ความคิดเห็นที่ 1 เจตนารมย์ประจำโต๊ะ "โต๊ะน้ำชา เป็นที่เสวนาของคนที่รักในสิ่งเดียวกัน นั่นคือ "ปืน" และเป็นการเสวนาที่สร้างสรรค์ หรือถ้าจะติ ก็ติเพื่อก่อ  เราจะไม่วิวาทกับใคร ถ้าใครไม่มาก่อวิวาทกับเรา จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:34:46

ความคิดเห็นที่ 2 โปรแกรมฤดูกาล 2009/10 เดือนพฤศจิกายน 21  Sat    EPL : Sunderland v Arsenal   15.00  (UK Time) 24  Tue    UCL : Arsenal v R. Standard de Liege   19.45  (UK Time) 29  Sun    EPL : Arsenal v Chelsea   16.00  (UK Time) เดือนธันวาคม 02  Wed    Carling Cup : Manchester City v Arsenal   19.45  (UK Time) 05  Sat    EPL : Arsenal v Stoke City   15.00  (UK Time) 09  Wed    UCL : Olympiacos FC v Arsenal   19.45  (UK Time) 13  Sun    EPL : Liverpool v Arsenal   16.00  (UK Time) 16  Wed    EPL : Burnley v Arsenal   19.45  (UK Time) 19  Sat    EPL : Arsenal v Hull City   17.30  (UK Time) 27  Sun    EPL : Arsenal v Aston Villa   13.30  (UK Time) 30  Wed    EPL : Portsmouth v Arsenal   19.45  (UK Time) เดือนมกราคม 02  Sat    FA Cup : รอบ 3 09  Sat    EPL : Arsenal v Everton   15.00  (UK Time) 17  Sun    EPL : Bolton Wanderers v Arsenal   16.00  (UK Time) 27  Wed    EPL : Aston Villa v Arsenal   19.45  (UK Time) 31  Sun    EPL : Arsenal v Manchester United   16.00  (UK Time) เดือนกุมภาพันธ์ 06  Sat    EPL : Chelsea v Arsenal   15.00  (UK Time) 09  Tue    EPL : Arsenal v Liverpool   19.45  (UK Time) 20  Sat    EPL : Arsenal v Sunderland   15.00  (UK Time) 27  Sat    EPL : Stoke City v Arsenal   15.00  (UK Time) *ช่วงวินเทอร์ เวลาในไทยเร็วกว่า UK 7 ชั่วโมง* **ซงไปเล่นแอฟริกันเนชั่นคัพช่วง 10-31 ม.ค. ค่ะ** จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:35:05

ความคิดเห็นที่ 3 โปรแกรมเดือน ม.ค. ของเชลซี, แมนฯ ยูฯ และลิเวอร์พูล เชลซี 09  Sat    EPL : Hull Cityl v Chelsea   12.45  (UK Time) 16  Sat    EPL : Chelsea v Sunderland   15.00  (UK Time) 27  Wed    EPL : Chelsea Villa v Birmingham City   19.45  (UK Time) 30  Sat    EPL : Burnley v Chelsea   17.30  (UK Time) แมนฯ ยูฯ 09  Sat    EPL : Birmingham v Manchester United   17.30  (UK Time) 16  Sat    EPL : Manchester United v Burnleyl   15.00  (UK Time) 26  Tue    EPL : Manchester United v Hull   20.00  (UK Time) 31  Sun    EPL : Arsenal v Manchester United   16.00  (UK Time) ลิเวอร์พูล 10  Sun    EPL : Liverpool v Tottenham Hotspur   16.00  (UK Time) 16  Sat    EPL : Stoke City v Liverpool   12.45  (UK Time) 26  Tue    EPL : Wolverhampton Wanderers v Liverpool   20.00  (UK Time) 30  Sat    EPL : Burnley v Bolton Wanderers   15.00  (UK Time) *ข้อมูลจากเว็บไซต์แต่ละสโมสร อาจมีผิดพลาดได้ เนื่องจากตาลาย จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:35:20

ความคิดเห็นที่ 4 สถิติการยิงประตู 1.  เซสก์ ฟาเบรกาส  9  (EPL 6, UCL 3) 2.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  8  (EPL 7, UCL 1) 3.  อังเดร อาร์ชาวิน  6  (EPL 4, UCL 2) 4.  โธมัส แฟร์มาเล่น  5  (EPL 4, UCL 1) 5.  เอดูอาร์โด้  4  (EPL 2, UCL 2)   6.  วิลเลี่ยม กัลลาส  4  (EPL 3, UCL 1) 7.  อาบู ดิยาบี้  4  (EPL3, UCL 1) 8.  นิคลาส เบนท์เนอร์  3  (EPL 1, UCL 1, Carling 1) 9.  เอ็มมานูเอล เอบูเอ้  1  (UCL 1) 10. เดนิลสัน  1  (EPL) 11. อารอน แรมซีย์  1  (EPL) 12. โทมัส โรซิคกี้  1  (EPL) 13. ซานเชซ วัตต์  1  (Carling) 14. คาร์ลอส เวล่า  1  (Carling) 15. ธีโอ วัลคอตต์  1  (EPL) 16. ฟราน เมริด้า  1  (Carling) 17. ซามีร์ นาสรี่  1  (UCL 1) * นับรวมเพลย์ออฟ UCL ด้วย (กัลลาส 1, เอดูอาร์โด้ 1, เอบูเอ้ 1, อาร์ชาวิน 1) **ประตู 3-0 ในเกมกับวีแกน เว็บพรีเมียร์ลีกให้เครดิตดูดู้เป็นคนทำประตู (ไม่มีเครดิตคน assist) http://www.premierleague.com/page/MatchReports/0,,12306~47541,00.html ------------------------------------------------------------------------------------------------ สถิติการ assist 1.  เซสก์ ฟาเบรกาส  12 (EPL 10, UCL 2) 2.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  8  (EPL 7, UCL 1) 3.  อังเดร อาร์ชาวิน  4  (EPL 1, UCL 3) 4.  โทมัส โรซิคกี้  3  (EPL) 5.  บาการี่ ซานญ่า  3 (EPL) 6.  อารอน แรมซี่ย์  3 (EPL 1, UCL 1, Carling 1) 7.  เอดูอาร์โด้  3 (EPL 2, UCL 1) 8.  อาบู ดิยาบี้  2 (UCL) 9.  เอ็มมานูเอล เอบูเอ้  2 (EPL) 10.  อเล็กซ์ ซง  2 (EPL 1, UCL 1) 11. มานูเอล อัลมูเนีย  1  (EPL) 12. กาแอล กลิชี่  1 (UCL) 13. โธมัส แฟร์มาเล่น  1 (EPL) 14. เดนิลสัน  1 (EPL) 15. นิคลาส เบนท์เนอร์  1 (EPL) 16. เคร็ก อีสต์มอนด์  1  (Carling) 17. วิลเลี่ยม กัลลาส  1  (UCL) * นับรวมเพลย์ออฟ UCL ด้วย (เซสก์ 1, กลิชี่ 1, ดิยาบี้ 1, แรมซี่ย์ 1) **เกมกับเวสต์แฮม ให้เครดิตซานญ่าเป็นคน assist ให้ฟาน เพอร์ซี่ ***เกมคาร์ลิ่งคัพรอบ 4 ให้เครดิตแรมซี่ย์กับอีสต์มอนด์เป็นคน assisit ****เกมกับสเปอร์ส ให้เครดิตฟาน เพอร์ซี่กับซานญ่าเป็นคน assist (ซานญ่า 2) *****2 ประตู own goal ของวูลฟ์ ให้เครดิตเซสก์กับดูดู้เป็นคน assist ------------------------------------------------------------------------------------------------ สถิติใบเหลือง 1.  อเล็กซ์ ซง  4 (EPL) 2.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  4 (EPL 2, UCL 2) 3.  เอ็มมานูเอล เอบูเอ้  4 (EPL 3, UCL 1) 4.  กาแอล กลิชี่  3 (UCL) 5.  บาการี่ ซานญ่า  2 (EPL) 6.  วิลเลี่ยม กัลลาส  2 (EPL 2) 7.  อาบู ดิยาบี้  1 (EPL) 8.  เดนิลสัน  1 (UCL) 9.  มานูเอล อัลมูเนีย  1 (EPL) 10. ฟิลิปป์ เซนเดรอส  1  (Carling) 11. อารอน แรมซี่ย์  1  (Carling) 12. เซสก์ ฟาเบรกาส  1 (UCL) 13. คาร์ลอส เวล่า  1 (UCL) 14. วีโต้ มานโนเน่  1 (EPL) 15. โธมัส แฟร์มาเล่น  1 (EPL) 16. อังเดร อาร์ชาวิน  1 (EPL) 17. คีแรน กิ๊บส์  1 (EPL) * นับรวมเพลย์ออฟ UCL ด้วย (กลิชี่ 1, เอบูเอ้ 1, เดนิลสัน 1) จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:35:52

ความคิดเห็นที่ 5 รวมกระทู้คุณนักมายากลแห่งรัสเซีย [Emirates Cup 09] == เก็บภาพบรรยากาศเกม At.Madrid - PSG / Arsenal - Rangers จากเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมมาฝากครับ == http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2009/08/S8156914/S8156914.html [Arsenal Members Day 09].....เก็บภาพนักเตะอาร์เซน่อลฝึกซ้อมเมื่อเช้านี้มาฝากครับ.... http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2009/08/S8165114/S8165114.html == เก็บภาพบรรยากาศเกมเปิดฤดูกาล Everton - Arsenal จากสนามกูดิสัน ปาร์คมาฝากครับ == http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2009/08/S8208558/S8208558.html [Arsenalisation Project] == เก็บภาพบรรยากาศก่อนเกม Arsenal - Portsmouth จากเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมมาฝากครับ == http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2009/08/S8231091/S8231091.html == เก็บภาพบรรยากาศเกมคาร์ลิ่งคัพ Arsenal - W.B.A. จากเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมมาฝากครับ == http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S8352423/S8352423.html == เก็บภาพบรรยากาศเกมคาร์ลิ่งคัพ Arsenal - Liverpool จากเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมมาฝากครับ == http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S8484790/S8484790.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:36:34

ความคิดเห็นที่ 6 โปรแกรมทีมชาติ ทีมชาติฝรั่งเศส - วิลเลี่ยม กัลลาส, บาการี่ ซานญ่าม อาบู ดิยาบี้ 14 Sat  World Cup Qualifying Play-Off : Republic of Ireland v France 18 Wed  World Cup Qualifying Play-Off : France v Republic of Ireland, (Liam Brady อยู่ในทีมสต๊าฟโค้ชของไอร์แลนด์) ทีมชาติรัสเซีย - อังเดร อาร์ชาวิน 14 Sat  World Cup Qualifying Play-Off : Russia v Slovenia 18 Wed  World Cup Qualifying Play-Off : Slovenia v Russia ทีมชาติแคมเมอรูน - อเล็ก ซง 14 Sat  World Cup Qualifier : Morocco v Cameroon ทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ - เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ 14 Sat  World Cup Qualifier : Ivory Coast v Guinea 18 Wed  Friendly : Germany v Ivory Coast ทีมชาติสเปน - เซสก์ ฟาเบรกาส 14 Sat  Friendly : Spain v Argentina 18 Wed  Friendly : Austria v Spain ทีมชาติโครเอเชีย - เอดูอาร์โด้ 14 Sat  Friendly : Croatia v Liechtenstein ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 14 Sat  Friendly : Italy v Netherlands 18 Wed  Friendly : Netherlands v Paraguay ทีมชาติเบลเยี่ยม - โธมัส แฟร์มาเล่น 14 Sat  Friendly : Belgium v Hungary 18 Wed  Friendly : Belgium v Qatar ทีมชาติเวลส์ - อารอน แรมซี่ย์ 14 Sat  Friendly : Wales v Scotland ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ - ฟิลิป เซนเดอรอส 14 Sat  Friendly : Switzerland v Norway ทีมชาติโปแลนด์ - วอจเซียจ ซิซเซสนี่ 14 Sat  Friendly : Poland v Romania 18 Wed  Friendly : Poland v Canada ทีมชาติอังกฤษชุดยู21 - คีแรน กิ๊บส์ 14 Sat  UEFA Under-21 Championships Qualifier : England v Portugal 17 Tue  UEFA Under-21 Championships Qualifier : Lithuania v England ทีมชาติอิตาลีชุดยู21 - วีโต้ มานโนเน่ 13 Fri  UEFA Under-21 Championships Qualifier : Hungary v Italy 17 Tue  UEFA Under-21 Championships Qualifier : Luxembourg v Italy จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:37:03

