ความคิดเห็นที่ 1 มันโช่พอใจเสมอหงส์เชื่อที่4อยู่ในกำมือ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ แมนฯ ซิตี้ พอใจผลเสมอ ลิเวอร์พูล เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ชี้อันดับ 4 อยู่ในกำมือทัพ "เรือใบสีฟ้า" แล้วในเวลานี้ โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พอใจ แม้ลูกทีมทำได้เพียงแค่เปิดรัง ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา จากผลเสมอเกมนี้ ทำให้ "หงส์แดง" ยังคงตามหลัง "เรือใบสีฟ้า" อยู่ แต่ทีมดังแห่งเมืองแมนเชสเตอร์แข่งน้อยกว่า 1 นัด   การชิงชัยระหว่างสองทีมลุ้นพื้นที่ลุย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จบลงแบบไร้สกอร์ โดย เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ หัวหอกเจ้าถิ่น มีโอกาสใกล้เคียงเมื่อได้ยิงจากนอกเขตโทษ แต่ เปเป้ เรน่า เซฟเอาไว้ได้ ขณะที่ มาร์ติน สเคอร์เทล ก็น่าจะทำประตูให้ทีมเยือนได้เช่นกันในช่วงก่อนพักครึ่งเวลา อย่างไรก็ตาม "มันโช่" ชี้ผลเสมอยุติธรรมดีแล้ว   "ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ยอดเยี่ยม พวกเขาอยากชนะเกมนี้มาก แต่ในท้ายที่สุดผมคิดว่า ผลที่ออกมาก็เหมาะสมดีแล้ว เพราะเราเปิดโอกาสให้ ลิเวอร์พูล ไม่มากนัก ลิเวอร์พูล ก็ไม่เปิดโอกาสให้เราเช่นกัน ผมอยากชนะเกมนี้มาก ผมคิดว่า (ราฟา) เบนิเตซ ก็อยากชนะเกมนี้เช่นกัน แต่ผมคิดว่า มันเป็นเกมหนักสำหรับทั้งสองทีม ท้ายที่สุดผลที่ออกมาก็โอเคแล้ว"   "มีอยู่ 3 ทีม เชลซี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล (ที่มีโอกาส) คว้า 3 อันดับแรกได้ อีก 4 ทีมเล่นเพื่อลุ้นอันดับสุดท้ายสู่เวที แชมเปี้ยนส์ ลีก เท่านั้น มันอยู่ในกำมือเรา เพราะเราเหลืออีก 12 เกม เริ่มจากเกมพบ เชลซี วันเสาร์หน้า แต่เราอยู่ในตำแหน่งที่ดี เราต้องเล่น เราต้องปรับทีมให้ดีขึ้น หากหวังจะคว้าอันดับ 4 ให้ได้" กุนซือชาวอิตาเลียน กล่าว   ทั้งนี้ แมนฯ ซิตี้ น่าจะได้จุดโทษในช่วงท้ายเกม เมื่อ อเดบายอร์ ถูก ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ รวบล้มลง อย่างไรก็ตาม มันชินี่ ไม่ได้พูดถึงการตัดสินใจของผู้ตัดสิน ปีเตอร์ วอลตัน เพราะเขาถูกบังจนมองเห็นเหตุการณ์ไม่ชัดเจน http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100222_029.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 06:51:08

ความคิดเห็นที่ 2 ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553 แมนฯ ซิตี้  0 - 0  ลิเวอร์พูล สนาม : ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม   เกมคู่สำคัญที่ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งนัดล่าสุดทำได้แค่เสมอกับสโต๊คเปลี่ยนผู้เล่นถึงหกราย โดยเฉพาะแนวรับปรับทัพมากถึงสามตำแหน่ง ขณะที่เคร็ก เบลลามี่ ซึ่งตกเป็นข่าวว่ามีปัญหากับเจ้านายหายเจ็บเข่าได้นั่งเป็นตัวสำรอง   ถึงกระนั้น คาร์ลอส เตเวซ ยังเฝ้าภรรยาที่ใกล้คลอดอยู่ในบ้านเกิด ส่วน ปาทริค วิเอร่า ติดโทษแบน ขณะที่ มาร์ติน เปตรอฟ มีปัญหาบาดเจ็บ   ด้านลิเวอร์พูลได้ เฟร์นานโด ตอร์เรส หายเดี้ยงกลับมานั่งอยู่ในซุ้มเช่นเดียวกับ ยอสซี่ เบนายูน มีการเปลี่ยนขุมกำลังจากเกมยูโรปาลีกสี่ชีวิตให้ ไรอัน บาเบิล, ลูคัส เลวา, มักซี่ โรดริเกซ และ เอมิลิอาโน่ อินซัว ลงบู๊เป็นตัวจริงแทน อัลแบร์โต้ อาควิลานี่, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, อัลเบิร์ต ริเอร่า และ ดาวิด เอ็นก๊อก   เกมเริ่มต้นโดยลิเวอร์พูลเดินเกมรุกเข้าหากดดันแมนฯ ซิตี้ก่อนในช่วงแรก ทว่าไม่มีทีเด็ดทีขาดแม้แต่น้อย   ต้องรอจนกระทั่งนาทีที่ 25 กว่าจะหาโอกาสได้ลุ้นจากลูกทุ่มด้านขวาที่ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ เขี่ยต่อให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กระชากเข้ามาเข่นด้วยเท้าซ้ายระยะ 18 หลา ส่งบอลโด่งออกไป   จากนั้นในนาทีที่ 31 มาสเคราโน่ก็โดนจดชื่อในจังหวะยกเท้าดัก ปาโบล ซาบาเลต้า ล้ม   ขยับมาอีกเจ็ดนาที แมนฯ ซิตี้ได้เสียวเช่นกันเมื่อซาบาเลต้าได้กระทุ้งจังหวะเก็บตกจากแถวสอง แต่บอลไปกระทบ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ที่พยายามแหย่ขาเปลี่ยนทิศหลุดกรอบไป   จวบจนนาทีที่ 44 จากลูกเตะมุมด้านขวาของเจอร์ราร์ด หงส์แดงก็น่าจะขึ้นนำอย่างยิ่งเมื่อ มาร์ติน สเคอร์เทล เทกตัวสูงกว่า แว็งซ็องต์ ก็องปานี จึงได้ขวิดเหน่งๆ จากห้าหลาหน้าปากประตู แต่สะบัดบอลออกเสาไกลไปเองอย่างไม่น่าเชื่อ   ผ่านเข้ามาในช่วงทดเวลาเจ็บ เจอร์ราร์ดก็ได้ใบเหลืองไปอีกรายในจังหวะสไลด์ใส่ โจลีออน เลสค็อตต์ จบครึ่งแรกทั้งคู่จึงยังเจาะไข่แดงกันไม่ได้จำต้องเสมอกันไป 0-0   ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ เปิดฉากบุกทันที น.60 แดเนียล แอ็กเกอร์ เตะบอลทิ้งไม่ดีมาเข้าทาง อเดบายอร์ยิงสวนเข้าไปจากหน้าเขตโทษ แต่ถูก โฆเซ เรน่า ปัดหลุดเสาแรกไปได้หวุดหวิด สองนาทีถัดมาลิเวอร์พูลส่ง เบนายูน ลงมาเล่นแทน โรดริเกซ ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ส่ง เคร็ก เบลลามี่ ลงมาแทน ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ในน.67   เกมผลัดกันรุก-รับ แต่ว่าไม่ค่อยจะมีจังหวะให้ลุ้นกันแบบหวังผล   น.73 เจอร์ราร์ดหาจึงหวะสับไกยิงด้วยซ้าย จากระยะ 20 หลาบอลพุ่งไปตรงตัว เชย์ กิฟเว่น   นาทีถัดมาลิเวอร์พูลส่ง ตอร์เรส ลงมาแทน ไรอัน บาเบิล   ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายครองเกมบุกในช่วง 15 นาทีสุดท้าย แต่ใน น.79 แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นจากลูกเตะมุม บอลเลยไปถึง ไนเจล เด ยองก์ ที่เสาสอง แล้วตักกลับมากลางประตูให้อเดบายอร์โขกกลางประตู แต่บอลข้ามคาน   เกมผลัดกันรุก-รับในช่วง 10 นาทีสุดท้าย แต่ไม่มีจังหวะยิงแบบหวังผล หมดเวลาทั้งคู่จึงเสมอกันไป 0-0 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม   แมนฯ ซิตี้ : เชย์ กีฟเว่น, ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, เวย์น บริดจ์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ไนเจล เด ยองก์, แกเร็ธ แบร์รี่, อดัม จอห์นสัน, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์   ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดเนียล แอ็กเกอร์, เอมิเลียโน่ อินซัว, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ลูคัส เลว่า, มักซี่ โรดริเกซ, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ไรอัน บาเบิล, เดิร์ค เค้าท์ สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ชนะ โบลตัน 3-0 แอสตัน วิลล่า ชนะ เบิร์นลี่ย์ 5-2 ฟูแล่ม ชนะ เบอร์มิงแฮม 2-1 แมนฯ ซิตี้ เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100221_181.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 06:52:25

