TIA Column : ใจหายใจคว่ำกับ เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้แมทซ์
|
|
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า "ดีใจมากกับชัยชนะของทีมอันเป็นที่รัก" แม้จะชนะแบบไม่สวยซักเท่าไหร่ เพราะถ้าไม่ตาบอดก็ต้องยอมรับว่า เมื่อคืน ลิเวอร์พูลเล่นกันไม่เป็นโล้เป็นพายซักเท่าไหร่ แถมโดนท๊อฟฟี่อัดเอาอัดเอาจนแผงหลังแทบจะแตกพ่ายเอาหลายต่อหลายจังหวะ แต่...
ชนะโว้ยยยย 
เข้าเรื่องดีกว่า นัดนี้ ลิเวอร์พูลมาในสูตรเดิม 4-2-3-1 ซึ่งเป็นชุดเดิมที่เล่นกับเดรเบรเซ่นเมื่อกลางสัปดาห์ แบบไม่มีโลเตชั่นซักตำแหน่ง (เออ...นึกๆดูแล้วไม่มีใครพูดถึงเรื่องโลเตชั่นของราฟามานานแล้วนะเนี่ย ชักคิดถึง) แผงหลัง จีเจ คาร์ร่า แอกเกอร์ อินซัว สองตัวมิดฟิลด์ เป็น ลูคัสเจ้าเก่ากับมาสเคราโน่ ปีกสองข้างใช้ออเรลิโอ้ทางซ้ายและเค้าท์ทางขวา กัปตันเป็นหน้าต่ำและหน้าเป้าคือเอ็นก๊อก
ถ้าจะหาข้อบกพร่องของทีมล่ะก็ มากมายทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นแบ็คทั้งสองข้าง ขอที่อินซัวก่อนเลย เจ้าหนูอาร์เจนไตน์รายนี้อนาคตแจ่มแน่นอน แต่ยังต้องพัฒนาอีกมากทีเดียว อินซัวดูจี๊ดจ๊าดดีหรอก รุกพอใช้ แต่รับนี่ ต้องลุ้นกันตัวโล่งกันหลายจังหวะ ปล่อยให้บอลข้ามหัวเข้าเขตโทษไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ยังดีที่ 2 เซ็นเตอร์ของเราอย่างแอกเกอร์กับคาร์ร่ายังไม่หลุด ยังไม่เหวอ ทั้งโหม่งทิ้ง เตะทิ้ง มีปล่อยให้โจโหม่งเข้าไป แต่ล้ำหน้า ครั้งหนึ่ง และเคฮิลล์โหม่งตรงตัวเรน่า ส่วนจีเจ ขึ้นแล้วมักลงไม่ทัน แต่ถ้าลงทันก็ถือว่าไว้ใจได้
จีเจนั้นไม่ได้มีดีแค่เลี้ยงลุยเท่านั้น แต่เปิดบอลแม่นๆหลายจังหวะ เพียงแต่เปิดไปข้างหน้า ไม่ไปตกที่เดิร์ก เค้าท์ ก็เอ็นก๊อก ซึ่งก็หลับตาเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไป 555+
สำหรับเดิร์ก เค้าท์ ก็คือ คืนหลัง ส่วนเอ็นก๊อก ด้วยความคึกคะนอง น้องก็พยายามจะเลี้ยงฝ่าเอาฝ่าเอา แต่ไม่ผ่านซักที (ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ แต่อย่าทำบ่อยนักจนทีมเสียประโยชน์ก็พอ)
แต่เอ๊ะ...อย่างน้อยจีเจก็เปิดบอลเข้าหัวอินซัว โขกเต็มๆหน้าปากประตูเอฟเวอร์ตัน ลูกนึงล่ะ เสียดายที่โดนเซฟ ไม่งั้นพ่อหนุ่มน้อยอินซัวก็ได้ทำประตูที่ 2 ให้ทีมไปแล้ว
