ความคิดเห็นที่ 1 การจัดทัพนัดนี้ ค่อนข้างเป็นที่ลำบากใจสำหรับท่านเซอร์พอสมควร เพราะเพิ่งถูกถีบกระเด็นตกรอบสามเอฟเอคัพเป็นครั้งแรกในชีวิตการคุมทีม แถมเป็นการถูกบรรจงถีบงามๆจากอดีตทีมศักดินาเก่าที่ตอนนี้ยังลืมตาอ้าปากไม่ได้เต็มที่อย่างลีดส์ ยูไนเต็ด อีกด้วย ซึ่งไม่ต้องมาบรรยายเรื่องสงครามดอกกุหลาบอะไรกับนักเตะของเราชุดนี้ เพราะส่วนมากแล้ว นักเตะเราในชุดนี้แทบไม่มีส่วนร่วมกับประวัติศาสตร์หน้านั้นเลยแม้แต่น้อย (ฉันไม่รู้ ฉันไม่ใช่คนแถวนี้) คงพูดไม่ได้เต็มปากว่านี่เป็นสงครามดอกกุหลาบเหมือนเมื่อสมัยสิบกว่ายี่สิบปีก่อนโน้น การตกรอบดังกล่าวทำให้ป๋าต้องละเอียดมากขึ้นในการจัดตัวแต่ละนัด จะมาทำง่ายๆเหมือนเดิมคงไม่ได้อีกแล้ว และยิ่งการมีศึกคาร์ลิ่งคัพ รอบรองชนะเลิศจ่ออยู่อีกสามวันข้างหน้ากับอริร่วมเมือง ยิ่งทำให้ต้องคิดหนัก เพราะศึกนั้นพูดได้คำเดียวว่า ใกล้เคียงกับการคว้าถ้วยมากแล้วในตอนนี้ หากจะเอาเด็กลง ก็ต้องเสริมความมั่นใจด้วยใยเหล็กอย่างหนาชนิดตัวจริงสแตนด์บายข้างสนามให้พรึดแน่นอน จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้การเลือกตัวผู้เล่นค่อนข้างอึดอัดใจได้ไม่น้อย ตรงนี้ทำให้ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ช่วยป๋าให้ตัดสินใจง่ายขึ้น ด้วยการโดนแบนมันซะเลย ป๋าจะได้ไม่ต้องคิดมากตรงกลางสนาม นอกจากนั้น การที่วิดิช กับ ริโอ ยังไม่สามารถสลัดอาการเจ็บได้เต็ม 100% เสียที ก็ช่วยให้การเลือกแผงหลัง ไม่ต้องลำบากใจมากนัก ป๋าก็เลยสบายใจขึ้นเยอะในการจัดตัว นัดนี้ ท่านเซอร์ได้น้าซาร์กลับมาเฝ้าเสา หลังจากหายไปด้วยอาการเจ็บและต้องกลับไปเฝ้าภรรยาที่กำลังป่วย น้าซาร์กลับมาเฝ้าเสาได้แบบนี้ เราก็สบายใจขึ้นเยอะ ฟูลแบ๊คสองข้างได้แกรี่ เนวิลล์ ยืนทางขวา ปาทริซ เอวร่ายืนทางซ้าย คู่เซ็นเตอร์เลือกจอนนี่ เอแวนส์ กับ เวสลี่ย์ บราวน์ กองกลางตัวกลางสนามสองคนเลือกไมเคิล คาร์ริค กับ พอล สโคลส์ มี วาเลนเซียยืนกราบขวา และ และ และ หลุยส์ นานี่ ฝ่าวิกฤติกลับมายืนทางซ้าย ใช้งานคู่กองหน้าเป็น เวย์น รูนี่ย์ กับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 10:26:32

ความคิดเห็นที่ 2 รูปเกมที่เกิดขึ้น ก็เป็นไปอย่างที่หลายๆฝ่ายคาดการณ์ นั่นคือเจ้าบ้านพยายามครองเกมและเปิดเกมบุกเข้าใส่ตลอดเวลา การขึ้นเกมเน้นไปทางกราบขวาเป็นหลัก นั่นคือวาเลนเซียที่เน้นการประสานงานกับแกรี่ เนวิลล์ แต่เหมือนงานนี้ กุนซือขัดตาทัพของเบิร์นลี่ย์ อย่าง ไบรอัน ลอวส์ (ที่มีลูกสาวสวยงาม อร้าอร่ามชื่อว่าแดเนี่ยล ลอวส์ นั่นแหละ ลองเซิร์ชดูสิ) จะทำการบ้านมาดีมาก นัดนี้ แกจับเด็กเก่าของเราอย่าง คริส อีเกิ้ลส์ ลงมาเจาะทางแกรี่ เนวิลล์ เป็นพิเศษ เรียกได้ว่า แกรี่ขึ้นเมื่อไหร่ คริสพร้อมเจาะเมื่อนั้น และตรงนี้ก็ทำให้งานของแกรี่หนักหนาสาหัสพอสมควร จนไม่สามารถขึ้นเติมเกมได้สะดวกนัก ต้องพะวงเกมรับทางด้านนี้ที่ตัวเองก็ความเร็วไล่คริสไม่ค่อยจะทันเท่าไหร่ด้วย วาเลนเซียจึงมีแกรี่มาช่วยนับครั้งได้ในชั่วโมงแรกของเกม นักเตะของเบิร์นลีย์แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า บางครั้งนักเตะดาดๆ ธรรมดาๆ ที่ทีมอื่นมองข้าม เมื่อสามารถเล่นร่วมกันด้วยวินัย ด้วยความมุ่งมั่น และด้วยทีมเวิร์ค ความเข้าอกเข้าใจที่ดี ก็สามารถปักหลักซดกับทีมที่อุดมไปด้วยนักเตะเกรดโอเมก้าสาม อย่างแชมป์เก่าได้อย่างสนุกสนานน่าดูชม กลับเป็นแชมป์เก่าซะอีก ที่ยังแก้ปัญหาเดิมๆไม่ตก นั่นคือทีมเวิร์คยังไม่เข้าที่เข้าทาง ความเข้าใจระหว่างกันยังไม่สุกงอม แถมตัวหลักยังไม่สามารถลงมาเล่นร่วมกันนานๆได้สักทีตั้งแต่เริ่มซีซั่นมาเนี่ย ตรงนี้เองที่ทำให้กองเชียร์พันธุ์แท้ละเหี่ยใจมากมายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความมุ่งมั่นนี่ผมดูออกว่านักเตะเราก็พยายามจะรีดมันออกมาให้ได้มากที่สุดแล้ว แต่มันยังขาดอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือความเข้าอกเข้าใจกันนั่นเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดที่จะผลักดันให้ทีมๆหนึ่ง สามารถผลิตผลงานเป็นเทพหรือเป็นซาตานก็ได้ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 10:26:45

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อความต่างของสองทีมมันอยู่ที่สองจุดอย่างที่ว่ามา ทีมหนึ่งอุดมวิตามิน แต่ยังไม่รู้ใจกัน ในขณะที่อีกทีมหนึ่งเข้าขารู้ใจ แต่ขาดวิตามิน จุดเปลี่ยนที่จะเกิดผลลัพธ์นี้มันก็เหมือนเดิมๆครับ นั่นคือประตูแรกจะเป็นของใคร เพราะเกมที่เป็นแบบนี้ หากยูไนเต็ดได้ประตูแรก ก็เท่ากับปลดล็อคและจะกดดันให้ทีมเยือนต้องเปิดแลกแน่ๆ ไม่สามารถเล่นรัดกุมได้มากอีกต่อไป ความเสี่ยงที่จะถูกเจาะก็จะมีมากขึ้น ตรงกันข้าม หากทีมเยือนได้ประตูนำไปก่อน ก็สามารถเล่นรัดกุมเต็มที่แล้วรอสวนงามๆเหมือนที่ฟูแล่มถีบยอดอกเราแล้วรอจังหวะเพื่อกระทืบซ้ำอีกสองดอกนั่นไงครับ นัดนี้เบิร์นลี่ย์ทำการบ้านมาดีมากแล้ว เพียงแต่ว่าคุณภาพนักเตะของเบิร์นลี่ย์เองต่างหากที่ยังขาดไป โอกาสของเบิร์นลี่ย์มีจะจะน่าเป็นประตูขึ้นนำเราไปตั้งหลายที แต่ยิงได้ไม่ดีเอาซะเลย นั่นล่ะครับ คือจุดที่ตัดสินผลลัพธ์ของเกมนี้ หากจะบอกว่า ทีมเราเล่นกันได้ดีแล้ว ผมล่ะเถียงขาดใจเลย โอเคว่าเราครองเกมได้ ครองบอลได้ แต่มันตันครับ มันเจาะไม่เข้า มันพลิกไม่ได้ มันโยนไม่เข้าเป้า มันต่อบอลจังหวะสุดท้ายไม่เข้าท่าเข้าทาง ในขณะที่เบิร์นลี่ย์นั้นมาแบบมีวินัยจริงๆ รับลึก รับแน่น และเพรสซิ่งถึงตัวเร็ว ซ้อนตำแหน่งทดแทนกันได้กันดี ที่สำคัญที่สุดคือ เรื่องการยืนตำแหน่งของเบิร์นลี่ย์นัดนี้ทำกันได้ดี เหมือนเล่นในสนามตัวเองก็ไม่ผิด จังหวะที่ตั้งใจรับลึกแล้วได้สวนกลับนี่เราเห็นชัดมากๆ ขึ้นกันแค่สามสี่คนเท่านั้น แต่ขึ้นได้เป็นแพ็ทเทิร์น ชัดเจน และแม่นยำ เพื่อนๆรู้เลยว่า สวนแบบนี้ ใครอยู่ตรงไหน ให้บอลตัดหลัง ให้บอลทะลุช่องแต่ละครั้ง เล่นเอาหัวใจผมจะวายให้ได้ ดูสปีดแต่ละคนของเราที่จะไปกวดเขาสิ แกรี่งี้, บราวน์งี้, เอแวนส์งี้ ความเร็วขนาดนี้เจอกองหน้าแตะหนีก็ไม่ต้องกวดแล้วครับ รอเก็บจังหวะสองอย่างเดียวเลยถ้าโชคดี แต่ถ้าโชคร้ายก็ไปเก็บที่ก้นตาข่ายแล้วกัน จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 10:26:57

ความคิดเห็นที่ 4 อย่างที่บอกไป ถ้ากองหน้าของเบิร์นลี่ย์ รวมทั้งคริส อีเกิ้ลส์นั้น สามารถจบสกอร์เนียนๆ คมๆ หน่อย ผมบอกตรงๆ เราคงโดนนำไปแล้วสองลูกเป็นอย่างน้อย ก่อนจะมาได้ประตูของเบิร์บนั้นเบิกร่อง แต่ละลูกที่ฝั่งของเขาได้สับไก ผมบอกตรงๆ ว่าทำใจตั้งแต่เห็นท่ายิงแล้วครับ แต่โชคดีมากมายที่เขาจบไม่ดี และเรายังโชคดีที่นัดนี้เราได้น้าซาร์กลับคืนมา ถึงแม้ว่าคุสแซ็คจะมีช็อตโชวเทพบ่อยๆ แต่เขาขาดความนิ่ง ขาดความเก๋า และวันนี้เราเห็นเลยว่า น้าซาร์ที่มีความนิ่งและปลาเก๋ายังเรียกพ่อนั้น ช่วยให้เราอุ่นใจได้แค่ไหนกับการอ่านจังหวะบอลแต่ละลูกและตัดสินใจออกมาตัด ออกมาคว้าแบบที่ไม่มีลูกพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว แถมยังงัดซูเปอร์เซฟออกมาโชว์สวยๆได้หลายครั้งด้วยซ้ำไป พูดได้ว่า หนึ่งคือกองหน้าเขาไม่คมพอ และสองคือน้าซาร์นี่แหละ ที่ลดทอนโอกาสได้จบของเบิร์นลี่ย์ไปหลายครั้งมากๆ เมื่อเบิร์นลี่ย์ทำไม่ได้ และเราเองยังไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนัก วาเลนเซียลุยได้ดี แต่เปิดมาแล้วก็ไม่มีใครเล่นได้ง่ายๆหน้ากรอบ นานี่วันนี้เหมือนถูกจูนเครื่องมาใหม่ ถึงจะยังไม่เด็ดขาด ไม่แม่นยำ ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร แต่ผมมองการปรับเปลี่ยนมุมมองต่อเกมของเขาว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้น นานี่รู้จักผ่อนคลายมากขึ้นแล้ว เขาคายบอลง่ายกว่าเดิม และรู้จักมองเพื่อนๆ ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ อย่างน้อยก็เท่ากับว่าเขาได้ปรับความเข้าใจกับป๋าจริงๆ ถึงได้ลงสนาม และก็เริ่มที่จะปรับการเล่นของตัวเองเข้าหาทีมมากขึ้น ซึ่งของแบบนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร เมื่อไหร่ที่นานี่ปรับจังหวะตัวเองได้ดีแล้ว เขาก็จะงัดประสิทธิภาพออกมาได้เอง ตอนนี้ก็ได้แต่รอวันนั้นกันไปก่อน มองในแง่ดีก็คือ เรามีนักเตะที่พร้อมเล่นเพิ่มขึ้นอีกคน จากที่เดือนก่อนรู้สึกว่านานี่จะถูกลืมไปแล้ว ไม่มีแม้แต่ที่นั่งบนม้าสำรอง จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 10:27:10