ความคิดเห็นที่ 7 ข่าวประจำวันที่ 11/11/2009 *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-* เชสยันฟอร์มดีไม่เกี่ยวรับบทกัปตันปืนโต เชส ฟาเบรกาส กองกลางฟอร์มแรง อาร์เซน่อล ยันผลงานโดดเด่นสะดุดตาในซีซั่นนี้ ไม่เกี่ยวกับการได้รับมอบหมายให้สวมปลอกแขนกัปตันทีม แต่เป็นผลมาจากการที่บรรดาเพื่อนร่วมทัพ "ไอ้ปืนใหญ่" ต่างไว้ใจ และพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ยามอยู่ในสนาม         เชส ฟาเบรกาส มิดฟิลด์ชาวสเปน เป็นหนึ่งในนักเตะที่มีผลงานส่วนตัวเข้าขั้นยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นผลพวงจากการที่ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือมาดเนี้ยบ ปรับมาวางระบบการเล่นของ อาร์เซน่อล เป็น 4-3-3 ในซีซั่นนี้ อย่างไรก็ดี อดีตเด็กปั้น บาร์เซโลน่า ยืนยันว่า การได้รับมอบหมายให้เป็นกัปตันทีม ไม่ได้เกี่ยวกับผลงานสุดร้อนแรง ทั้งยิงทั้งจ่ายเป็นว่าเล่นของตนแต่อย่างใด กองกลางวัย 22 กะรัต อ้างว่า การได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าทีม มีผลกับฟอร์มการเล่นของตัวเองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น "การเป็นกัปตันทีมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรผมเลยจริงๆ ด้วยความสัตย์จริง เพื่อนร่วมทีมของผมทำงานที่ยอดเยี่ยมให้กับผมเช่นเดียวกัน พวกเขาแสดงให้ผมเห็นว่า เขาเชื่อใจ และช่วยเหลือผมในทุกอย่าง มันไม่เคยมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นเลย ดังนั้นผมเลยมีความสุขกับสิ่งต่างๆ ที่กำลังดำเนินไปในตอนนี้จริงๆ" "ไอ้ปืนใหญ่" ทำคะแนนตามหลัง เชลซี ทีมจ่าฝูงอยู่ 5 คะแนน แต่ยังแข่งน้อยกว่า 1 นัด ซึ่ง ฟาเบรกาส เตือนเพื่อนร่วมทีมให้รักษาฟอร์มที่ไหลลื่นเอาไว้ให้ได้ต่อไป "จากความกลัวที่ผลงานอันยอดเยี่ยมจะยุติลง ทำให้พวกเรามีสมาธิอย่างเต็มที่ต่อไป เพราะเราต้องการคว้าแชมป์มาครอง และเรารู้ว่า เราต้องเดินหน้าต่อไป" http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/091111_068.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:42:01

ความคิดเห็นที่ 8 ดูดู้มั่นใจซีซั่นนี้ปืนมีแชมป์ติดมือชัวร์ เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา หัวหอกร่างเล็กอาร์เซน่อล สุดมั่นใจ พลพรรค "ไอ้ปืนใหญ่" จะคว้าถ้วยรางวัลมาประดับตู้โชว์ในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ได้แน่ในซีซั่นนี้ คุยฟุ้ง "เดอะ กันเนอร์ส" กำลังดีวันดีคืน ขณะที่ตนก็ไม่มีอาการเดี้ยงมากวนใจอีกต่อไปแล้ว       เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา กองหน้าทีมชาติโครเอเชีย เชื่อมั่นว่า อาร์เซน่อล รองจ่าฝูงแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะมีลุ้นคว้าแชมป์ลีกเมืองผู้ดีมาครองอย่างเต็มตัว และน่าจะยุติช่วงเวลาอันร้างไร้ถ้วยรางวัลลงได้ หลังจากจบฤดูกาลนี้ ในเวลานี้ "เดอะ กันเนอร์ส" รั้งอันดับ 2 บนตาราง พรีเมียร์ลีก โดยมีคะแนนตามหลัง เชลซี อยู่ 5 แต้ม แต่ลงสนามน้อยกว่า 1 นัด โดยพวกเขาจะมีคิวลงปะทะแข้งกับลูกทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ช่วงปลายเดือนนี้ ดาวยิงเชื้อสายแซมบ้า กล่าวว่า "พวกเรากำลังพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก และรู้สึกมีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น บรรยากาศภายในทีมเป็นไปด้วยดี พวกเราสนิทกันมากๆ เรากำลังทำได้ดีในตอนนี้ และผมหวังว่า เราจะสามารถสร้างความประหลาดใจครั้งใหญ่ได้ในปีนี้" เอดูอาร์โด้ ประสบปัญหาบาดเจ็บรบกวนมาตลอด แต่เขาก็ยืนยันว่า กลับมาอยู่ในสภาพที่ฟิตสมบูรณ์พร้อมช่วยล่าตาข่ายให้ "ไอ้ปืนใหญ่" ได้แล้ว "ผมกำลังรู้สึกดี ตอนเริ่มต้นฤดูกาล ผมมีอาการเจ็บเล็กน้อย แต่ผมไม่เป็นอะไรแล้ว และพร้อมลงช่วยทีมให้ขึ้นไปอยู่บนหัวตาราง เช่นเดียวกับการผ่านเข้ารอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก" http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/091111_070.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:43:51

ความคิดเห็นที่ 9 ตะลึง!เบนท์เนอร์ซิวแข้งโคนมยอดเยี่ยมแห่งปี เก่งไร้เทียมทานจริงๆ สำหรับนิคลาส เบนท์เนอร์ ศูนย์หน้าร่างโย่งของอาร์เซนอลที่ตอนนี้ชนะการโหวตให้เป็นนักเตะเดนมาร์กยอดเยี่ยมแห่งปี 2009  โดยดาวรุ่งวัย 21 ปีจะเข้ารับรางวัลจันทร์หน้าที่โคเปนฮาเกน เชื่อกันว่าผลงานที่ทำให้เบนท์เนอร์ชนะการโหวตนี้น่าจะมาจากผลงานในทีมชาติที่ทำให้ทัพโคนมได้เล่นฟุตบอลโลก 2010 แล้วเรียบร้อย นอกจากนั้น ประตูที่ยิงโปรตุเกสในเกมที่เสมอกัน 1-1 เมื่อเดือนกันยายน ยังได้รับการยกย่องให้เป็นประตูยอดเยี่ยมแห่งปีอีกด้วย "ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้แฟนๆโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีนี้" เบนท์เนอร์กล่าวแสดงความรู้สึกปลื้มปิติ "ผมอยากจะขอบคุณแฟนบอลทุกคนที่โหวตให้กับผม" "ผมอยากจะขอบคุณพ่อแม่ ที่เชื่อมั่นในตัวผมมาตลอด และผมก็อยากจะขอบคุณโค้ช และเพื่อนร่วมทีมที่ทำให้ผมมีวันนี้" นอกจากนั้น มาร์เท่น โอลเซ่น ก็ได้รับรางวัลโค้ชแห่งปีด้วย ตลอดจนปีเตอร์ ชไมเคิล อดีตนายทวารแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ได้รับการขึ้นชื่อให้อยู่ในอันดับ 6 ของหอเกียรติยศของวงการฟุตบอลเดนมาร์กอีกด้วย http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=206591 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:47:50

ความคิดเห็นที่ 10 ตัวเลือกเยอะ!เบนด์เนอร์ขอขึ้นเขียง กองหน้า "ปืนใหญ่" อาร์เซนอลทดแทนกันล้นทีม ล่าสุดนิคลาส เบนด์เนอร์แข้งทีมชาติเดนมาร์กเตรียมเข้ารับการผ่าตัดขาหนีบ   ดาวยิงวัย 21 ปีได้รับบาดเจ็บขาหนีบในเกมต้อนสเปอร์ส 3-0 เมื่อเดือนที่แล้วและคาดว่าจะต้องพักรักษาตัวราวหนึ่งเดือน "ผมคงจะต้องเข้ารับการผ่าตัด ผมไม่รู้ว่าจะต้องพักนานแค่ไหน" ตอนแรกปัญหารบาดเจ็บครั้งนี้เป็นแค่อาการตึง แต่หากเป็นที่ขาหนีบเบนด์เนอร์จะต้องพักยาวถึงเดือนมกราคมเลยทีเดียว http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=206516 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:48:04

ความคิดเห็นที่ 11 เบนท์เนอร์จ่อขึ้นเขียงผ่าโคนขาหนีบ นิคลาส เบนท์เนอร์ หัวหอกอาร์เซน่อล เตรียมเข้าผ่าตัดโคนขาหนีบ หลังได้รับบาดเจ็บจากเกมชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คาดจะหมดสิทธิ์เล่นเป็นเวลา 1 เดือน   นิคลาส เบนท์เนอร์ กองหน้า "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก เตรียมเข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บที่โคนขาหนีบ จากการรายงานเมื่อวันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ดาวเตะทีมชาติเดนมาร์ก วัย 21 ปี ได้รับบาดเจ็บจากเกมดาร์บี้แมตช์ที่ อาร์เซน่อล ถล่ม "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3-0 ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และคาดว่าจะต้องพักรักษาตัว 1 เดือน เบนท์เนอร์ กล่าวกับเดลี่ มิร์เรอร์ ว่า "ผมจะเข้ารับการผ่าตัด ผมไม่รู้ว่าผมจะต้องพักนานแค่ไหน" ในตอนแรกเข้าใจกันว่าการบาดเจ็บของ เบนท์เนอร์ เป็นอาการกล้ามเนื้อตึง แต่หากเป็นอาการไส้เลื่อนเขาจะหมดสิทธิ์ลงเล่นจนถึงเดือนมกราคมเลยทีเดียว http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/091110_169.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:48:28

ความคิดเห็นที่ 12 ปาฏิหารย์มีจริงพี่บี้ฟื้นคืนชีพมีลุ้นช่วยตราไก่ซะงั้น รายงานข่าวจากประเทศฝรั่งเศส ของสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า อาบู ดิยาบี้ มิดฟิลด์อนาคตไกลของอาร์เซน่อล ยังไม่หมดโอกาสที่จะลงช่วยทีมชาติฝรั่งเศสในการเตะรอบเพลย์ออฟกับทีมชาติไอร์แลนด์ในสุดสัปดาห์นี้ เพื่อลุ้นคว้าตั๋วเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกสุดท้ายต่อไป ก่อนหน้าอาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อลได้ออกมาเปิดเผยว่าดิยาบี้ อาจจะต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บที่บริเวณต้นขาเป็นเวลา 3 สัปดาห์ หลังจากที่มิดฟิลด์ร่างโย่งได้รับบาดเจ็บระหว่างเกมที่พบกับวูล์ฟแฮมตัน เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามทางโฆษกของสมาคมลูกหนังฝรั่งเศสเปิดเผยว่า "การทดสอบของเขาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเป็นอะไรที่น่าพอใจ" "เขายังคงต้องการพักฟื้น แต่เขายังไม่หมดโอกาสเล่นในรอบเพลย์ออฟ" "เขายังคงอยู่กับเราที่นี่ (แคมป์ฝึกซ้อมของทีมชาติฝรั่งเศส)" http://gunnerthailand.com/board2/index.php?showtopic=3089 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:59:45

ความคิดเห็นที่ 13 น้ำหอมยันดิยาบี้มีลุ้นฟาดแข้งไอริช อาบู ดิยาบี้ มิดฟิลด์ฝรั่งเศส ยังมีโอกาสลงหวด ไอร์แลนด์ ในเกมฟุตบอลโลก รอบเพลย์ออฟ วันเสาร์นี้ แม้มีอาการเจ็บน่องรบกวน หลังผลตรวจล่าสุดระบุ เจ้าตัวมีอาการดีขึ้นมาก ไม่จำเป็นต้องถอนทัพ "ตราไก่" แต่อย่างใด อาบู ดิยาบี้ กองกลางตัวเก่งทีมชาติฝรั่งเศส ไม่จำเป็นต้องถอนตัวออกจากเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบเพลย์ออฟ กับ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ แม้ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ต้นสังกัดของเจ้าตัวจะประเมินว่า ดาวเตะวัย 23 ปี มีอาการเจ็บน่อง และคงต้องร้างสนามไปนานถึง 3 สัปดาห์ก็ตาม ฟร็องซัวส์ มานาร์โด้ โฆษกสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส กล่าว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า "ผลตรวจของเขาเมื่อช่วงเช้านี้น่าพอใจมาก เขายังต้องให้แพทย์ดูแลอาการต่อไป แต่เขาไม่พลาดรอบเพลย์ออฟแน่นอน เขายังอยู่กับเราในแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อม" เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สื่อแดนน้ำหอมอ้างคำพูด เวนเกอร์ ที่ระบุว่า ดิยาบี้ คงต้องพักราว 3 สัปดาห์ เนื่องจากมีอาการเจ็บน่อง จนถูกเปลี่ยนตัวออกในนาที 23 ในเกม พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุด ที่ "เดอะ กันเนอร์ส" ไล่ถล่ม วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 4-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สำหรับ เวนเกอร์ และ เรย์มงด์ โดเมเน็ค กุนซือทีมชาติฝรั่งเศส มีปัญหาไม่ลงรอยกันมาตลอด โดยทั้งคู่เคยปะทะคารมกันมาแล้วเกี่ยวกับเรื่องสภาพความฟิตของ เธียร์รี่ อองรี หัวหอก อาร์เซน่อล เมื่อปี 2007 ในฤดูกาลนั้นฤดูกาลของ อองรี ต้องปิดฉากก่อนกำหนด เพราะมีอาการเจ็บท้องและขาหนีบ ซึ่ง เวนเกอร์ กล่าวโทษ โดเมเน็ค เป็นต้นเหตุฐานใช้งาน "ติตี้" หนักเกินควร ทั้งนี้ ฝรั่งเศส มีคิวยกทัพบุกเยือนกรุงดับลิน ในเกมนัดแรก วันเสาร์ที่ 14 พ.ย.นี้ ก่อนกลับมาเปิดรัง สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ รอพบ "ยักษ์เขียว" ในเกมนัดสอง วันพุธที่ 18 พ.ย.นี้   http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/091111_012.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:59:58

