ความคิดเห็นที่ 1 สำหรับการจัดตัว ทั้งสองฝ่ายมีเซอร์ไพรส์พอๆกัน โดยฝั่งเจ้าบ้านนั้น โรแบร์โต้ มันชินี่เข็นเด็กอายุต่ำยี่สิบอย่าง เดดริกค์ โบยาต้า ลงมายืนเซ็นเตอร์ซะงั้น โดยดันแว็งซ็องก์ ก็องปานีขึ้นไปยืนตรงกลาง ทำให้แบ๊คโฟร์มีหน้าตาประมาณ ฆาเบียร์ การ์ริโด้ - ไมกาห์ ริชาร์ดส์ - เดดริกค์ โบยาต้า - พาโบล ซาบาเลต้า โดยให้เชย์ กิฟเว่น เฝ้าเสา ตรงกลางนอกจากก็องปานีแล้ว มันชินี่เลือกส่ง แกเร็ธ แบร์รี่ ลงมาทำเกมกับ ไนเจล เด ยองก์ โดยมีสามตัวรุกข้างหน้าเป็นคาร์ลอส เตเวซ ตรงกลาง ร่วมกับเคร็ก เบลลามี่ และฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ (พิมพ์ยากจิ๊บ ต่อไปเรียก swp ละกันนะ) ที่ว่าแปลกคือหลายๆสื่อต่างคาดการณ์ว่าเนดุม โอนูฮา น่าจะได้ลงเป็นเซ็นเตอร์มากกว่า โดยจับกับริชาร์ดส์ แต่ก็ผิดคาดกันหมด (รายละเอียดทางแท็คติคและตำแหน่งของซิตี้ หากผิดพลาดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ว่าไปตามที่เห็นน่ะครับ) ส่วนทางฝั่งทีมเยือนนั้น มีเซอร์ไพรส์สองตลบเลย เริ่มจากตลบแรกคือการส่งไรอัน กิ๊กส์ลงตัวจริงทั้งๆที่ออกข่าวว่าจะเก็บไว้ ส่วนอีกตลบคือป๋าเลือกที่จะส่งชุดใหญ่แบบว่า เอานะ ลงมาแบบใหญ่ที่สุดที่จัดได้ เพียงแค่เน้นการวางตำแหน่งลงมาเป็น 4-5-1 หรือ 4-2-3-1แทนที่จะเป็น 4-4-2 ตามถนัดปีนี้ โดยได้น้าซาร์เฝ้าเสา (นี่ตัวหลัก) แผงหลัง คู่เซ็นเตอร์ใช้ เวสลี่ย์ บราวน์ กับ โจนาธาน เอแวนส์ (นี่ดีสุดที่มีอยู่) แบ๊คขวาเป็นราฟาเอล ดา ซิลวา (นี่ก็ดีสุดที่มี) ซ้ายเอวร่า (นี่ไม่ต้องพูดถึง) คู่กองกลางตรงกลางเป็นไมเคิล คาร์ริค กับ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ (ดีที่สุดตอนนี้) คอยคุมจังหวะและทิศทาง มีกลางตัวฟรีอย่างอันแดร์สันลงมายืนเหลื่อมๆข้างหน้าอีกคน กราบซ้ายขวาได้ไรอัน กิ๊กส์ และวาเลนเซีย (ดีที่สุดเหมือนกัน) ส่วนหน้าเป้าเลือก เวย์น รูนี่ย์ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:33:54

ความคิดเห็นที่ 2 เริ่มเกม ทั้งคู่ต่างพยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่ แต่ยังแฝงไปด้วยความระแวดระวัง ไม่ผลีผลาม ยูไนเต็ดทีมเยือนนั้นพยายามครองเกมและเล่นสั้นต่อเกมขึ้นมาเป็นทอดๆ ทั้งจากกราบซ้ายขวา และตรงกลางโดยการให้บอลของสามมิดฟิลด์ แต่ความแม่นยำยังคงไม่กลับคืนมา ทำให้เสียบอลกันบ่อยมากโดยเฉพาะบริเวณหน้ากรอบ แต่เกมนี้ยีงดีที่ มันชินี่ไม่ได้มาเน้นการช่วงชิงพื้นที่ตรงกลางสนามเท่าไหร่นัก แต่เน้นไปที่การจี้บอลออกไปทางกราบซ้ายขวา ก่อนจะตบเข้ากลางทั้งด้วยลูกโยนหรือลูกเรียดมากกว่า โดยแผงกองกลางซิตี้จะช่วยกันแพ็คเกมและเพรสซิ่งตรงกลางสนาม ก่อนจะออกบอลให้ตัวจี๊ดสองข้างที่มีเบลลามี่ลากจี้เข้าใส่ราฟาเอล กับ swp ที่ขับเคี่ยวกับเอวร่า โดยมีความขยันของเตเวซเป็นตัวทะลวงตรงกลาง ข้างหน้าซิตี้ใช้เพียงแผนนี้เท่านั้น แต่ด้วยหลายๆเหตุผลทำให้แผนที่เรียบง่ายแผนนี้ประสบความสำเร็จสูงมากๆ เหตุผลแรกที่มันชินี่มองขาดเลยก็คือ ฟูลแบ๊คสองข้างของยูไนเต็ดที่จะว่าไปค่าพลังในการรุกจะสูงกว่ารับ เมื่อฟิวชั่นกับความเร็วติดจรวดของทั้งสองคนนั้น ทำให้ฟูลแบ๊คสองข้างของแมนฯยูไนเต็ด ชอบเล่นในสไตล์เติมสูง สอดหลัง และดันช่วย มันชินี่ซึ่งมีทรัพยากรริมเส้นแจ่มๆให้เลือกใช้อยู่หลายตัว จึงเลือกที่จะส่งนักเตะสไตล์จรวดบริเตนลงมาสู้ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดทั้งจากความเร็ว, ความแข็งแกร่ง และความคุ้นเคยกับสภาพอากาศที่ยังหนาวเหน็บ นี่ขนาดส่ง swp กับเบลลามี่ลงมาลากแล้วนะ ข้างสนามยังปรากฏชื่ออย่าง มาร์ติน เปตรอฟ อย่างโรบินโญ่ ที่สามารถลงมาสร้างฝันร้ายทางริมเส้นได้หนักหน่วงไม่แพ้กันอีกต่างหาก เหตุผลข้อนี้ทำให้มันชินี่เลือกที่จะดร็อปความสำคัญของเกมรุกและการครอบครองบอลตรงกลางสนามลงมาหน่อยเพื่อเน้นไปที่การขึ้นเกมริมเส้นให้มากขึ้น จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:34:08

ความคิดเห็นที่ 3 เหตุผลที่สองของความพ่ายแพ้ต่อซิมเปิ้ลแพลนนี้ ก็คือ คู่เซ็นเตอร์ของเรา ปกติคู่เซ็นเตอร์ของเราจะมีตัวชนหนึ่งตัวคือวิดิช ที่อ่านทิศทางลูกกลางอากาศได้ขาดวิ่น (ยกเว้นลูกที่แพ้ตอร์เรส) และชนได้ทุกคน กับอีกตัวเป็นตัวรองที่อ่านทางบอลภาคพื้นและทิศทางเกมได้ขาดวิ่นเช่นกันคือริโอ เฟอร์ดินานด์ สองตัวเลือกนี้ในยามไม่เจ็บไม่ไข้ ต่างพากันยืนหยัดเป็นปราการเหล็กมาช้านานจนเริ่มถูกโรคภัยไข้เจ็บมาพรากไปในช่วงหลังๆ ทำให้ช่วงนี้ต้องเปลี่ยนมาเป็นเทพน้ำตาล กับน้องแวนซ์บอย ซึ่งถ้าเจอเกมไม่หนักมากก็ประคองกันได้ดีอยู่ แต่เมื่อเจอเกมหนักๆ เร็วๆทีไร อาการออกทุกที เกมนี้ถูกวางยาเจาะริมเส้นเร็วตลอดทำให้ตำแหน่งเซ็นเตอร์ต้องถูกถ่างออกมาทางกว้างมากกว่าปกติเพื่อซ้อนฟูลแบ๊ค การป้องกันลูกกลางอากาศจึงอ่อนด้อยลงไปด้วย ที่สำคัญ บราวน์เป็นกองหลังที่อ่านทางลูกกลางอากาศได้ห่วยที่สุดที่เรามีแล้ว หลับตาโหม่งประจำ แถมหลังๆนี่รอบอลตกตลอด (แต่ยังมีดีที่ประสบการณ์และความแข็งแกร่งยังหลงเหลือ) ทำให้ตัวชนต้องกลายเป็นน้องแวนซ์ไป แล้วจับบราวน์มาซ้อน ซึ่งบราวน์ก็ค่อนข้างช้าและกลับตัวอืด สปีดต้นไม่มี นี่คือเหตุผลข้อสองของการเลือกซิมเปิ้ลแพลนของมันชินี่แล้วได้ผลครับ ส่วนเหตุผลข้อที่สามก็คือ ความสามารถและศักยภาพของตัวรุกทั้งสามนั่นเอง มันชินี่ กล้าที่จะให้อิสระแก่ตัวรุกของตัวเองได้ทำหน้าที่เต็มที่ เต็มความสามารถ ไม่ต้องถูกกักขังด้วยระบบและแท็คติค ดังที่เราจะสังเกตเห็นว่าหลายๆครั้ง การออกบอลของมิดฟิลด์ซิตี้ ไปคนละทางกับแนวรุกชนิดทีวีคนละช่อง นั่นผมเดาเอาว่าเพราะอิสระในการเคลื่อนที่แบบไร้กรอบไร้กฎเกณฑ์ของแนวรุกโดยเฉพาะเตเวซที่มันชินี่ล้อฟรีให้ทำได้นั่นเอง ทำให้เพื่อนๆก็คาดเดาได้ยากด้วย เมื่อความเร็วและแข็งแกร่งของปีกสองข้างมาพบกับฟูลแบ๊คที่เติมสูง เมื่อความขยันและอิสระเสรีของเตเวซมาพบกับคู่เซ็นเตอร์สำรองที่ยังต้องถ่างตำแหน่งออกมามากกว่าปกติ แค่นี้ก็สามารถกดแนวหลังทีมเยือนให้พะวงได้ไม่น้อยแล้ว และมันก็ขึ้นอยู่กับแค่ว่า เมื่อไหร่ กองหลังทีมเยือนจะเปิดช่องให้ถูกลงโทษ และเมื่อไหร่ที่แนวรุกเจ้าบ้านจะสังหารได้สำเร็จเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 53 11:34:53 จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:34:22