ความคิดเห็นที่ 5 รูนี่ย์และเบอร์บาตอฟก็ยังมีปัญหาเดิมๆในการเล่น นั่นคือหาคนต่อเกมกันลำบาก สองคนถูกบังคับจากนักเตะเบิร์นลี่ย์ให้เล่นห่างกันเกินไป และผู้เล่นกลางถึงหน้าก็ถูกบังไลน์ให้บอลและต่อบอลกันหมด เรียกได้ว่าต้องเรียกบอล ต้องหาเพื่อน หาตำแหน่งกันวุ่นวายกว่าจะต่อบอลกันได้แต่ละช็อต นี่คือผลกระทบหลักและเป็นผลกระทบที่สำคัญที่สุดจากการดำรงอยู่ของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ สองสามปีที่ผ่านมาที่เขาเป็นฟันเฟืองสำคัญของทีม บอลถูกฝากไปที่เขาและเขาก็สามารถพามันไป ทำอะไรกับมันก็ได้และสุดท้ายก็คือมันอยู่ก้นตาข่าย และอีกข้อหนึ่งก็คือ โรนัลโด้มีพรสวรรค์เรื่องหนึ่งที่ไม่ยักมีใครพูดถึง นั่นคือความเป็นพรายกระซิบ คล้ายๆที่แวน บาสเท่นมี คล้ายๆที่ลินิเกอร์หรืออินซากี้มี นักเตะพวกนี้ไม่ต้องทำอะไรมาก อยู่ๆก็จะโผล่มาจบสกอร์หน้าตาเฉย มาจากไหนไม่รู้ กองหลังไม่เห็น โกล์ไม่ทันระวัง รู้ตัวอีกทีก็สอดเข้ามาจิ้มแล้ว แต่โรนัลโด้นั้นมีดีกว่าก็ตรงที่ทำเกมด้วยตัวคนเดียวได้ด้วย ยิงไกลได้ดีอีกต่างหาก และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่โรนัลโด้ทำให้เราตลอดสองสามปีล่าสุด ซึ่งข้อเสียที่รุนแรงที่สุดของมันก็คือ ความเคยชินของทีมเมตนั่นเอง จากความเคยชินที่มีคนทำอะไรให้ มีคนโผล่มาจบสกอร์ให้ ทำให้เราเริ่มขาดการประสานงานในภาพรวมไปทีละเล็กละน้อย และผมบอกตรงๆว่า ท่านเซอร์คิดถูกแล้วที่ปล่อยโด้ไปตั้งแต่วันนี้ วันที่สถานการณ์ยังพอจะกู้กลับมาได้ ถึงแม้ต้องอาศัยเวลาและความอดทนสักหน่อย แต่ก็ยังดีกว่ารอจนความเคยชินนั้นมันฝังรากลึกจนแก้ไขไม่ได้ อย่างน้อยตอนนี้เราก็ยังพอที่จะประคองตัวเองเกาะกลุ่มผู้นำไปเรื่อยๆ และหวังว่าลูกทีมจะเร่งพัฒนาทีมเวิร์คและการประสานงานให้กลับมาเหมาะเจาะ ลงตัว เข้าขากันได้ดีกว่านี้ และภาพในเกมนี้รวมทั้งในเกมก่อนๆหน้า ก็บ่งบอกภาพที่ว่าได้เป็นอย่างดี ท่านเซอร์เองก็คงมองเห็นและคงทราบดีว่า ต่อให้เราซื้อพวกระดับโลกเข้ามาเพิ่มในตอนนี้ แต่ถ้ายังไร้ซึ่งความเข้าอกเข้าใจกัน และการประสานงานในทีม การให้บอลกันยังไม่ดี แม้แต่ตำแหน่งการยืนของแต่ละคนเองก็ยังไม่เนียน แล้วพวกระดับโลกเข้ามามันจะช่วยอะไรตรงนั้นได้ นอกจากแค่เปลี่ยนตุ๊กตาจากโด้เป็นคนอื่น แล้วทั้งสโมสรเราก็ต้องฝากทุกอย่างไว้ที่เท้าของเขาต่อไปอีกงั้นหรือ แล้วเมื่อถึงวันที่พวกนั้นต้องอำลาไปล่ะ เราก็ต้องมานั่งเซ็งแบบนี้อีกหรือไง ผมว่าตอนนี้ท่านเซอร์แกกลับมาตั้งต้นใหม่ หันมาสร้างทีมที่ไม่มีซูเปอร์สตาร์แบบข้ามาคนเดียวอีกต่อไป ก็เป็นเรื่องที่ถูกแล้ว ใครจะเข้ามาก็ต้องเป้นส่วนหนึ่งของระบบ นั่นคือสิ่งที่ถูกต่างหาก จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 10:27:24

ความคิดเห็นที่ 6 ครึ่งหลังเราจึงเห็นการปรับแต่งพันธุกรรมการเล่นเล็กน้อย นั่นคือเน้นการเคลื่อนที่ให้มากขึ้น ให้หลังอย่างเอแวนส์ดันเกมมาช่วยเพิ่มแล้วดันรูนี่ย์กับเบิร์บให้เล่นสูงขึ้นไปอีก เพื่อกดและป่วนแนวรับทีมเยือน วาเลนเซียถูกสั่งลงมาให้ตัดเข้าในบ่อยขึ้นเพื่อเพิ่มความสับสนให้ฟูลแบ็คเบิร์นลี่ย์ แล้วเกมรุกของเจ้าบ้านก็เริ่มมีน้ำมีนวลขึ้นเรื่อยๆ จนที่สุดก็มาได้ประตูขึ้นนำจากการประสานงานที่นานๆจะยอดเยี่ยมสักที รูนี่ย์ได้บอลบริเวณกรอบโทษแล้วดึงผู้เล่นเบิร์นลี่ย์เข้าหาตัวก่อนจะแทงบอลขึ้นหน้าทางซ้ายของปากประตู เบอร์บาตอฟสอดเข้าไปรับพอดิบพอดี โดยมีผู้เล่นเบิร์นลีย์ตามประกบอยู่ก่อนที่เฮียเบิร์บจะตวัดยิงลูกไปกระทบขาตัวประกบเด้งเปลี่ยนทางเล็กน้อยข้ามตัวเจนเซ่นเสียบหน้าต่างเสาสอง อย่างสุดสวย เป็นประตูที่นอกจากจะปลดล็อคให้ทีมแล้วยังปลดล็อคตัวเองได้อีก หลังจากพลาดง่ายๆมาสองสามครั้งก่อนหน้านี้ ประตูนี้ก็เท่ากับเปิดประตูเชื้อเชิญให้เบิร์นลี่ย์ต้องแลกแล้ว และเข้าสู่กระบวนการที่คุ้นเคยของเรา นั่นคือเมือมีพื้นที่ เราก็เล่นง่ายอีกแระ และมาได้ประตูที่สองอย่างรวดเร็ว เมื่อเบอร์บาตอฟสบโอกาสส่องโดนเจนเซ่นปัดออกมา สุดท้ายบอลมาเข้าทางรูนี่ย์ที่โชว์สเต็ปเทพให้เห็นด้วยการดึงบอลอกมาทางกว้าง โยกตัวหลอกยิงครั้งหนึ่งจนเจนเซ่นล้มตัวไปทางซ้ายของตัวเองก่อนเจ้าหมูจะสับไกยิงจริงๆไปทางขวาของเจนเซ่น เรียกได้ว่า ใจเย็นสุดๆกับลูกนี้ และนี่คงเป็นลูกปลดล็อคของเจ้าหมูอีกคน หลังจากซัดแฮตทริกไปเมื่อต้นปี แล้วหลังจากนั้นฟอร์มดันออกทะเลซะทุกนัด ยิงแป้ก ยิงนก จ่ายบอลหมูหกตลอด จับบอลก็ไม่เชื่องเท้า แตะบอลเข้าทางคู่ต่อสู้ เรียกได้ว่าถ้าผมให้คะแนนสองสามนัดล่าสุดของน้องหมู คงมีต่ำห้าเยอะแหละครับ แต่มานัดนี้ ยิ่งครึ่งหลังด้วย ก็ต้องบอกว่า น้องหมูกลับมาเข้าที่เข้าทางอีกครั้งแล้ว จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 10:27:38

ความคิดเห็นที่ 7 การเปลี่ยนตัวเกมนี้ ก่อนจะได้ลูกที่สอง คาร์ริคก็ถูกถอดออกมาพักหลังจากเล่นได้ค่อนข้างน่าพอใจ ไม่ถึงกับดีมาก แล้วส่งอันแดร์สันลงมาแทน วันนี้อันแดร์สันผมว่าเล่นดีนะ การขวางบอลข้ามด้านกว้างแบบพุ่งๆของเขาแม่นยำและรวดเร็วดีมาก การเล่นกับบอลก็ดูดี แต่อย่างว่าครับ บอลนำไปสองลูก พื้นที่มีมาก แล้วก็ไม่กดดันแล้ว มันก็เล่นได้สบายใจกว่านั่นแหละ หลังจากนั้น เบิร์บและรูนก็ถูกถอด ส่งดิยุฟกับโอเว่นลงมาแทน และดิยุฟก็สามารถเปิดสกอร์แรกในการลงเล่นนัดแรกในบ้านได้ทันที จากบอลยาวกลางสนามขึ้นหน้า ดิยุฟวิ่งสอดแซงกองหลังขึ้นมาด้วยความเร็วสูงชนิดเจนเซ่นผวาออกมาจะปัดแต่ช้ากว่า ดิยุฟเทคโหม่งตัดหน้าส่งบอลเข้าตาข่ายได้ในช่วงทดเจ็บ นับเป็นนัดเปิดตัวในบ้านที่สวยสดงดงามยิ่งนักของกองหน้าเด็กใหม่คนนี้ อย่างที่ผมบอกครับ รูปเกมที่เกิด กับโอกาสจบสกอร์ กับผลลัพธ์ มันเป็นแค่ภาพลวงตาที่เกิดขึ้น หากใครได้ดูเต็มๆตลอดทั้งเกมก็ต้องบอกว่า เราโชคดีที่ไม่เสียให้เขาก่อนสองสามลูกที่น่าจะเสียนั้น แถมยังโชคดีที่มาได้ประตูปลดล็อคจากลูกแฉลบขากองหลังด้วย ที่ทำให้เราสามารถออกนำทีมเยือนไปได้สำเร็จ ถึงแม้สุดท้ายจะได้สามประตูและคลีนชีต แต่เมื่อพินิจรูปเกมแล้วก็ให้น่าเป็นห่วงเหลือเกิน  ดีที่เราได้น้าซาร์กลับมาเป็นผู้มีบารมีหน้าปากประตูที่ต่อไปนี้น่าจะทำให้หลังบ้านเราอุ่นใจมากขึ้น เล่นง่ายขึ้นไม่ต้องพะวงประตูหลัง และน่าจะส่งผลให้กองกลางสามารถทำผลงานได้ดีขึ้นด้วย เมื่อไม่ต้องมาระแวงภัยหลังบ้านตัวเองตลอดเวลา และเมื่อสามารถเล่นได้ตามธรรมชาติ ทุกสิ่งทุกอย่างก็น่าจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้นได้ไม่ยากแล้วครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 10:27:54

ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อหันฟังจากข่าวลือที่พาเหรดกันมาในช่วงที่ทีมฟอร์มตกนั้น ยิ่งพิเคราะห์ตาม ผมก็ยิ่งคล้อยแฮะ และคงจะต้องถอนคำพูดที่ว่าปีนี้ป๋าต้องเอาดาราดังเข้าทีมอีกคนเพื่อชดเชยกรณีโรนัลโด้และเตเวซ เหตุผลแรกอย่างที่บอกไปว่าป๋าคงไม่อยากเสี่ยงให้ทีมที่กำลังเริ่มสร้างระบบใหม่ ต้องหันกลับมาพึ่งสตาร์อีกครั้งแทนที่จะสร้างทีมเวิร์คให้เข้าที่ก่อน อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ การที่ปลิงดูดเลือดสัญชาติอเมริกันมันเอาเงินไปผลาญหมดนั่นเอง จากเมื่อก่อนเราอยู่ของเราเป็นมหาชนดีๆ (ถึงแม้จะขยับซื้อใครได้ช้าเพราะต้องรอมติผู้ถือหุ้น แต่ก็ไร้หนี้สินนะยะ) ไอ้สองตัวนี่ดันไปกู้แบงก์มาซื้อ แล้วผลักหนี้นั้นมาลงที่สโมสรซะงั้น แถมมีข่าวแพลมมาอีกว่า เอาเงินสโมสรไปหมุนสภาพคล่องให้บริษัทพรรคพวกตัวเองอีกต่างหาก นี่คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราขยับตัวซื้อใครยากเย็นเหลือเกิน แถมยังมียูฟ่าออกมาฮึ่มๆว่าจะถีบเราออกจากทัวร์นาเมนต์ยุโรปเรื่องหนี้สินล้นพ้นตัวอีกต่างหาก เฮ้อ...ไอ้ปลิงเอ๊ยยย แต่เอาเถอะ จะทำอะไรกัน มันก็สโมสรท่านนี่นะ (อย่างน้อยก็ตอนนี้)  พวกเราทำได้เต็มที่ก็แค่ตามเชียร์ต่อไป และลุ้นให้มีคนที่รักทีมจริงๆ เอาฟ่อนเงินมาฟาดหัวไอ้ตระกูลปลิงนี่ให้ออกไปพ้นๆทีมซะทีเถอะน่า เพื่อความสบายใจของทุกๆฝ่าย และสมาธิในการทำทีมของป๋ารวมถึงสมาธิในการเล่นของนักเตะ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 10:28:24

ความคิดเห็นที่ 9 แต่ก่อนอื่น เรามาลุ้นเกมคาร์ลิ่งกันก่อนนะครับ สงบใจ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 10:28:40

ความคิดเห็นที่ 10 แค่หัวกระทู้ก็ตอบอะไรได้หมดทุกอย่างโดยไม่ต้องอ่านเนื้อความเลย ถ้าเล่นด้วยฟอร์มแบบนี้ กับนักเตะชุดนี้ ผมว่า.. เหนื่อยแน่ จากคุณ : ณัฐกร เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 10:57:23

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีครับ คุณสงบใจ เห็นด้วยกับหัวข้อครับ  ไม่มีอะไรจะอธิบายได้ดีกว่านี้แล้วครับ กับ ประตูที่เกิดขึ้น กับ ฟอร์มของทีมเรา รอลุ้น  คาร์ริ่ง คัพกันต่อ  ในนัดต่อไป ... ปล.  อ่านมาถึงความเห็นที่ 2 ต้องหยุดอ่านไป Search  ก่อนเลย   จากคุณ : SRV เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:07:21

ความคิดเห็นที่ 12 ฟอร์มยังไม่ดีจริงๆ จากคุณ : อ สุวงศ์ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:08:50

ความคิดเห็นที่ 13 ..ดีคับน้าหงบ..รออ่านอยู่เลยครับ ^^ จากคุณ : ood2282 เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:09:19

ความคิดเห็นที่ 14 น้าซาร์กลับมานี่ผมถึงกับเซ็งเลย (เพราะผมแฟนปืน) จากคุณ : ชื่อนี้มีคนใช้แล้ว เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:14:17

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีครับ คุณสงบใจ แมนยูชนะ3-0 ก็จริงแต่รูปเกมส์ก็ยังน่าอึดอัดนะครับ  และโชคดีที่ไม่เสียประตูไปก่อน จาก เฟล็ตเชอร์และ นูเจนท์   ผมว่าหลังเรารั่วเหมือนเดิม แต่อุ่นใจตรง น้าซาร์ ลงมานี่ครับ  ทำไมความรู้สึกนี้ไม่มีใน คุสแช็คและ ฟอสเตอร์เมื่อเฝ้าเสา   แต่กับมีเมื่อนึกถึงชไมเคิ่ล ยิ่งช่วงท้ายเกมส์  เบิร์นลี่ย์ยิงเอาๆ ผมก็ยังอุ่นใจที่เป็นน้าซาร์  สงสัยต้องเล่นต่ออีก1-2ปีแล้วครับ ผมอาจจะลำเอียงเพราะผมรู้สึกชอบ จอห์นนี่ อีแวนส์ ขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีหลุดแต่ผมชอบบุคลิกที่สู้ไม่ถอย ของอีแวนส์ จริงๆ   ผมว่าอีแวนส์เล่นแน่นอนทั้งลูกกลางอากาศและพื้นดิน ผมพอใจในฐานะดาวรุ่งนะครับ ตัวยืนทีมชุดใหญ่รอสั่งสมประสบการณ์อีกสักนิด รูนี่ย์ก็ขยันเหมือนเดิมแต่วันนี้รู้สึกเสียบอลบ่อย  แต่โดยรวมก็ยังขาดไม่ได้ บางทีก็อยากให้รูน เลี้ยงจี้เข้าหากองหลังหรือยิงไกลแบบรุนแรงเป็นการขู่บ้าง  เพราะเสียดายความสามารถตรงนี้ของรูนี่ย์ และแมนยูพอเอาเบอร์บาตอฟมาเล่นหน้าคู่ ก็ทำให้มีมิติที่หลากหลายขึ้น ภาระรูนี่ย์ก็เบาลง  ยังเสียดายลูกที่เกี่ยวและยิงเร็วถ้าเข้าจะสวยมากๆเลย นานี่แม้ว่าจะล็อดเลี้ยงจนเพื่อนเสียจังหวะ  แต่ข้อดีก็คือ มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องลองให้โอกาส ลดจังหวะ การเล่นสักนิดก็ดี และอีกนิดผมว่าลูกตั้งเตะ นานี่ น่าจะทำได้ดีกว่า คนอื่นๆถ้าไม่นับกิ๊กส์  เพราะดูทิศทางลูกนิ่ง ที่นานี่เตะมันดูมีลุ้นกว่าคนอื่นๆ ดิยุฟต้องรอดูกันต่อไป  แต่สังเกตุเห็นจากจังหวะที่ฉกบอลช่วงท้ายเกมส์  มันวิ่งเร็วมาก เร็วจนเลยบอล  แถมกระโดด ค่อนข้างสูง   ผมว่าการเปิดตัวดีก็มีชียไปแล้วนะครับ  ขอให้ยิงระเบิดและกัน เพราะ ดิยุฟมีสไตล์ที่ต่างจากกองหน้าแมนยูคนอื่น  อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ งก็ได้ จากคุณ : จูล่งแห่งเสียงซาน เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:15:02

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยครับที่แมนยูตอนนี้เกมส์รุกดูตันมากๆ จากนัดที่ชนะมาล่าสุด ผมว่าเกมส์รุกก็ยังตันอยู่ดี การประสานงานในแดนหน้าไม่ได้กดดันกองหลังคู่แข่งเลย 90นาที มีโอกาสต่อบอลสวยๆแค่ครั้งสองครั้ง บางเกมส์ไม่มีเลย และกองหน้าเราก็ไม่ค่อยจะง้างเท้ายิงซักเท่าไหร่ ต้องคอยหาช่องส่งให้เพื่อน ทั้งๆที่กองหลังคู่แข่งก็ยืนกันเต็มไปหมด ปีนี้เหนื่อยจริงๆครับ กับรูปเกมส์แบบนี้ จากคุณ : sixvill เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:16:33

ความคิดเห็นที่ 17 ฤดูกาลนี้ ดูบอลมันขึ้นครับ แต่เครียดกว่าเดิม ต้องลุ้นกันแทบทุกนัดไม่ว่าจะเจอทีมใหญ่ทีมเล็กว่า จะยิงเค้าได้ก่อน หรือ จะโดนเค้ายิงก่อนกันแน่   ดูสถิติของทีมในฤดูกาลนี้แล้ว กลัวว่าจะเหมือนฤดูกาล 2001-2002 จังเลยครับ ยุคที่ทีมได้เวรอนกับรุดมาใหม่ แต่ขายสตัมออกไป แข่ง 38 ชนะ 24 เสมอ 5 แ้พ้ 9 จากคุณ : gigzy เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:18:05

ความคิดเห็นที่ 18 หวัดดีครับพี่สงบ เห็นด้วยเรื่องภาพลวง แต่ผมพยายามคิดในแง่บวกและให้เครดิตกองหลังเบิร์นลี่ย์เมื่อคืนด้วยว่าวินัยสูงพอสมควร และเข้าแซะ รบกวนการเล่นบอลจังหวะแรกของกองหน้าตลอด ทำให้เจาะแทบไม่เข้า อีกจุดที่ต้องพยายามปรับกันคือ จังหวะปิดสกอร์ที่ใช้กันเปลืองจริงๆ แต่มองในแง่ที่ว่าเมื่อก่อนเราก็เปลืองกันแบบนี้แหละ ยุค ยอร์ค โคล แต่ในความเปลืองนั้นก็จบได้เยอะด้วย และผมมองในแง่ที่ว่าปีนี้เราถล่มประตูเยอะขึ้นจากปีที่แล้วเสียอีก ทั้งที่หลายๆคนบอกเกมรุกเราแย่ลง และพลังทำลายดูหดหายจากการเสียโด้ แต่อย่างที่พี่สงบบอกว่ามันเป็นการปรับเปลีย่นระบบพึ่งโด้มาเป็นแบ่งภาระกันทั้งทีม ของแบบนี้ต้องใช้เวลาหน่อยครับ เหมือนสมัยที่เราพึ่งคันโตน่าและรุดเป็นหลัก ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีเพื่อปรับเปลี่ยนระบบ จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:23:08

ความคิดเห็นที่ 19 นานี่ตอนนี้ผมมองว่ากลายเป็นลูกเมียน้อยไปแล้วครับ จากกรณีให้สัมภาษณ์พาดพิงป๋าค่อนข้างรุนแรง รวมกับการเล่นก่อนหน้านั้นที่ทำให้เกมเราแย่ลงตลอด การถูกดร็อปยาวคราวนี้ น่าจะทำให้เจ้าตัวได้คิด และยิ่งเมื่อไม่มีใครทาบทามเข้ามาจริงๆจังๆ ต้องยิ่งคิดหนัก พอเห็นได้ลงสนาม พร้อมท่าทีที่ซอฟท์ลงไป ไม่ดูมีอีโก้สูงทะลุปรอทเหมือนเดิม คราวนี้รู้จักมองเพื่อน รู้จักเล่นง่ายๆ ก็เริ่มดูดีขึ้นมาพอสมควร แต่อย่างว่าครับ จากการที่มีชนักติดหลังอันเบ้อเริ่ม คงทำให้เจ้าตัวสงบเหงี่ยมเจียมตัวมากขึ้น ไม่กล้าขอยิง ไม่กล้าโวย ไม่กล้าบ่น คงเฝ้ารอแต่การพิสูจน์ตัวเองอยู่ครับ เพื่อกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ไง -------------------------------------------------------- เอแวนส์เชิงดีกว่าบราวน์เยอะครับ ผมมองดูแล้วทักษะ และการเล่นบอลดูดีกว่าบราวน์ ถ้าจะว่ากันจริงๆ ผมว่าถ้าจำเป็นแกเล่นกลางรับยังได้เลย เพียงเพิ่มลูกจ่ายคมๆเท่านั้น ในขณะที่บราวน์ไม่ได้หรอกครับ อ่านจังหวะบอลไม่ได้เรื่อง บอลสาดมาต้องรอตกก่อนนี่แย่นะ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:23:43

ความคิดเห็นที่ 20 นัดนี้ เห็นสิ่งที่โดนใจสองจุด จุดแรก ซึ่งมีหนเดียว คือ จังหวะที่บราวน์โยนยาวแม่นเป๊ะ ตกใส่ใครจำไม่ได้อ่ะ แล้วลากไปได้จบด้วย เออ บราวน์เอ๋ย.... หาแบบนี้บ่อยๆ นะ บอลจากหลังไปหน้าหายเรียบวุดเลย (หลังทั้งแผงแหละ) อีกจุด คือ นานี่ ที่ผมตั้งใจดูเลยว่า โอกาสมาแล้ว แกจะเล่นแบบไหน เล่นแบบนัดนี้ค่อยดูดีมีอนาคตหน่อย..... หลังจากที่ปล่อยให้ไปแอบบปันใจให้ อบต. ไปพักหนึ่ง สนุกดีเหมือนกันนะครับ ดูแมนยูแบบลุ้นว่า จะยิงหรือจะโดนยิง.... (อยากเห็นลูกชิ่งทะลุช่องเข้าทำจังเลย) จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:24:51

