปี เหมือนกันครับ ซีรี่ยส์ช่วงแรก เป็นอันดับโลกช่วงกรกฎาคมปี 1993 - กรกฎาคมปี 1997  (พ.ศ. 2536 - พ.ศ.2540) ไทยอันดับโลกห่างจากอีก 3 ชาติอาเซียนที่เหลือเยอะครับ โดยช่วงแรกๆของ 4 ปีนี้สิงคโปร์อันดับโลกก็ไม่ไกลจากไทยมาก แต่แล้วสิงคโปร์ก็มาดิ่งเหวร่วมกับอีก 2 ชาติคืออินโดฯและเวียดนามในช่วงปลายๆ อันดับโลกเฉลี่ยของไทยกับสิงคโปร์ถือว่าห่างกันอยู่พอสมควร(เฉลี่ย73,93) แต่จะห่างชั้นกับอินโดฯและเวียดนามมากครับ (เฉลี่ย123,131) เดือนสิงหาคม 1996 ไทยขึ้นไปติด Top 50 ได้สำเร็จด้วยครับ ************************************************* จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:19:58

ความคิดเห็นที่ 9 ซีรี่ยส์ช่วงที่ 2  เป็นอันดับโลกช่วงกรกฎาคมปี 1997 - กรกฎาคมปี 2001 (พ.ศ.2540 - พ.ศ.2544) ช่วงนี้เป็นช่วง 4 ปีทองของทีมชาติไทยครับ (ดูได้จากกราฟช่วงเดียวกันเปรียบเทียบกับชาติมหาอำนาจ) และอันดับเฉลี่ยยิ่งเหนือกว่าอีก 3 ชาติอาเซียนมากกว่าช่วง 4 ปีก่อนซะอีก สังเกตดูครับว่าช่วงปี 2000 ถึง 2001 อินโดนีเซียแรงขึ้นมามากจนแซงทั้งสิงคโปร์และเวียดนามได้ ตรงกันข้ามกับสิงคโปร์ที่ 4 ปีที่แล้วยังเป็นรองแค่ไทย แต่กลับกลายมาเป็นอันดับสุดท้ายใน 4 ชาติซะแล้ว เช่นเคยที่อันดับโลกสูงสุดตลอดกาลของไทยเมื่อเดือนกันยายนปี 1998 อยู่ที่อันดับ 43 ต่ำสุดที่ 78 ถือว่าดีครับ อันดับโลกเฉลี่ยของไทยช่วง 4 ปีนี้ห่างจากอีก 3 ชาติอยู่มาก(ไทย-อินโดฯ-สิงคโปร์-เวียดนาม)อยู่ที่ 61,96,100,103 ตามลำดับ ************************************************* จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:21:03

ความคิดเห็นที่ 10 ซีรี่ยส์ช่วงที่ 3 เป็นอันดับโลกช่วงกรกฎาคม 2001 ถึงกรกฎาคม 2005 (พ.ศ.2544 ถึง พ.ศ. 2548) ช่วงปี 2001 ถึง กลางปี 2004 นี้ไทยยังคงห่างจากอีก 3 ชาติมาก แต่จุดสำคัญคือช่วงเดือนกรกฎาคม 2004 ที่ไทยเริ่มดิ่งลงเหวเรื่อยๆ จนอันดับโลกหล่นลงมาต่ำกว่าอินโดนีเซียในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2005 เรียกว่าใช้เวลาแค่ 1 ปีในการลดระดับตัวเองลงมาได้อย่างรวดเร็วเหลือเกิน นอกจากนั้นช่วงนี้เป็นอีกช่วงที่เวียดนามเริ่มแรงขึ้นมาจนเบียดกับสิงคโปร์ได้อย่างสูสี จนอับดับโลกเฉลี่ยเหนือกว่าสิงคโปร์ แม้จะจบกราฟด้วยอันดับโลกที่ต่ำกว่าก็ตาม ตลอด 4 ปีนี้อันดับโลกเฉลี่ยของไทยยังดีอยู่ครับ ( 66 )  โดยดีที่สุดเดือนมกราคม 2003 อยู่ที่ 54 แย่ที่สุดคือเดือนกรกฎาคม 2005 อยู่ที่ 96 (จุดเริ่มของความตกต่ำ) อันดับโลกเฉลี่ยในช่วงนี้เวียดนามแซงสิงคโปร์ไปเรียบร้อย  อันดับโลกเฉลี่ยอินโดนีเซีย-เวียดนาม-สิงคโปร์อยู่ที่ 91,101,108 ตามลำดับ ถือว่าโดยรวม 4 ปีนี้ไทยเรายังทำได้ดีกว่าอีก 3 ชาติมากครับ **แต่หายนะและจุดตกต่ำกำลังก่อตัวในช่วงท้ายของกราฟครับ** ******************************************************* จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:22:26

