ความคิดเห็นที่ 1   กระทู้ดีๆ ไม่มีโหวตไม่ได้ครับ จากคุณ : พัฒน์ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 21:44:06

ความคิดเห็นที่ 2   ข้อเท็จจริงอีกข้อนึงมาเพิ่ม ครับ คือ อิตาลี เป็นทีมที่ประหลาดมาก ในบอลโลกครั้งหลังๆๆๆ 1970 เข้าชิง และแพ้บราซิล ได้รองแชมป์ 1982 เข้าชิง และได้แชมป์ 1994 เข้าชิง และแพ้บราซิล ได้รองแชมป์ 2006 เข้าชิง และได้แชมป์ 12 ปี จะเข้าชิง หนึ่งครั้ง และจะได้แชมป์ครั้งเว้นครั้งที่เข้าชิง หรือ ทุกๆ 24 ปี นั่นเอง และอีกเกร็ดหนึ่งคือ วิคตอริโอ้ ปอซโซ่ เป็นโค้ชเพียงคนเดียว ที่คุมทีมได้แชมป์บอลโลก 2 สมัย ในปี 1934 + 1938 ปล. ผมแฟนเลี่ยนอะ เลยรู้ลึกแค่เลี่ยนเท่านั้น เอามาแบ่งปันครับ จากคุณ : Sitdown เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 21:46:41

ความคิดเห็นที่ 3   ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะ จากคุณ : The Best of Me เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 21:57:49

ความคิดเห็นที่ 4   อีกหนึ่งเรื่องครับ ทีมจากยุโรป ไม่เคยได้แชมป์นอกทวีปยุโรปได้เลย แต่ถ้าอเมริกาใต้จัด ทีมอเมริกาใต้จะได้แชมป์เสมอ บอลโลกที่ผ่านมามีการจัดนอกทวีปยุโรปและอเมริกาใต้เพียงสองครั้ง (ผมนับเม็กซิโกเป็นอเมริกาใต้ได้ไหม) 1994 ที่อเมริกา 2002 ที่เกาหลีกับญี่ปุ่น ทั้งสองครั้ง บราซิลเป็นแชมป์ จากคุณ : กฤตยฎีกา เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 22:00:35

ความคิดเห็นที่ 5   มาช่วยแปะรูปอย่างเดียว... บราซิล ( 1958 , 1962 , 1970 , 1994 , 2002 )                                                                                                       > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 22:04:38

ความคิดเห็นที่ 6   อิตาลี่ ( 1934 , 1938 , 1982 , 2006 )                                                                                                       > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 22:06:33

ความคิดเห็นที่ 7   เยอรมัน ( 1954 , 1974 , 1990 )                                                                                                       > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 22:08:59

ความคิดเห็นที่ 8   อุรุกวัย ( 1930 , 1950 )                                                                                                      >  Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 22:10:26

ความคิดเห็นที่ 9   อาร์เจนติน่า ( 1978 , 1986 )                                                                                                       > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 22:15:32

ความคิดเห็นที่ 10   อังกฤษ ( 1966 )                                                                                                       > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 22:25:22

ความคิดเห็นที่ 11   ฝรั่งเศส ( 1998 )                                                                                                       > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 22:30:57

ความคิดเห็นที่ 12   ข้อเท็จจริงที่คุณอาจประหลาดใจก็คือ อุรุกวัยแม้จะเคยเป็นแชมป์โลกถึงสองสมัย แต่พวกเขากลับ "แพ้" ทุกนัด เมื่อต้องลงแข่งตั้งแต่นัดที่ 5 ในทัวร์นาเมนต์นั้น สองครั้งที่อุรุกวัยได้แชมป์ ทีมอุรุกวัยลงสนามเพียง 4 นัดเท่านั้น (ปี 1930 เล่นรอบแรก 2 นัด รอบรองฯ 1 นัด และรอบชิงฯ 1 นัด ส่วนปี 1950 เล่นรอบแรกนัดเดียว จากนั้นก็เล่นรอบสี่ทีมสุดท้ายอีก 3 นัด) จากนั้นอุรุกวัยเคยได้เล่นเกิน 4 นัด 2 ครั้ง คือปี 1954 กับ 1970 แต่ทั้งสองครั้ง พอแข่งนัดที่ 5 เป็นต้นไปก็แพ้ทั้งหมด (1954 นัดที่ 5 คือชิงที่ 3 แพ้ออสเตรีย ส่วน 1970 นัดที่ 5 คือรอบรองฯ แพ้บราซิล จากนั้นนัดชิงที่สาม แพ้เยอรมันตะวันตก) แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 53 22:40:37 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 22:39:44

ความคิดเห็นที่ 13   น่าสนใจครับ จากคุณ : aum9999 เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 22:42:55

