ความคิดเห็นที่ 1 รีบอค สเตเดี้ยม สนามนี้มีความทรงจำที่ไม่เคยจางสำหรับแฟนเชลซีทุกคน... ภาพที่แฟรงค์ แลมพาร์ดเลี้ยงบอลหลบยัสเคไลเน่น ราวกับฝังแม่เหล็กติดปลายสตั๊ด ก่อนจะเข่นเข้าไปจมที่ก้นตาข่ายเป็นประตูฝังเจ้าบ้านอย่างเลือดเย็นและอำมหิต พร้อมๆกับพาเชลซีการันตีสถานะ "แชมเปี้ยน" ของลีกสูงสุดที่รอคอยมานานนมจนนมบางคนยานไปถึงหัวเข่าได้แบบร้อยเปอร์เซนต์ภาพนั้น สำหรับผม มันยังคงแจ่มชัดราวกับเหตุการณ์ที่ว่าพึ่งผ่านไปเมื่อคืนวานนี้เอง ห้าปีให้หลัง ซุปเปอร์แลมพส์คนดีคนเดิม ก็มาเพิ่มตัวเลขในบัญชีนายพรานล่าตาข่ายเอาไว้ที่ 133 แผล (ในฐานะกองกลาง) ภายใต้เครื่องแบบสีน้ำเงินได้สำเร็จอีกครั้งด้วยลูกจุดโทษของถนัด อีกทั้งยังสามารถกระเถิบอันดับในทำเนียบดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของสโมสร ขึ้นมานั่งยิ้มหวานอยู่ในอันดับที่สี่ เหนือยอดมือปืนในตำนานอย่าง "จิมมี่ กรีฟส์" ไปแล้วอีกต่างหาก สุโค่ย! มั้ยล่ะครับ สำหรับจอมทัพหมายเลข 8 แห่งเดอะ บริดจ์รูปหล่อคนนี้ คงไม่ผิดไปจากนี้นะครับ หากบอกว่าโบลตัน วันเดอเรอร์ส ถือเป็นงูเหลือมเชื่องๆตัวนึงเมื่อมาพบกับเชือกกล้วยแข็งๆอย่างเชลซี ทุกครั้งที่ประลองยุทธ์กัน งูเหลือมตัวนี้ ไม่เคยดิ้นหนีมางับเชือกกล้วยอย่างเชลซีได้เลยซักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นที่เดอะ บริดจ์ หรือรีบอค สเตเดี้ยมก็ตาม แม้แต่การดวลฝีเท้าในระยะเวลาห่างกันแค่ 3 วัน ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ความแตกต่างของแท็คติคที่อันเชลอตติวางในการพบกับเดอะ ทร็อตเตอร์สทั้งสองนัด อยู่ที่สถานะการเป็น "สิงห์เฝ้าถ้ำ" กับ "สิงห์ล่าเหยื่อ" แค่นั้นเองนะครับ เกมกลางสัปดาห์ในศึกคาร์ลิ่ง "มิคกี้เม้าส์ (แต่เอานะ)" คัพ เชลซีเปิดเกมรุกเข้าใส่อาคันตุกะเสื้อขาวแบบไม่ให้หายใจหายคอ ด้วยเวทย์มนต์จากปลายสตั๊ดของพ่อมดน้อย "โจ โคล" ก่อนทำนบที่แข็งกร้าวของโบลตันจะค่อยๆถูกกระเทาะทีละน้อยๆ สุดท้ายก็พังพาบพร้อมกับอาการทวารบาน อันเกิดจากการเข้ากระทำชำเราแบบไม่มียั้งหยุดของขุนแข้งสิงห์บลูส์ นับจำนวนแผลที่ได้กลับไปฝากพยาบาลที่รีบอค สเตเดี้ยมนั้นอุโฆษถึง 4 แผลเลยทีเดียว แต่พอเปลี่ยนสถานะเป็นทีมเยือนบ้าง อันเชลอตติก็สาธิตสารคดี "สิงห์ล่าเหยื่อ" ภาคภาษาอิตาเลียนให้ได้ยลกันแบบอิ่มหนำแถมผลลัพธ์ที่ได้ ก็ฉกาจฉกรรจ์ไม่แพ้ตอนที่เป็นสิงห์เฝ้าถ้ำแต่อย่างใด เชลซีกางตำรา "คาเตนัชโช่" ออกมาหลอกล่อโบลตันให้เดินหน้าเข้าหา ก่อนจะอาศัยอะไรบางอย่างที่เรียกว่า "เคาน์เตอร์ แอ็ทแท็ค" ตีหัวเดอะ ทร็อตเตอร์ส แบบเอาให้ตายไปข้าง โดยขออนุญาตยกประตูของ "เดโก้" มาเป็นตัวสนับสนุนความเชื่อนะครับ เชลซีใช้การต่อบอลจากรับ มาเป็นรุกด้วยความเร็วพอๆกับเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ที่ชอบเสียตัวในวันวาเลนไทน์ หรือวันลอยกระทง (เกี่ยวมั้ย?) พวกเขาใช้การต่อบอลแค่ไม่กี่จังหวะ ก่อนจะจบลงด้วยลูกยิงที่หมดจดของตั๊ก บริบูรณ์ แดนฝอยทอง บอลจากอเนลก้าคมกริบจนเลือดซิบ (ไม่ใช่กระดุม??) ช่วยฮาด้วยนะครับ) พอที่จะฆ่าแบ็คโฟร์ของโบลตันได้สบายๆ ขณะที่เดโก้ก็ไม่ลืมที่จะงัดสูตร "สี่เหลี่ยม+เอ็กซ์" ในวินนิ่งภาค 2000 (เก่ามาก) สังหารเข้าไปแบบน่าหลงใหลไม่แพ้อดีตชายงามอย่าง "น้องปอย" เลยทีเดียว หรือที่มาของลูกจุดโทษที่แลมพส์ยิง นั่นก็เกิดจากเกมเคาน์เตอร์ แอ็ทแท็ค เช่นกันนะครับ ลูกนั้นเป็นจังหวะที่โบลตันเสียบอลที่บริเวณทางขวาราวๆ 20-30 หลา หน้าประตูเชลซี ก่อนจอห์น เทอร์รี่ตัดบอลได้และเปลี่ยนเกมเร็วออกไปให้แฟร์เรยร่า (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) แล้วขึ้นเกมเร็วอีกแค่ 2 จังหวะจากเดโก้ และคิลเลอร์ พาสของบัลลัค แค่นั้นดิดิเย่ร์ ดร็อกบาก็หลุดเดี่ยวเลย เหตุการณ์หลังจากนั้นก็คือใบแดงของซามูเอล และประตูขึ้นนำของเชลซีนั่นแหละครับ ส่วนลูกที่สามและสี่ เป็นเพียงโบนัสจากการเล่นแบบ "สิงห์ล่าเหยื่อ" เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรน่าพูดถึงและกระแทกคีย์บอร์ดเท่ากับสิ่งที่ผมสังเกตเห็นต่อไปนี้เท่าไหร่ ผมรู้สึกว่าได้เห็นเชลซีเล่นแล้วชักเกิดอาการเสพติด "ทีมสปิริต" มากขึ้นทุกๆทีซินะครับ ภาพที่นักเตะแต่ละคนโปรยรอยยิ้ม เข้ามากอดหรือลูบหัวกันเวลาที่ทีมทำประตูได้ มันขาดเสน่ห์ไปเยอะเลยหลังการหันหลังให้เดอะ บริดจ์ของเฮียมู อันเป็นที่รักของทั้งนักเตะและแฟนบอล แต่หลังจากที่บิ๊กกุสกอบกู้สปิริตคืนกลับมา ผมมองว่ามันตกสะเก็ดมาถึงอันเชลอตติด้วย ในห้วงอารมณ์ที่คิดเองเออเองของผม ผมสังเกตเห็นนักเตะที่อีโก้สูงหลายๆคนเล่นเพื่อทีมมากขึ้น จะเป็นบัลลัค, อเนลก้า, เดโก้ หรือดร็อกบาเองก็ตาม วันนี้ขอโฟกัสไปแค่ที่เดอะ ดร็อก กับนิโก้ละกันนะครับ ผมว่าเขาทั้งสองคนมีเซนส์บอลที่ทันกันมากๆและที่น่าชื่นชมมากไปกว่านั้น คือมือปืนทั้งสองจะไม่ฝืนหรือพะวงเรื่องการ "ยิงประตูของตัวเอง" มากไปกว่าทำยังไงก็ได้ให้ "ประตูของทีม" เกิดขึ้นก่อน หลังจากนั้นค่อยหาโอกาสทำผลงานให้ตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องจริงหรือผมคิดไปเองก็ไม่รู้ วานเพื่อนๆช่วยสังเกตอีกแรงแล้วกัน ดร็อกบากับนิโก้นั้นจะมองหากันก่อนเลย เวลาที่ใครซักคนได้บอล และยินดีที่จะเปิดป้อนให้เสมอ หากเห็นว่าคู่หู หรือเพื่อนๆในทีมมีโอกาสในการเข้าทำที่ดีกว่า โดยเฉพาะเจ้านิโก้นั้น ถอนตัวเองมาทำเกมราวกับเป็นเพลย์เมคเกอร์กลายๆเลยทีเดียว ยอมรับครับว่าอันเชลอตตินั้นเข้ามาทำเชลซีให้กลับมาอยู่ในเส้นทางที่เหมาะสมอีกครั้ง หลังจากเมาหมัดกับการจากไปของมูรินโญ่พอสมควร ถ้าจะให้เปรียบเป็นนักเรียนใหม่ อันเชลอตติก็เก็บคะแนนระหว่างเรียนไปได้มากในระดับที่น่าพอใจแล้วล่ะครับ แต่ "ข้อสอบกลางภาค" ที่กำลังจะเดินทางมาถึงในสุดสัปดาห์นี้ต่างหาก ที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าพี่แจ้ภาคอิตาเลียนคนนี้ มีความสามารถในการบริหารจัดการเชลซีได้ดีแค่ไหน ผมแบ่งข้อสอบกลางภาคนี้มาให้อันเชลอตติแก้เป็น 5 วิชาด้วยกัน เกรดที่ออกมีแค่สองเท่านั้นนั่นก็คือ "แสนรัก" กับ "โอ๊ย..โอ๊ย" ไม่ต้องผ่านทั้ง 5 วิชาหรอกครับ เอาตัวรอดไปได้แค่ 3 ใน 5 ผมว่าพี่แจ้อิตาเลียนก็สอบผ่านแล้วล่ะครับ อ้อ! ผมยังไม่ได้บอกซินะครับ ว่ารางวัลจากการสอบกลางภาคนี้คืออะไร ไม่มากไม่มายหรอกครับ รางวัลที่เฮียแกจะได้ก็แค่ "ความรักและความไว้เนื้อเชื่อใจ" จากเชลสกี้ส์ทุกคน รวมไปถึงขุนพลในทีมทุกนาย แค่นั้นเองครับ. จากคุณ : นอมินี เทอร์รี่คุง (anna-samanta) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 12:42:57