ความคิดเห็นที่ 11 ซีรี่ยส์ช่วงสุดท้าย เป็นอันดับโลกช่วงกรกฎาคม 2005 ถึง กรกฎาคม 2009 (พ.ศ.2548 - ปัจจุบัน) อย่างที่บอกไปว่าจุดตกต่ำของไทยได้เริ่มขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2005 และไทยเราสวนทางกับสิงคโปร์อย่างที่เห็นในเส้นกราฟครับ อันดับโลกของไทยร่วงลงมาไม่หยุดนานเกือบ 2 ปี (กลางปี 2005 - ปลายปี2006 ) ส่วนสิงคโปร์แซงเราไปเรียบร้อย แถมช่วงปลายปี 2005 เรายังตกไปเป็นที่ 3 เพราะโดนอินโดนีเซียแซง **เรียกได้ว่าตลอดทั้งปี 2006 เป็นปีที่ฟุตบอลสิงคโปร์คืออันดับ 1 ของอาเซียนแทนไทยอย่างแท้จริง ***และยังต่อเนื่องมาถึงต้นปี 2007 ที่สิงคโปร์คว้าแชมป์อาเซียนคัพด้วยการล้มไทยลงได้ แต่ฝันร้ายได้จบลงภายหลังจากไทยชวดแชมป์อาเซียนคัพ  ไทยเรากลับมาทำอันดับดีขึ้นเรื่อยๆอีกครั้งจนขึ้นไปอยู่เหนือ Top 100 ได้ในช่วงครึ่งแรกของปีที่แล้ว (2008) สวนทางกับสิงคโปร์ที่กลับดิ่งลงๆเรื่อยๆ เพิ่งเริ่มฟื้นก็ปี 2009 นี้เองครับ ที่น่าสังเกตคือทีมชาติเวียดนามในปี 2008 ปีที่พวกเค้าคว้าแชมป์อาเซียนคัพครั้งแรก ด้วยการโค่นไทยลงได้ครับ ครึ่งแรกของปีอันดับพุ่งกระฉูด แต่พอเข้าครึ่งหลังของปีอันดับกลับดิ่งลงอย่างน่าตกใจ  ก่อนจะมาฟอร์มดีขึ้นเรื่อยๆอีกครั้งในช่วงปลายปี (ที่คว้าแชมป์ได้คือช่วงเดือนธันวาคม) อันดับโลกเฉลี่ยของไทยเปรียบเทียบกับอีก 3ชาติไม่ห่างกันเหมือนอดีตแล้วครับ ไทย-สิงคโปร์-อินโดฯ-เวียดนาม อันดับโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 111,118,129,132 ตามลำดับ 4 ปีล่าสุดนี้ 4 ชาติทำอันดับต่ำที่สุดได้น่าตกใจมากครับ ไทย-สิงคโปร์-อินโดฯ-เวียดนาม เคยต่ำสุดที่ 137,140,153,172 ตามลำดับ น่ากลัว ************************************************** แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 52 22:56:20 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:23:47