ความคิดเห็นที่ 14   ข้อเท็จจริงที่คุณอาจประหลาดใจ ปีนี้ทีมที่ได้แชมป์ 2010 ไม่ใช่ทีมจาก 7 ประเทศที่เคยได้แชมป์ ทายอนาคตกันเลยทีเดียว ฮาาา จากคุณ : Quezary เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 22:55:46

ความคิดเห็นที่ 15   จำได้ว่าเคยมีสูตรคำนวนทีมที่เป็นแชมป์บอลโลกด้วย แล้วค่อนข้างแม่นซะด้วย ไม่รู้ตอนนี้ยังใช้ได้อยู่หรือเปล่า จากคุณ : อาคิลิส เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 23:18:36

ความคิดเห็นที่ 16   เพิ่มอีกข้อมูล เป็นเรื่องของทีมอื่นๆ แต่มาเกี่ยวข้องกับแชมป์โลกเหมือนกัน ถ้าจำไม่ผิด มีอยู่ 3 ทีม ที่เคยได้เล่นฟุตบอลโลกมากกว่า 1 ครั้ง โดยที่ทุกๆ ครั้งจะได้เจอกับทีมที่ได้แชมป์โลกในครั้งนั้น ก็คือ ทีมตุรกี เปรู และออสเตรเลีย ตุรกี เล่นฟุตบอลโลก 2 ครั้ง คือปี 1954 แพ้เยอรมันตะวันตกในรอบแรก 4-1 ก่อนจะมาเพลย์ออฟอีกครั้ง (สมัยนั้นรอบแรกถ้าทีมอันดับสองสามได้คะแนนเท่ากันจะใช้วิธีเพลย์ออฟไม่มีการนับลูกได้เสีย) ก็แพ้เยอรมันตะวันตกไปอีก 2-7 จากนั้นปี 2002 รอบแรกแพ้บราซิล 1-2 ก่อนจะมาเจอกันอีกครั้งในรอบรองฯ ก็แพ้บราซิลไปอีก 0-1 เปรู เล่นฟุตบอลโลก 4 ครั้ง ครั้งแรกปี 1930 แพ้อุรุกวัยในรอบแรก แพ้ 0-1 จากนั้นปี 1970 แพ้บราซิลในรอบแปดทีม 2-4 ปี 1978 แพ้อาร์เจนติน่าในรอบสอง 0-6 และครั้งล่าสุดปี 1982 เสมออิตาลีในรอบแรก 1-1 ออสเตรเลีย เล่นฟุตบอลโลก 2 ครั้ง ครั้งแรกปี 1974 แพ้เยอรมันตะวันตกในรอบแรก 0-3 ครั้งล่าสุดปี 2006 แพ้อิตาลีในรอบสองไปแบบเจ็บแสบ 0-1 รอลุ้นดูแล้วกันว่าครั้งนี้จะมีโอกาสรักษาสถิตินี้ไว้ได้อีกหรือไม่ (ปล. แก้ไข เพราะทีแรกตกออสเตรเลียไปทีมนึง) (ปล.2 แก้ไขอีกครั้ง พิมพ์ปีที่ตุรกีแพ้บราซิลผิดไป) แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 53 11:23:37 แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 53 00:04:45 แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 53 00:01:28 แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 53 23:20:03 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 23:18:59

ความคิดเห็นที่ 17   เกร็ดที่ชาติอื่นอาจจะไม่ทราบ ทีมไทยไม่เคยไปบอลโลกแม้แต่คำว่าเฉียดก็ไม่ได้เข้าใกล้ แต่ของบพันล้านแล้วบอกจะได้ไปบอลโลกชัวร์ จากคุณ : Doraemyung เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 23:20:15

ความคิดเห็นที่ 18   ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 23:20:15

ความคิดเห็นที่ 19   คห.๑๗ ถูกใจเอาไปสามกีบ  ฟังข่าวเมื่อวานแล้ว เฮ้อ ปลงดังๆหายใจละครับ จากคุณ : เดอะหลอน เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 23:52:59

ความคิดเห็นที่ 20   มีข้อเท็จจริงๆ ที่ต้องประหลาดใจ มีทีมนึงในเอเชีย บอกว่าจะไปบอลโลกครั้งต่อไปๆๆทุกครั้งที่เพิ่งตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกในครั้งนั้นเสมอ ทั้งๆที่ไม่เคยผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกสักครั้ง ทายไม่ถูกล่ะสิ ว่าทีมอะไร? จากคุณ : คนข้างใจ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 23:53:14

