ความคิดเห็นที่ 1 เรือใบหืด!ไล่เจ๊าสโต๊ค10ตัว1-1ขึ้นที่4 ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ 2553 สโต๊ค ซิตี้ 1 - 1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สนาม: บริทานเนีย สเตเดี้ยม "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ เพิ่งเสมอกับ แมนฯซิตี้ ในเอฟเอคัพ รอบ 5 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ต้องไปเตะรีเพลย์ต่ออีกนัด เกมนี้โคจรมาเจอกันในลีกก่อน โดยเจ้าบ้านไม่มี แม็ทธิว เอเธอริงตัน ที่บาดเจ็บเข่า พักประมาณสองสัปดาห์ แนวรุกวาง มามาดี้ ซิดิเบ้ ล่าตาข่ายกับ ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ ด้าน "เรือใบสีฟ้า"ไม่มี คาร์ลอส เตเวซ กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินา ได้รับไฟเขียวให้กลับไปบ้านเกิดอาร์เจนตินาเพื่อเฝ้าภรรยาที่คลอดบุตร หมดสิทธิ์ช่วยทีมต่อไป ส่วน เคร็ก เบลลามี่ กองหน้าเวลช์เจ็บหัวเข่า ทำให้ต้องใช้งาน โรเก้ ซานตา ครูซ กับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ในแดนหน้า เปิดฉากครึ่งแรกได้แค่ 5 นาที เจ้าบ้านโหมบุกทันทีมีลุ้นก่อน มามาดี้ ซิดิเบ้ หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ แต่ เชย์ กิฟเว่น นายทวารเรือใบสีฟ้า เซฟไว้ได้ ผ่านมา 16 นาที โอกาสของสโต๊ค อีกครั้ง เมื่อ เกล็นน์ วีแลน ได้ยิงจากเส้น 18 หลา แต่บอลพุ่งหลุดกรอบออกไปอีก แมนฯ ซิตี้ บุกขึ้นมาบ้างในนาทีที่ 26 ไมก้าห์ ริชาร์ด โยนบอลเข้าไปในเขตโทษให้ แกเร็ธ แบร์รี่ วอลเลย์ด้วยซ้ายบอลพุ่งออกหลังประตู ทีมเยือนเริ่มจับจังหวะบุกได้ อดัม จอห์นสัน เปิดฟรีคิกเข้าไปในเขตโทษให้โรเก้ ซานต้า ครูซ ยิงด้วยขวาจากระยะ 12 หลา แต่บอลไม่เข้ากรอบในนาทีที่ 38 หมดครึ่งแรกเสมอกันไปก่อน 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง ช่างปั้นหม้อ ส่ง แดนนี่ คอลลินส์ ลงมาเล่นแทน แดนนี่ ฮิกกิ้นบ็อตแธ่ม ในแนวรับ สถานการณ์ของเจ้าบ้านไม่สู้ดีนัก ต้องเหลือแค่ 10 คนในนาทีที่ 52 หลังจาก อับดูลาย ฟาย ไปเกี่ยวขาของ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ในจังหวะจะหลุดเข้าไป ผู้ตัดสินไม่รอช้าให้ใบแดงไล่ ฟาย ออกจากสนามทันที จากลูกฟรีคิกระยะ 25 หลาหน้ากรอบเขตโทษ ปรากฏว่า ฆาเบียร์ การ์ริโด้ ยิงไปอัดกำแพงไม่ได้ลุ้นอะไรเลย แม้ว่าตัวผู้เล่นจะมากกว่า แต่รูปเกมไม่ได้เปรียบทำให้ แมนฯซิตี้ เปลี่ยนแท็คติกส่ง ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ปีกความเร็วสูงลงมาแล้วถอดเอาแบ็คซ้ายอย่าง ฆาเบียร์ การ์ริโด้ ออกมาในนาทีที่ 59 ส่วน สโต๊ค ให้ ซาลีฟ ดิเยา เล่นแทน เลียม ลอว์เรนซ์ ทีมเยือนเริ่มบดแล้ว อเดบายอร์ หาเหลี่ยมซัดด้วยขวาในเขตโทษบอลหลุดเสาขวาไป ในนาทีที่ 65 อย่างไรก็ตาม สโต๊ค ที่ตัวน้อยกว่ามาได้ประตูพลิกขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 72 จากจังหวะที่ โจลีออน เลสค็อคค์ กองหลังเรือใบ สกัดไม่ดีมาเข้าทางของ เกล็นน์ วีแลน กดด้วยขวาจากระยะ 25 หลา บอลผ่าน เชย์ กิฟเว่น ที่พยายามจะปัดแต่ไม่ทันเข้าไปให้ ช่างปั้นหม้อ นำก่อน 1-0 หลังจากเสียประตู ทีมเยือนก็บุกอย่างหนักและก็มาได้ประตูตีเสมอจนได้ จากการทำประตูของ แกเร็ธ แบร์รี่ ในนาทีที่ 86 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ สโต๊ค ซิตี้ น่าจะได้ประตูชัย  รอรี่ ดีแล็ป ทุ่มไกลเข้ามาที่กลางประตู ไรอันชอว์ครอสส์ ปราการหลังเจ้าถิ่นขึ้นโขกเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกฟาล๋ว ทำให้จบเกม สโต๊ค เสมอกับ แมนฯ ซิตี้ ไป 1-1 โดยทีม เรือใบแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นมารั้งอันดัยบ 4 ของตารางแล้ว รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม สโต๊ค : โธมัส โซเรนเซ่น - โรเบิร์ต ฮูธ, อับดูลาย ฟาย, ไรอันชอว์ครอสส์, แดนนี่ ฮิกกิ้นบ็อตแธ่ม - รอรี่ ดีแล็ป, ดีน ไวท์เฮด, เกล็นน์ วีแลน, เลียม ลอว์เรนซ์ - มามาดี้ ซิดิเบ้, ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ สำรอง : อัสมีร์ เบโกวิช (ผู้รักษาประตู), เจมส์ บีตตี้, เดฟ คิตสัน, แดนนี่ พิวจ์, ซาลิฟ ดิเยา, ตุนกาย ซานลี่, แดนนี่ คอลลินส์ แมนฯ ซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น - ไมก้าห์ ริชาร์ดส์, โคโล่ ตูเร่, โจลีออน เลสค็อตต์, ฆาเบียร์ การ์ริโด้ - อดัม จอห์นสัน, ปาทริค วิเอร่า, ไนเจล เด ยองก์, แกเร็ธ แบร์รี่ - โรเก้ ซานต้า ครูซ, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์   สำรอง: สจ๊วร์ต เทย์เลอร์ (ผู้รักษาประตู) - ปาโบล ซาบาเลต้า, เวย์น บริดจ์, เนดุม โอนูโอฮา, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, มาร์ติน เปตรอฟ ผู้ตัดสิน : อลัน ไวลี่ย์ http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100217_031.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 15:48:00

ความคิดเห็นที่ 2 มันโช่ไม่ปลื้มเรือไล่เจ๊าสโต๊ค10คนหวิว โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่ายหน้าผิดหวังผลงานของนักเตะที่ทำได้แค่ไล่ตีเสมอ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ แบบหืดจับ 1-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทั้งที่มีตัวผู้เล่นมากกว่าร่วม 40 นาที แต่ทำอะไรไม่ได้ และเกือบจะเป็นฝ่ายแพ้ในช่วงท้ายอีกด้วย โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับว่าผิดหวังฟอร์มของทีม ในเกมล่าสุดที่ออกไปเสมอ สโต๊ค ซิตี้ 1-1 ที่สนามบริทานเนีย สเตเดี้ยม ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยต้องกระเสือกกระสนไล่ตีเสมอ และเกือบเป็นฝ่ายแพ้ในช่วงท้ายเกมอีกด้วย อดีตกุนซือ อินเตอร์ มิลาน กล่าวหลังจบเกมว่า " มันเป็นเกมที่ยากมาก เพราะในครึ่งแรก ส่วนใหญ่บอลมันจะอยู่กลางอากาศ ไม่เคยอยู่บนพื้นสนามเลย สำหรับเรา มันเป็นเรื่องที่ลำบากมาก แต่หลังจากนั้น เราก็เล่นได้ดีขึ้นเพราะมีนักเตะมากกว่า อย่างไรก็ตาม เราก็ควรจะเล่นให้ได้ดีกว่านี้ เราต้องเล่นกันตามช่องมากขึ้น ไม่ใช่เล่นแต่ตรงกลาง ซึ่งทำให้พวกเขาตั้งรับกันง่ายกว่าเดิม " จากผลเสมอในเกมนี้ ทำให้ทีมมีแต้มเหนือกว่า ลิเวอร์พูล คู่แข่งสำคัญแย่งพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เพียงแค่ 1 แต้ม ก่อนเกมที่จะโคจรมาพบกันในวันอาทิตย์นี้ "ผมผิดหวัง เพราะหากคุณเล่น 11 คน เจอกับทีมที่เล่นกัน 10 คน คุณก็ต้องมีโอกาสทำประตูมากกว่านี้ และมีโอกาสเอาชนะในเกมมากกว่านี้ด้วย เกมนี้เป็นเกมที่สำคัญมาก และเราก็น่าจะชนะ เพราะเรามีนักเตะมากกว่าพวกเขาถึง 40 นาที " http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100217_103.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 15:48:53

ความคิดเห็นที่ 3 ตารางคะแนน (เดียวดึกๆ จะกลับมาแปะข่าวเพิ่ม) จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 15:49:33

