ความคิดเห็นที่ 1   เจ้าบ้านวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ วันนี้เปิดสนามโมลินิวซ์ กราวนด์ ต้อนรับผู้มาเยือน ด้วยทัพนักเตะที่เอ่อ...ผมไม่ค่อยคุ้นหูกระดิกหูเท่าไหร่นัก และคาดว่าผู้อ่านหลายๆท่านก็เช่นกัน เกมนี้ มิค แม็คคาร์ธี่ย์ แก้ตัวจากเกมเยือนโรงละครเกมก่อนที่ส่งชุดสำรองลงมาพ่าย แถมถูกเอฟ เอ ปรับซะหูตูบ ด้วยการส่งผู้เล่นชุดที่น่าจะใหญ่ที่สุดลงมาสู้แชมป์เก่า ผู้รักษาประตูเป็นมาร์คัส ฮาห์นีมันน์ แผงหลังสี่คนประกอบไปด้วย โรนัลด์ ซูบาร์, โจดี้ แคร็ดด็อก, คริสตอฟ เบอร์ร่า และ สตีเฟ่น วอร์ด แผงกลางวันนี้เอ็ม แอนด์ เอ็ม อัดมาห้าคน ได้แก่ เควิน โฟลีย์, เกดิโอร่า, คาร์ล เฮนรี่, เดวิด โจนส์ และ แม็ทธิว จาร์วิส โดยวาง เควิน ดอยล์ เป็นหน้าเป้าคนเดียว ส่วนทางฝั่งแชมป์เก่าผู้มาเยือน ป๋าบอกตอนนี้ป๋าไม่สนหน้าเสื่อ ป๋าไม่สนราคา ป๋าไม่สนหน้าตาตัวเอง ป๋าเลือกที่จะจัดทัพที่ก้ำกึ่งสักหน่อย โดยพักผู้เล่นชุดใหญ่สำคัญบางคนเอาไว้ เพื่อเก็บความสดไว้ใช้ในระยะยาวช่วงชี้เป็นชี้ตายที่เหลือ เช่น ปาร์ค ชี ซอง, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, นอกจากนี้ ยังมีรูนี่ย์ที่อาการไม่ค่อยดีจากการเล่นเวมบลีย์ต่อเนื่องตามที่บอกไป ส่วนกิ๊กส์ยังไม่หายจากอาการแขนหัก โอเว่นก็ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่นไปเป็นที่เรียบร้อยจากอาการเอ็นหลังหัวเข่า ทำให้นัดนี้หน้าตาทัพออกมาดังนี้ครับ เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ ยังคงเฝ้าเสา แผงหลังได้ เวสลี่ย์ บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช และ ปาทริซ เอวร่า มิดฟิลด์สามคนตรงกลางเลือก พอล สโคลส์, ไมเคิล คารริค และ ดาร์รอน กิ๊บสัน มีตัวริมเส้นสองคนเป็นนานี่ทางฝั่งซ้าย และวาเลนเซียฝั่งตรงข้าม หอกเป้าวางดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟไว้ลำพัง จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 10:49:56

ความคิดเห็นที่ 2   เริ่มเกม ก็เป็นอย่างที่หลายๆคนได้เห็นเรื่องจริงผ่านจอไปครับ รูปเกมแชมป์เก่านี่หมดราคาทีมที่เคยบุกไปเอาชนะมิลานถึงซาน ซิโร่เลยครับพับผ่า เกมนี้นอกจากว่าวูล์ฟจะทำการบ้านมาเป็นอย่างดีแล้ว ก็ต้องขอชมเชยหัวจิตหัวใจนักสู้ของเจ้าบ้านด้วยว่า ทำได้ดีมากจริงๆ มิค แม็คคาร์ธี่ย์วางเกมแพลนเกมนี้มาได้ดีมากๆ ผู้เล่นทุกคนวิ่งไล่เพรสซิ่งเร็วบดบี้การทำเกมของแชมป์เก่าได้อย่างถึงพริกถึงขิงทุกๆลูก การเข้าหาบอลก็ทำได้ดีกว่า เร็วกว่า ในขณะที่จังหวะห้าสิบ-ห้าสิบก็ไม่ลังเลที่จะพุ่งเข้าหาเข้าแย่งบอล แตกต่างกับเกมของแชมป์เก่าอย่างสิ้นเชิง ที่ดูจะรุกก็ไม่เต็มสูบนัก เบอร์บาตอฟต้องออกอาการหัวเสียทุกครั้งที่เห็นตัวเองวิ่งไล่บอลข้างหน้าอยู่คนเดียว หรือไม่มีใครเติมมาช่วยเวลาได้บอลในแดนหน้า หากจะบอกอย่างไม่อายว่า ลูกทีมของป๋าเกิดอาการมองข้ามช็อตก็คงไม่ผิดนัก เมื่อในอีกไม่กี่วันข้างหน้าก็ต้องเปิดโรงละครแห่งความฝันต้อนรับเอซี มิลานในศึกยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อคเอาท์เลกที่สองนั่นเองครับ ตรงนี้ผมมองว่ามันได้ขโมยสมาธิและความมุ่งมั่น ความกระหายไปจากนักเตะทีมแชมป์เก่าไปพอสมควร ทำให้เกมนี้นักเตะอสูรแดงแต่ละคนออกอาการแทงกั๊กคนละนิดคนละหน่อย บอลห้าสิบ-ห้าสิบก็ลังเลที่จะพุ่งเข้าแย่งเข้าปั๊มกับคู่ต่อสู้ อาการวิ่งไล่บอล อาการทุ่มเท ความหื่นกระหายในการเล่นดูจะหายไปซะหมด ยิ่งเกมนี้ไม่มีตัวจุดแพสชั่นตัวพ่ออย่างเวย์น รูนี่ย์ลงมาด้วยแล้ว ยิ่งเหมือนผมกำลังดูละครใบ้ไม่มีผิดเพี้ยน ถ้าไม่นับว่ามีช็อตที่เบิร์บโหวกเหวกโวยวายบ่อยๆด่าเพื่อนๆที่ไม่ค่อยช่วย ไม่ค่อยเติมด้วย คงทำให้กลายเป็นละครใบ้เต็มรูปแบบไปเลยแน่ๆครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 10:50:21

ความคิดเห็นที่ 3   การทำเกมของแชมป์เก่าที่แผงมิดฟิลด์เคยเป็นหน้าเป็นตาของทีม เป็นแกนหลักของทีมอย่างเป็นประจำนั้น เกมนี้กลับกลายเป็นคล้ายๆบ่อให้อีกฝ่ายได้ใช้พื้นที่เดินเกม โดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรก แผงกองกลางเจ้าบ้านใช้ลูกขยัน ลูกหนักเข้าบดบี้ ไล่บอลเร็วทุกพื้นที่เสียจนกองกลางแชมป์เก่าทำอะไรไม่ถนัด บวกกับลูกวางยาวขึ้นหน้าและแทงออกปีกให้เควิน ดอยล์ และตัวริมเส้นที่เร็วและคล่องพาบอลตะลุยเข้าไปในแดนของแชมป์เก่าแต่ละครั้งเล่นเอาผมหัวใจจะวายให้ได้ แม็ทธิว จาร์วิส คือตัวตะลุยทางกราบซ้ายหรืออีกมุมหนึ่งคือทางแบ๊กขวาของเราที่เป็นเวสลี่ย์ บราวน์นั่นเอง บราวน์กลายเป็นเจองานหนักที่ทั้งจาร์วิส และดอยล์ร่วมกันประสานงานเล่นงานทางด้านนี้จนอ่วม ริโอต้องวิ่งถ่างมาซ้อน รวมทั้งวาเลนเซียเองก็ต้อยถอยร่นลงมาปักหลักช่วยแทบตลอด เกมแบบนี้ในครึ่งแรกทำเอาเราปั่นป่วนไปไม่น้อย และป๋าเองก็ต้องออกมาเล่นงิ้วโวยวายกันหลายยก ดาร์รอน กิ๊บสันน่าจะเป็นเป้าใหญ่หน่อย ที่ครองบอลในแดนกลางไม่ค่อยได้ แถมยังประสานงานในจังหวะชี้เป็นชี้ตายไม่ได้ดีนัก ทำให้สโคลส์กับคาร์ริคต้องคอยประคองช่วยแทบตลอดจนเกมตรงกลางเราถูกความสดและคึกของวูลฟ์กลืนหายไปซะหมดในครึ่งแรก โดยที่กิ๊บสันเองจะทำได้ดีก็ในจังหวะที่ไม่มีใครมากดดันให้คายเร็ว จังหวะที่มีพื้นที่มีเวลากิ๊บสันก็สามารถดึงจังหวะ ดูทางบอล ออกบอลสวยๆได้ตลอด เพียงแต่ในเกมแข่งขันจริงในลีกระดับพรีเมียร์ลีกแบบนี้ การจะหวังให้มีพื้นที่มีเวลาเพื่อทำเกมง่ายๆแบบนั้น มันยากครับ และนักเตะที่จะก้าวขึ้นไปในระดับตัวจริงของทีมลุ้นแชมป์ในลีกนี้ มันต้องรับมือแรงกดดันตรงนี้ได้ดี กิ๊บสันเองก็เพิ่งขึ้นชั้นจากชุดเยาวชนมาสู่ทีมสำรอง ก่อนจะเลื่อนขั้นมาชุดใหญ่แค่ไม่นานนี้เอง ตรงนี้กิ๊บสันจึงยังต้องพัฒนาอีกมาก เพื่อทะลุข้ามกำแพงอันนี้ไปให้ได้เหมือนที่สโคลส์, บัตต์ และเฟล็ทเชอร์เคยทำให้ดูมาแล้ว ไม่งั้นก็คงเป็นเหมือนเวรอน ที่ไม่สามารถก้าวผ่านกำแพงความเร็วและหนักของลีกนี้ได้ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 10:50:37