ความคิดเห็นที่ 21 #17 แมนยูจะมีปัญกาทุกครั้งที่หลังตัวหลักหายเลยไม่รู้เป็นไร ปีนั้น เหมือนปีนี้ตรงที่ไม่มีหลังครับ  ปีนั้นขายสตัมไป   และอีกปี คือ03-04 ที่ริโอลืม ตรวจโด๊ป  ปีนั้นก็แย่ ชนะ24เสมอ6 แพ้ 9 นี่แหละครับผมเลยบอกว่าอยากให้รอหลังหายเจ็บให้หมด น่าจะยกระดับทีมขึ้นมาได้อีกเยอะ ครับ จากคุณ : จูล่งแห่งเสียงซาน เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:30:18

ความคิดเห็นที่ 22 ดูแล้วอึดอัดตรงที่เจาะไม่เข้าซะที ถ้าโดนยิงก่อนคงกลับมายากเหมือนเดิม ดีนะที่เบอบาปลดล็อคได้ น้าซาร์กลับมาทำให้หลังอุ่นใจขึ้นเยอะเลยนะ น้าแกนิ่งมั่กๆๆๆ ยิ่งการออกบอล ขว้างไกลหนิได้เปรียบตลอด ทำให้บอลไปข้างหน้าได้เร็วแต่ก็ยึกยักๆ แถวเขตโทษ ปีกเปิดไปไม่ค่อยแม่นเหมือนเดิม จากคุณ : GiggsScholes เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:46:04

ความคิดเห็นที่ 23 วิจารณ์แล้ว ไม่ลองให้คะแนนนักเตะบ้างหรอคับ จากคุณ : WiseChocolate เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:48:08

ความคิดเห็นที่ 24 ลุ้นเหนื่อยจริงๆครับ แต่พอได้ประตูแรกก็ดูจะผ่อนคลายไปได้หน่อย แต่ผ่อนคลายไปซะจนเกือบจะโดนยิงไปก็หลายทีนะนั่น จากคุณ : กระแตตาโต เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:51:39

ความคิดเห็นที่ 25 อุ่นใจที่มีน้าซาร์ครับ เพราะนอกจากจังหวะเซฟจะสุดยอดแล้ว การสั่งกองหลังกับการเตะเปิดเกมดีกว่าอีกสองคนแน่ๆครับ ถ้าเปิดเกมดีก็เท่ากับเราไม่เสียการครองบอลง่ายๆแล้วครับ กองหลังก็ไม่ต้องกังวลมาก ส่วนรูปเกมผมว่าเราก็ต่อเกมกันได้ไหลลื่นเลยทีเดียวนะครับ แต่ก็อาจจะเป็นมิติเดียวไปหน่อย - ออกปีก แล้วโยน ถ้าปีกข้างนึงตันก็โยนข้ามฟากไปให้อีกข้างหนึ่ง- แต่วันนี้ผมว่าเราโยนข้ามฟากไปที่ปีกได้แม่นมากเลยนะครับ ลูกครอสของปีกอันที่จริงก็ค่อนข้างเข้าเป้านะครับ แต่กองหน้าจบสกอร์แย่มากๆๆๆ ผมว่าถ้ากองหน้าเป็นรุด หรือยอร์ค สกอร์น่าจะขาดตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว บาเลนเซีย- ผมมองว่าเขาเล่นดีมากนะครับ พอมีพื้นที่ ใครก็หยุดยาก ทั้งๆที่ไปทื่อๆมิติเดียว ผมว่าถึงเขาไม่มีเทคนิคแพรวพราว แต่ลูกล่อลูกชน เหลี่ยมอะไรก็ดีหมดนะครับ จ่ายฉลาดๆหลายจังหวะด้วย ไม่ได้สักแต่ว่าโยน น่าเสียดายที่เขาไม่ใช้เท้าซ้ายเลย รูนี่ย์- ผมว่าวันนี้เขาโชว์ฟอร์มไม่ค่อยออกนะครับ พลาดโอกาสหลายๆครั้ง และการตัดสินใจในฐานะที่เป็นศูนย์หน้าก็ไม่ค่อยดี แต่ยังไงก็ขาดไม่ได้อยู่ดีครับ อีแวนส์ - ห่ามดีครับ ผมชอบ ดูเล่นมีชีวิตชีวา วันนี้เติมบ่อยซะด้วย จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 12:00:38

ความคิดเห็นที่ 26 ทำไม ป๋าแพนด้า ให้ Owen เล่น แป๊บบ เดียว เอง นิ แล้วนิ ตอนนี้ ดัน มี ตาดำ มาเปนของเล่นใหม่ป๋า อีกคน งี้ เวลา เปลี่ยนตัว ก็ ต้อง มาลุ้น อีกดอกนึง ว่าโอเว่น จะได้ลง หรือเปล่า และ จะเปลี่ยนโอเว่นลง หรือ ตาดำจะปาดหน้าเค๊ก อีกนิ จากคุณ : ชายเหวง เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 12:00:46

ความคิดเห็นที่ 27 ปัญหาเดิมๆ กำลังจะกลับมาอีกครั้ง หน้า ยิงไม่ได้ กลาง ทำเกม ครองเกมไ่ม่ได้ หลัง ไว้ใจไม่ได้ ิ 3-0 ที่เห็น ถ้าเป็นทีมอื่นที่หน้าคมกว่านี้ ( ยึดเอากลางและหลังเดิมๆ ของเบิร์นลี่ ) เสร็จไปแล้ว โดนสวนแต่ละที -*- หลังลอย ไม่คุมตำแหน่ง วิ่งช้ามากๆ โดนสปีดหนี ฉีกเป็นริ้วๆ ภาพนัดแพ้ลีดส์กลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง เฮ้อ -*- การทำเกมจากปีก ไม่ถึงกับแย่ แต่ก็ยังไม่ดี โยนทิ้งโยนขว้างไปหมด ไม่ได้เข้าที่เข้าทางสักเท่าไหร่ หน้าประสานงานกันไม่ได้เท่าที่ควร ต่างคนต่างเล่นเกินไป ( แม้จะพยายามเชื่อมเกมกันแล้ว ) แต่ที่เห็นว่าดีขึ้นมากๆ คือ การต่อบอล การโยนบอลข้ามฝั่งเพื่อเปลี่ยนฝากเกมรุก ทำได้ดีมาก รับส่งกันแม่นมากๆ แทบไม่มีเสียเลย เสียแต่ตายตอนโยนเข้ากลางหรือ ส่งให้ยิง ไม่รู้จะพากันแป๊กไปไหนทั้งกลางทั้งหน้า ( เฮ้อ อีกที -*- ) ปล. นัดนี้ นานี่ ทำตัวดีขึ้นนะ ฝืนน้อยลงเยอะ จากคุณ : Sifer2002 เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 12:09:02

ความคิดเห็นที่ 28 เชียร์และลุ้นนัดต่อนัด ก็มันดีไปอีกแบบ อิอิ เข้าใจป๋ามากกว่านะ จึงไม่ค่อยคิดอะไร เพราะทีมเราก็ผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาหลายครั้ง วันอังคารนี้ก็หวังว่าจะผ่านไปได้อีกครั้ง สู้ สู้ จากคุณ : ผักทอดยอด เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 12:22:03

ความคิดเห็นที่ 29 สวัสดีครับคุณสงบใจ ไม่ได้เข้ามาอ่านกระทู้เสียนาน(เพราะทีมรักดันฟอร์มออกทะเล เลยทำใจไม่ได้ 555) วันนี้ผมขอเห็นต่างจากคุณสงบใจซักเล็กน้อยนะครับ เรื่องการบุกของเรา ผมว่าจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเท่าไหร่ โอกาสก็พอจะมี แต่ผมว่าเพราะกองหน้าเราไม่คมเองซะมากกว่า อย่างลูกที่บาเลนเซียหรือเอฟร่าครอสเข้ามาหลายๆลูก ผมว่าถ้าเป็นดร็อกบาหรือตอเรส มันต้องได้ซักตุงสองตุงไปแล้วหล่ะครับ ผมมองว่าสิ่งที่เราขาดไปในช่วงหลังนี้ผมมองว่าคือเกมรับมากกว่าครับ จะทำยังไงถึงจะได้บุกต่อเนื่อง??? ถ้าสังเกตุใ้ห้ดี สามปีก่อนหน้านี้เราจะไม่ค่อยมีปัญหาในการเจอทีมกลางๆหรือเล็กๆ อาจจะมีตื้อๆบ้าง แต่ก็จะยิงได้ท้ายเกมอยู่ดี ที่เป็นแบบนั้นผมว่าเพราะเราได้บุกต่อเนื่อง ฝั่งตรงข้ามสวนมา วิดิชกับริโอเก็บกินเรียบ แล้วเราก็ตั้งหน้าตั้งตาบุกต่อไป แต่ในปีนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้วหน่ะสิครับ เวลาเราบุก พอฝ่ายตรงข้ามสาดบอลมา แทนที่จะเป็นวิดิชเก็บกิน มันกลายเป็นว่าเวส บราวไปสอยเสียฟาล์ว หรือไม่ก็โดนกองหน้าเค้าเก็บบอลเล่นต่อได้ง่ายๆตลอด นั่นทำให้เกมบุกเราน่ากลัวน้อยลงเยอะ ประการต่อมาคือกองกลางเราไม่ได้ช่วยสกรีนเท่าที่ควร สโคลส์เองคงไม่ไหวแล้วหล่ะครับ ถ้าเล่นกลางสองตัว ต้องช่วยเกมรับมากกว่านี้ แต่ด้วยสังขารคงไม่สามารถทำได้ จังหวะขึงเกมก็เหมือนกัน บอลแถวสองเรามักจะเก็บไม่ได้เลย เพราะกองกลางทั้งคู่ของเราเข้าถึงบอลได้ไม่เร็วพอนั่นเอง ตอนนี้ด้วยทรัพยากรที่มีอยู่ ผมเชียร์น้องแอนขาดใจเลย เกมเมื่อคืนก็ถือว่าเล่นได้ดี ส่วนแบ็คขวา เมื่อคืนก่อนแกรี่รั่วได้ใจมากครับ ทั้งลงไม่ทัน ทั้งยืนตำแหน่งผิด เช็คล้ำหน้าพลาด แต่โอเคจะให้เตะดีทุกนัดคงไม่ไหว แต่ผมดูสังขารกับปิตันเราแล้ว ไม่น่าจะเล่นไหวแล้วหล่ะครับ จากคุณ : โค้วเต๊กซิม เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 12:51:46

ความคิดเห็นที่ 30 เคยตั้งข้อสังเกตุน้องดิยุฟ จากคลิปวิดิโอที่เคยมีเพื่อนๆ มาแปะไว้ (ขอโทษครับจำชื่อไม่ได้แล้ว ^^) ว่าถ้าไม่มีน้องเบอร์ 8 (ลองๆ หาดูครับในคลิป) คอยป้อนให้ยิง แล้วจะเป็นยังไงบ้างหนอ โดยลืมมองไปว่า เออ มันก็ต้องมีความเร็ว และหาพื้นที่ ที่ว่างได้ดีเหมือนกัน ถึงจะปิดสกอร์ได้แบบนั้น ดูแล้วคิดถึงคิงโคลครับ สร้างตำนานให้ได้เหมือนน้าเค้านะ น้องนะ....--" *ให้กีบคุณโค๊ว เพราะเป็นแฟนคลับน้องแอนเหมือนกันครับ จากคุณ : next station เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 13:18:31