ความคิดเห็นที่ 21   อ้อ มีอีกข้อเป็นข้อสังเกต เกี่ยวกับตำแหน่งแชมป์ฟุตบอลโลกของทีมจากอเมริกาใต้ ปรากฎว่าจะมีเยอรมันตะวันตกเป็นทีม "เปลี่ยนขั้ว" มาตลอด ตอนแรกแชมป์โลกจากอเมริกาใต้เป็นอุรุกวัยทั้งสองสมัย ในปี 1930 กับ 1950 โดยไม่มีทีมอเมริกาใต้ทีมอื่นได้แชมป์คั่น แต่หลังจากเยอรมันตะวันตกเป็นแชมป์โลกปี 1954 ขั้วก็พลิกไปที่บราซิล ที่ได้แชมป์โลกสามสมัยในปี 1958 1962 และ 1970 โดยไม่มีทีมอเมริกาใต้ทีมอื่นคั่นเช่นกัน จากนั้นเยอรมันตะวันตกมาได้แชมป์ในปี 1974 ขั้วก็พลิกไปที่อาร์เจนติน่าบ้าง ได้แชมป์ไปสองสมัยในปี 1978 กับ 1986 โดยไม่มีทีมอเมริกาใต้ทีมอื่นคั่นเช่นกัน พอเยอรมันตะวันตกมาได้แชมป์ครั้งที่สามในปี 1990 ขั้วก็พลิกกลับไปที่บราซิลอีกรอบ ได้แชมป์ในปี 1994 และ 2002 โดยไม่มีทีมอเมริกาใต้ทีมอื่นคั่นอีกนั่นแหละ แบบนี้สงสัยทั้งอาร์เจนติน่าและอุรุกวัย (รวมถึงทีมอื่นๆ ในอเมริกาใต้) อาจต้องลุ้นให้เยอรมันเป็นแชมป์โลกอีกซักที เผื่อทีมแชมป์โลกจากอเมริกาใต้จะเปลี่ยนจากบราซิลมาเป็นทีมตัวเองบ้าง จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 00:25:29

ความคิดเห็นที่ 22   จากสถิตินี้ ได้ข้อสรุปออกมาว่า 1.) ถ้าปีไหนเจ้าภาพไม่เคยเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกมาก่อน - ทีมที่มีโอกาสจะเป็นแชมป์ ได้แก่ เจ้าภาพและทีมที่เคยได้แชมป์ ( มีสิทธิ์เท่าๆกันทุกทีม ) 2.) ถ้าปีไหนเจ้าภาพเคยเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกมาก่อน .. - ทีมที่โอกาสจะเป็นแชมป์ ได้แก่ เจ้าภาพ ( 90% ) และทีมที่เคยได้แชมป์ ( 10% ) แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 53 01:04:50 จากคุณ : นักเตะในตำนาน เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 01:02:08

ความคิดเห็นที่ 23   ทีมที่เข้าข่ายจะได้แชมป์ฟุตบอลโลกตามทฤษฎีนั้น จะได้แก่ แอฟริกาใต้ อุรุกวัย บราซิล อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมัน อาร์เจนติน่า และสเปน ( แถม ) - แอฟริการใต้และอุรุกวัย ดูจากศักยภาพของนักเตะแล้ว ไม่น่าจะได้ - จาก #4 จะทำให้ตัด อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน เยอรมันและอิตาลีออกไป - และจาก #4 ก็ยิ่งทำให้ต้องลงความคิดเห็นไปเลยว่า บราซิลจะได้แชมป์ฟุตบอลโลกปีนี้ครับ จากคุณ : นักเตะในตำนาน เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 01:25:25

ความคิดเห็นที่ 24   อีกเรื่องหนึ่งคือ ทีมจากยุโรปที่ได้แชมป์โลกนั้น ล้วนเป็นชาติที่มีลีคลูกหนังของตนเป็นลีคใหญ่ในยุโรปทั้งสิ้น อังกฤษ อิตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศส อีกสองลีคใหญ่ คือสเปน และฮอลแลนด์ที่ยังไม่เคยได้ แล้วก็นับตั้งแต่ปี 1962 เป็นต้นมา ทีมที่ได้แชมป์โลกจะสลับไปมาระหว่างยุโรปและอเมริกาใต้ตลอด 1962 - บราซิล 1966 - อังกฤษ 1970 - บราซิล 1974 - เยอรมัน 1978 - อารเจนตินา 1982 - อิตาลี 1986 - อารเจนตินา 1990 - เยอรมัน 1994 - บราซิล 1998 - ฝรั่งเศส 2002 - บราซิล 2006 - อิตาลี ดังนั้นในปี 2010 ถ้าอิงข้อนี้ แชมป์อาจเป็นของอเมริกาใต้ เมื่อรวมกับข้อที่ว่าทีมจากยุโรปไม่เคยคว้าแชมป์นอกทวีปด้วยแล้วก็เท่ากับเบิ้ลไปเลยสองข้อ แต่ในปี 2014 บอลโลกจัดที่บราซิล โอกาสที่บราซิลจะได้แชมป์นับว่ามีมาก แบบนี้เท่ากับว่าบราซิลมีโอกาสกลายเป็นทีมแรกที่สามารถคว้าแชมป์สองสมัยติดได้ถึงสองครั้งก็ได้ แล้วก็มีอีกข้อ นับตั้งแต่มีบอลโลก ไม่เคยมีครั้งไหนที่ชาติที่ได้แชมป์ มีผจก.ทีมเป็นคนจากชาติอื่น จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 01:33:53