ส่วนแผงกลางคู่ ลูคัสก็วูบๆวาบๆ มาๆหายๆตามเคย นัดนี้ได้เลือดซะด้วย (ขอให้เลือดมันล้างสิ่งไม่ดีออกไปจากตัวให้หมดนะ ลูกนะ แม่บุญธรรมอวยพรให้ ) สำหรับมาสเคราโน่ ยกตำแหน่ง MOM ให้คู่กับเรน่าเลย ทำทุกอย่าง ตั้งแต่สกัดบอล แย่งบอล เปิดบอล(ในเวลาที่ลูคัสมันจ่ายคืนมา 555+) และเป็นผู้ที่ทำให้เราได้ประตูแรก เสียดายที่ลูกยิงไม่ตรงกรอบ ไม่งั้นมอนสเตอร์มาสซ์ก็จะได้เครดิตทำประตูที่ 2 ของตัวเองในสีเสื้อลิเวอร์พูลไปแล้ว แต่ที่ทำเอายิ้มไม่หุบเลยก็คือ ท่าดีใจของพ่อเจ้าพระคุณสิคะ มันเป็นท่าดีใจที่บอกตามตรงว่า แฟนหงส์แดงอย่างเราอยากเห็นบ่อยๆ เพราะมันเป็นการแสดงอารมณ์ที่บ่งบอกได้ดีว่า "สะใจ" มากขนาดไหน
ฮาร์ดแมนของแท้จริงๆ
มาว่าที่ปีกกันบ้าง สารภาพเลยว่า สบถเดิร์ก เค้าท์ไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง ก็พอพี่แกได้บอลปุ๊บ ไม่ส่งคืนหลังทันทีก็เลี้ยงตัดเข้ากลาง พอตันจริงๆก็คืนหลังอยู่ดี นี่ถ้าไม่ใช่คนทำประตู 2-0 คงขมวดคิ้วกับพี่ไปอีกนานเลย ส่วนออเรลิโอ้นี่สงสัยว่าเอาเวลาวิ่งหน้าตั้งลงไปช่วยอินซัวไม่ให้เป็นบ่อน้ำมัน เลยไม่เห็นทำหน้าที่ปีกซักเท่าไหร่เลย
สำหรับกัปตัน นัดนี้เงียบมากกกก จนแทบจะลืมกัปตันไปเลย ด้วยความที่ยังไม่ฟิต โดนตามติดเป็นเงา แถมคู่ขาดันเป็นน้องเอ็นก๊อกที่ไม่ค่อยจะเข้าใจเซ้นต์บอลลูกพี่เจิดนัก เลยออกแนวแปลกแยก โดดเดี่ยวไปหน่อย และไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกม หรือทำเกมบุกอย่างไหลลื่นได้ นี่ถ้าไม่มีส่วนกับประตูที่ 2 สงสัยลูกพี่คงเม้งตัวเองได้เลยว่า "เล่นห่วย"
แต่ห่วยยังไง กัปตันก็คือกัปตันวันยังค่ำ และถ้าไม่ใช่กัปตันคนนี้ ลิเวอร์พูลคงไม่ได้ประตูที่ 2 อย่างแน่นอน
เพราะความขยันของเจอร์ราร์ดแท้ๆที่วิ่งไปตามเก็บบอลที่กองหลังเอฟเวอร์ตันสกัดผิดจังหวะ แล้วไหลให้ริเอร่ายิงไปติดเซฟ และเดิร์ก เค้าท์ก็มาตามซ้ำเผาขนตุงตาข่ายในที่สุด
แหม...ความดีกัปตันมีนิดเดียว เราพูดซะยาว
ช่วยไม่ได้ ก็ปลายนิ้วเรา จะพิมพ์ยังไงก็ได้ ยอมรับแล้วกันค่ะว่า "ลำเอียง" อิอิ
ก็อย่างงี้แหละ คนที่รักที่ชื่นชม ต่อให้มีข้อดีเพียงกระจิ๊ดริ๊ด ก็พร้อมจะมองหา มองเห็นและให้ความสำคัญ