ความคิดเห็นที่ 4 สเตอร์ริดจ์ชี้ขอทำผลงานให้ดีก่อนคิดถึงสถิติ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ดาวยิงวัยรุ่น เชลซี โชว์ความใจกว้าง ขอทำผลงานเพื่อทีมให้ดีที่สุด ก่อนคิดถึงการทาบสถิติยิงประตูทุกนัดใน เอฟเอ คัพ เมื่อกว่า 40 ปีก่อนของตำนานสโมสร รับไม่อยากกดดันกับเรื่องแบบนี้มากจนเกินไป เพราะยังเหลืออีก 3 เกมกว่าจะถึงรอบชิงชนะเลิศ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าดาวรุ่งของ เชลซี ยักษ์ใหญ่ในลีกลูกหนังเมืองผู้ดี แสดงความต้องการขอทำผลงานในปัจจุบันให้ดีที่สุดเสียก่อน ก่อนจะคิดถึงการทำสถิติกระหน่ำประตูทุกนัดที่ลงสนามในเกม เอฟเอ คัพ เทียบเท่ากับวีรกรรมของ ปีเตอร์ ออสกู๊ด หัวหอกรุ่นคุณปู่ ที่เคยทำไว้เมื่อปี 1970 อดีตหัวหอกของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิงประตูทุกนัดในเกม เอฟเอ คัพ ซีซั่นที่ผ่านมา โดยทำประตูที่ 3 ในเกมที่ "สิงโตน้ำเงินคราม" ถล่ม คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 4-1 และก่อนหน้านั้น เขายิง 2 ประตู ในเกมชนะ วัตฟอร์ด รวมถึงมีชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ด ในเกมอัด เปรสตัน นอร์ธเอนด์ ในรอบ 4 เวลานี้ "สิงห์บลูส์" เหลืออีกเพียง 3 เกม ก่อนป้องกันแชมป์ฟุตบอลถ้วยรายการเก่าแก่ที่สุดในโลกได้อีกครั้ง โดยเกมหน้า พวกเขาจะเปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ รอพบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ สโต๊ค ซิตี้ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย อย่างไรก็ดี แม้ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ใฝ่ฝันจะทำให้ได้เหมือน ออสกู๊ด แต่เขาก็ยอมรับว่า ความคาดหมายเหล่านั้นยังเร็วเกินไป "มีใครบางคนบอกผมเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันศุกร์ และผมก็คิดว่า ผมไม่ต้องการกดดันกับเรื่องแบบนี้" "ผมต้องการยิงประตูให้ได้เยอะๆ และทำให้ทีมเอาชนะ แต่ผมไม่ได้มองไปที่สถิติเลย หากผมเห็นใครที่อยู่ในตำแหน่งดีกว่า ผมก็จะผ่านบอลไปให้กับเขา มันเป็นฟอร์มที่ดีต่อเนื่องของผม และเรากำลังผ่านเข้าไปในทัวร์นาเมนต์ คาร์ดิฟฟ์ ทำงานหนักมากๆ ในฐานะทีม และมันเป็นเรื่องยากสำหรับเราในการเอาชนะ แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณภาพก็ปรากฎขึ้นมา เราทำงานกันอย่างหนัก และท้ายที่สุดก็ได้รางวัลตอบแทน" "สำหรับผมแล้ว มันเป็นตำแหน่งที่แตกต่างกัน ผมได้เล่นทางฝั่งซ้าย ขณะที่อีก 2 เกมก่อนหน้านั้น ผมได้เล่นอยู่ตรงกลางสนาม ในเกมกับ เปรสตัน ผมยังต้องไปยืนทางกราบขวา รวมถึงเป็นกองหน้าตัวต่ำด้วย ดังนั้นผมกำลังเรียนรู้กับอาชีพของตัวเอง" ศูนย์หน้าอนาคตไกล กล่าวในที่สุด http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100217_037.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 15:51:17

ความคิดเห็นที่ 5 เรือใบ-เชลซี" รุมคว้า "ฟาเบียโน" โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กุมภาพันธ์ 2553 10:50 น. แมนเชสเตอร์ ซิตี และ เชลซี 2 สโมสรดังประจำเวที พรีเมียร์ชิป อังกฤษ เตรียมแย่งกันคว้าตัว หลุยส์ ฟาเบียโน กองหน้าทีมชาติบราซิล ที่เหลือสัญญากับ เซบีญา อีกเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น จากการตีข่าวของ "เดอะ ซัน" (THE SUN)              มีข่าวว่า เซบีญา พร้อมขาย ฟาเบียโน ออกไปในช่วงซัมเมอร์นี้ เนื่องจากอายุอานามค่อนข้างมากโข แถมเหลือสัญญาอีกเพียงแค่ปีเดียว ทำให้ แมนฯซิตี และ เชลซี พร้อมควักเงิน 15 ล้านปอนด์ (ประมาณ 800 ล้านบาท) ดึงหอกวัย 29 ปี ที่ซัดไปแล้ว 9 ประตูในฤดูกาลนี้ มาเสริมทัพ              ล่าสุด ฟาเบียโน ออกมาเปรยว่า "ผมเหลือสัญญาอีกหนึ่งปีและมีความสุขกับ เซบีญา อย่างไรก็ตามทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงเร็วมาก แต่ผมไม่ต้องการพูดถึงเรื่องย้ายทีมในตอนนี้ เพราะว่าอยากมุ่งเป้าไปที่การช่วยทีมในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก และ ลา ลีกา สเปน"              คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือ เชลซี อยากได้กองหน้าอีกหนึ่งรายมาแบ่งเบาภาระของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ นิโกลาส์ อเนลกา ส่วน โรแบร์โต มันชินี นายใหญ่ แมนฯซิตี มองหาดาวยิงเพื่อที่จะมาเป็นตัวแทนของ โรบินโญ รวมถึงอาจจะปล่อยแนวรุกบางรายออกไปในช่วงซัมเมอร์นี้ จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 15:53:07

ความคิดเห็นที่ 6 "มอยส์" ค้านเพลย์ออฟยูซีแอลช่องโหว่เพียบ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กุมภาพันธ์ 2553 11:18 น. เดวิด มอยส์ กุนซือ เอฟเวอร์ตัน ค้านกฎเพลย์ออฟแบบใหม่ที่ทาง สมาคมฟุตบอลอังกฤษ กำลังพิจารณานำมาใช้เพื่อเฟ้นหาทีมสุดท้ายไปลุย ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ชี้มีช่องโหว่มากมาย แม้จะเป็นระบบที่สร้างความตื่นตาตื่นใจได้อย่างแน่นอน จากการตีข่าวของ "เดอะ ซัน"              หลังจาก 4 ทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, อาร์เซนอล หรือว่า ลิเวอร์พูล ยึดพื้นที่เข้าไปเล่นในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ตลอด 5 จาก 6 ฤดูกาลหลังสุด มีเพียง เอฟเวอร์ตัน เพียงทีมเดียวเท่านั้นที่สอดแทรกเข้าไปเล่นฟุตบอลยุโรปถ้วยใบใหญ่ของยุโรปได้เพียงฤดูกาลเดียวในปี 2005 แต่ก็ไม่ผ่านรอบคัดเลือก รอบสาม              เป็นเหตุผลที่สื่อเมืองผู้ดีพากันรายงานว่า พรีเมียร์ลีก จ้องที่จะเสนอแผนการนำเอาทีมอันดับ 4-7 มาเพลย์ออฟกัน เพื่อให้โอกาสสโมสรที่ไม่ใช่ "บิ๊กโฟร์" ได้ลุ้นโควตา แชมเปียนส์ลีกบ้าง แต่ถึงกระนั้นก็ตาม มอยส์ กุนซือ เอฟเวอร์ตัน ไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับกฎนี้ เนื่องจากมีช่องโหว่และมีทั้งผลดีผลเสีย              มอยส์ กล่าวว่า "ถือเป็นแนวความคิดที่น่าตื่นเต้น แต่ถ้าหากคุณต้องลงเล่น 38 เกมในลีก ก็น่าจะต้องพอใจและสิ้นสุดแค่นั้น อีกทั้งถ้าหากคุณได้อันดับ 4 ก็คงจะคิดว่าทำไมต้องมาเพลย์ออฟอีก เพราะไม่สามารถการันตีอะไรได้เลย อีกทั้งยังมีเกมทีมชาติและทัวร์นาเมนต์รออยู่อีกในตอนปิดฤดูกาล"              "เกม เดอะแชมเปียนชิป ของ อังกฤษ ยอมรับระบบเพลย์ออฟเพื่อเลื่อนชั้น ถือเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นและเหมาะสม แต่ พรีเมียร์ชิป หมายถึงทีมอันดับ 7 อาจจะได้ไป แชมเปียนส์ ลีก เพื่อทำเงินและพลิกโฉมทีมจากหน้ามือเป็นหลังมือ อาจจะเป็นประโยชน์เฉพาะกับทีมที่ได้ไปเท่านั้น" นายใหญ่ประจำถิ่น กูดิสัน ปาร์ค เผย              สำหรับแนวความคิดดังกล่าวน่าจะได้รับการสนับสนุนจากสโมสรระดับกลางๆ ซึ่งถ้าหากมีเสียงสนับสนุนถึง 14 จากทั้งหมด 20 ทีมใน พรีเมียร์ลีก ก็มีโอกาสไม่น้อยที่จะมีการนำเอาการเพลย์ออฟอันดับ 4-7 มาใช้ในการหาทีมเพียงหนึ่งเดียวที่จะได้สิทธิลำดับสุดท้ายไปลุย แชมเปียนส์ลีก กันต่อไป จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 15:53:34

