ความคิดเห็นที่ 1 ทั้งสองทีมมีปัญหาเรื่องการจัดตัวจนกุนซือทั้งเซอร์อเล็กซ์และโซล่า ต่างก็เวียนเฮดไปตามๆกัน ฝั่งเจ้าบ้าน การขาดหายไปของคาร์ลตัน โคล และ แม็ทธิว อัพสัน ทำให้งานของแนวรุกและแนวรับน่าจะมีปัญหามาก เนื่องจากทั้งคู่ก็เป็นตัวหลักของทีม แถมเป็นแคนดิเดตทีมชาติทั้งคู่อีกด้วย แถมยังอุตส่าห์มีคีรอน ดายเออร์หายเจ็บกลับมาแต่โซล่าก็เกรงว่าอาจจะยังไม่ฟิตมั้ง เลยจับนั่งสำรองไปก่อนคู่กับฌูเลียง โฟแบร์ งานนี้โซล่าจึงเหลือตัวหลักให้เลือกใช้น้อยมาก ผู้รักษาประตูนั้นต้องเข็นโรเบิร์ต กรีนลงมาเฝ้าเสาทั้งๆที่เพิ่งเป็นไข้ ส่วนแผงหลังเลือกเอา โจนาธาน สเป็คเตอร์ (ใช่เด็กเก่าเราไหมเนี่ย?), เจมส์ ทอมกินส์, แดนนี่ แก็บบิดอน และอิเลิงก้า แผงมิดฟิลด์นำโดย สก๊อตต์ ปาร์คเกอร์, ราโดสลาฟ โควัค, แจ๊ค คอลลิสัน และ จูเนียร์ สตานิสลาส มีกิลเยอร์โม ฟรังโก้ และ ซาวอน ไฮนซ์ เป็นกองหน้า ไม่ต่างกับผู้มาเยือนที่ต้องปรับทัพมากมายหลายจุดเช่นกัน เนื่องจากอาการบาดเจ็บของแผงหลังและผู้รักษาประตู โดยล่าสุดเหมือนจะยืนยันว่า จอห์น โอเช กับ จอนนี่ เอแวนส์นั้น น่าจะกลับมาได้ช่วงปีใหม่โน่น ริโอเองก็คงอีกหลายวีค จากแผ่นหลังเรื้อรัง วิดิชยังดีที่แค่เป็นไข้ ทำให้นัดนี้ ท่านเซอร์ต้องส่งคุสแซ็คมาเฝ้าเสา ใช้เอวร่าเป็นแบ๊คซ้าย คนนี้ไม่สาย ไม่ขาด ไม่ลาจริงๆนะฮะ แบ๊คขวาใช้ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ขัดตาทัพไปก่อน คู่เซ็นเตอร์ใช้แกรี่ เนวิลล์จับกับเวส บราวน์ โดยแผงกองกางนั้นไล่จากทางซ้ายมีไรอัน กิ๊กส์, อันแดร์สัน, ดาร์รอน กิ๊บสัน, พอล สโคลส์ และอันโตนิโอ วาเลนเซีย ทิ้ง เวย์น รูนี่ย์ เป็นหน้าเป้าคนเดียว จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 09:22:31

ความคิดเห็นที่ 2 รูปเกมในครึ่งแรก ยังคงน่าอึดอัดสำหรับกองเชียร์ผีแดงอย่างผม ถึงแม้จะครอบครองเกมได้ดีกว่าเยอะ ถึงแม้โอกาสจบสกอร์จะมีหลายครั้ง แต่หากตั้งอกตั้งใจดูจริงๆ จะพบว่า โรเบิร์ต กรีน นั้นก็ยังไม่ได้ออกแรงเซฟอะไรมากมายสักเท่าไหร่เลย เช่นเดียวกับ โทมัส คุสแซ็คของเรา  แมนฯ ยูไนเต็ดเองนั้น ยังออกอาการเดิมๆก็คือ ตื้อ และประสานงานในแนวรุกไม่ค่อยไหลลื่นในจังหวะสุดท้าย บอลของกลางไปไม่ถึงรูนี่ย์ในกรอบ เพราะเจ้าตัวชอบถอยลงมาต่ำทำให้มักจะได้บอลบริเวณหน้ากรอบซะมากกว่า อันตรายก็ลดน้อยลง แต่เกมรุกเรายังพอขึงเขาได้เรื่อยๆ ทำให้ความหวาดเสียวว่าจะเสียประตูยังไม่เกิดขึ้นมากนัก ทีมเยือนมาได้ประตูออกนำในช่วงทดเวลาบาดเจ็บในที่สุด จากจังหวะเตะมุม เวสต์แฮมเคลียร์บอลไม่ขาด ตกมาถึงแถวสองหน้ากรอบที่มีสโคลส์ยืนรออยู่อย่างกับโจรมุมตึก สโคลส์จับด้วยขวา บอลตั้งมาทางซ้ายอย่างสวยงาม แต่สโคลส์ก็ถูกรั้งไว้ในจังหวะแต่งจะยิง เจ้าตัวไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ขืนตัวไว้เต็มที่ แล้ววางเท้าสับด้วยอีซ้ายบอลเหินติดปลายมือกรีนเล็กน้อยแต่ไม่พอจะเซฟได้ บอลพุ่งเสียบหน้าต่างอย่างสวยงาม การได้ประตูออกนำในนาทีเช่นนี้ หลังจากลุ้นซะน้ำปัสสาวะเหนียวย่อมทำให้ผมดีอกดีใจอย่างที่สุด เพราะเกมมันเหมือนจะรอเพียงแค่ประตูนี้ประตูเดียวเท่านั้นเอง เมื่อมันมาได้ถูกที่ถูกเวลาแบบนี้ ผมอดใจนั่งรอครึ่งหลังแทบไม่ไหวเชียวครับ โดยไฮไลต์ครึ่งแรกนี้อยู่ที่เนวิลล์เจ็บโคนขาหนีบตอนสปริ๊นต์ออกตัว สุดท้ายต้องถูกถอดออกแล้วส่งคาร์ริคลงมายืนเซ็นเตอร์แทน เล่นเอาเนวิลล์เม้งแตก ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเม้งเพราะเจ้าตัวไม่อยากเจ็บ หรือเม้งเพราะเห็นกองกลางมายืนเซ็นเตอร์กันแน่ ส่วนทางฝั่งเจ้าบ้าน ไฮนซ์เองก็เจ็บ จนครึ่งหลังโซล่าต้องส่งเดียมานติลงมาแทน จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 09:22:45

ความคิดเห็นที่ 3 ล่วงเข้าครึ่งหลัง เกมยังเหมือนเดิม เวสต์แฮมยังไม่ผลีผลาม โซล่าน่าจะกำชับและวางแผนมาได้ดี ลูกทีมยังเก็บอาการได้ดีมากแม้ถูกนำออกไปในบ้าน เจ้าบ้านก็ยังคงแพ็คเกมต่อไป แล้วทิ้งฟรังโก้ กับเดียมานติไว้ข้างหน้าเช่นเดิม ปัญหาของเวสต์แฮมก็ยังคงเป็นปัญหาเดิมๆครับ คือเมื่อเน้นแพ็คเกมแล้วมันก็ทำให้กลางกับหน้าต่อไม่ติด ระยะทางการให้บอลมันห่างกันเกินไป ถึงแม้จะถอยฟรังโก้ลงมาเป็นตัวเชื่อมก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น เนื่องจากกลางของยูไนเต็ดวันนี้ส่งมาแพ็คเกมตรงกลางสนามถึงสามตัว บีบพื้นที่ซะจนปาร์คเกอร์ทำอะไรไม่ถนัดแล้วต้องหันมาเน้นรับมากกว่า ซึ่งนั่นน่าจะทำให้จินตนาการในเกมรุกของเวสต์แฮมหายไปนั่นเอง แถมเกมรุกทางด้านขวายังด้วนเสียอีก ด้านนี้โซล่าดูเย็นใจเกินไปที่ไม่ปรับอะไรทั้งๆที่เงียบมากๆ เงียบจนเอวร่าเล่นเหมือนเป็นปีกทั้งเกมเลย ส่วนทางฝั่งซ้ายนั้นก็กดดันเฟล็ทเชอร์แบ๊คจำเป็นน้อยเกินไปจริงๆ ทั้งๆที่จะว่าไป ไฮนซ์ หรือสตานิสลาสเองก็ความเร็วจัด น่าจะกดดันได้ดีกว่านี้ เมื่อยูไนเต็ดรู้สึกไม่กดดัน แถมมีประตูนำตุนอยู่ ก็ยิ่งเล่นง่าย กลางและปีกเริ่มแผ่ขยายการครองบอลออกไปทางด้านกว้างมากขึ้น การแพ็คเกมของเวสต์แฮมก็ถ่างออกทีละนิดๆ จนในที่สุด ช่องก็เปิดอีกครั้ง กิ๊บสันรับบอลไหลจากกิ๊กส์บริเวณหน้ากรอบโทษทางขวา เจ้าตัววิ่งเข้ามายิงด้วยอีขวาข้างถนัดทันที ส่งบอลพุ่งวาบเสียบหน้าต่างขวามือ กิ๊บสันทำได้อีกครั้งหลังจากตั้งศูนย์เล็งมาสองสามรอบ เป็นประตูที่สามจากสองนัดของเจ้าตัว พอเสียประตูนี้ โซล่าใจเย็นไม่ได้แล้วครับ ส่งคีรอน ดายเออร์ลงมาแทนโควัคทันที ในขณะที่ทีมเยือนก็ส่งเบอร์บาตอฟลงมาวาดลวดลายเป็นกองหน้าแทนกิ๊บสัน กลับมาเล่น 4-4-2 อีกครั้งหนึ่ง จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 09:22:59

