ความคิดเห็นที่ 1 มารอข้อมูลเหมือนกันค่ะ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 12:26:23

ความคิดเห็นที่ 2 " อุปกรณ์ของเรามีแค่ 450D กับเลนส์ 2 ตัวไม่ใหญ่ไม่โต คือ EF-S 15-55 mm IS กับ EF-S 55-250 IS "<---- ไว้ถ่ายไกลๆเวอร์ๆ  มีเหมือนป๋มเลย แต่ถ้าจะถ่ายไกลๆๆมากๆๆๆเอาชัดๆๆนี่เลย เลนส์ 200-500 f2.8  เวลาถ่ายต้องใช้ขาตั้งนะอย่าเลียนแบบอีตานี่ อิอิ ส่วนที่ถามมาไม่รู้เลย - -* จากคุณ : thong765 เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 12:28:33

ความคิดเห็นที่ 3 โคด เลนส์ จากคุณ : thong765 เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 12:29:12

ความคิดเห็นที่ 4 ถ่าย ลุคัส กับ ราฟา มาฝากมั่งนะ จะมาทำ พิธี - -* จากคุณ : thong765 เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 12:41:30

ความคิดเห็นที่ 5 Canon 30D + Tamron 17-50 mm f/2.8 + Tamron 55-200 mm f/4-5.6 ครับ ถ้าเฉพาะในอังกฤษ ทีมใหญ่ๆไปมาเกือบทุกสนามแล้ว 40+ นัด รวมทั้งเดอะ บริดจ์ โดยรวมๆแล้ว โอกาสมีปัญหาค่อนข้างน้อยถึงน้อยมากครับ เคยมีปัญหาอยู่ 4-5 ครั้ง สนามที่เคยมีปัญหาได้แก่ Emirates / Wembley / Villa Park / Riverside / Carrow Road ครับ Emirates โดนตั้งแต่นัดแรกที่ไปดูเลย แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาอีก 15 นัดผ่านฉลุยครับ เข้าใจว่าสโมสรไม่มีนโยบายห้ามแล้ว เพราะยังมี photo competition ให้ส่งภาพเข้าประกวดเลย Wembley ไปมา 5 ครั้งมั๊ง เคยโดนไปครั้งเดียวเหมือนกัน อันนี้ได้ยินมาว่าแล้วแต่ดวงว่าจะเจอจนท.เข้มงวดหรือไม่ แต่เค้าก็แค่บอกเตือนก่อนเข้าเกตว่าห้ามใช้ถ่ายนะ แต่ถ้าได้เข้าไปแล้วก็ถ่ายไปเถอะครับ เค้าไม่มาว่าอะไรหรอก Villa Park อันนี้ตัวดี ยังแค้นไม่หาย ไม่ให้เอากล้องเข้าเลย ต้องเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่ reception สโมสร จบเกมแล้วถึงกลับไปเอา เข้าใจว่าวันนี้ดวงแตกจริงๆ เจอจนท.บ้าพลัง กล้อง compact มันยังไม่ให้เอาเข้าเลย Riverside เจอมาเตือนๆนิดหน่อยตอนลงไปถ่ายนักเตะวอร์มแบบติดขอบสนาม แต่ตอนเกมเริ่มก็แอบๆถ่ายไปได้ครับ อิอิ Carrow Road ดันไปนั่งหน้า Steward เลย เลยโดนห้ามถ่ายตลอดเกม 555+ ขนาดใช้กล้อง compact นะนั่น คำแนะนำนะครับ : ตอนจะเอาเข้าสนาม ให้เอาเลนส์คิตประกอบกับกล้องแทนเลนส์ซูมครับ ส่วนเลนส์ซูมเอาแอบๆไว้ในเป้ หรือถุงของที่ระลึกจากช็อปสโมสร (หลีกเลี่ยงการใช้กระเป๋ากล้องได้ก็จะดีครับ โดยเฉพาะถ้าด้านในมีอุปกรณ์เสริมมาก มันจะดู professional ไปหน่อย) ปกติผมมักจะพกกล้อง compact ไปด้วย เผื่ออัด vdo (แต่ปกติก็ไม่ค่อยได้ใช้หรอก) แล้วก็เผื่อถ้าโดนเตือนก็บอกจนท.ไปว่า ตรูจะใช้กล้อง compact แทน ยูโอเคนะ แต่พอเข้าไปแล้วก็เอา DSLR ถ่ายเหมือนเดิม 555+ เวลาชมเกมก็อย่ายกกล้องมาถือไว้ตลอดเวลา หรือรัวชัตเตอร์ sport mode ครับ มันจะดูผิดสังเกต + จงใจถ่ายเกินไปหน่อย ก็ให้ใส่ไว้ในเป้ แล้วถ้าอยากจะแชะเมื่อไหร่ก็ค่อยยกมาถ่ายครับ ส่วนเรื่องที่นั่งก็เคยนั่งตั้งแต่แถวหน้าๆไปจนหลังๆเลย แต่ถ้าจะให้ดีหลีกเลี่ยงการนั่งแถวหน้าสุดก็จะดีครับ เพราะจะไปประชันหน้ากับ Steward เลย เคยจองตั๋วที่ Stadium of Light ได้นั่งหน้าสุดเลย ต้องหาที่นั่งว่างๆแถวหลังๆไปหน่อย แล้วหนีไปนั่งตรงนั้นแทน ทั้งนี้ที่ว่าไปก็เป็นประสบการณ์ + เทคนิคส่วนตัวของผมนะครับ ไม่ได้แปลว่าจะต้องเป็นแบบนี้ หรือทำแบบนี้ 100% คุณ Hermy รอฟังของท่านอื่นๆต่อเผื่อจะนำไปปรับใช้ได้ดีกว่า :) จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 12:51:35