ความคิดเห็นที่ 4 สำหรับเกมของทีมเยือน ถึงแม้จะมีการครอบครองบอลที่ดี และสร้างสรรค์ไลน์วิ่งการให้บอลได้มาก ประกอบกับพื้นที่ตรงกลางของสนามนั้น ซิตี้ไม่ได้แสดงเจตนาเลยว่าต้องการช่วงชิง เพียงแต่เล่นตามเกมอย่างมีวินัยเท่านั้น ตรงนั้นก็น่าจะทำให้เรามีโอกาสบ่อยขึ้นเยอะ แต่เมื่อการต่อบอลที่ยังคงมีปัญหาอยู่เรื่อยๆ ในจังหวะสุดท้าย รวมกับการเปิดจากกราบที่ยังเข้าเป้าไม่มากครั้ง ทำให้การจบสกอร์ของทีมเยือน ยังคงมีไม่มากอย่างที่ควรจะเป็น แต่กระนั้นก็มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเมื่อวาเลนเซียได้บอลทางขวา ลากหลุดเบลลามี่มาเปิดเรียดเข้าปากประตู ซึ่งคราวนี้แม่นครับ รูนี่ย์ปรี่เข้าชาร์จจ่อๆติดตัวกิฟเว่นทะลักต่อมาถึงกิ๊กส์ที่แปเผาขนไม่เหลือซาก ส่งให้เจ้าบ้านช็อกไปก่อนตั้งแต่ยังไม่ยี่สิบนาทีของเกม และเท่ากับเป็นการจุดประกายความเดือดของเกมไปโดยปริยายด้วย เกมจากนั้น ซิตี้โหมบุกหนักขึ้น แต่ยังเน้นไปที่การออกบอลเร็วทางริมเส้น หรือการเปิดออกทางกว้างอยู่ดี ซึ่งมันก็ยังได้ผลมาตลอด เบลลามี่สามารถจี้เข้าหาราฟาเอลได้ทุกครั้ง ซึ่งเจ้าหนูก็ต้องงัดสารพัดกลยุทธ์มาป้องกัน และหลายต่อหลายครั้ง ที่เป็นการสกัดได้ในจังหวะสุดท้ายชนิดแฟนๆใจหายใจคว่ำว่าจะหลุดไหม ส่วนทางเอวร่า นอกจากจะมี swp คอยกดดันแล้ว มันชินี่ยังเพิ่มทางเลือกด้วยการให้ริชาร์ดส์ที่เร็วเป็นจรวดอีกคน เติมมาช่วยทางนี้ และถอยก็องปานีลงไปซ้อนตำแหน่งแทนเป็นพักๆ เมื่อเอวร่าเจอไม้นี้เข้าไปก็ถึงกับไปไม่เป็นเหมือนกัน กิ๊กส์ต้องลงไปช่วยบ่อยๆ และนั่นก็เท่ากับลดทอนความน่ากลัวทางริมเส้นฝั่งซ้ายลงไปไม่น้อย เช่นเดียวกัน เมื่อราฟาเอลถูกเบลลามี่กดหนักเข้า วาเลนเซียก็ต้องลงมาช่วยซ้อน ซึ่งแน่นอนครับ เมื่อถอยลงมาก็ย่อมเจอแบ๊คเขา (น่าจะเป็นซาบาเลต้า) ช่วยเติมกดเข้าไปอีกดอก หลังๆจึงกลายเป็นว่าผมนั่งดูรถแข่งของซิตี้วิ่งทางกราบสองข้างอย่างเมามัน จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:35:14

ความคิดเห็นที่ 5 จากจุดนี้เอง ที่ส่งให้ซิตี้ได้ประตูตีเสมอ ช่วงท้ายครึ่งแรกเมื่อเตเวซได้บอลทางกราบซ้าย เบลลามี่ชิงจังหวะสลัดหลุดราฟาเอลได้ ราฟาเอลยังรีรอว่าจะตามเบลลามี่ดีหรือจะดักทางบอลเตเวซดี ซึ่งความลังเลแค่เสี้ยวนั้นเองครับ เบลลามี่สอดตัดเข้าในพร้อมกับเตเวซจ่ายแทงเข้าไปพอดี ราฟาเอลจึงต้องกวดตามเบลลามี่ซึ่งออกตัวไปก่อนแน่นอนว่าเจ้าเงาะไล่ไม่ทัน ราฟาเอลจัดการเหนี่ยวสองสามจังหวะต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนเข้ากรอบโทษจนไปจะแจ้งให้เบลลามี่เสียจังหวะอีตอนเข้ากรอบพอดี จบข่าว เตเวซเลยอาสาสังหารจุดโทษสุดแรงเกิดตาข่ายแทบขาด ชนิดที่เรียกได้ว่า ยิงอุดปากเต็มๆนั่นแหละครับ และจากตรงนั้นจนล่วงสู่ครึ่งหลัง ยูไนเต็ดก็ยังทำอะไรได้ไม่ถนัดนักนอกจากจังหวะฉาบฉวยที่ดันฉวยเอาไว้ไม่ได้ ทั้งรูนี่ย์ และกิ๊กส์ ส่วนหนึ่งก็คงต้องบอกว่าการทิ้งหน้าเป้าแบบนี้ ช่วยให้แผงหลังซิตี้จัดการงานได้ง่ายขึ้นทั้งๆที่เป็นหลังออกแนวเฉพาะกิจ ตัวป่วนไลน์จริงๆก็มีเพียงรูนี่ย์และกิ๊กส์เท่านั้น ซึ่งไม่สามารถกดดันแนวรับเขาได้มากพอ ยิ่งกลับมาเสมอเร็วตั้งแต่ครึ่งแรกนี่ก็เท่ากับซิตี้ยังไม่กดดันอะไรมากเท่าไหร่ การเล่นในครึ่งหลังจึงกลับมาเท่ากันและโมเมนตัมของซิตี้ดูจะดีกว่าด้วยซ้ำ เมื่อราฟาเอลเหมือนจะฝังหุ่นกับช็อตลูกโทษซะจนมุ่งมั่นจะแก้ตัวจนดูฝืนตัวเองไปหลายช็อต ทั้งรีบยิง รีบจ่าย สำหรับทางมิดฟิลด์ทีมเยือนซึ่งดูเหมือนถูกผู้เล่นซิตี้ให้อิสระในการครอบครองบอลทำเกมตามสมควร โดยไม่ได้เน้นเพรสซิ่งหนักหน่วงมากนัก ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าเราทำเกมได้เรื่อยๆ แต่ความจริงคือเขาปล่อยให้เราทำเกมได้ตรงนี้ได้แค่นี้มากกว่าหรือไม่ สังเกตดีๆจะพบว่า ส่วนใหญ่ที่เราทำได้คือจ่ายขวางสนาม ออกปีก ทะลุเข้าไปแล้วตบกลับออกมา ส่วนใหญ่ก็ประมาณนี้ ไม่สามารถสอดทะลุเข้าไปเล่นสวยๆได้ แต่ที่สำคัญก็คือ การที่ซิตี้ไม่ได้เน้นการขึ้นบอลตรงกลางมันทำให้มิดฟิลด์เราที่มีถึงสามตัวต้องเสียประโยชน์จากการสกรีนเกมรับไปด้วย เพราะบอลไม่ได้ผ่านมาให้ได้ตัดเกมเลย มีแต่วิ่งตามลงไปช่วยหน้ากรอบเท่านั้น ยิ่งมันชินี่นั้นครึ่งหลังได้เน้นให้ลูกทีมซัดเกมริมเส้นหนักขึ้นอีก และพยายามเปิดเข้ากลางให้ได้บ่อยๆ ทั้งเรียดทั้งโด่ง คงเห็นแล้วว่าแนวรับเรานั้นยิ่งกดยิ่งหลวม ส่วนกลางรับเราก็ถูกตัดออกจากเกม โดยเฉพาะการยืนตำแหน่งป้องกันลูกกลางอากาศที่เป็นต้นเหตุการเสียประตูที่สองนั่นเอง จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:35:32