ความคิดเห็นที่ 14 เวนเกอร์มั่นใจผ่าวิกฤตพฤศจิกาโหดได้แน่นอน อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือสมองใสของไอ้ปืนใหญ่ออกมาคาดหวังว่าทีมของเขาจะสามารถลบคำสาปได้ในการเล่นในเดือนพฤศจิกายน โดยก่อนหน้านี้ทีมของเวนเกอร์เคยฟอร์มตกไปในเดือนนี้จนทำให้พวกเขาต้องพลาดการลุ้นแชมป์ในที่สุด เวลานี้เหล่ายังกันส์ภายใต้การดูแลของเวนเกอร์ขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูงของลีกเรียบร้อยแล้ว กุนซือเลือดน้ำหอมหวังว่าทีมของพวกเขาจะจบเดือนพฤศจิกายนนี้ด้วยฟอร์มที่สุดยอดให้จงได้ "มันเป็นธรรมเนียมไปแล้วที่เดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่ไม่ดีกับพวกเราเอาซะเลย คือจริงๆ แล้วผมจะบอกว่านักเตะเราเจ็บในเดือนนี้กันเยอะน่ะ ในอดีตจะเป็นแบบนี้ประจำถ้าผมจำไม่ผิด" "มันขึ้นอยู่กับโปรแกรมการแข่งขันด้วยนะ คือคุณมีเกมที่หนัก 2 ถึง 3 เกมในเดือนพฤศจิกายน แน่นอนคุณจะต้องเล่นในเกมแชมป์เปี้ยนลีกและเกมทีมชาติที่ต้องรับผิดชอบ" "ตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ในช่วงพักและนักเตะทุกคนก็บินไปรับใช้ชาติ ดังนั้นผมหวังว่าเมื่อพวกเขาบินกลับมาพวกเขาจะกลับมาด้วยสภาพที่สมบูรณ์นะ  หลังจากนั้นเราก็จะไปเยือนซันเดอร์แลนด์ละนั่นเป็นเกมเยือนที่หนักเอาการเลยล่ะ" เวนเกอร์ กล่าว http://gunnerthailand.com/board2/index.php?showtopic=3096 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:01:34

ความคิดเห็นที่ 15 กัปตันเอเตียนพร้อมย้ายมาปืนใหญ่ แต่รอให้ถึงเวลาก่อน บลาซ์ มาตุยดี้ มิดฟิลด์ตัวรับดาวรุ่งของสโมสรแซงต์เอเตียน ที่ตกเป็นเป้าหมายของอาร์เซน่อล ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอนเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา กัปตันทีมคนใหม่ของสโมสรแซงต์เอเตียน เพิ่งจรดปากกาต่อสัญญากับทางต้นสังกัดออกไปเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้เขาจะอยู่ค้าแข้งที่นี้ต่อไปอีกอย่างน้อย 3 ปี อย่างไรก็ตามมิดฟิลด์วัย 22 ปีก็ยอมรับว่าความท้าทายที่ได้เล่นกับอาร์เซน่อล มันก็เป็นอะไรที่ดึงดูดเขาเหลือเกิน แต่เมื่อถึงเวลาเขาจะคิดเรื่องย้ายไปอยู่กับอาร์เซน่อลอีกครั้งแน่นอน มาตุยดี้เปิดเผยว่า "วันนี้ผมมีความสุขที่ได้อยู่ที่แซงต์เอเตียน ผมไม่ต้องการออกจากที่นี้ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา" "แซงต์เอเตียน ยังคงเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นเกียรติยศอย่างยิ่งที่ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมด้วย" "อาร์เซน่อล? แน่นอนผมไม่ได้ปิดบังมันเป็นความท้าทายที่ดึงดูดผมมาก อาร์เซน่อลเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ แต่วันนี้ผมอยู่แซงต์เอเตียน และผมมีเป้าหมายที่จะประสบความสำเร็จที่นี่" "เราจะดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต เราจะคิดเกี่ยวกับอาร์เซน่อลอีกครั้งเมื่อมันถึงเวลา" "ผมจะเข้าพบกับประธานสโมสรในเร็ววันนี้เพื่อพูดคุยถึงเรื่องอนาคต แต่ผมไม่ได้ตัดสินใจเพียงลำพังแน่นอน" http://gunnerthailand.com/board2/index.php?showtopic=3099 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:03:27

ความคิดเห็นที่ 16 ปืนเล็งเป้าดึงมิซิโมวิชจากหมาป่า   ซเวซดาน มิซิโมวิช เพลย์เมคเกอร์ดาวรุ่งของทีม "หมาป่า" โวล์ฟสบวร์ก ตกเป็นข่าวกับทีม "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล แม้ว่าเจ้าตัวจะยืนยันว่าไม่รู้เรื่องด้วยก็ตาม มีรายงานข่าวปรากฏในสื่ออังกฤษว่า อาร์เซนอล กำลังให้ความสนใจในตัวกองกลางสายเลือดบอสเนียนรายนี้ ซึ่งอยากจะได้ตัวไปแทนที่ของ เซสก์ ฟาเบรกาส ที่อาจจะย้ายกลับไปสเปน สำหรับค่าตัวของ มิซิโมวิช คาดว่าน่าจะอยู่ที่ราว 7 ล้านยูโร แต่ทางด้าน เจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่ได้รับการติดต่อมาจากใคร "ไม่ได้มีใครติดต่อผมมาถึงเรื่องการย้ายทีม ผมไม่ได้สนใจข่าวลือการย้ายทีมในเวลานี้" http://football.impaqmsn.com/content.aspx?id=49616&ch=253 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:07:59

ความคิดเห็นที่ 17 เบรเมนยังนิ่งแม้มีข่าวโอซิลจ่อย้ายทีม แวร์เดอร์ เบรเมน เผยไม่กังวลใจกับข่าว เมซุต โอซิล กองกลางตัวเก่ง อาจย้ายทีมในเร็วๆ นี้ หลังมีรายงาน อาร์เซน่อล อยากได้ตัวไปร่วมทีม "นกนางนวล" แวร์เดอร์ เบรเมน สโมสรแห่งศึกบุนเดสลีกา ออกมายืนยันเมื่อวันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ว่า พวกเขาไม่รู้สึกกังวลใจแต่อย่างใดกับรายงานข่าวที่ว่า เมซุต โอซิล มิดฟิลด์ตัวเก่ง อาจตัดสินใจย้ายจากถิ่นเวเซอร์ สตาดิโอน ในเร็วๆ นี้ ดาวเตะวัย 21 ปี ทำผลงานให้กับ เบรเมน ได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ และเหลือสัญญากับต้นสังกัดอีกไม่ถึง 2 ปี ทำให้มีข่าวออกมาว่า อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อยากได้ตัวไปร่วมทีม อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เคล้าส์ อัลลอฟส์ ผู้จัดการทั่วไป เบรเมน ได้ออกมายืนยันว่า พวกเขาไม่ได้รู้สึกกังวลใจกับข่าวที่ออกมาแต่อย่างใด โดยกล่าวว่า "เราต้องรับมือกับข่าวลือทั้งหมดเกี่ยวกับอนาคตของ เมซุต ผมไม่กังวลใจกับมัน เรายังคงผ่อนคลายกับเรื่องนี้ ผมเพียงหวังว่า เมซุต และเอเยนต์ของเขาจะสงบนิ่งด้วยเช่นกัน" "มันน่าจะดีกว่านี้ถ้ามีการต่อสัญญาของเขาออกไป แต่จนถึงตอนนี้มันยังไม่มีการเจรจาและไม่มีการตกลงว่าจะมีการพูดคุยเกี่ยวกับสัญญาระหว่างสโมสรและ เมซุต โอซิล ขึ้นเมื่อไหร่" อัลลอฟส์ กล่าว http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/091110_182.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:08:46

ความคิดเห็นที่ 18 มีเคือง!ผีจ่อปาดหน้าปืนซิวชามัคห์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หวังปาดหน้า อาร์เซน่อล ในการคว้าตัว มารูยาน ชามัคห์ ดาวยิง บอร์กโดซ์ มาเสริมทัพ หลัง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประทับใจฟอร์มดาวเตะโมร็อกโก และหวังใช้ความสัมพันธ์ที่ดีกับ โลร็องต์ บล็องก์ เปิดทางให้การเจรจาราบรื่นอีกด้วย "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก กลายเป็นสโมสรล่าสุดที่สนใจจะคว้าตัว มารูยาน ชามัคห์ กองหน้าทีมชาติโมร็อกโก ของ บอร์กโดซ์ แชมป์ ลีก เอิง ฤดูกาลที่ผ่านมา ไปร่วมทีม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ อาร์เซน่อล เคยเกือบจะได้ตัวเมื่อช่วงซัมเมอร์ แต่ไม่สามารถตกลงค่าตัวกับต้นสังกัดได้สำเร็จ "เดลี่ เมล์" หนังสือพิมพ์รายวันเล่มดังเมืองผู้ดี รายงานเมื่อวันอังคารที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า ฟอร์มการเล่นของดาวยิงวัย 25 ปี ซึ่งกำลังจะหมดสัญญาในช่วงปิดฤดูกาล สร้างความประทับใจให้กับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" ที่กำลังกังวลกับฟอร์มฝืดในแนวรุกของทีม ทำให้สนใจดึงมาร่วมทีมตัดหน้า อาร์เซน่อล, ซันเดอร์แลนด์ และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ตามสนในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา นอกจากนั้น ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง เฟอร์กูสัน กับ โลร็องต์ บล็องก์ กุนซือ บอร์กโดซ์ ซึ่งเคยเป็นลูกทีม "ปีศาจแดง" มาก่อน ยังน่าจะทำให้โอกาสดึงตัวดาวเตะโมร็อกโก มาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ง่ายยิ่งขึ้นไปอีกด้วย http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/091110_210.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:09:28

ความคิดเห็นที่ 19 ผีแจมปืนขอตามล่า"ชามัค" "ปีศาจแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขอร่วมวงกระโดดเข้าตลาดสดเบียดแย่งมารูเน่ ชามัคกองหน้าตัวเก่งของบอร์กโดซ์หลังกำลังจะหมดสัญญาในซัมเมอร์หน้านี้ หอกทีมชาติโมร็อกโกเคยถูกซันเดอร์แลนด์, เวสต์แฮม และอาร์เซนอลตามล่าเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาแต่สุดท้ายวืดกันถ้วนหน้า อย่างไรก็ตามฟอร์มที่กำลังมาแรงของแข้งวัย 25 ปีทำให้เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันถึงกับปิ๊งและได้ส่งแมวมองไปซุ่มดูเกมพบลีลล์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยแม้ทำผลงานได้ตามมาตรฐานแต่ลงท้ายพ่ายไป 2-0 ชามัคกำลังจะหมดสัญญาในซัมเมอร์หน้า ยังเป็นที่สนใจจากเชลซีและเอฟเวอร์ตันอีกด้วย http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=206508 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:09:43

ความคิดเห็นที่ 20 เฟล็ตช์ฉุนเวนเกอร์ยุเปาจับผิด   ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ กองกลางทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่าการออกมาพูดของ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ทำให้โดนผู้ตัดสินจ้องจับผิดกว่าเดิม เฟล็ตเชอร์ ออกมาโวยเรื่องนี้หลังจากที่ทำเสียฟาวล์ในช่วงนาทีที่ 76 ทั้งที่ไม่ได้เป็นการฟาวล์อะไร จนนำไปสู่การเสียประตูของทีมในเกมกับ เชลซี และแพ้ไปในที่สุด โดยเวนเกอร์ ออกมาพูดเสียดสีแบบอ้อมๆ ในช่วงก่อนหน้านี้ "มันไม่ใช่การฟาวล์" "ผมรู้จังหวะนั้น ผมดูมันอีกครั้งแล้วด้วย ผมแย่งบอลได้และโคลก็กระโดดขึ้นลอยตัวกลางอากาศ ผู้ตัดสินก็เลยจับฟาวล์" "ผมคิดว่าเราได้เห็นกันแล้วว่าความเห็นของ เวนเกอร์ เริ่มส่งผลต่อผู้ตัดสิน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าละอายมาก" http://football.impaqmsn.com/content.aspx?id=49622&ch=253 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:11:28

