ความคิดเห็นที่ 1 เบนจานี่อ้อนขอฝากอนาคตกับซิตี้ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี หัวหอก แมนฯ ซิตี้ อ้อนขอแขวนสตั๊ดกับทีม หลังกำลังทำผลงานดีเยี่ยม ภายใต้ยุค โรแบร์โต้ มันชินี่ ในเวลานี้ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี กองหน้าซิมบับเวของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับ อยากปิดฉากอาชีพพ่อค้าแข้งกับต้นสังกัด หลังกำลังสนุกกับการมีส่วนร่วมในทีมมากขึ้น นับตั้งแต่ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือชาวอิตาเลียน เข้ามาคุมทีม ล่าสุดเพิ่งลงตัวจริงเป็นนัดที่สองติดต่อกัน ในเกมเชือด แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 4-1 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ดาวยิงวัย 31 ปี กล่าวว่า "ผมมีความสุขมาก เพราะผมได้เป็นตัวจริงสองนัดแล้ว มันผ่านมานานมากแล้วที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ในฐานะนักฟุตบอล คุณต้องมีความเชื่อมั่นเสมอ แม้จะรู้ดีว่าโอกาสลงสนามต่อเนื่องนั้นน้อยมาก คุณต้องทำตัวเป็นมืออาชีพ ทำทุกอย่างให้เหมาะสม และทำงานหนัก ตอนนี้ผมพอใจที่ได้รับโอกาสบ้างแล้ว อยากบอกว่า ผมคิดอยากแขวนสตั๊ดกับ ซิตี้ มาตลอด" "ผมเหลือสัญญาอีก 6 เดือน มันคงเยี่ยมมากหากได้สัญญาอีกปีหรือมากกว่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผมคือ การทุ่มเทเต็มที่เพื่อโอกาสลงสนาม ผมชอบบทบาทที่ได้รับในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมคิดว่ามันเข้ากับสไตล์ของผมได้ดี เพราะผมชอบการเน้นหนักด้านสภาพร่างกาย แต่สิ่งที่ดีคือเมื่อนักเตะสักคนลงเล่นไม่ได้ แต่อีกคนก็ก้าวขึ้นมาแทน และทำหน้าที่ได้ดีเช่นกัน เหล่านี้คือองค์ประกอบของทีมชั้นดี" "เรือใบสีฟ้า" กระโจนรั้งอันดับ 4 ในตาราง พรีเมียร์ลีก หลังจบเกมเชือด แบล็คเบิร์น อย่างไรก็ตาม เบนจานี่ ให้ความสนใจไปทีละเกมเท่านั้น "เราต้องให้ความสำคัญไปทีละเกม แต่เราคิดว่า เราเอาชนะได้ทุกทีมในเวลานี้ เราทะลุติดท็อป 4 แล้ว ตอนนี้เราอยากรั้งมันไว้ให้ได้ ขณะที่เรามีงานหนัก เพื่อชิงอันดับในตาราง รวมทั้งความมั่นใจและความเชื่อมั่นในทีม มันก็ไม่มีเหตุผลเลยว่าทำไมเราจะทำไม่ได้" http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100113_058.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:07:26

ความคิดเห็นที่ 2 บายอร์" ไม่เกรงใจเรือ ใส่เสื้อ "ปืน" สัมภาษณ์สื่อ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 มกราคม 2553 10:51 น. เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กองหน้าทีมชาติโตโก ไม่เกรงใจ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี ด้วยการสวมเสื้อโปโลของ "ปืนโต" อาร์เซนอล ให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ที่บ้านเกี่ยวกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญถูกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนถล่มในระหว่างเหินฟ้าไปทำศึก แอฟริกัน เนชันส์ คัพ              รถบัสของทีมชาติโตโก ที่เตรียมขนนักเตะไปลุยศึก แอฟริกัน เนชันส์ คัพ 2010 ระหว่างวันที่ 10-31 มกราคมนี้ ถูกกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนเพื่อเสรีภาพของ "คาบินดา" (เอฟแอลอีซี) ซุ่มโจมตีระหว่างเดินทางข้ามพรมแดนเมื่อวันศุกร์ที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ทำให้เวลานี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย              โตโก ถอนตัวจากศึก แอฟริกัน เนชันส์ คัพ พร้อมเดินทางกลับบ้านเพื่อทำพิธีศพและไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต อเดบายอร์ ถูกสื่อตามสัมภาษณ์ตามระเบียบ แต่ที่น่าแปลกใจคือสวมเสื้อ อาร์เซนอล ทีมที่ย้ายออกไปร่วมทัพ แมนฯซิตี ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,350 ล้านบาท) เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา              แมนฯซิตี ทีมอันดับ 4 มีโปรแกรมทำศึก พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ด้วยการบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ในคืนวันเสาร์ที่ 16 มกราคมนี้ อเดบายอร์ มีโอกาสกลับมาลงสนามช่วยทีม อย่างไรก็ตาม โรแบร์โต มันชินี กุนซือชาวอิตาเลี่ยน ที่ประเดิมคุมทัพชนะ 4 นัดรวดทุกรายการ อาจจะให้เวลาพักทำใจ **************************************** เรืองอย่างนี้ยังเป็นประเด็นข่าวอีก  เมื่อดูแหล่งที่มาข่าวถึงไม่แปลกใจ จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:10:28

ความคิดเห็นที่ 3 "มันโช" ไม่หนำใจเล็ง "กาโก" เสริมกลาง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 มกราคม 2553 18:18 น.       โรแบร์โต มันชินี กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี ตกเป็นข่าวสนใจคว้า เฟร์นานโด กาโก กองกลางชาวอาร์เจนไตน์ ของ รีล มาดริด มาเสริมทัพ อย่างไรก็ตามต้องแย่งกับ โบคา จูเนียร์ส จากการเปิดเผยของ "เดลี เมล" (DAILY MAIL) สื่อดังของอังกฤษ              มันชินี ประเดิมคุมทัพสุดหรูชนะ 3 นัดรวดในเวที พรีเมียร์ชิป อังกฤษ รวมถึงได้ตัว ปาทริค วิเอรา กองกลางชาวฝรั่งเศส อดีตนักเตะ อาร์เซนอล มาเสริมทัพ อย่างไรก็ตาม "มันโช" ยังอยากได้ กาโก กองกลางตัวตัดเกมที่ตกเป็นตัวสำรองในถิ่น ซานติอาโก เบร์นาบิว อีกหนึ่งราย              รีล มาดริด พร้อมรับฟังขัอเสนอซื้อ กาโก วัย 23 ปี เพราะว่าใช้เงินเสริมทัพไปถึง 265 ล้านปอนด์ (ประมาณ 14,000 ล้านบาท) เมื่อช่วงซัมเมอร์นี้ที่ผ่านมา คาดว่า แมนฯซิตี จะควักเงิน 7.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 400 ล้านบาท) ให้พิจารณา              กาโก ไม่มีความสุขกับการเล่นให้ รีล มาดริด ภายใต้การคุมทัพของ มานูเอล เปลเยกรินี แม้จะได้ลงเล่นเต็ม 90 นาทีในเกม ลา ลีกา สเปน ที่ชนะ มายอร์กา 2-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา แต่ว่าเป็นการออกสตาร์ทเพียงแค่นัดที่ 3 ในลีกเท่านั้น              นอกจาก แมนฯซิตี ยังมี เอฟเวอร์ตัน ที่สนใจยืมตัว กาโก รวมถึง อัลฟิโอ บาซิเล กุนซือ โบคา จูเนียร์ส ที่อยากดึงกลับไปเล่นในบ้านเกิดอีกครั้ง หลังย้ายออกไปเมื่อปี 2007 ด้วยค่าตัว 13.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 739 ล้านบาท) **************************************** ตัวนี้เอามาเลย อนาคตไกล แถมเจ้าตัวอยากย้ายจากมาดริดจัด จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:12:03