ความคิดเห็นที่ 3 ราฟามั่นใจหงส์แดงยึดท็อป4ชัวร์ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือจอมวางหมาก ลิเวอร์พูล มั่นใจ "เร้ด แมชีน" จะจบซีซั่นด้วยอันดับท็อป 4 แน่นอน แม้ล่าสุดจะทำได้แค่บุกไปเจ๊า แมนฯ ซิตี้ แบบโนสกอร์ก็ตาม ชี้ "หงส์แดง" น่าได้จุดโทษช่วงท้ายเกม จากจังหวะที่ ยอสซี่ เบนายูน โดนอัด แต่ไม่ยอมทิ้งตัวเรียกฟาวล์ ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยังคงมั่นใจว่า พลพรรค "หงส์แดง" จะสามารถปิดฉากฤดูกาลด้วยอันดับ 1 ใน 4 ได้อย่างแน่นอน หลังบุกไปเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่แข่งแย่งตั๋ว แชมเปี้ยนส์ ลีก 0-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เบนิเตซ กล่าวว่า "ผมต้องเชื่อมั่น ถ้าผู้จัดการทีมไม่มีความมั่นใจแล้ว มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับผู้เล่น ผมคิดว่า เรามีคุณภาพเพียงพอ ยอสซี่ เบนายูน กำลังจะกลับมา เฟร์นานโด ตอร์เรส ก็กำลังจะกลับมา และหวังว่า เกล็น จอห์นสัน จะกลับมาได้เช่นกันในสัปดาห์หน้า เรากำลังจะได้นักเตะหลายคนกลับมา และการแข่งขันภายในทีมของเราก็จะดีขึ้น หวังว่าเราจะสามารถพัฒนาขึ้นมาได้" ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ซิตี้ ต่างก็เน้นเกมรับให้รัดกุมเอาไว้ก่อน จึงทำให้มีโอกาสยิงประตูกันไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม "เอล ราฟา" มองว่า ทีมของตัวเองน่าจะได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ยอสซี่ เบนายูน โดนอัดในช่วงท้ายเกม แต่ขืนเอาไว้ไม่ยอมล้ม "ผมคิดว่า ทั้ง 2 ทำงานค่อนข้างหนักในเกมรับ และพยายามเอาชนะอีกฝ่ายให้ได้ในเกมรุก ซึ่งเราก็ทำไม่ได้ ผมคิดว่า แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่ดี  ก่อนหน้านี้พวกเขาก็มีนักเตะที่ดีอยู่แล้ว และตอนนี้พวกเขาก็มีนักเตะที่ดีเช่นกัน ผมคิดว่า เรารู้อยู่แล้วว่า มันเป็นเรื่องยาก และเราก็รู้ว่า มันจะเป็นการแข่งขันที่ยาวนาน ดังนั้นเราจึงต้องก้าวต่อไปเรื่อยๆ" "ผมคิดว่า เราคุมเกมได้ดีกว่าในช่วงท้าย เราถ่ายบอลโดย อัลแบร์โต้ อควิลานี่ ผมคิดว่า เราครองบอลได้เยอะมาก พวกเขาอาจจะอันตรายในเกมโต้กลับ แต่เราคุมเกมได้ดีกว่า และน่าจะได้จุดโทษจาก ยอสซี่ ผมคิดว่า เราใกล้เคียงที่จะได้ชัยชนะในช่วงท้ายเกม" "ยอสซี่ บอกผมว่า เขาคิดว่ามันเป็นจุดโทษ มันเป็นเรื่องดีที่ได้เห็นนักเตะพยายามจะไม่ฉกฉวยความได้เปรียบจากเรื่องนี้ แต่สำหรับวันนี้มันไม่ใช่เรื่องดีเลย คุณต้องเข้าใจการตัดสินใจของเขา" อดีตกุนซือ บาเลนเซีย กล่าวแบบเซ็งในอารมณ์ ถึงแม้ เฟร์นานโด ตอร์เรส จะหายจากอาการบาดเจ็บ และกลับมาลงสนามเป็นตัวสำรองได้แล้วในเกมนี้ แต่ เบนิเตซ มองว่า เจ้าตัวอาจจะยังไม่พร้อมที่จะออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในเกม ยูโรป้า ลีก กับ ยูนิเรีย อูร์ซิเซนี่ จากโรมาเนีย ในวันพฤหัสบดี โดยระบุว่า "เราจะดูว่า เขาซ้อมเป็นอย่างไรบ้างในสัปดาห์นี้ เรามีเกม ยูโรป้า ลีก ในวันพฤหัสบดี ดังนั้นเราจึงต้องตัดสินใจ แต่ผมคิดว่า เฟร์นานโด ยังคงต้องซ้อมกับโค้ชความฟิตต่อไปก่อน" http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100222_035.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 06:54:03

ความคิดเห็นที่ 4 เซอร์หยันเรือใบไม่มีวันทาบรัศมีผีได้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด จัดการงับ แมนฯ ซิตี้ อริร่วมเมือง เสียหนึ่งดอก หยันไม่มีวันทาบรัศมี "ผีแดง" ได้ชัวร์ แม้จะรวยล้นฟ้าก็ตาม ลั่นพร้อมเผชิญกับการก้าวขึ้นมาท้าทายของ "เรือใบสีฟ้า" เสมอ ไม่ว่าที่ไหนเมื่อไร             เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมจอมเก๋า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มั่นใจว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อริร่วมเมือง ไม่มีทางจะก้าวขึ้นมาทาบรัศมี "ปีศาจแดง" ได้อย่างแน่นอน แม้จะมีกำลังเงินมหาศาลก็ตาม แมนฯ ซิตี้ ภายใต้การหนุนหลังของ อาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป ทุ่มเงินมหาศาลในการสร้างทีมชุดใหม่ เพื่อก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์ แต่ เฟอร์กูสัน มองว่า ยังต้องใช้เวลาอีกนาน กว่า "เรือใบสีฟ้า" จะขึ้นมายืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างเต็มตัว เฟอร์กี้ กล่าวว่า "มันช่วยเพิ่มองค์ประกอบในการแข่งขันระหว่างแฟนบอล และสื่อมวลชน ไม่ต้องสงสัยในข้อนี้ ระดับความดังของเสียงเชียร์เพิ่มมากขึ้นในการพบกัน 2 นัดหลังสุด (คาร์ลิ่ง คัพ รอบรองชนะเลิศ) เราต้องสร้างความคุ้นเคยกับมัน เราต้องทำบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ และยอมรับการท้าทาย มันไม่ผิดปกติอะไรที่จะได้เจอกับการท้าทาย" "เราต้องทำในสิ่งที่เราทำได้ดี และหวังว่า มันจะดีพอ แมนฯ ซิตี้ เป็นสโมสรที่มั่งคั่ง พวกเขาสามารถซื้อนักเตะในโลกนี้ได้ทุกคน แต่พวกเขาไม่อาจจะซื้อทีม ซื้อสปิริตของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ ผมไม่คิดว่า ซิตี้ จะยิ่งใหญ่กว่าเราไปได้ ผมไม่เคยคิดเลยจริงๆ ต่อให้มีเงินทั้งหมดของพวกเขาก็เถอะ" "ปัญหาของการมีเงินมากขนาดนั้นก็คือ พวกเขาจะซื้อสะเปะสะปะไปหมด ดูอย่าง ซันเดอร์แลนด์ ในยุค 1950 ซึ่งเป็นทีมของ แบงค์ ออฟ อิงแลนด์ สิ พวกเขาตกชั้น แต่ผมไม่ได้หวังว่า ซิตี้ จะตกชั้นหรอกนะ" ยอดกุนซือชาวเมืองขี้เมา กล่าวในที่สุด http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100222_046.html หลังๆช่วงช่วง เจอจับแยกจากหลินปิง หลินฮุ่ย เลยเหงาใจ ว่างๆแวะมาแขวะเรือใบบ่อยๆๆ จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 06:58:44

ความคิดเห็นที่ 5 เช็กชูดร็อกยิงประตูทำลายสถิติได้แน่ ปีเตอร์ เช็ก นายด่าน เชลซี ยกหาง ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา หัวหอกเพื่อนร่วมค่าย ทำลายสถิติยิงประตูสูงสุดของตัวเองได้แน่ หลังเจ้าตัวกำลังโชว์ฟอร์มร้อนแรงในเวลานี้ ปีเตอร์ เช็ก ผู้รักษาประตู "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ออกปากสนับสนุน ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าเพื่อนร่วมทีม เดินหน้าสร้างสถิติสังหารประตูใหม่ให้ได้ในฤดูกาลนี้ หลังดาวยิงไอวอรี่ โคสต์ ซัดไปแล้วทั้งสิ้น 25 ลูก ขยับเข้าใกล้สถิติดีเยี่ยมที่สุดสำหรับตัวเองด้วยจำนวน 33 ตุงรวมทุกรายการเมื่อ 3  ปีก่อนเข้าไปทุกที จอมหนึบทีมชาติเช็ก กล่าวว่า "ดีดิเย่ร์ ทำได้ดีเยี่ยมตลอดฤดูกาล เขาทำลายสถิติ 33 ลูกได้แน่ เห็นได้เลยว่า เขากำลังท็อปฟอร์ม เขาฟิตเปรี๊ยะและมั่นใจเต็มที่ หากเขาฟิต ผมก็มั่นใจว่า เขาจะทำประตูได้มากมายแน่นอน มันยากจะบอกได้ว่า ใครอยู่ในฟอร์มดีที่สุดในอาชีพของเขา" "บางครั้งแม้กองหน้าทำประตูได้ไม่มากนัก พวกเขาก็ยังอยู่ในฟอร์มที่ดีได้เช่นกัน แต่ ดีดิเย่ร์ ทำผลงานกับเราได้ดีเลิศมาหลายปี เขาท็อปฟอร์มเสมอ เขาทำผลงานกับ เชลซี ได้ดีตลอด เขาคือหนึ่งในสุดยอดกองหน้าของโลก และเขาแค่ทำสิ่งเดิมๆ ไปเท่านั้น" สำหรับการโชว์ฟอร์มเยี่ยม ช่วยเซฟประตูหลายหนในเกมเชือด วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น นายด่านร่างโย่ง ชี้ว่า ""วูล์ฟส์ มีโอกาสหลายหน แต่พวกเขาฉวยมันเอาไว้ไม่ได้ ส่วนเราก็เชือดพวกเขาได้ มีหลายหนที่พวกเขาคิดว่าน่าจะมีแต้มติดมือจากเกมนี้ แต่เราทำประตูได้ถูกช่วงเวลาอย่างยิ่ง" http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100222_016.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 06:59:31