ความคิดเห็นที่ 21 ซาญ่ารับตราไก่หนักดวลไอริชเพลย์ออฟ บาการี่ ซาญ่า ฟูลแบ็กจอมบุกของ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล รับเกมที่ ฝรั่งเศส พบ ไอร์แลนด์ ในศึกเวิลด์ คัพ 2010 รอบเพลย์ออฟ ในวันที่ 14 และ 18 พ.ย.นี้ พวกเขาคงต้องเจองานหนักแน่นอน เพราะพวกไอริชเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และมีนักเตะฝีเท้าดีหลายคนที่พัฒนาฟอร์มการเล่นอย่างต่อเนื่อง บาการี่ ซาญ่า แบ็กขวาเลือดเฟร้นช์ของ อาร์เซน่อล รองจ่าฝูงศึกพรีเมียร์ลีก ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ วิเคราะห์ฟอร์มของทีมชาติไอร์แลนด์ ที่ทำผลงานได้ดีแบบก้าวกระโดด โดยชี้เป็นเพราะนักเตะไอริชมีโอกาสได้ลงเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ซึ่งมีผู้เล่นเก่งๆ มากมาย ส่งผลให้ฝีเท้าพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไอร์แลนด์ ภายใต้การคุมทีมของ โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียน ทำผลงานได้ดีมาก โดยในศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก พวกเขาสามารถคว้าอันดับ 2 ของกลุ่ม 8 และได้สิทธิ์เพลย์ออฟกับ ฝรั่งเศส ในวันที่ 14 และ 18 พฤศจิกายนนี้ เพื่อซิวตั๋วไปลุยเวิลด์ คัพ ที่ประเทศแอฟริกาใต้ กลางปีหน้า ซาญ่า เริ่มวิเคราะห์ฟอร์มของ เชย์ กิฟเว่น นายทวารจอมเก๋าของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นรายแรก "ทุกทีมที่แข็งแกร่งต้องการผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยม จากมุมมองในเรื่องนี้ มันไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซื้อเขาจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ต้นซีซั่น เขาช่วยป้องกันประตูให้ แมนฯ ซิตี้ หลายครั้ง และเกือบทุกเกมเป็นการเซฟที่ยอดเยี่ยมมาก" จากนั้น ดาวเตะวัย 26 ปี กล่าวถึง จอห์น โอเชีย กองหลังสารพัดประโยชน์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่า "เขาคุ้นเคยกับการเล่นในเกมใหญ่ ความจริงแล้วเขาได้เล่นตัวจริงกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาตลอด เมื่อทีมชาติมีนักเตะหลายคนเหมือนกับเขา มันพิสูจน์แล้วว่าพวกเขาเป็นชาติที่แข็งแกร่ง เป็นเรื่องปกติที่พวกต้องพิสูจน์ว่าพวกเขาดีกว่า ฝรั่งเศส" ขณะเดียวกัน ซาญ่า ยอมรับว่าแนวรับของทัพ "ตราไก่" คงต้องพบกับงานหนักในการรับมือ ร็อบบี้ คีน หัวหอกตัวเก่งของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แน่นอน "เขาเป็นหนึ่งในนักเตะชั้นนำของทีมชุดนี้ เขาเป็นกองหน้าที่สมบูรณ์แบบ ทั้งฉลาด และเก่งมาก เขาเป็นยอดดาวยิงตัวจริง" http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/091111_097.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:13:21

ความคิดเห็นที่ 22 ไรท์ขู่ผีแดงแพ้ไม่ได้อีกแล้ว เอียน ไรท์ ตำนานลูกหนัง "ไอ้ปืนใหญ่" เชื่อ "ปีศาจแดง" หมดสิทธิ์แพ้แม้แต่นัดเดียว หลังบุกไปพ่าย "สิงโตน้ำเงินคราม" มาหมาดๆ ชี้พลพรรค "สิงห์บลูส์" คุณภาพคับแข้งทั้งทีม แถมคงเป็นเรื่องยากสุดๆ ที่จะได้เห็นลูกทีมของ คาร์โล อันเชลอตติ พลาดท่าเสียทีทีมระดับต่ำศักดินาซ้ำสามในฤดูกาลนี้ เอียน ไรท์ อดีตกองหน้า อาร์เซน่อล ยักษ์ใหญ่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงทรรศนะว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถพ่ายแพ้มากไปกว่านี้ได้อีกแล้วในฤดูกาลนี้ หลังจากที่เพิ่งบุกไปเสียท่าโดน เชลซี ล่อเป้าหวิว 1-0 ในเกมลีกที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ไรท์ ตวัดปากกาผ่านคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ เดอะ ซัน เมืองผู้ดี ฉบับวันอังคารที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า "หลังจากไปแพ้ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันอาทิตย์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่อาจแพ้ใครได้อีกแล้วในฤดูกาลนี้ แต่ เชลซี ยังแพ้ได้ในแมตช์ออกไปเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตราบใดที่พวกเขายังรักษาระยะห่างกับ ยูไนเต็ด เอาไว้ได้ตลอดทั้งซีซั่นนี้" "5 แต้มที่นำหน้าเป็นอะไรที่สำคัญยิ่งสำหรับสโมสรคุณภาพอย่าง เชลซี เพราะคุณคงไม่มีทางจะได้เห็นพวกเขาพลาดท่าให้กับทีมอย่าง แบล็คเบิร์น, ฮัลล์ หรือทีมที่เหลือ ใช่เลย พวกเขาสะดุดเป็นเหมือนกัน เมื่อไปแพ้ (แอสตัน) วิลล่า และ วีแกน (แอธเลติก) แต่นั่นก็เป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาจำเป็นต้องเล่นให้เหนียวแน่นรัดกุมไว้ก่อน และคงจะยากมากๆ ที่พวกเขาจะไปแพ้ทีมทำนองนั้นซ้ำอีกในฤดูกาลนี้" ตำนานดาวยิง "ไอ้ปืนใหญ่" ทิ้งท้าย http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/091110_245.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:18:31

ความคิดเห็นที่ 23 เทอร์รี่ขอพาสิงห์บลูส์นำจ่าฝูงผ่านคริสต์มาส จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีม เชลซี หวังพา "สิงห์บลูส์" รักษาตำแหน่งจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ไปให้ถึงช่วงคริสต์มาส เพื่อซ้ำรอย 2 ครั้งหลังสุดที่ได้แชมป์ ชี้ อาร์เซน่อล เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสุด ขณะที่ ลิเวอร์พูล น่าจะหมดลุ้นไปแล้ว เพราะเสียแต้มมากเกินไปในช่วงออกสตาร์ตซีซั่น จอห์น เทอร์รี่ ปราการหลังกัปตันทีม เชลซี ตั้งเป้าที่จะพาทีมรั้งตำแหน่งจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เพื่อซ้ำรอยฤดูกาล 2004-05 และ 2005-06 ที่คว้าแชมป์ได้ในบั้นปลาย พร้อมกันนี้ได้ตัดชื่อ ลิเวอร์พูล ออกจากสารบบเรียบร้อยแล้ว และชี้ว่า อาร์เซน่อล เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เนื่องจาก "เดอะ กันเนอร์ส" มีเกมรุกที่อันตรายสุดๆ เทอร์รี่ ที่เพิ่งโขกทำประตูชัยให้ "สิงห์บลูส์" เปิดบ้านเฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา กล่าวว่า "เราพลาดแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เพราะไม่สามารถชนะคู่แข่งสำคัญ แถมยังเสมอในบ้านหลายนัดอีกด้วย ดังนั้นเราจึงดีใจมากที่ชนะ ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด รวมถึงทุกเกมที่ลงเล่นในบ้านฤดูกาลนี้ การเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด มีผลกับเรามาก เพราะหมายถึงการนำ 5 แต้มก่อนจะถึงเดือนธันวาคม" "ตอนเราคว้าแชมป์ลีก 2 ครั้งหลังสุด เราอยู่ในตำแหน่งผู้นำตอนคริสต์มาส พวกเรามั่นใจกันมากและก็เชื่อว่าจะทำได้เหมือนตอนนั้นอีกครั้ง แต่ถึงอย่างไรก็จะยังวางใจไม่ได้ กระนั้นก็ดีผมคิดว่า ตอนนี้การลุ้นแชมป์เหลือเพียงแค่ 3 ทีมเท่านั้นคือ พวกเรา, แมนฯ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล" "ลิเวอร์พูล เสียแต้มมากเกินไปในช่วงออกสตาร์ตฤดูกาล คงเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะกลับมาสู่เส้นทางลุ้นแชมป์ในขณะที่อีก 3 ทีมกำลังเล่นได้อย่างคงเส้นคงวา ผมคิดว่า อาร์เซน่อล เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุด เพราะพวกเขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม และยิงประตูเป็นกอบเป็นกำ แต่น่าสนใจว่าพวกเขาจะทำอย่างไรหากมีปัญหาบาดเจ็บ และเกิดขาดนักเตะสำคัญขึ้นมา" กัปตันทีมชาติอังกฤษ ทิ้งท้าย http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/091110_173.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:20:08

ความคิดเห็นที่ 24 เอเยนต์ยันยาย่าไม่ย้ายซบเรือใบ เอเยนต์ยัน ยาย่า ตูเร่ กองกลาง บาร์เซโลน่า จะไม่ย้ายซบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แน่นอน เนื่องจากมีสโมสรที่ใหญ่กว่านั้นให้ความสนใจ รับนักเตะไอวอรี่โคสต์ไม่แฮปปี้กับ "เจ้าบุญทุ่ม" หลังไม่ได้รับโอกาสลงสนามเท่าที่ควรในซีซั่นนี้   ดิมิทรี เซลัค เอเยนต์ของ ยาย่า ตูเร่ มิดฟิลด์ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน ออกมายืนยันเมื่อวันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ว่า นักเตะในความดูแลของเขาจะไม่ย้ายไปร่วมทีม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อย่างแน่นอน เนื่องจากมีสโมสรที่ใหญ่กว่านั้นให้ความสนใจ ดาวเตะทีมชาติไอร์วอรี่โคสต์ ตกเป็นข่าวกับ แมนฯ ซิตี้ หลังจาก โคโล่ พี่ชายของเขาออกมาเผยว่าอยากให้น้องชายย้ายมาค้าแข้งร่วมกัน แต่ เซลัค ปฏิเสธเรื่องดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว พร้อมเผยว่า ตูเร่ ไม่มีความสุขในถิ่นคัมป์ นู และอาจพิจารณาถึงการย้ายทีม ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงก็มีหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ที่พร้อมยื่นข้อเสนอเข้ามา "ถ้า บาร์ซ่า ไม่ต้องการ ยาย่า ผมก็สามารถบอกชื่ออีก 8 สโมสร ซึ่งบางทีมเป็นระดับยักษ์ใหญ่ของโลก ที่สนใจจะเซ็นสัญญากับเขา สิ่งหนึ่งที่ผมสามารถพูดได้คือถ้าเขาไปจาก บาร์ซ่า เขาจะไม่ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แน่นอน เพราะเขาจะเซ็นสัญญากับสโมสรที่ใหญ่กว่านั้น" เซลัค กล่าว ตูเร่ ได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงเพียงแค่ 4 นัดเท่านั้นในฤดูกาลนี้ ทั้งที่เพิ่งจรดปากกาต่อสัญญาฉบับใหม่กับ บาร์ซ่า ออกไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา "เราเข้าใจว่าในทีมยักษ์ใหญ่มันจะมีการหมุนเวียนนักเตะ แต่ทำไมต้องเป็นนักเตะคนเดิมที่ถูกเปลี่ยนตัวอยู่ตลอด? ทำไม เกอิต้า เล่น 10 เกมแล้ว ยาย่า เล่น 4 เกม? เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเราเพิ่งต่อสัญญาใหม่กับ บาร์เซโลน่า แม้ว่าได้รับข้อเสนอจากสโมสรยักษ์ใหญ่ก็ตาม" "คำถามของผมก็คือทำไม บาร์ซ่า ถึงต้องการต่อสัญญาใหม่กับ ยาย่า? เพื่อให้เขานั่งเป็นตัวสำรอง? ผมไม่เข้าใจเลย เราเคารพการตัดสินใจของโค้ชและจะไม่พูดอะไรที่ขัดแย้งกับการตัดสินใจของเขา" เซลัค กล่าว http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/091110_213.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:21:15

ความคิดเห็นที่ 25 ราฟากลุ้มอีก!ยูน,ริเอร่าเจ็บพัก1เดือน ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล แสดงความกังวลกับอาการของ 2 มิดฟิลด์คนสำคัญ อัลเบิร์ต ริเอร่า และ ยอสซี่ เบนายูน หลังจากได้รับบาดเจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวออกในเกมที่เปิดรังแอนฟิลด์ เสมอ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ แบบลุ้นเหนื่อย 2-2 ในศึกพรีเมียร์ลีกนัดมันเดย์ไนต์ เมื่อวันจันทร์ที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา กุนซือชาวสแปนิช กลับมาอยู่ในสถานการณ์กดดันอีกครั้งหลังจากทีมไม่ชนะคู่แข่ง 4 เกมติดต่อกันในทุกถ้วย และมีผลงานชนะแค่เกมเดียวจาก 9 นัดหลังสุด เปิดเผยว่า ริเอร่า ปีกเลือดกระทิงดุ มีอาการเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากำเริบอีกครั้ง เช่นกันกับ เบนายูน ดาวเตะอิสราเอล "ริเอร่า เจอปัญหาเดียวกับก่อนหน้านี้ บางครั้งนักเตะอาจจะพร้อมลงเล่น แต่ไม่ฟิตเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เราคิดว่าเขาจะเล่นได้ แต่ท้ายที่สุดทุกคนก็เห็นว่ามันไม่ได้" "ยอสซี่ ได้รับบาดเจ็บที่เดียวกับ ริเอร่า ผู้เล่นบางคนต้องลงเล่นหลายเกมติดต่อกัน พวกเขาพยายามทำงานอย่างหนัก และมันทำให้คุณเผชิญความเสี่ยงแบบนี้เสมอ ผมคาดว่าทั้ง 2 คนอาจมีอาการฉีกขาด (แดเนียล) แอ็กเกอร์ ก็มีปัญหาที่หลังเช่นกัน แต่ไม่รุนแรงนัก แค่เขารู้สึกเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น" คาดริเอร่า, เบนายูนพักเป็นเดือน เดลี่ เมล์ แท็บลอยด์ดังแดนผู้ดี คาด อัลเบิร์ต ริเอร่า ปีกสแปนิช กับ ยอสซี่ เบนายูน จอมทัพยิว สองกองกลางคนสำคัญของ ลิเวอร์พูล น่าจะต้องพักแข้งกันไปไม่ต่ำกว่า 1 เดือน หลังบาดเจ็บจากเกมเสมอ เบอร์มิงแฮม 2-2 เมื่อวันจันทร์ ริเอร่า กับ เบนายูน ต้องถูกถอดออกระหว่างเกมที่แอนฟิลด์ โดย ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือทีมหงส์แดง ต่างมีปัญหาบริเวณเอ็นหลังหัวเข่าเหมือนๆ กัน และคงต้องพักแข้งไปสักระยะ เดลี่ เมล์ ระบุว่า ริเอร่า กับ เบนายูน จะไม่ได้เล่นแน่นอนในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันที่ 21 พ.ย., กับ เอฟเวอร์ตัน วันที่ 29 พ.ย. และเกมสำคัญกับ เดเบรเซน ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม รวมถึงก็ยังไม่แน่ว่า จะฟิตพร้อมเตะกับ แบล็คเบิร์น, ฟิออเรนติน่า และ อาร์เซน่อล ในช่วงเดือน ธ.ค. หรือไม่ด้วย เบนิเตซ ยังเจอปัญหาต่อเนื่อง เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กองกลางกัปตันทีม ยังไม่เต็มร้อยดี ส่วน เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงสแปนิช ก็อยู่ในความสุ่มเสี่ยงว่าจะต้องพักแข้งยาวนับเดือน http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/091111_090.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:22:10