ความคิดเห็นที่ 4 ระวังอาเซนอล คอลัมน์ คุยกับเอกราช โดย เอกราช เก่งทุกทาง น่าจะแน่นอนแล้วว่าทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปีนี้มีอยู่ 3 ทีมคือ เชลซี แมนฯ ยูไนเต็ด อาร์เซนอล แถมโอกาสยังแทบ ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ ผมเองยังชอบความคลาสสิกของเชลซี แต่ก็เชื่อมือเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และไม่มีทางมองข้าม พลังหนุ่มของอาร์เซนอลเด็ดขาด ถ้าเอาผลงานช่วง 10 นัดแรกมาวัด เชลซีเหมือนจะได้แชมป์แบบนอนมา เพราะทุกอย่างใช่หมด เล่นสวยงาม ประสิทธิภาพสูง สม่ำเสมอ ต่อเนื่องที่สุด สภาพทีมเหนือกว่าชัดเจนเมื่อเทียบกับแมนฯ ยูฯ ที่มีปัญหาจัดทีมไม่ลงตัวทั้งกองหลัง-กองหน้า พวกดารา ขาประจำก็เจ็บแล้วเจ็บอีก ส่วนอาร์เซนอลออกสตาร์ต ไม่ค่อยแรง และยังเสีย โรบิน ฟาน เพอร์ซี ดาวยิงเบอร์หนึ่ง ที่เจ็บพักยาวอีกต่างหาก แต่เล่นไปเล่นมา แฟน ๆ กลับเริ่มรู้สึกว่า เชลซีก็ไม่เท่าไหร่ นี่หว่า เรื่องเก่งไม่มีใครเถียง แต่มันไม่ถึงกับเปอร์เฟ็กต์ ไร้จุดอ่อนเชลซีเสียประตูง่ายเกินไป กองกลางพังประตูได้น้อยเกินไป ทำให้ภาระหนักตกอยู่กับ ดิดิเยร์ ดร็อกบ้า ซึ่งแม้จะยิงกระจาย แต่ก็เห็น ๆ อยู่ว่าตัวทำของทีมไม่หลากหลายเท่า ปีก่อน ๆ ที่สำคัญเดือนมกราคม แทบทั้งเดือน เชลซีไม่มี ดร็อกบ้า ที่ไปเล่นทีมชาติไอวอรีโคสต์ ลุยศึก แอฟริกันเนชันส์คัพ ตรงนี้คือโอกาสทองของแมนฯ ยูไนเต็ดกับอาร์เซนอล ปีศาจแดงเพิ่งตกรอบเอฟเอคัพ แบบหน้าชา แพ้ลีดส์คาบ้านตัวเอง แต่นั่นก็แค่เสียฟอร์มกับเสียโอกาสนิดหน่อย ไม่ได้เสียหายต่อเป้าหมายหลักเลยสักนิด ตกรอบเอฟเอคัพไป เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แค่บ่นว่าผิดหวังฟอร์ม ลูกน้อง ไม่พูดว่าเสียดายของอะไรเลย ลึก ๆ แล้วท่านเซอร์อาจชิล ๆ โล่งใจไปเปลาะหนึ่งซะด้วยซ้ำ แมนฯ ยูฯเน้นเอาถ้วยใหญ่ คือ พรีเมียร์ลีกกับแชมเปียนส์ลีก การได้พักจากโปรแกรมเอฟเอคัพรอบต่อ ๆ ไป จึงทำให้นักเตะปีศาจแดงมีเวลาคลายเส้น ชาร์จแบตฯให้ตัวเอง สภาพความสดก็จะค่อย ๆ ได้เปรียบเชลซีมากขึ้นทีละนิด ปีศาจแดงปีนี้สู้ปีก่อนไม่ได้ แต่ความเก๋ากับความได้เปรียบในเรื่องละเอียดอ่อนทั้งหลายจะเป็นตัวช่วยสำคัญเลยแหละ แมนฯ ยูฯกับเชลซีคือคู่ชิงแชมป์แบบออกหน้า อยู่ในสายตาประชาชน ขณะที่อาร์เซนอลรอจังหวะสอดแทรก ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของ สองทีมนั้น จะว่าอาร์เซนอลเล่นง่ายกว่าเพราะไม่กดดัน มันก็ไม่เชิง ทีมปืนใหญ่เองก็ต้องเน้นเก็บ 3 แต้ม ตุนเข้ากระเป๋าทุกนัด ซึ่งไม่ง่ายหรอก แต่อย่างน้อยการไม่ถูกคาดหวังมาก ไม่ถูกจับตามาก ก็คงเป็นใจให้นักเตะหนุ่ม ๆ ของกุนซืออาร์แซน เวงเกอร์ เล่นได้อย่างผ่อนคลาย เหมาะสมกับวุฒิภาวะของตัวเอง อาร์เซนอลไม่มีอะไรจะเสีย ถ้าพลิกได้แชมป์ ก็เหมือนทำแจ็กพอตแตก มีแต่ได้กับได้ เงื่อนไขแบบนี้ท้าทายวัยห้าวของพวกปืนใหญ่สุด ๆ อาร์เซนอลมีทีมเวิร์กกับเกมรุกที่เก็บแต้มได้เรื่อย ๆ โอกาสเป็นแชมป์จึงไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันแน่นอน จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:17:53

ความคิดเห็นที่ 5 ถึงคิวผี!ขับไล่เกลเซอร์บอกไอ้ปลิงนรก ความวุ่นวายภายในสโมสรของ 2 ยอดทีมแห่งอังกฤษทั้งแมนฯยูไนเต็ดและลิเวอร์พูลมีมาเกือบทุกวันล่าสุดเร้ดอาร์มี่พากันประท้วงขับไล่ตระกูลเกลเซอร์ที่สร้างหนี้ไม่หยุดหย่อน แม้มีการประกาศผลประกอบกิจการกำไร 48.2 ล้านปอนด์(นับถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2009)เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาแต่สาเหตุเป็นเพราะการขายคริสติอาโน่ โรนัลโด้ให้เรอัล มาดริดในราคา 80 ล้านปอนด์ หากไม่มีเงินตรงนี้"ปีศาจแดง"จะขาดทุนราว 31.8 ล้านปอนด์และนั่นทำให้อนาคตของสโมสรยิ่งน่าเป็นห่วงเพราะหากไม่มีการขายนักเตะหนักๆเช่นนี้อีกก็เตรียมขาดทุนในปีนี้เอาไว้ล่วงหน้าได้เลย และหากอยากขายเพื่อพยุงสถานการณ์การเงินขึ้นมาจริงๆก็คงไม่พ้นเนมันย่า วิดิชหรือแม้กระทั่งเวย์น รูนีย์ที่มีมูลค่าสูงที่สุด ณ ปัจจุบันแต่นโยบายเช่นนี้คงต้องได้รับไฟเขียวจากเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเสียก่อน นอกจากเรื่องนี้แล้วเร้ดอาร์มี่ไม่พอใจแผนการออกพันธบัตรขายให้นักลงทุนทั่วโลกเพื่อให้ได้เงินกว่า 500 ล้านปอนด์ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้องและสิ่งที่ดีที่สุดคือตระกูลเกลเซอร์ต้องไสหัวออกไปให้หมด "ตอนนี้มันถึงเวลาที่ไอ้พวกเกลเซอร์ต้องไสหัวไปแล้ว"ดันแคน ดราสโด้ประธานบริหารกลุ่มแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด "ประเด็นพันธบัตรมันก็แค่เหมือนจัดระเบียบเก้าอี้ใหม่และยังปล่อยให้สโมสรมีหนี้พะรุงพะรังซึ่งพวกเขาคาดหวังให้แฟนบอลหาเงินทุนกันเอง ภายใต้การนำของเจ้าของพวกนี้,สโมสรต้องรับผิดชอบจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้อย่างเดียวมากกว่า 260 ล้านปอนด์และการประกาศผลกิจการล่าสุดคงขาดทุนย่อยยับหากไม่ได้ขายโรนัลโด้ออกไป" "เราต้องการให้กำจัดไอ้พวกปลิงนี้ออกไปซะ" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=228343 จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:27:03

ความคิดเห็นที่ 6 หงส์-ผี-เรือตาโตหลังสัญญาใหม่โคลหล่อเริ่มสะดุด อยู่ไปอยู่มา เชลซีอาจจะชวดต่อสัญญากับโจ โคล มิดฟิลด์หน้าหล่อเพราะตกลงเรื่องค่าเหนื่อยที่ดาวเตะทีมชาติอังกฤษขอเพิ่มขึ้นไม่ได้ ซึ่งอาจจะทำให้มาลงเอยกับคู่แข่งในพรีเมียร์ลีกในที่สุดก็เป็นได้ สัญญาของโจ โคลกับ"สิงห์บลูส์"จะสิ้นสุดหลังจบฤดูกาลนี้แล้ว และมีความเป็นไปได้ที่นักเตะจะย้ายทีมตามกฏบอสแมนด้วยซ้ำ (ซื้อสัญญาตัวเอง) ก่อนหน้านี้ สโมสรมั่นใจว่าจะสามารถต่อสัญญากับแข้งวัย 28 ปีคนนี้ทันเวลา แต่เชื่อว่าประเด็นที่น่าปวดหัวตลอด 18 เดือนที่พยายามจะต่อสัญญามาตลอดนั้นยังไม่คลี่คลายลงสักที เชื่อกันว่าโจ โคลต้องการค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละ 40,000 ปอนด์ ซึ่งจะทำให้เขาไปรับค่าเหนื่อยเทียบเท่ากับนิโคลาส์ อเนลก้า และมิเกล เอสเซีย ที่รับอยู่ที่ 120,000 ปอนด์สัปดาห์ แต่ทางสโมสรยินยอมที่จะจ่ายแค่ 100,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เท่านั้น ซึ่งหากยังหาข้อสรุปไม่ได้ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีการย้ายทีมเกิดขึ้น แม้เจ้าตัวจะยืนยันมาตลอดว่าอยากจะฝากอาชีพค้าแข้งไว้ในสแตมฟอร์ดบริดจ์ตลอดไปก็ตาม ทางด้านคาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า "ยังมีเรื่องการเงินที่ยังต้องเคลียร์อยู่" ทั้้งนี้ หากไม่สามารถลงเอยได้จริง ก็มีทั้งลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และแมนเชสเตอร์ซิตี้ที่กำลังจับตามองอยู่ใกล้ชิดอาจจะเริ่มดำเนินการสอยมิดฟิลด์จอมปั้นเกมรายนี้ไว้เป็นสมบัติของสโมสรต่อไปก็เป็นได้ในช่วงซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=228368 ถ้าโคลไม่ต่อสัญญาจริง เขาว่ากันเรือใบคือเต็งหนึ่งที่จะได้ จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:38:08

ความคิดเห็นที่ 7 บาร์ยอย้ายมาแบบไม่เผาผีกับปืนขนาดนั้นแล้วยังใส่เสื้อปืนอยู่อีก แปลว่ามันงกจริงๆ  ถ้าไม่ขาดเป็นรูกรูไม่ทิ้ง 5 5 5 จากคุณ : Major Chip Hazard เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:49:18

