 |
ความคิดเห็นที่ 21 |
การซื้อขายตัวผู้เล่น:
เวนเกอร์ เป็นคนใช้เงินอย่างสมเหตุสมผล (ส่วนนี้น่าจะเป็นเพราะเขาจบเศรษฐศาสตร์มา) นักเตะที่แพงเกินจริง เขาจะเลิกสนใจทันที สถิติค่าตัวแพงที่สุดของทีมในยุคเวนเกอร์น่าจะเป็นอาร์ชาวิน (ซึ่งไม่มีการเปิดเผยค่าตัว แต่จากหลายๆ สื่อ คาดว่าอยู่ประมาณ 16-18 ล้านปอนด์) ส่วนการขายตัวผู้เล่น ถ้ามองถึงเรื่องผลกำไรอย่างเดียว เวนเกอร์จัดว่า อัจฉริยะเลยล่ะครับในสายตาผม ผลงานชิ้นโบว์แดง ผมยกให้ การขายนิโกล่าส์ อเนลก้า ให้เรอัล มาดริด (ซื้อมาแค่ 5 แสนปอนด์ ขาย 23 ล้านปอนด์) เงินจำนวนนี้ เวนเกอร์ เอามาสร้างสนามซ้อมใหม่ จนมีคนแซวกันว่า น่าจะตั้งชื่อสนามซ้อมเป็นชื่อ อเนลก้า เลย น้อยมากครับ ที่เวนเกอร์ ซื้อมาแล้ว ขายต่อแบบขาดทุน ผมแทบนึกไม่ออกเลย ขนาดเทพๆ อย่าง เคล็บ และ โรซิชกี้ ยังได้มาในราคาถูกมากๆ การสร้างทีม และ การบริหารเกมรุก ผมขอแสดงความเห็นแบบรวมๆ เป็นภาพกว้างๆ นะครับ เพราะเวนเกอร์สร้างทีมมาด้วยเกมรุก:
ช่วงแรกๆ เวนเกอร์ ยังใช้การซื้อตัวผู้เล่น อย่าง ลุงเบิร์ก, เปอตีต์, วิเอร่า, อองรี, ปิแรส, ฯลฯ ในการสร้างทีม จนได้แชมป์ (รวมถึงแชมป์ไร้พ่าย) แต่ผมว่า นั่นยังเทียบไม่ได้เลย กับการสร้างทีมในปัจจุบันของเขา ด้วยงบประมาณที่จำกัดจำเขี่ย จากการเป็นหนี้สนามใหม่ เวนเกอร์ กลับสร้างทีมด้วยผู้เล่นดาวรุ่งที่เขาดึงมาเพาะบ่มตั้งแต่เด็ก ให้สามารถยืนหยัดแข่งกับ กระแสเชี่ยวกราดของทีมพ่อบุญทุ่มทั้งหลาย ได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้ ถ้วยรางวัล จะเป็นสิ่งที่ อาร์แซน ต้องไขว่คว้า เพื่อเติมเต็มทีมที่เขาสร้างมา
ทุกวันนี้ แบรนด์ฟุตบอลของอาร์เซนอล แพร่หลายไปทั่วโลก แม้แต่ในประเทศไทย ก็มีโรงเรียนฟุตบอลของอาร์เซนอลแล้ว ช่วงต้นฤดูกาล เทรี่ เวนาเบิ้ล เคยกล่าวชมทีมของเวนเกอร์ว่า การปลูกฝังปรัชญาฟุตบอลแบบอาร์เซนอล ให้คงอยู่กับสโมสร มันสำคัญกว่าการได้แชมป์ใดๆ ซะอีก มันคือ มรดกอันสุดยอด ที่เวนเกอร์ สร้างมากับมือครับ และต่อจากนี้ไป ถึงแม้ เวนเกอร์จะเลิกคุมทีมไปแล้ว แต่ผมเชื่อว่า เจตน์จำนงของเขายังคงอยู่คู่สโมสรต่อไป และเมื่อพูดถึงสโมสรอาร์เซนอล ทุกคนจะต้องนึกถึง ฟุตบอลอันสวยงามแบบอาร์เซนอล การบริหารเกมส์รับ:
ในยุคดับเบิ้ลแชมป์ 1998 และ 2002 เวนเกอร์ มีแบ็คโฟร์ ระดับเซียนของลีกอังกฤษ ทำให้ เรามองไม่เห็นจุดอ่อนตรงนี้ และหลังหมดยุคบิ๊กโฟร์ เวนเกอร์ ก็ยังทำได้ดีในการดึง โซล แคมป์เบลล์ จากอริแบบเซอร์ไพรส์ แถมด้วยการปั้นนักเตะจับฉ่ายอย่าง โคโล่ ตูเร่ มาจับคู่กับ บิ๊กโซล จนกลายเป็น คู่เซนเตอร์ไร้พ่าย แต่หลังจากหมดยุค บิ๊กโซล ดูเหมือนว่า เวนเกอร์ จะมีปัญหากับเกมรับของเขาอย่างมาก กัลลาส และ ตูเร่ ฟอร์มไม่อยู่กับร่องกับรอย จนเกมรับกลายเป็นจุดอ่อน และพร้อมเสียประตูง่ายๆ ได้ตลอดเวลา
มาถึงคู่เซนเตอร์ปัจจุบันอย่าง กัลลาส-แฟร์มาเล่น ผมว่า เกมรับของอาร์เซนอล ดูดีขึ้นกว่ายุค กัลลาส-ตูเร่ ซึ่งถึงตอนนี้ ผมว่า ก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่อาจเทียบกับ ยุคแรกๆ ของเวนเกอร์ได้เลย
