TIA Column : เล่นดีแค่ 45 นาทีมันไม่พอหรอก T T
|
|
นัดที่แล้วที่แพ้ฟิออเรติน่า ไม่ได้เขียน เพราะไม่ได้ดู เพื่อนๆหลายคนอาจจะคิดว่า "ดีแล้ว จะเขียนทำไมให้ช้ำใจอีกรอบ" แต่ถึงแม้จะแพ้ เราก็ยังรู้สึกอยากเขียนอยู่ดี เกมกับอาเซน่อลเมื่อคืนนี้ มันน่าหดหู่อีกครั้ง ที่เรานำไปก่อนแท้ๆ แต่กลับต้องพ่ายแพ้ในที่สุด เหมือนเป็นวัฏจักรยังไงยังงั้นเลย ...วัฏจักรที่แสนจะเลวร้าย
อันที่จริงตอนกรรมการเป่านกหวีดเริ่มเกม ปฏิกิริยาของนักเตะลิเวอร์พูลที่วิ่งหน้าตั้ง ไล่ทุกจังหวะ บีบพื้นที่เร็ว และเล่นอย่างมีวินัยที่ได้เห็น มันเหมือนน้ำเย็นฉ่ำที่ไหลรินรดหัวใจที่กำลังแห้งผากให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แม้จะไม่ใช่การต่อบอลที่เนียนตาทุกช๊อต แม้จะมีข้อผิดพลาดรายบุคคลบ้าง แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยสำหรับเรา การได้เห็นคาแรกเตอร์อย่างที่ทีมอย่างลิเวอร์พูลควรมีต่างหากที่มันมีคุณค่า และนัดนี้ ถ้าไม่นับอาควิลานี่ที่อาจจะยังไม่ฟิตพอจะเล่นเต็มเกมส์จริงๆ การจัดตัวผู้เล่นของราฟา ต้องบอกว่า นี่เป็นชุดที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แล้ว เรน่า จอห์นสัน คาร์ร่า แอกเกอร์ ออเรลิโอ้ คู่กลางเป็นลูคัสกับมาสเคราโน่ ปีกซ้ายเบนายูน ปีกขวา เดิร์ก เค้า หน้าต่ำ เป็นเจอร์ราร์ดและหน้าเป้า กลับมาเป็นตอร์เรสเหมือนเดิม
นี่คือขุมกำลังที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วล่ะ
ครึ่งแรก ก็อย่างที่บอก ลิเวอร์พูลเล่นดีขึ้น ทำให้แฟนๆชื่นใจจริงๆ วิ่งไล่บอล พยายามทำเกมไปข้างหน้า แน่นอนว่าเทียบไม่ได้กับเกมรุกที่เราฝันถึง แต่มันก็ดีกว่าที่แล้วๆมาใช่มั้ยล่ะ และเกมก็มันส์สมกับเป็นบิ๊กแมตซ์จริงๆ ผลัดกันรุกผลัดกันรับ โดยที่กองหลังลิเวอร์พูลไม่มีพลาดเลย ที่เห็นแล้วให้รู้สึกหวั่นใจก็ต้องเป็นออเรลิโอ้ที่หลุดบ่อย ทำฟาล์วหลายครั้ง ซึ่งทำให้อาเซน่อลได้ฟรีคิกในระยะที่ต้องบอกว่า แฟนหงส์อย่างเราหัวใจเต้นแทบไม่เป็นส่ำ ส่วนฝั่งจีเจนั้นวูบวาบเป็นพักๆ แต่ที่เสียดายมากจริงๆ คือจังหวะเจ้าตัวลากไปถึงเขตโทษฝั่งขวาของอาเซน่อล แล้วเปิดเข้ากลางให้ตอร์เรสที่ยืนโล่งๆ ขอแค่บอลมาถึงเท่านั้น รับรองว่า เราต้องได้ประตูแน่นอน จีเจไหลบอลตั้งใจให้ลอดขากองหลังอาเซน่อล (ขออภัยจริงๆที่จำไม่ได้ว่าใคร) แต่มันดันไม่ลอด ติดแค่นิดเดียวเท่านั้น บอลเลยไม่ถึงตอร์เรส และอีกลูกก่อนหน้านั้นที่เป็นจังหวะสวนกลับ เจอร์ราร์ดจ่ายตัดหลังให้พอดีเป๊ะ แต่ตอร์เรสใจร้อนไปหน่อย ยิงไปติดอัมมูเนียซะได้ ต้องบอกว่าวันนี้ตอร์เรสเหมือนยังไม่เข้าที่เข้าทางจริงๆ แถมยังออกจะติดดื้อ (เหมือนราฟา 555+) เลี้ยงไม่ได้ก็จะเลี้ยงฝ่าไปให้ได้ จนเสียบอลโดยไม่ได้ประโยชน์อะไรหลายต่อหลายครั้ง