ความคิดเห็นที่ 31 เรื่องคะแนนนักเตะ เอาตามความเห็นผมนะ ถูกใจไม่ถูกใจก็ว่ากันได้ตามตรงเลยครับ   น้าซาร์ เอาไปเลย 8 เต็ม 10 ควรจะแมนฯด้วยซ้ำ เพราะถือเป็นคนที่ยื้อสกอร์ 0:0 ให้เรามาตลอด และเป็นคนที่รักษาคลีนชีตอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด   แกรี่ 5 นัดนี้หลุดกระจายทางขวา แพ้อีเกิ้ลส์ เด็กที่ไม่ดีพอสำหรับทีมเราอย่างหมดจดจริงๆ ดูแล้วเริ่มคล้อยตามที่กัปตันเปรยว่าอาจจะแขวนสิ้นปี ครึ่งหลังยังกระเตื้องในเกมรุกขึ้นมาบ้าง   เอวร่า 6 เติมเกมทางซ้ายได้เหมือนเดิม เล่นกับนานี่เหมือนจะดีขึ้น แต่วันนี้ไม่ใช่วันที่เขา เล่นได้ด้วยฟอร์มสุดยอดเหมือนที่เคยเห็น มีหลุดบ้างในเกมรับ   บราวน์ 5 สปีดไม่มี แถมเป็นตัวห้อยสุดท้ายคู่แกรี่ งานเข้าสิพี่น้อง มีเหวอบ่อยๆ แถมลูกโด่ง ที่มาหาเขานี่ได้ลุ้นแทนทีมเยือนตลอด   เอแวนส์ 6.5 ได้คะแนนเยอะที่สุดในแผงหลัง เพราะผมดูเกณฑ์อายุและประสบการณ์ด้วย เอแวนส์นัดนี้เป็นตัวหลักยิ่งกว่าบราวน์ ทั้งชน ทั้งซ้อน และพาบอลขึ้นเกมรุกเอง   สโคลส์ 6 เหมือนเล่นนัดนี้แบบประคองมากกว่าจะคุมเกมจริงๆจังๆ เน้นถ่ายบอลมากกว่า เดินเกมเอง แท็คเกิ้ลคาบลูกคาบดอกบ่อยเกิ๊น เสียว   คาร์ริค 6 เล่นไปตามเกม ประคองรูปเกมตามจังหวะ ทำไมวันนี้ความโดดเด่นของกลางเรา มันหายไปไหนไม่รู้ เหมือนเล่นครองเกมไปเรื่อยๆ ไม่สอดทะลุ ไม่เติมเท่าไหร่ แต่ก็นั่นแหละ แค่นี้เวลาโดนสวนก็จุกกันหมดแล้ว เพราะสกรีนไม่ทันเลย   แอนนี่ 6 ผมมองว่าเขาเล่นวันนี้ได้ดีกว่าช่วงหลังๆที่ถูกส่งลงมานะ เล่นง่าย ออกบอลเร็ว และแม่นยำ จังหวะให้บอลได้เปรียบกว่าที่เคย   วาเลนเซีย 6.5 ถ้าไม่นับจังหวะสุดท้ายที่เดาและจับทางได้ง่ายไปหน่อย ก็ถือว่าเขาทำงาน ได้เข้าเป้า วูบวาบและพาบอลไปได้จนสุดทุกครั้ง   นานี่ 5.5 เริ่มเล่นได้ดีขึ้น แต่การปรับปรุงฟอร์มของตัวยังไม่แมทช์กับประสิทธิภาพที่มีในตัวเอง คงต้องใช้เวลาสักระยะ   รูนี่ย์ 8 ผมว่าถ้าไม่นับจังหวะที่ทำเสียบ่อยๆช่วงต้นเกม เขาน่าจะได้มากกว่าน้าซาร์ แต่การที่ เขาจ่ายหนึ่ง ยิงหนึ่ง ก็ย่อมไม่ธรรมดา ทั้งๆที่ว่ากันตามฟอร์มแท้จริงของหมู นัดนี้น่าจะมีสองเม็ด เป็นอย่างน้อย   เบิร์บ 7 พลาดง่ายๆแบบน่าเขกกะโหลกสองสามครั้ง แต่แก้ตัวด้วยลูกที่สำคัญที่สุดของเกม การครองบอลและหาช่องจ่ายของเขายังถือว่างดงาม แม้เพื่อนๆจะตามไม่ค่อยทันก็เหอะ   เว่น 5 ไม่ค่อยได้บอลเท่าไหร่นัก น่าเห็นใจ เพราะเขามีดีที่ความเร็ว แต่ดันลงมาพร้อมกับ เด็กที่มีความเร็วสูงกว่ามาก   ดิยุฟ 5.5 แปรโอกาสครั้งที่สอง ที่ดูเหมือนต้องล้น เป็นประตูได้แบบไม่น่าเชื่อ เป็นการแจ้งเกิด ที่อำเภออย่างรวดเร็ว แต่ฟอร์มจริงๆนั้นต้องดูกันนานๆ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 13:24:38

ความคิดเห็นที่ 32 ที่คุณโค้วว่ามาก็ถูกครับ มันเริ่มที่หลัง พอหลังรวนเร กลางและหน้าก็ซวนเซตามไปด้วย มันก็ธรรมดาน่ะแหละ แต่ขออธิบายเพิ่มในมุมมองของผมส่วนหนึ่งที่มองว่า มันเป็นภาพลวงตา นั่นก็เพราะเราทำเกมไม่ได้ดีเท่าที่เราควรจะทำได้ครับ ถึงแม้ว่า มันอาจจะออกมาเหมือนว่าเราครองเกมได้ แต่หน้าไม่คมก็เหอะ  เพราะรายละเอียดในการเคลื่อนที่ทำเกมของเรา มันไม่ได้สวยงามหรืออันตรายเท่าไหร่นัก ผมถึงกดคะแนนกองกลาง และตำหนิกองกลางกันพอหอมปากหอมคอในความเห็นข้างบนของผม เรื่องนี้ค่อนข้างซีเรียสนะสำหรับผม เพราะการทำเกมรุกที่ดี การยืนตำแหน่งและการเคลื่อนที่ของทุกๆคนไม่ว่ามีหรือไม่มีบอล มันต้องเป็นจังหวะทำนองเดียวกัน เหมือนอาร์เซน่อล เหมือนเชลซีเคลื่อนที่ หรือแม้แต่เหมือนยุคปี 99 ของเรา ไม่ต้องดึงจังหวะมาก ไม่ต้องม้วนหาเพื่อน แต่ทุกคนจะรู้ว่าเมื่อเราอยู่ตรงนี้ของสนาม เพื่อนๆจะอยู่ในโซนไหน ให้บอลไปอย่างไรถึงได้เปรียบ นี่คือสิ่งที่เชอริงแฮม และก็องโต้ ใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างสูงสุดจากทีมที่เข้าขารู้ใจกัน แม้แต่คีน/สโคลส์/เบ๊ค/กิกส์ ก็ไม่ต่างกัน กองหน้าไม่จำเป็นต้องลงมาล้วงต่ำมาก เพราะลงมาแล้วไม่มีใครรอรับบอลข้างหน้า เวลาสวนแล้วจะส่งให้ใครล่ะทีนี้ กลับกัน ทีมชุดนี้ ตั้งแต่ระบอบโรนัลโด้ถูกสถาปนาอย่างเต็มตัว การเคลื่อนที่ การประสานงานมันก็ดร็อปลงๆ ทีนี้พอไม่มีคนๆนั้นแล้ว เราจะกลับมาเล่นประสานงานได้เต็มที่ก็ยาก ต้องค่อยๆสร้างมันขึ้นมาใหม่อีกที ตรงนี้แหละครับ คุณโค้ว ผมเชื่อว่า เมื่อไหร่ที่เราปรับเข้าที่เข้าทางแล้ว กองหน้าเราจะคมขึ้นครับ เพราะอะไร เพราะทุกคนจะรู้ตำแหน่งกันดีขึ้น รู้ช่องรู้ไลน์ตัวเองดีขึ้น และวิ่งได้เปรียบมากขึ้น เสียพลังงานวิ่งต่อหนึ่งการขึ้นเกมน้อยลง นี่คือสิ่งที่ผมเชื่อครับ ปล. และหวังให้มันเกิดเร็วๆด้วย จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 13:41:39

ความคิดเห็นที่ 33 เข้ามาโดนภาพลวงตา เซ็งเทพ บราว  - -* จากคุณ : geno_nr เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 14:02:51

ความคิดเห็นที่ 34 สวัสดีครับ เข้ามาอ่านเช่นเคย ขอบคุณครับ นัดล่าสุด ถ้าไม่มีนาซาร์ งานคงเข้าตามเคย ก่อนได้ประตูดูเกมแล้วอึดอัดจริงๆ ยิงทิ้งยิงขว้างกันหมด เอวีได้เปิดก็บ่อย แต่ไม่รู้จะโทษปีกหรือกองหน้าดี ที่ทำให้โหม่งไม่ดี ลูกที่ได้โหม่งไม่ได้ลุ้นเลย อันนี้เป็นเพราะว่ากองหน้ากะจังหวะบอลโยนมาผิดหรือเปล่าครับ  แต่ผมคิดว่าลูกแบบนี้ถ้าเป็นยอร์ค หรือพี่ม้าเนี่ย คงเป็นประตูบ้างแล้วล่ะ จะว่าไปรูนีย์หรือเบิร์บก็โหม่งไม่ดีอยู่แล้ว จาก คห คุณสงบใจเรื่องการซื้อตัว บวกกับปัญหาหนี้สิน ผมก็คิดว่าป๋าคงไม่ซื้อใครเดือนนี้แล้ว รอให้ตัวหลักอย่างริโอ วีวี่ หรือแม้แต่ฮากรีฟหายกลับมาก็คงพอ  ได้ฮาจังกลับมาก็เหมือนซื้อนักเตะใหม่มาคนนึงครับ จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 14:46:30

ความคิดเห็นที่ 35 พักหลังๆนี้ แมนยู เจอใคร เค้าก็เล่น บีบเร็ว เพรสซิ่งเร็วตลอดเลย แถมยังเล่นเกมรับแบบ มีวินัยด้วยสิ แล้วมักจะมีปัญหา กับทีมที่เล่นแบบนี้ด้วยสิ = =' บวกกับ แผงหลังที่ยังไม่แน่ไม่นอน..........เฮ้อออออออออออ ผมว่าถ้า อีแวนส์ ไปฝึกเตะบอลด้วยเท้าซ้าย น่าจะดีได้กว่านี้นะครับ เห็นเตะทีไร เบี้ยวออกตลอด จากคุณ : ยิงประตูสู่ฝัน เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 15:36:17

ความคิดเห็นที่ 36 อ่านตลอด ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง เชียร์แอนเหมือนกันค่ะ มาม่าดูมีแววน่าดู ไม่รู้จะสมกับที่ป๋ารอคอยหรือปล่าว(เห็นมีข่าวมานานแล้ว) ดูเร็วและถึก ดูตัวใหญ่(หนา) กระโดดสูงมาก เบียดกองหลังสบายเลย เอาใจช่วยเด็กผีทุกคน รวมถึงนานี่ด้วย จากคุณ : ผีหลายบทบาท เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 15:39:32

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์ค่ะ พอดีวันเสาร์ที่ผ่านมาไปงานไนท์มา กลับมาดูไม่ทัน อ่านบทความคุณแล้วเห็นภาพขึ้นเยอะเลย ตอนแรกนึกว่าฟอร์มดีแล้วเชียว ชนะตั้งสามลูก - -" เห็นด้วยค่ะ ว่าตอนนี้การซื้อตัวนักเตะใหม่ๆเข้ามา ยังไม่สำคัญเท่าการเรียกประสิทธิภาพที่ดีของนักเตะที่มีอยู่ตอนนี้ออกมาให้มากที่สุด แต่ยังไงก็ไว้ใจป๋า หวังว่าป๋าจะทำให้แมนยู กลับมาเป็นแมนยูทีมเดิมของเร้ด อาร์มี่ ให้เร็วที่สุดนะคะ ^^ จากคุณ : คุณหนูแพนด้าตัวน้อย เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 15:59:58