ความคิดเห็นที่ 4   เมื่อรูนี่ย์ไม่ได้ลงสนาม วาเลนเซียไม่สามารถเซ็ตเกมรุกได้ถนัดเพราะจาร์วิสกดอยู่ตลอดทางด้านขวา ส่วนทางซ้ายก็มีโฟลี่ย์ช่วยทำเกมที่ทำให้นานี่เสียฟาล์วตัดเกมหลายต่อหลายครั้งช่วยเอวร่า ดอยล์เองก็พล่านซ้ายทีขวาที เราจึงเห็นการสับสนุนกองหน้าของเราในเกมนี้น้อยมากๆ ทำให้เบิร์บไม่สามารถเล่นได้ด้วยตัวคนเดียวถนัดนัก ความเร็วก็ไม่จัดพอจะฉีกแผงหลังวูล์ฟให้ขาดเป็นริ้วๆได้ ความแข็งแกร่งก็ไม่มากพอจะเบียดกระแทกกองหลังเพื่อฝ่าวงล้อมออกไปได้ อีกทั้งตัวช่วยตัวเติมก็ไม่ค่อยมาตามนัดสักเท่าไหร่ ทำให้งานในแดนหน้าอึดอัดมากเป็นพิเศษ กลับกัน จังหวะบุกของวูลฟ์กลับทำเอาผมใจหายใจคว่ำได้ตลอดทุกครั้ง การได้ยิงของดอยล์ หรือจาร์วิส แต่ละครั้ง ทำเอาผวา ดีที่น้าซาร์เองก็ยังเด็ดขาด ป้องกันเอาไว้ได้หมด ป๋าเริ่มปรับเล็กๆที่น่าจะเป็นการดูแนวทางให้ครึ่งหลังได้แก้เกมจริงจังนั่นคือการให้มิดฟิลด์ขยับทำเกมสูงขึ้นมาอีกหน่อย เพื่อช่วยประสานงานกับเบิร์บไม่ให้มันอยู่ห่างกันเกินไป ซึ่งก็เริ่มช่วยได้ดีขึ้น เมื่อสามารถบีบให้ผู้เล่นวูลฟ์ถอยเกมตัวเองลงไปได้บ้าง และกดดันแบ๊กเราน้อยลง กิ๊บสัน, คาร์ริค และสโคลส์ เริ่มที่จะรู้ตำแหน่งกันและกันมากขึ้น ตรงนี้สำคัญครับ เมื่อกิ๊บสันเริ่มปรับจังหวะเกมได้ และยืนขยับสูงขึ้นไปอีก ก็ช่วยลดระยะห่างระหว่างหลังบ้านได้มาก ทำให้สโคลส์และคาร์ริค สามารถประคองแก้ไขข้อผิดพลาดได้ง่ายขึ้น แต่ข้อเสียมันก็มี คือเวลาถูกทิ้งบอลยาวข้ามกลางสนามมา งานก็เข้ากองหลังเต็มๆ กับมิดฟิลด์ที่ต้องกวดตามมาแบบใส่เกียร์สุนัข แต่ยังดีที่วูลฟ์เองก็ไม่สามารถฉวยอะไรได้จากจังหวะลักษณะนี้ แต่ยูไนเต็ดแชมป์เก่า กลับมีโอกาสจบสกอร์ได้มากขึ้น โดยเฉพาะจากแถวสอง แต่การที่ป๋าออกงิ้วบ่อยๆนี่มันสื่อถึงการที่มือขวาของป๋าทำงานไม่ได้ดั่งใจหรือเปล่า ทำไมไม่ออกมาเต้นเองเหมือนเคยรอซ เหมือนคิดด์ ทำไมต้องเดือดร้อนป๋ามาเต้นเองทำไมเนี่ย (อย่าโกรธเค้านะ ลูกโป่งฟีแลน) จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 10:50:53

ความคิดเห็นที่ 5   ครึ่งหลัง ผลจากการถูกจาร์วิสและดอยล์กดดันจนต้องสับกงล้อตลอดเวลาก็ทำให้น้องน้ำตาลเจ็บ ข่าวออกมาว่าเป็นอาการเจ็บที่หัวเข่า ป๋าจึงต้องปรับด้วยการส่งแกรี่ เนวิลล์ลงมาแทน ผมเห็นปุ๊บก็...เฮ่ย ไงเนี่ย บราวน์สดๆกว่ายังเอาไม่ค่อยอยู่ แล้วเฮียเต๊ะจะไหวไหมเนี่ย ผมชักเห็นเค้าลางหายนะตั้งเค้าทะมึนมาแต่ไกล กับภาพที่จาร์วิสฉีกแกรี่กระจุยเป็นชิ้นๆในห้วงมโนภาพตัวเอง แต่การณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้นทั้งหมด รูปเกมที่ปลายครึ่งแรกเริ่มเห็นว่าได้ผล ครึ่งหลังป๋าส่งแพทช์แก้บั๊กลงมาชุดใหญ่ทีเดียวครับ เมื่อรู้ว่าสปีดและความสดแกรี่เอาจาร์วิสไม่อยู่แน่ๆ ก็ไม่ต้องเล่นมันแล้วเกมรับ ว่าแล้วเราจึงเห็นแกรี่ รับภาระเกมรับน้อยกว่าที่บราวน์ทำ แต่กลับเน้นไปที่เกมรุกริมเส้นเพื่อเติมช่วยวาเลนเซียมากขึ้น ซึ่งเป็นงานถนัดของเฮียแกมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วด้วย จึงไม่ขัดเขินนักที่จะลุยขึ้นหน้า ส่วนทางหลังบ้าน ป๋าถ่างริโอออกมาคุมพื้นที่ด้านหลังแกรี่อีกแรง โดยมีมิดฟิลด์ที่เหลือจากการเติมเกมสูงห้อยต่ำประคองแนวกลางสนามไว้คนหนึ่งตลอด ส่วนอีกสองคนก็เติมเข้าไป ข้างหน้ามีเท่าไหร่เติมให้หมด ส่วนทางซ้ายเอวร่าถูกลดบทบาทในเกมรุกลงมาหน่อยหนึ่ง เพื่อช่วยคุมพื้นที่ไลน์รับ เนื่องจากเอวร่ายังมีสปีดที่จัดที่สุดในบรรดาแผงหลังของเราตอนนี้ นานี่ได้รับอภิสิทธิ์ให้เลื้อยตามอิสระมากขึ้น หลังจากครึ่งแรกถูกจำกัดให้วิ่งทางซ้ายล้วนๆแต่คายพิษสงไม่ค่อยออก หลังจากการแก้เกมปรับแท็คติคลงมา ก็ช่วยให้เกมรุกของแชมป์เก่าขย่มเจ้าบ้านได้พักใหญ่ๆจนวูลฟ์กางตำรารับแทบไม่ทัน โดนโหมโจมตีอย่างต่อเนื่อง แต่แชมป์เก่าก็ไม่อาจจบสกอร์ได้เป็นชิ้นเป็นอันนัก พลาดซ้ายพลาดขวา ยิงนกตกปลาไปหมด จนวูล์ฟเองเริ่มตั้งหลักได้ และมิค เอ็มแอนด์เอ็มก็พลิกสถานการณ์ให้ลูกทีมกลับมาได้ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 10:51:07

