ความคิดเห็นที่ 1 สำหรับรายละอียดก่อนเกมระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ดนั้น ก็ไม่ได้มีอะไรมากมายไปกว่า การเป็นเกมที่ต้องร่นขึ้นมาจากสุดสัปดาห์ที่จะถึง เนื่องด้วยภารกิจเวมบลีย์ของเจ้าบ้านนั่นเองครับ ยูไนเต็ดมีนัดล้างตากับวิลล่าที่เวมบลีย์เพื่อชิงถ้วยใบเล็กในวันอาทิตย์ ทำให้เกมนี้ถูกร่นขึ้นมาเตะก่อนเพื่อน ซึ่งทางฝั่งป๋าจอมซาลอนนั้น จัดทัพนัดนี้ขัดใจผมน่าดู ด้วยการส่งผู้เล่นชุดสำรองลงมามากมาย ทั้งๆที่เพิ่งถูกทอฟฟี่อัดยับมาแท้ๆเหมือนจะไม่เข็ด แต่อีกนัยยะหนึ่งก็คงเพื่อเก็บตัวหลักที่มีอาการล้ามากมายไว้พักบ้างนั่นเอง โดยเกมนี้ส่งเบน ฟอสเตอร์ นายทวารที่โลกลืมลงมาเฝ้าเสา แกรี่ เนวิลล์ยังได้โอกาสทางขวา ส่วนทางซ้ายเป็นขาประจำคือเอวร่า คู่เซ็นเตอร์ได้แก่ วิดิช กับบราวน์ มิดฟิลด์ตัวกลางสองคนเลือก สโคลส์-กิ๊บสัน มีวาเลนเซียทางขวา และแอนนี่ทางซ้าย คู่หน้าใช้รูน-เบิร์บ สะเดิ๊บตาข่าย สังเกตว่าเราเลือกตัวทดแทนส่งลงไปมากมาย ก็มี บิ๊กเบน/แกรี่/บราวน์/แอนนี่/กิ๊บสัน ห้าคนทีเดียวเชียวครับ ก็ส่งผลให้เกมที่เวมบลีย์ในวันอาทิตย์นี้น่าสนใจมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว สำหรับผู้มาเยือนจากลอนดอนนั้นเล่า นับแต่เปลี่ยนจากแฮร์รี่ เร้ดแนปป์ไป ก็เหมือนเดอะ แฮมเมอร์นั้น จะหมดลายการเป็นของแสลงของเราไปเยอะ อันนี้เท่ากับยืนยันว่า ของแสลงของเรานั้น ไม่ใช่อะไรทีมไหนหรอก แต่เป็นจ่าแฮร์รี่นี่เอง นับตั้งแต่แกคุม ปอมปีย์/แฮมเมอร์/สเปอร์ส นี่แกทำทีมของแกแสลงใจเราได้ตลอดเลยนะเนี่ย แต่มาถึงตอนนี้เมื่อกลายเป็น จิอันฟรังโก้ โซล่า (ผมไม่ชิน จานฟรังโก้) มาคุม แกได้ปรับเปลี่ยนทีมๆนี้ไปมากมาย และลูกทีมเริ่มก็เล่นได้เข้าขากันมากขึ้นเรื่อยๆ ฟอร์มชนะรวดสองนัดล่าสุดแบบคลีนชีตย่อมเป็นการส่งสัญญาณเตือนเป็นอย่างดีว่าให้ระวังไว้ โซล่าวันนี้ส่ง โรเบิร์ต กรีนเฝ้าเสา แผงหลังสี่คนมี ฌูเลียง โฟแบร์ – เจมส์ ทอมกินส์ - แม็ทธิว อัพสัน – โจนาธาน สเป็คเตอร์ กองกลางมิดฟิลด์สี่คนเลือก วาลอน เบห์รามี่ – ราโดสลาฟ โควัค – มาร์ค โนเบิล – อเลสซานโดร เดียมานติ ส่วนคู่กองหน้าเป็นกิลเยอร์โม ฟรังโก้ และ คาร์ลตัน โคล จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:22:12

ความคิดเห็นที่ 2 รูปเกมในวันนี้ไม่มีอะไรมากให้ต้องมานั่งลงในรายละเอียดกัน ผมจึงจะขออนุญาตพูดถึงรูปเกมเพียงบางๆ แต่จะขอไปลงในส่วนอื่นแทนจะดีกว่านะครับ เกมช่วงแรกค่อนข้างเดินเกมสู้กันได้สนุกอยู่ เจ้าบ้านต่อเกมกันได้ไม่ถนัดนัก เมื่อนักเตะส่วนมากดูเหมือนจะยังผสมผสานกันไม่ลงตัว โดยเฉพาะมิดฟิลด์และตัวริมเส้นฝั่งซ้ายที่ยังประสานงานกันไม่ติด ยิ่งแอนนี่ที่เล่นได้ไม่กี่นาทีก็ดันเกิดอาการเข่าบิด และต้องให้ทีมงานช่วยตรวจสอบอาการ แต่ทนฝืนได้ไม่นานก็เล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนตัวออกมาทั้งๆที่เพิ่งจะได้สัมผัสบอลไม่กี่ครั้ง โดยเอาปาร์ค ชี ซองลงมาทำหน้าที่แทน เกมในช่วงสิบห้ายี่สิบนาทีแรกยังคงห้าสิบ-ห้าสิบ ทั้งคู่มีโอกาสทำเกมรุก แต่ยูไนเต็ดเหมือนจะใกล้เคียงการจบสกอร์มากกว่าทีมเยือน เวสต์แฮมดูจะมีปัญหามากกับจังหวะเปิดป้อนที่ไม่ได้กดดันแนวรับเจ้าบ้านเท่าใดนัก ถึงแม้เดียมานติ กับเบห์รามี่จะทำเกมริมเส้นได้วูบวาบ แต่จังหวะสุดท้ายก็ทำเสียไปซะหมด ในขณะที่โนเบิล และโควัคเองก็สาละวนกับการต่อสู้ตรงกลางมากกว่าจะได้เดินเดมขึ้นหน้า ตรงนี้ทำให้พอเวลาผ่านไปพอเวสต์แฮมกดดันอะไรเจ้าบ้านไม่ได้ ก็ค่อยๆถูกเกมของเจ้าบ้านกลืนกินไปทีละนิดละหน่อย ยูไนเต็ดค่อยๆตั้งลำขึ้นมาทีละเล็กละน้อย อาศัยที่นักเตะหลายคนเก๋าเกมและวูบวาบได้ดีกว่า ค่อยๆนวดแนวรับทีมเยือนไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะการให้วาเลนเซียนวดทางริมเส้นฝั่งขวา ทีแรกเวสต์แฮมเหมือนจะต้านไว้ได้ดี เมื่อวาเลนเซียไม่สามารถทำงานได้ตามถนัด ถูกซ้อน ถูกคุมเก็บเรียบ แต่ท่านเซอร์ขยับเร็วครับ เราจะเห็นว่ายูไนเต็ดเริ่มเปลี่ยนมาเจาะตรงกลางจากเบิร์บและรูน โดยมีกิ๊บสันคอยเก็บตกยิงนกแถวหน้ากรอบ เพื่อดึงตัวริมเส้นเวสต์แฮมหุบเข้ามาคุมพื้นที่ตรงกลางมากขึ้น และมันก็ช่วยให้วาเลนเซียเริ่มมีพื้นที่ให้หายใจหายคอออกได้บ้าง ยิ่งพอเล่นไปเล่นมา เดียมานติยิ่งกดดันแกรี่ได้ไม่เท่ากับพิษสงที่เขามี ที่เราต่างหวาดระแวงกัน แกรี่จึงเริ่มที่จะเติมเกมได้สะดวกขึ้น และจากตรงนั้นเอง ที่ทำให้เกมริมเส้นทางขวาของเจ้าบ้านกลายเป็นอาวุธหนักไปในที่สุด จากการประสานงานของวาเลนเซีย-แกรี่-กิ๊บสัน ที่ผลัดกันเข้ามาป่วนเกมรับทางฝั่งสเป็คเตอร์เรื่อยๆ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:22:29

