ความคิดเห็นที่ 1   ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล เรื่องที่เที่ยวกลางคืน แล้วแต่จังหวัดครับ ถ้าเป็นจังหวัดใหญ่ๆ ที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค อย่างเชียงใหม่ ขอนแก่น โคราช สงขลา-หาดใหญ่ ภูเก็ต ฯลฯ ก็ไม่บันเบาเหมือนกันละครับท่านผู้ชม แต่ถ้าเป็นจังหวัดทีไม่ใช่ศูนย์กลางของภูมิภาค ไม่มีที่เที่ยวกลางคืนนี่น่าจะจริงครับ บางจังหวัดนี่ แม้แต่ห้างประเภท discount store แบบโลตัสหรือบิ๊กซียังไม่มีให้เดินเที่ยวเล่นเลยก็มีเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 53 22:57:45 แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 53 22:46:33 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 22:43:45

ความคิดเห็นที่ 2   นักการเมืองทั้งระดับประเทศ และท้องถิ่นยังมีความสำคัญกับกีฬาบ้านเรา แต่ต้องดูยาวๆว่านักการเมืองที่นั่นสนใจจริง หรือคิดเพียงใช้เป็นสื่อหาเสียงช่วงที่โดนแบนทางการเมืองเท่านั้น จากคุณ : Service Guy เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 22:48:36

ความคิดเห็นที่ 3   แทบไม่มีสถานที่ท่องเที่ยว(แบบกลางคืนในกทม.) ------------------------ คงเป็นจังหวัดเล็กๆ ใช่มั้ยครับ จังหวัดใหญ่ๆ นี่ ไม่เหมือนกรุงเทพก็แค่ไม่มีโซนเหมือนสุขุมวิทนั่นแหละครับ ที่เที่ยวจังหวัดใหญ่ๆ นี่มีเป้นสิบๆ จากคุณ : janthepen เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:05:01

ความคิดเห็นที่ 4   เผลอๆ นักเตะในลีกล่างๆหลายๆคน จะมีวินัยมากกว่านักเตะบิ๊กเนมใน TPL ซะอีกนะครับ แต่ผมกลับคิดว่าการที่ทีมระดับลีกล่างๆจะปั้นนักเตะขึ้นมาประดับวงการฟุตบอลบ้านเรา คงเป็นเรื่องยากครับ เพราะขนาดทีมใหญ่ๆ ยังขาดการวางระบบจากเยาวชนไปจนถึงทีมสำรองแบบเต็มรูปแบบ แล้วยิ่งถ้าเป็นทีมเล็กๆด้วยแล้ว คงได้รับความสนใจไม่เท่าทีมใหญ่ๆดังๆแน่ๆครับ อนาคตถ้าไทยลีกเรายังเติบโตแบบนี้เรื่อยๆ คิดว่าน่าจะได้เห็น "ทีมอาชีพทั้งระบบ" เต็มตัวสักทีล่ะครับ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวครับ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:08:16

ความคิดเห็นที่ 5   มีบิ๊กเนมหลายคนที่ไหลลงไปเล่นลีกล่าง ผมว่าตรงนั้นเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีให้นักเตะในท้องถิ่น แต่ระบบอาชีพต้องวัดกันด้วยฝีเท้า ซึ่งเชื่อว่าหลายๆจังหวัด หรือ ทีมเล็กๆ ยังไม่เปิดใจตรงนี้ ใครฝีเท้าตกต้องกล้าดร็อป กล้าหั่นบ้าง จากคุณ : Certain_Shade_of_Green เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:42:03

ความคิดเห็นที่ 6   มันก็ใช่อยู่ครับ สำหรับนักเตะ ที่จะทำสัญญากันเป็นแบบปีต่อปี มันก็ดีสำหรับทั้งสองฝ่ายนะตอนนี้มันแค่ช่วงเริ่มต้น วิน-วิน ครับสำหรับสโมสรในระดับภูมิภาค ณ ตอนนี้ คือมันเป็นการทำงานขอนักการเมืองท้องถิ่นน่ะนะผมว่า จะให้มาปั้นกันเอง แล้วมีการซื้อขายแบบ ระบบลีกอาชีพที่เค้าทำกันครับ มามองกันช่วงนี้ มันก็ยังเร็วไป(ไม่)หน่อยครับ รออีกซัก 4-5 ปีครับถ้ามันยังบูมต่อเนื่องไปขนาดนั้น รับรองว่าจะต้องมีกันครับเรื่องที่ว่าปั้นมาเพื่อขายแล้วช่วยพยุงสโมสรให้อยู่ได้ ปล. ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ เพิ่ม ปล. แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 53 23:59:24 จากคุณ : Garfield&T-Rex เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:58:26