ความคิดเห็นที่ 6   วูล์ฟใช้เกมยาว ใช้บอลไดเร็กต์ในการตอบโต้เกมรุกของยูไนเต็ด จนสามารถเรียกโมเมนตัมกลับมาเท่าๆกันได้อีกครั้งในช่วงกลางครึ่งแรก เมื่อกลับมาเท่ากันได้แล้ว วูล์ฟก็เริ่มกดด้วยการโจมตีจากกลางอากาศ บอลยาวถูกงัดออกมาใช้บอมบ์เข้าใส่หน้ากรอบยูไนเต็ด เล่นเอาเราเป๋ไปเหมือนกัน เพราะพอเราจะมาตั้งหลักกับบอลกลางอากาศ วูล์ฟก็ยังเปลี่ยนมาเล่นบอลชิ่งสั้น ทะลุแนวได้เหมือนกัน ต้องบอกว่าวันนี้ จาร์วิสเล่นเป็นพระเอกจริงๆ โดยมีดอยล์ และ โฟลี่ย์ เป็นตัวป่วนแนวรับของยูไนเต็ด ยิ่งเล่นไปป๋าก็เริ่มร้อนรนจนเต้นงิ้วเป็นพักๆ สุดท้ายก็ต้องออกมาแก้เกมอีกครั้งด้วยการส่งบิแรม ดิยุฟ ลงมาแทนกิ๊บสันเพื่อเพิ่มเดิมพันในเกมนี้ให้สูงขึ้น กลับมาเล่นด้วยระบบ 4-4-2 และเป็นการเพิ่มทางเลือกในแดนหน้าอีกทางหนึ่ง อย่างน้อย ดิยุฟก็ต้องดึงตัวประกบได้บ้างแหละ และมันน่าจะช่วยให้เบิร์บทำงานของตัวเองได้ง่ายขึ้น เกมยังคงเป็นวูล์ฟที่กดดันได้น้ำได้เนื้อมากกว่าโดยมีจาร์วิส และดอยล์เป็นตัวละครหลัก ช่วงนี้ป๋าเราเล่นงิ้วต่อเนื่องแล้วครับ แต่เหมือนป๋าปปลุกกระแสขึ้นมาได้จริงๆ บอลจากกราบขวาโดยวาเลนเซียทะลุขึ้นมาเร็วก่อนจะป้ายเข้าหน้ากรอบย้อนหลังไลน์รุกแรกที่เติมเข้าไป แคร็ดด็อกขืนตัวสกัดบอลออกมาจากกรอบ แต่ไม่แรงพอ กลายเป็นมาเข้าเท้าสโคลส์ที่เติมมาในไลน์ที่สอง สโคลส์ดึงจังหวะพาบอลหลบกองหลังสองสามช็อตก่อนจะตวัดยิงด้วยขวาส่งบอลกลิ้งผ่านมือฮาห์นีมันน์เสียบโคนเสาสองอย่างสุดสวยให้แชมป์เก่าทะยานออกนำได้สำเร็จในนาทีที่ 72 ทั้งๆที่รูปเกมตอนนั้นยังไม่เข้าเค้าว่าจะได้ประตูเมื่อไหร่กันแน่ด้วยซ้ำ (จริงๆต้องบอกว่ารูปเกมตอนนั้น ได้แต่ลุ้นว่าเมื่อไหร่พี่แกจะเลิกพลาดในจังหวะจบสกอร์ซะทีมากกว่า) จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 10:51:23

ความคิดเห็นที่ 7   ป๋าปรับอีกรอบทันทีหลังขึ้นนำด้วยการส่งปาร์ค ชี ซองลงมาแทนนานี่ และนั่นคือจุดที่ผมรอคอย คนที่เข้าขากับเบิร์บที่สุดในทีมเราตอนนี้ไม่ใช่นานี่ ไม่ใช่แม้แต่หมูรูน แต่เป็นตี๋ดริฟท์คิงนี่แหละครับ ที่เล่นกับเบิร์บได้ทันกันที่สุดแล้วในสายตาผม และปาร์คยังมีความสดอยู่พอสมควร น่าจะทำอะไรได้มากกว่านานี่ในช่วงไม่ถึงยี่สิบนาทีที่เหลืออยู่ อีกทั้งนานี่เองอาจจะเป็นอีกทางเลือกในการจัดทัพรับมือมิลานของป๋าก็ได้ จึงจำเป็นต้องเก็บเอาไว้บ้างไม่ให้กรอบเกินไป ตอนนี้วูล์ฟเริ่มลุยแหลก เปิดพื้นที่มากขึ้นจนโดนสวนเกือบตายไปหลายดอก ดีที่ดิยุฟยังเขี้ยวไม่งอก ไม่นิ่งพอจะทำจังหวะสุดท้ายได้ดีจนเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ แม้จะมีโอกาสแบบเหน่งๆจะๆ เลี่ยมทองฝังเพชรถึงสามครั้งสามครา จนผู้บรรยายเรียกว่า เป็นการพลาดแบบแฮ็ตทริกนั่นเองครับ แต่อย่างน้อยเกมนี้ก็น่าจะเป็นบทเรียนให้เจ้าตัวได้เรียนรู้ ได้ปรับปรุงและบ่มเพาะความนิ่ง ความเยือกเย็นในจังหวะสุดท้ายได้ดีขึ้น โดยเฉพาะลูกพุ่งโหม่งเดี่ยวๆห้าหลาหน้าประตูนั่นที่เข้าตาเหลือเกิ๊น วูล์ฟมีการปรับทัพเพื่อทวงประตูคืนในช่วงท้ายๆด้วยการส่งแอนดี้ คิอ็อก(รึเปล่า?) กับซิลแว็ง อีแบงค์ส เบล็ก ลงมาแทนสตีเฟ่น วอร์ด กับ เกดิโอร่า แต่รูปเกมยังไม่ได้ต่างไปจากก่อนหน้ามากนัก แม็คคาร์ธี่ย์จึงส่งแซม โว้คส์ ลงสนามตามมาติดๆแล้วถอดเอาแม็ทธิว จาร์วิสออกมา ทีแรกไอ้กระผ้มก็นึกว่าจะสบายที่ดันถอดจาร์วิสที่เด่นที่สุดออกไป แต่ดันไม่ใช่ครับพี่น้อง ไม่กี่นาทีที่ไอ้หนูโว้คส์อยู่ในสนาม มันดันได้ยิงจ่อๆสองครั้ง ดีที่ดันไม่ตรงกรอบ ไม่งั้นคงมีเฮ พอมาคิดอีกรอบผมก็โล่งอก ถ้ามันยังเป็นจาร์วิสล่ะก็...เราคงน้ำตาตกเป็นแน่แท้ เพราะนี่มันช่วงทดเวลาแล้วด้วย สุดท้ายวูล์ฟก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จบเกมไปด้วยชัยชนะของแชมป์เก่าที่รับสามแต้มทะยานขึ้นไปนั่งแท่นจ่าฝูงเรียบร้อย ชนิดที่แม็คคาร์ธี่ย์ชอกช้ำมากจริงๆ เพราะทำได้ดีมาก เล่นกับแชมป์เก่าได้ดีขนาดนี้ แต่กลับลงเอยไม่ได้อะไรกลับมาเลย น่าสงสารแกจริงๆ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 10:51:59