ความคิดเห็นที่ 3 เกมริมเส้นทางฝั่งขวาเมื่อทำงานได้ ก็เท่ากับเปิดไซเรนเตือนแนวรับทั้งแผงของเวสต์แฮมได้เลย เพราะมันคือการเปิดช่องทางการจู่โจมเข้าหน้ากรอบได้นั่นเอง ยูไนเต็ดใช้เกมริมเส้นทางขวาโจมตีหวุดหวิดจะได้ประตูหลายครั้ง จนมาสำเร็จเมื่อผ่านครึ่งชั่วโมงแรกไปไม่นานจากการขึ้นบอลตรงกลาง ปาร์คจ่ายขึ้นหน้าให้เบิร์บ แล้วเบิร์บหาช่องเปิดออกทางขวา วาเลนเซียที่ควบไปรับบอลแล้วไม่ต้องคิดมาก เมื่อเห็นกองหลังพากันเทตามมาก็จัดการแปบอลลอยสวนกลับเข้ากลางปากประตูทันทื กลายเป็นรูนี่ย์ที่ยืนกางมุ้งอยู่คนเดียว พุ่งขวิดเข้าไปโล่งๆอย่างง่ายดาย ของเรียกว่าลูกสูตร ซ้าย-ขวา-ซ้าย ก็แล้วกันนะครับ หลังจากได้ประตูขึ้นนำ เกมก็ไม่มีอะไรให้ต้องพูดถึงมากนักแล้ว เวสต์แฮมต่อเกมรุกกันไม่ค่อยดีนัก ไปตายจังหวะหน้ากรอบแทบทั้งหมด ลูกโด่งที่เปิดให้โคลก็ถูกวิดิชเก็บเคลียร์หมดจด กลายเป็นเกมเกือบจะวันเวย์ของเจ้าบ้าน แต่เวสต์แฮมก็ไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาส เพียงแต่ไม่สามารถฉวยจังหวะที่มีน้อยครั้งให้เกิดสกอร์ได้เท่านั้น บิ๊กเบนเองก็โชว์ฟอร์มเซฟแค่ไม่กี่ลูกด้วยซ้ำไปในเกมนี้ การที่มีปาร์คลงมาแทนแอนนี่ ถึงแม้รูปเกมอาจจะเปลี่ยนไปจากที่สิ่งตั้งใจจะให้แอนนี่ทำ แต่สิ่งที่ปาร์คทำออกมาก็นับว่ามีประโยชน์เหมือนกัน ถึงการออกบอลและครองบอลจะไม่ลีลาหรือหวือหวาเท่าแอนนี่ แย่งบอลไม่เก่งเท่า แต่เขาสามารถทำหน้าที่ทั้งรุกและรับ รวมทั้งประสานงานต่อบอลกับรูนี่ย์และเบิร์บได้ดีทีเดียว ผมเริ่มเห็นฟอร์มดีๆของปาร์คกลับมามากขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ นับแต่หายไปเป็นปี หลังจากถูกหั่นชื่อทิ้งที่มอสโกนั่นแหละ เกมนี้ปาร์คพล่านทำเกมทางซ้ายได้ดีมากๆ ขยัน และทุ่มเทจนเกมทางด้านนี้ของเวสต์แฮมหายไปเลย ยิ่งการที่รูนี่ย์เริ่มถ่างออกมาประสานงานทางริมเส้นยิ่งช่วยปาร์คได้เยอะทีเดียว เกมนี้ผมอยากยกความดีความชอบให้บรรดาตัวริมเส้นทั้งสองฝั่ง ที่ช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็งเสียจนจุดอ่อนที่แดนกลางของเราแทบไม่ถูกแตะต้อง กิ๊บสันที่ถ้าไม่นับการยิงไกลและเปิดบอลสองสามครั้งในเกมนี้นั้น จริงๆก็ทำแค่ปั่นแปะอยู่ตรงกลางนั่นแหละ ภาระทุกอย่างกลายเป็นสโคลส์ที่แบกทีมทั้งรุกและรับ แต่ด้วยเกมทางริมเส้นนั่นเองที่แบ่งเบาภาระตรงนี้ออกจากกลางได้มากทีเดียว จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:22:45

ความคิดเห็นที่ 4 เกมยังคงเป็นเช่นนั้นจนครบเก้าสิบนาที การเปลี่ยนตัวของโซล่าไม่ได้ช่วยให้รูปเกมดีขึ้นแต่อย่างใด การถอดฟรังโก้ที่ไม่มีบทบาทในเกมรุกแล้วแทนที่ด้วยมิโด้ในครึ่งหลังนั้นก็เหมือนเดิม มิโด้ไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรในแนวรุกของเวสต์แฮม ตัวอันตรายก็ยังคงเป็นเบห์รามี่เพียงคนเดียวเหมือนเดิม ที่ดูเหมือนจะแบกความหวังของทีมไว้ในวันที่เดียมานติไม่ได้อยู่ในฟอร์มเด่น ยูไนเต็ดยังคงเดินหน้าแบบวันเวย์จนมาได้ลูกที่สองหลังจากหวุดหวิดจะได้มาหลายครั้ง ลูกนี้ยูไนเต็ดขึ้นเกมมาทางขวา เบิร์บมารับบอลทางขวาก่อนจะแทงพรวดขึ้นหน้าให้วาเลนเซียที่สอดทะลุขึ้นไป วาเลนเซียเลาะขึ้นไปจนเกือบสุดเส้นหลังแล้วเปิดเข้ากลางประตู ไม่มีใครประกบรูนี่ย์ที่เทคตัวขึ้นโหม่งเดี่ยวๆอีกครั้ง ส่งให้เจ้าบ้านออกนำสองลูกในนาทีที่ 56 เท่านั้น หลังจากนั้นก็ยังไม่มีอะไรมาก เจ้าบ้านดูผ่อนคันเร่งลงเล็กน้อย ในขณะที่ลูกทีมโซล่าก็ทำอะไรไม่ถนัด โซล่าตัดสินใจถอดเบห์รามี่ออกแล้วส่ง แจ๊ค คอลลิสันลงมาแทน แต่ก็เหมือนเดิมครับ ยังไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาจากเดิมนัก เมื่อเหลือเวลาสิบห้านาที โซล่าก็ส่งคีรอน ดายเออร์ ลงมาแทน เดียมานติ เท่ากับตัวอันตรายของเวสต์แฮมที่โชว์ฟอร์มดีๆมาในปีนี้ แทบจะถูกถอดออกไปหมดแล้วสินะ พอเห็นดายเออร์ผมก็...แม่เจ้า มันยังมีชีวิต มันยังเตะบอลอยู่รึเนี่ย เห็นแบบนี้ยิ่งทำให้ความหวังเรื่องฮาร์โก้เรืองรองขึ้นมาในบัดดล ยูไนเต็ดเปลี่ยนบ้างโดยถอดรูน-เบิร์บออกมาพัก แล้วส่งพี่เว่นกับน้องยุฟลงมาแทน ซึ่งไม่ผิดหวัง เพียงจังหวะสัมผัสบอลไม่กี่ครั้งก็ส่งให้ยูไนเต็ดได้ประตูที่สาม จากจังหวะแย่งบอลกันธรรมดาๆทางกราบซ้าย ที่ผู้เล่นเวสต์แฮมเหมือนจะเสียหลักล้มลงแล้วแขนเจ็บ นอนอยู่ที่พื้น แต่ผู้เล่นเจ้าบ้านไม่ได้หยุดรอ จากจังหวะต่อเนื่องนั้น สโคลส์ชิพบอลขึ้นหน้าให้โอเว่นหลุดแนวรับเข้าไปเดี่ยวๆกับกรีนและก็ไม่พลาด ลูกบอลจากเท้าโอเว่นสวนตัวกรีนเข้าเสาสองอย่างสุดสวยในนาทีที่ 80 แล้วก็ไม่มีอะไรเพิ่มมากนักจนหมดเวลา ทำให้เจ้าบ้านเก็บสามแต้มจ่อรดต้นคอจ่าฝูงต่อไป ปล. หัวกระทู้นั่นน่ะ มีความหมายนะครับ ผมต้องการสื่อให้เห็นว่า ในเกมที่ออกจะเนือยๆ เรื่อยๆ เนิบนาบๆ แบบนี้ สิ่งที่แตกต่างระหว่างทั้งสองทีม ก็คือ รูนี่ย์ นี่แหละ ทั้งๆที่รูปเกมไม่ได้หวือหวา หรือจัดจ้าน แต่รูนี่ย์สร้างแพสชั่นขึ้นมาให้ทีมได้ รูนี่ย์เคลื่อนที่ เล่นบอล ทำทาง แต่ละสิ่งละอย่างที่เขาทำมันเหมือนกับสามารถดึงอารมณ์ร่วมในเกมของเพื่อนๆให้ปะทุขึ้นมา ให้มันมีฟีลลิ่งขึ้นมา นี่แหละคือความแตกต่างที่รูนี่ย์สร้างขึ้นมาในเกมนี้ครับ นี่ยังไม่นับไอ้สองประตูด้วยนะเนี่ย จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:23:14