ความคิดเห็นที่ 6 การได้เตะมุมแบบนันสต็อปของซิตี้ แสดงให้เห็นว่าแนวรับเราจิตตกและออกอาการพอสมควร จนลูกที่เสียประตูนี่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การยืนตำแหน่งมีปัญหาจริงๆ บอลถูกน้าซาร์เคลียร์ออกมาจากปากประตู แต่แถวสองไม่มีใครเข้ากดดันผู้เล่นซิตี้ทัน ปล่อยให้เปิดกลับเข้ามาเสาสองง่ายมากๆ ซึ่งยิ่งแย่หนัก เมื่อไม่มีผู้เล่นเราคนไหนคุมพื้นที่ที่ก็องปานีค้ำอยู่เลย ก็องปานีแปบอลย้อนกลับเข้าไปกลางประตู เอาอีกแล้ว เหลือแค่เอวร่าที่อยู่ห่างบอลพยายามเหยียดเท้าสุดฤทธิ์เพื่อจิ้มทิ้ง แต่เตเวซที่อยู่ตรงนั้นพอดีได้เหลี่ยมดีกว่า ใกล้กว่า จึงขวิดเต็มหัวเข้าไปง่ายๆ ลูกนี้ เอ่อ... เซ็งเป็ดครับ เป็นการป้องกันลูกเตะมุมของยูไนเต็ดที่ย่ำแย่ที่สุดที่ได้ดูมาเลยครับ คือหลงตำแหน่งกันวุ่นวายไปหมด พอบอลถูกป้อนกลับมาถึงก็องปานีที่ไม่มีใครคุม ก็แห่กันกรูกันเข้ามาปิดสองสามคน แทนที่จะให้เสียงกันก็ไม่มี ทำให้พอก็องปานีเปิดกลับเข้าไปใหม่ทีนี้เลยว่างเลย ไม่รู้จะโทษใครครับ เอาเป็นว่าโทษความซวยแล้วกัน ว่าแผงหลังตัวหลักดันมาเจ็บไปหมดแบบนี้ ทำให้ตัวที่ลงมายังคงหลงๆกันอยู่ แถมไม่มีผู้นำคอยสั่งงานแผงหลังให้เข้าใจกันด้วย หลังจากนั้น การเปลี่ยนตัวทยอยเกิดขึ้นโดยทีมเยือนต้องแลกแล้ว ส่งโอเว่นลงมาแทนแอนนี่ เพื่อเติมกองหน้าแล้วปรับมา เป็น 4-4-2 ซึ่งเกมดีขึ้นทันตาเห็น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะซิตี้ก็ผ่อนเกมลงไปเหมือนกัน และเริ่มเล่นแบบไม่เสี่ยง และนั่นยิ่งทำให้ผมเสียดายหนักมากขึ้น เพราะพอเราได้บุกจริงๆจังๆกดให้ซิตี้เล่นรับเต็มตัว เรากลับทำได้ดีกว่ามากๆ และเกือบจะบวกสกอร์ได้หลายต่อหลายครั้งจากรูนี่ย์, โอเว่น, วาเลนเซีย หรือดิยุฟที่ถูกส่งลงมาแทนราฟาเอลในช่วงนาทีท้ายๆก็ตาม นี่คืออีกจุดที่ส่งให้เราได้คิดเล่นๆว่า หากเราเน้นเกมรุก มีกองหน้าสองตัวแต่แรก ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร จะแตกต่างจากนี้ไหม ก็อย่างว่านะครับ หากเราเล่นแบบนั้น ซิตี้ที่มากลางสามตัว อาจหันมาเน้นการช่วงชิงพื้นที่ตรงกลางก็ได้ มันก็แล้วแต่จะคิดกันไป เพราะการคาดการณ์ล่วงหน้าก่อนเกมมันยากกว่ามาพูดหลังเกมไม่รู้กี่ร้อยกี่พันเท่าครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:35:45

ความคิดเห็นที่ 7 สำหรับรายละเอียดการเปลี่ยนตัวต่อจากโอเว่น ก็มีการถอดวาเลนเซียออก เติมสโคลส์ลงไปแล้วถ่างเฟล็ทเชอร์ออกทางทางกว้างแทนวาเลนเซีย ทั้งนี้น่าจะเพื่อเน้นการถ่ายบอลเร็วไปยังที่ว่าง และเพิ่มโอกาสยิงไกล ซึ่งตอนนั้นซิตี้พยายามปิดเกมเต็มที่จนพื้นที่หน้ากรอบแทบไม่มีจริงๆ แต่อย่างไรก็ตาม กิ๊กส์, โอเว่น และรูนี่ย์ยังคงปั่นป่วนแนวรับซิตี้ได้อย่างเมามันชนิดมีลุ้นตลอด การทำชิ่งให้บอลของสามคนนี้เรียกว่ามันได้ใจจริงๆ แถมการเปลี่ยนตัวสุดท้ายเอาดิยุฟลงมาแทนราฟาเอลนี่ก็เพิ่มดีกรีความลุ้นได้อีก เปิดเข้าไปหน้ากรอบแต่ละลูก ชิ่งทะลุเข้าไปแต่ละลูก แหม...ถ้าเราเสียประตูที่สองเร็วกว่านี้ก็คงมันครับ เพราะดูแววแล้ว กดอย่างนี้อีกไม่นานน่าจะได้เห็นประตูกันมั่ง (แต่ไม่รู้ฝั่งไหนนะ เพราะเขาได้สวนด้วย เพียงแต่ว่าไม่เน้นสวนมายิง) แหม..แต่อย่าว่ายังงั้นยังงี้เลยนะ เกมนี้ ท้ายเกมกิฟเว่นเป็นพระเอกนะครับ โชว์เทพไม่รู้กี่ลูก ส่วนการเปลี่ยนตัวของมันชินี่ก็น่าคิดตามครับ นี่แสดงให้เห็นว่ามันชินี่นั้น มีแนวคิดและวิธีการจัดการเกมที่ดีกว่ามาร์ค ฮิวจส์มากนัก จังหวะเวลาการเปลี่ยนตัว รายละเอียดการกำหนดทิศทางเกมและสั่งงานนักเตะข้างสนาม รวมทั้งดีเทลการเปลี่ยนตัว ผมว่าอนาคตไกลทีเดียวนะ ที่แพ้เอฟเวอร์ตันก่อนหน้านี้น่าจะเป็นเพราะช่วงนั้น เล่นในบ้านเขาและทอฟฟี่พอดีว่าของเขาแรงกว่าเท่านั้นเอง มันชินี่เริ่มเปลี่ยนตัวด้วยการถอดโบยาต้าออก แล้วส่งโอนูฮาลงมา เป็นการขันน็อตแนวรับให้แน่นขึ้นไปอีกระดับ ตามมาด้วยการเก็บความสดเตเวซไว้บ้าง โดยถอดออกมาแล้วแทนที่ด้วยเบนจานี่ จุดประสงค์หลักน่าจะเป็นการทิ้งไว้ค้ำกองหลังทีมเยือนและเก็บบอลรอเพื่อนจากการวางยาวเมื่อตัดการครองบอลยูไนเต็ดได้ ซึ่งตรงนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นแต่ก็ถือเป็นการเปลี่ยนเกมที่ดีถึงแม้เบนจานี่จะน่าผิดหวังไปหน่อย แต่ก็ได้เก็บเตเวซไว้ใช้งานต่อนัดหน้าด้วย ปิดท้ายด้วยการส่งซิลวินโญ่ลงมาเพิ่มแนวรับแทน swp หลังจากเห็นกิ๊กส์, รูนี่ย์ และเอวร่า เริ่มป่วนแผงหลังได้น้ำได้เนื้อขึ้นเรื่อยๆ จบเกมด้วยชัยชนะของซิตี้ และบีบให้ยูไนเต็ดต้องชนะสถานเดียวในเกมหน้า จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:36:06