ความคิดเห็นที่ 38 นัดนี้การต่อบอล ผมว่าโอนะ แต่ทำไมผมไม่ค่อยเห็นคาร์ริกเลย ที่ไม่ดีก็ตรงการจบสกอร์นี่แหล่ะ กองหน้าทีมเราเป็นกองหน้าตัวชง ไม่ใช่กองหน้าตัวปิดบัญชีตามความคิดของผมถ้ามีรูนี่ต้องไม่มีเบิร์บ เพราะมันตำแหน่งเดียวกันไม่งั้นต้องเล่นหน้าสาม ให้เบิร์บลงมาต่ำหน่อย คอยเชื่อมเกม รูนี่กับกองหน้าอีกตัวคอยทะลุทะลวง บางจังหวะให้รูนี่ออกปีกแล้ว ให้กองหน้าตัวทำสกอร์อยู่ที่หน้ากรอบประตู แต่ก็จะต้องลดปีกลงไปต้องปรับผังการยืนใหม่ทั้งหมด ถ้าเป็นไปได้อยากให้แอนเป็นตัวยืนในแผงกลางจัง ผมช๊อบชอบการเล่นเกมรับของแกจัง น่าจะปั้นเป็นกองกลางตัวรับ แต่ต้องมีตัวคอนโทรเกมรุก อย่างสโคล(ตอนอายุน้อยๆ) หรือ ซาบีบาซ่า คอยคุมจังหวะให้ น้องแอนจะคุมจังหวะไม่เป็น ชอบรีบแทงๆ แล้วก็เสีย ขอพูดถึงนานี่บ้าง นัดนี้ผมว่าแกเล่นดีสุดในฤดูกาลละ แต่ๆๆๆ ก็ยังติดๆขัดๆอยู่ดี ถ้านานี่เล่นได้อย่างนี้ไปเรื่อยๆ คือพยายามจ่ายก่อน&เล่นง่ายๆ น่าจะสร้างความมั่นใจ จนอาจเป็นกำลังสำคัญของเราได้เลย เพราะทักษะการเลี้ยง การครองบอล การโยน ลูกตั้งเตะ แกมีหมด(คาดหวังเกินไป?) จากคุณ : BPWarSea เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 17:18:47

ความคิดเห็นที่ 39 สวัสดีค่ะคุณสงบใจ .. เห็นด้วยค่ะ .. เรายิงได้สามลูก แต่ไม่ยักกะรู้สึกแฮบปี้ซักเท่าไหร่ .. เหมือนยังกังวลกับอะไรซักอย่าง.. ถูกแล้วค่ะ เรายังมีปัญหาอีกหลายจุดให้ป๋าต้องแก้ไขต่อไป.. เอาใจช่วยป๋าค่ะ BELIEVE ปล.. แม่น้องภีมใกล้คลอดน้องยังคะ.. จากคุณ : รัศมีจันทร์ดารา เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 17:29:14

ความคิดเห็นที่ 40 สวัสดีครับ  คุณสงบใจและผองเพื่อน สัปดาห์ที่แล้ว  รออ่านวิพากษ์อยู่  แต่ก็ไม่เห็น ก็เข้าใจว่าคุณสงบใจยุ่งอยู่แน่ ๆ นัดนี้  ก็ไม่ได้ดูเกมอีกแล้ว  (บ่อยมากเลย  ฤดูกาลนี้) แต่ก็ได้ดูไฮไลท์ที่โหลดมาดูจากคุณ danya สกอร์ต่างกันเยอะ  แต่โอกาสยิงแบบจะ ๆ น่าจะพอ ๆ กัน ฤดูกาลนี้  นัดที่ผ่าน ๆ มา  แทบจะทุกเกมเลย ที่เกมของทีมเรากว่าจะต่อกันติดก็ต้องเข้าครึ่งหลังเสียก่อน (เว้นนัดที่เจอกับเซลชี) จะบอกว่าโรเตชั่นบ่อย  ก็อาจจะมีผลอยู่บ้าง แต่จะว่าไป  ก็เล่นด้วยกันมานานแล้ว  น่าจะปรับจูนได้ง่าย ๆ หน่อย แต่นี่อะไร  กว่าจะจูนกันติด  ก็ใช้เวลานาน แล้วพอจูนติดแล้ว  ก็ไม่ใช่ติดตลอดอีก   ติด ๆ ดับ ๆ อยู่นั่นแหละ หวังว่านัดต่อ ๆ ไป  คงจะรู้ใจเข้าขากันมากขึ้นนะ สงสารโอเว่นนะ  ได้โอกาสน้อยจัง แม้กระทั่งนัดที่ไม่สำคัญบางนัด  ก็ยังไม่มีโอกาสได้ลงเลย อยากให้ป๋าให้โอกาสมากกว่านี้หน่อย ส่วนรูนี่ย์  ถึงจะยังยิงได้เรื่อย ๆ แต่ก็ยังถือว่าเล่นได้ต่ำกว่าประสิทธิภาพที่เขามีอยู่ บางนัด  อยากให้ลองดรอปเป็นตัวสำรองก่อน แล้วค่อยส่งลงมาตอนที่เห็นช่องว่างที่เข้าทำหรือจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ก่อน เพราะผมเชื่อว่ารูนี่ย์มีประสิทธิภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนะ แต่บางทีบางครั้ง  อาจจะมีเหนื่อยมีล้าบ้าง ถ้าได้รับการกระตุ้นให้อยากลงมาก ๆ เชื่อว่าแรงใจจะช่วยให้รูนี่ย์เค้นศักยภาพออกมาได้เต็มที่แน่นอน ป.ล.  นัดหน้า  มาลุ้นกันต่อครับ ป.ล. ๒  คุณสงบใจครับ   ไม่เห็นลงรูปน้องภีมหลานผมให้ดูบ้างเลยล่ะครับ อิอิ จากคุณ : ขุนไกรครับผม เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 17:42:03

ความคิดเห็นที่ 41 ก่อนโอเว่นได้ลงผมดูแล้วก็คิดว่านัดนี้เน้นเปิดบอลจากปีกเยอะๆอย่างนี้ถ้ามีโอเว่นอยู่ในเขตโทษมันจะเป็นยังไงน้อ ^ ^ พอโอเว่นได้ลง เปลี่ยนวิธีเล่นซะงั้น - -" จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 19:02:41

ความคิดเห็นที่ 42 ปีนี้ พรีเมียร์ลีก "เปลี๋ยนไป๊" ไม่เหมือนปีก่อน ๆ ครับ .. จนผมไม่กล้า "คาดเดา" จริง ๆ !! เป็นปีที่ เริ่มต้น ศักราชใหม่ ของ ทศวรรษ 2010 ที่น่า "ตื่นเต้น" และ "พลิกไป พลิกมา" มี Twist and Turn ตลอด.. เหมือน บทภาพยนตร์ที่ ชวนให้คาดเดา ผลลัพธ์ในแต่ละสัปดาห์ และ ของฤดูกาล ได้ลำบาก.. ใครจะเชื่อว่า .. ด้วยฟอร์มอันน่าเกรงขาม ใน 3 เดือนสุดท้ายของฤดูกาลก่อน ของ หงส์แดง ..จนได้รองแชมป์ ชนิดที่ว่า "น่าจะได้เป็นแชมป์" ด้วยซ้ำ!! จะต้องกลายเป็น ทีมที่ต้อง "ดิ้นรน" เพื่อให้ติดอันดับ Top Four ??? ตอนนี้ หงส์แดง กำลังทำคะแนนไล่เรี่ย กับ เบอร์มิงแฮม ??? สำหรับ ปีศาจแดง ใครจะเชื่อว่า ด้วย "ฟอร์ม" การเล่น .. ที่ "แทบไม่มีฟอร์ม" ของ ทีมที่เป็น แชมป์เลย ก็ว่าได้..แถม ต้อง "ห่วงหน้า พะวงหลัง ลังเลกลาง".. มีปัญหา ตั้งแต่ "ผู้รักษาประตูหน้า ยัน ศูนย์หน้า" ยกเว้น ปาทริซ เอฟร่า คนเดียว ที่เล่นเด่นสุด สม่ำเสมอสุด แล้ว .. ที่เหลือ ไม่มีใครฟอร์มดี สม่ำเสมอ ซะคน .. รวมทั้ง รูนี่ย์ ก็ด้วย .. แต่กลับ ทะลึ่ง อยู่ในอันดับรองจ่าฝูง.. (อาจจะตกเป็นที่สามก็ได้ ถ้าปืนใหญ่ เก็บคะแนนในนัดตกค้างได้ เต็ม 3 คะแนน).. จาก Top Four ... ตอนนี้ เหลือแค่ Top Three  ที่มีโอกาสลุ้นแชมป์ จริง ๆ จัง ๆ .. และแค่ "ได้ลุ้นจนถึง 2 นัดสุดท้าย ..ผมก็ว่า OK แล้ว.. ปีนี้ เป็น ปีที่ แฟน ๆ ผีแดง คงต้อง "ทำใจ" ในเรื่องของ "ฟอร์มการเล่น" ว่า .. คงจะไม่ได้ดั่งใจนึก แล้วล่ะครับ.. ซึ่งถ้าพูดถึง สองนัดหลังนี่ .. ผมกลับ ชอบ ดู ฟอร์มการเล่น ของ เอฟเวอร์ตัน เอามาก ๆ !! เอาชนะ แมนซิตี้ แบบ "ขาดลอย" ตั้งแต่ ต้นจนจบเกม .. ชนิดที่ว่า แมนซินี่ ไร้ข้อแก้ตัว เลยทีเดียว.. แถม ถ้ามี "ดวง" ล่ะก็ .. น่าจะชนะ อาร์เซนอล 3-1 ด้วยซ้ำ!! เล่นกันเป็นทีมเวอร์ก สุด ๆ .. โดยเฉพาะ มารูน เฟลานี่ .."เด่นสุด ๆ " .. จนอยาก ส่ง "พลังจิต" ไปให้ ป๋าเฟอร์กี้ ซื้อตัวมา ร่วมทีม ในปีนี้ ซะเลย!! บอกได้เลยว่า ถ้าตอนนี้ กองกลางของเรา ถ้าได้ "ห้องเครื่อง" ชั้นดี แบบ เฟลานี่ ..เล่นลูกกลางอากาศดี tackle บอลก็แน่นอน ครองบอลได้เหนียวแน่น แถม ขึ้นไปเสริมเกมรุก และลูกโหม่งยามได้ลูกเตะมุม ฯลฯ .. ..ล่ะก็ "แชมป์" แน่นอนครับ!!! ซึ่งก็คงได้แต่ "ฝัน".. เพราะ ตอนนี้ ทีมกำลัง "แบกหนี้" บานตะไท!! ..เฮ้อ! จากคุณ : จิตตารมณ์ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 19:05:54

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณ ค่ะ  สำหรับบทวิพากษ์  และเห็นด้วยกับคุณสงบใจ ในหลาย ๆ เรื่อง.. โดยเฉพาะเรื่องที่ป๋าไม่ซื้อสตาร์ เพราะกลัวจะซ้ำรอยเจ้าโด้ คือพึ่งคน ๆ เดียว.. แมนยูปีนี้ ต้องปรับเปลี่ยนระบบการเล่นใหม่ ๆ หลังจากเสียตัวจบสกอร์ไป ทำให้ทุกคนต้องปรับตัวเพื่อช่วยทีมกันมากขึ้นกว่าเดิม ก็อาจมีติด ๆ ขัด ๆ บ้าง.. แม้ปีนี้จะมือเปล่า ก็พอจะเข้าใจ และึคงไม่รู้สึกอะไร แต่เชื่อว่า เมื่อถึงปีหน้า เด็ก ๆ อย่างรูนี่ย์ วาเลนเซีย น้องแอน หรือดิยุฟ น่าจะเข้าขารู้ใจกันมากขึ้น หลังจากได้เล่นร่วมกันนานว่านี้   อบต. ก็คงจะพัฒนาขึ้น น่าจะพอทดแทนป๋ากิ๊กได้บ้าง.. ตอนนี้ลุ้นให้กองหลังกลับมาฟูลทีม  เจ้าหมูเลิกเป็นสาก และก็เกาะกลุ่มหัวตารางไปแบบนี้เรื่อย ๆ ก็พอใจแล้ว อ้อ ! เพิ่มการแช่งเชลซี กับปืนใหญ่ให้สะดุดด้วย 5555 เผื่อทีมเราจะลืมตาอ้าปาก ไปยืนหัวตารางได้บ้าง จากคุณ : นู๋แจง เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 19:10:51

