ความคิดเห็นที่ 1 มอสโก 2008 ภาพแห่งความเจ็บปวดภาพนั้นของเทอร์รี่ที่รัก ยังไม่เคยสลัดไปจากห้วงความทรงจำได้เลยซักครั้งสำหรับผม และเชื่อว่าบิ๊กจอห์นเองก็ด้วย เหตุการณ์หลังจัตุรัสแดง เชลซีไม่เคยได้รับการชูมือเหนือยูไนเต็ดอีกเลย (ภายในเวลา 90 นาที) ไม่ว่าจะเป็นในรายการไหนก็ตามที่ได้มีโอกาสห้ำหั่นกัน พรีเมียร์ลีกถูกสอนบอลในโรงละครแห่งความฝันร้ายถึง 3-0, ขณะที่ในเดอะ บริดจ์ก็ต้องเป็นฝ่ายวิ่งไล่จนลิ้นแทบห้อย กว่าจะได้เฮก็ลากยาวมาจนถึงช่วง 10 นาทีสุดท้าย ในชปล. น่าจะได้ถอนแค้นคืนจากมอสโกอยู่แล้วเชียว ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุจากปอดของเปาหัวเหม่งจากนอร์เวย์ที่พ่นลมไม่ออกทุกทีเวลาเชลซีถูกทำฟาวล์ในเขตโทษเสียก่อน กับคอมมิวนิตี้ ชิลด์ไม่อยากนับรวม เพราะเป็นเสมือนเกมที่เรียกความพร้อมก่อนลุยศึกใหญ่ที่กำลังจะเดินทางมาถึงอย่างพรีเมียร์ลีกมากกว่าจะเอาจริงจนถึงขั้น "ถอนแค้น" แบบในแมตช์ที่ผ่านมา จนกระทั่ง "คาเตนัชโช่" ของอันเชลอตติ นี่เองที่ช่วยปลดเปลื้องความแค้นในหัวใจของเชลซีและเทอร์รี่ ให้หลุดพ้นจากพันธนาการของฝันร้ายที่มอสโกได้เสียที ถึงจะเป็นเพียงฝันเล็กๆที่มีค่าเพียงแค่ 3 แต้มก็ตาม พยักหน้ายอมรับเลยว่าการแพ็คกองกลางที่แน่นปั้กถึง 5 นายของอาจารย์ใหญ่เฟอร์กี้นั้น ช่วยกลบจุดบอดในแนวรับได้สนิทจนศิษย์เชลซียังแอบส่ายหน้าเลยขอรับ อย่างที่ผมได้คาดไว้ ว่าหากจะเอาเกมตรงกลางสนามของเชลซีให้อยู่ ยูไนเต็ดต้องเรียกใช้งานของ "อันแดร์สัน" กับ "เฟล็ทเชอร์" มาช่วยกันพะบู๊กับไดมอนด์ของเชลซีเท่านั้นถึงจะเอาอยู่ ต่างไปก็ตรงที่ว่าเฟอร์กี้เลือกใส่ตัวโฮลด์ดิ้งที่อ่านเกมเก่งอย่าง "คาร์ริค" ลงมาเพื่อเพิ่มสมดุลอีกหนึ่งคน แล้วก็ได้ผลเสียด้วย เกมนี้ดวลกันเดือดมากในแง่ของการชิงไหวชิงพริบบริเวณจุดยุทธศาสตร์กลางสนาม ไดมอนด์ของเชลซีแผงฤทธิ์ได้แค่ราวๆ 10-15 นาทีแรก โดยอาศัยการต่อบอลที่เร็วและค่อนข้างแม่นยำ เพื่อถ่ายออกไปให้คู่กองหน้าได้เข้าทำอยู่บ่อยครั้งในช่วงต้นเกม แต่ก็ได้แค่วูบวาบและหวือหวาเป็นระยะๆเท่านั้น ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ดูท่าจะกดดันตัวเองถึงผลงานในเกมนี้มากเกินไป จนหลายๆครั้งเล่นบอลเห็นแก่ตัวมากเกินพอดีจนผิดธรรมชาติ ขาดการประสานงานที่เคยไหลลื่นกับอเนลก้า จนทำให้แบ็คโฟร์ของยูไนเต็ดเล่นง่าย ไม่เดือดร้อนระดับไฟไหม้บ้าน เหมือนนัดที่เอาชนะลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นจุดที่น่าเสียดายมาก แต่ถึงกระนั้น ก็ต้องไม่ลืมที่จะชมอีแวนส์ด้วยนะครับ ที่อาศัยการอ่านเกมที่เฉียบขาดเกินวัย หยุดยั้งมหันตภัยจากโกต ดิวัวร์ เอาไว้ได้แบบน่ากระแทกมือดังๆให้เลย ฟอร์มแบบนี้เฟอร์ดินานด์ต้องเร่งตัวเองแล้วล่ะครับ ไม่งั้นเผลอๆอาจมีเซอร์ไพรส์จากป๋าก็เป็นได้ ด้านวิงแบ็คของทั้งสองฝั่ง ก็ดวลกันสนุกไม่แพ้การพะบู๊ในแดนกลางเลยทีเดียว แอชลี่ย์ โคล, อิวาโนวิช, เอวร่า และ โอเช ทั้งสี่หน่อผลัดกันขึ้นมาสลับดอกในการเติมเกมรุก และลงมาช่วยเกมรับกันแบบเลือกไม่ถูกเลยว่า ฝั่งไหนที่ทำงานตรงนี้ได้ดีกว่ากัน ถ้าให้เลือก ผมคงต้องยกให้เจ้าอิวาโนวิช แบบไม่มีลำเอียงและมีเหตุผลเข้ามาประกอบ แบ็คขวาจากเซอร์เบียหน้าหวานรายนี้ ดูจะเป็นพวกที่เกิดมาเพื่อเล่นเกมใหญ่เหมือนเฟล็ทเชอร์เลยนะครับ จังหวะรุก แน่นอนว่าอาจไม่หวือหวาเท่าโบซิงวา แต่จังหวะรับหรือดีเลย์เกมรุกของยูไนเต็ดนี่แหละครับ ที่เป็นประโยชน์ต่อเชลซีอย่างรุนแรง เอวร่าอาจมีความเร็วเหมือนคนที่กินน้ำมันเบนซิน 91 เป็นอาหารก็จริง แต่การอ่านทางบอลของอิวาโนวิช ผนวกกับการได้รับความช่วยเหลือจากบัลลัคในแทบจะทุกๆจังหวะ ก็ทำให้ว่าที่แบ็คซ้ายที่เก่งที่สุดในโลกอย่างเอวร่าถึงกับไปไม่เป็นกับเค้าเหมือนกัน แถมยังมีเตะหลุดให้เห็นในช่วงท้ายๆเกมอีกด้วย เกมตรงกลางสนามเชลซีดูดีกว่ายูไนเต็ดแบบเล็กน้อยในครึ่งแรก แต่ในครึ่งหลังนี่ซิครับ กลับเป็นยูไนเต็ดที่ปรับหมากแก้เกมได้ดีและถูกจุดกว่าเชลซี จึงสามารถครองบอลได้มากกว่าถึง 70-30 เลยทีเดียว แต่จะเลือกมองมุมไหนล่ะครับ? ถ้าหากคุณรู้จักอันเชลอตติดี คุณจะไม่แปลกใจกับหมากกลแบบนี้ในเกมใหญ่ๆของพี่แจ้เวอร์ชั่นอิตาเลียนคนนี้เลยแม้แต่น้อย ผมวิเคราะห์ก่อนเกมไว้แล้วว่าเกมนี้อันเชลอตติจะไม่กางตำราเกมรุกเข้าใส่ยูไนเต็ดอย่างแน่นอน ต่อให้เล่นในบ้านและฟอร์มระยะหลังดุขนาดไหนก็ตาม ผมเชื่อว่าอันเชลอตติจะเล่นแบบ "ตีหัวเข้าบ้าน" เพื่อให้ยูไนเต็ดกระจายกำลัง แล้วหวังให้เกิดช่องว่างในการจู่โจมแบบฉับพลัน (หรือที่ดอคเตอร์เหลือง เรียกว่า"เคาน์เตอร์ แอ็ทสะแท็ค" นั่นแหละครับ) และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ในครึ่งแรก เชลซีคงประเมินแล้วว่ากองกลางยูไนเต็ดแพ็คแน่นพอที่จะช่วยงานกองหลังได้สบายๆ ดังนั้นช่องทางที่เชลซีจะตีทำนบของคนเสื้อแดงให้แตกได้ น่าจะมาจากการเข้าทำแบบ "เซท เพลย์" มากกว่า สังเกตได้เลยครับ ว่าพอเริ่มครึ่งหลังเป็นต้นมา เชลซีพยายามดึงเช็งเพื่อเรียกฟาวล์จากยูไนเต็ดเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนของสนามก็ตาม ทั้งนี้ก็เพื่อชะลอเกมที่กำลังไหลลื่นของยูไนเต็ด และหวังจะเผด็จศึกไปด้วยในตัว ซึ่งต้องบอกว่าได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดีจากรรมการเหมือนกัน ในฐานะเจ้าบ้าน พอปราการสีแดงของยูไนเต็ดถูกทลายลงจากการเล่นเซ็ท เพลย์ ความเชื่อข้างต้นของผม ก็ยิ่งตอกย้ำให้เด่นชัดขึ้นมากกว่าเดิม เชลซีเล่นแบบอิตาเลียนอย่างแท้จริง เป็นการเล่นแบบที่ชวนทะเลาะหากคุณไม่นิ่งมากพอ ไม่ว่าจะเป็นการเตะถ่วง, ยั่วโมโห, เจ็บนานและเน้นการต่อบอลด้วยเท้าไปมา เพื่อทำลายสมาธินักเตะยูไนเต็ด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นหมากกลเล็กๆ ที่มีผลต่อจิตวิทยาของผู้ตามอย่างได้ผลชะงัดนักเลยล่ะครับ แล้วก็ไม่ใช่ว่าเชลซีใช้มุกแบบนี้ทีมเดียวซะที่ไหน ยูไนเต็ดเองก็เคยใช้กลยุทธ์อะไรแบบนี้มาแล้วเวลาเจอทีมที่เล่นดีกว่าหลายครั้งเหมือนกัน (โดยเฉพาะในชปล.) ดังนั้น ข้อถากถางในเรื่องการเล่นบอลอุด หรือบอลตุ๊ดที่ชอบด่ากันนั้น ผมขออนุญาตเขี่ยทิ้งลงถังขยะไปนะครับ เพราะนอกจากจะเป็นความคิดที่แสดงให้เห็นว่าไม่แตกฉานในศาสตร์ลูกหนังแล้ว ยังเป็นการโชว์ตัวให้โลกเห็นด้วยอีกว่า "ฉลาดน้อย แล้วอวดว่าฉลาดมากๆ" อีกต่างหาก ด้านพารากราฟสุดท้าย วันนี้ผมขออุทิศแด่เทอร์รี่ ผู้เสกสามแต้มอันล้ำค่าให้เชลซีนะครับ ดูเหมือนว่าฟอร์มการเล่นและประตูนี้ของบิ๊กจอห์น จะยิ่งตอกย้ำให้คาเปลโล่และสื่ออังกฤษได้กระจ่างแล้วว่าบิ๊กดอน "เลือกคนไม่ผิด" จริงๆ กับบทบาทผู้นำทีมชาติอังกฤษ ทั้งๆที่ก่อนเกมไม่กี่ชั่วโมง ข่าวฉาวของพ่อผู้บังเกิดเกล้าของเขาที่ไปพัวพันกับยาเสพติด กำลังโหมกระพือที่หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ในอังกฤษ แบบฮือฮา และน่าจะมีผลต่อจิตใจกันบ้างไม่มากก็น้อย แต่ "เทอร์รี่ คนหัวใจสิงห์" ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาเป็นมืออาชีพและมีบุคลิกของผู้นำมากขนาดไหน ไม่แปลกเลยครับ หากวันนึงเราจะเห็น "คนหัวใจสิงห์" คนนี้ยืนอยู่ในที่ที่เดียวกับที่อันเชลอตติยืนอยู่ในวันนี้ที่ขอบสนามของสแตมฟอร์ด บริดจ์. จากคุณ : เทอร์รี่คุง เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 13:14:52

ความคิดเห็นที่ 2 ยังเยี่ยมเหมือนเดิมครับ จากคุณ : T_Samakai (T_Samakai) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 13:48:45