ความคิดเห็นที่ 13 จบซีรี่ยส์เท่านี้ครับ ถามว่าเอามาให้ดูทำไม กราฟ 8 กราฟนี้? เห็นพัฒนาการ(ขาลง)ของไทยมั้ยครับ? เมื่อเทียบกับ 3 ยักษ์ใหญ่เราเคยสามารถต่อกรได้ และมีโอกาสก้าวไปอยู่ใกล้ๆกัน แต่ถึงตอนนี้ เราใช้เวลาแค่ 4-5 ปี ในการถีบตัวเองให้ตกเหว ลงไปอยู่อันดับร้อยกว่าๆ ถามว่าเพราะอะไร? แล้วทำไมนอกจากจีนแล้ว ยักษ์ 2 ตัวที่เหลือเค้าไม่ตกต่ำตามเรา แม้กระนั้นพูดถึงจีน เค้าลงแต่ก็ไม่ได้ลงแรงเท่าเราครับ ส่วนถ้าเทียบกับ 3 อาเซียน เมื่อก่อนเราเหนือกว่ามากเหลือเกิน แต่ถึงตอนนี้ใกล้แล้วครับ ใกล้เป็นทีมระดับเดียวกันแล้ว คนที่เกี่ยวข้องกับแผนพัฒนาฟุตบอลไทยทำอะไรกันอยู่? ถ้ายังเป็นแบบนี้ อนาคตอีก 4-5 ปี เราอาจจะหลุ่นไปอยู่บ๊วยของกราฟ(ในอนาคต)ก็เป็นได้ครับ **ด้านล่างนี้คือกราฟเปรียบเทียบเวียดนามกับ 3 ยักษ์ครับ ช่วงกราฟแรก(1993-1997) ลองเทียบกับของไทยดู ว่า"ช่วงเดียวกัน" ไทยเราอยู่ใกล้กับ 3 มหาอำนาจมากกว่าเวียดนามเยอะ แล้วถึงตอนนี้ล่ะ?? ------------------------------------------------------------------------------ แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 52 15:48:14 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:32:03

ความคิดเห็นที่ 14 กราฟนี้เป็นสิงคโปร์เทียบกับ 3 มหาอำนาจครับ ช่วงกราฟที่ "2" (1997-2001) ลองย้อนขึ้นไปเทียบกับของไทยใน "ช่วงเดียวกัน"ดูสิครับ เรากับมหาอำนาจเมื่ออดีตเคยใกล้กัน แต่สิงคโปร์ไม่เลย ถึงตอนนี้เราเคยโดนสิงคโปร์แซงไปแล้วนานถึง 1 ปีเต็มๆ มันเกิดอะไรขึ้น? ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:34:46

ความคิดเห็นที่ 15 และสุดท้ายเลยคือกราฟเทียบระหว่างไทยกับโคตรทีมของโลกคือ บราซิล อิตาลี สเปน เหมือนท้องฟ้า กับผืนดินเลย -*- -------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:36:04

ความคิดเห็นที่ 16 ก่อนจบเอาของแถมมาฝากครับ เป็นตาราง FIFA World Cup alltime Ranking ครับ --------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:37:31

ความคิดเห็นที่ 17 อันนี้ alltime Ranking ของเอเชียครับ -------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:38:53

ความคิดเห็นที่ 18 สรุปอันดับโลกเฉลี่ย 17 ปีของไทย-มหาอำนาจ --------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:39:39

ความคิดเห็นที่ 19 สรุปอันดับโลกเฉลี่ยของไทยกับคู่แข่งสำคัญในอาเซียน -------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:40:21

ความคิดเห็นที่ 20 ปิดท้ายด้วย เฮดทูเฮด ระหว่างไทยกับมาเลเซียครับตลอดกาลครับ "มาเลเซียชนะเราครับ" แต่ตอนนี้เค้าตกต่ำอย่างหนัก กู่ไม่กลับแล้ว ผมไม่อยากให้อนาคตไทยเราต้องเป็นแบบมาเลเซีย อยากให้ไทยเราเติบโต-พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนก้าวทันมหาอำนาจเอเชีย ไม่รู้ว่าผมฝันไปหรือเปล่า? ขอบคุณครับที่อ่านมาถึงตรงนี้ ข้อมูลทั้งหมดจาก  www.fifa.com --------------------------------------------------------------------------- แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 52 20:46:40 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:43:08

ความคิดเห็นที่ 21 สุดยอดครับ ข้อมูลนี้ ไม่มีจุดให้เถียงเลย (แต่จุดให้แถคงจะมี) ผมชอบทีมชาติญี่ปุ่นนะครับ ชอบสไตล์การเล่น แต่ผมรออยู่ครับ รอวันที่ไทยจะกระชากญี่ปุ่นลงมาฟัดกับเราแบบสมน้ำสมเนื้อ ไม่ใช่ลูกไล่อย่างทุกวันนี้ ตอนนี้ก็รีบๆ หนีแถวอาเซียนนี้ไปเถอะครับ เริ่มจากสิงคโปร์ก่อนเลยนี่แหละ.. แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 52 17:03:54 จากคุณ : LL cool P เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 17:03:22