ความคิดเห็นที่ 8 ผีเอาแน่ออกพันธบัตรกำจัดหนี้ แม้จะเปิดเผยว่ารอบปีที่ผ่านมามีกำไรก่อนหักภาษีจำนวน 48.2 ล้านปอนด์แต่"ปีศาจแดง"แมนฯ ยูไนเต็ดยังเตรียมออกพันธบัตรมาจำหน่ายหมายระดมเงินให้ได้ 500 ล้านปอนด์พื่อนำไปชำระหนี้ก้อนโตที่มัลคอล์ม เกลเซอร์ เจ้าของสโมสรไปกู้เงินธนาคารมาเพื่อเทก โอเวอร์อาณาจักรโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2005 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษเตรียมเดินหน้าลดภาระหนี้สินครั้งใหญ่ด้วยการออกพันธบัตรมาจำหน่ายหมายระดมเงินให้ได้ 500 ล้านปอนด์ (27,500 ล้านบาท) เพื่อนำไปชำระหนี้ก้อนโต เป็นที่เปิดเผยว่าแม้ "ปีศาจแดง" จะมีกำไรก่อนหักภาษีจำนวน 48.2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,700 ล้านบาท) ในรอบการดำเนินงาน 1 ปี จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2009 แต่ก็ยังมีหนี้สินเป็นจำนวน 699 ล้านปอนด์ (ราว 38,000 ล้านบาท) เนื่องจากมัลคอล์ม เกลเซอร์ เจ้าของสโมสรคนปัจจุบันไปกู้เงินธนาคารมาทั้งสิ้น 509 ล้านปอนด์ (ราว 28,000 ล้านบาท) เพื่อเทก โอเวอร์อาณาจักรโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2005 ด้วยเหตุนี้ แชมป์เมืองผู้ดีจึงคิดวิธีหาเงินมาลดบัญชีตัวแดงซึ่งพวกเขาจำต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้มากถึงปีละ 41.9 ล้านปอนด์ (ราว 2,300 ล้านบาท) ด้วยการคลอดพันธบัตรออกมาวางจำหน่ายโดยคาดว่าจะกำหนดราคาออกมาได้ภายในสัปดาห์หน้า "สิ่งที่ตระกูลเกลเซอร์พยายามทำคือสร้างสถานภาพทางการเงินที่มั่นคงมากขึ้นให้กับสโมสร" รอย คีตเซอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าของบริษัทเบรวิน ดอลฟิน สต๊อคโบรกเกอร์ในเมืองแมนเชสเตอร์กล่าวเมื่อ 11 ม.ค. http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100112_048.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:49:50

ความคิดเห็นที่ 9 อเดบายอร์ใส่เสื้อปืนให้สัมภาษณ์สื่อ ผมว่ามีันักเตะอีกเยอะที่ยังใส่เสื้อทีมเก่าอยู่ที่บ้านอย่างเตเวซก็อาจใส่เสื้อผีอยู่ มันเป็นปีแรกของนักเตะกับทีมใหม่ เสื้อสโมสรเก่าก็ัยังมีอยู่เป็นเรืองธรรมดา เพียงแต่ว่าไม่มีใครในภาวะจิตใจที่ปกติจะใ่ส่ออกมาให้เห็นนอกบ้านเท่านั้น อเดบายอร์เราก็รู้กันดีว่าจากมาจากปีืนแบบเกลียดกัน แต่ออกมาให้สัมภาษณ์ใส่เสื้อปืนอย่างนี้ก็แสดงว่า อเดบายอร์ยังไม่อยู่ในสภาวะจิตใจที่ปกติครับ สงสัยต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะเรียกขวัญกลับมาอยู่กับเนื้อกันตัวได้อีกครั้ง จากคุณ : ซิตี้ สู้ สู้ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:56:24

ความคิดเห็นที่ 10 สำหรับผม ผมว่า ยังตัดลิเวอร์พลู ตัดออกนอกวงโคจรไม่ได้ เพราะ ยังไงก็ยังคงได้ชื่อว่า บิ๊กโฟร์ อยู่   บิ๊กโฟร์ ก็ยังคงเป็น บิ๊กโฟร์อยู่วันยังค่ำ ในสถานการณ์ตอนนี้ ซึ่งเดินมาเพียง ครึ่งยังเหลืออีกครึ่ง อะไรก็เกิดขึ้นได้ ซิตี้ อาจจะได้แชมป์ ซึ่งก็เหนือความคาดหมายสุดๆ แต่ยัง ไง มันโช่ จะเป็น ผู้จัดการทีมในตำนานหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่า ที่มันโช่ กล่าวไว้ว่าถ้าเมื่อเค้าออกจากทีมซิตี้ ก็คือ ครองแชมป์ลีก 5 สมัย แล้ว มันโช่อยากเป็น ระดับ ผู้จัดการระดับ มนุษย์ต่างดาว แล้วล่ะก็ ต้องชุบชีวิต โบจี้ ไคซิดี้ โจอี้  กลับมาเล่นแบบเทพได้ ก็รับสมญานาม นี้ไปเลย แล้วสมาชิก ท่านอื่น คิดเห็น ประการใด ฟันธงจาก 4 นัดล่าสุดนี้ได้หรือยัง จากคุณ : CityEagle เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 12:30:21

ความคิดเห็นที่ 11 ผมเป็นทีมอื่น  ถ้าเบนจานี่ฟอร์มแบบนี้  แล้วย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัว  น่าเซ็นเหมือนกันนะ  ตัวใหญ่ เบียดปะทะดี บังบอลดี  พักบอลได้  ไม่หวงบอล  เล่นง่ายๆ จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 13:05:47

ความคิดเห็นที่ 12 พูดผิดพูดใหม่ได้นะจ้ะ เอกราช..แหม๋ๆๆๆไม่เอ่ยถึงเรือใบเรยนะ ไม่ได้ยินข่าวที่เจ้าพ่อมันโช่พูดเหรอว่า (((((((((((ผีน่ะขาด โด้ กะ เตฟ)))))))))))) ถ้าผีผ่านเรือใบไปได้...ค่อยมาเม้าท์ใหม่...นะนะนะ จากคุณ : timetable เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 13:08:54

ความคิดเห็นที่ 13 บายอมันเหวออยู่แน่ๆ ไอ้เรื่องเสื้อถึงย้ายสโมสรแล้วก็ยังมีติดบ้านอยู่ทุกคนแหละ แต่ไอ้การหยิบมาใส่ให้สัมภาษณ์นี่มันแสดงให้เห็นว่าใจไม่อยู่กะเนื้อกะตัว คงใช้เวลาซักพักถึงจะหาย ฮุฮุ จากคุณ : แมวเหมียว (cat30) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 13:13:03

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่าบายอเพิ่งได้กลับมาบ้านมากกว่าตั้งแต่ย้ายมาเรือไม่รู้ได้กลับบ้านยัง จากคุณ : อินจอง เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 13:40:26

ความคิดเห็นที่ 15 นัดหน้าที่จะเจอเอฟเวอร์ตันนอกบ้านเป็นนัดสำคัญอีกนัดนะครับ ถ้าทำได้นี่ผมว่าเรามาคุยกันเรื่องเบียดเข้าที่ 2 กันได้เลยครับ ผีตอนนี้นำซิตี้อยู่ 6 แต้มโดยที่ซิตี้ัแข่งน้อยกว่าอยู่ 1 นัด ถ้านัดที่ตกค้างเราเอาชนะเก็บ 3 แต้มแล้วประคองผลการแข่งขันให้ได้เสียพอๆกับผีได้ นัดที่จะชี้ขาดคือนัดที่ผีมาเยือนซิตี้ที่บ้าน ถ้านัดนั้นซิตี้ชนะผีได้นี่แต้มเท่ากันเลยนะครับ ใครว่าผีนำซิตี้อยู่ ไม่ได้นำนะครับ ถ้าซิตี้เก็บแต้มนัดตกค้าง และเปิดบ้านชนะผีได้ แต้มเท่ากันทันที เพียงแต่ต้องมาดูอีก 18 นัดที่เหลือ หนทางยังอีกไกล ยังคงมีลุกมีล้มกันได้อีกหลายครั้ง แล้วช่วงสุดท้ายใครจะเบียดใครก็ค่อยมาดูกันครับ จากคุณ : ซิตี้ สู้ สู้ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 13:46:35

ความคิดเห็นที่ 16 ไปเยือนเอฟเวอร์ตัน เวลานี้ไม่ง่ายเลยนะ  ถ้าได้กลับมา 1 แต้มก็ยังถือว่าโอเคอยู่นะ จากคุณ : อินจอง เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 14:37:59

ความคิดเห็นที่ 17 อย่างที่ เอกราช กล่าวไว้ ว่า อาเซนอล เป็นทีมที่น่ากลัว ที่สุดใน บรรดาบิ๊กโฟร์ จริงๆ ถ้าดูจากตารางการแข่งขัน ทั้งนัดเหย้า นัดเยือน เป็นทีมที่คงเส้นคงวาจริงๆ คือ อยู่ อันดับ 2 ทั้งการแข่งในบ้าน และออกไปเยือน ดังตารางที่จะให้ดูต่อไปนี้ จากคุณ : CityEagle เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 15:24:48

ความคิดเห็นที่ 18 ใช่เลย นัดเจอเอฟวันเสาร์นี้ สำคัญสุดๆ ใครแฟนเรือใบ  ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ถ้านัดนี้ ชนะเอฟไปได้ ก็มีโอกาสสูงเลยที่จะชนะ ติดต่อกันไป 8 หรือ 9 นัดติดต่อกัน(นับเฉพาะในEPL)ไปจนถึงนัดเจอลิเวอร์พูลกับเชลซี   แต่ถ้าผล ออกมาเสมอ แบบว่าทีมแมนซิตี้เล่นกันดีแต่ยิงไม่เข้าก็ไม่เป็น ถือว่าโอเคเพราะ เอฟกำลังคึกหลังจากเกือบ ชนะอาเซนอลคาบ้านมาแล้ว อเดบายอร์ สงสัยแก กำลังเครียดอยู่ จริงๆ ถ้าแกมีสติ ครบอยู่ตอนนั้นแก คงไม่ใส่เสื้อนอล ไปออกทีวีแบบนั้นแน่ๆ   ไม่รู้จะโดนผู้ใหญ่ทางแมนซิตี้ + อัมโบ โทรไปตำหนิ บ้างหรือป่าวก็ไม่รู้ จากคุณ : บาเต้า เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 15:28:55