ความคิดเห็นที่ 2 ข้อสอบกลางภาควิชาที่หนึ่ง - ดวลเกือกกับแชมป์ 3 สมัยซ้อน - โจทย์ - ทำยังไงก็ได้ ไม่ให้เชลซีพินาสคาถ้ำ วิธีทำ - อันเชลอตติ กับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั้นเคยวัดฝีมือกันมาแล้วในเกมยุโรป ทั้งตอนที่คุมยูเวนตุส และเอซีมิลาน ซึ่งผลลัพธ์เท่าที่ความทรงจำของผมกลั่นออกมาได้คือ อันเชลอตติชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 2 จากการประลองกันทั้งหมด 6 นัด (รวมเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ เมื่อต้นซีซั่นด้วย) แต่ยูไนเต็ดเวลานี้ ไม่เหมือนวันก่อนๆที่เฟอร์กี้เคยเพลี่ยงพล้ำให้อันเชลอตติแล้วน่ะซิครับ ยูไนเต็ดมีความยืดหยุ่นในการเล่นเกมของตัวเองมากขึ้น หลังจากสมัยก่อนพวกเขามัจะเป็นทีมที่เน้นการเปิดเกมรุกตามแบบฉบับของตัวเอง โดยไม่ยี่หระชื่อชั้นของคู่ต่อสู้แต่อย่างใด เป็นเหตุให้พวกเขาเสียท่า "คาเตนัชโช่" ของอันเชลอตติไปถึง 3 ครั้งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเกมที่เครสโปยิงดับยูไนเต็ดทั้งในโรงละครแห่งความฝัน และ ซาน ซิโร่ อย่างละนัดในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2004-2005 อีกครั้งก็คือกาก้าโชว์ที่ซาน ซิโร่ในวันฝนพรำเมื่อฤดูกาล 2006-2007 ซึ่งทั้งสามครั้งที่พวกเขาแพ้ให้กับอันเชลอตติ เกิดจากการตีหัวเข้าบ้านของพี่แจ้ทั้งสิ้น แต่ครั้งนี้ ผมคิดว่ายูไนเต็ดจะไม่เสียท่าอะไรกับหมากกลเดิมๆแบบนั้นอีกแล้ว ท่านเซอร์จัดเป็นคนแก่ที่ไม่เคยติดหล่มกับความคิดเก่าๆ เค้าพร้อมจะทำความรู้จักนวัตกรรมให่ๆเสมอ หากมันช่วยให้เขาประสบความสำเร็จ จากที่เคยบุกจนไม่สนหลังบ้าน มาวันนี้ยูไนเต็ดกลายเป็นทีมที่สามารถเล่นเพื่อเอนเตอร์เทนแฟนๆ หรือจะหันมาเล่นแบบเน้นผลการแข่งขันก็ได้ ขอเพียงแต่ท่านเซอร์บัญชา ปัญหาของท่านเซอร์ที่ปราศจากไอเท็มไม้ตายอย่างโรนัลโด้ และเตเวซ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตเหมือนเรื่องหมีแพนด้าในเมืองไทยเลยซักนิด ไพ่ในมือที่ถืออยู่อีกหลายๆใบ มีออปชั่นพิเศษมากพอที่จะดับอหังการ์เชลซีลงได้แบบไม่ยากเย็นเลย โอเว่นเอย, รูนี่ย์เอย, เบอร์บาตอฟเอย หรือแม้แต่ไอเท็มเด็ดประจำซีซั่นนี้อย่างกิ๊กส์ และเฟลทเชอร์ก็ยังมีให้ท่านเซอร์ใช้กำราบอันเชลอตติได้สบายๆเช่นกัน ที่สำคัญที่สุด คือยูไนเต็ดมักเป็นทีมที่มี "พลังแฝง" ชอบดับรัศมีดาราของคนที่กำลังแรงๆเสียด้วยซิ เรียกว่าใครกำลังแรงๆน่ะ มาเถอะเดี๋ยวป๋าจัดให้ซักดอก สองดอก (คนที่รู้เรื่องนี้ดีที่สุดคือเวนเกอร์) การบ้านข้อนี้ อันเชลอตติคงต้องคิดหนัก จนผมที่หัวหงอกขึ้นอีกหลายกระจุกเลยล่ะครับ พี่น้อง!!!! ผลสอบที่คาด - โอ๊ย..โอ๊ย ผลสอบจริง - 8 พ.ย. ประกาศผลสอบครับ จากคุณ : นอมินี เทอร์รี่คุง (anna-samanta) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 12:43:54