ความคิดเห็นที่ 7   ส่วนตัวคิดว่า เรื่องนักเตะจากไทยลีกไหลลงไปเล่นดิวิชั่น 1-2 ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรครับ เพราะอย่าลืมว่าการแข่งขันในลีกสูงสุดมันเข้มข้นมาก ถ้านักเตะคนไหนชั้นไม่ถึงจริง สุดท้ายก็ต้องไปหาประสบการณ์ในลีกล่างๆ ซึ่งถ้าทำผลงานได้ดี ก็ไม่แน่ว่าซักวันอาจจะได้กลับมาเล่นในลีกสูงสุดอีกครั้งก็ได้ อย่างพวกนักเตะดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ของสโมสรใหญ่ๆ ในอังกฤษ อย่างแมนยู ลิเวอร์พูล อาร์เซน่อล เชลซี ฯลฯ บางคนที่ขึ้นชั้นมาเล่นชุดใหญ่ของสโมสรไม่ได้ ก็ต้องหาโอกาสให้กับตัวเองด้วยการย้ายไปเล่นสโมสรในดิวิชั่นล่างๆ เหมือนกัน ซึ่งถ้าไปแล้วสร้างผลงานได้ดี ก็กลายเป็นผลดีต่อตัวนักเตะเองรวมถึงวงการฟุตบอลในประเทศโดยรวมไป ดูอย่างไรอัน ชอว์ครอสส์ อดีตเด็กฝึกหัดของแมนยู คนนึงละ ถ้ายังเลือกจะทนอยู่กับแมนยูต่อ ก็มีแววสูงว่าอาจจะไม่แคล้วกลายเป็นเด็กดองจนอาจหมดอนาคตไป แต่พอย้ายไปอยู่ทีมที่เล็กกว่าอย่างสโต๊ค (ซึ่งตอนไปก็ยังอยู่เดอะแชมเปี้ยนชิพ) ก็โชว์ฟอร์มได้ดีจนเข้าตาทีมใหญ่ๆ รวมถึงถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติแล้ว (แต่ยังไม่ได้ลงสนาม) แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 53 02:02:34 แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 53 02:02:00 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 01:04:46

ความคิดเห็นที่ 8   ของปลอมทำเหมือน สุดท้ายก็ต้องลงไปอยู่ในที่ๆ ควรอยู่ ระบบออกแบบมาให้เป็นแบบนี้ ค่าจ้างนักเตะ ควรได้มาจากรายได้ของสโมสร มีระบบบัญชีถูกต้อง ไม่ใช่รอรับเงินจากนักการเมือง อีกนานกว่าทีมดิวิชั่นล่างๆ จะเป็นอาชีพจริงๆ จากคุณ : ณัฐกร เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 01:59:46

ความคิดเห็นที่ 9   อือ น่าสนใจนะครับ บางทีผมเห็นคำว่าอาชีพๆ ที่ว่าๆกันนี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า "อาชีพ" ที่ว่านี่คืออะไร และจะคาดหวังให้ใครบ้างที่เป็นอาชีพ เพราะถ้าไม่มีทีมที่ "ไม่อาชีพ" มันก็ไม่มีทีที่เรียกว่า "อาชีพ" หรอกครับ บางทีทีมในลีคล่างๆอาจไม่จำเป็นต้องมีลักษณะ "อาชีพ" ก็ได้นะครับ ถ้ามันไม่พร้อมจริงๆ ปล.แต่ปัญหาอันหนึ่งที่มีแน่ก็คือเรื่องระบบสัญญานั่นแหละครับ จากคุณ : Nijra เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 02:31:41

ความคิดเห็นที่ 10   อ้อ ขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ ข้อมูลแบบนี้ชอบจริงๆ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ถ้ามีมาอีกก็มาตั้งกระทู้อีกนะครับ จะคอยติดตาม จากคุณ : Nijra เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 02:33:57