ความคิดเห็นที่ 19 เอกราชเป็นนักพากย์ที่ดี แต่เป็นนักวิเคราะห์ที่ไม่ค่อยแม่นเพราะลืมทำการบ้านก่อนเขียนบทความ คล้ายๆ Pele น่ะครับ ออกมาอวยทีมไหนที ทีมนั้นก็เละทุกทีหลังจากนั้น ดูโปรแกรม Arsenal ในพรีเมียร์ลีก 2 เดือนนี้แล้ว ผมว่าซิตี้มีสิทธิแซงก็ช่วงนี้แหละครับ..... Sunday, 17 January 2010 Bolton v Arsenal, 16:00 Wednesday, 20 January 2010 Arsenal v Bolton, 19:45 Wednesday, 27 January 2010 Aston Villa v Arsenal, 19:45 Sunday, 31 January 2010 Arsenal v Man Utd, 16:00 Sunday, 7 February 2010 Chelsea v Arsenal, 16:00 Wednesday, 10 February 2010 Arsenal v Liverpool, 19:45 Saturday, 20 February 2010 Arsenal v Sunderland, 15:00 Saturday, 27 February 2010 Stoke v Arsenal, 17:30 ----------------------- Saturday, 16 January 2010 Everton v Man City, 17:30 Sunday, 31 January 2010 Man City v Portsmouth, 13:30 Saturday, 6 February 2010 Hull v Man City, 15:00 Tuesday, 9 February 2010 Man City v Bolton, 19:45 Tuesday, 16 February 2010 Stoke v Man City, 19:45 Sunday, 21 February 2010 Man City v Liverpool, 15:00 Saturday, 27 February 2010 Chelsea v Man City, 12:45 จากคุณ : i_saw_u_standing_alone เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 15:39:24

ความคิดเห็นที่ 20 นับ เฉพาะ ใน EPL ตอนนี้เราชนะมา 4 นัดติดต่อกันแล้ว ถ้าชนะนัด เจอ เอฟเวอร์ตัน ก็จะชนะ 5 นัดติด เวลาดู ปรีวิว ก่อนเกมส์เตะ ตามช่อง ทรู1 เค้าจะบอกสถิติ 5 เกมส์หลังสุด    เวลาผมดูตอนนั้นแล้ว มันรู้ สึกดียังไงไม่รู้  อิอิ   ยิงถ้าชนะ 9 เกมส์ ติดต่อกัน นะ ฮ่าฮ่า หนาวกันเป็นแถบๆ จากคุณ : บาเต้า เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 15:52:44

ความคิดเห็นที่ 21 อืม จริงอย่างที่ คุณ  i_saw_u_standing_alone แฮะ ทางอาเซนอล หินกว่าก็ 2 เดือนนี้  ไม่แซงช่วงนี้ จากคุณ : CityEagle เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 16:10:20

ความคิดเห็นที่ 22 ดูตัวผู้เล่นของ Everton แล้ว ถึงจะยังขาดตัวหลักเดิมๆหลายคน แต่ช่วงนี้ทีมก็กำลังแน่นปึ๊กกลับมาเล่นดีอีกครั้งแล้วครับ ยิ่งได้นักเตะเทคนิคดีความเร็วสูงอย่าง Donovan มา ยิ่งเพิ่มมิติในเกมบุกภาคพื้นได้หลากหลายมากขึ้น จากเมื่อก่อนมีแต่โยนยาวกับลุ้นลูกตั้งเตะอย่างเดียว กองหลังกังหันลม Heitinga ที่ย้ายมาจากสเปนก็เหนียวแน่นใช้ได้เลย ผมว่า Everton ซื้อตัวนี้มาใช้ได้คุ้มค่าเลยเหมือนกัน ถ้าจะเก็บ 3 แต้มกลับออกมา มันโช่ต้องกระตุ้นลูกทีมให้ฮึดให้ขยันและมีสมาธิเพิ่มเป็น 2 เท่าทีเดียวครับ เพราะทีมอย่าง Everton มีดีที่ความฟิตที่วิ่งไม่มีหมด ทำงานช่วยกันเป็นทีมอย่างหนักตลอด 90 นาที โดยเฉพาะกองหลังซิตี้จะมาเหม่อมาจับบอลส่งบอลพลาดเล็กๆน้อยๆหน้าประตูแบบที่เคยเป็นมาอีกไม่ได้แน่ เพราะ Everton ถนัดนักกับการทำประตูจากลูกตั้งเตะหรือ ลูกคลุกคลิกส้มหล่นหน้าประตูจากความผิดพลาดของกองหลังฝ่ายตรงข้ามได้ประจำ สรุปเกมนี้แบ่งแต้มกลับบ้านมาได้ก็ไม่น่าเกลียดครับ แต่ยังไงๆก็ขอ 3 แต้มอุ่นๆเพื่อความต่อเนื่องไว้ก่อนดีกว่า อิอิ จากคุณ : i_saw_u_standing_alone เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 16:16:39

ความคิดเห็นที่ 23 นัดเจอ เอฟฯ ขอ 3 แต้ม เท่านั้นครับ ดูจากศักยภาพของนักเตะ และ ผู้จัดการทีม แล้ว เชื่อว่า 3 แต้ม ไม่น่าพลาดครับ ฟันธง ! จากคุณ : rakcoola เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 16:34:51

ความคิดเห็นที่ 24 ตามมาอ่านข่าวครับ ตอนนี้ทั้ง ปืน และ ผีเป็นโปรแกรมหนักต้องรีบแซงให้ได้ จากคุณ : shounenheart เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 17:00:32

ความคิดเห็นที่ 25 จุดเปลี่ยนบิ๊กโฟร์-จุดจบหงส์? ผ่านไปแล้วกว่าครึ่งทางของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ก่อนหน้านี้ใครที่ไหนจะกล้าคิดว่าสองตัวเต็งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเชลซี จะพลาดทำแต้มหล่นมากมายในฤดูกาลนี้ ซึ่งหากเทียบจากมาตรฐานการเล่นในหลายปีที่ผ่านมา 2 'ผีแดง' และ 'สิงห์ไฮโซ' ขึ้นชื่อเรื่องความเขี้ยวและความสม่ำเสมอในการเก็บคะแนนกันเป็นกอบเป็นกำ มองไปที่ฝั่งทีมลุ้นแชมป์ที่ถูกวางไว้อีก 1 ทีม อาร์เซนอลของอาร์แซน เวนเกอร์ ยังคงเอกลักษณ์ของตัวเองไว้ทั้งแนวทางการเล่นฟุตบอล และบรรดาดาวรุ่งที่เปลี่ยนหน้าตาทดแทนกันได้เสมอ แต่ที่ดูจะแตกต่างออกไปคือปีนี้ 'ปืนโต' ยังคงเกาะกลุ่มทีมลุ้นแชมป์ไว้อย่างหนาแน่น ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาก็เคยถูกกาชื่อทิ้งไปแล้วหลังเกมที่โดนเชลซี บุกมาตีกระบอกแตก 3-0 คาถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แต่ที่อยากพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้นลิเวอร์พูล 'หงส์แดง' จบฤดูกาลที่แล้วอย่างงดงาม ชนิดที่ทำให้แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเสียวกันถึงท้องสำหรับการไล่จี้แย่งแชมป์ แน่นอนว่าความคาดหวังจากฤดูกาลที่แล้วของเหล่าเดอะ ค็อปก็ตามติดมาถึงฤดูกาลนี้ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอาการบาดเจ็บของเฟอร์นันโด ตอร์เรส, ฟอร์มการเล่นที่ตกลงไปของสตีเฟ่น เจอร์ราด หรือการขาดหายไปของซาบี้ อลอนโซ่ ทำให้หงส์แดงโชว์ผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง กระอักกระอ่วมกว่าจะสะกดคำว่าชัยชนะได้ในแต่ละนัด เหลือบมองไปเห็นอันดับตารางคะแนนตอนนี้ 3 ทีมแรกไม่น่าแปลกใจ เชลซีนำจ่าฝูง ตามมาด้วยยูไนเต็ด ส่วนเด็กๆของเวนเกอร์รั้งอันดับ 3 แต่ไล่มาถึงอันดับ 4 กลับกลายเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ซึ่งใช้งบประมาณมหาศาลสร้างทีม โดยจากเป้าหมายในตอนแรกคือการขึ้นมาเป็นหนึ่งในทีมท็อปโฟร์ แต่ดูไปดูมาการลุ้นแชมป์ก็ไม่อยู่ไกลเกินเงื้อมมือของพวกเขา 7 คะแนนตามหลังเชลซี หลังผ่านไป 20 เกมส์ ใครกล้าบอกว่าซิตี้้เป็นแชมป์ไม่ได้ ? หลายคนอาจมองว่าการเซ็นสัญญากับปาทริค วิเอร่านั้นเป็นเรื่องไร้สาระ แม้กระทั่งเหล่าเพื่อนร่วมทีมยุคไร้พ่ายของวิเอร่ายังไม่เชื่อน้ำยาว่า 'ไส้กรอกดำ' จะเล่นได้เหมือนก่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งหนึ่งที่วิเอร่ายังคงไว้เสมอคือความกระหายชัยชนะ และการเป็นแชมป์ อย่าลืมว่าปั๊ตย้ายไปอยู่กับอินเตอร์ มิลานก็คว้าสคูเด็ดโต้ได้ตลอด การนำนักเตะแบบนี้มาไว้ในทีม แน่นอนเลยว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะทำให้นักเตะหลายๆคน ซึ่งเป็นแข้งคุณภาพแต่ไม่เคยได้แชมป์อย่างเช่นเชย์ กิฟเว่น, แกเร็ธ แบร์รี่ หรือคนอื่นๆ มีแรงกระตุ้นในทางบวกแน่นอน สำหรับการเซ็นสัญญาครั้งนี้ผมมองว่ามันโช่ต้องการจะเสริมกำลังใจให้กับลูกทีมโดยการเอาผู้ชนะมาอยู่ในทีม สำหรับผลงานวิเอร่าคงใช้ประสบการณ์ช่วยเหลือทีมได้ม่มากก็น้อย เกริ่นมาเยอะสำหรับแมนฯ ซิตี้ จะไม่พูดถึงแคนดิเดตท็อปโฟร์อย่างสเปอร์สหรือวิลล่าก็ไม่ได้ สเปอร์สโดนปรามาสมาตลอดว่ามักจะดีในช่วงแรก และก็จะมาตกม้าตายในช่วงหลัง แต่ฤดูกาลนี้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น ในยามที่ทีมเป๋นัดต่อไปก็กลับมาได้ ปีเต้อร์ เคร้าช์โชว์ผลงานได้น่าประทับใจกลบรัศมีร็อบบี้ คีนที่ฟอร์มตกไปอย่างน่าใจหายซะหมด ส่วนวิลล่าของมาร์ติน โอนีลก็น่ากลัวใช่ย่อย ถ้าลองสังเกตจะเห็นว่าแนวทางการทำทีมของโอนีลล์คือการนำนักเตะอังกฤษมากหน้าหลายตาเข้ามาไว้ในทีม แก็บบี้ อักบอนลาฮอร์, แอชลี่ย์ ยัง, เจมส์ มิลเนอร์ ทีมนี้ยิ่งเล่นด้วยกันยิ่งมีแต่เก่งขึ้นๆ ขออย่างเดียวโอนีลต้องยึดพวกเขาไว้ให้ได้เท่านั้นเอง เชลซีอาจจะทำแต้มหล่นเยอะ แต่พวกเขาก็ยังคงรั้งจ่าฝูง และอนาคตในตอนนี้ก็สดใสเสียเหลือเกิน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดโดนโทชิด่าว่าทรุดเอาๆ แต่ก็ยังมีสิทธิ์ลุ้นแชมป์ และคงระบบการเล่นไว้เหมือนเดิมถึงแม้จะไม่น่ากลัวเท่าสมัยก่อน อาร์เซนอลพัฒนาจากฤดูกาลก่อน ไม่หลุดจากกลุ่มทีมลุ้นแชมป์ง่ายๆ อีกทั้งนักเตะยังแข็งแกร่งเติบโต มีประสบการณ์มากขึ้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้มีเงินล้นฟ้า ถึงจะไม่จบบิ๊กโฟร์ก็คงไม่มีอะไรเดือดร้อน แค่หากุนซือและเสริมนักเตะให้แกร่งขึ้น วิลล่ากับสเปอร์สวนเวียนอยู่ในระบบนี้มานานหลายปี ขึ้นมาได้ถือเป็นกำไร แต่หงส์แดงล่ะ ? หากพวกเขาไม่สามารถจบฤดูกาลด้วยตำแหน่ง 1 ใน 4 ใครกล้าการันตีว่าตอร์เรสหรือเจอร์ราดสองตัวความหวังจะไม่ย้ายทีม ถ้าหากหลุดโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีกขึ้นมาจริงๆ ไม่ใช่แค่ล้มเหลวในฤดูกาลนี้ ความหายนะกำลังจะมาเยือนในฤดูกาลหน้า ไม่รู้ว่าราฟาแกคิดว่าจะแก้มือในฤดูกาลใหม่รึเปล่า อย่าลืมว่าทีมอื่่นก็พัฒนาเช่นกัน ฟันธงเลยว่าหากหงส์แดงหลุดท็อปโฟร์ในปีนี้ อย่าว่าแต่ความหวังลุ้นแชมป์เลย การกลับมาเป็น 1 ใน 4 ยังอาจต้องรออีกหลายปี... http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=228381 จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 17:05:08