ความคิดเห็นที่ 4 เวสต์แฮมยังเหมือนงงๆและช็อคไม่หาย เกมยังไม่กระเตื้อง สุดท้ายก็โดนอีกสองลูกรวดจากการเปิดเรียดเข้ากลางของแอนนี่ทางซ้ายให้วาเลนเซียชาร์จ ตามด้วยเปิดเรียดทางขวาจากวาเลนเซียให้รูนี่ย์ชาร์จ พอเสียสองลูกรวด เวสต์แฮมถึงเพิ่งตื่นจากภวังค์ เริ่มเล่นเกมรุกกดดันทีมเยือนหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆหลังจากกรีนเล่นต่อไม่ไหวต้องส่งคูรุคซ์ลงมาแทน ในขณะที่โอเว่นก็ถูกส่งลงมาแทนรูนี่ย์ เวสต์แฮมกดดันได้ดีขึ้นเรื่อยๆจนคุสแซ็คต้องโชว์เทพดีเฟ้นซ์หลายครั้งในเกมนี้ นับว่าคุสแซ็คยังโชว์ฟอร์มได้ดีอย่างต่อเนื่อง จะมีต้องตำหนิหน่อยก็คือจังหวะเตะจากลูกส่งคืนนี่แหละที่ยังลนๆและเตะผิดเตะถูกอยู่เรื่อยๆ ภาพรวมของคุสแซ็คตอนนี้ผมว่าเบ็นน่าจะคิดได้และยอมรับการถูกส่งไปยืมตัวอีกรอบ เพื่อโอกาสในเวิลด์คัพของเขานั่นเอง ช่วงท้าย ๆ บราวน์มีอาการเจ็บอีกคน ต้องเดินออกจากสนาม และท่านเซอร์ก็ถอยเอวร่ามาเล่นเซ็นเตอร์คู่คาร์ริค ปรับเอากิ๊กส์มายืนแบ๊คซ้าย ผมมองว่านี่คงเป็นแผงหลังที่คลาสสิคที่สุดในโลกแล้วครับ เฟล็ทเชอร์-คาร์ริค-เอวร่า-กิ๊กส์ แหม... ซี๊ดส์อูยยยจริงๆนะเนี่ย สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเพิ่มเติมอีก จบเกมไปด้วยสกอร์ 0:4 ที่ส่งให้แชมป์เก่าทะยานขึ้นมาไล่จี้เชลซีเหลือเพียง 2 แต้มเท่านั้น เมื่อเชลซีเองพลาดท่าออกไปพ่ายแมนฯ ซิตี้ซะงั้น ถึงแม้ว่าชัยชนะช่วงสามเกมล่าสุดของเราจะดูสวยหรู ยิงได้สิบเอ็ดประตูจากสามเกมก็จริง แต่ผมยังคงมองว่า นั่นคือภาพลวงตาที่เกิดขึ้นอย่างมีจังหวะและมีวาสนาพอสมควร ทั้งๆที่บางเกมรูปเกมเราก็ไม่ได้เหนือกว่าขนาดนั้น แถมจังหวะประสานงานเพื่อประตูยังไม่ค่อยต่อเนื่องอีกด้วย แต่มันก็ยังมีแง่ดีๆให้มองเหมือนกันนะครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 09:23:13

ความคิดเห็นที่ 5 เนื่องจากเกมรุกของเราที่ปัญหาการประสานงานในจังหวะสุดท้ายมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สองฤดูกาลก่อน แต่ว่าโรนัลโด้ได้ปิดจุดอ่อนนี้ด้วยฝีเท้าและความคมของเขา มาปีนี้ เมื่อไม่มีโรนัลโด้ จุดอ่อนนี้จึงดูเหมือนเห็นได้ชัดเจนขึ้น และทำให้หลายๆนัด ต้องลุ้นเอาตัวโยกกว่าจะได้มาสักลูก ป๋าก็คงมองเห็นแหละครับ นัดหลังๆเราจึงเห็นความพยายามของแถวสองมากขึ้น มิดฟิลด์พยายามสอดขึ้นมามากขึ้น และเน้นการโมตีจากการครอสริมเส้นเพิ่มขึ้นอีกทางเพื่อดึงแบ๊คสองข้างถ่างออกจากพื้นที่ เปิดช่องให้หน้าและกลางทำได้สะดวกมากขึ้น นี่คือการปรับเปลี่ยนมิติในช่วงนี้ของแมนฯ ยูไนเต็ด ถึงแม้หลายคนจะบอกว่าวาเลนเซียมีดีแค่โยกออกข้างนอกเพื่อเปิด แต่นั่น มันก็คือการดึงแบ๊คออกจากโซนด้วย ยิ่งหลังๆนี้ เมื่อวาเลนเซียมีมิติตัดเข้าในเพิ่มขึ้น ยิ่งทำให้การดึงตัวประกบทำได้ดีขึ้น กลางเราก็เล่นได้ง่ายขึ้นนั่นเอง จะว่าไป การที่ดาร์รอน กิ๊บสันได้ลงมากขึ้น ก็คือการเพิ่มมิติของทีมในช่วงที่เราต้องการนั่นแหละ เมื่อหน้าฝืด ต่อเกมจังหวะสุดท้ายไม่เนียน เข้าทำไม่สะดวกไม่จะแจ้ง ทางเลือกก็คือต้องเพิ่มมิติอื่นใส่เข้าไปในเกม นั่นก็คือการยิงจากแถวสองนั่นเองที่เราเพิ่มเข้าไปในช่วงหลัง ซึ่งสุดท้ายมันก็นำสามแต้มมาให้เราได้อย่างต่อเนื่องจริงๆ เมื่อรวมกับการเสียสามแต้มของเชลซีนั้น ก็ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าอุณหภูมิของเกมลูกหนังอิงลิชนั้นน่าจะสูงทะลุปรอทแน่ๆครับ ในช่วงคริสต์มาสต่อเนื่องปีใหม่นี้ และผมแนะนำให้ทุกๆท่านอย่าพลาดแมทช์ในช่วงนี้เด็ดขาด เพราะมันอาจพลิกผันได้ทุกๆสัปดาห์เลยครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 09:23:30

ความคิดเห็นที่ 6 วันนี้ ผมคงขออนุญาตสั้นๆ เท่านี้ เนื่องจากดีเลย์ไปหลายวัน แถมผมเองก็กำลังจะออกไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ แถวๆ สมุทรปราการด้วย เอาไว้หลังเกมเสาร์-อาทิตย์นี้นะครับ ผมจะกลับมาเขียนเต็มๆให้อ่านกันอีกครั้ง และ อย่าลืม ช่วงนี้ห้ามพลาดเกมอิงลิช พรีเมียร์ลีกเชียวครับ เดี๋ยวจะหาว่าหงบไม่เตือน แล้วมาลุ้นกันนะครับ สงบใจ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 09:23:46

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณครับน้าหงบ <o)))))>< จากคุณ : ปลาทะเล เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 09:36:08

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องรายชื่อยูฟ่า รู้สึกว่า 25 คนที่ส่งไป ต้องอายุเกินเท่าไหร่ไม่ทราบนะครับ แต่ถ้าเป็นเด็กปั้นสโมสรที่อายุไม่ถึง รู้สึกจะอนุโลมให้ลงได้เลย ไม่ยืนยันนะครับ จากคุณ : เจ้าชายน้ำหยด เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 09:47:17

ความคิดเห็นที่ 9 ชอบคาร์ริคมากค่ะ เช็ค ล้ำหน้าได้สุดยอดดดดดดดดดดดดดดด ยืนเป็นตัวสุดท้ายแต่ดันขึ้นเวลาเช็คไลน์ได้ทันตลอด แถมปักหลักคุมหลัง แบบทำตามคำสั่งของป๋าได้ดีมาก  ไม่คิดเลย ว่าจะได้เห็นมิดฟิลด์มายืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเนี่ย นับว่าเป็นการแก้ปัญหาเรื่อง มิดฟิลด์ ล้นทีม ของป๋าได้ดีเลยทีเดียว เอามิดฟิลด์มายืนแผงหลัง ทั้ง เฟรชเชอร์ คาร์ริค ลุงกิกส์ หุ หุ กองเชียร์จะบ้าตายค่ะ เกมคืนนี้ มีถ่ายทาง ดาวเทียมช่อง S3 ค่ะ คุณสงบใจ เดี๋ยวจะดูเผื่อนะคะ จากคุณ : DoraWee เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 09:49:32

