ความคิดเห็นที่ 1 -เรื่องเงินเดือนนักเตะ เป้นแค่ข้ออ้างทั้งนั้นหล่ะ... คุณลองคิด นักเตะตามสโมสรส่วนใหญ่ เป็นการเซ็นปีต่อปี ไม่มีสวัสดิการใดๆเลย แถมเป็นแค่สัญญาว่าจ้างงานชั่วคราวด้วย ยิ่งต้องรายได้สูงขึ้น ทำไมเขาจะเรียกร้อง เงินที่มากขึ้นไม่ได้ล่ะ ทำงาน ใครๆก็อยากได้เงินเดือนสูง..ทั้งนั้นหล่ะ หรือเอาเงินจ้างผิวสี สบายใจกว่าจ้างคนไทย..ก็ลองดู ส่วนประเด็น 7ลง5 พูดกันมาเยอะแล้ว ออกมาจริงๆ ส่วนใหญ่ก็ยอมรับไป และค่อนข้างมั่นใจ..จะเกิดบางสิ่งบางทั้งดีและไม่ดี ใน TPL ครั้งหน้าแน่นอน และขอเดา ต้น ปี54 วงการฟุตบอลไทย จะเปลี่ยนไป... นายกสมาคมอาจจะไม่ได้ชื่อ วรวีย์แมคกูดีแล้วก็ได้.. แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 53 10:27:28 จากคุณ : ตะวันรุ่งทุ่งรังสิต เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 10:25:18

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นลงข่าว ทีม ถ้วย ข ค ง เริ่มตีรวนแล้ว จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 10:28:42

ความคิดเห็นที่ 3   ข้อดีก็คือ จะได้ดูฟุตบอลที่สนุก เพราะตัวต่างชาติโดยรวมฝีเท้าจะสูงกว่านักเตะบ้านเราอยู่แล้ว และ นักบอลเราจะได้กระตุ้นตัวเองให้มีการพัฒนาฝีเท้า จากคุณ : SoCoolian เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 10:33:15

ความคิดเห็นที่ 4 ได้เล่นหลายระบบ จากคุณ : ฟา (fa-room) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:02:06

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเห็นด้วยกับระบบนี้ เพราะจะเป็นการกระตุ้นนักเตะไทยเมื่อเค้าต้องลงเล่นกับพวกกระดูกแข็งๆทุกสัปดาห์ เค้าจะพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกขั้น ถ้าอยากไปบอลโลกมันก็ต้องเสริมกระดูกกันหน่อยละ อีกอย่างคนไทยยังมีที่ว่างในทีมตัวจริงอีกตั้งครึ่งค่อนทีม แต่อาจจะต้องวางระบบกันหน่อย เช่น 5 ปีแรก เอาตามนี้ เพื่อยกระดับนักเตะ และความสนุกของลีก แล้วค่อยๆลดจำนวนลงเมื่อบอลลีก และนักเตะไทยอยู่ตัวแล้ว จากคุณ : ก้อง (konglha7) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:15:28

ความคิดเห็นที่ 6 ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ จากคุณ : kraionly1 เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:27:36

ความคิดเห็นที่ 7 สโมสรแข็งแกร่งขึ้น  ทีมชาติตัวเลือกน้อยลง จากคุณ : 123 ปลาฉลามขึ้นบก เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:35:44

ความคิดเห็นที่ 8 ดูต่างชาติเตะ ผมดูบอลนอกก็ได้ครับ จากคุณ : ความเป็นจริงที่ว่างเปล่า เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:40:05

ความคิดเห็นที่ 9 เล่น3000 ค่าเหนื่อย30000   นั่นมันเปนคำเปรียบเปรย  อย่าไปยึดกะมันมาก มองที่แก่น อย่างมองที่รูป ส่วนเรื่องมองในแง่ดี   มันก้ต้องลองครับ จากคุณ : hyden เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:47:33

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องข้อดี ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกไหนมันก็มีข้อดีของมันอยู่ครับ  ตรงนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอก แต่ปัญหาคือ ทำไมถึงมีการอยากได้ อยากเปลี่ยน ขนาดมีมติแล้ว ยังต้องล็อบบี้เพื่อเปลี่ยนแปลงกันขนาดนั้น มีอะไรที่แอบซ่อนอยู่จนต้องกระสันกันขนาดนั้นต่างหากที่เราควรจะสนใจ จากคุณ : RZENON เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:56:04

ความคิดเห็นที่ 11 เรื่องค่าเหนื่อยเป็นเรื่องของนักเตะกับสโมสรครับผมว่า สัญญาเขาก็ทำกันเอง ทีมองคืออยากให้คนไทยพิสูจน์ตัวเองให้มากขึ้นครับ แล้วต่างชาติก็จะมีแต่ที่มีดีจริงๆ เขาเรียกว่าพัฒนาอ่ะครับ จากคุณ : keng kiku เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 12:07:46