ความคิดเห็นที่ 5 หลังเกมนี้ ผมให้นับถือหัวจิตหัวใจท่านเซอร์จริงๆพับผ่า เป็นผมนะ ผมคงต้องคิดหนัก เพราะเพิ่งพ่ายยับเยินมาเมื่อสามวันก่อน ทำให้นัดนี้เป็นเดิมพันที่สูงลิบต่อแชมป์สี่สมัยติดต่อกันทีเดียวเชียว หากนัดนี้เก็บชัยชนะไม่ได้ โอกาสที่จะถูกเชลซีทิ้งห่างไปเป็นเจ็ดแต้มในวันเสาร์ก็จะมีมากทีเดียว เพราะเชื่อได้เลยว่าเชลซีจะมีแรงฮึดขึ้นอีกเยอะ เมื่อเห็นเราพลาดสามแต้มติดๆกันแบบนี้ แต่เมื่อเราเก็บชัยชนะได้ ก็เท่ากับโยนความกดดันกลับไปให้เชลซีที่จะเปิดบ้านเตะกับแมนฯ ซิตี้ในค่ำวันเสาร์นี้ การที่แต้มเหลือห่างแต้มเดียวแถมประตูได้-เสียเรากลับมานำเชลซีแบบนี้ เชื่อได้เลยว่าลูกทีมของอันเชล็อตติก็ต้องกดดันบ้างไม่มากก็น้อยแหละ แต่ปัญหาคือการที่แมนฯ ซิตี้มีเกมกลางสัปดาห์รีเพลย์เอฟ เอ คัพ อีกเกมเนี่ยสิ ในขณะที่เชลซีก็ต้องออกไปเยือน จูเซ็ปเป้ เมียซซ่า ของอินเตอร์ ที่อาจส่งผลให้นักเตะล้ากันได้ ตรงนี้เราต้องไปลุ้นกันครับ ว่าใครจะแรงดีกว่ากัน ส่วนทางฝั่งของเรา ก็ถือว่าทำหน้าที่ ทำงานได้ตามเป้าแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับผลของคู่เชลซี-แมนฯ ซิตี้ แล้วล่ะ ว่าจะออกมาในด้านไหน ใครเป็นแฟนทีมไหน ก็ตามลุ้นตามเชียร์กันตามชอบใจตามสะดวกเลยนะครับ ส่วนในกระทู้นี้ คงจะขอวกกลับมาหลังเกมนี้กันต่อ ซึ่งผมเองพอเห็นรายชื่อนักเตะก่อนเกมก้ต้องยอมรับเลยว่า สามประตูที่ได้มา มันเกินความคาดหมายไปเยอะมากๆ ผมเองหวั่นใจเดียมานติกับเบห์รามี่เหลือเกิน เพราะเห็นมาหลายนัดแล้วว่าเป็นนักเตะที่คล่อง และมีทักษะฝีเท้าได้ทีเดียว สามารถเล่นด้วยตัวคนเดียวได้ดีทั้งคู่ ส่วนโควัคนั้นชื่อชั้นก็ไม่ธรรมดา คาร์ลตัน โคลเองก็ยิงได้เรื่อยๆ แถมเป็นกองหน้าสไตล์ที่กองหลังเราไม่ค่อยชอบซะด้วย ซึ่งก็คงต้องบอกว่าโชคดีมากมายครับ ที่รูปเกมเกมนี้มันไม่ออกมาในหน้านั้นอย่างที่ผมคิด จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:23:34

ความคิดเห็นที่ 6 ผมเองคงขออนุญาตเดาเอาเองว่า ถ้าไม่ใช่ที่โซล่า ก็อาจเป็นที่ลูกทีมของเขานั่นแหละ ที่กริ่งเกรงชื่อชั้นแชมป์เก่าจนเกินไป หลายจังหวะเกมรุกของเวสต์แฮม ที่เราเห็นได้ชัดเจนว่า เขาสามารถกดดันแนวรับเราได้ดีมากๆ หากว่าโอกาสและจังหวะมันเอื้อ เพียงแต่ว่าลูกทีมโซล่า ไม่ค่อยสร้างโอกาสนั้นขึ้นมาสักเท่าไหร่ กลับเอาแต่เล่นเหมือนระแวง เหมือนกล้าๆกลัวๆ ตรงนี้ทำให้ท้ายที่สุด โมเมนตัมของเกมจึงค่อยๆถูกเหวี่ยงกลับมาทางเจ้าบ้านมากขึ้นจนเวสต์แฮมสูญเสียรูปเกมของตัวเองจนหมด ซึ่งถ้าหากว่าโซล่ากล้าๆที่จะให้ลูกทีมบดใส่ยูไนเต็ดมากกว่านี้ ผมว่าสถานการณ์อาจจะไม่ออกมาแบบนี้ก็เป็นได้ เพราะตัวกลางสองคนของเราที่เป็นสโคลส์-กิ๊บสันนั้นถูกบดไม่ได้เลยนะครับ น่าจะออกอาการตลอด เพราะคนหนึ่งก็ช้าลงเยอะ อีกคนก็ยังกระดูกอ่อนเหลือเกิน ผมยังแปลกใจพอควรที่ไม่เห็นเวสต์แฮมเปิดเกมหนักเข้าใส่เราเลยแม้แต่สักครั้งเดียว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าโซล่าเองเป็นอิตาเลี่ยน แถมเป็นนักเตะสไตล์พรสวรรค์ภาคพื้นที่ตัวเล็ก อาศัยทักษะความสามารถเฉพาะตัวและความเร็ว เพื่อพาบอลไปข้างหน้ามากกว่าจะใช้เรี่ยวแรงหรือความดุดันเข้าสู้ ตรงนี้คงมีส่วนมากทีเดียว ที่ทำให้รูปร่างของแท็คติตของเขาออกมาเป็นแบบนี้ หากจะเทียบกันก็คงคล้ายๆกับมาร์ค ฮิวจส์ที่สร้างทีมที่เล่นหนัก ดุดัน บู๊ล้างผลาญ เหมือนสไตล์การเล่นของเขา ด้วยเหตุผลตรงนี้เอง ที่น่าจะมีน้ำหนักพอให้เชื่อได้ว่า ทำไมลูกทีมของโซล่าถึงไม่เอาลูกหนักเข้าต่อกรกับคู่ต่อสู้เลย มันก็เพราะไม่ใช่สไตล์ของโค้ชนั่นเองครับ การเลือกนักเตะสู่ทีมของโซล่าก็คงอิงข้อนี้ด้วยเหมือนกัน จึงไม่เห็นพวกสไตล์ดุดันอยู่ในทีมเขาสักเท่าไหร่ มาร์ค โนเบิล / โควัค / ฟรังโก้ / เดียมานติ / เบห์รามี่ / โฟแบร์ / สเป็คเตอร์ พวกนี้ไม่ใช่ฮาร์ดคอร์แม้แต่คนเดียว และคงไม่แปลกนัก หากผมจะขออนุญาตบอกโซล่าสักนิดว่า หากคุณจะเอาตัวรอดในลีกนี้ได้นานๆ คุณอาจต้องเพิ่มความดุเข้าไปมากกว่านี้นะครับ สไตล์บอลแบบนี้ ก็คือเก่งเล็ก ซึ่งเมื่อเจอเก่งใหญ่อย่างบิ๊กโฟร์ โอกาสรอดก็น้อยลง แล้วถ้าเจอกับบอลบู๊ล้างผลาญอย่างทีมสไตล์อิงลิชโบราณ โอกาสเจ็บโอกาสเจ๊งก็มีสูง ทีมฟุตบอลอย่างทีมของโซล่าจึงมักจะทำได้ดีกับทีมที่เล่นสไตล์คล้ายๆกันมากกว่าครับ ซึ่งโอกาสอยู่รอดในลีกยาวๆ ก็คงต้องวัดกันปีต่อปี ถ้าเป็นอย่างนั้น จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:23:49