ความคิดเห็นที่ 8   จบเกมไปด้วยรอยยิ้มแบบไม่ค่อยเต็มใจของผม เนื่องจากลุ้นกันจนขาแฉะ ถ้าไม่ได้สโคลส์มายิงลูกเดียววันนี้เราอาจจะเจ๊งไปเลยก็ได้ ดีที่สุดท้ายเก็บชัยชนะได้ด้วยฟอร์มของสโคลส์ที่เด่นมากในแดนกลางของเราในครึ่งหลัง คาร์ริควันนี้ฟอร์มดูจะดาวน์ๆลงไปส่วนหนึ่งอาจจะเพราะต้องประคองกิ๊บสันที่ยังโตไม่เต็มที่ ส่วนเอวร่าวันนี้ก็เล่นได้ดีครับ จะมีแย่หน่อยก็นานี่ ที่พอถูกจับไปซ้ายถึงแม้จะยังพยายามเล่นเป็นทีมเหมือนช่วงหลังๆแต่จังหวะมันไม่ใช่ครับ บอลที่เปิดออกจากเท้านานี่ฝั่งซ้ายไม่ได้อันตรายเหมือนยามอยู่ฝั่งขวาเลย ตรงนี้ต้องคิดหนัก ถ้าจะจับนานี่ยืนซ้ายจริงจะเสียของไม่ใช่น้อยเทียบกับยืนขวา แต่ขวาก็มีวาเลนเซียทั้งคนที่คงเป็นง่อยแน่ๆหากสลับไปยืนซ้าย ป๋าคงต้องคิดหนักเรื่องนี้หน่อยครับในช่วงนี้ว่าจะจัดการกราบซ้ายขวาของเราอย่างไร แผงหลังเราตอนนี้ก็เริ่มกลับมาได้แล้ว ถึงแม้ฟอร์มจะยังลุ่มๆดอนๆเพราะขาดการยืนร่วมกันมานานมาก แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้กลับมาจนจบซีซั่นไม่ใช่หรือ บราวน์เจ็บไป พร้อมกับข่าวโอเชียกลับมาก่อนกำหนด ตอนนี้เริ่มซ้อมได้แล้ว โอเว่นปิดซีซั่นไป มาเคด้าเพิ่งหายเจ็บกลับมา ยังไม่พร้อมลงสนาม กองหน้าตอนนี้คงต้องพึ่งพารูนี่ย์ที่ไม่รู้เจ็บมากและนานแค่ไหน กับเบอร์บาตอฟ และดิยุฟ สำรองที่ต้องเข็นมาให้ครบสี่คนก็คงเป็นโจชัว คิง ดาวยิงร่างเล็กอีกคนที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นในทีมสำรองของโซลชานั่นแหละครับ กับระยะทางที่ยังเหลืออีกสิบกว่ายี่สิบนัดจนจบซีซั่น จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เราคงต้องไปตามลุ้นชนิดห้ามกระพริบตาทีเดียว แล้วมาลุ้นกันครับ สงบใจ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 10:52:20

ความคิดเห็นที่ 9   คนแรกเลยครับ แจกกิ๊ฟท์ก่อนอ่านเ่ช่นเคย นัดนี้ลุ้นในกระทู้เชียร์สดซะเครียดเลยครับ เครียดเพราะ แทยอน SNSD นะครับ จากคุณ : นายคิ้วเข้ม เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 11:10:57

ความคิดเห็นที่ 10   เรื่องวูฟนัดแรกที่เจอกับเรา เอาตัวสำรองมาลงผมว่าเขาคิดถูกน่ะ ไม่น่าต้องโดนปรับโทษเลย มันเป็นแผนของเขา และเขาก็ทำสำเร็จในการชนะในนัดที่ต้องการ เฮียหยียิงประตูสำคัญอีกแล้ว นัดหน้าแย่แน่เลยครับ ถ้าหมูรูนลงไม่ไหว ขอให้กลางกับหลังเล่นแน่น ๆ หน่อยละกัน จากคุณ : RadiS เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 11:15:08

ความคิดเห็นที่ 11   เข้ามาอ่านครับ เป็นนัดที่ลุ้นเหนื่อยจริงๆ ผมเห็นด้วยเรื่องที่คาร์ริคเล่นไม่ดีเพราะต้องประคองกิ๊บสัน  คาร์ริคเลยดูดร็อปและพลาดง่ายเยอะจริงๆ ถ้าเป็นเทพเฟล็ท คาร์ริคคงเล่นดีกว่านี้ แต่ก็อย่างว่าครับ กลางสัปดาห์มีนัดใหญ่รออยู่ โฮเว่นเจ็บยาว ก็น่าสงสารแกเหมือนกัน กองหน้าก็เหลือแค่หมูกับเบิร์บ หวังว่ามาเคด้าจะฟิตไวไว เพราะดิยุฟยังดูตื่นๆสนามอยู่เยอะเลย แล้วก็ได้เห็นวีวี่ยืนคู่ริโออีกครั้งก็ดีใจครับ คู่นี้ยืนด้วยกันล่าสุดเดือนตุลามั้ง นานจริงๆครับ จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 11:27:08

ความคิดเห็นที่ 12   ขอบคุณครับ เกมนี้ไม่ได้ดูเลย พอดีไปเที่ยวแล้วรีสอร์ทที่ไปพักไม่มี true T.T จากคุณ : AnotherLife เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 11:56:14

ความคิดเห็นที่ 13   ตอนแรกผมก็นึกว่า เปลี่ยนน้องน้ำตาลออกเพื่อให้เกมส์รุกด้านขวามีประสิทธิภาพซะอีก เพราะผมว่า วาเลนเซียเข้าขา กับ เนวิล มาก ๆ เลย จากคุณ : ElMinZeed เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 11:58:01

ความคิดเห็นที่ 14   ไม่ได้ดูอ่าคับ ดีใจเฮียสโคลครบ 100 ซะที ขอบคุณสำหรับบทความครับ จากคุณ : WiseChocolate เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 12:02:45

ความคิดเห็นที่ 15   ขอบใจจ้าเข้ามาก่อนเดวมาเม้น --------------- โดยรวมเกมส์นี้ผมว่า มีนักเตะเล่นดีทั้งเกมส์อยู่ 2 คนน่ะ คือเบอร์บาตอฟและสโคลล์ เพราะช่วงที่เราเริ่มคุมเกมส์ได้ สโคล์เป็นคนคุมเกมส์ได้หมดและช่วยประคองทีมตลอด ในขณะที่กองกลางอื่นไม่ว่าเป็น นานี่หรือกิบสั้น พลาดเยอะมาก โดยเฉพาะกิบสั้นที่ต้อง ช่วยทำเกมส์กลับไม่นิ่งพอ ต้องฝึกอีกเยอะ ส่วนเบอร์บาตอฟ บอลอยู่ที่เท้าไว้ใจได้ตลอด จ่ายบอลสวยๆหลายลูก อาจจะขัดใจต้องวิ่งหาช่อง เพราะดูแก ดูกึ่งๆ มิดฟิลล์ตัวรุกมากกว่าหน้าหรือหน้าต่ำครับ กองหลังก็เล่นดีน่ะผมว่าผิดหลาดนอยมีสมาธิหลุดบ้างช่วงท้ายเกมส์ แต่ชนะไปได้ก็ถือว่าโชคดีแล้ว เรามาตั้งสมาธิกับเกมส์มิลานดีกว่า ขอบบคุณคุณสงบใจ สำหรับบทความดีดีครับ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 53 12:35:21 จากคุณ : Aod_JB เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 12:24:04