ความคิดเห็นที่ 12 มันคนะลเรื่องเดียวกันเลยนะครับ ที่ว่านักเตะไทยฝีเท้าไม่ได้ดีมากแต่ค่าเหนื่อยสูงเวอร์ คุณอย่ามองแต่ทีมใหญ่ๆหัวตารางสิครับ ผมจะบอกไรคุณให้ว่า ต่่างชาติผิวสีแต่ฝีมือดาดๆก็มีถมไป แถมพอมาอยู่กับทีมล่างๆองต่ำๆกลับคิดว่า ตัวเองมีดีกว่านักเตะไทยเพราะตัวเองผิวสี ่อีกอย่างนักเตะไทย ที่ว่าค่าเหนื่อยแพงๆนี่กี่คน ส่วนนักเตะต่างชาติที่ฝีเท้าดีนี่ เขาจะยอมรับเงินเดือนระดับเดิมไปตลอดเหรอ ก็มีเล่นตัวขอขึ้นค่าเหนื่อย รวมทั้งเมื่อไม่ว่าทีมไหนให้ข้อเสนอดีกว่าก็ไปทั้งนั้น ปล.เพราะฉะนั้นผมว่าที่คุณมองนี่ไม่ใช่ข้อดีหรอกมั้งครับ อย่าลืมนะครับว่าสโมสรจ้างนักเตะต่างชาติมาเตะบอล ไม่ได้จ้างแรงงานต่างด้าวมาทำประมง จากคุณ : Mostovoi เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 12:19:47

ความคิดเห็นที่ 13 คห12.....มันเป็นความเห็นของผม...ผมเข้าใจแบบของผม...แล้วคุณล่ะ...กลับไปอ่านดูว่าผมให้เสนอเรื่องของข้อดีครับ...ไม่ใช่มาวิภาคความเห็นคนอื่น.....ข้อดีครับข้อดี....... ขอบคุณ.... จากคุณ : daxter เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 12:25:22

ความคิดเห็นที่ 14 ลองดูก่อนจะเป็นอะไรไป  มันอาจจะดีก็ได้ ถ้าไม่ดีก็ค่อยกลับมาเหมือนเดิม จากคุณ : แร้งคอย เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 12:26:32

ความคิดเห็นที่ 15 อะไรมันก็มองเป็นแง่บวกได้ทั้งนั้นละครับถ้าจะมอง แต่ขออย่างเดียวว่าถ้าจะเอาตามนี้ ก็ต้องใช้ประโยชน์จากระบบนี้อย่างเต็มที่ด้วย ให้ตัวต่างชาติที่ซื้อมาเป็น "ของจริง" ที่มาแล้วสามารถยกระดับนักเตะไทยที่เล่นอยู่ด้วยได้ ไม่ใช่เอาใครมาก็ไม่รู้ที่ฝีเท้าไม่ได้ดีกว่านักเตะไทยเลย แบบนั้นเท่ากับเป็นการทำให้เงินทองไหลออกนอกประเทศโดยแทบไม่ได้อะไรกลับมาเลย จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 12:35:55

ความคิดเห็นที่ 16 คห13 งั้นผมคงไม่ค่อยชอบใจมากไปกับกฏ7ลง5 ขอโทษละกัน แต่ถ้าจะให้มองข้อดี ผมคิดว่าที่เราพูดกันว่าเคยเห็นที่เขาว่า นักเตะต่างชาติฝีเท้าดีกว่า นักเตะบ้านเราแต่ราคาถูกกว่า ถามว่าจะมีสักกี่คน เพราะนักเตะต่างชาติที่เข้ามาไทยลีกมาจากไหน ก็มาจากเอเย่นต์ แล้วแต่ก่อนนักเตะพวกนี้เล่นที่ไหน ลีกใกล้ๆบ้านเราใช่ไหม ก็ลองสืบดูกัน ทีมใหญ่ๆ ที่เงินหนาหรืออะไรๆก็ไม่ว่ากัน คงจะใช้ประโยชน์จากกฏนี้ได้บ้าง แล้วย้อนกลับมาถามว่า ทีมเล็กๆละ ผมเลยคิดได้แต่ว่าเสียมากกว่าได้ เพราะของสำเร็จรูปเพียบ เด็กไทยก็หาโอกาสกันต่อไป แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 53 13:03:19 จากคุณ : Mostovoi เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 12:45:31

ความคิดเห็นที่ 17 แต่ละทีมล้วนต้องการความสำเร็จซึ่งหมายถึงรายได้ต่างๆ สโมสรเล็กๆก็ต้องหาวิธีปรับตัวเพื่อหารายได้ให้ได้ เช่นหาFCเยอะๆ ขายของที่ระลึกมันก็จะวนๆกันไป พอมีเงินก็จ้างนักเตะต่างชาติ เห็นม่ะหนีไม่พ้น จากคุณ : keng kiku เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 13:02:04

ความคิดเห็นที่ 18 7# ตัวเลือกทีมชาิติน้อยลงก็จริง แต่ว่าแต่ละคนเก่งๆ กว่าเดิมล่ะครับ? จากคุณ : MTU (ณัฐกร) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 13:22:40