ความคิดเห็นที่ 3 ขอโทษที ที่ปาดนะครับ ตุณ" เทอร์รี่คุง " อดีตนักโทษ แห่ง อัซคาบัน "สำหรับคน"ที่พูดว่า พวกเรา"ไม่มีประวัติศ่าสตร์" ซึ่งผมเองก็เคยได้ยิน เคยเห็นพวกคอลั่มนิส เขียนกันมาก(ในยุคที่เชลซีขึ้นมาใหม่ๆ)  มันทำให้ผมสงสัยว่า "ประวัติศาสตร์ของไอ้คนที่พูดคืออะไร" เชียร์ แมนยู  หรือทีมอื่นๆใน"อังกฤษ"  แล้วอยู่ในประเทศไทย มาด่า"คนเชียร์เชลซี ในประเทศไทย" ว่าไร้ประวัติศาสตร์ เนี่ยนะ การมีประวัตืศาสตร์ต้องทำอย่างไร  ไปเชียร์ "แมนยู"แล้วบอกว่า "ตรูมีประวัติศาสตร์เนี่ยเฟ้ย" นอนเซ้นท์สุดๆ เคยเชียร์ตอนแมนยู ตกชั้นไหม?   ไอ้ความคิดแบบนี้ที่พวกคอลลั่มนิสเขียนใส่หัวแฟนบอลว่าเชลซีทีมที่ไร้ประวัติศาสตร์มัน "ไร้สาระสิ้นดี" และ แฟนบอลที่อยู่ในเมืองไทย มาอ้าง"ประวัติศาสตร์ แล้วข่มคนทีเชียร์ทีมอื่น ผมว่ามันสิ้นคิด" จะเชียร์ทีม มี ไม่มี ประวัติศาสตร์ มันเรื่องของตรู  มันก็แค่ พูดแก้เก้อไปงั้น แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 52 13:57:36 จากคุณ : Longinus เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 13:55:33

ความคิดเห็นที่ 4 โอ้... อมยิ้มกลับมาแล้ว ยินดีด้วยครับ ส่วนข้อเขียนก็เยี่ยมเช่นเคยเหมือนกัน เห็นด้วยกับอิวาโนวิชมาก... นัดเล็ก ๆ พี่แกเหม่อพลาดง่าย ๆ ประจำ นัดใหญ่ ๆ กลายเป็นคนละคนตลอด.. 55 กิฟ + โหวด เช่นเคยครับ จากคุณ : บูจัง เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 13:58:57

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเคยโพสเอาไว้ ก่อนเตะกับแมนยูว่า ถ้าเอา อิวาโนวิช ลงจะกลายเป็นบ่อให้แมนยู ถล่ม แต่อิวาโนวิช กลับทำหน้าที่ได้เยี่ยมมาก ครับเติมเกมรุกและกลับมาตั้งรับได้ดี ...สุดยอดจริงๆ งานเขียนยังดีเยี่ยมเหมือนเดิม...ชอบมากครับ จากคุณ : I_get เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 14:07:01

ความคิดเห็นที่ 6 ประวัติศาสตร์ อะไรก้อแค่ข้ออ้างของคนบางกลุ่ม คนที่พูดจะมีซักกี่คนกันเชียวที่ทันได้อยุ่ในช่วงนั้น จากคุณ : Lord_of_Blue เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 14:14:03

ความคิดเห็นที่ 7 บทความชิ้นนี้ได้ใจสุดๆ ตรงแบบไม่เอนเอียงเลย.. โดยเฉพาะ ข้อความที่กล่าวถึง Terry กินใจมากมายจริงๆ.. โหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ.. ยินดีด้วยนะคะที่ได้อมยิ้มคืน.. ขอบคุณสำหรับบทความดีๆหลังเกมส์ค่ะ..   *edit พิมพ์ผิด แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 52 14:21:32 จากคุณ : Penguin Huang เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 14:20:13

ความคิดเห็นที่ 8 สวสัดีครับเข้ามาอ่านครับ อย่าไปสนใจแฟนบางคนเลยครับ มันก็แค่ข้ออ้างตอนทีมแพ้ ผมไม่เคยดูถูกเลยว่าทีมนั้นทีมนี้ไม่มีประวัติศาสตร์ ของแบบนี้มันสร้างกันได้ อีก 50 หรือ 100 ปีข้างหน้า แฟนๆเชลซีคงชื่นชมกับผลงานทีมยุคเสี่ยหมีแน่นอนครับ แต่ตาม 5 คะแนนพวกเรายูไนเต็ดก็ยังไม่ยอมแพ้นะครับ ฮิฮิ จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 14:34:45

ความคิดเห็นที่ 9 มีสิครับ เคยเป็นแชมป์พรีเมียร์มาตั้ง 2 ครั้งแน่ะ แถมยังเป็นทีมที่ทำคะแนนได้สูงที่สุดในพรีเมียร์อีกต่างหาก (95 คะแนน) พวกนี้แหละที่เรียกว่าประวัติศาสตร์ แต่ก็เข้าใจอยู่ แพ้ทั้งๆที่เล่นดีแบบนี้ เป็นใครก็เจ็บ...... จากคุณ : BlueLightS เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 14:43:08

ความคิดเห็นที่ 10 #Longinus, Lord_of_Blue นั่นแหละครับ ผมถึงเกลียดคำๆนี้มากที่สุด ทั้งๆที่ประวัติศาสตร์มันส้รางขึ้นได้ในวันนี้ ไม่มีก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะทำมันขึ้นมา เชื่อมั้ยครับ? ผมไม่เคยเกลีดการกระทำของซิตี้เลย เพราะผมเข้าใจว่า ถ้ามีเงินแล้วไม่ใช้ คุณก็โดนด่าอยู่ดี ไม่มีประวัติศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องจริง ทุกสโมสรล้วนมีหน้าประวัติศาสตร์ของตัวเองทั้งนั้น มันอาจไม่ยิ่งใหญ่ระดับคับโลกเหมือนของคนอื่น แต่มันใหญ่เสมอ สำหรับแฟนๆทีมนั้น #บูจัง, I_get ขอบคุณครับ สำหรับกำลังใจ เรื่องอิวาโนวิชเนี่ย สารภาพเลยว่าแอบชอบหมอเนี่ยตั้งแต่โหม่งลิเวอร์พูลแล้ว ชอบมากกว่าโบซิงวาอีก ผมชอบแบ็คที่เติมเกมทื่อๆ แต่แน่นอนแบบนี้ มากกว่าหวือหวาแบบโบซิงวา แต่ไม่ค่อยได้ประโยชน์มากนักในบางครั้ง อีกอย่างโบซิงวาเปิดบอลไม่แม่น อิวาโนวิชก็เปิดไม่แม่น แต่เปิดบอลทีไรมันไม่ค่อยทะลักไปเสาไกลอย่างโบซิงวา มันจะไปหล่นหน้าประตูพอดี ทำให้มีลุ้นกว่าเยอะ #Penguin Huang ขอบคุณครับ ผมอยากให้เทอร์รี่ หรือไม่ก็โซล่ากลับมาคุมเชลซีจัง แต่ขอว่ามาตอนเสี่ยหมีไปแล้วนะ เพราะช่วงนั้นเชลซ๊คงกลับไปอยู่ในจุดๆเดิม เหมือนสมัยที่วิอัลลี่คุม คือเป็นสิงห์บอลถ้วย แต่ก็เชียร์สนุกดีนะตอนนั้น มันส์ดี #SamuDi Knight ขอบคุณครับ ผมก็เข้าใจว่าแฟนผีดีๆตั้งเยอะ เพื่อนผมที่ทำงานก็ยังเข้าใจกัน เรื่องนำ 5 คะแนนนั่น อย่าตามพวกผมมาเลยครับ เก็บแรงไว้ ชปล. ดีกว่าเนาะ จะได้เสริมบารมีป๋า ยกถ้วยพรีเมียร์บ่อยๆ เดี๋ยวแขนก็เคล็ดหรอก แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 52 14:50:24 จากคุณ : คนไม่มีประวัติศาสตร์ (เทอร์รี่คุง) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 14:47:56

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วย เมื่อคืน แมนยู เล่นดีจริงๆค่ะ.. จากคุณ : Penguin Huang เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 14:48:21

ความคิดเห็นที่ 12 แฟนผีคนนั้นคงด่าลิเวอพูล พวกงมงายในประวัติศาสตร์ อิอิ จากคุณ : bankpakim เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 15:11:33

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาอ่านบทความดีๆ ของแฟนสิงโต ครับ อิอิ จากคุณ : Noah_1_of_4lnw เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 15:15:01

ความคิดเห็นที่ 14 เดี๋ยวค่ำ ๆ มาเม้าด้วยคนนะเทอรี่คุง จากคุณ : Wadoiji เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 15:18:51

ความคิดเห็นที่ 15 ว้าว อมยิ้มมาแล้วนะฮะ เขียนได้อ่านสนุกดีครับ ไม่เขียนถึงอีแวนส์ ไรเดอร์คิกหน่อยหรอครับ 55+ ทีมสีน้ำเงินมันก็ต้องคู่กับเกมรับแบบนี้สิ ถึงจะเจ๋ง ฟุตบอลมันก็ต้องมีรุกรับเป็นธรรมดา ชอบรุกๆ ไม่ตุ๊ด แนะนำไปเล่นยิงปืน ปาเป้า ดีกว่าพี่ จากคุณ : Pieces of the Silver Shining เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 15:23:56

ความคิดเห็นที่ 16 ชอบครับ เขียนได้ดีเลย ตามอ่านเสมอมา จากคุณ : ชื่อนี้มีคนใช้แล้ว เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 15:27:20

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณบทความดี มีให้อ่านทุกๆแม๊ท ช๊อบชอบ จากคุณ : brackleyvee เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 15:37:34

ความคิดเห็นที่ 18 อ่านสนุกจังค่ะ... เจทีเนี่ยสุดยอดจริงๆ... เป็นนักเตะสไตล์อังกฤษของแท้...กล้าเล่น กล้าชน...กล้าตาย.... โหวตค่ะ... จากคุณ : แมวน้อยนอนนิ่งในแดดอุ่น เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 15:41:06

ความคิดเห็นที่ 19 พวกที่หาว่าเราไม่มีประวัติศาสตร์ ก็เพราะปัจจุบันของเรามันไร้ตำหนิให้เขาว่าเอาได้นั่นเอง จากคุณ : BLuEMaNiA เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 15:50:46

ความคิดเห็นที่ 20 มันก็แค่คำพ่นของกลุ่มคนบางคนที่อิจฉาตาร้อน ดีใจที่ชนะ พวกที่มาบอกว่าไม่มีประวัติศาสตร์ก็แค่พวกทีอย่างยืนตรงนี้ที่เค้าเคยยืน ปล.ถ้าระวัติศาสตร์หมายถึงแชมเปี้ยนลีกถ้าได้เล่นทุกปีได้ร่วมแข่งทุกสมัยทั้งเราและอาร์เซน่อลต้องได้เข้าซักวัน ขอบคุณบทความดีๆค่ะ คุณเทอรรี่คราวนี้ภาษาเสี่ยวน้อยลงแต่ใช้คำได้ดี ส่วนอันเชล็อตติข้อสอบข้อต่อไป แค่เสมอในอมิเรตได้ก็ให้เต็ม 100 คะแนนแล้วค่ะ จากคุณ : bobenz เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 16:05:28

ความคิดเห็นที่ 21 มาชื่นชมอิวาโนวิชอีกเสียงครับ ในสายตาผม เกมนี้ ผมยก MOM ให้เขานะครับ เพราะเครดิตที่ทีมชนะด้วย แต่ถ้าแมนฯยูฯกลายเป็นผู้ชนะ ผมจะให้เฟล็ทช์เป็น MOM ยินดีในชัยชนะด้วย และไม่ว่ารูปเกมมันจะเป็นอย่างไร แผนใครดีกว่ากัน สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คือ เชลซีเป็นผู้ที่เด็ดขาดกว่า ในเกมนี้ครับ และผมขอเก็บไปแก้ตัวใหม่ ในนัดหน้าก็แล้วกันนะ อิอิอิ ส่วนเรื่องประวัติศาสตร์อะไรนั่น อย่าไปใส่ใจเลยครับ มันเป็นเรื่องของฝั่งเขา ฝั่งเรามันก็จำเขามาพูดต่อ ถึงแม้จะอินกันเกินไปบ้าง แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันก็คือความผูกพันของซัพพอร์ตเตอร์บ้านเขามากกว่า ที่บ้านเราเอามาเล่าขานกันต่อจนเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเรา ก็เท่านั้นเอง   สิ่งที่สำคัญที่สุดที่อยากให้ข้อคิดไว้ก็คือ วันนี้ของคุณนี่แหละครับ ที่มันอาจจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ในวันข้างหน้า ส่วนประวัติศาสตร์ในวันนี้ บางทีอาจไม่มีอะไรเหลือในอนาคตก็เป็นได้ ถ้าไม่รู้จักรักษาให้ดี และต่อยอดมันออกไปเรื่อยๆครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 16:27:40