ความคิดเห็นที่ 22 เจ๋งครับ จากคุณ : kingkop007 เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 17:11:05

ความคิดเห็นที่ 23 ช่วง 2005-2009 นี่เราตกลงมากเลยนะครับจาก 60 กว่า ไป110กว่า ช่วงนี้มัน VV เป็นนายกนี่ ว่าไงยี มีอะไรแก้ตัวมั๊ย จากคุณ : Dangda_Is_God (Zero_C) เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 17:32:07

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ถ้ามีการวิเคราะห์ด้วยว่าช่วงปีใดที่โค้ชคนไหนคุมอยู่ แล้วทำให้มีผลงานเป็นดังกราฟจะดีมากเลยครับ จากคุณ : WiseChocolate เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 17:33:21

ความคิดเห็นที่ 25 แค่นี้ก็ฟ้องอะไรได้หลายอย่างแล้ว ทีมชาติไทยเริ่มตกต่ำอย่างขีดสุดในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา แต่ทว่าตัวผู้เล่นทีมชาติกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมาเช่นกัน อยากให้พวกที่หลับหูหลับตาเชียร์ตาสว่างซักทีว่าจริงๆแล้วชาติเราต้องการการเปลี่ยนแปลง!! ไม่ใช่แค่โค้ชแต่ต้องเปลี่ยนแปลงแบบทั้งระบบเลย แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 52 18:06:08 จากคุณ : ohms เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 18:05:26

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณครับ แปลกมั้ยที่เรื่องพวกนี้แฟนบอลต้องมานั่งวิเคราะห์กันเอง ทั้งๆที่มันควรจะเป็น หน้าที่รับผิดชอบหลักของสมาคมฯ โอเค ถ้าสมาคมฯขี้เกียจหาข้อมูลและวิเคราะห์ ตอนนี้แฟนบอลทำให้แล้วครับ ช่วยมาดูดมารับไปสานต่อไปคิดไปพัฒนาฟุตบอลไทยที จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 18:07:01

ความคิดเห็นที่ 27 ููู^ ^ ^ อ้า แล้วเขาจะมาดูดมารับไปสนาต่อ มั๊ยครับเนี่ย จากคุณ : esso (ess2esso) เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 19:51:11

ความคิดเห็นที่ 28 เวียดนาม สิงค์โปร ไม่ได้เก่งขึ้นครับ แต่เป็นเราต่างหากที่เก่งลง VJ syndrome ยังไม่ทันหาย มาเจอ VM syndrome อีกละรอก กรรมจริงๆ จากคุณ : tough เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 20:59:17

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ดูสถิติแล้วน่าหดหู่ใจจังเลย ก็ได้แต่หวังว่า ผลงานของทีมชาติไทยเรา จะกลับไปใกล้เคียงความยิ่งใหญ่แบบเมื่อก่อนได้ ไม่ช้าก็เร็วเนอะ ไม่รู้จะได้แต่หวังอีกนานแค่ไหน ^^ จากคุณ : คุณหนูแพนด้าตัวน้อย เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 22:45:55