นอกจากกองหลังแล้ว ต้องไม่ลืมผู้รักษาประตูด้วยครับ ซีแมน ไม่ต้องพูดถึง เขาเป็นตำนานไปแล้ว ส่วน เยนส์ เลห์มันน์ ช่วงที่อยู่กับอาร์เซนอล เขาก็มีช่วงที่แย่งมือหนึ่งทีมชาติจาก โอลี่ คาห์น มาได้เหมือนกัน แต่ปัจจุบัน ฟอร์มของ อัลมูเนีย ยังไม่คงที่ นัดไหนดี ก็ดีใจหาย เซฟเป็นลิง นัดไหนแย่ ก็พร้อมจะโชว์ห่วย ได้ทุกนาที ตรงนี้ ผมว่า เวนเกอร์ยังประเมินคุณภาพของ อัลมูเนีย สูงเกินไปครับ การวางแผน การวางแท็คติคของเกมส์:
อาร์เซนอล เน้นเกมรุกเป็นหลัก โดยมีจุดเด่นคือการต่อบอลสั้นๆ เข้าทำ เป็นหลัก เรื่องนี้ทุกคนย่อมรู้ ยุคหลังๆ นี้ อาร์เซนอล เริ่มโจมตีด้วยการใช้แบ็คครอสบอลเข้าทำมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เป็นสัปปะรดเท่าไหร่ แผนการเล่นของอาร์เซนอล ไม่มีความซับซ้อน แต่ยากจะรับมือ และยากจะเลียนแบบ ถ้าคุณตามเกมของอาร์เซนอล ทัน คุณก็รับมือได้ แต่ถ้าคุณตามไม่ทัน คุณก็เละ
การแก้เกมส์ และการเปลี่ยนตัว ผมรวมเป็นเรื่องเดียวกันนะครับ: อย่างที่คุณ Aledier บอกไว้ ใน คห.17 ครับ ครึ่งแรก และ ครึ่งหลัง ของอาร์เซนอล ในเกมที่ยังเสมอกัน 0-0 แทบไม่มีอะไรต่างกันเลยครับ ส่วนเรื่องการเปลี่ยนตัว ถ้าดูอาร์เซนอล เป็นประจำ จะรู้เลยว่า ถ้าไม่ถึงนาที 70 เวนเกอร์ แทบจะไม่เปลี่ยนตัวเลย (ยกเว้นเจ็บ หรือ โดนไล่ออก) แต่ 2 เกมล่าสุด ในพรีเมียร์ ลีก ผมให้เครดิตเวนเกอร์เต็มๆ นะครับ นัดที่ตีเสมอ เอฟเวอร์ตัน เปลี่ยน โรซิชกี้ ลงมา เกมรุกก็ดีขึ้น และ โรซิชกี้ ก็เป็นคนยิงตีเสมอ และนัดล่าสุดกับ โบลตัน เวนเกอร์ เปลี่ยน ฟราน เมริด้า ลงมา ก็ยิงได้อีก หรือหากย้อนไปก่อนหน้านี้ ก็เกมกับลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ ซึ่งเวนเกอร์ ก็ไม่ได้แก้เกม เพียงแต่ ระเบิดอารมณ์ใส่ลูกทีม แบบไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน และมันได้ผล การให้สัมภาษณ์ (ทั้งหลังเกมส์ และในสถานการณ์ทั่วไป):
เวนเกอร์ เป็นคนฉลาดครับ ฉายาของเขาที่คนอังกฤษตั้งให้คือ The Professor นั่นย่อมบ่งบอกถึงตัวตนของเขาได้ชัดเจน เขาเป็นคนน่าเชื่อถือ และ เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลกับวงการฟุตบอลอังกฤษและฝรั่งเศส มากคนหนึ่ง เขาเป็นผู้จัดการทีมหมายเลข 1 ของวงการฟุตบอลฝรั่งเศส (แม้ เอมเม่ ฌักเก้ต์ จะพาทีมเป็นแชมป์โลก และ โรเช่ร์ เลอแมร์ พาทีมเป็นแชมป์ยูโร ยังไม่ได้รับการยกย่องเท่าเวนเกอร์เลย ในฝรั่งเศส) ขนาดอังกฤษ ยังอยากให้เวนเกอร์ช่วยโปรโมตประเทศ ให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกครั้งต่อไปเลยครับ
เข้าเรื่องดีกว่า จุดเด่นของการให้สัมภาษณ์ของเวนเกอร์ คงไม่มีอะไร นอกเหนือจาก บางครั้งที่เขามักจะบอกว่า "ผมมองไม่เห็นเหตุการณ์" ซึ่งตรงนี้ เมื่อไม่นานนี้ เจ้าตัวก็พึ่งออกมายอมรับว่า จริงๆ แล้วบางครั้ง เขาก็เห็นว่า ลูกทีมทำผิด (เช่นพุ่งล้ม, แฮนด์บอล, ทำฟาวล์ในเขตโทษ) แต่เขาจำเป็นต้องปกป้องลูกทีมในที่สาธารณชนครับ ซึ่งผมมองว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว การควบคุมอารมณ์:
เวนเกอร์ ไม่ค่อยแสดงอารมณ์รุนแรง เกินกว่า อาการณ์ "หงุดหงิด" ให้เห็นเท่าไหร่เลยครับ ถือว่าเป็น ผู้จัดการทีมที่ควบคุมอารมณ์ได้ดีมากในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
จากคุณ |
:
Anduril
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ม.ค. 53 22:13:28
|
|
|
|
 |