ความคิดเห็นที่ 7 เอเยนต์ช่วยยัน "วิดิช" เมินผละผี โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กุมภาพันธ์ 2553 00:51 น.       เนมันยา วิดิช ปราการหลังทีมชาติเซอร์เบียจะยังปักหลักค้าแข้งกับ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลุยพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่อไปแน่นอนในฤดูกาลหน้า จากการเปิดเผยของเอเยนต์ส่วนตัวล่าสุดเมื่อวันอังคาร              ตกเป็นข่าวลือหนาหูว่า เนมันยา วิดิช อาจต้องลาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ช่วงหน้าร้อนนี้ โดยทั้ง "ปิศาจแดงดำ" เอซี มิลาน ทีมดังในเซเรีย อา อิตาลี และ "ราชันชุดขาว" รีล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งลา ลีกา สเปน พร้อมทุ่มเงินถึง 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,100 ล้านบาท) ล่อใจ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้ยอมปล่อยตัว              ทว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ "ผีแดง" บอกปัดกระแสข่าวดังกล่าวแล้ว ซึ่งล่าสุด ซิลวาโน มาร์ตินา เอเยนต์ส่วนตัวของแข้งเซิร์บวัย 28 ปี ก็ออกโรงโต้เรื่องนี้ผ่าน "กัลโชเมอร์คาโต" เว็บไซต์กีฬาแดนมะกะโรนี "มันไม่เป็นความจริงเลย ทั้งผมและวิดิช พยายามจะไม่แสดงความคิดเห็นอะไรมากนักเกี่ยวกับข่าวลือที่ออกมา"              "วิดิช เหลือสัญญาค้าแข้งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกสองปี และเขาก็จะไม่ถูกขายออกจากสโมสรแต่อย่างใด" ตัวแทนนักเตะทิ้งท้าย              สำหรับ วิดิช ประสบปัญหาบาดเจ็บขาตั้งแต่เมื่อปลายปีก่อน ไม่ได้ลงสนามให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มาแล้ว 9 นัดติดต่อกัน และในเกมที่ "ผีแดง" มีคิวเยือน ซาน ซิโร รังของ เอซี มิลาน เพื่อทำศึกยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย คืนวันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ วิดิช ก็ไม่ได้เดินทางร่วมทีมมาด้วยแต่อย่างใด จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 15:54:09

ความคิดเห็นที่ 8 "ปั๊ต" แขวะหม้อทีมสไตล์โบราณ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กุมภาพันธ์ 2553 02:44 น.       ปาทริค วิเอรา มิดฟิลด์จอมเก๋า "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี ออกโรงแขวะ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก ซิตี ก็ไม่ต่างอะไรจาก โบลตัน วันเดอเรอร์ส ที่เล่นฟุตบอลในสไตล์โบราณใช้ลูกหนักเป็นหลัก       แมนฯ ซิตี เพิ่งเปิดบ้านทำได้แค่เสมอ สโต๊ก ซิตี 1-1 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบห้า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคืนวันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ คู่นี้มีคิวโคจรมาเจอกันอีกในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่คราวนี้จะโยกไปเล่นที่บริทานเนีย สเตเดียม รังของ "ช่างปั้นหม้อ" บ้าง              ซึ่งก่อนโม่แข้ง ปาทริค วิเอรา ออกมาให้สัมภาษณ์เชิงแขวะ สโต๊ก "ไม่มีทีมแบบนี้หรอกในอิตาลี แต่ผมมักเจอเกมหนักกับโบลตัน มันคงคล้ายๆ กับที่เราเจอกับพวกเขา (สโต๊ก) ในอังกฤษเล่นฟุตบอลด้วยการใช้สไตล์ความแข็งแกร่งของร่างกายเป็นหลัก"              "แต่ต้องไม่ลืมว่าผมเคยเล่นให้ อาร์เซนอล มานานถึง 9 ปี หลายนัดต้องเจอกับเกมที่ใช้ร่างกายเป็นหลักเช่นนี้ มันจึงเป็นอะไรที่แตกต่างออกไปตอนผมไปเล่นที่อิตาลี แต่ผมก็ยินดีไม่น้อยที่ได้กลับมาอังกฤษ เล่นฟุตบอลในสไตล์แบบเดิมๆ" กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสทิ้งท้าย              สำหรับ แมนฯ ซิตี ปัจจุบันรั้งอันดับ 5 ของตารางพรีเมียร์ลีก ลงเตะ 24 นัด เก็บมาได้ 44 คะแนนเท่ากับ ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 4 แต่ "หงส์แดง" ลงเตะมากกว่า "เรือใบสีฟ้า" ถึงสองแมตช์ด้วยกัน ขณะที่ สโต๊ก อยู่อันดับ 12 เตะ 24 นัด มีตุนแล้ว 30 แต้ม ****************************************** ไม่เหมือนแมน ซิตี้ เนาะ พยายามโยนลูกสู้ แต่ไม่มีลูกหนัก........... แฮ่ม จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 15:55:54

ความคิดเห็นที่ 9 Stoke 1 City 1: Player ratings Stuart Brennan February 16, 2010 GIVEN: Has hardly made a mistake all season, and then comes up with a howler 5 RICHARDS: a big, strong presence at the far post, even if he looked short of match practice 6 TOURE: Stood taller than he did on Saturday, but you still feared for him in aerial combat 5 LESCOTT: His type of game, plenty of heading practice and wrestling contests 6 GARRIDO: His Spanish sensibilities were not quite attuned to such brutal, primeval football 4 JOHNSON: Tried in vain to open up the flanks for City, but his mistake led to the Stoke goal 5 DE JONG: Dug a foxhole in front of the City back four, and enjoyed the scrap 6 VIEIRA: Very lucky not to see red after five minutes, and in a daze for the rest of the match 4 BARRY: Tried to get things moving in midfield, switched to left back and popped up with a goal! 5 ADEBAYOR: Forced the red card offence out of Faye, but City need a lot more from him 4 SANTA CRUZ: Woefully short of minutes, and no understanding with Adebayor at all 4 Substitutes WRIGHT-PHILLIPS: (for Garrido 60) Brought width but no product 6 ZABALETA: (for Richards 82) no time to mark PETROV: (for A Johnson 85) no time to mark Not used: Taylor, Onuoha, Bridge, Ireland STOKE: Sorensen, Huth, Shawcross, Faye, Higginbotham (Collins ht), Lawrence (Diao 60), Whitehead, Whelan, Delap, Fuller (Beattie 80), Sidibe. Battle OF THE BOSSES: of the bosses: Mancini got it wrong at the start, too narrow and on the back foot, and didn't put it right Referee: Alan Wiley 5 Attendance: 26,778 manchestereveningnews นัดที่แล้วได้ต่ำสุด  5 สามคน จะโมเมว่าผ่านก็ได้ แต่เจอนัดนี้ ได้ 4 ห้าคน เกือบครึ่งทีม ไม่ว่าหอคอยคู่หอกหัก ซานต้า ครูส + บายอร์  การ์ริโด้ ปาทริค วิอืด(มาก)ร่า ที่เหลือ เชย์ กิฟเว่น ผู้ทำให้ลูกเซ็ตพีช ของสโต๊คอันตรายเสมอ อดัม จอห์นสัน ช็อตเตะเว้า ให้เกล็น วีแลน ยิงไหลเข้าไปคาตาทีม ตูเร่ ผู้มีคะแนนสม่ำเสมอที่ 5 คะแนนทุกนัด มีไว้ยืนประดับหน้าโกล์ แบร์รี่ผู้เล่นไปทุกตำแหน่งในสนาม แต่ไม่เด่นสักส่วนหนึ่ง แต่เขาทำประตูแลกมา 1 แต้ม จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 16:03:15

ความคิดเห็นที่ 10 พูลิสเม้งแตกเจอเปาปล้นชัยทดเจ็บ โทนี่ พูลิสกุนซือปริญญาควันออกหูหลังอลัน ไวลีย์ผู้ตัดสินดันเป่าฟาว์ลไรอัน ชอว์ครอสส์ที่โขกพังประตูชัยในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 5 ในเกมเสมอแมนเชสเตอร์ ซิตี้อย่างขาวสะอาด "ช่างปั้นหม้อ"ที่เหลือ 10 ตัวน่าจะพลิกล็อกเก็บ 3 แต้มหลังรอรี่ ดีแลปทุ่มไกลให้ชอว์ครอสส์เทคตัวโขกพังประตูในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายอย่างสวยงามแต่ไวลีย์กลับมองว่าอดีตเด็กปั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทำฟาว์ลเชย์ กิฟเว่นทั้งๆที่เป็นการเทคตัวขึ้นเล่นบอลอย่างชัดเจน "ประตูชัยลูกนั้นเป็นลูกที่สวยงาม"พูลิสยืนยัน "ลองดูปฏิกริยาของโคโล่ ตูเร่สิ เขาคุกเข่าและเอามือกุมหัวตาแบบถลน" "มันเป็นประตูที่ขาวสะอาดและทำไมผู้ตัดสินไม่ให้มันอันนี้ผมก็ไม่อาจทราบได้ มันเป็นอะไรที่น่าผิดหวังสำหรับเราอย่างที่สุด" นอกจากนี้พูลิสยอมรับใบแดงของอับดุลาเย่ ฟายที่ไปดึงเสื้อเอ็มมานูเอล อเดบายอร์จังหวะหลุดเดี่ยวแต่เรียกร้องให้เอฟเอพิจารณาเหตุการณ์ต้นเกมที่ปาทริค วิเอร่าเจตนาถีบใส่ท้องของเกล็น วีแลนซึ่งไวลีย์ไม่ให้แม้แต่ใบเหลือง "มันเป็นการตัดสินที่ดีแล้วกับการไล่อาบี้ออกแต่มีหลายเหตุการณ์ที่ผมไม่ปลื้มด้วยเลย" "โรเบิร์ต ฮูธติดโทษแบน 3 นัดจากเหตุการณ์เหตุการณ์หนึ่งเมื่อ 2 เดือนก่อน" "ผู้ตัดสินไม่เห็นเหตุการณ์แต่เอฟเอมาดูย้อนแล้วหลังแบนเขา 3 เกม" "มีเหตุการณ์มากมายในครึ่งแรกที่นักเตะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ผมคิดว่าหากไม่แย่กว่าก็แย่พอๆกับที่เราเคยโดน" "เราถูกไล่ออกแต่ 1-2 เหตุการณ์กลับไม่มีแม้กระทั่งใบเหลือง มันน่าสมเพชจริงๆ http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=241498 จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 16:06:36