ความคิดเห็นที่ 19 จากที่ผมลองคิดดูแล้ว 7 ลง 5 ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย 3+1 ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับคนคิดล่ะครับ ว่าเค้าจะชั่งน้ำหนักไปทางไหนมกกว่ากัน แต่สำหรับผม ผมเห็นว่า 3+1 สำคัญกว่า เพราะผมคิดว่าควรลดตัวต่างชาติลง เพราะต้องการให้แต่ละสโมสรเฟ้นหาเด็กไทย ด้วยกันเองมากขึ้น จากคุณ : mp3man เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 13:22:57

ความคิดเห็นที่ 20 ไหนใครเคยบอกนะว่า ญี่ปุ่นเมื่อก๋อนก็ให้โควต้าต่างชาติเยอะเหมือนกัน เพื่อกระตุ้น แล้วพออยู่ตัวก็ลดโควต้า ถ้าเป็นยังงั้นจริงก็ดีนะ แต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลกับคนไทยรึเปล่า  จริงๆมันก็ขึ้นกับ สมาคมแท้ๆเลย ถ้าหากว่าทุ่มเงินรางวัลบ้าคลั่งไปเลยละครับ แชมป์ลีค 50 ล้านบาท เอฟเอ 30 ล้านบาท และมีกฏต้อง ส่งเด็กอายุไม่เกิน 20 ลง 2คน ส่งเด็กอายุไม่เกิน 25 ลง 2คน เชื่อผมเหอะ ต่างชาติจะมีกี่คนก็ตาม นักเตะวิ่งกันบ้าคลั่ง แน่นอน ใครไม่วิ่งก็ออกไปเตะฝุ่นได้เลย ### ขอโทษฮะ แชมป์ เอฟเอ ปีล่าสุดได้ 1 ล้านบาทเองครับ แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 53 13:28:27 จากคุณ : hahesfha เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 13:27:56

ความคิดเห็นที่ 21 คห16ครับ...ขอบคุณครับ จากคุณ : daxter เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 13:28:19

ความคิดเห็นที่ 22 ผมเองมองว่าผลเสียมันมากกว่าผลดี เพราะ 11 ตัวจริง ในลีก กับ 11 ตัวจริงในบอลถ้วยระดับทวีปก็คงจะไม่เหมือนกัน นี่แค่มองในส่วนของทีมที่ได้ไปเล่นนะครับ ส่วนถ้าไม่เวิร์กแล้วจะยกเลิกกลับ อันนี้ผมก็ว่ายากครับ ยากมากด้วย ประเทศไทยนี่ก็แปลกนะ บอลลีกในประเทศพึ่งกลับมาบูมแค่ปีเดียวเอง แต่รื้อนั้น ทำนี่อะไรกันใหม่ ๆ หลายเรื่องมาก เหมือนเข้ามารุมทึ้ง รุมยำกันยังไงไม่รู้ ไม่มีการทำประชาวิจารณ์หรือศึกษากันอย่างเป็นระบบอะไรเลย ถ้าเกิดมันกลับไปเน่าเหมือนเมื่อก่อนอีก ผมว่ามันจะฟื้นยากกว่าเดิมนะครับ ไปกฏ ส่ง 7 ลง 5 นี่ตอนแรกเหมือนมันจะตกไปแล้วอะครับ แต่พอมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนี่ กลับจะได้มาซะงั้น เรื่องบางเรื่อง ไม่จำเป็นต้องมีการเมืองมาเกี่ยวข้องด้วย จะดีที่สุด ผมสังหรณ์ใจครับว่า ฟุตบอลลีกบ้านเราจะพังเพราะนักการเมืองบางกลุ่ม แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 53 13:34:41 จากคุณ : เจ 11 เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 13:30:05

ความคิดเห็นที่ 23 #18 ถ้าตัวเก่งเท่าเดิมล่ะครับ โอกาสที่พวกดาวรุ่งคงหายไปพอๆ กับการเข้ามาของตัวต่างชาติราคาถูกมากขึ้น ??? จากคุณ : 123 ปลาฉลามขึ้นบก เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 13:32:19

ความคิดเห็นที่ 24 แม้จะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินครั้งนี้นัก แต่ก็ยอมรับได้ครับ....ถ้ามองในแง่ความบันเทิง...ปีหน้า TPL จะมันส์มาก ส่วนเรื่องทีมชาติก็ต้องรอดูกันต่อไป...ผมว่ามันคงไม่เลวไปกว่าปัจจุบันเหรอก ใช้ 3+1 คาดว่าจะมีดาวรุ่งเกิดเพียบ แต่ใช่ว่าจะติดทีมชาติเสมอไป.... เพราะอะไรรู้ๆกันอยู่ จากคุณ : สาม...ศูนย์...สาม... เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 13:34:56

ความคิดเห็นที่ 25   ถ้าทำแบบนี้ไปนานๆ มันจะมีปัญหาทีมชาติหาตัวเลือกไม่ได้ในบางตำแหน่ง แบบที่อังกฤษหาปีกซ้ายไม่เจอมาเป็นสิบปี และหลังจากหมดยุคเดวิด ซีแมน ยังไม่เจอผู้รักษาประตูคนไหนที่ไว้ใจได้เลย จากคุณ : pipboy3000 เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 13:38:10