ความคิดเห็นที่ 11   ดีครับ ที่มาแชร์ข้อมูลจากอีกมุมมองให้แฟนบอลได้รับทราบ ระบบเยาวชน หรือ สร้างเืพื่อขาย มันทำได้ยาก เพราะลำพังแบกรับค่าใช้จ่ายนักเตะ 20-25 คน ก็แย่แล้ว งบประมาณมีปัญหา อันนี้มองว่า เกิดจากการขาดสปอนเซอร์ และการที่สปอนเซอร์ไม่เข้า ก็เป็นผลจากการที่ ผู้บริหารทีมส่วนมากเป็นนักการเมือง ที่ขาดวิสัยทัศน์ในการเจรจาต่อรองกับกลุ่มธุรกิจ (กลุ่มธุรกิจใหญ่ๆ ยิ่งบริษัทข้ามชาติื เวลาเจรจากัน เขาไม่อิงนักการเมืองหรอกครับ) ที่ต้องเปลี่ยน คือการบริหารการตลาดครับ ทำยังไงถึงจะเตะตาสปอนเซอร์ได้ ถ้ายังบริหารกันแบบ อบจ ระบบรายรับรายจ่ายยังมั่วๆ สปอนเซอร์ดีๆที่ไหนจะกล้ามาลงทุน สปอนเซอร์หลายๆยี่ห้อ เลือกที่จะไปแอบเล็กๆอยู่่ตามป้ายในลีโอ สเตเดี่ยม หรือ ยามาฮ่า สเตเดี่ยม มากกว่าจะมาอยู่กลางอกทีมจังหวัด อันนี้เป็นหน้าที่ฝ่ายบริหารครับ ที่จะหาวิธีดึงสปอนเซอร์มาให้ได้ จากคุณ : Ahura เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 07:35:52

ความคิดเห็นที่ 12   อ่านแล้วยังรู้สึกดีครับ ที่ลีคเรามาคึกคักกันถึงระดับลีคล่างๆ ยังพอมีเวทีให้แสดงฝีมือ ไม่งั้นต้องหวังแต่ลีคสำรอง แต่ลีคสำรองก็ขาดไม่ได้ เพราะก้ยังมีนักเตะทีมใหญ่ๆ ที่ไม่มีโอกาสลงสนามมากนัก อีกมาก รอดูต่อไป ปล. ถ้าผมเป็นนักเตะอุดร ผมก็คงขาอ่อนฟอร์มตกง่ายๆเหมือนกัน เพราะเขาบอกกันว่า ลำปางหนาวมาก แต่ อุดรขาวมาก จากคุณ : Jackov เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 12:32:17

ความคิดเห็นที่ 13   ส่วนตัวผมไม่หวังจะให้ D2 เป็นลีกอาชีพเต็มตัวในเร็ววันหรอกครับ ขนาดญี่ปุ่นพร้อมกว่าเรายังมีแค่สองดิวิชัน รวมทั้งหมดก็แค่ 32 ทีมเองที่เป็นทีมอาชีพ ผมมองว่าเป้าหมายของการมี D2 คือเพิ่มพื้นที่ให้นักฟุตบอลได้มีโอกาสแสดงฝีมือ และเป็นที่เตรียมความพร้อมให้แต่ละสโมสรก่อนก้าวเข้าสู่ระบบอาชีพมากกว่า ฟันธงเลยว่าปีหน้ามีหลายทีมที่ต้องยุบทีมหรือเปลี่ยนผู้บริหาร เพราะไม่สามารถบริหารงานให้เข้ากับระบบอาชีพได้ แต่ส่วนตัวก็ไม่คิดว่าเป็นปัญหาอะไรครับขอให้กลไกเดินไปตามครรลองของมันสักวันมันก็จะลงตัวเอง อีกอย่างการคงอยู่ของ D2 มันมีผลเรื่องการกระตุ้นกระแสฟุตบอลอาชีพให้เข้าไปถึงทั่วทุกภูมิภาคมากกว่า เหมือนอย่างที่เราเคยมี YAMAHA Thailand Cup ในอดีต ผมเชื่อว่าการปลุกกระแสคลั่งไคล้ฟุตบอลไปทั่วประเทศจะมีผลดีต่อวงการฟุตบอลบ้านเราโดยรวมในระยะยาวครับ อย่างแรกเลยคนจะมองอาชีพนักฟุตบอลว่าเป็นอาชีพเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้มากขึ้น ทำให้ทีมชาติมีตัวเลือกนักเตะมากขึ้นตามไปด้วย ส่วนเรื่องปั้นเด็กขายผมว่าไม่มีทางที่จะทำได้ทุกทีมหรอกครับ เพราะความพร้อมของทีมมันไม่เหมือนกัน แต่ถ้าในปีๆหนึ่งมีดาวรุ่งเกิดจาก D2 ซักคนสองคนผมว่าก็โอเคแล้ว เหมือนอย่างวิชา และวิชาญของเลยซิตี้ที่สามารถโดดเข้ามาร่วมวงใน TPL ได้ในตอนนี้ ผมว่า D2 ตอนนี้กำลังมาถูกทางแล้วครับ แต่อะไรหลายๆอย่างที่ยังไม่พร้อมก็ต้องช่วยๆแก้กันไป ยังไงก็เชื่อว่าอนาคตที่สดใสน่าจะรอวงการบอลไทยอยู่ครับ จากคุณ : ohms เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 12:33:12