ความคิดเห็นที่ 11 รวยจัด!เรือจ้องซื้อทีมคริกเก็ตอินเดีย เงินเหลือไม่รู้จะเอาไปทำอะไรดีล่าสุดเจ้าของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้มีแผนจะลงทุนซื้อทีมคริกเก็ตในพรีเมียร์ลีกอินเดีย ชีค มันซัวร์เชื่อว่าลีกคริกเก็ตหรือ IPL ในอินเดียจะเป็นฐานโปรโมทอาบู ดาบีของพวกเขาอย่างสมบูรณ์แบบเพราะกำลังบูมสุดๆ โดยทางลาลิต โมดี้คณะกรรมการ IPL ได้กล่าวยืนยันว่า"ผมยืนยันได้เลยว่ามีทีมจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษทีมนึงได้ทาบทามเราเพื่อขอซื้อทีมๆนึง" จากปี 2011 IPL จะมีทีมเข้าแข่งขัน 10 ทีมหรือเพิ่มจาก 8 ในปัจจุบันโดย 2 ทีมที่เพิ่มเข้ามาจะมีการประกาศในต้นเดือนหน้านี้ สำหรับชีค มันซัวร์มีสินทรัพย์ในตระกูลราว 500 พันล้านปอนด์เลยทีเดียว http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=241053 จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 16:07:09

ความคิดเห็นที่ 12 เรือเตรียมยื่น40Mซื้อไมค่อนตัดหน้าผี,เชลซี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ตกเป็นข่าวว่าเตรียมเงินมหาศาลเอาไว้สำหรับซื้อตัวดักลาส ไมค่อนแบ็คขวาชาวบราซิลเลี่ยนของอินเตอร์ มิลาน ก่อนหน้านี้เชลซี และแมนเชสตอร์ ยูไนเต็ดก็มีข่าวว่าให้ความสนใจดาวเตะวัย 28 ปีคนนี้เช่นเดียวกัน และหวังที่จะยื่นข้อเสนอให้ “งูใหญ่” หลังจบฤดูกาลนี้ด้วย ซึ่ง Corriere dello Sport ได้รายงานว่า เช้าวันนี้โรแบร์โต้ มันชินี่ได้มีการประชุมกับทางบอร์ดเพื่อที่จะหารือเรื่องการดึงตัวไมค่อนมาร่วมทีมให้จงได้ ซึ่งเชื่อกันว่าซิตี้เตรียมที่จะตัดหน้าทั้งเชลซี และแมน ยูไนเต็ด โดยจะยื่นข้อเสนอให้กับทางอินเตอร์ด้วยเงินมหาศาล 35 ถึง 40 ล้านยูโร เพื่อแลกกับแบ็คตัวเก่งคนนี้ ##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck ##### มันโช่บอกมีช่องเมื่อไหร่จะเซ็นบาโลเลย สงสัยงานนี้จะรักจริงหวังแต่งซะแล้ว เมื่อโรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือแมนเชสเตอร์ซิตี้เปิดเผยว่าถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ จะยื่นข้อเสนอขอซื้อมาริโอ บาโลเตลลี่ หัวหอกดาวรุ่งของอินเตอร์มิลานมาร่วมทีมทันที บาโลเตลลี่วัย 19 ปีเคยเป็นเด็กปั้นของมันโช่มาก่อนสมัยที่กุนซืออิตาเลี่ยนรับงานที่ซานซีโร่ และเมื่อย้ายมาคุมหางเสือ"เรือใบสีฟ้า"ก็ยังหวังจะได้ลายเซ็นของดาวรุ่งแดนมะกะโรนีมาครอบครองตั้งแต่ช่วงหน้าหนาวแล้ว แม้จะไม่ได้มาจริง แต่ถ้ามีโอกาสในช่วงซัมเมอร์ เขาจะไม่ปล่อยให้หลุดลอยไปอย่างเปล่าประโยชน์แน่นอน "ถ้ามีโอกาสนะ ผมจะเซ็นสัญญากับเขาทันทีเลย โดยไม่ต้องสงสัย" มันโช่บอก ##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck ##### จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 16:08:24

ความคิดเห็นที่ 13 ทอฟฟี่ช็อก!เฟลไลนี่เดี้ยงยาวครึ่งปี   สาวก "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน หน้าถอดสี เมื่อ มารูยาน เฟลไลนี่ มิดฟิลด์ร่างยักษ์ ข้อเท้าเดี้ยงแบบเดียวกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หัวหอก อาร์เซน่อล และต้องร้างสนามยาวถึงครึ่งปี เอฟเวอร์ตัน ทีมฟอร์มแรงใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เผชิญข่าวร้ายที่สุดในฤดูกาล เมื่อ มารูยาน เฟลไลนี่ กองกลางกุญแจสำคัญ มีอันต้องพักตลอดฤดูกาลนี้ หลังจากต้องเข้ารับการผ่าตัดอาการบาดเจ็บข้อเท้า ที่ได้รับจากการปะทะกับ โซติริส คีร์เกียคอส เซนเตอร์ฮาล์ฟ ลิเวอร์พูล ในเกม เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียม กำลังอยู่ในฟอร์มอันเยี่ยมยอด ก่อนหน้าที่จะเจ็บข้อเท้าอย่างหนัก จนต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งคาดว่า น่าจะต้องใช้เวลาพักฟื้นนานถึง 6 เดือนเป็นอย่างต่ำเลยทีเดียว เดวิด มอยส์ กุนซือสกอตติช "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ยอมรับว่า ดาวเตะหัวฟู มีอาการเดี้ยงไม่ต่างไปจาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้า อาร์เซน่อล ที่ต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มยาวก่อนหน้านี้ "เขาอาการไม่ค่อยดี เขาจะเข้ารับการผ่าตัด เขาได้รับบาดเจ็บแบบเดียวกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และบางที เขาจะต้องพักนาน 6 เดือนด้วยกัน" http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100217_040.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 16:09:22

ความคิดเห็นที่ 14 เพรอมิเอ ลีก อังกฤษ เกมที่ 39 / กษิติ กมลนาวิน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์      ความคิดที่จะจัดการแข่งขันฟุตบอล เพรอมิเอ ลีก อังกฤษ นัดที่ 39 เป็นของแถม หลังจากที่แต่ละทีมแข่งครบ 38 แม็ตช์ จบฤดูกาลไปแล้ว กลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ เป็นการแข่งขันเพื่อชิงสิทธิ์เป็นทีมที่ 4 ไปเล่นใน ยูเอ็ฟฟา แชมเปียนส์ ลีก            เนื่องจาก สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูเอ็ฟฟา แบ่งสัดส่วนให้แต่ละชาติได้โควตาส่งทีมร่วมแข่งขันใน ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรป ไม่เท่ากัน โดยมีการจัดอันดับลีกของชาติต่างๆ ซึ่งคำนวณจากค่าสัมประสิทธิ์ ( UEFA League Coefficient ) ที่เกิดจากผลงานของแต่ละสโมสรในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา หลังจากคำนวณเรียบร้อย ก็จะมีการประกาศลำดับลีกต่างๆของทวีปยุโรปออกมา แล้วก็จะไปมีผลในฤดูกาลถัดไป            วิธีการของ ยูเอ็ฟฟา ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนระบบใหม่หลังจากจบการแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 โดยเขาให้ทีมชนะได้ 2 คะแนน เสมอได้ 1 คะแนน รวมคะแนนแล้ว นำมาหารด้วยจำนวนทีมของชาตินั้นๆที่เข้าร่วมแข่งในฤดูกาลนั้น และยังมี คะแนนโบนัส สำหรับการผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่างๆอีก            จะอย่างไรก็ตาม โควตาสำหรับฤดูกาล 2010-2011 อังกฤษ สเปน อิตาลี ยังอยู่ 3 อันดับแรก ได้สิทธิ์ส่ง 4 ทีม ในขณะที่ เจอรมานี ฝรั่งเศส รัสเซีย ตามมาเป็นอันดับ 4,5 และ 6 ได้สิทธิ์ส่ง 3 ทีม ส่วนชาติอื่นๆ ก็ลดหลั่นลงไป            4 ทีมของอังกฤษก็ยังคงเป็น แมนเชสเตอร์ ยูนายเต็ด เชลซี อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล ที่ยึดพื้นที่อยู่อย่างค่อนข้างจะเหนียวแน่น ซึ่งท่านผู้อ่านคงทราบดีว่า ยูเอ็ฟฟา มีเงินรางวัลมอบให้ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันด้วย ยิ่งเข้ารอบลึกๆ จำนวนเงินที่จัดสรรให้ยิ่งก้อนใหญ่ อย่างน้อยๆ บิกโฟร์ ของอังกฤษก็ต้องรับกันร่วม 10 ล้านยูโร ทำให้ทั้ง 4 สโมสรมีรายได้จำนวนมาก อันนี้แหละที่คนอังกฤษมองว่า ได้เปรียบทีมอื่นๆ เพราะเขามีโอกาสมากกว่าใครในตลาดซื้อ-ขายนักเตะ ย่อมมีนักเตะฝีเท้าดีมากกว่าทีมอื่นๆ ซึ่งก็จะส่งผลให้ทีมมีศักยภาพสูงอยู่เสมอ ยากที่สโมสรอื่นจะเข้ามาแย่งพื้นที่            อังกฤษก็คงคิดว่า ค่าสัมประสิทธิ์ด้งกล่าวของทาง ยูเอ็ฟฟา ยังคงออกฤทธิ์ออกเดชอีกนานหลายปี เพราะที่ผ่านมา ทีมสโมสรจากเกาะอังกฤษยังโชว์ฟอร์มเข้ารอบลึกๆกันได้ทุกทีมอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น อังกฤษยังคงมีโควตา 4 ทีมอีกยาวนาน ตอนนี้อยู่ว่างๆ จึงกำลังคิดแผนการให้ทีมเล็กๆอื่นๆได้มีโอกาสสัมผัสเกมถ้วยใหญ่ของทวีปยุโรปกับเขาบ้าง            โดยทีมที่ได้แชมป์ รองแชมป์ และอันดับ 3 ของ เพรอมิเอ ลีก ก็ยังจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมแข่ง ยูเอ็ฟฟา แชมเปียนส์ ลีก ไม่มีปัญหาครับ แต่สำหรับโควตาทีมที่ 4 นั้น ใช่ว่าครองอันดับ 4 ของ เพรอมิเอ ลีก แล้ว จะได้รับสิทธิ์นั้น เขากำลังหารูปแบบใหม่ โดยนำอันดับ 4 กับ 5 มาเตะ เพลย์-อ็อฟ เหย้า-เยือน หรืออาจต้องนำอันดับ 6 กับ 7 เข้ามาร่วมด้วย            หากโครงการดังกล่าวเป็นจริงขึ้นมา ความสนุกตื่นเต้นของ เพรอมิเอ ลีก มีให้ติดตามกันจนจบฤดูกาลอย่างแน่นอน เพราะนอกจากการแย่งแชมป์แล้ว ยังจะมีการแย่งอันดับ 4-7 อีกด้วย เพื่อโอกาสในการชิงพื้นที่เพื่อร่วมแข่ง แชมเปียนส์ ลีก เป็นทีมที่ 4            หลายฝ่ายอาจเห็นว่า เมื่อเพิ่มแม็ตช์การแข่งขัน รายได้ที่แต่ละสโมสรจะได้รับส่วนแบ่งย่อมเพิ่มขึ้น น่าจะเป็นสิ่งที่ดี มีแต่ได้กับได้ แต่เรื่องนี้ก็ยังมีผู้ไม่เห็นด้วยอยู่เหมือนกัน พวกเขาบอกว่า นักเตะต้องแข่งหลายแม็ตช์เกินไป มันจะมีผลทำให้นักเตะเกิดความเหนื่อยล้า แล้วคราวนี้ถ้าไปตรงกับปีที่มีการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ฟุตบอลโลก จะทำอย่างไรเมื่อนักเตะกรอบ บักโกรก โดยเฉพาะใครเป็นโคชทีมชาติอังกฤษคงไม่ชอบแน่นอน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะเป็นจริงได้ ยังต้องรออย่างน้อยอีก 3 ฤดูกาล เพราะได้มีการตกลงเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดทางโทรทัศน์ไปเรียบร้อยแล้ว จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 16:10:35