ความคิดเห็นที่ 8 มุมมองที่มีต่อเกมนี้นั้น ผมคงพูดอะไรไม่ได้มากไปกว่า สกายสปอร์ตส์ นั้น แฟนบอลเขาโหวตให้กิฟเว่นเป็น MOM นะครับด้วยคะแนน 8.5 เหนือกว่าเตเวซที่ได้ 8.0 ทั้งที่ยิงสองลูกเสียอีก ลำดับสามของซิตี้คือ เบลลามี่ที่ 7.0 คะแนน ตามด้วยเดยองก์ที่ 6.9 และก็องปานีที่ 6.8 ส่วนทางฝั่งยูไนเต็ด คนที่ได้คะแนนโหวตสูงสุดคือรูนี่ย์ที่ 7.8 ประมาณพูดได้ว่าถ้ากิฟเว่นไม่เทพขนาดนี้ งานนี้เราคงไม่แพ้ รองลงมาก็คือ 6.9 ของเอวร่า และตามด้วยกิ๊กส์ที่ 6.7 วาเลนเซียตามมาติดๆเท่ากับน้าซาร์ที่ 6.4 โอเว่นยังได้ถึง 5.5 ทั้งๆที่เพิ่งลงไม่นาน ฝั่งซิตี้ที่ย่ำแย่ก็มีเบนจานี่นี่แหละ ที่มีเวลาไม่กี่นาทีแต่ดันทำซะ 4.4 สำหรับตัวจริงที่ได้น้อยก็มี โบยาต้าที่ 5.6 แต่ทางด้านทีมเรา ราฟาเอลฟันไป 5.0 แอนนี่ 5.3 คู่เซ็นเตอร์เท่ากันที่ 5.4 คาร์ริคเอาไป 5.6 เฟล็ทช์ 5.8 ซึ่งทั้งหมดยังไม่ใช่คะแนน official from sky sports นะครับ แต่เป็นคะแนนที่ให้แฟนโหวตเข้ามา ณ เวลาประมาณ 10 โมง ถ้าคุณๆทั้งหลายเข้าไปดูตอนนี้ คะแนนอาจจะเปลี่ยนไปแล้ว ลองไปดูได้ที่นี่ครับ http://www.skysports.com/football/user_ratings/0,19768,11065_3234657,00.html สำหรับทรรศนะผมต่อรูปเกม ก็คงต้องบอกว่า เราตื่นสายไปหน่อย กว่าจะเล่นเข้าที่เข้าทางต้องรอให้โดนนำนี่มันแบบว่า ช้าไปหน่อยไหม ยิ่งปีนี้ เกมไหนโดนนำนี่แทบทำใจล่วงหน้าได้เลยว่าโอกาสแซงน้อยมากๆ  ตรงนี้พูดได้เลยว่าตรงข้ามกับสมัยปี 95-99 ที่ตอนนั้นผมชอบให้ยูไนเต็ดโดนนำหรือยิงไม่ได้ก่อน แล้วครึ่งหลังป๋าจะพลิกเกมกลับมาแบบสะใจได้แทบตลอด มีน้อยมากที่พลิกไม่ขึ้น อย่างน้อย รูปเกมจะดีขึ้นแบบหยังคนละม้วนเลย แต่ตอนนี้ไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว นี่เกมนี้ยังดี ที่เราสามารถเรียกแพสชั่นเก่าๆ ความกระหายเดิมๆให้กลับมาได้ แม้จะเพียงแค่สิบห้านาทีสุดท้ายของเกม ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย อย่างน้อย มันก็ยังทำให้แฟนๆได้ชื่นใจ ได้ลุ้น และยังคงหลงเหลือสปิริตเดิมๆของทีมไว้บ้าง สิบห้านาทีสุดท้ายนี่แหละคือยูไนเต็ดที่ผมหลงรัก แม้จะยิงไม่ได้ แต่การปูพรมโหมเข้าใส่คู่แข่งแบบไม่ให้หายใจหายคอแบบนี้นี่แหละ คือเสน่ห์แห่งยูไนเต็ดที่แฟนๆทั่วโลกหลงหัวปักหัวปำ หวังว่า ป๋าจะรักษาแพสชั่นนี้ให้คงอยู่กับทีมได้ต่อไปนะครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:36:23

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วเรามาลุ้นกันต่อนะครับ สงบใจ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:36:41

ความคิดเห็นที่ 10 เผื่อไว้สำหรับคำถามเกี่ยวกับเตเวซที่อาจจะมีในกระทู้นี้ได้ไม่ยาก ผมออกตัวไว้ก่อนเลยว่า ส่วนตัวแล้ว ผมเชียร์เตเวซมากกว่าเบอร์บาตอฟนะ ตอนที่ต้องเลือกผมเองยังเชียร์ให้เลือกเตเวซ เพียงแต่เมื่อมันไม่เป็นไปตามที่คิด เราจะทำอะไรได้มากไปกว่าทำใจ และเชียร์ต่อไป ส่วนการตำหนิเตเวซนั้น แฟนๆผีที่ตามข่าวทีมมาโดยตลอดก็คงตำหนิไปตามเนื้อผ้าและตามสิ่งที่ได้รับรู้มาโดยตลอดตั้งแต่ต้นซีซั่นก่อน เพราะทางสโมสรก็ยืนยันและเตเวซเองก็เคยให้ข่าวในช่วงต้นซีซั่นว่า เขาทราบว่ามีข้อเสนอจากกิลล์แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้สวยและเขาให้เอเย่นต์เป็นคนคุย หวังว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี แต่สุดท้ายในช่วงปลายๆซีซั่นกลับบอกว่าสโมสรไม่เคยยื่นข้อเสนอให้ ทำตัวเหมือนคนนอกครอบครัว มันจึงน่าเคลือบแคลงในจุดนี้ไม่น้อย และนี่คงเป็นจุดที่แฟนๆหลายๆคนเลือกที่จะหันหลังให้เขานั่นเอง ในขณะที่อีกหลายๆคน ก็ยังเลือกที่จะจำสิ่งดีๆที่เขาเคยทำให้เรา สำหรับผม เตเวซก็คือคนที่เคยพาเราคว้าแชมป์ แต่ด้วยเส้นทางอาชีพก็ต้องแยกทางกันไป เรื่องส่วนตัวก็คงปล่อยให้เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งไม่มีใครรู้ความจริงนอกจากเจ้าตัว แม้ว่าผมจะไม่ค่อยชอบการให้ข่าวของเขานักก็ตาม สำหรับคำถามว่าเสียดายไหม ก็คงเสียดายในแง่ขาดคนที่ทุ่มเทสุดๆและพร้อมจะเล่นให้เรา (ตามที่เขาพูด) ไปคนหนึ่ง แต่คงไม่เสียดายขนาดว่าเราคิดผิดไหมที่ปล่อยเขาไป เพราะเตเวซนั้นต้องเล่นกับกุนซือแบบนี้แหละ คือมีอิสระและเล่นตามไอเดียตัวเอง ซึ่งเรื่องนั้นค่อนข้างยากในยูไนเต็ดโดยเฉพาะเมื่อตอนที่เรามีพวกเดายากอย่างโรนัลโด้คนหนึ่ง กับอาร์ตตัวพ่ออย่างเบิร์บอีกคน จะให้มีอิสระเต็มที่ในทีมคงเป็นไปไม่ได้ เพราะมันจะทำระบบทีมเรารวนแน่ๆ การมีเตเวซในทีมเรายุคนี้ เขาก็คงไม่สามารถร่ายเพลงเตะได้อย่างที่เขาทำกับซิตี้ ดังนั้น เมื่อเขาได้อยู่ในที่ที่เขาจะทำผลงานสุดยอดได้ ก็ดีที่สุดแล้วสำหรับทุกฝ่าย เพราะอีกประเด็นหนึ่งก็คือ ค่าตัวมหาศาลนั่นเอง ในมุมของยูไนเต็ดที่เราควักค่าเช่าจ่ายให้ตาเคียไปแล้วตั้งเท่าไหร่ พอจะซื้อขาดดันไม่มีส่วนลดให้ต่อรองเลย แถมต้องมาสู้ราคากับทีมเงินถุงเงินถังทีมอื่นๆด้วย นี่คงเป็นสาเหตุหลักอีกข้อที่ต้องจำใจปล่อยเขาไปด้วย นอกจากเรื่องที่ว่าเตเวซคงไม่สามารถร่ายฟอร์มเทวดาได้ที่นี่ เพราะในสายตาทีมงานตั้งแต่ปีที่แล้วมา เตเวซก็ไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆในการลงสนามอยู่แล้ว จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:36:58