ความคิดเห็นที่ 22 "พวกเอ็งมันไม่มีตำนาน ไม่มีประวัติศาสตร์ เชียร์เพราะว่าทีมมันพึ่งดัง ไอ้อ่อนเอ๊ย" กร๊าก... เพิ่งรู้วันนี้ว่า Chelsea กำเนิดจากกระบอกไม้ไผ่ !!! เพราะเราไม่มีปะ-หวัด-ติ-+สาดดดดด !!!   (ขอเกรียนนิดนึง...ฮ่ะ..ฮ่า..) คนพูดนี่...ไม่รู้จัก Chelsea แล้วคิดว่าคนอื่นเป็นเหมือนตัวเองมั้ง  ถึงเราจะเพิ่งเป็นแฟน Chelsea เท่ากับปีและเดือนที่ Ballack ที่รักของเราย้ายมา เราคนหนึ่งแหล่ะที่ไม่ได้เป็นแฟน Chelsea เพียงเพราะ “Chelsea” เพิ่งดัง เพราะอะไรน่ะหรือ... ก็เพราะเราไม่รู้ไงว่า Chelsea ดังมากๆ ในตอนนั้น..วะ..ฮ่ะ..ฮ่า... เพราะเราไม่ดู EPL เลย  ไม่สนใจเลย  จนกระทั่ง Ballack ย้ายจาก Bundesliga มาอังกฤษ จากวันแรกๆ เราหาข้อมูลด้วยการเข้าเว็บไซต์ www.chelseafc.com เพื่อทำความรู้จักกับสโมสรที่ Ballack ย้ายมาสังกัด  ติดตามข่าวของสโมสรทุกวัน  เป็นสมาชิกทุกอย่างเท่าที่ Chelsea FC จะมีให้แฟนๆ จากอีกซีกโลกหนึ่งเป็นได้ ตั้งแต่ Chelsea International Membership ,e-Membership , Chelsea TV , Chelsea e-Mag  รวมถึงเป็น  e-บ้า ไปตอบเกรียนฝรั่งในเว็บฟุตบอล ตปท. (ฝรั่งก็เกรียนๆ ก็เยอะนะเออ..อยากฝึกภาษาอังกฤษแบบวิบัติ เชิญได้..แล้วคุณจะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว อย่างน้อยที่สุดก็จะเข้าใจว่ามันด่าอะไรมาฟระ..ฮ่ะ..ฮ่า..) แรกๆ เราติดตามดูเฉพาะแมตช์ที่ Ballack ได้ลง แต่จากนั้นไม่นาน เราก็ติดตามดูทุกแมตช์เท่าที่จะดูได้   เพราะผู้ชายที่ชื่อ John Terry , Frank Lampard และ Joe Cole เป็นคนที่ทำให้เราต้องคอยตามดู Chelsea ที่ไม่มี Ballack ลงเตะ  จนกระทั่งได้เจอตัวจริงเกือบครบทีม  เรารู้สึกว่านักเตะ Chelsea มีความเป็นกันเองกับแฟนๆ อย่างมาก ไม่ใช่แค่ยิ้มๆ หรือมาเปิดตลาดตามคำสั่งสโมสร   โดยเฉพาะกัปตัน JT และรองกัปตัน Lampsy คนที่ทำให้เราตัดสินใจเชียร์ Chelsea อย่างเป็นทางการ  ต่อให้ Ballack แขวนสตั๊ดหรือย้ายทีม (ซึ่งคงไม่ย้ายแล้ว) เราก็ยังคงเป็น True Blue ต่อไป อย่างที่เคยบอกในกระทู้ๆ ที่แฟนทีมไหนตั้งไว้ก็ไม่รู้ ว่า Chelsea ของเราถ้วยอาจจะไม่เยอะ  แต่ก็พอมีกับเขาบ้างเหมือนกัน http://www.chelseafc.com/page/HistoryTrophiesIndex/0,,10268,00.html จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 16:47:04

ความคิดเห็นที่ 23 เขียนได้ดีเลยครับ เมพขิงๆ จากคุณ : momkey_yollow เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 17:12:25

ความคิดเห็นที่ 24 อายุอานามของ Chelsea FC ปีนี้ก็ 104 ปีพอดิบพอดี ทีมไรเนี่ย..ไม่มีประวัติศาสตร์ แต่อายุปาเข้าไป 100 กว่าปี มากกว่าคนพูดอีกนะเนี่ย..ฮ่ะ..ฮ่า.. LEAGUE POSITIONS 1905-2006 1906 - Division  2 -  3rd (53 points from 38 games) 1907 - Division  2 -  2nd (57 points from 38 games) 1908 - Division  1 - 13th (36 points from 38 games) 1909 - Division  1 - 11th (37 points from 38 games) 1910 - Division  1 - 19th (29 points from 38 games) 1911 - Division  2 -  3rd (49 points from 38 games) 1912 - Division  2 -  2nd (54 points from 38 games) 1913 - Division  1 - 18th (28 points from 38 games) 1914 - Division  1 -  8th (39 points from 38 games) 1915 - Division  1 - 19th (29 points from 38 games) 1920 - Division  1 -  3rd (49 points from 42 games) 1921 - Division  1 - 18th (39 points from 42 games) 1922 - Division  1 -  9th (46 points from 42 games) 1923 - Division  1 - 19th (36 points from 42 games) 1924 - Division  1 - 21st (32 points from 42 games) 1925 - Division  2 -  5th (47 points from 42 games) 1926 - Division  2 -  3rd (52 points from 42 games) 1927 - Division  2 -  4th (52 points from 42 games) 1928 - Division  2 -  3rd (54 points from 42 games) 1929 - Division  2 -  9th (44 points from 42 games) 1930 - Division  2 -  2nd (55 points from 42 games) 1931 - Division  1 - 12th (40 points from 42 games) 1932 - Division  1 - 12th (40 points from 42 games) 1933 - Division  1 - 12th (35 points from 42 games) 1934 - Division  1 - 19th (36 points from 42 games) 1935 - Division  1 - 12th (41 points from 42 games) 1936 - Division  1 -  8th (43 points from 42 games) 1937 - Division  1 - 13th (41 points from 42 games) 1938 - Division  1 - 10th (41 points from 42 games) 1939 - Division  1 - 20th (33 points from 42 games) 1940 - Division  1 - 12th ( 3 points from  3 games) 1947 - Division  1 - 15th (39 points from 42 games) 1948 - Division  1 - 18th (37 points from 42 games) 1949 - Division  1 - 13th (38 points from 42 games) 1950 - Division  1 - 13th (40 points from 42 games) 1951 - Division  1 - 20th (32 points from 42 games) 1952 - Division  1 - 19th (36 points from 42 games) 1953 - Division  1 - 19th (35 points from 42 games) 1954 - Division  1 -  8th (44 points from 42 games) 1955 - Division  1 -  1st (52 points from 42 games) 1956 - Division  1 - 16th (39 points from 42 games) 1957 - Division  1 - 13th (39 points from 42 games) 1958 - Division  1 - 11th (42 points from 42 games) 1959 - Division  1 - 14th (40 points from 42 games) 1960 - Division  1 - 18th (37 points from 42 games) 1961 - Division  1 - 12th (37 points from 42 games) 1962 - Division  1 - 22nd (28 points from 42 games) 1963 - Division  2 -  2nd (52 points from 42 games) 1964 - Division  1 -  5th (50 points from 42 games) 1965 - Division  1 -  3rd (56 points from 42 games) 1966 - Division  1 -  5th (51 points from 42 games) 1967 - Division  1 -  9th (44 points from 42 games) 1968 - Division  1 -  6th (48 points from 42 games) 1969 - Division  1 -  5th (50 points from 42 games) 1970 - Division  1 -  3rd (55 points from 42 games) 1971 - Division  1 -  6th (51 points from 42 games) 1972 - Division  1 -  7th (48 points from 42 games) 1973 - Division  1 - 12th (40 points from 42 games) 1974 - Division  1 - 17th (37 points from 42 games) 1975 - Division  1 - 21st (33 points from 42 games) 1976 - Division  2 - 11th (40 points from 42 games) 1977 - Division  2 -  2nd (55 points from 42 games) 1978 - Division  1 - 16th (36 points from 42 games) 1979 - Division  1 - 22nd (20 points from 42 games) 1980 - Division  2 -  4th (53 points from 42 games) 1981 - Division  2 - 12th (40 points from 42 games) 1982 - Division  2 - 12th (57 points from 42 games) 1983 - Division  2 - 18th (47 points from 42 games) 1984 - Division  2 -  1st (88 points from 42 games) 1985 - Division  1 -  6th (66 points from 42 games) 1986 - Division  1 -  6th (71 points from 42 games) 1987 - Division  1 - 14th (52 points from 42 games) 1988 - Division  1 - 18th (42 points from 40 games) 1989 - Division  2 -  1st (99 points from 46 games) 1990 - Division  1 -  5th (60 points from 38 games) 1991 - Division  1 - 11th (49 points from 38 games) 1992 - Division  1 - 14th (53 points from 42 games) 1993 - Premiership - 11th (56 points from 42 games) 1994 - Premiership - 14th (51 points from 42 games) 1995 - Premiership - 11th (54 points from 42 games) 1996 - Premiership - 11th (50 points from 38 games) 1997 - Premiership -  6th (59 points from 38 games) 1998 - Premiership -  4th (63 points from 38 games) 1999 - Premiership -  3rd (75 points from 38 games) 2000 - Premiership -  5th (65 points from 38 games) 2001 - Premiership -  6th (61 points from 38 games) 2002 - Premiership -  6th (64 points from 38 games) 2003 - Premiership -  4th (67 points from 38 games) 2004 - Premiership -  2nd (79 points from 38 games) 2005 - Premiership -  1st (95 points from 38 games) 2006 - Premiership -  1st (91 points from 38 games) 2007 - Premiership -  2nd (83 points from 38 games) 2008 - Premiership - 2nd (85 points from 38 games) 2008 - Premiership - 3rd (83 points from 38 games) http://www.chelseafc.com/page/HistoryStatsIndex/0,,10268,00.html จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 17:14:27

ความคิดเห็นที่ 25 อยากรู้จริงๆ คนพูดเค้าอายบ้างมั้ย   เชื่อมั้ย เค้าก็มีจุดกำเนิดการเชียร์ธรรมดาๆนี่ล่ะ   ตามเพื่อน ตามครอบครัว ทีมเก่ง หรือเพราะทีมมีประวัติศาสตร์เลิศหรู บลาๆๆ... แต่จะมีซักกี่คนกัน ที่ชอบตั้งแต่ทีมยังไม่ได้มีอะไรเลย  มีเพียงจุดบางจุดที่ชอบ  แล้วตามเชียร์มาเรื่อยๆ จนประสบความสำเร็จมากมาย แต่จะด้วยเรื่องอะไรก็แล้วแต่   ยังไงมันก็ไม่ควรจะไปดูถูกคนอื่นแบบนั้นครับ จากคุณ : เมื่อกี้ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 17:15:25

ความคิดเห็นที่ 26 ใน ATB เท่าที่จำได้นะ  มีคนที่เป็นแฟน Chelsea แบบดั้งเดิมเยอะเหมือนกัน ตั้งแต่ก่อน Mourinho มาคุมทีม จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 17:23:31

