PANTIP.COM : S8847788 [[This is Our city]]>ต<า>ม<ร>อ<ย>แ>ม้<ว>ซิ<ตี้ >--05--02--10-->"มันโช" ชู "บริดจ์" ยอดคนเตรียมคืนทัพเรือใบ [ฟุตบอลต่างประเทศ]

ความคิดเห็นที่ 18

Cesc or Break?
วันที่ 2/4/2010 9:53:25 PM

ช่วงระยะเวลาหลังจากนี้ไม่กี่วัน จากสุดสัปดาห์ถึงกลางสัปดาห์หากจะบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดสำหรับ “ปืนใหญ่” และ เซสก์ ฟาเบรกาส ก็ไม่ผิดนัก

เพราะหากพลาดพลั้งไป นอกเสียจากที่อาร์เซนอล จะเผชิญกับโอกาสผิดหวังในบั้นปลายฤดูกาลกับความ “ว่างเปล่า” เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน มันอาจจะนำไปสู่การอำลาทีมของ เซสก์ ฟาเบรกาส ที่แท้จริงด้วย

และนั่นอาจหมายถึงการถึงคราวที่ทีมกันเนอร์สต้องมีการ “ถ่ายเลือด” อีกครั้ง

ทุกอย่างจะเริ่มต้นในวันอาทิตย์นี้ที่ อาร์แซน เวนเกอร์ จะต้องนำทีมบุกไปเยือน “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ซึ่งจะเป็นเกมที่ถือเป็นการตัดสินแชมป์ขนาดย่อมๆได้ โดยเฉพาะสำหรับทีมที่เป็นรองอย่างกันเนอร์ส นัดนี้นอกจากจะแพ้ไม่ได้แล้ว

ชัยชนะสถานเดียวเท่านั้นคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ

ความผิดหวังจากการพ่ายแพ้คาเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้กระชากให้ชาวขาว-แดง ได้กลับมาสัมผัสกับโลกแห่งความจริงอีกครั้งว่าความคิดที่เชื่อว่า “ระยะห่าง” ระหว่างพวกเขากับสองทีมที่ดีที่สุดในอังกฤษ เชลซี และ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้นหดเข้ามาใกล้จนหายใจรดต้นคอ มันไม่เป็นความจริง

ระยะห่างมันไม่ได้หดน้อยลง ตรงกันข้ามมันยังอยู่เท่าเดิมและเหมือนเดิม

อาร์เซนอล ของเวนเกอร์ แพ้แบบค่อนข้างจะ “หมดรูป” และ “ง่ายดาย” เกินไป โดยแม้รูปเกมในภาพรวมไม่ใช่ว่ากันเนอร์ส จะไม่มีโอกาสเลย แต่ในบรรดาโอกาสที่มีทั้งหมดในเกมนั้น จะมีสักกี่ครั้งที่ปีศาจแดงรู้สึก “เสียวแว้บ” ขึ้นมา

แน่นอนว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะสภาพทีมที่ไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะในแนวรุกที่มาขาด เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา ไปอีกคน ทำให้ความเฉียบคมที่ทำท่าจะกลับมาในช่วงก่อนหน้านี้ขาดหายไป เหลือไว้เพียงความจี๊ดจ๊าดของ อังเดร อาร์ชาวิน, ซาเมียร์ นาสรี่ และ โทมัส โรซิคกี้ ซึ่งไม่พอ

ขณะเดียวกัน “สมาธิ” ก็มีส่วนสำคัญเพราะทั้ง 3 ประตูที่เสียไปนั้น ค่อนข้างชัดว่านักเตะยังกันส์ชุดนี้ทั้งไม่นิ่งและไม่เด็ดขาดมากพอ

นั่นทำให้เมื่อจบเกมจึงมีการพูดถึงเรื่องของความสุภาพที่มีมากเกินไปของอาร์เซนอล ที่ไม่ว่าจะเจอกับทีมไหน ปรัชญาในการเล่นก็ยังคงเน้นความสวยงาม ไม่ดิบ ไม่เถื่อน จนทำให้ขาดความเหี้ยมหาญที่พึงมีไป