ความคิดเห็นที่ 26 ข้อดีเหรอ ก็มองได้ แต่ผมคงมองได้ไม่กี่ข้อหรอก ข้อดีคือได้มีการเปรียบเทียบ แข่งขันกับตัวต่างชาติมากขึ้น ข้อเสียเหรอ เพียบ อยากลองก็ลองกันครับ บอลอาชีพมันก็คือธุรกิจ เดี๋ยวกระแสแฟนบอลก็บอกเองครับว่าอยากได้อะไร แฟนบอลต้องการอะไร สโมสรก็ต้องสนอง ไม่งั้นก็ไม่ได้ตัง ส่วนมันจะดีกับการสร้างนักเตะไทยไหม เดี๋ยวผลงานทีมชาติก็บอกเองแหละครับ จากคุณ : Jackov เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 14:10:59

ความคิดเห็นที่ 27 และผมคิดว่า นักเตะดาวรุ่งจะเกิดใหม่ได้น้อยกว่าเดิมมาก ๆ 11 คน ต่างชาติส่ง 7 ลงได้ 5 การเปลี่ยนตัวมันมีโอกาสเกิดต่างชาติออกต่างชาติเข้าแน่ ๆ ได้ถึง 2 ตัว ถ้าทุกทีมส่งเต็มโควต้าจะเหลือนักเตะไทย 6 คน ในลีก 16 ทีม เท่ากับ 256 คน นี่คือจำนวนผู้มีโอกาสติดทีมชาติ ที่เรามีโอกาสได้ดูฝีเท้าเขามาที่สุด เพราะเล่นเป็นตัวจริง แล้วตัวนักเตะที่เล่นในลีกต่างชาติต้องนี้เหลือกี่คน โอเคว่านักเตะในลีกที่ต่ำกว่าก็มีโอกาสติดทีมชาติได้ แต่ที่ผ่านมาก็เห็น ๆ กันอยู่ ติดบ้างแต่น้อยและแทบไม่ได้ลง แค่คิดก็น่าเบื่อนะ ตอนแรก ๆ คงตื่นตาตื่นใจอยู่หรอก หลัง ๆ ไปเดี๋ยวก็รู้สึกเองว่าความภูมิใจในคนไทยจะหายไปไหน ผมอาจจะมองในทางลบไปหน่อย แต่มันก็มีโอกาสเป็นไปได้นะครับ จากคุณ : เจ 11 เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 14:12:44