ความคิดเห็นที่ 6 # 2 EF-S 55-250 IS ตัวนี้  ถ้าถ่ายเป็น raw file 12 mb ใน frame นักฟุตบอลตัวจิ๋ว แต่ขยายแล้วยังชัดแจ่มอยู่ค่ะ เราคงเท่าที่ได้ คงไม่ซูมไปไกลมากๆ ค่ะ  อันนี้ทดลองมาแล้ว ตอนไปถ่าย Riera ค่ะ ส่วน Liverpool เนี่ย...  เรายังไม่ชัวร์นะ เพราะ plan ไว้ 5 วัน (ไม่รวมวันเดินทางอีก 2 วัน เท่ากับ 7 วันพอดี) อาจจะไปได้แค่ทัวร์สนาม ต้องขอเช็คโปรแกรมอีกที เพราะเราตั้งใจไปดู Chelsea เตะวันเสาร์น่ะค่ะ จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 12:52:58

ความคิดเห็นที่ 7 ๑.สนามฟุตบอลไม่ได้ห้ามเอากล้องดีเอสแอลอาร์เข้าครับ แต่ห้ามถ่ายภาพระหว่างบอลเตะครับ (อ่านและทบทวนให้ชัดเจน) ช่วงก่อนบอลเริ่ม และพักครึ่ง หลังบอลเลิก ถ่ายได้ตามสบาย ถ่ายภาพหมู่ ยังขอการ์ดเขาช่วยถ่ายให้ได้เลย ๒. แนะนำกระเป๋าเป้สะพายหลังใส่เลนส์ยาวครับ เวลาตรวจ เขาจะอธิายว่าห้ามถ่ายช่วงบอลเตะครับ ไม่มีปัญหาอะไร เขาไม่ยึดกล้องหรือเลนส์ ไม่ห้ามเอาเข้าสนามครับ เพียงพยักหน้าหงึกหงักตอเขาอธิบาย และพูดว่า เยสๆๆๆ ฉานเข้าจาย ๓.เลนส์ไวด์กว้างๆเก็บบรรยากาศได้ดี ๔. เลนส์เทเลหรือเลนส์ซูมที่กำลังสูงที่สุดที่ถ่ายไหวโดยใช้มือเปล่า โดยไม่มีโมโนพอด ไม่มีขาตั้งกล้อง สองสิ่งนี้ห้ามเอาเข้าครับ อย่าเอาเข้าสนาม มันอาจเป็นอาวุธได้ครับ ๕. เลนส์ที่เอฟโต มีกันสั่น โฟกัสเร็วช่วยได้แยะ ๖. หาจังหวะยกกล้องขึ้นถ่าย เหลือบมองการ์ดเสื้อเหลือง เสื้อส้มด้วย อย่ายกกล้องคาหรือยกแช่ จะโดนการ์ดของสนามเตือน อ้อ การ์ดบางสนามมีทั้งบนและล่างครับ เข้าไปที่นั่งแล้วมองสำรวจด้วยว่าการ์ดยืนที่ไหนบ้าง ๗. อย่าลืมเอาเสื้อกันฝน ผ้าพลาสติกใส่กระเป๋าไปด้วย ฝนอาจจะมาตอนไม่คาดคิด ดินฟ้าอากาศอังกฤษมันเป็นอย่างงั้นจริงๆ มีร้อน มีฝนและหนาว สามฤดูในวันเดียวกัน บางสนามจะมีส่วนที่โดนฝนเยอะครับ ทั้งเปียกทั้งหนาว ห่วงกล้องและเลนส์อีกต่างหาก ๘. พกการ์ดเมมโมรี่และถ่านสำรองด้วย ๙.เผื่อเวลาเดินทางแยะๆ เช็คล่วงหน้าด้วยว่าซับเวย์ปิดไหม ปิดซ่อมไหม ๙. การเลือกที่นั่งสรุปสั้น ยิ่งแพงยิ่งดี ฮ่าๆๆ ดูที่ราคาหน้าตั๋วครับ กลางสนามดีที่สุดครับ สนามสแตมฟอร์ดบริดจ์มันเก่า ไม่โตมาก จากคุณ : กำแปง เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 13:02:05