ความคิดเห็นที่ 15 คราวนี้ก็ค่อยข้างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆว่าปัญหาของซิตี้อยู่้ที่ผู้เล่นนี่เอง กองหลังที่ไม่ว่าจะเล่นระบบไหนก็หลุดให้โดนยิงได้ไม่ว่าจะเล่นกับทีมใดระดับไหน กองกลางที่เอาบอลขึ้นมาบุกไม่ได้ ต้องให้กองหลังสาดยาวข้ามหัวไปข้างหน้าแทน 2 ปัญหานี้คงแก้กันไม่ตกในฤดูกาลนี้ จะเป็นการบ้านต่อไปในการหาซื้อตัวผู้เล่นใหม่ฤดูกาลหน้า ฤดูกาลนี้ก็ยังคิดเหมือนเดิมว่า ต้องเน้นเหนียวแน่นเสียประตูให้น้อยที่สุด แล้วรอลุ้นทีมอื่นสะดุดขาตัวเอง แล้วซิตี้ลอยลำเข้าที่ 4 ลำพังจะทำเองก็ดูแล้วว่าคงไม่ง่าย เพราะนักเตะเรามีข้อจำกัดกัน ถ้าจะเอาให้ดีอาจต้องถึงขนาดโละทิ้งเกือบทั้งทีมอีกครั้งแล้วหานักเตะใหม่ดีๆเข้ามาแทน นักเตะุปัจจุบันอาจต้องหลุดไปสำรองเพราะคงขายออกไม่ได้ง่ายๆ ค่าตัวแพงๆกันทั้งนั้น ตัวที่เราซื้อมาหลายปีนี้ยังไม่เห็นที่เล่นได้ดีสม่ำเสมอเลย เป็นงานหนักแล้วครับ อย่างที่ว่า ถ้านัดที่แล้่วแผ่วก้มีแนวโน้มว่าจะแผ่วยาว เพราะแสดงว่ามันชินี่ได้มาถึงทางตันแล้ว จะเชียร์ก็คงต้องทำใจครับ คงจะเล่นเน้นรับเหนียวแน่นและอาจไม่ได้ทำผลงานดีนักในฤดูกาลนี้ จากคุณ : ซิตี้ สู้ สู้ เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 16:35:42

ความคิดเห็นที่ 16 1. ตอนฮิวส์คุมทีม  เล่นตัวรับสองตัว คือแบรี่ กับ เดอจอง  ผลก็ออกมาแล้วว่า เสมอมากกว่าชนะ  พอมาแมนซินี่  เล่นกลางรับซะสามตัว จะไปยังไง  ยังดีปั๊ตยังบุกได้บ้าง แล้วแบรี่เติมเกมส์มากขึ้น  แต่ เดอจอง ยังคงถูกสั่งให้ยืนต่ำมากอยู่ดี 2. GARRIDO: His Spanish sensibilities were not quite attuned to such brutal, primeval football อันนี้ขำมากครับ เขาเรียก primeval football   เลยเหรอ 3. โรเก้  เป็นกองหน้าประเภทเข้าฮอร์ส  ต้องมีลูกเปิดจากปีกเข้าไป พุ่งๆ ประมาณนั้น  ถ้าเล่นแบบที่แมนซินี่ชอบเนี่ย โรเก้จะทำไรไม่ได้สักอย่างเลย 4. ที่เวบซิตี้เมืองนอก มีคนพยายามทำสถิติมาดู พบว่า เดอจอง คู่แบรี่ ชนะน้อยมาก  ผมว่าคู่รับสองตัวนี้ เหมาะกับเกมส์ใหญ่ๆ ที่ทีมอีกฝ่าย ดาหน้าบุกเข้าหาเรา  แต่เจอทีมไม่แกร่งมาก  จะไม่มีใครสร้างเกมส์รุกขึ้นไปเลย   ที่ผ่านมา มีแต่ SWP  กับไอร์แลนด์ ซึ่งไอร์แลนด์ ก็เหมาะกับระบบ 4-4-2  ที่เขายืนหลังกองหน้าสองตัว  ถ้าเป็น diamond ก็เป็นตำแหน่งตรงหัวเพชรนั่นแหละ  แล้วมีปีกสองข้าง วิ่งทำทาง ให้เขามีจังหวะจ่าย killer pass ให้ แต่ถ้ามาเล่น 4-5-1 หรือ 4-3-3 เนี่ย   จะหายไปเลยครับ   นานๆก็โยนทะลุให้ทำประตูได้สักที แต่ศักยภาพหายไปเยอะครับ กิฟเว่น พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ปฏิกิริยาสุดยอด  แต่ลูกโด่ง คือจุดอ่อน  ควรให้โอกาสเทเลอร์ที่ตัวสูงใหญ่ สำหรับเกมส์ที่เจอพวกทีมโยนแหลก โหม่งกระจายแบบสโตคบ้าง  ผมจำได้ว่า  เล่นกับสโตคในยุคฮิวส์   ดีแลปไม่ได้แผลงฤทธิ์เลย ทีมเรามันเป็นอะไรไปหว่า กองหลังพอเจ็บ ก็ทยอยกันเจ็บ  กองหน้าพอเจ็บ ก็ทยอยกันเจ็บหมด แทบไม่เหลือทั้งๆที่จำนวนผู้เล่นเยอะมาก ผมคิดไปเองเปล่าเนี่ย ตั้งแต่ตูเร่ กับบายอร์ มา  ทีมเราฟอร์มตกซะงั้น ตอน กอมปานี  เล่นคู่โบยาต้า  ดูดีมากเลยครับ จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 17:14:48

ความคิดเห็นที่ 17 Thank you. จากคุณ : คนค้ำฟ้า เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 17:34:05

ความคิดเห็นที่ 18 กิฟเว่น พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ปฏิกิริยาสุดยอด  แต่ลูกโด่ง คือจุดอ่อน  ควรให้โอกาสเทเลอร์ที่ตัวสูงใหญ่ สำหรับเกมส์ที่เจอพวกทีมโยนแหลก   เห็นด้วยกับ ป้อม จากคุณ : mooagiko เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 19:12:24

ความคิดเห็นที่ 19 เทเลอร์ เท่าที่เคยดู ผมว่าสู้โจฮาร์ทยังไม่ได้เลยครับ ไว้ใจไม่ได้ครับ จากคุณ : c_kanok เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 19:20:32

ความคิดเห็นที่ 20 ผมไม่ค่อยพอใจกองหลังที่มีอยู่นะ   ขนาดมีตัวรับตั้งสอง หรือ สามคน แต่กองหลังไม่ได้แน่นขึ้นมาก   ที่จริงควรจะแข็งโป๊กด้วยซ้ำ  หากมีกลางตัวรับมาช่วยหลายตัว   ทีมอื่นๆเขามีตัวรับตัวเดียว อย่างดูแน่นดี ผมว่าหลังตั้งแต่มี ตูเร่มาประจำการนี้  ดูอ่อนลงไปครับ  กัปตันทีมตอนนี้เปลี่ยนให้กิฟเว่นไปแล้ว ไม่ได้หมายถึงว่าตูเร่เล่นไม่ดี แต่หลายๆจังหวะยังเล่นเข้ากับกองหลังตัวอื่นไม่ค่อยดี และยังเหวอๆอยู่ (ไม่นิ่งเหมือนกอมปานี) (แต่กิฟเว่น พอเป็นกัปตัน ก็ดูเกิดอาถรรพ์หรือเปล่า แมนซิติ้ใครเป็นกัปตันดูเล่นต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเอง ตั้งแต่ริชาด ดันน์แล้ว) อีกอย่าง ตูเร่ นี้ ลูกโด่งถือว่าน่าจะด้อยกว่าหลังตัวอื่นๆเลยนะ เจอทีมที่เล่นลูกโด่ง  มันโช่น่าจะลองให้คนอื่น โบยาต้า  มีลูกหลุดๆบ้าง เนื่องจากขาดประสบการณ์  แต่มีความทุ่มเทสูงมาก  เกี่ยวบอล บังบอลดี  กอมปานี นิ่งสุดในทีมตอนนี้  ลูกโด่งก็ดีสุดในทีมด้วย   ช่วงนี้ท๊อปฟอร์มตำแหน่งเซนเตอร์มาก ไมก้า  แข็งแกร่ง  เติมเกมดี  ลูกโด่งก็ไม่ได้ด้อย  เพียงแต่มีลูกตุกติกบ่อยกว่าคนอื่น จนโดนเหลือง โดนฟรีคิก โอนัวฮา  น่าจะเก่งขึ้น  ถ้ามันโช่ให้โอกาสมากกว่านี้     ความเร็วใช้ได้  ไม่ได้ลงเคาะสนิม สงสัยคงเกรอะแล้วล่ะ ซาบาเลต้า  เหมือนจะเป็นยาสามัญประจำทีม  ได้ลงตลอด ไม่แบ็กขวา ก็ปีกขวา  บางนัดเล่นตรงกลาง   บางครั้งโดนโยกไปแบ็คซ้ายก็มี สารพัดประโยชน์จริงๆ   แต่ควรจะพักร่างกายบ้างให้โอกาสโอนัวฮาได้ลงเล่นหน่อย  โดยเฉพาะ ทางแบ็คขวา   แล้วให้ไมก้าหุบมาอยู่กลาง คู่กับ เลสคอต หรือกอมปานี ดีกว่า ตอนนี้ไม่ค่อยพอใจกองหลัง ครับ ส่วนกลางนี้    เด ยอง    แบรี่   ลงเล่นเกือบทุกนัด    และก็ไม่ค่อยบาดเจ็บง่ายด้วย  แสดงว่าร่างกายดี สองคนนี้คงเล่นเข้าระบบของมันโช่ได้ดีกว่าคนอื่นๆ  จึงได้ลงเล่นประจำ ไอร์แลนด์  ซุปเปอร์แมนปีก่อน ตอนนี้กลายเป็น ลิตเติ้ล แมน  ยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอ และดูยังเล่นตามระบบของมันโช่ไม่ดี    นักเตะที่เคยเล่นๆกันมาก็หายไปทีละคนสองคน   บางนัดลงมาดูเงียบๆ  มีส่วนกับเกมน้อยไปเลย    อีกอย่างบาดเจ็บบ่อยกว่าปีก่อนมาก ทั้งๆที่เล่นน้อย และไม่ได้วิ่งเป็นม้าเหมือนแต่ก่อน (หรือว่าร่างกายถูกใช้งานมากไปปีที่แล้ว ไม่น่าจะเกี่ยวมั้ง) จากคุณ : yut เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 20:54:30