ความคิดเห็นที่ 6 จ่าแฮร์รี่ปลื้มฟอร์มไก่บุกจิกวีแกนกระจุย แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ กุนซือ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สุดปลื้มฟอร์มลูกทีม หลังบุกไล่จิก วีแกน กระจุย 3-0 ชมเปาะ โรมัน พาฟลิวเชนโก้ หัวหอกเลือดหมีขาว ทำผลงานเข้าตา เมื่อสวมบทซูเปอร์ซับ ลงไปซัดคนเดียว 2 ตุง แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ ผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กล่าวชมฟอร์มการเล่น และทัศนคติอันยอดเยี่ยมของขุนพล "ไก่เดือยทอง" ยกใหญ่ หลังบุกไปถล่ม วีแกน แอธเลติก ขาดลอย 3-0 คารัง ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม ในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สเปอร์ส ได้ 3 ประตูจาก เจอร์เมน เดโฟ ดาวยิงประจำทีม และ โรมัน พาฟลิวเชนโก้ กองหน้าตัวสำรอง ซึ่งลงมาเหมาคนเดียว 2 ตุงในครึ่งหลัง โดยจากชัยชนะนัดนี้ทำให้ยอดทีมแห่ง ไวท์ ฮาร์ท เลน ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ของตารางได้เรียบร้อยแล้ว เร้ดแน็ปป์ ซึ่งเคยพา สเปอร์ส เปิดบ้านไล่ต้อน วีแกน กระจุย 9-1 มาแล้วในช่วงต้นฤดูกาล กล่าวว่า "มันเป็นฟอร์มอันยอดเยี่ยมจากเราในวันนี้ ผมพอใจมากๆ กับทัศนคติที่เราแสดงให้เห็น" สเปอร์ส มีโชคช่วยไม่น้อยในจังหวะที่ได้ประตูแรก เมื่อภาพช้าจากทีวีแสดงให้เห็นว่า เดโฟ ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าอย่างชัดเจน ก่อนจะส่งบอลผ่าน คริส เคิร์กแลนด์ เข้าไปตุงตาข่าย โดย จ่าแฮร์รี่ กล่าวถึงเรื่องนี้แบบติดตลกว่า "ผมคงนอนไม่หลับแน่คืนนี้ มันไม่ได้กวนใจอะไรผมหรอก บางครั้งคุณก็มีโชคอย่างนี้ บางครั้งคุณก็ไม่มี" นอกจากนี้ บอสใหญ่ของ ท็อตแน่ม ยังไม่ลืมที่จะกล่าวชม พาฟลิวเชนโก้ ซึ่งยิงคนเดียว 2 ประตูเป็นพิเศษอีกด้วย "แฟนบอลของเรารัก พาฟลิวเชนโก้ เขามีความสามารถ เมื่อไรที่เขาอยากเล่น และอยากทำงาน เขายอดเยี่ยมมาก" อย่างไรก็ตาม ในชัยชนะก็มีเรื่องให้ เร้ดแน็ปป์ ต้องกังวลเช่นกัน เมื่อ เล็ดลี่ย์ คิง กองหลังจอมแกร่ง เกิดได้รับบาดเจ็บอีกครั้งในครึ่งหลัง โดยกุนซือตาหวาน หวังว่า กัปตันทีมของเขา จะไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงมากนัก "เล็ดลี่ย์ ดูเหมือนจะกล้ามเนื้อฉีก นั่นล่ะคือปัญหา เขาเป็นนักเตะชั้นยอด และไม่น่าจะพักรักษาตัวนานนัก"   http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100222_044.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 07:00:36

ความคิดเห็นที่ 7 โอนีลงานเข้าแก็บบี้เจ็บน่องเกมอัดเบิร์นลี่ย์ มาร์ติน โอนีล กุนซือ วิลล่า รับจำต้องเช็กฟิต กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์ ก่อนเกม คาร์ลิ่ง คัพ นัดชิงดำ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด วันอาทิตย์นี้ เหตุดาวยิงคนสำคัญ มีอาการเจ็บน่องกำเริบ จากเกมยำ เบิร์นลี่ย์ 5-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มาร์ติน โอนีล ผู้จัดการทีม แอสตัน วิลล่า จำเป็นต้องเช็กสภาพความฟิตของ กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์ กองหน้าตัวเก่ง ก่อนเกม คาร์ลิ่ง คัพ  นัดชิงชนะเลิศ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันอาทิตย์ที่ 28 ก.พ.นี้ หลังเจ้าตัวถูกเปลี่ยนตัวออกจากเกม พรีเมียร์ลีก นัดเชือด เบิร์นลี่ย์ 5-2 ทันทีที่ทำประตูได้ในนาที 68 และนำตัวมุ่งหน้าเข้าห้องแต่งตัว โดยไม่แวะพักที่ม้านั่งสำรองแต่อย่างใด โอนีล ยอมรับ จำต้องประเมินอาการดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ก่อนเกมพบ "ปีศาจแดง" ที่สนาม เวมบลีย์ แต่เกมแรกที่ต้องคำนึงถึงคือเกม เอฟเอ  คัพ นัดรีเพลย์ กับ คริสตัล พาเลซ วันพุธที่ 24 ก.พ.นี้ ซึ่งเจ้าตัวเตรียมเปลี่ยนทีมตัวจริงบางตำแหน่ง และหวังจะทำผลงานในช่วงต้นเกมให้ดีกว่านัดถลุง " เดอะ คลาเร็ตส์" ด้วยเช่นกัน "เราจะได้รู้คำตอบเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ แก็บบี้ เคืองมาก และทำผลงานได้ดีจนได้อยู่ในสนามถึงครึ่งหลัง เขามีปัญหาเจ็บน่อง ส่วนนักเตะคนอื่นอีก 2-3 คนก็น่าห่วงเช่นกัน เกมนัดต่อไปที่เราให้ความสนใจคือ เกมกับ คริสตัล พาเลซ วันพุธนี้ เราจะพยายามเริ่มต้นเกมให้ดีกว่าในเกมนี้อีก" โอนีล กล่าว เบิร์นลี่ย์ ช็อกแฟนบอลเจ้าถิ่น เมื่อขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 10 ก่อนที่ แอชลี่ย์ ยัง จะตามตีเสมอได้ โดยทีมเยือนยังออกตัวได้สวยอีกในช่วงต้นครึ่งหลัง แต่ทัพ "สิงห์ผงาด" ก็ทิ้งห่างออกไปจากประตูของ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง และ เอมิล เฮสกี้ ซึ่ง โอนีล ยอมรับ ประตูของ ยัง กับ ดาวนิ่ง มาถูกที่ถูกเวลาอย่างแท้จริง "เราเครื่องร้อนช้ามาก เบิร์นลี่ย์ ขึ้นนำไปก่อน แต่ประตูที่เราได้ก่อนพักครึ่ง ทำให้เรากลับสู่เกมได้ จากนั้น ดาวนิ่ง ก็ทำประตูได้ในช่วงต้นครึ่งหลัง เมื่อเราออกตัวได้เชื่องช้าอีกหน มันเป็นประตูที่ดีเยี่ยมซึ่งทำให้เราได้ออกนำ ทำให้เรามีความเชื่อมั่น ทำให้แฟนบอลกระตือรือร้น จนเราคว้าชัยชนะได้ในที่สุด" "ตัวนักเตะรู้ดีว่า พวกเขามีฝีเท้าดี แต่พวกเขาตระหนักว่า การคว้าชัยชนะในเกม พรีเมียร์ลีก ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาต้องทำผลงานให้ดีเกือบทั้งเกม หากทำไม่ได้ตลอดเวลา พวกเราทำประตูได้มากมาย และในวันนี้มันก็เยี่ยมมากที่ได้เห็นว่า มันเกิดขึ้นอีกครั้ง" นายใหญ่แห่งถิ่น วิลล่า พาร์ค ตบท้าย http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100222_024.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 07:01:48

ความคิดเห็นที่ 8 เรือใบสนคว้าอองรีร่วมทีมอีกคน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตกเป็นข่าวสนคว้า เธียร์รี่ อองรี กองหน้าตัวเก๋า บาร์เซโลน่า ไปร่วมทีมช่วงซัมเมอร์นี้ หลังนักเตะไม่ได้รับโอกาสลงเล่นมากนักในซีซั่นนี้ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ตกเป็นข่าวว่าสนใจที่จะคว้าตัว เธียร์รี่ อองรี หัวหอกตัวเก๋า "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน มาเสริมทัพในช่วงจบซีซั่นนี้ จากการรายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ ซันเดย์ มิร์เรอร์ รายงานว่า อองรี จะถูกขึ้นบัญชีขายจาก บาร์ซ่า ในช่วงซัมเมอร์นี้ และมีหลายสโมสรสนใจอยากได้ตัวเขาไปร่วมทีม โดยดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสย้ายจาก อาร์เซน่อล ไปสเปนเมื่อปี 2007 และคว้าแชมป์ลา ลีกา และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในช่วงที่ค้าแข้งในถิ่นคัมป์ นู หัวหอกวัย 32 ปี ไม่ได้รับโอกาสลงสนามเท่าที่ควรในฤดูกาลนี้ และเพิ่งยิงได้เพียงแค่ 2 ประตูจาก 13 นัด โดยปัจจุบัน อองรี มีสัญญากับ บาร์ซ่า ถึงปี 2011 และเคยตกเป็นข่าวกับ นิวยอร์ค เร้ดบลูส์ เมื่อเดือนมกราคม แต่ล่าสุดเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่อยากได้ตัวไปร่วมทีม http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100221_142.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 07:04:16