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่มีข้อมูลจะช่วย แต่ขอบอกว่าชื่อกล้องกับเลนส์หื่นมาก จากคุณ : รันตี เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 13:24:38

ความคิดเห็นที่ 9 แนะนำให้พกไปน้อยๆครับเพราะคุณอาจต้องเดินไกล เหนื่อยมาก !!!!! 2 ตัวที่ว่ามานั่นก็ ok แล้วครับ ชุดของผม canon 5D mkII , 135 f2L , 24-105 f4L ว่าจะถอย 70-200 สักตัวครับ แต่ถึงเวลาจริงๆ 24-105 คือเลนส์ติดกล้องตัวเดียวเลย ไม่ชอบเสียเวลาเปลี่ยนเลนส์ครับ กลัวฝุ่นเข้ากล้องด้วย ขอให้สนุกกับการเดินทางชมฟุตบอลครับ ^^ จากคุณ : tumsupat เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 14:58:34

ความคิดเห็นที่ 10 พี่กำแปงกับพี่นักมายากล อธิบายหมดแล้ว ขอนอนยันอีกเสียงว่า เอาเข้าได้ ใส่คิตตี้ไว้กับกล้องแล้วเอากล้องใส่กระเป๋า ยิ่งมีถุงจากร้านเมกกะของสโมสรยิ่งดี เนียนเลย ขอแนะนำว่า ถ่ายบรรยากาศก่อนเกมและช่วงพักดีที่สุดหน้าสนามด้วย ภาพตอนแข่งซูมก็ลำบากเขาวิ่งกันเร็ว สมาธิเราก็อาจไม่ดีเพราะลุ้นเกมอยู่ ถ้าช่วงแข่งอยู่ ก็ยกมาส่ิองเสร็จแล้วเก็บใส่ถุงไว้ 1. ใช้ชุดเดียวกันเลย แถมกล้องชื่อบัลลัคเหมือนกัน 2. ใส่ถุงของร้านเมกกะสตอร์ 3. ก็ไม่มีอะไร เจอก็บอกว่าเอามาถ่ายช่วงพักครึ่ง แบบเพิ่งเข้ามาสนามครั้งแรก มุขนี้ตอนนี้ใช้ไม่ได้แล้ว เพราะการ์ดบางคนจำหน้าได้ 4. แถวหน้าค่ะ ไม่เคยนั่ง ฮ่า ๆ มันแพงนะหลายหมื่น ไม่ไหว ปกตินั่ง west stand 5. พกไปเลย เขาไม่ได้มาเปิดกระเป๋าเราทุกคน เขาใช้เครื่องแสกนตรวจอาวุธ ถ้าเจอเขาถึงจะค้น และของที่ขาดไม่ได้ก็คือ เสื้อกันฝน และถุง ถุงเอาไว้ใส่กล้องกะเลนส์ เพราะฝนตกได้ตลอด อ่อ ๆ กล้องอย่าไปเปิดแฟรชเชียวน๊า เปิดไปก็ไม่ช่วยอะไร แถมพี่การ์ดจะมองด้วย ช่วงต้นปีฟ้าจะมืดเร็ว สี่โมงเย็นก็มืดแล้ว เคยจะยกส่องทีนึง เขาดันเลื่อนธงใหญ่ ๆ มาบังซะมิดเลย ถ้าเข้าที่มิวเซิียมด้วย สังเกตดู มีถ้วยของไทยด้วย ตู้เล็ก ๆ บนซ้าย อิอิ แล้วนี่จะไปพักกันที่ไหนอ่ะ ช่วงหลังปีใหม่มิ๊งก็กลับไปอยู่แถวนั้นแล้ว ห่างสนามประมาณ 400 เมตร มาแวะกินข้าวที่บ้านได้ เดี๋ยวใกล้ไปแล้วจะให้เบอร์โทรติดต่ออีกที แถวนั้นเดินมาัทั่วแล้ว แนะนำอีกอย่าง ถ้าไม่ได้พักแถวนี้ ก็ซื้อขนมมาเยอะ ๆ เลย แถวนี้ของแพงมาก จากคุณ : Minky Mouse เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 15:14:15