ความคิดเห็นที่ 26 วิเอรา...จะไหวหรือ? ในขณะที่บ้านเราโหยหาความเย็น ผู้คนแห่ กันไปเที่ยวบนภูต่างๆ ในภาคเหนือและภาคอีสาน เพราะพื้นราบร้อนตับแลบในช่วงเวลาที่เรียกว่า เป็นฤดูหนาวของเมืองไทย ซีกโลกเหนือกำลังผจญกับภัยหนาวที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายสิบปี โดยเฉพาะที่สหราชอาณาจักร อากาศหนาวเย็นที่สุดในรอบ 13 ปี อุณหภูมิติดลบ หิมะปูพรมไปทั่ว ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันกีฬาต่างๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เกมลูกหนังตั้งแต่ลีกสูงสุดไปจนลีกล่างๆ ถูกยกเลิกไปมากมาย ยังไม่รู้ว่าสภาพอากาศหนาวเย็นหฤโหดครั้งนี้จะยุติลงเมื่อไหร่ ถ้ายังติดโรคเลื่อนไปเรื่อยๆ จะทำให้คิวแข่งในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังมีปัญหาอย่างแน่นอน บางทีอาจต้องไปเร่งเตะติดๆกันก่อนปิดซีซั่นก็เป็นได้ โลกหนอโลก ดินแดนที่ต้องการความรู้สึกสบายกับอากาศเย็นก็ไม่แบ่งปันมาบ้าง เมืองที่หนาวอยู่แล้วกลับหนาวจัดยิ่งขึ้นไปอีก ทุกวันนี้ผมเฝ้ารอฟังพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุฯว่า วันไหนจะมีลมตะวันออกเฉียงเหนือจากจีนพัดผ่านเผื่อแผ่มายังบ้านเราบ้าง หนาวด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องพึ่งลมเย็นจากจีนฉะนี้แล รอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในพรีเมียร์ลีกที่น่าสนใจอยู่ 2 เหตุการณ์ เริ่มจากโบลตัน วอนเดอเรอร์ส ปลดกุนซือแกรี เม็กสัน ออกไป ล่าสุดได้โอเวน คอยล์ ที่ดึงมาจากเบิร์นลีย์มาคุมทีมแทน งานนี้น่าเห็นใจเบิร์นลีย์อยู่เหมือนกัน คอยล์ทำผลงานได้ดีนำเบิร์นลีย์ขึ้นชั้นมาเล่นในพรีเมียร์ ลีกและอยู่ในโซนปลอดภัย ต่างจากหลายทีมที่ต้องดิ้นรนอย่างหนักท้ายตาราง เบิร์นลีย์ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง สถิตินอกบ้านไม่ดีนัก แต่พวกเขาเน้นเกมในบ้านเป็นพิเศษ แฟนบอลช่วยกันส่งเสียงเชียร์กระหึ่ม เก็บแต้มได้เป็นกอบเป็นกำในรังของตัวเอง  เคยพลิกชนะยอดทีมอย่าง แมนฯยูมาแล้วด้วย จู่ๆโบลตันปลดผู้จัดการทีม กลับสะเทือนถึงเบิร์นลีย์อย่างไม่คาดคิด คอยล์อาจถูกมองว่าใจจืดใจดำไปหน่อยที่ทิ้งทีมไปกลางฤดู แต่ด้วยเหตุที่เขามีความผูกพันกับโบลตัน เพราะเคยเป็นศูนย์หน้าของทีมในช่วงทศวรรษที่ 90 หัวใจมันเรียกร้องให้กลับไป เบิร์นลีย์ก็ต้องยืนด้วยตัวเองให้ได้ ผมชอบทีมเล็กๆใจสู้แบบนี้ ยังไงก็ขอเชียร์ ให้อยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีกต่อไป อีกเรื่องหนึ่งคือกรณีที่ปาทริก วิเอรา มิดฟิลด์วัย 33 ปี ย้ายจากอินเตอร์ มิลาน มาอยู่กับแมนฯซิตี้ การที่แมนฯซิตี้มีผู้จัดการทีมเป็นชาวอิตาเลียนย่อมเข้าใจได้ถึงการนำวิเอรามาร่วมทีม เช่นเดียวกับคาร์โล อันเชลอตติ ที่ไม่รังเกียจนักเตะสูงวัย ถ้าเป็นแมนฯยู, อาร์เซนอล และลิเวอร์พูลคงไม่สนใจ บอลอิตาลีไม่ได้เล่นเร็ว ประชิดถึงตัว เสียบหนักๆเหมือนพรีเมียร์ลีก นักเตะอายุมากก็ยังได้เล่นอย่างสม่ำเสมอ เอซี มิลาน เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน ลี ดิกซัน อดีตแบ็กโฟร์ชื่อดังของอาร์เซนอลที่เคยเล่นร่วมกับวิเอรามาในทีมปืนใหญ่ ฟันธงว่า พรีเมียร์ลีกปัจจุบันเล่นเร็วกว่ายุคของเขามาก ช่วงท้ายที่วิเอราอยู่กับอาร์เซนอลก็ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันเวลาที่บาดเจ็บ ขาเรียวๆของวิเอราไม่น่าจะยืนระยะได้ หรือเล่นได้ก็ไม่เหมือนช่วงท็อปฟอร์มในอดีต วิเอราต้องการหาทีมลงเล่นเพื่อติดทีมชาติฝรั่งเศสไปบอลโลก แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะได้เล่นอย่างต่อเนื่อง ตำแหน่งของเขาก็มีกาเร็ธ แบร์รี ยืนประจำการอยู่แล้ว บางทีอาจเป็นเรื่องของความเข้าอกเข้าใจระหว่างเขากับมันชินีที่เคยร่วมงานกันในทีมอินเตอร์ฯ หรือไม่ ก็เป็นการเซ็นสัญญาท้ายๆในชีวิตค้าแข้ง ข่าวว่าได้ค่าเหนื่อยก้อนโตถึง 130,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วสำหรับนักเตะวัยนี้ วิเอราอาจจะช่วยแมนฯซิตี้ได้ไม่มากนักในสนาม แต่จะช่วยในด้านสปิริตของทีมมากกว่า ด้วยความที่คุ้นเคยกับพรีเมียร์ลีกเป็นอย่างดี เคยมีดีกรีเป็นกัปตันทีมอาร์เซนอล ภาวะผู้นำของเขาอาจจะช่วยปลุกนักเตะรุ่นน้องในทีมมีลูกฮึดมากกว่าเดิมก็เป็นได้. โต้ บ้านแหลม http://www.thairath.co.th/column/sport/worldsoccer/57880 จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 17:08:25