ความคิดเห็นที่ 25   ^ ^ คิดเล่นๆจาก คห24 แสดงว่าถ้าไทยอยากได้แชมป์โลก ต้องใช้โค้ชคนไทยนะ 555 แก้เพราะพิมพ์คห ผิด แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 53 02:09:58 จากคุณ : นายหัวยุ่ง เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 02:09:16

ความคิดเห็นที่ 26   คห.17 ความจริงแล้วทีมชาติไทยเคยเกือบไปฟุตบอลโลกหนึ่งครั้งครับ ปี1930ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการจัดฟุตบอลโลก ทีมชาติไทยถูกเชิญไปแข่งที่อุรุกวัย แต่รัฐบาลไทยบอกปัดไปด้วยเหตุผลที่ว่าไทยกำลังจะเปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชเป็นประชาธิปไตย credit : http://www.nufcth.com จากคุณ : zaleng1 เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 02:56:12

ความคิดเห็นที่ 27   ตุรกี เจอกับบราซิล 2 นัด น่าจะเป็็นปี 2002 ครับ จากคุณ : dezain เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 07:22:17

ความคิดเห็นที่ 28   ^ ขอบคุณครับที่ทักท้วง พิมพ์ผิดไปเองจริงๆ ขนาดแก้สองสามแล้วก็ยังลอดสายตาไปได้อีกแน่ะ ให้มันได้อย่างนี้ซิ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 53 11:26:05 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 11:24:14

ความคิดเห็นที่ 29   ดูบอลโลกทีไร นึกถึง ประเทศไทย ทุกที นึกว่าเมื่อไหร่ มันจะไปบอลจักรวาล เราจะได้ไปบอลโลก จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 16:03:29

ความคิดเห็นที่ 30   โอ๊ววววววว อิตาลีจะเป็นแชมป์ทุก 24 ปี ณ ตอนนี้ก็ต้องหักออกไป 4 ปี ก็เหลืออีก 20 ปีซินะ นี่ชั้นคงตายก่อนแน่แท้กว่าจะเห็นอิตาลีเป็นแชมป์อีกครั้ง จากคุณ : กากีแกมเขียว เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 20:18:00

ความคิดเห็นที่ 31   ฮา คห 17 จากคุณ : HellLight เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 20:25:53

ความคิดเห็นที่ 32   ได้ความรู้จริงๆ จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 20:58:01

ความคิดเห็นที่ 33   ถ้านับอิตาลีจะเป็นแชมป์ทุก ๆ 24 ปี บอลโลกปี 2030 รุ่นลูกนักเตะสมัยแชมป์ปี 2006 เตะกันพอดีอ่ะดิ 555+ จากคุณ : เจ้าหญิงหมาป่า เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 21:32:21

ความคิดเห็นที่ 34   ทีมไทยหวังจะไปบอลโลกทุกครั้งที่ได้ลงคัดเลือก แต่สุดท้ายได้ไปมวยโลกแทนแบบไร้คู่แข่ง จากคุณ : MlCHAEL เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 23:18:02

ความคิดเห็นที่ 35   ข้อเท็จจริงจากแฟน ~คาฟู~ "มาร์กอส เอวัล เจนนิสต้า คาฟู" เป็นนักฟุตบอลที่ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกสามสมัยซ้อนคือ 1994(ลงมาแทนจอร์จินโญ่นาที 21),1998(ตัวจริง),2002(ตัวจริง) ปล.โด้อ้วนยังไม่มีปัญญานะเออเพราะ 1994 ยังเป็นแค่เงาของเบเบโต้ โรมาริโอ้ เปเล่ก็ด้วยครับไม่ได้เล่นนัดชิงปี 1962(ชิลี)   แค่นี้ครับอยากแจม แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 53 00:21:26 จากคุณ : iamhotmale เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 00:17:10

ความคิดเห็นที่ 36   เกร็ดอีกข้อนึง ผู้บริหารสมาคมฟุตบอลและเป็นบอร์ดฟีฟ่าจากประเทศนึงในย่านอาเซียน ได้ลั่นวาจาว่าจะพัฒนาและพาทีมไปเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก แต่ในรายการบอลเอเชี่ยนคัพรอบคัดเลือก ลืมขอวีซ่าให้ลูกทีมเข้าประเทศคู่แข่งขัน จากคุณ : lek2you เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 02:09:33