ยิ่งโดนเตะไม่ได้ฟาล์ว ก็ยิ่งหลุดหงิด (อันนี้กัปตันก็ด้วย) เห็นชัดๆเลยว่าหลายๆจังหวะที่น่าจะได้ฟาล์วแล้วไม่ได้ มันดันกลายเป็นสิ่งบั่นทอนกำลังใจนักเตะลิเวอร์พูลเอง เริ่มตั้งแต่ที่เจอร์ราร์ดโดนสอยในเขตโทษ เรื่อยมาจนถึงจังหวะที่ลิเวอร์พูลแย่งบอลได้กลางสนามในครึ่งหลังช่วงท้ายๆเกม คุณกรรมการใช้เวลาตั้ง 10 วินาทีกว่าจะเป่านกหวีดเพื่อบอกว่าลิเวอร์พูลฟาล์ว เป็นใครก็คงเซ็ง ยอมรับเลยว่าจังหวะนั้น สบถกรรมการไปอย่างหยาบคายจริงๆ ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยว่าลิเวอร์พูลฟาล์ว มันก็แค่จังหวะเล็กๆที่แทบไม่มีความหมาย จะว่าเราฟาล์ว ก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่ทำไมต้องคิดนานขนาดนั้นว่าฟาล์วหรือเปล่า มันเสียความรู้สึกเหมือนลูบหลังอยู่แล้วยกมือฟาดกลางกบาลยังไงอย่างงั้นเลย (ว่าไปนั้น) เอาเถอะ จะยังไงก็ตามแต่ มันทำให้ยิ่งรู้สึกแย่ก็แล้วกัน
เห็นหน้านักเตะก็รู้เลย กำลังจะพยายามทำเกมอยู่แท้ๆ คุณกรรมการเป่าปรี๊ดดดด บอกว่าเมื่อ 10 วินาทีที่แล้ว มึรฟาล์ว (ขอบใจ )
เริ่มออกทะเลแล้ว กลับมาดีกว่า ที่พิมพ์อะไรไร้สาระไปเรื่องกรรมการอย่าถือสาเลย อิอิ ก็แค่ขอระบายอารมณ์นิดหน่อย เพราะจะให้หาสาเหตุที่เราแพ้อีกแล้ว มันง่ายนิดเดียว
"ก็เล่นไม่ดีน่ะสิ"
จบ 45 นาทีแรกยังยิ้มแก้มแท้ปริอยู่เลย พอมาครึ่งหลัง นักเตะลิเวอร์พูลเหมือนหมดแรง อยู่ๆก็ช๊อตไปซะดื้อๆ ปล่อยให้อาเซน่อลยำเละอยู่ข้างเดียว ดูไปดูไป หัวใจแทบจะวายตาย จนออเรลิโอ้ปล่อยให้บอลลอยข้ามหัวเข้าเขตโทษนั่นแหละ ความซวยก็กลับมาเยือน มันซวยจริงๆ คาร์ร่าสกิดโดนบอลนิดหน่อย ด้วยความหวังดีของจีเจ ตั้งใจจะตัดออกข้าง แต่มันดันโดนบอลผิดเหลี่ยม กลายเป็นจิ้มเบาๆเข้าประตูไปแบบที่เรน่าได้แต่ยืนขาตายทำหน้างง หลังจากนั้นเห็นหน้าจีเจที่กำลังมองขึ้นฟ้าแล้ว มันสะท้อนใจจริงๆ สงสารเป็นที่สุด จีเจคงจะอยากถามฟ้าอย่างที่เราเฝ้าถามมาตลอดว่า "ทำไม"
ด้วยความสัตย์จริง เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยด่านักเตะลิเวอร์พูลซักคนที่ทำบอลเข้าประตูตัวเอง ไม่เคยเลยซักครั้ง แม้แต่ลูคัส ก็ไม่เคยด่าที่มันทำเข้าประตูตัวเอง การทำบอลเข้าประตูตัวเองมันแย่มากพออยู่แล้ว และเราก็ควรรู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีนักเตะชุดสีแดงเพลิงคนไหนของเราปรารถนาให้มันเกิดขึ้น พวกเขาไม่ได้ตั้งใจ แล้วจะด่าให้มันได้อะไรขึ้นมา