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ รันตี เราไม่อยากจะบอกว่าถ้าเราจะซื้อเลนส์ตัวใหม่เพิ่มเนี่ย มันอาจจะชื่อ "Frings" หรือ "Gattuso" ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเจียดตังค์ไปเยอรมันหรืออิตาลีได้ก่อนกัน...อิ่..อิ่.. คุณ tumsupat คะ เราก็ไม่ค่อยชอบเปลี่ยนเลนส์เหมือนกัน เดี๋ยวดูก่อนว่าตกลงจะนั่งตรงไหน คุณ Minky Mouse  เราตั้งใจจะไปช่วงคาบเกี่ยวกับสงกรานต์ค่ะ คือตั้งใจจะบินคืนพุธที่ 7 เม.ย.2553  ดู Chelsea v Bolton แล้วบินกลับวันที่ 14 เม.ย.2553 ค่ะ ไม่ดู Big Match เพราะเรามีเพื่อนที่หลงคารมเป็นลูกทัวร์ไปด้วย 2-3 คน (2 คนรัก Ballack เหมือนเรา ส่วนอีกคนรัก Ferreira มากมาย) เรากลัวว่าเราจะซื้อตั๋วให้พวกเขาไม่ได้ทุกคน  เลยเลือกแมตช์กลางๆ (ที่คิดว่า Chelsea จะยิงระเบิดระเบ้อด้วย..แฮ่ะ..แฮ่ะ..) ที่พักยังไม่ได้ฟันธงค่ะ  แต่ที่เล็งๆ ไว้ก็คงเป็น budget hotel ทีมีคนแนะนำไว้คือ Belgrave แต่เรายังอยากดูที่อื่นอีกน่ะค่ะ เพื่อนเราจะทำป้ายผ้าไปด้วยล่ะ... เราล่ะกลั๊วกลัวดีไซน์ป้ายของเพื่อนเราจริงๆ ฮ่ะ..ฮ่า..   เดี๋ยวแวะมาใหม่ ไปเคลียร์งานก่อน : ) จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 15:32:10

ความคิดเห็นที่ 12 โห แผนซุ่มเลนส์ในถุงสโมสรยอดยุทธยิ่งนัก นับถือๆ   จากคุณ : ป้าหนอน เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 15:33:57

ความคิดเห็นที่ 13 ขอคาราวะผู้เยี่ยมยุทธ์ทุกท่าน m(_ _)m ขออภัยคุณ Hermy ที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แห่ะๆ เข้ามาเก็บข้อมูลด้วยคน ว่าจะฝากถ่าย แต่ไม่รู้จะฝากใครดีอ่ะ ขอให้รอบหน้าได้ไปมิลานนะฮ้าาาาา~ (แล้วหนูจะกลับมาฝาก อิอิ) จากคุณ : yokoyuki เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 16:33:01

ความคิดเห็นที่ 14 แวะมาเก็บข้อมูล กลยุทธ์ เคล็ดลับ อาจได้นำไปใช้บ้าง ขอบคุณคนถามและคนเข้ามาตอบค่ะ เหอๆ สนามสเปนบางทีเห็นยกส่องเอาส่องเอา เวลากล้องแพนไปที่พวกคนดู จากคุณ : la liga fan เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 17:08:26