ความคิดเห็นที่ 30 สมัยประมาณ 20 ปีที่แล้ว เวลาฟังผู้บรรยายเวลาเราเตะกับยุโรป  มักบอกว่าเราเสียเปรียบส่วนสูง / ok เรามันเตี้ย ประมาณ 10 ปีที่แล้วเมื่อส่วนสูงนักบอลไทยเฉลี่ย 175 up บอกว่าเสียเปรียบรูปร่างสู้ความหนาไม่ได้ / ok เรามันแห้ง สมัยนี้เมื่อเรารู้จักการเวทแทรนนิ่ง  ความหนาก็ไม่แพ้แล้ว  เราเสียเปรียบอะไรอีกเหรอ ?? อันเดร อาชาวิน สูงแค่ 172 - 173 ยังเป็นนักเตะระดับโลกได้เลยครับ สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดมาของชาติมหาอำนาจในเอเชียคือ 1. ความมีวินัยของนักเตะ 2. ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของสมาคมฟุตบอล 3. ความมีสำนึกและให้การสนับสนุนของกองเชียร์ ซึ่งในปีนี้เราพัฒนาในข้อ 3 ได้อย่างไม่น่าเชื่อ  ได้หลายเท่ากว่าทุกครั้งที่ผ่านมา  แต่สมาคมยังอยู่ใต้โคลนตม  ไม่ได้ออกมาดูโลกภายนอกเลยว่าโลกเค้าไปถึงไหนกันแล้ว  สูบเลือดสูบเนื้อคนไทยด้วยกันเอง  คนไทยใช่จะไร้ฝีมือ  แต่คนไทยส่วนหนึ่งเลือกที่จะมักง่่าย  โดยเฉพาะพวกผู้บริหารสมาคมทำอะไรง่าย ๆ กูได้ประเทศจะฉิ_หายช่างมัน  คนมีดีไม่ได้เกิดเพราะเส้นสายไม่พอ  นักฟุตบอลบางคนเก่งมากในลีกไทย  ยิงประตูเป็นว่าเล่น  แต่ทีมชาติกลับไม่มีใครเหลียวแลเค้า  แต่คนบ้างคนห่วยยังไง  คนโจมตีแค่ไหน มันก็ยังนั่งลอยหน้าลอยตาได้  ถ้าไอ้พวกนี้ยังไม่ตายห่_กันให้หมด บอลไทยก็ไกลได้แค่เวียดนาม อินโดนี่แหละครับ   แฟนบอลหันมาช่วยบอลไทยกันแล้ว  พวกมึ_เมื่อไหร่จะหันมาทำอะไรให้มีประโยชน์บ้าง ??? จากคุณ : CC.mand เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 22:55:59

ความคิดเห็นที่ 31 ชอบครับกระทู้มีกราฟแบบนี้ นักเศรษฐศาสตร์แบบผมชอบ อิอิ จากคุณ : natureza เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 00:26:05

ความคิดเห็นที่ 32 สุดยอดเลยครับ รับ give+vote ไปเลย ข้อมูลมาให้เห็นเน้นๆ เนื้อๆ เต็มอิ่มเ็ต็มอารมณ์มั่ก จากคุณ : นายสำรวม เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 02:01:31

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆแบบนี้ครับ คราวนี้ก็ชัดเลยครับ เห็นๆกันไปเลยว่าFATทำอะไรกันอยู่ อันดับโลกที่ร่วงกรูดนี่อยู่ในยุคสมัยใด ใครคุมทีม และใครที่มันต้องรับผิดชอบจริงๆสำหรับวงการฟุตบอลไทยตอนนี้ กระทู้นี้กระทุ้งดังๆไปถึงทัวนาเม้นท์สุดยอดสี่เส้าที่ภูเก็ตเลยครับ อันดับฟีฟ่านี่มันตัวชี้วัดผลงานของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยชัดๆเลยนะครับ นี่เป็นอีกสิ่งดีๆที่ท่านได้เห็นในยุคนายกวรวีร์เป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จากคุณ : ดาวเหนือฉลาม เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 05:42:21

ความคิดเห็นที่ 34 นี่แหละครับ สมาคมฯยุค VV ทุกวันนี้จ้องแต่จะเอาหน้าอย่างเดียว ในหัวคงคิดแต่จะเรื่องหาแต่ผลประโยชน์ แล้วก็อวยกันเอง แฟนบอลทุกวันนี้เค้าไม่โง่นะครับ เค้าคิด เค้าทำกัน เค้าวิเคราะห์กันได้ พวกสมาคมฯ นี้เนี่ยนะครับ มันยิ่งกว่าบัวใต้น้ำหินทับไว้ซะอีก แล้วยังหน้าทน ทนเสียงขับไล่อยู่กันได้อีก น้ำเสียๆ พวกนี้น่ะ ออกไปให้ไกลๆ เลยดีกว่าครับ ให้โอกาสคนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาพัฒนาฟุตบอลไทยดีกว่า ส่วนคนพวกเนี้ยส่งไปอยู่ในยุคจูราสสิคดีกว่ามั้งครับ จากคุณ : pongonna (สาวกgarfield) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 11:01:56

ความคิดเห็นที่ 35 เบื่อไม่รู้อยากจะด่าอะไรวีวีมันแล้ว พอกันกับวิชิต หนาเกินมนุษย์มนา.... จากคุณ : danielle เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 22:48:09