ความคิดเห็นที่ 26 โพลล์จวกเอ็นก็อกทำเรื่องอัปยศ เกรแฮม โพลล์ อดีตผู้ตัดสินเจ้าของ "สามเหลืองรอบวง" ออกมาตำหนิดาวิด เอ็นก็อก กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติฝรั่งเศสทำตัวอัปยศ หลังจงใจพุ่งเอาจุดโทษอย่างน่าเกลียดในเกมที่ลิเวอร์พูลเสมอกับเบอร์มิงแฮม 2-2 กระแสพุ่งล้มกลับมาดึงกระฉ่อนอีกครั้งและคราวนี้เกิดขึ้นกับทีมใหญ่อย่างลิเวอร์พูลที่อยู่ในช่วงหมาจนตรอกต้องการทุกแต้มและเลี่ยงความพ่ายแพ้ในทุกรายการ แต่โพลล์เชื่อว่าการพุ่งครั้งนี้น่าเกลียดที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมากันเลยทีเดียว "สิ่งที่ทำให้ดาวิด เอ็นก็อกอัปยศอย่างแท้จริงคือได้พุ่งล้มจะแจ้งที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยทีเดียว" โพลล์สวดยับ "ผู้ตัดสินปีเตอร์ วอลตันควรจะมองดูตัวเองอย่างจริงจัง เนื่องจากเขาสืบเสาะหาการพุ่งล้มอะไรเช่นนี้ให้ได้แล้วก็ลงโทษคนๆนั้นซะ" "ถ้าการทดลองผู้ตัดสิน 6 คนของยูฟ่าพิสูจน์ให้เห็นว่ามันประสบความสำเร็จ ผมว่าผู้ตัดสินหลังประตูจะอยู่ในตำแหน่งที่เพอร์เฟคที่จะตะโกนผ่านไมโครโฟนบอกวอลตันว่านี่มันพุ่งแน่นอน" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=206595 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:23:37

ความคิดเห็นที่ 27 เอฟเอล้อมคอก จอมตบตา ส่อแก้กฎลงโทษ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ถี่ขึ้นเรื่อยๆ สร้างปัญหาให้กับวงการฟุตบอล เตรียมถกหาทางลงโทษอย่างจริงจัง คาดบทลงโทษหนักแน่ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้(11พ.ย.) สมาคมฟุตบอลอังกฤษ(เอฟเอ) เตรียมเปลี่ยนแปลงกฎกติกาของสมาคมฟุตบอล ในการสั่งลงโทษนักเตะจอมพุ่ง หลังจากกรณีการพุ่งล้มเอาจุดโทษของ ดาวิด เอ็นก็อก ในเกมที่ ลิเวอร์พูล ไล่ตีเสมอ เบอร์มิงแฮม ซิตี 2-2 ในบ้านของตัวเอง ตามกฎของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) ในปัจจุบันนี้ ยังไม่มีบทลงโทษสำหรับนักฟุตบอลจอมตบตากรรมการแต่อย่างใด เอฟเอ รู้สึกได้ถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับวงการฟุตบอล หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวถี่ขึ้นในช่วงหลัง และในกรณีตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นในเกม ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ที่ เอดูอาร์โด หัวหอกของอาร์เซนอล พุ่งล้มจนนำมาสู่การได้จุดโทษ ซึ่งกรณีนั้น ยูฟ่า ได้สั่งแบนกองหน้าทีมชาติโครเอเชียไปแล้ว แต่มายกเลิกโทษแบนดังกล่าวในภายหลัง ก่อนหน้านี้ สก็อต แดนน์ กองหลังทีมเบอร์มิงแฮม ออกมาเรียกร้องให้ เอฟเอ หาทางแก้ไขปัญหานักเตะจอมพุ่งล้ม เนื่องจากในหลายๆ ครั้ง การพุ่งล้มที่เกิดขึ้น ส่งผลต่อผลการแข่งขันในนัดนั้น แดนน์ ซึ่งยอมรับว่าเขาเป็นแฟนบอลตัวยงของ ลิเวอร์พูล กล่าวว่า "หนทางเดียวที่จะแก้ปัญหาการพุ่งล้มแบบนี้ คือการมีบทลงโทษที่รุนแรงซึ่งเอฟเอ ต้องทำให้มันเกิดขึ้น กฎในเกมฟุตบอล มันเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ดังนั้น ควรจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการลงโทษนักเตะจอมพุ่งให้หนัก" หลังจากนี้ ผู้ตัดสิน ปีเตอร์ วอล์ตัน ที่ทำหน้าที่ตัดสินในเกมดังกล่าว กำลังถูกเอฟเอ เรียกมาชี้แจงเหตุการ์ที่เกิดขึ้น ปธ.กรรมการ ผู้ตัดสิน คีธ แฮกเก็ตต์ กล่าว "เราจะมานั่งจับเข่าคุยกันว่า จะมีวิธีแก้ปัญหานี้กันอย่างไร เพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากการพุ่งล้มของนักฟุตบอล ผู้ตัดสินในเกม ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหานี้ได้" http://www.thairath.co.th/content/sport/46016 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:24:11

ความคิดเห็นที่ 28 เอ็งเค่ลาโลก!ตร.ชี้ปลิดชีพตัวเอง ข่าวเศร้าของวงการลูกหนังเมืองเบียร์ โรเบิร์ต เอ็งเค่ นายด่าน ฮันโนเวอร์ 96 ลาโลกเรียบร้อย หลังประสบเหตุถูกรถไฟชน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ด้านตำรวจฟันธง นายด่านเลือดเบียร์ จงใจฆ่าตัวตายเอง             โรเบิร์ต เอ็งเค่ ผู้รักษาประตูดีกรีทีมชาติเยอรมันของ ฮันโนเวอร์ 96 ในศึกบุนเดสลีกา เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัยเพียง 32 ปี หลังประสบอุบัติเหตุ โดนรถไฟชน จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองเบียร์ เมื่อวันอังคารที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา   ภายหลังจาก มาร์ติน คินด์ ประธาน ฮันโนเวอร์ ยืนยันการเสียชีวิตของ เอ็งเค่ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเยอรมันก็ออกแถลงการณ์เปิดเผยว่าชาย คนหนึ่งประสบอุบัติเหตุรถไฟชนในช่วงเย็นวันอังคาร จนมีอาการสาหัสปางตาย   เจ้าหน้าที่ตำรวจออกแถลงการณ์ระบุว่า "เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายคือ โรเบิร์ต เอ็งเค่ นายทวารทีมชาติจากสโมสร ฮันโนเวอร์ 96 ข้อสันนิษฐานแรก ของเจ้าหน้าที่ตำรวจคือเขาจงใจฆ่าตัวตาย"   ทั้งนี้ เอ็งเค่ จำต้องทนทุกข์จากอาการป่วยด้วยโรคลึกลับหาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้ โดยเจ้าตัวจำต้องถอนตัวออกจากทีมชาติเยอรมัน 2 วันก่อน หน้าเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก นัดถลุง อาเซอร์ไบจาน 4-0 เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/091111_024.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:27:30

ความคิดเห็นที่ 29 จบข่าวค่ะ ประเด็นเรื่อง "พุ่งล้ม" กำลังมาแรง ก็ต้องดูกันต่อไปว่าเอฟเอจะเอาจริงแค่ไหน ต้องขอแสดงความเสียใจกับภรรยาของ โรเบิร์ต เอ็งเค่ และครอบครัวด้วยค่ะ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:32:02

ความคิดเห็นที่ 30 rip ครับ ฝีมือดีมากครับ ไม่น่าเลย.. *** เรื่อง ไอ้กุ้งแห้งนี่ เหมือนพยายาม สร้าง คาแรคเตอร์ ให้ตัวเอง แล ดูโหด เหี้ยม น่าจะอยากเป็นฮาร์ดแมนจนตัวสั่น เลยต้อง พยายาม ออกมาให้สัมภาษณ์ ลักษณะ แกว่งปากอย่างงี้.. ดีที่ป๋าเราไม่ใช่พวก แรงๆ ไม่งั้น กุ้งแห้งอาจโดนด่ากลับจนหงอไปเลยก็ได้ ก็ในเมื่อ ทำจริง แล้วยังจะมาโทษคนนู้นคนนี้ ไม่รู้ เคยดูเทปที่ตัวเองเล่นบ้างรึเปล่า.. นิสัย... แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 52 13:36:51 จากคุณ : eoun เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:36:11