ความคิดเห็นที่ 9 มอยส์สดุดีทอฟฟี่รสเด็ดฝังผีลงหลุม เดวิด มอยส์ กุนซือสมองเพชร เอฟเวอร์ตัน ยิ้มแก้มปริ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ฟอร์มไฉไล อัด "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่หมัด ยก แดน กอสลิ่ง และ แจ็ค ร็อดเวลล์ 2 ดาวรุ่งที่สวมบทฮีโร่ อนาคตบนสายลูกหนังสุดสดใส พร้อมตั้งเป้า ขอลุ้นแย่งตั๋วเล่นฟุตบอลยุโรป ซีซั่นหน้า เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน ทีมฟอร์มฮอตในเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกโรงยกย่องฟอร์มการเล่นสุดวิเศษของลูกทีม ในเกมเปิดสนาม กูดิสัน พาร์ค ไล่แซง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมร่วมลีก ก่อนชนะ 3-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา   ก่อนหน้านี้ เชลซี จ่าฝูง เคยพลาดท่าให้ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" มาแล้ว และหลังจากปราบรองจ่าฝูงอย่าง "ปีศาจแดง" อย่างหมดจด ทำให้กุนซือชาวสกอตติช ยินดีปรีดา พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า ฟอร์มการเล่นแบบนี้ สมควรคว้า 3 คะแนนมานอนกอดแล้ว "มันเป็นฟอร์มการเล่นที่งดงามจากพวกนักเตะ เพราะมันไม่เคยง่ายอยู่แล้วที่จะเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"   "พวกเราจำใส่ใจไว้เสมอว่า กี่ครั้งกี่คราแล้วที่พวกเราไม่อาจเอาชนะพวกท็อปโฟร์ได้ แต่ทั้ง เชลซี และตอนนี้เป็น แมนฯ ยูไนเต็ด มาเยือนที่นี่ และพวกเราก็เอาชนะพวกเขาได้ทั้งคู่ ผมคิดว่า เราเริ่มต้นได้ไม่ดีเท่าไร ผมคิดว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นได้ดีกว่าในช่วงต้นเกม แต่ผมคิดว่า เราพัฒนาฟอร์มการเล่นขึ้นเรื่อยๆ"   "พวกเราเริ่มต้นควบคุมแผงกองกลางได้ทีละน้อย และเริ่มผ่านบอลไปทั่วสนามได้ดียิ่งขึ้น ผมคิดว่า ในครึ่งหลัง พวกเรามีโอกาส 1-2 ครั้ง และเมื่อเราสร้างโอกาสเหล่านั้นขึ้นมาได้ เราก็ฉวยมันมาไว้ได้สำเร็จ ในครึ่งเวลาหลัง"   พร้อมกันนี้ มอยส์ ยังสดุดี แดน กอสลิ่ง และ แจ็ค ร็อดเวลล์ 2 แข้งดาวรุ่ง ที่ลุกจากข้างสนามมาซัดคนละประตูว่า เป็นนักเตะที่มีอนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้า "ผู้คนรู้จักพวกเขามาจากเกมใหญ่ก่อนหน้านี้ และมันก็ไม่แตกต่างไปจากเดิมเลย เขาทั้งคู่มีพรสวรรค์ และศักยภาพในการก้าวต่อไปด้วยวัยและประสบการณ์ เหมือนกับ เวย์น รูนี่ย์ ในเวลานั้น เรากำลังพยายามทำให้พวกเขาเดินไปบนทางที่เหมาะสม และพวกเขาก็ลงไปสร้างปรากฎการณ์ให้เกิดขึ้นในวันนี้"   ตอนนี้ ทีมดังแห่ง เมอร์ซี่ย์ไซด์ แพ้เพียงเกมเดียวจาก 12 แมตช์ล่าสุดใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งกุนซือฝีมือเยี่ยม ยอมรับว่า เขากำลังฝันถึงการแย่งพื้นที่ยุโรปมาครองก่อนซีซั่นนี้จะปิดฉากลง "พวกเราสามารถเริ่มต้นมองไปยังอันดับสูงกว่า มากกว่าอันดับข้างล่างในตอนนี้ เพราะเรามองดูทีมข้างล่างมานานแล้ว"   "ผมคิดว่า ฟอร์มของพวกเราตลอดเดือนก่อน มันดีเยี่ยมมาตลอด ซึ่งผมก็จะไม่ขออะไรกับพวกนักเตะมากไปกว่าตอนนี้อีกแล้ว พวกเราชนะในวันนี้ โดยไม่มี ทิม เคฮิลล์ และ มารูยาน เฟลไลนี่ ซึ่งมันเป็นเรื่องยากมากๆ เมื่อคุณเสียนักเตะที่ดีที่สุดของทีมไป แต่เรายังแสดงให้เห็นถึงสปิริตที่พวกนักเตะชุดนี้มีอยู่ออกมา"   "พวกเราไม่เคยยกธงขาวในการไปยุโรป แต่เราบอกแล้วว่า มันยังอีกยาวไกล พวกเราออกสตาร์ตในฤดูกาลนี้แบบย่ำแย่ และมันจะเป็นเรื่องยากเสมอ แต่เราจะไล่ไต่อันดับต่อไป และดูว่าท้ายที่สุดแล้วพวกเราจะได้ไปอยู่ตรงไหน" มอยส์ กล่าวอย่างมีความหวัง http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100221_026.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 07:05:54

ความคิดเห็นที่ 10 เซอร์เอาด้วยค้านไอเดียเพลย์ออฟตัดสินโควตาชปล. เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ร่วมวงค้านไอเดียเพลย์ออฟตัดสินโควตา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เต็มที่ ชี้ระบบเดิมก็ดีอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยน ระบุทีมไหนอยากไปเล่นเกมยุโรปก็ต้องทำอันดับเพื่อคว้าสิทธิ์ให้ได้เอาเอง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกโรงวิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอที่จะให้มีการเพลย์ออฟหลังจบฤดูกาล เพื่อหาทีมที่ 4 ไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยออกมาตั้งคำถามถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนระบบทั้งที่ของเดิมนั้นดีอยู่แล้ว เช่นเดียวกับ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ราฟาเอล เบนิเตซ นายใหญ่ ลิเวอร์พูล แถมยังชี้ว่าแผนการดังกล่าวเป็นเรื่องน่าเวียนหัวอีกด้วย บรมกุนซือ "ปีศาจแดง" กล่าวผ่านหนังสือพิมพ์ "เดลี่ เทเลกราฟ" ในแดนผู้ดีว่า "มันมักจะมีใครสักคนที่มาพร้อมแผนการต่างๆ อันน่าเวียนหัวอยู่เสมอ ผมไม่รู้ว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงต้องการปรับเปลี่ยนระบบของการแข่งขันในพรีเมียร์ลีก ทั้งๆ ที่มันเป็นระบบที่ดีมากๆ อยู่แล้ว" "สินค้าของเรามันดีมากๆ อยู่แล้ว มันขายได้ทั่วโลก ทุกคนต่างอยากดูฟุตบอลอังกฤษทางโทรทัศน์ มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลย โอเค ทุกทีมในพรีเมียร์ลีกต่างอยากไปเล่นในเวทียุโรป แต่มันก็มีวิถีทางในการก้าวไปถึงจุดนั้นอยู่ นั่นคือการจบฤดูกาลในอันดับที่ถูกต้อง" กุนซือเลือดสกอตต์ กล่าวในที่สุด http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100221_150.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 07:06:40

ความคิดเห็นที่ 11 นัดต่อไป ช่วงเข้าโค้งอันตราย Wednesday, 24 February 2010 The FA Cup Stoke v Man City, R5R, 19:45 Saturday, 27 February 2010 Barclays Premier League Chelsea v Man City, 12:45 Saturday, 6 March 2010 Barclays Premier League Man City v Tottenham, 12:45 Sunday, 14 March 2010 Barclays Premier League  Sunderland v Man City, 16:00 จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 07:08:18