ความคิดเห็นที่ 21 ควาคิดผมน่จะลองเปลี่ยนตำแหน่งตูเร่ดู อาจจะดูดีขึ้นก็ได้ แบรรี่กะเดจอง ผมว่าเหมือนกัน น่าจะเป็นอะไหล่ให้กันมากกว่า ถ้าเราลองเอาตูเร่มาเล่น มิดพิลตัวรับคู่กะแบรรี่ เกมส์บุกน่าจะดูดีกว่านี้ และรับก็ไมน่าเสียหายอะไร เพราะตูเร่ เป็นเซนต์เตอร์อยู่แล้ว คงพอจะช่วยคู่หลังได้ดีและบุกไม่ต้องพะวง อยากให้น้ามันชินี่ลองจัดทีมแบบนี้จัง                                บายอ               เตเวส เบลลามี                 แบรรี่                     ตูเร่                      จอห์นสัน เล๊ตค๊อต               กอมปานี                  โบยาต้า               ซาบาเล็ตต้า                                      เชย์ กิฟเว่น ที่อยากจัดแบบนี้เพราะผมมอง ว่าตูเร่ ถ้าบุกโดยไม่พะวงหลังแกจะทำได้ดี ไม่ต่างจากน้องชาย และเล็ตค๊อต ผมมองว่าแกเล่นเซนเตอร์ ไม่ค่อยนี่งเท่าไร่น่าจะเอามาเป้นแบ็ก แย่งต่ำแหน่งกะ บริดมากกว่าแบบว่าใครเจ๋งได้ลง แบรรี่กะเดจองก็เหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 53 21:03:52 แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 53 21:01:16 จากคุณ : แมวเหมียว (cat30) เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 20:58:52

ความคิดเห็นที่ 22 ต่อกองกลาง บอกตรงๆ คิดถึง เอลาโน่   ถ้าในทีมมีเขา  น่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่ มิติเกมรุกน่าจะดีกว่าที่เห็น ไอร์แลนด์  คิดว่าจะแทนได้   ก็ฟอร์มหายดื้อๆ จอนสัน ก็เจ็บข้ามปีเลย   ตรงกลางตอนนี้   เกมรุก ต่อบอลขึ้นไป ไม่เห็นมีอะไร  อาศัย แบรี่  เดยอง  ก็ดูยังไม่น่ากลัวกองหลังฝ่ายตรงข้ามเลย ปีกสองข้าง ก็ดูจะตันขึ้นเรื่อยๆ  จากที่ผ่านตลอด  เริ่มมีตันให้เห็น  เริ่มตั้งแต่บินโย่ก่อนโน้น  ตอนนี้ เปตรอพ   เบลามี่   ฟิลลิปส์ ก็เริ่มตันๆ จอนสัน นัดล่าสุด  ก็ถูกคุมพื้นสองคนเป็นอย่างต่ำ  เริ่มตันให้เห็น มันโช่คงต้องแก้เกมให้มากกว่านี้  เพราะทีมคู่แข่งเขาเตรียมตัวแก้เกมมาค่อนข้างดี   หามันโช่ ยังแก้เกมคู่แข่งไม่ดีพอ   โอกาสที่สี่ ที่มีมากกว่าทีมอื่นๆ  คงจะเริ่มลอยหายไปเรื่อยๆ เอาใจช่วยนะครับ    แม้จะวิจารณ์ฟอร์มทีมค่อนข้างลบไปหน่อย จากคุณ : yut เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 21:12:55

ความคิดเห็นที่ 23 ผลงานรวมๆ ของกองหลัง 2 คน 40m ดูแล้วยังสู้กองปานี กับ โบยาต้าไม่ได้เลย กองกลางตำแหน่งก็ซ้อนกันเยอะเกิน วิเอร่า ยืมมาก็เพื่อเป็นตัวจริงไปติดบอลโลก แบรี่ กับ เดยองก็เหมือนจะขาดไม่ได้ กลายเป็นอัดกลางรับไป 3 แบรี่ถ่างไปซ้าย เลยดูแปลกๆ ส่วนกองหน้าขาดเตฟ เบลามี่ ไรท์ เหมือนจะทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ถ้าพลาดเป้าหมายที่วางไว้ก็สมควรเขกกระโหลกทั้งทีมแล้วกัน อุส่ามีเกมส์ได้เปรียบ ดันพลาดอีก จากคุณ : Yahsarah เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 21:26:21

ความคิดเห็นที่ 24 คิดถึงสมัยยิงไม่ถึง3ลูกไม่ชนะ เล่นบุกถล่มแบบได้เสียกันไปข้าง กองเชียร์ใจหายใจคว่ำทุกนัด จบอันดับกลางๆแต่ดูสนุกกว่าตอนนี้เยอะ จากคุณ : tnmcfc เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 21:53:41

ความคิดเห็นที่ 25 4-3-3 ของเรือใบยังไม่ครบเครื่องอ่ะ โดยเฉพาะแดนกลาง 3 ตัว วิเอร่า เดยอง แบรี่ มันเป็นลักษณะเชิงรับเกินไป ไม่มีตัวที่จะนำบอลจากแดนกลางไปให้แดนหน้าเรย ไอร์แลนด์ ก็เล่นไม่เข้าระบบซะนี่ คิดถึง เอลาโน่ เฟ้ยยยยยยยยยย มาร์คแม่มขายกลางที่ดีที่สุดในทีมชาติบราซิลยุค ดุงก้า ได้ยังไงเนี่ยยยยยย คิดแล้วแค้นนนนนนนนนนน เดยอง - ตัดเกมส์ นึกอะไรไม่ออกจ่ายคืนหลัง แบรี่ - คอยประคองแดนกลาง เชื่อมเกมส์จากกองหลังสู่กองกลาง วิเอร่า - ตัดเกมส์  เชื่อมเกมส์จากกลางไปหน้า แต่เขาไม่ใช่กลางรุกมืออาชีพมันก็เลยแทงกั๊ก น่าเห็นใจ น้ามันโช่เหมือนกันน่าคับ ไม่มีเวลาให้เสริมทัพเท่าไหร่เรย กองกลางก็ใช้แบบตามมีตามเกิด ปีนี้ลุ้นกันเหนื่อยล่ะ อิอิ ส่วนปีหน้ารับรองน้าแกคงช็อปมันมือ ขอพวก โยฮัน กูกูฟ , มาเร็ค ฮัมซิก แนวๆนี้ก็พอละ  หรือไม่ใครฟอร์มแจ่มๆในฟุตบอลโลกก็คว้ามาซะเรย จากคุณ : VanHelsing เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 22:21:46

ความคิดเห็นที่ 26 แบรี่  กับเดยอง  ตัดใจเก็บไครคนนึงนั่งสำรองฟอร์มก็จะดีเอง กลางรับสองสามตัว  ไม่ได้เล่นกับทีมแชมป์นะเฟ้ย... จากคุณ : เรือแจวสีฟ้า เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 22:27:33