ความคิดเห็นที่ 3 ข้อสอบกลางภาควิชาที่สอง - มินิลีก กับบิ๊กไฟว์ - โจทย์ - จงเก็บคะแนนในมินิลีกให้มากที่สุด วิธีทำ - การลงแข่งขัน "มินิลีก" อย่างไม่เป็นทางการของพรีเมียร์ลีก ในปีนี้ผมขออนุญาตเพิ่มทีมเรือใบทองคำฝังเพชร "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" เอาไว้อีกทีมด้วยนะครับ ตามสถิติของพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่เชลซีบัญญัติศัพท์ "บิ๊กโฟร์" ขึ้นมา ใครหน้าไหนก็ตามที่เก็บคะแนนในมินิลีก ได้มากที่สุด โอกาสในการชูถ้วยสีเงินยวงตอนจบซีซั่นมีสูงเกินครึ่ง เพราะการเอาชนะทีมในมินิลีกได้ เท่ากับสามารถตัดแต้มคู่แข่งแย่งแชมป์ไปได้อีกทางนึง หรือภาษาของกูรูลูกหนังเค้าสาธยายเอาไว้น่าฟังว่า "ชนะทีมในมินิลีก เท่ากับได้ถึง 6 แต้ม" กันเลยทีเดียว ซีซั่นนี้อันเชลอตติพาทีมมีชัยเหนือลิเวอร์พูลไปได้แล้วหนึ่งนัด ซึ่ง ณ ตอนนี้ต้องบอกว่าอันเชลอตตินั้นทำผลงานในมินิลีก ได้ดีกว่าบิ๊กฟิลไปหนึ่งก้าวแล้วล่ะครับ งานต่อไปก็คือการรับมือกับ "แมนฯยูฯ" และ "อาร์เซน่อล" พ่วงด้วย "แมนฯซิตี้" ในช่วงต้นเดือนธันวามหาภัย มินิลีก จะเป็นตัววัดฝีมือของอันเชลอตติเลยล่ะครับ ว่าแก "เก่งจริง" หรือ "เก่งหลอก" กันแน่ ผลสอบที่คาด - แสนรัก ผลสอบจริง - ประกาศผลสอบต้นเดือนธันวาคมครับ จากคุณ : นอมินี เทอร์รี่คุง (anna-samanta) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 12:44:37

ความคิดเห็นที่ 4 ข้อสอบกลางภาควิชาที่สาม - คริสต์มาสหฤโหด - โจทย์ - พาทีมผ่านพ้นช่วงบ็อกซิ่ง เดย์ ไปให้ได้โดยสวัสดิภาพ วิธีทำ - "โรเตชั่น" คือวิธีที่จะพาเชลซีผ่านพ้นช่วงเวลาของการเตะแบบลืมติ๋มนี้ไปให้ได้เท่านั้นแหละครับ ที่น่ากังวลก็คือ อันเชลอตติเกิดมาก็ไม่เคยที่จะต้องพาทีมลงเตะแบบถี่ยิบๆๆๆ แบบซอยยิกๆๆๆๆ ขนาดนี้มาก่อน "ความไม่คุ้น" น่าจะเป็นอุปสรรคสำคัญที่จะคอยฉุดดึงพี่แจ้ไม่ให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้แบบสวัสดิภาพมากนัก ถึงแม้ขุมกำลังของเชลซีจะเข้าขั้นเอกอุ ทั้งตัวจริงและตัวสำรองก็ตาม แต่ขนาดยูไนเต็ดแชมป์ 3 มัยซ้อนยังแทบรากเลือดทุกปี กับการก้าวข้ามคริสต์มาสนรกนี้ไปให้ได้ ต้องขอหยิบยืมประโยคจากผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงยี่ห้อหนึ่งมาใช้แบบไม่กลัวค่าลิขสิทธิ์ (เหมือนกรณีร้านตูนโซน กับ คุณ R ในห้องเฉลิมไทย) ที่ว่า "ขนาดป๋าเฟอร์กี้ยังเกือบตาย แล้วอันเชลอตติจะไปเหลืออะไร" ผลสอบที่คาด - โอ๊ย..โอ๊ย (ยกกำลังสอง) ผลสอบจริง - ไปยืนดูผลสอบที่บอร์ดโรงเรียนหลังปีใหม่นะจ๊ะ จากคุณ : นอมินี เทอร์รี่คุง (anna-samanta) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 12:45:41

ความคิดเห็นที่ 5 ข้อสอบกลางภาควิชาที่สี่ - แอฟริกันฯ ทำพิษ - โจทย์ - จงแก้ปัญหาให้ได้ เมื่อตัวหลักถึกๆกลับไปรับใช้ชาติที่แอฟริกากันแบบยกกะบิ วิธีทำ - ปวดขมับ ตับแล่บ แสบลิ้น กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ขับถ่ายไม่คล่อง กันก็คราวนี้แหละครับสำหรับพี่แจ้ของเรา ก็แหม...เล่นมาหิ้วนักเตะสายพันธ์อึด..ตึกนรก ของทีมไปมากมายหลายหน่อกันเลย แถมมาเอาไปในช่วงกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มซะด้วยซิ เอสเซียง, ดร็อกบา, กาลู, มิเคล 2 ใน 4 นี้ถือเป็นกุญแจสำคัญของเชลซีในช่วง 3-4 ปีหลังเลยนะครับ เพราะฉะนั้น การขาดหายไปของเอสเซียงในแดนกลาง กับดร็อกบาในแดนหน้า บอกตรงๆว่า "ยวบ" แน่ๆครับ แต่หากไม่ทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมจนเกินไปนัก ลองมากางแผนที่พรีเมียร์ลีก ดูเราอาจไขปริศนาธรรมข้อนี้ได้แบบไม่ระทมกบาลมากอย่างที่หวาดหวั่นจนฟันผุก็ได้นะครับ เพราะเมื่อผมกวาดสายตาดูแล้ว พบว่าช่วงที่แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ กำลังเผดียงแข้งกันอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น เชลซีเจอคู่ต่อสู้ที่ไม่หนักหนาเท่าหนังหน้าพวกนักการเมืองเท่าไหร่เลยนะครับ บอลคนถึกเค้าแข่งกันตลอดเดือนมกราคม ช่วงนั้นเชลซีจะต้องประลองฝีมือกับ ฮัลล์ ซิตี้ (ย), ซันเดอร์แลนด์ (ห), เบอร์มิงแฮม (ห) ปิดท้ายด้วยการไปเยือนเบิร์นลี่ย์ ทีมที่เก่งมากๆในบ้าน แต่ช่วงนั้น คาดว่าคงเหลือแต่ทีมที่เข้ารอบชิงแล้ว ซึ่งอาจได้มิเคลกลับมา (เพราะคาดว่าไนจีเรียคงไปไม่ถึง) ดังนั้นไม่ต้องกลัวมากครับ ถ้าจะมองโลกในแง่ดีกว่านั้นอีกนะ ผมอยากให้มองไปที่ฤดูกาล 2007-2008 ดูครับ ช่วงนั้นเชลซีก็เจอปัญหาแบบนี้เหมือนกัน แถมคนกุมชะตาชีวิตเชลซียังเป็นชายหน้านิ่วเหมือนคนเป็นสิวที่รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายอย่าง "อัฟราม แกรท์" อีกต่างหาก เชลซียังผ่านช่วงเวลานั้นมาได้แบบสบายบรื๋อเลยครับ แถมลากยาวมีลุ้นแชมป์ไปจนถึงนัดสุดท้ายอีกต่างหาก เว้นเสียแต่ว่า "อันเชลอตติ" จะเก่งไม่เท่า "ลุงแกรนท์" เท่านั้นแหละครับ ถึงจะสอบตกวิชานี้ ผลสอบที่คาด - แสนรัก ผลสอบจริง - ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ไปรอฟังผลได้ที่ครูประจำชั้นครับผม จากคุณ : นอมินี เทอร์รี่คุง (anna-samanta) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 12:46:37

ความคิดเห็นที่ 6 ข้อสอบกลางภาควิชาที่ห้า (สุดท้ายซะที) - กากูต้า เกท - วิธีทำ - เชลซีจะไม่มีสิทธิ์ซื้อขายผู้เล่น หลังจากติดคุกอัซคาบันในกรณีไปลักพาตัว "กาแอล กากูต้า" มาจากทีมในบ้านเกิดของท่านประมุขยูฟ่า ผู้ปฏิเสธทุกอย่างที่เป็นอังกฤษ ขณะนี้เชลซีกำลังอุทธรณ์อยู่ ถ้าไม่ผ่านก็อยากบอกว่า "รากแตก รากแตน" กันถ้วนหน้าล่ะครับพี่น้อง ที่สำคัญ ไอ้เจ้าตัวต้นเหตุอย่างกากูต้าเนี่ย ถ้าพ้นโทษแบนแล้ว ปรากฏว่าเล่นเหมือนลูคัส หรือ นานี่ล่ะก้อ... พ่อจะตั้งกระทู้ด่าให้เสียน้องหมากว่าลูคัส กับนานี่ เลยคอยดู ฮึ่มๆ. ผลสอบที่คาด - แสนรัก (เพราะคิดว่าการอุทธรณ์น่าจะผ่าน อย่างน้อยๆก็คงลดโทษกึ่งหนึ่ง) ผลสอบจริง - อีกไม่นานเกินรอ จากคุณ : นอมินี เทอร์รี่คุง (anna-samanta) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 12:47:47