ความคิดเห็นที่ 12 หนาวมาก...ที่อังกฤษ คอลัมน์ คุยกับเอกราช โดย เอกราช เก่งทุกทาง ผมเพิ่งกลับจากอังกฤษได้ไม่กี่วัน ไปคราวนี้ต้องบอกว่า ทรมานที่สุด แต่ก็สนุกและประทับใจสุด ๆ ด้วยเหมือนกัน ไอ้ที่ทรมานก็เรื่องอากาศนี่แหละ ปกติถ้าให้เลือกอยู่ที่ร้อนกับที่หนาว ผมคงเอาอย่างหลังไว้ก่อน แต่ที่ไปเจอหนาวในอังกฤษเที่ยวนี้มันหนาวแบบทนแทบไม่ได้ เดินก็แทบก้าวขา ไม่ออก แถมเจอชุดใหญ่ครบเซต ทั้งลม ฝน และหิมะ กะเอาให้แข็งตายกันไปข้าง แก๊งของพวกเรามีกัน 12 คน เป็นทีมงานของ 100 ฟุตบอลแฟนตาซี กับคณะสื่อมวลชน แต่ละคนใส่เสื้อผ้า หนาตึ้บ ตัวพองยังกะหลินฮุ่ย แต่ถึงยังงั้นก็ยังเอาแทบไม่อยู่ โดยเฉพาะตอนเจอลมหนาวที่ลอนดอนซึ่งร้ายกาจทะลุทะลวง ยิ่งกว่าหิมะเสียอีก ไปคราวนี้ผมได้ขึ้นไปสกอตแลนด์ด้วยนะครับ ทาง 100 PIPERS เจ้าภาพเขาพาไปนอนในปราสาทรับรองอายุกว่า 100 ปี เล่นเอาพวกเราตื่นเต้นและ (แอบ) ระทึกใจไปตาม ๆ กัน ยิ่งกว่านั้นยังได้ลองใส่ชุดแบบชาวสกอตที่ต้องสวมกระโปรงคิลท์ลายตารางมาแล้ว บอกได้เลยว่า โปร่ง โล่ง สบายตัวสุด ๆ เพราะตามธรรมเนียมดั้งเดิม เขาให้ใส่แต่คิลท์เพียว ๆ ไม่ต้อง มีอันเดอร์แวร์ข้างใน (ฮา) สกอตแลนด์ที่ได้เห็นเป็นเมืองน่าอยู่ เหมาะกับคนรักธรรมชาติ รักแลนด์สเคปสวย ๆ อากาศใส ๆ เมืองที่ผมไปคือเมืองคีธ เลยอเบอร์ดีนไปนิดหน่อย สภาพดูเป็นบ้าน ๆ เป็นชนบทที่เงียบสงบมาก เหมาะกับการพักผ่อนแบบต้องการชาร์จแบต สูดความสดใสเรียบง่าย กลับไปเต็มพลังให้ชีวิตดีจัง ผมได้เห็นหิมะตกของจริงที่นั่นแหละครับ แต่ถ้าให้เทียบความหนาวกัน สกอตแลนด์กลับหนาวสู้ลอนดอนไม่ได้ เพราะที่หลังมีลมช่วยซ้ำเพิ่มความโหดเป็น 2 เท่า ยังไงก็เถอะ ถึงจะหนาวแค่ไหน ถ้าคุณอยู่ในลอนดอน เรื่องจะให้หลบอยู่ในโรงแรมหรือซอกตึกรับรองว่าไม่มีทาง ผมยังลุยลอนดอนอย่างเต็มอิ่มเหมือนเดิม นอกจากกระหน่ำช็อปปิ้งของฝากและเสื้อบอลไว้ใส่ทำงาน ยังได้ไปทัวร์สนามไวท์ ฮาร์ท เลน ของสปอร์ส สนามเชลซี รวมทั้งอาร์เซนอล ถึง 3 สนาม ตบท้ายด้วยเข้าไปดูเกมพรีเมียร์ลีกคู่อาร์เซนอลกับลิเวอร์พูลอีกต่างหาก การไปดูบอลอังกฤษกลางสัปดาห์เป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลง เพราะเขาเตะกันตอนกลางคืน กว่าจะเลิกก็ร่วม 4 ทุ่ม ถ้าโชคร้ายขากลับอาจเจอหิมะเล่นงาน สภาพอากาศยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะหนาวเข้ากระดูกแน่นอน ผมเองอาจจะนั่งดูอยู่บนบ็อกซ์ V.I.P. มีหลังคาช่วยบัง แต่กว่าบอลจะจบก็แทบแข็งเป็นตุ๊กตาหิมะ ยังดีที่บอลคู่นี้เตะกันสนุกใช้ได้ โดยเฉพาะครึ่งหลัง ซึ่งแลกเกมบุกกันอย่างเร้าใจ ทำให้แฟน ๆ ซี้ดซ้าดจนลืมหนาวไปได้เป็นช่วง ๆ พูดถึงฟุตบอลอังกฤษตอนนี้ การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ระหว่างเชลซีกับแมนฯ ยูฯกำลังสูสีสุด ๆ แต่คนที่นั่นกลับพูดถึงเรื่องจอห์น เทอร์รี่ เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ มีทั้งวิพากษ์วิจารณ์หลากหลายแง่มุม และเก็บไปเป็นมุขไว้อำเพื่อน เพื่อนฝรั่งของผมคนหนึ่งถามว่า ยูรู้ไหมทำไมจอห์น เทอร์รี่ ใส่เบอร์ 26 "ใครจะไปรู้วะ เอ็งบอกมาเลยดีกว่า"... มันเฉลยว่าไร รู้ไหมครับ ก็จอห์น เทอร์รี่ มีเมีย (กิ๊ก) 26 คนไง (ฮา) จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 07:11:37

ความคิดเห็นที่ 13 จังหวะที่ไอร์แลนด์ได้ลูกส้มหล่นแถวๆเขตโทษ แต่เค้าไม่เลือกยิง เลือกจ่าย จังหวะนี้เสียดายสุดๆ  ปีนี้ผมแทบไม่เห็นไอร์แลนด์พยายามยิงประตูเลย จะจ่ายตลอดแม้แต่จังหวะที่มันสมควรจะยิง ส่วนท้ายเกมบายอโดนผลักใจเขตโทษชัดๆ กรรมการและผู้ช่วยไม่ให้เลย และจังหวะแบรี่ถูกมาสเชย่ำอีก ก็ชัดเจนเหมือนกัน กรรมการอยู่ใกล้ๆแท้ๆ อีก 12 นัด อย่าพลาดง่ายๆเลยแล้วกัน  เอ่อ เลสคอต คู่กอมปานี่  รู้สึกเหนียวใช้ได้เลย จากคุณ : อินจอง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 10:03:01

ความคิดเห็นที่ 14 อัพเดทผลคะแนนทายผลนะครับ  เลขกลางคือผลประจำเดือน ก.พ. กับ มี.ค.   ส่วนเลขท้ายคือผลรวมตั้งแต่เปิดทายมานะครับ เกิดมาเพื่อrock 0 16 tomstamford 0 0 i_saw_u_standing_alone 4 30 ใจขึ้น 0 11 คนบ้านฉาง 8 54 chatmar 0 4 นายจวบ 8 38 thoncha 0 13 siam starlian 0 56 นครพนม 0 38 ทีเอส 0 33 PHANTOM OF THE NIGHT 0 26 Major Chip Hazard 8 26 cat30 4 63 Bgate 32 71 ajnguang 0 2 madoowai 0 6 Brother Ar 0 8 CloridiaN 16 56 มรณคิด 0 48 CrushOnYou 0 7 isawat 0 7 kurei 12 60 Manjo_e 0 11 canzaa 4 61 ## Wee - R - ZAa ## 0 4 chiadang 0 20 Eakna 12 59 ลาสซามูไร 0 6 kaizay 0 5 ฝรั่งดอง 4 38 เจ้าสัวกิมเบ๊ 4 45 เก็บคอ งอเข่า 8 58 mooagiko 8 53 miraclec 0 2 Bismarck the third 0 19 อเดเดช 0 24 ขาจร...ขอแจม 0 3 Taylor 16 86 jetsd 0 12 บาเต้า 4 26 ลูกจ้างมืออาชีพ 0 32 pelipe 16 67 อินจอง 20 60 woody568 24 70 ทุ่งเกวียน 0 18 CondoPro 12 64 อนาล็อก 8 58 unami 20 86 CHETOO 0 6 Ch@nny 12 67 Yahsarah 8 61 Clean Gas 0 18 บ่าน้อยรักอิน้อย 0 7 อ่อนนุช 0 6 tnmcfc 12 58 nongmalakor 0 15 กลาง. 4 64 jovanni 8 47 ซิตี้ สู้ สู้ 0 18 เดี๋ยวรู้จัก 12 58 ชายพอดี 0 17 หัวหน้า"ไพร" 0 27 kasang 0 3 ลำธารชมพู 16 81 yellow fins 0 9 SuperDo 0 6 SPFC 0 10 dodgeky 12 64 vannacut 0 5 iamtum 0 0 Autster 12 50 bakiman 0 1 ummnoi 16 89 tisata 0 1 taxi_หมายเลข8 0 0 FireDemon 0 4 เรือแจวสีฟ้า 0 4 blue5789 0 8 Robonin S.knight 0 3 rakcoola 0 31 เซี่ยงเฉี่ย 0 42 tuangla 0 2 สาระลักษณ์ 0 0 หนุ่มสกลคนไต่ฝัน 4 49 จบชลชายรุ่นไฟใหม้น้ำถ่วม 4 14 CityEagle 4 38 Theaters 0 14 TripplePlay 0 3 sovent 4 38 mana9 0 1 Aekamol 0 1 earthquake 0 3 สวัสดิเกียรติ 0 2 Herman 4 45 masterdev 0 0 gotto devil 0 1 tonky96 0 1 nonnok 0 1 totetote 0 17 คนค้ำฟ้า 0 26 polar-hooi 0 3 Vantage 8 40 FebMan 0 2 kit_108 0 3 sarasarat 16 39 กำแปง 0 18 ManJay 0 0 dnasiam 0 21 LAPD21 0 0 shounenheart 4 19 สามกองสิบ 0 23 Astra 4 8 forcez 0 6 พ่อน้องเบสท์ ^^ 0 0 cing 0 3 Ken_Henry 0 0 Obram 0 0 Mdcute 0 0 chirayu.kong 0 3 ฝันแน่ 8 29 BluePlayerNo222 0 0 [Sakura] 0 0 Tarogril 12 24 ปล่อยใจ 0 3 triplexxx 0 0 wanchale 0 6 ดงตาล 0 12 ถูกทิ้งที่รังสิต 4 4 OrangE_KnighT 0 0 ฌ เฌอคู่กัน 0 6 jojoyo 0 6 p นะ 8 14 FOR YOUR EYES ONLY 0 0 theopp 0 0 ไม่ประสงค์จะออกตังค์ 4 4 PSORE 20 20 pukkappy 0 0 Mister ManCity 20 20 timetable 0 0 Retroboy 0 0 soigner 12 12 BABY BU 0 0 ทิดเขียด 0 0 รางวัลประจำเดือน คุณ Bgate นำอยู่ ค่อนข้างเยอะเลย ส่วนรางวัลใหญ่ คุณ ummnoi นำอยู่ 89 แต้ม แต่ที่ตามมา 80กว่ามีหลายคนครับ พลาดไม่ได้แม้แต่นัดเดียว อาจโดนแซงได้ทันทีครับ จากคุณ : อินจอง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 11:07:32