ความคิดเห็นที่ 10 จะว่าไปไม่ได้เห็นมานานแล้วนะครับ การยิงจากแถวสองของทีมเราแบบมันส์ๆ นับจากที่สโคลส์ช่วงหลังค่อนข้างที่จะจ่ายมากกว่ายิงเหมือนแต่ก่อน แอนนี่ก็ยิงไม่ได้ คาร์ริคยิงได้ดีบางนัด บอลไม่แรง แต่ทิศทางดี เทพเฟล็ทก็ยิงไม่แรง มาได้กิ๊บสันนี่แหล่ะ ตั้งป้อมทีไร มีลุ้น ส่วนอนาคตของนานี่น่าจะดับลงไปแล้วละมั้ง จากคุณ : Kiroa เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 09:51:37

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีครับ  คุณสงบใจและผองเพื่อนปีศาจแดง ไม่ได้ัเข้ามาทักทายตั้งหลายนัด  พอดีไปเที่ยวมาเกือบเดือนเลย นัดนี้  ก็ไม่ได้ดูเหมือนเดิม  แต่ก็ได้ดูไฮไลท์บ้าง แต่ก็ไม่รู้จะให้ความเห็นยังไงดี  ก็ขออ่านอย่างเดียวก็แล้วกันครับ ขอออกความเห็นซักนิดก็แล้วกัน คือผมชอบนะที่แถวสองของเรายิงได้เรื่อย ๆ เพราะอย่างน้อย  ทีมที่ชอบอุดเวลาเจอทีมเราจะได้กังวลบ้าง ไม่ใช่กองอยู่หน้าประตูรอดักอย่างเดียว   อย่างเมื่อก่อน  เบ๊ค  สโคลส์  คีน  กิกส์  ก็ยิงจากแถวสองบ่อยมาก ๆ ทำให้คู่ต่อสู้ไม่รู้จะจับทางใครดี   จะจับกองหน้า  แถวสองก็รอยิง   จะจับกองกลาง  แถวหน้าก็หลุดไปยิงได้ง่าย แต่หลัง ๆ รู้สึุกจะน้อยลงไปหน่อย แถมกองหน้าเรา  ก็ยืนตำแหน่งเหมือนไม่อยากเป็นกองหน้างั้นแหละ ทำให้คนดูอย่างเรา ๆ ลุ้นกันซะตัวโก่ง แต่ยังไง  ก็ขอให้ชนะไปเรื่อย ๆ ก็แล้วกันเนอะ จากคุณ : ขุนไกรครับผม เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 10:01:21

ความคิดเห็นที่ 12 กิ๊บ สันนิ มีดีตรงยิงไกลอย่างเดียวเลยตอนนี้ อิอิ นอกนั้นพื้นๆมากๆ เสียวแผงหลังตอนนี้จริงๆเลยครับ คืนนี้เจอเซโก้ สูงๆนิ สงสัยจะรอดยากนะครับ -*- จากคุณ : dabodabo55 เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 10:08:35

ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อก่อน เคยมีคีนยืนเซ็นเตอร์ด้วย.... คาร์ริกเล่นเหมือนกันเลย... จะบ้าเสียให้ได้...... เห็นไหม ขาดโอเช ขาดบราวน์ มันเป็นจั่งซี้.... น้องเฮียเต๊ะเรานี่ก็....... ออกงิ้วอะไรขนาดนั้น...... รู้สึกจริงๆ ด้วยแหละว่า ลูกแถวสองแมนยูหายไปนานมากแล้ว.... กลับมามั่งก็โอเค..... กิ๊บสัน เพิ่มมิติอื่นเร็วๆ เน้อ.... อีกคู่ เชลซีออกนำเร็ว..... ผมไม่ดูต่อเลยนะ ครึ่งแรก (นั่งเล่นเกมปลูกผักดีกว่า)..... แต่ก็เปิดมาดูเป็นระยะ ครึ่งหลังค่อยดูเต็มๆ หน่อย.... มันจริงๆ...... เชียร์แมนซิตี้ก็วันนี้แหละ.... เตเวซ นายแน่มาก จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 10:21:34

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณบทวิพากษ์เช่นเคยครับ จากคุณ : SausageBunn เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 10:36:46

ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อไหร่กองหลังจะหายเจ็บคะ จากคุณ : ผีหลายบทบาท เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 10:47:18

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณครับ  คืนนี้ไม่รู้ใครจะลงเล่นกองหลังบ้าง สงสัยคาร์ริคเป็นเซนเตอร์อีก  และเหมือนที่ คห บนๆ พิมพ์ไว้ครับ คีโน่ก็เคยยืนหลังมาแล้วเหมือนกัน ส่วนบอลลีกนัดหน้าเจอวิลล่า หวังว่าอย่างน้อยวีวี่จะลงได้นะครับ ไม่งั้นเจอบอมบ์ทั้งเกมแน่เลย จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 10:52:57

ความคิดเห็นที่ 17 ตอนแรก เนวิลล์ยืน เซ็นเตอร์ ก็หวั่นๆ สลับช่องไปดูลิเวอร์พูล  ทำไม เป็น คาร์ริก แต่ก็นิ่ง พอควร และน่าจะทำได้ดี แต่ต้องดูนัดต่อๆไป แต่ก็ต้องรอดูเพราะในอดีต แกรี่ เนวิลล์ เคยยืน เซ็นเตอร์จำเป็น เฟอร์กูสันบอกว่า ถ้าเนวิลล์สูงอีกฟุต จะเป็น กองหลังที่ดีที่สุดในอังกฤษ  เล่นดีนัดแรก  แต่หลังๆ โดน บอมหนัก เป๋ไปพอสมควร นักเตะแมนยูนี่พรสวรรค์อย่าง ต้องเล่นได้หลายตำแหน่ง อย่างคีน เคยยืนเซ็นเตอร์  แต่ที่มันส์สุดๆ ก็เล่นแบ็คขวาจำเป็นตัดเกมส์มันส์เติมเกมส์สุดๆ   ส่วนกิ๊บสันผมว่า ก็ไม่ถึงกับขี้เหร่อย่างที่คนว่าๆกัน  ก็เล่นตามเกมส์ได้  เพียงแต่ไม่เด็ดขาดอย่างที่คนตั้งความหวังไว้   เพราะกลางของแมนยู ทุกคนต้องบู๊ สะใจ ตั้งแต่ ร็อบโบ้ อินซ์ คีน  บัตต์ แต่เราก็มีทีเด็ดจากแถวสองที่ขาดหายไปนาน  เพราะเมื่อก่อน เหมือนอาวุธหลักแมนยูเลย  ทั้งอินซ์คีน  มาสโคลส์ คีน   ผมหวังกิ๊บสันว่า ประคองตัวเล่นได้ดีสักเท่า บัตต์ ที่เป็นตัวสแตนบายในยามฉุกเฉิน ได้ผมว่าน่าจะโอเคแล้ว จังหวะเข้า ทำแมนยูตอนนี้เริ่มลงตัวมาก  วาเลนเซีย ทะลุทะลวงดี และรู้จักเล่นแล้วไม่ตะบี้ตะบันเลี้ยงเหมือนก่อน   แต่ที่ผมชอบอาจจะไม่เหมือนคนอื่นคือ แอนเดอร์สัน ผมมองว่าเค้า ทุ่มเท  ทำฟาวล์ฉลาด  เทคนิคดี  แต่เสียตรง ลูกจ่าย คิลเลอร์พาส ที่เพื่อนงงนี่แหละ สโคลส์เหลืออีก ลูกจะครบร้อย   ไม่รู้จะพูดถึงว่าไง เพราะผมรักสโคลส์ตั้งแต่ เล่นชุดใหญ่ในฐานะศูนย์หน้าหัวแดงเพลิง สรุปว่า โมเมนตั้มแมนยู กำลังจะมาได้สวย นัดหน้าเจอวิลล่า ถ้าผ่านได้ก็จะเจอของเบาๆในนัดต่อๆไป ผผมหวังว่าแมนยูเครื่องจะเริ่มติดแล้ว  และมุ่งสมาธิไปที่พรีเมียร์อย่างเดียว ขอเป็นแชมปื 4 สมัยติดทีมแรกของอังกฤษ ก็พอใจแล้ว จากคุณ : จูล่งแห่งเสียงซาน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 11:26:36