ความคิดเห็นที่ 27 ส่วนเกมเมื่อคืนนี้  เราเดาว่าลุงแจ้แกตั้งใจให้เล่นแบบนั้น คือไม่บุกตะลุย เพราะรู้ว่า Man Utd คงจะลุยมาเต็มที่ แต่ขอบอกว่าแอบหวั่นๆ กลัวจะพลาดเหมือนกัน เพราะในอดีตตอน Big Phil เคยพลาดมาแล้วหลายครั้ง ก็เลยยังหลอนนิดหน่อย  แต่ด้วยระเบียบวินัยที่เล่นตามแผนอย่างเคร่งครัดและรัดกุม ก็ไม่ค่อยพลาด  ซึ่งก็โชคดีด้วยที่ตอนพลาดนั้น Man Utd ก็ยิงไม่ได้ ด้วยส่วนหนึ่ง  มีหลายลูกเหมือนกันนะที่อีกนิดหนึ่งก็จะเป็นประตูของ Man Utd ได้เหมือนกัน เมื่อคืนนี้เราว่า Rooney ใจเย็นขึ้นเยอะเลย  อันนี้ก็น่ากลัวนะ ถ้ากลับมาคมเหมือนเดิมเนี่ย  ก็อันตรายกว่านี้ เราไม่ค่อยเห็น Ballack เท่าไร แต่ก็พอจะรู้ว่าคงรักษาการณ์กลางต่ำ ตามคำสั่งลุงแจ้   เราดีใจที่ Ballack เล่นได้ดีแบบนี้ เจ้าตัวคงจะมีความสุข จากคุณ : Mrs.Ballack (Hermy) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 17:37:07

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้าขอโทษแทนได้ ผมอยากขอโทษเจ้าของกระทู้กับแฟนๆเชลซีทุกท่าน แทนแฟนผี(สั่วๆ)คนนั้นนะครับ เมื่อซักปีสองปีที่ผ่านมา ผมก็ได้เห็นได้ฟังข้อความน่ารังเกียจทำนองยังงี้ ทำกันเป็นกระบวนการทั้งจากแฟนทีมอื่นในเมืองไทยทั้งต่างประเทศ แต่ที่แน่ๆไม่ใช่จากแฟนปิศาจแดงน่ะครับ ขยายความมากเกินกว่านี้ก็จะไปพาดพิงผู้ที่ไม่เกี่ยวกับกระทู้ ขอหยุดเท่านี้ละกันครับ ... จากคุณ : จอห์น สก๊อตต์ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 18:13:56

ความคิดเห็นที่ 29 เขียนได้ดีครับ ส่วนตัว ถ้าเป็นผมโดนพูดใส่แบบนี้ คงไม่มีไรไปต่อกร นอกจาก เพราะในใจตอนนี้ ทีมที่เชียร           ชนะ จากคุณ : นายกระแต เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 19:34:05

ความคิดเห็นที่ 30 ปีนี้ด้วยฟอร์มแบบนี้ผมว่าเราน่าจะได้ถ้วยใหญ่ ไม่ถ้วยใดก็ถ้วยหนึ่งหล่ะน่า จากคุณ : Dr.Pepper เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 19:37:13

ความคิดเห็นที่ 31 ข้างบนพูดไปหมดละ ^^" ยินดีที่ได้อมยิ้มคืนค่ะ จากคุณ : kukurichan เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 19:53:38

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่เป็นรัยครับ จะว่าไปผมก็ไม่ยึดติดกับคำว่า"ประวัติศาสตร์"เหมือนกัน เพราะว่าสนใจใน *อนาคต*มากกว่า เชลซีจะประสพความสำเร็จในฤดูกาลนี้หรือไม่    มันเป็นเรื่องในอนาคตครับ    ไม่ใช่มายึดมั่นแต่อดีตแล้วจะสามารถทำให้ทีมประสพความสำเร็จได้ ประวัติศาสตร์ จะมีประโยชน์ตรงที่เรานำมาปรับปรุงเพื่อแก้ไขความผิดพลาดในอดีต     ซึ่งจะสามารถช่วยให้ประสพความสำเร็จใน*อนาคต*ได้ เห็นด้วยว่าเกมนี้*น้ำหวาน*อิวานโนวิช เล่นได้ดีมากๆ     สามารถพัฒนาการเล่นในตำแหน่งแบ๊คขวาได้ยอดเยี่ยมมาก    ทั้งรุกและรับ สามารถ*ลบ*ฉายาเด็กปั้มน้ำมันได้จนหมดสิ้น อิอิอิ....ว่าแต่ว่าเทอร์รี่(จอห์น)ทำประตูชัยให้เชลซี    และเทอร์รี่คุงมาช่วยเขียนสดุดี   มันก็แปลกๆดีครับ จากคุณ : เสือปลาขี้เมา เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 20:02:22

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณทุกความเห็นครับ ส่วนแฟนแมนยูเนี่ย ที่ผมรู้จักทั้งในชีวิตจริงและในนี้ นิสัยดีเยอะแยะไปหมด คนที่พูดอะไรแบบนั้นออกไป ก็แค่สนุกปาก หรือไม่ก็ไม่คิดอะไรเลย ความจริงก็ไม่อยากเก็บมาคิดนะครับ แต่ผมว่าเป้นใครเจอแบบผม ก็คงอดหงุดหงิดไม่ได้เหมือนกัน แต่สำหรับผมแล้ว เป็นเพื่อนกับแฟนทุกทีม ที่คุยกันด้วยภาษาลูกหนัง และมีเหตุมีผล ให้เกียรติกันและกัน ที่สำคัญ มีน้ำใจนักกีฬา อย่างแฟนผีหลายๆคนในนี้ไงครับ จากคุณ : เทอร์รี่คุง เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 20:08:53

ความคิดเห็นที่ 34 เขียนได้ดีเหมือนเคยครับ คุณเทอร์รี่คุง ยินดีด้วยนะครับ ที่กลับมาแล้ว สำหรับเรื่องประวัติศาสตร์ ผมไม่รู้เหมือนกันนะครับ เพราะสโมสรก็อยู่มาร้อยกว่าปีแล้ว แต่ผมเองเพิ่งเชียร์ประมาณยุคที่โซล่าย้ายมาใหม่ๆ (ช่วงคาบเกี่ยวระหว่างปี 96-97 กับ 97-98 รวมๆแล้วก็ 13-14 ปีเข้าไปละ) เลยไม่ได้ใส่ใจในความเป็นประวัติศาสตร์อะไรเท่าไหร่ นักเตะคนที่พาเชลซีเป็นแชมป์ลีคครั้งแรก(ปี1955) รุ่นปู่พวกนั้น ผมก็ไม่ได้รู้จักมักจี่อะไรกับเขาหรอกครับ เพราะไม่ได้ติดตาม ตอนนั้นผมก็เตะบอลตามประสาเด็กๆทั่วไป แต่เนื่องจากพี่ชายผมเป็นแฟนลิเวอร์พูล ส่วนเพื่อนสนิทผมเป็นแฟนแมนยู พวกเขาจึงชวนผมดูบอลบ้าง และตอนนั้นบอกตามตรงไม่ได้สนใจจะติดตามเท่าไหร่นัก จนอยู่มาวันนึง ผมไม่มีอะไรทำ เลยนั่งดูรายการเจาะสนาม(รายการที่แฟนบอลเจเนเรชั่นประมาณสิบกว่าปีที่แล้วคุ้นเคยกันดี) แล้วได้ดูไฮไลท์เกมที่เชลซีพบกับซันเดอร์แลนด์แล้วชนะไป 6-2 ถ้าจำไม่ผิด เกมนั้นผมได้เห็นโซล่าโชว์ทักษะการเล่นอันน่าทึ่งแล้วรู้สึกว่ามันเจ๋งดีแฮะ ทีมนี้ แล้วอีกอย่างเสื้อบอลสีน้ำเงินที่เชลซีใส่ตอนนั้น(ตอนยังเป็นสปอนเซอร์ตรา Coors อยู่) มันก็สวยดี เพราะผมชอบสีน้ำเงิน เลยตัดสินใจเชียร์ทีมเชลซีตั้งแต่เป็นต้นมา -ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับทีมตั้งแต่ยังเป็นลูกไล่ของมหาอำนาจอย่างแมนยู + อาร์เซนอล + ลิเวอร์พูล -ได้ร่วมสาปแช่งแพทริค แบร์เกอร์ที่ชอบเล่นดีตอนเจอเชลซี -ได้ฮารุด กุลลิทที่เป็นผจก.ทีมอยู่ดีๆดันเปลี่ยนตัวลงไปแข่งเองแล้วลื่นล้มหน้าโกล์ลิเวอร์พูล -ได้เห็นดิมัตเทโอซัดลูกยิงเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์เอฟเอคัพนัดชิงอันสุดสวย(โดนไอ้ดุกทำลายลงเสียแล้ว) -ได้เห็นโซล่าครองบอลเป็นครั้งแรกของเกมแล้วยิงส่งสตุ๊ทการ์ทลงหลุมคว้าแชมป์คัพวินเนอร์สคัพสำเร็จ -ได้เศร้าสะเทือนใจสุดๆตอนที่นำไอ้ปืนใหญ่อยู่ 2-0 แล้วโดนเอ็นวานโก้ คานูโชว์เทพลงมาซัดสามลูกจนแพ้ -ได้เห็นคริส ซัตตันโหม่งประตู ลูกละ 10 ล้านปอนด์ใส่เกมถล่มแมนยูยับ 5-0 (นัดนั้นนิคกี้ บัตต์เจอเดนนิส ไวส์ตุกติกจนเสียค่าโง่โดนแดงไป) -ได้ฮาช็อตที่คาซิรากี้ยิงประตูโทนให้เชลซีแล้วฟิล บ๊าบของลิเวอร์พูลต้องหน้าเขียว -ได้เห็นเชลซียุคถังแตก(ก่อนเสียหมีเข้ามา)ที่ไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อนักเตะ ทำได้ดีที่สุดแค่ยืมตัวนักเตะมาใช้งาน แต่ก็ยังจบฤดูกาลด้วยตารางท่อนบน -ได้เห็นการจากไปแบบน้ำตานองหน้าของนักเตะในตำนานอย่างโซล่า (เสี่ยหมีมาช้าไปนิ๊ดนึง) -ได้เห็นการเติบโตของจอห์น เทอร์รี่เคียงข้างนักเตะในตำนานอย่าง มาร์กแซล เดอไซญี่ -ได้เห็นมูรินโญ่จอมอหังการพาเชลซีผงาดคว้าแชมป์มีถ้วยติดมือทุกปี -ได้เห็นเชลซีเปลี่ยนกุนซือไม่ซ้ำหน้าภายในสองสามปี แต่ทีมสปิริตก็ยังคงอยู่ -ได้เห็นเทอร์รี่พลาดลูกโทษนัดชิงชนะเลิศ UCL และน้ำตาลูกผู้ชายของนักเตะเชลซีหลายๆคน (และกองเชียร์อย่างผมด้วย) -ได้เห็นไอ้หัวเหม่งเป่านกหวีดค้านสายตาในเกมที่คุณก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ฯลฯ สิ่งที่ผมเขียนมาทั้งหมดเนี่ยแหละครับ ที่ผมเรียกมันว่า "ประวัติศาสตร์" สำหรับผม ประวัติศาสตร์ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นสิ่งของอย่างถ้วยรางวัล หรือเกียรติประวัติอะไรมากมาย แต่สิ่งที่ผมมองว่ามีค่ายิ่งกว่านั้น นั่นก็คือ "ความทรงจำ" ที่อยู่ใน "กาลเวลา" ที่ผ่านมาของคุณต่างหาก นั่นคือสิ่งที่ผมจะจารึกเอาไว้เป็นประวัติศาสตร์ในหัวใจของผม ผมไม่รู้ครับ ว่ามีเกรียนหน้าไหนเอาเรื่องนี้มาอ้าง แต่ผมบอกได้เลยว่า การเอาถ้วยรางวัลในอดีตมาเกทับปัจจุบันอันขมขื่นนั้น มันเ้ป็นอาการของ "คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง" น่ะครับ อย่าไปใส่ใจเลย จากคุณ : TaeChelsea เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 20:38:28

ความคิดเห็นที่ 35 คนปากเสีย 2 คนเจอกัน 1. พวกที่ไปบอกว่าทีมอื่นที่ตั้งมากว่า 100 ปีว่าไม่มีประวัติศาสตร์ 2. พวกที่ไปบอกว่าคนอื่นที่มีความเห็นไม่ตรงกับตัวเองว่า "ร่างที่ไร้สมอง" จากคุณ : พุงโตกว่า เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 20:43:27

ความคิดเห็นที่ 36 มาอ่านบทความดี ๆ ค่ะ เกมเมื่อคืนเป็นเกมที่สนุกมาก ๆ  ดีใจที่เห็นนักเตะแมนฯยูไนเต็ดของเราเล่นได้แบบนี้ แต่สุดท้ายเชลซีสมควรเป็นผู้ชนะค่ะ  ความเห็นที่แย่ ๆ บางกระทู้นี่  ปล่อยให้เค้าประจานตัวเองไปดีกว่า   แล้วเจอกันใหม่ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดนะคะ  ^^ จากคุณ : Noey :p เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 21:18:27