ความคิดเห็นที่ 11 ลงชื่อรับฟัง จากคุณ : Sorn มาคับ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:05:54

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณค่ะ คุณสงบใจ อ่านแล้วสบายใจกว่าบางความเห็นข้างนอกเยอะเลย เมื่อคืนเกมมาเริ่มสนุกหลังจากที่กิกซ์ยิงประตูแรกนี่แหล่ะ เกมสนุกดีทำให้เวลาผ่านไปเร็วมาก เสียงเชียร์ซิตี้หนิดังดีแท้ ปีนี้ดาร์บี้แมนเชสเตอร์เดือดขึ้นเยอะเลยจากที่ไม่มีอะไร เตจังยิงทีมเก่าได้แล้วก็ดีนะคะ ไม่งั้นคงค้างในใจเค้าไปอีกนานเลย จากคุณ : GiggsScholes เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:21:59

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณเจ้าของทู้ และเห็นด้วยเรื่องเตจัง แต่เราเลือกข้างป๋า หลายครั้งที่เขาให้สัมภาษณ์ไม่ค่อยจะน่าฟังเท่าไหร่ แต่จากไปแล้วก็เฉยๆ นะ เห็นเขาไปได้ดีก็ดีใจด้วย จากคุณ : ผักทอดยอด เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:33:32

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีครับ  คุณสงบใจและผองเพื่อนปีศาจแดง เกมนี้  เป็นอีกเกมที่ไม่สามารถฝืนขึ้นมาดูได้ เพราะกว่าจะนอนก็ตีหนึ่งแล้ว   ไม่ตั้งนาฬิกาปลุกด้วย  เพราะผมถือว่ายังไม่ใช่นัดที่สำคัญนัก เพราะยังเหลือนัดในบ้านเราอีกนัดหนึ่งที่จะตัดสินผล ตื่นขึ้นมาเช็คผลดู  อืมม  แพ้ 1-2 ก็ไม่ประหลาดใจเท่าไหร่นัก  ทั้ง ๆ ที่ใจอยากให้เสมอก็ตาม ผมว่าแพ้นัดนี้  อย่างน้อยก็เป็นผลดีที่ทำให้นัดหน้าป๋าต้องเอาจริงแล้ว ต้องเล่นเกมรุก(ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งที่สุดของทีมเรา) ยังเชื่อว่าป๋าจะสามารถกระตุ้นนักเตะของเราให้เกิดความฮึกเหิมได้ และลงเล่นด้วยหัวใจเต็มร้อยจริง ๆ (ผิดกับนัดที่ผ่าน ๆ มาที่เล่นเหมือนไม่ค่อยรู้สึกรู้สาอะไรนัก) และส่วนตัวผมก็ยังเชื่อว่า ทีมเราจะได้ผลการแข่งขันที่น่าพอใจสำหรับกองเชียร์ปีศาจแดงแน่นอนครับ จากคุณ : ขุนไกรครับผม เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:39:19

ความคิดเห็นที่ 15 ชัดเจนมากครับ จากคุณ : เรือแจวสีฟ้า เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:41:23

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยชัดเจนเรื่อง สิบ หรือ ยี่สิบนาทีสุดท้าย ยิ่งช่วงทดลานี่ ไช่เลย ยูไนเต็ด บีบหัวใจมาก ถึงแม้จะแพ้ แต่เห็นนักเตะเล่นกันงี้ก็สบายใจ(ปล. นอนไม่หลับคับ นั่งง่วง อยู่เนี่ย) ตอนนี้ผมกำลังสับสนครับว่าชื่อจริง ราฟาเอล นี่จะไช่ ราฟาเอล ดาซิลแวส รึป่าว เหอๆ ปล่อยหลุดทีไร ยอมทำฟาวล์แบบ ว่า อย่าทำดีกว่า ตลอดเลย ส่วน เรื่องกองกลางนั้น ผมว่า ลงมาสามตัว มันเหมือนกับ เอาไปยืน ค้ำ กลาง สองตัว(เฟลช กับ คาริก) แล้ว ปล่อย แอนเดอร์สันเป็นหน้าต่ำ มากกว่า ผมว่า ป๋า จัดมางี้ เหมือน จะให้แอนไปช่วยหมูรูน แต่กลับล้มเหลว อีก จุดวันนี้ เอฟร่า เล่นไม่เข้าฟอร์มเลย คือไม่ไช่ไม่ดีนะครับ เล่นดี แต่ไม่ไช่ที่สุดของเค้า อ่ะครับ แล้ว ลูกที่รูนกระชากเข้าซ้าย แต่ตัดสินใจยิงด้วยขวา(หัวเกือก) เนี่ย งงครับ รูนนี่เคยยิงเท้าซ้ายเต็มข้อให้เห็นหลายครั้ง แต่ช่วง หลังๆนี้เหมือนเล่นซ้ายไม่เป็นซะแล้ว - -" เหอๆ พูดมากแล้ว แค่นี้ก่อนดีกว่าครับ ปล. ช่วงนี้ จะนอกบ้านหรือในบ้าน ไม่เห้นมันจะต่างกันเลยครับ....ฟอร์มการเล่นน่ะ จากคุณ : นานๆ จะพูดกับเขาบ้างอ่ะครับ (Doxman13) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:48:18

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องพักร้อน รับทราบครับ ขอให้ทั้งคุณแม่และคุณลูกแข็งแรง และปลอดภัยครับ ส่วนเมื่อคืน...ไม่ได้ดูครับ จากคุณ : next station เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:01:28

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณสำหรับ บทความดีๆ ครับ อยากให้แมนยูเล่นแบบช่วงท้ายเกมส์ ตั้งแต่นาทีแรก รูนี่ลุยใส่ แบบหมูป่า บ้าพลัง เราเคยสงสัยว่า รูนี่ มันเก่งจริงๆเร้อ แต่เห็นมันเล่นช่วงท้ายเกมส์ ที่ทุ่มเททั้งชีวิต ใช้ทุกทักษะที่ตัวเองมี บุกตะลุยเดี่ยว แหวกกองหลัง เข้ัาไปทำประตู นี่เป็นรูนี่ที่ผมอยากเห็นมาตลอด ถามว่ารูนี่มันเก่งจริงมั้ย ไม่เก่งหรอก แต่นับถือใจมัน ผมอยากให้มันคิดว่า มันเป็นรูนี่หมายเลขแปดอีกครั้ง หมายเลขแปดที่ในหัวมีแต่คำว่า "บุกไปข้างหน้าเท่านั้น" "ใครขวาง ชนไม่เลี้ยง" ดั่งเช่นที่มันแสดงให้เห็นช่วงท้ายเกมส์ แค่นี้ก็เพียงพอที่จะกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมให้สู้ไปกับมันแล้ว สังเกตมั้ยครับ พอรูนี่แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณนักสู้ เพื่อนร่วมทีมก็พร้อมจะต่อสู้ร่วมไปกับเขาแล้ว ทุกคนกลับมาคิดได้ทันทีว่า "We are united again" แล้วก็บุกขึ้นไปทั้งแผง ถึงแม้จะตีเสมอไม่ได้ แต่ก็ได้ใจผมและแฟนบอลไปเต็มๆ จากคุณ : benher เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:29:29