ความคิดเห็นที่ 27 ดันน์หวังแชมป์คาร์ลิ่งช่วยดึงดูดดาวดัง 13/01/2010 15:00:44   ริชาร์ด ดันน์ ปราการหลังจอมแกร่งของ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า เชื่อการคว้าแชมป์คาร์ลิ่ง คัพ จะเป็นก้าวสำคัญของสโมสรในการกระตุ้นพวกดาวรุ่งให้มีความทะเยอทะยานที่จะประสบความสำเร็จ รวมทั้งทำให้นักเตะชื่อดังตัดสินใจเลือกย้ายมาร่วมทีมง่ายขึ้น ริชาร์ด ดันน์ เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติไอร์แลนด์ของ แอสตัน วิลล่า สโมสรแกร่งแห่งศึกพรีเมียร์ลีก แสดงความเชื่อมั่นว่าหากประสบความสำเร็จในศึกคาร์ลิ่ง คัพ จะช่วยดึงดูดให้บรรดานักเตะชื่อดังสนใจย้ายมาร่วมทีมมากขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะมีคิวบุกเยือน แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในรอบรองชนะเลิศ นัดแรก วันพฤหัสบดีที่ 14 ม.ค.นี้ กองหลังวัย 30 ปี เตรียมลงเตะเกมรอบตัดเชือกคาร์ลิ่ง คัพ เป็นครั้งแรกในชีวิตค้าแข้งกว่า 14 ปี และเชื่อว่า การคว้าแชมป์จะเป็นก้าวสำคัญของสโมสร "ความทะเยอทะยานของนักฟุตบอลทุกคนตลอดอาชีพค้าแข้งของพวกเขาคือคว้าแชมป์อะไรให้ได้สักอย่าง สำหรับนักเตะดาวรุ่งที่นี่ ยิ่งพวกเขาคว้าแชมป์ตั้งแต่อายุยังน้อยมากเท่าไร ประสบการณ์และความกระหายที่จะคว้าแชมป์มากกว่านี้ ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นด้วย" "ถ้าคุณได้แชมป์แรกของคุณ มันจะช่วยให้ต้องการมากขึ้นอีก และเพิ่มความมั่นใจภายในทีม และหวังว่าหลายทีมจะเกรงกลัวเรามากขึ้นด้วย แต่ถ้าเราคว้าแชมป์ได้ นักเตะที่ไม่สนใจจะมาค้าแข้งกับ แอสตัน วิลล่า ก่อนหน้านี้ ก็จะเริ่มมองเราเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จ ที่ผู้เล่นชั้นนำสามารถเข้ามาและคว้าแชมป์ต่างๆ ได้" อดีตดาวเตะแมนฯ ซิตี้ มีฟอร์มที่น่าประทับใจกับ วิลล่า ในฤดูกาลนี้ ยอมรับว่าการได้พักในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3 กับ แบล็คเบิร์น เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ทำให้เขารู้สึกดีขึ้น "ทุกคนต้องการลงเล่นทุกเกม แต่บางครั้งคุณต้องฟังบ้าง ผู้จัดการทีมจะรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด บอกตามตรง ผมรู้สึกได้ประโยชน์จากการพัก คุณไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้า แต่การต้องลงเตะหลายเกมในช่วงสั้นๆ มันก็ส่งผลต่อร่างกายบ้าง"   http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100113_103.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 17:09:52

ความคิดเห็นที่ 28 ล่าสุดมีบทสัมภาษณ์ จากปาก คริสเตียน อันซัลดี้ ซ้ายเลือดอาร์เจนไตน์ของ รูบิน คาซาน  ว่าไม่เคยมีข้อเสนอจากแมน ซิตี้ มาเลย ตนเองอ่านก็แปลกใจ แล้วยังมีความสุขดีกับ รูบิน คาซาน พร้อมอยู่ต่ออีกปี จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 17:12:29

ความคิดเห็นที่ 29 เวนเกอร์ลั่นไม่คิดโละนักเตะขอเก็บทีมลุ้นแชมป์ อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ อาร์เซน่อล ยันไม่มีวาระปล่อยนักเตะออกจากทีม เหตุจากหวังจะสร้างเสถียรภาพขึ้นในทีม เพื่อลุ้นแชมป์มาครองให้ได้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ประกาศขอรั้งขุมกำลังชุดปัจจุบันไว้กับทีมต่อไป เพื่อเพิ่มโอกาสลุ้นแชมป์ให้เปิดกว้างเช่นเดิม พอใจที่สามารถรั้งดาวดังไว้กับสโมสรได้ในซีซั่นนี้ หลังต้องเสียแข้งหลักอย่าง มาติเยอ ฟลามินี่ และ อเล็กซานเดอร์ คเล็บ มาแล้วในอดีต จนทำให้ทีมฟอร์มแกว่งไปนาน "เราเพิ่งเซ็นต่อสัญญาใหม่กับ อาบู ดิยาบี้ และ โทมัส โรซิชกี้ ไปเมื่อไม่นานมานี้ และนั่นคือนักเตะ 15 คนที่เราต่อสัญญาในฤดูกาลนี้ ตอนนี้สิ่งที่ผมอยากทำให้สำเร็จคือ การรั้งตัวกลุ่มนักเตะเหล่านี้เอาไว้ให้ได้ เราทำงานหนักร่วมกันมา เราเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เล่นกับทีมชั้นนำ และนี่คือหนทางพิจารณานโยบายของเราเอง" เวนเกอร์ กล่าว เชส ฟาเบรกาส ตกเป็นข่าวกลายเป็นเป้าหมายของ บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด สองยักษ์ใหญ่แห่ง ลา ลีกา ในช่วงเดือนมกราคมนี้ แต่ เวนเกอร์ รีบปัดข่าวทันที พร้อมยืนกราน การปล่อยนักเตะออกจากทีมถือเป็นการขวางพัฒนาการของทีม โดยเสริมว่า "เราอยากรั้งพวกเขาไว้ด้วยกัน เพราะเราเคยเห็นกันมาแล้วเมื่อนักเตะย้ายทีมในอดีต เราไม่อยากไร้เสถียรภาพอีกรอบ" แม้กองหน้าจะบาดเจ็บไปหลายราย อาทิ นิคลาส เบนท์เนอร์, ธีโอ วัลค็อตต์ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แต่ เวนเกอร์ ต้องการดึงแข้งใหม่เข้ามาเสริมแกร่งในแนวรับมากกว่า ล่าสุด โซล แคมป์เบลล์ คาดว่า จะได้หวนคืนถิ่นเก่าอีกรอบในสัปดาห์นี้ "เราเปิดกว้างสำหรับนักเตะใหม่ย้ายเข้าสู่ทีม ในทุกตำแหน่งเลย มันก็เหมือนกับชาวประมง คุณลองเสี่ยงดวงตรงนี้ คุณลองเสี่ยงตรงนั้นบ้าง คุณร่างรายชื่อนักเตะที่อยากได้ไว้ในหัว 1, 2, 3 หรือ 4 ราย คุณพยายามจะบรรลุเป้าหมายให้ได้ทั้งหมด" กุนซือเฟร้นช์แมน กล่าวในที่สุด http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100113_032.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 17:14:02

ความคิดเห็นที่ 30 เชื่อมือมันโช่ จากคุณ : tnmcfc เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 17:28:17

ความคิดเห็นที่ 31 เข้ามาอ่านข่าว ก่อนออกเรือไปดำน้ำที่หมู่เกาะสิมิลัน เสียดายอาจจะไม่ได้ดูสดแมนซิตี้ไปเยือนเอฟเวอร์ตัน ไม่รู้จะมีสัญญาณไหม ขอทายผลเล่นๆล่วงหน้า ฟันธง แมนซิตี้ชนะเอฟเวอร์ตันนอกบ้าน ๒ - ๓ เตเบซยิงลูกแรก ฮ่าๆๆๆๆ จากคุณ : กำแปง เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 17:48:38

ความคิดเห็นที่ 32 คห.2 เกี่ยวอะไรกับเเหล่งที่มา  รูปก็เห็นอยู่โต้งๆ ให้ความเห็นเเบบนั้น ก็ไม่ต้องเอาของเค้ามาลง ไปหาของDTVเหอะ จากคุณ : KeyArNuLive เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 19:19:54

ความคิดเห็นที่ 33 ความคิดเห็นที่ 32     คห.2 เกี่ยวอะไรกับเเหล่งที่มา  รูปก็เห็นอยู่โต้งๆ ให้ความเห็นเเบบนั้น ก็ไม่ต้องเอาของเค้ามาลง ไปหาของDTVเหอะ จากคุณ : KeyArNuLive     เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 19:19:54     เออ เวลาเฉลิมไทย แซวข่าวผู้จัดการที่ลงบันเทิงมั่ว ประจำ จับแพะชนแกะ ยังไม่เห็นมีคนกระแดะเอาการเมืองมามั่วเลยอ่ะ  คิดเอาเองแล้วกัน   อย่าการเมืองขึ้นสมองมากเลยอ่ะนะ อย่าดรามา...............นะเธอว์ จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 19:50:18

ความคิดเห็นที่ 34 ดูมันโช่คุมทีมแล้วมีความหวังลึกๆ อิอิ จากคุณ : หนุ่มสกลคนไต่ฝัน เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 20:01:13