ความคิดเห็นที่ 44 โอ้~ ขอบคุณครับสำหรับบทวิจารณ์ เกมนี้ผมไม่ได้ดูเสียด้วย อ่านแล้วรู้สึกปนๆ กันนะ ดีใจที่เราชนะได้ (และอาจจะบอกตัวเองว่า ถึงยังไม่เล่นดี แต่ชนะได้ก็เอาวะ) กับอีกใจ ก็หดหู่&กลัว ครับ โชค คงไม่อาจเข้าข้างเราได้ตลอดไป บางที นัดกับปืนใหญ่ในอีกเร็ววันนี้ อาจเป็นโอกาสในการกระตุ้นและเรียกยูไนเต็ดตัวจริงกลับมา.. ..หรือไม่ ก็ "ขยี้" แผลของเราให้เห็นกันจะๆ ไปเลย (เผลอๆ ดีไม่ดีถ้าเราไม่ฟื้นจริงๆ ก็อาจเป็นการบอกลาแชมป์แต่เนิ่นๆ ก็เป็นได้) ส่วนตัวผมเองก็เห็นความผิดปกติของยูไนเต็ดในช่วงหลังๆ เหมือนกัน แต่ครั้น ถ้าแสดงความเป็นห่วงมาก อาจกลายเป็นกระโตกกระตาก หรือขี้กลัวเกินเหตุ แต่ครั้น จะนิ่งนอนใจ บอกชิวๆ ก็จะเหมือนลำพองใจไปอีก -*- ทำตัวยากนะเนี่ย ผมยังเชื่ออยู่ว่า โอกาสของเราคงอยู่ที่การได้ตัวหลักในแผงหลังกลับมาครบ (และเล่นได้เหมือนเดิมนะ) เมื่อนั้นแม้เราจะมีจุดอ่อนที่มิดฟิลด์ที่แข็งบ้างไม่แข็งบ้าง หรือแนวรุกที่ฮ็อตบ้างไม่ฮ็อตบ้าง แต่อย่างน้อยการมีเกมรับที่เหนียวแน่น มันก็เท่ากับมิดฟิลด์&กองหน้าของเราก็ยังมีโอกาสให้ทำเกมได้เรื่อยๆ บางที.. การขาดหายไปของริโอ&วีดิช (&ฟานเดอซาร์) น่าจะเป็นต้นตอหลักของการ "เผยจุดอ่อน" ของเราก็เป็นได้นะครับ คือ ที่ผ่านมาเรายังเฉยๆ กับการโรยราของสโคลส์&กิ๊กส์, เรายังเฉยๆ กับคุณภาพของแผงกลางที่ฟอร์มเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย, และเรายังเฉยๆ กับการจบสกอร์ของแนวรุกที่ก็ขึ้นๆ ลงๆ เช่นกัน อาจจะด้วยเพราะการที่เรามีแผงหลังที่ดีมากในช่วงหลัง ทำให้ความผิดพลาดของกลาง&หน้ามันถูกกลบไปหมด มีคนไม่มากนักที่เคยส่งเสียงให้เซอร์อเล็กส์ขยับตัวเสริมทัพ แต่ปัจจุบัน จากแผงหลัง (+นายประตู) ที่เคยแข็งแกร่งปึ้ก กลายเป็นชุดจำเป็น, สำรอง หรือชุดแก้ขัด แผงมิดฟิลด์หรือแนวรุกเลยต้องทำงานหนักขึ้น ต้องแบกโอกาสมากขึ้น โป๊ะเช๊ะพอดีกับจังหวะรอยต่อของทีมหลังการขาดหายไปของนักเตะแกนหลักของทีมอย่างโรนัลโด้ รวมถึง "ตัวเปลี่ยนเกม (ที่หวังได้)" อย่างเตเบซ ความพึงพอใจต่อการมีโอเว่นและAV มันจึงเริ่มสั่นคลอน จากที่พอใจมากกก ไม่เอาอะไรอีกแล้ว ก็อาจเริ่มลังเล จากรักมากกก ก็อาจเริ่มตั้งคำถามในฟอร์มบางนัด ยังเหนื่อย&หนัก จริงๆ ครับกับแมนฯยูไนเต็ด ถ้าริโอ&วีดิชกลับมาช้าเกินไปหรือกลับมาแล้วเล่นได้ไม่แข็งอย่างเดิม และ ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วทีมยังไม่สามารถหาใครมาช่วยได้อีก ผมคิดว่าถ้าเราป้องกันแชมป์ได้นี่ เรียกว่า "มหัศจรรย์" ได้เลยนะ จากคุณ : art_sarawut เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 21:01:12

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณสำหรับบทวิเคราะห์ครับ ก็หวังว่าไอ้หนูดิยุฟ(ชื่อมันยังแหม่งๆ หู =*= )นี่จะเจ๋งได้ต่อเนื่องนะครับ จากคุณ : monboy01 เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 21:24:59

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์นะคะ  ^^ มาลงชื่อไว้ว่าจะอ่านเช่นเคยค่ะ  แต่ตอนนี้ยังไม่มีเวลา แหะ ๆ จากคุณ : Noey :p เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 21:50:54

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณมากค่ะ ตอนดูจบ คิดขึ้นมาในหัวเลย...สกอร์กับความเป็นจริงนี่มันสวนทางกันชัดๆ-"- ตอนนี้คงได้แต่แช่งอาร์เซนอลไม่ให้เก็บนัดตกค้างได้ ไม่งั้นก็ต้องพึ่งตัวเองตอนนัดปลายเดือน จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 22:52:06

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณมากค่ะ ชอบอ่านกระทู้นี้มากๆ ไม่ใช่อ่านเฉพาะของ คุณสงบใจแต่อ่านของทุกคนเลย อ่านเพลินมากๆ เกมส์นี้ ถ้าไม่ได้ น้าซาร์ ก็ไม่อยากคิดเลยว่าทีมเราจะเป็นยังไง แต่ยังไงๆ ก็ สู้ต่อไปนะ จากคุณ : prettybua เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 00:52:58

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณน้าหงบใจ จากคุณ : anurak_jun เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 04:53:58

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณครับ จากคุณ : Birth-30 เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 07:30:27

ความคิดเห็นที่ 51 หวัดดีวันใหม่ครับผม ขอบคุณสำหรับมุมมองต่างๆที่มาแชร์กันนะครับ สำหรับผม เฟลไลนี่ สอบผ่านแล้วกับเกมอิงลิช ทั้งในระดัีบท็อปและระดับบอลถ้วย แถมยังมีดีตรงที่ มอยส์สามารถจับแกโยกจากมิดฟิลด์มาเป็นกองหน้าตัวชง ตัวเป้า ตัวเก็บบอล แล้วแกก็ยังทำหน้าที่ได้ดีมากๆ แม้จะถูกโยกกลับไปเป็นกลางรับที่ไม่ได้ยืนมาตั้งนานนม แกก็ยังใช้เวลาปรับไม่นานก็สามารถกลบรัศมีแบร์รี่ได้สนิท แต่ในการจะดึงตัวมาสู่ทีมเรา นอกจากเรื่องเงิินแล้ว มันยังมีคำถามเรื่องฟอร์มในเวทียุโรปด้วย ว่าจะทันกันกับพวกบอลภาคพื้นไหม โดยเฉพาะถ้าจะเล่นกลางรับเนี่ย ชั้นต้องถึงจริง ทางบอลต้องขาดจริง ไม่งั้น นึกภาพคาร์ริคที่ไม่ใช่ตัวรับอาชีพไปยืนกลางที่กรุงโรม ไล่บอลจากชาบีกับอีเนียสต้าได้เลย ภาพนั้นนอกจากติดตาผมแล้ว ยังติดตาเจ้าตัวจนฟอร์มรูดมาเป็นเดือนๆแล้วเนี่ย ------------------------------------------------------------------------------ ส่วนรูนี่ย์ ผมเห็นด้วยนะ ว่าถึงแม้เจ้าตัวจะดูมุ่งมั่น กระหายที่สุดในบรรดากองหน้าที่เรามี แต่การที่ถูกส่งลงสนามแบบนันสต็อปแบบนี้ แม้ท่าทางจะยังบอกว่ามีไฟ แต่ร่างกายกับความเมื่อยล้ามันอาจแสดงผลตรงข้ามได้ ผมเห็นด้วยว่าควรพักบ้าง เป็นสำรองลงมาเปลี่ยนเกมบ้าง เพื่อเห็นมุมมองในมุมต่างๆจากนอกสนาม รวมทั้งเปลี่ยนมิติบ้าง จากที่คู่ต่อสู้ตั้งสมาธิกับรูนี่ย์เต็มๆ แล้วผ่อนลงได้เมื่อรูนถูกถอด ลองเปลี่ยนมาเป็ฯส่งเจ้าหมูลงมาป่วนช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายตอนคู่ต่อสู้เริ่มโรยบ้างจะดีไหม ------------------------------------------------------------------------------ เรื่องแม่น้องภีม ขณะนี้เหลือประมาณสองสามสัปดาห์จะถึงช่วงกำหนดคลอดแล้วครับ และนี่ก็คงเป็นอีกเรื่องที่ผมต้องแจ้งให้ทราบ เนื่องจากประสบการณ์ผมคราวน้องภีมนั้น ยังจำได้เป็นอย่างดี และผมอาจไม่มีเวลามาวิพากษ์สักระยะหนึ่งครับ คงต้องขอพักไปก่อน แต่จะนานแค่ไหน เริ่มเื่มื่อไหร่ ไว้ใกล้ๆวันคลอด ผมจะมาบอกข่าวอีกที ขอบคุณนะครับ คุณรัศมีฯ ที่ยังจำได้ แล้วคุณรัศมีฯ ตอนนี้หายดีหรือยังครับ อ่ะ ติดคุณขุนไกรอยู่ ลืมซะแระ ขออำภัย แหะ แหะ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 09:05:29

ความคิดเห็นที่ 52 ผมว่าใคร ที่บอกวาเลนเซียเล่นดี นี่ดูบอลตามกระแสไปหน่อย นัดนี้เป็นนัดที่วาเลนเซียมีพื้นที่และมีเวลามากจริงๆในบริเวณสุดเส้นกรอบเขตโทษ แต่การตัดสินใจช้า การเปิดไม่เข้าเป้าทำให้ ไม่สามารถทำอะไรอกมาได้ประโยชน์กับทีมเลย ทั้งๆที่กองหลังทีมบานลี่ ปล่อยวาเลนเซียว่างบ่อยมาก ผมว่าปัญหาหลักของทีมยังอยู่ที่ปีก  ถ้าจะบอกว่า วาเลนเซียจะเล่นดีต้องมีแบก ช่วยต้อง อย่างนู้นอย่างนี้ บลาบลาบลา ยังงี้นักเตะทุกคนก็อ้างได้ อ้างเป็นป๋าราฟาไปเลยได้ครับ ผมว่านัดนี้นานี่ยังมีประโยชน์กว่าเยอะ กลับมาในเวอร์ชั่นใหม่ จากคุณ : chomphol เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 11:09:11

ความคิดเห็นที่ 53 เรื่องวาเลนเซียก็แล้วแต่มุมมองและความคาดหวังของแต่ละคนครับ ซึ่งมันไม่มีทางเหมือนกันแน่นอน คนที่ติดภาพโรนัลโด้, ริเบรี่ หรือ แม้แต่เทคนิคของนานี่ ย่อมต้องมองว่าวาเลยเซียไม่ไหวเอาซะเลย เป็นปีกมิติเดียว ลากสุดเส้น เอะอะโยน แต่ถ้าทราบกันก่อนหน้านี้ว่า วาเลนเซียอยู่วีแกนเล่นยังไง ก็คงคาดหวังได้ในระดับที่เหมาะกับที่ตัวเขาเป็นอยู่ในขณะนั้น และในขณะนี้ ป๋าเฟอร์กี้เองก็ต้องทราบแน่ๆ ว่าวาเลนเซียเล่นในลักษณะไหน เป็นปีกโบราณ หรือ ปีกโมเดิร์น อย่างที่บอกไปครับ วาเลนเซียเป็นปีกที่มีมิติเดียว ตอนอยู่วีแกน อาจจะมีพื้นที่เล่นเยอะ เพราะคู่ต่อสู้ไม่ได้ระวังมากนัก แต่พอย้ายมาที่นี่ เขามักจะถูกจับตาย ซ้อนสองสาม หรือปิดทางวิ่งตลอด ซึ่งถ้าจะให้ดีต้องมีคนช่วยเขา อย่างที่พูดกันว่า มีแบ็คช่วยนั่นแหละ หรือไม่งั้น กองหน้าก็ต้องรู้จังหวะเวลาและตำแหน่งที่จะยืน เมื่อวาเลนเซียหลุดขึ้นไป เพราะเขาไม่ใช่เท้าเทวดาอย่างเบ๊ค ครั้นจะหวังให้ตัดเข้ามาในเนียนๆก็เขาไม่ใช่โด้อีกนั่นแหละที่จะทำได้เลิศเลออ่ะครับ ทีนี้ ป๋ารู้อย่างนี้แล้วเอามาทำไม ก็คงเอามาเล่นตามระบบไงครับ จะแบ๊คทูเบสิค ก็คงต้องเอานักเตะที่เล่นตามวินัย เล่นตามทีมเวิร์ค ตามแท็คติคเข้ามาสู่ทีมเยอะหน่อย เพื่อให้คนอื่นมันทดแทนกันได้ตามสมควร ไม่ใช่พอสตาร์เจ็บไป ลงสนามไม่ได้ ก็หมดท่า ทำอะไรไม่เป็น ระบบทีมเวิร์คดร็อปไปครึ่งหนึ่ง อย่างนั้นคงลำบากแย่ ดังนั้น เวลาที่หลายๆคนบอกวาเลนเซียเล่นดี นั่นก็เพราะเกมนั้นๆเขาเล่นได้ตามศักยภาพที่เขามี หลุดไปถึงเส้นหลังได้ทุกครั้ง อยู่ที่เปิดเข้าเป้าหรือไม่ ซึ่งตรงนั้นต้องดูการยืนของนักเตะเราด้วย นี่คือศักยภาพของวาเลนเซียครับ ซึ่งไม่ใช่ตามภาพที่โรนัลโด้เคยทำได้และมันยังติดตาพวกเราอยู่ แต่วันไหนที่วาเลนเซียเล่นไม่ดี อันนี้ดูง่ายมากเลย เลี้ยงติด โยกติด เสียฟาล์วบ่อย นัดก่อนหน้าก็แบบนี้แหละครับ เล่นแย่มากๆ ปล. อันนี้ตามมุมมองผมนะ ที่ไม่ได้คาดหวังอะไรจากวาเลนเซียมากนัก ตั้งแต่เห็นว่าป๋าสนใจแระ เพราะชื่อชั้นและสไตล์มันก็เห็นๆกันอยู่ตั้งแต่เป็นข่าวกับเราใหม่ๆแล้ว หลายคนก็บอกแล้วว่าชั้นไม่ถึงโด้ เป็นได้แค่ขาซ้ายโด้ อะไรทำนองนี้ ซึ่งมันค่อนข้างไม่ยุติธรรมกับเขานัก จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 11:49:43