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีครับคุณสงบใจ เมื่อคืนแพ้แต่ไม่ค่อยเสียใจเพราะเหลืออีกนัดในบ้าน  แต่ที่รู้สึกแปลกคือ การเล่นของทีม  ในช่วงท้าย  ที่แทบไม่ค่อยได้เห็นเลยในฤดูกาลนี้  ซิตี้ ช่วงท้าย  แพ็คเกมส์รับ อย่างเดียว  เหมือนเตะบอลอัดกำแพง  เพราะแมนยูโหมเข้าใส่ตลอด ดูแล้วมีความสุขในรูปเกมส์  แต่ก็อดเสียดาย กับการยิงลูกที่2ไม่ได้ แต่อย่างว่ากองหน้ายิงไม่ได้ก็ต้องมีเสียงตำหนิ ถึงรูนี่ย์จะยิงไม่ได้แต่ผมว่า  รูนี่ย์เล่นได้ดี ขาดแค่ประตู   เพราะทุกครั้งทีรูนี่ย์ได้บอล แทบจะหันหลังให้กับโกล์ แต่สามรถพา บอลไปจบในจังหวะสุดท้ายได้ตลอด  ทั้งที่เลี้ยงจี้เข้าไปในกรอบและ ยิงดีดๆ    ผมว่าวันนี้รุนี่ย์ อาศัยการพาบอลลากเข้ามาเองและทำได้ค่อนข้างดี ผมว่า วาเลนเซีย เริ่มรู้จักจังหวะการเล่นมากขึ้น  และน่าจะปรับตัวได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แผงหลังนัดนี้ผมว่าโอเคนะ ไม่รั่วน่าเกลียดเหมือนนัดก่อนๆ ทั้งที่ก่อนแข่ง คิดว่าต้องเจอตัวคล่องๆเร็วๆอย่าง ไรท์ ฟิลิป เบลลามี่ เตเวซ น่าจะไปแน่ แต่เล่นได้มั่นคง  ผมก็ยังยืนยันว่าชอบอีแวนส์เล่น กิ๊กส์ลงลูกตั้งเตะค่อนข้างน่ากลัวขึ้นมากเลย  กิ๊กส์ผมคิดว่าทำหน้าที่ค่อนข้าง โอเคนะกับวัยขนาดนี้ เห็นคนว่า แอนเดอร์สันแต่ผมชอบนะเพราะ ถึงจะไม่มีทีเด็ด ในการ จ่ายแบบเด็ดขาด แต่ถ้ามองในแผลงมิดฟิลด์ แอนเดอร์สัน ตัดเกมส์ได้ดี และฟาวล์ฉลาด และมีความสามารถที่จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ และที่ค่อยหายห่วงคือเรื่องส่งคืนหลังตั้งแต่มี น้าซาร์มา รู้สึกใจชื่นขึ้นมาหน่อย ช่วงนี้ ถ้าใครสังเกตุอาวุธเด็ดท่านเซอร์จะเห็นนะครับ การวางยาวของ เวส บราวน์  ซึ่งก็ถือว่าแม่นมากถ้าเทียบกับการเปิดบอลยาวของกองหลัง   อันนี้ผมคิดเอาเอง5555 ยังไงก็ลุ้นกัน ต่อไปครับ ในนัดหน้า ส่วนนัดนี้ผมชอบรูปแบบการเล่นที่ดูไม่สะเปะสะปะเหมือนครั้งก่อนๆ และ กดดันคู่แข่งได้ดี หลังจากที่ทีมโดนนำและเนือยๆทุกที  การวิ่งเข้าหาบอลและโหมใส่คู่แข่งเมื่อถูกนำนี่แหละคือจุดเด่นของแมนยู  ถึงจะแพ้ ก็ตาม จากคุณ : จูล่งแห่งเสียงซาน เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:32:04

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณครับ จากคุณ : นายคิ้วเข้ม เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:43:34

ความคิดเห็นที่ 21 นัดหน้าชนะ 1-0 ได้เข้ารอบเลยไหมครับ จากคุณ : น้องน้ำเพชร เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:54:10

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่รู้กี่นัดแล้วที่ไม่ได้เห็นแมนยูฯ เล่นเหมือนแมนยูฯ แต่นัดนี้เล่นพยายามได้ใจไปเต็ม ๆ ถึงจะแพ้ก็มีความสุข จากคุณ : forcez เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:59:20

ความคิดเห็นที่ 23 ผมก็ชอบแนวทางการเล่นของรูนี่ย์ช่วงสิบห้านาทีสุดท้ายเหมือนกันครับ ไม่พูดมาก ไม่โวยวาย ก้มหน้าก้มตาลุยแหวกเข้าไป นี่สิเกือบจะเป็นรูนี่ย์คนเดิมแล้ว เหลืออย่างเดียวก็คือถึงเวลายิงต้องยิงครับ ช่วงหลังๆไปเน้นแต่งจังหวะมากเกินไปหน่อย หลายครั้งกลายเป็นทำให้เสียจังหวะยิงไปเสียฉิบ ส่วนเรื่องแผงหลังโดยภาพรวมรั่วน้อยลงจริงครับ แต่จังหวะโดนเจาะกราบนี่น่าห่วงมาก เอวร่าอย่างที่บอก ถูกกดดันจนฟอร์มนัดนี้ดร็อปลงไปพอสมควร ขึ้นไม่สุดเท่าที่ควร ขึ้นแล้วไปกั๊กไลน์ครึ่งๆกลางๆกับกิ๊กส์ ทั้งๆที่เมื่อก่อนสองคนนี้เติมกันสอดหลังกันมันจะตาย แต่เกมนี้กลับให้บอลกันกั๊กๆยังไงไม่ทราบ ข้อสังเกตแผงกลางเหมือนที่ผมเขียนมาครับ กลางตรงกลางสองคนคือคาร์ริคกับเฟล็ทช์ มีแอนนี่เหลื่อมข้างหน้า เพียงแต่ซิตี้นั้นมาในแท็คติคที่ไม่ได้เปิดให้เราใช้จุดเด่นของกองกลางเราออกมาเต็มที่นัก ได้แต่ถ่ายบอลไปๆมาๆ ช่องจะออกบอลคิลเลอร์พาสหาไม่ค่อยเจอเอาซะเลย แถมการขึ้นบอลของซิตี้ยังไม่ผ่านพืนที่กลางสนามมากนัก ทำให้สามคนตรงกลางของเรามีส่วนร่วมชลอเกมรุกเขาน้อยมากๆ แต่ผมสังเกตเห็นบอลยาวของบราวน์กับเอแวนส์ในนัดหลังๆเหมือนกันครับ ผมยอมรับเลยว่า ถ้าป๋าจะขายวิดิชจริงเนี่ย เลือกขายริโอดีกว่า เก็บวิดิชยืนเอแวนส์น่าจะเวิร์คกว่าในระยะยาวนะ เพราะตอนนี้เอแวนส์ผมว่าเขาพร้อมเป็นตัวเลือกแรกแล้วล่ะ ดีกว่าบราวน์เสียอีก คุณขุนไกรฯครับ สมพรปากครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 14:06:21

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าจำไม่ผิด จะวัดลูกได้เสีย หรือ ประตูทีมเยือนตอนครบ 120 นาทีรึเปล่านะ คุ้นๆว่า ถ้าจบสองนัด นัดละเก้าสิบนาที ยังเสมอ ให้ต่อเวลาก่อน ครบ 120 นาที ค่อยมาดูอเวย์โกล์ ซึ่งถ้าเป็นตามนี้จริงๆแล้ว หากนัดหน้าเราชนะ 1:0 ก็ต้องรอจนจบ 120 นาทีอ่ะครับ ไม่ใช่แค่ 90 นาที ผมจำได้แต่ว่า กติกาถ้วยนี้มันแปลกๆอ่ะครับ สำหรับบอลตัดเชือกสองนัด จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 14:09:29

ความคิดเห็นที่ 25 ผมไม่เสียดายนะ ต่ำแหน่งและวิธีการเล่น ชนกะหมู่รูนย์ ยิ่งเห็นหมูเล่นเมื่อคืนแล้ว โอ รอเวิร์ลคลาส เลยนะนี่ จากคุณ : Achaki Oddy เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 14:11:06

ความคิดเห็นที่ 26 #21 จำว่าถ้าเสมอกัน ต้องต่อเวลาพิเศษ ถ้าต่อเวลาพิเศษแล้วเสมอกันถึงดูอเวย์โกล์ อย่างปีที่แล้ว รอบรอง สเปอร์ นัดแรก ชนะ เบิร์นลี่ย์ 4-1 นัด2 เบิร์นลี่ย์ ชนะ3-0 จบ90 นาทีเสมอ  4-4 ต่อเวลาพิเศษ ไป30นาที แจ็คกี้บอกว่า ถ้าเบิร์นลี่ยืรักษาสกอร์นี้ได้จะเข้ารอบด้วยอเวย์โกล์ แต่ สเปอร์ ดันยิงไปสองลูก หรืออีกปี ที่ อาเซน่อลเตะกับวีแกน  ปี 06 ผมนั่งแช่งอาเซน่อลอยู่ จำได้ นัดแรก วีแกน ชนะอาเซไป 1-0 นัดสอง อาเซเล่นในบ้าน ชนะ1-0 เสมอ1-1 พอ ต่อเวลา30นาที เสมอ 1-1 วีแกนเข้ารอบด้วยอเวย์โกล์2-2 ฃ ปีนั้นแมนยูชนะวีแกนรอบชิง4-0 จากคุณ : จูล่งแห่งเสียงซาน เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 14:14:38

ความคิดเห็นที่ 27 เข้ามาอ่านครับ.... สิบนาทีสุดท้าย  แมนยูบุกสุดยอดมาก  ถ้าเป็นมาร์ค ฮิวจ์อยู่ น่าจะโดนยิงตีเสมอละ แฟนแมนซิติ้ แต่มาอ่านคุณสงบใจบ่อยๆแบบเงียบๆ  ชอบการเขียนเป็นการส่วนตัวครับ... นัดหน้าแมนซิติ้อาจมีบายอร์ และวิเอร่าได้ลงนะครับ  แต่ต้องรอดูก่อนว่าพร้อมยัง แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 53 14:24:04 จากคุณ : yut เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 14:18:16