ความคิดเห็นที่ 7 กลับมามองฝั่งเราบ้าง นัดนี้ถือว่าโชคดีจริงๆที่ผู้เล่นชุดผสมของเรา มาเจอแท็คติคนุ่มๆของโซล่า ทำให้สามารถต่อกรและจัดการได้โดยไม่ต้องลุ้นให้หวาดเสียวมากนัก การเห็นวิดิชลงสนามแล้วเป็นหลักเป็นที่พึ่งให้บราวน์ได้เต็มๆเกม ก็นับเป็นสัญญาณที่ดี เช่นเดียวกับเคสของแอนนี่ ที่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมนี้ อย่างน้อยสองคนนี้ก็ถือว่ายังมีโอกาสในทีมต่อไป ท่านเซอร์เองก็เป็นแค่คนแก่ขี้ใจน้อย โกรธง่ายหายเร็วเหมือนเดิม ใครที่หัวอ่อนหน่อย ยอมอ่อนมาขอโทษขอโพย ท่านเซอร์เองก็พร้อมที่จะให้โอกาสเสมอครับ ปีนี้ก็ปาไปสามคนแล้ว นับตั้งแต่ นานี่ – วิดิช – แอนนี่ สำหรับพวกเราก็ถือเป็นข่าวดีที่กำลังสนับสนุนของทีมยังคงอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา และพร้อมที่จะต่อสู้แก่งแย่งตำแหน่งตัวจริงอย่างเข้มข้นต่อไป จริงๆในสายตาผม ผมว่าป๋าควรถอดเอวร่าสักเกมบ้างนะ หลังๆเริ่มเห็นเจ้าตัวตื้อบ่อยมาก ไม่ใช่เพราะฟอร์มแย่หรอกนะครับ แต่ดูเหมือนว่าจะล้าและไฟมอดมากกว่า เมื่อก่อนเราเคยเห็นพี่ติ๊กห้อไม่หยุด ลุยแหลก และเติมกระจาย แต่ช่วงเดือนกุมภาที่ผ่านมา แต่ละเกมนี่นับครั้งที่พี่ติ๊กเติมได้เลย ยิ่งเกมนี้ที่เราสามารถลุยทางริมเส้นได้ตลอด แต่พี่ติ๊กกลับไปไม่ถึงเส้นหลังสักครั้งเดียว นับว่าผิดประหลาดไปจากสไตล์พี่ติ๊กมากๆ หรือว่าป๋าสั่งเปลี่ยสไตล์พี่ติ๊กรึ ผมว่าไม่หรอก ป๋าไปสอยพี่ติ๊กมาก็ต้องเป็นเพราะชื่นชอบสไตล์การเล่นพี่ติ๊ก แล้วจะไปเปลี่ยนแกทำไมกัน ผมว่าเกมบางเกมดร็อปแกมั่งก็ได้ ทั้งเดอลาท ทั้งฟาบิโอก็พร้อมที่จะทดแทนอยู่แล้ว จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:24:04

ความคิดเห็นที่ 8 จบจากเกมนี้ ก็คงไปเจอกันหลังสนามเวมบลีย์ในเช้าวันจันทร์ ซึ่งผลจะเป็นอย่างไร ถ้วยแชมป์แรกของซีซั่นจะตกเป็นของใคร ไปติดตามกันได้คืนวันอาทิตย์ครับ แล้วมาลุ้นกันครับ สงบใจ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:24:17

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมากคร้าบบบบบ ไม่ได้ดูเอง(เพราะดึกมาก) เลยขออ่านบทความคุณสงบใจ กับ ขอดูไฮไลท์คุณ danya นี่แหละครับ จากคุณ : yutei เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:32:26

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีครับ เข้ามาอ่านเช่นเคย เห็นรายชื่อ ๑๑ คนแรก ต้องแอบบ่นในใจว่า ป๋าประมาทไปไหมเนี่ยเปลี่ยนทีมยกชุดเลย แต่รูปเกมที่ออกมาก็นับว่าใช้ได้ครับ และขุนค้อนก็ไม่แลกเหมือนที่คุณสงบใจว่าไว้ นี่ถ้าเปลี่ยนจากขุนค้อนเป็นทีมอย่างวีแกน ฟูแล่ม โบลตัน อาจจะงานเข้าไม่ใช่น้อย เห็นวีดิชลงสนามและเล่นดี ก็ดีใจครับ ได้ยินผู้บรรยายบอกว่าวีดิชยืนคู่ริโอครั้งสุดท้ายเดือน ต.ค. โน่น นานจริงๆครับ ได้วีดิชกลับมา เทพน้ำตาลก็ดูนิ่งขึ้นไปด้วย   กิ๊บสันเมื่อคืนมีจังหวะจ่ายสวยๆอยู่บ้างเหมือนกัน แต่รวมๆก็ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ รอดูกันต่อไปครับ   ป.ล. น่าเห็นใจที่แอนเดอร์สันเจ็บ ไม่รู้นานแค่ไหน ถ้าหายทันนัดเจอมิลานก็ดีครับ เพราะนัดนั้นคาร์ริคโดนแบน จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:38:14

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีครับคุณสงบใจ เมื่อคืน เห็นตัวผู้เล่นแล้วแอบหนาวๆเหมือนกัน  แต่ผลก็ดีกว่าที่คาดเอาไว้มาก เมื่อคืนผมจับตาดู รูนี่ย์ในหลายๆจังหวะ เพราะแปลกใจกับการเล่นตั้งแต่นัดก่อนๆคือ รูนี่ย์  กลับมาเลี้ยงตะบันไปข้างน้ามากขึ้น หลังจากที่เมื่อก่อน พักและมักจะให้เพื่อนเล่นต่อ แต่เมื่อคืน รูนี่ย์เด่นจริงๆครับ ตอนนี้ รูสึกว่าบอลจากเท้า รูนี่ย์อันตรายมากขึ้นเยอะ ไม่ว่าจะเปิดให้ วาเลนเซีย แต่วาเลนเซียยิงแป็กเอง   หันหลัง พัก และยิงบอลตกใต้คาน ถ้าเข้านี่สุดคลาสสิคเลย เสียดาย ลูกที่วิ่งเบียด กรีน ถ้าไม่มีตัวคุมเส้นแฮตทริกไปอีกนัดแล้ว เบอร์บาตอฟก็มีประโยชน์กับทีมครับขาดแค่ประตูอย่างสองลูก ที่แมนยูขึ้นนำก้เป็น เบอร์บาตอฟที่เปิดให้วาเลนเซีย  โดยเฉพาะลูกที่2 ตัดหลังเลยครับสวยมาก แต่โดยรวมเกมส์ครึ่งแรกไม่ค่อยดีเท่าไรครับ  ช่วงต้นนี่ แอนเดอร์สันเจ็บ เอา ปาร์คลงมา  ผมชอบนะครับ เพราะ เล่นเป็นทีมดี ครับ   ส่วนกิ๊บสันครึ่งแรกถ้าไม่นับ ยิงไกล 3 ครั้งช่วงท้ายครึ่งแรกแทบไม่เห็นเลย ครับ  แต่ครึ่งหลัง กิ๊บ สันมีลูกจ่ายคมๆหลายครั้ง เหมือนกัน วาเลนเซีย  ผมว่าเค้าก็เล่นตามมาตรฐานนะ คล้ายๆทุกนัด แต่อยู่ที่การเปิดถ้านัดไหนแม่นก็ดี เช่นนัดนี้ เปิดแม่น ครับ   สโคลส์นัดนี้ผมว่าออกบอลแม่น  แต่เสียดาย มีโอกาส ยิงลูกที่ 100 ในพรีเมียร์ถึง2ครั้งแต่พลาดไป กองหลังนัดนี้มีวิดิช ก็ถือว่าอุ่นใจมาก ครับ เอฟร่าก็ทำได้ตามมาตรฐานตัวเอง แต่ข้อแตกต่างคือ เบน ฟอสเตอร์กับ ซาร์ คือ ลูกคืนหลัง ถ้าเป็น ฟอสเตอร์ จะดูรนๆ ทุกครั้ง ผิดกับ ซาร์ ที่ เพื่อนๆและแฟนบอลค่อนข้างสบายใจ ส่วนโอเว่น ก็ดีใจที่เห็นกับมายิงแบบเลือดเย็นได้เหมือนในอดีต แม้จังหวะอื่นๆจะช้าลงไปเยอะ  แต่ก็ยังชื่นชมจังหวะยิงประตูที่ไม่เคยตกไปสักเท่าไร ยังไงก็ลุ้น วันอาทิตย์ขอคว้าแชมป์แรกก่อนครับ  เก็บตัวจริงไว้หลายคนคงจะเอาไปอัดในวันอาทิตย์นี้   ส่วนพรีเมียร์ เชลซีก็เจองานหนักกับซิตี้ และเชลซีต้องอัดกับอินเตอร์ในแชมเปี้ยนลีกคืนนี้อีก จากคุณ : จูล่งแห่งเสียงซาน เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:48:23