ความคิดเห็นที่ 37   เป็นข้อมูลที่น่าสนใจดีครับ ผมมีสถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับแชมป์โลก ก่อนและหลังจากอิตาลีได้แชมป์มานำเสนอบ้างครับ ว่าเป็นทีมเดียวกันครับ ซึ่งอาจมีผลในปีนี้ ก็ได้ครับ โดยอิตาลี ได้แชมป์ 4 ครั้ง (ปี 1934 1938 1982 และ 2006) - อิตาลีได้แชมป์ปี 1982 ปรากฎว่า ปี 1978 (ก่อน) และ 1986 (หลัง)  แชมป์โลกคือ อาร์เยนติน่า - ปี 1934 ที่ได้แชมป์ ปรากฎว่า  4 ปี ถัดมา อิตาลีได้แชมป์ด้วย และเป็น ผจก.ทีมคนเดียวกัน  ตามข้อมูลของ # 2  ผมเลยโมเมว่า ทั้ง 2 ครั้งนี้ นับเป็นแชมป์ครั้งเดียว ปรากฎว่า ปี 1930 (ก่อน ) และ 1950 (หลัง) แชมป์โลกคือ อรุกวัย - ล่าสุด ปี 2006 ที่ได้แชมป์ ถ้าเป็นตามที่ว่า แชมป์โลก2010 (หลัง) ก็ควรจะเป็น แชมป์เดียวกับในปี 2002 (ก่อน) ซึ่งก็คือ บราซิล  อิ...อิ..อิ...ซึ่งจะสอดคล้องกับที่ว่า บราซิลชอบไปคว้าแชมป์ในการจัดฟุตบอลโลกนอกยุโรปกับอเมริกาใต้เสมอ  ปี 1970 จัดที่ เม็กซิโก (ครั้งแรกนอกยุโรปกับอเมริกาใต้) :  แชมป์  ปี 1994 จัดที่สหรัฐฯ  :  แชมป์  ปี 2002 จัดที่เกาหลีใต้กับญี่ปุ่น :  แชมป์  ปี 2010  จัดที่ แอฟริกาใต้   ?                      **************** แล้วมีสถิติที่น่าประหลาดอีกเรื่องหนึ่งครับ นั่นคือ ถ้า 2 ทีมใด จากรอบแรก  มาพบกันเป็นนัดที่ 2 ในรอบรอง ทีมที่ชนะในรอบรองนั้น จะเป็นแชมป์โลกครับ ปี 1982 รอบแรกอิตาลีเสมอกับโปแลนด์ 1-1 รอบรอง อิตาลีชนะ 2-0 ผลสุดท้ายอิตาลีแชมป์ ปี 1994  รอบแรกบราซิลเสมอสวีเดน 1-1 รอบรองบราซิลชนะ 1-0 ผล บราซิลแชมป์ ปี 2002  รอบแรกบราซิลชนะตุรกี 2-1  รอบรองบราซิลชนะ 1-0 ผลบราซิลแชมป์ สำหรับในปี 1954 ฮังการี  กับเยอรมัน ไม่นับนะครับ  เพราะทั้งคู่เจอกันในรอบแรก แล้วมาเจอกันอีกครั้งในรอบชิงเลย ไม่เข้าเคสที่ว่าครับ                        *********** ยิ่งค้นๆ ไปแล้วเจออะไรสนุกๆ อีกครับ ไม่น่าเชื่อนะครับว่า ตุรกีในปี 2002 จะเล่นฟุตบอลโลกทั้งทัวร์นาเม้นต์  7 นัด โดยไม่เจอทีมจากยุโรปเลย  ทั้งที่ทีมจากยุโรปก็มากถึง 13 ทีม ลองดูกัน - รอบแรกเตะกับ บราซิล คอสตาริกา และจีน            - รอบ 16 ทีม เตะกับญี่ปุ่น            - รอบ 8 ทีม เตะกับ เซเนกัล            - รอบรอง เตะกับบราซิล            - ชิงที่ 3 เตะกับ เกาหลีใต้ เอาเป็นว่า พอก่อนครับ มี อะไรที่น่าสนุกๆ จะมาเล่าอีกครับ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 53 10:58:52 จากคุณ : อาร์คีมิดิส เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 08:31:34

ความคิดเห็นที่ 38   เหรออออออ จากคุณ : WiseChocolate เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 10:52:32