ความคิดเห็นที่ 31 ไว้อาลัย..โรเบิร์ต เอ็งเค่ เป็นอีกครั้งที่วงการลูกหนังต้องเผชิญกับการสูญเสีย แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะน่าสลดใจขึ้นหลายเท่าเมื่อ โรเบิร์ต เอ็งเค่ นายทวารฮันโนเวอร์ ตัดสินใจปลิดชีพตัวเองด้วยการกระโดดให้รถไฟทับจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา แม้จะไม่ได้ค้าแข้งอยู่กับทีมยักษ์ใหญ่หรือเป็นที่รู้จักของแฟนบอลในบ้านเรานัก แต่ที่เยอรมนี เอ็งเค่ ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุด เพราะแม้แต่ โยอาคิม เลิฟ กุนซือทีม "อินทรีเหล็ก" ก็ยังเลือกให้เขาเป็นเบอร์ 1 ในทีมชาติทั้งที่อายุปาเข้าไป 32 ปีแล้ว อย่างไรก็ตาม เอ็งเค่ ต้องมาล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุในช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา จนทำให้ต้องถอนตัวจากทีมชาติเยอรมนี ในช่วงคัดเลือกฟุตบอลโลก 2010 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แน่นอนว่าการเสียชีวิตของนายทวารจอมหนึบ ได้สร้างความช็อกและโศกเศร้าไปทั้งวงการเพราะที่ผ่านมาเราแทบจะไม่เคยได้ยินว่ามีนักเตะคนไหนที่คิดสั้นด้วยการฆ่าตัวตายมาก่อน ยอร์ก เนบลัง เอเย่นต์ของ เอ็งเค่ ออกมายืนยันในช่วงค่ำวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นว่า จอมหนึบฮันโนเวอร์ ตัดสินใจคิดสั้นจริงๆ "มันเป็นการฆ่าตัวตาย" เนบลัง กล่าว "แต่ผมไม่อยากจะพูดถึงเรื่องความเป็นไปได้ของสาเหตุที่ทำให้เขาคิดสั้นในวันนี้" ทันทีที่ข่าวแพร่ออกไปว่า เอ็งเค่ เสียชีวิตจากการกระโดดให้รถไฟทับที่เมืองเล็กๆ ที่ชื่อ นูสตัดท์ ก็มีคนในวงการฟุตบอลออกมาแสดงความเสียใจกันมากมาย โดยก่อนหน้านี้ 2 วันเจ้าตัวเพิ่งจะช่วยฮันโนเวอร์ยันเสมอกับ ฮัมบูร์ก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา "นี่ไม่สามารถเป็นเรื่องจริงได้" เควิน คูรานี่ หัวหอกชาลเก้ กล่าวด้วยความช็อกหลังทราบข่าว "โรเบิร์ต เป็นคนที่วิเศษมาก" ขณะที่ ดาวิด ยาโรลิม กัปตันทีม "สิงห์เหนือ" ที่เพิ่งเจอกับ ฮันโนเวอร์ กล่าวว่า "ผมแทบจะหายใจไม่ออกเลย มันเป็นโศกนาฏกรรมอย่างแท้จริง ครั้งแรกก็เป็นลูกสาวของเขา แล้วตอนนี้ก็มาเป็นเขาเอง" แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่การที่เขาตั้งใจขับรถไปนั่งรอที่สถานีรถไฟ ก่อนจะกระโดดให้รถไฟทับนั้นก็น่าจะเป็นการชี้ชัดได้เป็นอย่างดี คงจะไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ เอ็งเค่ ตัดสินใจเลือกที่จะอำลาโลกทั้งที่อาชีพการค้าแข้งของเขาก็ยังไปได้สวย และมีลุ้นติดทีมชาติเยอรมนีไปลุยศึกเวิลด์ คัพ ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ในปีหน้าด้วย แต่ที่แน่ๆ ก็คือนับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ต่อวงการลูกหนัง รวมทั้ง เทเรซ่า ภรรยาหม้ายของเขา ที่ต้องหัวใจสลายอีกครั้ง หลังจากที่เคยเสียลูกสาววัย 2 ขวบด้วยโรคหัวใจมาแล้วเมื่อปี 2006 โวล์ฟ บรูเออร์ ผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์ "บิลด์" เชื่อว่า เอ็งเค่ คิดสั้นก็เพราะยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียลูกสาวไปเมื่อ 3 ปีก่อน โดยเขาว่า "ประธานสโมสรฮันโนเวอร์ยืนยันในข่าวเศร้าสลดครั้งนี้ และยังยืนยันในเรื่องที่สำคัญมากๆ อีกว่า โรเบิร์ต เอ็งเค่ เป็นคนที่อารมณ์ผันผวนเป็นอย่างมาก" ขณะที่ มาร์ติน ไคนด์ ประธานสโมสรฮันโนเวอร์ กล่าวว่า "มันเป็นโศกนาฏกรรมการอย่างแท้จริง คุณสามารถคาดอะไรได้ตั้งหลายอย่าง แต่ไม่ใช่อะไรแบบนั้น" "ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงหรือทำไมมันจึงเกิดขึ้น แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องฟุตบอล" ด้าน ดร.ธีโอ ซวานซิงเกอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมนี (เดเอฟเบ) ออกแถลงการณ์วงการลูกหนังเมืองเบียร์ต่างรู้สึกช็อกและสลดไปกับข่าวเศร้าดังกล่าว พร้อมระบุว่า "พวกเราขอแสดงความเสียใจกับภรรยาของ โรเบิร์ต เอ็งเค่ และครอบครัวของเขาด้วย" คงไม่มีประโยชน์ที่จะไปขุดคุ้ยหาสาเหตุว่าเพราะอะไร เอ็งเค่ ถึงได้ตัดสินใจคิดสั้นแบบนี้ แต่ที่แน่ๆ ผู้เขียนก็ขอร่วมไว้อาลัยให้กับการจากไปของนายทวารฮันโนเวอร์ด้วย ข้อมูลที่น่าสนใจของ โรเบิร์ต เอ็งเค่ - เอ็งเค่ เกิดเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 1977 ที่เมืองเยน่า ซึ่งเคยอยู่ในเขตเยอรมนีตะวันออก โดยเขาเริ่มต้นการเล่นอาชีพกับ คาร์ล เซสส์ เยน่า หลังจากที่เล่นในระดับเยาวชนกับ เยน่า พาร์ม - จากนั้น ก็ย้ายไปเล่นให้กับโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ในปี 1996 ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับ เบนฟิก้า ตามด้วยบาร์เซโลน่า, เฟเนร์บาห์เช่ และ เตเนริเฟ่ - เอ็งเค่ กลับมาเล่นในบุนเดสลีก้าอีกครั้งในปี 2004 ด้วยการเซ็นสัญญากับ ฮันโนเวอร์ - ลูกสาววัย 2 ขวบของเขาเสียชีวิตจากโรคหัวใจเมื่อปี 2006 - ในเดือนพ.ค. 2009 เขา และ เทเรซ่า ภรรยา ได้ตัดสินใจรับเด็กวัย 2 เดือนมาเป็นลูกบุญธรรม - เอ็งเค่ ติดทีมชาติเยอรมนี ครั้งแรกในเกมที่เอาชนะ เดนมาร์ก 1-0 เมื่อเดือนมี.ค. 2007 โดยเขาติดทีมชาติทั้งหมด 8 ครั้ง - ล้มป่วยจากไวรัสที่ช่องท้องหลังจากที่แพทย์ต้องใช้เวลานับเดือนกว่าจะวินิจฉัยโรคได้ และนั่นทำให้เขาต้องถอนตัวจากทีม "อินทรีเหล็ก" ในเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก 3 นัดสุดท้าย แต่ก็ยังได้รับการคาดหมายว่าจะได้ติดทีมชาติไปลุยเวิลด์ คัพ ที่แอฟริกาใต้ ในปีหน้าด้วย - ก่อนหน้านี้นายทวารจอมเก๋า ตกเป็นข่าวลือว่าจะย้ายไปร่วมทีมบาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่ของบุนเดสลีก้า ในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมาแต่สุดท้ายก็ปักหลักอยู่กับ ฮันโนเวอร์ ต่อไป - เกมสุดท้ายในการเล่นอาชีพของเขาคือการช่วยให้ทีมเสมอกับ ฮัมบูร์ก 2-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา http://football.impaqmsn.com/content.aspx?id=49703&ch=262&ch=scoop จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:36:43

ความคิดเห็นที่ 32 เศร้าและใจหาย ดูโรเบิร์ต เอ็งเค่ตั้งแต่ยังเป็นดาวรุ่ง ขอให้วิญญาณไปสู่สุคตินะ....... จากคุณ : keep on walking เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:51:42

ความคิดเห็นที่ 33 ไว้อาลัยด้วยคนครับ ยังหนุ่มยังแน่น น่าจะดูแลครอบครัวหน่อยเน้อ จากคุณ : อ๊อบบี้ เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:54:17

ความคิดเห็นที่ 34 Arsenal's November Record under Arsene Wenger 2008/09 01-11-2008 - PL - Stoke 2-1 Arsenal   05-11-2008 - CL -  Arsenal 0-0 Fenerbahce 08-11-2008 - PL -  Arsenal 2-1 Man Utd 11-11-2008 - LC -  Arsenal 3-0 Wigan 15-11-2008 - PL -  Arsenal 0-2 Aston Villa 22-11-2008 - PL -  Man City 3-0 Arsenal 25-11-2008 - CL -  Arsenal 1-0 Dynamo Kiev 30-11-2008 - PL -  Chelsea 1-2 Arsenal Overall record: P8 W4 D1 L3 PL record:  Played 5, Points 6 2007/08 03-11-2007 - PL -  Arsenal 2-2 Man Utd 07-11-2007 - CL -  Slavia Prague 0-0 Arsenal 12-11-2007 - PL -  Reading 1-3 Arsenal 24-11-2007 - PL -  Arsenal 2-0 Wigan 27-11-2007 - CL -  Seville 3-1 Arsenal Overall record: P5 W2 D2 L1 PL record: P3 Pts 7 2006/07 01-11-2006 - CL -  Arsenal 0-0 CSKA Mosc. 05-11-2006 - PL -  West Ham 1-0 Arsenal 08-11-2006 - LC -  Everton 0-1 Arsenal 12-11-2006 - PL -  Arsenal 3-0 Liverpool 18-11-2006 - PL -  Arsenal 1-1 Newcastle 21-11-2006 - CL -  Arsenal 3-1 Hamburg 25-11-2006 - PL -  Bolton 3-1 Arsenal 29-11-2006 - PL -  Fulham 2-1 Arsenal Overall record: P8 W3 D2 L3 PL record: P5 Pts 4 2005/06 02-11-2005 - CL -  Arsenal 3-0 Sparta Prague 05-11-2005 - PL -  Arsenal 3-1 Sunderland 19-11-2005 - PL -  Wigan 2-3 Arsenal 22-11-2005 - CL -  Thun 0-1 Arsenal 26-11-2005 - PL -  Arsenal 3-0 Blackburn 29-11-2005 - LC -  Arsenal 3-0 Reading Overall record: P6 W6 PL record: P3 Pts 9 2004/05 02-11-2004 - CL -  Arsenal 1-1 Panathinaikos 06-11-2004 - PL -  C Palace 1-1 Arsenal 09-11-2004 - LC -  Arsenal 3-1 Everton 13-11-2004 - PL -  Tottenham 4-5 Arsenal 20-11-2004 - PL -  Arsenal 1-1 West Brom 24-11-2004 - CL -  PSV Eindhoven 1-1 Arsenal 28-11-2004 - PL -  Liverpool 2-1 Arsenal Overall record: P7 W2 D4 L1 PL record: P4 Pts 5 2003/04 01-11-2003 - PL -  Leeds 1-4 Arsenal 05-11-2003 - CL -  Arsenal 1-0 Dynamo Kiev 08-11-2003 - PL -  Arsenal 2-1 Tottenham 22-11-2003 - PL -  Birmingham 0-3 Arsenal 25-11-2003 - CL -  Inter 1-5 Arsenal 30-11-2003 - PL -  Arsenal 0-0 Fulham Overall record: P6 W5 D1 PL record: P4 Pts 10 2002/03 03-11-2002 - PL -  Fulham 0-1 Arsenal 06-11-2002 - LC -  Arsenal 2-3 Sunderland 09-11-2002 - PL -  Arsenal 1-0 Newcastle 12-11-2002 - CL -  Arsenal 0-0 PSV Eindhoven 16-11-2002 - PL -  Arsenal 3-0 Tottenham 23-11-2002 - PL -  Southampton 3-2 Arsenal 27-11-2002 - CL -  Roma 1-3 Arsenal 30-11-2002 - PL -  Arsenal 3-1 Aston Villa Overall record: P8 W5 D1 L2 PL record:  P5 Pts12 2001/02 04-11-2001 - PL -  Arsenal 2-4 Charlton 05-11-2001 - LC -  Arsenal 4-0 Man Utd 17-11-2001 - PL -  Tottenham 1-1 Arsenal 21-11-2001 - CL -  Deportivo 2-0 Arsenal 25-11-2001 - PL -  Arsenal 3-1 Man Utd 27-11-2001 - LC -  Arsenal 2-0 Grimsby Overall record:  P6 W3 D1 L2 PL record:  P3 Pts 4 2000/01 01-11-2000 - LC -  Arsenal 1-2 Ipswich 04-11-2000 - PL -  Middlesbro 0-1 Arsenal 07-11-2000 - CL -  Shakhtar 3-0 Arsenal 11-11-2000 - PL -  Arsenal 0-0 Derby 18-11-2000 - PL -  Everton 2-0 Arsenal 22-11-2000 - CL -  Spartak M. 4-1 Arsenal 26-11-2000 - PL -  Leeds 1-0 Arsenal Overall record: P 7 W1 D1 L5 PL record: P4 Pts 4 1999/2000 02-11-1999 - CL -  AIK Solna 2-3 Arsenal 07-11-1999 - PL -  Tottenham 2-1 Arsenal 20-11-1999 - PL -  Arsenal 5-1 Middlesbro 25-11-1999 - UEFA Cup - Arsenal 3-0 Nantes 28-11-1999 - PL -  Arsenal 2-1 Derby 30-11-1999 - LC -  Middlesbro 2-2 Arsenal Overall record:  P6 W4 D1 L1 PL record: P3 Pts 6 1998/99 04-11-1998 - CL -  Dynamo Kiev 3-1 Arsenal 08-11-1998 - PL -  Arsenal 1-0 Everton 11-11-1998 - LC -  Arsenal 0-5 Chelsea 14-11-1998 - PL -  Arsenal 0-0 Tottenham 21-11-1998 - PL -  MK Dons 1-0 Arsenal 25-11-1998 - CL -  Arsenal 0-1 Lens 29-11-1998 - PL -  Arsenal 1-1 Middlesbro Overall record:  P7 W1 D2 L4 PL record:  P4 Pts 5 1997/98 01-11-1997 - PL -  Derby  3-0 Arsenal 09-11-1997 - PL -  Arsenal 3-2 Man Utd 18-11-1997 - LC -  Arsenal 1-0 Coventry 22-11-1997 - PL -  Sheff Wed 2-0 Arsenal 30-11-1997 - PL -  Arsenal  0-1 Liverpool Overall record: P5 W2 D0 L3 PL record: P4 Pts 3 1996/97 02-11-1996 - PL -  MK Dons  2-2 Arsenal 13-11-1996 - LC -  Arsenal  5-2 Stoke 16-11-1996 - PL -  Man Utd  1-0 Arsenal 24-11-1996 - PL -  Arsenal  3-1 Tottenham 27-11-1996 - LC -  Liverpool  4-2 Arsenal 30-11-1996 - PL -  Newcastle 1-2 Arsenal Overall record: P6 W3 D1 L2 PL record: P4 Pts 7 ความวิตกของ Wenger เทียบไม่ได้เลยกับฤดูกาล 1912/13 ที่ในช่วง November แข่ง 5 นัด ได้ 1 แต้ม เสมอนัดเดียวที่เหลือแพ้หมด ทั้งฤดูกาลชนะแค่ 3 นัด สิ้นปีได้ที่โหล่ ตกชั้นสนิท ที่มีคะแนนน้อยสุดในลีค สถิตินี้เพิ่งถูกทำลายโดย Derby County (2007/08) ที่ทั้งฤดูกาลชนะเพียงครั้งเดียว -RIP for Robert Enke- แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 52 14:14:13 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 52 14:12:39 จากคุณ : coif เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 14:11:39

ความคิดเห็นที่ 35 กรณีเฟลทเชอร์ นั้น เห็นด้วยกับ เวนเกอร์อย่างแรง ซึ่งการทำแบบนี้ติดตาผมมาตั้งแต่ปีที่ ฟิล เนวิลล์ไล่เตะเรเยส จนเสียฟอร์มไปเลย (นัดหยุดสถิติไร้พ่าย) ช็อคมากกับข่าวเอ็งเค่ (แม้มีข่าวที่ซ็อคและเจ็บปวดมากกว่าในช่วงวันสองวันนี้) จากคุณ : The Old Gun เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 14:22:46