ความคิดเห็นที่ 15 แวะมาขอบคุณอีกรอบทั้งเพื่อนๆ ที่แนะนำ และที่แวะมาเยี่ยมกระทู้ค่ะ : ) เห็นด้วยกับคุณป้าหนอนอย่างยิ่งว่ากลยุทธใส่กล้องในถุง Chelsea Megastore นี่เริ่ดจริงๆ   คุณ yokoyuki  ถ้าไป Milan เนี่ย.. เราขอปั๊มเงินก่อนนะ..ฮ่ะ..ฮ่า.. จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 21:42:38

ความคิดเห็นที่ 16 มะเห็นได้กิฟฟฟกะเขามั่งเลย ก้ไม่ตอบให้ตรงนี่หว่า อิออิ จากคุณ : thong765 เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 23:10:44

ความคิดเห็นที่ 17 ผมเอาเลนส์ที่ไม่ยาวมากติดกล้องห้อยคอไว้โชว์บนอกเลย เขาทักก็พยักหน้าหงึกหงัก เขาอธิบายก็บอก โอเค ฉานเข้าจาย เอาซูมยาวใส่เป้หลังครับ เสื้อฝน ผ้าพลาสติกกันฝนไว้ในเป้หลังครับ ไปด้วยกันมากกว่าหนึ่งคน ก็ฝากสะพายไปคนละกล้อง เลนส์ยาวก็แบ่งๆกันไปครับ เป้หลังมันคล่องตัวกว่าครับ กันฝนได้ ติดตัว ไม่เกะกะ มือเราว่างทั้งสองข้าง สะพายถุงเมกาสโตร์ เอาเสื้อทีมทับเลนส์ไว้ก็ดี เนียน แต่เกะกะครับ ต้องหิ้ว ต้องวางพื้น ผมเลือกเข้าไปเลือกซื้อทีมหลังเกมส์ครับ ไม่ซื้อก่อนเกมส์ครับ ยิ่งไปหลายคน เทคนิกง่ายมาก แยกของครับ อย่าเอาไปคนเดียวแยะๆ แฟลชไม่ต้องเปิดเลย ไกลไประยะไม่ถึง แถมโดนเพ่งเล็ง ดันไอเอสโอไปสูงที่สุดเท่าที่จำเป็น อย่าห่วงน๊อยซ์ ได้ภาพสวยคมชัด น๊อยซ์แยะช่างมันครับ ดีกว่าภาพเบลอๆ จากคุณ : กำแปง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 01:32:30

ความคิดเห็นที่ 18 ข้อมูลสำหรับแฟนนิคอน เลนส์ ๗๐ - ๒๐๐ วีอาร์ สว่าง ดีมาก โฟกัสเร็ว เลนส์ ๘๐ - ๔๐๐ วีอาร์ ดีตรงระยะ แต่โฟกัสช้ากว่าแยะ จากคุณ : กำแปง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 01:36:12

ความคิดเห็นที่ 19 อันที่จริง ๓๐๐ มม. เอฟ ๒.๘ ก็ดีมาก สว่าง โฟกัสค่อนข้างเร็ว แต่แบกยาก หนักมาก หากมีเลนส์ตัวนี้หรือหายืมได้ และเอาเข้าสนามได้ ยกขึ้นเล็งไหว ดีเลิศประเสริฐศรี จากคุณ : กำแปง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 01:40:40

ความคิดเห็นที่ 20 นั่งไม่ไกลน่าจะพอส่องได้นะสำหรับ 55-250 is ซูมสุด มือต้องนิ่งหน่อย และ shutter speed ต้องได้ด้วย อย่างน้อยๆ 1/160 ถ่ายพวก sport ต้องไวหน่อยไม่งั้นเบลอกระจุย ยิ่งถ้าเป็นแมทช์กลางคืนนี่ ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ จากคุณ : nakung_no135 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 07:20:52

ความคิดเห็นที่ 21 ให้จนได้ ขอบคุรครับ อิอิ จากคุณ : thong765 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 10:33:18

ความคิดเห็นที่ 22 เราใช้ Canon น่ะค่ะ  ส่วน tele ที่มีช่วงซูมยาวกว่านี้ คงไม่ซื้อใหม่ตอนนี้ แต่อาจมีผู้อนุเคราห์..แฮ่ะ..แฮ่ะ..ต้องดูอีกที : ) คุณ nakung_no135 คะ  เลนส์ is เนี่ย..มันโอเคเลยแหล่ะ ถ่ายกลางคืนแต่สนามเปิดไฟสว่างมากๆ ก็ถ่ายมาโอเคค่ะ คุณ thong765 ขอบคุณที่แวะมาอีกทีคะ : ) แบบว่า give เนี่ย เขาให้มา 100 เราใช้หมดทุกเดือนเลย..อิ่..อิ่.. จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 15:33:04