ตรงนี้เป็นจุดที่ เวนเกอร์ จำเป็นต้องหาทางแก้ไขเป็นการด่วน เพราะเชลซี แม้จะฝืดมาจากเกมล่าสุดที่เสมอกับ?ฮัลล์ แต่ความทรงจำในการเจอกับทีมของ อันเชล็อตติิ สำหรับเหล่านักเตะอาร์เซนอล มันแทบเป็นฝันร้ายแบบเดียวกับที่โดน “ผีหลอก” มาสดๆร้อนๆ

นัดแรกที่เอมิเรตส์ พวกเขาก็แพ้ขาดอย่างง่ายดายแบบนี้เช่นกันด้วยสกอร์ถึง 3-0

ถ้าเกมนี้ เวนเกอร์ หาทางนำทีมกลับมาได้ด้วยการบุกไปชนะถึงสแตมฟอร์ด บริดจ์ โมเมนตัมของทีมจะกลับมา ทิศทาง ความมั่นใจ และอะไรที่เสียไปในเกมกับ ยูไนเต็ด จะถูกเรียกคืนมาหมด

มันจะต่อยอดไปถึงเกมกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในวันที่ 10 ก.พ. (ใครจัดโปรแกรมเนี่ย ผี,สิงห์,หงส์ ต่อกัน 3 นัด??) ที่จะทำให้พวกเขารู้สึก “สบายตัว” ขึ้นอีกเยอะในเกมนี้ที่จะได้เล่นในเอมิเรตส์?สเตเดี้ยม

อย่างไรก็ดีถ้าไม่เป็นแบบนั้น ก็กลัวใจเหลือเกินว่าอาร์เซนอล จะสะดุดยาวต่อกันถึง 4-5 นัด (ตอนนี้ไม่ชนะมา 3 นัดรวดแล้ว) ซึ่งนั่นส่งผลโดยตรงต่อโอกาสลุ้นแชมป์ของทีม ที่ต่อให้ทางทฤษฎีจะมีเวลาเหลือเฟือให้พวกเขากลับมา เหมือนที่จู่ๆพวกเขาก็กลับมามีลุ้นแชมป์อีกในฤดูกาลนี้

แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าครั้งนี้ นรกจะอนุญาตให้พวกเขาโกงความตายกลับมาอีก

ที่น่ากลัวไปมากกว่านั้นคือ ในกรณีที่ต้องเผชิญกับความผิดหวังซ้ำซาก มันย่อมมีโอกาสที่พวกเขาจะเสียแกนนำในทีมไป โดยเฉพาะ เซสก์ ฟาเบรกาส กัปตันทีมที่ความสัมพันธ์กับสโมสรนั้น ถึงจะรักปักใจมากขนาดไหน

ความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันมากเกินไปสำหรับนักเตะวัยหนุ่มที่ฝีเท้ากำลังก้าวไปถึงระดับโลก และต้องการเกียรติยศเพื่อนำมาประดับบารมีให้สามารถยืนในแถวเดียวกันกับ ลิโอเนล เมสซี่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, กาก้า หรือ เวย์น รูนี่ย์ได้

ข่าวการย้ายทีมไปบาร์เซโลน่า ที่มีมาโดยตลอดไม่ใช่เรื่องล้อเล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปีนี้จะมีการเลือกตั้งประธานสโมสรใหม่ ทำให้บรรดาผู้สมัครต่างก็ชูสายเลือดคาตาลันคนนี้เป็นจุดขายทั้งสิ้น

ดังนั้นหากว่าอาร์เซนอลล้มเหลว และมีข้อเสนอจากบาร์ซ่า เข้ามาจริงดังที่คาด

มันก็อาจจะถึงเวลาที่เซสก์ จะโบกมือลาทีมที่ปั้นเขาจากดินสู่ดาว และหวนกลับสู่บ้านที่แท้จริงอีกครั้งได้เช่นกัน
http://football.impaqmsn.com/content.aspx?id=53040&ch=262&ch=scoop

จากคุณ : mooagiko

เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 21:43:14