 |
ความคิดเห็นที่ 45 |
|
ตอร์2,อาคยิงด้วย!หงส์ขยี้4-1ขึ้นที่5
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล คืนฟอร์มเก่งได้อีกครั้งแอนฟิลด์ ไล่ต้อน "ปอมปีย์" พอร์ทสมัธ ไปแบบสบายๆ 4-1 พร้อมกับแซง แมนฯ ซิตี้ ขึ้นไปรั้งที่ 5 ของตารางเป็นที่เรียบร้อย
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันจันทร์ที่ 15 มี.ค.53
ลิเวอร์พูล 4 - พอร์ทสมัธ 1
ที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูลพกผลงานอันเลวร้ายพ่ายสองนัดรวดลงเตะในบ้านต้อนรับพอร์ทสมัธทีมบ๊วยของตารางโดยหันมาใช้งานอัลแบร์โต้ อาควิลานี่เป็นตัวจริงก่อนหน้าลูคัส เลว่า
พร้อมกันนี้ มักซี่ โรดริเกซที่ไม่มีสิทธิ์ลงเล่นถ้วยยุโรปก็ได้เสียบแทนเดิร์ก เคาท์ ขณะที่ยอสซี่ เบนายูนซึ่งต้องเช็คความฟิตมีชื่อเป็นตัวสำรอง
ด้านปอมปีย์ประสบปัญหาเดวิด เจมส์เดี้ยงต้องใช้บริการเจมี่ แอชดาวน์เฝ้าตาข่าย แต่ได้ริคาร์โด้ โรช่าปราการหลังพ้นโทษแบนกลับมาแทนที่ทาล เบน ฮาอิม รวมแล้วปรับโผไปสามจุดจากเกมพ่ายเบอร์มิ่งแฮม 2-1 โดยมีปาป้า บูบา ดิย็อปกลับสู่ทีมอีกรายเขี่ยแดนนี่ เว็บเบอร์ให้หลุดไปนั่งข้างสนาม
เปิดฉากขึ้นมา เร้ด แมชีนก็ดาหน้าลุยทันที และในนาทีที่ 4 จากจังหวะที่เฮอร์มัน ไฮร์ดราสส์สันไปเหนี่ยวมักซี่จนเสียลูกฟรีคิกทางกราบขวา สตีเว่น เจอร์ราร์ดก็ตักบอลเข้าเขตโทษแล้วเฟร์นานโด ตอร์เรสเอี้ยวตัววอลเลย์จากระยะสิบหลาไปถูกกำปั้นของโรช่า แต่ผู้ตัดสินทำเมินไม่เป่าให้เจ้าบ้านได้ลูกโทษ
ผ่านมาถึงนาทีที่ 16 หงส์แดงก็ได้เสียวอีกหนจากการต่อบอลสั้นกันขึ้นมาเป็นทอดๆทว่าจังหวะสุดท้ายเจอร์ราร์ดปราดเข้ากระทุ้งจาก 20 หลาโด่งออกไปอย่างน่าผิดหวัง
ถัดมาอีกสองนาที มักซี่ไหลบอลจากกราบขวาเข้าเขตโทษสวย แต่งจังหวะให้อาควิลานี่ได้วอลเลย์ตามน้ำจาก 15 หลา ทว่าบอลเฉี่ยวเสาสองออกไป
กระทั่งนาทีที่ 26 แอชดาวน์ก็มอบของขวัญให้เจ้าถิ่นเมื่อรับบอลคืนจากกองหลังแล้วทำเงื้อง่าราคาแพงอย่างไม่เข้าท่า สุดท้ายจึงเตะเปิดเกมไปถูกเจอร์ราร์ดวิ่งเข้าบล็อคแล้วมีมักซี่ตามไปเก็บตกปาดบอลมาหน้าประตูให้ตอร์เรสแปตุงตาข่ายสบายแฮจาก 12 หลาพาหงส์ออกนำ 1-0
เท่านั้นไม่พอ ขยับมาอีกสองนาที เดอะค็อปก็ได้เฮฮากันอีก คราวนี้เป็นจังหวะที่เกล็น จอห์นสันตั้งป้อมสาดบอลจากริมเขตโทษด้านขวาไปเสาไกลให้ตอร์เรสพักอกแล้วจ่ายสั้นๆให้ไรอัน บาเบิ้ลยิงลูกฉีดยาจาก 14 หลาย้อนศรเสียบเสาแรกเพิ่มสกอร์ให้เครื่องจักรสีแดงนำเป็น 2-0
นาทีที่ 32 ตาข่ายของปอมปีย์ก็ทะลุอีกหนเมื่อตอร์เรสตอกลูกส้นจากริมกราบซ้ายเข้าเขตโทษ แม้เจอร์รารืดจะจับหลุดเท้า แต่อาควิลานี่เข้ามาเก็บตกสับไกจาก 12 หลาเสียบเสาแรกนิ่มๆ ทำให้เจ้าบ้านหนีเป็น 3-0
เกมกลายเป็นลิเวอร์พูลที่ได้เสียวอยู่ฝ่ายเดียว และในนาทีที่ 35 ตอร์เรสก็โยกหนีสตีฟ ฟินแน่นอดีตกองหลังหงส์เข้าซัลโวในกรอบเขตโทษด้านซ้ายดื้อๆ ส่งบอลพุ่งชนเสาไกลอย่างน่าฮือฮา
ท้ายครึ่งแรกทีมเยือนเริ่มขึ้นเกมรุกได้บ้าง และในนาทีที่ 43 บูบา ดิย็อปก็งัดบอลเข้าเขตโทษด้านขวาให้เฟเดริก ปิกิยอนตามไปตะบันจาก 15 หลา แต่บอลหลุดเสาไกลออกไป ครบ 45 นาทีลิเวอร์พูลจึงนำโลด 3-0