ความคิดเห็นที่ 36 VV เอ๋ย ... มาอ่านเอาความรู้ไปประดับกะลาซะหน่อยนะคับ จากคุณ : ดี ฃั่ว รู้หมด ... แต่อดไม่ได้ (por-puay) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 23:20:37

ความคิดเห็นที่ 37 ลองเล่นดูบ้างครับ เปรียบเทียบ TOP4 ASEAN ดู 1 ปีที่ผ่านมานี่ ที่รถไฟเหาะมากที่สุด เห็นจะเป็นเวียดนามแฮะ เดี๋ยวร่วง เดี๋ยวก็ขึ้นแรง ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ ครับ ใครอยากเล่น เชิญที่นี่ได้ครับ http://www.fifa.com/worldfootball/ranking/compare/compareTeams.html#g=m&t1=THA&t2=IDN&t3=VIE&t4=SIN&dRange=2&fm=10&fy=2008&tm=10&ty=2009 จากคุณ : seifiros เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 02:52:37

ความคิดเห็นที่ 38 เค้าลงเมลของทางสมาคมด้วยครับ จัดไปเลย จากคุณ : pheebar เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 04:27:43

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณสำรับข้อมูลครับ อยากจะบอกอย่างนึงว่า #15 สะเทือนใจมาก จากคุณ : อะไรของคุณ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 06:51:06

ความคิดเห็นที่ 40 ยิ่งเห็นกราฟแล้วกลัวไทยจะดิ่งลงไปเรื่อยๆ ไม่รู้สมาคมจะมองเห็นหรือเปล่าว่าทำไมผลงานของเราถึงแย่ลงอย่างนี้ ช่วยทำงานกันหน่อยเถอะ VV และสมาคม มีข้อมูลมาให้ถึงที่แล้วขนาดนี้ ไม่อย่างนั้นอีกไม่นานคนไทยที่เชียร์ทีมชาติไทยจะหมดความอดทน และถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ซะที จากคุณ : ห้องสี่เหลี่ยมไร้มุม เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 07:26:34

ความคิดเห็นที่ 41 เยี่ยมครับ จากคุณ : aell เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 10:44:46

ความคิดเห็นที่ 42 จำได้ว่าตั้งแต่ปรับการนับคะแนนแบบใหม่ของ fifa เราก็ลงมาต่ำกว่า 100 ซึ่งผมคิดว่าจัดอันดับแบบใหม่ ค่อยสมเหตุสมผลหน่อย ช่วงนั้น ไทยเราอยุ่ 1 ใน 10 ของเอเชีย แต่ไม่ได้หมายความว่าเราเหนือกว่าทีมที่อันดับหลังเราเลย ปัจจุบันค่อยสูสีกันหน่อยกับทีมอันดับใกล้เคียง จากคุณ : Jino_base เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 18:40:47

ความคิดเห็นที่ 43 เหอะๆ ช่วงนี่อันดับรูดลงนี่มันช่วง หลังจากโดนหลีเหนืออัดคาราชมัง 1-4 ครับ เป็นยุคที่ทีมชาติชุดใหญ่แทบไม่มีแมทเตะเลย มีแต่ยังบลัด อะไรนั่น แล้วก็ยังเป็นสมาคมในยุคของนายกVJ อีกด้วยครับ จะลากVVมายำกันทำไม จากคุณ : tuiloso เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 19:19:20

ความคิดเห็นที่ 44 #42 ฟีฟ่ายังไม่มีการนับคะแนนแบบใหม่ครับ การนับคะแนนแบบใหม่กำลังอยู่ในช่วงพิจารณาอยู่ แต่จะนำมาใช้แทนแบบปัจจุบันเมื่อไหร่ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆคือ ผลงานเรากำลังตกต่ำลงเรื่อยๆครับ กราฟไม่เคยโกหกใคร ----------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : จขกท. (pinspin) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 20:45:33

ความคิดเห็นที่ 45 สกู๊ปข่าวภาคค่ำ T-Sport คล้ายกระทู้นี้เลย จากคุณ : tuiloso เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 20:25:21

ความคิดเห็นที่ 46 โหวตให้เลยครับ เยี่ยมมาก ถ้าเรามีสมาคมฟุตบอล ที่ทำงานแบบมืออาชีพ เราพัฒนาไปไกลแล้ว จากคุณ : คอบอล เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 21:57:42