ความคิดเห็นที่ 18 รู้จัก"กิลล์"เซ็นเตอร์กู้ผี-เผย 19 แข้งเยือนหมาป่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่เคยสิ้นคนดีเมื่อเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันจอมคนสก็อตต์อาจต้องดันดาวรุ่งอย่างโอลิเวอร์ กิลล์ เซ็นเตอร์ร่างโย่งวัย 19 ปี ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเดวิด กิลล์ ซีอีโอของสโมสรลงสนามพบโวล์ฟสบวร์ก "ปีศาจแดง" ต้องเผชิญกับวิกฤตกองหลังซึ่งบาดเจ็บถึง 8 คนได้แก่ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมานย่า วิดิช , เวส บราวน์ , แกรี่ เนวิลล์ , ราฟาเอล , ฟาบิโอ , จอห์น โอเช และจอนนี่ อีแวนส์ และจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้แมนฯยูไนเต็ดเหลือกองหลังตัวจริงเพียงแค่สองคนคือปาทริซ เอวร่า และริทชี่ เดอ เลท แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ "เดอ เลท" แบ็กซ้ายเบลเยียมที่เคยสอดมาเล่นทีมชุดใหญ่อยู่บ่อยๆ ไม่สามารถลงเล่นในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีกได้ เพราะทางเฟอร์กี้ไม่ได้ใส่ชื่อลงไปตั้งแต่ทีแรก และตามกฎของยูฟ่า การเพิ่มชื่อนักเตะลงไปแบบฉุกเฉิน นักเตะคนนั้นต้องอยู่กับสโมสรมาก่อนอย่างน้อย 2 ปี ซึ่งเดอ เลท เพิ่งย้ายมาเล่นให้อสูรแดงเมื่อมกราคม 2009 ส่วน กิลล์ อยู่ในโควต้าของนักเตะชุด B คือเหล่านักเตะโฮมโกรวน์ของสโมสร ซึ่งสามารถลงสนามได้ และน่าจะมีโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตเพราะจะได้ดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกและเป็นตัวจริงทันที ดาวรุ่งจากฟริมเลย์ , เมืองเล็กๆทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ เซ็นสัญญากับ "ปีศาจแดง" ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และลงสนามในทีมสำรองของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาไปแล้ว 9 นัดในฤดูกาลนี้ ที่สำคัญคือกิลล์เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเดวิด กิลล์ ซีอีโอของแมนฯยูไนเต็ดด้วย กิลล์เล่าว่าเขาย้ายเข้ามาเล่นในอะคาเดมี่ของ "ปีศาจแดง" ตั้งแต่อายุ 12 ปี และมีริโอ เฟอร์ดินานด์เป็นไอดอล นอกจากนี้เขาก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นเด็กเส้นของสโมสร "เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในตำแหน่งนี้แล้วนะ แล้วผมโชคดีมากที่ได้มีโอกาสคุยกับเขาแม้จะเพียงไม่กี่ครั้ง แต่เขาเป็นคนดีและน่าคบหามาก" "ไม่มีใครตั้งข้อสังเกตถึงความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพ่อนะ ผมอยู่ในอะคาเดมี่มาตั้งแต่ 6 ขวบและผมก็คิดว่าคนอาจจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำ เรื่องพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคิดถึงหรอก" กิลล์ มีจุดเด่นอยู่ที่ความสูง , ความเร็ว และลูกกลางอากาศ นอกจากนี้ยังชอบที่จะขึ้นไปเติมเกมรุกเมื่อทีมได้ลูกตั้งเตะ พอล แม็กกินเนส โค้ชทีมชุดยู-18 ลงความเห็นว่า "โอลิเวอร์สูงใหญ่ และเป็นกองหลังตัวกลางที่ฉลาดมาก โดยเฉพาะถ้าเจอกันตัวต่อตัว เขาจะมีความมุ่งมั่นสูง และจะเป็นเรื่องยากมากที่จะเลี้ยงบอลผ่านเขาไปได้" ทั้งนี้ยังคงเป็นเรื่องไม่แน่ชัดว่าเฟอร์กี้จะส่งใครยืนเป็นกองหลังบ้างเพราะไมเคิ่ล คาร์ริคก็พร้อมลงสนามส่วนดาร์รอน กิ๊บสัน มิดฟิลด์กิ๊บซี่ก็พร้อมจะลงไปเล่นหลังยามทีมคับขันเช่นเดียวกัน สำหรับทีมชุดที่จะออกไปเยือนโวล์ฟสบวร์ก ป๋าแห่งโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดใส่ชื่อไปเพียง 19 คนและที่สำคัญคือไม่มีไรอัน กิ๊กส์ , เวย์น รูนี่ย์ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และเฟเดริโก้ มาเคด้าซึ่งคาดว่าน่าจะถูกพักเอาไว้สำหรับเกมกับแอสตัน วิลล่าในวันเสาร์ นอกจากนี้ดาวรุ่งอีกหลายคนอย่างแม็ตตี้ เจมส์ , แม็คนัส ไอเคร่ม , คาเมร่อน สจ๊วร์ตและโอลิเวอร์ นอร์วู้ดต่างก็อาจได้ลุ้นประเดิมทีมชุดใหญ่ในคืนวันอังคารนี้ด้วย 19 ผู้เล่นตัวจริงของแมนฯยูไนเต็ดนัดออกเยือนโวล์ฟสบวร์ก ผู้รักษาประตู : โทมัส คุสชัค , เบน ฟอสเตอร์ กองหลัง : ปาทริซ เอวร่า , โอลิเวอร์ กิลล์ กองกลาง : กาเบรียล โอแบร์กตอง , แม็กนัส ไอเคร่ม , พอล สโคลส์ , ดาร์รอน กิ๊บสัน , หลุยส์ อันโตนิโอ วาเลนเซีย , ไมเคิ่ล คาร์ริค , แม็ตตี้ เจมส์ , ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ , พาร์ค ชี ซอง , อันแดร์สัน , คาเมร่อน สจ๊วร์ต , นานี่ , โอลิเวอร์ นอร์วู้ด กองหน้า : ไมเคิ่ล โอเว่น , แดนนี่ เวลเบ็ค เครดิต :เจี๊ยบ เคเอฟซี @Soccersuck.com จากคุณ : ManRed เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 11:37:49

ความคิดเห็นที่ 19 เอฟร่าเป็นเพลย์เมคเกอร์ที่แอบมาแฝงตัวอยู่แบคซ้ายขาดไม่ได้อยู่แล้ว แต่แกฟิตจริง ๆ ปล. ได้โอกาสดูฟอร์มเด็ก ๆ อีกแล้ว แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 52 11:49:12 จากคุณ : RadiS เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 11:45:58

ความคิดเห็นที่ 20 สามเกมหลังต้องบอกว่าภาพลวงตาจริงๆครับ ตั้งแต่ชนะปอมปี น้องไก่ จนมานัดล่าสุดที่ทุบค้อน ถ้านั่งดูเกมดีๆ ผมว่าเราไม่ได้เหนือขนาดนั้น โดยเฉพาะเกมกับปอมปีและน้องไก่ รูปเกมเราออกจะเป็นรองเสียด้วยซ้ำนะครับ ส่วนนัดล่าสุดนี่ต้องบอกว่า ขุนค้อนไม่มีอะไรเลยจริงๆ คงเป็นเพราะแนวรุกเค้าเจ็บเยอะ เลยกดดันอะไรเราไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน หลังจากจบเกมนี้มีสองอย่างที่ผมอยากบอก อย่างแรก ป๋าช่วยเอาแอนเดอร์สันลงบ่อยๆได้มั้ยครับ ดูแล้วมีแววดีมาก แย่งบอลดี แข็งแกร่ง มีความเร็ว ไปกับบอลได้ดี เสียบอลยาก เรียกได้ว่าเป็นกองกลางคนเดียวของแมนยู ที่ไม่ต้องรีบคายบอลเวลาโดนบีบ เพราะตัวเองสามารถเอาตัวรอดได้ เหลือแค่ปรับจูนการส่ง บางครั้งเค้าชอบส่งเหนือเกินไป และเร่งจังหวะเกินไป แต่โดยรวมแล้วถือว่าลูกส่งดูดีนะครับ ส่งสวยๆได้หลายลูก ในหลายเกมที่ผ่านมา ถ้ายิงได้ดีซักครึ่งของกิ๊บสัน ผมว่าเอาลงตัวจริงไปเลย อย่างที่สองที่อยากบอกคือ ริโอช่วยหายเจ็บมาเร็วๆเหอะครับ ดูคาร์ริกเล่นวันนั้นแล้ว รู้เลยว่าช่วงหลังเราขาดอะไร "การเปิดเกมจากแดนหลัง" นี่คือสิ่งที่ผมคิดว่าเราขาดหายไปตั้งแต่ริโอเจ็บ พอขาดเค้าไป เทพน้ำตาลลงมา พวกเล่นสาดยาวแบบไร้น้ำหนักและทิศทาง ทำให้เราเซ็ตเกมรุกได้ยากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่พอคาร์ริกลงมาวันนั้น เห็นเลยว่าถึงแม้จะเล่นเกมรับสู้กองหลังอาชีพไม่ได้(มันก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้ว) แต่การเซ็ตเกมรุกนี่เค้าช่วยได้เยอะ มีเปิดบอลยาวสวยๆหลายทีเหมือนกันนะครับ จากคุณ : โค้วเต๊กซิม เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 12:16:41