ความคิดเห็นที่ 54 นัดนี้เป็นนัดที่วาเลนเซียมีพื้นที่และมีเวลามากจริงๆในบริเวณสุดเส้นกรอบเขตโทษ แต่การตัดสินใจช้า การเปิดไม่เข้าเป้าทำให้ ไม่สามารถทำอะไรอกมาได้ประโยชน์กับทีมเลย ทั้งๆที่กองหลังทีมบานลี่ ปล่อยวาเลนเซียว่างบ่อยมาก ----------------------------------------------------------------------------- แต่เรื่องนี้อ่ะ ผมเห็นด้วยเต็มๆนะครับ คือวาเลนเซียเขาทำได้ตามที่เขาควรทำได้ แต่มันยังไม่ดีพอสำหรับโอกาสที่เปิดให้นั่นแหละ พูดง่ายๆคือสำหรับผมก็เสียดายโอกาสที่ควรจะทำได้อันตรายและวูบวาบกว่านี้ ถ้าหากเป็นปีกสไตล์ทำเกมได้ด้วยเนี่ย พื้นที่เปิดแบบเกมเบิร์นลี่ย์เนี่ย ผมว่าเราจะได้ลุ้นเยอะกว่านี้เยอะครับ แทนที่จะเป็นโยกออกขวา โยกออกขวา เปิด เปิด หักเข้าใน แล้วก็โยกออกขวา ทำอยู่แค่นี้ แต่ก็นั่นแหละ ก็เพราะนี่คือสิ่งที่เขาเป็นไงครับ และป๋าดันตัดสินใจซื้อปีกอนุรักษ์นิยมมาเล่น แทนที่จะเป็นปีกตัวปั้นเกมด้วย ไม่งั้นชื่อร็อบเบนอาจจะมีเอี่ยวกับเราตั้งแต่ตอนซัมเมอร์ที่แล้ว ตอนนี้ก็เลยได้แต่ทำใจครับ และลุ้นให้วาเลนเซียพัฒนาตัวเองขึ้นมาให้ได้เต็มที่ อย่างน้อยก็เล่นให้ได้ดีอย่างต่อเนื่องก็ยังโอเคในระดับนึง จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 11:57:37

ความคิดเห็นที่ 55 ถ้าผมเห็นว่าบาเลนเซียเล่นดี มันก็ไม่จำเป็นว่าผมต้องดูบอลตามกระแสนี่ครับ? ที่เล่นดีนี่ก็คือปั่นป่วนเกมรับฝั่งตรงข้ามได้ตลอด ถึงจะมิติเดียวก็เหอะ แต่ก็ไม่เห็นกองหลังเบิร์นลี่จับทางได้เลย ส่วนลูกเปิดก็ ต้องยอมรับว่า มันไม่เพอร์เฟค แต่ส่วนใหญ่ก็เข้าหัวหมด หรือได้ยิงหมดนะครับ แต่แค่บางทีจะย้อนหลังไปนิด หรือนำหน้าไปหน่อย ทำให้โหม่งหรือยิงไม่ถนัด และก็หลายๆจังหวะผมเห็นเขาแทนที่จะครอสก็ไหลบอลสวยๆให้เพื่อนได้ตั้งหลายครั้ง แต่เพื่อนก็เอาไปทิ้งหมด ถ้าผมเป็นบาเลนเซียคงเซ็งไปเลย ถ้าสมมติว่าด้วยฟอร์มนี้และลูกเปิดของบาเลนเซียเป็นประตูสัก 3 ลูก ผมว่าคงต้องมีคนบอกว่าเล่นดีกันเต็มไปหมดแน่เลย จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 13:24:21

ความคิดเห็นที่ 56 ยอมรับครับว่าหลายนัดบาเลนเซียเล่นได้ไม่ดี ก็นัดที่กองหลังคุมติดๆ หรือเข้ามาบล็อคทางวิ่งสัก 2 คน ก็ไปไม่เป็นแล้ว แต่ผมว่าช่วงโด้อยู่ก็เล่นไม่ออกบ่อยเหมือนกันนะครับ เพียงแต่จุดเด่นของโด้คือการทำประตู บางทีเกมไม่มีอะไรก็ทำให้มันมีอะไรได้ เลยไม่ค่อยมีใครว่าโด้เท่าไหร่ ผมว่าบาเลนเซียต้องเสริมเขี้ยวเล็บตัวเองให้มากกว่านี้ครับ เพราะเอาจริงๆผมว่าตอนนี้ก็ยังเป็นรองโด้เยอะครับตรงความหลากหลาย เลยน่าจะฝึกไลน์วิ่งตัดเข้าในให้มากกว่านี้ ก็จะดีมากครับ เพราะเท่าที่เห็นบาเลนเซียก็ยิงบอลหนักดีนะครับ จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 13:30:41

ความคิดเห็นที่ 57 พี่หงบครับผมไม่เคย เทียบกับโด้หรือ ริเบรี่ เลยครับ เอาแค่มีประสิทธิภาพ เทียบกับโอกาสจังหวะ พื้นที่ที่ควรจะทำได้ ในแต่ละจังหวะ แต่ละรูปเกม ผมเห็นว่าเกมนี้ ถ้าได้ดู จะเห็นว่า เนลี่ ปล่อย ทางขวา ว่างมากๆ แต่ละโอกาสที่ได้ แล้วมันไม่เกิดประโยชน์เท่านั้นเอง จากคุณ : chomphol เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 13:58:45

ความคิดเห็นที่ 58 สวัสดีครับ พี่สงบใจ ถ้าพี่มีโอกาส อวตาลในร่างป๋าเราได้ สองอาทิตย์ พี่หงบจะทำอะไรเป็นอย่างแรกในการขันแนวรับเราอะครับ จากคุณ : มังกรเมา เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 14:27:38

ความคิดเห็นที่ 59 เห็นด้วยทุกประการครับ ยังด่าเช็ดกับฟอร์ม ให้กับเพื่อนๆที่ไม่ได้ดู ว่า สกอร์ แบบนี้อย่านึกว่าเล่นดี เล่นแบบนี้ เสียวมากๆว่าจะโดนด้วยซ้ำ ต้องทำงานกันอีกหนักครับ ฟอร์มแบบนี้ ยากที่จะประสบความสำเร็จจริงๆ จากคุณ : DragonboyR เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 23:06:07

ความคิดเห็นที่ 60 ผมไม่ได้หมายถึงคุณ chomphol ในประโยคนั้นนะครับ แต่หมายรวมถึงคนส่วนมากที่อาจจะติดภาพโรนัลโด้ หรือ ริเบรี่อยู่ แล้วมาคาดหวังว่าตัวแทนโด้อย่างวาเลนเซียควรทำได้แค่นั้นแค่นี้ ซึ่งอันนี้ผมอาจจะพูดกว้างเกินไปหรือทำให้งง จนทำให้คุณเข้าใจผิด ต้องขออภัยด้วย แต่ที่บอกถึงคุณ chomphol นั้น คือประโยคแรกครับ คืออันที่ว่า เรื่องวาเลนเซียก็แล้วแต่มุมมองและความคาดหวังของแต่ละคนครับ ซึ่งมันไม่มีทางเหมือนกันแน่นอน แล้วผมก็คั่นด้วยบรรทัดว่างไป ก่อนจะขึ้นอีกประเด็น หากเข้าใจผิดก็ขออภัยอีกครั้งครับ แต่การที่คนเรามีมุมมองต่างกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าของใครเป็นกระแส ของใครตกกระแส หรือใครถูก ใครผิดแต่อย่างใด อย่างที่ผมเคยบอกหลายครั้งก่อนหน้านี้ ว่ามุมมองแต่ละคนที่จะมองการเล่นช็อตหนึ่งๆ ออกมาเหมือนหรือต่างกันนั้น มันขึ้นอยู่กับหลายสิ่งหลายอย่างครับ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีพื้นฐานและเหตุผลมารองรับมุมมองตนเองอยู่แล้ว ถึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ เพื่อแชร์กันในความหลากหลายของมุมมองนั่นเอง อย่างกรณีเกมนี้ วาเลนเซีย ทำได้ตามศักยภาพของเขาแล้ว ทะลุได้ตลอด ถึงเส้นหลังได้ทุกเม็ด เปิดได้ และจ่ายสวยๆ เพียงแต่ หากจะมองกันว่า มันดีที่สุดแล้วหรือยังกับแต่ละโอกาสที่เขาได้ นั่นมันก็อีกเรื่องครับ หลายคน เลือกที่จะมองว่า ศักยภาพของเขาคือตรงนี้ แต่หลายคนก็เลือกที่จะมองว่า เขาน่าจะทำ อะไร ได้มากกว่านี้ เช่นกัน อีกหลายคนก็เลือกที่จะมองว่า ทำไมเขาไม่ทำอย่างนั้น จะเห็นว่า การที่คนเรามีหลากหลายความเห็นในกรณีศึกษาเดียว มันเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น อย่าเอามาเป็นอารมณ์เลยนะครับ คุยกันสนุกๆดีกว่า อย่าให้มันมาทำให้เราหงุดหงิดเลยนะ ----------------------------------------------------------------------- ส่วนที่ว่าถ้าผมอวตารเป็นป๋าเหรอ เลือกแนวรับคงทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ครับ เพราะมันเกิดจากนักเตะเจ็บและไม่ฟิต คือต่อให้เราไปซื้อตัวใหม่มา หรือไปเอาตัวเด็กมาลงแทน มันก็กลับมาสู่วังวนเดิมๆอีก นั่นคือยังไม่เข้าขา ประสานงานผิดพลาด ยืนตำแหน่งผิด เพราะไม่เคยเล่น หรืออาจจะตื่นสนาม ดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือเอาตัวที่ดีที่สุดที่ลงได้ มาลงไว้ก่อน เพื่อรักษาฟอร์มและคงความคุ้นหน้าคุ้นตากันไว้ในแผงหลัง จะได้ไม่มั่วเกินไปนัก (เกมนี้ก็ต้องเป็น บราวน์กับแวนส์ นั่นแหละ) ส่วนจะขันเพิ่มอย่างไร ก็คงต้องอาศัยประสบการณ์ล้วนๆ เพราะสองคนนี้เพิ่งเล่นด้วยกันไม่กี่นัด และไม่ต่อเนื่องจนรู้ตำแหน่งหรือซ้อนกันได้อย่างเป็นธรรมชาติพอ แต่อาจจะช่วยโดยการให้กลางรับสกรีนเกมหนักหน่อย ตัดฟาล์วเร็วกลางสนาม หรือให้ปีกลงมาซ้อนแบ๊ค รวมทั้งจัดระเบียบแนวป้องกันตอนเสียเซ็ตพีซ คงประมาณนี้แหละครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 08:55:17

ความคิดเห็นที่ 61 ฟอร์มแย่จริงๆครับ ผมยังนึกไม่ออกเลย ว่าใครจะมาเป็นตัวพาชีวิตชีวาและระบบที่ดีกลับมาสู่ทีม (หมายถึงนักเตะ) เฮ้ออออ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 21:03:50