ความคิดเห็นที่ 37 เรื่องประวัติศาสตร์คนเขียนไปเยอะล่ะ ไม่เขียนละกัน หุๆ ผมว่าเขียนสำนวนนี้ดีแล้วครับ เป็นเอกลักษณ์ดี ถึงผมจะอ่านของบ.บู๋บ่อย แต่อย่าไปเอาอย่างเขาเลยครับ เป็นตัวของตัวเองดีกว่า จากคุณ : Redondo16 เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 21:57:42

ความคิดเห็นที่ 38 ประวัติศาสตร์สำหรับผมแฟนผีแล้ว ไม่สำคัญเท่าผลงานในวันนี้ครับ แฟนผีที่พูดแบบนั้น ก็คงแก้เขิน หรือแก้ขายหน้าน่ะแหละ... เชียร์ทีมที่ไม่มีประวัติศาสตร์ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ เพราะ ตอนผมเริ่มเชียร์ผี มันเริ่มจาก กังฟูคิกของกองโต้ล้วนๆ โดยที่ history ถูกผูกไว้กับลิเวอร์พูลในช่วงนั้น... ปล. ถามเรื่องเทอรี่นิดนึง เพราะ เห็น จขกท เป็นแฟนของเทอรี่... นัดชิง ชปล ที่มอสโคว์ คุณว่าเขาตั้งใจถ่มใส่เตเวซจริงไหมครับ ผมดูภาพช้าเหมือนตั้งใจนะ เพราะมีเหล่ก่อน แล้วยกมือขึ้นมาป้อง เทอรี่ มีออกมาปฏิเสธกับสื่อเรื่องนี้ไหมครับ... หายกันแล้วนะเทอรี่ หวังว่าสามแต้มวันนี้ คงทำให้ลืมความชอกช้ำในวันนั้น และกลับมาสู้กันอย่างถึงพริกถึงขิงในอีก 2/3 ของฤดูกาลที่เหลือ... จากคุณ : vdi เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 22:48:32

ความคิดเห็นที่ 39 อ่านเพลินเลยครับ จากคุณ : มู๋แก้วน่ารัก เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 23:35:59

ความคิดเห็นที่ 40 คุณพุงโตกว่าครับ ถ้าการที่เราตอบโต้ (ทั้งๆที่แค่ตอบโต้ในใจ) ใครซักคนที่จู่ๆก็หันมาด่าเราแบบไม่มีเหตุผล ผมเป็นคนปากเสียเหรอครับ? # ตอบคุณ vdi ครับ แล้วแต่คนจะคิดนะครับ ชอตนั้น แต่ถามผม ผมว่าอาจจะตั้งใจก็ได้ เพราะจังหวะต่อเนื่องของเตเวซก่อนหน้านั้น มันชวนให้อารมณ์พลุ่งพล่าน กรรมเลยตามสนองมั้ง ha แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 52 23:53:51 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 52 23:48:45 จากคุณ : เทอร์รี่คุง เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 23:38:23

ความคิดเห็นที่ 41 เข้ามาดีใจกับทีมที่รักครับผม ผมก็จำประวัติศาสตร์อะไรไม่ได้เท่าไรครับ ไม่ได้เต็มขั้นแฟนพันธ์แท้ รู้แต่ว่าถึงแม้เสี่ยหมีไม่มาเทคทีมผมก็ยังเชียร์ จำได้ว่าตั้งแต่อยู่ม.ต้น ผมก็เชียร์ทีมนี้มาตลอด เริ่มเชียร์ตั้งแต่ยุคเกล็น ฮอดเดิ้ลคุมทีมครับ มีกับตันตัวเล็กๆอย่างเดนนิส ไวท์(ใจมันทำด้วยอะไร) จะบ่นจะแคร์ไปทำไมทีมแบบเราก็คือแบบเรา ปล่อยให้เขากัดกันเราเอาแชมป์ก็พอ...555+ จากคุณ : pippoman เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 23:46:19

ความคิดเห็นที่ 42 เทอรี่คุง อย่าไปตอบโต้พุงโตกว่าครับ... ถ้าติดตามกระทู้แนะนำ จะรู้ว่าวีรกรรม อมยิ้มนี้ ก็ไม่ใช่ย่อยครับ ที่สำคัญ พอกรณีเดียวกันแต่ย้อนเข้าทีมรักเขา เขาก็เปลี่ยนหน้า กลับคำจากครั้งก่อนได้ในทันที ใครไม่รู้เรื่อง คงเฉย ๆ แต่เผอิญ ผมจำชื่ออมยิ้มนี้ได้นี่สิ 55 ผ่าน ๆ ความเห็นเขาไปได้เลยครับ ^^ จากคุณ : บูจัง เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 01:20:41

ความคิดเห็นที่ 43 เข้ามาชื่นชม เขียนได้ดีเช่นเคยค่ะ :) ส่วนเรื่องประวัติศาสตร์ ไม่ขอพูดถึงแล้วกันเนาะ ข้างบนพูดกันมาเยอะแล้ว ^ ^ ดีใจที่เฮียจอห์นยิงได้ อย่างน้อยๆก็อาจจะลบฝันร้ายของคืนวันที่มอสโก แม้จะไม่มาก แต่ส่วนหนึ่งของจิตใจก็ยังดี =) นัดไปเยือนปืนนี่ถ้าอย่างน้อยๆยันเสมอได้นี่จะเป็นอะไรที่สุดๆเลยล่ะ ยังไงก็ยังเชื่อใจและฝีมือลุงแจ้เหมือนเดิม แล้วก็ดีใจที่บัลลัคเป็นประโยชน์ต่อทีมด้วย ^ ^ เล่นไม่ต้องเด่นมาก ครองบอลไม่ต้องเยอะ แต่คอยช่วยเหลือทีมตลอดก็โอเคแล้ว ปิดทองหลังพระ :DD อยากให้ทำหนังสือเชลซีจัง แบบว่าตอนจบฤดูกาลก็รวบรวมคอลัมน์ของคุณเทอร์รี่คุงทั้งหมดไว้ด้วยกัน ถ้าเป็นแชมป์ด้วย ได้มานั่งอ่านทีละนัดๆ คงมีความสุขไม่น้อยเลยนะเนี่ย ^ ^ (เหมือนที่คุณเทอร์รี่คุงเคยเสนอเอาไว้อ่ะค่ะ มีรูปที่คุณ Wadoiji วาดประกอบด้วยยิ่งดี ) จากคุณ : Die Kaiserin* เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 01:49:46

ความคิดเห็นที่ 44 อย่างว่าล่ะครับ ประวัติศาตร์เป็นเรื่องน่าภูมิใจ แต่สร้างประวัติศาตร์ใหม่สิครับน่าภูมิใจกว่า... จากคุณ : grampus01 เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 02:55:04

ความคิดเห็นที่ 45 สุดยอดครับ   เล่นกันได้ดีทุกคนเลย สุดยอดดด จากคุณ : ballthai เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 03:06:26

ความคิดเห็นที่ 46 ผมเชียร์ลิเวอร์พูลตามพ่อครับ ฮ่าๆๆๆ เฟี้ยววว จากคุณ : pheebar เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 03:14:56

ความคิดเห็นที่ 47 พึ่งได้เข้าอินเตอร์เนท มาช้าาาามากกก ไม่อยากอ่าน บอร์ดพันทิพหน้าฟุตบอลต่างประเทศเลย ฮ่า ๆ แบบไม่อยากเอาเรื่องอื่นๆที่จะพาดพิงมารกใส่สมอง ทำให้รู้สึกตื่นกับคำพูดต่างๆไปทำไม รู้แต่ว่า "ชนะ"     "5แต้ม"     "เดินหน้าต่อไป"  แค่นี้ก่อนก็พอแล้ว ^ ^" ไว้เบาๆลงค่อยเข้าไปอ่าน สุดท้าย "สุวานขบอย่าขบตอบ" จากคุณ : Devil_AusTin เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 06:20:11

ความคิดเห็นที่ 48 เป็นแฟนผีแดงที่ชื่นชอบกัปตันจอร์น เทอรี่ .. หมั่นไส้ดร๊อกบา (เก่งเกิน) กิ๊กกะอิบราโมวิช (กิ๊กอันดับที่ 48) แต่เกลียดบัลลัคเข้าไส้ (แบบไม่มีเหตุผล) ห่าง 5 แต้ม ก็ยังหวังอยู่ว่าจะตามและแซงได้.. ส่วนแฟนแมนยูที่นิสัยไม่ดี จขกท ก็อย่าไปใส่ใจเลย .. คนมันไม่มีน้ำใจเป็นนักกีฬาน่ะ.. จากคุณ : รัศมีจันทร์ดารา เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 07:46:41

ความคิดเห็นที่ 49 ด่าในใจไปว่า ไอ้สลัด ไปเรียบร้อย สำหรับไอ้คนที่ว่าทีมไม่มีประวัติศาสตร์ แล้วก็ด่าอีกรอบที่ว่ามาเชียร์เพราะเพิ่งดัง ผมก็จะด่าต่อว่าคุณเชียร์ผีก็เพราะผีเพิ่งดังในตอนนั้น ถ้าคุณเกิดก่อนนั้นก็คงเชียร์เป็ด ผมเชียร์เชลซี เพราะเป็นทีมที่ดูครั้งแรก และชอบสีน้ำเงินและติดใจมากโดยเฉพาะคู่หน้า โซล่า กับ โฟล ดูมาตั้งแต่ เอ็ด เดอ ฮุย  แกรม โลโซ ฟร้อง เลอเบิฟ เดอร์ไซญี่ แดน เปเตสคู ดิมัตเตโอ วิอัลลี่ แฟร้ง ซินเเคลร์ เดนนิส ไวส์ โซล่า โฟล นักเตะชุดนี้เป็นที่คลาสสิค สำหรับผมมากๆ และตอนนั้นได้แชมป์คัพวินเนอร์คัพ ก็ดีใจแทบบ้าแล้ว จะว่าไปพูดไปแล้วก็คิดถึงตอนนั้นแฮะ ทั้งโรงเรียนมีผมเชียร์เชลซีคนเดียวเลย บอลเตะที เพื่อนเด็กผีเป็นร้อยผมเด็กสิงคนเดียวนี่ละที่นั่งเชียร์ นัดที่เจ็บช้ำมากก็นัดที่เรายิงนำก่อน แต่มาโดนฟอร์ลันกับเวรอนมั้งที่มายิงให้พลิกชนะท้ายเกมส์ โดนใครไม่โดนมาโดนฟอร์ลัน ยิง  โดนล้อก็เพราะฟอร์ลันนี่ละ สุดท้ายจะบอกว่า ปีนี้เชลซี แชมป์แน่ๆ  และจะเป็นแชมป์ที่มาแบบเงียบๆ ไม่กระโตกกระตาก เหมือนตอน มูรินโญ่ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 52 08:23:41 จากคุณ : Bach_Ho เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 08:20:36

ความคิดเห็นที่ 50 #42 คุณบูจัง  ถูกต้องนะครับ !!!!!!!!!!!!!!!!!!! จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 08:34:03

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณทุกๆความเห็น ทั้งจากแฟนทุกๆทีมเลยนะครับ #Die Kaiserin* นี่ตั้งใจว่าถ้ามีเงิน ได้โบนัส ต่อให้ได้แชมป์หรือไม่ได้แชมป์ ว่าจะรวมเพื่อนๆที่เคยทำนิตยสารการ์ตูน (โดจิน) สมัยเรียนมหาลัย มาช่วยกันทำเชลซีเยียร์บุ๊ค อยู่น่ะครับ ประมาณแฟนซีนน่ะ แต่ไม่ฟันเฟิร์ม รอดูงบประมาณและอาจหาค่าพิมพ์จากเว็บไซด์กีฬาทีรู้จักก่อน # Bach_Ho, TaeChelsea อยากบอกว่าเราอยู่รุ่นเดียวกันเลยครับ ผมเชียร์เพราะตามมาจากกุลลิท ตอนนั้นเชียร์มิลาน ไม่เคยดูบอลอังกฤษเลย ไม่ชอบ ไม่มันส์เหมือนบอลอิตาลี แต่พอตามกุลลิทมา ก็ค่อยๆรู้สึกว่า บอลอังกฤษมันก็มีเสน่ห์แบบโบราณๆบ้านๆดี เริ่มเชียร์เชลซีแบบจริงๆจังๆ ก็การมาถึงของโซล่า กับ วิอัลลี่นี่แหละครับ เหตุการณ์ต่างๆที่คุณทั้งสองเล่ามานั้น อยากบอกว่าเราอยู่ในเหตุการณ์เดียวกันเลยเนาะ (เช็คอายุมั้ยเนี่ย ฮ่าๆ) แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 52 09:15:17 จากคุณ : เทอร์รี่คุง เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 09:14:30