ความคิดเห็นที่ 12 ประตูที่ได้ท้ง 3 ประตูของเราใช้เวลาน้อยมากๆ แสดงถึงความเฉียบคมของทีมเวิร์ค ลูกแรก วีดิชตัดลูกได้จากกรอบเขตโทษผีแดง ต่อกันเพียง 5 จังหวะ (รวมยิงเป็น 6 จังหวะ) ใช้เวลาเพียง 18 วินาที รูนีย์ก็เบิกสกอร์แล้ว (จากการเปิดของ AV ตามที่คุณสงบใจบอกว่า การเจาะปีกขวาของเราทำได้ดีมากๆ) ลูกที่สอง สโคลส์แย่งบอลได้ในแดนของเวสต์แฮม ใช้การต่อบอลเพียง 5 จังหวะ (รวมยิงเป็น 6 จังหวะ) ใช้เวลาเพียง 16 วินาที รูนีย์ก็ได้ประตูจากลูกโหม่ง จากการเปิดให้ของ AV เช่นเคย ลูกที่ส่าม ดูเหมือนจะเป็นกิ๊บสันที่เก็บบอลในจังหวะที่แย่งลูกกันริมกราบขวา ใช้การต่อบอลเพียง 3 จังหวะ จาก killer pass ของพอล สโคลส์  โอเว่นยิงเข้าไปได้ (รวมยิงเป็น 4 จังหวะ) ใช้เวลาน้อยที่สุด 12 วินาที แต่ละลูกใช้จังหวะ และ เวลา น้อยมาก  นับว่า จากการ build เกมที่ขาดโด้ไป ของท่านเซอร์ ตั้งแต่ช่วงเดือนมกรานี้สำฤทธิ์ผลแล้ว ยกเว้นเกมกับเอฟเวอร์ตัน ซึ่งคงเป็นอย่างคุณสงบใจบอก เกมนั้นนอกจากล้าจากการทุ่มสุดตัวกับมิลาน & อาการเจ็ทเลท แล้ว กองกลางท๊อฟฟี่ยังเข้าบอลกันหนัก ทุกจังหวะ แถมกองหลังเราเปื่อยเหลือเกิน (เกมนี่วีดิชลงได้ ดูดีมีชาติตระกูลมากขึ้นมากเลย) การที่ทีมระดับอื่น จะชนะหรือเสมอทีม Big 4 (หรือ Big3 หวา?) คงต้องใช้ความขยันและการเข้าหนักของกองกลางเข้าช่วยด้วย ดีใจครับ ที่จังหวะ Fast Break (แบบบาสเก็ตบอล) แล้วเป็นสกอร์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทีมเรา กลับมาอีกครั้ง นึกว่า คุณสงบใจจะไม่ได้ดูเกมนี้ซะอีก โชคดีที่น้องพราวไม่โยเย เราจึงได้อ่านบทวิจารณ์ดีๆ อย่าง "สงบใจวิพากษ์" กัน แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 12:02:42 แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 11:51:58 จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 11:48:24

ความคิดเห็นที่ 13 วันอาทิตย์ น้าจะห่อน้องพราวไว้ด้วยเสื้อแมนยูตอนเชียร์รึป่าวครับ ถ้าทำอย่าลืมถ่ายรูปมาให้ดูด้วย จากคุณ : death trip21 เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:11:01

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยกับพี่สงบและคุณเลขาในเรื่องการจัดตัวที่เมหือนจะเสี่ยงแต่ฉลาดมากๆของเฟอรกี้ และเรื่องระยะเวลาในการเข้าทำประตูครับ เหมือนเฟอรกี้จะอ่านทางโซล่าออก รู้ว่าบอลทรงอิตาเลี่ยนของโซล่า ไม่มาใช้พละกำลังและความหนักเข้าสู้แน่ จึงกล้าจัดตรงกลางแบบนี้ออกมา และใช้แผนดึงเกมเข้าตรงกลางแล้วค่อยออกริมเส้น ซึ่งวันนี้วาเลนเซียทำงานได้ดีจริงๆ ส่วนแบรบาตอฟถึงจะยิงไม่ได้ แต่เขามีประโยชน์ในการออกบอลมาก สำหรับรูนี่ย ไม่รู้จะพูดยังไงดี กลายเป็นจอมโหม่งไปแล้ว ณ ตอนนี้ความครบเครื่องของรูนี่ยใกล้จะถึงขีดสุดเข้าไปทุกทีแล้ว ส่วนเรื่องระยะเวลาในการเข้าทำประตู เป็นสิ่งที่ในบางปีแมนยูใช้เวลามากเกินไป แต่กลับมาใช้เวลาน้อยลงนับตั้งแต่ฟื้นฟูการสวนกลับเร็วมาได้ในยุคที่ใช้เจ้าโด้ แต่พูดตามตรง ผมชอบสไตล์โต้กลับที่มาจากการประสานงานหรือเข้าทำเร็วด้วยทีมเวิร์คแบบนี้มากกว่า มันชวนให้นึกถึงชุดปี 99 ที่เกมรุกหลายหลายสุดๆดี อ้อ ดีใจนิดๆที่โอเว่นยิงได้สักที หลังจากร้างไปนาน แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 12:24:04 จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:18:57

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์ครับ เฮ้อ... อยากให้โอเว่นลงเล่นบ่อย ๆ แต่ก็อยากให้ตอฟยิงได้เยอะ ๆ อยากให้รูนี่ย์ยิงได้เกิน 40 ลูกอีก เอ๊า!! จากคุณ : monboy01 เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:39:16

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณครับ จากคุณ : ประธานชมรมคนรักFutari เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:11:01

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่ได้ดู แต่โหลด Hi light มาดู หมู สุดยอด AV สุดยอด เบิร์ฟ สุดยอด ปาร์คแหล่ม จากคุณ : Sifer2002 เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:18:05

ความคิดเห็นที่ 18 ผมขอเสริมนิดนึง เรื่องระยะเวลาในการเข้าทำประตูครับ แต่เป็นอีกระยะเวลานึงน่ะครับคือระยะห่างในการได้ประตูแรกกับประตูที่สอง ผมว่ามันควรมีในเกมที่ ปราการหลังตัวหลักเราหายทั้งสองคนครับ ถ้าเอาประเภทขาถอยให้ทรงทีมปั่นป่วน เนี่ยเราจะกดดันในช่วงที่เหลือเปล่า ยิ่งเข้าโค้งสุดท้ายแล้ว  ถ้าเกมที่ควรจะง่ายเราสามารถลดความตึงเครียดของเกมได้สัก30นาทีที่เหลือมันก็ลดอการเกร็งได้ซึ่งผมมองว่าเป็นประโยชน์ในเกมถัดๆไปหรือในช่วงเตะ2แมตซ์ต่อสัปดาห์ติดๆกัน แต่บางทีมันก็ไปกำหนดว่าต้องได้ก็ไม่ได้เพราะขึ้นอยู่กับจังหวะด้วย แต่ที่เรากำหนดได้คือการโจมตีอย่างรวดเร็วหรือเร้าจังหวะเกมในขณะที่คู่แข่งเสียประตูไปที่เพิ่งเสียความมั่นใจไปหมาดๆได้ ซึ่งโอกาสเม็ด2ตามมามันมี ตีกว่าปล่อยเกมไปเรื่อยๆถ้าเจอทีมอื่นหรือพวกลุ้นหนีตกชั้นช่วงท้ายๆฤดู ที่วิ่งและสู้ตลอดถ้าห่างแค่ลูกนึงหรือ2ลูก ผมไม่ได้ดูถูกเวสต์แฮมน่ะครับ แต่ปีนี้ตัวเจ็บเยอะปัญหาทีมรุมเร้า โซล่าประคองตัวมาได้ขนาดนี้สุดยอดแล้ว ทรงบอลไม่มีจุดแข็งเลยทั้งรุกและรับ และแนวรับออกแนวเปื่อยด้วยซ้ำปีนี้ จากคุณ : กระบี่เก้าสําเนียง เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:25:01

ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อคืนหลับสนิทครับ  นอนตีหนึ่งครึ่ง  ตื่นไม่ไหว พอตื่นมาตอนเช้าดูผล  เฮ้อ  โล่งอก แถมรูนี่ย์บวกเพิ่มอีก ๒ ประตู  โอเว่นก็ยิงได้ ส่วนเกม  ยังวิจารณ์ไม่ได้  ขอดูเทปก่อนแล้วกันครับ จากคุณ : ขุนไกรครับผม เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:54:18

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ได้ดูครับ อิ อิ ว่าแต่ใครพอมีข้อมูลบ้างว่า ปีนี้ เจ้าอันโตนิโอ วาเลนเซีย มันแอสซิสต์ไปกี่ลูกแล้วเนี่ย  ติดอันดับกับเขามั่งหรือเปล่า ก็ดีใจครับที่ผีแดงกลับมาได้ (ซึ่งเป็นปกติอยู่แล้วที่มักจะมีแรงกระตุ้นขึ้นมาทันทีหลังจากแพ้นัดก่อนสำหรับผีแดง)  เพราะเมื่อดูวันที่เจอท็อฟฟี่ติดคอ ทั้งบราวน์ ทั้งอีแวนส์ ทั้งเนวิลล์ ออกทะเลหาฝั่งไม่เจอ  คาร์ริคก็เหมือนยังช็อคกับใบแดงแรกในชีวิตไม่หาย  ส่วนหมูรูนเมื่อไหร่ที่เล่นกับเอฟเวอร์ตันแล้วท็อปฟอร์มแทบจะไม่มีสักนัด เห็นจัดทีมดับเวสต์แฮมแบบนี้แล้ว ให้ตื่นเต้นมาก ๆ ว่านัดชิงวันอาทิตย์นี้ ป๋าจะจัดใครลงตัวจริง จากคุณ : 9ปล่อยไก่ (nmcm) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:58:35