ความคิดเห็นที่ 27 ขอสนกระสนิดนึง อย่างแรก อย่าลองของกับ สจ๊วต เทย์เลอร์ ครับฝีมือไม่เลวร้าย ชีวิตแกช่วงหลังนั่งสำรองตลอด เคยรุ่งช่วงเดียวที่เป็นมือ 1 ช่วงสั้น ส่วนเรื่องลูกโด่งนี่ กองหลังต้องช่วยนิดหนึ่ง ถ้าไม่โหม่งจ่อแบบหน้าเขตประตูนี่ ก็ผ่านเทพเชย์ยาก ให้โหม่งบริเวณเขตโทษก็เถอะ ทีมเราเพิ่งเสีย หรือ โดนลูกเซ็ตพีช ช่วง 2 นัดเจอสโต๊คเอง ซึ่ง กอมปานี เจ็บ ตูเร่เข้ามา ตูเร่สกรีนใครไม่ได้เลย คนที่ต้องลมาสกรีน กลายเป็นแบร์รี่ กับ วิเอร่า อย่างที่สอง เรื่อง ซานต้า ครูส เข้าใจกันว่าเซ็ง แต่กองหน้าอย่างซานต้า ให้โอกาสเคาะสนิทนิดนึง พี่แกไม่ได้มีดี แค่รอเข้าฮอสอย่างเดียวแน่ การพาบอล พักบอลมีหมด แต่ทีมเวิร์คยังไม่เข้าขากัน  แล้วมาเจอยืนกับบายอร์ด้วย ทำตัวลำบาก ถ้าจะเล่นหอคอยคู่นี่ จังหวะรอบอลที่เพื่อนกำลังทำ  บายอร์ต้องลงต่ำ ถ่างออกมา แล้วให้ซานต้าอยู่กลางหน้าสุดครับ เพราะ คนหาจังหวะยิงและคมกว่าคือซานต้า แต่กลายเป็นบายอ ดันไปค้ำเป็นหน้าหอกหลักซะงั้น ซานต้าเลยต้องถ่างออกมาช่วยด้านข้าง จะเห็นว่า ต้องลงไปฝั่งซ้ายเป็นพิเศษ บางทีต้องเป็นคนไปรับบอลที่ปีกเลย บายอดันไปยืนหอกค้ำ ซึ่งปกติ ตัวเองเล่นหอกค้ำ คู่เตฟ  ชอบไปลงต่ำ ถ่างออกปีก ไม่มีหัวหอกข้างหน้า ไปแย่งพื้นที่เตฟเฉยเลย จนเตฟบางทีต้องดันเป็นหอกค้ำ  พอมาเล่นกับซานต้า ดันไปยืนค้ำ ทั้งที่ตัวเองพาบอลเร็วกว่า บอกตรงๆ เห็นทัศนะคติการเล่นของบายอ ไม่ว่าจะกับเตฟ หรือ ซานต้า ลำบากทั้งคู่ แกไม่ได้เพื่อช่วยเพื่อนให้เกิดเลย เวลานี้ เบญจานี่ ยังมีประโยชน์กว่าอีก เพราะวินัยการเล่นดีกว่า เล่นตามโค้ชสัง แม้ความสามารถสู้ไม่ได้ ซานต้าถ้าเครื่องติด นี่ยิงได้เรื่อยๆแน่ ไม่ต้องห่วงครับ แล้วไม่ใช่กองหน้าทีฝืดนานเกิน 5 นัด ตอนนี้แกเริ่มกลับมาได้ ร่างกายประมาณ 70 เปอร์เซนต์แล้ว ได้เคาะสนิมอีก  3 นัด น่าจะได้ประมาณ 90 เปอร์เซนต์แล้ว เมื่อย้อนไปดูสมัยเล่นกับอาร์เซนอล ฟาน เพอร์ซี่ ก็ไม่ได้เกิดมาแล้วครับ จากการเล่นคู่กับบายอ พอไม่มีบายอ ฟาน เพอร์ซี่ มีพื้นทีเล่น มีโอกาสมากกว่าเยอะเลย   ทีมเราไม่ได้เลวร้าย ขนาดต้องถอนใจหรอกครับ ตอนนี้นักเตะเจ็บ เตะถีติดกันหลายนัด ยังทรงตัวอยู่อย่างนี้ ก็โอเคแล้ว รอเตฟ กับ เบลลามีกลับมา อีกปัญหาหนึ่ง คือ นักเตะแมนซิตี้ เวลาเล่นกับทีมเล็ก มันขาดความกระหาย มันเลยงึกๆงักๆ พอเล่นกับใหญ่ แมน ยู เชลซี อาร์เซนอล ลิเวอร์พูล ดันวิ่งสู้ฟัดขึ้นมาทันที อย่างนี้คงลำบากในการักษาที่ 4 แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 53 22:58:40 จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 22:53:58

ความคิดเห็นที่ 28 คิดเหมือนคุณ: แมวเหมียว เรื่อง Toure ครับ จับเค้าไปเล่นในตำแหน่งน้องชายเอาไว้รับและทะลุทะลวงน่าจะเข้าท่ากว่าเยอะหรือเอาไปเป็น wing back ขวาก็ได้ แล้วเลือก Barry หรือ De Jong มายืนรับลึกคนเดียวก็พอ ถ้าจะให้เลือกผมจะเลือก Barry เพราะเค้าตัวใหญ่ คุมจังหวะ และโยนบอลแม่นกว่า De Jong ส่วน De Jong ดูเล่นมาหลายนัดแล้ว เหมือนคนทำงานแบบคุ้มเงินเดือนแค่ครึ่งเดียว คือ วิ่งพล่านตัดเกมได้บอลมาก็ส่งบอลไป เหมือนลูกบอลเป็นของร้อนเก็บไว้กับตัวนานไม่ได้ ทำงานแค่ตามหน้าที่ของตัวเองอย่างเดียวก็พอนอกเหนือจากนั้นไม่ทำแล้ว ทั้งๆที่ตัวเค้าไม่ค่อยจะมีคู่แข่งมาประกบเลย กองหลังส่งมาให้หรือเก็บตกได้ในพื้นที่ฝั่งตรงข้ามโล่งโจ้งไม่มีใครมาประกบแต่ ดันรีบส่งไปให้เพื่อนที่โดนประกบตาย 2-3 คนให้โดนรุมเล่นทุกทีซะงั้น De Jong ตัวเตี้ยเหมาะกับเกมที่เล่นกับทีมใหญ่ที่ชอบเล่นบอลบนพื้นมากกว่าทีมเล็กที่ สาดโด่งข้ามหัวตลอดแบบนี้ เห็น De Jong ยืนแหงนคอดูลูกบอลลอยไปลอยมาเหนือหัวตลอดเวลา เวลาเจอทีมพวก Stoke หรือ Everton แล้ว เหมือนกับทีมเราเล่น 10 ตัวตลอดเวลาเลยครับ ส่วนกองหลังผมว่าเอา Lescott มายืนคู่ Kompany น่าจะแน่นขึ้นทั้งเรื่องลูกโด่งและการอ่านเกมครับ Lescott ไม่ได้แย่อะไรเท่าไหร่ แต่ต้องมาประคอง Toure ตลอดก็เลยดูเหมือนมีหลุด ถ้าจับคู่กับ Kompany ผมว่าเกมรับตรงกลางน่าจะดีขึ้นเยอะครับ จากคุณ : i_saw_u_standing_alone เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 23:01:47

ความคิดเห็นที่ 29 ก็น่าจะป็นได้นะ ทีเลสค็อตออกทะเลช่วงต้นฤดูกาล เพราะยืนคู่ตูเร่ แต่ส่วนตัว ผมชอบ ริชาร์ด คู่ กอมปานี คนหนึ่งได้เชิง คนหนึ่งได้ห้าว แต่นัดล่าสุดนี่เลสค็อตเด่นสุดในกองหลังเลย สกัดลูกโด่งได้หลายครั้ง   ต้องดูต่อไป ทุกวันนี้ เรายังไม่ได้ยินสัญญาณจะดันตูเร่เล่นกลาง การที่ตูเร่ยังเป็นกัปตัน อีกอย่าง ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ ตอนเล่นกับทีมอื่นนี่ ก็ไม่ได้เทพเหมือนเล่นกับทีมเรา ที่พากองหลังทัวร์ ****************************************** ด่วน!ฮิดดิ้งค์โอเคคุมตุรกีแล้ว 17/02/2010 18:26:42 สหพันธ์ฟุตบอลเติร์กเปิดเผยอย่างเป็นทางการ กุส ฮิดดิ้งค์ กุนซือมือฉมังชาวดัตช์ ตกลงจะเข้าคุมทีมชาติตุรกีแล้ว หลังบอกปัดต่อสัญญากับทีมชาติรัสเซีย โดยจะเข้ารับตำแหน่งในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ กุส ฮิดดิ้งค์ เทรนเนอร์ชาวดัตช์ ตกลงจะเข้ารับตำแหน่งเทรนเนอร์คนใหม่ของทีมชาติตุรกีแล้ว โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้ จากการเปิดเผยของสหพันธ์ฟุตบอลตุรกี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา   ฮิดดิ้งค์ ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาจะอำลาตำแหน่งกุนซือทีมชาติรัสเซีย เมื่อหมดสัญญาลงในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ โดยยอดฝีมือชาวดัตช์ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกุนซือที่ดีที่สุดในโลก และเข้าคุมทีม "หมีขาว" ตั้งแต่ปี 2006 "ประธานและรองประธานสหพันธ์ฟุตบอลตุรกี ได้เข้าพบกับ มร.ฮิดดิ้งค์ ที่อัมสเตอร์ดัม เมื่อวานนี้ (วันอังคาร) และตกลงสัญญาระยะเวลา 4 ปี ซึ่งจะเป็นออปชั่นต่อสัญญาเพิ่มอีก 2 ปี" สหพันธ์ฟุตบอลตุรกี แถลงสั้นๆ http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100217_122.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 23:18:10

ความคิดเห็นที่ 30 ผมดูว่ามันโช่พยายามจะปั้น Micah ในตำแหน่งแบ็คขวาให้เหมือนกับตอนปั้น Micon มากกว่าจะเอามายืนตรงกลางนะครับ ฟอร์มทีมตอนนี้ยังไม่ค่อยดี แต่ผมมีความมั่นใจว่าหลังจากระบบลงตัวนักเตะเข้าใจระบบมันโช่แล้วทุกอย่างน่าจะดีขึ้นเหมือน Van Gaal กับ Bayern ครับ เรียกว่าถึงแม้จะยังเล่นไม่ดีตอนนี้ แต่ก็ยังมองเห็นแนวทางในอนาคตที่มีเค้าลางของระบบมากกว่าช่วง Hughes คุมนะครับ อยากให้มันโช่มีเวลาทำทีมมากเหมือนที่ Hughes ได้ แต่ข่าวลือเรื่อง Mourinho ในบอร์ดนอกก็ยังหนาหู ตอนนี้อยากเห็นผุ้จัดการแบบมันโช่สร้างทีมจาก 0 ขึ้นไปมากกว่าอยากได้ผู้จัดการสำเร็จรูปแบบมูแล้วน่ะครับ อิอิ จากคุณ : i_saw_u_standing_alone เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 23:59:27