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีครับ เข้ามาอ่านเช่นเคย ช่วง 15-20 นาทีสุดท้ายคือยูไนเต็ดที่เราๆท่านๆคิดถึงจริงๆครับ ปูพรมบุกแหลก รูนีย์สมัยก่อนก็เล่นเหมือนช่วงท้ายๆแบบนี้แหละ ไม่ต้องลงมาทำเกม ไม่ต้องลงต่ำ ลุยไปยิงอย่างเดียว แต่ก็แอบกังวลกับผลเมื่อคืนนิดหน่อย นัดหน้าเลกสองต้องเหนื่อยแน่ๆ เพราะหลังจากเราเตะกับซิตี้วันที่ 27 แล้วก็ไปเยือนอาร์เซน่อล วันที่ 31 ซึ่งแทบจะแพ้ไม่ได้เลย ดีไม่ดีคืนนี้เหล่าปืนโตจะนำจ่าฝูงด้วยซ้ำไปครับ จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 14:54:04

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณน๊าหงบใจ จากคุณ : anurak_jun เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 14:59:40

ความคิดเห็นที่ 30 สงสารรูนี่ย์ครับ ไม่มีดูโอ้คู่หูขว้างนรกมาช่วยพลิกเกมเร็วๆเลย อืดตลอด เมื่อไรจะมีคนที่เข้าขากับรูนี่ย์ซะทีนะ จากคุณ : qerlic เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:07:39

ความคิดเห็นที่ 31 โอ้ว นัดหน้า มี วิเอร่า บ้ายอ งานหนักชิปเป๋ง!! จากคุณ : whutzy เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:28:23

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณครับ ไม่ได้ดูเมื่อคืน ลืมไปเลยด้วยซ้ำว่ามีเตะ เหนื่อยๆแฮะช่วงนี้ จากคุณ : WiseChocolate เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:38:04

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่อ่านหรอกครับ ยาวเกิน แต่ก็เห็นด้วยครับ ... ยังแก้ตัวได้ ... จากคุณ : Always Red เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:39:01

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณครับ น้าหงบ เชื่อว่า กลับไปเล่นในบ้าน เราคงไม่แพ้แน่ๆ ขอพูดเรื่องเตเบซอีกที ส่วนตัวผมไม่เสียดายเตเบซนะ เพราะถ้าเค้ารักแมน ยู จริง อย่างที่เคยพูด คงไม่มีทางเลือกออกจากทีมหรอก ตอนอยู่แมน ยู ก็เป็นตัวเลือกที่ 3 ที่ได้โอกาสมากกว่า โอเว่นมากนัก ผมไม่ชอบพวกปากอย่างใจอย่างอยู่แล้วด้วย อย่างโรนัลโด้นี่ ชีแมนมาก น่าเสียดายที่ลาทีมเร็วไปหน่อย เค้าเพิ่งอายุ 24-25 เองด้วย จากคุณ : สักวันฉันจะอ้วนกลม เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:41:00

ความคิดเห็นที่ 35 ไม่ได้ดูครับ นัดนี้ คิดไว้แล้วว่า โดนแน่ แต่เห็นหลายๆ เวบบอกเล่นดีกว่าวันเสาร์ ก็คิดว่า นัดหน้า โอกาสจะเป็นของเรามั่ง ยูไนเต็ดสู้ๆ จากคุณ : Sifer2002 เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:41:31

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณ ฮะ ลุงหงบ และ แสดงความยินดดีสำหรับสมาชิกใหม่ล่วงหน้าด้วยครับ จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 16:16:40

ความคิดเห็นที่ 37 สวัสดีค่ะคุณสงบใจและแฟนผีแดงทุกท่าน เมื่อคืนดูไปหลับไป มาตื่นเต็มตาก็ตอนที่โดนยิงแซงนำ เตเบซเล่นซะแล้ว พูดถึงเตเบซ ถามว่าเสียดายไม๊ ก็เสียดายนะ เพราะเขาเป็นประเภทวิ่งสู้ฟัดกัดแหลก แต่ก็ ok ในเมื่อเขาเลือกจะไป ทั้งๆที่มีโอกาสจะอยู่ ก็ตามใจแล้วกัน อีกอย่าง เราก็ไม่รู้ว่ามีอะไรบีฮายด์เดอะซีนหรือเปล่า ช่วง 15 นาทีหลัง เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดเลยอย่างที่หลายๆคนพูดไว้ เห็นด้วยอย่างยิ่ง ไม่ใช่ว่าเป็น 15 นาทีที่ดีที่สุดของเกมส์นี้ แต่เป็น 15 นาทีที่เล่นดีที่สุดของปีนี้เลยก็ว่าได้ ชอบที่รูนี่ย์เล่นแบบนี้ เห็นด้วยที่ว่ารูนี่ย์ไม่ใช่คนเล่นเก่ง แต่เขาเป็นคนขยัน เป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ นี่แหละที่ได้ใจไปเต็มๆ ก็ต้องเชียร์กันต่อไปค่ะ .. ปล.. ยินดีล่วงหน้าค่ะกับน้องใหม่ที่จะเกิด .. ส่วนตัวเองตอนนี้ก็สบายดีแล้วค่ะ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้น้องเสียที ติดยากติดเย็นซะเหลือเกิน.. เฮ้อ.. จากคุณ : รัศมีจันทร์ดารา เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 17:02:07

ความคิดเห็นที่ 38 ฤดูกาลนี้แมนยู มาแปลก นัดไหนเล่นดี แพ้ นัดไหนเล่นงั้นๆ(อ่อนด้วยซ้ำ) ชนะขาดลอย(แถมคลีนชีต) เห็นมั้ยครับ ฟอร์มการเล่น ไม่ไช่ทุกสิ่ง จากคุณ : Doxman13 เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 17:20:36

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณค่ะ ลูกสองขอโทษน้องน้ำตาลได้มั้ย จะวิ่งตามน้องอีฟไปทำม้ายยยย ไม่มีใครเผ้าเตเวซเลย แต่ช่วงสุดท้ายนี่ มีลุ้นเลย เสียดายที่ไม่ได้ลูกตีเสมอ จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 18:41:38

ความคิดเห็นที่ 40 สวัสดีครับ น้าสงบใจ(ขออนุญาตเรียกน้าละกัน) -ส่วนของเกมส์เมื่อคืนไม่ได้ดู(ลุกไม่ขึ้น) แต่เท่าที่อ่านจาก comment ของน้าและ คห. ท่านอื่นๆ คิดว่าคงเป็นอีกเกมส์ที่น่าเสียดายจากผลและฟอร์มการเล่น(ช่วงท้าย)  ตามความเห็นของผมคิดว่าโอกาสนัดหน้า 60 % ที่จะกลับมาได้เนื่องจากสภาพของทีมยามนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ (แม้เล่นในบ้านก็ตามเถอะ) -สำหรับเตเบส ก็ขอแสดงความยินดี และไม่รู้สึกเสียดายนะ เขาคงเหมาะกับทีมนี้มากกว่า ยูไนเต็ด  แต่ทำไมมันยิงถึง 2 ลูกเลยง่ะ (ลูกแรกยังพอทน ไม่อยากคิดถ้านัดหน้าดันยิงที่ โรงละครอีก โอ้ ไม่นะ) - เรื่องพักร้อน ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ล่วงหน้านะครับ แล้วจะรอน้ากลับมาพร้อมกับบทวิพากษ์ดีดีนะครับ จากคุณ : tanioman เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 19:13:25

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณสำหรับบทความค่ะ ป.ล. ไม่ได้หมายถึงในกระทู้นี้นะคะ ทำไมทุกคนชอบว่าแต่พี่น้ำตาลอ่ะ นู๋ว่าอีแวนส์นี่ก็พอกันนะ เห็นมาหลายนัดและ หุหุ แต่อยากบอกว่าไม่เสียดายเตเวสเลย หมั่นไส้มากกว่าไม่อยากให้ยิงทีมเราได้เลย อยากให้เป็นคนอื่นอ่ะ จากคุณ : The SeCreT oF Loving Room เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 19:49:59

ความคิดเห็นที่ 42 15-20 นาทีสุดท้ายนี่แหละแมนยูของแท้จริงเห็นเล่นกันแล้วชื้นใจ จากคุณ : คันโตน่าตาตี่ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 20:23:54