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่แน่ใจว่าแข่งตอนไหน ถ้าแข่งตอนบ่ายแดดดีก็คงได้ถ่ายนักเตะในสนาม ดัน ISO ให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้ได้ความเร็วชัดเตอร์ประมาณ 500 ขึ้นไป สำหรับถ่ายภาพเคลื่อนไหว ถ้าแดดไม่เป็นใจความเร็วชัดเตอร์ซัก 200- 300 ก็ยังพอได้รูปนักเตะขณะเดินหรือวิ่งเหยาะๆ ถ้าแข่งตอนเย็นหรือคู่กลางคืนก็คงต้องทำใจ ปกติถ้าแข่งคู่กลางคืนใช้ไฟสนาม ก็ต้องใช้เลนส์ 2.8 ตั้ง ISO 1600-3200 ถึงจะเอาอยู่ อย่างที่คุณกำแปงแนะนำ ถ้าให้เลือกมีัน้อยส์หรือภาพเบลอเนื่องจากความเร็วชัดเตอร์ไม่พอ ให้เลือกมีน้อยส์ดีกว่า ถ่ายเป็น raw แล้วใช้โปรแกรมเสริมช่วยลดน้อยส์ได้ และเลนส์ที่จะถ่ายได้ดีก็อย่างที่คุณกำแปงแนะนำคือ 300mm/2.8 ถ้าหายืมได้ ลองเช็คเวลาแข่งดูครับ ถ้าแ่ข่งตอนเย็นหรือคู่กลางคืน ถ้ายืมเลนส์เลนส์ไม่ได้ยืมกล้องที่ถ่ายที่ ISO3200 ได้ดี พวก D40 หรือ D50เป็นต้น แล้วก็ใช้เลนส์เท่าที่มีอยู่กับยังได้ภาพดีๆได้อยู่ ความจริงถ้าหาได้ก็เป็นเลนส์เทเล 300mm ขึ้นถึงจะเหมาะครับ ไม่งั้นก็เน้นถ่ายบรรยากาศกว้างๆทั่วไปหรือภาพนักเตะที่วิงอยู่ริมเ้ส้นด้านที่เรานั่งอยู่ จากคุณ : ซิตี้ สู้ สู้ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 16:21:29

ความคิดเห็นที่ 24 คู่เชลซี โบลตันแข่งบ่ายสามนี่ครับ ปัญหาเรื่องแสงคงหมดไป ถ้าต้องการถ่ายแอกชั่นการแข่งขันด้วยอุปกรณ์ชุดนี้ ดัน ISO ให้สูงสุดที่พอรับได้ น่าจะอยู่ที่ 800 เพื่อให้ความเร็วชัดเตอร์สูงกว่า 800 ถ้าเป็นไปได้ก็ 1,000 กันกล้องไหวและหยุดภาพเคลื่อนไหว ที่ 250mm สตอปดาวน์จาก f/5.6 มาถ่ายที่ f/8 เพื่อให้ภาพคมขึ้น แต่ต้องดูว่าความเร็วชัดเตอร์ยังคงสูงกว่า 1/800s เป็นอย่างน้อย ถ่ายที่พิกเซลสูงสุด ควอลิตี้สูงสุด ที่ความยาวโพกัสสูงสุดคือ 250mm แล้วเอามา crop ทีหลัง crop แล้วก็ USM อีกทีก็จะได้ภาพเต็มตัวนักเตะแอ็คชั่นดีๆเก็บไว้ได้ครับ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 52 18:39:17 จากคุณ : ซิตี้ สู้ สู้ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 18:24:44