ความคิดเห็นที่ 21 เอวร่าลงติดต่อกันมาตลอดแทบทุกเกมส์ไม่ได้พักเลย รูนี่ก็ลงตลอดแต่ยังพอได้พักช่วงท้ายเกมส์บ่อยๆ สงสารแกบ้างเหอะครับ เอวร่าควรจะได้พักบ้าง อย่างน้าหงบว่าก็คงจะดีขึ้น จากคุณ : ค้างคาวเฒ่า เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:34:02

ความคิดเห็นที่ 22 #20 AV แอสซิสไป 9 ลูก สูงสุดในสโมสรเท่ากับ กิ๊กส์ ส่วนแอสซิสสูงสุดในลีคคือ เชส ของอาเซนอล ทำไป 13 จากคุณ : GiggsScholes เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:45:05

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์นะคะ ^^ ตีสองกว่า ๆ เปิดเว็บเช็คชื่อนักเตะที่ลงเป็นตัวจริง  แบบว่าป๋าใจถึงจริง ๆ ค่ะ   โล่งอกที่ได้เห็นพี่วีกับเจ้าแอนนะคะ  หลังจากที่มีข่าวอะไรมากมาย  เสียดายที่คนหลังมีโอกาสลงแป๊ปเดียว ดีใจที่น้องหมูบวกประตูให้ทีมและตัวเองได้อีก   ดีใจกับประตูของโอเว่นด้วยค่ะ  ช่วงหลังนี่โอกาสของเค้ามีน้อยเหลือเกิน จากคุณ : Noey :p เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:01:24

ความคิดเห็นที่ 24 ชอบกระทู้นี้จังเลยครับ แต่ละท่านข้อมูลแน่นปึ๊ก แถมยังวิจารณ์กันแบบสุภาพมากๆ เลยครับ อ่านไปยิ้มไป ^o^ จากคุณ : sadit เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:05:55

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณคุณสงบใจค่ะ เมื่อคืนตั้งใจจะดูแต่ดันปิดนาฬิกาปลุก เซ็งเลย ตื่นมาหาคลิปไฮไลท์ดูแทน ปีนี้เหมือนเราจะมีคนเปิดบอลจากด้านข้างแม่นๆ  อย่าง AV แล้วก็คนเข้าฮอสดีๆ อย่างรูนี่ ล่าสุด AV ก็เปิดให้รูนโหม่งไป 3 ลูกแล้วตั้งแต่นัดเจอมิลาน ส่วนกองหลังมีวิดิชกลับมาแต่ริโอดันเจ็บอีก อยากให้กลับมาคู่กันอีกเร็วๆ จะทันนัดเจอมิลานมั้ยเนี่ย ถ้ามี 3 แนวหลัง ริโอ วิดิช น้าซาร์คงอุ่นใจสุดๆ เห็นด้วยกับคุณสงบใจเรื่องพี่ติ๊ก ลงติดๆ กันหลายนัดบางทีก็ล้าได้เหมือนกันนะ หลังนัดชิงคาร์ลิ่งคัพอาจจะต้องให้พี่ติ๊กได้พักบ้าง จากคุณ : ห้องสี่เหลี่ยมไร้มุม เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:06:12

ความคิดเห็นที่ 26 งานเข้า T_T ไม่มีเวลามาตอบกระทู้เลย ต้องขออภัยเป็นอย่างมาก พรุ่งนี้ก็ไปประชุมต่างจังหวัดด้วย คงต้องรบกวนเพื่อนๆสมาชิก แลกเปลี่ยนทรรศนะกันตามสะดวกไปก่อนนะครับ ถ้าปลีกตัวได้เมื่อไหร่ จะแวบมาคุยแน่นอนครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 16:33:09

ความคิดเห็นที่ 27 ขอขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาแลกเปลี่ยนทรรศนะนะครับ ผมเองเห็นด้วยทุกๆความคิดเห็น ไม่ว่าฟอร์มของหมู/เบิร์บ/ปาร์ค/วาเลนเซีย รวมทั้งเสียดายโอกาสที่กำลังมาของแอนนี่ สภาพของวิดิชที่กำลังดีขึ้น ทุกอยางเริ่มไปได้สวย หวังว่าริโอจะไม่เจ็บจริงๆนะ อยากให้เป็นแค่พักไว้ก่อน ส่วนวันอาทิตย์ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ ผมเอาผ้าห่อตัวน้องพราวได้ครับ แล้วให้แกนอนหนุนอกผมตอนดูบอลก็ได้ เมื่อคืนก็แบบนี้แหละ หลับปุ๋ยเชียว เด็กๆตัวแค่นี้ พอได้ห่อผ้าหน่อยนี่หลับสบาย นอนอุ่น ไม่มีสะดุ้งเลยนะฮะ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 16:37:14