ความคิดเห็นที่ 35 สภาพจิตใจนักเตะเรือใบกำลังห้าวสุดขีด  ผมว่าน่าจะผ่านเอฟเวอร์ตันไม่ยาก อย่างแย่สุดก็คงเก็บ 1 แต้มกลับบ้าน  ถ้าไม่ผิดพลาดน่าจะเก็บสามแต้มนะ จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 20:17:56

ความคิดเห็นที่ 36 เสียดายนัดเจอเอฟเวอร์ตันเลสคอตหายไม่ทัน จากคุณ : Yahsarah เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 20:19:40

ความคิดเห็นที่ 37 KeyArNuLive >>> นายทุยอันเชิญกลับคอกครับ จากคุณ : เดี๋ยวรู้จัก เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 20:20:44

ความคิดเห็นที่ 38 ปอมปีย์เฮต่อเวลา2-1ลิ่วรอบ4เอฟเอฯ "ปอมปีย์" พอร์ทสมัธ สโมสรจากพรีเมียร์ ลีกอังกฤษ ทะยานเข้าสู่รอบ 4 ได้สำเร็จหลังจากที่บุกไปเอาชนะ โคเวนทรี จาก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ 2-1 หลังจากที่เสมอกันในเวลา 1-1 ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพอังกฤษ เมื่อคืนที่ผ่านมา http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100113_055.html จากคุณ : mooagiko เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 20:22:40

ความคิดเห็นที่ 39 โฉมใหม่เรือใบสีฟ้า วันที่ 1/13/2010 12:35:00 AM   ต้องเรียกว่าเป็น Dream Start จริงๆสำหรับงานคุมทีม "เรือใบสีฟ้า" ของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่นำทีมชนะรวดทั้ง 3 นัดนับตั้งแต่เข้ารับงานต่อจาก มาร์ค ฮิวจ์ส เมื่อช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา เรียกว่าทำเอาคนลืมไปเลยว่าเคยประท้วงสโมสรยังไงในการปลดกุนซือชาวเวลส์พ้นจากตำแหน่ง                 วันนี้ไม่มีเสียงต่อต้าน "มันโช่" ออกจากปากของใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นนักเตะในทีม หรือแฟนบอล มีแต่นักเตะที่พร้อมจะสู้ถวายหัวให้ โดยเฉพาะกลุ่มนักเตะที่ถูกลืมในยุคของ มาร์ค ฮิวจ์ส หลายๆคนดูมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ตัวเองให้เจ้านายใหม่ได้เห็น                 จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นนักเตะอย่าง มาร์ติน เปตรอฟ, ไมกาห์ ริชาร์ดส รวมถึงของดีอย่าง คาร์ลอส เตเวซ จะรีบใช้จังหวะเวลานี้กอบโกยคะแนนจาก มันชินี่ กันอย่างสนุกสนาน                 แม้แต่คนที่ถูกลืมอย่าง เบนจานี เอ็มวารูวารี ก็ได้รับโอกาสลงสนามด้วยเช่นกัน             นี่คือความฉลาดของ มันชินี่ ที่ทำทุกอย่างได้ถูกต้องเหมาะสมที่สุดกับการเริ่มต้นงานใหม่ คือนอกจากจะไม่ "ล้างบาง" แล้วยังรู้จักผูกใจเข้ากับลูกทีมใหม่อย่างรวดเร็วด้วยวิธีการที่สะดวกและง่ายที่สุด เรื่องนั้นก็คือการให้ "โอกาส" กับทุกคนอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน                 กระทั่งสตาร์เงินล้านอย่าง โรบินโญ่ ก็ไม่ได้เป็นอภิสิทธิ์ชนเหมือนก่อน มันชินี่ ไม่มีความเกรงกลัวที่จะดร็อปซูเปอร์สตาร์ชาวบราซิลเอาไว้ข้างสนามหากเห็นว่าไม่สมควรจะส่งลงเป็นตัวจริง                 แบบนี้ก็ได้ใจนักเตะขยันสู้งานอย่างพวก เปตรอฟ หรือ เบลลามี่ ไปอย่างจังเพราะนักเตะเหล่านี้บางครั้งทำผลงานได้ดีแต่ต้องตกเป็นตัวสำรองเพียงเพราะ "เครดิต" สู้นักเตะซูเปอร์สตาร์ไม่ได้                 สิ่งที่น่าสนใจก็คือตลอด 3 นัดที่ผ่านมา มันชินี่ ทำทีมชนะรวดยิงได้ 9 ประตูและเสียเพียงแค่ 1 ลูกเท่านั้น                 ที่ต้องจับตามองก็คือเรื่องของการเสียประตูที่แม้จะยังพิสูจน์อะไรไม่ได้มากนักเพราะเพิ่งจะผ่านมา 3 นัด แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันทำให้ภาพลักษณ์ของทีมเรือใบที่เต็มไปด้วยรูพรุนในช่วงก่อนหน้านี้ดูดีขึ้นเป็นกอง                 ยิ่งทีมไต่มาถึงอันดับท็อปโฟร์อีกครั้ง ภาพของทีมไฟแรงก็ยิ่งเด่นชัดมากขึ้นอีกหลายเท่า และกลายเป็นทีมที่น่าสนใจไปในทันที                 ตรงนี้คือผลจากประสบการณ์ในการทำงานในระดับสูงสุดมานาน โดยเฉพาะประสบการณ์ทำทีม อินเตอร์ มิลาน จนคว้าแชมป์ กัลโช เซเรีย อา ได้ถึง 3 สมัย ซึ่งก็น่าแปลกใจที่ มันชินี่ ดูจะไม่ค่อยได้รับการยอมรับในวงการมากนัก ทั้งที่ก็ถือเป็นกุนซือมือดีมีสมองคนนึง                 และจากผลงานที่ผ่านมา 3 นัด ก็ต้องบอกว่า มันชินี่ "เคลียร์" ภารกิจแรกได้อย่างรวดเร็วและสวยงาม                 งานขั้นต่อไปก็คือการพยายามรักษาความสม่ำเสมอตรงนี้เอาไว้ให้ได้ และต้องพัฒนาทีมให้ก้าวไปสู่ขั้นต่อไปให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะได้เห็นกันแล้วว่าเจ้านายสายตรงอย่าง ชีค มันซูร์ และนายทุนจากอาบูดาบี ไม่ได้ใจเย็นนักกับการรอคอยความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการลงทุนไปกว่า 200 ล้านปอนด์                 แต่แทนที่ มันโช่ จะเบิกเงินเพื่อไปซื้อซูเปอร์สตาร์ราคาแพงมาเสริมทีมในช่วงเวลานี้                 คนแรกที่ซื้อเข้ามาดันเป็น "ขิงแก่" อย่าง ปาทริก วิเอร่า เสียอย่างนั้น?                 ว่ากันว่า มันชินี่ อยากได้วิเอร่า เข้ามายกระดับทีมด้วยสถานะของทีมให้ดูมี "คลาส" มากขึ้น ขณะเดียวกันก็หวังว่าประสบการณ์ล้นพ้นตัวของอดีตมิดฟิลด์ระดับตำนานของอาร์เซนอล ที่เคยเก่งที่สุดในพรีเมียร์ลีก (และอาจจะเก่งที่สุดในโลกด้วยในช่วงนึง) จะช่วยประคับประคองทีมได้                 ภาพที่มันชินี่ อยากเห็นก็คือการที่มี วิเอร่า ยืนคุมเกมแดนกลางร่วมกับ แกเร็ธ แบร์รี่ ที่น่าจะทำให้เกมแดนกลางของ ซิตี้ ข้น แน่น ปึ้กมากกว่าคู่ของ แบร์รี่-ไนเจล เดอ ยอง                 ส่วนโจทย์ในการเสริมทีมอื่นๆนั้น เวลานี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า มันชินี่ จะอยากได้ใครเข้ามาเสริมทีมในตลาดหน้าหนาวหรือไม่ เท่าที่มีชื่อก็คือ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กองหลังแข้งโหด (ที่สอย ฟาน เพอร์ซี่ จนเดี้ยงทั้งฤดูกาล) ของยูเวนตุส, ไซม่อน เคียร์ กองหลังดาวรุ่งทีมชาติเดนมาร์ก รวมถึง ยูนิส กาบูล กองหลังจากพอร์ทสมัธ                 นอกจากนี้ก็มีดาวรุ่งอย่าง วิคเตอร์ โมเซส ของคริสตัล พาเลซ และอัจฉริยะคนใหม่ของวงการฟุตบอลสเปน เซร์คิโอ กานาเลส จากราซิ่ง ซานตาเดร์ ที่เชื่อว่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์คนต่อไปของแดนกระทิงดุ                 จะสังเกตได้ว่าชื่อข้างต้นนั้นไม่ได้เป็น "ซูเปอร์สตาร์" อย่างที่บรรดานายทุนในทีมอยากจะได้มาก่อน เช่น โรบินโญ่, อเดบาอยร์ หรือ กาก้า ที่พลาดหวังไปเลย                 แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันชินี่ จะไม่ซื้อซูเปอร์สตาร์เลย เพียงแต่อาจต้องรอจนจบฤดูกาลเท่านั้น ที่อาจจะได้เห็นนักเตะอย่าง ไมคอน แบ็กขวาเบอร์หนึ่งของโลก หรือคู่เทพหงส์แดง สตีเว่น เจอร์ราร์ด-เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่หากเบียดแย่งท็อปโฟร์ได้ ก็มีโอกาสจะคว้าตัวมาร่วมทีม               นี่คือภาพรวมของ แมนฯ ซิตี้ ในเวลานี้และในวันข้างหน้า                ที่ถ้าจะยอมรับความจริงบ้าง ก็ต้องบอกว่าลึกๆแล้ว ซิตี้ มีโอกาสดีที่จะแล่วฉิวติดลมบนไปเรื่อยๆ ด้วยพลังอำนาจเงินของอาบูดาบี และพลังสมองของคนที่คู่ควรอย่าง โรแบร์โต้ มันชินี่ http://football.impaqmsn.com/content.aspx?id=52111&ch=262&ch=scoop จากคุณ : mooagiko เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 20:27:51