ความคิดเห็นที่ 52 คุณเทอร์รี่คุงก็พูดซะพวกเราแก่เชียว 55 จริงๆเท่าที่ผมทราบมา น้าเสือปลาขี้เมาก็ถือเป็นกองเชียร์ยุคเก่าก่อนเหมือนกัน นี่ยังไม่รวมสาวใช้ ณ สแตมฟอร์ดบริดจ์ผู้ก่อตั้ง ATB ผู้ซึ่งต่อสู้เพื่อเชลซีพอๆกับคุณ Hermy ในยุคนี้อีก สมาชิกผู้ทรงเกียรติเหล่านี้ ยังชื่นชมเชลซีมาก่อนพวกเราอีกครับ ที่อ้างมาทั้งหมด เพราะอยากบอกว่า พวกเรายังไม่แก่ เพราะใจยังหนุ่มอยู่นะครับ 55 ถ้าเริ่มเชียร์ตอนประถมปลาย-มัธยมต้น แล้วคุ้นเคยกับสิ่งที่ผมเขียนในคห.34 ล่ะก็ ฟันธงได้ว่าคุณอายุไม่ต่ำกว่า 20 กลางๆแล้วล่ะครับ ยินดีด้วย จากคุณ : TaeChelsea เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 11:28:09

ความคิดเห็นที่ 53 แฟน ผี ก็ ส่วนมาก เป็น แบบนั้น ครับ ในใจ หนะคิดอยู่แ้ล้ว แต่ในนี่ ชักเก็บอาการกันเก่ง จากคุณ : แมวรักแมว เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 12:03:03

ความคิดเห็นที่ 54 มาตอนตลาดวายซะแล้ว พูดกันไปเยอะแล้ว แต่เราก็อยากจะพูดบ้างน่ะนะ คำว่าประวัติศาสตร์ของเขาน่ะมันไม่ใช่อะไรหรอก พูดง่าย ๆ คือจะบอกว่ามีถ้วยแชมป์มากกว่าแค่นี้แหละ เขาไม่ได้คิดเรื่องสโมสรก่อตั้งมานานเท่าไร มีนักเตะ มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่ถ้าคำว่า "ประวัติศาสตร์" สำหรับคนอื่นหมายถึงถ้วยแชมป์และคุณภาพของทีม ถ้าคำว่า "ประวัติศาสตร์" หมายถึง "การมียุครุ่งเรืองที่สุดเกิดขึ้น" เราเชื่อว่า ลิเวอร์พูลคืออดีต แมนยูคือปัจจุบัน และเชลซีคืออนาคต แล้วก็เป็นอนาคตอันใกล้นี้แล้วด้วย (ย้ำนะว่าหมายถึงยุครุ่งเรืองที่สุด ไม่ได้หมายความว่าทีมไหนดีหรือแย่กว่าทีมไหน) ซึ่งยุคของน้ามูเป็นเหมือนยุคที่เราโดดเด่นขึ้นมา แต่เชื่อเถอะว่านั่นยังไม่ใช่จุดสูงสุดของทีมเชลซี เชลซีเพิ่งจะมายืนระยะในหัวตารางอย่างต่อเนื่องได้ไม่นานนัก ดังนั้นไม่แปลกหรอกถ้าจะมีคนพูดถึงทีมเราอย่างนั้น แต่เราเชื่อว่าแฟนเชลซีคงจะมองเห็นอนาคตของทีมอยู่พอสมควร เชลซีกำลังพยายามสร้างประวัติศาสตร์ให้เทียบเท่าทีมใหญ่ทีมอื่น มีทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นเอง มีทั้งเรื่องที่พยายามทำให้มันกลายเป็นประวัติศาสตร์ให้ได้ เรื่องที่เกิดขึ้นเองก็อย่างเช่น การผ่านเข้ามาของโซล่าและนักเตะอีกหลายคน การได้กุนซือที่มีบุคลิกภาพสุดยอดแบบมูรินโญ่ การที่ได้กัปตันคาแรกเตอร์แบบเจทีมาเป็นหลักยึดให้ทีม และเรื่องที่สโมสรพยายามสร้างให้มันเกิดขึ้น ก็อย่างเช่นการดันเจที (รวมทั้งแลมป์และอาจจะมีคนอื่นอีก) ให้เป็นตำนานของทีม(และของอังกฤษ)ให้ได้ หรือแม้แต่การพูดถึงการกลับมาคุมทีมเชลซีของเจที-แลมป์ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญนะ ที่ทีมเยาวชนของเชลซีจะต้องมี "ฮีโร่" เพื่อให้พวกเขาเกิดความรู้สึกว่า "อยากจะอยู่ทีมนี้ไปจนแขวนสตั๊ดส์เหมือนกัปตันเจที" และสโมสรจะต้องมี "ฮีโร่" ของทีม เพื่อใช้ดึงนักเตะทีมอื่นมาในบางครั้ง เหมือนเวลาที่นักเตะจะย้ายสโมสรแล้วบอกว่า "ผมชอบทีมนี้มาตั้งแต่เด็ก ผมชอบนักเตะคนนั้นคนนี้ของสโมสรนี้ มันเป็นความฝันของผมที่จะย้ายมาที่นี่" บางครั้งการดึงดูดใจคนมาร่วมทีม มันไม่ใช่แค่คุณมีถ้วยแชมป์ หรือมีเงิน แต่ต้องมี "ประวัติศาสตร์" และมี "ฮีโร่" ของทีมด้วย ทีมใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ และเป็นทีมใหญ่ที่สามารถดึงตัวนักเตะมาได้ง่าย ๆ ต่างมีตรงนี้กันทั้งนั้น เราจึงมองว่านี่เป็นสิ่งหนึ่งที่เชลซีพยายามสร้างอยู่ ถ้าติดตามความเคลื่อนไหวของทีมเยาวชนสักหน่อย ก็จะรู้ว่ามันเริ่มเห็นผลแล้ว มีหลายคนที่ยึดเจที ยึดแลมป์เป็นแบบอย่าง นี่คือการสร้าง "ความรักในสโมสร" ให้กับพวกเด็กในอะคาเดมี่นั่นเอง และถ้าในกลุ่มเด็กเหล่านั้นเกิดมีนักเตะฝีเท้าดี เชลซีก็ไม่ต้องห่วงมากว่าเขาจะย้ายทีม เพราะว่าทีมในฝันของพวกเขาอยู่ที่นี่แล้ว ดูอย่างโรนัลโด้ก็ได้ อยู่แมนยูก็ดีอยู่แล้ว มีทุกอย่างพร้อม แต่ทำไมย้าย? เพราะรีลมาดริดเป็นความฝันของเขา นี่จึงเป็นสิ่งที่เชลซีจะต้องสร้างให้ได้ อีกเรื่องหนึ่งคือถ้วยUCL เชลซีจำเป็นต้องมี ต้องเอามาให้ได้ เพื่อประกาศตัวว่าเป็น "ทีมที่ดีที่สุดทีมหนึ่งในยุโรป" อย่างเต็มปาก นี่ก็สำคัญไม่ต่างจากประเด็นที่ต้องมีฮีโร่ตำนานของทีม ถ้าเราไม่ได้ถ้วยนี้ มันก็พูดยากที่เราจะพรีเซนส์ตัวเองในฐานะทีมใหญ่ แต่ว่านั่นแหละ ถ้าเราคว้ามันมาได้จริง ๆ ล่ะ ถ้านักเตะความหวังของทีมกลายเป็นตำนานของทีมจริง ๆ ล่ะ เมื่อมีคุณสมบัติที่จะเป็นทีมใหญ่จริง ๆ แล้ว เรื่องการเงินของเชลซีที่จะยืนระยะในจุดนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหามากนัก คราวนี้เริ่มมองเห็น "อนาคต" ของเชลซีแล้วใช่มั้ย? เชลซีมีประวัติศาสตร์ เพียงแต่มันยังไม่ขึ้นมาเทียบเท่าทีมใหญ่ทีมอื่นเท่านั้น บางทีเราอาจจะโดนล้อเรื่องปริมาณถ้วยแชมป์ไปอีกสักสิบปีก็ได้ แต่ช่างปะไร เพราะในตอนนี้คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเชลซีแข็งแกร่งและเป็นทีมที่น่ากลัว เป็นทีมที่พูดได้ว่า "มีคุณสมบัติ" มากพอที่จะประกาศตัวเป็นทีมใหญ่ และยิ่งถ้าดูองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อมองไปถึงอนาคต เราคิดว่าเชลซีจะยิ่งเป็นสิงโตน้ำเงินครามที่น่าเกรงขามยิ่งกว่านี้แน่นอน เราเชียร์เชลซีเพราะจอห์น เทอรี่ และต่อมาก็เริ่มชอบแลมป์ และชอบคนอื่น ๆ ในทีมด้วย เรามาไม่ทันยุคแฟนตาซีของมูรินโญ่ เราเสียดายที่มาไม่ทันยุคโซล่า แต่ว่าเชลซีไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืนกับการเข้ามาของเสี่ยหมีกับน้ามู เชลซีค่อย ๆ หล่อหลอมทีมมาก่อนหน้านั้นแล้ว ไม่งั้นเราคงไม่ได้เห็นภาพเดอไซยี่สอนงานเจที หรือบางทีเราอาจไม่ได้มี "หนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในโลก" อย่างแลมพาร์ดอยู่ในทีม ดังนั้นใครที่คิดว่าเชลซีเริ่มมาจากยุคน้ามูอย่างเดียว เป็นความคิดที่ล้าหลังมาก และตัวเขาเองนั่นแหละ ที่มองเชลซีแต่เพียงยุคน้ามูที่เชลซีดังขึ้นมา โดยไม่ได้ดูองค์ประกอบก่อนหน้านั้นเลย สุดท้ายก็แค่อยากจะบอกว่าเชลซีเป็นเชลซี เรารักเชลซีที่สปิริตของทีม เรื่องราวของทีม ทั้งเรื่องของกัปตัน ความสำเร็จ ความผิดพลาด ทั้งกรณีของนักเตะปิดทองหลังพระหลายคนที่ทำให้เราประทับใจ ทั้งปัญหาหลายอย่างที่ทีมเจอมาด้วยกันจนมีวันนี้ ถึงถ้วยแชมป์จะน้อยกว่าทีมใหญ่บางทีม แต่ก็มีเรื่องราวประทับใจมากมายให้จดจำ เรายังเสียดายด้วยซ้ำที่มาไม่ทันเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างเหล่านั้น ถ้วยใบแรกที่เราอยู่ในเหตุการณ์กับเชลซีก็คือFAยุคลุงกุสนี่เอง แต่ไม่ต้องรอคอยนานนักหรอก จับตาดูเชลซีในห้าปีหลังจากนี้ให้ก็แล้วกัน เราจะได้เห็น "อนาคต" ของเชลซีที่ชัดเจนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาและกลายเป็น "ปัจจุบัน" ยิ่งกว่านี้อย่างแน่นอน จากคุณ : Wadoiji เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 12:13:36

