 |
ความคิดเห็นที่ 1 |
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) 1 - สโต๊ค ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) 1 สนาม : ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ แมนฯ ซิตี้ได้โคโล่ ตูเร่เช็คความฟิตผ่านประสานงานร่วมกับโจลีออน เลสค็อตต์แทนเดดริค โบยาต้า แต่ทว่าอดัม จอห์นสันติดคัพไทจากการลงเล่นรายการนี้ให้มิดเดิ้ลสโบรช์มาแล้ว กระนั้น ด้วยเหตุที่ทีมเงินถังต้องเตะเกมพรีเมียร์ลีกนัดตกค้างกับคู่ปรับรายนี้ที่บริทานเนียในวันอังคารที่ 16 ก.พ.จึงดร็อปคาร์ลอส เตเวซออกไปพัก ขณะที่ปาทริค วิเอร่ามีชื่อเป็นตัวสำรอง ส่วนสโต๊คยังวางใจให้ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ศูนย์หน้าจอมฉาวลงสนามแม้เจ้าตัวจะก่อคดีทะเละวิวาทมาหมาดๆ โดยมีตุนกาย ซานลี่เป็นคู่ขา พร้อมกันนี้ เกมนี้ยังมีฟาบิโอ คาเปลโล่ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเข้ามาดูฟอร์มของเวย์น บริดจ์แบ็คซ้ายเรือใบด้วยหลังจากแอชลีย์ โคลปราการหลังเชลซีเจ็บยาวพักสามเดือน แมนฯ ซิตี้ออกสตาร์ตอย่างมั่นอกมั่นใจ และในเวลาเพียง 14 นาทีก็มอบของขวัญวันวาเลนไทน์ให้กับสาวกได้เมื่อสตีเฟ่น ไอร์แลนด์จ่ายบอลยาวจากแดนกลางให้ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์หลุดเดี่ยวจากการเช็คล้ำหน้าที่ผิดพลาดของช่างปั้นหม้อ ปีกร่างระหงจึงสบโอกาสกระดกบอลข้ามโธมัส โซเรนเซ่นที่พยายามออกมาสกัดหน้าเขตโทษแล้วไรอัน ชอว์ครอสส์ออกทะเล วิ่งไปเคลียร์บอลหน้าปากประตูไม่ดี จึงเป็นการตั้งให้สตาร์เรือใบได้กดตูมระยะเผาขนพาเจ้าบ้านออกนำ 1-0 ถัดมาในนาทีที่ 14 ทีมเยือนก็โชคร้ายเสียแม็ตธิว เอเธอริงตันที่เข้าแย่งบอลจากบริดจ์แล้วเสียหลักล้มเจ็บบริเวณเส้นหลัง แถมต้องหามลงเปลทำให้เลียม ลอว์เรนซ์ถูกส่งลงมาเสียบแทน นับจากนั้นช่างปั้นหม้อก็โชว์ความดุออกมาเล่นงานเจ้าบ้าน และในนาทีที่ 30 จากลูกโยนทางซ้ายของตุนกายก็ทำให้ลอว์เรนซ์ได้เข่นเหน่งๆที่เสาไกล แต่ถูกบริดจ์เข้ามาขวางได้หวุดหวิด กระทั่งนาทีที่ 39 แอนดี้ วิลกินสันกองหลังสโต๊คก็ต้องสังเวยใบเหลืองเมื่อเข้าเหนี่ยวไรท์ ฟิลลิปส์ล้มก่อนที่ดาวเตะผิวสีจะหลุดเข้าเขตโทษด้านขวา แต่มาร์ติน เปตรอฟรับอาสากดฟรีคิกจังหวะนี้โด่งข้ามคาน ถัดมาในนาทีที่ 43 ทีมเยือนก็มีโอกาสจากจังหวะที่แนวนับแมนฯ ซิตี้เคลียร์ลูกทุ่มด้านขวาไม่ขาด ทำให้แดนนี่ ฮิกเก้นโบแธ่มได้เก็บตกจากหน้าเขตโทษ แต่บอลลอยโค้งเฉี่ยวกรอบไปแค่เส้นยาแดง อย่างไรก็ดี ถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่างปั้นหม้อก็ต้องเปลี่ยนโรรี่ ดีแล็ปลงไปแทนลอว์เรนซ์ตัวสำรองที่ได้ลงสนามไม่นานแล้วเกิดเจ็บเข่าขวาขึ้นมาเองโดยที่อาจฝืนเล่นต่อได้ ในที่สุดครบ 45 นาทีแรกเรือใบจึงนำไปก่อน 1-0 เริ่มครึ่งหลังเจ้าบ้านเปิดเกมรุกเข้าหาทันที และถึงนาทีที่ 55 