ความคิดเห็นที่ 36 ขี้พุ่ง-ผู้ตัดสินเหยื่อของกันและกัน! การถกเถียงเรื่อง "พวกขี้พุ่ง" ในสนามฟุตบอลเป็นปัญหาโลกแตก แม้บนความเป็นจริงแล้วไม่มีใครอยากเห็นหรือให้มันเกิดขึ้นนักหรอกบนโลกสีเขียวสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่ทว่าบางคนก็บอกว่ามันเป็นเสน่ห์   ฝรั่งไม่เข้าใจเพราะพวกเขาคิดว่ามันคือการตบตาและสามารถพลิกเกมจากดำให้เป็นขาวหรือขาวให้เป็นดำได้ ฉะนั้นในความหมายของฝรั่งการชนะด้วยความ "แฟร์"  เป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับ   เพียงแต่นั่นก็เป็นความเห็นของคนที่พยายามทำตัวให้เป็นกลางก็เท่านั้น เพราะบนความเป็นจริงแล้วหากคนที่เป็นกลางเหล่านั้นเข้าไปเกี่ยวกับสถานการณ์ของทีมที่ตัวเองเชียร์และพวกเขาได้ประโยชน์ ร้อยทั้งร้อยก็คงแกล้งพยายามลืมๆ มันไป   ถามว่าเพราะอะไร ก็เพราะทีมของตัวเองได้เปรียบได้ประโยชน์นั่นไง   นิสัยของมนุษย์เรารู้ว่าน้อยนักที่อยากจะเป็นผู้เสียผลประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ กีฬาหรือการเมืองหรือศาสนา   เหตุการณ์ล่าสุดที่แอนฟิลด์จากเคสของ ดาวิด เอ็นก๊อก ก็เช่นกัน ที่ผ่านมามันก็มีภาพแบบนี้ให้เห็นจนชินตา และสื่อผู้ดีก็มักรณรงค์มากมายโดยกำจัดพวกขี้พุ่งจากเกมฟุตบอลซะ   แต่ถามว่าทำได้หรือไม่? ตั้งแต่จำความได้ดูฟุตบอลเป็นก็ไม่เห็นมันทำได้สักที เพียงแต่พอเกิดเรื่องก็หยิบมาเป็นหัวข้อสนทนาทีหวังว่าบรรดานักเตะจะเกิดจิตสำนึกที่ดีขึ้นมา   กระนั้นถามต่อไปว่าแล้วตัวนักเตะเองรู้หรือไม่ว่าจิตสำนึกที่ดีในการทำให้เกมสะอาดเป็นแบบไหน   ผมว่าบางคนก็รู้แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้หรือไม่สถานการณ์ในเกมมันพาไปเพราะไม่มีใครอยากเป็นผู้แพ้ไงครับ   คนทุกคนไม่ต้องการเป็นผู้แพ้โดยเฉพาะถ้ามีเรื่องการแข่งขันเข้ามา นักเตะเองก็เช่นกันเขาไม่ได้แข่งขันเฉพาะในเกมแข่งขันเท่านั้นแต่ในระหว่างเกมเขาต้องแข่งขันกับเพื่อนร่วมทีมด้วยกันเอง เขาต้องแข่งขันกันเพื่อให้เข้าตาโค้ชเพราะมันหมายถึงการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ และรายได้ที่จะเข้ามาถ้าคุณเป็นฮีโร่   ฉะนั้นถ้ามาบวกลบคูณหารดีดรางลูกคิดแล้วยอมโดนด่าระยะหนึ่งแต่ทำให้ทีมได้ผลประโยชน์ภาพรวมมันคุ้มกว่าเยอะ ด้วยเหตุนี้พวกขี้พุ่งจึงมีอยู่เกลื่อนกลาด   เราเคยถกเถียงกันเยอะอย่างสมัยก่อนๆ ก็มี รุด ฟาน นิสเตลรอย เอย, แฮร์รี่ คีเวลล์ เอย หรือในอิตาลีอาจมีเจ้ากุ้งจอมพุ่ง ฟิลิปโป้ อินซากี้ ส่วนตอนนี้ทุกคนอาจนึกถึง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา หรือเมื่อไม่นานมานี้กับคดีของ เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา ที่พุ่งในเกมคัดแชมเปี้ยนส์ ลีก กับเซลติก บทสุดท้ายลูกพุ่งครั้งนั้นทำให้อาร์เซน่อลได้จุดโทษและได้เปรียบจนเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ตีตั๋วมาเล่นรอบสุดท้าย ส่วน ดูดู้ โดนลงโทษแบน แล้วเป็นอย่างไรสุดท้ายเรื่องก็จบๆ กันไป   เรื่องแบบนี้ในมุมเชิ้ตดำก็มีบ่นกระปอดกระแปดออกมาเหมือนกัน เทอร์เย่ ฮอร์เก้ ผู้ตัดสินชาวนอร์เวย์ยังพูดออกมาเลยว่ามันเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในเกมฟุตบอล และผู้ตัดสินก็คือเหยื่อของนักเตะ ด้วยเหตุว่าผู้ตัดสินมีเวลาเพียงแวบเดียวในการตัดสินใจแถมต้องพาตัวเองไปให้อยู่ในจุดที่มองเห็นเหตุการณ์ให้ดีด้วย   ถึงจะมีประสบการณ์มากแค่ไหนทว่าก็สามารถพลาดได้ ขนาดว่าผลการสำรวจพฤติกรรมของจอมพุ่งในอังกฤษที่มหาวิทยาลัย พลีมัธ ศึกษามาตลอดยังบอกว่าวิธีการสังเกตว่าคนเราจะพุ่งหรือไม่ธรรมชาติจะดูที่การที่แขนทั้งสองข้างลอยขึ้นเหนือศีรษะ แล้วเอาหน้าอกทิ้งตัวพร้อมกับกางขาตัวเองออก   เขาบอกว่านี่แหละคือธรรมชาติของคนที่จะพุ่งตบตา แต่ก็ไม่เห็นว่าผู้ตัดสินเอาไปใช้สังเกตแล้วจะตัดสินได้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์   ก็การแข่งขันนะครับทุกคนต่างเป็นเหยื่อของกันและกันได้เสมอมันเป็นเรื่องธรรมดา นักเตะเป็นเหยื่อของผู้ตัดสินที่เป่าผิดพลาดก็มี ผู้ตัดสินเป็นเหยื่อของนักเตะจอมตุกติกก็มี   ตราบใดที่ฟุตบอลเป็นเกมที่พยายามลดทอนเรื่องเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ความคลุมเครือในเกมและผลการแข่งขันก็ย่อมมีมากกว่ากีฬาชนิดอื่นๆ   ฉะนั้นในสายตาของฝรั่งเรื่องพุ่งอาจเป็นเรื่องใหญ่ แต่บ้านเราหรือแม้ผมเองอาจมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กเพราะเราในฐานะคนดูบอลต้องทำใจ   อย่าลืมว่าพวกขี้พุ่งเองก็เสี่ยงเหมือนกันไม่ใช่ไม่เสี่ยง หลายหนที่ตบตาไม่เนียนก็โดนไล่ออกจากสนาม มันเป็นวิถีทางของมันที่วางเอาไว้อยู่แล้ว   คนเราทุกคนอยากให้มันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อยากให้ได้ดั่งใจ ทว่าลืมนึกไปว่าไม่มีใครได้ดั่งใจไปซะหมด   ครั้งหนึ่งราฟาเคยด่ากราดพวกจอมพุ่งเหล่านี้ แต่วันนี้เขากลับปกป้อง เอ็นก๊อก ซะงั้น ขนาดความเห็นของคนคนหนึ่งคนยังสองบรรทัดฐานในแต่ละสถานการณ์ได้ เป็นแบบนี้ "พวกขี้พุ่ง ก็ยังอยู่ในสังคมฟุตบอล" อยู่ดี ฉะนั้นวิธีการแก้ไขนาทีนี้ที่ทำได้ก็แค่ "กรรมการอย่าตาถั่วบ้าจี้ หรือไอ้คนเสียบก็มีสถิติยั้งคิดหน่อย" ก็แล้วกันนะครับ         เต็ก บางจาก http://www.siamsport.co.th/Column/091111_022.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 14:41:39

ความคิดเห็นที่ 37 ^ ^ ^ ไม่ค่อยจะแก้ตัวให้ลิเวอร์พูลกับเอ็นก๊อกเลยนะ ข้อมูลไม่ชัดเจนด้วย... สุดท้ายยูฟ่ายกเลิกการลงโทษแบนดูดู้ย่ะ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 52 14:42:46 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 14:42:00

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณสำหรับข่าวครับ จากคุณ : Player No. 666 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 14:47:50

ความคิดเห็นที่ 39 เชลซีจะไปถึงแชมป์หรือ เชื่อว่าจากชัยชนะด้วยลูกโหม่งของกัปตันทีม จอห์น เทอร์รี่ เหนือ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 น่าจะพอเห็นเค้ารางว่า เชลซี คู่ควรต่อการกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ชิพได้แล้วหรือยัง แม้ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ กระชากสามคะแนนเต็มอย่างน่ากังขา ไม่เฉพาะแต่ท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ยังคาใจการตัดสินของกรรมการในจังหวะเสียประตู เชื่อว่าคอบอลที่เป็นกลางคราวนี้ผงกเห็นด้วยกับคำพูดของป๋า ไม่ว่าจะอย่างไรเมื่อดูจากอันดับในตอนนี้ เชลซี ทำคะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่าพรีเมียร์ชิพออกไปอีก 5 แต้มแล้ว อย่างไรก็ตามนำห่างแค่นี้ยังวัดไม่ได้หรอกเพราะยังไม่ถึงครึ่งทางของการเตะมาราธอน 38 เกมเลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมโหดเตะถี่ยิบในช่วงเทศกาลคริสมาสต์ ถ้า "สิงห์บลูส์" ผ่านช่วงนี้ไปได้และยังรักษาช่องว่าง 5 แต้มจนเลยพ้นหลังเปลี่ยนปฎิทินปี 2010 เมื่อถึงตอนนั้นค่อยยกย่องเป็นว่าที่แชมป์ก็ยังไม่สาย งั้นเราลองมาวิเคราะห์แบบแผนของ เชลซี กันดีกว่าว่าทำไม "อันเช่" ทำทีมเกิดประสิทธิภาพได้อย่างไร จุดเด่นในการทำทีมของ อันเชล็อตติ อยู่ที่แดนกลางได้ฟอร์แมตในแบบที่เรียกว่า "ไดมอนด์ มิดฟิลด์" ก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการพังประตูที่น่าเกรงขาม ก่อนเผชิญหน้า "ปีศาจแดง" 5 นัดที่ผ่านมาปรากฎว่า เชลซี ทะลวงเกมรับฝั่งตรงข้ามได้ถึง 19 ประตูเลยทีเดียวเฉลี่ยนัดละ 4 ประตู คนระดับป๋าอ่านเกมขาดรู้ดีว่าต้องเจออะไรและได้วางแผนมาเป็นอย่างดีจนทำให้ระบบ "ไดมอนด์ มิดฟิลด์" ที่เคยใช้ได้ผลแต่ไม่ใช่แน่ๆ กับทีมของแมนฯ ยูไนเต็ด การทำเกมแดนกลางหายต๋อม ดิดิเยร์ ดร็อกบา ที่ว่าเจ๋งๆ กลับไปไม่เป็นยังไม่ผ่านแนวรับของท่านเซอร์เฟอร์กี้วางแผนเป็นอย่างดี แต่ที่เสียประตูไปนั้นก็อย่างที่บอกมันเกิดจากความผิดพลาดจากการตัดสินของกรรมการก็มีส่วน แถม ดร็อกบา แอบลักไก่ไปผลัก เวส บราว ด้วย นั่นก็หมายความว่าระบบ "ไดมอนด์ มิดฟิลด์" ก็มีจุดอ่อนเวลาเจอกองกลางของคู่แข่งประเภทวิ่งสู้ฟัดกัดไม่ปล่อยก็ไม่เป็นเหมือนกัน เมื่อแดนกลางทำเกมไม่ได้ บอลก็ไปไม่ถึงแดนหน้า หัวหอกอย่าง ดร็อกบา หรือ นิโกล่าส์ อเนลก้า ต้องลงมาล้วงลึกและอาศัยความสามารถเฉพาะตัว แต่ถ้าวันใดเจอกองหลังที่แข็งแกร่งและเหนียวแน่นทำงานเป็นทีมเวิร์คเหมือนเช่นที่ เวส บราว กับ จอนนี่ อีแวนส์ โชว์ให้เห็นมาแล้ว เมื่อนั้นระบบ "ไดมอนด์ มิดฟิลด์" ประสบปัญหา และนี่คือการบ้านกองใหญ่ที่ คาร์โล อันเชล็อตติ ไม่ควรปล่อยให้เลยผ่านกับชัยชนะและสมควรไปศึกษาดูว่า ทำไมระบบที่เคยมีประสิทธิภาพแทบใช้ไม่ได้ผลเมื่อเจอกับมาตรการรองรับมาเป็นอย่างดีก็คือทำลายแดนกลางไม่ให้ทำเกมได้ถนัด ถ้าหาก เชลซี ยังหวังเป็นแชมป์ในบั้นปลาย ลูกกลมกลม http://www.guideball.com/board/column/viewtopic.php?t=54559 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 14:50:04