ความคิดเห็นที่ 28 ลองมองแบบเป็นกลาง ว่านี่คือโอกาสสำหรับทุกๆคน ที่เล่นในไทยลีกละ เหมือนตอนบ้านเรา เปิดตลาดเสรีทางโทรคมนาคม แล้วทุกวันนี้ ทุกๆเจ้าทั้งรัฐและเอกชนต้องแข่งกันมากขึ้นไหม หรือการเปิดเสรีทางการเงินและการธนาคารที่ให้ต่างชาติมาร่วมทุน สิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่องใหญ่และคอขาดบาดตายทางเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ มากกว่าทีมฟุตบอลเสียอีก แต่ในระยะยาวเราก็ได้เห็นว่า ธนาคารหลายๆแห่งต้องปรับปรุงให้หลุดมาจาก ความเป็นอนุรักษ์นิยม และพวกเราได้มีบริการที่ดีขึ้นและง้อลูกค้ามากขึ้น ที่เปรียบไปแบบนั้น เพราะ เรามองเห็น คำว่า โอกาส มากกว่าอุปสรรค ของทั้งนักเตะไทยเอง และนักเตะต่างชาติ ที่ต้องแข่งขันกันเองมากขึ้น ยกตัวอย่างนักเตะไทย ถ้าสามารถขยันฝึกซ้อมและในการเล่น สามารถพิสูจน์ตัวเองให้คนดูแฟนบอลต่างๆยอมรับว่า เขาสามารถทำได้ดีกว่า นักเตะไทย และนักเตะต่างชาติทุกคนที่อยู่ในสนาม นั่นแสดงให้เห็นว่า นักบอลไทยหลุดพ้นจากข้อด้อยต่างๆที่เราชอบพูดกัน และสามารถสู้กับนักเตะต่างชาติได้ในทีมที่มีการแข่งขันสูงเช่นกัน ...นักเตะแบบนั้นจะไม่มีทีมไหนต้องการ หรือมีที่ยืนในลีกสูงสุดเชียวหรือ ....เพียงแต่ว่าจะมีกี่คนที่มีมุมมองหรือทัศนคติของมืออาชีพเพื่อการเป็นผู้ชนะแบบนั้น ซึ่เราจะได้เห็นกันในฤดูกาลใหม่นี้ นักเตะต่างชาติ เช่นกัน มี โควต้า 5 คนในสนาม จาก 7 คนในทีม ซึ่งพวกเขาต้องแข่งขันกันเอง และยังต้องแย่งกับนักเตะไทยเช่นกัน สิ่งที่เขาต้องพิสูจน์ในสนามก็เช่นเดียวกับนักเตะไทย และยังต้องดีกว่าเป็นสองเท่า เพราะ หากเขาสามารถพิศูจน์ตัวเองได้โดดเด่น เหนือกว่า นักเตะต่างชาติด้วยกัน และนักเตะไทย เราก็ต้องยอมรับว่า นักเตะคนนี้ ควรมีที่ยืนเช่นกัน   แต่ทว่าสิ่งที่เขาได้โอกาสและไม่สามารถรักษามันไว้ได้ เขาก็ต้องไปเช่นกัน ตามทางของมืออาชีพ หากเราทำใจยอมรับกับมัน ว่ามันเป็นกฎกติกาของการแข่งขัน ที่มันจะทำให้ นักเตะของเราต้องขยันและยกระดับตัวเองมากขึ้น  และนี่คือการแข่งขันและสนามของมืออาชีพที่ทุกคน อยากให้มันเป็น ตั้งแต่บอลบ้านเรา ยังเป็นระบบสมัครเล่น วันนี้ บ้านเรามีบอลอาชีพ มา 13 ครั้ง และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 14 แล้วนะ เพียงแต่ว่ามันเพิ่งมาบูมเมื่อปีที่แล้ว ทุกคนเลยให้ความสนใจ เราต้องทำใจยอมรับการแข่งขันแบบมืออาชีพที่มันจะเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว ผู้ชนะคือคนที่ไม่เคยยอมแพ้?คนที่ยอมแพ้คือคนที่ไม่เคยชนะ ฝากข้อคิดนี้ไว้ ให้ทุกท่านลองมองว่า นี่คือโอกาสของนักเตะไทยเราและวงการบอลบ้านเราที่จะได้คัดสรรคนที่ดีขึ้น เก่งขึ้นเช่นกัน (ส่วนจะติดทีมชาติไหมอันนี้แล้วแต่รสนิยมของโค้ช) และคิดว่า ทัศนคติของวงการบอลบ้านเราตั้งแต่ส่วนหัวจนลงมาถึงนักเตะ และแฟนบอลรากหญ้าอย่างเรา เรามีทัศนคติแบบผู้แพ้หรือผู้ชนะกันแน่ 10 ข้อแตกต่างระหว่าง ผู้ชนะ กับ ผู้แพ้" 1) When a winner commits a mistake, he say I'm wrong (Habit 1 : Be proactive) ผู้ชนะ : เมื่อพบว่ามีข้อผิดพลาด จะพูดว่า ฉันทำผิดเอง When a loser commits a mistake, he says it's not my fault ผู้แพ้ : เมื่อพบข้อผิดพลาด จะพูดว่า ไม่ใช่ความผิดของฉัน 2) A winner works harder and has more time than a loser (Habit 2 : Begin with t**nd in mind) ผู้ชนะ : จะทำงานหนักกว่าปกติ และมีเวลามากกว่าผู้แพ้ A loser always is too busy to do what is necessary (Habit 3 : Put first thing first) ผู้แพ้ : จะทำงานแบบยุ่งทั้งวัน โดยที่ไม่คิดว่างานไหน ควรทำก่อนทำหลัง 3) A winner faces and solves his/her problems (Habit 1 : Be proactive) ผู้ชนะ : จะเผชิญหน้ากับปัญหาและลงมือแก้ไขปัญหานั้น A loser does otherwise ผู้แพ้ : จะทำในทางตรงข้าม หลีกเลี่ยงปัญหา 4) A winner makes things happen (Habit 1 : Be proactive) ผู้ชนะ : จะลงมือทำงานให้ปรากฎผลงานขึ้น A loser makes promises ผู้แพ้ : จะให้แต่คำสัญญา คือมีแต่ลมปาก แต่ไม่ลงมือ 5) A winner wld say " I am good but not as good as I want to be " (Habit 1: Be proactive) ผู้ชนะ : จะพูดว่า " ฉันทำได้ดี แต่ยังไม่ดีเท่ากับที่ฉันต้องการ " A loser wld say " I am not as bad as others " ผู้แพ้ : จะพูดว่า " ยังมีคนอื่นอีกหลายคนที่มีผลงานแย่กว่าตัวเขา " 6) A winner listens, understand and responds (Habit 5 : Seek first to understand then be understood) ผู้ชนะ : จะตั้งใจฟัง แล้วทำความเข้าใจ และ สามารถตอบสนองได้ A loser o?nly waits until it's his/her turn to speak ผู้แพ้ : จะรออย่างเดียว โดยไม่ฟัง ไม่ทำความเข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูด รอจนกว่าจะถึงคิวที่จะได้พูดเรื่องของตัวเอง 7) A winner respects people who are superior to him and wld like to learn from them (Habit 1 : Be proactive)' ผู้ชนะ : จะยอมรับ นับถือคนที่มีความสามารถเหนือกว่า และจะเรียนรู้จากคนเหล่านั้น A loser does otherwise, and wld try to find his superior's faults ผู้แพ้ : จะทำในทางตรงข้าม และจะพยามายามหาข้อผิดพลาดของคนที่เหนือกว่าเขา 8) A winner is responsible not just for his own work (Haibt 4 : Think win-win and Habit 6 : Synergize) ผู้ชนะ : จะมีความรับผิดชอบ ไม่เพียงแต่งานที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น จะช่วยคิดให้องค์กรประสบความสำเร็จ ( ไม่ใช่ไปก้าวก่ายงานคนอื่นนะ ) A loser will not dare help others and wld say I'm just doing my job ผู้แพ้ : จะไม่กล้าที่จะช่วยเหลือคนอื่น และ มักจะพูดว่า ฉันไม่ว่าง กำลังทำงานของฉันอยู่ 9) A winner wld say " There shd be a better way to do it " (Habit 1 : Be proactive and Habit 2 : Begin with t**nd in mind) ผู้ชนะ : ต้องมีวิธีที่จะทำให้ดีขึ้นได้เสมอ A loser wld say " This is the o?nly way to do " ผู้แพ้ : จะพูดว่า " นี่คือหนทางเดียวที่ทำได้ " 10) A winner like you will share this with his/her friends (Habit 4 & 6) ผู้ชนะ : จะแบ่งปันบทความนี้ไปยังเพื่อนๆของเขา A loser will just keep this to himself/herself because he/she doesn't hv time to share this with others. ผู้แพ้ : จะเก็บบทความนี้เอาไว้ เพราะว่าเขาไม่มีเวลาที่จะแบ่งปันไปให้คนอื่น แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 53 14:30:38 แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 53 14:23:10 จากคุณ : tweety_jay เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 14:16:12