ความคิดเห็นที่ 39   นี่คือความบังเอิญอีกอย่างของฟุตบอลโลกที่ผ่านมาแล้ว จากคำทำนายของมหาปิระมิด ถ้าให้ อังกฤษ และ ฝรั่งเศส คือทีมเจ้าภาพจากยุโรปที่ได้แชมป์โลกในบ้านเหมือนกัน                                                                    1962 - บราซิล                                                       1966 - อังกฤษ                                            1970 - บราซิล                                 1974 - เยอรมัน                         1978 - อารเจนตินา              1982 - อิตาลี                         1986 - อารเจนตินา                                 1990 - เยอรมัน                                            1994 - บราซิล                                                         1998 - ฝรั่งเศส                                                                      2002 - บราซิล แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 53 16:06:22 จากคุณ : chai7072 เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 16:04:55

ความคิดเห็นที่ 40   แจม ๆ ทีมที่ได้แชมป์ยุโรป (UEFA European Football Championship) "มักจะ" ไม่ได้แชมป์โลกในอีก 2 ปีถัดมา แต่...มียกเว้นอยู่ครั้งเดียว คือเยอรมันตะวันตก (ในสมัยนั้น) เมื่อปี 1972 โดย Belgium เป็นเจ้าภาพ เยอรมันตต. ได้แชมป์ยุโรปไป และอีก 2 ปีถัดมา ในปี 1974 เยอรมันเป็นเจ้าภาพจัดบอลโลก และได้แชมป์โลกไปในครั้งนั้น ปล. ผมไม่ได้เจิมทีมชาติสเปนนะครับ จากคุณ : PEDestrain เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 16:27:41

ความคิดเห็นที่ 41   ข้่อเท็จจริงอีกข้อหนึ่งคือ ### สถิติมีไว้ทำลาย ### จากคุณ : SunshineParadise เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 18:10:33

ความคิดเห็นที่ 42   ข้อเท็จจริง ที่อาจจะทำให้บราซิลไม่ได้แชมป์ก็คือ "ยังไม่มีชาติใดที่ได้ป้องกันแชมป์โลกในบ้านตัวเอง" มีที่ใกล้เคียงที่สุดก็คงเป็นเยอรมัน ที่ได้รองแชมป์เมื่อปี 2002 ก่อนจะได้เป็นเจ้าภาพในสี่ปีต่อมา จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 19:04:38

ความคิดเห็นที่ 43   จัดที่ยุโรป ทีมจากอเมริกาใต้ไม่เคยได้แชมป์เลยสักครั้ง แต่ถ้า 2010 เซอร์ไพร์ส แชมป์อาจเป็นของเจ้าภาพก้ได้ครับ จากคุณ : Enchize เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 19:08:54

ความคิดเห็นที่ 44   โอ้ววว  อุ่นเครื่องก่อนบอลโลกจะมาถึง บราซิล ..ไม่เคยได้แชมป์ในยุโรปเลยอ่ะ จากคุณ : MaCkaTaM เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 20:14:58

ความคิดเห็นที่ 45   #43 บราซิลได้แชมป์โลกที่ยุโรป ในประเทศสวีเดน ปี 1958 โดยเอาชนะสวีเดนที่เป็นเจ้าภาพไปได้ครับ เป็นแชมป์ครั้งแรกของบราซิล จากคุณ : กฤตยฎีกา เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 22:01:45

ความคิดเห็นที่ 46   ความคิดเห็นที่ 44   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   โอ้ววว  อุ่นเครื่องก่อนบอลโลกจะมาถึง บราซิล ..ไม่เคยได้แชมป์ในยุโรปเลยอ่ะ จากคุณ : MaCkaTaM เคยได้เมื่อปี 1958 ครับ จัดที่ Sweden เป็นที่แจ้งเกิดของเปเล่ บราซิลได้แชมป์มาครบทุกทวีปที่จัดแล้ว ยุโรป อเมริกาใต้ อเมริกากลาง (ไม่รู้จะนับเม็กซิโกเป็นเหนือหรือใต้) อเมริกาเหนือ เอเซีย คาดว่าจัดที่ Africa ครั้งแรก บราซิลก็น่าจะเจิมอีก เหมือนคราวที่จัดที่เอเซีย ;) จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 22:17:02

ความคิดเห็นที่ 47   เพิ่มๆ ทีมใดโดนเปเล่เจิม ก็.... ตัวใครตัวมันครับ งานนี้ จากคุณ : +Carbocat+ เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 23:26:12

ความคิดเห็นที่ 48   เข้ามาเชียร์ อาเจน ครับ จากคุณ : Hernf@ เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 53 08:50:34

ความคิดเห็นที่ 49   โอ้ว ขอบคุณ #45 มากครับ ผมเพิ่งรู้นะครับเนี่ย  เข้าใจผิดมาตั้งนาน จากคุณ : Enchize เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 53 12:19:39