ความคิดเห็นที่ 7 "มิคกี้เม้าส์ (แต่เอานะ)" คัพ <<< แหม่...เขียนดีจริง ๆ วุ้ย ไม่รู้จะชมยังไง ยิ่งไอ้ตรงเรื่องเสพติดทีมสปิริตนี่ อยากบอกว่าแฟน ๆ ก็เป็นค่ะ แบบว่าอยากให้เป็นแบบนี้กันไปตลอดเลย เรื่องที่บอกว่า ขอให้ประตูของทีมเกิดขึ้นก่อน แล้วสร้างผลงานทีหลัง อันนี้ก็เห็นด้วยเลยค่ะ เพราะแบบนี้หลายคนในทีมเลยหันมาเล่นเพื่อทีมมากขึ้น เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือนิโก้นี่แหละ ว่ากันเรื่องข้อสอบสักหน่อย โจทย์แรก - แมนยูไม่เคยเป็นงานง่ายอยู่แล้ว เกมนี้ขอแค่ไม่แพ้คาบ้านก็พอ อย่างที่ว่าเลยค่ะ ส่วนเซอร์เองก็คง "จัดหนัก" เพื่อมาเจอเชลซีแน่นอนอยู่แล้ว กิ๊ก รูน เฟลทเชอร์ น่าจะได้ลงแน่ ๆ แต่เรากลับคิดว่า สภาพของทีมเชลซีตอนนี้ดีมาก และก็น่าจะมากพอที่จะเก็บชัยชนะนัดนี้ได้นะคะ โจทย์สองกับสามก็คิดว่าไม่มีปัญหาค่ะ พี่แจ้ลองใช้ขุมกำลังหมุนเวียนกันอยู่แล้ว น่าจะปรับไปใช้ตอนข้อสามได้ (แบบเหนื่อยๆ หน่อย) โจทย์สี่ กลัวตรงขาดเอสเซียงนี่แหละ ขาดกองหน้ายังไม่ค่อยมีปัญหา แต่กลางตัวรับนี่... - -'' ครั้งก่อนเราคิดกันว่าอาจเป็นบัลลัคได้ลงตรงนั้นแทน แต่ถ้ามิเกลกลับมาจะให้มิเกลลงหรือเปล่า (ปกติไม่ค่อยปลื้มมิเกลเท่าไรแฮะ - -'') จะว่าไปพี่แจ้ก็ไม่ค่อยได้ใช้มิเกลเลยนะคะ... ตั้งแต่เกมแรก ๆ ที่ส่งมิเกลลงไปแล้วโดนถอดออกมั้ง (จำไม่ค่อยได้) โจทย์ห้า กากูต้านี่เห็นมีมาซ้อมกับเชลซีด้วยนะ อันนี้เราคงต้องรอดูกันล่ะค่ะ เดาอะไรไม่ได้ ฝีเท้าน่าจะไม่มั่วถั่วอยู่หรอก แต่กว่าจะทำได้ตามระบบทีมเนี่ยไม่รู้จะปรับตัวนานมั้ย ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ค่ะ :) จากคุณ : Wadoiji เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 13:32:38

ความคิดเห็นที่ 8 ^^.. โหวตเรียบร้อยแล้วค่า.. จากคุณ : Penguin Huang เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 13:39:29

ความคิดเห็นที่ 9 "ทีมสปิริต" สังเกตเห็นเหมือนกันครับ เวลาเพื่อนในทีมทำพลาด ไม่ค่อยโวยวายกันเหมือนเมื่อก่อน(พลาดในเกมรุก) พยามช่วยกันกระตุ้นให้กำลังใจซึ้งกันและกัน อีกอย่างที่สังเกต(ความคิดส่วนตัว) พวกที่ชอบฉายเดี่ยวเช่นมาลูด้า ฯ อันเชลอตติ จะดร๊อปเพื่อให้เกิดการเล่นเป็นทีม หากความคิดของผมถูก โจโคล ถึงจะเล่นดี แต่ติดโชว์ อาจถูกดร๊อปไปด้วย ข้อสอบกลางภาควิชาที่สี่ - แอฟริกันฯ ทำพิษ - ช่วงนี้ไม่กลัวครับ กลัวแต่กลับมาแล้วต้องพักนานอีกเป็นเดือน เพราะศึกนี้ก็รู้อยู่แล้ว ว่าแดนคนถึกขนาดไหน จากคุณ : นายกระแต เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 13:51:51

ความคิดเห็นที่ 10 สำหรับโจทย์ข้อแรก (ที่จะต้องทำก่อน)>> ผมยังหวั่นใจเสมอเมื่อทีมเรามาเจอกับ แมนยู และถ้าเราจัด อิวาโนวิช ลงเล่นเป็น วิงแบ็ค ผมกลัวว่าถ้าไปเจอกับปีก ความเร็วสูง จะวิ่งไล่ไม่ทัน (เพราะพี่แกขึ้นมาสูงแทบทุกนัดเลย )สุดท้ายต้องทำฟาล์ว ถ้าให้เล่นเป็นตัวกลางคู่เทอร์รี่ ยังอุ่นใจกว่านะ ส่วนตำแหน่งอื่น ค่อนข้างดีแล้วครับ จากคุณ : I_get เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 13:56:06

ความคิดเห็นที่ 11 เขียนได้แสบสันต์มากพี่ เจอแมนยูเก่งไม่กลัวครับ แต่กลัวกรรมการ จากคุณ : Pieces of the Silver Shining เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 13:58:51

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีครับ ครั้งนี้ก็มาตามอ่านอีกรอบ.. ชอบทุกครั้ง... แต่ครั้งนี้ผมสะดุดครับ... ขอติงหน่อยคงไม่ว่ากัน.. สำบัดสำนวน อะไรที่ล่อแหลมเกินไป ทวารบาน หรือ เสียตัว ผมว่า ไม่ควรมาใช้ครับ อ่านแล้วไม่ได้เกิดอารมณ์ร่วม หรือ เหมาะกับการกีฬาแต่อย่างใด... ถ้าเป็นบันเทิงคอลัมป์ซุบซิบ นินทาดาราไร้เกรดพวกนั้น อาจจะพอให้เขาได้ แต่คิดว่า ไม่ควรเขียนแบบนี้ ในบทความกีฬาครับ เขียนในแนวอื่นแบบที่ทำมาตลอดแบบนั้น ผมว่าดีอยู่แล้ว ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมอยู่ดี ๆ ครั้งนี้มาเปลี่ยนแนว.. มาเพิ่มสำนวนแบบนั้นเข้าไป.. ขออภัยถ้าล่วงเกินครับผม แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 52 14:17:25 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 52 14:14:47 จากคุณ : บูจัง เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 14:10:42

ความคิดเห็นที่ 13 #10 ใจเราก็อยากให้น้ำหวานได้เล่นเซ็นเตอร์เหมือนกันค่ะ พี่โบหายยังหว่า - -'' ข่าวคราวเงียบหายไปเลย #11 เห็นด้วยเลยเรื่องกรรมการ... จากคุณ : Wadoiji เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 14:25:20