ความคิดเห็นที่ 16   อย่าว่าผมอคติเลยนะครับ แต่จากการดูเกมเมื่อคืนก่อนผมอยากจะบอกว่า กิ๊บสันเป็นตัวส่วนเกินอย่างแท้จริง ข้อเสียของกิ๊บสันในความเห็นผม(เรียงตามความแย่ จากแย่สุดไปแย่น้อยสุด) คือ 1. การหาตำแหน่ง ผมพึ่งสังเกตว่า สิ่งที่แย่ที่สุดของกิ๊บสันไม่ใช่การจ่าย(ถึงนั่นมันจะแย่มากๆอยู่แล้วก็ตาม) แต่มันเป็นเรื่องของการยืนตำแหน่งต่างหาก เวลาบุกก็มักจะอยู่ในตำแหน่งที่เพื่อนจ่ายบอลให้ไม่ได้ เวลารับก็ไม่อยู่ในตำแหน่งที่ช่วยชะลอเกมคู่ต่อสู้ได้ ส่วนการยืนเก็บบอลจังหวะสอง ผมไม่เคยเห็นจากเค้าเลย 2. การจ่าย อันนี้คงไม่ต้องบรรยายมาก น่าจะเห็นกันดี แต่นัดนี้มีจ่ายดีอยู่ลูกนึง 3. ความขยัน ให้ตายเหอะ ผมไม่เคยเห็นนักเตะดาวรุ่งที่ขี้เกียจวิ่งขนาดนี้มาก่อนเลยครับ ปกติเวลาดาวรุ่งได้รับโอกาส มักจะแสดงความกระตือรือร้น แต่เจ้านี่ชอบยืนเฉยๆ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ - -" 4. บ้ายิงไกล บางจังหวะสมควรจ่ายชัดๆ เพื่อนก็โล่ง หรือบางทีจับก่อนยิงซักหน่อยก็ได้นะครับ มีเวลาตั้งเยอะแยะ ที่ผมอยากถามคุณสงบใจคือ เราควรจะทำยังไงดีกับตำแหน่งคู่กลาง เนื่องจากโปรแกรมมันถี่เหลือเกิน คนที่พอจะหวังพึ่งได้มีแค่สามคน คือเฟลท คาร์ริก สโคลส์ แต่คนหลังเนี่ย ลงได้แบบนัดเว้นนัด หรือไม่ก็สิบวันครั้ง คุณสงบใจว่ายังไงดีครับ หุบปาร์คมาเล่นกลางพอไหวมั้ยครับ หรือต้องพึ่งกิ๊บสันแบบนี้ไปเรื่อย T T Edit ขอเพิ่มความเห็นด้านแทคติกนิดนึงครับ เมื่อกี้มัวแต่ด่าเพลิน 555 ผมว่าเบิร์บไม่เหมาะกับการเล่นหน้าเดี่ยวจริงๆครับ เพราะเค้าชอบถอนลงมาต่ำ ไม่ก็ออกไปด้านข้าง สังเกตได้ว่าหลายๆครั้ง ทั้งนานี่และวาเลนเซีย เงยหน้ามาแล้วไม่รู้จะเปิดเข้าไปให้ใคร เพราะตาเบิร์บดันออกมาอยู่นอกกรอบเขตโทษซะัแล้ว แล้วเกมเมื่อคืน กองกลางเราทั้งคาร์ริกและสโคลส์ก็ไม่ใช่กองกลางที่เน้นสอดเข้ากรอบเขตโทษซะด้วย(สโคลส์เมื่อก่อนหน่ะใช่ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นแล้ว) ดังนั้น ในกรอบเขตโทษจึงไม่ค่อยมีนักเตะเราอยู่เลย โอกาสพังประตูจึงน้อยลงไป จนช่วงท้ายที่วูฟดันสูงขึ้นมา ทำให้ด้านหลังมีพื้นที่นั่นแหละครับจึงทำให้เจ้าดิยุฟได้โอกาสยิงอยู่หลายครั้ง คุณสงบใจว่าแทคติกที่ให้เบิร์บเล่นหน้าเดี่ยวนี่จะเวิร์กมั้ยครับ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 53 12:57:42 จากคุณ : โค้วเต๊กซิม เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 12:38:05

ความคิดเห็นที่ 17   เมื่อวันเสาร์ดูไปมีความรู้สึกไม่เหมือนดูทีมแมนยูฯ อยู่เลย  กองกลางไม่สามารถครองบอลได้ โดนวูลฟ์เก็บจังหวะ 2 ได้เกือบหมด  ถ้าวูลฟ์คมๆ กว่านี้ พวกเรามีจ๋อยแน่ๆ ครับ คุณสงบใจคิดว่ายังไงครับ เพราะกิ๊บสันเก็บบอลและแย่งบอลแทบไม่ได้เลย หรือเพราะเราขาดเฟล็ทเชอร์ไป หรือเพราะการขาดรูนีย์ไป ทำให้ขาดตัวเก็บบอลในแดนหน้า ? จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 12:59:35

ความคิดเห็นที่ 18   กิ๊บสันต้องเรียนรู้อีกเยอะครับคุณโค้วฯ ถึงจะข้ามกำแพงมหึมามาอยู่ในระดับลีกนี้ได้เต็มตัว เรื่องการเคลื่อนที่ผมเคยบอกไปแล้วกระทู้ก่อนๆหน้านี้ ว่านี่คือจุดอ่อนของมิดฟิลด์เราหลายคน ไม่เว้นแม้แต่กิ๊บสันที่ดูจะด้อยกว่าคนอื่นเป็นพิเศษเยอะอยู่ ก็เพราะยังเด็กกว่าเยอะ เรื่องนี้ผมว่ามันมีที่มาจากการที่เราไม่ใช่ทีมที่ใช้การครองบอลขยับเคลื่อนเกมไปข้างหน้า ซึ่งนั่นคือบอลสไตล์อาร์เซน่อล หรือบาร์เซโลน่า ที่เราๆท่านๆทราบกันดี แต่เราเป็นทีมที่ครองบอลเพื่อฉวยโอกาสเข้าทำมากกว่า ส่วนใหญ่จะขวางสนาม จ่ายสั้นรอจังหวะ หรือคืนหลังตั้งหลักใหม่ หาช่องใหม่ การเคลื่อนที่แต่ละคนจึงไม่มีทิศทางแพ็ทเทิร์นที่แน่นอน ไม่เหมือนอาร์เซน่อล ที่เราจะเห็นเลยว่า ระบบมันมีแน่นอน ใครลงมาก็เคลื่อนที่แนวทางเดิมๆได้ แต่ของเราจะอาศัยความคุ้นเคย เล่นกันจนชินเ ป็นตัวเชื่อมความเข้าใจซะมากกว่า เราจึงเห็นเวลาที่เวียนมิดฟิลด์ลงมาแล้วเราต้องใช้เวลาร่วมๆสิบยี่สิบนาที กว่าจะตั้งหลักคุ้นเคยกัน นี่คือจุดอ่อนของมิดฟิลด์เราที่ผมเห็นมานานแล้ว แต่เรามีจุดแข็งมากลบไงครับ นั่นคือความเร็วของเกมรุก ที่พอมีช่อง เจอช่องแล้ว สอง สาม สี่จังหวะ จบได้เลย เราคมพอจะทำได้ อีกทั้งเมื่อตั้งหลักได้ ปรับจังหวะกันถูก เราก็ประสานงานต่อกันได้เลย เพราะเริ่มเข้าใจกันแล้ว ทีนี้กิ๊บสันยังก้าวไปไม่ถึงตรงนั้น เพราะจังหวะเกมในทีมสำรองมันไม่ได้เหมือนในทีมชุดใหญ่ พอขึ้นชั้นมาก็เลยจะดูงงกับการยืนตำแหน่ง ควรวิ่งไปทางไหน จะวิ่งดีไหม จะจ่ายช่องไหน ยิ่งถ้าถูกบีบให้เล่นเร็วนี่จะเห็นชัดเลยครับ ว่าไปไม่เป็นเอาซะเลย แต่เด็กยุคลูกนกมันไม่เหมือนกัน ชุดนั้นมันโตมาด้วยกันทั้งทีม มันเล่นด้วยกันมาตลอด มันเลยเข้าอกเข้าใจกัน จูนกันติดตั้งแต่เล่นเยาวชน ไม่เหมือนคราวนี้ ที่มากันทีละคน พอมาชุดใหญ่ก็จูนไม่ติดกับพี่ๆ เพราะระดับและรูปเกมมันต่างกันมากกับทีมสำรอง พอสเซบอน ก็ไม่ต่างกัน มาเคด้า หรือเว็ลเบ็ค ก็ยังมีปัญหาในการจูนกับพี่ๆเช่นกัน ของอย่างนี้ต้องอาศัยเวลาและการเล่นร่วมกันครับ ทำไมสุดท้ายรอสซี่/ฟอร์ลัน จึงได้ดิบได้ดี เพราะสุดท้ายเขามีเวลา มีเกมต่อเนื่อง ได้ปรับจังหวะตัวเองอย่างต่อเนื่องในทีมอื่นนั่นเอง ตอนนี้เราก็ได้แต่ลุ้นครับ ถ้ากิ๊บสันไม่ได้ลงต่อเนื่อง คงก้าวขึ้นชุดใหญ่เต็มตัวไม่ได้ เช่นเดียวกับมาเคด้า/พอสเซบอน/เว็ลเบ็ค เชื่อผมได้เลยครับ เพราะพวกนี้ไม่ใช่แข้งพรสวรรค์ ลงถ้าสิบเกมได้ลงสองสามเกม พวกเขาไม่มีทางข้ามกำแพงได้แน่ ในสโมสรแห่งนี้ นอกจากคุณจะพรสวรรค์ถึงจริงๆ ที่จูนเพื่อนๆติดโดยที่ไม่ค่อยได้ลงเล่นกับเขา ปล. ไม่ได้อวยเด็กนะ แต่ผมแค่เข้าใจ ว่าแข้งพรแสวงที่ไม่ค่อยได้ลับเกือกน่ะ มันไปไม่ค่อยรอด      มีตั้งกี่คนแล้ว เฟล็ทเชอร์กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้เต็มตัว ก็เกือบสิบปีใช่ไหมล่ะครับ เรื่องข้างบน คงตอบคำถามได้หมด ทั้งการเคลื่อนที่ การจ่าย การยิง คนเราถ้าจูนไม่ติดกับเพื่อนๆในทีม มันเล่นไม่ได้หรอกครับ นอกจากจะเป็นโรนัลโด้น่ะ ส่วนเรื่องยิงไกล เป็นผม ผมก็ยิงครับ เพราะตูทำอย่างอื่นไม่ได้เรื่องอ่ะ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 13:04:50