ความคิดเห็นที่ 21 ประเดิมแจกกิ๊ฟเดือนธันวาคมเลยละกัน อิอิอิ เรื่องแรก ผมเห็นด้วย ว่ากิ๊บสันไม่ได้สมควรโดนตำหนิมากนัก อย่างน้อยกับการเพิ่งได้ลงเป็นตัวจริงเพียงไม่กี่นัดในทีมชุดใหญ่ จะให้ภาพของคีน หรือร็อบสัน แม้แต่ พอลอินซ์ มาบดบังความเป็นจริงเสียหมด อย่าลืมว่าพวกฮาร์ดแมนทั้งหมดที่กล่าวมานั้น เราซื้อมาแบบเรียกได้ว่าไม่ได้เอามาปั้นนะครับ แต่เอามาลงน้ำได้ทันที ดังนั้น หากจะเทียบกิ๊บสันกับพวกนี้ ก็รบกวนให้อดทนรอสักพักก่อน ขนาดสโคลส์เอง ตอนลงน้ำ ก็มีพี่ๆประคองก่อนตั้งหลายต่อหลายคน แถมตำแหน่งแรกก็ลงเป็นกองหน้าด้วยซ้ำไป ก่อนจะผันตัวเองลงมาเป็นกองกลางในช่วงถัดมา แต่ถ้าจะลองนึกย้อนกันจริงๆจังๆ นอกจากสโคลส์เองแล้ว นักเตะลูหม้อสโมสรที่ยึดตัวจริงได้ยาวนานในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ผมเองก็ยังนึกไม่ออกแฮะ นอกจากจะย้อนไปไกลหน่อยถึงรุ่น ไมค์ ฟีแลนเองก็ไม่ใช่ นีล เว็บบ์ก็ไม่ใช่ ดังนั้น ผมอยากให้อดทนรอกิ๊บสันได้เรียนรู้นานๆหน่อย ก่อนจะตัดสินเขา เพราะภาพรวมผมว่าร่างกายได้เปรียบด้านความแข็งแกร่ง ยิงไกลได้ดีมากๆ อาจจะถึงระดับสโคลส์ตอนรุ่งๆได้เลย ดีไม่ดีอาจดีกว่าด้วยซ้ำ ถ้าเขาพัฒนาได้จริงๆจังๆ ที่เหลือก็คงเซนส์การอ่านเกมและการคอนโทรลเกมในฐานะตัวกลางนั่นแหละ สำหรับแอนนี่ ผมก็เห็นด้วย ว่าควรได้โอกาสอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้หากไม่นับลูกยิงที่ห่วยแตก ผมว่าแอนนี่พัฒนาการครอบครองบอลได้ดีมากๆ การแย่งบอล เหลี่ยมการเล่น และการพาบอลไปกับตัว ผมมองว่าเขาดีว่าคาร์ริคด้วยซ้ำไป เพียงแต่ขาดประสบการณ์ในการอ่านเกม ทำให้มักจะจ่ายเสี่ยงๆมากเกินไป รวมทั้งยังไม่รู้จักผ่อนเกม หรือดึงจังหวะ แต่ยังไงก็ต้องให้โอกาสครับ ภาพรวมของตัวกลางเรา ผมมองว่าถ้าแอนนี่ และกิ๊บสันพัฒนาได้ดีมากๆในปีสองปีนี้ รวมทั้งเฟล็ทเชอร์ยืนระยะได้และยังก้าวไปข้างหน้าได้อีก ความซวยจะมาตกที่คาร์ริคนี่แหละครับ เพราะปีนี้แกยังเร่งตัวเองไม่ค่อยขึ้นเอาเสียเลย หานัดที่เด่นกว่าเฟล็ทเชอร์ไม่เจออีกต่างหาก หากคาร์ริคยังเร่งไม่ขึ้นนานๆแบบนี้ อาจแย่เอาได้ครับ ------------------------------------------------------------- ทางด้านกองหลัง ผมว่าสาหัสสากรรจ์มากทีเดียว กับการขาดหายไปของกองหลังหลายตัวมากๆ แถมจะขาดเป็นสัปดาห์ๆเลยด้วยซ้ำไป งานนี้ต้องวัดกึ๋นของป๋าเราแล้วครับ ว่าจะงัดอะไรมาสู้ เดอลาท คงต้องรับบทหนัก ส่วนกิลล์ (ต้องขอบคุณคุณ ManRed มากๆ สำหรับข้อมูลของกิลล์ครับ) นั้น แม้แต่เว็บสโมสรเองก็ยังไม่มีชื่อบรรจุเป็น first team เลย เป็นเพียงนักเตะทีมสำรองเท่านั้น แต่ถ้ามีปัญหาจริงๆ แล้วกิลล์ฟอร์มใช้ได้ เราอาจเห็นป๋าผ่าทางตันกับเด็กกิลล์ก็เป็นได้ครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 13:05:38

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณค่ะ ป๋าบอกว่า man utd มักจะเป็นทีมที่ชอบสร้างสถิติทำอะไรเป็นทีมแรก เราเลยสร้างสถิติเล่นจบเกมด้วยการเหลือกองหลังตัวเดียวในสนามมันซะเลย แถมเอาคนที่เตี้ยที่สุดไปเล่นเซ็นเตอร์อีก บริหารหัวใจโดยแท้ ตอนนี้เริ่มประทับใจผลงานของวาเลนเซียมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วค่ะ ชอบที่เค้าเล่นง่าย ๆ เสียบอลยาก ช่วงแรก ๆ ที่เข้ามาอาจยังจูนกับเพื่อนไม่ติดเท่าไหร่เลยยังดูทำผลงานได้ไม่ดี แต่พอเริ่มเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีมผลงานเลยดีขึ้นทุกวัน เพราะวาเลนเซียเค้าไม่ใช่บอลชายเดี่ยวอย่างนังโด้รูปแบบการเล่นของเค้าต้องอาศัยการประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม ปล. คาริคให้สัมภาษณ์ว่าเป็นครั้งแรกที่เล่นเซ็นเตอร์ค่ะ ท่าทางอาจต้องเล่นอีกวักพักนะเนี่ยเพราะกองกลังเจ็บกันระนาว นี่น้องอีฟดับโอเชก็พักถึงปีใหม่ ในทีมสำรองตอนนี้ก็ไม่มีกองหลังผลงานเด่น ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นกองกลางกับกองหน้ามากกว่าที่ผลงานดี แล้วไม่รู้ราหูอมรึไงนะบรรดากองหลังเด็ก ๆ ในทีมสำรองกับเยาวชนก็พากันเจ็บตามพี่ ๆ กันไปอีก จากคุณ : น้ำผึ้งพระจันทร์ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 13:06:12

ความคิดเห็นที่ 23 คุณสงบใจน้อง Gill เพิ่งได้เบอร์เสื้อตัวจริงก็อาทิตย์นี้เองค่ะเลยยังไม่มีชื่อในทีมตัวจริง จริง ๆ กองหลังยังมีน้องชายของน้องนำตาลอีกคนนะคะ แต่เจ็บเหมือนกัน จากคุณ : น้ำผึ้งพระจันทร์ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 13:09:16

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับ คุณสงบใจ ลูกหม้อ ของแมนยู ในตำแหน่งตัวกลาง แทบไม่มีเลยครับ ร็อบสันก็ซื้อจากเวสบรอม ตั้งแต่ปี81 ค่าตัวอย่างแพง 1.5 ล้าน ในสมัยนั้น ไมค์ ฟีแลนด์ ถ้าจำไม่ผิดย้ายมาจาก นอริช มาพร้อมนิล เว็บบ์ จาก ฟอร์เรซ อินซ์ก็มาจาก เวสแฮม คีนก็ ฟอร์เรซ ที่เห็นแมนยูปั้นมาและอยู่ยงเล่นได้หลายปีก็ มีบัตต์ กับสโคลส์นี่แหละครับ เลยคิดว่า กิ๊บสันน่าจะลองได้รับโอกาสดูนะครับ เพราะพวก ร็อบโบ้ อินซ์ คีน นี่พวกสำเร็จรูปแล้ว ส่องกล้องมาอย่างดี  ถึงซื้อ ที่ซื้อมาแล้วพลาดจริง คือเว็บบ์ เจ็บอย่างเดียว จากคุณ : จูล่งแห่งเสียงซาน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 13:23:20

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณค่ะ อิอิ จากคุณ : poojo_ke เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 13:34:24