ความคิดเห็นที่ 25 ตารางแข่งปีหน้ามันยังไม่แน่นอนครับ + เวลาแข่งก็ยังไม่ได้กำหนด ตอนนี้ schedule ของทุกทีมช่วงนั้นไปอยู่ที่แข่งบ่าย 3 โมงหมด จะเปลี่ยนอีกทีหลังจากที่ช่องถ่ายทอดต่างๆกำหนดเวลาออกมาให้ ทั้งนี้ที่อาจมีการปรับเปลี่ยนก็ด้วยผลจากการที่ทีมใหญ่ๆเข้ารอบไปแข่ง UCL หรือ Europa รอบลึกๆ รวมทั้งบอล FA Cup ด้วย รู้สึกว่าวันที่ 10 April นี่จะไปชนกับตาราง FA Cup รอบรองชนะเลิศนะครับ คุณ Hermy อาจจะต้องระวังไว้หน่อย จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 21:30:23

ความคิดเห็นที่ 26 ชัตเตอร์สปีดที่เลือกใช้ขึ้นกับเลนส์ที่ใช้ครับ มีหลายตัวแปรที่ต้องคำนึงถึง หากใช้เลนส์ยิ่งยาว ยิ่งต้องใช้ชัตเตอร์สปีดให้เร็วขึ้น คร่าวๆก็สูตร ๑/ความยาวเลนส์เป็นมิลลิเมตร เช่นเลนส์ ๕๐๐ มม. ก็ใช้ชัตเตอร์สปีดขั้นต่ำ ๑/๕๐๐ วิ เลนส์ ๓๐๐ มม. ก็ใช้ ๑/๓๐๐ วิ แต่หากใช้กล้องเอพีเอสฟอร์แมตก็ต้องเพิ่มค่าตัวคูณด้วย กล้องฟูลเฟรม ไม่ต้องเพิ่มค่าตัวคูณ อีกตัวแปรคือขึ้นกับระยะการถ่ายใกล้ไกลแค่ไหน ยิ่งใกล้ ยิ่งต้องใช้ชัตเตอร์สปีดให้เร็วขึ้น ระนาบการถ่ายก็มีส่วนด้วย ผู้เล่นวิ่งเข้าหาเรา หรือวิ่งออกจากเราก็ไม่ต้องใช้ชัตเตอร์สปีดเร็วมาก หากระนาบการ$วิ่งขวางกล้องก็ต้องเพิ่มชัตเตอร์สปีดอีกนิด ต้องฝึกแพนกล้องตามแนวการวิ่งของผู้เล่นด้วยด้วย อย่างน้อยก็ตัวและใบหน้าจะคมชัด ปลายมือ ปลายเท้าเบอลเล็กน้อยช่างมัน ถ่ายแล้วหมั่นซูมอินตรวจความคมชัดของภาพด้วย ขยายเยอะๆ ดูความคมชัดปลายมือ ปลายเท้า และลูกบอลด้วย ก่อนไปดูบอลที่สนามเชลซี ลองแบกกล้องและอุปกรณ์ไปถ่ายแมทช์ในไทยด้วยครับ สนามในไทยปราบเซียนที่สุด หากเตะเวลาเย็น แสงน้อยครับ สนามฟุตบอลในไทยโดยทั่วไป หลอดไฟและแสงค่อนข้างน้อย จากคุณ : กำแปง เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 19:27:10

ความคิดเห็นที่ 27 ดูตำแหน่งที่นั่งด้วยนะเออ ชั้นบนสุดซูม70-300 dx นิคอน ยังตัวเท่ามด จากคุณ : ยายตัวร้ายกับนายอนาคิน เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 19:53:27

ความคิดเห็นที่ 28 แวะมาขอบคุณเพื่อนๆ อีกทีจ้า : ) โห..ที่คุณนักมายากลฯ บอกมาเนี่ย..เราต๊กกะใจเลยนะนั่น เอาไงดีหว่า.. เดี๋ยวต้องพลิกๆ ปฏิทินดูอีกที ใจเราไม่อยากลางานติดต่องานหลายวัน แบบว่าเกรงใจเพื่อนร่วมงาน แล้วกลับมาก็นรกเลย..งานจะเยอะมากๆ ต่อให้เคลียร์งานก่อนไปแล้วก็เหอะ ปีหน้ามันขยับขึ้นมา เพราะจะเตะฟุตบอลโลกด้วยมั้งเนี่ย... Ballack อุตส่าห์ต่อสัญญาฤดูกาลนี้แล้ว ยังไงก็ต้องบินไปดูที่รักถึงขอบสนามให้ได้ ถ้าได้ต่ออีกปีจะดีมากๆ เลย อิ่..อิ่.. (ปาเข้าไป 34 แล้วนะนั่น) จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 09:52:50