ความคิดเห็นที่ 19   ขอบคุณครับ ไม่ได้ดูง่วงมาก ตื่นมา เห็นสกอร์ ใจหาบยวาบบ 0-1 แต่ได้คลีนชีต ผมพอใจนะ =) ริโอ-วิดิช กลับมายืนคู่กันแล้วว จากคุณ : สักวันฉันจะอ้วนกลม เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 13:09:22

ความคิดเห็นที่ 20   ขอบคุณค่ะ เกมนี้ดูแล้วเครียดกว่าอ่านหนังสืออีก จากคุณ : No Sleep Tonight เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 13:33:29

ความคิดเห็นที่ 21   เล่นห่วย แต่เก็บสามแต้มได้ นี่แหละแมนยูตรู ทำจายยยยยย ก็ยังดีฟ่ะ -*- จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 13:37:00

ความคิดเห็นที่ 22   ขอบคุณคุณสงบใจค่ะ เป็นนัดที่ดูแล้วลุ้นน้ำลายเหนียวคอ กลัวจะโดนก่อนแล้วกลับมาลำบาก ถือเป็น 3 แต้มสำคัญกับฟอร์มที่ไม่เข้าที่เข้าทางแบบนี้ แผงหลังทั้งวิดิชและริโอได้ลงมายืนคู่กันอีกครั้ง ได้มีเวลาจูนเพื่อเจอมิลานในบ้าน แต่พี่ติ๊กของเราก็ยังคงลงเล่นอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาด ไม่ลา ไม่สาย ไม่ป่วยจริงๆ แอบกลัวพี่ติ๊กจะล้าอ่ะค่ะ ส่วนเจ้าดิยุฟถ้านิ่งสักหน่อยมีสกอร์แน่นอน เฮ้อ ตอนนี้กองหน้าเราขาดแคลนรีบๆ เร่งฟอร์มหน่อยน้า สุดท้าย ชอบฟอร์มปาร์คช่วงหลังมานี้ เข้าใจเกม แล้วก็เข้าขากับเบิร์บ รูน AV นัดเจอมิลานน่าจะได้ลงนะ จากคุณ : ห้องสี่เหลี่ยมไร้มุม เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 14:26:11

ความคิดเห็นที่ 23   นัดนี้ถ้าเอาเครื่องวัดความดันของทุกๆ ท่าน... ผมว่าขึ้นกันทุกๆ คนแน่เลย ผมเอามาวัดยังได้ 130กว่า / 90กว่า ขึ้นทั้งบนทั้งล่างเลย เฮ้อ มันเครียดอ่ะ.. จากคุณ : นายแพรว เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 14:28:23

ความคิดเห็นที่ 24   ป๋าหงบรอเหมือนผมเลยว่า เมื่อไหร่ ป๋าจะส่งพาร์คลงมาแทนนานี่ ( ที่วันนี้ อวตารออกจากร่างตั้งแต่ต้นเกม 555 ) จากคุณ : Sifer2002 เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 14:30:33

ความคิดเห็นที่ 25   เกมนี้  ครึ่งแรกหลับสบาย ตื่นมา  เริ่มครึ่งหลังแล้ว  ก็เลยไม่รู้ว่าครึ่งแรกเลยเป็นยังไง แต่ถ้าเฉพาะครึ่งหลัง   เกมของวูล์ฟเล่นดีกว่าเยอะ  แต่พอเข้ากรอบเขตโทษของเรา เขาไม่สามารถฉกฉวยโอกาสได้ซักเท่าไหร่ ของเรา  เบิร์บเก็บบอลได้  แต่ไม่รู้จะส่งให้ใคร นานี่  วันนี้  ก็ไม่ค่อยเข้าล็อคนัก วาเลนเซีย  สลัดแบ๊คซ้ายเขาไม่ค่อยหลุด ถึงหลุดแล้ว  ก็ไม่รู้จะโยนให้ใครต่อ แกรี่  เติมขึ้นสูง  วิ่งกลับลงมาก็ไม่ค่อยทัน   แต่ดีตรงที่ประสานงานกับปีกได้เยี่ยมเลย สโคลส์  นัดนี้  แม้จะไม่นับลูกยิง  ก็ถือว่าเล่นใช้ได้เลย สามารถประคองเกม  พลิกเกมจากรับเป็นรุกได้อย่างน่าดูชม ยิงลูกยิง  ถือว่าสุดยอดเลย   เตะหลบประมาณสองสามครั้งให้กองหลังเขาหลง   แล้วยิงเล่นทางให้ประตูตามไม่ทันอีก  เยี่ยมมาก ฟาน  เดอร์  ซาร์  ก็ช่วยให้สบายใจมากขึ้น  ไม่ต้องกังวลมาก แต่ช่วงท้ายเกม  หัวใจจะวาย  สองครั้งติด ๆ เลย  โดนยิงจ่อ ๆ สรุปว่า  ชนะได้สามแต้มเต็มก็ดีใจแล้ว จากคุณ : ขุนไกรครับผม เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 14:40:59

ความคิดเห็นที่ 26   เท่าที่ดูเกมนี้ เหนื่อยแทนเบิร์บครับ จริงๆแผนที่ให้เบิร์บเล่นหน้าเดี่ยว มันต้องมีกองกลาง หรือ ปีก ที่สามารถหุบเข้าไปเล่นในกรอบเขตโทษได้ อย่างน้อย 2 คน เพื่อเป็นทางเลือกในการจ่าย  และดึงกองหลัง ซึ่งน่าจะเวิร์คกว่านี้ ถ้าซ้ายเป็น ปาร์ค ขวาเป็นนานี่ ... สำหรับ วาเลนเซีย ผมมองว่าเซนส์บอลไม่ทันเบิร์บครับ พูดถึงนานี่  เหมือนนัดนี้จะกลายเป็นนานี่คนก่อนที่จะได้ร่าง อวาตาร์ ... เพราะกลับมาแอ๊ค กลับมาบ่นกรรมการ และจ่ายบอลจังหวะที่เพื่อนเล่นยาก อยากให้กลับไปก้มหน้าก้มตาเล่นบอลเพื่อทีม และคายบอลให้เพื่อนแล้ววิ่งไปหาที่ว่าง หรือวิ่งไปดึงตัวประกบให้เพื่อนที่ได้บอล มีช่อง มีทางเลือกในการส่งบอลเหมือนตอนเข้าร่างอวาตาร์ ส่วนกิ๊บสัน ลงมาทำไมไม่รู้ ความดีไม่ปรากฏ  ไล่บอลก็ไม่ไล่ จ่ายบอลก็ไม่ทำให้เพื่อนได้เปรียบ  ต่อบอลก็ไม่ได้   แต่ก็อย่างว่า คนเรามันมีฟอร์มตกกันได้   หวังว่านัดที่เจอกับ มิลาน ... ป๋าคงไม่ดื้อเอากิ๊บสันลงมาเป็น 11 คนแรกนะครับ มาเรื่อง ดิยุฟ ผมมองว่า ... แกดูมีแวว มากกว่ามานูโช [จำกันได้มั้ย?] คือ แกมีสปีด มีความขยัน มีความกล้าที่จะลากบอลไปยิงคนเดียว  แต่ยังขาดความคม และการเล่นเข้ากับระบบ [ก็แหงสิ เล่นชุดใหญ่ไม่กี่นัดเอง]   ผมว่าคนนี้ถ้าให้โอกาสเยอะกว่านี้หน่อย   เราสามารถฝากความหวังไว้ได้ น่าจะออกแนวเดียวกับโรนัลโด คือ คิดไรไม่ออก ก็ลากไปยิงดื้อๆ เพราะสมรรถภาพของร่างกาย ดูแล้วเอื้อต่อการทำแบบนั้น ... หรือถ้าป๋าอยากหากองหน้าที่เล่นเพื่อทีม อยากให้หันมามอง เควิน ดอยล์ นี่แหละครับ ถึก และเล่นบอลฉลาด  :) จากคุณ : o_extreme เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 14:41:45