ความคิดเห็นที่ 14 #13 จริงๆนะ ลองมาเทียบดูตัวเล่นขำๆกัน แมนยู -- เฟล็ทเชอร์ : ใครครับ นักเตะภูมิภาคUKมากเลย เชลซี -- บัลลัค : มีใครไม่รู้จักบ้าง เกียรติประวัติเพียบ กัปตันอินทรีเหล็ก แมนยู -- แอนเดสัน : ติดทีมชาติกี่นัดแล้วครับน้อง หน้ายังกับMccaชวนชื่น เชลซี -- เดโก้ : ตัวหลักทีมชาติโปรตุเกส รุ่งเรืองกับบาร์ซ่ามาหยกๆ แมนยู -- รูนี่ย์ : หมูพลิ้วเนี่ยนะ เชลซี -- อเนลก้า : มือปืนพเนจรครับ ได้ถ้วยลีกมาหลายประเทศแล้ว เด็ดสุดต้องUCLกับแมดริด แมนยู -- คาร์ริค : หน่อมแน้มยังงี้จะไหวหรอ เชลซี -- เอสเซียง : ต้องแบบนี้มิดฟิลด์ไดนาโม แมนยู -- พอล สโคลส์ : โหยน้า ลืมตามองบอลบ้างเถอะ แก่แล้วนะ เชลซี -- ซุปเปอร์แฟรงค์ : ยังต้องบรรยายอีกหรือ แมนยู -- เวส บราวน์ : ห๊ะ!! เชลซี -- เจที กัปตันทีมชาติอังกฤษครับ เข้มแข็งไม่เป็นรองใคร พอก่อนครับ เดี๋ยวจะยาว 55+ จากคุณ : Pieces of the Silver Shining เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 15:45:29

ความคิดเห็นที่ 15 ^ ^ ^ ผมว่าเรา ไม่ควรประมาทคู่ต่อสู้แบบนี้นะครับ ดีกรีนอกสนามอาจจะต่าง แต่เมื่องลงสนาม ชื่อเสียง ค่าตัว มันไม่ได้เป็นตัวชี้วัด จากคุณ : Longinus เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 15:57:27

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ ^ เห็นด้วยกับ #15 จ้ะ เราไม่ควรประมาทและ under estimate คู่ต่อสู้ ที่สำคัญคือ เราควรให้เกียรติคู่ต่อสู้นะคะ  : ) ไม่อยากให้มีประเด็นโดยไม่จำเป็นจ้ะ จึงเขียนตอบตามข้างบน จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 16:18:56

ความคิดเห็นที่ 17 ตอบคุณ "บูจัง" ครับผม รับทราบ และจะนำไปปรับปรุงในโอกาสต่อไปครับ เหตุที่นำคำพวกนี้มาใช้ สารภาพว่าติดมาจาก บอ.บู๋ และเขียนมันส์มือไป (ไม่นิดส์) - - จริงๆแล้ว คอลัมน์นิสต์ฟุตบอลที่ผมถือเป็นต้นแบบ คืออา ย. โย่ง กับ คุณกุ่ย หรือนามปากกาว่า "ตังกุย" นะครับ แต่บางทีก็มีอารมณ์แบบบอ. บู๋ เข้ามาในการกระแทกคีย์บอร์ด บ้างในบางอารมณ์ ถ้าติงมาว่าไม่ค่อยเหมาะ คราวหน้าจะเลี่ยงไปไกลๆเลยครับ สัญญา ตอบคุณ Pieces of the Silver Shining เพลาๆก็ได้เนาะ ถ้าหากเราแพ้ จะเกิดอาการเสียน้องหมาขึ้นมาได้อ่ะครับ กลัวข้อความของคุณจะขึ้นกระทู้แนะนำอ่า ขอบคุณทุกความเห็นจ้า เรื่องแบ็คขวา ผมกลับคิดอีกอย่างว่าใช้อิวาโนวิช น่าจะเข้าท่ากว่าโบซิงวา เพราะอิวาโนวิชยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ และที่สำคัญอิวาโนวิชไม่ใช่แบ็คประเภทชอบบุกเป็นชีวิตจิตใจอย่างโบซิงวา นั่นทำให้ทีมแน่นขึ้นในเกมรับ อีกข้อ อิวาโนวิชเล่นลูกกลางอากาศดีมากๆ สามารถช่วยลดโอกาสในการเสียประตูจากลูกโด่งน้อยลง ตามทฤษฏี ขณะเดียวกัน ถ้าฝั่งซ้ายมีจอมบุกอย่างอัญชลี โคล เพื่อความสมดุล เกมทางด้านขวาก็ไม่ควรมีพวกจอมลุยเหมือนกัน นี่ความคิดผมนะ ส่วนเรื่องกลัวผีเนี่ย ยอมรับว่ากลัว แต่ถ้าถามลึกๆๆๆๆๆๆในใจน่ะเชื่อมั่นในอันเชลอตติ และเชลซีมั้ย? อยากบอกว่า "มาก" แต่เขียนวิเคราะห์ไปตามความน่าจะเป็น และอ้างอิงจากความเป็นทีมที่มี "พลังแฝง" สูงมากๆของยูไนเต็ด เลยทำให้ผมวิเคราะห์มาในรูปแบบนั้น แต่ยังไงก็ "สู้!" อยู่แร้นนนนน จากคุณ : นอมินี เทอร์รี่คุง (anna-samanta) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 16:47:43

ความคิดเห็นที่ 18 #15,16,17รวดเลย   จริงด้วยนะครับ  ผมมองข้ามความประมาทกับการให้เกียรติไปเลย ขอบคุณสำหรับมุมมองแบบผู้ใหญ่จริงๆ แต่ยังไงก็เชื่อมั่นในทีมเชลซีแหล่ะ จากคุณ : Pieces of the Silver Shining เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 17:11:19

ความคิดเห็นที่ 19 คห.14 คุณอาจจะเขียนว่า เทียบตัวผู้เล่นแบบขำๆ แต่แฟนแมนยู อาจไม่ขำด้วยอะครับ ....ผมว่าเราวิเคราะห์แบบให้เกรียติคู่แข่งของเราดีกว่าครับ คห.17 เราคงต้องดู คำเฉลย ในวันอาทิตย์นี้อีกทีครับ ...โดยส่วนตัวผมไม่ได้มี อคติกับ อิวาโนวิช นะครับ หลังๆเค้ามีความมั่นใจขึ้นมากๆ เพียงแต่ผมมองในส่วนของแบบที่ว่า Put the right man on the right job อะครับ ถ้าเราจับมาเล่นตรงกลาง คู่เทอร์รี่ เค้าจะทำหน้าที่ได้ดีมากกว่า วิงแบ๊ค เพราะตอนที่เล่นกับ โบลตัน เค้าไม่เจอกับตัวริมเส้นที่มีความเร็ว ส่วนที่เราได้ประโยชน์จากลูกกลางอากาศ ทั้งจากการป้องกันและ ช่วยทำประตู ผมก็เห็นด้วยครับ แต่ แมนยูก็ไม่ได้ใช้ลูกโยนเข้ามาให้กองหน้า ทำประตู และ คู่เซนเตอร์ แบ๊คเราก็สูงอยู่แล้วทั้งสองคน ถ้าโบซิงวา หายเจ็บ ส่วนตัวผมยังอยากให้ใช้งานโบซิงวา มากกว่า ในการเจอกับแมนยูอะครับ คห.18 ขอบคุณที่เข้าใจเพื่อนๆนะครับ จากคุณ : I_get เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 17:26:39

ความคิดเห็นที่ 20 แวะมาอ่านหน่อย เขียนและวิเคราะหได้ดีมากครับ ส่วนเรื่องช่วงคริสมาสนรกนี่ ถ้าจัดการทีมดีๆ ก็น่าจะผ่านได้ มูและแกรนท์ทำมาแล้ว แต่ในยุคเฟอรกี้ที่มันยากลำบาก เพราะตัวผู้เล่นในทีมไม่ได้ลึกและมีเยอะขนาดนี้ครับ แมนยูเพิ่งจะมาเป็นทีมที่มีขนาดใหญ่ก็ช่วง 3-4 ปีหลังนี้เอง ดังนั้นกับเชลซีที่ขนาดทีมใหญ่พอตัว ผมว่าไม่น่ามีปัญหา อ้อ ส่วนคห. 14 น้องเอ๊ย อย่าดูถูกทีมอื่นครับ ชื่อที่น้องไล่มาเนี่ยนะ เป็นขุนพลของทีมที่ได้ UCL มาแล้ว และเข้าชิงอีก 1 สมัย บางคนอย่างสโคลส์ กิ๊กซ์ นี่ได้มาสองสมัยแล้ว นักเตะเชลซีเองยังได้แค่เข้าชิงเอง ถ้าเขาตอกกลับมาแล้วน้องจะตายเองเด้อ แถมผลงานของแมนยูเจอกับเชลซี ก็ไม่ได้มีใครข่มใครมากด้วย ยิ่งในยุคก่อนแมนยูข่มเชลซีด้วยซ้ำ จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 17:35:01