แต่ไอ้ลูก Own Goal ลูกนี้แหละที่มันทำให้ทีมที่ช๊อตอยู่แล้วยิ่งช๊อตหนักขึ้นไปอีก แม้จะพยายามทวงคืน แต่มันกลับออกลูกมั่วมากกว่า เมื่อสมาธิหลุด ลมปราณแตกซ่าน นักเตะลิเวอร์พูลอาจจะวิ่งบีบเร็วเหมือนเดิม แต่ทุกย่างก้าวมันไม่เหมือนเดิม มันไร้ซึ่งสมาธิที่จะทำในสิ่งที่เหมาะสม
จนบอลโยนจากทางเดิม (ซ้าย) เข้าเขตอีกครั้ง แม้จะสกัดแล้ว แต่มันไม่พ้น แล้วไม่รู้มันเวรกรรมอะไรที่จะต้องไปตกที่เท้าอาชาวิน จับบอลลงหลบจีเจ ซัดเปรี้ยงหายไปเลย T T
หลังจากนั้นอาเซน่อลก็ลงไปแพ็คเกม ไม่ขึ้นสูง รอจังหวะสวนกลับ แต่ก็ใช้วิธีบีบพื้นที่ วิ่งไล่นักเตะลิเวอร์พูลจนออกบอลได้ยาก จ่ายเสียกันบ่อยๆ และบอลก็แทบจะไม่ถึงปากประตูอาเซน่อลเลย แล้วราฟาก็ทำการเปลี่ยนตัวอาควิลานี่ลง แหม ต้องจดเป็นสถิตด้วยมั้งเนี่ย ว่าราฟาเปลี่ยนตัวเร็วกกว่าที่เคย แค่นาทีที่ 64 เท่านั้น เจ้าชายน้อยก็ลงมาแทนมาสเคราโน่ ที่มีโทษใบเหลืองอยู่ แต่เจ้าชายน้อยก็ยังไม่มีส่วนกับเกมมากนัก แต่ยอมรับเลยว่า ทุกครั้งที่เขาได้บอลเราจะตั้งใจดูเป็นพิเศษ และเท่าที่ดู ต้องบอกว่า ถ้าฟิตสมบูรณ์ ปรับตัวให้เข้าขารู้ใจกับเพื่อนร่วมทีมอีกนิด เราจะได้เห็นมิติใหม่ของทีมที่ดีขึ้นแน่นอน เขาแย่งบอลจากเท้าได้ ครองบอลดี จ่ายบอลได้ดีทั้งสั้นและยาว แถมเซ้นต์บอลก็ดูจะไม่ธรรมดาซะด้วย
แหม...เกือบลืมพูดถึงกัปตันซะได้ นัดนี้ ต้องบอกว่า เล่นดีขึ้นกว่านัดที่แล้ว แต่ยังไม่ดีถึงมาตรฐานที่เขาเคยทำได้ หวังว่ากัปตันจะลบความผิดหวังและเจ็บช้ำทั้งหลายออกไปจากใจ และกลับมาเป็นกัปตันคนเดินเร็วๆ
ในวันที่เศร้าอีกครั้งกับทีมอันเป็นที่รัก มันก็ยังมีมุมดีๆให้ชื่นฉ่ำหัวใจเล็กๆ คือ ชาบี อลอนโซ่ กลับมาที่แอนฟิลด์เป็นครั้งแรกหลังจากย้ายออกไป วันนี้เขากลับมา แม้จะเป็นแค่ในฐานะผู้ชม แต่มันก็อดยิ้มไม่ได้ที่เห็นเขาในสนามแอนฟิลด์อีก มาชมมาเชียร์เพื่อนๆที่เชื่อเหลือเกินว่าจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป อาจจะน้ำเน่า แต่แอนฟิลด์แบบเป็นนี้เสมอ อดีตนักเตะของเราคนแล้วคนเล่าที่จากไปแล้ว แต่เขาก็ยังหาโอกาสกลับมาเชียร์ทีมที่เคยอยู่ทีมนี้ มันเลยอดชื่นใจไม่ได้ที่เห็นคุณชายนั่งอยุ่ตรงนั้น เชียร์เพื่อนๆในสนาม
ก็ไม่รู้ว่าจะแพ้อีกซักกี่นัด หรือเมื่อไหร่ถึงจะสะกดความว่าชนะเป็น หัวใจมันอาจจะด้านชาไปเสียแล้ว แต่ทุกครั้งที่นักเตะลิเวอร์พูลลงสนาม ให้พยายามไม่สนใจยังไง มันไม่เคยทำได้ซักที สุดท้ายก็ต้องมานั่งเชียร์ นั่งบ้า นั่งเศร้าต่อไป แต่เรามีความหวังเสมอว่าวันหนึ่งจะได้นั่งยิ้มอย่างมีความสุขกับทีม
รักลิเวอร์พูลสุดหัวใจ ถ้าตายไปขอให้อย่าลืม สาธุ
จากคุณ |
:
howk_ky
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ธ.ค. 52 20:20:40
|
|
|
|