ความคิดเห็นที่ 31 ผลแบบนี้มันก็เซ็งนะครับ  แต่ว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว ขอมองในแง่ดี ให้กำลังตัวเองไปก่อน  ว่า1แต้มที่ได้มาในนัดนี้  ถือว่าสำคัญอยู่  เมื่อจบฤดูกาลอาจเป็นได้ 2 อย่างก็ได้ 1.แต้มนี้อาจทำให้เราไป ucl หรือ 2 แต้มที่ขาดไปจากเกมนี้อาจทำให้อดไปบอลยุโรป T T งงมาก เตะ 11 - 10 คน มาตั้งนาน แต่ดันเพิ่งจะเล่นได้เปรียบตอน 10 นาทีสุดท้ายนี้เอง ไอ้ตอนนาที 60 ไม่เล่นแบบท้ายเกมอะ จากคุณ : อินจอง เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 00:05:59

ความคิดเห็นที่ 32 ตามมาอ่านข่าวครับ จากคุณ : yellow fins เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 00:07:18

ความคิดเห็นที่ 33 นัดสุดสัปดาห์ที่จะเจอกับ Liverpool นี้ ได้ Peter Walton ที่เคยให้ใบแดงไล่ Zabba ออกฤดูกาลที่แล้วมาเป็นกรรมการครับ อิอิ จากคุณ : i_saw_u_standing_alone เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 00:37:42

ความคิดเห็นที่ 34 หึหึหึ สรุปว่าถึงตอนนี้ มารคคคคคคคคคก็ยังผิดที่ขายเอลาโน่ ไม่เปลี่ยนเป็นโทษซักคนที่ปล่อยบิญโญ่กลับบ้าน ไม่ก็ไม่ยอมซื้อเอลาโน่กลับมา หรือกลางรุกตัวอื่นๆ ใอนักเตะชุดนี้ มารคเค้ายิงเอาๆน่า...ไหนสุดท้ายหวยลงที่มารคปล่อยเอลาโน่ละเนี่ย อยากรู้จริงๆว่าหลังจบปีแฟนจะมาย้อนอดีตมารคเสมอเจ็ดนัด หรือ มันชินี่แพ้สโต๊กหว่า? จากคุณ : หนุ่มเสื้อบอล เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 02:14:59

ความคิดเห็นที่ 35 เออ ข้างบน แบบว่า แมน ซิตี้ ยังไม่แพ้สโต๊ค พี่จะรีบแช่งไปไหน หุหุหุ จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 09:05:51

ความคิดเห็นที่ 36 ผลงานดีบ้างไม่ดีบ้าง  เรารอดูตอนจบฤดูกาลดีกว่าครับ จากคุณ : อินจอง เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 09:15:42

ความคิดเห็นที่ 37 ผมไม่เคยดูตอนที่เอลาโนเล่นตอนแรก ๆ นะ... ได้ดูแต่ช่วงหลัง ๆ ผมว่าแกเล่นได้ไม่ดีเลย เหมือน ๆ โรบินโย่แหละ ไอร์แลนด์เล่นดีกว่าเยอะ... ผมมีความรู้สึกว่ากลางตัวบุกเราแต่ละคนนี่จะบอบบางเกินไปนะสำหรับบอลอังกฤษ.. ถ้าได้ถึก ๆ กว่านี้หน่อยน่าจะดี ....สรุปแล้วผมว่าเอลาโน่ไม่ใช่คำตอบของทีมหรอกครับ... อย่าเอากลับมาเลย... จากคุณ : อั้ม. เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 09:52:54

ความคิดเห็นที่ 38 แล้วถ้าจบปีนี้ได้ไปUCL หนุ่มเสื้อบอลจะร่วมฉลองกับมันชินี่ด้วยไหมหล่ะ อิอิ แต่ว่าปีนี้ยังไม่แพ้สโต๊คนะอย่าพึ่งรีบแช่งซิ จากคุณ : ลูกจ้างมืออาชีพ เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 10:47:22

ความคิดเห็นที่ 39 สภาพทีมที่ไม่สมบูรณ์ ได้คะแนนเดียว นับว่าโชคดีมากแล้วนะ     แต่ก็น่าแปลกใจว่า เล่นไปเล่นมา ไหงซิตี้อ่อนลงๆช่วงท้ายฤดูกาลอีกแล้วหรือนี่      มันโช่ต้องหาวิธีทำให้ลูกทีม คึกคักมากกว่านี้ครับ เวลาที่ลงสนาม         แต่ที่มีข่าวว่า ให้ดื่มไวน์ได้ก่อนแข่ง นะ ไม่เอานะ.......                คงต้องรอดูพัฒนาการของทีมในระยะยาวๆเสียแล้ว....ไม่เป็นไรครับรอกันได้.... จากคุณ : กลาง. เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 16:37:08

ความคิดเห็นที่ 40 ผมไม่ได้เรียกร้องให้เอาเอลาโน่ กลับมานะ   และผมก็ไม่คิดว่าเขาจะกลับมาแล้ว  อายุเยอะแล้ว คงไม่มาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แต่ทีมตอนนี้ขาดตัวรุก  ขาดนักเตะที่เชื่อมระหว่างหน้า กับกลาง   ผมมองเห็นนักเตะที่สามารถเล่นได้ นั้นคือเอลาโน่   เอลาโน่  ชุดทีมของมาร์ค  กับ  ทีมของสแวน   ต่างกันครับ ถ้าใครได้ดูทีมของมาร์ค จะเห็นความด้อยประสิทธิภาพของเอลาโน่  เพราะการจัดการทีมที่ต่างกับสแวน เพราะระบบของมาร์คต้องวิ่ง นักเตะตัวรุกต้องคอยลงมาเล่นเกมรับเมื่อเกมตั้งรับ ซึ่งมันน่าจะดี   แต่ผลงานโดยรวมก็ไม่ได้ดีมีอนาคต  ก็เลยต้องไปไงครับ โดยมีเวลาทำงานประมาณปีครึ่ง สแวนก็ตั้งรับ  แต่ตั้งรับเป็นโซน     แต่เอลาโน่จะเป็นตัวประสานงานตรงกลางทั้งหมด  ซึ่งเขาก็ทำได้ดีระดับหนึ่ง ผมถึงบอกว่า ถ้ามีเอลาโน่ตอนนี้  จุดอ่อนในทีมอาจจะได้รับการแก้ไขโดยเขาก็ได้  แค่นั้น จากคุณ : yut เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 16:42:41

ความคิดเห็นที่ 41 ช่วงนี้ ขาดเตเวซ เหมือนขาดใจ   เตเวซเป็นทุกอย่างของซิตี้  รีบๆกลับมานะครับ  อย่างนัดเอฟเอคัพก่อนโน้น ผมว่าถ้ามีเตเวซ เราอาจจะชนะจบไปแล้วก็ได้นะ จากคุณ : อินจอง เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 18:01:42

ความคิดเห็นที่ 42 เอลาโน่ ยุคสเวนเป็นกองกลางครับ เอลาโน่ ยุคฮิวส์เป็นปีกขวา  มาเป็นปีกฮิวส์มันดูไม่ออกเลยหรอว่าเอราโน่วิ่งเร็วแค่ไหน โรบิญโญ่ ปล่อยไปแหละดีแล้วมันไม่คิดว่าแมนซิตี้คือบ้านหรอก คิดแค่ว่าศาลาพักริมทางให้ออกจากรีล มาดริดได้ก็พอ  ลงสนามวิ่งก็ช้าโทษนู่นโทษนี่  ปากหวานบอกรักแมนซิพอกลับไปบอกอยากอยู่นู่นนานๆจะเอาไงกันแน่                                                         เบลามี่               เตเวส เปตรอฟ                 แบร์รี่                     ไอร์แลนด์             จอห์นสัน เล๊ตค๊อต               กอมปานี                  โบยาต้า               ซาบาเล็ตต้า                                     เชย์ กิฟเว่น ไอร์แลนด์ แบรี่ แทงออก ซ้าย ขวา แค่นี่กองหลังตรงข้ามก็วิ่งประกบกันลิ้นห้อยแล้ว จากคุณ : Astra เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 20:28:07

ความคิดเห็นที่ 43 เมาครับเมา ไปนึกว่าแพ่สโต๊กได้ไงเนี่ย ห้าๆ จากคุณ : หนุ่มเสื้อบอล เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 20:36:13

ความคิดเห็นที่ 44 เอลาโน่ ยุคสแวนนี้  ก็สารพัดประโยชน์นะ   แบ็คขวาก็เล่นได้  กองหลังเซนเตอร์ก็เล่นมาแล้ว    ปีกขวาก็เคยเล่น  เป็นเพราะนักเตะบาดเจ็บเยอะ แต่ตำแหน่งกลางตัวรุก  ไม่ใช่ตัวรับนะ  เป็นตำแหน่งที่เหมาะกับทีมยุคสแวน แต่ในทีมชาติ  เอลาโน่   ก็เล่นได้ทั้งกลางและปีกครับ   แล้วปีกไม่ได้อาศัยกระชากแล้ววิ่งเหมือนนักเตะเรือ เล่นปีกก็คล้ายๆ แบ็คแฮม เล่นปีกนั่นแหละครับ  ไม่ได้กระชากวิ่งตามเส้น จากคุณ : yut เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 21:16:32

ความคิดเห็นที่ 45 ดูตารางคะแนนแล้วรู้สึกดี ได้มาแต้มนึงแต่ขึั้้้นไปอยู่ที่ 4 อิอิ แถมแข่งน้อยกว่าอีกนัด แมนซิ สู้ สู้ จากคุณ : p นะ เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 21:31:07

ความคิดเห็นที่ 46 กลาง เยอะเกินไปจริงๆ ยิ่งไปเจอพวกชอบ โยน บอลข้ามหัว กลองกลางตัวรับ 2-3 ตัวไม่ได้มีประโยชน์เลย จากคุณ : บาเต้า เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 21:54:05

ความคิดเห็นที่ 47 จากคุณ : timetable เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 22:46:21

ความคิดเห็นที่ 48 กระทู้วันใหม่ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S8898314/S8898314.html#12 จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 53 00:02:51