ความคิดเห็นที่ 14   นักเตะต่างชาติเก่งๆมาถึงก็คงนึกถึงสโมสรใหญ่ๆหรือสโมสรใน กทม ก่อน หรือมีเพื่อนในสโมสรต่างจังหวัด ไม่งั้นคงมาคัดตัวยาก ยิ่งพวกแอฟริกานี่ขี้กลัวซะด้วย อย่างกระบี่เอฟซีเงี๊ย เงียบสิ้นดี555 จากคุณ : มูบารัค เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 16:44:44

ความคิดเห็นที่ 15   ที่บอกที่เที่ยวไม่มีคือมันไม่เหมือนกทม.นะครับ คนเคยเที่ยวในกทม.ไปตจว.ก็ปรับอารมณ์ยากนะ มันเลยเฉยไปเลย มีแต่เด็กแว้น555 แต่ก็อย่างที่บอกครับดีต่อฟุตบอลด้วยซ้ำ ส่วนบรรดาความคิดเห็นต่างๆ ก็อย่างที่เคยบอกนะครับว่าบอลดิวิชัน2นี่แหละที่สะท้อนภาพวงการบอลไทย ผมก็รู้ว่าเราชอบเทียบเมืองนอก ผมก็เพื่อนต่างชาติไม่น้อยครับ แต่ความเป็นจริงในทุกมิติในชีวิตจริง คือสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจกับมันนะครับ ออฟฟิศศูนย์ลีกภูมิภาคยังต้องอาศัยอาคารคนอื่นอยู่เลย ที่ทำการสโมสรต่างๆก็ยังใช้ที่ทำการสมาคมส่งเสริมกีฬาจังหวัดเหมือนเดิม ประธานสโมสรก็ไม่พ้นนายกสมาคมส่งเสริมเช่นกัน แล้วเราก็วาดฝันว่าระบบสโมสรแยกจากสมาคมส่งเสริมกีฬาจังหวัดกันแล้ว???? ปั้นแล้วขาย วันนี้หลายๆทีมในดิวิชัน 1 ก็ใช้ระบบเปิดคัด แถมตั้งไว้ด้วยว่าไม่มีค่าเซ็นสัญญา??? เจอมาแล้วครับ เป็นการบังคับเด็กมาตระเวนคัดชัดๆ ยังไงก็จะพยายามเอาข้อมูลในมุมแบบนี้มาเล่าบ้าง เป็นกระจกสะท้อนภาพในสังคมบอลไทยครับ จากคุณ : yfc เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 22:52:00

ความคิดเห็นที่ 16   เห็นด้วยกับ คห 13 ครับ เรื่องดิวิชั่น 2 คงไม่สามารถมุ่งหวังว่าจะเป็นระบบอาชีพได้ในปีนี้หรือปีหน้าหรอกครับ เพราะดูจากสภาพการณ์ต่างๆ แล้ว ต้องนานเลยละครับกว่าจะสลัดหลุดจาก อบจ ออกมาบริหารงานเป็นเอกเทศได้ ถ้าปีหน้าสมาคมฯ กำหนดว่า ทีมดิวิชั่น 2 จะต้องปลดแอกจากการเมืองท้องถิ่น ห้าม อบจ เข้ามาเกี่ยวข้องหรือใช้งบหลวงสนับสนุน รับรองได้ครับว่าน่ากลัวจะเหลือไม่ถึง 20 ทีม จัดแข่งเป็นกลุ่มเดียวไม่ต้องแบ่งเตะกันให้ยุ่งยากแบบนี้ แต่สิ่งสำคัญของดิวิชั่น 2 ตอนนี้ก็คือการสร้างความตื่นตัวให้กับแฟนบอลตามต่างจังหวัดให้สนใจฟุตบอลไทยมากขึ้น เพราะลำพังถ้ามีแต่ TPL หรือแม้แต่ D1 ซึ่งทีมเกือบครึ่งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนคนดูฟุตบอลไทยก็ไม่มีทางกระเตื้องขึ้นอย่างเด็ดขาด จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 01:44:41