ความคิดเห็นที่ 15 เอฟเวอร์ตันเล่นในบ้านปราบแมนซิ  เชลซี  แมนยู เล่นไม่กลัวใครเลย   มันชินี่เล่นในบ้านหวังแค่เสมอลิเวอร์  คิดแล้วปวดใจ เมื่อคืนเชียร์แมนซิลุ้นอย่างเดียวคือไม่ให้แพ้ไม่ให้เสียประตู เพราะดูเกมส์แล้วโดนยิงไม่มีหวังได้คืนแน่เล่นแบบกลัวๆ  ส้มหล่นตั้งหลายลูกก้พลลาดไปง่ายๆ  กรรมการก็ไม่เป็นใจแบรี่โดนเสียบนึกว่าขาหักซะแล้วกรรมการมองไม่เห็นอีก  เมื่อคืนไม่มีประตูแต่ลุ้นเหนื่อยและเหนื่อยใจ แต่ก็ลุ้นต่อไปหวังว่านัดเจอสโต๊คคงจะไม่เล่นแบบกองหน้าตัวเดียวและส่งเด็กมาเป็นกลางตัวรุกอีกนะ จากคุณ : Astra เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 11:48:10

ความคิดเห็นที่ 16 Thank you. จากคุณ : คนค้ำฟ้า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 17:54:49

ความคิดเห็นที่ 17 ว่าจะเลิกเชียร์ล่ะ สุดท้ายก็ทำใจให้เลิกเชียร์ไม่ได้ ผมว่ามันโช่น่ะรู้ว่ากองกลางเราห่วย เลยจะเอาทั้ง กาโ้ก็ และ มาริก้า แต่โชคไม่ดีพลาดทั้ง 2 คนเลยแห้ว เตเบสตอนนี้กูติดลูก ผมว่านัดต่อๆไปคงต้องพึ่งดวงแล้วหล่ะ แล้วไอ่เรื่องตอกบัตรตอนที่เกมส์ยังไม่จบนี่ผมขอเหอะ มีคนตอกก่อนทีไรไม่เคยชนะซักทีไม่เชื่อไปดูกระทู้เก่าๆได้ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 53 18:13:04 จากคุณ : shounenheart เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 18:09:57

ความคิดเห็นที่ 18 มันโช่คิดถึงเตฟจับจิตหลังเรือปืนฝืด โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ"เรือใบ" แมนฯ ซิตี้ ยอมรับสุดคิดถึงคาร์ลอส เตเวซ กองหน้าตัวเก่งที่บินกลับบ้านเกิดไปเฝ้าเมียคลอดลูกหลังเกมรุกของทีมฝืดลงไปยามขาดดาวยิงอาร์เจนติน่าพร้อมบอกยังไม่รู้จะบินกลับมาช่วยทีมเมื่อไหร่ โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับตามตรงคิดถึงคาร์ลอส เตเวซ กองหน้าตัวเก่งที่ได้รับอนุญาตให้บินกลับประเทศไปเฝ้าภรรยาคลอดบุตรหลัง"เรือใบ"เกมรุกฝืดและยังไม่รู้ว่าสตาร์อาร์เจนไตน์จะกลับมาช่วยงานต้นสังกัดได้เมื่อไหร่ นายใหญ่ชาวมะกะโรนีได้เอ่ยหลังจบเกมเจ๊ากับลิเวอร์พูลแบบโนสกอร์ในทำนองคิดถึงประสิทธิภาพการสอยตาข่ายของอดีตดาวยิงทีมแมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นมาจับใจว่า "ผมไม่รู้ว่าเตเวซอยู่ที่ไหน ผมคิดว่าเขาอยู่ในอาร์เจนตินา" "มันเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเราเพราะเรามีเกมสำคัญรออยู่ และเราไม่มีเตเวซ ซึ่งสำหรับผมแล้วมันไม่ดีเลย" มันโช่เอ่ยถึงพ่อค้าแข้งวัย 26 ปีก่อนที่เรือใบสีฟ้าจะต้องเตะเกมรีเพลย์แมตช์เอฟเอ คัพกับสโต๊คกลางสัปดาห์นี้ แล้วต่อด้วยการบุกไปเยือนเชลซีในศึกพรีเมียร์ลีกนัดสุดสัปดาห์ "คาร์ลอสกลับไปบ้านแปดวันแล้ว และผมไม่รู้ว่าขณะอยู่ในอาร์เจนตินาเขาได้ฟิตซ้อมบ้างหรือเปล่า ผมหวังว่าคาร์ลอสจะกลับมาในวันสองวันนี้ เพราะเราต้องการเขา บางทีเขาอาจอยู่บนเครื่องบินแล้วก็ได้" "ผมได้คุยกับเขาเมื่อสามวันก่อน เขามีปัญหากับครอบครัวนิดหน่อย แต่ตอนนี้มันได้รับการสะสางแล้ว และผมหวังว่าเขาจะกลับมา" ขณะเดียวกัน มีการเปิดเผยว่า วาเนซ่าภรรยาของเตเวซซึ่งคลอดก่อนกำหนดออกจากโรงพยาบาลแล้วแม้ทารกจะอยู่ในห้องดูแลพิเศษก็ตาม http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100222_066.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 18:14:13

ความคิดเห็นที่ 19 จอห์นสันเชื่อมีสิทธิ์ลุ้นไปบอลโลก อดัมส์ จอห์นสัน ปีกดาวรุ่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เชื่อมีสิทธิ์ลุ้นติดทีมชาติอังกฤษ ชุดลุยศึกเวิลด์ คัพ 2010 หลังโชว์ฟอร์มเยี่ยมกับต้นสังกัดในตอนนี้ รับก่อนหน้านี้ไม่เคยนึกถึงมาก่อน แต่หลังจากย้ายมาเล่นกับ "เรือใบสีฟ้า" ทำให้มีความมั่นใจยิ่งขึ้น อดัม จอห์นสัน ปีกดาวรุ่ง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมากล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่า เขาเชื่อว่าตัวเองมีสิทธิ์ลุ้นที่จะติดทีมชาติอังกฤษ ไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2010 หลังทำผลงานกับต้นสังกัดได้อย่างยอดเยี่ยม นับตั้งแต่ย้ายจาก มิดเดิ้ลสโบรช์ มาร่วมถิ่นซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ ด้วยค่าตัว 7.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 420 ล้านบาท) เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา   "กับฟุตบอลโลกที่กำลังจะมาถึง มันมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้น ตอนที่ผมเซ็นสัญญากับ ซิตี้ มันมีบางอย่างบอกผมให้ย้ายทีม ในแชมเปี้ยนชิพผมไม่ได้ถูกจับตามอง ไม่เคยนึกถึงเรื่องติดทีมชาติอังกฤษ ผมจำเป็นต้องได้ออกทีวีและถูกพูดถึง ซึ่งมันไม่เกิดขึ้น" "เมื่อโอกาสย้ายจาก มิดเดิ้ลสโบรช์ เพื่อไปอยู่กับสโมสรยักษ์ใหญ่มาถึง การติดทีมชาติอังกฤษจึงเป็นปัจจัยสำคัญ ผมหวังว่าจะสามารถติดทีมชาติอังกฤษ ไปเล่นที่แอฟริกาใต้ ผมต้องเล่นเหมือนกับเกมในบ้านนัดแรกต่อไป และจากนั้นผมอาจได้รับการจับตามอง" "มันไม่มีสัญญาณใดๆ บ่งบอก เพียงแค่ถูกเพื่อนๆ ล้อเล่นเท่านั้น แต่ถึงตอนนี้มันก็ยังไม่มีอะไรที่แน่นอน" จอห์นสัน ซึ่งต้องแย่งตำแหน่งกับ เดวิด เบ็คแฮม, อารอน เลนน่อน, ธีโอ วัลค็อตต์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ และ เจมส์ มิลเนอร์ เพื่อเป็น 1 ใน 23 ขุนพลทีมชาติอังกฤษ กล่าว http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100222_105.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 18:16:02

ความคิดเห็นที่ 20 Player ratings GIVEN: Had little to do, but his kicking and handling were spot on 6 ZABALETA: Ferocious attitude at right back, and he also launched the Blues forward several times 8 KOMPANY: Got his head to everything and handed Adebayor the chance of the match 7 LESCOTT: Stood up manfully to Liverpool's attacks - dominant 7 BRIDGE: Shored up the City left flank and always ready to roar forward 7 DE JONG: Always rises to occasions like this, and revelled in battle with Gerrard and Mascherano 7 BARRY: So much more effective in tandem with de Jong, and with City set up on the front foot 7 WRIGHT-PHILLIPS: Played his 200th Premier League game for the Blues with pace and purpose 7 IRELAND: Some nice touches but the experiment playing in behind Ade didn't work 6 A JOHNSON: Very positive and confident for an inexperienced lad 7 ADEBAYOR: Nearly snatched winner with a volley saved by Reina 7 Substitutes: Bellamy: (for Wright-Phillips 68) A tad too eager at times 6 Ibrahim: (for Ireland 75) Too late to mark Not used: Taylor, Richards, Sylvinho, Toure, Santa Cruz LIVERPOOL: Reina, Carragher, Skrtel, Agger, Insua, Rodriguez (Benayoun 63), Gerrard, Mascherano, Lucas, Babel (Torres 75), Kuyt (Aquilani 86) Battle of the bosses: Mancini's more positive line-up almost paid off, but Benitez got dull point Referee: Peter Walton 5 Attendance: 47,203 manchestereveningnews กรรรมเวรได้ 5 แต้ม ทำซิตี้หลุดไป 2 แต้ม จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 18:18:31