ความคิดเห็นที่ 50   อาจยังไม่มีใครทราบข้อเท็จจริงที่คุณอาจประหลาดใจคือ ทีมที่ได้แชมป์จะต้องเป็นทีมที่ชนะในนัดชิง และ พวกเค้าจะไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณการสื่อสารแห่งประเทศไทยเสมอ จากคุณ : จานเหลือง (Santa_Baby) เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 53 14:43:33

ความคิดเห็นที่ 51   #48 เบอร์ 8 นั่นมันเทพนิหว่า จากคุณ : Santa_Baby เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 53 14:44:18

ความคิดเห็นที่ 52   อีกข้อนึงครับ บราซิล อาเจน และ ทีมจากอเมริกาใต้ทุกทีม ไม่เคยเป็นแชมป์ยุโรปมาก่อน จากคุณ : Santa_Baby เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 53 14:46:13

ความคิดเห็นที่ 53   คห.26 ใช่แน่เหรอครับ บอลโลกหนแรกมันปี1930 ตอนนั้นยังไม่ปฏิวัติเลย ผมว่ารัชกาลที่7กับเจ้าของไทยในสมัยนั้นคงไม่มีใครคิดว่าอีก2ปีตัวเองจะโดนปฏิวัิติเลยไม่ส่งทีมไทยไปบอลโลกหรอก ถ้าเป็นจริงอย่างที่คุณว่าผมว่าเค้าคงเชิญเราปี1934มากกว่ามั้ง ซึ่งปีนั้นการเมืองวุ่นวาย เพิ่งเปลี่ยนแปลงการปกครองมาได้2ปี พระยามโนโดนปฏิวัติ ตามด้วยกบฏบวรเดชมาได้1ปี และปีนั้นรัชกาลที่7สละราชสมบัติ พันเอกหลวงพิบูลสงครามถูกยิง น่าจะเป็นไปได้มากกว่านะครับ เราเลยปฏิเสธที่จะไปแข่ง หรือไม่งั้นก็ปี1938ก็เป็นไปได้ เพราะการเมืองช่วงนั้นก็ยังวุ่นวายอยู่ดี อีกอย่างสมัยนั้นไทยน่าจะติดต่อกับฝรั่งเศสมากกว่าอิตาลีนะครับ สงครามอินโดจีนก็ยังไม่เกิด ปี1938เป็นปีที่ทีมชาติอินโดนีเซียไปแข่งบอลโลก ในชื่อทีมDutch East India จากคุณ : Mafiya เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 53 20:50:45

ความคิดเห็นที่ 54   จาก คห 24 ทำให้อยากรู้ว่าชาติไหนบ้างครับที่ไม่เคยมีโค้ชหรือผู้จัดการทีมเป็นคนต่างชาติ (เท่าที่ทราบอังกฤษเพิ่งโดนเปิดไปไม่กี่ปี ส่วนชาติใหญ่ๆ -มหาอำนาจฟุตบอล- อย่างฮอลแลน กับ สเปนก็เคยมีชาวต่างชาติเป็นโค้ชมาแล้ว) แชมป์โลกอย่างเยอรมันไม่เคยไม่ผ่านรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกเช่นเดียวกับบราชิลครับ ส่วนปี 1930 ที่ไม่แข่งเพราะไม่ส่งทีม 1950 ไม่แข่งเพราะโดนแบน ถ้าคิดในเชิงสถิติ เป็นเปอร์เซ็นแล้วผลงานเข้าชิงเป็นเปอร์เซ็นมากกว่าบราชิล(โดยเข้าชิงเท่ากันแต่เข้าร่วมน้อยกว่า2ครั้ง) ^^ ขออวยหน่อยพอดีเป็นแฟนอินทรีเหล็ก จริงๆแล้วในสายตาคนอื่นๆ ชาติไหนเป็นอันดับ2เรื่องฟุตบอลครับ (ที่1คงเป็นบราชิล ส่วนที่2 เยอรมันกับอิตาลีนี่ให้ใครครับ เยอรมันแชมป์ยุโรปมากกว่า ส่วนอิตาลีแชมป์โลกมากว่าแต่เก่าแล้ว 1934 1938 นู่น) จากคุณ : เอฟเฟ่ห้าวหัวเสือไม่เคยกลัวใคร เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 53 21:44:29