ความคิดเห็นที่ 40 1999 Peter Schmeichel (3), Manchester United 2000 René Henriksen, Panathinaikos 2001 Ebbe Sand (2), FC Schalke 04 2002 Jon Dahl Tomasson, Feyenoord/Milan 2003 Morten Wieghorst, Brøndby 2004 Jon Dahl Tomasson (2), Milan 2005 Christian Poulsen, Schalke 04 2006 Christian Poulsen (2), Schalke 04/Sevilla 2007 Daniel Agger, Liverpool FC 2008 Martin Laursen, Aston Villa 2009 ลูกรักเบนเนอร์ วันใด เบนเนอร์เล่นกับทีมอาเซนอล เหมือนที่เล่นให้เดนมาร์ก วันนั้นคงมีหลายคนต้องถอนคำพูด ที่ก่นด่า จากคุณ : Arsenal มินิ คุ้กกี้ เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 14:55:40

ความคิดเห็นที่ 41 จากคหเด็กบางจาก ผมเข้าใจแล้ว คำว่า แฟร์ ในอเมริกาถีงไม่รับวัฒนธรรมของยุโรปมาเลย สร้างเองใหม่หมด ผมยกตัวอย่าง อย่างนี้ครับ ในเวทีการแข่งขันเนี่ย แฟร์money เป็นอีกอย่างที่อเมริกาเอามาใช้ การคัดคนเก่่ง คนมีความสามารถจริงๆ ความเท่าเทียมกัน เช่น การเข้ามหาลัย มีครั้งหนี่งที่ถกเถียงกันมากระหว่างคนที่เรียนอย่างเดียวเลย ไม่ต้องช่วยทางบ้าน กับคนที่เรียนด้วยแล้วต้องช่วยทางบ้านทำงานด้วย ถ้าต้องคัดเลือกเข้ามหาลัยเขาจะบวกคะแนนให้คนที่ต้องทำงานด้วยเรียนด้วยก่อนสิบเปอร์เซนต์ นี้ก็มันนี่แฟร์ ที่นี้มานีกที่ฟี่ฟ่าจะออกกฎ(คิดว่าผ่านแล้ว)ให้สโมสรใช้เงินเท่าที่หามาได้ กับเพดานเงินเดือน (นี้ก็อเมริกาใช้กับวงการกีฬาอยู่เช่นอเมริกันฟุตบอล) ไม่งั้นถ้าทางยุโรปไม่รีบแก้ปัญหานี้ จะเท่ากับโยนเงินลงทะเลเลย ไม่มีวันเต็ม ซ้ำยังเป็นการแข่งขันที่ไม่ยุติธรรมยิ่ง เรื่องขี้พุ่ง หรือ เรื่องตบตากรรมการ ขี้โกง อันนี้อเมริกาเอาเทคโนโลยี่มาช่วยนานมากแล้วไม่มีทางที่จะเกิดเรื่่อง่นี้ นี้ก็แฟร์สำหรับทุกฝ่าย ฟี่ฟ่ายังไม่ได้ทำอะไรเลย ปล่อยให้เกิดปัญหาซะ คิดถีงไอ้หมูรุน ถ้าตอนเตะเชลซี มันมีโอกาสพุ่งนะ ไม่เหลือ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 52 15:08:51 จากคุณ : Eastern rising เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 15:02:29

ความคิดเห็นที่ 42 สวัสดีครับ ชาวโต๊ะทุกท่าน ขอสมัครเป็นสมาชิกด้วยคนนะครับ หลังจากที่ได้ซุ่มอ่านอยู่ทุกวันครับ ได้อมยิ้มเป็นของตัวเองสักที ขอบคุณสำหรับข่าวนะครับ จากคุณ : Muito เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 15:29:23

ความคิดเห็นที่ 43 อ่านข่าวแล้วเศร้าใจนัก สำหรับคนรักฟุตบอลอย่างฉัน แม้ไม่เชียร์หรือดูทีมเยรมันฯ ความรู้สึกนั้นเหมือนเสียเพื่อนไป สาเหตุการตายเราไม่รับรู้ แต่จู่ๆก็มาจากไปเราใจหาย ถ้าหากเป็นเพราะเขามีโรคร้าย การตายคงเป็นหนทางที่ต้องการ ขอให้เอ็งเค่ไปยังแดนสงบ อย่าเวียนภพในวัฏสงสาร เฝ้าอยู่เบื้องซ้ายพระเจ้าชั่วกาล บ้านเมื่อวันวานคือที่อยู่ชั่วคราว ****แค่นี้นะคะคุณแนนเศร้าน่ะ ขอบคุณที่มาตั้งโต๊ะฯทุกวันค่ะ จากคุณ : nancya9 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 15:43:27

ความคิดเห็นที่ 44 ตะลึงพี่บี้  คนหรือแมงสาบ  นึกว่าพะงาบ  เจ็บยาวไปแล้ว ยังแจมตราไก่  พ่อแก้วแม่แก้ว  พี่เค้าหายแล้ว  Die Hard จริงจริง ถ้าอึดแบบนี้  แล้วฟอร์มเมพขิง  ไม่ม้วน+ยิงทิ้ง  ขึ้นหิ้งแน่แน่ เสียดายเอ็นเค่  มือดีของแท้  อวยพรให้แก  ไปสู่สุขคติ RIP นะคะ ยังไม่แก่เลย น่าจะอยู่รับใช้ชาติได้อีกซักหน่อย จากคุณ : ด.ญ.รุงรัง เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 16:12:12

ความคิดเห็นที่ 45 ไว้อาลัยครับ จากคุณ : NUNADON เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 17:09:00

ความคิดเห็นที่ 46 อ๊ะ.. แอบเห็นคุณแนนในกระทู้ฉาว ชาวสยาม   จากคุณ : ด.ญ.รุงรัง เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 17:43:21

ความคิดเห็นที่ 47 ดีครับ เข้ามาอ่านข่าว จากคุณ : kunikun เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 17:58:45

ความคิดเห็นที่ 48 ผมว่าหลังๆป๋าเฟอร์กี้ทำงานง่ายนะ  เวงเกอร์เล็งนักเตะไว้ เล็งเป้าไว้แล้ว  แสดงว่าดีจริงตัดหน้ามา  จบ... จากคุณ : cantare เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 18:13:44

ความคิดเห็นที่ 49 RIP for Robert Enke ka จากคุณ : The Best of Me เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 18:27:18

ความคิดเห็นที่ 50 RIP Enke ครับ .... ขอบคุณสำหรับข่าวและการเสียสละเวลาครับ คุณแนน จากคุณ : loom เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 18:30:12

ความคิดเห็นที่ 51 #46 กระทู้ฮอตออกอย่างนั้นจะพลาดได้ไงล่ะคะ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 19:09:09

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณสำหรับข่าวครับ จากคุณ : famebelive เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 19:37:57

ความคิดเห็นที่ 53 แอบเซ็งเล็กน้อย กับข่าวพุ่งล้ม ความจริงถ้าเราไม่ได้จุดโทษนี่ ยังไงเราก็เข้ารอบสบายๆเลยนะ แต่นี่ทำยังกับลูกนั้นชี้เป็นชี้ตายเลย แต่ในรายเอนก๊อกนี่ต่างกันมากเลย ทีมนึงฟอร์มรูดตั้งแต่ชนะแมนยูมา ไม่ทันไรลืมที่ด่าๆน่อลกันแล้วเหรอ จากคุณ : maxistant เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 19:54:11

ความคิดเห็นที่ 54 #20 เฟล็ทเชอร์ ทีตอนตัวเองทำฟาล์วอาชาวินในเขตโทษแต่กรรมการไม่เป่า ทำไมไม่บ่นมั่งล่ะ อ่านข่าวเองเค่แล้วตกใจเลย ไม่น่าคิดสั้น ขอบคุณสำหรับข่าวครับคุณแนน จากคุณ : ปืนโตมหาชัย เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 20:41:44

ความคิดเห็นที่ 55 เข้ามาอ่านข่าวครับ จากคุณ : คนโชคดี เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 20:52:54

ความคิดเห็นที่ 56 Fabregas is EA SPORTS Player of the Month! Cesc Fabregas has pipped Robin Van Persie to the EA SPORTS Player of the Month for October. The duo dominated last month's official Club poll, receiving more than 85 per cent of the votes cast by Arsenal.com users. Van Persie was always in with a shout after scoring five goals in five October games but Fabregas' all-round contribution denied the Dutchman by a meagre 48 votes. Fabregas is a worthy winner. He scored exceptional goals against Blackburn and Tottenham to book-end his October appearances and also found the net in the Champions League game at AZ Alkmaar. But the captain offered more than goals in October. He had a hand in five of the six scored against Blackburn - he had been substituted by the time the final goal went in - and currently leads Arsenal's assists charts. Fabregas received 43.4 per cent of the votes with Van Persie just behind on 42 per cent. Alex Song, solid as a rock in his defensive midfield role, was third with 5.1 per cent. OCTOBER PLAYER OF THE MONTH RESULTS Player                              % of votes Cesc Fabregas                       43.4 Robin Van Persie                    42.0 Alex Song                                5.1 Others                                     9.5 http://www.arsenal.com/news/news-archive/fabregas-is-ea-sports-player-of-the-month- เฉือนกันไปนิดเดียวเอง เราโหวตให้โรบินค่ะ ^^" จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 21:02:18

ความคิดเห็นที่ 57 รูปพิ้งค์กี้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของเดนมาร์กค่ะ ไม่รู้ที่มา เพราะเพื่อนส่งมาให้ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 21:19:53

ความคิดเห็นที่ 58 อีกรูป จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 21:20:29

ความคิดเห็นที่ 59 เห็นว่าคนข้างๆ เป็นคุณพ่อพิ้งค์กี้ค่ะ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 21:21:32

ความคิดเห็นที่ 60 รูปสุดท้าย... จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 21:24:08

ความคิดเห็นที่ 61 Bendtner: I had three aims & achieved them all Arsenal striker Nicklas Bendtner has revealed that he set himself three targets at the start of 2009 and made clear that despite ending the year on the operating table, having undergone surgery on a groin problem, he has achieved all his aims. The confident young Dane was this week crowned his homeland’s Player of the Year and told the press that the accolade was the final piece in his twelve month plan. "I had three aims this year - to get into the Arsenal team, qualify for the World Cup and to be Player of the Year. I have achieved them all,” Bendtner told the Daily Mirror. Well known for his confidence both on and off the pitch, the 22-year-old also stressed that he still had grand aims for his future development: "I want to be top scorer in the Premier League, top scorer at the World Cup and, within five years, I want to be among the best strikers in the world." http://www.sport.co.uk/news/Football/29753/Bendtner_I_had_three_aims__achieved_them_all.aspx จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 21:26:32

ความคิดเห็นที่ 62 ขอสงบนิ่งไว้อาลัยให้เอ็งเค่ จากคุณ : salty เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 21:27:53

ความคิดเห็นที่ 63 เบนท์เนอร์ นายจะมั่นใจไปไหนนนนนนนน !!?? จากคุณ : อ๊อบบี้ เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 21:37:22

ความคิดเห็นที่ 64 น้องนิกหล่อมากคุณพ่อก็หล่อ ขอได้ไหมจ๊ะ ดีค่ะที่น้องมีความมั่นใจชอบคนแบบนี้ #56 สูงลิบลิ่วกันอยู่แค่สองคน เราก็โหวดให้โรบิน แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 52 22:27:01 จากคุณ : nancya9 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 22:24:14

ความคิดเห็นที่ 65 เข้ามาร่วมไว้อาลัย โรเบิร์ต เองเค่ สู่สุขคติเถิด น้องเบนหล่ออ่ะเดี่ยวหม่ำซะเลยยิ่งหิวเด็กอยู่ งุงิ จากคุณ : pawiamp เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 22:35:47

ความคิดเห็นที่ 66 #65 แล้วไปเพราะเราชอบพ่อ จากคุณ : nancya9 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 22:39:06

ความคิดเห็นที่ 67 พ่อหล่อกว่ามากมาย >.< จากคุณ : ด.ญ.รุงรัง เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 23:04:43

ความคิดเห็นที่ 68 นิค ...ดูอวบอึ๋มขึ้นนะ ... นึกถึงเนื้อย่างโคขุน  ^^ จากคุณ : MAVEL เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 23:10:07

ความคิดเห็นที่ 69 #57  "พิ้งกี้"  แอ๊บแบ๊วมากมาย ยินดีด้วยกับรางวัลที่ได้  หวังว่ากลับมาแล้วจะเล่นได้ดี เท่าที่พูดนะ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 52 23:25:21 จากคุณ : Gun_kun เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 23:24:43

ความคิดเห็นที่ 70 อ้าว! สาวๆ หลงเสน่ห์คุณพ่อกันซะแล้ว จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 00:11:41

ความคิดเห็นที่ 71 ทายซิใครเอ่ย? บอกใบ้ว่าเป็นรูปตอน 8 ขวบ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 00:12:33

ความคิดเห็นที่ 72 รูปนี้ตอน 13 ได้มั้ง จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 00:13:36

ความคิดเห็นที่ 73 รู้แต่ว่ารูปใน 70 นี้ทำไมกะร๊องก๊องแงกันจัง จากคุณ : nancya9 เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 00:18:47

ความคิดเห็นที่ 74 วิลเชียร์ครับ!! ตอบถูกได้ไรมั่งฮะ จากคุณ : eoun เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 00:45:15

ความคิดเห็นที่ 75 ^ ^ หอมแก้มทีนีง  อ่ะ ล้อเล่น จากคุณ : Eastern rising เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 03:51:38

ความคิดเห็นที่ 76 @-@-@ โต๊ะน้ำชา อาร์เซนอล... เวนเกอร์หวังลบอาถรรพ์เดือนพฤศจิกายน @-@-@ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 11:15:07

ความคิดเห็นที่ 77 ทดลองรูป แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 52 12:37:04 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 12:36:24