ความคิดเห็นที่ 26 หึหึหึ ผมเจ็บใจก็ท่านจับฉ่ายนี่แหละ ร้อยวันพันปีไม่เคยเจ็บ ทะลึ่งมาเจ็บเอาตอนที่ชาวบ้านเขาเจ็บหมด เสียชื่อเทพจับฉ่ายหมด ตำแหน่งไหนขาดหาย จับฉ่ายจัดให้ แต่หนนี้ จับฉ่ายเดี้ยงซะเอง โอย ปวดเฮด แผงหลังสุดคลาสสิค เซ็นเตอร์ที่เตี้ยที่สุดในโลก กับ ลูกเจี้ยบผู้แสนหน่อมแน้ม (แต่อ่านเกมดีนะ) แล้วป๋ากิ๊กส์ ไปเป็นแบ๊กซ้าย เทพเฟลทแบ็กขวา... แผงหลังเรียกดราม่าชัดๆ จากคุณ : Sir Genii เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 13:55:09

ความคิดเห็นที่ 27 แล้ว เคร็ก แคธคาร์ธ อะไรเนี่ยไปอยู่ไหน เห็นว่าเล่นดีไม่ใช่หรือ แล้วคูแฝดเงาะ เนี่ยยังเจ็บกันอยู่อีกเหรอครับ ไม่ทราบว่าใครพอจะมีตารางการกลับมาของเหล่านักเตะที่เจ็บเหล่านี้บ้าง ที่ผมว่าปีนี้เราเปลี่ยนไป ก้อคือ กองกลางเราเฉลี่ยกันทำประตูได้มากขึ้น สังเกตมานัดหลังๆเนี่ย กองกลางเรามีชื่อในฐานะผู้ทำประตูกันบ่อยนะครับ นี่แหละที่เราหายไปตอนที่ยังมีโด้ เพราะพี่แกเล่นเหมายิงเอาคนเดียว ส่วนคนที่ผมยืมชื่อมาใช้ในล็อกอิน (นานี่) ถ้าวันนี้ไม่ได้ลง คงหมดอนาคตแล้วแหละ แต่ว่านัดที่แล้ว ผมว่าเห็นนั่งในม้านั่งสำรองนะ ถ้าจำไม่ผิด จากคุณ : nani jung เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 14:00:55

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณเข้าจองทู้และเพื่อนๆ ที่วิเคราะห์ให้อ่าน จากคุณ : ผักทอดยอด เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 14:06:53

ความคิดเห็นที่ 29 สวัสดีครับพี่สงบ กำลังรออยู่เลย เพราะเป็นนัดที่ผมชอบมากหลังจากพลังการยิงจากแถวสองหายไปนานแล้ว เมื่อก่อน แดนกลางเราทั้งสี่คนในชุดทริปเปิลแชมป์ สามารถขึ้นมาปิดสกอรได้เสมอยามที่กองหน้าทำไม่ได้ ไม่ว่าจะสอดเข้าในกรอบ หรือยิงจากนอกกรอบ กิ๊กซ์ เบ็ค คีน สโคลส์ ทำได้ทุกคน แต่มาหลังๆพลังมันหายไปมาก พอได้เห็นมันกลับคืนมาอีกครั้งแม้จะเพิ่งเริ่ม แต่ก็รู้สึกดีครับ เรื่องกิ๊บสัน ที่มีดีแค่ยิงไกลอย่างเดียวนั้น ผมมองในแง่ดีครับว่า มันยังดีกว่าไม่มีจุดเด่นอะไรเลย เพราะอย่างน้อยกิ๊บสันมีจุดเด่นที่น่ากลัวสามารถหวังผลและขู่ฝ่ายตรงข้ามได้แล้ว ตอนนี้น่าจะเป็นที่รู้ๆกันของหลายทีมแล้วว่า ถ้าเด็กคนนี้ง้างเท้าหน้าเขต อันตรายแน่ ตรงนี้มันมีผลด้านการทลายแนวรับครับ และเป็นอาธไว้ใช้ยามทีมเจาะไม่ได้ด้วย เพราะตอนนี้เรามีกองกลางแนวคุมเกม ถ่ายบอลมากเกินไปแล้ว การมีกองกลางที่มิติการเล่นฉีก หรือมีจุดเด่นพิเศษเพิ่มมาอีกอย่างถือว่าเป็นข้อดี แม้ว่าจุดอ่อนของเด็กคนนี้จะยังมีอีกมาก แต่ของแบบนี้มันพัฒนากันได้ สมัยเฟลทเชอรพุ่งขึ้นมาแรกๆนี่ไม่มีจุดเด่นอะไรด้วยซ้ำ ยังมาได้ขนาดนี้ หรืออย่างแลมพาร์ดที่ตอนแรกๆมีดีแค่ถ่ายบอล เชื่อมเกม ภายในเวลาสองปีที่ได้เรียนรู้จากเปอตีต เขาก็กลายเป็นกองกลางตัวยิงระดับโลก แล้วทำไมกิ๊บสันจะพัฒนาไปไกลไมได้ละ ถูกไหมครับ ส่วนวาเลนเซีย ตอนนี้ผมว่าพี่แกเล่นได้คุ้มค่าตัวแล้วครับ ฝั่งขวายึดตัวจริงแน่นอนแล้ว เริ่มมีการแอสซิสที่หวังผล และการทะลุทะลวงมากขึ้น ที่สำคัญ ยิงได้ด้วย แล้วคุณสงบกับหลายๆคนคิดเหมือนผมไหมครับ ซึ่งที่จริงผมคิดมาเป็นสิบปีแล้วว่า เฟอรกี้นี่แหละ เจ้าพ่อโรเตชั่นตัวจริง โรเตชั่นกระทั่งตำแหน่งนักเตะ แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 52 14:21:15 จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 14:09:23

ความคิดเห็นที่ 30 คุณนานี่จังครับ เนื่องจากกองหลังเราตัวหลักมีสาม(ติ๊ก, วิวี่กะริโอ) เกือบหลักหนึ่ง (อีฟ) บวกจับฉ่ายหนึ่ง, แฝดสอง, เทพน้ำตาล, เนวินอีกหนึ่ง ดาวรุ่งอย่างเดอ ลาท อีก เขย่ารวมๆ นับได้ถึง สิบ คนเลยครับ กับสี่ตำแหน่งในสนาม ป๋าจึงตัดสินใจปล่อยืมตัวไปซะอีกสองหน่อ (เกรย์ กับ แคธคาร์ท) ใครจะคิดเนอะ ว่าอยู่ดีๆ จะเจ็บยกล็อตกันแบบนี้ นี่ดีนะครับ ที่ ชปล. เข้ารอไปแล้ว ไม่งั้นได้ดราม่ากันกระจาย ปล. ถ้าปัญหานี้เกิดเมื่อสองปีที่แล้ว เอาหัวเป็นประกันเลยครับ ว่าปิเก้จะไม่ได้ย้าย เพราะทางลงสนามมันสะดวกเหลือเกิ๊นนน จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 14:12:04

ความคิดเห็นที่ 31 # 2 " ที่มีสโคลส์ยืนรออยู่อย่างกับโจรมุมตึก " คิดได้ไงเนี่ย นึกภาพเฮียหมามุ่ยยืนแบบโจรมุมตึกในการ์ตูนแล้วขำก๊าก. เกาหัวแกรกๆ ด้วยป่ะเนีย 555+ จากคุณ : ิbabynoke เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 14:53:22

ความคิดเห็นที่ 32 สโคลส์ชั้นไม่ได้เป็นโจรมุมตึกนะ จากคุณ : ^Oh_ScholeSSmith^ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 15:25:07

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณมากค่ะ ไม่ได้ดูเกมส์นี้เลยค่ะ มาตามอ่นของคุณสงบใจก็เหมือนได้ดูเลยค่ะ จากคุณ : prettybua เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 15:26:38

ความคิดเห็นที่ 34 ใช่ครับ เค้าเป็นเจาพ่อโรเตชั่น เพียงแต่ไม่ค่อยดังเท่าคนอื่นๆน่ะ ป๋าเรานิยมการโรเตชั่นมาแต่ไหนแต่ไร นานนมมาแล้วครับ ผมสังเกตได้ว่า แรกๆเราไปไม่ไกลในยุโรป เกมมันถี่ นักเตะก็เหนื่อย แถมแท็คติคเราก็ไม่เอื้อมากนัก ทำให้จอดป้ายรอบแรกๆตลอด พอมายุคกลางๆของป๋า เริ่มเคี่ยวด้านแท็คติค รู้ผ่อนหนักผ่อนเบา เริ่มดึงเกมเป็น เล่นกับเวลา มีแท็คติคมากขึ้น เข้ารอบลึกๆได้บ่อย ตรงนี้ให้เกมเตะถี่ขึ้นไปอีก นักเตะล้า และเจ็บบ่อยมากขึ้น ป๋าเริ่มโรเตชั่นก็ช่วงนี้แหละครับ เกมไหนเบาๆหน่อย ถ้วยเล็กๆ ก็เอาสำรอง เอาเด็กๆลงสนามบ้าง มันเริ่มตรงนั้นแหละครับ และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของตำนานคริสต์มาสของเรานั่นเอง เรามักจะทำผลงานในช่วงนั้นได้ดี เพราะมีการโรเตชั่นเรื่อยๆ สามารถเก็บความสด ความฟิตของนักเตะไว้ใช้ในระยะยาว ตัวหลักสามารถกลับคืนสนามมาได้ในช่วงปีใหม่ หรือ อย่างช้า กุมภา ก็เหมือนได้นักเตะเพิ่มมานั่นแหละครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 15:48:44