ความคิดเห็นที่ 27   หัวใจแทบวายตอนทดเจ็บ ดีนะมันซัดข้ามคาน ส่วนกิ๊บโบ้ นี่ผมชอบนะ ถึงมันจะขาดๆเกินๆ ไปบ้างช่วงนี้ ให้เวลาอีกหน่อยเป็นความหวังในการยิงเเถวสองได้สุดยอดมากเลย จากคุณ : hamich เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 14:41:48

ความคิดเห็นที่ 28   นัดนี้ดูไปง่วงไป จนหลับไปจริงๆ จนมาตื่นเอาอีกเกือบ 10 นาทีท้าย ทันได้เห็นดิยุฟแป๊ก จากคุณ : ผักทอดยอด เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 14:43:04

ความคิดเห็นที่ 29   ขอบคุณน้าหงบค่ะ ลุ้นเหนื่อยจริงๆ แถมตอนสุดท้าย วูฟ ทำหัวใจเกือบวาย TT_______________TT ดีที่ข้ามคานไป ไม่งั้น ละก็ งามไส้แน่นอน อยากจะบอกป๋าว่า ป๋าอย่าทำแบบนี้อีกได้มั้ยยย แต่ป๋าคงตอบว่าไม่ได้ เดี๋ยวจะชนะเยอะเกิน เฮ้อ เป็นแฟนผีต้องอดทน -*- จากคุณ : ไม่ได้ขอบัตรผ่าน เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 14:48:02

ความคิดเห็นที่ 30   บ้าน่าน้าหงบ  ไปว่าป๋าได้ยังไงว่า จัดตัวแค่ก่้ำกึ่ง   จริงๆ ป๋าเค้าซ้อมเกมรับไว้รอมิลานวันพุธตะหาก  เพราะงานนี้มิลานลุยแหลกแน่   แหม พอทักว่าแผงหลังกลับมาหน่อย  อิบราวน์กลับโรงบาลไปอีกคนแระ มันจะอะไรกันนักหนาฟระปีนี้   พยาบาลโรงพยาบาลแมนเชสเตอร์มันสวยนักหรือไงเนี่ยะ จากคุณ : เดอะ ปูด เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 15:02:47

ความคิดเห็นที่ 31   เตียงมันนุ่มฮะ พยาบาลก็มือนิ๊มมม... นิ่ม ตกลงตอนนี้ บราวน์สำรองราฟาเอลเต็มตัวแล้วชิมิฮะ มีเก็บราฟาเอลเอาไว้ ส่งบราวน์ลงมาแทนด้วยแฮะ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 53 15:11:43 จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 15:11:14

ความคิดเห็นที่ 32   ขอบคุณครับสำหรับบทความดี ๆ แล้วน้าสงบใจคิดยังไงกับข่าวโจ โคล ครับผม มีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่จะได้มา แล้วถ้าได้มาแล้วจำเป็นกับทีมเราตอนนี้รึเปล่าครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : ๑ ล า น ไ ท ร ๑ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 15:20:46

ความคิดเห็นที่ 33   ขอบคุณครับ สำหรับบทความดีดี จากคุณ : ทางสีฝุ่น เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 15:23:43

ความคิดเห็นที่ 34   ผมว่า พวกเราเนี่ย เป็นโรคจิต ชนะขาด ก็ดีใจแทบบ้า ชนะหวุดหวิด ก็สนุกลุ้นก้นไม่ติดเก้าอี้ โรคจิตชัดๆ...... จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 15:46:13

ความคิดเห็นที่ 35   โจ โคล ถ้าผมจำไม่ผิดนะ นี่ก็เป็นอีกคนที่ป๋าปลื้มมานานแล้ว และผมเองก็ปลื้มด้วยนะครับ แค่ไม่อยากออกหน้ามากเท่านั้นเอง กลัวจะตกม้าตายทีหลังน่ะ สำหรับผม โจ โคล ถือเป็นนักเตะทักษะสูงหนึ่งในไม่กี่คนที่อังกฤษมี น่าจะถือเป็นหน้าตาของประเทศได้คนหนึ่งทีเดียว หลังจากยุคไอ้อ้วนซ่า และเขาก็เป็นผลผลิตที่น่ายกย่องอีกคนของโรงเรียนเวสต์แฮมเขาล่ะ ผมมองว่าโจ โคล มีดีเกินกว่าจะถูกมองว่าเป็นปีกเพียงอย่างเดียว ทักษะและความสามารถ รวมทั้งความคล่องของเขา น่าจะเป็นได้มากกว่านั้น ในความหมายของผมคือ เป็นตัวรุกที่ดีมากในไลน์สามคนข้างหน้า ในระบบ 4-3-3 ที่ป๋านิยมในช่วงหลังๆ  ผมว่าเหมาะมาก กับสไตล์ของโคล แต่ก็จะมีปัญหามากเช่นกันครับ หนึ่งคือ ถ้า 4-3-3 (4-5-1) รูนเป้า เหลือสองที่ซ้ายขวา จะเอาใครลง โคล-นานี่-เอวี-ปาร์ค-กิ๊กส์ แล้วยังกองหน้าที่เหลือสองสามคนอีกล่ะ อีกทั้งตรงกลางสามคนยังมี สโคลส์-คาร์ริค-เฟล็ทช์-แอนนี่-กิ๊บ-ฮาร์จัง หรือจะเป็น 4-4-2 ที่ที่เหมาะที่สุดก็คงริมเส้นอีกนั่นแหละ ซึ่งตัวเลือกก็เพียบไม่ต่างจากข้างต้น      ข้อนี้ ปัญหาคือ ต้องมีคนถูกหั่นออกจากทีมแทนที่แน่นอน สองคือ ค่าเหนื่อยมหาศาล ถึงจะไม่มีค่าตัวที่ต้องจ่ายเชลซี แต่การที่เชลซีปฏิเสธการต่อสัญญาที่ว่ากันว่าโคลเรียกเกิน 100,000 ปอนด์ ย่อมต้องทำให้ผู้บริหารเราสะอึกเหมือนกัน และคงต้องมีคนดวงกุดแทนที่    ตรงนี้ย่อมต้องคิดเพื่อลดค่าเหนื่อยรวมของทีมลงมา สามคือ สภาพร่างกายที่กรำอาการบาดเจ็บเหมือนโอเว่น ไม่มีอะไรการันตีว่า เขาจะตอบแทนค่าเหนื่อยได้คุ้มค่าทุกๆสัปดาห์ เรื่องนี้ผมเองก็หวั่นใจ ว่าเราจะเสี่ยงแค่ไหน กับการจ่ายค่าเหนื่อยฟรีๆ เพราะโคลเองยังไม่แก่ถึงขนาดยอมหั่นค่าจ้างตัวเองลงมาหาเราแน่ๆ    กลัวว่าเราจะต้องเอามารักษาอีกรึเปล่า (ฮาร์-เว่น ก็เจอมาแล้ว) ชั่งน้ำหนักดูแล้ว ผมเองรู้สึกว่า ป๋าน่ะถูกใจแน่ๆ กับเคสโจ โคล ราคาฟรีๆ เพราะผมจำได้ว่าป๋าชอบอกชอบใจ โจ โคลมานานแล้ว แต่เมื่อดูค่าเหนื่อยที่เขาเรียกจากเชลซีแล้วก็สะอึก อึ้ก อึ้ก ยิ่งถ้าเราจะเอาตัวมาฟรีๆ คิดหรือครับว่าเอเย่นต์จะไม่เรียกร้องเพิ่มขึ้น เอเย่นต์อาจเรียกถึงระดับแสนสอง แสนสาม แสนห้าได้ง่ายๆทีเดียว เพราะอย่างน้อย แมนฯซิตี้ ก็มีปัญญาจ่ายแน่ๆ ถ้าเขาสนใจ ใช่ไหมครับ สรุป ผมคิดว่า ถ้าไม่ลดค่าเหนื่อยลงมา ป๋าคงไม่เอาครับ ตัดใจปล่อย แต่ถ้าสุดท้ายจะเอามาจริงๆล่ะ ประโยชน์น่ะมีแน่ เพราะหมอนี่เซนส์บอลสูง แค่หลับตานึกภาพเห็นโคลประสานงานเบอร์บาตอฟและรูนี่ย์ ผมก็ยิ้มแล้ว จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 15:51:46