ความคิดเห็นที่ 40 บรู๊ซยังหวังได้คูรานี่จบฤูดูกาล วันที่ 1/13/2010 2:26:29 PM   สตีฟ บรู๊ซ ผู้จัดการทีม "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ยังหวังที่จะได้ตัว เควิน คูรานี่ กองหน้าทีมชาติเยอรมัน มาจากทีม "ราชันสีน้ำเงิน" ชาลเก้ 04 ในช่วงสิ้นสุดฤดูกาล หลังจากที่มีข่าวว่าหลายสโมสรในพรีเมียร์ลีกต้องการตัว คูรานี่ ทีก่ำลังจะหมดสัญญากับ ชาลเก้ ในช่วงสิ้นสุดฤดูกาลนี้ไปเสริมทีม แต่กองหน้าทีมชาติเยอรมัน ประกาศจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่ย้ายในช่วงต้นปี ล่าสุดทางด้าน บรู๊ซ ย้ำว่าต้องการได้ตัว คูรานี่ เช่นเดิม "ผมคิดว่าเขารอจะย้ายตามกฏบอสแมน" "ผมเชื่อแบบนั้นจริงๆ เราเองก็สนใจ แต่ว่ามันก็เท่านั้น" "มันน่าจะมีอีก 50 ทีมที่สนใจในตัวเขาเช่นกัน" จากคุณ : mooagiko เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 20:34:24

ความคิดเห็นที่ 41 ปืนเฮเซสก์ส่อฟิตทันเกมโบลตัน วันที่ 1/13/2010 2:28:13 PM   ทีม "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ได้เฮเต็มๆเมื่อ เซสก์ ฟาเบรกาส กัปตันทีมคนเก่งมั่นใจว่าจะกลับมาลงสนามได้ทันในเกมกับ โบลตัน วันอาทิตย์นี้แน่นอน เซสก์ ไม่ได้ลงสนามให้กับอาร์เซนอลใน 3 นัดหลังสุดหลังมีอาการบาดเจ็บตั้งแต่เกมกับแอสตัน วิลล่า ในช่วงคริสต์มาส แต่ล่าสุด เซสก์ ยืนยันว่าอาการบาดเจ็บหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว "เอ็นร้อยหวายของผมดีขึ้นเต็มร้อยแล้ว" "หิมะอาจจะเป็นอุปสรรคสำหรับฟุตบอล แต่ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับผม" จากคุณ : mooagiko เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 20:35:55

ความคิดเห็นที่ 42 ดินโญ่เลยเถิดฉลองชัยเหนือยูเว่คาผับจนเช้า วันที่ 1/13/2010 8:52:06 AM   โรนัลดินโญ่ เพลย์เมกเกอร์แซมบ้าของเอซี มิลาน ไม่อาจทิ้งนิสัยปาร์ตี้ บอยได้ ล่าสุดไปฉลองที่ตัวเองยิง 2 ประตูช่วยให้ทีมบุกถล่มยูเวนตุส 3-0 ที่ผับแซมบ้าในตูรินยันเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา มิลานบุกมาถล่มยูเว่ 3-0 ถึงถิ่นโอลิมปิโกเมื่อวันอาทิตย์ โดยที่เจ้าเหยินน้อยพังคนเดียว 2 ตุง ทำให้หลังจบเกมแทนที่จะกลับบ้านพร้อมทีมงานในสโมสร ดินโญ่กลับไปฉลองกับเพื่อนพ้องร่วมชาติที่ผับละตินในตูริน และขึ้นไปเล่นเครื่องเขย่าร่วมแจมกับวงดนตรีในร้านอย่างสนุกสนาน อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวใกล้ชิดบอกว่า ที่แท้ดินโญ่ไม่ได้ฉลองชัยเหนือยูเว่อย่างเดียว แต่ไปร่วมงานวันเกิด โรแบร์โต้ เด อัสซิส พี่ชายซึ่งเป็นเอเย่นต์ของเขานั่นเอง รายงานระบุว่า งานนี้มีเหล้ายาอาหารเพียบ เจ้าเหยินเองก็ซดเร้ด บูลไปหลายยก ก่อนที่ปาร์ตี้นี้จะเลิกราเอาตอนรุ่งสาง ซึ่งดาวเตะมิลานได้เดินทางกลับพร้อมเพื่อนร่วมก๊วน จากคุณ : mooagiko เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 20:40:59

ความคิดเห็นที่ 43 Bolton battle Hull for Man City kid Weiss 14.01.10 | tribalfootball.com Bolton Wanderers face competition from Hull City for Manchester City winger Vladimir Weiss. The Mirror says Bolton boss Owen Coyle is ready to snap up City's Slovakian starlet Weiss today - despite a late bid from survival rival Hull City. Coyle plans to take the young City winger on loan for the rest of the season and City will let him out as they clear him for talks with Wanderers and Hull. And Coyle hopes that his famed style of football - and Bolton's closeness to Manchester - will persuade Weiss to join him and get the first-team action he needs before the World Cup finals. http://www.tribalfootball.com/bolton-battle-hull-man-city-kid-weiss-571101? โบลตัน กับฮัล ต้องการยืมตัวไวซ์ไว้ใช้ในฤดูกาลที่เหลือ จากคุณ : PHANTOM OF THE NIGHT เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 20:46:11

ความคิดเห็นที่ 44 Mancini: They are like Milan without Kaka. They are immortal Manchester City boss Roberto Mancini has refused to rule out Manchester United and Liverpool in the Premier League title race, but suggested his own side can certainly win the title this year. Mancini has overseen four straight wins for Manchester City since taking up the reigns from the sacked Mark Hughes, and he believes the club have the potential and the quality to win the Premier League in the not too distant future, yet he praised the qualities of his nearest rivals Manchester United and Liverpool. Manchester United’s stuttering form in the Premier League have led many to question their ability to win a fourth straight league title, but Mancini has no such concerns, intimating Sir Alex Ferguson’s side will be near the top. The Italian also refused to dismiss Rafa Benitez and Liverpool from the top four race, suggesting Steven Gerrard and Fernando Torres were more than capable of hauling the club back up the league. Mancini told Il Corriere Dello Sport: “The potential is massive, there are strong teams and historic rivals that have always dominated the league.” “Chelsea, Liverpool, Manchester United and Arsenal, what a challenge!” The former Inter Milan boss also refused to rule out Liverpool and Manchester United, suggesting both sides remain a true force in English football despite their alleged demise. The Manchester City boss said of Liverpool: “They are so good that you can allow yourself to have a false impression of them.” “Liverpool will bounce back as they have extraordinary players like [Steven] Gerrard and [Fernando] Torres.” Mancini also praised Manchester United, suggesting the club are an institution like AC Milan. He continued: “As for United, they sold Ronaldo, but they are still winning. They are like Milan without Kaka. They are immortal.” “I am working 24 hours a day, even at night time I am always thinking,” “I cannot lose time. I have given City a balance and a vision in their own qualities. There is an incredible potential here and we needed to bring it out, but the road is still long." “What seems impossible today may just happen tomorrow” http://www.sport.co.uk/news/Football/32519/Mancini_They_are_like_Milan_without_Kaka_They_are_immortal.aspx มันชินี่บอกว่าทีมตนมีสิทธิ์ที่จะอยู่ในท๊อป4 ในฤดูกาลนี้ได้ แต่ก็ไม่คิดจะตัดโอกาสทีมใหญ่เดิมออกไปได้ อย่างลิเวอร์พูลเขามีนักเตะที่ไม่ธรรมดาอย่างเจอราด และตอเรส ซึ่งทั้งสองคนสามารถนำทีมกลับไปสู่ตำแหน่งที่ควรจะเป็นได้เสมอ ส่วนแมนยูแม้ว่าจะขายโรนัลโด้ให้กับรีลมาดริดไป แต่เขาก็เหมือนมิลาน ที่ขายกาก้าไป แต่ก็ยังสามารถชนะอยู่ได้ แกบอกว่า พวกทีมใหญ่เป็นเหมือนทีมที่ไม่มีวันตาย จากคุณ : PHANTOM OF THE NIGHT เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 20:54:44

ความคิดเห็นที่ 45 43 # ^ ^ ^ ปล่อยไปหาประสบการณ์ กับทีมระดับพีเมียร์ก็ดีเหมือนกันนะครับ คงได้ลงเป็นตัวจริง บ่อยขึ้นแน่ๆ แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 53 20:56:14 จากคุณ : บาเต้า เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 20:55:13

ความคิดเห็นที่ 46 ปล่อยให้ โบลตันดีกว่า อย่างน้อย เควิน เดวีส์  กับ อีวาน คลานิช รอเข้าฮอสอยู่  ป้อนดีๆ  หนูไวส์ได้เกิดเลย จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 21:17:40

ความคิดเห็นที่ 47 เอฟแผ่วนัดนี้แหละ เพราะเริ่มเหลิง จากคุณ : อ่อนนุช เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 22:53:39

ความคิดเห็นที่ 48 แต่เรายังไม่เหลิง เพราะยังไม่แซงเชลซี จากคุณ : อ่อนนุช เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 22:54:25

ความคิดเห็นที่ 49 เอฟเอคัพ แมนยู ลิเวอร์พูล ตกรอบไปแล้ว  รอบหน้าเราพบสคันธอร์ปไม่หนักมาก  เริ่มมีลุ้นอีกรายการแล้ว จากคุณ : อินจอง เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 09:31:41

ความคิดเห็นที่ 50 กระทู้วันใหม่ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S8764738/S8764738.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 09:57:37