|
ความคิดเห็นที่ 38 |
# 35
ฤดูกาล 1976-77 ครับ เป็นปีที่สุดยอดที่สุดปีหนึ่งในประวัติศาสตร์สโมสรลิเวอร์พูล หงส์แดงเริ่มต้นความเป็นเต้ยในเจ้ายุโรปก็ปีนี้แหละครับ หลังคว้าแชมป์ลีกได้ในฤดูกาลก่อน มาฤดูกาลนี้ก็ป้องกันแชมป์ไปได้ แล้วก้าวขึ้นจุดสูงสุดด้วยการคว้าแชมป์ยุโรปไปครอง ด้วยการเอาชนะโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบลัคไป 3-1 ที่โอลิมปิโก สเตเดี้ยม กรุงโรม อิตาลี
จะว่าไปลิเวอร์พูลชุดนั้นถือว่าแกร่งทั่วแผ่น เล่นบอลเป็นระบบ และบุกปูพรหมตั้งแต่เขี่ยเริ่มเล่นจนสิ้นเสียงนกหวีดนั่นเลย ตั้งแต่นายทหารเรย์ คลีแมนซ์ ผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษที่ฝีมือเยี่ยมไม่แพ้ปีเตอร์ ชิลตัน ทั้งคู่ขับเคี่ยวชิงมือหนึ่งทีมชาติแบบสูสีคู่คี เทียบใกล้ๆ ปัจจุบันก็ยุคที่อิตาลีมี บุฟฟ่อน-ตอลโด้ เยอรมันมี คานส์-เลห์มันน์ นั่นแหละครับ
เกมนัดชิงเอฟเอคัพปีนั้น ลิเวอร์พูลของบ๊อบ เพลสลีย์ ที่คุมทีมมาเป็นปีที่สาม และกำลังไล่ล่าทริปเปิ้ลแชมป์ หลังคว้าพรีเมียร์ลีกและยูโรเปี้ยน คัพ มาครองได้สำเร็จ จัดชุดใหญ่และดีที่สุดลง คลีแมนซ์ เฝ้าเสา แผงหลังมีฟีล นีล, ทอมมี่ สมิธ, เอมลีน ฮิวจ์ กัปตันทีม และโจอี้ โจนส์ ปราการหลังชาวเวลส์ แผงมิดฟิลด์ถือว่าเป็นชุดที่ดีที่สุดชุดหนึ่งในประวัติศาสตร์สโมสร ปีกสองข้าง เรย์ เคเนดี้ กับ เจ้ารถด่วน สตีฟ ไฮย์เวย์ กลางสนามมีเทอรี่ แม็คดอม็อต กับ จิมมี่ เคส คอยปัดกวาดหน้าแผงหลัง ขณะที่เควิน คีแกน ได้รับอิสระในเกมรุกอย่างเต็มที่ โดยมีเดวิด จอห์นสัน ยืนหน้าเป้า
ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เป็นรองกว่ามาก จบฤดูกาลนั้นด้วยอันดับ 6 ผู้จัดการทีมชาวสก็อตซ์ ทอมมี่ ด็อคเฮอตี้ จัดทีมที่ดีที่สุดของเขาลงสนาม แต่ก็ยังเป็นรองลิเวอร์พูลอยู่มาก ผู้รักษาประตู อเล็กซ์ สเต็ปนีย์ ตามด้วยแผงหลังอย่าง จิมมี่ นิโคลส์, อาเธอร์ บลิสตัน, ไบรอัน กลีนฮอฟฟ์ และมาร์ติน บัคคั่น (กัปตันทีม) แผงกลางมี แซมมี่ แมคอิลรอย ขับเคลื่อนเกมรุก พร้อมปีกตัวจี๊ดอย่าง สตีฟ คอปเปล ผู้จัดการทีมเรดดิ้งคนนั้นแหละ รวมไปถึง จิมมี่ กรีนฮอฟฟ์ และกอร์ดอน ฮิล ช่วยตัดเกมรุกลิเวอร์พูล ใช้หัวหอกคู่ สจ๊วต เพียร์สัน กับ ลู มาคาริ คอยทะลวงตาข่ายลิเวอร์พูล
เกมวันนั้นเวมบลีย์แทบแตก เพราะมีคนดูเข้ามาชมถึง 99,252 คน แน่นอนว่าแม้จะเป็นรอง แต่ยูไนเต็ดก็เปิดเกมรุกใส่อย่างไม่มีเกรงศักดิ์ศรี จนกระทั่งขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 50 จากสจ๊วต เพียร์สันยิงเสียบเสาแรกสุดสวย ก่อนเคสจะกลับตัววอลเลย์สุดสวยไม่แพ้กัน ตีเสมอให้ลิเวอร์พูลในอีก 2 นาทีต่อมา แต่แล้วยูไนเต็ดก็ขึ้นนำอีกหน ด้วยลูกยิงของมาคาริ ที่ไปแฉลบ จิมมี่ กรีนฮอฟฟ์ เพื่อนร่วมทีมเข้าประตูไป บอลย้อยข้ามหัวคลีแมนซ์ แม้ ฟีล นีลจะวิ่งไปเคลียร์จากเส้นแต่ก็ไม่ทัน และประตูนี้ได้กลายเป็นประตูชัยให้ยูไนเต็ดพลิกโค่นลิเวอร์พูล ดับฝันทริปเปิ้ลแชมป์ทีมแรกของอังกฤษไปได้ในปีนั้น
เกร็ดที่น่าสนใจ ยูไนเต็ดส่งคู่พี่น้องกรีนฮอฟฟ์ลงเล่นในนัดชิงพร้อมกัน สองทศวรรษต่อมา พวกเขาก็มีคู่พี่น้องเนวิลล์ ลงเล่นนัดชิงเอฟเอ คัพ ในปี 1996 ที่ชนะลิเวอร์พูล 1-0 โดยเนวิลล์ ผู้พี่ลงเป็นตัวสำรอง และนัดชิงปี 1999 สองพี่น้องลงเล่นเป็นตัวจริงตั้งแต่ต้นเกม ในเกมที่เอาชนะนิวคาสเซิ่ลไป 2-0
น่าเสียดายที่ลิเวอร์พูลเกือบจะมีโอกาสล้างแค้นได้ในฤดูกาล 1998-99 แต่ประตูชัยของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ในช่วงทดเวลาเจ็บ ทำให้หงส์แดงต้องชี้ช้ำตกรอบ 4 เอฟเอคัพไปอย่างเจ็บปวด และท้ายสุดยูไนเต็ดก็สร้างประวัติศาสตร์คว้าทริปเปิ้ลแชมป์เป็นทีมแรกของยุโรปได้สำเร็จ
ปล. ขอบคุณท่านเดอะปูด ที่ช่วยท้วงชื่อผิดให้นะครับ ฮา
แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 52 19:06:38
แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 52 17:26:57
จากคุณ |
:
paphartnet
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ต.ค. 52 17:16:23
|
|
|
|
|