ความคิดเห็นที่ 36   อ้อ เห็นด้วย ว่าดิยุฟหน่วยก้านดี น่าให้โอกาสยาวๆหน่อยครับ เด็กมีความเร็วจัด มีความกล้า ถึงแม้จะยังตื่นๆ ตกอกตกใจไปบ้าง นั่นก็เพราะประสบการณ์น้อย ตื่นสนาม และคงลนๆอยู่ ลูกที่บอลมากระแทกขานั่นไม่ชัดเท่าไหร่ แต่ลูกพุ่งโหม่งนี่ดูออกเลย ว่าใจร้อน อยากโหม่งเต็มแก่จนทนไม่ไหว เทคตัวก่อนบอลจะมาถึงซะอีก ทั้งๆที่ตัวเองเล่นลูกกลางอากาศดีแท้ๆ แต่ลูกที่หลุดเดี่ยว ควบบอลเข้าไป อันนั้นบอกตรงๆใจมันถึงดีแท้ๆ ถ้าเป็นคนอื่น ผมว่าอาจจะมัวลังเลจนเสียบอล หรือไม่กล้ายิงเองแน่ๆ คนนี้น่าลุ้นครับ ยิ่งชื่อโซลชาร์ การันตีการปั้นด้วย ยิ่งน่าสนใจ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 16:05:45

ความคิดเห็นที่ 37   แมทช์นี้ไม่ได้ดูเพราะหลับ แต่เข้ามาอ่านแล้วเห็นภาพเลยครับ ขอบคุณคุณสงบใจจริงๆ จากคุณ : aong_ha เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 16:42:22

ความคิดเห็นที่ 38   ขอบคุณฮะลุงหงบ ปล. จับนานี่ไปเล่นหน้าต่ำ ดีไหมฮะ ลุงหงบ จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 20:18:30

ความคิดเห็นที่ 39   ขอบคุณมากครับ คุณสงบใจ ตามมาอ่าน  อิอิ เชื่อหรือไม่ ครับ  ดูไป จะหลับไป พอ  ดิยุฟ  ลงมา  ช็อตวืด แฮตทริค   ทำผมฮา หัวเราะไป หายง่วง  นับว่า ป่า เอนเตอร์เทน คนดูมากๆ  ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : เเมนเอล เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 21:21:17

ความคิดเห็นที่ 40   บรรยายละเอียดกว่า 2 พิธีกรของทุยซะอีก จากคุณ : THX เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 23:04:30

ความคิดเห็นที่ 41   ขอบคุณมากๆครับน้าหงบ ผมล่ะหน่ายกิ๊บสันกับดิยุ๊ฟ ...เง้อ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 23:05:28

ความคิดเห็นที่ 42   ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์ดี ๆ นะคะคุณสงบใจ  ^^ ช่วงทดเจ็บ  ที่นักเตะของวูฟฯ รู้สึกจะชื่อ Vokes ชาร์จจ่อ ๆ หน้าประตูแล้วข้ามคานไป  หัวใจจะวายให้ได้เลย   จากคุณ : Noey :p เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 23:12:05

ความคิดเห็นที่ 43   ปีกเราที่มีอยู่ อาจจะสู้โจโคลไม่ได้ แต่ผมว่าถ้าเทียบค่าเหนื่อย น่าจะคุ้มค่ากว่าในระยะยาวแน่ ๆ เพราะยังสามารถพัฒนาได้อีก โดยเฉพาะนานี่ กับวาเลนเซีย เพราะฉะนั้นแทนที่จะเอาปีกมาเพิ่ม ผมคิดว่าหามิดฟิลด์ที่เป็นเพลเมคเกอร์เจ๋ง ๆ ซักคนน่าจะดีกว่า ไม่รู้ว่าเฮียหยีจะต่อสัญญาหรือเปล่า ขาดเฮียหยีไปคงเล่นฉาบฉวยแบบนี้ไม่ไหวแน่ ๆ จากคุณ : RadiS เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 23:31:49

ความคิดเห็นที่ 44   มาแจกกิฟท์แจกคลิป อิ่อิ่ จากคุณ : สีขาวสวยน้า~ (Skyline_CII) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 01:21:35

ความคิดเห็นที่ 45   นัดนี้กิ๊บสันกลายเป็นตัวฟรีไปเลยครับ แทบไม่มีบทบาทเลย ผมคิดว่าเค้าคงไม่เหมาะกับแผนนี้ของป๋านะครับ ขอบคุณสำหรับบทความดีดีเช่นเคยครับ จากคุณ : Roo_Ni_Gy เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 11:30:31

ความคิดเห็นที่ 46   บรรยายเกมได้สุดยอดครับ ขอบคุณมากมาย อยากให้แมนยูได้กลางแข็งโป๊กซักคนจัง บดเบียดสู้กับใครเขาไม่ค่อยได้เลย จากคุณ : assasin เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 11:50:16

ความคิดเห็นที่ 47   ขอบคุณค่ะคุณสงบใจ จากคุณ : รัศมีจันทร์ดารา เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 15:25:52

ความคิดเห็นที่ 48   ขอบคุณสำหรับบทความวิจารณ์ค่ะ พอดีนัดนี้ไม่ได้ดู แต่ก็พอจะนึกออกว่าการมองข้ามช็อตไปวันพุธนี้มันเป็นอย่างไร โชคดีนะคะ ที่ยังชนะกลับมาได้ แข่งUCLด้วยตำแหน่งจ่าฝูงนี่ก็ดูดีใช่เล่นนะเนี่ย ^^ ที่ห่วงก็พี่ติ๊ก เอฟร่า นี่แหละค่ะ แกเล่นไม่ได้พักมาหลายนัดมากๆเลย กลัวจะมาหลุดเอานัดสำคัญนี่จะแย่เลยนะคะ ส่วนรูนี่ย์...ไม่ใช่ว่าหายกลับมาทันนัดกับมิลานเหรอคะ เหมือนจะได้ข่าวว่าอย่างนั้นเลย จากคุณ : คุณหนูแพนด้าตัวน้อย เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 20:43:26

ความคิดเห็นที่ 49   ถึงแม้ว่า ตลอดเกมนี้ ผีแดงจะเล่นไม่ได้เรื่อง.. แต่ ผมก็เชื่อว่า สุดท้ายแล้ว ทีมเราน่าจะชนะได้.. ด้วยเหตุผลเดียว เท่านั้น จริง ๆ !! ... คือ ทีมวูลฟ์ .. (หรือ มิค แมคคาร์ธีย์ ??) .. ไร้โชค ไร้ดวง ครับ!! ดูตั้งแต่ นัดที่เล่นกับ เชลซี .. ก็เห็นได้ชัด.. ยิ่งนัดนี้ .. ขนาดได้ยิงจ่อ ๆ .. ไม่มีใครประกบ ยังยิงไม่เข้า!!?? ถ้า วูลฟ์ มี "ดวง" หรือ "คมกว่านี้" สักนิด ในจังหวะจบสกอร์ ล่ะก็... ป่านนี้ ผีแดง ได้ลงหลุม ..ลืมเรื่องลุ้นแชมป์ไปได้เลย!!! แต่ในเมื่อสถานการณ์ 9-10 นัด สุดท้ายเป็นแบบนี้.. ทีมที่มีสิทธิ์ ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก สูงที่สุด.. กลับเป็น "อาร์เซนอล" !! ต้องยอมรับ ว่า "คาดไม่ถึงจริง ๆ "... ว่า เด็ก ๆ ของทีมปืนใหญ่ จะทำได้ดีมาก ๆ ขนาดนี้.. แต่ ดูจากโปรแกรมที่เหลือแล้ว .. เชลซี กับ แมนยูฯ เจอศึกหนักกว่าแยะ.. โดยเฉพาะ ถ้าในนัดที่ต้อง "ชิง(ลุ้น)แชมป์" กันเอง ในต้นเดือนเมษายน นั้น.. ถ้าผลออกเสมอล่ะก็ .. ปืนใหญ่ "ยิ้ม" เลยล่ะครับ พี่น้อง!! ส่วน แมนยูฯ ปีนี้ ถ้าได้แชมป์จริง ๆ ล่ะก็... ก็ต้องเป็นเพราะ "ดวง" ของ เจ้าหมูพลิ้ว..เวย์น รูนี่ย์ คนเดียวจริง ๆ !! ยังไง ๆ ก็คงได้ ลุ้น(แชมป์) กัน จนถึงนัดที่ 38 แน่ ๆ !!??? จากคุณ : จิตตารมณ์ เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 22:20:56

ความคิดเห็นที่ 50   เข้ามาดู จากคุณ : Angleevil เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 53 22:59:21