ความคิดเห็นที่ 35 น้ำตาลมีน้องชายด้วยหรือนี่   จะงานเข้าเหมือนพี่ชายไหมเนี่ย จากคุณ : richy_m16 เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 15:59:24

ความคิดเห็นที่ 36 #24 "ที่ซื้อมาแล้วพลาดจริง คือเว็บบ์ เจ็บอย่างเดียว" ถ้าจำไม่ผิดจริงๆ ผมว่าเว็บบ์ก็โอเคนะครับ ลูกที่ลี มาร์ติน ยิงนัดรีเพลแม็ทช์ชิง FA cup (กับ คริสตัล พาเลซมั้ง) ก็น่าจะเป็นเว็บบ์นี่แหละที่จ่าย ที่เค้าเจ็บน่าจะมาจากเกมทีมชาติ รู้สึกว่าป๋าจะห้ามเว็บบ์มะให้ไปเล่นละมั้งครับ แต่เจ้าตัวก็ฝืน เลยเจ็บยาวววววว จากคุณ : FaFa_Red เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 16:10:34

ความคิดเห็นที่ 37 เว็บบ์จ่ายยาวมาครับ ลี มาร์ติน วอลเลย์ตูมเดียวเลย ไม่จับด้วยมั้ง ถ้าจำไม่ผิด นัดนั้นแหละ คือนัดที่ผมเชียร์ผีแดงอย่างเต็มตัว จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 16:35:44

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณน้าหงบมากครับ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 17:09:50

ความคิดเห็นที่ 39 สวัสดีครับน้าหงบ นัดนี้ไม่ได้ดูช่วงต้นเกมส์เพราะแม่แย่งรีโมตไปดูมงกุฏแงจันทร์ TwT นัดนั้นสะดุดตาฟลังโก้ของเวสต์แฮมเป็นพิเศษ มองไกลๆเหมือนเท็ดดี้ เชอริงแฮม บอลยาวจากแดนตัวเองแกเก็บได้หมดเลย แถมเอาลงได้นิ่มๆด้วย และยังจ่ายบอลสั้นได้น่ากลัวอีก เพียงแต่เพื่อนเอาไปทำประตูไม่สำเร็จ อีกคนก็เดียมานติ ใจสู้จริงๆ วิ่งขึ้นวิ่งลง กระตุ้นเพื่อน ไม่มีหมด ส่วนฝั่งแมนยูก็ขอชมเอฟร่าละกัน กอบโกยจังหวะที่ตัวเองฟอร์มขึ้นได้ดีจริงๆ วาเลนเซียก็มีมิติการเล่นที่หลากหลายมากขึ้น ไม่กระชากออกริมเส้นอย่างเดียว ทำให้ฝ่ายรับพะวงมากขึ้นว่าจะไปทางไหน จึงมีหลายครั้งที่แกกระชากหลุดไปดื้อๆเลย (ผิดกับนานี่ มิติการเล่นเยอะเหลือเกิน แต่เป็นตัวเองที่พะวงซะงั้นว่าจะไปทางไหน ) มาพูดเรื่องเซนเตอร์บ้าง ผมว่าคาร์ริคก็มีแววกองหลังที่ดีเหมือนกัน เพราะการอ่านเกมส์นี่เป็นจุดเด่นของเค้าอยู่แล้ว สไลต์น่าจะคล้ายๆกับริโอ แต่ถ้าจะให้เทียบกับริโอ คาร์ริคยังด้อยกว่าในเรื่องของความคล่องตัว จังหวะไหนถ้าอ่านพลาดขึ้นมา คาร์ริคจะพลิกตัวได้ช้ามาก  ถ้าให้แกเล่นแบบไม่ต้องเช็คล้ำหน้า ปล่อยแกเป็นสวีปเปอร์จะเหมาะมั้ยครับน้าหงบ จากคุณ : boatzie เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 17:19:18

ความคิดเห็นที่ 40 ใช่ครับ เว็บ จ่าย เข้ามาในกรอบ ลี มาติน เข้ามาหวดจังหวะนั้น  ไม่จับ  นัดชิงกับพาเลซ หลังนัดแรก เสมอ 3-3 ครับ จุดเริ่มที่ผมเชียร์แมนยู เว็บบ์เด่นมากตอน อยู่ฟอร์เรซ ก่อนมาแมนยู  ตอนย้ายมา มีคนพูดถึงเว็บในแง่ความหวัง และฐานะ นักเตะ จอมเทคนิค ของทีมนะครับ   ที่ไม่คุ้ม นี้คือผมเทียบกับคนอื่นๆในรายชื่อข้างบน เช่นร็อบสัน  อินซ์ คีน เว็บเล่นให้แมนยูไปประมาณ 70 กว่านัด ครับ กับ3 ปีที่อยู่แมนยู  ก่อนย้ายกลับไปฟอร์เรซ   และ นีล เว็บบ์ ไม่มีชื่อในนัดชิง คัพวินเนอร์ ที่ชนะ บาซ่า 2-1 ด้วยนะครับ  ผมว่า เรียกว่าดวงค่อนข้างอาภัพกับแมนยูก้ได้ เว็บบ์ไปเจ็บ ทีมชาติกับ สวีเดน พักไป 6 เดือน แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 52 18:04:30 แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 52 17:58:51 จากคุณ : จูล่งแห่งเสียงซาน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 17:49:29

ความคิดเห็นที่ 41 เอานัดชิง ปี90 มาฝาก ที่เว็บบ์เปิด และ มาร์ตินยิง พักอกก่อนหนึ่งที ก่อน ซัดเปรี้ยง จากคุณ : จูล่งแห่งเสียงซาน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 18:20:57

ความคิดเห็นที่ 42 หลังจาก ดูมา 15 นัด... ก็เริ่มเห็นอะไรที่แปลก ๆ ไป (ในทางที่ดี) ในฤดูกาลนี้ สำหรับทีมปีศาจแดงครับ ... ประการแรก ต้องยอมรับว่า เป็นฤดูกาล ที่มีการ "ปรับทีม" มากที่สุด .. เริ่มตั้งแต่ การขาด นังโด้ และ เตเบซ ..ซึ่งทำให้ Guru และ Pundit หลาย ๆ คน กาชื่อ แมนฯยูไนเต็ด ทิ้งในการป้องกันแชมป์..ตั้งแต่ยังไม่เริ่มแข่งด้วยซ้ำ! มีการซื้อนักเตะใหม่เข้ามาเสริม อย่าง AV , Owen, Obertan ฯลฯ นักเตะเก่า นักเตะสำรอง เด็กสร้าง แม้ยังอยู่ แต่ทุก ๆ คน ต้อง "ปรับตัว" กันแทบทุกตำแหน่ง !! ทั้ง 11 ตำแหน่ง ตั้งแต่ ผู้รักษาประตู ยันไปถึง กองหน้า มีการ "ปรับตัว - ปรับบทบาท" กันหมด .. ทำให้ นักเตะทุก ๆ คน มี "โอกาส" ได้แสดงศักยภาพ กันมากกว่า ฤดูกาลก่อน ๆ ... หลายคน ซึ่ง นึกว่า จะ "ดี" .. แต่ กลับมีแววว่า จะ "ดับ" ..??!! เช่น นานี่ เบน ฟอสเตอร์ ..เปลี่ยน "โอกาส" ให้กลายเป็น "วิกฤติ" ให้ตัวเองซะฉิบ!!?? หลายคน ฟอร์ม "แกว่ง และ เปลี่ยนไป๊" .. เช่น ริโอ เฟอร์ดินานด์ วิดิช คาร์ริค ปาร์ค จี ซอง .. หลายคน ได้โอกาส แสดงแวว ว่า (อาจ)จะ "ดี" ..ได้ เช่น วาเลนเซีย (ดีวันดีคืน) กิ๊บสัน โอแบร์ตอง .. ในขณะเดียวกัน การโรเตชั่น และ tinkering (ตัด ปะ เปลี่ยน โยก ย้าย) ... ทำให้ได้ทีม "เฉพาะกิจ" (Makeshift) ใช้งานเป็น นัด ๆ .. ขาดความต่อเนื่อง และ ขาดการรู้ใจกันและกัน.. การส่งผ่านบอล จึงผิดพลาดกันมาก โดยเฉพาะ ในจังหวะสุดท้าย ในเขตหน้าประตูคู่แข่ง Final Third และ การปิดสกอร์ Finishing .. การยิงประตู ทำได้น้อยกว่า ที่ควร และ เสียประตูง่าย และ มากกว่าที่ควร ... แต่ ข่าวดี ที่ผมว่า "แปลก ๆ " ... เหมือนจะมี "ดวงดี" ??? ก็คือ.. ขนาดทีมมีปัญหา มากมาย ขนาดนี้.. และพลาดไป 4 นัด .. แต่กลับ ยืนระยะ ห่างจาก เชลซี ซึ่งโชว์ฟอร์มน่าเกรงขาม (Formidable and invincible??) เพียงแค่ 2 แต้ม!! แม้ เชลซี จะยังคงเป็น "เต็งหนึ่ง" ในการคว้าแชมป์อยู่ดี ... แต่ ผมคิดว่า แมนฯยู .. ยังคง น่าจะ ยืนระยะ "ลุ้นแชมป์" เป็น เต็งสอง .. ไปจนถึง เดือน เมษา - พฤษภา โน่น... เผลอ ๆ ถ้านักเตะ ที่ เจ็บ ๆ พากันหายเจ็บ และ คืนฟอร์ม ได้ทันเวลา .. เราอาจจะเห็น สถิติใหม่ .. ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยซ้อน ได้เป็นทีมแรก .. และ ครองแชมป์ลีกสูงสุด 19 ครั้ง เป็นสถิติใหม่ ก็ได้!!?? ... แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 52 18:36:33 แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 52 18:35:53 จากคุณ : จิตตารมณ์ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 18:33:35