ช่างปั้นหม้อก็ดวงแตกอีกหนเมื่อวิลกินสันเกิดเจ็บเข่าซ้าย ต้องเดินเขยกออกไปให้แดนนี่ คอลลินส์ลงมาเป็นตัวสำรองรายสุดท้าย อย่างไรก็ดี อีกสองนาทีต่อมาทีมเยือนก็อาศัยลูกทุ่มหากินจนได้เมื่อดีแล็ปทุ่มบอลจากด้านขวาลึกเข้ามาถึงหน้าปากประตูให้ฟูลเลอร์โขกจากหกหลาตุงตาข่ายช่วยให้ช่างปั้นหม้อตีเสมอเป็น 1-1 ถัดมาในนาทีที่ 62 เจ้าถิ่นก็ถึงคราวต้องเปลี่ยนผู้เล่นเช่นกันเมื่อเปตรอฟเริ่มเดี้ยง จึงเดินเขยกออกไปโดยมีโรเก้ ซานตา ครู๊ซถูกส่งลงมาแทน ล่วงมาถึงนาทีที่ 73 ทีมตราเรือใบก็ปล่อยวิเอร่าลงไปทำเกมแทนไอร์แลนด์หมายสยบอาคันตุกะให้ได้ แต่แล้วอีกอึดใจเดียว ทีมเงินถังก็เกือบวายปราณจากลูกเตะมุมด้านขวาของสโต๊คที่ตุนกายเปิดย้อนคืนมาหน้าเขตโทษให้เกล็น วีแลนวิ่งเข้ากระทุ้ง แต่เชย์ กิฟเว่นเซฟได้ เข้าสู่นาทีที่ 79 แมนฯ ซิตี้เกือบขึ้นนำอีกหนเมื่อแกเร็ธ แบร์รี่ได้โขกบอลโยนยาวจากกราบขวาของไรท์ ฟิลลิปส์ที่ระยะหกหลา ทว่าโซเรนเซ่นปัดข้ามคานได้เยี่ยม ท้ายเกมต่างก็มีโอกาสพอกัน แต่ถึงช่วงทดเวลาเจ็บนาทีที่ 92 แมนฯ ซิตี้ก็ชวดได้ประตูชัยอย่างน่าเสียดายจากจังหวะที่วิเอร่าตักบอลจากแถวสองเข้าเขตโทษด้านขวาให้ซานตา ครู๊ซวอลเลย์จาก 12 หลาผ่านโซเรนเซ่นไปแล้ว แต่ชอว์ครอสส์ตามไปสกัดทิ้งทันก่อนที่บอลจะเข้าประตู จบเกมทั้งคู่จึงเจ๊ากันไป 1-1 ต้องเล่นนัดรีเพลย์ตามระเบียบ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น, ปาโบล ซาบาเลต้า, โคโล่ ตูเร่, โจลีออน เลสค็อตต์, เวย์น บริดจ์, ไนเจล เดอ ย็อง, แกเร็ธ แบร์รี่, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ (ปาทริค วิเอร่า น.72), มาร์ติน เปตรอฟ (โรเก้ ซานตา ครูซ น.62), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ สำรองไม่ได้ใช้ : สจ็วร์ต เทย์เลอร์, เนดุม โอนูโอฮา, เดดริค โบยาต้า, ฆาเบียร์ การ์รีโด้, ซิลวินโญ่ ใบเหลือง : - สโต๊ค : โธมัส โซเรนเซ่น, โรเบิร์ต ฮูธ, ไรอัน ชอว์ครอสส์, แดนนี่ ฮิกกิ้นบอตแธม, แอนดี้ วิลกินสัน (แดนนี่ คอลลินส์ น.55), แม็ทธิว เอเธอริงตัน (เลียม ลอว์เรนซ์ น.14 (รอรี่ ดีแล็ป น.45)), ซาลิฟ ดิเยา, เกล็น วีแลน, ตุนกาย ซานลี่, ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์, มามาดี้ ซิดิเบ้ สำรองไม่ได้ใช้ : สตีฟ ซิมอนเซ่น, แดนนี่ พิวจ์, เดฟ คิตสัน, เจมส์ บีทตี้ ใบเหลือง : แอนดี้ วิลกินสัน ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคล็ตเทนเบิร์ก
สรุปผลการแข่งขันฟุตบอล เอฟเอคัพ อังกฤษ รอบ 5 เชลซี ชนะ คาร์ดิฟฟ์ 4-1 เซาแฮมป์ตัน แพ้ พอร์ทสมัธ 1-4 ดาร์บี้ แพ้ เบอร์มิงแฮม 1-2 เร้ดดิ้ง เสมอ เวสต์บรอมวิช 2-2 แมนฯ ซิตี้ เสมอ สโต๊ค 1-1
http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100213_158.html
จากคุณ |
:
still solo one
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ก.พ. 53 16:02:42
|
|
|
|
 |