ความคิดเห็นที่ 43 ผมยอมรับเลยว่า ถ้าป๋าจะขายวิดิชจริงเนี่ย เลือกขายริโอดีกว่า เก็บวิดิชยืนเอแวนส์น่าจะเวิร์คกว่าในระยะยาวนะ เพราะตอนนี้เอแวนส์ผมว่าเขาพร้อมเป็นตัวเลือกแรกแล้วล่ะ ดีกว่าบราวน์เสียอีก เห็นด้วยครับ แต่ผมเกรงว่าเฟอกี้จะขายวิดิชน่ะสิครับ เพราะได้ราคาเนื้อๆเน้นๆกว่า น่าจะหลักยี่สิบล้านครับ แล้วไปเอา ซิมอน เคียร์ ในหลักสิบล้านมา ขายริโอตอนนี้ อาจได้ไม่ถึงสิบล้านด้วยซ้ำ เมื่อรวมกับอาการบาดเจ็บเรื้อรัง ก็ได้แต่หวังว่า ถ้าจะขาย คงขายริโอแล้วกันครับ... ปล. อีกอย่างที่น่ากลัวคือ เฟอกี้จัดทีมนัดนี้เต็มสูบ เสมือนเกรงว่าจะไล่เชลซีไม่ทันแล้วหรือเปล่า... แต่มองอีกแง่ เสาร์นี้เจอฮัลล์ในบ้าน คงมีตัวสำรองลงเล่นเยอะแน่ล่ะทีนี้ จากคุณ : vdi เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 21:21:22

ความคิดเห็นที่ 44 ที่หายไป คือ การยิงไกล ครับ ไม่มีเลย พอ บุกไม่ได้ ก็ตัน แต่ รูนีย์ เมื่อคืน ตอนยิงลูกที่ โดนปัด สุดยอดมาก จากคุณ : เทพพิสดาร เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 21:40:28

ความคิดเห็นที่ 45 ลูกสองนี่ ผมเซ็งเวส บราวน์ มากครับ ไม่รู้จะวิ่งไปหาเพื่อนทำไม ปล่อยเค้าไปกันคนเดียวก็พอแล้ว พอน้ำตาลวิ่งไปนอก ข้างในก็ว่าง ไอ้โรควิ่งไปหาเพื่อนจนปล่อยพื้นที่หน้าโกลให้โล่งนี่ เป็นบ่อยมาก กับเวส บราวน์ เนี่ย เซ็ง ... จากคุณ : monboy01 เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 23:01:20

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์ดี ๆ ค่ะ เมื่อคืนดูเกมแบบชิล ๆ เพราะเป็นเกมเหย้าเยือน ยิ่งขึ้นนำก่อนก็ใจชื้นขึ้น ถึงจะเซ็งนิดหน่อยกับลุกตีเสมอและลูกขึ้นนำของอีกฝั่ง แต่ดูทีมเราเล่นช่วงท้ายแล้วมันจริง ๆ ค่ะ  นี่สิที่อยากเห็นมาทั้งเกม กลัวแต่ว่าเกมหน้าจะต้องลุ้นหนักขนาดไหนนี่แหละ  ^^ จากคุณ : Noey :p เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 23:04:04

ความคิดเห็นที่ 47 สวัสดีวันใหม่ครับ ขอแก้เรื่องคาใจเรื่องแรกก่อนเลยนะ ที่ว่า ทำไมอะไรๆก็บราวน์ ทั้งๆที่เอแวนส์ก็พอๆกัน มันมีเหตุผลครับ เอแวนส์เพิ่งได้รับโอกาสลงชุดใหญ่จริงจังปีที่แล้วนี่เอง อายุก็ยังน้อย คือ ถ้าริโอ-วิดิช-โอเช-บราวน์ ไม่เจ็บพร้อมๆกันสองสามคน ก็ไม่มีทางได้ลง แต่บราวน์มันต่างไปครับ เขาทะลุขึ้นมาในทีมชุดใหญ่ร่วมสิบปีแล้ว ประสบการณ์ยืนเซ็นเตอร์ยาวๆก็มีหลายซีซั่น ยืนแบ๊คขวาตัวหลักยิ่งบ่อย จนได้แชมป์ยุโรปด้วยซ้ำไป แต่ทำไมพอโดนจับมายืนเซ็นเตอร์เมื่อไหร่ ก็ยังเล่นได้พอๆกับเอแวนส์ ตรงนี้ครับ ที่ทุกคนถึงตำหนิบราวน์ แต่ไม่ใช่ว่าลำเอียงหรอกนะ หากสิบปีผ่านไป เอแวนส์ยังได้เท่านี้เหมือนเดิม ก็คงโดนตำหนิเหมือนกัน ----------------------------------------------------------------------- เห็นด้วยว่า ถ้าพูดเรื่องราคา และความพร้อมของทุกๆด้าน สโมสรอาจเลือกขายวิดิชมากกว่าริโอ เพราะทำเงินได้มาก อีกทังวิดิชเอง ภรรยาก็ขยันมีข่าวลือเรื่องอยากไปสเปนอยู่บ่อยๆ และเราก็ทราบกันดีว่า ถ้าวิดิชหลวมตัวไปกับข่าวเหล่านี้เมื่อไหร่ ป๋าเฉดแน่ เพราะเรื่องครอบครัวที่มาก้าวก่ายชีวิตนักเตะนี่ ป๋ารับไม่ได้อย่างแรง ขนาดเบ๊คแฮมลูกรักยังโดนมาแล้ว ในขณะที่ริโอนั้น เรื่องสถานที่อยู่ไม่มีปัญหาอะไร ร่างกายก็ไปตามอายุ จะมีก็แค่เรื่องเดียวที่กวยสมาธิคืองานนอกสนามของแกเยอะเหลือเกิน ก็แค่นั้น แต่ผมอยากคิดว่า ถ้าจะขายริโอจริงนะ สิบห้าล้านปอนด์อัพครับ ดีไม่ดีอัพได้ถึงยี่สิบ ถ้ามีคนแย่งซท้อ เพราะอะไรหรือ เพราะถ้าเขาหายเจ็บแล้วฟิตจริง ร่างกายสมบูรณ์ ตำแหน่งทีมชาติก็ของเขา แถมถ้าย้ายไปลีกสเปนหรืออิตาลี ที่ดีกรีความบ้าพลังน้อยกว่า เกมช้ากว่า ผมว่าแกยังได้เล่นได้สบายๆไม่ต่ำกว่าสามสี่ปีนะ ก็อยู่ที่ร่างกายเขานั่นล่ะ และอีกอย่าง สิ่งหนึ่งที่ริโอเหนือกว่าวิดิชคือทางบอล, เก๋า และอ่านเกม ปล. เมื่อคิดเช่นนี้ ราคาวิดิชผมว่า 25-30 อัพนะ ถ้าดูอายุและร่างกาย ปล. สอง ราคาสองคนนี้ บนเงื่อนไขที่เขาต่อสัญญาเรื่อยๆนะ             ไม่ใช่ว่าปล่อยให้สัญญาใกล้หมด เพื่อดึงราคาขายตัวเองลงมา จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 08:29:53

ความคิดเห็นที่ 48 กิ๊ฟหมดที่ #37 พอดีครับ ยกยอดไปแจกเดือนหน้านะคร๊าบบบบ (ถ้าผมยังว่างเข้ามานะครับ) จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 08:31:07

ความคิดเห็นที่ 49 ผมว่า นัดนี้คาริคจะยืนต่ำไปนิดนึง จะคอยรอรับ+สกรีนบอลอยู่หน้าแผงรับตลอด ก่อนจะมาดันขึ้นสูงช่วงครึ่งหลัง ส่วนรูนีย์ ก็ยังเป็นรูนีย์คนเดิม ที่จ่ายจังหวะสุดท้ายไม่คม รวมถึงลูกหลุดไปเดี่ยว ๆ 2 ลูก ก็ยิงไม่เด็ดขาดอีก นัดหน้าคิดว่า ป๋าน่าจะจัดหน้าคู่ลง เมื่อดูจากการเปลี่ยนโอเว่นลงมา โอกาสยิงก็มีตามมามากขึ้นกว่าตอนเล่นหน้าเดี่ยว มีการประสานงานหน้าเขตโทษมากขึ้นด้วย  เรียกว่าลงมาได้ลุ้นทีเดียวทั้งโอเว่น และ ดิยุฟ  ทำเอาซิตี้ป่วนไปไม่น้อย ส่วนสโคลส์ ลงมาก็พื้น ๆ  เดิม ๆ  แถมเกือบทำให้งานมันยากขึ้นตอนท้ายสุดซะอีก ดู ๆ แล้ว  นัดหน้าเล่นในบ้าน ถ้าเล่นได้แบบ 20 นาทีสุดท้าย น่าจะได้เข้าชิงกับ วิลล่า อยู่ครับ จากคุณ : 9ปล่อยไก่ (nmcm) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 08:58:33