ความคิดเห็นที่ 21                                    City Line-Up:                                      (4-2-3-1) -- 5)             Zabaleta - 33) Kompany - 19) Lescott - 3) Bridge --                         34) de Jong - 18) Barry --                 11) Johnson - 7) ไอร์แลนด์ - 8) Wright-Phillips --                                     25) Adebayor  แผนนี้ถัาเปลี่ยนไอร์แลนด์ เป็นเตเบส เกมที่ออกมาน่าจะมีโอกาสชนะ -- -- หมวด ย่อย: (Bellamy สำหรับ SWP, 68 นาที) (Ibrahim สำหรับ ไอร์แลนด์, 75 นาที) -- แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 53 18:39:36 จากคุณ : ทุ่งเกวียน เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 18:35:04

ความคิดเห็นที่ 22 ตามมาอ่านข่าวครับ จากคุณ : yellow fins เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 19:23:40

ความคิดเห็นที่ 23 ฝืดทั้งคู่! หงส์บุกยันเจ๊าซิตี้โนสกอร์ วันที่ 2/22/2010 12:03:32 AM   "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สามารถบุกไปยันเสมอกับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้สำเร็จด้วยสกอร์ 0-0 ในรูปเกมที่น่าเบื่อที่สุดนัดหนึ่งของฤดูกาล ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (21 ก.พ. 53) แมนฯ ซิตี้ 0-0 ลิเวอร์พูล สนาม : ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ ประตู : - "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรัง ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ ต้อนรับการมาเยือนของทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่ต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่าเกมนี้มีเดิมพันสูงถึงโอกาสไปแชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า นัดนี้เจ้าบ้านขาดตัวหลักอย่าง คาร์ลอส เตเวซ ที่ยังเฝ้าภรรยาที่ใกล้คลอดลูกอยู่ที่อาร์เจนติน่า และปาทริก วิเอร่า ที่ต้องโทษแบน 3 นัด ส่วนทีมเยือนมีการปรับทีมได้มักซี่ กลับมาเป็นตัวจริงพร้อม ไรอัน บาเบิล และบนม้านั่งสำรองมีเซอร์ไพรซ์กับการกลับมาของ เฟร์นานโด ตอร์เรส และ ยอสซี่ เบนายูน เกมเปิดฉากมาอย่างสูสีในช่วงต้นไม่มีทีมใดที่ได้เปรียบเสียเปรียบกันอย่างชัดเจน แต่ลิเวอร์พูล ก็มีจังหวะเปิดเข้าไปได้ลุ้นของ เจอร์ราร์ด ทั้งจากฟรีคิกและลูกครอสริมเส้นที่สร้างความอันตรายได้ไม่น้อย เพราะมาถึงเสาไกลและเกือบจะเข้าเท้า มักซี่ อยู่แล้ว จากนั้น ลิเวอร์พูล ดูจะเล่นได้เข้าท่ากว่าเล็กน้อย โดยแดนกลางสามารถทำลายจังหวะของซิตี้ ได้หมด แต่จังหวะลุ้นก็ไม่ได้มีมากนัก มีแค่ลูกที่ มักซี่ ได้ลองตวัดยิงไปแฉลบบล็อกก่อนจะได้ลูกเตะมุมเท่านั้น เกมยังดำเนินมาอย่างเอื่อยๆต่อไปเนื่องจากทั้งสองฝ่ายไม่มีใครอยากผลีผลามทั้งนั้น ทำให้เป็นการต่อสู้กันใแดนกลางมากกว่า ซึ่ง ซิตี้ ก็เริ่มทำได้ดีขึ้นบ้างเหมือนกันแต่ก็ยังไม่สามารถเจาะเข้าพื้นที่สุดท้ายของทีมเยือนได้ แฟนบอลในสนามได้มาหายง่วงกันบ้างหลังพ้น 25 นาทีไปเมื่อเกมเริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะทางเจ้าบ้านที่เริ่มใช้ความเร็วของ อดัม จอห์นสัน และ ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ รวมถึงเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ในการกดดันแนวรับลิเวอร์พูลได้มากขึ้น แต่เกมก็ยังไม่ค่อยมีอะไรให้ลุ้นกันมากเท่าไหร่ จนกระทั่งช่วงก่อนหมดครึ่งแรกทีมเยือนมีจังหวะได้เตะมุมติดๆกัน และมีโอกาสของ สเคอร์เทล ที่ได้ขึ้นโขกเต็มหัวแต่หลุดกรอบออกไปแบบน่าเสียดาย ก่อนที่เกมจะจบครึ่งแรกไปแบบจืดชืดสุดๆ ครึ่งหลังเกมเริ่มเปิดขึ้นเมื่อทั้งสองทีมพยายามเข้าทำเร็วขึ้น โดยต้นครึ่งหลังแมนฯ ซิตี้ ได้เสียวเมื่ออเดบายอร์ จ่ายบอลหน้าเขตโทษไปแฉลบกองหลังก่อนจะเข้าทาง ไอร์แลนด์ ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปแต่ก็ยิงหลุดกรอบ อีกทั้งผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าไปก่อนแล้ว แต่เกมก็ต้องหยุดไปหลายนาทีเมื่อ บาเบิล โดนบอลเตะอัดเข้าที่ศรีษะทำให้ร่วงลงไปกองอยู่นานแต่ก็กลับมาลงเล่นใหม่ได้ ก่อนที่เกมจะสู้กันไปอีกพักใหญ่โดยที่ไม่ค่อยมีจังหวะนัก โอกาสที่ดีที่สุดของเกมมาในนาทีที่ 60 เมื่อ อเดบายอร์ สบโอกาสทองได้ตั้งป้อมซัดจากระยะ 20 หลา ลูกพุ่งเป็นจรวดแต่ว่า เรน่า ซูเปอร์เซฟปัดบอลออกไปได้อย่างหวุดหวิด ลิเวอร์พูล ที่เกมเริ่มตื้อก็ส่ง เบนายูน ที่หายเจ็บจากซี่โครงหักลงมาแทนมักซี่ ที่เล่นไม่ออกในเกมนี้ ส่วนแมนฯ ซิตี้ ก็ส่ง เคร็ก เบลลามี่ ลงมาแทน ไรท์ ฟิลลิปส์ เช่นกัน นาทีที่ 73 ลิเวอร์พูล มีโอกาสง้างเท้าเหมือนกันจากการต่อบอลที่ดีบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ซิตี้ ก่อนจะจบด้วยการง้างเท้ายิงด้วยซ้ายของ เจอร์ราร์ด ที่ไปตรงตัวกิฟเว่น จากนั้น ราฟา ถอดบาเบิลออกและส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่หายเจ็บเข่ากลับมาลงสนามได้อีกครั้งหลังหายหน้าไปเดือนเศษ ส่วนเจ้าบ้าน โรแบรโต้ มันชินี่ ทำเซอร์ไพรซ์ส่งเจ้าหนูอิบราฮิม ลงมาแทน ไอร์แลนด์ ต่อมาเจ้าบ้านมีลุ้นสุดๆเมื่อ แอกเกอร์ โขกสกัดพลาดไปเข้าทาง อเดบายอร์ กระดกบอลกำลังจะควบหนีสเคอร์เทล เข้าไปในเขตโทษแต่ สเคอร์เทล ยังจิ้มบอลทิ้งได้ทันในจังหวะสุดท้าย ในลูกเตะมุม อเดบายอร์ ก็ได้โอกาสอีกครั้งเมื่อเตะมุมเข้ามาบอลเลยไปถึง กอมปานีย์ ที่เสาไกลเปิดกลับมาให้หอกโตโก เทคตัวโขกจากระยะ 6 หลาแต่ก็ข้ามคานออกไปแบบน่าเสียดาย ช่วงเวลาที่เหลือต่างฝ่ายก็พยายามกันเต็มที่เพื่อที่จะทำประตูให้ได้แต่ว่าไม่สำเร็จทำให้จบเกมเสมอกันไป 0-0 ระยะห่างระหว่างสองทีมนี้ยังอยู่ที่ 1 แต้มเหมือนเดิม แต่ซิตี้ ลงเล่นน้อยกว่า 1 นัด รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม แมนฯ ซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น, พาโบล ซาบาเลต้า, แวงซ็องต์ กอมปานีย์, โจลีออน เลสค็อตต์, เวย์น บริดจ์, ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ (เคร็ก เบลลามี่ 68), สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ (อับดิซาลาม อิบราฮิม 75) , ไนเจล เดอ ยอง, แกเร็ธ แบร์รี่, อดัม จอห์นสัน, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอกเกอร์, เอมิเลียโน่ อินซัว, ลูคัส, ฮาเวียร์ มาสเชราโน่, ไรอัน บาเบิล (เฟร์นานโด ตอร์เรส 75) , สตีเว่น เจอร์ราร์ด, มักซี่ โรดริเกวซ (ยอสซี่ เบนายูน 63) , เดิร์ค เคาท์ (อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ 87) ผู้ตัดสิน : ปีเตอร์ วอลตัน http://football.impaqmsn.com/content.aspx?id=53669&ch=253 จากคุณ : mooagiko เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 20:08:37