เริ่มครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลยังเดินหน้าล่าประตูต่อ และเกือบทำได้ในนาทีที่ 51 เมื่อเจอร์ราร์ดสบโอกาสซัดเหน่งๆในกรอบเขตโทษด้านซ้ายโดยไม่มีใครประกบ แต่แอชดาวน์เซฟได้สำเร็จ
อย่างไรก็ดี จากลูกเตะมุมเจอร์ราร์ดก็ป้ายบอลคืนมาหน้าเขตโทษให้บาเบิ้ลวิ่งเข้าอัดจากระยะ 20 หลาถูกแอชดาวน์ปัดด้วยปลายนิ้วไปชนคาน
กระทั่งนาทีที่ 55 ปอมปีย์ก็น่าจะตีไข่แตกได้เมื่อนาดีร์ เบลฮัดจ์เลื้อยขึ้นมาทางซ้ายแล้วจ่ายเข้าเขตโทษให้ไมเคิ่ล บราวน์ง้างไกเต็มเกือกจาก 16 หลาถูกโฆเซ่ เรน่าปัดได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ถัดมาในนาทีที่ 64 ทีมจากแดนใต้ก็เปลี่ยนบูบา ดิย็อปออกโดยมีอาร่อน โมโคเอน่าได้ลงไปแทน แต่อีกสามนาทีให้หลังมักซี่ลุยขึ้นไปไหลบอลเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วจอห์นสันถูกเบลฮัดจ์ตามไปเสียบกลิ้ง ทว่าสิงห์เชิ้ตดำไม่เป่าให้เป็นลูกโทษ
เข้าสู่นาทีที่ 70 เร้ด แมชีนก็ถอดจอห์นสันออกส่งมาร์ติน เคลลี่ลงบู๊ แต่อีกสี่นาทีถัดมาเจอร์ราร์ดวิ่งไปสับศอกใส่ต้นคอบราวน์ในจังหวะวิ่งไล่บอลด้วยกันจนกองกลางพอร์ทสมัธล้มคว่ำ ทำเอาราฟาเอล เบนิเตซรีบเปลี่ยนสตีวี่ จีออกทันทีโดยมีเบนายูนได้ลงสนาม
ด้านปอมปีย์ก็เปลี่ยนไฮดราสสันออกในนาทีที่ 76 ให้ควินซี่ โอวูซู อเบยี่ลงไปแทน แต่นาทีต่อมาตอร์เรสก็รับบอลจากอาควิลานี่แล้วลุยเข้าเขตโทษด้านซ้ายไปตะบันยัดเข้าเสาแรกเพิ่มสกอร์ให้เจ้าบ้านนำ 4-0
นาที 88 ทีมเยือนมาได้ประตูตีไข่แตก 1-4 เมื่อ เฟรเดริก ปิกิยอนน์ ตวัดจากเส้นหลังมาให้ นาดีร์ เบลฮัดจ์ แปโล่งๆไม่เหลือ
ช่วงที่เหลือ ต่างก็ไม่มีการพังประตูกันได้อีก จบเกมหงส์แดงจึงชนะไปอย่างขาดลอย 4 -1 แซงขึ้นที่ห้าแทนแมนฯ ซิตี้โดยมีแต้มมากกว่าหนึ่งแต้ม แต่ลงเล่นมากกว่าทีมเรือใบสองเกม
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล: โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, เอมิเลียโน่ อินซัว - อัลแบร์โต้ อาควิลานี่, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด (กัปตันทีม), มักซี่ โรดริเกซ, ไรอัน บาเบิ้ล - เฟร์นานโด ตอร์เรส
สำรอง: ดีเอโก้ คาวาเลียรี่ (ผู้รักษาประตู) - ยอสซี่ เบนายูน, โซติริออส คีร์เกียกอส, เดิร์ค เค้าท์, ลูคัส เลยว่า, ดาวิด เอ็นก๊อก, มาร์ติน เคลลี่
พอร์ทสมัธ: เจมี่ แอชดาวน์ - สตีฟ ฟินแน่น, มาร์ค วิลสัน, ริคาร์โด้ โรช่า, เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน - ไมเคิล บราวน์, ปาป้า บูบา ดิย็อป, นาดีร์ เบลฮัดจ์, เจมี่ โอฮาร่า - อารูน่า ดินดาน, เฟรเดริก ปิกิยอนน์
สำรอง: เลียม โอ ไบรอัน (ผู้รักษาประตู) - อารอน โมโคเอน่า, เฮย์เด้น มัลลินส์, ควินซี่ โอวูซู-อเบยี่, แดนนี่ เว็บเบอร์, ริชาร์ด ฮิวจ์ส, เอ็นวานโก้ คานู
ผู้ตัดสิน: สจ๊วร์ต แอ็ตต์เวลล์
LINK http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100316_019.html
| จากคุณ |
:
Bearlandia   
|
| เขียนเมื่อ |
:
16 มี.ค. 53 09:14:14
|
|
|
|
|
ยิงสอง อุตส่าห์จะลุ้นแฮตทริกซะหน่อย แต่ราฟาดันเปลี่ยนตัวออกไปซะก่อน