ความคิดเห็นที่ 55   ^ ^ ^ คุณ Mafiya อุรุกวัย เจ้าภาพฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1930 ส่งจดหมายเชิญชาติที่เป็นสมาชิกของฟีฟ่าในเวลานั้น ให้เข้าร่วมฟุตบอลโลกหนแรกครับ สมาคมฟุตบอลสยามซึ่งเป็นสมาชิกของฟีฟ่าแล้ว ก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมแข่งขันด้วย แต่ทางเจ้าพระยารามราฆพ ( เฟื้อ พึ่งบุญ ) ซึ่งเป็นนายกสมาคมฟุตบอลในเวลานั้น เห็นว่าการเดินทางไปอุรุกวัยในเวลานั้นต้องใช้เวลานานหลายเดือน บวกกับต้องใช้เงินคลังหลวงเป็นค่าเตรียมทีม และค่าเดินทางเป็นจำนวนมากมาย จึงได้ตอบปฏิเสธคำเชิญของทางอุรุกวัย และทางฟีฟ่าไปครับ หากว่าพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ไม่ได้ทรงเสด็จสวรรคตไปเสียก่อนในปีค.ศ 1925 แล้ว เราอาจจะได้เห็นทีมชาติสยามได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกไปแล้วก็ได้ เพราะพระองค์ทรงเป็นพระบิดาของฟุตบอลในประเทศสยาม และ สนับสนุนกิจการฟุตบอลที่พระองค์ทรงโปรดปรานอย่างเต็มที่ เสมอมา....                                                                                                   > Shine on you crazy diamond < แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 53 21:47:58 จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 53 21:47:15

ความคิดเห็นที่ 56   อีกอย่างครับ " ไทยไม่เคยไปบอลโลก "           จากคุณ : thong765 เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 53 09:18:54

ความคิดเห็นที่ 57   #39 ผมจำได้เลย ทฤษฎีปิระมิดอันนี้ ทำให้ตอนนั้นแฟนอังกฤษ เชื่อกันอย่างใหญ่โตว่า ตัวเองจะได้แชมป์โลกปี 98 แน่ ๆ จากคุณ : AW Milan เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 53 09:29:09

ความคิดเห็นที่ 58   สเปน ไม่เคยได้แชมป์โลก .. แปลกมั้ย (ผมแฟนสเปน) จากคุณ : แตงโมสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 53 10:53:41

ความคิดเห็นที่ 59   สเปนคืนทีมเดียวที่ถูกจัด อยู่อันดับ 1 ของโลกในฟีฟ่า แต่ไม่เคยได้แชมป์โลกมาก่อน (หวังว่าปีนี้คงได้นะ) จากคุณ : Espana Vamos! เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 53 19:51:39

ความคิดเห็นที่ 60   บอลโลกในรอบ 3 ครั้งหลังสุด บราซิลอยู่กลุ่มเดียวกับทีมในทวีปเอเชียทุกครั้ง 2002 บราซิล ตุรกี คอสตาริกา จีน 2006 บราซิล ออสเตรเลีย โครเอเชีย ญี่ปุ่น 2010 บราซิล ไอวอรี่โคสต์ โปรตุเกส เกาหลีเหนือ จากคุณ : Gunner06 เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 53 23:29:37

ความคิดเห็นที่ 61   มีคนกล่าวไว้ว่า ปี 1966 คือปีอันยิ่งใหญ่ของฟุตบอลอังกฤษ นั่นเพราะมันคือ................ ปีที่ เอริค คันโตน่า เกิด อิอิอิ จากคุณ : Eric "the King" Cantona (Mr.Crimson) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 09:54:20

ความคิดเห็นที่ 62   ทีมที่สุดยอด เก่งสุดในยุคนั้น แถมมีตำนานนักเตะเทวดาอยู่ในทีม กลับโชคร้าย เพราะดันเข้าชิง สองครั้งสองครา กับเจ้าภาพที่จัดการ แข่งขัน น่าเสียดาย แทน ฮอลแลนด์ อัศวินสีส้ม จากคุณ : ดาราเดช เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 10:15:00

ความคิดเห็นที่ 63   ถ้าจำไม่ผิด ฮอลแลนด์ ก็ไม่เคยได้แชมป์บอลโลกครับ ปีนี้ เชียร์ สเปน เยอรมัน ครับ ^_^ จากคุณ : Bearlandia เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 15:29:00

ความคิดเห็นที่ 64   จาก คห ที่ 62 ปี 1978 ที่อาเจนติน่า นักเตะเทวดาที่ว่าคือ โยฮัน ครัฟฟ์ ไม่ยอมไปเตะให้กับทีมฮอลแลนด์ โดยให้เหตุผลว่า ไม่ชอบการปกครอง ของอาเจนติน่า ณ เวลานั้น แต่  ฮอลแลนด์ก็ได้เข้าชิงและไปแพ้อาเจนติน่า ทำให้น่าคิดว่า ถ้า ฮอลแลนด์ มี โยฮัน ครัฟฟ์ ตอนนั้น อาจจะเป็นแชมป์โลก ไปแล้วก็ได้ จากคุณ : ElMinZeed เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 15:33:14