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ Pieces of the Silver Shining พวกผมไม่ได้เป็นผู้ใหญ่มากมายอะไรหรอกครับ คือยังเด็กๆกันทั้งหมดเลย เพื่อนๆกันทั้งนั้นในกระทู้ เอทีบี ของพวกเรา สำหรับกรณีนี้ ผมมีสองประโยคที่ขออนุญาตเล่าให้ฟัง -จากการ์ตูนเรื่อง "ซามูไรพเนจร" มีตัวละครตัวหนึ่งพูดไว้ว่า "แม้ในยามที่เห็นชัยชนะอยู่ตรงหน้า แต่ก็ต้องทำใจเผื่อแพ้ไว้บ้าง ถ้าทำได้ ก็จะสำราญแม้ในยามที่แพ้พ่าย" -สุภาษิตจีนบทหนึ่งกล่าวว่า "น้ำที่เต็มกระบอก เขย่าไม่ดัง" พวกเราแฟนเชลซี "ยามชนะมิหลงละเริง ยามแพ้ไม่ท้อถอย" จากคุณ : Longinus เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 17:36:06

ความคิดเห็นที่ 22 #14 เย็นไว้โยม เอาไว้จบฤดูก่อนก็ได้ จากคุณ : Redondo16 เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 17:39:23

ความคิดเห็นที่ 23 #21 ใช่ๆ  เราก็ยังไม่ได้เป็นผู้ใหญ่เท่าไรหรอก...ฮ่ะ..ฮ่า.. ยังต้องไปสอบอะไรฟระ ...  แกทๆ แพทๆ อะไรนั่นน่ะ..ฮ่ะ..ฮ่า.. (อีกที) เจ้า Kakuta เนี่ย..โดนแบน 3 เดือนนะ (แต่ไม่รู้ว่าเริ่มมีผลเลยหรือเปล่า)   ก็ลงซ้อมแหล่ะ แต่ไม่รู้ว่าลงเล่นให้ทีมสำรองหรือเปล่า  พักหลังๆ ไม่ได้ดู ตั้งแต่เลื่อนเวลาไปดึกขึ้นเนี่ยแหล่ะ  (ปรกติจะตามดูน้อง Jacob Melis ..อิ่..อิ่..) เจ้าหนูนี่ดูแล้วเป็นเด็กนิสัยดีนะ  มักจะโดนเพื่อนอำบ่อยๆ ส่วนฝีเท้าก็หาดูจาก clip ใน Youtube ละกัน (ออฟฟิศมัน block น่ะ ขี้เกียจ unblock โหลดช้า...) เพิ่งเสร็จงานนี่แหล่ะ...เหนื่อยจัง... คืนนี้ต้องรีบเข้านอน เพื่อเปิดจอดู Milan เปิดเน็ตดู Chelsea จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 18:46:17

ความคิดเห็นที่ 24 น่าห่วงตรงที่ แมนยู เป็นทีมที่ชอบทำลายสถิติซะด้วย เชลซี ชนะในบ้านมาทุกนัด หวังว่าจะไม่ประมาท จนพลาดในนัดนี้นะขอรับ ถ้าครึ่งฤดูกาลผ่านไป เชลซีไม่สามารถครองจ่าฝูง ก็จะยิ่งน่าห่วง เพราะครึ่งฤดูหลัง เราต้องไปเยือนทีมจากบิ๊กโฟร์ เขาบ้าง (ดันอยู่บ้านช่วงครึ่งแรก ต้องทำแต้มหนีห่างๆหน่อยนะขอรับ) จากคุณ : Big Blue (Little Red) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 18:49:34

ความคิดเห็นที่ 25 มาถึงนี้แล้วจะกลัวอะไรอีกเล่า...ในเมื่อ ดรอกบา อเนลก้า บัลลัค จับมือกันเล่นเพื่อทีมในแบบที่ว่าคือ..." ไม่เสียสละ ชัยชนะไม่เกิด " ผมโครตเกลียด บอ.บู๋ เลย กรุณาอย่าเอามันมาเป็นแบบอย่าง...สำนวนมันมีแต่ขยะ.. จากคุณ : Mr RAWAI เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 19:19:56

ความคิดเห็นที่ 26 แฮ่ม.. นึกว่ากำลังอ่านทุ่งหญ้าฯของ บอ.บู๋ พวกคำว่า เอานะ, กระแทกคีย์บอร์ด,  มิกกี้เมาส์คัพ, หรือคำเปรียบเปรยแบบห่ามๆ อะไรพวกนี้ มาจาก บอ.บู๋ หมดเลย อย่าไปเอาอย่างเลยครับ เอาสำนวนที่เป็นตัวเองแบบบทความแรกๆที่เคยเขียนดีกว่า เข้าเรื่องบ้าง ผลสอบที่น่าห่วง.. น่าจะเป็นเดือนนี้แหละ เแมนฯยู, กับอาร์เซน่อล ถ้าผ่านสองเกมใหญ่นี้ไปโดยไม่แพ้ใคร และยังนำเป็นจ่าฝูงอยู่ ความเชื่อมั่นและอะไรอีกหลายๆอย่าง น่าจะทำให้ทีมผ่านช่วงคริสมาสต์ และช่วงแอฟริกันเนชั่นคัพไปได้ด้วยผลการแข่งขันที่ดีครับ จากคุณ : BlueLightS เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 19:41:04

ความคิดเห็นที่ 27 เขียนดีอีกตามเคยครับ คุณ เทอรี่คุง ผมว่า คำว่า "ทวารบาน" มันก็ไม่ได้อ่านแล้วทำให้สะดุดอะไรมากมาย แต่มันแสดงถึงความรู้สึกอันรุนแรงหนักหน่วง ให้บทความมากกว่า แทนจะใช้คำว่า"โดนยิงประตูหลายลูก" มุมมองของผม(ส่วนตัวนะครับ)คำพวกนี้ช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับบทความอ่านแล้วไม่เบื่อ คำอื่น ๆ เช่น "กระซวกไส้" ,"สะเด่า","หรือแม้แต่ "ทะลวงรูตูด" อ่านแบบสบาย ๆ ไม่คิดมาก บทความกีฬาครับ ไม่ใช่บทความธรรม หรือบทความในพระราชสำนัก #14 หวาดเสียวโดนสวนหนัก ๆ เหมือนกันครับ เราอาจขำ ๆ แต่เขาคงไม่ขำด้วยนี่สิ จากคุณ : tainhong เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 19:57:07

ความคิดเห็นที่ 28 #17 ชมน้ำหวานซะขนาดนี้ ฉันล่ะน้ำตาจะร่วง อยากให้กิ๊ฟซะล้านแต้ม (โถ...ความลำเอียงของคนเรา) ตอนน้ำหวานมาเชลซีทีแรกออกจะมั่นใจนะ ประกาศตัวเลยว่าเขาเก่งกว่าโบซิงวา (เอาอย่างนั้นเลยเหรอพ่อ...) พอสองสามนัดหลังมานี่เห็นน้ำหวานกลับมาเล่นแบบมั่นใจแล้วภูมิใจสุด ๆ 55 โดยเฉพาะลูกที่เทอรี่มึน หาบอลไม่เจอที่หน้าปากประตู แล้วน้ำหวานวิ่งถลาสุดปลายเท้าเข้ามาช่วยนี่แบบ... แถมพักนี้ทำท่าเหมือนอยากทำประตูกะเขาบ้าง เดี๋ยวคงได้เห็นสักลูกแหละน่า เรื่องเปรียบเทียบก็ใจเย็น ๆ กันเนาะ :) จริง ๆ เราอ่านดูก็รู้ว่าคุณPieces of the Silver Shining เขาพูดเล่น ก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่กลัวแฟนแมนยูมาอ่านแล้วจะเข้าใจผิดเหมือนกัน ตกลงข่าวที่โบไม่คืบหน้าเลยเหรอ ชอบพี่โบแต่ก็อยากให้น้ำหวานได้ลง พักนี้น้ำหวานทำได้ดีซะด้วย ไม่รู้พอพี่โบกลับมาแล้วพี่แจ้จะเลือกใครเนอะ แต่คิดว่าคงปรับใช้กับแผนเป็นนัด ๆ ไปมั้ง... จากคุณ : Wadoiji เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 21:08:44