ความคิดเห็นที่ 29 ฝากไว้อีกอัน พอดีได้ไปเจอมา ผู้ชนะ เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ ผู้แพ้ เป็นเงื่อนของปัญหา ผู้ชนะ เสนอสิ่งใหม่ให้ทุกครา ผู้แพ้ สรรหาคำแก้ตัว ผู้ชนะ มักบอกขอฉันช่วย ผู้แพ้ ไม่เอาด้วยมันปวดหัว ผู้ชนะ เห็นทางออกแม้มืดมัว ผู้แพ้ มักกลัวเจอทางตัน ผู้ชนะ หานาทีทองแม้ต้องยุ่ง ผู้แพ้ มักมุ่งแต่ร้ายที่หมายมั่น ผู้ชนะ ว่าทำได้ต้องฝ่าฟัน ผู้แพ้ บอกเลิกฝันมันยากไป นำมาปรับปรุง แล้วมุ่งสู่การแข่งขันแบบมีเป้าหมายของทุกทีมในไทยลีก ตามที่ได้ตั้งความหวังไว้นะคะ...สู้ๆๆ พี่น้อง แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 53 14:51:01 จากคุณ : tweety_jay เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 14:49:34

ความคิดเห็นที่ 30 จริงๆเราเหมือนเป้นลีกทดลอง....พยายามที่จะหาทางออกร่วมกันอยู่บางครั้งผมก็มองว่า  เหมือนโยนหินถามทาง   แต่ถึงอย่างไรผมเชื่อว่า  ลีกเรายังไม่นิ่งไปอีกปีหรือสองปีแน่ๆครับ.....ผมคิดว่ามันน่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกแน่นอนครับ...... จากคุณ : daxter เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 15:10:24

ความคิดเห็นที่ 31 ก็แล้วแต่ครับ ความคิดใครความคิดมัน ห้ามกันไม่ได้ แต่ว่าลองก่อนสัก 1 เลกก็ไม่เห็นเป็นไรถ้าไม่ดีค่อยด่าก็ไม่สาย จากคุณ : MTU (ณัฐกร) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 15:28:48

ความคิดเห็นที่ 32 ที่ผ่านมาผมก็เ์ฉยๆนะ  จะลองดูก็ไม่้เป็นปัญหาอะไร แต่ไม่รู้ว่ามันจะรีบใช้ไปไหน  ถึงต้องทำกันขนาดนี้  ตะบี้ตะบันกันมากๆ ตรงนี้แหละที่รู้สึกไม่ดีละ  ดูมันไม่ค่อยแฟร์ จากคุณ : ettexo[R] เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 15:59:38

ความคิดเห็นที่ 33 อย่างน้อยถ้านักเตะต่างชาติที่เอาเข้ามามันเก่งจริง มันก็น่าจะทำให้นักเตะไทยต้องพัฒนาฝีเท้าขึ้นไปสู้ ผมมองว่ามันเป็นผลดีน้ะ แต่..ถ้าต่างชาติที่เอาเข้ามามันอ่อน กลัวว่าจะฉุดนักเตะไทยเราอ่อนลงไปด้วย จากคุณ : Jetfire เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 16:09:14