กลับเข้าเรื่องก่อนจะออกทะเลไปไกล มาพูดถึงน้องเอ็นก๊อกบ้างดีกว่า ขอบอกว่า ณ ขณะนี้น้องมีข้อดีข้อเดียวคือ เก็บบอล เวลาบอลโยนยาวมา เห็นน้องพักอกเก็บบอลที่ไร มันให้คิดถึงเฮสกีทุกที แต่ก็ไม่ได้เหมือนอะไรนักหรอก เพียงแค่เห็นว่าเก็บบอลได้ดีพอตัวเท่านั้น แต่การจ่ายบอลให้เพื่อนเล่นต่อนั้นยังต้องแก้ไขอีกมาก และที่เห็นชัดๆคือ ยังชงเองกินเองไม่ได้ แต่ก็ไม่แปลกอะไร สำหรับกองหน้าที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังอะไร ค่าตัวกระปิ๊ดริ๊ด แถมอายุอานานก็เพิ่งจะ 19 ปี ได้เท่านี้ก็ต้องพอใจแล้ว อยากให้พวกเราอดทนกับเขาซักนิด ถ้าจิตใจแข็งแกร่งพอ และมีทัศนคติที่ดีล่ะก็ เด็กคนนี้ยังพัฒนาได้อีกมากทีเดียว
นัดนี้ชอบการเปลี่ยนตัวของราฟานะ เปลี่ยนเบนายูนแทนเอ็นก๊อก ดันเดิร์ก เค้าท์ไปยืนหน้าเป้า เพราะประสบการณ์ การยืนตำแหน่ง และการฉวยโอกาส เดิร์กเค้าทำได้ดีกว่าเอ็นก๊อกแน่นอน และดีกว่าการครองบอล เปิดบอลในตำแหน่งปีกของตัวเองด้วย และการเปลี่ยนริเอร่าแทนออเรลิโอ้ ก็ถือว่าต้องการรุก ซึ่งมันก็ทำให้เกมรุกของทีมดีขึ้นจริงๆ แค่จังหวะเบนายูนเลี้ยงบอลหลบนักเตะเอฟเวอร์ตันไป 4 คน แม้จะออกหลังไป ไม่ได้อะไร แต่ก็ทำให้กองหลังเอฟเวอร์ตันต้องมาพะวักพะวนกับความคล่องของเบนายูนไม่น้อย ส่วนริเอร่าก็ใช่ย่อย อีลูกช่างเลี้ยงพอกัน แม้จะไม่มีจังหวะตื่นตาตื่นใจนัก แต่ก็ทำให้เกมรุกมีมิติมากขึ้นบ้าง และก็นำมาซึ่งประตูที่ 2 ด้วย
คนสุดท้าย ไม่พูดถึงคงไม่ได้ จะใครล่ะ ถ้าไม่ใช่เรน่า นายทวารมือ 1 ของเรา นัดนี้เรน่าช่วยทีมไว้ไม่รู้กี่จังหวะ และบอกได้เลยว่าถ้าไม่มีเขาล่ะก็ ลิเวอร์พูลคงพรุนไปแล้ว นัดนี้ซุเปอร์เซฟกระจาย ยก MOM ให้เลย
บุกน้อยกว่ามากถึงมากที่สุด แต่ยังยิงได้ 2 ประตู ก็โอเค ส่วนหนึ่งเพราะโชคก็เข้าข้างเราด้วย นัดหน้าก็ไม่มีอะไรมากนอกจากหวังให้คนที่เจ็บๆอยู่ หายเจ็บกลับมาลงสนามได้ซะที และอยากเห็นอาควิลานี่เป็นที่สุด ถ้านัดหน้าที่จะเจอกับแบล็คเบิร์น ยังไม่ได้ลง ก็หวังว่า UCL นัดสุดท้ายกับฟิออเรติน่าซึ่งไม่มีผลอะไรกับเราแล้ว น่าจะได้ลงซักที
สุดท้ายนี้ รู้สึกดีกับ 3 แต้มนี้จริงๆ หวังว่านัดหน้าจะเก็บชัยชนะต่อเนื่องให้ได้ต่อไปนะ
ราฟา สัญญาแล้วนะคะว่าเราจะจบท๊อปโฟว์ และเราจะต้องทำให้ได้อย่างไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งนั้น
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 23:26:21
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 22:15:58
| จากคุณ |
:
howk_ky   
|
| เขียนเมื่อ |
:
30 พ.ย. 52 22:07:53
|
|
|
| 