ความคิดเห็นที่ 29 ขอยืนยันที่คุณ Longinus กับ คุณ Hermy บอกนะครับว่าพวกเราใน ATB ยังเด็กๆกันทั้งหมด..อันนี้เรื่องจริงเลยฮะ ขอบคุณ คุณPieces of the Silver Shining ที่รับฟังความเห็นพวกเรานะครับ...ถ้าบลัฟกันนิดหน่อยไม่มีปัญหากันอยู่แล้ว -ส่วนโจทย์ที่คุณเทอรี่คุงว่ามานั้น ถ้าข้อแรกเสมอนี่อาจารย์จะให้ผ่านมั๊ยครับ ข้อสอบมันยากนะจารย์หยวนๆหน่า 555 -โจทย์ข้อสองคล้ายๆกับข้อแรกถ้าสมมุติว่าบ้านใครบ้านมัน..ผมน่าจะผ่านนะ -โจทย์ที่เหลือผมว่าลุงแจ้น่าจะทำได้อยู่ ป.ล. เรื่องการเขียนของคุณเทอรี่ เนื้อหาสาระนี่ไม่ต้องเป็นห่วงครับผมว่าดีมากๆเหมือนเดิม แต่พวกน้ำจิ้มเนี่ยมันก็แล้วแต่คนชอบนะ ถ้าคุณเทอรรี่ชอบแบบแสบๆเผ็ดๆก็ใส่พริกเข้าไปเลยสิบเม็ดไม่ต้องยั้ง แต่ถ้าชอบแบบหวานๆ ก็เอาให้หวานเลี่ยนไปเลย 555 จากคุณ : Dr.Pepper เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 21:45:45

ความคิดเห็นที่ 30 เข้ามาอ่านอีกครั้ง สนุกดีเวลาเห็นเพื่อนๆคุยกัน เสน่ห์ของคลับเชลซี อยู่ที่การดูแลกันและกันนี่แหละครับ เรื่องสำนวนขำๆ ห่ามๆไปบ้าง ก็ต้องขออภัยด้วยครับ ติติงกันมาน่ะดีแล้วครับ ผมชอบเสียงติติง มากพอๆกับเสียงชื่นชมนั่นแหละครับ เพราะอยากพัฒนาการเขียนไปเรื่อยๆ จะได้ไม่หลงทาง กลับมาสู่เส้นทางของตัวเอง คราวหน้าจะปรุงอาหารของชาวสีน้ำเงินให้กลมกล่อม และไม่กระดากลิ้นกว่านี้ครับผม อืม...ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟังแหละครับ คอลัมน์นิสต์ที่ใช้นามปากกาว่า "ตังกุย" น่ะ เค้านิสัยดีมากๆเลยนะครับ เวลาที่ผมมั่นใจว่างานเขียนรอบนี้ของผมเจ๋ง ผมก็จะส่งไปให้เค้าวิจารณ์ เชื่อมั้ยครับ? ว่าเค้าวิจารณ์กลับมาดีมากๆ เค้าอ่านละเอียดจริงๆ แถมยังติ๊กจุดที่ควรแก้ไขมาเป็นข้อๆให้อีกด้วย ถ้าเป็นคนอื่น ผมเชื่อว่าคงหายไปกับสายลม เพื่อนๆว่ามั้ย? เขียนอีเมล์ไปคุยกับคอลัมน์นิสต์ซอคเกอร์หลายคนแล้ว ไม่ค่อยมีคนตอบกลับมาเลย แต่กับคุณตังกุยนี่ ทำให้ผมนึกถึง ย.โย่งเลยล่ะครับ ปล. ขอบคุณสำหรับคำติชมอีกครั้งครับผม จากคุณ : นอมินี เทอร์รี่คุง (anna-samanta) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 23:10:11

ความคิดเห็นที่ 31 คุณ เทอร์รี่คุง ข้อเขียนคุณ ก็คล้าย"สุรา" "สุราใบไผ่เขียว"  หอมหวาน "สุราเผาดาบ" ยิ่งแรงและบาดคอ แล้วแต่จะเลือกชอบกัน จากคุณ : Longinus เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 23:45:48

ความคิดเห็นที่ 32 #30 อย่าไปคุยกับเขาเลย..อิ่..อิ่... ที่เมล์ไปแล้วเงียบน่ะ..ฮ่ะ..ฮ่า.. เมื่อคืนนี้ Didi จัดไป 2  น้องกุนก็ 2  ตราหมีก็หลังพิงฝา ยังไงก็ต้องเก็บแต้มให้ได้บ้างน่ะ ส่วนเมื่อคืนนี้เราเชียร์ Milan เสียดายที่เสมอ 1-1 กับ Madrid จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 08:24:07

ความคิดเห็นที่ 33 #30 แต่ก่อนตอนเด็กๆผมชอบอ่านของบอบู๋นะ ชอบฮาตรงคำพวกนี้แหล่ะ บ้าๆดี #31 พี่Longinusนี่ออกแนวจีนโบราณกำลังภายในนะฮะ #32 ตื่นเช้าจังครับคุณHermy เดี๋ยวนี้บอลเตะกันดึกจัดๆ ผมเลยไม่ได้ดู ผมว่างานเขียนของพี่รี่คุงนี่ชัดเจนดีนะ ในมุมมองของคนดูฟุตบอล จากคุณ : Pieces of the Silver Shining เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 09:01:50

ความคิดเห็นที่ 34 ตื่น 6 โมงล่ะ มาถึงออฟฟิศ 8 โมง  เข้านอนตอนตี 4 อิ่..อิ่.. จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 09:35:46

ความคิดเห็นที่ 35 ข้ออื่นผมเฉยๆ  ข้อห้านี้ แรงอ่ะ  รับไม่ได้ .......ถ้าเป็นจริง จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 09:53:20

ความคิดเห็นที่ 36 แอบนั่งดูเชลซีทางเน็ต ปวดตาเหลือหลาย ดร็อกบา กลับมาได้ถูกเวลาจริงๆ จะว่าไปแล้วเกมนี้เป้นเกมแรกในซีซั่นนี้ของเราเลยนะครับ ที่ "เสมอ" ครั้งสุดท้ายที่เสมอกับคู่แข่งคือเกมกับยูไนเต็ด ในคอมมิวนิตี้ ชิลด์นั่น นั่งดูเชลซี แต่มือก็เปลี่ยนไปมาระหว่างช่อง 3 กับ 7 เห็นแมนฯยูฯ จัดแต่ชุดสองลงมาแล้ว ยังเขี้ยวลากดินขนาดนั้น โอย...ท่าทางป๋าเฟอร์กี้เค้าจะเอาจริงกับเชลซีแน่ๆ เฟอร์ดินานด์ที่ว่าเจ็บๆน่ะ ผมว่าถึงเวลาก็ลงมาวิ่งปร๋อแหงเลย แต่เอาน่ะ เชลซีเสมอน่ะดีแล้วนะ ในมุมมองของผม จะได้ตั้งสติ หลังจากฟอร์มเทพมาติดๆกันหลายนัดแล้ว ให้พี่แจ้กลับไปศึกษาและจูนเกมรับให้ผิดพลาดน้อยกว่านี้ In Blues, We Trust จากคุณ : นอมินี เทอร์รี่คุง (anna-samanta) เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 10:34:23

ความคิดเห็นที่ 37 การเสมอในเกม เยือนแอตมาดริด ไม่ได้เสียหายอะไรเลยครับ ผมว่าดีซะอีก เพราะตามปรกติของฟุตบอล ไม่มีทีมไหนชนะเรื่อยๆ และตลอดไป เราชนะมาสอง สามนัดติดๆกันแล้ว  โดนเบรคด้วยการเสมอก็ดี ก่อนจะมาเริ่มชนะในนัดหน้า อิอิ ปล. คุณPieces of the Silver Shining  เรียกพี่ทำไมอายุเท่ากัน อิอิ   พอดีช่วงนี้กำลังอินนิยายจีน ภูผามหานที แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 52 13:01:28 จากคุณ : Longinus เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 13:00:23