ความคิดเห็นที่ 34 ผมว่าสมาคมพยายามจะยกระดับไทยลีกให้เท่ากับลีกในยุโรปครับ บอลจะเตะกันสนุกกว่าเดิมเพราะตัวต่างชาติเยอะ แรกๆ หลายทีมก็จะทุ่มจ้างตัวต่างชาติมา แต่ถ้าไม่ประสบผลสำเร็จก็จะต้องกลับมาจ้างนักเตะไทย ส่วนทีมที่มีตังค์ ก็จะทุ่มจ้างนักเตะต่างชาติต่อไป แล้วฟุตบอลไทยก็จะกลายเหมือนลีกยุโรปสมใจ เหมือนสก็อตลีก มีทีมแย่งแชมป์แค่ 2 ทีม คือเมืองทองของผม กับบุรีรัมย์ของท่านเนวิน หรืออย่างมาก ก็มีบิ๊กโฟร์แบบอังกฤษ บวกชลบุรี กับบางกอกกล๊าส ส่วนทีมอื่นก็แค่ประกอบให้ครบลีกเท่านั้น เป็นไงครับ เราก็ได้ยกมาตรฐานเท่ากับลีกยุโรปสมใจ 5 5 5 5 5 จากคุณ : เอริค กองตรงหน้า เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 16:39:05

ความคิดเห็นที่ 35 คห 33 อาจจะจริง แต่ก็ต้องดูด้วยว่า "เก่งระดับไหน" ด้วย ถ้าเก่งมากเกินไป บางทีก็ใช่ว่าจะเป็นผลดี เพราะนักเตะไทยชั้นเชิงยังไม่มากพออาจจะตามไม่ทัน สุดท้ายก็จะกลายเป็นนักเตะต่างชาติโชว์เฉยๆ แต่ไม่สามารถยกระดับนักเตะไทยที่เล่นด้วยได้เลย ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ ก็ NASL ยุคปลาย 70 ละครับ ไปดึงเอานักเตะระดับสุดยอดของสุดยอดมาเป็นแผง ทั้งเปเล่ เบคเคนบาวร์ ครัฟฟ์ ฯลฯ แต่นักเตะที่มาเก่งเกินไปจนนักเตะอเมริกาตามไม่ทัน สุดท้ายกลายเป็นสุดยอดนักเตะเหล่านั้นได้แค่โชว์ แต่ไม่ได้ช่วยพัฒนานักเตะอเมริกันได้เลย ทีมชาติสหรัฐอเมริกายุคนั้นก็ยังเป็นหมูสนามเหมือนเดิม เหมือนเด็กประถมถ้าอยากให้เรียนเก่งขึ้น ลองเอาความรู้ระดับมัธยมต้นไปสอน ก็อาจจะพอรับได้และสนุกกับการเรียนมากขึ้น แต่ถ้าจู่ๆ เอาความรู้ระดับมหาวิทยาลัยไปสอน รับรองเด็กประถมไม่รู้เรื่อง แทนที่จะเก่งขึ้นอาจจะกลายเป็นเบื่อวิชานั้นไปเลยก็ได้ แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 53 17:46:53 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 17:45:32

ความคิดเห็นที่ 36 มันเพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในลีกไทยคะ ที่มีกฏ 7 ลง 5 ตอนนี้เลยยังไม่มีความเห็นคะ แหะๆ เวลาเท่านั้นคะ จะเป็นคำตอบว่ามันจะช่วยพัฒนาบอลไทยขึ้น หรือว่าเราต้องกลับไปเล่นกฏเดิมๆ จากคุณ : หนูคิ M.T.U. เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 23:32:28

ความคิดเห็นที่ 37 ผมจะไม่ว่าเลย กับ 7 ลง5 ถ้า 1. เรามีระบบคัดกรองฝีเท้านักเตะต่างชาติ มีเกณฑ์ ที่ชัดเจน เพราะไม่งั้น ก็จะกลายเป็นการจ้างงานต่างชาติ เพราะค่าแรงมันถูกกว่า ไม่ใช่ เพราะฝีเท้าดีกว่า 2. เรามีระบบ ลีกสำรอง  ระบบ academy ผมยังไม่เห็นการตรวจสอบเรื่องนี้จากสมาคมสักที 16ทีม ตอนนี้ มีพร้อมสักกี่ทีม ถ้า 2 ข้อนี้ไม่มี แต่ยังอยากใช้ 7 ลง 5 ฟันธงว่านักเตะไทยไม่ได้ประโยชน์อะไรแน่ๆ และวันนั้นผลงานทีมชาติและจะเป็นตัวบอกเราเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกหน่อยถ้า  ฝีเท้านักเตะไทยแย่ลงเพราะไม่มีโอกาสได้ลง สมาคม จะใช้วิธีลัดโดยการแปลงสัญชาติ นักเตะต่างชาติ ซึ่งป่านนั้นก็คงมีเพียบแน่ๆ โดยอ้างว่านักเตะไทยฝีเท้าไม่ดี อีกมั้ย จากคุณ : สายน้ำฟ้า เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 01:05:20