ความคิดเห็นที่ 43 จะว่าไปป๋าอเล็กซ์นี่มีดวงกินผู้รักษาประตู มือดี ๆ มาดับที่ป๋าหลายคนแล้ว อย่างนัดชิง FA แมนยู-พาเลซ เสมอ 3-3 จิม เลห์ตัน ผู้รักษาประตูดีกรีทีมชาติสก็อต พลาดง่าย ๆ ทั้ง 3 ลูก ดีที่ได้ มาร์ค ฮิวส์ ยิงตีเสมอช่วงทดเวลาพิเศษ นัด replay เลห์ตัน โดนดรอปให้ เลส ซีลีย์ ลงแทนและทำหน้าที่ได้ดี ทำให้ เลห์ตัน ที่หมดความมั่นใจค่อย ๆ หายไปจากทีม เรียกว่าเป็น ผู้รักษาประตูคนแรกที่เสียคนในน้ำมือป๋า ส่วน ลี มาร์ติน โดนอาถรรพ์ FA cup เล่นงาน บาดเจ็บเรื้อรัง จนต้องเลิกเล่นไปก่อนวัยอันควร จากคุณ : กุยแก เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 18:54:59

ความคิดเห็นที่ 44 แจ๋วไปเลย จากคุณ : หมาร่าหมาหรอด (C.BUN) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 20:26:16

ความคิดเห็นที่ 45 ดีใจจัง คุณอากุยแก เป็นแฟนแมนยูด้วย จากคุณ : โจผี เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 20:49:37

ความคิดเห็นที่ 46 ผมเชียร์กิ๊ปสันน่ะ โอกาสลงแทบไม่มี แต่พอได้โอกาสก็ทำซะ 3 ประตูจาก 2 นัด คงต้องดูกันยาว ๆ ว่าประสิทธิผลของการส่องไกลสม่ำเสมอแค่ไหน แล้วก็ลุ้น ขอให้กิลด์ทำได้ดี ถ้าได้ดันกิลด์ขึ้นมาตอนเฟอร์ดินานยังอยู่ คงได้ช่วยกันเทรนให้เก่งได้ไว จากคุณ : RadiS เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:07:18

ความคิดเห็นที่ 47 ความคิดเห็นที่ 45   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   ดีใจจัง คุณอากุยแก เป็นแฟนแมนยูด้วย จากคุณ : โจผี เอาละเว้ยเฮ้ย สามก๊กมากันให้พรึ่บเลย ทั้ง กุยแก  โจผี  แล้วก็จูล่ง(แห่งเสียงซาน) จะมีใครมาอีกเปล่านี่ จากคุณ : โลซก เองคร๊าบบบบบ (ขุนไกรครับผม) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:01:45

ความคิดเห็นที่ 48 มาให้หมดทุกก๊กเลย มาพากระทู้ออกทะเลกัน (สงสัยน้าหงบได้เตะสามก๊กกระเจิงก็งานนี้แหละ) จากคุณ : จูเก๋อเลี่ยง ข่งหมิง(เฮียเบ้ง) (Sir Genii) เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 00:32:00

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณมากค่ะ ดูไปอยากจะบ้ากับแผงหลังพิการ ยิ่งเจอเฟล็ทเชอร์-คาร์ริค-เอวร่า-กิ๊กส์เข้าไปแล้ว... ถ้าไม่ได้ดูเอง บอกว่าเอาพี่ติ๊กขึ้นมาเล่นมิดฟิลด์ยังน่าเชื่อกว่าT^T จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 00:45:04

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณครับ ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 05:41:48

ความคิดเห็นที่ 51 เข้ามาอ่านครับ ^^ จากคุณ : Wizzard เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 05:52:07

ความคิดเห็นที่ 52 เข้ามาอ่านเช่นเคยค่ะ ขอบคุณค่า จากคุณ : ดาวเคียงดอย เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 12:36:03

ความคิดเห็นที่ 53 สามก๊ก เวอร์ชั่นไหนกันเนี่ย มาว่ากันถึงสิ่งที่คุณ boatzie ถามมาเรื่องจะเอาคาร์ริคห้อยเป็นสวีปเปอร์ดีกว่า เอาตอนพีคๆของแกนะครับ ประมาณช่วงกลางซีซั่นก่อนย้อนไปอ่ะ ผมมองว่า แกมีเซนส์บอลดี เหลี่ยมทางดีพอสมควรในการเล่นบอล ครองบอล รวมทั้งวิสัยทัศน์ในการออกบอล และการมองเกม แกถือว่ามีดีพอตัวทีเดียว ทำให้แกเป็นตัวเชื่อมเกมที่ดีที่สุดของปีที่แล้ว คือไม่มช้รุกดี หรือรับเด่น แต่เป็นตัวคอยประสานงานระหว่างหลังไปหน้า ชลอบอลจากหน้ามาหลัง แต่จุดอ่อนของแกมีอยู่อย่างหนึ่ง สำหรับการเป็นตัวรับเต็มตัว โดยเฉพาะถ้าจะห้อยในระบบหลังสี่ตัวแบบเดิมๆ พื้นที่ข้างหลังจะมีมาก ก็อย่างที่หลายๆคนว่ามา แกกลับตัวตามคู่ต่อสู้แล้วออกตัวช้ามากครับ จุดนี้ถ้าเป็นตัวสุดท้ายนี่คือหายนะทีเดียว หลุดแล้วใส่สกอร์ได้เลย บางครั้งกองหลังตัวสุดท้ายออกตัวทีหลังแต่สามารถสปริ๊นท์แซงมาแซะได้ แต่กับคาร์ริค ผมว่าโอกาสเห็นจังหวะอย่างนั้นจากเขา ไม่น่ามีมาก หลุดแล้วน่าจะหลุดเลยครับ อีกข้อหนึ่งก็คือ แกเป็นคนที่ตามพัวพันคู่ต่อสู้แล้วเบียดแย่งบอลจากเท้าได้ดี (ต้องไม่ใช่ถูกโยกให้หลงแล้วกลับตัวมาสปริ๊นท์แข่งนะ) ซึ่งนั่นไม่เหมาะกับการเป็นตัวสุดท้าย เพราะสิ่งที่เจอจะไม่ใช่การไปพัวพัน แต่จะเป็นการดวลจังหวะเดียว แล้วผมมองว่าคาร์ริคไม่ถนัดจังหวะแบบนี้ โอเคว่าถ้าบอลยังไม่อยู่ในครอบครองใคร แล้วไปดวลแย่ง อันนั้นพอไหว แต่ถ้าเขาครองบอลหลุดมาหาเนี่ย โอกาสหลุดคาร์ริคมีสูงเลยครับ นึกภาพวิดิชดวลเจิด หรือ ตอร์ ได้เลย คาร์ิริคก็ประเภทนั้นน่ะแหละ แต่ทุกปัญหามีทางออกเสมอ คาร์ริคเหมาะจะยืนห้อยตัวสุดท้าย ถ้าเราวางหมากเกมรับดีๆครับ (เช่นสวีปเปอร์หลังไลน์รับสี่คน หรือสามคน แบบมัทเธอุสช่วงปลาย) มีตัวกรองบอลก่อนหน้า มีพื้นที่หน้าคาร์ริคไม่มาก (กองหน้าจะมีพื้นที่น้อย) แล้วคาร์ริคคอยอ่านทางบอล เก็บลูกทะลัก หรือซ้่อนจังหวะสอง ประมาณหลุดไลน์มาก็จะเจอคาร์ริครออยู่ อย่างนี้อ่ะครับ อันนี้ผมค่อนข้างมั่นใจ ว่าคาร์ริคน่าจะทำได้ดีครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 12:45:48