ความคิดเห็นที่ 38 เราก็รู้สึกว่าปีนี้แมนยูแรงจริง ๆ นะ จัดตัวดูแล้วน่ากลุ้มขนาดไหนก็ยังเก็บชัยชนะได้ ไม่ก็เอาตัวรอดไปได้ ตรงนี้แหละที่น่ากลัว... เมื่อคืนฟังสกอร์แล้วไม่คิดจริง ๆ ว่าแมนยูจะกลับมาได้ แต่ก็กลับมาได้จริง ๆ แต่ทางเชลซีนี่ ถ้ามั่วถั่วหน่อย ประมาทนิด หรือทำเอื่อยเฉื่อยแบบเมื่อคืน ก็ชักจะเป๋แล้ว ยังต้องปรับกันอีกเยอะ... เมื่อคืนเรากลับมาได้แล้ว ก็ยังประมาทให้เขาตีคืนได้อีก ถ้าเป็นเกมสำคัญกว่านี้คงแย่... แต่เมื่อคืนเราว่าเชลซีค่อนข้างผ่อน คงจะประมาทว่าอีกแต้มเดียวก็เข้ารอบแล้วก็เลยไม่อะไรมากมายมั้ง... ตอนเราเจอแมนยูในบ้านก็อยากให้เก็บชัยชนะให้ได้จริง ๆ แฮะ แค่เสมอ กลัวจริง ๆ ว่ามันจะไม่พอ... เราก็เชื่อว่าเกมนี้ที่แมนยูเจอกับเรา ริโอน่าจะกลับมาแน่ค่ะ - -'' จากคุณ : Wadoiji เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 13:16:38

ความคิดเห็นที่ 39 คืนนี้เอาใจช่วย Liverpool เชียร์ทุกทีมจากอังกฤษให้เข้ารอบลึกๆ อยากรู้ว่า Platini จะออกมาสัมภาษณ์อะไรอีกปีนี้ จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 15:43:54

ความคิดเห็นที่ 40 ถ้าทีมจากอังกฤษเข้ารอบหมดทุกทีม พลาตินี่ ก็จะออกมาบอกว่า ทีมพวกนี้ใช้เงินฟุ่มเฟือย ทำให้ตลาดลูกหนังปั่นป่วน แถมยังชอบไปขโมยเด็กจากทีมอื่นมาปั้นจนเทพอีกต่างหาก อย่างนี้เฮียพลาตินี่ จะจัดทอม เฮนนิ่ง โอเฟรโบ ลงไปเป่านัดตัดเชือกของทีมอังกฤษมันทุกนัดเลย ฮึ่ม! คงประมาณนี้ล่ะมั้งครับ จากคุณ : นอมอนี เทอร์รี่คุง (anna-samanta) เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 16:35:54

ความคิดเห็นที่ 41 ^ ^ ^ ถ้าจัดอิ่กรรมการหัวชิ้นปิ้งมาเป่าคู่ทีมจากอังกฤษอีก รับรองมีเฮแน่ๆ  อิ่..อิ่.. จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 17:08:07

ความคิดเห็นที่ 42 ไม่รู้ซินะ   สำนวนต่างๆในบางอารมณ์อ่านแล้วมันก็สนุก  แต่บางอารมณ์มันก็ไม่ค่อยดี   ก็เอาเป็นว่าอย่าติดเรทหรือติดความรุนแรงมากเกินไปก็น่าจะพอดี เพราะว่าในกลุ่มที่เชียร์เชลซีในคลับเรานี้ก็ยังมีพวกเยาวชนอยู่เยอะพอสมควร    ดังนั้นขอให้*ยั้งมือไว้ไมตรีบ้าง* ตอบโจทย์แรก ผมว่าไม่ค่อยจะน่าเป็นห่วงซะเท่าไหร่ เพราะดูจากเกมที่ผ่านๆมาในอดีต     แมนยู.ไม่เคยมาเอาชนะเชลซีได้ถึงสแตมฟอร์ดบริดจ์มานานมากแล้ว น่าจะตั้งแต่เริ่มที่สมัยของรานิเอรี่(อาจจะช่วงสองปีสุดท้าย)       แม้แต่สมัย บิ๊กฟิล ที่เป็นยุคที่เชลซีดวงแตกมากที่สุด แมนยู.ก็ทำได้แค่เสมอในถิ่นนี้ของเรา (ขณะที่เป็ดกะปืนเอาชนะเราได้สำเร็จคาถิ่น ) ผมก็เลยมีความเชื่อมั่นลึกๆว่า    แมนยู.ไม่น่ามาเอาชนะเชลซีได้ที่ สแตมฟอร์ดบริดจ์    เพียงแต่ว่าจะกลับออกไปแบบไร้คะแนนหรือได้1คะแนน    อันนี้ก็คงจะต้องรอยามดึกของวันอาทิตย์นี้ถึงจะได้ทราบผล ส่วนโจทย์ข้ออื่นๆ  เอาไว้ค่อยๆเก็บข้อมูลแล้วใกล้ถึงเวลาก็น่าจะพอรู้คำตอบละครับ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 52 18:24:24 จากคุณ : เสือปลาขี้เมา เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 18:22:54

ความคิดเห็นที่ 43 สวัสดีครับ แฟนยูไนเต็ดแอบมาอ่านครับ วันอาทิตย์นี้ กระผมขอเสมอก็ดีใจแล้วล่ะ ฮิฮิ ป.ล. เอาน้องน้ำตาลมาเทียบกับ เทอรี่ ไม่สมน้ำสมเนื้อเลยนาครับ ยังกะวีออสกับซีรี่ย์สาม อิอิ จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 13:21:59

ความคิดเห็นที่ 44 ยังไม่ได้แวะมาเม้นให้เลย คราวที่แล้วเราบ่นว่ามุขน้อย คราวนี้ก็เลยใส่ไม่ยั้งเลย แต่เราชอบถึงจะสองแง่สองง่ามไปหน่อย ข้อแรกถ้าวันที่ 8 เราก็มีโอกาสชนะมากกว่านิดๆล่ะเนอะ  ส่วนกรรมการ ถ้าไม่ได้เตะที่บ้านแมนยู บางทีคราวนี้กรรมการอาจเข้าข้างเราบ้าง ปล. เพราะปากเป็นเหตุไปไปวิจารณ์กรรมการเค้าเลยช่วยน้อยลง ดูจากนัดเตะที่บ้านลิเวอร์พูลเอาได้เลย จากคุณ : bobenz เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 18:55:54

ความคิดเห็นที่ 45 แฟนปีศาจแดงมาแอบอ่านครับ เขียนได้สนุกดีครับ  สำนวนเยี่ยมยอดเลย แถมได้ความรู้ในหลาย ๆ เรื่องเลย ต่อไปคงจะ(แอบ)เข้ามาอ่านเรื่อย ๆ ป.ล.  กลัวกรรมการเข้าข้างแมนฯยูฯ กันจริง ๆ หรือครับ จากคุณ : ขุนไกรครับผม เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 19:35:55

ความคิดเห็นที่ 46 ตอบแฟนแมนยูจ้า เชิญเข้ามาได้เลยครับ ที่นี่เปิดบ้านพร้อมพูดคุยกับแฟนทุกๆทีมเสมอ ส่วนเรื่องที่ถามว่ากลัวกรรมการเข้าข้างแมนยูฯ กันจริงๆหรือเปล่า? อยากบอกว่าไม่ค่อยเท่าไหร่หรอกครับ เพราะเรื่องแบบนี้ มันเกิดขึ้นได้กับทุกๆทีม เพียงแต่แมนยูฯได้ประโยชน์จากรรมการบ่อยกว่าทีมอื่น เลยเป็นประเด็นมาให้แซวกันเล่นๆ เท่านั้นเอง จากคุณ : เทอร์รี่คุง (anna-samanta) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 00:06:24

ความคิดเห็นที่ 47 เรื่องกรรมการเนี่ย..มันขึ้นอยู่กับตัวกรรมการมากกว่ามั้ง ส่วน Chelsea เอง  หลายๆ แมตช์แม้จะเตะที่ The Bridge แต่กรรมการบางคนก็ตัดสินเหมือน Chelsea เป็นทีมเยือนเลย อย่างเช่นแมตช์ที่เจอกับ Barca เป็นต้น จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 08:23:47

ความคิดเห็นที่ 48 รักเชลซี จากคุณ : grampus01 เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 23:18:04