ความคิดเห็นที่ 38 คิดไปคิดมาระบบนี้อาจจะดีกับนักบอลไทยก็ได้นะ ต้องยอมรับว่านักเตะไทยหลายคนที่พอเก่งระดับนึงแล้วก็จะเกิดการอิ่มตัว ประมาณว่า เล่นได้แบบนี้ก็หรูแล้ว ไม่ต้องพัฒนาอะไรมาก รับทรัพย์อย่างเดียวเป็นพอ แต่พอเปลี่ยนมาระบบใหม่ ผู้เล่นต่างชาติที่มีฝีเท้าดีเข้ามาเสริมทีม การแข่งขันในทีมก็สูงขึ้น สังคมไทยที่ไม่ชอบการแข่งขันนั้น อาจจะเหมาะมากสำหรับการถูกกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันและทำให้เกิดการพัฒนายิ่งขึ้น ปล.1 ข้อแม้ว่าผู้เล่นต่างชาติต้องเป็นของจริง ปล.2 สงสัยเหลือเกินว่าทำไมต้องยืนหยัดเอาระบบ 5 ลง 7 ให้ได้ มีใครบ้างที่อยู่ในเบื้องหลังหรือป่าว ยังงัยก็ขอให้บอลไทยเกิดการพัฒนาแล้วกัน สาธุ จากคุณ : sth_gotta_give เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 10:03:39

ความคิดเห็นที่ 39 ข้อดีคือ มันเป็นกฏที่ให้ประโยชน์กับทีมใหญ่ๆครับ เอามาฝากจาก http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S8761818/S8761818.html ความคิดเห็นที่ 9     มันเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้เงินซื้อความสำเร็จ  กฏนี้อวยพวกทีมใหญ่ที่มีเงินแบบสุดๆ  แต่ก็ปิดโอกาสทีมเล็กๆไม่ให้ได้ผุดได้เกิดไปเลยทีเดียว ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับความเห็นที่ว่า  ใครอยากใช้ 3+1 ก็ใช้ไป  ใครอยากใช้ 7/5 ก็จัดไป  ความเห้นแมวๆแบบนี้ไม่รู้ว่าใช้อะไรคิด เมื่อคุณออกกฏมาอย่างนี้  มันเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกัน  ทุกทีมก็ต้องรักษาสิทธิ์ของตัวเอง  เพื่อไม่ให้เสียเปรียบกันมากเกินไป  แล้วมีกี่ทีมล่ะที่จะเงินไปจ้างนักเตะต่างชาติเยอะๆ  เพื่อจะมาลงให้ครบโควต้า คุณไม่เห็นหรือ  บางทีมยังต้องวิ่งเต้นกันฝุ่นตลบเพื่อหาเงินมาทำทีมกันอยู่เลย  นี่ทีมในพีทีแอลน่ะครับ  ไม่ใช่ลีกภูมิภาค  ทีมพวกนี้  จะมีเงินทองที่ไหนมาจ้างล่ะครับ  แล้วเขาจะอยู่ตรงไหน  เขาจะยืนอยู่บนเวทีพีทีแอลได้อย่างไร จากคุณ : Alonelynx   เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 09:58:52   ถูกใจ : Jackov ความคิดเห็นที่ 10     ^ ใช่ครับ ประเด็นสำคัญคือตรงนี้ เกิดความแตกต่างที่มากเกินไป แล้วความสนุกสูสี แบบที่เราเห็นปีที่ผ่านมาจะหายไป ทีมใหญ่เงินหนาซื้อความสำเร็จได้ง่ายๆ และมีศักยภาพที่จะผูกขาดความสำเร็จ ทีมเล็กๆจะยากที่จะประสบความสำเร็จ แฟนทีมเล็กๆจะถูกบั่นทอนกำลังใจ ไม่มีหลักเกณฑ์กระจายทุนสนับสนุน สปอนเซอร์ก็ไหลเข้าแต่ทีมใหญ่ๆหัวตาราง อีกหน่อยใครจะไปมีกำลังใจทำทีมต่อสู้ต่อไป ทีมเล็กๆจะล้มหายตายจาก มันบ่อนทำลายลีคชัดๆครับพี่น้อง ต้องมองให้ขาด จากคุณ : Jackov   เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 11:10:29   J-League มีระบบสนับสนุนการกระจายการสนับสนุน โดยรัฐกำหนด (ผมจำรายละเอียดไม่ได้ NBA NFL NHLของอเมริกา ตั้งกฏการดราฟตัวผู้เล่น ให้ทีมอันดับแย่เลือกตัวเก่งๆได้ก่อน เพื่อกระจายศักยภาพผู้เล่น ระบบพวกนี้เป็นระบบเพื่อเกลี่ยศักยภาพในการแข่งขัน ให้แต่ละทีมยังคงความสูสี ไม่ใช่เอาเงินมาทุ่มผูกขาดความสำเร็จได้ เกมการแข่งขันของลีคเหล่านี้จึงมีความสนุกน่าดูน่าลุ้นน่าติดตาม ลองชั่ง เทียบข้อดี ข้อเสียเอาละกันครับ อย่ามองสั้นๆ มองให้ยาวๆไปในอนาคตครับ อะไรที่เตะหมูเข้า Dog Mouth ไปแล้ว จะแย่งกลับออกมา มันยากนะพี่น้อง แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 53 11:18:45 จากคุณ : Jackov   เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 11:18:10 จากคุณ : Jackov เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 11:54:49