ความคิดเห็นที่ 55 อุ๊...พอมาดูอีกที พิมพ์ยาวเกินไปแล้ว OTZ ขอโทษนะ พูดถึงเกมล่าสุดกันดีกว่า ไอ้ที่เคยคาดการณ์ว่าจะเป็นการดวลกันของกองกลาง กองหน้า กลายเป็นไม่ใช่เลย จุดสำคัญอยู่ที่กองหลังแท้ ๆ แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ ว่านี่เป็นแผน "ปล่อยอีกฝ่ายครองบอลมากกว่าแต่ทำอะไรไม่ได้" อย่างที่เคยใช้หรือเปล่า ก็เลยดูเหมือนกลางเราเก็บบอลไม่ได้ แล้วต้องไปลุ้นเอากับแดนหลังให้สกัดให้อยู่แทน แมนยูโจมตีด้วยปีก ส่วนตรงกลางก็พอจะมีรูนบุกเข้ามาเรื่อย ๆ กลางยังไม่น่าห่วงเท่าไร จุดสำคัญอยู่ที่ปีกของเขากับแบ็คของเรานี่แหละ ฝั่งหนึ่งมีพี่โคลจัดการวาเลนเซีย และมีเซ็นเตอร์ไปคอยช่วยอีกแรง อีกฝั่งที่เป็นห่วงกันคือน้ำหวาน แต่โชคดีที่เจอพี่กิ๊กส์ น้ำหวานได้เปรียบพอสมควร ความเร็วพอจะสูสี แถมรูปร่างเป็นต่อ ช่วงนี้กำลังมั่นใจซะด้วย พี่กิ๊กส์เลยเป็นฝ่าย "งานเข้า" แทน บุกไม่ผ่านน้ำหวานซะที ต้องให้เอฟร่าวิ่งมาช่วย แล้วค่อยไหลบอลกลับไปที่พี่กิ๊กส์อีกทีหนึ่ง เกมนี้อาจพูดได้ว่าเรามีจังหวะพลาด แต่แมนยูไม่คมพอ เป็นโชคดีของเชลซี (ซึ่งก็ขอให้โชคดีไปแบบนี้เรื่อย ๆ ) แต่พอแมนยูพลาด เราก็ทำได้ ใช่ เกมนี้หน้าเราหาความคมไม่ได้ เพราะโดนคุมทางไว้หมดด้วย แต่มาลูด้าเพิ่งจะพูดแหมบ ๆ ว่า "ผู้เล่นทุกตำแหน่งสามารถยิงประตูได้ นี่เป็นจุดแข็งของเชลซี" เกมนี้คงได้ประจักษ์กันแล้วว่ามันไม่ใช่แค่คำขู่นะจ๊ะ :) ในขณะที่บางทีมโดนประกบกองหน้าเข้าไปก็แทบไปไม่เป็นแล้ว แต่เชลซีนี่ หน้าทำไม่ได้ เดี๋ยวกองกลางยิงให้ เดี๋ยวแบ็คมายิงมั่ง เดี๋ยวกองหลังเติมขึ้นมา ก็หวังว่าจุดแข็งนี้จะช่วยเชลซีได้ในสถานการณ์สำคัญ ๆ เหมือนเดิมน่ะนะ พูดถึงน้ำหวาน เล่นดีจริง ๆ คืนฟอร์มแล้วนะ (เนื่องจากไม่ต้องคิดเรื่องจะแย่งตำแหน่งพี่โบ ก็เลยเล่นแบบไม่เกร็งเหมือนตอนแรก ๆ ต้องขอบคุณพี่โบจริง ๆ) การที่พี่แจ้เลือกน้ำหวานลงตัวจริงในเกมสำคัญแบบนี้ แสดงว่าเป็นที่ถูกใจอยู่ไม่น้อยล่ะ ไม่แน่พี่โบกลับมาคราวนี้อาจต้องเป็นฝ่ายผู้ท้าชิงไปก็ได้ แต่ส่วนตัวยังเป็นห่วงเกมที่จะเยือนบ้านปืนนะ เรื่องความเร็วนี่แหละ ไม่รู้ว่าน้ำหวานจะไหวมั้ย เป็นห่วงนิดหน่อย แต่ตอนนี้เชื่อใจพี่แจ้มากขึ้นแล้วล่ะ ขอฝากทีมเชลซีไว้ในมือพี่แจ้ก็แล้วกัน ตั้งใจจะวาดพี่แจ้ซะทีเพราะดวลแทคติกกับเซอร์ในเกมนี้ แต่คู่กัปตันก็รักหวานออกนอกหน้าเป็นอย่างยิ่ง แถมเป็นลูกแรกของกัปตันในฤดูกาลนี้ ไม่วาดซะหน่อยก็เสียดายเอง เอ้า แปะ ๆ :) จากคุณ : Wadoiji เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 12:31:48

ความคิดเห็นที่ 56 จริงๆพี่แจ้สอนที่ฮอกวอร์ตหรือเปล่า ฮิฮิ จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 12:51:51

ความคิดเห็นที่ 57 ก็ปีนี้ล่ะที่จะสร้างประวัติศาสตร์..... จากคุณ : doraekuk เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 13:01:26

ความคิดเห็นที่ 58 อิชั้นเป็นสมาชิกเถื่อนของ ATB มาหลายปีแล้วค่ะ...ฮ่ะ..ฮ่า.. หูย...ไม่ได้ถึงกับต่อสู้เพื่อ Chelsea อะไรขนาดนั้นนะ เท่าที่ฟังเพื่อนๆ เล่ามาเนี่ย  กว่าจะมีคลับ ATB มีกระทู้ ATB แบบทุกวันนี้ได้ โดยเฉพาะช่วงที่เสี่ยหมีมาเทค น้ามูมาคุมเนี่ย ก็เจออะไรมาเยอะเหมือนกัน ส่วนเรา ก็แค่แฟน Chelsea คนหนึ่งแหล่ะที่รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาดค่ะ !!!!!!!!!!! จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 13:23:25

ความคิดเห็นที่ 59 ผมมายืนยัน ว่าผมยังไม่แก่ นา ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆ แค่เชียร์ เชลซี มาแต่เด็ก เพราะสีน้ำเงิน และคำว่า สิงโตน้ำเงินคราม นัดที่สะใจที่สุด ก็คือ ชนะแมนยู 5-0 เพราะแมนยู สู้ไม่ได้เลย จากคุณ : Bach_Ho เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 13:30:40

ความคิดเห็นที่ 60 หวัดดีชาวเลือดน้ำเงินทุกท่าน แอบอ่านคอลัมน์ ATB ไม่เคยเสียกะตังค์มานาน วันนี้เจอเรื่อง "ประวัติศาสตร์" ที่ทำให้กระแทกใจไปถึงตับไตไส้พุงจนอดไม่ได้ต้องออกแสดงตัวบ้าง (ชักจะติดสำนวนเจ้าของกระทู้แฮะ) แต่พออ่านความเห็นหลาย ๆ คนเรื่องประวัติศาสตร์แล้ว คนอื่น ๆ ก็พูดแทนไปหมดแล้ว ก็เลยว่าจะแอบเงียบเหมือนเดิม ครั้นเมื่อมาเจอความเห็นคุณ TaeChelsea '๓๔ ,pippoman '๔๑ ,Bach_Ho  '๔๙ หรือเจ้าของกระทู้ '๕๑ ที่เชียร์เชลซีช่วงใกล้ ๆ กับที่ผมเชียร์ เลยอยากแชร์ส่วนร่วมด้วยครับ ผมเริ่มเชียร์เชลซีก็ตอนดูบอลอังกฤษครั้งแรก ๆ ก่อนหน้านั้นดูเป็นแต่บอลโลก (แต่จะว่าไปบ้านเราก็ใช่ว่าจะมีบอลอังกฤษให้ดูมากเหมือนยุคนี้นะ) เวลาเชียร์บอลโลกก็ไม่ชอบเชียร์ทีมเต็ง ประมาณชอบบอลรองก็ว่าได้ จำได้ว่าเชียร์เยอรมันตะวันตกตอนที่เขี่ยฮอลแลนด์ตกรอบ เชียร์อิตาลีเพราะจูเซปเป้ ซินญอรี่ ที่ลงมาป่วนนอร์เวย์(มั้ง) ทั้งที่อิตาลีเหลือ ๑๐ คน และจำได้ว่าพอโซล่ากลับมา เจ้าเป้บเป้ต้องไปนั่งสำรอง จากนั้นบ้านเราเริ่มมีเคเบิ้ล IBC และได้ดูบอลอังกฤษครั้งแรกที่หอพักแห่งหนึ่ง ตอนนั้น แมนยู เตะ กับเชลซีที่มีโซล่า (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะสมัยเกลน ฮ๊อดเดิล) ด้วยความที่ชอบสีน้ำเงิน(ด้วยอีกคน) และได้ยินชื่อเสียงแมนยูว่าเป็นทีมที่เก่งมาก ๆ แต่สุดท้ายเจ้าทีมเสื้อสีน้ำเงินดันเอาชนะสุดยอดทีมอย่างแมนยูได้ด้วยสกอร์ ๑-๐ ก็เลยตามเชียร์เชลซีด้วยประการฉะนี้ ผลงานทีมระดับกลางอย่างเชลซีช่วงนั้นทำได้อันดับท๊อปไฟว์ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว แต่จะเน้นพวกบอลถ้วย แล้วก็ได้แชมป์เอฟเอ ตามมาด้วยลีกคัพ คัพวินเนอร์ส์.. และเป็นทีมที่เอาชนะทีมใหญ่ได้ทุกทีม แต่ก็แพ้ทีมอ่อนกว่าได้เหมือนกัน ชอบคู่กองหน้า โฟล - โซล่า เหมือนกันครับ กัปตันไวส์นี่ก็สุดยอด จนถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษ ฟูลแบ๊กซ้ายขวาที่เป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดในบอลโลก ระหว่างแกรม เลอโซ กับแดน เปเตรสคู ฟรอง เลอเบิฟ กับเดอไซญี่ ก็สุดแกร่ง ผู้รักษาประตูที่เหนียว ๆ เราก็มีหลายคน โดยเฉพาะตำนานอย่างคูดิชินี่ มีกองหน้าที่ซื้อมาดับอย่างคริส ซัตตัน หรือกาซิรากี้ มีผู้จัดการทีมที่มาจากนักเตะทั้งกุลลิท วิอัลลี่ และเปลี่ยนเรื่อยมาจนถึงยุครานิเอรี่ หรือช่วงที่ทีมถังแตกจนเคนเบตส์ต้องขายทีม แต่ผมว่าพื้นฐานของทีมช่วงนั้นดีมาก พอเสี่ยหมีเข้ามาเป็นเจ้าของ และทุ่มเงินสร้างทีมใหม่ ทำให้ทีมถูกผลักดันขึ้นไปเป็นระดับบิ๊กโฟร์ของพรีเมียร์ได้อย่างปัจจุบัน (ซึ่งฟูแล่มทำไม่ได้ แมนซิตี้ก็ยังไม่เหมือนเชลซีสมัยโน้น) ในแชมเปี้ยนลีกที่เคยแพ้เชือกกล้วยอย่างอาร์เซนอลแต่สุดท้ายก็สามารถเขี่ยเจ้าปืนใหญ่เข้าไปรอบรองฯ ได้ รวมทั้งความสมหวังที่ได้เข้าชิงแชมเปี้ยนลีก ไปจนถึงความผิดหวังที่แพ้จุดโทษ สิบกว่าปีที่ผ่านมา มันทำให้เราผูกพันกับทีมนี้ครับ อยากมาจอยกระทู้หลาย ๆ ครั้ง แต่ช่วงหลังไม่ค่อยได้เล่นเนทก็เลยอ่านอย่างเดียวซะส่วนใหญ่ ในส่วนของกระทู้เชลซี เท่าที่ผมสัมผัส รู้สึกดีกับแฟนเชลซีมาก ๆ ไม่มีถากถางหรือทับถมทีมคู่แข่งหรือทีมอื่น ๆ ซึ่งแฟนบอลบางทีมเป็นเอามากจนผมพลอยเกลียดทีมนั้นไปด้วย ยังจำได้ตอนที่สเปอร์ชนะเชลซีคว้าแชมป์เอฟเอคัพ ATP ยังตั้งกระทู้แสดงความยินดีด้วยเลย หรือกระทู้ที่มีรูปการ์ตูนเรื่องปีเตอร์ เช็ก กับ คูดิชินี่ ที่วาดได้น่ารักมาก คอลัมน์ของเทอรี่คุงก็อ่านสนุก ลุกนั่งสบาย เหล่านี้ทำให้สังคมของแฟนเชลซีน่าอยู่มากครับ ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันตั้งกระทู้และดูแลกระทู้ให้เป็นศูนย์รวมข่าวคราวเชลซี จะติดตามกระทู้เชลซีต่อไปนะครับ จากคุณ : cha Jr. เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 16:16:41

ความคิดเห็นที่ 61 จขกท. ไม่ต้องตอบโต้ผมหรอกครับ เพราะว่าคุณแค่คิดในใจ แต่บังเอิญผมแค่เห็นความคิดในใจของคุณผ่านกระทู้แนะนำเท่านั้น จากคุณ : พุงโตกว่า เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 16:30:53