ความคิดเห็นที่ 28 ดีฮะเฮียหงบและเพื่อนๆ ... ง่วงกันบ้างมั้ยฮะ ข้าเจ้าเองก็ยันป่านนี้เลยเหมือนกัน... ดีที่หาเรื่องคุยงานกับเจ้านายได้ตลอด ไม่งั้นนั่งอืดสลบคาโต๊ะทีทำงานแล้ว... - เนื่องจากเกมเมื่อวันเสาร์ข้าเจ้าไม่ได้ดูเพราะติดงานต่างจังหวัด พอมาดูแสงสูง (hight light) ย้อนหลังก็เริ่มเห็นธรรมชาติของคำว่า "แบทฯ หมด" ของทีมเราแล้วละฮะ ... จริงๆ มันก็ต้องล้ากันเป็นธรรมดา ซึ่งจริงๆ สำหรับปีนี้มันก็แปลกที่ทีมเราล้าช้ามาก ส่งให้เกิดทั้งผลดีผลเสียคือ... ล้าช้าทำให้เราผ่าน Big 4 เกมหนักได้อย่างน่าลุ้นมากขึ้น แต่ส่งผลให้เรามีสิทธิ์แต้มหล่นในช่วงโค้งสุดท้ายได้ซึ่งส่งผลทางจิตวิทยามากกว่าไปแต้มหล่นช่วงปีใหม่... และที่สำคัญ ..ปีนี้เป็นปีที่หนาวหนัก หนาวนานเอาเรื่อง ปัจจัยนี้สำคัญมากสำหรับทีมที่กรำศึกหนักกว่าชาวบ้าน หรือต้องเล่นเพื่อผลการแข่งขันสูงกว่า ... อย่างถึงแม้ว่าท้อฟฟี่จะเล่นกลางสัปดาห์มาเหมือนกัน ...แต่การเน้นเกมก่อนหน้านี้หลายๆ เกมเน้นมีแต้ม ไม่ได้ต้องมาบ้าเลือดเหมือนเราที่ไม่ได้เน้นแค่มีแต้ม แต่ต้อง 3 แต้มเต็ม + ประตูได้เสียตุนด้วย ...แล้วเมื่อมาเจอกับอากาศหนาวจัดเข้าไปอีก ทั้งความเครียดของถ้วยยุโรปที่ต่างกัน ทั้งความเครียดของตำแหน่งตารางที่ต่างกัน ทำให้ Passion ที่จะใส่กันมันเลยต่างกันมากสำหรับเกมที่แล้ว ... - มาเกมนี้ ข้าเจ้าเห็นคล้ายเฮียหงบเรื่องความบ้ากล้าเสี่ยงของป๋าเรามากๆ ... จริงๆ ข้าเจ้ามองด้วยว่าฟอสเตอร์อาจจะได้ลงเวมบลีย์เสาร์นี้ด้วยซ้ำ เมื่อพิจารณาถึงการเก็บเดอร์ ซาร์ไม่ให้ช้ำจนเกินไป วันนี้ได้เห็นท่าแมวตะปบของเบนก็ทำให้เข้าใจว่า น้องเค้ายังมีไฟอยากสู้ต่อ เพราะยิ่งใกล้บอลโลก หมากทางจิตวิทยาที่ป๋าเราวางหาเกมท้ายฤดูกาลให้เบนลงมารีดเค้นฟอร์มจะยิ่งได้ผลมากขึ้น ในแง่สโมสรก็ได้ในเรื่องลุ้นแชมป์ ในแง่ทีมชาติเบนเองก็จะได้การการันตีติดทีมหรือแม้แต่ลุ้นมือ 1 ด้วยซ้ำ คิดว่าหลังจากนี้เราจะได้เห็นเบนกลับมาลงถี่ขึ้นตามหมากโรคจิตของป๋า เหลือแต่ว่าน้องมันจะฉวยโอกาสตรงนี้ได้มากแค่ไหนเท่านั้นเอง - กลับมาที่เกม... เห็นด้วยกับเฮียหงบเกี่ยวกับธรรมชาตินิสัยโซล่าที่เป็นคาร์แรคเตอร์ส่งผลลงมายังในทีมเค้าเต็มๆ ก็เอาใจช่วยให้อยู่รอดได้นะ เพราะอีกไม่กี่แต้มก็น่าจะรอดได้แล้วมั้ง (แต่เอ๊ะ ! มันก็เหลือไม่กี่นัดแล้วด้วยนิ) ...ปีนี้เป็นปีโรคจิตที่ฟอร์มทีมของตายมันไม่ได้เป็นของตายอีกต่อไป ทีม Big กลับต้องมาเจอความผีเข้าของทีมกลางไปจนถึงใหญ่ ทำให้เต้มค่อนข้างจะไม่สูงมากนัก ดังนั้น ข้าเจ้าเลยเข้าใจหัวอกเฮียหงบในเรื่องกลัวฟอร์มขุนค้อนทั้งๆ ที่เล่นบ้านเรา ...แต่ยังโชคดีที่แม้จะเกิดอาเพทกับแอนนี่ แต่พัคจีซองของเราก็ไม่ได้แสดงอาการของความล้าเลย (เอาซิ อยากจะรู้เหมือนกันว่า Idol เกาหลีคนไหนอยากได้อาพัคไปควงบ้างวะ อึดเรียกพ่อขนาดนี้)... - สังเกตได้ว่าทั้ง 2 ประตูแรกเกิดจาการเข้าทำของ 3 ประสานหน้าเดิม ตอนนี้ที่เราจะปลื้มฟอร์มของเบอร์บี้ที่น่าจะเป็นเป้าหมายในการซื้อตัวของป๋าได้แล้วนะ รวมทั้ง AV ที่ตอนนี้เริ่มได้ IQ. จูนลูก Art ของเบอร์บี้ติด มองทางวิ่งบอลและกล้าสร้างจังหวะชิงความได้เปรียบในลู่วิ่งให้เห็นขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีพิษสงลูกเปิดจากกราบ ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขอบคุณศูนย์กลางการเคลื่อนไหวที่เป็นแรงบันดาลทั้งหมดคือ รูนี่ย์ ...เห็นได้เลยว่าน่าจะเป็นลูกซ้อมเข้าทำ เพราะขอแค่รู้ว่าใครจะวิ่งไปทางขวา เบอร์บี้ก็สามารถเปิดหรือหาช่องแทงไปให้โดยไม่ต้องเสียเวลาคิด ...และเพราะรู้ว่ามีตัวที่สอดหาจังหวะเข้าม้าระดับเซียนขาขึ้นอย่างรูน AV เลยเปิดไปแบบไม่ต้องมองเป้าด้วยซ้ำ เอาแค่น้ำหนักอย่างที่ซ้อมก็จะรู้ว่าเดี๋ยวรูนก็หาทางสอดหรือเบียดมาจบสกอร์เอง... ตรงนี้อยากให้ลองสังเกตดูว่าเป็น Pattern ที่เรียกได้ว่าระบบตายตัว แต่ผู้เล่นไม่ตายใจ ...เพราะข้าเจ้าคิดว่าต่อให้เป็นนานี่มาเล่น ก็จะได้ผลเหมือนกัน แสดงว่าตอนนี้เรามีผู้เล่นที่เข้าๆ ออกๆ กับ Tactics นี้ แล้ว (ในตำแหน่งของเบอร์บี้เราจะได้เห็นคาริคหรือเฟรทมาทำทางทำชิ่งทะลุสลับหน้ากันแทน)... - ทีนี้ก็มาถึงจุดอ่อนการเข้าทำในระบบนี้... ข้าเจ้ามองว่ามันต้องมี 2 แถวซ้อนกรณีไปไม่ได้ หรือโดนปัดออกมา ...ตรงนี้แหละที่เรายังไม่สามารถหาตัวคุมจังหวะหรือรู้เซนส์บอลได้เท่า "สโคลซี่" เห็นว่าเกมนี้น่าจะเป็นแอนนี่มากกว่ากิ๊บโบ้ ...แต่ก็ดันมาแป๊กตั้งแต่ต้นเกมเสียก่อน เลยไม่ได้เห็น กลายเป็นภาระทั้งเกมต้องไปตกกับสโคลเหมือนเดิม ในขณะที่ Joker อย่างกิ๊บโบ้ก็เอาแต่ "อย่ามายุ่งกับเค้านะ เค้าลงมายิงไกลอย่างเดียวช่วงนี้ อย่างอื่น ไม่ต้องพูดถึง" ...คาดว่าน่าจะเป็นการเริ่มต้นตามคำสั่งป๋าให้ลงมาเอาดีในทางบอลแบบสโคลและการเติมจบสกอร์แถว 2 ... เราต้องรอกันหน่อยนะฮะจนกว่ากิ๊บโบ้จะซึมซับสโคลได้จนหมด คือ ตอนนี้เห็นแววแถว 2 หมอนี่เริ่มอันตรายมากแล้วนะ เมื่อคืนก็ได้ซีด 2-3 ดอกอยู่ ... - ทีนี้อีกจุดนึงที่ถือว่า "ดาบ 2 คม" เลยก็ว่าได้.... คงไม่ใช่ใครอื่น ...เจ็ทโด้ไป รูนก็มาเสียบแทน ... แทนตำแหน่งอะไรรู้มั้ย ..."Center of The Earth" ไง... มันไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์เราดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเลย มันเป็นมาตั้งแต่ยุค รุด ฟานฯ แล้ว ...น้ำหนักเทไปที่คนเดียวจริงๆ แล้วคิดถึงสภาพไม่มีรูนเพราะเจ็บท้ายฤดูกาลดิฮะ ... สยองขนาดไหน ... มันไม่เหมือนตอนสมัยที่เด่นทั่วทั้งเขตขามยามนี้สมัย 3 แชมป์ ...อันนั้นหน้าก็เด่นคู่ สำรองยังทะลึ่งเด่นเป็นคู่อีก ...ไม่พอ กลางยังทะลึ่งเด่นเป็นคู่ ทั้งรุกด้วยคีโน่ รับด้วยสโคล ...ปีกก็ยังเด่นคู่ทั้งซ้าย-ขวา สมดุลทั้งนั้น ...แต่ ณ เวลานี้ ช่วยกันนึกสภาพทีมคู่ต่อสู้จนตรอกหรือสิ้นคิดวิ่งเข้ามาเหยียบกระดูกฝ่าเท้ารูนให้แตกเหมือนเบคแฮมในสมัยก่อนก่อนไปบอลโลกดิฮะ... โดนทีแทบอยากกลายร่างเป็น 6 อภินิหารย์ Port FC. เลย เพราะเท่าที่ดูในเวลานี้ เบอร์บี้เล่นเป็นรูนไม่ได้ แต่รูนเล่นเป็นเบอร์บี้ได้... AV เล่นสลับกับรูนอย่างที่เจ็ทโด้เคยทำไม่ได้ แต่รูนสามารถถ่างไปเล่นทำชิ่งหรือเลาะปีกแทน AV หรือ นานี่ได้... ยิ่งกลางยิ่งไม่ต้องพูดเลย สโคลสามารถหมุนเป็นแกน เปลี่ยนรุกรับได้ฉันใด รูนก็ทำได้แม้กระทั้งกินรวบซ้ำแถว 2 แต่กลับกัน สโคลไม่สามารถไปแทนหน้าเป้าได้ แถมยังเกิดอาการช้าหรือเข้าช้ายั่วใบตองแก่เล่นๆ ...ตอนนี้เรากลับกลายเป็นทำให้รูนกลายเป็นเป้าเล่นงานมากขึ้นอย่างที่สมัยก่อนทีมเราโดนทีมอื่นเล่นงานโด้ ตอนนี้แค่ทำให้รูนเจ็บ ผีเราอาจจะสิ้นลายไปเลยก็ได้.... ต้องพยายามปั้นตัวสลับหน้าแบบครบเครื่องอีกคนได้แล้วนะฮะ.. - ใช่ ...ข้าเจ้าก็นึกว่า Dyer มันตายไปแล้ว มันไม่น่าไปพยศกับปู่บ๊อบเลย... คิดตอนนี้มันคงสายไปแล้วเพราะปู่แกก็ไปเฝ้าดูเด็กปั้นคนนี้จากมิติที่ 4 แล้ว... - เมื่อคืนข้าเจ้ามองไม่เห็นเลยว่าใครเล่นคู่ Center กับวีดิช ...แม่ม ไม่ได้ทำเอี้ยอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันที่แสดงว่าช่วยแบ่งเบาวิดิชได้เลย หรือว่ามันวีดิชสั่งไว้ว่าเมิงไม่ต้องออกมาทับลายกู คอยซ้อนก็พอ แล้วก็ไม่ต้องวิ่งประคองถอยหลังไปด้วย เดี๋ยวแม่มชนกับน้องเบนให้ขายหน้าอีก ... มันแทบจะไม่ได้แบ่งเบาอะไรเลยกับกองหลัง ข้าเจ้าเข้าใจเลยว่านัดที่แล้วน้องอีฟต้องมาเสียคนเพราะใคร ... เห็นทีป๋าควรได้เวลาคืนตำแหน่งเทพให้แกได้แล้วนะฮะ อย่าเป็นอีกเลย "เป็นผู้เป็นคน" หนะ ... - โอเว่น ... สงสารนะ ยิงได้ก็ดีใจด้วย ก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าตอนนี้ Tactics ไหนตอนนี้ที่เอื้อให้โอเว่นได้ลงเตมเกมและได้ประสิทธิภาพสูงสุด ...วิ่งก็ความมั่นใจไม่เท่ากับตอนที่ยังยิงอาร์เจนติน่าในบอลโลก ประสานงานแดนกลางก็เหลือคน Class ถึงในทีมแค่ไม่กี่คนที่จะผ่านบอลได้อย่างลูกที่ 3 เหลือแต่เรื่องเก๋าก็คือทางบอลกับชิงจังหวะยิงเก๋ามากขึ้น ตอนนี้ข้าเจ้าว่าเราต้องมาภาวนาไม่ให้ใครเจ็บเพิ่ม กับการทะยอยกลับมาเล่นได้ของตัวเจ็บ การแจ้งเกิดเค้นฟอร์มไวๆ ของเด็กที่เราสะสมมาตั้งเยอะ เพื่อที่ว่าจะได้มาทดแทนได้ทันท่วงทีกับเกมที่งวดเข้ามา ป่านนี้ป๋าเราอาจจะมองไปถึง 2 เกมใหญ่ในเดือนหน้าแล้วอย่างรับมิลานกับลิเวอร์ฯ จนตรอกที่ต้องการที่ 4 ให้ได้.... แต่ในขณะเดียวกัน ข้าเจ้าก็มองใน 2 แง่กับทีมคู่แข่งเราเหมือนกัน ทีมเรายุบได้ ... อีก 2 ทีมก็ยุบได้เหมือนกัน ...เสาร์นี้เรามาดูกันว่าเพื่อนร่วมเมืองเราจะตอบคำถามอาการยุบของทีมคู่แข่งเราได้ดีแค่ไหน... จากคุณ : _K_F_C_ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 16:51:17