ความคิดเห็นที่ 24 คลิปนี้ทำดีนะ เอามาให้ดู จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 20:14:22

ความคิดเห็นที่ 25 1. เหมือนโมเมนตัมในเกมส์รุกที่ฮิวส์ทำมา ค่อยๆหายไปแล้ว เพราะแมนซินี่ แรกๆมา ก็ปรับแต่เกมส์รับอย่างเดียวก็พอ  ตอนนี้  ชักรุกกันไม่เป็นแล้ว เพราะรับมากไป 2. เกมส์กับหงษ์ ผมไม่รู้ว่าเป็นแผนหรือเปล่า  ที่ปล่อยให้มีพื้นที่ว่างตรงกลาง หน้ากรอบของหงษ์ค่อนข้างมาก  ไม่มีตัวของเราไปยืนตรงนั้นเลย  ทำให้หงษ์ก็ไม่ประกบด้วย  พอเบลลามี่ลงมา ก็เลยลากเข้าตำแหน่งตรงนั้น   มีลูกนึง ซาบาเลตต้า ตัดบอลได้ ลากทะลุขึ้นตรงกลางเลยครับ  แต่ชิ่งกับจอนสัน ไม่ดี เลยไม่หลุด เป็นไปได้ว่า เป็นแผนแมนซินี่ ที่ไม่ให้กลางเราเติม ตรงนั้น ให้ว่างๆไว้  หรือไม่ก็เพราะหงษ์รู้ว่าเกมส์ซิตี้ น่ากลัวทางปีก เลยเอาตัวบีบออกไปปิดพื้นที่ด้านข้าง หรือรุมสองปีกของเรา  เลยมีพื้นที่ตรงกลางเพิ่ม จังหวะแบบนี้ ถ้าให้แบ็ค อย่างบริดจ์ ลากขึ้นมา หรือให้เป็นซิลวิลโย่ ลากโซโล่ตรงกลาง แล้วยิงไกล น่าจะข่มขวัญ ทำให้ตัวคู่แข่งที่ไปรุมทางปีกคลายออกมาปิดพื้นที่ตรงกลาง  ทำให้ปีกว่างขึ้น  ผมว่าน่าลองแผนนี้บ่อยๆ 3. ผมว่าทีมเรามีปัญหาเพราะเรื่องโรเตชั่นหรือเปล่าครับเนี่ย ฟอร์มแบบนี้เลย  ทีแรกผมว่าดีเพราะทำให้คนที่ไม่ได้ลงมีกำลังใจ แต่หลังๆ แต่ละคนแทบไม่ได้ลงต่อเนื่องเลย 4. ผมว่าแมนซินี่บริหารบุคคลากรผิดพลาด  เพราะปล่อยตัวให้ยืมออกไป ทั้งเบนจานี่  ไวส์ และบิญโญ่ ทั้งๆที่ยังไม่แน่ว่าจะได้กาโก้มาหรือเปล่า โดยส่วนตัว ผมว่าเบญจานี่+เตเบส  ดูจะเข้าขากันมากกว่า  บายอร์+เตเบส นะ  เพราะเบญจานี่ ไม่วิ่งพล่าน  โหม่งชงอย่างเดียว  บังบอล  ตำแหน่งอยู่หัวกรอบเขตโทษ แต่บายอร์ วิ่งออกจากตำแหน่งหน้าเป้าบ่อยๆ 5. เดอ จอง หลายๆคนว่าดีแต่เล่นรับ แต่ผมไปดูคลิปตอนเขาเล่นในลีกฮอลแลนด์เนี่ย  ทั้งยิง ทั้งจ่าย ทั้งโหม่งนะ แปลกดี  เล่นในยูโร ก็เป็นกลางที่ครบเครื่องเลย  ยิงได้ จ่ายได้  ตัดเกมส์ได้  ยิงไกลได้  หลังๆมา โดนสั่งให้อยู่เฉพาะซีกหลังของสนาม เลยลืมไปแล้วมั้งว่ายิงยังไง จ่ายยังไง แมนซินี่ คงต้องกล้าๆหน่อยล่ะครับ  ถ้าเน้นแต่รับ แล้วรอจังหวะรุกที่นานๆมีสักครั้ง  ผลก็ออกมาเสมอบ่อยๆแบบนี้ 6. ผมอยากให้เอา ซิลวิลโย่ลงบ้างในช่วงท้ายๆเกมส์ เพราะบางครั้ง เกมส์รุกเราตันๆ  ต้องเอาพวกตัวเก๋าๆ ลงมาบ้าง เพราะพวกนี้ รู้ว่าควรจะทำอะไร เหมือนฮามันต์ อะไรแบบนี้ครับ จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 20:20:38

ความคิดเห็นที่ 26 ตั้งแต่ตกรอบคาริ่ง คัพมาฟอร์มเริ่มแกว่งมาเรื่อยๆ 2-3 นัดหลังยิ่งอึดอัดเข้าไปใหญ่ จากคุณ : Yahsarah เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 20:43:54

ความคิดเห็นที่ 27 ขอแย้งนิดนึงนะ ผมว่าการปล่อยเบญจานี โรบิญโย่ ไวส์ ไปให้ยืมไม่น่าเกี่ยวกับการไม่ได้กาโก้นะ  มันคนล่ะตำแหน่ง แล้วการปล่อยยืมก็สมเหตุ สมผลนะ เบญจานี เหลือสัญญาแค่ครึ่งฤดูกาล ยังไงก็ไม่ได้ต่อสัญญาอยู่เลย การให้โอกาสเขาไปลองกับทีมใหม่ เพื่ออนาคตอาชีพนักเตะ ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย มันเป็นเรื่องของคุณธรรมนะ เซนเดอรอส ของปืน วิเอร่า ของ อินเตอร์ ทีมพวกนี้ ไม่มีใครอยากปล่อยหรอกทั้ง มูริญโย่ เวนเกอร์ เหมือนมันชินี  แต่ความต้องการนักเตะ บวกอนาคตที่ดีของนักเตะ ตามจริยธรรมก็ควรปล่อย ส่วนเจ้าหนูไวส์ ชั้นยังไม่ถึงจริงๆ ลองให้โอกาสแล้ว สู้ไปหาโอกาสกับทีมระดับพรีเมียร์ ลีก อย่างโบลตัน ตอนนี้ก็ยังนั่งสำรอง แต่ได้ลงทุกนัด ส่วนโรบิญโย่นี่ ถ้าไม่ปล่อยจะทำไง เจ้าตัวคงออกฤทธิสุดเดชแน่ๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพทีม ก็ต้องปล่อย มันชินีมีประสบการณ์กับ อาเดียนโน่มาแล้ว ส่วนตอนนี้ ไม่น่าเรียกโรเตชันนะ แต่เป็นผลัดกันเจ็บ ผลัดกันลงมากกว่า ใจเย็นๆ แฟนเรือใบ ส่วนเดอ ยอง สมัครลุยกระฉูดนี่ ตัวยังบางๆเร็วๆอยู่เลย แต่ไม่รู้แกไปเน้นเพาะกล้ามเนื้อที่ฮัมบูรส์หรือไง ตอนนี้ ช้ากว่าเก่าเยอะเลย แต่สมัยก่อนมีแกเล่นมิดฟิลด์ตัวรับ แทบกรองบอลไม่ได้เลย ถึงกองหลังตลอด คงได้อย่าง เสียอย่าง แต่ตำแหน่งที่เดอ ยอง ยืนในทีมต่ำเกินไป แถมเจ้าตัวลงไปซ้อนเป็นเซ็นเตอร์ แบบ วิเอร่า แบร์รี่ บริดจ์ไม่ได้ด้วย ในการยืนตำแหน่งตามประกบ เพราะฉะนั้น ทั้งพื้นที่การเล่นความสามารถการเล่นถูกจำกัดเข้าไปใหญ่ เหลือแค่มันชินีคิดได้ กลับมาปัดฝุ่นดันตูเร่เล่นกลางตำแหน่งธรรมชาติดังเดิม ทีมคงมีสมดุลขึ้น แต่ตอนนี้สมการเป็น คีย์แมนการไปแชมป์เปี้ยนส์ ลีก อยู่ที่ เตเบซตัวเดียวเท่านั้น อีกอย่างเรือใบสีฟ้า เล่นกับทีมอ่อน ก็อ่อนตาม เล่นกับทีมแข็งก็แข็งตาม อย่างนี้ลำบากแย่เลย ไม่มีความสม่ำเสมอของฟอร์ม ถ้าเล่นได้อย่างเจอลิเวอร์พูล ต้องได้ 5 แต้มที่หายไปนัดเจอ ฮัลล์ กับ สโตค ตอนนี้ขอผ่านสโต๊คที่ยังไม่แพ้ใครในปี 2010 ในเอฟ เอ คัพก่อน จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 21:32:47

ความคิดเห็นที่ 28 สมัยก่อน เดอ ยองนี่ ตัวบาง เร็ว เทคนิคดี เล่นเป็นปีกได้เลย แต่ตามสกัด และ เข้าบอล ห่วยมาก ไม่รู้ทำไมถึงได้เลือกเป็นกลางรับ จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 21:38:49

ความคิดเห็นที่ 29 อีกคลิป จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 21:40:26

ความคิดเห็นที่ 30 แวะมาอ่านข่าว จากคุณ : Mister ManCity เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 05:13:27

ความคิดเห็นที่ 31 กระทู้วันใหม่ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S8913708/S8913708.html จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 10:43:39