ความคิดเห็นที่ 62 คุณเทอร์รี่คุง ไปอัซคาบันเพราะสาวแว่น พอกลับมาแล้ว JT ยิงประตูได้ งั้นช่วยไปอัซคาบันอีกที  กลับมาอีกรอบ JT จะได้ยิงประตูได้อีก..ฮ่ะ..ฮ่า.. (ล้อเล่นนะ) ส่วนประตูที่ JT โหม่งได้ครั้งนี้ ก็มีคุยกันขำๆ เล็กๆ ว่าตกลงแล้วเป็นใครกันแน่ที่โหม่งเข้าไประหว่าง JT กับ Anelka JT บอกว่าย้อนกลับไปดูสถิติการยิงประตูของผมแล้วนะ ผมไม่เคยยิงประตู Man Utd ได้เลยไม่ว่าจะเป็นเกมเหย้าหรือเกมเยือน ส่วนประตูนั่นเนี่ย  ผมโดนบอลนะ แต่ก็คิดว่า Niko ก็โดนบอลในจังหวะสอง แต่ผมก็ยังถือว่ามันเป็นประตูของผมล่ะ (พูดจบ JT ก็หัวเราะก๊ากๆ หน้าผากย่น..อิ่..อิ่..) ส่วน Niko บอกว่าผมก็โดนบอลนะ แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น บางที John อาจจะเป็นคนตอบได้ดีที่สุด  Niko ตอบแบบงงๆ นิดหน่อย : P http://www.chelseafc.com/page/LatestNews/0,,10268~1870656,00.html จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 16:48:41

ความคิดเห็นที่ 63 ทุกทีมเค้าก็มีทั้งนั้น คำว่าประวัติ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีศาสตร์ต่อท้ายก็ตาม ทีมเค้าตั้งมานานกว่าชีวิตคนที่บอกไม่มีประวัติศาสตร์ซะอีก จากคุณ : CuteCool เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 17:20:04

ความคิดเห็นที่ 64 เขียนได้ดีครับ อ่านสนุกเหมือนเคย ส่วนประเด็นอื่นๆตอบกันไปเยอะแล้ว ไม่ออกความเห็นเพิ่มละกัน เชื่อว่าแฟนบอลหลายๆคนมีวุฒิภาวะที่ดีพอในการเชียร์ครับ เป็นเกมที่สนุกเกมนึงเลย ท้ายเกมลุ้นหนักเลยโดนบุกแหลก แต่ก็ได้ 3 แต้มสำคัญมานอนกอดให้ชื่นใจโดยกัปตันคนเก่งของเรา จากคุณ : Ploffy เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 17:40:28

ความคิดเห็นที่ 65 อ่านไปอ่านมานี่ผมเชียร์ เชลซี มาสิบปีแล้วหรอเนี่ย รู้สึกเหมือนแปปๆ เองแฮะ   หวิวๆ ด้วย จากคุณ : Bach_Ho เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 18:24:48

ความคิดเห็นที่ 66 สนุกดีนะครับ นั่งอ่านเพื่อนๆแต่ละคนเล่าความหลังและความในใจกันอยู่ อ่านแล้วก็คิดถึงรายการนี้เลย ใครจำได้มั่ง "Be on a hot kick" ช่อง 9 ที่มักจะถ่ายเชลซีให้ดูอยู่บ่อยๆ เพราะเป็นทีมที่ใหญ่รองจากแมนยู, ลิเวอร์พูล ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้ดูทางฟรีทีวีอยู่แล้ว เอ้อ เรื่องประตูนั้น ผมว่าให้เจทีแกไปดีกว่า เดี๋ยวคุณอเนกขา ไปยิงเอาที่เอมิเรสต์แล้วกันเนาะ อิอิ จากคุณ : รักเพื่อนๆเชลซีจัง (เทอร์รี่คุง) เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 19:47:22

ความคิดเห็นที่ 67 เค้า.....แค่ตาม...กุลลิท..มาเอง แต่พอกุลลิทจากไป...เค้าก็ยังอยู่....ไม่ยอมตามไป ก็เพียงเพราะว่า....เค้าหลงรักสิงห์โตน้ำเงินคราม...ซะแล้ว "กรุงโรมมิได้สร้างเสร็จในคืนเดียวฉันท์ใด" ประวัติศาสตร์(เชลซี).....ก็มิใช่จะสร้างกันไม่ได้...ฉันท์นั้น จากคุณ : boonlers1 เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 22:53:19

ความคิดเห็นที่ 68 ผมดูบอลจริงๆจังๆก็รายการนี้แหละ "Be on a hot kick"  แล้วก็หลงรักเชลซีจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว ผมชอบบทความของคุณ เทอร์รี่คุง นะครับติดตามมาตลอด แต่ก็จะไม่ค่อยได้แสดงคาวมคิดเห็นเท่าไรครับ  แต่ยังไงก็เอาใจช่วยนะครับ จากคุณ : momkey_yollow เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 23:39:07

ความคิดเห็นที่ 69 คอมเม้นที่ 54 ของคุณ wadoiji  นี่กินใจมากมาย บางทีถ้วยใบที่สองของคุณ และเราทุกคนจะร่วมอยู่ในเหตุการณ์ EPL  2009 /2010  แน่นอน จากคุณ : bobenz เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 11:51:10

ความคิดเห็นที่ 70 กราบขอโทษแทนแฟนพี่คนนั้นด้วยครับ เพราะแฟนผีอย่างผมก็เคยโดนพูดจาแนวนั้นเหมือนกัน จากคุณ : เสินกงเป้า เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:43:21

ความคิดเห็นที่ 71 แฟนแมนยูครับ ยอมรับว่าคุณคงเจอพวกผู้ใหญ่เกรียนเข้าแล้วละครับ จากคุณ : ชัยiriver เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:10:09

ความคิดเห็นที่ 72 ใช่ครับ เชลซีไม่เคยได้แชมป์ลีกในระดับที่สามารถเอาจำนวนครั้งมาคุยได้ ใช่ครับ เชลซีไม่เคยได้ ชปล.  เลยสักครั้ง ใช่ครับ เชลซีไม่มีตำนวนนักเตะตกเครื่องบินตายทั้งทีม ใช่ครับ เชลซี ได้แชมป์ลีกจาก เงินเสี่ยหมี(แต่ไม่ได้ใช้เงินซื้อมานะครับ) ใช่ครับ เชลซี แพ้นัดเดียวจาก38 เกม ในปีแรกของเงินเสี่ยหมีที่สร้างให้มูรินโย่ ใช่ครับ  เ้ชลซี คือทีมนั้น  แต่ไอ้พวกมีประวัติศาสตร์ระวังไว้ก็แล้วกันครับสักวันคุณจะมีแต่"ประวัติศาสตร์" จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:34:24

ความคิดเห็นที่ 73 อดีตคือขี้เถ้า นำมาเล่าสู่กันฟัง อนาคตคือหนัง โปรแกรมหน้ารอวันฉาย ปัจจุบันคืองานปูพื้นฐาน รอวันตาย เวลาน่าเสียดาย อย่าผลัดวันจะเสียคน จากคุณ : tainhong เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 14:29:02

ความคิดเห็นที่ 74 #52 และ #60 รวมถึงความเห็นอื่นๆด้วยที่เริ่มมาเชียร์เชลซีในยุคโซล่าเข้ามา ผมก็ไม่ได้เริ่มเชียร์มาก่อนพวกคุณทั้งหลายหรอก   ก็ถือว่าเริ่มเชียร์ในระยะเวลาใกล้เคียงกัน     เพียงแต่ว่าตอนนั้นผมเรียนจบและทำงานมานานแล้ว สำหรับในพันทิปนี้ก็อาจจะเป็นไปได้ที่ผมเล่นที่นี่มาก่อนพวกคุณ    ดังนั้นจึงดูสเหมือนว่าเชียร์มาก่อนพวกคุณ สมัยนั้นมีอยู่ไม่กี่คนในห้องนี้ที่เชียร์ทีมเชลซี   นอกนั้นเชียร์ทีมอื่นแทบหมดห้อง       ดังนั้นคนที่เชียร์เชลซีจึงได้คุ้นกับการอยู่เฉพาะแค่กลุ่มเล็กๆ ถึงขนาดว่าต้องการพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวเฉพาะกลุ่มคนที่เชียร์เชลซี   ยังต้องหลบไปตั้งเวป.ส่วนตัวของคนที่เชียร์เชลซีโดยเฉพาะ      ที่จำชื่อได้รุ่นแรกๆรู้สึกว่าจะใช้ชื่อ "เชลซีไทยแลนด์"   ก็ถือได้ว่าเป็น*บ้าน*ของชาวเชลซีในสมัยนั้น   ซึ่งไว้พูดคุยกันแบบเต็มที่ไม่ต้องไปสนใจเกรงใจต่อทีมอื่น เท่าที่ผมรู้จักทางเข้า*บ้านของกองเชียร์เชลซี*โดยเฉพาะ  โดยการแนะนำของ "สาวใช้ ณ. สแตมฟอร์ดบริดจ์"เป็นผู้ชี้ทางให้ผมทราบ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 52 15:27:02 จากคุณ : เสือปลาขี้เมา เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 15:12:17

ความคิดเห็นที่ 75 ส่วนผมก็ตาม กุลลิต มาจากมิลาน เหมือนกับ คห.67 ตอนนั้น บอลอังกฤษไม่ได้เชียร์ทีมไหนเป็นพิเศษ ผมดูแต่มิลาน เพราะมีกุลลิต อยู่ในทีม พอกุลลิต ย้ายมาเซลซีก็ตามมาเชียร์ (แม้จะยิงได้น้อย 555+)  แต่พอกุลลิตจากไปก็ไม่ได้ไปไหน ตอนนั้นทีมเรายังอยู่กลางตาราง ไม่มีแววว่าจะเป็นแชมป์เลย เมื่อไหร่คลับเราจะจัดมีตติ้งกันครับ จะได้คุยกันมันส์ๆ จากคุณ : I_get เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 22:41:56

ความคิดเห็นที่ 76 โห...สุดยอดอ่ะ หนูชอบมากๆเลย จากคุณ : สตีฟ แม็คมานานแล้ว เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 23:21:16

ความคิดเห็นที่ 77 พูดถึง "เชลซีไทยแลนด์" แล้วคิดถึงยังมีอยู่รึเปล่าคับ แล้วเจ้าเพียวไปไหนแล้ว จากคุณ : Devil_AusTin เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 07:29:49

ความคิดเห็นที่ 78 แฟนปีศาจแดงมาแอบอ่านครับ ก็ว่ากันไปครับ   แต่ขอเถอะ คห.ที่ 72 เรื่องอื่นจะว่าก็ว่าไปเถอะ แต่เรื่องเป็นเรื่องตายอย่าเอามาว่าให้เป็นประเด็นเลยครับ มันฟังดูไม่ดีเท่าไหร่นัก จากคุณ : ขุนไกรครับผม เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 00:30:19

ความคิดเห็นที่ 79 เห็นด้วยกับคุณขุนไกรครับผม นะครับ ถ้าเป็นไปได้ รบกวนแก้ไขส่วนนั้นด้วยนะครับ จากคุณ : เทอร์รี่คุง เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 09:38:28

ความคิดเห็นที่ 80 เราโดนเพื่อนแซวทุกวันเลยแบบ โอ๊ย ไอทีมเพิ่งดัง เชียร์ทีมเพิ่งดัง ไรงี้ อยากตอกกลับเจ็บๆ สักครั้ง แต่พอนึกจะพูดอะไรได้ปุ๊ป มันสลายโต๋หายไป 55555555555555555 ปีนี้ขอถ้วยเหอะ จะหัวเราะฉลองแม่มสามวันเจ็ดวัน // เขียนดีเหมือนเดิม ชอบค่า จากคุณ : ทะเลเห็ด เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 03:03:58

ความคิดเห็นที่ 81 จิมมี่ ฟลอย์ ฮัสเซล แบงค์ จากคุณ : Bach_Ho เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 08:47:53

ความคิดเห็นที่ 82 โซล่ง โซล่า อะไรไม่รู้จัก กรูมาเชียร์ตอนยุคเสี่ยหมี มีปัญหาอะไรมะ จากคุณ : MDcute เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 14:52:19

ความคิดเห็นที่ 83 #82 ตอบใครคะ  หรือว่าตอบคนที่คุณเทอร์รี่คุงเจอที่บาร์แถวบ้าน ?? ถ้าใช่เนี่ย... คนๆ นั้นเขาคงไม่ได้แวะมาอ่านกระทู้นี้หรอกค่ะ มีแต่คนตรงนี้ที่ได้อ่าน ก็อยากรบกวนช่วยลดความแรงของภาษาลงนิดหนึ่ง จะขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 17:02:54