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณน้าหงบใจ รูปน้องพราว รูปน้องพราว รูปน้องพราว จากคุณ : anurak_jun เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 17:53:08

ความคิดเห็นที่ 30 วิดิชลงมานี่กองหลังเราดูนิ่งมีชาติตระกูลขึ้นเยอะเลยนะครับ จากคุณ : โจผี เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 19:06:19

ความคิดเห็นที่ 31 น้องหมูช่วงนี้โหม่งอย่างเดียวเลย ยูไนเต็ดกลายเป็นบอลโยนไปแล้ว ตรงนี้ทีมชาติไทยน่าจะดูเป็นตัวอย่างน่ะ ตัวไม่สูงใหญ่ แต่ทำไมเขาถึงเปิดแล้วได้โหม่ง แต่ทีมชาติเราเปิดทีไรแทบไม่ได้ลุ้นเลย เพิ่มเติมอีกที เว่นยิงลูกสุดท้าย นี่แสดงถึงประสบการณ์จริง ๆ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 19:23:48 แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 19:22:07 จากคุณ : RadiS เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 19:18:32

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณค่ะ  ดีใจที่เก็นวิดิชลง รูนีย์ก็สุดยอดเลย จากคุณ : No Sleep Tonight เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 19:47:54

ความคิดเห็นที่ 33 เกมนี้ไม่มีอะไรหนักหนาสำหรับทีมเราเลยครับ จากสถิติปีนี้ที่แพ้ส่วนใหญ่เรามักจะแพ้กับทีมที่ เข้าบอลเร็วไล่อัดกลางเราตลอด อย่างที่นึกได้ก็ นัดเจอ ลิเวอร์พูล (นัดนั้นกินยาบ้ามากันทั้งทีม)  นัดเจอฟูแล่ม โดนอัดโดนไล่จนเสียบอลเข้าไปยิง  นัดล่าสุดเอฟเวอร์ตัน โดนบดตลอดจนไม่รอด เนื่องจากกลางของทีมเรา  ต้องยอมรับว่าไม่ค่อยมีพวกเทคนิคดีๆที่โดนล้อมโดนไล่ โดนซ้อนหลายคนจะเอาตัวรอดไปได้หลังจากเสียโรนัลโด้ไป  ต้องมารอลุ้นอวตาร จากนานี่อยู่คนเดียว สำหรับเกมนี้  โซล่าเล่นบอลเน้นสวยงาม ตามรูปของแกเลย  ไม่มีไล่ไม่ีอัดให้เรา ทำเกมได้ยาก  ขนาดว่า สโคลล์  สามารถมีเวลาถ่ายบอลไปมาได้ทั้งๆที่ช้าไปเยอะ ส่วนใหญ่ถ้ามาเล่นแบบทีมเรามักนวด จนได้ประตูตลอด จากตรงนี้การประสานงานของทีมเราทำได้ค่อนข้างดีถ่ายบอลออกซ้าย ขวา เปลี่ยนแกนกัน เพื่อให้แผงหลังของเวสต์แฮมเทกันไป เพื่อเปิดพื้นที่ริมเส้น หลังจากแรกตันๆ ก็เริ่มได้ผล วาเลนเซียสามารถเปิดบอลได้บ่อยครั้ง ที่สำคัญ ผมว่า 2 นัดที่ผ่านมาวาเลนเซียเริ่มปรับตัวหลังจากโดนพลังอวตาร เบียดต้องไป เป็นสำรอง  เริ่มหาแนวทางการเล่นใหม่ๆอย่างเช่นการตัดเข้าในเข้ามายิง การดึง จังหวะเปิดทางให้เปิด หรือ การเปิดที่รวดเร็วมากขึ้นไม่ต้องแต่งมากมาย ซึ่งทำให้วาเลนเซียโดนจับทางยากขึ้น ส่วนกองหน้าต้องยอมรับจริงๆว่ารูนีย์เยี่ยมจริงๆลูกกลับตัวยิง ไดฟ์ชูต แบบซีบาสะ ยังติดตาอยู่เลย เสียดายไปตกบนหลังคาซะงั้น  ไม่อย่างนั้นเป็นประตูสุดสวยเลย ส่วนเบอร์บาตอฟ ถึงจะจ่ายได้ 2 ลูก แต่ผมมองว่าถือว่าเสมอตัว  หลายๆจังหวะ ผมว่าเบอร์บาตอฟเล่นช้าเกินไปในบางจังหวะ  ไม่รู้จะม้วนไปไหน  อย่างในนัด เจอเอฟเวอตัน ก็หลายๆครั้งโดนอัดไปหลายทีอยู่ จะบอกว่าอาร์ทแบบคันโตน่า มันก็ไม่ใช่ คันโตน่า เล่นบอลอาร์ทจริงแต่จะลีลาที่ไม่ช้าหรือหลายจังหวะแบบนี้ สำหรับโอเว่น ดีใจทีกลับมายิงอีก มุมเดียวกับยิง แมนซิตี้เลย อยากให้แกมีโอกาสมากกว่านี้จัง เกมรับไม่มีอะไรพูดถึง  วิดิช ยังแน่นเหมือนเดิม เกมรุกแบบอั้นๆของเวสต์แฮม ผ่านแกยาก  ส่วนเอฟร่าเห็นด้วยอยากให้พักจริง เสริมพลังห่อหมก แกซะหน่อย แต่ ป๋า คงยังไม่ไว้ใน เดอ ลาต กับ เงาะซ้ายเท่าไหร่ นี่ถ้า เทพจับฉ่ายยังอยู่ คงได้พักไปบ้างแล้ว วันอาทิตย์  รอลุ้นกันต่อกับแชมป์แรกของปีนี้ จากคุณ : SRV เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 21:15:29

ความคิดเห็นที่ 34 เพิ่งเข้ามาอ่าน ขอบคุณครับ จากคุณ : นายคิ้วเข้ม เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 21:23:28

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณฮะลุงหงบ ปล. อยากเห็นโอเว่นไปบอลโลกครั้งนี้จัง ^^ จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 22:18:11

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณเจ้าของทู้และเพื่อนๆ เหมือนเดิม เห็นการจัดตัวแล้วแอบขนลุกเหมือนกัน แต่ก็ผ่านมาได้ จากคุณ : ผักทอดยอด เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 22:18:28